อัพเดทปี 2024 กับ 10 ตลาดนัดกลางคืนยอดนิยมในกรุงเทพฯ

ไม่ว่าจะเป็นวันทำงาน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าได้ไปเดินเที่ยวหาของกิน ของใช้ หรือของสะสมในกรุงเทพฯ ที่ตลาดนัดกลางคืน ก็น่าจะเป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายได้มากเลยเหมือนกันน้าา วันนี้ AIRPORTELs ขอมาแนะนำ 10 สถานที่ สำหรับสายเดินตลาดนัดกลางคืนได้มาดูกัน เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลยยย!

Bangkok’s night market

1. ตลาด JODD FAIRS (จ๊อดแฟร์ เซ็นทรัลพระรามเก้า)

JODD FAIRS เซ็นทรัลพระรามเก้า เป็นศูนย์รวมอาหาร ของกินแบบสตรีทฟู้ด มีคน รีวิวของกิน ลงในโซเชียลการันตีเรื่องของกินอร่อย ราคาหลักสิบ สายกินไม่ควรพลาดที่นี่เลย มีทั้งทะเลถัง ทะเลดอง ร้านขนมหวาน อย่างเมนูฮิตต้องลองคือ นมหมีปั่น แซนด์วิชไข่ ฮอตด็อกเกาหลี อีกทั้งยังเอาใจสายแฟชั่น ที่มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ และอีกมากมาย เรื่องบรรยากาศดี ครึกครื้น ติดห้างเซ็นทรัลพระรามเก้า รับรองว่าถ้ามาเดินแล้วต้องได้ของกินติดไม้ติดมือไปเพียบ! 

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 – 24.00 น.

2. ตลาด JODD FAIRS (จ๊อดแฟร์ แดนเนรมิตร)

JODD FAIRS แดนเนรมิตร ตลาดนัดกลางคืนที่เพิ่งเปิดให้เดินเมื่อเมษายน 2023 ที่ผ่านมา ที่นี่มีความน่าสนใจ อีกทั้งยังดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติให้ได้มาเยี่ยมชมได้เยอะมาก ๆ เพราะว่าเป็นโลเคชั่นที่เดินทางสะดวก มาได้ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์สาธารณะ และรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ส่วนตัวมาได้อง เพราะเค้ามีที่จอดกว้างมาก ๆ และที่นี่ก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม และลานเบียร์ ให้เลือกเต็มไปหมดเลย ที่คำสัญคือมีปราสาทให้ขึ้นไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศดี ๆ ได้เจอฝูงฟลามิงโก้บนพื้นหญ้า และรถยนต์คลาสสิกสุดเท่ ที่ทุกคนสามารถถ่ายรูปกันได้ตามชอบเลยยย

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 – 24.00 น.

3. ตลาดอินดี้ ปิ่นเกล้า

ตลาดนัดกลางคืนที่ไม่ควรพลาดเลยนั่นก็คือตลาดอินดี้ ปิ่นเกล้า เราขอการันตีว่าเด็ดเพราะว่ามีคนเดินทางมาเยอะมาก เป็นที่นิยมของคนชื่นชอบการเดินเที่ยวช่วงกลางคืนไม่น้อยเลย จุดเด่นของตลาดแห่งนี้คือ ร้านอาหารที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งร้าน
อาหารสตรีทฟู้ดเกาหลี อาหารญี่ปุ่น และอาหารทะเลให้คุณได้อร่อยกับอาหารทะเลปรุงด้วยวัตถุดิบสด นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารสไตล์บุฟเฟต์ด้วย ตอบโจทย์สายกินเพลิน ๆ เดินชิลล์ ๆ 

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 – 24.00 น.

4. ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา

ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทราก็เป็นอีกหนึ่งในตลาดนัดที่เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ฮิตของคนกรุงเทพฯ เลย นักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวช่วงค่ำ ๆ ก็ยังสามารถมาเดินเล่นหาของทานอร่อย ๆ ได้จากที่นี่ เพราะตลาดเลิกดึกมาก มีอาหารน่าทานเพียบ ใครพักอยู่เขตบางเขนไม่ควรพลาดเลย เช่น ร้านอาหารเกาหลี บุฟเฟต์ อาหารทะเล ปลาหมึกย่าง ทะเลดอง ขนมหวานก็มีหลากหลาย จะสไตล์อิตาเลี่ยน เกาหลี หรือจะไทย ครบทุกรสชาติ ถ้าหิวตอนดึก แวะมาฝากท้องสักหน่อยก็ได้

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 2.00 น.

5. ถนนเยาวราช

ถนนเยาวราช หรือไชน่าทาวน์ของกรุงเทพฯ

คงไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่ ถนนเยาวราช ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและตลาดยามค่ำคืนที่มีความโด่งดังสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ผู้ที่รักอาหารจีนก็ไม่ควรพลาดเช่นเดียวกัน มีร้านอาหารสตรีทฟู้ด ภัตตาคารจีนให้เพื่อนทานได้อย่างมากมาย เช่น ร้านข้าวมันไก่ ร้านข้าวหมูแดง ขนมจีบ ร้านก๋วยจั๊บ ไปจนถึงเมนูที่ระดับตำนานอย่างหูฉลามน้ำแดง ไปจนถึงขนมปังย่างถ่านที่มีความฮิตอย่างมากในหมู่วัยรุ่น แต่ถ้าใครจะทาน ก็อย่าลืมเตรียมทิชชู่เปียก หรือกระดาษเอาไว้เช็ดไส้เยิ้ม ๆ ของขนมปังกันด้วยล่ะ!

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 2.00 น.

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

6. ตลาดกรีนวินเทจ รัชดา Green vintage pop up

ตลาดกรีนวินเทจ รัชดา Green vintage pop up เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ครบครัน ที่มีทั้งของกินเล่น เสื้อผ้า อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และของใช้ให้นักช็อปได้ไปเดินเลือกสรรคกันได้อย่างสบายใจ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายเพราะอยู่กลางเมือง ซึ่งที่ตั้งของตลาดนั้นตั้งอยู่ด้านหน้าของห้าง The Street ที่เป็นจุดนัดพบที่ผู้คนสามารถไปเดินเล่น อีกทั้งยังมีสนามกีฬา และฮอลล์ตั้งอยู่ด้านบนอีกด้วย

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 15.00 – 24.00 น.

7. ตลาดนัดจตุจักร

ชาว Bangkok คงจะรู้จักที่นี่ดีอยู่แล้ว เพราะตลาดนัดจตุจักรนั้นถือเป็นแหล่งสำหรับการเดินช็อป การเดินทางง่าย สะดวก ขึ้นรถไฟฟ้ามาได้ เป็นตลาดนัดกลางคืนที่รวบรวมสินค้าหลากหลาย แบ่งโซนให้คุณได้เลือกช้อป ทั้งโซนตลาดต้นไม้ ตลาดสัตว์เลี้ยง ตลาดเสื้อผ้า และอื่น ๆ รวมถึงโซนขายอาหาร มีอาหารน่าชิมเยอะมาก จะสไตล์ไทย ญี่ปุ่น ยุโรป มีครบถ้วน มาที่เดียวคุ้มช็อปของกิน ของใช้ ของสะสม

เปิดให้บริการวันและเวลาที่เปิดของทุกโซนต่างกัน

8. ช่างชุ่ย ChangChui

ตลาดนัดแห่งนี้มีความโดดเด่นตั้งแต่บริเวณทางเข้าที่มีป้ายขนาดใหญ่ สไตล์อาร์ต ๆ เท่ ๆ  เป็นอีกที่เที่ยวที่คุณสามารถเดินทางมาง่ายด้วยรถไฟฟ้า ในตลาดมีโซนที่น่าสนใจมาก ทั้งร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านอาหารที่มีตั้งแต่สตรีทฟู้ด บุฟเฟต์ ไปจนถึงบาร์ นอกจากนี้ใครที่ชอบมาช่วงดึก ก็มีการเล่นดนตรีสด ใครสายปาร์ตี้ มากับแก๊งเพื่อนซี้ ก็สนุกได้ทั้งคืนเลย ใครมีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็มาจอยกันได้เลย

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 23.00 น.

