17 ร้านเด็ดบรรทัดทอง กินหวาน ทานคาว มัดรวมที่นี่ไว้แล้ว

สำหรับสายกินแล้ว ถนนบรรทัดทองเป็นย่านที่มีร้านอาหารเด็ดเยอะมากย่านหนึ่ง อีกทั้งยังมีผู้คนพากันรีวิวจนแน่นโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นของคาว หรือของหวาน มาที่นี่รับรองว่าตอบโจทย์ เพราะเดินทางง่ายไม่ไกลจากสยามมากนัก 

MBK บริการรับฝากและขนส่งกระเป๋า

ความน่าสนใจ และอีกจุดขายที่ทำให้ถนนบรรทัดทองกลายเป็นแลนด์มาร์คของใครหลายคนคือ ความสะดวกสบายในการใช้ชีวิต หากคุณชอปปิงจนของล้นมือ และต้องการหาสถานที่ฝากของ MBK ก็มี Airportels ให้ไป

ใช้บริการฝากของกันได้ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะที่นี่นั้นรับฝากของฟรี 2 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว หรือเหมาทั้งวัน 100บาท/ใบ เท่านั้น เดินกินจนอิ่มค่อยมารับสัมภาระกับ Airportels

อี้จาสุกี้หม่าล่า

1. อี้จาสุกี้หม่าล่า

ถูกใจคนชอบกินอะไรแซ่บๆ กับร้านหม่าล่าสายพาน ที่เริ่มต้นเพียงไม้ละ 5 บาท เท่านั้น จุดเด่นของร้านนี้คือเป็นหม่าล่าต้นตำรับจากเสฉวน เผ็ดชาที่ถูกต้อง อร่อยกลมกล่อมด้วยน้ำซุปหลากหลายสูตรให้คุณเลือกทานกันได้ตามความชอบ มีหมดทั้งน้ำซุปหม่าล่าเผ็ดชา, น้ำซุปกระดูกหมู, น้ำซุปมะเขือเทศ หรือจะเป็นน้ำซุปเห็ดหอมที่จะได้กลิ่นอ่อนๆ ของเห็ดหลากหลายชนิด

เหตุผลที่ทำให้ร้านอี้จาสุกี้หม่าล่าติดอันดับร้านเด็ดประจำย่านบรรทัดทอง เพราะที่นี่มีเมนูที่ไม่ควรพลาด และทำให้หลายคนที่ชื่นชอบหม่าล่าต้องกลับมาใช้ซ้ำกันอีกอย่างต่อเนื่อง อย่างตัวน้ำซุปกระดูกหมูที่มีรสชาติหวานมัน กลมกล่อมรู้สึกถึงความเป็นครีมมี่นุ่มละมุนลิ้น น้ำซุปหม่าล่าเผ็ดชา ที่สมชื่อรสชาติน้ำซุป เพราะเพียงแค่ได้ซดเข้าปากไปเป็นเพียงน้อยก็ทำให้รู้สึกชาลิ้น และยังให้รสชาติเผ็ดที่ค่อนไปทางเค็มด้วยเล็กน้อย และที่พลาดไม่ได้คือ ฟองเต้าหู้ทอด ที่ราคาน่ารัก รสชาติดี เคี้ยวกรุบกรอบ

ร้านเจ๊โอว

2. ร้านเจ๊โอว

ตั้งแต่ร้านยังไม่เปิดก็มีคนมารอต่อคิวกันจนแน่นกับร้านเจ๊โอว ที่จะเรียกว่าอร่อยระดับสากลก็คงไม่ผิด เพราะได้รับเลือกเป็นหนึ่งในร้านมิชลินไกด์ ทำให้คุณมั่นใจได้ว่าความอร่อยที่จะได้รับจากร้านนี้คุ้มค่ากับการรอคอยแน่นอน ยิ่งถ้าคุณเป็นคนนอนดึก และอยากหาอะไรตอนกลางดึกอย่างข้าวต้ม หรือมาม่า ต้องร้านนี้เท่านั้น 

เมนูขึ้นชื่อที่ไปถึงต้องสั่งให้ได้สำหรับร้านเจ๊โอวคือ มาม่าโอ้โหววว แค่ชื่อก็อร่อยจนต้องร้องตะโกน เผ็ด หวาน มัน เค็ม กลมกล่อมทุกรสชาติเป็นเมนูที่คนบอกต่อมากที่สุด โดยสามารถเลือกได้ว่าจะเลือกทานแบบหมูสับล้วน หรือแบบมีทะเลผสม ราคาเข้าถึงได้ ไม่แพงเริ่มต้นเพียง 250 บาทเท่านั้น แต่ข้อควรรู้ในการทาเมนูนี้คือ จะขายหลัง 5 ทุ่มเท่านั้น ควรไปถึงร้านเพื่อเตรียมตัวสั่งกันตั้งแต่ 4 ทุ่ม 

ร้านเจ๊เกียง

3. ร้านเจ๊เกียง

ถ้าคุณชอบร้านอาหารสไตล์จีน ตักใส่จานมาแบบไม่เกรงใจใคร ในราคาย่อมเยา คุณจะต้องหลงรักในร้านของเจ๊เกียงแน่นอน เพราะที่นี่มีสไตล์การตกแต่งร้านที่ชัดเจน ภายในร้านตกแต่งสไตล์จีนแบบจัดเต็ม และเมนูขึ้นชื่อมากมายให้คนที่อยากสั่งอาหารจานเดียว แต่ก็กินได้อิ่มแบบไม่ต้องเบิ้ล

เมนูที่ไม่ว่าใครมา ก็ต้องขอลองกันสักครั้ง ได้แก่ เป็ดพะโล้ที่จัดเป็ดทั้งตัวมาเสิร์ฟให้กับคุณ เนื้อสัมผัสของเป็ดนุ่มละมุนลิ้น ถึงเครื่องแกงพะโล้จะไม่ได้โดดเด่นมาก แต่ก็ทำแต้มกับเนื้อเป็ดได้เป็นอย่างดี จานนี้เพียงราคา 200 บาท หรือจะเป็นกุ้ยช่ายข้าวผัดหมูกรอบที่ได้เยอะจนล้นจาน รสชาติเค็มนำตามด้วยเนื้อหมูกรอบๆ ยิ่งได้ทานกับข้าวสวยร้อนๆ นี่เป็นเหมือนสวรรค์ของคนรักหมูกรอบก็ไม่ผิด 

เสน่ห์ ลาบก้อย

4. เสน่ห์ ลาบก้อย

เสน่ห์อาหารอีสานที่พร้อมจะมัดใจทุกคนไปกับเมนูสุดคลาสสิกที่กินเท่าไหร่ก็ไม่มีเบื่อกับร้าน เสน่ห์ ลาบก้อย ใครที่เดินเตร็ดเตร่ไปมา อยากทานของแซ่บอาหารรสนัว ต้องลองโดนมนต์เสน่ห์ ลาบก้อยกันสักครั้ง ที่นี่อาจจะไม่ได้มีการตกแต่งเวอร์วัง เหมือนร้านอาหารทั่วไป แต่รสชาติอาหารใครมาก็ต้องยกนิ้วให้ 

เมนูต้องสั่ง มาแล้วต้องลองคือ คอหมูย่าง ที่หากได้ลองเอาเข้าปากความฉ่ำของคอหมูย่างที่กระตุ้นต่อมน้ำลายได้เป็นอย่างดี ยิ่งเคี้ยว ยิ่งนุ่ม ทานจานแรกหมด แทบจะอดสั่งจานสองต่อไม่ได้ และอีกเมนูที่พลาดแล้วจะต้องเสียใจคือ เสือร้องไห้ ความนุ่มพอดี ไม่เหนียว ไม่แห้ง ทุกครั้งที่ได้เคี้ยวเสือร้องไห้ไว้ในปาก คุณแทบจะร้องไห้ตาม เพราะกลิ่นหอม และรสชาติที่อบอวลในปากเข้าที่เข้าทางถูกปรุงมาได้แบบไร้ที่ติ ทำให้นี่เป็นอีกร้านเด็ดบรรทัดทองไปโดยปริยาย 

สมบูรณ์โภชนา

5. สมบูรณ์โภชนา

ใครที่กำลังท้องร้อง และอยากรับประทานปูผัดผงกะหรี่ ร้านอาหารอย่าง สมบูรณ์โภชนา จะต้องเด้งเข้ามาเป็นไอเดียแรกๆ แน่นอน เพราะที่นี่เป็นต้นตำรับปูผัดผงกะหรี่ก็คงจะไม่ผิด ด้วยอายุร้านที่อยู่มาอย่างยาวนานตั้งแต่ พ.ศ. 2512 และแนวทางในการนำเสนอเมนูอาหารที่มีการผสมผสานระหว่างไทย และจีน ทำให้ที่นี่เป็นร้านที่มีเอกลักษณ์ชัดเจน พร้อมกับเมนูที่หลากหลาย อร่อยกลมกล่อมรสชาติเยี่ยม โดยเฉพาะปูผัดผงกะหรี่ที่ใครมาเยียนที่นี่ก็ต้องสั่งกันทุกครั้งไป 

ตุ้งแฉ่เตาถ่าน

6. ตุ้งแฉ่เตาถ่าน

หนึ่งในร้านอาหารที่เก่าแก่ และกำลังมีอายุเหยียบปีที่ 60 ของย่านบรรทัดทองคือร้านตุ้งแฉ่เตาถ่าน ที่คงความเป็นเอกลักษณ์ของร้านสไตล์วินเทจไว้ได้ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่ร้านเปิดขายไว้ได้จนกลายเป็นจุดขาย สีภายนอกของร้านเป็นสีเขียว สไตล์การตกแต่งแนวจีนโบราณ ทำให้รู้สึกขลัง และเหมือนโดนต้องมนตร์ชวนให้ต้องเข้าไปลองรับประทานอาหารกันสักมื้อจากที่นี่ 

เมนูยอดฮิตที่ได้รับกระแสอย่างล้นหลาม ต้องเป็น เหลาะหนี ที่จุดขายของเมนูนี้คือรสชาติ และกลิ่นหอมของเตาถ่านที่ช่วยสร้างบรรยากาศในการรับประทานได้แบบหลายเท่าตัว และที่สำคัญที่นี่ จะไม่ใส่ผงชูรส ทำให้มั่นใจได้ว่าทานเยอะเท่าไหร่ ก็ปลอดภัยต่อสุขภาพ อร่อยจริงด้วยวิธีการ และการปรุงอาหารแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ 

ร้านคุณนายทะเลดอง บุฟเฟ่ต์พรีเมียม (สาขาบรรทัดทอง)

7. ร้านคุณนายทะเลดอง บุฟเฟ่ต์พรีเมียม (สาขาบรรทัดทอง)

คนรักอาหารทะเล หรือเมนูทะเลดองถูกใจ แชร์คอนเทนต์ร้านนี้จนกลายเป็นกระแสไวรัลในโลกอินเทอร์เน็ตอย่างล้นหลาม เนื่องจากที่นี่มีจุดขายชัดเจนคือ อาหารทะเลดองที่รวบรวมไว้ทุกอย่างในราคาที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ด้วยความชอบในการรับประทานอาหารดองของเจ้าของร้าน และอยากเปิดร้านอาหารทะเลดองเป็นของตัวเอง ทำให้มีเครือข่ายกับชาวประมงโดยตรง มั่นใจเรื่องความสดใหม่ ไม่ใช้สารเคมีได้เลย 

เมนูยั่วใจที่ใครก็ห้ามใจไม่อยู่คือ กุ้งมังกร ที่มีพร้อมเสิร์ฟทั้งแบบซาชิมิสดหวาน และแบบเบิร์นไฟ ที่แค่เห็นขนาดไซซ์ ก็แอบรู้สึกคุ้มตั้งแต่ยังไม่ได้ทาน หรือจะเป็นอาหารทะเลอื่นๆ ก็มีให้ทานเช่นเดียวกันแบบไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้ง ปลาหมึก, แซลมอน, ปูไข่นึ่ง, กั้งดอง หรือปูทะเลดองก็มีที่ร้านคุณนายทะเลดอง บุฟเฟ่ต์พรีเมียม (สาขาบรรทัดทอง)

ดง หมู กรอบ 

8. ดง หมู กรอบ 

ไม่มีใครปฏิเสธความกรุบกรอบ หอม อร่อยกลมกล่อมของหมูกรอบไปได้ แค่พูดชื่อก็ทำให้หลายคนได้กลิ่นหอม และกลืนน้ำลายกันแบบรัว ๆ แต่ถ้าจะถามว่าหมูกรอบในย่านบรรทัดทองที่ไม่ควรพลาดคือเจ้าไหน ก็ต้องขอตอบดง หมู กรอบ ถึงภายนอกร้านจะไม่ได้ใหญ่โตมากนัก แต่ด้านเมนูที่พร้อมให้บริการรับรองได้ว่าถูกใจคนรักหมูกรอบร้อยเปอร์เซ็นต์ 

เมนูของทางร้านครอบคลุมทุกเมนูหมูกรอบ ไม่ว่าจะเป็น กะเพราหมูกรอบ, ข้าวผัดหมูกรอบ, ยำหมูกรอบ หรือหมูกรอบคั่วพริกเกลือ ที่แต่ละเมนูนำเสนอความฉ่ำ กลิ่นหอมชวนรับประทานได้ไร้ที่ติ ยิ่งด้านความหนานุ่มของหมูกรอบก็ทำออกมาได้โดนใจประชากรคนรักหมูกรอบได้แบบสุด ๆ 

Fishmonger

9. Fishmonger

ร้านเด็ดย่านบรรทัดทองที่เพิ่งได้รับรางวัล LINE MAN Wongnai Users choice 2023 และรางวัลสุดยอดร้านอาหารของคนไทยเพื่อคนไทยตลอด 10 ปีไป นั้นคือร้าน Fishmonger ที่มีเมนูเลื่องชื่ออย่าง ฟิชแอนด์ชิป ที่ไม่ว่าใครได้ชิม ต่างก็ต้องยกนิ้ว และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าอร่อย และให้เป็นเมนูในดวงใจประจำร้านนี้ไปตามๆ กัน 

ทางร้านมีเมนูไม่ได้เยอะมาก แต่ก็ครอบคลุมความต้องการเมนูคนรักปลาได้ดี เพราะที่นี่มีเมนูปลาพร้อมเสิร์ฟมากมายทั้ง เบอร์เกอร์ปลา, ฟิชแอนด์ชิปส์ รวมถึงสลัดปลาย่าง พร้อมกับ Snacks อื่น ๆ ให้เลือกรับประทานกันอีกมากมาย

โจ๊กสามย่าน

10. โจ๊กสามย่าน

อร่อยจริง การันตีด้วยอายุที่อยู่มายาวนานมากกว่า 70 ปี และยอดขายมากกว่าพันชามกับร้านโจ๊กสามย่าน จุดขายของทางร้านที่มัดใจทุกคนที่ได้ทานครั้งแรก และจะต้องกลับมาเป็นลูกค้าประจำคือ การนำหมูไปต้มกับโจ๊ก ทำให้เนื้อสัมผัสที่ได้นั้นมีความนุ่มเด้ง และฉ่ำสะใจทุกคนที่ได้ลองชิม 

ด้านตัวโจ๊กของทางร้านไม่เหลวเกิน และมีกลิ่นหอมของข้าว สะอาด เนื้อหมูที่ให้มาก็ใหญ่ แค่เมนูเดียวก็การันตีว่าอิ่มแน่ ใครชอบเครื่องในยิ่งแล้วใหญ่ เพราะที่นี่มีเทคนิคพิเศษในการเสิร์ฟเครื่องในที่ไม่มีกลิ่นคาว อร่อยเนื้อแน่นอิ่มชัวร์ต้องโจ๊กสามย่าน

แหลกไม่แหลก

11. แหลกไม่แหลก

อยากทานอะไรนัว ๆ เมนูตำ ขอแนะนำอีกหนึ่งร้านขึ้นชื่อแถวบรรทัดทองอย่าง แหลกไม่แหลก มีครบให้คุณได้อิ่มจุใจไปกับเมนูตำที่หลากหลาย ทั้งตำไทย, ตำปูไข่ดอง, ตำลาว และตำอีกมากมายที่รอพร้อมเสิร์ฟ ที่สำคัญเลยก็คือราคาที่ไม่แพงเลย เพราะช่วงราคาของร้านแหลกไม่แหลกอยู่ราว ๆ 80-250 บาทเท่านั้นเอง ด้านความสะดวกสบายในการเดินทาง ก็หายห่วง เพราะคุณสามารถที่จะจอดรถฟรี 1 ชั่วโมง โล่งใจนั่งนานได้ไม่ต้องจ่ายค่าจอดรถเพิ่ม 

มิ้งโภชนา สะเต๊ะซีอิ๊วดำ 

12. มิ้งโภชนา สะเต๊ะซีอิ๊วดำ 

มิ้งโภชนา สะเต๊ะซีอิ๊วดำไม่ใช่ร้านสะเต๊ะธรรมดา เพราะที่นี่เปิดให้บริการมาแล้วมากกว่า 55 ปี และเนื้อหมูที่ทางร้านใช้ทำหมูสะเต๊ะก็เป็นถึงเนื้อที่ผ่านการคัดเลือกจาก “เบทาโกร” ซึ่งให้ความสำคัญกับทุกกระบวนการเลี้ยงดู ให้คุณหายห่วงเรื่องของเนื้อหมูที่ไม่ได้คุณภาพ หรือมีสารเคมีเจือปน อีกจุดเด่นที่ต้องพูดถึงคือน้ำจิ้มที่ทางร้านคิดค้นสูตรขึ้นมาเอง ทำให้ได้รสชาติหวาน เค็ม กลมกล่อมแบบกำลังดี อยากลองเนื้อสะเต๊ะอร่อย ปลอดภัย ราคาดีที่เริ่มต้นเพียงไม้ละ 10 บาท มิ้งโภชนา สะเต๊ะซีอิ๊วดำที่นี่ที่เดียว พลาดไม่ได้ 

เต้าฮวยเจ๊หน่อย

13. เต้าฮวยเจ๊หน่อย

เกินครึ่งทางกันไปแล้วสำหรับรายชื่อร้านเด็ดบรรทัดทอง สำหรับร้านนี้เป็นร้านของหวานชื่อดังที่มีอายุอยู่ในย่านแห่งนี้มามากกว่า 20 ปี ภายในร้านมีของหวานมากมาย ตั้งแต่เฉาก๊วย, เต้าฮวย, บัวลอยใส่ไส้ครบทั้งแบบร้อน และแบบเย็น ให้คุณได้เลือกแบบเต็มที่ ข้อแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากลองประเดิมกับร้านนี้ แนะนำว่าถ้าไปเป็นกลุ่ม รวบรวมเมนูแล้วส่งให้ทางร้านทีเดียว เพราะคิวร้านนี้แน่นตลอด ไม่มีแผ่ว 

เล็กใหญ่ นมสด

14. เล็กใหญ่ นมสด

ต่อเนื่องกับหมวดของหวานที่ไม่ได้มีดีแค่ของหวาน และเครื่องดื่มภายในร้านเพียงเท่านั้น เพราะที่ร้านเล็กใหญ่ นมสดแห่งนี้มีวงดนตรีสดที่จะทำให้คุณได้เพลิดเพลินไปกับเสียงเพลงระหว่างรับประทานของหวานกันด้วย ด้านเมนูของที่นี่ก็มีดีไม่แพ้กัน เพราะทุกเมนูของที่นี่จะพาคุณย้อนวันวานไปในสมัยเรียน ด้วยเมนูเครื่องดื่มชงปั่น, ขนมปังปิ้ง หรือปังเย็นหน้านิ่ม ยิ่งอากาศร้อนๆ แบบนี้ ได้เติมน้ำตาล และของหวานเย็น ๆ เข้าร่างกาย รับรองว่าฟินแน่นอน 

ถ้วยถังไอติม

15. ถ้วยถังไอติม

ถ้าพูดถึงของหวานสุดคลาสสิกเป็นไปไม่ได้ที่จะขาดของหวานขึ้นชื่ออย่าง ไอติมถัง ใครที่คิดว่าหาทานยาก อยากแนะนำให้ลองไปที่ร้านถ้วยถังไอติม ที่มีเมนูประยุกต์ และสร้างสรรค์มากมาย ทั้งเกาลัด, ถั่วตัด, น้ำเต้าหู้งาดำ, นมชมพูถั่วแดง, ไมโลโรงเรียน หรือชานมไต้หวันก็มีหมดในที่เดียว สไตล์การตกแต่งร้านเองก็น่ารักแบบคาเฟ่ให้คุณได้หามุมถ่ายรูปเช็กอินกันได้อีกด้วย

ร้านน้ำเต้าหู้เจ๊วรรณ

16. ร้านน้ำเต้าหู้เจ๊วรรณ 

ร้านน้ำเต้าหู้ที่เคยเป็นกระแสทั่วโลกออนไลน์ เพราะมีนักร้องขวัญใจคนทั่วทั้งโลกอย่างลิซ่าได้แวะไปชิม ทำให้ผู้คนสนใจ และแห่ไปลองชิมตามกัน นอกจากรสชาติจะดีเยี่ยมแล้ว เครื่องใส่ให้แบบจัดหนักล้นถ้วยกันเลยทีเดียว ราคาประหยัด ได้อิ่มจนเกินคุ้ม ใครคอของหวานต้องตามไปตำด่วน เมนูขึ้นชื่อที่ทุกคนลงความเห็นว่าดีจริงต้องลองได้แก่ เฉาก๊วยนมสดภูเขาไฟ, บัวลอยน้ำขิง และเฉาก๊วยนมสดที่เนื้อเฉาก๋วยเด้งดึ้ง เคี้ยวมันปากสุด ๆ 

Black Sesame House by SWC

17. Black Sesame House by SWC  

ปิดท้ายไปกับร้านของหวานเลื่องชื่อของเด็กสยามคือ Black Sesame House by SWC ที่ของดีของเด็ดจากทางร้านคือ บัวลอยงาดำลาวา ที่เรียกลาวาก็สมชื่อ เพราะงาดำข้างในแน่นจนไหลเยิ้มออกมาทันทีที่ได้เคี้ยว ที่สำคัญมีพร้อมเสิร์ฟให้กับทุกคน ไม่ว่าคุณจะชอบแบบร้อน หรือรักแบบเย็น ที่ Black Sesame House by SWC ตอบโจทย์สำหรับคอบัวลอย

สรุป

ใครเป็นนักชิม หรือสายกินจะพลาดย่านบรรทัดทองนี้ไม่ได้ เพราะที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ของคาวเท่านั้น จากเนื้อหาข้างต้นที่รวบรวม 17 ร้านเด็ดบรรทัดทอง จะเห็นได้ว่ามีหมดครบทุกหมวดหมู่ ไม่ว่าจะของคาว หรือของหวาน เดินชิมแวะทานได้ตั้งแต่หัววันยันเที่ยงคืน ใครอยากจัดทริปเที่ยวกิน ไม่ต้องไปไกล แวะไปที่ย่านบรรทัดทองที่เดียวอิ่มจนจุก

เตรียมตัวให้พร้อม check list ให้ดี ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