9. ตลาดนัดรถไฟ : Train Night Market 

ปิดท้ายกันด้วยอีกหนึ่งตลาดนัดกลางคืนรวบรวมร้านค้าหลากหลายประเภท ทั้งร้านหนังสือ ร้านเสื้อผ้า รองเท้า ร้านตัดผม ร้านขายภาชนะ ร้านอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย ช้อปได้เพลินจุใจแน่นอน ที่สำคัญจุดเด่นของที่นี่คือมีโซนที่นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปได้ อย่างโซนโกดังที่ตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังสุดเท่ สายอาร์ตติสชื่นชอบ นอกจากนั้นแล้วใครที่อยากมาเดินเที่ยว ช็อปปิ้ง หรือหาอาหารอร่อย ๆ ทานช่วงหลังเลิกงาน รับรองว่าถูกใจแน่นอน ทั้งอิ่มท้องและได้ของสะสมกลับบ้าน

เปิดบริการทุกวันพฤหัสบดี – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 01.00 น.

10. หัวมุม Market & More

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบสะสมตุ๊กตา สินค้า หรืออุปกรณ์วินเทจ ตลาดหัวมุม ก็อาจจะเป็นตลาดในฝันที่เพื่อน ๆ ต้องชื่นชอบแน่ ๆ และไม่ใช่เพียงสินค้าวินเทจเท่านั้นที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ แต่เค้ายังมีอาหาร เสื้อผ้า ขนม และกิจกรรมอีกมากมายที่ถูกใจทั้งเด็กน้อย วัยรุ่น ไปจนถึงผู้ใหญ่กันได้อย่างแน่นอน

เปิดบริการทุกวันจันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16:00 – 24:00 น.
และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 18:00 – 24:30 น.

นักท่องเที่ยวกับวิวของตลาดนัดในยามค่ำคืน

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ 10 ตลาดนัดกลางคืน 2024 พื้นที่สำหรับการช้อปปิ้งของคนกรุงที่ไม่ควรพลาด ทั้งยังเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงปีนี้อีกด้วย ซึ่งแต่ละตลาดนั้นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ใครชอบช็อปแบบไหน กำลังมองหาสินค้าหรือซื้ออะไร ก็ลองไปเยือนตลาดนัดกลางคืนทั้ง 10 แห่งที่ AIRPORTELs นำมาให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกันได้เลย ขอให้มีความกับการเดินช็อปปิ้งในตลาดนัดกลางคืนกันนะทุกคนน! 

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ที่มาข้อมูล

มาตรฐานโรงแรม 1-5 ดาว วัดกันที่ตรงไหน 

มาตรฐาน โรงแรม เรียกว่า “ระดับดาว” เป็นสัญลักษณ์รูปดาวตั้งแต่ 1-5 ดวง แทนค่ามาตรฐานบริการระดับต่าง ๆ ของโรงแรมตั้งแต่ระดับธรรมดาไปจนถึงระดับหรูหรา เพื่อให้เห็นความแตกต่างอย่างชัดเจน ระดับดาวมีผลต่อความมั่นใจของนักท่องเที่ยวในคุณภาพบริการ ความสะดวก ความสะอาด และความปลอดภัยว่าจะเลือกพักโรงแรมที่ไหนดี

Hotel Star
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ทำไมโรงแรมต้องมีมาตรฐานระดับดาว 1-5 

ทำไมโรงแรมต้องมีมาตรฐานระดับดาว 1-5 

ถ้าเลือกได้และไม่ติดขัดเรื่องค่าใช้จ่าย เป็นใครก็อยากเข้าพักโรงแรมหรู ๆ ดี ๆ ติดอันดับ 4-5 ดาวกันทั้งนั้น สัญลักษณ์ระดับดาวแตกต่างกันตรงไหน กำหนดอะไรไว้บ้าง มาติดตามกันได้เลย

อังกฤษและฝรั่งเศสเป็นประเทศที่บุกเบิกการใช้สัญลักษณ์รูปดาวเป็นครั้งแรก โดยใช้รูปดาว 1-5 ดวงเพื่อแยกประเภทมาตรฐานการบริการธุรกิจที่พักให้เห็นความแตกต่างชัดเจน เพื่อสร้างมาตรฐาน โรงแรมในกรุงเทพ ที่น่าเชื่อถือ และทำให้นักท่องเที่ยวมีความเข้าใจอย่างชัดเจนในระดับบริการที่ได้รับด้วย สำหรับมาตรฐานการวัดระดับโรงแรมในประเทศไทยเริ่มต้นตั้งแต่สมัยเปิดประเทศ มีชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศ จึงมีการสร้างโรงแรมแบบสมัยใหม่เพื่อรับรองแขกที่เข้ามาติดต่อการทูต ค้าขาย และแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม โรงแรมเป็นทั้งที่พักแรม มีบริการอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ 

ในปี พ.ศ. 2549 “สมาคมโรงแรมไทยและสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว” (ATTA) ได้ร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จัดตั้งองค์กรกลางชื่อว่า “มูลนิธิพัฒนามาตรฐานและบุคลากรในอุตสาหกรรมบริการและการท่องเที่ยว” เพื่อตรวจสอบการจัดระเบียบโรงแรมไทยให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน โดยมีมาตรฐานระดับดาวที่เป็นระบบระเบียบและใช้ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน

การวัดระดับโรงแรมในประเทศไทยยึดตามมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับระดับสากล จากการให้คะแนน 1-5 ดาวซึ่งเรียงลำดับต่ำสุดไปถึงระดับยอดเยี่ยมที่สุด ซึ่งรวมถึงการพิจารณาให้เรื่องความต้องการของผู้เข้าพักด้วย ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ไปจนถึงคุณภาพของบริการที่มีความหลากหลายตั้งแต่ห้องพัก, ห้องอาหาร, บาร์หรือเลานจ์, สระว่ายน้ำ, ห้องประชุม ไปจนถึงบริการกีฬาอื่น ๆ 

สิ่งที่ใช้พิจารณาตัดสิน มาตรฐานโรงแรม ว่าระดับ 1-5 ดาว 

สิ่งที่ใช้พิจารณาตัดสิน มาตรฐานโรงแรม ว่าระดับ 1-5 ดาว 

เป็นที่ทราบกันดีว่าโรงแรมระดับ 1-5 เรียงลำดับจากน้อยคือ 1 หรือยอดเยี่ยมระดับต่ำสุด ไปมากหรือยอดเยี่ยมระดับสูงสุดคือ 5 ซึ่งเป็นมาตรฐานโรงแรมที่ได้รับการยอมรับระดับสากล สิ่งที่ใช้พิจารณาระดับดาวของโรงแรม มีดังนี้

  • ทำเลที่ตั้ง สภาพแวดล้อม และบรรยากาศโดยรอบ
  • โครงสร้างของโรงแรม และระบบความปลอดภัย
  • การตกแต่งและ สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม
  • คุณภาพของบริการ เช่น ความสะดวก ความปลอดภัย คุณภาพและขนาดห้องพัก ความคุ้มค่าด้านราคา รวมถึงชื่อเสียงของโรงแรม
  • การบำรุงรักษา และการทำความสะอาดห้องพักในโรงแรม

ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นส่วนประกอบของการได้รับระดับมาตรฐาน 1-5 ดาว ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมโรงแรมของประเทศไทยให้มีมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับในระดับสากล

โรงแรมระดับ 1 ดาว

โรงแรมระดับ 1 ดาว

“โรงแรมระดับ 1 ดาว” เป็นมาตรฐานเริ่มต้นของธุรกิจโรงแรม เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัด โดยทั่วไปจะไม่ใช่โรงแรมเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน แต่เป็นโรงแรมใหม่ราคาประหยัดที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวยุคใหม่ ค่าบริการถูกกว่าโรงแรมประเภทอื่น ๆ จัดอุปกรณ์ขั้นพื้นฐานแบบไม่หรูหราไว้บริการลูกค้า ถือว่าบริการได้มาตรฐาน แต่ราคาประหยัดเพื่อให้ตรงกับนโยบายของหลักของโรงแรม เรียกว่าเป็นแนวทางการปรับตัวของธุรกิจโรงแรมเพื่อให้เหมาะกับคนงบน้อยโดยเฉพาะ 

ห้องพักตกแต่งเรียบง่าย บรรยากาศดูเป็นกันเอง ไม่เน้นการตกแต่งสวยงามหรือบรรยากาศหรูหราแต่อย่างใด พออาศัยอยู่ได้ไม่อึดอัดมากนัก ค่าห้องพักราคาประหยัด เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัด ห้องพักขนาด 10 ตารางเมตรขึ้นไป ภายในห้องพักของโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไป เช่น เตียงขนาด 3 ฟุต กระจกแต่งหน้า โต๊ะ เก้าอี้ ถังขยะ ห้องน้ำ อ่างล้างหน้า ภายในห้องน้ำมีผ้าเช็ดตัวและกระดาษชำระไว้บริการ สถานที่พักสะอาดและปลอดภัยเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ไม่มีร้านอาหารในโรงแรม และผู้เข้าพักอาจต้องกินข้าวข้างนอก

โรงแรมระดับ 2 ดาว

โรงแรมระดับ 2 ดาว

“โรงแรมระดับ 2 ดาว” มีประวัติความเป็นมาให้เห็นตามสื่อต่าง ๆ อยู่บ้าง โรงแรมมีบริการแบบจำกัดถือว่าอยู่ได้สะดวกสบายพอสมควร ห้องพักสะอาดเรียบง่าย สิ่งอำนวยความสะดวกทั่วไปเพียบพร้อมน่าพอใจ และบรรยากาศดีก็ขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง เรียกว่าเป็นโรงแรมระดับราคาประหยัดที่จ่ายคุ้มราคา เหมาะสำหรับผู้เดินทางที่ต้องการสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน

สำหรับห้องพักขนาดใหญ่กว่า 14 ตารางเมตร พร้อมตาแมวไว้ให้ผู้พักอาศัยมองเห็นแขกที่มาเคาะหรือกดกริ่งประตูได้ โซ่คล้องประตูสำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัย เตียงขนาด 3 ฟุตขึ้นไป มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งในแต่ละห้อง เช่น กระจกแต่งหน้า, ชุดโต๊ะ-เก้าอี้, โทรทัศน์ และโทรศัพท์ติดต่อภายใน บางแห่งอาจมีบริการบางอย่างให้แก่แขก เช่น มีห้องน้ำแบบชักโครกภายในห้องพัก พร้อมผ้าเช็ดตัวและกระดาษชำระ บางแห่งมีร้านอาหารเปิดให้ภายในโรงแรมด้วย โรงแรมระดับ 2 ดาวยังคงคุ้มค่าและราคาประหยัด

โรงแรมระดับ 3 ดาว

โรงแรมระดับ 3 ดาว

“โรงแรมระดับ 3 ดาว” มีประวัติความเป็นมาที่เรียบง่าย ห้องพักตกแต่งสวยงามและ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมหรือ Hotel Facility สะดวกสบายสำหรับแขกที่เข้าพัก ทั้งยังมีบรรยากาศความเป็นส่วนตัวมากขึ้น การตกแต่งสวยงามมีคุณภาพและความสะดวกสบายที่ดีขึ้น บรรยากาศค่อนข้างเรียบง่ายแต่หรูหราชวนหลงใหล เป้าหมายลูกค้าคือนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวทั่วไป บริการของโรงแรมจัดว่าอยู่ในระดับมาตรฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกสบายครบครัน แต่ไม่หรูหราเมื่อเทียบกับโรงแรมที่รองรับนักธุรกิจที่มั่งคั่งหรือบุคคลที่มีชื่อเสียง

ห้องมาตรฐานขนาดพื้นที่ใช้สอย 18 ตารางเมตรขึ้นไป มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายในห้องพักมีเตียงนอนสุดนุ่ม เพิ่มไฟหัวเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โทรทัศน์และเคเบิลทีวี, และบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย Wi-Fi, เครื่องปรับอากาศ, โคมไฟ, มินิบาร์ ภายในห้องน้ำมีระบบน้ำร้อน-น้ำเย็น, มีอุปกรณ์ครบครันทั้งผ้าเช็ดตัว กระดาษชำระ ไดร์เป่าผม ฝักบัว และหมวกอาบน้ำ มีบริการร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ ในโรงแรมมีบริการรูมเซอร์วิสในพื้นที่ส่วนตัว พร้อมเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่มถึงห้องพัก อิ่มอร่อยกับเมนูหลากหลายได้ทุกเวลา พื้นที่ส่วนกลางมีห้องประชุมจัดเลี้ยงสำหรับจัดงานสัมมนา บางแห่งอาจให้บริการฟิตเนสด้วย

โรงแรมระดับ 4 ดาว 

โรงแรมระดับ 4 ดาว 

“โรงแรมระดับ 4 ดาว” เป็นโรงแรมทันสมัย พื้นที่กว้างขวาง มีบรรยากาศหรูหรา สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน นับเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความสะดวกสบายและบริการที่สร้างความประทับใจตลอดการเข้าพัก ห้องพักโดยทั่วไปตกแต่งหรูระดับพรีเมียม เครื่องนอนที่หรูหรา ห้องน้ำขนาดใหญ่พร้อมด้วยอ่างอาบน้ำ ในส่วนของห้องอาหารที่ให้บริการเหนือระดับ บริการห้องพัก 24 ชั่วโมงพร้อมอาหารเช้า แม้จะยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ตัวเลือกที่แพงที่สุดเช่นกัน 

ห้องพักขนาดกว้างกว่า 24 ตารางเมตร เตียงขนาด 3.5 ฟุตขึ้นไป พร้อมด้วยโทรทัศน์, ตู้เย็น, มินิบาร์, กระติกน้ำร้อน พร้อมชา, กาแฟ ภายในห้องมีเสื้อคลุมอาบน้ำและรองเท้าแตะ ภายในห้องน้ำมีอุปกรณ์อาบน้ำให้ครบ พร้อมปลั๊กไฟสำหรับใช้ไดร์เป่าผมหรือโกนหนวด 

ระหว่างเข้าพักในโรงแรมมีสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งในร่มและกลางแจ้ง เช่น ห้องอาหาร, ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, สปา, โยคะ, นวดอโรมา, สระว่ายน้ำ, ห้องประชุม มีบาร์ที่บริการเครื่องดื่มตลอดทั้งวัน อาจมีบาร์ริมสระว่ายน้ำด้วย ขนาดของโรงแรมค่อนข้างใหญ่ มีห้องพักให้เลือกใช้บริการหลายระดับ ทุกห้องมีโทรทัศน์, ห้องน้ำแบบโมเดิร์น, บริการอินเทอร์เน็ต Wi-Fi ความเร็วสูง เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเข้าพักเพื่อการติดต่อธุรกิจหรือการพักผ่อนหย่อนใจ ระบบการรักษาความปลอดภัยไว้ใจได้ตลอด 24 ชั่วโมง คุณจะสัมผัสกับช่วงเวลาที่ผ่อนคลายอย่างแท้จริง