เตรียมตัวก่อนเดินทางต่างประเทศ

การเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปท่องเที่ยวหรือทำธุระก็ตาม ทุกคนจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ใบรับรองต่างๆ และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการไปพักในต่างประเทศ ซึ่งในบทความนี้ได้ลิสต์ทุกอย่างที่ควรเตรียมให้พร้อมก่อนการเดินทางไว้แล้ว เพื่อให้ทริปเดินทางไปยังต่างประเทศของทุกคนราบรื่นไม่ติดขัด หากพร้อมแล้วสามารถเช็กลิสต์ได้ตามนี้เลย

vaccine passport

เอกสารสำคัญ

แม้จะสิ้นสุดภาวะระบาดของโรค COVID-19 แล้ว แต่การเดินทางไปต่างประเทศบางประเทศ อาจจะต้องเตรียมตัวแสดงเอกสารใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ COVID-19 ที่นอกเหนือจากเอกสารปกติด้วย เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ เอกสารสำคัญๆ ได้แก่

Vaccine Passport

การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ต้องศึกษาว่าประเทศปลายทางนั้น จำเป็นต้องแสดงหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิค-19 หรือเรียกสั้นๆ ว่า “Vaccine Passport” หรือไม่ ซึ่งการขอ Vaccine Passport จะต้องเตรียมทั้งเอกสารตัวจริงและสำเนาให้ครบก่อน ได้แก่ เอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง และค่าธรรมเนียมการออกหนังสือรับรองฯ 50 บาท โดยมีทั้งแบบรูปเล่ม และแบบดิจิทัล สามารถยื่นขอที่หน่วยงานสาธารณสุข หรือจะยื่นขอผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ก็ได้ทั้งสองช่องทางเลย

ใบรับรองแพทย์ Fit to Fly

ใบรับรองแพทย์ Fit to Fly (Fit to Fly Health Certificate) เป็นเอกสารทางการแพทย์อีกหนึ่งประเภทที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เป็นการแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิค-19 ภายในระยะเวลา 36-72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ เงื่อนไขเรื่องของระยะเวลานั้น ขึ้นอยู่กับสายการบินและเกณฑ์ของประเทศปลายทาง

passport

หนังสือเดินทางหรือ Passport

หนังสือเดินทาง หรือ Passport เป็นเอกสารชิ้นแรกที่ต้องมีการเตรียมตัวเมื่อจะไปต่างประเทศ และเป็นเอกสารสำคัญที่สุดที่ต้องติดตัวไว้ตลอดระยะเวลาที่เดินทางหรืออยู่ในต่างประเทศ เพราะ Passport เปรียบเสมือนเอกสารที่แสดงตัวตนและสถานภาพของบุคคลนั้นๆ การเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศจะต้องตรวจสอบวันหมดอายุ และสภาพความเสียหายของเล่ม Passport ด้วยทุกครั้ง 

ตั๋วเครื่องบิน

ก่อนการเดินทางไปต่างประเทศจะต้องเช็กตั๋วเครื่องบินให้พร้อมเสมอ เบื้องต้น คือ การตรวจสอบเวลาเช็กอินและเคาท์เตอร์เช็กอินที่เป็นข้อมูลล่าสุด เพราะในบางครั้งสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนในช่วงเวลากระชั้นชิด สามารถตรวจสอบในเว็บไซต์หรือตรวจสอบ ณ สนามบินได้เลย แต่ว่าผู้เดินทางต้องเตรียมเอกสารสำหรับการเช็กอินให้พร้อม 

การเช็กอิน หากไม่มีสัมภาระที่ต้องโหลดสามารถเช็คอินล่วงหน้าในเว็บไซต์ได้ แต่หากมีสัมภาระก็จะต้องนำไปโหลดที่เคาท์เตอร์ก่อน ดังนั้น ผู้เดินทางจึงควรเตรียมตัวเผื่อเวลาสำหรับการทำธุรกรรมต่างๆ เหล่านี้ไว้ล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ

เอกสารจองเดินทาง

เอกสารจองที่พัก

การเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ควรจองที่พักไปก่อนล่วงหน้า ตามระยะเวลาที่พักในต่างประเทศ และเตรียมเอกสารจองที่พักไว้ด้วยตอนเดินทาง เพื่อเป็นสิ่งที่ใช้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ว่าเป็นการเข้าประเทศไปอย่างถูกต้องถูกกฎหมาย มีที่พักที่แน่นอนในประเทศนั้นๆ 

ประกันการเดินทาง

ประกันการเดินทางเป็นสิ่งที่บางคนอาจจะละเลยไปหรือมองว่าไม่จำเป็น ในการเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่สนใจที่จะทำประกันการเดินทาง แต่การทำประกันการเดินทางไปต่างประเทศนั้นมีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นสิ่งที่คุ้มครองผู้เดินทางเมื่อมีเหตุไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ กระเป๋าเดินทางล่าช้าสูญหาย ไฟลต์บินล่าช้า หรือในการยื่นขอวีซ่าบางประเทศจำเป็นต้องทำประกันการเดินทางด้วย เป็นต้น 

sim card

สิ่งอำนวยความสะดวก

การเตรียมตัวไปต่างประเทศ จะต้องเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกไปให้พร้อม เพราะจะทำให้การดำรงชีวิตในต่างประเทศง่ายขึ้นมาก ตัวช่วยอำนวยความสะดวกจะประกอบไปด้วย

ซิมเพื่อใช้งานต่างประเทศ

ปัจจุบันเครือข่ายโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมโยงกันระหว่างประเทศได้สะดวกขึ้น การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปต่างประเทศควรจะเตรียมเรื่องของการใช้งานเครือข่ายการสื่อสารระหว่างการเดินทางด้วย ซึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยเองมีหลายบริษัทที่รองรับการใช้งานซิมในต่างประเทศ หรือในบางกรณีไม่ต้องเปลี่ยนซิม สามารถใช้เบอร์เดิมในต่างประเทศได้เลย เพียงแค่สมัครแพคเกจสำหรับเปิดใช้งานในต่างประเทศเท่านั้น 

translate

แอปแปลภาษา

ควรเตรียมโหลดตัวช่วยที่ดีนี้ไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวที่ราบรื่น สามารถใช้แอปแปลภาษาช่วยในการสื่อสารกับคนท้องถิ่น โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้เดินทางและคนท้องถิ่นภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง หรือกรณีที่การพูดภาษาในแต่ละสำเนียงที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้การสื่อสารผิดพลาดได้ ดังนั้นการเตรียมโหลดแอปแปลภาษาไว้จะเป็นสิ่งที่ช่วยนักเดินทางได้เป็นอย่างดี

ที่ชาร์จแบตสำรอง

การเตรียมตัวไปต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่ห้ามลืมเลยคือที่ชาร์จแบตสำรอง เพราะจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เป็นปัจจัยที่ห้าเลยก็ว่าได้ ข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ การค้นหาข้อมูลสถานที่ต่างๆ การถ่ายรูป การเล่นโซเซียล ดังนั้นควรเตรียมที่ชาร์จแบตสำรองไปด้วยทุกครั้ง เพื่อจะได้ใช้โทรศัพท์ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเวลาฉุกเฉิน แต่การพกที่ชาร์ตแบตสำรองนั้น ต้องศึกษากฎของสายการบินต่างๆ ด้วย ว่าจะสามารถพกที่ชาร์จแบตสำรองประเภทไหนขึ้นเครื่องบินได้บ้าง

หัวแปลง

ที่แปลงหัวปลั๊ก

แต่ละประเทศนั้นจะใช้ปลั๊กแตกต่างกัน รวมถึงกระแสไฟก็ยังไม่เท่ากันด้วย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ได้รับความเสียหาย เช่น การเสียบสายชาร์ตโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป ไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผมต่างๆ จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการเตรียมที่แปลงหัวปลั๊กติดตัวไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเสียบอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ใดๆ ได้เลย อีกทั้งการไปหาซื้อตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างประเทศนั้นอาจจะไม่มีจำหน่ายหรือมีจำหน่ายในราคาแพงก็ได้ 

บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต

การเตรียมตัวเกี่ยวกับการเงินก่อนเดินทางไปต่างประเทศนั้น นอกจากควรเตรียมเงินสดไปตามความเหมาะสมแล้ว ยังควรเตรียมบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตติดตัวไปด้วย เพราะการเดินทางไปต่างประเทศ มักมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่สามารถใช้เงินสดได้หรือเงินสดไม่พอจ่าย การพกบัตรเครดิตบัตรเดบิตต่างๆ ไปด้วย จะเป็นตัวช่วยในกรณีฉุกเฉินได้

ยาประจำตัว

สิ่งของจำเป็น

แต่ละคนมีสิ่งของที่จำเป็นสำหรับร่างกายไม่เหมือนกัน ซึ่งการไปต่างประเทศจะต้องเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อมที่สุด เพราะบางสิ่งบางอย่างเป็นความจำเป็นเฉพาะตัว จึงต้องเตรียมไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

ยาประจำตัว

การเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงยาที่ควรจะพกไปด้วย โดยทั่วไปสามารถพกไปได้หากเป็นยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาพาราเซตามอล ยาลดไข้ แก้ปวด ยาแก้แพ้ ยาลดกรด แก้ท้องอืดท้องเสีย เป็นต้น แต่หากเป็นยาเฉพาะโรคบางชนิดที่เป็นยาห้ามเข้าประเทศนั้นๆ จะต้องกรอกแบบฟอร์มขออนุญาตการนำยาเข้าประเทศ และจะต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุถึงโรคประจำตัวและยาที่จำเป็นต้องใช้ด้วย

ชุดปฐมพยาบาล

ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญที่ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บ จะได้สามารถหยิบมาใช้ได้ทันที ซึ่งหากสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นทั้งตนเองและเพื่อนร่วมเดินทางได้โดยไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล ก็จะทำให้การเดินทางราบรื่นมากขึ้น

covid 19 kit

COVID-19 Kit

ทุกการเดินทางไปต่างประเทศควรเตรียมชุด COVID-19 Kit ติดตัวไปด้วย โดยมีอุปกรณ์สำคัญ เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สเปย์แอลกอฮอล์ เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดและป้องกันเชื้อโรค เนื่องจากไวรัสโควิดยังสามารถติดต่อกันได้ง่ายอยู่ในปัจจุบัน

สิ่งของส่วนตัว

สิ่งของส่วนตัว

สิ่งของส่วนตัวที่ต้องมีการเตรียมให้ครบก่อนการเดินทาง ประเภทเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัวต่างๆ นั้น ควรเตรียมให้เรียบร้อย ครบจำนวนวันที่ต้องเดินทางไปและอาศัยในต่างประเทศ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลเมื่อไปเที่ยวหรือทำธุระ

เสื้อผ้า

การเตรียมเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศนั้น ควรจะเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับฤดูกาลของประเทศนั้นๆ พร้อมทั้งคำนึงถึงจุดประสงค์ของการเดินทางด้วย เช่น การเตรียมเสื้อผ้าสำหรับการไปเที่ยวย่อมแตกต่างจากการเตรียมเสื้อผ้าสำหรับการไปทำธุระ เป็นต้น อีกทั้งการเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมยังช่วยให้สามารถจัดการน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางได้ด้วย

ถุงมือและถุงเท้า

ในกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศในช่วงฤดูหนาวนั้น นอกจากเสื้อผ้า การแต่งตัวที่เหมาะสมแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมถุงมือและถุงเท้าด้วย ซึ่งจะต้องเป็นถุงมือถุงเท้าที่ใส่ในฤดูหนาวโดยเฉพาะ เพราะจะมีเนื้อผ้าที่หนา กันลมหนาวได้ ที่แตกต่างจากวัสดุทั่วไป 

รองเท้า

รองเท้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการแต่งตัว การเตรียมรองเท้าไปเที่ยวต่างประเทศจะต้องพิจารณาถึงสภาพอากาศและภูมิประเทศของประเทศนั้นๆ ด้วย เช่น รองเท้าที่ใส่สำหรับเดินบนหิมะ รองเท้าสำหรับประเทศเขตร้อน และรองเท้าที่เหมาะกับการเดินในพื้นที่ที่เป็นเนินสูงต่ำ เป็นต้น ซึ่งต้องเตรียมรองเท้าให้เหมาะสม โดยที่ตัวผู้สวมใส่ต้องรู้สึกสบายเท้า เพราะจะส่งผลถึงสุขภาพในด้านอื่นๆ ด้วย

ของใช้ประจำวัน

การเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง ควรเตรียมของใช้ส่วนตัวที่ต้องในชีวิตประจำวันสำหรับทำความสะอาดไปด้วย เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า เครื่องสำอางค์ ผ้าเช็ดตัว ซึ่งควรแบ่งเป็นเซ็ตเล็กสำหรับถือขึ้นเครื่องบินอีกหนึ่งเซ็ต เพื่อที่จะได้ใช้ทำความสะอาดร่างกายระหว่างทาง ในกรณีที่เดินทางระยะเวลายาวนานหรือต้องเปลี่ยนเครื่อง (Transit) ที่สนามบินใดสนามบินหนึ่ง โดยการพกพาสิ่งของเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามกฎของการบิน คือ การพกของเหลวชิ้นเล็กไม่เกินชิ้นละ 100 มิลลิลิตร

ข้อมูลต่างประเทศ

ข้อมูลของประเทศนั้น

ก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวหาข้อมูลที่จำเป็นต่างๆ ของประเทศปลายทางด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ข้อห้ามปฏิบัติ วัฒนธรรม สภาพอากาศ และระบบขนส่งมวลชน เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยดี ดังนี้

ข้อห้ามของประเทศนั้น และวัฒนธรรมของประเทศปลายทาง

แต่ละประเทศมีวัฒนธรรม ธรรมเนียมปฏิบัติที่แตกต่างกัน การออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศคือการไปค้นพบโลกในอีกด้านหนึ่ง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศที่จะเดินทางไป โดยเฉพาะข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งบางประเด็นจะต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ หากเป็นประเด็นอ่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อและศาสนา 

สภาพอากาศ

สภาพอากาศเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละประเทศ ดังนั้นก่อนจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศจึงต้องศึกษาเรื่องของสภาพอากาศในช่วงเวลานั้นๆ ที่จะเดินทางไปถึง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเตรียมตัวในเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น การเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสม การเตรียมยาป้องกันไข้หวัด การเตรียมอุปกรณ์ที่สำคัญ การเตรียมแผนการเดินทาง และการเตรียมสภาพร่างกายให้มีความพร้อมที่จะเผชิญกับอากาศที่ไม่คุ้นเคยในต่างประเทศ

ข้อมูลระบบขนส่งมวลชน

เพื่อให้การเดินทางไปต่างประเทศมีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา ควรเตรียมตัวไว้ก่อน โดยการศึกษาข้อมูลระบบขนส่งมวลชนของประเทศนั้นๆ ให้ดีเสียก่อน จะช่วยให้วางแผนการเดินทางได้คล่องแคล่วยิ่งขึ้น เช่น ตารางเวลารถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถบัส เป็นต้น การเตรียมข้อมูลในเรื่องของระบบขนส่งมวลชนเป็นสิ่งที่ควรทำก่อนจะเดินทางไปถึงประเทศปลายทาง เพราะการท่องเที่ยวจะได้ไม่เสียเวลาไปกับการหลงทางหรือการหาเส้นทาง

อาหาร

ก่อนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ควรเตรียมตัวหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารประจำชาติ หรืออาหารประจำถิ่นต่างๆ ที่ควรไปจะลองรับประทานดู เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศอื่นๆ ด้วย การวางแผนเกี่ยวกับอาหารการกินนั้นก็จะกลายเป็นอีกเรื่องสนุกของการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเลยทีเดียว  

สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเดินทางไปต่างประเทศให้พร้อมเสมอ ได้แก่ การเตรียมเอกสารสำคัญ การเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก สิ่งของจำเป็น สิ่งของส่วนตัว ตลอดจนข้อมูลของประเทศปลายทาง ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งสิ่ง คือ การบริหารจัดการเวลาและความคล่องตัวในการเดินทาง ซึ่ง Airportels เป็นบริการที่ตอบโจทย์ของนักเดินทางในเรื่องการรับฝากกระเป๋าสัมภาระทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ลดความกังวลใจในการต้องดูแลสัมภาระระหว่างรอในสนามบิน เพียงนำไปฝากไว้ นักเดินทางก็สามารถจัดการธุระในส่วนอื่นๆ ได้อย่างสบายใจก่อนการเช็กอิน และยังมีความปลอดภัย รวดเร็ว ใช้งานง่ายอีกด้วย

เตรียมตัวก่อน รู้ก่อน รู้ขั้นตอนในการเข้าพักโรงแรม

รู้หรือไม่ว่าหนึ่งในปัญหาสำคัญของมือใหม่หัดเที่ยว มักจะเกิดขึ้นระหว่างการเช็คอินโรงแรม เพราะในภาพจำหลายคนอาจจะคิดว่า แค่ จอง จ่าย จบ ก็เดินไปรับกุญแจเข้าห้องพักกันได้แล้ว แต่จริง ๆ แล้ว การเข้าพักกับโรงแรมเองก็ต้องใช้ ขั้นตอน และเอกสาร พร้อมทั้งกติกาสากลประกอบด้วย ซึ่งวันนี้ AIRPORTELs จะพาไปดูวิธีการจองโรงแรมไปจนถึงการเช็คอินเช็คเอาท์ ว่ามีอะไรบ้างที่ผู้อ่านต้องระวัง !

ขั้นตอนการเข้าพักโรงแรม
booking

การจองห้องพัก

จริง ๆ การจองห้องพักนั้น ถูกออกแบบมาให้เป็นขั้นตอนที่ง่ายและสะดวกที่สุดอยู่แล้วในการหาที่พัก เพราะถ้าขั้นตอนการจองลำบาก ก็ยากที่จะทำให้ลูกค้าเลือกเข้ามาใช้บริการกับโรงแรมต่าง ๆ ซึ่งโรงแรมส่วนมากนั้นจะขอแค่ชื่อ ช่องทางการติดต่อ และมัดจำเท่านั้น หรือถ้าเราจองผ่านนายหน้าที่เชื่อถือได้บางเจ้าอาจจะไม่จำเป็นต้องวางเงินมัดจำด้วย ซึ่งการจองโรงแรมนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบได้แก่

การจองด้วยตัวเอง หรือการจองโดยตรง

หรือพูดง่าย ๆ คือการติดต่อขอจองห้องพักกับโรงแรมโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่านโทรศัพท์ เมลล์ โซเชียลมีเดีย หรือวอร์คอินเซอรเวย์ (Walk-in Survey) ซึ่งส่วนมากนั้นจะเหมาะกับการจองห้องจำนวนมาก ที่ต้องการสำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมก่อน รวมไปถึงต้องการต่อรองราคาด้วยตัวเอง เนื่องจากตัวเองมีกำลังในการต่อรอง หรือไม่เช่นนั้นผู้เข้าพักอาจจะเลือกจองแบบนี้เพราะต้องการรีเควสพิเศษบางอย่างจากโรงแรม แต่หากเราเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดาที่ไม่ได้มีความต้องการพิเศษอะไร การจองแบบนี้มีโอกาสจะได้ราคาห้องที่สูงกว่าการจองผ่านนายหน้า จึงแนะนำให้ทำการเทียบราคาให้ดีก่อนตัดสินใจจอง

การจองผ่านนายหน้า

การจองโรงแรมผ่านนายหน้าอาจจะฟังเหมือนเราจะต้องเสียเงินเพิ่ม แต่จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องกลับกัน โดยเฉพาะกับบริษัทขนาดใหญ่ หรือนายหน้าออนไลน์ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีกำลังในการต่อรองมาก ทำให้ได้ห้องพักที่มีราคาถูกกว่า ฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่าห้องพักที่สั่งจองผ่านนายหน้าอย่าง Traveloka Booking หรือ Agoda นั้นมีราคาถูกกว่า นอกจากนั้นยังอาจจะมีบริการเสริมอื่น ๆ อย่าง ส่วนลดตามโอกาส หรือการจองแบบไร้มัดจำ แต่สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างยิ่งในการจองที่พักผ่านนายหน้าคือ การตกหล่นของข้อมูล หรือการโดนหลอกจากนายหน้าที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ ฉะนั้นใครที่จองผ่านนายหน้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แนะนำให้มีการโทรไปสอบถามโรงแรมทั้งก่อนจอง และหลังจอง เพื่อความครบถ้วนของข้อมูล

ข้อแนะนำและข้อควรระวังในการการจองห้องพัก

  • เทียบราคาการจองแบบโดยตรง และผ่านนายหน้าก่อนเสมอ
  • ตรวจสอบก่อนเสมอว่าโรงแรมยังให้บริการอยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งโรงแรมที่ปิดไปแล้ว อาจจะยังเปิดการจองออนไลน์ผ่านนายหน้าเอาไว้อยู่
  • จองแบบยกเลิกได้เสมอ หรือทำประกันท่องเที่ยวเอาไว้หากจำเป็น เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
  • หลังจองตรวจสอบเสมอว่าโรงแรมได้รับการจองของเราหรือยัง
  • การจองแบบจองแล้วเข้าพักเลยอาจจะเกิดความผิดพลาดหรือตกหล่นได้ เลือกที่พักที่มั่นใจได้ว่ามีพนักงานให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • พิมพ์ใบยืนยันการจองหรือจดหมายยืนยัน และหลักฐานการจ่ายเงินไว้เก็บไว้ในกรณีที่มีปัญหา และนำไปในวันเช็กอินด้วย
ขั้นตอนการพักเข้าโรงแรม

การเช็กอิน ขั้นตอนในการเข้าพักโรงแรม

การเช็กอิน คือขั้นตอนในการยืนยันตนเพื่อเข้าพักกับโรงแรม โดยมีจุดประสงค์ในการยืนยันตัวผู้เข้าพัก และเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าพัก แขกท่านอื่นในโรงแรม และเพื่อแจ้งข้อมูลใด ๆ ที่ผู้เข้าพักควรทราบนั่นเอง โดยในขั้นตอนนี้เองก็เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการแจ้งความต้องการใด ๆ หรือสอบถามบริการที่ต้องการกับทางโรงแรมโดยตรง

ขั้นตอนการเช็กอินโรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ?