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า
  • โรมแรมโนโวเทล กรุงเทพ ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว ตั้งอยู่ในย่านรังสิต ใกล้สนามบินนานาชาติดอนเมือง หรือเดินเพียง 5 นาทีก็ถึงห้างสรรพสินค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต ในโรงแรมบริการห้องพักและห้องสวีทสุดหรูตอบโจทย์ผู้ที่มองหาโรงแรมใกล้อิมแพคอารีน่า เมืองทองธานี ภายในห้องพักตกแต่งหรูหราทันสมัยแต่ให้ความอบอุ่นเหมือนอยู่บ้าน พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกและอินเตอร์เน็ต Wi-Fi ได้ลิ้มรสอาหารระดับนานาชาติ รวมถึงอิตาเลียนและบราซิลเลียน มีบริการจัดงานประชุม งานเลี้ยงสังสรรค์ หรืองานแต่งงานภายในห้องบอลรูมกว้างขวาง หรือจัดแบ่งพื้นที่จัดงานเลี้ยงหรืองานประชุมขนาดเล็ก เรียกว่าตอบสนองได้ทุกความต้องการ
  • เดอะควอเตอร์ หัวลำโพง บาย ยูเอชจี เรียกว่าเป็นโรงแรมระดับ 4 ดาวที่อยู่ในย่านใจกลางกรุงเทพฯ เพราะขับรถไปใกล้ ๆ แค่ 5 นาทีก็พบกับสยามพารากอนและถนนข้าวสาร ห่างออกไปนิดเป็นตลาดประตูน้ำ ห้องพักไม่มากประมาณร้อยกว่าห้อง ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบเหมือนอยู่บ้าน ทั้งโทรศัพท์จอแบน, มินิบาร์, บริการ Wi-Fi,โทรศัพท์, โต๊ะทำงาน ตลอดจนตู้นิรภัยที่เก็บแล็ปท็อปได้ ในส่วนของบริการภายในที่พัก มีทั้งคอร์สสปา, ซาวน่า, ฟิตเนส และบริการอื่น ๆ อิ่มอร่อยกับอาหารหลากหลายเมนูจากนานาชาติ สั่งอาหารส่งถึงห้องพักได้โดยตรง มีบริการเครื่องดื่มที่บาร์ด้วย

โรงแรมระดับ 5 ดาว 

โรงแรมระดับ 5 ดาว 

“โรงแรมระดับ 5 ดาว” มีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานและบรรยากาศหรูหรา การตกแต่งสถานที่สวยงามระดับ VIP ทั้งภายนอกและภายใน ยกระดับสถานที่และบรรยากาศ ที่พักกรุงเทพ ที่สะดวกสบายและหรูหรามีระดับที่สุด ห้องพักตกแต่งหรูหราและดีที่สุด พื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง 30 ตารางเมตรขึ้นไป ห้องนอนมีเตียงนอนนุ่มชวนให้ทิ้งตัวนอนพักผ่อนขนาดไม่น้อยกว่า 4 ฟุต เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันมากขึ้น ในห้องมีโทรทัศน์, เครื่องปรับอากาศ, สัญญาณ Wi-Fi, เคเบิลทีวี, ตู้เย็น ภายในห้องน้ำส่วนตัวขนาดใหญ่มีอ่างอาบน้ำพร้อมอุปกรณ์ของใช้ครบถ้วน 

บริเวณโรงแรมมีทั้งห้องประชุมใหญ่และห้องย่อยไว้บริการลูกค้า, มีห้องอบไอน้ำ, ห้องนวดสปา, ห้องฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และบริการซัก-อบ-รีด โรงแรม 5 ดาวให้บริการที่รวดเร็วและเป็นมืออาชีพ อาจมีภัตตาคารหรู, สระว่ายน้ำ, สนามเทนนิส หรืออื่น ๆ ที่สำคัญคือทางโรงแรมมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย เพราะความปลอดภัยของผู้เข้าพักคือเรื่องสำคัญสำหรับโรงแรมระดับ 5 ดาว

  • โรงแรม Mandarin oriental Bangkok เป็นโรงแรมที่มีชื่อเสียงมานานและเป็นที่รู้จักทั้งในประเทศและต่างประเทศ ขึ้นชื่อเรื่องความพิถีพิถันสวยงามเรียบหรูดูดี สถานที่ตั้งอยู่บริเวณโค้งของแม่น้ำเจ้าพระยา ถือว่ามีบรรยากาศที่ดี ห้องน้ำกว้างอ่างอาบน้ำใหญ่ตกแต่งหรูหรา พรั่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก มีห้องแต่งตัว ตู้เย็น และเครื่องชงกาแฟ 
  • Hilton Sukhumvit Bangkok โรงแรม 5 ดาวสุดหรูหราใจกลางกรุง ตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท ติดกับศูนย์การค้าเอ็มโพเรียมเดินไปได้ภายใน 5 นาที มีพื้นที่กว้างขวาง บรรยากาศน่าประทับใจ ห้องพักกว้างใหญ่หรูหรามีให้เลือกหลายรูปแบบ พร้อมบริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตภายในห้องพัก พร้อมทั้งร้านอาหารนานาชาติรสเลิศ ผู้เข้าพักสามารถใช้บริการศูนย์ออกกำลังกายและสระว่ายน้ำกลางแจ้ง ผ่อนคลายไปกับบรรยากาศของบาร์ริมสระ นอกจากนี้ยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย รวมถึงสปาและบริการอื่น ๆ 

โดยทั่วไปนั้น โรงแรมระดับ 1 ดาวคือความเรียบง่าย ไล่เรียงไปจนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาวคือความหรูหรา บริการและบรรยากาศยอดเยี่ยมที่สุด เริ่มตั้งแต่โรงแรมระดับ 1-2 ดาวเป็นโรงแรมที่เจาะกลุ่มบริการนักท่องเที่ยวที่มีงบประมาณจำกัด บริการห้องพักสะอาด การตกแต่งเรียบง่าย หรือมีห้องน้ำภายในห้องพัก มีโทรทัศน์และโทรศัพท์ ก็ถือว่าเพียงพอแล้ว โรงแรมระดับ 3 ดาวจะมีความสะดวกสบายมากขึ้นมาอีกนิด พร้อมด้วยสาธารูปโภคอื่น ๆ เช่น ห้องอาหาร, สระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส หรือมีห้องประชุมด้วยก็จัดว่าสะดวกสบายเพียงพอแล้ว

สำหรับโรงแรมหรูหราระดับ 4-5 ดาวโดยมากมีทำเลที่ตั้งที่ดี มีบริการชั้นหนึ่งพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพิเศษ พนักงานได้รับการฝึกฝนให้บริการลูกค้าระดับมืออาชีพเพื่อให้ความสะดวกต่อแขก และมีความสามารถด้านภาษาด้วย รวมถึงบริการที่โดดเด่น เช่น บริการหนังสือพิมพ์รายวันในเวลาเช้า และบริการเรียกปลุก อาจมีบริการสนามเทนนิส, สระว่ายน้ำ, สปา, ภัตตาคารหรูหรา หรือบริการอื่น ๆ ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับหรูหรา อาหารนานาชาติรสชาติดี นับเป็นส่วนสำคัญทำให้ค่าห้องพักค่อนข้างสูงแต่ก็นับว่าสมราคาและคุ้มค่าเมื่อเทียบกับได้รับบริการที่สร้างความประทับใจให้แขกที่เข้าพักอยากกลับไปเยือนอีกครั้งเมื่อมีโอกาส

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

กล่าวโดยสรุปว่า การให้คะแนนมาตรฐาน 1-5 ดาวว่าโรงแรมใดดีที่สุด โดยทั่วไปจะพิจารณาทั้งเรื่องสถานที่สวยงามหรูหรา สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย ไปจนถึงบริการที่ลูกค้าคาดหวังได้ว่าจะได้รับจากโรงแรม นับเป็นพื้นฐานเบื้องต้นในการเลือกเข้าพักอาศัยของแขกในแต่ละโรงแรม ทำให้ลูกค้าและนักท่องเที่ยวรู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น ตลอดจนเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของธุรกิจโรงแรมสักแห่งในอนาคตนั่นเอง