  1. ผู้เข้าพักจะต้องแจ้งเรื่องการจองห้องพักกับพนักงานภายในโรงแรม โดยมีการแสดงหลักฐานการจอง เช่น ใบจองห้องพัก หรือรหัสการจองที่ได้รับจากเว็บไซต์รับจอง
  2. ผู้เข้าพักจะต้องยืนยันตัวตนเพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาเป็นผู้ที่จองห้องพักจริงๆ โดยการยืนยันตัวตนมักจะใช้บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางเป็นเอกสารประจำตัว
  3. ผู้เข้าพักจะต้องกรอกรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้โรงแรมมีข้อมูลเพียงพอในการให้บริการ รายละเอียดที่ต้องกรอกก็อาจจะมี ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล และอื่นๆ
  4. พนักงานจะแนะนำโรงแรมและกฎระเบียบต่าง ๆ เช่น ตารางเวลาเปิด-ปิดของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโรงแรมการละเว้นเสียงดังในช่วงเวลาไหนถึงเวลาไหน เป็นต้น
  5. พนักงานจะมอบกุญแจหรือคีย์การ์ดให้ลูกค้า เพื่อใช้ในการเปิดประตูห้องพัก และจะพาลูกค้าไปยังห้องพักโดยส่วนใหญ่จะมีการแนะนำและแสดงแหล่งจ่ายไฟฟ้า สัญญาณอินเตอร์เน็ต โทรทัศน์ และอุปกรณ์อื่นๆ ในห้องพัก ไปด้วยในขั้นตอนนี้

เอกสารใดบ้างที่ใช้ยืนยันตนในโรงแรมได้

  • หนังสือเดินทาง
  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • ใบขับขี่

เรื่องอะไรบ้างที่ควรแจ้งตอนเช็คอิน

  • ห้องสูบบุหรี่ / ไม่มีบุหรี่
  • ขออัพเกรดห้อง
  • ขอชั้นสูง / ชั้นเตี้ย
  • ขอไม่รับ มินิบาร์ หรือ ไม่รับแอลกอฮอล์ในมินิบาร์
  • จองดินเนอร์
  • Late Check-out / Early Check-in

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเช็คอินโรงแรม

  • การเก็บข้อมูลผู้เข้าพักของโรงแรมตามระเบียบจริง ๆ นั้นต้องทำการเก็บทุกคน ฉะนั้นทุกคนในทริปต้องเตรียมหลักฐานยืนยันตัวเองเอาไว้ แม้ว่าในทางปฏิบัติโรงแรมอาจจะไม่ได้ขอทั้งหมด
  • การเช็คอินโรงแรมส่วนมากจะมีเวลามาตรฐาน อยู่ที่ช่วงบ่ายโมงเป็นต้นไป เพื่อเป็นการเตรียมห้องให้เรียบร้อย แต่บางโรงแรมก็ถูกออกแบบให้เช็กอิน และเช็กเอาท์ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง
  • หากไปถึงโรงแรมก่อนเวลาเช็คอิน หลายโรงแรมจะอนุญาตให้ใช้ Facility บางส่วนก่อนเพื่อให้แขกได้ฆ่าเวลา สามารถสอบถามโรงแรมได้ว่ามีบริการใดไหมที่เราสามารถเข้าไปใช้ได้ก่อน
  • บางโรงแรมสามารถขอ Early Check-in ได้ ฉะนั้นอย่าลืมสอบถามและแจ้งความประสงค์เพื่อทำให้แผนเที่ยวของเราคล่องตัวที่สุด
  • โรงแรมส่วนมากจะมีการเก็บค่ามัดจำผู้เข้าพัก เพื่อประกันความเสียหายระหว่างเข้าพัก ซึ่งหากไม่มีปัญหาผู้เข้าพักจะได้คืนเมื่อทำการเช็กเอาท์

Early Check-in คืออะไร ต้องทำเรื่องอย่างไร ?

การขอ Early Check-in คือการแจ้งโรงแรมเอาไว้ว่าเราต้องการเข้าไปพักก่อนเวลาทั่วไป ซึ่งอาจจะเกิดจากแผนเที่ยว เที่ยวบิน หรือสาเหตุอื่น ๆ ซึ่งแล้วแต่โรงแรมจะอนุมัติ หรือสามารถทำตาคำร้องได้หรือไม่ โดยการทำเรื่อง Early Check-in นั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่สอบถามหรือบอกโรงแรมโดยตรงได้เลย ทว่าเราแนะนำว่าควรให้เวลาโรงแรมเตรียมการอย่างน้อย 4-8 ชั่วโมง

Check out

วิธีการเช็กเอาท์โรงแรม

การเช็คเอาท์โรงแรมเป็นขั้นตอนสิ้นสุดการพักผ่อนในโรงแรม ที่จะทำในวันสุดท้ายของการพัก โดยในวันนั้นหลังจากที่เราตื่นนอนและเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถนำกุญแจห้องไปยื่นที่เคาน์เตอร์รีเซปชั่นได้เลย แน่นอนว่าหลังจากยื่นกุญแจไปแล้ว เราก็จะกลับเข้าไปในห้องของเราไม่ได้แล้วเช่นกัน โดยส่วนมากโรงแรมจะมีเวลาเช็คเอาท์สากลอยู่ในช่วง 10-11 โมงเพื่อเตรียมห้องให้ทันลูกค้าที่จะเข้ามาพัก แต่ในบางกรณีที่โรงแรมไม่ได้มีแขกเยอะหรือมีคนรอใช้ห้อง ก็สามารถทำเรื่องของอนุโลมเช็กเอาท์เลทได้

ขั้นตอนการเช็กเอาท์โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ?

  1. แจ้งรีเซปชั่นและส่งมอบกุญแจห้องคืน
  2. พนักงานจะเข้าตรวจสอบห้องว่ามีความเสียหายใดไหม และ มินิบาร์อยู่ครบรึเปล่า
  3. หลังจากการตรวจสอบเมื่อไม่มีปัญหา โรงแรมคืนค่ามัดจำห้อง และคิดเงินบริการ Pre-Paid ที่เราใช้ไปในโรงแรม
  4. เป็นอันเสร็จสิ้นการเช็คเอาท์

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเช็คเอาท์โรงแรม

  • เวลาการเช็กเอาท์สากลอยู่ที่ช่วง 10-11 โมง
  • เลทเช็กเอาท์จำเป็นต้องแจ้งก่อน ส่วนมากจะได้ต่อเวลาไม่เกินบ่าย 2 โมง
  • หากแจ้งออกเกินเวลามาก ๆ โรงแรมอาจจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • โรงแรมจะเก็บของที่เราลืมเอาไว้ในห้องให้และติดต่อกลับไว้ภายหลัง แต่ก็ควรตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้อง
  • บางโรงแรม Minibar ใช้ระบบ Sensor ฉะนั้นซื้อของมาใส่คืนก็อาจจะเสียเงินเหมือนกัน

Late Check-out คืออะไร ต้องทำเรื่องอย่างไร ?

การขอ Late Check-out คือการแจ้งโรงแรมเอาไว้ว่าเราต้องการพักต่ออีกเล็กน้อย อาจจะเพราะมีธุระที่ยังไม่เสร็จ หรืออยากใช้บริการบางอย่างของโรงแรมต่ออีกนิด การ Late Check-out ถือว่าเป็น Optional Service ที่โรงแรมไม่จำเป็นต้องมอบให้ผู้เข้าพักก็ได้ ฉะนั้นอย่าคาดหวังว่าทุกโรงแรมจะใจดีเหมือนกัน

สิ่งที่ควรทำเมื่อเข้าพัก

สิ่งที่ควรทำเมื่อเข้าพักโรงแรม

ต่อไปนี้ก็เป็นข้อแนะนำประกอบกับขั้นตอนอื่นๆ ถึงสิ่งทั่วไปที่ควรทำเมื่อเข้าพักโรงแรม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการพักอาศัย และเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายและทรัพย์สิน ดังนี้

  • เมื่อเข้าพักโรงแรมควรปฏิบัติตามกฎของโรงแรมอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เสียค่าปรับหากมีการละเมิดกฎของที่พัก 
  • ควรชาร์จแบตโทรศัพท์ให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ฉุกเฉินที่จะต้องติดต่อให้คนมาช่วย 
  • ควรตรวจสอบความแน่นหนาของประตูให้ดี เพื่อป้องกันการเข้าได้ง่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต 
  • ห้ามตรวจสอบปลั๊กไฟในห้องเพื่อป้องกันปัญหาความขัดข้องไฟฟ้า
พักโรงแรม

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเข้าพักโรงแรม

เมื่อเข้าพักโรงแรม นอกจากจะมีขั้นตอนการเข้าพักโรงแรมที่ควรทำแล้วยังมีสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและเพื่อความปลอดภัยทั้งร่างกายและทรัพย์สินเช่นกัน ดังนี้

  • ไม่ควรทำเสียงดังโวยวาย ควรลดเสียงดังๆ ที่อาจจะรบกวนคนอื่นในโรงแรม เช่น เล่นเพลงดังหรือพูดคุยดังเกินไป
  • ไม่ควรวางของมีค่าไว้นอกห้องหรือนอกกระเป๋า ควรนำของมีค่า เช่น ทองคำ อัญมณี หรือเงินสด ไว้ในตู้เซฟที่โรงแรมเตรียมไว้ให้ และควรปิดกระเป๋าให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันการขโมย
  • ไม่ควรหยิบของในห้องกลับไป ไม่ควรหยิบของที่ไม่ได้เป็นของตนเอง เพราะอาจจะเข้าข่ายการลักลอบนำของออกนอกโรงแรมและอาจได้รับบทลงโทษได้
  • ไม่ควรลักลอบนำสัตว์เข้าห้อง ควรปฏิบัติตามกฎของโรงแรม ซึ่งบางโรงแรมอาจจะไม่อนุญาตให้เข้าพักพร้อมสัตว์ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียค่าปรับในภายหลัง
  • ไม่เปิดเผยเลขห้องให้กับคนอื่นหรือผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาความปลอดภัย
  • ต้องตรวจสอบค่าใช้จ่ายของห้องพักกับโรงแรมให้เรียบร้อยก่อนเซ็นที่ใบเสร็จ และหากมีข้อสงสัยใดๆ ให้สอบถามพนักงานโรงแรมเพิ่มเติม
  • ห้ามเปิดประตูห้องให้กับคนแปลกหน้า เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินและความปลอดภัยของร่างกายของผู้พักอาศัยในห้องโรงแรม
  • รักษาความสะอาดและรักษาความเรียบร้อยของห้องพัก ไม่ควรสร้างความเสียหายหรือทิ้งขยะในห้องพักจนทำให้เกิดความสกปรก
  • อย่าเปิดที่จอดรถหรือรับบริการจากผู้ไม่รู้จักที่อาจเป็นอันตราย
  • อย่าเก็บของมีค่าอย่างเงินสดหรือเครื่องประดับให้ที่ห้องพักโดยไม่มีความจำเป็น เพราะอาจเสี่ยงต่อการหลอกลวงหรือการขโมย
  • ติดต่อพนักงานโรงแรมหรือติดต่อศูนย์สนับสนุนการเดินทางเมื่อเกิดปัญหาหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับการเข้าพักโรงแรม

การทำตามขั้นตอนต่างๆ ของการเช็คอินเข้าพักโรงแรมจะช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปได้รวดเร็วและถูกต้องเป็นไปตามกฎของโรงแรม โดยจะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและมีความปลอดภัยในระหว่างการเข้าพักโรงแรม
เมื่อมีการเดินทางและมีสัมภาระหนัก การใช้บริการรับส่ง-ฝากกระเป๋ากับ AIRPORTELs Luggage Delivery จะช่วยลดภาระที่ต้องใช้ในการขนกระเป๋า ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น
AIRPORTELs Luggage Delivery จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการขนกระเป๋าเอง โดยสามารถส่งกระเป๋าไปถึงโรงแรมโดยตรง และไม่ต้องเก็บสัมภาระในระหว่างเดินทาง ทำให้ลดความเสี่ยงในการสูญหายหรือเสียหายของสิ่งของที่อาจเกิดขึ้นได้ในการขนกระเป๋าเอง

ขึ้นเครื่องไม่ทัน ไม่ต้องกังวล มาดูกันว่าต้องทำยังไง

หลายคนที่มีประสบการณ์เดินทางด้วยเครื่องบิน อาจเคยพบกับเหตุการณ์ที่เช็กอินไม่ทัน ขึ้นเครื่องไม่ทันหรือเฉียดฉิวตกเครื่องกันมาบ้างแล้ว เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เผื่อในอนาคตมีโอกาสเจอเหตุการณ์ขึ้นเครื่องไม่ทันแบบนี้ จะได้ไม่ตื่นตระหนกตกใจกันไปเสียก่อน บทความนี้ ได้รวบรวมข้อมูลที่ควรรู้มาไว้หมดแล้ว ทั้งสาเหตุที่เกิดขึ้นของปัญหา ควรทำอย่างไรเมื่อขึ้นเครื่องไม่ทัน และการป้องกันไม่ให้ตกเครื่อง เตรียมพร้อมกับการเดินทางได้แบบไม่ต้องกังวล

ขึ้นเครื่องไม่ทัน ไม่ต้องกังวล
เช็กอินไม่ทัน

ขึ้นเครื่องไม่ทัน เช็กอินไม่ทัน คืออะไร

เหตุการณ์ขึ้นเครื่องไม่ทัน เช็กอินไม่ทัน ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายคนอาจเคยผ่านประสบการณ์มาบ้าง ซึ่งอาจเจอได้ทั้งเที่ยวบินขาไป หรือขากลับ โดยสาเหตุมักเกิดจากการที่ไปถึงเกตไม่ทันเวลา หรือการไปไม่ทันตามกำหนดเวลาเช็กอิน ทำให้ไม่สามารถขึ้นเครื่องเดินทางในเที่ยวบินนั้นๆ ได้ นอกจากนี้ การขึ้นเครื่องไม่ทันอาจเกิดจากปัญหาการเดินทาง สภาพการจราจรที่ติดขัด ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำให้การเดินทางล่าช้า กว่าจะถึงสนามบินก็ไปเช็กอินไม่ทันเสียแล้ว รวมไปถึงปัญหาอื่นๆ เช่น พาสปอร์ตหาย การจำวันเดินทางผิดวัน หรือเดินทางไปผิดสนามบิน เป็นต้น

ขึ้นเครื่องไม่ทัน

ขึ้นเครื่องไม่ทันแน่นอน หากยังทำแบบนี้

การขึ้นเครื่องไม่ทันอาจทำให้เสียเวลา เสียเงินโดยไม่จำเป็น และอาจจะทำให้ตารางนัดต้องเสียหายจากการเดินทางที่ล่าช้าด้วย เพราะฉะนั้น หากรู้ถึงสาเหตุของการที่ทำให้ไปเช็กอินไม่ทัน หรือการไปขึ้นเครื่องไม่ทัน ก็จะทำให้ทุกคนเตรียมความพร้อม และลดข้อผิดพลาดในการเดินทางได้ แล้วสาเหตุที่ทำให้ทุกคนขึ้นเครื่องบินไม่ทันมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย

เช็กอินไม่ทัน

การเช็กอินไม่ทันอาจเกิดขึ้นได้ 2 กรณี กรณีแรก คือ เดินทางไปสนามบินล่าช้าด้วยสาเหตุต่างๆ เช่น ตื่นสาย เตรียมตัวไม่ทัน รถติด หรือมีธุระบางอย่างที่กว่าจะเดินทางมาถึงสนามบิน ก็ไปเคาเตอร์เช็กอินไม่ทันเสียแล้ว เพราะฉะนั้น การเผื่อเวลาเดินทางจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ และกรณีที่สอง คือ เช็กอินทัน แต่ขึ้นเครื่องไม่ทันก็เป็นเรื่องที่น่าเสียดายเช่นกัน หลายคนอาจโล่งใจหลังจากที่ไปเช็กอิน และได้รับ Boarding Pass สำหรับขึ้นเครื่องเรียบร้อย เลยแอบไปหาของกิน เดินเล่น ช็อปปิง หรือเข้าห้องน้ำอย่างเพลิดเพลิน จนอาจทำให้เดินทางไปขึ้นเครื่องไม่ทันในที่สุด

เข้าแถวเช็กอิน

ติดอยู่ในแถวเช็กอิน

การติดอยู่ในแถวเช็กอินเป็นเวลานานก็ไม่อาจวางใจได้เลย หากแถวที่ยาวเหยียดเป็นแถวที่อยู่ในช่วงที่ใกล้เวลาปิดเคาท์เตอร์เช็กอินของเที่ยวบินที่ต้องการเดินทาง ทางที่ดีควรรีบไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ว่าง และอยู่ใกล้มากที่สุด เพราะไม่เช่นนั้นแล้ว อาจทำให้ทุกคนเช็กอินไม่ทัน และเดินทางไปขึ้นเครื่องไม่ทันอย่างแน่นอน

เดินซื้อของเพลินจนลืมเวลา

หลังจากเช็กอินเรียบร้อยแล้ว แต่เวลายังเหลือให้ได้ไปเดินซื้อของ โดยเฉพาะใน Duty Free ที่สามารถซื้อของได้มากขึ้น แต่ใช้เงินน้อยลง เพราะเหล่าสินค้าใน Duty Free เป็นสินค้าปลอดภาษีทั้งหมด ทำให้บางคนสนุกกับการเดินเลือกซื้อของจนลืมดูเวลา จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ขึ้นเครื่องไม่ทัน เพราะฉะนั้น หากอยากเดินเลือกซื้อของควรต้องระวังในเรื่องของระยะเวลาในการเดินเลือกซื้อ และเผื่อเวลาสำหรับเดินทางไปขึ้นเครื่องด้วย

บอกลาครอบครัวก่อนขึ้นเครื่อง

บอกลาครอบครัว เพื่อน แฟน หรือคนที่มาส่ง

ก่อนการเดินทางมักมีการบอกลาคนที่มาส่ง เช่น ครอบครัว เพื่อน หรือแฟน โดยหลายคนอยากเก็บเกี่ยวช่วงเวลาที่ได้ร่ำลากันไว้ให้นานที่สุด บางคนอาจมีการร่ำลาคนที่มาส่งหลายคน ใช้เวลาพูดคุย กับบุคคลเหล่านั้นให้นานเท่านาน ซึ่งอาจเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ขึ้นเครื่องไม่ทันได้ ดังนั้น ควรใช้เวลาในการบอกลาแบบสั้นๆ หรือมีความพอดี เพื่อให้ความคิดถึงได้ทำงาน และเดินทางไปถึงจุดหมายโดยไม่มีอะไรผิดพลาด

ไม่เผื่อเวลา

สิ่งสำคัญที่ควรพึงระลึกไว้เสมอเวลาเดินทาง โดยเฉพาะการขึ้นเครื่องบิน คือ การเผื่อเวลา ทุกคนไม่ควรชะล่าใจให้กับทุกสถานการณ์ เช่น เวลาเดินทางไปสนามบิน การจราจร อุปสรรค สภาพอากาศ หรือการเช็กสนามบินที่ต้องไปให้ดี หลายคนอาจมีประสบการณ์เดินทางไปผิดสนามบินมาแล้ว นอกจากนี้ การจัดเตรียมเอกสารให้ถูกต้อง ครบถ้วนก่อนเดินทาง และการทำธุระส่วนตัวก็ควรเผื่อเวลาไว้อย่างน้อย 1-3 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางทุกครั้ง เพราะการไม่เผื่อเวลาไว้สำหรับข้อผิดพลาด อาจทำให้ทุกคนเดินทางไปเช็กอินไม่ทันเวลา รวมไปการขึ้นเครื่องไม่ทันในที่สุด

ขึ้นเครื่องไม่ทันต้องทำไง

ขึ้นเครื่องไม่ทัน ควรทำอย่างไร

เมื่อขึ้นเครื่องไม่ทันไปแล้วก็คงทำอะไรไม่ได้ นอกจากแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น โดยเราได้รวบรวมวิธีรับมือกับสถานการณ์ขึ้นเครื่องไม่ทันไว้ให้แล้ว ไปดูกันเลย

ตั้งสติและทำใจให้นิ่ง

สติมา ปัญญาเกิด ใช้ได้เสมอกับทุกสถานการณ์ เพราะการไปเช็กอินไม่ทัน หรือขึ้นเครื่องไม่ทัน อาจทำให้ใจเสีย วิตกกังวล ลนลานทำอะไรไม่ถูก สิ่งสำคัญที่ควรทำเป็นอย่างแรกเลย คือ การตั้งสติ และควบคุมอารมณ์ เพื่อหาทางออกของปัญหาต่อไป

รีบติดต่อกับทางสายการบิน

หลังจากที่ตั้งสติแล้ว ทุกคนควรรีบติดต่อกับเจ้าหน้าที่ หรือทางสายการบินให้เร็วที่สุด พร้อมกับบอกถึงสาเหตุที่ทำให้ไปขึ้นเครื่องไม่ทันอย่างมีเหตุผลกับเจ้าหน้าที่ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ช่วยจัดการปัญหาตามสมควร

สอบถามรายละเอียดกับทางสายการบิน

พูดคุยสอบถามรายละเอียดกับทางสายการบิน

พูดคุยสอบถามด้วยความสุภาพ และใจเย็น เกี่ยวกับรายละเอียดต่างๆ สำหรับเที่ยวบิน และค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมกับทางเจ้าหน้าที่ เพราะแต่ละสายการบินมีมาตรการที่ต่างกัน หากขึ้นเครื่องไม่ทัน แต่อาจมีบางเที่ยวบินที่มีที่นั่งว่าง และสามารถออกตั๋วใหม่ให้ได้ โดยเสนอเที่ยวบินที่เร็วที่สุด และอาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่สูงกว่าปกติ หรือบางกรณีอาจได้ตั๋วบินฟรี ทั้งนี้ต้องสอบถามสายการบินให้ชัดเจนถึงข้อมูล และสิทธิประโยชน์ที่ได้รับ

แจ้งให้ปลายทางทราบถึงเหตุสุดวิสัย

หากแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเที่ยวบินได้แล้ว ในกรณีที่ทำการจองที่พัก หรือจองอะไรต่างๆ เอาไว้ แต่เดินทางขึ้นเครื่องไม่ทัน กำหนดการถึงปลายทางอาจล่าช้าจากเดิม จึงควรแจ้งให้ปลายทางได้รู้ไว้ เพื่อทำการแก้ไขข้อมูลอีกทีว่าสามารถดำเนินการอย่างไรต่อไปได้บ้าง

ป้องกันไม่ให้ตกเครื่อง

วิธีป้องกันการขึ้นเครื่องไม่ทัน

เมื่อรู้สาเหตุของการขึ้นเครื่องไม่ทันแล้ว สิ่งที่ควรทำ คือ การนำข้อมูลเหล่านี้มาปรับใช้ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์
เช็กอินไม่ทัน หรือขึ้นเครื่องไม่ทันในอนาคต

ตรวจสอบข้อมูลให้ละเอียด

การตรวจสอบข้อมูลในการเดินทางทุกอย่างให้ละเอียด เช่น เที่ยวบิน สนามบิน เกต วันที่-เวลา ตลอดจนเอกสารที่เกี่ยวข้องไม่เพียงแค่พาสปอร์ต กับตั๋วเครื่องบินเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงใบจองที่พัก แผนการเดินทาง ทุกคนควรตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อไม่ให้ผิดพลาดจนทำให้ขึ้นเครื่องไม่ทัน

เผื่อเวลาล่วงหน้าก่อนเดินทางไปสนามบิน

การเผื่อเวลาในการเดินทาง คือ สิ่งที่เราย้ำเตือนไว้เสมอ ควรถึงสนามบินล่วงหน้าให้เกิน 1 ชั่วโมงขึ้นไป สำหรับใครที่ยังไม่ชินกับการเดินทาง หรือหากต้องเดินทางในช่วงเทศกาลยิ่งต้องเผื่อเวลาให้มากขึ้นไปอีก เพื่อลดความเสี่ยงของการเช็กอินไม่ทัน และการขึ้นเครื่องไม่ทันได้มากขึ้น

เช็กอินล่วงหน้า

เช็กอินล่วงหน้า

ปัจจุบันมีการเช็กอินทางออนไลน์ (Online Check-in) แล้ว หากใครกลัวว่าจะมาเช็กอินไม่ทันเมื่อถึงสนามบิน ก็สามารถเช็กอิน
ออนไลน์มาก่อนล่วงหน้าได้ เมื่อมาถึงสนามบินจะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปคอยต่อแถวนานๆH3: สำรวจน้ำหนักกระเป๋า
น้ำหนักกระเป๋า เป็นสาเหตุที่ทำให้เสียเวลาได้ หากน้ำหนักกระเป๋าเกินก็ต้องมาคอยจัดการปัญหาว่าจะตัดสินใจทิ้งอะไรออกไปบ้าง เสียเวลาและเสียความรู้สึก เพราะของบางชิ้นก็ตัดสินใจเลือกยาก แต่หากตัดสินใจยังไม่ได้ ทุกคนสามารถฝากสัมภาระของตัวเองกับ AIRPORTELs ไว้ก่อน ขากลับค่อยมารับของก็ได้ หมดห่วงเรื่องสัมภาระในกระเป๋าที่ทำให้น้ำหนักเกิน