อ่านเพิ่มเติม

พามาส่อง Facility ของ 10 โรงแรม หรูระดับ 5 ดาว ใจกลางกรุงเทพ

โรงแรม5ดาว จัดว่าเป็นที่สุดของความหรูหรา สะดวกสบาย ทันสมัยใคร ๆ ก็อยากเข้าพักถ้าไม่ติดเรื่องราคา แต่ถ้าไม่อยากจ่ายแพงจะลดระดับลงมาเล็กน้อยเป็นโรงแรม 4 ดาวจะยังพอได้อยู่ไหม เราลองมาเปรียบเทียบมาตรฐานของโรงแรม 4 ดาว และ 5 ดาวกันดู 

Facility ของ 10 โรงแรม หรูระดับ 5 ดาว ใจกลางกรุงเทพ
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ความต่างของ โรงแรม 5 ดาว กับ 4 ดาว

โรงแรม 4 ดาว
ห้องพักขนาด 24 ตร.ม. +

Facilities ภายในห้องนอนประกอบด้วย
-เตียงนอน 3.5 ฟุต+
-TV 20 นิ้ว+ 
-ช่องรายการทีวีมากกว่า 8 ช่อง 
-ตู้เสื้อผ้า
-ตู้เย็น 
-ในห้องน้ำมีสบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว ไดร์ อ่างอาบน้ำ
-Facility ภายในโรงแรม มีห้องอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องประชุม
-การตกแต่งโรงแรม เป็นสไตล์ที่ดูดีมีระดับ
โรงแรม 5 ดาว
ห้องพักขนาด 30 ตร.ม. +

Facilities ภายในห้องนอนประกอบด้วย
-เตียงขนาด 4 ฟุต+
-TV 20 นิ้ว+ มีรีโมทคอนโทรล 
-ช่องรายการทีวีมากกว่า 12 ช่อง 
-ตู้เย็น มินิบาร์ 
-อุปกรณ์สื่อสาร โทรศัพท์ 
-ห้องน้ำขนาดใหญ่ เครื่องสุขภัณฑ์สวยงาม 
-Facility ภายในโรงแรม มีห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ บาร์เครื่องดื่มห้องนวด สปา ห้องอาหารชั้นดี ห้องสัมมนา-ขนาดใหญ่ ห้องประชุมย่อย
-การตกแต่ง สวยงามหรูหรา มีระดับ

ดูเหมือนว่าจะมีข้อแตกต่างกันบ้างในเรื่องของความหรูหรา ความสมบูรณ์แบบของโรงแรม 4 ดาวย่อมไม่เท่า 5 ดาว สำหรับวันนี้เราจะพาไปส่องโรงแรมในกรุงเทพฯ กันว่า ถ้าเป็นระดับ 5 ดาว มีโรงแรมไหนน่าสนใจบ้าง

โรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพฯ

โรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพฯ

ถ้าพูดถึง โรงแรมในกรุงเทพ ที่อยู่ในระดับ 5 ดาวแล้ว แต่ละแห่งจะมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น วิวแม่น้ำเจ้าพระยา, ติดสถานีรถไฟฟ้า อยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจ เป็นต้น บางโรงแรมมีจุดเด่นเรื่องของดีไซน์ สถาปัตยกรรม อินทีเรีย ส่วนระดับของห้องพักก็จะแบ่งเป็นหลายระดับ เช่น Deluxe, Suite Room, Superior อัตราค่าบริการถูก-แพงตามความหรูหรา ในส่วนของราคาที่อยู่ในบทความนี้เป็นเพียงราคาเฉลี่ยเริ่มต้น อัตราค่าที่พักขึ้นอยู่กับประเภทของห้องและโปรโมชั่นแต่ละช่วงเวลา มาดูรายละเอียดทีละแห่งไปพร้อมกัน

1. Mandarin Oriental Bangkok

Mandarin Oriental Bangkok

Mandarin Oriental Bangkok โรงแรมริมน้ำที่เปิดมาแล้วกว่าร้อยปี จุดเด่นของโรงแรมอยู่ที่สถาปัตยกรรมอันงดงามของโรงแรมและห้องพักสไตล์ Luxury ที่บ่งบอกความพิถีพิถันในรายละเอียดของงานออกแบบ ทำให้ที่นี่เป็น ที่พักกรุงเทพ ที่ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายและเป็นโรงแรมที่รับรองอาคันตุกะระดับประเทศด้วยมาตรฐานบริการชั้นเลิศ ห้องพักของโรงแรมมีเกือบ 400 ห้อง ห้องอาหารนานาชาติ 8 ห้อง พร้อมห้องสัมมนา สปา บริการล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา อัตราค่าบริการห้องพักสุดหรูเริ่มต้น 20,000 บาท

โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพ ตั้งอยู่ที่ ซอยเจริญกรุง 40 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก กรุงเทพฯ หากไม่อยากขับรถไป สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีตากสิน แล้วเดินต่อบนเส้นทางถนนบางรักประมาณ 10 นาที

2.The Peninsula Bangkok

The Peninsula Bangkok

เพนนินซูล่า โรงแรมหรูอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพที่มีดีไซน์คลาสสิก ผู้เข้าพักจะได้อิ่มเอมกับบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่พิเศษสุด ๆ ก็คือการออกแบบโครงสร้างอาคารโรงแรมเป็นรูปตัวอักษร W ทำให้ห้องพักทุกห้องที่มีจำนวน 370 ห้องเปิดรับวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำได้ทั้งหมด Hotel Facility จัดอยู่ในระดับไฮคลาส ผู้เข้าพักสามารถใช้บริการรถลีมูซีนเป็นรถยนต์โรสรอยล์และบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7 และเพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ ทางโรงแรมยังมีบริการรถตุ๊กตุ๊กและเรือข้ามฟากอีกด้วย สำหรับห้องอาหารมี 5 ร้าน เน้นอาหารไทย จีน และนานาชาติ มีศูนย์ฟิตเนส สปา บริการนวดและบำรุงผิว ราคาห้องพักเริ่มต้นหลักหมื่นบาทขึ้นไป

โรงแรมเพนนินซูลา ตั้งอยู่ที่ 333 ถนนเจริญนคร คลองสาน กรุงเทพฯ เดินทางโดยรถยนต์ เรือ และรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีตากสิน มีเรือของโรงแรมคอยให้บริการ

3.Capella Bangkok 

Capella Bangkok 

โรงแรมคาเพลล่า กรุงเทพ เป็นโรงแรมไฮเอนด์ระดับ Ultra Luxury ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่น่าพักผ่อน ดีไซน์ร่วมสมัย มีกลิ่นของความเป็นไทยผสมผสานกับความโมเดิร์นของ สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม ที่มีมาให้อย่างครบเครื่อง การได้มาพักที่นี่แม้จะอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก็ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศโรงแรมรายรอบด้วยต้นไม้สีเขียว ห้องพักจำนวน 101 ห้องเป็นแบบ Suite และ Villa พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว-นักธุรกิจที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ภายในโรงแรมมีห้องอาหาร เลานจ์ บาร์ สระว่ายน้ำวิวแม่น้ำ ฟิตเนส และมีเรือบริการฟรีสำหรับผู้ที่อยากไปเที่ยว IconSiam ราคาห้องพักเริ่มต้นคืนละ 30,000 บาท

โรงแรมคาเพลล่า ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ ขับรถไปหรือเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส, รถไฟใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

4.Four Seasons Hotel Bangkok

Four Seasons Hotel Bangkok

ที่พักกรุงเทพ น่านอนอีกแห่งหนึ่งคือโรงแรมโฟร์ซีซั่น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดีไซน์ร่วมสมัยสวยงาม มีบริการร้านค้า บาร์ ร้านอาหารนานาชาติ ที่ขึ้นชื่อคือร้านอาหารจีนและติ่มซำ มีคาเฟ่ชิล ๆ น่านั่ง สามารถลงเล่นน้ำในสระแบบอินฟินิตี้มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเดินเล่นในสวนหย่อนใจ ห้องพักมีถึง 299 ห้องพร้อมอาหารเช้าเต็มอิ่ม ราคาห้องพักเริ่มต้นคืนละ 18,000 บาท

โรงแรมโฟร์ซีซั่นตั้งอยู่ที่ 300/2 ถนนเจริญกรุง เขตสาทร กรุงเทพฯ แนะนำเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส, รถไฟใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน

5.Lebua Hotels & Resorts 

Lebua Hotels & Resorts 

โรงแรมเลอบัว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นแบบไทย ๆ บริหารห้องพักหลากหลายระดับที่มี Facility เตรียมไว้ให้ตามมาตรฐานสากล ในส่วนของโรงแรมมีห้องอาหารไฟน์ไดนนิ่งและบาร์สุดหรูที่การันตีคุณภาพจากดาวมิชิลิน ช่วงเวลาที่ดีสุดของที่นี่คือเวลาพลบค่ำ แนะนำทานอาหารที่เดอะโดมของโรงแรมซึ่งมีทั้งอาหารรสเลิศและวิวสุดอลังการริมฝั่งน้ำให้ชื่นชม ส่วนตอนเช้ามี Breakfast ริมสระน้ำ ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป

โรงแรมเลอบัวตั้งอยู่ที่ 1055 ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพ เดินทางด้วยรถยนต์ หรือนั่งเรือ และสามารถขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสไปสงสถานีตากสิน เดินต่อไปยังโรงแรมไม่ไกลมาก

6.Grand Hyatt Erawan 

Grand Hyatt Erawan 

โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ที่พักสุดหรูใกล้สถานีรถไฟฟ้าและย่านธุรกิจ ดีไซน์ห้องพักตกแต่งหรูหรา มีห้องน้ำขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และ Facilities เพิ่มเติมสำหรับผู้พิการ ห้องพักของโรงแรมรวมทั้งหมด 380 ห้อง ราคาเริ่มต้น 6,000 บาท ที่นี่มีสระน้ำอุ่น ห้องประชุม ห้องอาหาร 9 ห้อง อาหารเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม 

โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำริ กรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีชิดลม

7.The Athenee Hotel

The Athenee Hotel

โรงแรมดิ แอทธินี ในเครือแมริออท รายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ทันสมัย ในส่วนของโรงแรมดีไซน์แบบร่วมสมัย สไตล์ Luxury สำหรับร้านอาหารที่นี่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ถึง 8 ร้านด้วยกัน บริการสปา ฟิตเนสครบ และยังมีสระว่ายน้ำฟรีฟอร์มให้ลงเล่นอย่างสบายใจอีกด้วย ราคาเริ่มต้นคืนละ 3,400 บาท

โรงแรมดิ แอทธินี ตั้งอยู่ที่ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี กรุงเทพฯ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเพลินจิต เดินทางสะดวก

8.Waldorf Astoria Hotel 

.Waldorf Astoria Hotel Bangkok

โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสทอเรีย เป็น โรงแรม 5 ดาว ที่สวยโดดเด่น มองจากโรงแรมเห็นวิวสนามม้าเขียวราชกรีฑาสโมสร เหมาะกับการพักผ่อน ห้องพักกว้าง เฟอร์นิเจอร์หรู ภายในโรงแรมมีสปา สระว่ายน้ำเปิดโล่ง ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ร้านอาหารระดับ Fine Dining และบาร์ ผู้เข้าพักจะได้รับการดูแลโดยผู้ช่วยส่วนตัวตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในโรงแรม ราคาเริ่มต้นคืนละ 7,000 บาท

โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสทอเรีย ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี กรุงเทพฯ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีชิดลม

9.Siam Kempinski Hotel

Siam Kempinski Hotel

โรงแรมสยาม เคมปิน สกี้ เป็นสถานที่พักผ่อนที่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งของคนรุ่นใหม่มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสยามพารากอน สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ เป็นอีกหนึ่ง โรงแรมหรูกรุงเทพ ที่มีเอกลักษณ์ไทยและเป็นที่พักในดวงใจของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติ มีห้องพักรองรับบริการถึง 397 ห้องที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบ Luxury ภายในบริเวณโรงแรมมีสระว่ายน้ำ สวนหย่อม สปา ร้านอาหารฝีมือเชฟระดับโลก ราคาเริ่มต้นคืนละ 7,800 บาท

โรงแรมสยาม เคมปิน สกี้ตั้งอยู่ที่ถนนพระรามที่ 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ เดินทางง่ายมากด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีสยาม

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

10.Carlton Hotel Bangkok

Carlton Hotel Bangkok

โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพ โรงแรมมาตรฐานระดับสากล การได้มาพักที่นี่จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยมาก ๆ ภายใต้ดีไซน์การตกแต่งที่ยังคงความเป็นไทยซึ่งสถาปนิกออกแบบได้อย่างลงตัว เปิดให้บริการห้องพัก 338 ห้อง มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง สปา ฟิตเนส สปา ห้องอาหารชั้นเลิศ และคาเฟ่ หลังอาหารมื้อค่ำสามารถขึ้นไปชมวิวแสงไฟระยิบระยับของเมืองหลวงพร้อมจิบค็อกเทลสุดฟินที่บาร์รูฟท็อป ราคาเริ่มต้นคืนละ 5,000 บาท

โรงแรมคาร์ลตัน ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพ ใกล้ห้างเอ็มควอเทีย หลีกเลี่ยงรถติดสามารถขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีอโศกสะดวกมาก

สิ่งอำนวยความสะดวกของ โรงแรม5ดาว ช่วยให้ผู้เข้าพักพักผ่อนได้ดีขึ้นได้อย่างไร

Hotel facility

การได้พักโรงแรมระดับ 5 ดาว จะพรั่งพร้อมไปด้วยบริการชั้นเลิศและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้ผู้เข้าพักได้รับความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งช่วยให้ได้พักผ่อนอย่างสุขสบาย เป็นการผ่อนคลายความเครียด นักธุรกิจระดับสูงมักเลือกพักโรงแรมดี ๆ เพื่อให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนเริ่มทำงานในวันต่อไป ส่วนนักท่องเที่ยวที่อยากให้รางวัลชีวิตกับตัวเองก็ย่อมเลือกการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การพักโรงแรมระดับ 5 ดาวยังมีข้อดีอีกหลายอย่างคือ

  • Hotel Facility มีความทันสมัย และสมบูรณ์แบบ

ต่อให้ผู้มาเยือนไม่ได้พกของใช้ส่วนตัวอะไรมาเลยก็สามารถเข้าพักได้อย่างสะดวกสบาย เพราะที่ห้องพักของโรงแรมจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้ครบแล้ว สามารถใช้งานได้ดี

  • พนักงานโรงแรมดูแลผู้เข้าพักเป็นอย่างดีด้วยความสุภาพ

มีความเอาใจใส่ทุกรายละเอียดอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็น บัตเลอร์ส่วนตัว รูมเซอร์วิส บริการรับจอดรถให้ เทรนเนอร์ส่วนตัวในฟิตเนส

  • โรงแรมหรู จะมีบริการเพื่อสันทนาการที่หลากหลาย

เพื่อให้ผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายเต็มที่ เช่น สระว่ายน้ำอุ่น ห้องเต้นรำ สนามกอล์ฟ ฯลฯ