เก็บเอกสารสำคัญไว้อย่างปลอดภัย

ขึ้นเครื่องไม่ทันเพราะเอกสารหายมีอยู่จริง โดยเฉพาะเอกสารที่สำคัญ และจำเป็นต้องใช้ เช่น พาสปอร์ต Boarding Pass สำหรับขึ้นเครื่อง ดังนั้น ควรมีกระเป๋า หรือซองเก็บเอกสารสำคัญที่สามารถจัดเก็บ และเปิดใช้งานได้ง่าย จะได้ไม่เสียเวลาหาให้นานเวลาต้องการใช้ และลดความเสี่ยงที่เอกสารจะหล่นหายระหว่างเดินทาง

การเช็กอินไม่ทัน หรือการขึ้นเครื่องไม่ทันล้วนเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง บางคนอาจเคยเจอเหตุการณ์นี้แล้ว หรือบางคนอาจยังไม่เคยเจอ ดังนั้น จึงควรรู้ถึงสาเหตุ และวิธีแก้ไขปัญหาเมื่อขึ้นเครื่องไม่ทัน เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมก่อนการเดินทาง ลดความผิดพลาด และเดินทางถึงจุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพ

แกลมปิ้ง (glamping) คืออะไร ต่างจาก camping อย่างไร 

แกลมปิ้ง (glamping) คืออะไร ต่างจาก camping อย่างไร 

แกลมปิ้ง คือการตั้งแคมป์แบบหรูหรา ซึ่งคำว่า Glamping ก็มาจากการรวมคำว่า Glamorous ที่แปลว่าสวยงาม หรูหรา ส่วน Camping หมายถึงการตั้งแคมป์นั่นเอง โดยจะผสมผสานระหว่างการตั้งแคมป์แบบดั้งเดิมเข้ากับความหรูหราสไตล์โรงแรมหรือรีสอร์ต ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถนอนกางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น เพราะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างดีและครบครัน ซึ่งอันที่จริง แกลมปิ้งนั้นมีมานานแล้ว แต่เพิ่งเป็นกระแส และได้รับความนิยมในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดที่ผ่านมา  เพราะผู้คนโหยหาการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติมากขึ้น ประกอบกับการได้เห็นรูปภาพสวยๆ และคอนเทนต์ต่างๆ จากบรรดา Vloger และ Influencer ก็ยิ่งดึงดูดให้ผู้คนอยากออกไปสัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ด้วยตัวเองดูสักครั้ง  

แกลมปิ้งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ไต้หวัน โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดิมทีการตั้งแคมป์ก็เป็นกิจกรรมที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบกันอยู่แล้ว เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย และการไปท่องเที่ยวในแต่ละฤดูก็ยังให้บรรยากาศที่ต่างกันด้วย พอมีความสะดวกสบายเข้ามาเพิ่ม ก็ยิ่งทำให้การตั้งแคมป์ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก

glamping vs camping แตกต่างกันอย่างไร

glamping vs camping แตกต่างกันอย่างไร

การตั้งแคมป์แบบ Glamping และการตั้งแคมป์แบบดั้งเดิม หรือ Camping มีทั้งส่วนที่คล้ายและแตกต่างกัน ส่วนที่เหมือนกัน คือการเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่เน้นประสบการณ์ใกล้ชิดธรรมชาติ ใช้ชีวิตกลางแจ้ง ได้สูดอากาศอันสดชื่น นอนดูดาว ตื่นเช้ามาเปิดเต็นท์ก็เห็นทิวทัศน์สวยๆ อยู่ตรงหน้า แต่การตั้งแคมป์แบบ Glamping จะหรูหราและสะดวกสบายมากกว่า เหมือนยกรีสอร์ตมาตั้งไว้กลางธรรมชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยตั้งแคมป์ได้มีโอกาสเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ 

ในขณะที่การตั้งแคมป์แบบเดิมจะได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เพราะแม้จะราคาถูก ทำให้ประหยัดค่าที่พักได้มากกว่าการนอนในโรงแรม แต่ก็ต้องยอมรับว่าการนอนเต็นท์ที่ดูเหมือนจะสนุกและท้าทาย แต่เอาเข้าจริงก็ไม่สะดวกสบายเท่าไหร่ ยิ่งถ้าต้องแบกเต็นท์ไปเอง กางเต็นท์เอง ก็ต้องใช้เวลาและพละกำลังไม่น้อยเลยทีเดียว ยังไม่รวมถึงการทำอาหาร ห้องน้ำ ความปลอดภัย ฯลฯ ที่ทำให้หลายคนถอดใจจนต้องพับโครงการไปในที่สุด 

glamping มีจุดเด่นอย่างไร

glamping มีจุดเด่นอย่างไร

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ เผชิญกับความเครียด ความกดดัน และปัญหาสารพัดในแต่ละวัน จึงไม่มีใครอยากจะออกไปผจญภัยแบบลำบากลำบนในช่วงวันหยุดอีก Glamping จึงถือเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ได้อย่างลงตัว ส่วนใหญ่ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อแลกมากับการพักผ่อนที่สะดวกสบาย ในขณะเดียวกันก็ได้หลีกหนีความวุ่นวาย ไปให้ธรรมชาติโอบกอดเยียวยาจิตใจ ใช้เวลากับคนที่รัก แถมยังได้รูปเก๋ๆ ลงโซเชียลด้วย นอกจากนี้การท่องเที่ยวสไตล์ Glamping ยังมีจุดเด่นอีกมากมาย เช่น

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ที่พักที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการนอนพักในโรงแรม มีทั้งเตียงอย่างดี นอนแล้วนุ่มสบาย ไม่ปวดหลัง เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็นขนาดเล็ก ไมโครเวฟ กาน้ำร้อน อินเทอร์เน็ต ชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับรับประทานอาหาร ห้องน้ำส่วนตัว เครื่องทำน้ำอุ่น บางแห่งมีอ่างอาบน้ำ หรืออ่าง Jacuzzi ให้ ในขณะที่บางแห่งก็มีพื้นที่ครัว รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถประกอบอาหารได้อย่างสะดวกสบาย  

มีความปลอดภัย

นอกจากภายในเต็นท์ที่พักแบบ Glamping จะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแล้ว โครงสร้างของเต็นท์ก็มีความแข็งแรงมากกว่าเต็นท์ขนาดเล็ก ทำให้รู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องสภาพอากาศ เสียงรบกวน แมลง หรือสัตว์มีพิษ อีกทั้งยังอยู่ในบริเวณของที่พักที่จัดไว้ให้โดยเฉพาะ จึงเหมือนได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกหนึ่งชั้น   

พื้นที่ความเป็นส่วนตัว

แม้ที่พักจะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่เต็นท์ที่ใช้สำหรับพักผ่อนก็คล้ายกับห้องส่วนตัวที่ปิดได้อย่างมิดชิด และทางที่พักก็มักจะเว้นระยะห่างระหว่างเต็นท์ รวมถึงมีพื้นที่บริเวณรอบเต็นท์ให้สามารถออกมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเป็นส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็นสัดส่วน มีที่เก็บของ มีห้องน้ำในตัว สะอาดสะอ้าน ไม่ต้องใช้ห้องน้ำรวม นักท่องเที่ยวจึงสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ 

บรรยากาศดี มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ลองทำ

การไป Glamping ไม่เพียงแต่จะได้พักผ่อนและดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังจะได้ใช้เวลาสร้างความทรงจำดีๆ และกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนผ่านกิจกรรมต่างๆ  เช่น การทำอาหาร ย่างบาร์บีคิว ดริปกาแฟ ผิงไฟ ร้องเพลง ตกปลา เล่นเกมต่างๆ อีกทั้งที่พักหลายแห่งก็ยังจัดเตรียมกิจกรรมสนุกๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย เช่น การขี่ม้า การเดินป่า ดูดาว ถ่ายรูปสวยๆ เป็นต้น

glamping มีกี่แบบ

glamping มีกี่แบบ

ปัจจุบันคนไทยนิยมเที่ยวแบบ Glamping กันมากขึ้น ที่พักหลายแห่งจึงมีการออกแบบห้องพักหลากหลายประเภท เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเลือกพักได้ตามความชอบ งบประมาณที่ต้องการ หรือจำนวนคนในทริป เช่น มาเป็นคู่ มาพร้อมครอบครัว หรือมากับกลุ่มเพื่อนหลายคน เป็นต้น โดยมีรูปแบบต่างๆ ให้เลือก ดังนี้

แกลมปิ้งแวน

แกลมปิ้งแวน หรือเรียกง่ายๆ ก็คือรถบ้าน ลักษณะภายนอกจะเหมือนกับรถธรรมดา อาจจะเป็นรถตู้หรือรถบัสก็ได้ แต่ด้านในถูกดัดแปลงให้เปรียบเสมือนบ้านขนาดย่อมที่สามารถเคลื่อนที่ได้ มีห้องน้ำ ห้องครัว ที่นอน โซฟาพับได้ โต๊ะทานอาหาร และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปหลายแห่ง ยิ่งถ้าไปหลายคน เมื่อหารเฉลี่ยค่าใช้จ่ายแล้วก็จะประหยัดกว่าด้วย แต่ข้อเสียก็คือต้องมีคนขับที่มีความชำนาญเส้นทาง และควรจะมีความรู้ในการใช้งานรถ เช่น การเติมน้ำสะอาด การระบายของเสีย การเสียบไฟฟ้าเพื่อใช้งานขณะจอดรถ เป็นต้น 

ซึ่งปัจจุบันจุดจอดรถแกลมปิ้งแวนในไทยที่มีบริการเหล่านี้ก็ยังมีไม่มาก จึงไม่เป็นที่นิยมนัก แต่บางที่พักก็มีการนำรถแกลมปิ้งแวนมาใช้เป็นห้องพัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้บรรยากาศที่สมจริง

เต็นท์โดมขนาดใหญ่ 

เต็นท์โดมขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลม เป็นเต็นท์ที่นิยมมากที่สุด และเหมาะมากสำหรับสาย Glamping เพราะมีความแข็งแรงทนทาน ทนได้ทั้งแดดและฝน ด้านในพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง โล่งโปร่งสบาย เหมือนเป็นห้องๆ หนึ่ง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด นอนได้หลายคน และยังสามารถติดแอร์ วางเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย บางแห่งก็ต่ออุโมงค์ทำห้องน้ำในตัวให้เรียบร้อย ผนังสามารถมองเห็นวิวด้านนอกหรือนอนชมดาวยามค่ำคืนได้ แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถปิดม่านได้

เต็นท์ทรงกระโจมหรือเต็นท์มองโกลทรงคลาสิก

เต็นท์ทรงกระโจมจะให้บรรยากาศของการตั้งแคมป์มากกว่า จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายรูป สร้างคอนเทนต์ ลักษณะเป็นกระโจมสามเหลี่ยมที่มียอดแหลมตรงกลาง ทำให้หลังคาสูง พื้นที่ด้านในดูโล่งโปร่งมากขึ้น อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว เวลาเปิดประตูก็จะสามารถมองเห็นวิวสวยๆ ได้เต็มตา และหากเป็นเต็นท์กระโจมที่มีขนาดใหญ่ก็สามารถนอนได้หลายคนและวางสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ได้ครบไม่ต่างจากเต็นท์โดมเลย แต่ข้อเสียคือ เต็นท์กระโจมบางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่มีขนาดใหญ่มักจะมีเสาตรงกลาง อาจจะทำให้รู้สึกเกะกะเล็กน้อย

บ้านต้นไม้ 

บ้านต้นไม้ เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ คล้ายกระท่อม สร้างอยู่บนต้นไม้ มักออกแบบให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกร่มรื่น เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ อยากหลบหลีกความวุ่นวายไปผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ ตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ขับกล่อมด้วยเสียงนก เสียงใบไม้ หรือคนที่อยากเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ เติมเต็มความฝันในวัยเด็ก เพราะที่พักที่มีบ้านต้นไม้มีจำนวนจำกัด และแต่ละแห่งก็มีจำนวนไม่มาก เนื่องจากก่อสร้างยาก ต้องใช้พื้นที่เยอะ แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าห้องพักแบบธรรมดา

โดยสรุปแล้วแกลมปิ้งก็คือการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งที่พัฒนามาจากการตั้งแคมป์แบบดั้งเดิมหรือ Camping โดยยังคงเน้นความใกล้ชิดธรรมชาติไว้ แต่เพิ่มความหรูหราและสะดวกสบายเข้ามา การตั้งแคมป์จึงไม่ได้เป็นการท่องเที่ยวที่จำกัดเฉพาะสายลุย หรือสาย Adventure อีกต่อไป แต่ใครๆ ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์นอนกางเต็นท์ชมวิวได้ เทรนด์การท่องเที่ยวแบบ Glamping จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการตั้งแคมป์ขายดีจนมีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ในขณะเดียวกันที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งต้องปรับตัวและเพิ่มห้องพักแบบ Glamping เพื่อดึงดูดลูกค้า 

อย่างไรก็ตามก่อนออกเดินทางนักท่องเที่ยวก็ควรจะศึกษาสถานที่ เส้นทาง สภาพภูมิอากาศ รวมถึงเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ขับรถไปเอง การแบกสัมภาระจำนวนมากอาจเป็นอุปสรรคในการเดินทางได้ ขอแนะนำบริการดีๆ จาก Airportels ผู้ให้บริการขนส่งกระเป๋าเจ้าแรกในไทย ที่จะช่วยขนสัมภาระไปส่งให้ถึงที่พักทุกแห่งทั่วประเทศ โดยสามารถกดจองผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว แล้วออกเดินทางตัวเปล่าแบบชิลๆ ไม่ต้องหิ้วกระเป๋าเองให้เหนื่อย แวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้เต็มที่ ถึงที่พักพร้อมกระเป๋าที่รออยู่แล้ว ปลอดภัยด้วยระบบติดตามสัมภาระที่สามารถเช็กสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางที่สะดวกสบายกว่าที่เคย

5 ข้อ การเตรียมตัวไปคอนเสิร์ตให้เป๊ะ และข้อควรระวังถ้าไม่อยากแป้ก

หลังจากนั่งหน้าคอมและรัวนิ้วกดแป้นอย่างแน่วแน่เสริมด้วยพลังสายมู จนกดบัตรคอนเสิร์ตศิลปินคนโปรด มาครอบครองดั่งใจหวัง แค่คิดว่าจะได้ไปร้องเพลง หรือออกสเต็ปแดนซ์กับเพื่อนพ้องชาวด้อม และถือโอกาสท่องเที่ยวพักผ่อน หลังจากโหมงานหนักมานาน ก็แทบจะหุบยิ้มไม่ได้แล้ว ด่านสำคัญต่อไปคือ การเตรียมตัวไปคอนเสิร์ต จะเตรียมยังไงให้เป๊ะไม่มีแป้ก มาทำตามเซ็กลิสต์นี้ได้เลย

5 ข้อ การเตรียมตัวไปคอนเสิร์ตให้เป๊ะ และข้อควรระวังถ้าไม่อยากแป้ก
ศึกษาสถานที่จัดคอนเสิร์ต

1. ศึกษาสถานที่จัดคอนเสิร์ต

ได้บัตรมาแล้วไม่ได้ถือว่าเป็นผู้ชนะเสมอไป หลายคนตกม้าตายเพราะไปสถานที่จัดงานไม่ทัน ไปผิดที่ จำวันหรือเวลาผิด ทำให้พลาดโอกาสในการสัมผัสบรรยากาศที่รอคอยมานาน ดังนั้น ก่อนถึงวันงานต้องศึกษาข้อมูลต่างๆ  ให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นวันเวลาหรือสถานที่จัดงาน เพื่อที่จะวางแผนการเดินทางและจองที่พักไว้ล่วงหน้า ยิ่งข้อมูลแน่น วางแผนดีเท่าไหร่ รับรองได้เลยว่างานนี้มีแต่ปัง ไม่มีแป้กอย่างแน่นอน

ข้อควรระวังถ้าไม่อยากแป้ก

  • การเตรียมตัวไปคอนเสิร์ต เมื่อประกาศแล้วว่างานจัดที่ไหน ควรตรวจสอบข้อมูลของสถานที่จัดงานก่อนว่ามีลักษณะอย่างไร เช่น เป็น indoor หรือจัดกลางแจ้ง เป็นต้น จะได้วางแผนเตรียมตัวล่วงหน้าได้ถูก 
  • ควรศึกษาเส้นทางล่วงหน้าก่อนการเดินทาง โดยสามารถตรวจสอบเส้นทางได้ง่ายๆ ผ่าน google map เช่น ห่างจากที่พักแค่ไหน มีรถโดยสารสาธารณะผ่านหรือไม่ สายไหนบ้าง หากขับรถยนต์ส่วนตัวไปเอง มีที่จอดรถเพียงพอหรือไม่ เป็นต้น
  • กลัวลืม ตั้ง remainder ไว้ในโทรศัพท์เลย บันทึกข้อมูลสถานที่วันเวลาให้เรียบร้อย อย่าลืมเปิดเสียงเตือนเอาไว้ด้วย รับรองไม่มีพลาด
จองที่พักที่สะดวกเดินทางไปคอนเสิร์ต

2. จองที่พักที่สะดวกเดินทางไปคอนเสิร์ต

คอนเสิร์ตส่วนใหญ่มักจะจัดในตอนกลางคืน สำหรับใครที่ไม่สะดวกเดินทางกลับบ้านในยามวิกาล หรือมาจากต่างจังหวัด การเตรียมตัวไปคอนเสิร์ต เพื่อความสะดวกก็อาจจองที่พักที่อยู่ใกล้กับสถานที่จัดงานจากเว็บไซต์ต่างๆ เช่น agoda, booking, traveloga โดยการเลือกที่พักควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนเพื่อประกอบการตัดสินใจ เช่น ดูรีวิวที่เป็นปัจจุบันจากผู้ใช้งานจริง ในเว็บไซต์เอเจนซี่ต่างๆ หรือหาข้อมูลจากแพลตฟอร์มออนไลน์  เช่น TikTok พันทิป ยูทูป เป็นต้น 

ข้อควรระวังถ้าไม่อยากแป้ก

  • ควรเลือกดูที่พักที่มีการบริการที่ตรงกับความต้องการของเราและเหมาะสมกับราคา
  • ไม่ว่าจะเป็นที่พักราคาหลักร้อยหรือเป็นพัน ก็ควรเลือกที่พักที่สะอาด สภาพห้องดี กลับมาเหนื่อยๆ จากงานคอนเสิร์ต ต้องมาเจอสภาพห้องพักที่ผนังผุพัง ห้องน้ำมีกลิ่น มียันต์ติดเพดาน ถึงจะเหนื่อยแค่ไหนก็คงหลับตานอนไม่ลงเป็นแน่
  • ความปลอดภัยสำคัญมาก ควรเลือกที่พักที่อยู่ในแหล่งชุมชน มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐาน มีเจ้าหน้า รปภ. คอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น 
  • ทำเลที่ตั้งของที่พักก็ถือเป็นเรื่องสำคัญ ควรเลือกโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลจากสถานที่จัดงานมากนัก โดยสามารถเดินเท้าไปได้เลย หรือห่างออกมาเล็กน้อยแต่สามารถเดินทางได้สะดวก อาจอยู่ติดถนนใหญ่ที่รถโดยสารสาธารณะผ่าน ติดกับสถานีรถไฟฟ้า เป็นต้น หลังจากที่ผ่านสมรภูมิแห่งความบันเทิงมาอย่างโชกโชน หากยังต้องดั้นด้นกลับไปยังที่พักที่อยู่แสนไกลอีก คงเป็นการทรมานร่างกายเกินไป
  • ราคาถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ควรเลือกที่พักที่เหมาะสมกับงบประมาณ เมื่อได้ที่พักในใจแล้ว เพื่อผลประโยชน์สูงสุด ก็ลองเปรียบเทียบราคาจากเว็บไซต์ผู้ให้บริการหรือสอบถามที่พักโดยตรง เพื่อให้ได้ราคาที่ดีที่สุด 
จัดกระเป๋า เตรียมของไม่พลาดความสนุก

3. จัดกระเป๋า เตรียมของไม่พลาดความสนุก

บัตรพร้อม ข้อมูลสถานที่ได้ วางแผนการเดินทางและจองห้องพักไว้เรียบร้อยแล้ว ก็จัดกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวไปคอนเสิร์ตกันได้เลย มาดูกันว่าสิ่งของจำเป็นที่ต้องพกไปด้วยไปควรมีอะไรบ้าง

บัตรคอนเสิร์ต

ถึงจะลำบากกดบัตรคอนเสิร์ตมาครอบครองอย่างยากเย็น แต่ถ้าลืมพกมาด้วย คงทำได้แค่นั่งร้องไห้เพราะเข้างานไม่ได้ ดังนั้น ก่อนเดินทาง ตรวจสอบให้แน่ใจก่อนว่าได้นำบัตรใส่กระเป๋าแล้วหรือยัง

บัตรประชาชน หรือเอกสารแสดงตัวตน

การเตรียมตัวไปคอนเสิร์ต บัตรประจำตัวประชาชนก็สำคัญเช่นกัน ก่อนเข้างานเจ้าหน้าที่มักจะตรวจบัตรประชาชนเพื่อยืนยันตัวตน ถ้าลืมพกมาด้วยอดเข้างานแน่ๆ

เงินสด

หน้าสถานที่จัดงานคือที่ละลายทรัพย์สำหรับแฟนคลับเลยทีเดียว เพราะจะมีสินค้าของศิลปินมาวางขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแท่งไฟ เสื้อยืด พัด การ์ด พวงกุญแจ ทั้งของออฟฟิเชียลที่เป็นสินค้าหายาก ต้องมาต่อคิวรอซื้อตั้งแต่เช้า หรือของแฟนเมดที่นำมาจำหน่ายหน้างาน เรียกว่าถ้าเป็นแฟนพันธ์ุแท้ต้องได้เสียเงินซื้อของกลับบ้านอย่างแน่นอน นอกจากนั้นยังมีอาหารเครื่องดื่มระหว่างรอ รวมทั้งเป็นค่ารถตอนกลับบ้านด้วย ดังนั้นพกเงินติดกระเป๋าไปด้วยเถอะอุ่นใจสุด

โทรศัพท์ พาวเวอร์แบงค์

คอนเสิร์ตส่วนใหญ่ใช้เวลาแสดงไม่ต่ำกว่า 2 ชั่วโมง ยังไม่รวมเวลาที่ต้องมารอเข้างาน ทั้งถ่ายรูป อัดคลิป เล่นโซเชียล โทรหาเพื่อน เรียกได้ว่าต้องใช้งานมือถือตลอดเวลา เพราะฉะนั้นการเตรียมตัวไปคอนเสิร์ต หากไม่อยากพลาดช่วงเวลาสำคัญ ก่อนออกจากบ้านต้องชาร์จแบตมือถือให้เต็ม และควรพกเพาเวอร์แบงค์เพื่อเป็นพลังงานสำรองไว้ด้วย

ทิชชู

ทั้งทิชชูเปียกทิชชูแห้งพกไปได้ใช้ประโยชน์อย่างแน่นอน ทั้งตอนเข้าห้องน้ำ เอาไว้ซับหน้า ซับเหงื่อ ลองหาขนาดพกพาติดไปด้วย จะได้หยิบมาใช้ได้สะดวก

น้ำ

ปกติแล้วน้ำดื่มจะไม่ได้รับอนุญาตให้นำเข้าไปในงาน แต่ระหว่างรอด้านนอกควรเตรียมน้ำขวดเล็กไปด้วย ช่วยป้องกันการกระหาย ลดอาการขาดน้ำ  จากอากาศร้อนๆ ได้

ยาดม หรือยารักษาโรคประจำตัว

ขึ้นชื่อว่าคอนเสิร์ต ต้องมีการเบียดเสียดกับฝูงชนจำนวนมากอย่างแน่นอน บวกกับอากาศร้อนอบอ้าว อาการวิงเวียนหน้ามืดอาจมาทักทายได้ เตรียมตัวไปคอนเสิร์ต อย่าลืมพกยาดมไปด้วย เผื่อไว้ใช้ตอนหน้ามืดตาลาย และยังช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น นอกจากนั้นใครเป็นโรคประจำตัวอย่าลืมพกยาติดตัวไปด้วย 

ชุดตัวโปรด

ไปคอนเสิร์ตทั้งทีต้องได้รูปกับคอนเทนต์เก๋ๆ เอาไว้ไปโพสต์อวดเพื่อน เสื้อผ้าชิคๆ ให้เข้ากับตีมคอนเสิร์ตจึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ถ้าเป็น blink ตัวแม่ ก็จัดสีชมพูดำไปเลย อากาเซน้อย วง BTS สีเขียวสะท้อนแสงต้องมา หรือจะสร้างสรรค์แฟชั่นสุดจี๊ดเอาใจศิลปินวงโปรดก็ได้ แต่จัดเสื้อผ้าเพื่อเตรียมตัวไปคอนเสิร์ต ก็มีข้อควรระวัง เช่น ถ้าเป็นบัตรยืนควรใส่รองเท้าผ้าใบหุ้มส้นจะดีที่สุดเพื่อป้องกันการโดยเหยียบเท้าและลดอาการปวดเท้าจากการยืนนานๆ ใส่ชุดที่คล่องตัวและรัดกุม เครื่องหัวไม่ต้องใหญ่มาก เป็นต้น

พัดลมน้อย

ระหว่างรอเข้างานด้านหน้า ตอนต่อคิวเข้างาน หรืออยู่ในงานแล้ว เนื่องจากคนเยอะ อากาศจะร้อนอบอ้าวมาก มีคนเป็นลมมานักต่อนักแล้วในงานคอน ดังนั้นควรพกพัดลมน้อยไปด้วยเพื่อช่วยคลายความร้อนและช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น

แท่งไฟ ป้ายไฟ

การเตรียมตัวไปคอนเสิร์ต เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกับกับเพื่อนด้อม หรือแสดงจุดยืนในความเป็นแฟนคลับคลั่งรัก ควรเตรียมแท่งไฟประจำด้อมให้พร้อมโบกในงานด้วย หรืออาจจะเตรียมป้ายไฟไปด้วยก็ได้ แต่ป้ายไฟต้องระวังไม่ให้มีขนาดใหญ่เกินไปจนบังคนอื่น และเตรียมถ่านไปสำรองด้วย

หน้ากาก สเปรย์แอลกอฮอล์

ยุคนี้ยังไงก็ต้องระวังตัวเอาไว้ก่อน โควิด-19 ยังไม่จากเราไปไหน สนุกแล้วต้องอย่าลืมดูแลสุขภาพด้วย จึงควรพกหน้ากากและสเปรย์แอลกฮอล์ติดกระเป๋าไปด้วย เกิดติดโควิดขึ้นมาแล้วต้องลางานหรือไปเรียนไม่ได้ ก็คงไม่คุ้มแน่ๆ

เตรียมของลงกระเป๋าเพื่อเตรียมตัวไปคอนเสิร์ตเรียบร้อยแล้ว ใครมาจากต่างจังหวัดและยังไม่ได้เข้าที่พัก หิ้วกระเป๋าใหญ่ๆ มาด้วย หรือช้อปปิ้งหน้างานเพลินจนได้ของถุงใหญ่ อาจทำให้การดูคอนเสิร์ตไม่สนุกเพราะต้องคอยดูแลสัมภาระ สามารถใช้บริการของAIRPORTELs  รับ-ส่ง กระเป๋าอย่างปลอดภัยจนถึงที่พักได้เลย

ฟิตร่างกายให้เตรียมพร้อม

4. ฟิตร่างกายให้เตรียมพร้อม

คงหมดสนุกแน่ๆ หากก่อนวันงานหรือในวันที่จัดงานเกิดป่วยขึ้นมา ดังนั้น การเตรียมตัวไปคอนเสิร์ต ก่อนถึงวันงานควรเตรียมร่างกายให้พร้อมที่สุด โดยการออกกำลังกายเบาๆ ฝึกยืดกล้ามเนื้อ เพื่อให้ร่างกายชินกับการขยับแขนขา เวลาออกสนามจริงจะได้ไม่เหนื่อยหอบและกล้ามเนื้อบาดเจ็บ รวมทั้งดูแลสุขภาพของตัวเองให้แข็งแรงเพื่อไม่ให้เจ็บป่วยก่อนไปงาน

ข้อควรระวังถ้าไม่อยากแป้ก

  • การออกกำลังกายต้องระวัง อย่าหักโหมจนเกินไป หากบาดเจ็บจากการออกกำลังก่อนงานเริ่มจะไม่สนุกเอาได้
  • นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนไม่เพียงพอทำให้สมองเบลอ มึนงง และไม่แจ่มใส แถมยังเสี่ยงต่อการเกิดอาการวิงเวียนเป็นลมได้ง่ายอีกด้วย
  • เลี่ยงโดนแดดโดนฝน หรือทำกิจกรรมเสี่ยงๆ เช่น ปีนเขา เล่นสเก็ต ที่อาจทำให้ป่วยหรือบาดเจ็บ
กินให้อิ่ม ก่อนเข้างาน ไม่เหนื่อย เต้นได้เต็มที่

5. กินให้อิ่ม ก่อนเข้างาน ไม่เหนื่อย เต้นได้เต็มที่

ไปคอนเสิร์ตทั้งทีจะยืนอยู่เฉยๆ คงไม่ได้ นอกจากต้องรอคิวที่นานแสนนานแล้ว เมื่อเข้าไปในคอนยังต้องทั้งเต้นทั้งตะโกนร้องเพลงอย่างบ้าคลั่งอีก แน่นอนว่าต้องดึงเอาพลังงานในร่างกายทั้งหมดออกมาใช้ การเตรียมตัวไปคอนเสิร์ต ถ้าไม่อยากแบตเตอรี่หมดก่อนคอนจบ ต้องเติมพลังงานด้วยอาหารให้เต็มอิ่มก่อนเข้างาน เพราะเราจะใช้เวลาอยู่ในนั้นนานหลายชั่วโมงและเอาอาหารเข้าไปไม่ได้ อาจจะหิวระหว่างงาน หรือเป็นลมเป็นแล้งไปได้

ข้อควรระวังถ้าไม่อยากแป้ก

  • ทานอาหารให้อิ่มแต่อย่ากินจนจุก ระวังอย่าทานอาหารสุกๆดิบๆหรือของแสลง เพราะเกิดท้องเสียขึ้นมา มัววิ่งเข้าออกห้องน้ำ นอกจากจะหมดสนุกยังอาจพลาดโอกาสสำคัญบนเวทีด้วย
  • อย่าดื่มน้ำเยอะจนเกินไป เพราะเมื่ออยู่ในงานจะออกไปเข้าห้องน้ำไม่สะดวก ใครรู้ตัวว่าเข้าห้องน้ำบ่อย ใส่แพมเพิสผู้ใหญ่ไปอุ่นใจสุด

กดบัตรคอนเสิร์ตได้ทั้งทีต้องสนุกให้สุดเหวี่ยง ไม่อยากพลาดทุกความมันส์ ต้องเตรียมตัวไปคอนเสิร์ตให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการศึกษาข้อมูลสถานที่และการเดินทาง  จองที่พักที่สามารถเดินทางไปได้สะดวก เตรียมเสื้อผ้าให้เข้ากับงาน และจัดเตรียมสิ่งของจำเป็นใส่กระเป๋าให้เรียบร้อย สำหรับใครที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ไหนๆ ก็มาดูคอนเสิร์ตแล้ว ก็อาจใช้โอกาสนี้ท่องเที่ยวพักผ่อนไปด้วยเลย เตรียมกระเป๋ามาแบบจัดเต็มขนาดนี้แต่ยังไม่สะดวกเข้าที่พัก จะหิ้วไปงานคอนเสิร์ตด้วยก็อาจจะไม่คล่องตัวเท่าไหร่นัก แถมยังอาจเกะกะเพื่อนคนอื่นจนอาจโดนต่อว่าได้ 

โดยปัญหานี้จะหมดไปหากใช้บริการรับ-ส่งสัมภาระของAIRPORTELs ถึงสนามบิน ออกเที่ยวได้ทันที ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ เพราะ AIRPORTELs มีบริการส่งกระเป๋าจนถึงที่พัก สามารถใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง การใช้งานก็แสนจะง่ายดายโดยจองผ่านระบบออนไลน์หรือติดต่อหน้าเค้าเตอร์ที่อยู่ถึง 5 สาขาทั่วกรุงเทพ ทั้งในสนามบินและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ มีการรับประกันกระเป๋า สามารถตรวจสอบสถานะของกระเป๋าทางออนไลน์และมีการแจ้งเตือนสถานะผ่านทางอีเมล์อีกด้วย เมื่อไม่มีสัมภาระมากวนใจ ก็เดินตัวปลิวไปช้อปปิ้ง ไปเที่ยว หรือไปดูคอนเสิร์ตด้วยความเพลิดเพลิน พร้อมรอรับกระเป๋าที่บ้านได้เลย

แนะนำ 17 สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินในกรุงเทพฯ อัปเดตปี 2023

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินมีที่ไหนบ้าง? หลายๆ คนคงมองหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินเพื่อความสะดวกในการต่อเครื่อง หรืออยากหาที่ผ่อนคลายความเมื่อยหลังจากนั่งเครื่องเป็นระยะเวลานาน ในประเทศไทยมีสนามบินหลักๆ ทั้งหมด 2 สนามบินด้วยกัน คือ สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ซึ่งในบทความนี้ทาง AIRPORTELs ได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ และสถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินดอนเมืองให้ทุกคนได้เลือกแวะพักผ่อนกันได้ตามความชอบ ว่าแต่จะมีที่ไหนบ้าง ไปดูพร้อมกันเลย

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ

สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ใกล้กับจังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยสนามบินแห่งนี้ถือเป็นสนามบินหลักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีเครื่องบินของสายการบินต่างๆ มากมายจากทั่วโลก และยังมีอาคารผู้โดยสารเดี่ยวขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกอีกด้วย ทำให้พื้นที่โดยรอบสนามบินกลายเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่รวมสถานที่ท่องเที่ยว สถานที่ช็อปปิง ให้ทุกๆ คนได้เพลิดเพลินตามไลฟ์สไตล์ของตนเอง ทั้งคาเฟ่ ห้างสรรพสินค้า สวนสนุก จนถึงสวนสาธารณะ 

1. 82 Concept

สายคาเฟ่ห้ามพลาด! กับสถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินสุวรรณภูมิแห่งนี้อย่าง ‘82 Concept’ คาเฟ่สายมินิมอล ที่ให้คุณได้ถ่ายรูปสวยๆ มองเห็นเครื่องบินขับผ่านไป พร้อมลองชิมขนม และอาหารไทยไปพร้อมๆ กัน เรียกได้ว่ามีทั้งของคาว ของหวาน และเครื่องดื่มครบจบในที่เดียว

  • ที่อยู่ : เลขที่ 30 หมู่ 6 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
  • พิกัด : 82 Concept Cafe & Eatery
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 08.30 – 22.00 น.
  • Facebook : 82 Concept

2. เซ็นทรัล วิลเลจ

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินสุวรรณภูมิที่ถือว่าเป็นจุดช็อปปิงแห่งใหม่ที่พลาดไม่ได้เลย คือ ‘เซ็นทรัล วิลเลจ’ ที่เป็น First Luxury Outlet เอาท์เล็ตชั้นนำแห่งแรกของไทยที่รวบรวมแบรนด์เนมไว้มากกว่า 300 แบรนด์ ให้คุณได้เลือกช็อปปิงตามอัธยาศัย พร้อมรวมร้านอาหารชื่อดังไว้ที่นี่เรียบร้อยแล้ว 

  • ที่อยู่ : เลขที่ 98/1 ถนน สุวรรณภูมิ 3 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 
  • พิกัด : Central Village
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 10.00 – 22.00 น.
  • Facebook : Central Village 

3.ตลาดเก่าหัวตะเข้

เปลี่ยนบรรยากาศตัวเมือง มาเป็นบรรยากาศสบายๆ พร้อมชมความสวยงามของริมคลองเก่าแก่ และเดินช็อปปิงกับของดีราคาถูกกันที่ ‘ตลาดเก่าหัวตะเข้’ ตลาดแห่งนี้คงวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมเอาไว้ ให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศสุดคลาสสิคที่น่าค้นหา พร้อมถ่ายรูปสตรีตอาร์ตสวยๆ ตามกำแพงได้ตามความต้องการ

  • ที่อยู่ : ซอย ลาดกระบัง 17 แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง จังหวัดกรุงเทพมหานคร 
  • พิกัด : ตลาดเก่าหัวตะเข้
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวัน เวลา 06.00 – 17.00 น.
  • เว็บไซต์ : –

4 ศูนย์เรียนรู้ป่าในกรุง

ห่างออกไปจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียงเล็กน้อย ก็สามารถศึกษาธรรมชาติกับ ‘ศูนย์การเรียนรู้ป่าในกรุง’ ได้ สถานที่ที่พร้อมให้ทุกคนได้เรียนรู้พันธุ์ไม้นานาชนิด พร้อมกับศึกษาวิธีการดูแลรักษาระบบนิเวศ ทุกคนจะได้ดื่มด่ำกับธรรมชาติ เรียนรู้และเห็นสำคัญของการมีที่ดินผืนป่า ตลอดจนศึกษาวิธีการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ให้คงสืบไป

5. สถานตากอากาศบางปู

ใครที่อยากชมธรรมชาติ วิวทะเลสวยๆ ชมฝูงนกนางนวล ให้อาหารนก ถ่ายรูปวิวธรรมชาติติดทะเล พร้อมแวะทานอาหารทะเลแสนอร่อย ต้องมาที่ ‘สถานตากอากาศบางปู’ จังหวัดสมุทรปราการ 

6. สนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต

สายรักสุขภาพต้องมาที่นี่เลย ‘สนามปั่นจักรยานเจริญสุขมงคลจิต’ ซึ่งสนามปั่นจักรยานแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเกิดจากความร่วมมือระหว่างบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กับธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) มีจุดมุ่งหมายให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

7. สยาม พรีเมียม เอาท์เล็ต

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินสนามบินสุวรรณภูมิที่ขาช็อปห้ามพลาดกับ ‘สยาม พรีเมียม เอาท์เล็ต’ ที่รวมแบรนด์ชั้นนำให้ได้เดินช็อปปิงตามความต้องการ ซึ่งเอาท์เล็ตแห่งนี้ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิเพียง 15 นาที ให้คุณได้เลือกซื้อสินค้าทั้งนาฬิกา เสื้อผ้า กระเป๋า หรือมาแวะทานอาหาร พร้อมซื้อของฝากก่อนเดินทางกลับไปที่สนามบิน

  • ที่อยู่ : เลขที่ 989 ตำบลบางเสาธง อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ
  • พิกัด : Siam Premium Outlets Bangkok
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10.00-22.00 น.
  • เว็บไซต์ : www.siampremiumoutlets.com

8. สวนหลวง ร.9

‘สวนหลวง ร.9’ เป็นสวนพฤกศาสตร์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย โดยสวนสาธารณะแห่งนี้มีพื้นที่มากกว่า 500 ไร่ เป็นแหล่งรวบรวมพันธุ์ไม้หลากหลาย อีกทั้งเป็นสถานที่สำหรับออกกำลังกายของประชาชนทั่วไปอีกด้วย

  • ที่อยู่ : ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร. 9 เเขวงหนองบอน เขตประเวศ จังหวัดกรุงเทพมหานคร 
  • พิกัด : สวนหลวงร.9
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 05.00-19.00 น.
  • เว็บไซต์ : www.suanluangrama9.or.th

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินดอนเมือง

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินดอนเมืองมีที่ไหนบ้าง? สนามบินดอนเมืองตั้งอยู่บนถนนวิภาวดี จังหวัดกรุงเทพมหานคร โดยสนามบินดอนเมืองแห่งนี้ถือเป็นสนามบินนานาชาติลำดับที่ 2 ของไทย รองจากสนามบินสุวรรณภูมิ มีเครื่องบินของสายการบินต่างๆ มากมายหลายร้อยลำ รวมอยู่ในพื้นที่แห่งนี้ ทำให้พื้นที่รอบๆ ถนนวิภาวดีมีความเจริญรุ่งเรื่องทางด้านเศรษฐกิจ และการคมนาคม ซึ่งสถานที่เที่ยวใกล้สนามบินดอนเมืองที่แนะนำ มีดังนี้ 

1. Sero Specialty Coffee

คาเฟ่ย่านดอนเมือง-สรงประภา ที่สายคาเฟ่ต้องมาลองกับ ‘Sero Specialty Coffee’ คาเฟ่ที่ตกแต่งแบบคุมโทนขาว-ดำ-เทา-ครีม ผสมผสานกันอย่างลงตัว คาเฟ่แนวมินิมอลแห่งนี้มีจุดถ่ายรูปสวยๆ พร้อมที่นั่งทรงเก๋ๆ ให้ทุกคนได้ถ่ายรูป และใช้เวลาผ่อนคลายไปกับเครื่องดื่มรสชาติกลมกล่อมของคาเฟ่แห่งนี้

  • ที่อยู่ : เลขที่ 310-341 ซ. สรงประภา 14 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง จังหวัดกรุงเทพมหานคร
  • พิกัด : Sero Specialty Coffee
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันพฤหัสบดี-อังคาร เวลา 09.00-17.00น. (หยุดทุกวันพุธ)
  • Facebook :  Sero Specialty Coffee

2. กระท่อมลุงจรณ์

สำหรับใครที่ชอบต้นไม้ โดยเฉพาะต้นกระบองเพชร ต้องอย่าลืมแวะมาที่ ‘กระท่อมลุงจรณ์’ ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวใกล้สนามบินดอนเมือง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินประมาณ 30 นาที กระท่อมลุงจรณ์เป็นสวนกระบองเพชรขนาดใหญ่ที่มีกระบองเพชรหลายสายพันธุ์ หลายขนาดให้เลือกซื้อกลับไปตามความสะดวก โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักสิบ หลักร้อย จนถึงหลักหมื่น

  • ที่อยู่ : เลขที่ 81/6 หมู่ 2 วัดสิงห์ ตำบลสามโคก อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี 
  • พิกัด : กระท่อมลุงจรณ์ Uncle Chorn’s Cabin
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 09.00-17.00น. (หยุดทุกวันพุธ) 
  • เว็บไซต์ : www.uncle-chorn.com

3. ช่างชุ่ย 

‘ช่างชุ่ย’ เป็นแหล่งรวมงานศิลปะและความเก๋ ความเท่ เหมาะกับสายกิน เที่ยว และช็อปปิงเป็นอย่างดี สำหรับสายถ่ายรูปแนะนำให้แวะไปช่างชุ่ยในช่วงเช้า-บ่าย ส่วนสายที่ชอบเดินเล่น ช็อปปิงนั้น ขอแนะนำให้แวะมาช่างชุ่ยในช่วงเย็น เพราะในช่วงตอนเย็นพ่อค้าแม่ค้าจะเริ่มนำสินค้ามาขายในราคาพิเศษ ให้คุณได้เดินซื้อของตามอัธยาศัย พร้อมบรรยากาศเมืองไทยสมัยก่อน

  • ที่อยู่ : เลขที่ 460/8 ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด จังหวัดกรุงเทพมหานคร 
  • พิกัด : Chang Chui
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00น. 
  • เว็บไซต์ : www.changchuibangkok.com
  • Facebook : ช่างชุ่ย ChangChui

4. ดรีมเวิลด์

แวะเที่ยวเล่นกับสวนสนุกชื่อดังของไทยอย่าง ‘ดรีมเวิลด์’ สวนสนุกที่จะพาทุกคนไปย้อนเวลาสู่วัยเด็กที่แสนสนุก ให้คุณได้เพลิดเพลินกับเครื่องเล่นที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นหนูลมกรด เฮอริเคน สกายโคสเตอร์ ฯลฯ พร้อมแวะถ่ายรูปในโซนโฟโตเปีย ซึ่งเป็นจุดถ่ายรูปแนวแฟนตาซีที่มีทั้งบ้านฮอบบิท ปราสาทอัศวิน และสัตว์ในโลกแห่งเทพนิยายอีกมากมาย

  • ที่อยู่ : เลขที่ 62 หมู่ที่ 1 ถนน รังสิต – องครักษ์ ตำบลบึงยี่โถ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี
  • พิกัด : ดรีมเวิลด์
  • เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 10.00-17.00น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น.
  • เว็บไซต์ : www.dreamworld.co.th

5. ตลาดนัดจตุจักร

‘ตลาดนัดจตุจักร’ เป็นสถานที่เที่ยวใกล้สนามบินดอนเมืองยอดนิยมที่ใครๆ ก็ห้ามพลาด ตลาดนัดจตุจักรถือเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ของกรุงเทพเลยก็ว่าได้ เพราะมีพื้นที่มากกว่า 80 ไร่ มีจำนวนร้านค้ามากกว่า 8,000 ร้านค้าด้วยกัน ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของสินค้าหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ของกิน สัตว์เลี้ยง เฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เรียกได้ว่ามาที่ตลาดนัดจตุจักรก็สามารถซื้อของได้แบบครบครัน 

  • ที่อยู่ : เลขที่ 587, 10 ถ. กำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร จังหวัดกรุงเทพมหานคร
  • พิกัด : ตลาดนัดจตุจักร
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 07.00-18.00 น. วันศุกร์ เวลา 18.00-24.00น. และวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 09.00-18.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์-อังคาร)
  • เว็บไซต์ : www.chatuchakmarket.org

6. ตลาดน้ำตลิ่งชัน

จะหาขนม ของกิน ของฝาก หรือเครื่องดื่มก็มาที่นี่ที่เดียวได้เลย ‘ตลาดน้ำตลิ่งชัน’ เป็นศูนย์รวมของดีของถูก ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ผักสด ของคาว ของหวานก็สามารถหาซื้อได้ทั้งหมด โดยตลาดน้ำแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องของกิน ทั้งก๋วยเตี๋ยว ข้าว จนถึงขนมไทยก็มีให้เดินเลือกซื้อกัน

7. พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ

ใครที่ชอบท่องเที่ยว ชอบเดินทาง ตื่นเต้นกับเครื่องบินต้องมาแวะที่นี่ ‘พิพิธภัณฑ์กองทัพอากาศและการบินแห่งชาติ’ ได้รวมเครื่องบินมากกว่า 90 ลำ ให้ทุกคนได้มาสัมผัสกับเครื่องบินของจริง พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของกิจการการบินในประเทศไทยตั้งแต่เริ่มต้น จนถึงปัจจุบัน

8. พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA)

แวะมาชมผลงานศิลปะของไทย กับ ‘พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย (MOCA)’ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินดอนเมือง ที่รวบรวมผลงานศิลปะหลายแบบทั้งภาพวาด ประติมากรรม จิตรกรรมต่างๆ ที่สื่อถึงความละเอียดประณีตของศิลปวัฒนธรรมไทยได้อย่างชัดเจน

  • ที่อยู่ : ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร จังหวัดกรุงเทพมหานคร 
  • พิกัด : พิพิธภัณฑ์ศิลปะไทยร่วมสมัย
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00น. (หยุดทุกวันจันทร์)
  • เว็บไซต์ : www.mocabangkok.com

9. สวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ)

อยากแวะพักผ่อนหย่อนใจท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวต้องมาที่ ‘สวนวชิรเบญจทัศ’ หรือ ‘สวนรถไฟ’ เป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่ด้วยพื้นที่กว่า 370 ไร่ มีกิจกรรมหลากหลายทั้งปั่นจักรยาน เดิน วิ่ง เต้นแอโรบิค หรืออยากมานั่งปิกนิกชมวิวทิวทัศน์ก็สามารถแวะมาที่นี่ได้เลย

สรุป

สนามบินระดับนานาชาติของประเทศไทยในปัจจุบันมีทั้งหมด 2 สนามบินด้วยกัน ได้แก่ สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมือง ซึ่งบริเวณรอบๆ สนามบินเหล่านี้ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยว จนถึงแหล่งช็อปปิงให้นักท่องเที่ยวหรือนักเดินทางได้เลือกใช้บริการตามความต้องการ และสำหรับใครที่จะต้องบินต่อ หรือมาถึงสนามบินแล้วอยากแวะเที่ยวรอบๆ สนามบินก่อน สามารถฝากสัมภาระกับทาง AIRPORTELs ได้ตามจุดบริการของแต่ละสนามบิน แล้วออกไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวใกล้สนามบินที่ได้รวบรวมไว้ให้ได้เลย

รวม 11 เว็บจองตั๋วเครื่องบิน และโรงแรมราคาถูก อัปเดตล่าสุดปี 2023 

เคยเป็นไหม? เลื่อนดูโซเชียลมีเดียเมื่อไหร่ ก็เจอแต่เพื่อนๆ ชีวิตดี ได้ออกเดินทางท่องเที่ยวจนน่าอิจฉา เห็นแล้วก็อยากจะเก็บกระเป๋าเดินทาง แล้วออกไปเผชิญโลกกว้างแบบคนอื่นๆ แต่เงินในบัญชีก็ยังไม่อำนวย วันนี้ Airportels จึงได้ทำการรวบรวม 11 เว็บจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก และ เว็บจองโรงแรมราคาถูก มาเอาใจนักเดินทางสายประหยัด ให้สายเที่ยวได้จองทั้งตั๋วเครื่องบินและโรงแรมในราคาแบบสบายกระเป๋า พร้อมโปรโมชันสุดปังที่จะทำให้รู้ว่าของถูกและดีมีอยู่จริง ข้อมูลอัปเดตล่าสุดในปี 2023 ที่สายเที่ยวไม่ควรพลาด จะมีเว็บอะไรบ้างตามไปดูกันเลย

1. Agoda

เว็บไซต์ OTA (Online Traveling Agency) รุ่นเก๋าที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2005 และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะในฝั่งเอเชีย หากถามถึงเว็บจองตั๋วเครื่องบินและที่พักราคาถูกแล้วละก็ Agoda จะเป็นหนึ่งในชื่อที่ผู้คนมักจะต้องนึกถึงอย่างแน่นอน เพราะเป็นเว็บที่ช่วยค้นหาได้ทั้งที่พักและโรงแรมราคาถูกในเวลาเดียวกัน และยังครอบคลุมทั่วโลก สามารถใช้ค้นหาเที่ยวบินและที่พักทั้งภายในและนอกประเทศได้อย่างง่ายดายในราคาที่เหมาะสม 

นอกจากนี้การใช้งานเว็บไซต์ก็ตรงไปตรงมา มีตัวกรองที่ไม่ซับซ้อนแต่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังมีแอปพลิเคชันมือถือสำหรับทั้ง iOS และ Android อีกด้วย จึงไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจที่ Agoda ยังคงครองใจนักท่องเที่ยวสายประหยัดหลายๆ คน ในฐานะ เว็บจองโรงแรมและตั๋วเครื่องบินราคาถูก อันดับต้นๆ ของเอเชีย

ข้อดี

  • เว็บไซต์ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน มีตัวกรองที่มีประสิทธิภาพ
  • สะดวกสบาย สามารถจองที่พักและไฟล์ทได้ในเวลาเดียวกัน
  • มีห้องพักที่หลากหลาย ครอบคลุมหลายประเทศทั่วโลก
  • สามารถเลือกได้ว่าจะชำระเงินทันที หรือจ่ายทีหลัง

ข้อเสีย

  • มีการแบ่งที่พักออกเป็นหลายระดับ ซึ่งเงื่อนไขในการยกเลิกการจองในแต่ละระดับก็แตกต่างกันออกไป อาจทำให้เกิดการสับสน และทำให้ต้องเสียเงินเพิ่มเพื่อทำการยกเลิกในบางกรณี
  • หากทำการค้นหาที่พักในช่วงที่มีผู้ใช้งานเยอะ อาจทำให้ราคาพุ่งสูงได้
  • มีการคิดภาษีและค่าบริการซึ่งอาจทำให้ราคาแพงกว่าปกติ

2. Airasia.com

สายการบินโลว์คอสต์เชื้อสายมาเลเซีย ที่ครองใจเหล่านักเดินทางสายประหยัดมาเป็นเวลาช้านาน หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้ว่า เว็บไซต์ของ Airasia นั้น นอกจากบริการในการจองตั๋วเครื่องบินแล้ว ยังมีบริการจองโรงแรมราคาถูก และจองรถเช่าอีกด้วย โดยเป็นการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในช่วง ตุลาคมของปี พ.ศ. 2565 ซึ่งได้มีการปล่อย แอปพลิเคชัน airasia Super App ออกมา โดยมีเป้าหมายในการผลักดันให้ Airasia กลายเป็น เว็บ OTA อันดับหนึ่งในเขตอาเซียน ในเรื่องของการจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรม  

ข้อดี

  • มีโปรโมชันราคาพิเศษออกมาเรื่อยๆ ทำให้สามารถจองตั๋วเครื่องบินได้ในราคาที่คุ้มค่า
  • เว็บไซต์มีความเรียบง่าย ใช้งานได้ง่ายไม่ยุ่งยาก
  • มีแอปพลิเคชัน จึงสามารถทำการค้นหาและจองตั๋วได้เพียงแค่มีสมาร์ทโฟน

ข้อเสีย 

  • อาจไม่ได้ตั๋วที่ราคาถูกเสมอไปหากไม่ได้จองในช่วงโปรโมชัน
  • เว็บล่มหรือมีปัญหาบ่อยในช่วงปล่อยโปรโมชัน เนื่องจากมีผู้ที่ต้องการเป็นจำนวนมาก
  • หากจองเที่ยวบินอื่นๆ ผ่านเว็บของ Airasia เมื่อเกิดปัญหา อาจทำให้เกิดความสับสน และความยุ่งยากในการแก้ไขปัญหา หรือหาผู้รับผิดชอบ

3. Airpaz

เว็บ OTA สัญชาติอินโดนีเซีย ซึ่งเริ่มก่อตั้งตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา Airpaz เป็นเว็บจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมราคาถูก ที่มีรูปแบบการใช้งานที่ตรงไปตรงมา โดยสามารถเลือกจองได้ทั้งตั๋วเครื่องบินและที่พัก โดยระบบจะทำการค้นหาไฟล์ทหรือที่พัก และเรียงลำดับจากราคาน้อยไปราคาที่สูงที่สุด นอกจากนี้ยังมีแท็บโปรโมชันที่รวบรวมส่วนลดเด็ดๆ จากบัตรเครดิตต่างๆ เรียกได้ว่าแจกส่วนลดกันแบบชัดๆ เน้นๆ ไม่มีกั๊กอย่างแน่นอน 

ข้อดี

  • เว็บใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ได้ต้องการใช้ตัวกรองขั้นสูงเหมือนเว็บอื่นๆ
  • นอกจากการชำระเงินจากบัตรเครดิต แอปธนาคาร เคาน์เตอร์เซอร์วิส และการโอนเงินแล้ว ยังมีช่องทางการชำระเงินอื่นๆ เช่น ผ่าน Alipay Cenpay บุญเติม หรือ rabbit Line Pay อีกด้วย 

ข้อเสีย

  • ช่องทางการติดต่อหลักต้องทำผ่านอีเมล ทำให้การติดต่อประสานงานเป็นไปอย่างยากลำบาก
  • ต้องทำการจองไฟล์ทและที่พักแยกกัน ไม่มีบริการจองแบบ Bundle เหมือน OTA เจ้าอื่น
  • ไม่มีบริการจองรถเช่า

4. Cheap Flights

Cheapflights คือ เว็บไซต์ค้นหาเที่ยวบินและที่พัก ที่ในปี 2023 นี้จะมีอายุครบ 27 ปีพอดี โดยในปัจจุบัน ได้ถูกซื้อหุ้นและกลายเป็นบริษัทลูกของกลุ่ม Booking Holdings เป็นที่เรียบร้อย ทำให้เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ตัวกลางในการหาตั๋วเครื่องบิน หรือเว็บจองโรงแรมราคาถูกที่สามารถไว้วางใจได้ ตัวเว็บไซต์มีความเรียบง่าย ดูสะอาดตา ไม่มีแถบโฆษณาหรือหน้าต่างป๊อปอัพขึ้นมารบกวน ทำให้มีเวลาโหลดไทม์ที่ค่อนข้างไว สามารถใช้เปรียบเทียบราคาของตั๋วเครื่องบินและที่พักได้เหมือนกับเว็บ Meta Search Engine อื่นๆ และยังมีแอปพลิเคชันทั้งบน iOS และ Android ทำให้การค้นหาที่พักและตั๋วเดินทางราคาถูกกลายเป็นเรื่องง่าย  

ข้อดี

  • เว็บไซต์มีความเรียบง่าย ไม่มีหน้าต่าง Pop-up หรือ โฆษณามารบกวน
  • มีเวลาโหลดไทม์ที่ค่อนข้างไว
  • ตัว Interface ของเว็บเหมาะกับการใช้งานบนแอปพลิเคชันมือถือ 

ข้อเสีย

  • ไม่มีสาขาในประเทศไทย การติดต่อต้องทำผ่านอีเมล ซึ่งอาจทำให้เกิดความล่าช้าหรือผิดพลาดในการสื่อสาร
  • ไม่มีบริการ Bundle Pack ที่จองทั้งที่พักและเที่ยวบินพร้อมกัน
  • ต้องทำการกดลิงก์เพื่อจองที่พักหรือเที่ยวบินเอง ไม่ได้เป็น OTA ที่สามารถจองผ่านเว็บได้

5. Expedia

Expedia คือ เว็บเอเจนซี่ท่องเที่ยวที่ให้บริการ Meta Search Engine มาตั้งแต่ปี 2001 เว็บไซต์ชื่อดังจาก อเมริกานี้ยังคงเป็นเว็บจองตั๋วเครื่องบินและโรงแรมราคาถูก ที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเดินทางทั่วโลก โดยให้บริการที่ครอบคลุมทั้งการจองตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และบริการเช่ารถ นอกจากนี้ยังมีแท็บ Things to do ซึ่งเป็นการรวบรวมทริปทัวร์หรือกิจกรรมที่สามารถเข้าร่วมได้ในช่วงที่ต้องการเดินทาง เรียกได้ว่าเป็น one-stop-service ที่จะทำให้การวางแผนในการเดินทางกลายเป็นเรื่องง่ายและน่าสนุกไปพร้อมๆ กัน

ข้อดี

  • เว็บไซต์มีความเรียบง่าย ใช้งานสะดวก มีปุ่มเมนูที่ดูสะอาดตา
  • สามารถกดเลือกจองตั๋วเครื่องบินและที่พักแบบแพ็คเกจ ทำให้ประสบการณ์การจองตั๋วและโรงแรมมีความสะดวกและราบรื่นขึ้น
  • มีการแจกโค้ดส่วนลด ผ่าน Expedia คูปอง ออกมาเรื่อยๆ ทำให้ประหยัดงบประมาณได้มากขึ้น
  • มีช่องทางการติดต่อทางโทรศัพท์ภายในประเทศ 

ข้อเสีย

  • ในช่วงที่โรงแรมมีโปรโมชันพิเศษ การจองผ่านโรงแรมโดยตรง อาจได้ราคาที่ถูกกว่าการจองผ่าน Expedia
  • การขอยกเลิกและขอเงินคืนเป็นเรื่องที่ยากลำบาก โดยเฉพาะในส่วนของโรงแรมและที่พัก ซึ่งมักจะมีนโยบายในการคืนเงินที่แตกต่างกันออกไป ในกรณีที่แย่ที่สุดก็คือมีโอกาสที่จะไม่ได้รับเงินคืน

6. Google Flight

Google Flight คือบริการย่อยในเครือของ Google ซึ่งเปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2011 โดยเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการค้นหาเที่ยวบินราคาถูก และในปัจจุบันยังครอบคลุมไปถึงการค้นหาที่พักและโรงแรมอีกด้วย ซึ่งแตกต่างจากบางเว็บจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกทั่วๆ ไป Google Flight นั้นไม่ได้มีบริการในการจองตั๋วหรือที่พักผ่านตัวเว็บโดยตรง แต่เป็นเพียงเครื่องมือที่ใช้ในการเปรียบเทียบราคา ในวันเวลา และตำแหน่งที่ต้องการเท่านั้น 

ข้อดีก็คือตัวเว็บไซต์จะมีการระบุค่าเฉลี่ยราคาเที่ยวบินในแต่ละวัน ทำให้สามารถวางแผนและจองการเดินทางในวันที่ราคาตั๋วไม่สูงมาก ถือเป็นเครื่องมือคู่ใจนักเดินทาง ที่จะช่วยให้สามารถประหยัดงบประมาณ และประหยัดเวลาในการค้นหาตั๋วและที่พักได้เป็นอย่างดี  

ข้อดี

  • มีกราฟและราคาเฉลี่ยของราคาตั๋วในแต่ละวัน ทำให้สามารถหาช่วงเวลาที่ตั๋วถูกที่สุดได้
  • เว็บไซต์ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • เป็นการจองกับสายการบิน หรือที่พักโดยตรง หากเกิดปัญหาขึ้นก็สามารถติดต่อกับสายการบินหรือที่พักได้โดยตรง โดยไม่ต้องผ่านตัวกลาง

ข้อเสีย

  • ราคาอาจไม่ได้ถูกที่สุดเสมอไป หากเทียบกับการจองตั๋วโปรโมชันผ่านสายการบินโดยตรง
  • ไม่สามารถจองตั๋วผ่านเว็บไซต์ได้ ผู้โดยสารต้องทำการจองตั๋วผ่านสายการบินเอง ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ต้องการจบทุกกระบวนการในเว็บเดียว

7. Kayak

หนึ่งในบริษัทลูกในเครือ Booking Holdings เช่นเดียวกับ Booking.com และ Cheapflights โดย Kayak นั้น ให้บริการในการค้นหาและเปรียบเทียบราคาของสายการบินและที่พักเช่นเดียวกับ Meta Search Engine อื่นๆ แต่ความพิเศษอยู่ที่ความสามารถในการค้นหาไฟล์ทราคาถูกของต่างสายการบิน และนำมาจัดไฟล์ทขาไปและกลับในราคาที่ถูกที่สุด 

ข้อดี

  • สามารถเลือกการเดินทาง ขาไปและกลับโดยใช้คนละสายการบิน
  • มีตัวเลือก และตัวคัดกรองผลการค้นหาให้เลือกใช้มากมาย

ข้อเสีย

  • ไม่ใช่สามารถจองผ่านเว็บไซต์ได้โดยตรง เว็บจะทำการลิงก์ไปยังเพจของสายการบิน OTA หรือโรงแรม และผู้ใช้งานต้องทำการจองด้วยตัวเอง
  • อาจไม่ได้ไฟล์ทที่ถูกที่สุดเสมอไป เพราะมีการแอบแฝงแท็บโฆษณาปะปนมากับผลลัพธ์การค้นหาทั่วไป

8. Skyscanner

เว็บจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกสัญชาติสกอตแลนด์ ที่เริ่มก่อตั้งมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 โดยครอบคลุมการค้นหาไปถึงโรงแรมที่พัก และบริการเช่ารถอีกด้วย เว็บไซต์ Skyscanner นั้นมีตัวแอปพลิเคชันมือถือที่รองรับทั้งระบบ iOS และ Android ทำให้การค้นหาเที่ยวบินกลายเป็นเรื่องง่าย สามารถเลือกเส้นทางบินต่างสายการบินในทริปเดียวได้ ทำให้ได้ตั๋วในราคาที่ต้องการ นอกจากนี้ยังมีระบบ Price Alert เพื่อแจ้งเตือนหากมีตั๋วราคาพิเศษหลุดมาในวันที่ต้องการเดินทาง ถือเป็นแอปพลิเคชันมือถือที่นักเดินทางทุกคนควรมี 

ข้อดี

  • มีตัวเลือกคัดกรองเยอะ สามารถปรับแต่งการค้นหาให้เหมาะสมตามความต้องการ
  • เว็บไซต์ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน

ข้อเสีย

  • ไม่มีบริการจองตั๋วหรือที่พักผ่านเว็บ เป็นเพียงเว็บค้นหาเท่านั้น
  • มีโฆษณาและ Pop-up Window แทรกอยู่ระหว่างผลลัพธ์การค้นหา อาจทำให้เกิดความสับสน

9. Traveloka

Traveloka คือ OTA ยักษ์ใหญ่จากประเทศอินโดนีเซียที่เชื่อว่านักเดินทางทุกคนจะต้องรู้จักเป็นอย่างดี โดยเฉพาะในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฟังก์ชันของเว็บ Traveloka นั้นมีความคล้ายคลึงกับ Expedia เป็นอย่างมาก โดยสามารถใช้แพลตฟอร์มในการค้นหาตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และรถเช่า และทำการจองผ่านเว็บไซต์ได้เลย เรียกได้ว่าสามารถทำทุกอย่างได้ครบจบในที่เดียว นอกจากนี้ ยังมีการแจกโค้ดโปรโมชันผ่านแท็ป Hot Fare ซึ่งจะเป็นการรวบรวมตั๋วราคาพิเศษจากเคมเปญต่างๆ ทำให้สามารถประหยัดงบเดินทางเอาไว้ ช็อป ชิม ชิวได้แบบจุใจ 

ข้อดี

  • เป็น one-stop-service สามารถวางแผนการเดินทาง และทำการจองทุกอย่างภายในที่เดียว
  • เว็บไซต์ดูเรียบง่าย สบายตา
  • มีการแจกโค้ดส่วนลดอยู่เสมอ ซึ่งช่วยประหยัดงบในการเดินทาง
  • มีเบอร์ศูนย์ Call Center ในไทย

ข้อเสีย

  • โหลดไทม์ของเว็บไซต์ค่อนข้างช้า
  • หากเกิดปัญหาขึ้น การติดตามเรื่องจะเป็นไปอย่างยากลำบาก เพราะเป็นการสั่งจองผ่านกับตัวกลาง

10. Tripadvisor

นักเดินทางรุ่นเก๋า โดยเฉพาะในยุค 2000 คงไม่มีใครไม่รู้จัก Tripadvisor เว็บไซต์ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของการรีวิวที่พักและร้านอาหารชื่อดังจากประเทศอเมริกา ซึ่งในปัจจุบันได้กลายมาเป็นเว็บจองตั๋วเครื่องบินราคาถูกและ เว็บจองโรงแรมราคาถูกอันดับต้นๆ ของโลก ที่ช่วยให้นักเดินทางสามารถหาตั๋วเครื่องบินและที่พักในราคาที่เหมาะสม รวมถึงอ่านรีวิวของสถานที่แต่ละแห่งได้ภายในไม่กี่คลิก 

นอกจากนี้ยังสามารถค้นหาร้านอาหาร หรือจองกิจกรรมที่น่าสนใจ ในระหว่างการเดินทางได้อีกด้วย ฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกอย่างของแพลตฟอร์มก็คือ ข้อความเตือนภัยสำหรับที่พักที่เคยเกิดการก่ออาชญากรรมทางเพศ โดยป้ายคำเตือนนี้จะหายไป หากไม่มีเหตุอาชญากรรมอื่นๆ เกิดขึ้นหลังจาก 3 เดือน

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์เตือนภัยเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานเพิ่มความระมัดระวังตัว หรือหลีกเลี่ยงบริเวณที่พักที่เคยเกิดเหตุอาชญากรรม
  • โดดเด่นในเรื่องของรีวิวที่พักและร้านอาหาร ที่สามารถนำไปประกอบการตัดสินใจก่อนจอง
  • มีอ็อปชันการเลือกจองเรือครูซ ซึ่งคู่แข่งไม่มี

ข้อเสีย

  • การติดต่อหลักต้องทำผ่านอีเมล อาจทำให้เกิดความล่าช้า และเกิดความผิดพลาดในการติดต่อสื่อสาร
  • รีวิวอาจจะไม่ได้แม่นยำเสมอไป เพราะฉะนั้นอาจต้องดูปัจจัยอื่นๆ ประกอบด้วย

11. Trip.com

ออนไลน์ทราเวลเอเจนซี่ อันดับต้นๆ จากประเทศสิงค์โปร์ ที่ยังคงได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในหมู่นักท่องเที่ยวสายประหยัด ด้วยความสามารถในการค้นหาเที่ยวบิน ที่พัก รถเช่า และแม้กระทั่งตั๋วรถไฟในบางประเทศ ทำให้ Trip.com เป็นหนึ่งในเว็บจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก และเว็บจองโรงแรมราคาถูกคู่ใจสายเดินทางหลายคน มาพร้อมกับแอปพลิเคชันมือถือที่ทำให้การค้นหาและจองตั๋วและที่พักกลายเป็นเรื่องง่าย และยังมีการแจกดีลเด่นประจำวัน ซึ่งเป็นการให้ส่วนลดเพิ่มเติม หรือเป็นการเพิ่มของแถมให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย 

ข้อดี

  • เว็บไซต์ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • มีบริการให้เลือกหลากหลาย นอกจาก ไฟล์ท โรงแรม และรถ ก็ยังสามารถจองตั๋วรถไฟในบางพื้นที่ได้อีกด้วย
  • มีการแจกโปรโมชันส่วนลดอยู่เรื่อยๆ ทำให้สามารถเซฟงบการเดินทางไปได้อีกเยอะ
  • มีช่องทางการติดต่อผ่าน แชท โทรศัพท์ และอีเมล

ข้อเสีย

  • เนื่องจากเป็นองค์กรใหญ่ การเข้าถึงตัวพนักงานเพื่อขอความช่วยเหลืออาจทำได้ยากและอาจเกิดข้อผิดพลาดได้ในหลายๆ จุด
  • อาจต้องใช้เวลานานในการของเงินคืน ในกรณีที่เกิดปัญหาในการจองตั๋วเครื่องบินหรือที่พัก