  • ได้รับประทานอาหารชั้นเลิศที่ได้รับการปรุงอย่างใส่ใจ

ทั้งรสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบ ว่ากันว่า บุฟเฟ่ต์โรงแรมกรุงเทพ เป็นการทานอาหารที่คุ้มค่า ได้ทานของดี ๆ สดใหม่ ได้ปริมาณมาก

การพักโรงแรมระดับ 5 ดาวจึงถือว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวกสบายขั้นสูงสุด ซึ่งสามารถการันตีได้ว่าทุกความคาดหวังของคุณจะได้รับการตอบสนองอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล

แจกพิกัด จุดรับฝากของเซ็นทรัลเวิลด์ | AIRPORTELs

ห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุง Central World เป็นห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลที่มีสาขาใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งห้างนี้เปิดให้บริการตั้งแต่ พ.ศ. 2532 ซึ่งเมื่อก่อนใช้ชื่อว่า “เวิลด์เทรดเซ็นเตอร์” ตั้งอยู่ใจกลางเมือง สี่แยกราชประสงค์ ที่ติดกับถนนพระราม 1 และเพลินจิต เป็นห้างที่เดินทางไปง่าย สะดวก สามารถเดินทางได้โดย BTS และภายในมีโซนต่างๆ แบ่งแยกชัดเจน รวมถึงมีร้านอาหารมากมายให้เราได้เลือกทานกันด้วย

แอร์พอเทลล์ เป็นบริการรับฝากกระเป๋าในห้างสรรพสินค้า Central World ที่จะมาช่วยให้การช็อปปิ้งของทุกคนสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เราเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านกระเป๋าของนักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งกระเป๋าหรือฝากกระเป๋า

Central World เป็นอีกหนึ่งจุดที่ที่มีเคาน์เตอร์แอร์พอเทลล์ให้บริการ โดยเรามีบริการฝากกระเป๋าเดินทางในห้างทั้งระยะสั้น และระยะยาว หรือจะส่งกระเป๋าให้ไปอยู่ที่สนามบินหรือที่บ้านก็ได้ โดยเคาน์เตอร์ของเราตั้งอยู่ใน Central World ชั้น 1 โซน Groove ตรงข้ามกับธนาคารกรุงเทพ

AIPORTELS Guide

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบอกข้อมูลเกี่ยวกับบริการฝากกระเป๋า เซ็นทรัลเวิลด์ หากเพื่อนๆ ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการส่งกระเป๋าสามารถตรวจสอบได้จาก บริการส่งกระไปต่างจังหวัด

ที่ฝากกระเป๋า Central World

Central World เป็นสาขาหลักๆของ AIRPORTELs เนื่องจากตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน ในแต่ละวัน นอกจากนี้นักท่องเที่ยวยังมาจับจ่ายซื้อของ หรือรับประทานอาหารทำให้เป็นเคาน์เตอร์บริการของแอร์พอเทลล์เป็นจุดรับฝากของเซ็นทรัลยอดฮิต

เคาน์เตอร์ของเราเป็นเคาน์เตอร์สีดำทอง มีพื้นขนาดใหญ่สามารถเก็บกระเป๋าได้มากกว่า 1,000 ใบ ใครจะมาใช้บริการแน่นอนว่าจะเห็นสีเหลืองมาแต่ไกลเลยยยย

AIRPORTELs Central World อยู่ตรงไหน

  • เปิดบริการทุกวัน : 10:00 a.m. – 22:00 p.m.

AIPORTELS Guide

ดูวิธีการเดินทางได้เพิ่มเติมได้แล้ว จาก พี่ๆ AIRPORTELs จาก ที่นี่

ฝากกระเซ็นทรัลเวิลด์ราคาเท่าไหร่

  • ฝากกระเป๋าใบเล็ก ชั่วโมงละ 30 บาท/ชิ้น และ ใบใหญ่ชั่วโมงละ 60 บาท/ชิ้น
  • ฝากกระเป๋า 1 วัน 150 บาท/ชิ้น
  • ฝากกระเป๋า 1 สัปดาห์ 750 บาท/ชิ้น
  • ฝากกระเป๋า 1 เดือน 3,000 บาท/ชิ้น
  • ไม่เพียงแต่กระเป๋าเดินทางที่เรารับฝาก แต่สัมภาระอื่นเช่นอุปกรณ์กีฬา ไม่ว่าจะเป็นถุงกอล์ฟหรือจักรยาน เราก็รับฝาก รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โน๊ตบุ๊ค ซึ่งหลายๆที่มักจะไม่รับฝากเพราะมีราคาสูง โดยค่าบริการฝากมีรายละเอียดดังนี้
  • ฝากกระเป๋า 1 วัน 200 บาท/ชิ้น
  • ฝากกระเป๋า 1 สัปดาห์ 1,000 บาท/ชิ้น
  • ฝากกระเป๋า 1 เดือน 4,000 บาท/ชิ้น

ทำไมต้องใช้ AIRPORTELs

  • ช่วยให้คุณบริหารจัดการเวลาและแผนการเดินทางได้ดียิ่งขึ้น
  • ประกันภัยสำหรับกระเป๋ามูลค่าสูงสุด 50,000 บาท
  • มีบริการฝากแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน
  • เราพร้อมให้บริการขนส่งกระเป๋า จากสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ไปยังโรงแรม บ้าน คอนโด หรือที่พักที่คุณกำหนด

การฝากกระเป๋ากับแอร์พอเทลล์นั้นไม่ยุ่งยาก ไม่ว่ากระเป๋าคุณจะขนาดจะใหญ่ หรือน้ำหนักจะมากขนาดไหนเราก็รับฝากในราคาเท่ากัน แอร์พอเทลล์เราคำนึงถึงความปลอดภัยของกระเป๋าทุกใบ กระเป๋าทุกใบจะถูกเก็บอย่างดีและปลอดภัย

นอกจากนี้แอร์พอเทลล์ยังมีห้องเก็บกระเป๋าใน สนามบินสุวรรณภูมิ ที่สามารถเก็บกระเป๋าได้กว่า 2,000 ใบ ในห้องที่มี CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง เราเชื่อว่าเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคนดังนั้นอย่าให้กระเป๋า หรือสัมภาระต่างๆทำให้คุณเสียเวลา

มีบริการฝากที่อื่นๆ อีกไหม

เปิดประสบการณ์การนอนในสนามบิน อัพเดตที่พักในสุวรรณภูมิ 2023

ห้องพักรายวันแถว สนามบินสุวรรณภูมิ มีอยู่หลายสิบแห่ง เดินทางเพียง 5 นาทีถึง ราคาหลักร้อย ประหยัดและพักสบายเหมาะสำหรับคนที่รอขึ้นเครื่องข้ามวัน ส่วนคนที่ต้องการแค่ที่พักเอนหลังสักสองสามชั่วโมง ไม่อยากตกเครื่อง และไม่อยากนอนรอตามเก้าอี้สนามบิน ไม่ควรพลาดเช็คอินโรงแรมลับในสนามบิน เช็คอินเวลาไหนก็ได้ จ่ายค่าห้องรายชั่วโมงหรือรายวัน สะดวกมากและราคาไม่แพง รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็กเกอร์โดยเฉพาะ มาดูกันว่าพักที่ไหนได้บ้าง

 

1.Boxtel Suvarnabhumi Airport

โรงแรมในสนามบินที่ว่ากันว่าเป็นโรงแรมลับแห่งนั้นคือ “Boxtel” โรงแรมรายชั่วโมงที่อยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมินั่นเอง ไฮไลท์ของโรงแรมแคปซูลคือห้องพักส่วนตัวขนาดเล็กสำหรับนอนพักผ่อนช่วงสั้น ๆ ระหว่างรอขึ้นเครื่องหรือเปลี่ยนเครื่องเนื่องจากเที่ยวบินมีปัญหา ได้นอนพักในห้องสะอาดสักงีบประหยัดแรงหายเหนื่อยดีกว่านอนตามเก้าอี้เหนื่อย ๆ ง่วง ๆ โดยไม่ต้องเดินทางออกไปนอกสนามบิน ไม่ต้องเสี่ยงกับรถติดกลับมาขึ้นเครื่องไม่ทันเวลา สามารถเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เพื่อขึ้นรถโดยสารสาธารณะได้โดยไม่ต้องต่อรถใดๆ ไม่ต้องเสี่ยงกับรถติดกลับมาขึ้นเครื่องไม่ทันเวลา สามารถเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เพื่อขึ้นรถโดยสารสาธารณะได้โดยไม่ต้องต่อรถใด ๆ 