สรุป

ปี 2023 นี้ มีเว็บจองตั๋วเครื่องบินราคาถูก และเว็บจองโรงแรมราคาถูกให้เลือกมากมาย โดยแต่ละเว็บต่างก็มีข้อดีและข้อด้อยเป็นของตนเอง หวังว่าเว็บไซต์เหล่านี้ จะเป็นตัวช่วยในการเติมเต็มความฝันของเหล่านักเดินทางทุกคน ในการออกไปเที่ยวพักผ่อน หรือใช้เวลากับคนพิเศษ ในราคาที่เป็นมิตรกับกระเป๋า จะได้เก็บเงินเอาไว้ช๊อปกันต่อได้แบบชิวๆ

ที่สำคัญ ได้ตั๋วเดินทางและห้องพักราคาดีแล้ว ก็อย่าลืมใช้บริการของ Airportels บริการขนส่งสัมภาระระหว่างที่พักและสนามบิน ที่สะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง ให้คุณเที่ยวได้แบบสบายตัว สบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ เดินตัวปลิว ชมวิวสุดฟิน และอินไปกับบรรยากาศได้อย่างสบายใจ

13 ที่เที่ยวของคนโสด เดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ลุยเดี่ยวมีข้อดีกว่าที่คิด

หากใครที่เป็นคนโสดแล้วอยากไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจหรือไม่อยากรอเพื่อนว่าง บทความนี้จะมาแนะนำ 13 ที่เที่ยวในไทยสำหรับคนโสดที่อยากไปพักใจ อยากเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว อยากลองทำอะไรใหม่ๆ ลุยเดี่ยวคนเดียวชิลๆ ท้าทายตัวเองว่าเที่ยวคนเดียวสามารถไปเที่ยว และการไปเที่ยวคนเดียวนั้นมีข้อดีมากกว่าที่เราคิด เพราะจะได้ใช้เวลากับตัวเองได้อย่างเต็มที่ สามารถโฟกัสกับสิ่งรอบตัว ซึมซับบรรยากาศได้มากขึ้นและยังมีข้อดีของการเที่ยวคนเดียวอื่นๆ อีกมากมายอยู่ในช่วงท้ายของบทความ

13 ทริปคนโสด ลุยเดี่ยว คนเดียวชิลๆ

13 ทริปคนโสดทั่วประเทศไทย ที่ได้คัดสรรมาแล้ว เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวได้ทั้งหญิงและชาย ปลอดภัยไม่อันตราย ท่องเที่ยว พักผ่อนได้อย่างสบายใจ คลายกังวล กลับจากทริปด้วยใจฟูๆ 

ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

1. ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

สัมผัสเมืองเหนือ อากาศเย็นๆ และผู้คนที่อัธยาศัยดี การเดินทางที่สะดวก อาหารการกินก็ไม่แพง เหมาะแก่การมาเที่ยวคนเดียว บางทีเราอาจจะไม่กล้ากินเยอะเพราะว่าไม่มีคนหารด้วย แต่ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารได้แบบจุใจ และบรรยากาศสดชื่น อยู่กับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และไปคนเดียวก็ไม่เหงา เพราะมีหลายอย่างสนุกๆ ให้ได้ลองทำมากมาย สถานที่ท่องเที่ยวก็เยอะ 

โดยที่ห้ามพลาดเลย เมื่อไปถึงก็คือ ‘ทะเลหมอกหยุนไหล’ เมื่อมาปายแล้ว การชมทะเลหมอกก็นับว่าถ้าไม่ได้มาก็เหมือนมาไม่ถึงก็ว่าได้ เพราะที่ปายคือสถานที่ที่ถูกขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสามหมอก เพราะไม่ว่าจะมาตอนไหนก็จะพบหมอกทุกครั้งที่ได้มาเยือน เมื่อมองออกไปภาพที่เห็นคือทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น และรายล้อมไปด้วยทิวเขาน้อยใหญ่ต่างๆ และยังมีเสน่ห์ของบ้านเรือนเมืองปายที่ถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอกอีกด้วย ที่เมื่อได้มาเที่ยวคนเดียวเหมือนได้สัมผัสความสงบ และดื่มด่ำให้เวลากับตัวเองได้อย่างเต็มที่ 

  • ที่อยู่ : หมู่บ้านสันติชล ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/hQiREWHZGzcxqHvw8
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 5.30-18.00 น. (ค่าเข้าชม 20 บาท)
  • เบอร์โทร : –
เชียงคาน จ.เลย

2. เชียงคาน จ.เลย

เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงที่เต็มไปด้วยการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมโบราณดั้งเดิม ให้ได้ซึมซับบรรยากาศวันวาน เดินเล่นคนเดียวได้ชิวๆ แถมยังมีกิจกรรมให้ทำ เช่น ไปปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำโขง ได้สัมผัสธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้การมาเที่ยวคนเดียวนั้นไม่เหงาอีกมากมาย เช่น ‘สกายวอล์ค เชียงคาน’ หรือ ‘สกายวอล์ค ภูคกงิ้ว’ สูงเทียบเท่ากับตึก 30 ชั้น จุดเด่นคือมีทางเดินที่ทำด้วยกระจก เป็นการปลดล็อคความกล้า เพราะจุดนี้เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น และน่าหวาดเสียว แต่ก็ต้องยอมรับว่าจุดที่วิวสวยงามมากเลยทีเดียว

  • ที่อยู่ : ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/inPvyiqBeMfBwi9V7
  • เปิดให้เข้าชม : ตลอดทั้งวัน
  • เบอร์โทร : –

หรือจะเป็น ‘ถนนคนเดินเชียงคาน’ ที่เหมาะแก่การเดินชิล มีทั้งของกิน ของอาร์ตต่างๆ สินค้าพื้นเมือง สินค้าแฮนด์เมด มีกิจกรรมให้ทำมากมายสำหรับคนมาเที่ยวคนเดียว บ้างก็มีการเพ้นหน้า สัก เป็นต้น ด้วยอากาศเย็นๆ และบรรยากาศดี จนติดใจอยากมาอีกรอบเลยก็ได้

  • ที่อยู่ : ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/R3XgyifiuXidhv5Z9
  • เปิดให้เข้าชม : ตลอดทั้งวัน (ถนนคนเดินเปิดช่วง 17.00-22.00 น.)
  • เบอร์โทร : –
บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ

3. บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ

ไปเติมความสดชื่นกับธรรมชาติแบบเต็มเหนี่ยว รอบล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียว เดินทางง่าย นั่ง BTS ไปได้ จุดเด่นของที่นี่เลยคือ การปั่นจักรยานเที่ยวสัมผัสบรรยากาศรอบด้าน ทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของชุมชน ซึ่งหากมาเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวแล้วเกิดหลงทาง ก็สามารถถามคุณลุงคุณน้าตามชุมชน 

เมื่อมาถึงคุ้งบางกระเจ้าแล้ว พลาดไม่ได้เลยที่จะไป ‘สวนศรีนครเขื่อนขันธ์’ หรือ ‘สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์’ ภายในสวนจะเต็มไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ เย็นสบาย พักผ่อนหย่อนใจจากกายที่เหนื่อยล้าได้อย่างเต็มที่ ถ่ายรูปสวยโพสต์ลงโซเชียล และยังสามารถให้อาหารปลาได้อีกด้วย ซึ่งจะมีจำหน่ายอยู่ด้านหน้าของสวน และจุดไฮไลต์ในสวนคือ ‘หอดูนก’ ที่มีความสูง 7 เมตร มีทั้งหมด 3 ชั้น ซึ่งในแต่ละชั้นยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับนกที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศอีกด้วย 

  • สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติ ศรีนครเขื่อนขันธ์
  • ที่อยู่ : 73 ซ.วัดราษฎร์รังสรรค์ ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7uaBbVzLzJiV947q7?g_st=il
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 05.00 – 19.00 น. ทุกวัน
  • เบอร์โทร : 02 461 0972
สิมิลัน จ.พังงา

4. สิมิลัน จ.พังงา

บรรยากาศทะเลสวยๆ ที่ภาคใต้ น้ำทะเลใสสีฟ้า และเต็มไปด้วยหากทรายขาวละเอียด มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ที่จะมาช่วยทำให้การมาเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวนั้นเต็มไปด้วยเรื่องสนุก ไม่ว่าจะเป็น ดำน้ำดูปะการัง จุดว่ายน้ำ ดำน้ำ มุมถ่ายรูปสวยๆ โพสต์อวดลงโซเซียล จุดไฮไลท์ที่คนชอบมาถ่ายรูปคือ ‘หินเรือใบ’ หรือ ’Sailing Rock’ เป็นหินที่เกิดจากกัดเซาะพังทลายจากน้ำทะเล เลยเกิดเป็นหินรูปร่างแปลกตา ผู้คนจึงชอบมาถ่ายรูปกัน

  • ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เลขที่ 93 หมู่ที่ 5 บ้านทับละมุ ถนนเพชรเกษม ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/32L4izpNCpnf99Ze6
  • เปิดให้เข้าชม : 15 ตุลาคม – 15 พฤษภาคม ของทุกปี
  • เบอร์โทร : 0-7645-3272
ไร่ชาฉุยฟง จ.เชียงราย

5. ไร่ชาฉุยฟง จ.เชียงราย

ไร่ชาสีเขียว เพื่อให้ได้นั่งจิบชาพักผ่อนให้จิตใจสงบ สถานที่ก็สวยงาม ถ่ายรูปกันได้กับวิวสีเขียว และท้องฟ้าสีคราม ท่ามกลางภูเขาน้อยใหญ่ และรอบๆ ยังมีคาเฟ่เล็กๆ ให้นักเดินทางท่องเที่ยว ให้ได้อร่อยไปพร้อมกับเค้ก และจิบชาในบรรยากาศดีดี

ถ้าเราอยากมาเที่ยวคนเดียวเพื่อพักผ่อนจิตใจ การมาที่ไร่ชาจะช่วยทำให้สดชื่น ลดความเหนื่อย คลายความตีงเครียดได้ดี เพราะว่าในไร่ชานั้นล้อมรอบไปด้วยสีเขียว ซึ่งสีเขียวเป็นสีที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ทำให้จิตใจภายในสงบได้ และยังช่วยเรื่องการมองเห็น ทำให้มีสมาธิได้ดี 

  • ที่อยู่ : 97 หมู่ 8 อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/S7JvTSCBPQ5ZPkyc6
  • เปิดให้เข้าชม : 08.30-17.30 น.
  • เบอร์โทร : 0-5377-1563
แพกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี 

6. แพกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี 

สัมผัสธรรมชาติแท้ๆ ให้เราได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ที่แพกาญจนบุรี จะมีอะไรฟินไปกว่าการได้นอนบนแพมองท้องฟ้า แล้วปล่อยใจไหลไปกับสายน้ำ บางทีการมาเที่ยวคนเดียวนั่นก็เพราะอยากสลัดความวุ่นวายต่างๆ การได้มองดูสายน้ำไหลผ่านก็ทำให้เพลิดเพลินจิตใจได้ แลได้ซึมซับบรรยากาศไปอีกด้วย หรือถ้าเริ่มรู้สึกเบื่อ ที่แพกาญจนบุรีก็มีกิจกรรมให้ทำตลอด 

ยกตัวอย่างเช่น ครอส ริเวอร์ แคว (Cross River Kwai) ที่พักที่ตกแต่งให้ดูคล้ายรถไฟที่เชื่อมกับประวัติศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรี มีกิจกรรมที่ห้ามพลาด อย่างเรือคายัคที่มีให้ทุกห้อง ไม่ทำให้คุณต้องเบื่อแน่นอน

  • ที่อยู่ : 138 หมู่ 4 ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/pQhkTnbrzmGb5tRv6
  • เปิดให้เข้าชม : ตลอดเวลา
  • เบอร์โทร : 09-3120-7832
แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา

7. แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา

ถ้าใครที่อยากเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ต้องได้ลองมาที่แปดริ้ว มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย กิจกรรมที่หลากหลาย มาเที่ยวคนเดียวได้แบบมันส์ ไม่เหงา เป็นการได้พักผ่อนจากความเหนื่อยทั้งหลาย ซึ่งมีสถานที่ที่เป็นจุดไฮไลท์มากมายที่เหมาะกับทั้งชายและหญิง เช่น อาจจะเริ่มด้วยการมาทำบุญที่ ‘วัดหลวงพ่อโสธร’ ที่เมืองแปดริ้ว เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล เพื่อให้จิตใจสงบ ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำบางปะกง เป็นทริปการท่องเที่ยวที่ช่วยทำให้อยู่กับความสงบ สลัดความวุ่นวายภายในจิตใจออกได้อย่างเต็มที่

  • วัดหลวงพ่อโสธร
  • ที่อยู่ : ถนนเทพคุณากร ตำบลหน้าเมือง อำเถอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/eaK6JRvySsNTPEc38
  • เปิดให้เข้าชม : วันจันทร์-ศุกร์ เปิด 7.00-16.30 น. เสาร์-อาทิตย์ เปิด 7.00-17.00 น.
  • เบอร์โทร : 038-511-048

หรือหากอยากได้ความชุ่มชื้นสักหน่อย ให้คลายร้อน ก็แวะมาเล่นน้ำที่ ‘น้ำตกบ่อทราย’ อยู่ในกลางป่า เป็นน้ำตกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ บนร่องน้ำขออ่างเก็บน้ำคลองสียัด นอกจากจะได้เล่นน้ำเย็นๆ แล้ว บรรยากาศรอบๆ นั้นก็สวยงาม แสงแดดที่กระทบกับกับสายน้ำที่ไหลผ่าน เป็นการเอาใจที่เหนื่อยมาชะล้างให้ผ่อนคลาย

  • น้ำตกบ่อทราย
  • ที่อยู่ : หมู่ 18 บ้านคลองสียัด ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Se4kYBURMxHTdqFdA?g_st=ic
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 7.00-18.00 น. ทุกวัน
  • เบอร์โทร : 09-6817-9906 , 06-3684-8669
Coro Field สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

8. Coro Field สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

ฟาร์มสไตล์ญี่ปุ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร หากมาเที่ยวคนเดียวไม่น่าเบื่อแน่นอน เพราะมีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำ เช่น ชมผัก ปลูกผัก แถมยังได้กินผักออร์แกนิค ตอบโจทย์สายออร์แกนิคสุดๆ ถ้าไม่อยากทำอะไร ที่นี่มีบริเวณพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม เป็นมุมพักผ่อนชั้นยอด และถ้าหากหิวก็ยังมีโซนร้านอาหาร คาเฟ่ ให้ได้เพลิดเพลินไปกับอาหารออร์แกนิคอีกด้วย บรรยากาศภายในร้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่น

  • ที่อยู่ : ตำบลป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CZ6CK4W69HoJ4xvp7?g_st=ic
  • เปิดให้เข้าชม : วันจันทร์-ศุกร์ เปิด 9.00-18.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เปิด 9.00-21.00 น.
  • เบอร์โทร : 0-92569-4791
เกาะขาม สัตหีบ จ.ชลบุรี

9. เกาะขาม สัตหีบ จ.ชลบุรี

เกาะขามเป็นเกาะยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ เพราะมีน้ำทะเลที่ใสแจ๋ว หาดทรายสีขาว ท้องฟ้าสีคราม ที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อน หรือจะได้รูปสวยๆ กลับมาแน่นอน ด้วยวิวสวยๆ จะทำให้คุณลืมไปเลยว่าอากาศร้อน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทริปมาเที่ยวคนเดียวที่สนุดสุดเหวี่ยงไปกับการดำน้ำดูปะการัง หรือจะพายเรือคายัค

  • ที่อยู่ : สำนักงานกิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/x6mBvksmFXFfme186
  • เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตามรอบเรือ จุดจำหน่ายตั๋ว ท่าเรือเขาหมอจอ
  • เบอร์โทร : 0-3312-4848, 09-3397-1342 (เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ 08.30-11.30 น. และ 13.00-16.30 น.)
อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

10. อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดที่รู้จักกันดีในสมุทรสงคราม มีชื่อเสียงทั้งในเรื่องของอร่อย รวมไปถึงการนั่งเรือล่องแม่น้ำ แถมยังไม่ไกลจากกรุงเทพ เดินทางได้ง่าย มาเที่ยวคนเดียวได้สบาย 

ที่ที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวกันมากที่สุดก็คงไม่พ้น ‘ตลาดน้ำอัมพวา’ เป็นตลาดที่ทรงเสน่ห์เหลือล้น เพราะจะมีพ่อค้า แม่ค้าที่พายเรือขายอาหาร และเครื่องดื่มกันมากมาย มีทั้งขนมไทย ก๋วยเตี๋ยวเรือ ผัดดไทย และอื่นๆ อีกมากมาย บอกเลยว่าถึงแม้ว่าจะมาเที่ยวคนเดียวก็เจริญอาหารสุดๆ แถมบรรยากาศยังเหมือนได้กลับไปอดีต พักผ่อนได้อย่างเต็มที่

  • ที่อยู่ : อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
  • พิกัด : https://g.page/amphawa?share
  • เปิดให้เข้าชม : วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00-21.00 น
  • เบอร์โทร : –

หรือถ้าเป็นสายรักสัตว์ที่อัมพวามี ‘บ้านแมวไทย’ เป็นสถานที่ที่จะรวบรวมแมวพันธุ์ไทยโบราณต่างๆ ไว้ ซึ่งจะมีโซนให้เราได้ไปเล่นกับน้องๆ ได้อย่างใกล้ชิด น้องจะเดินเข้ามาอ้อน กระโดดขึ้นตัก หรือถ้าจะอุ้มก็ได้ เป็นสวรรค์ของทาสแมวจริงๆ ซึ่งหากมาเที่ยวคนเดียวแล้วเหงา ก็สามารถแวะมาที่นี่ น้องแมวจะช่วยเยียวยาจิตใจให้เราได้

  • ที่อยู่ : ตำบลแควอ้อม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/sHdY3dZD12HaBV7P9
  • เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
  • เบอร์โทร : 0-3470-2068
โบราณสถาน จ.อยุธยา

11. โบราณสถาน จ.อยุธยา

เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวัดเก่าแก่ และโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เหมือนได้มาสัมผัสกับอดีตต่างๆ เป็นการมาเที่ยวคนเดียวที่ครบรสชาติ สถานที่ที่ได้สัมผัสธรรมชาติ พร้อมกับประวัติศาสตร์ และได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ ควบคู่ไปกับการพักผ่อนหย่อนใจ

ซึ่งมีวัดที่สำคัญมากมาย โดยจะเริ่มกันที่ ‘วัดใหญ่ชัยมงคล’ นับเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของอยุธยาเลย เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีนักท่องเที่ยวมากันมากมาย หากเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว นอกจากได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังได้ความรู้ และเพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นอีกด้วย

  • ที่อยู่ : 40/3 หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/PdTxx23ZYHJ3g29
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 8.00-17.00 น. 
  • เบอร์โทร : –

และต่อกันด้วย ‘วัดมหาธาตุ’ เป็นอีกวัดที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุ และเป็นศูนย์กลางเมืองในการจัดพระราชพิธีต่างๆ และยังมีเศียร์พระพุทธรูปหน้าวิหารเล็กที่ปกคลุมไปด้วยรากไม้ใหญ่ ที่ถ้าหากมาเที่ยวที่นี่และได้เห็นเป็นครั้งแรกจะต้องรู้สึกว่าดูน่าหลงใหล เหมือนถูกดึงเข้าไปในอดีตเลยก็ว่าได้ 

  • ที่อยู่ : เชิงสะพานป่าถ่าน ถนนนเรศวร ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/uUCriY2vTZCaLKQC6
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 8.30-16.30 น. มีค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท 
  • เบอร์โทร : –

ซึ่งหากได้เดินทางท่องเที่ยวคนเดียว บอกได้เลยว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะนอกจากโบราณสถานที่ให้ความรู้ และได้สัมผัสบรรยากาศต่างๆ แล้วยังมีคาเฟ่มากมายให้ได้ไปลิ้มลอง

เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

12. เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

เกาะสีชังเป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีความสวยงาม แถมยังใกล้กรุงเทพ การเดินทางนั้นก็ไม่ยากมาเที่ยวคนเดียวก็สามารถเดินทางได้อย่างสบาย ไม่ต้องกลัวหลง มีเรือข้ามไปเกาะสีชัง โดยเรือข้ามไปเกาะสีชังเที่ยวแรก 6.00 น. เที่ยวสุดท้าย 19.00 น. มีเรือออกทุกๆ 1 ชั่วโมง และเมื่อไปถึงก็มีมอเตอร์ไซต์ให้เช่าบริการ ขับรับลมฟินๆ รอบเกาะ หรือถ้าหากไม่อยากขับก็มีพี่วินมอเตอร์ไซต์ให้รับจ้าง และรถสกายแล็บให้ใช้บริการ

จุดที่เป็นไฮไลท์ที่ต้องแวะมาถ่ายรูปด้วยคือ ‘ช่องอิศริยาภรณ์’ หรือ ‘ช่องเขาขาด’ ความงามที่ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาชม เป็นช่องเขาขาดที่มีลักษณะคล้ายแหลมพรหมเทพ และยังมีกิจกรรมให้ทำอีก นั่นคือการตกปลา เนื่องจากที่นี่มีโขดหินมากมาย เลยเป็นแหล่งที่อยู่ของปลาหลายชนิด ซึ่งถ้าหากไม่อยากตกปลา เราก็สามารถนั่งชมปลาอย่างเดียวได้ เพราะปลาแต่ละชนิดที่นี่นั้นมีลวดลายที่สวยงาม หาดูได้ยาก 

  • ที่อยู่ : 231/1 ถนนท่าเทววงษ์ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/g1VWfQwZLQvoRCL36
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 8.00-18.00 น.
  • เบอร์โทร : –
ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

13. ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

เมื่อพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว หลายคนคงเคยคิดอยากลองหนีขึ้นดอย ไปสัมผัสอากาศเย็นๆ บรรยากาศเมืองเหนือ ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น และไปเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นของชาวเหนือ ซึ่งที่ดอยอินทนนท์มีที่ให้เที่ยวมากมาย กิจกรรมให้ทำก็เยอะ ของกินก็อร่อย ผู้คนในชุมชนก็น่ารัก 

ซึ่งมาถึงดอยสิ่งแรกที่นึกถึงก็คงเป็นการชมวิวระดับพระเจ้าสร้าง โดยเริ่มที่ ‘จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน’ เป็นวิวที่สวยขนาดยอมทนตื่นเช้ามาให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเข้า และบรรยากาศของทะเลหมอก แถมเส้นทางในการขึ้นมาจุดชมวิวนั้นก็ได้สัมผัสธรรมชาติได้อย่างเต็มปอด ร่มเงาของต้นไม้ และมีแสงแดดส่องรำไรตามพื้นป่า มีเฟิร์นหลายชนิด มอสสีเขียวขึ้นคลุมโคนต้นไม้มากมาย แม้ว่าจะเดินไกลแค่ไหนก็คงต้องหายเหนื่อยเลยทีเดียวเดียว เมื่อได้ชมวิวสวยงามตามข้างทางแบบนี้ เป็นทริปมาเที่ยวคนเดียวที่คุ้มสุดๆ แล้วกับสิ่งสวยงามที่ได้พบเจอ

  • ที่อยู่ : เขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ บริเวณกม.ที่ 43 ใกล้กับพระมหาธาตุ นถทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ถนนจองทอง-ดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง สันป่าตอง และแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/tfkjFPX4YGbzRWAC9
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 6.00-16.00 น.
  • เบอร์โทร : 09-3146-9682
ข้อดีของการไปเที่ยวคนเดียว ไม่ต้องง้อใคร

ข้อดีของการไปเที่ยวคนเดียว ไม่ต้องง้อใคร

การเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวนั้นไม่ได้แย่อย่างที่เราคิดเสมอไป บางคนอาจจะกลัวเหงา  แต่จริงๆ การเที่ยวคนเดียวมีข้อดีมากมายหลายอย่าง ซึ่งถ้าหากเราไม่อยากไปคนเดียว มัวแต่รอให้เพื่อนว่าง รอใครสักคนไปด้วย อาจทำให้เราพลาดไปสถานที่ที่เราชอบ ไปพักผ่อน ฮีลลิ่งจิตใจเลยก็ได้ ยิ่งถ้าเป็นนิทรรศการที่มีวันมากำหนดด้วยอีก จริงๆ การไปเที่ยวไม่จำเป็นต้องไปเป็นแก๊งก็สนุกได้ ข้อดีของการท่องเที่ยวคนเดียวจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

เป็นการเปิดโลก ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง อยู่กับอิสระที่แท้จริง

บางครั้งการไปเที่ยวหลายคนอาจจะเกิดความวุ่นวายหลายอย่าง เช่น รอคนครบ  ไปเลท การตัดสินใจร่วมกัน กิจกรรมที่ทำ สถานที่พัก ฯลฯ การมาเที่ยวคนเดียวสามารถตัดสินใจเองได้เลยโดยไม่ต้องรอความเห็น และในระหว่างเดินทางเราจะได้มีเวลาคิดอะไรได้มากมาย สลัดความวุ่นวาย ได้อยู่กับตัวเอง และได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ประหยัดพลังงานร่างกายจากการใช้กับผู้คน และยังได้โฟกัสกับสิ่งรอบตัวได้อย่างเต็มที่ 

ได้เจอคนใหม่ เพื่อนใหม่ และอาจจะพบรักใหม่ในที่ใหม่ๆ

การไปเที่ยวคนเดียว นอกจากจะได้ลองทำอะไรกิจกรรมใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยได้ลองทำคนเดียวแล้ว ยังได้เจอกับคนใหม่ๆ อีกด้วย เพื่อนในแก๊งอาจจะไม่เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยวในแบบของเราก็ได้ การได้มาเที่ยวคนเดียว ทำให้เราได้เจอคนแบบเดียวกัน ชอบอะไรเหมือนกัน จึงมีในหลายเหตุการณ์ที่การท่องเที่ยวนั้นนำพารักมาหาเราและส่วนใหญ่นั้นเป็นคนโสด  และได้เพื่อนใหม่ที่เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน 

ออกจากเซฟโซน กล้าตัดสินใจเอง คิดเองแบบ 300%

อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า การเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวเราจะสามารถตัดสินใจได้เลยโดยไม่ต้องรอความเห็น ซึ่งในจุดนี้จะช่วยทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น กล้าคิด กล้าทำ เป็นการหลุดออกจากเซฟโซนอย่างนึง ในตอนเริ่มต้นเราอาจจะยังไม่กล้าสนทนากับใคร หรือไม่กล้าเริ่มทำอะไรมากนัก แต่ในบางสถานการณ์จะบังคับให้เราต้องทำอะไรสักอย่าง เช่น เมื่อต้องการความช่วยเหลือในการเดินทาง เราอาจจะต้องถามคนที่อยู่แถวนั้น

และในกรณีที่อยู่คนเดียวต้องตัดสินใจ ณ ตอนนั้น เราจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากการตัดสินใจของเรา แม้ว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือไม่ ในภายหลังเราจะสามารถนำประสบการณ์ตรงนี้ขึ้นมาใช้ได้เอง

ค้นหาตัวเอง พบเจอตัวตนใหม่ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน

ในบางครั้งเราก็ยังไม่รู้จักตัวเองไปซะทั้งหมดหรอก การมาเที่ยวคนเดียวจะทำให้เรามองเห็นตัวเองในหลายมุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มุมที่กล้าหาญ มุมที่บ้าได้หลุดโลก หรือมุมที่เราได้เห็นวิวสวยๆ นั้นทำให้มีความสุขได้มากขนาดไหน จนทำให้เรากลายเป็นคนใหม่ที่เราชอบมากกว่าเดิม 

หลายคนอาจจะไม่กล้าเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว จากเหตุผลหลายๆ อย่าง เช่น อาจจะกลัวเหงา หรือกลัวว่าคนอื่นจะมองอย่างไรเวลาเห็นเราอยู่คนเดียว หรือไม่กล้าที่จะทำกิจกรรมคนเดียว บทความนี้จะเชิญชวนให้กล้าออกไปใช้เวลากับตัวเอง เที่ยวคนเดียวแบบไม่ต้องรอใคร กล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้าลองทำอะไรคนเดียว เป็นการปลดล็อคตัวเองในอีกขั้น นั่นเลยเป็นหนึ่งในข้อดีของการมาท่องเที่ยวคนเดียว

ซึ่งบางครั้งการไปเที่ยวคนเดียวก็ต้องการความสะดวกสบาย เพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง ทั้งกระเป๋าและสัมภาระ ที่อาจจะสร้างความลำบากให้กับการเดินทาง เป็นอุปสรรคในการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ซึ่งเพื่อลดภาระการเดินทาง เพื่อให้เดินทางได้อย่างสบายใจ สบายหลัง สามารถเลือกใช้บริการรับส่ง-ฝากกระเป๋ากับ Airportels เป็นสายงานบริการที่จะช่วยบริการขนส่งกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยว ช่วยให้การเดินทางของเรานั้นสะดวกสบายมากขึ้น มีหลายสาขาให้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นสาขาสุวรรณภูมิ สาขาเซนทรันเวิล์ด สนามบินดอนเมืองก็สามารถฝากสัมภาระไว้ได้เลย แล้วไปเที่ยวคนเดียวได้โดยไม่ต้องพกกระเป๋าหนักๆ และวันสุดท้ายของทริปก็สามารถฝากสัมภาระ ไว้ที่โรงแรมก่อน แล้วออกไปเที่ยวได้เช่นกัน ทริปไปเที่ยวคนเดียวจะสนุกมากขึ้น

เทคนิคจองตั๋วเครื่องบินยังไงให้ถูก ปี 2023 ที่สายท่องเที่ยวต้องรู้

หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 เริ่มเบาบางลง หลายประเทศเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ผู้คนก็อยากออกไปท่องเที่ยวกันมากขึ้น แต่ปัญหาที่ตามมาคือราคาตั๋วเครื่องบินที่แสนแพง จนทำให้หลายคนหมดไปกับค่าเครื่องบินมากกว่าค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการท่องเที่ยว หรือบางคนก็ถอดใจไปเสียก่อน แต่จะดีกว่าไหมถ้าสามารถจองตั๋วเครื่องบินในราคาที่ถูกกว่า เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย แล้วเหลือเงินไปเที่ยวแบบสบายๆ บทความนี้จะมาแชร์เทคนิคการจองตั๋วเครื่องบินยังไงให้ถูกในปี 2023 ที่สายเที่ยวต้องรู้ มีอะไรบ้างไปดูกัน

1. ค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน

ในการจองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูก สิ่งที่ทุกคนควรทำเป็นอันดับแรกคือ เริ่มจากการค้นหาและเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินจากเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน เพจ หรือเอเจนซี่ต่างๆ ในทุกรูปแบบ เพื่อนำมาเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบิน และสายการบินที่ให้ราคาสมเหตุสมผล หรือถูกที่สุด เพื่อเพิ่มทางเลือกในการตัดสินใจ โดยในปัจจุบันก็มีเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่น่าสนใจมากมายอย่างเช่น Traveloka, Expedia, KAYAK, Trip.com, Agoda, Skyscanner, Google Flights เป็นต้น

2. คำนึงถึงส่วนลดและโปรโมชัน

 สิ่งที่จะต้องคำนึงถึงในการจองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูกนั่นคือโปรโมชันและส่วนลด เพราะเป็นสิ่งที่จะสามารถช่วยให้ได้ราคาตั๋วที่ถูกลงได้ โดยสามารถตามหาโปรโมชันและส่วนลดต่างๆ ได้จากหลายวิธีด้วยกัน

เพจรวมส่วนลดและโปรโมชัน

ปัจจุบันมีเพจรวมส่วนลดและโปรโมชันเกี่ยวกับราคาตั๋วเครื่องบินมากมายแชร์กันในช่องทาง Social Media อย่าง Facebook, Instagram, Twitter หรือตามเว็บไซต์จองตั๋วเครื่องบิน แอปพลิเคชัน และเอเจนซี่ ที่สามารถติดตามความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา รวมถึงมีการอัปเดตโปรโมชันและส่วนลดใหม่ๆ เช่น เพจติดโปร, Pro Addict, เพจเพื่อนติดโปร ฯลฯ แต่อาจต้องอาศัยจังหวะหรือดวงร่วมด้วย เนื่องจากส่วนลดและโปรโมชันมักมีช่วงเวลาและจำนวนสิทธิที่จำกัด เป็นแบบ fisrt come, first serve เพราะฉะนั้นการจองตั๋วเครื่องบินยังไงให้ถูก บอกได้เลยว่าจังหวะและความเร็วในการจองถือเป็นสิ่งจำเป็น 

ส่วนลดและโปรโมชันจากสายการบิน

วิธีต่อมาเป็นการเช็กราคาส่วนลดหรือโปรโมชันผ่านเว็บไซต์ เพจ หรือแอปพลิเคชันของทางสายการบินโดยตรง ซึ่งแต่ละสายการบินก็จะมีการจัดโปรโมชันหรือส่วนลดต่างๆ แตกต่างกันไป อาจจะมีราคาพิเศษ ราคานักศึกษา หรืออื่นๆ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่สายการบินเลือกจัดโปรโมชัน หากได้มีการติดตามเพจ เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของทางสายการบินไว้ ก็จะทำให้สามารถเห็นโปรโมชันได้ก่อน ทั้งยังสามารถจองตั๋วเครื่องบินของสายการบินที่ตัวเองนิยมและสนใจได้อย่างรวดเร็วในราคาที่ถูกลง 

สะสมไมล์ หรือเครดิตการจอง เพื่อนำมาเป็นส่วนลด

ตามเว็บไซต์ของทางสายการบินนอกจากจะมีการจัดโปรโมชันอยู่เป็นช่วงๆ แล้ว ก็ยังมีในเรื่องของการสะสมไมล์ หากเป็นสมาชิกอยู่แล้วและยิ่งเป็นคนที่เดินทางบ่อย บางสายการบินอาจมีการสะสมเครดิตการจองตั๋วเครื่องบินหรือสะสมไมล์เดินทาง ซึ่งสามารถนำมาแลกเป็นส่วนลดในเที่ยวบินถัดๆ ไปได้ บางครั้งอาจจะได้เที่ยวบินฟรีจากการแลกไมล์สะสมเลยก็ได้ หรือหากมีการสมัครเป็นสมาชิกใหม่ อาจจะมีสิทธิพิเศษบางอย่างสำหรับสมาชิกใหม่เป็นส่วนลดได้เช่นกัน วิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีที่จะทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการจองตั๋วเครื่องบินลงได้

ซื้อตั๋วเครื่องบิน พร้อมโรงแรมหรือที่พัก

อีกวิธีที่สามารถทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินถูกลงกว่าปกติได้ นั่นก็คือการซื้อตั๋วเครื่องบินพร้อมโรงแรมหรือที่พัก  เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายลง โดยเมื่อนำมาคำนวณราคาแล้วมักจะได้ราคารวมของแพ็กเกจที่ถูกกว่าการแยกจองตั๋วเครื่องบินหรือที่พักต่างหาก แต่อาจจะต้องอาศัยความเร็วในการจองหรือพึ่งดวงกันเล็กน้อย เพราะมักมีจำนวนจำกัด ยิ่งหากเป็นแพ็กเกจดีๆ น่าสนใจก็จะยิ่งหมดเร็ว รวมถึงอาจต้องมีการพิจารณาปัจจัยอื่นประกอบการตัดสินใจร่วมด้วย เช่น อาจมีข้อจำกัดในการเลือกที่พักหรือสายการบินที่ต้องการ ตัวเลือกที่มีอาจจะยังไม่ถูกใจ แต่หากต้องการซื้อตั๋วเครื่องบินในราคาที่ถูกลง การเลือกใช้วิธีนี้ก็ถือเป็นวิธีที่คุ้มค่า คุ้มราคาแน่นอน

3. เลือกเวลาการบินในช่วงที่ไม่ได้รับความนิยม

การเลือกช่วงเวลาในการบินก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อราคาตั๋วเครื่องบินอย่างมาก ควรเลือกจองตั๋วเครื่องบินในช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ไม่นิยมเดินทางท่องเที่ยวกัน เพราะหากเป็นช่วง high season ค่าตั๋วเครื่องบินมักมีราคาสูงกว่าช่วง low season

การเลือกเดินทางในช่วงเวลาเช้า

ช่วงเวลาที่ควรเลือกเดินทางคือช่วงเช้าตรู่หรือเช้ามืด เนื่องจากคนมักจะเดินทางกันในช่วงเวลานี้ค่อนข้างน้อย ทำให้มีตั๋วที่นั่งเหลือเยอะ ราคาจึงถูกลง และยังมีโอกาสเลือกที่นั่งดีๆ ได้ในราคาที่ไม่แพงมาก แต่อาจจะมีข้อเสียคือต้องตื่นแต่เช้ามากๆ หรืออาจจะต้องอดนอนเพื่อไปขึ้นเครื่องให้ทันรอบเช้า

การเลือกเดินทางในช่วงเวลากลางคืน

อีกช่วงเวลาที่คนไม่ค่อยนิยมเดินทางกันคือช่วงกลางคืนดึกๆ ทำให้มีโอกาสจองตั๋วเครื่องบินได้ในราคาที่ถูกลง แต่อาจจะต้องแลกมากับการเดินทางไปสนามบินที่อาจจะไม่สะดวก และอาจเกิดความเหนื่อยล้าอ่อนเพลียจากการนั่งเครื่องบินและพักผ่อนไม่เพียงพอได้

4. เลือกเดินทางในวันธรรมดา

นอกจากช่วงเวลาในการเดินทางที่มีผลต่อราคาตั่วเครื่องบินแล้ว วันที่เลือกเดินทางก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรเลือกเดินทางในวันธรรมดา ที่ไม่ใช่วันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ เพราะเป็นวันที่คนส่วนใหญ่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนกัน ดังนั้นปริมาณความต้องการจองตั๋วในวันหยุดพิเศษเหล่านี้จะทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินพุ่งสูงขึ้นไป การเลือกจองตั๋วเครื่องบินเพื่อเดินทางในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์โดยเฉพาะในวันศุกร์ เสาร์และอาทิตย์ เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงหากต้องการซื้อตั๋วราคาถูก 

5. จองตั๋วเครื่องบินในช่วง Low season

หากต้องการจองตั๋วเครื่องบินให้ได้ราคาถูก ควรเลือกจองตั๋วเครื่องบินในช่วง low season ซึ่งเป็นช่วงที่นักท่องเที่ยวไม่ค่อยนิยมไปเที่ยวกัน ข้อดีคือนอกจากราคาตั๋วถูก ราคาที่พัก ร้านอาหาร ของกินของใช้ต่างๆ ก็จะถูกลงเช่นกัน เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวไม่มากเท่าไร สายการบิน ที่พัก ร้านค้าต่างๆ จึงมักมีโปรโมชันดีๆ หรือส่วนลดมากมายเพื่อดึงดูดลูกค้า อีกทั้งยังไม่ต้องไปเบียดเสียดกับปริมาณนักท่องเที่ยวเยอะๆ อย่างในช่วง high season แต่อาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของความสวยงามของบรรยากาศที่ไม่ได้สวยเท่าช่วง high season หรือสภาพอากาศที่อาจจะร้อนหรือหนาวเกินไป โดยแต่ละประเทศแต่ละโซนก็จะมีช่วง low season ที่ต่างกันออกไป เช่น

  • เกาหลี – ช่วงฤดูร้อน ประมาณเดือนมิถุนายน ถึง กันยายน
  • ญี่ปุ่น – ช่วงฤดูร้อน ประมาณเดือนมิถุนายน ถึง กันยายน
  • ออสเตรเลีย – ช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคม
  • ยุโรป – ช่วงฤดูหนาว ปลายเดือนพฤศจิกายน ถึง ต้นเดือนเมษายน
  • อเมริกา, แคนาดา – ช่วงฤดูหนาว เดือนพฤศจิกายน ถึง ปลายเดือนมีนาคม
  • อเมริกาใต้ – ช่วงฤดูหนาว ประมาณเดือนมิถุนายน ถึง สิงหาคม

6. จองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า

การจองตั๋วเครื่องบินล่วงหน้า ทำให้ได้ราคาที่ถูกกว่าการจองตั๋วในวันใกล้วันเดินทาง เพราะตั๋วที่นั่งที่ราคาถูกมักจะถูกขายออกไปก่อน อีกทั้งการซื้อตั๋วแบบใกล้วันเดินทางอาจจะทำให้มีการปรับราคาตั๋วแพงขึ้นได้ เพราะฉะนั้นสำหรับผู้ที่วางแผนเดินทางล่วงหน้าและรู้วันที่ต้องเดินทางแล้วควรรีบจองตั๋วเครื่องบินก่อนล่วงหน้า เพื่อให้ได้ราคาที่ถูกลงนั่นเอง

7. เลือกจองตั๋วเครื่องบินแบบต่อเครื่อง

การจองตั๋วเครื่องบินแบบต่อเครื่อง คือการจองตั๋วเครื่องบินที่มีการแวะจอดที่สนามบินกลางทางก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังปลายทาง ทำให้ได้ราคาที่ถูกลง เหมาะกับคนที่ไม่ได้เร่งรีบหรือมีเวลาจำกัด เนื่องจากการบินแบบต่อเครื่องจะทำให้เสียเวลาในการต่อเครื่องเพิ่มขึ้น และควรระวังเรื่องระยะเวลาในการต่อเครื่องเพราะอาจเกิดปัญหาเที่ยวบินดีเลย์ทำให้ต่อเครื่องไม่ทันได้

8. เปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินในสนามบินที่ต่างกัน

การจองตั๋วเครื่องบินแบบเลือกสนามบินในการลงจอด ในกรณีที่บางเมืองหรือบางประเทศมีสนามบินมากกว่า 1 แห่ง การเลือกสนามบินเพื่อเปรียบเทียบราคาก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ทำให้ได้ตั๋วเครื่องบินในราคาที่ถูกลง แต่อาจจะต้องมีการสังเกตหรือเตรียมตัว เช่น ค่าเดินทางจากสนามบินไปที่พักหรือปลายทาง หากได้ไม่คุ้มเสียก็ควรเลือกใช้วิธีอื่นๆ แทน

9. การเลือกจับคู่สายการบินแบบผสม

การจองตั๋วเครื่องบินแบบจับคู่ หรือผสมสายการบิน อาจได้ในราคาที่ถูกกว่าการเลือกสายการบินเดียวกัน ควรลองเปรียบเทียบราคาดูก่อน โดยเฉพาะการบินแบบไปกลับ การเลือกตั๋วเครื่องบินขาไปกับขากลับเป็นคนละสายการบินก็จะทำให้มีโอกาสได้เลือกสายการบินที่มีราคาถูกกว่าการจองตั๋วแบบไปกลับพร้อมกัน

10. เลือกสายการบินแบบ Low cost

การเลือกสายการบินแบบ Low cost เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดงบประมาณในการเดินทาง เนื่องจากจะมีการตัดการให้บริการบางอย่างออกไป ซึ่งหากต้องการจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเหล่านี้เพิ่มเติม เช่น เลาจน์สำหรับรอขึ้นเครื่อง การโหลดกระเป๋า อาหาร-เครื่องดื่มบนเครื่อง การเลือกที่นั่ง การเปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน เป็นต้น จึงเหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น หรือผู้ที่มีสัมภาระน้อย และต้องการลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลง

11. เปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินในสกุลเงินอื่นๆ

การจองตั๋วเครื่องบินโดยใช้วิธีการนี้ เป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากได้ตั๋วราคาถูกกว่า โดยสายการบินเดียวกัน เที่ยวเดียวกัน ที่นั่งแบบเดียวกัน แต่สกุลเงินที่แตกต่างกันอาจทำให้ได้ราคาที่ต่างกันออกไปตามอัตราแลกเปลี่ยนและค่าเงิน หากอยากได้ตั๋วราคาถูกอาจต้องลองเปรียบเทียบราคาดู การเลือกซื้อตั๋วโดยใช้สกุลเงินอื่นอาจทำให้ได้ราคาที่ดีกว่า

12. จองตั๋วเครื่องบินแบบคนเดียว

การจองตั๋วแบบคนเดียวหรือแยกกันจอง ทำให้ได้ถูกกว่าการจองพร้อมกันหลายๆ ที่ เพราะแต่ละเที่ยวบินจะมีที่นั่งราคาถูกอยู่จำกัด บางครั้งก็จะอาจมีโปรโมชันให้เลือกแค่สำหรับบางที่นั่ง และการจองตั๋วแบบเป็นกลุ่มมักมีราคาตั๋วที่แพงกว่า ข้อเสียคืออาจไม่ได้นั่งด้วยกัน แต่ก็แลกมาในราคาที่ถูกกว่านั่นเอง

สรุป

บางคนอาจสงสัยว่าจองตั๋วเครื่องบินยังไงให้ถูก การจองตั๋วเครื่องบินสามารถจองในราคาที่ถูกลงได้ หากลองเลือกเทคนิคข้างต้นนี้ นำเอาไปปรับใช้ให้เหมาะกับตัวเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งหมดที่กล่าวมาจะเป็นไปไม่ได้ หากไม่ตัดสินใจจองทันที เมื่อได้ดีลหรือส่วนลดที่ต้องการ เพราะคนอื่นๆ หลายคนต่างต้องการซื้อตั๋วเครื่องบินเมื่อมีโปรโมชันเหมือนกัน

นอกจากนี้ เมื่อพูดถึงเรื่องตั๋วเครื่องบินแล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างคือการเตรียมสัมภาระ แนะนำบริการของ Airportels ที่เหมาะสำหรับคนไม่ต้องการพกสัมภาระไปทุกที่ให้วุ่นวาย โดยเฉพาะคนที่อยากไปท่องเที่ยว แล้วต้องมีกระเป๋าสัมภาระเยอะๆ หรือต้องพักในโรงแรม และไม่สะดวกในการขนของ เป็นต้น 

บางคนหากลงจากเครื่องแล้วอยากไปกินข้าว ชอปปิง ทำธุระ หรือยังไม่ถึงเวลาบินอยากฝากสัมภาระไว้ซัก 2-3 ชั่วโมง ซึ่งทาง Airportels ก็มีบริการฝากสัมภาระในสนามบินด้วยเช่นกัน หรือใครน้ำหนักกระเป๋าเกิน ไม่อยากโหลดกระเป๋า ฝากไว้กับ Airportels ก็มีราคาที่ถูกกว่า