 
 

โรงแรม Boxtel สำหรับนักท่องเที่ยวเป็นห้องเตียงเดี่ยวสำหรับนอนคนเดียว มีระบบปรับอากาศ คำนวณราคาค่าห้องเป็นรายชั่วโมง จ่ายสบายกระเป๋าราคาถูกกว่าอัตราค้างคืนโรงแรมทั่วไป พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ฟรี ค่าบริการ 925-972 บาท/ห้อง/คืน จองโปรโมชั่นพักนาน 12 ช.ม. เหมาจ่าย 2,100 บาท สามารถจองห้องพักทางออนไลน์หรือโทรสอบถามข้อมูลโปรโมชั่นได้ตลอดเวลา นอกจากบริการห้องพักแล้วยังมีบริการรับฝากกระเป๋า ค่าบริการเริ่มต้นที่ 80 บาท/วัน หรือนำกระเป๋ามาฝากกับเราAIRPORTELs ในราคา 100บาท/วัน สามารถจองห้องพักผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงในเว็บไซต์ Traveloka.com

 

รีวิวห้องพักที่ Boxtel 

ใครสนใจใช้บริการห้องพักรายชั่วโมงของโรงแรม BOXTEL ในสนามบินสุวรรณภูมิ เดินหาไม่ยาก เพราะตั้งอยู่บริเวณชั้น B หรือชั้นใต้ดินตรงโซนแอร์พอร์ตลิงก์ สถานีสุวรรณภูมิ เหมาะแก่การเดินทางรถสาธารณะอย่างมาก รีวิวห้องพักจากนักเดินทางหลายคนที่ลองไปบริการกันมาแล้ว ห้องพักมีลักษณะเป็นห้องไม้ทรงกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดประมาณ 4 ตารางเมตร มีความเป็นส่วนตัว พื้นที่ไม่กว้างใหญ่แต่ไม่คับแคบเกินไป ภายในห้องพักมีเตียงเดี่ยวและเครื่องนอนคุณภาพเยี่ยมเทียบเท่ามาตรฐานโรงแรม 5 ดาว มีกระจกเงาด้วย ผู้ใหญ่นอนคนเดียวสบายหรือมีเด็กเล็กนอนด้วยได้อีกคน (เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร) แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ต้องนอนแยกเดี่ยวเท่านั้น ประตูห้องพักเป็นระบบสมาร์ทคีย์ ในห้องมีปลั๊กไฟ และรหัส Wi-Fi ให้ใช้ฟรี มีโต๊ะพับเอาไว้เขียน นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือก็ได้

ในห้องพักแบบ BOXTEL ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว ด้วยขนาดพื้นที่จำกัด ห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วนออกไปก็เป็นเรื่องดี เดินไปไม่ไกลใช้ห้องน้ำส่วนกลางของแอร์พอร์ตลิงก์ได้ มีปุ่มกดเรียกพนักงานเมื่อ ต้องการความช่วยเหลือและบริการโทรปลุกแขกที่อยู่ในห้องพัก (Wake Up Call) ไม่ต้องกังวลว่าจะนอนหลับเพลินจนตื่นมาขึ้นเครื่องไม่ทัน บริเวณใกล้เคียงห้องพักมีตู้ ATM และบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ห้องพักของ BOXTEL เปิดบริการมานานกว่า 6 ปีแล้ว มั่นใจในบริการที่มีคุณภาพได้แน่นอน

 

2. Avagard Capsule Hotel

อวกาศ แคปซูล โฮเทล เป็น โรงแรมในสนามบิน อีกแห่งที่หลายคนสนใจเข้ามาเช็คอิน สัมผัสประสบการณ์นอนชิล ๆ ในโรงแรมแคปซูลสักครั้ง ให้บริการห้องพักส่วนตัวสุดชิค บรรยากาศห้องพักสะอาดมากและเรียบง่าย ห้องพักของที่นี่มีล็อกเกอร์ให้เก็บกระเป๋าสัมภาระ 1 ช่องด้วย โรงแรมอวกาศ แคปซูลตั้งอยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิสะดวกมาก ๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อนระยะสั้นรอต่อเครื่อง ค่าบริการ 589-1,439 บาท/ห้อง/คืน ปัจจุบันโรงแรมแคปซูลได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ไม่ได้บริการเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น คนไทยที่เดินทางขึ้นเครื่องตอนเช้ามืดหรือลงเครื่องกลางดึกสำรองห้องพักเข้าใช้บริการพักค้างคืนได้ไม่ต้องนั่งแท็กซี่เสี่ยงอันตรายตอนกลางคืน

  

รีวิวห้องพักที่ Avagard Capsule Hotel

โรงแรมแคปซูลสำหรับนอนหลับพักผ่อนมีลักษณะเป็นห้องเล็กกะทัดรัดดีไซน์ล้ำสมัยเหมือนยุคอวกาศ มีเครื่องใช้บริการในแคปซูลสำหรับ 1 คน เป็นเตียงควีนไซส์และชุดเครื่องนอนสะอาดคุณภาพดี ในห้องแคปซูลมีที่เก็บกระเป๋าเดินทาง ช่องชาร์จ USB พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ฟรี และไฟอ่านหนังสือ ด้านในยังมีกล้องวงจรปิดคอยรักษาความปลอดภัยไว้ให้ด้วย แต่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว ใช้ห้องน้ำส่วนกลางของแอร์พอร์ตลิงก์ได้ ใกล้ ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งใกล้ที่พักเพียงไม่กี่ก้าว ใครอยากรู้จักโรงแรมแคปซูล อย่าพลาดเข้าไปสำรองห้องพักกัน

  

บริการโรงแรมในสนามบินสุวรรณภูมิเหมาะกับใครบ้าง

ถ้าบ้านไกลต้องบินเช้ามืด ไม่คิดจะเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ตีสี่ แต่ก็ไม่อยากพลาดเที่ยวบิน เพียงจองห้องพักแบบส่วนตัวเข้ามาเอนหลังรอก่อนขึ้นเครื่องได้ที่ Boxtel และ Avagard Capsuleไม่ต้องนั่ง ๆ นอน ๆ รอเครื่องตามเก้าอี้สนามบินเป็นเวลานาน ๆ ไปนอนรอที่สนามบินเลยทั้งสะดวกและประหยัดเงินกว่าค่าห้องพักของโรงแรมใกล้สนามบิน เนื่องจากแอร์พอร์ตลิงก์สุวรรณภูมิเปิดเที่ยวแรกเวลา 05.30 น. และเที่ยวสุดท้ายเวลาประมาณเที่ยงคืน หากกลับไฟล์ทดึก รถไฟฟ้าหมดและเรียกแท็กซี่ยาก แต่ลงเครื่องดึกแค่ไหนก็เข้าเช็คอินห้องพักที่นี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งต้องแบกสัมภาระเดินทางด้วย การพักโรงแรมใน สนามบินสุวรรณภูมิเป็นทางเลือกที่สะดวกมากเพราะไม่ต้องแบกกระเป๋าเดินทางออกนอกอาคารสนามบิน

เปรียบเทียบกับโรงแรมทั่วไปแล้ว โรงแรมในสนามบินทั้งสองแห่งให้ความสะดวกสบายสำหรับคนที่มีเที่ยวบินเช้าหรือรอต่อเครื่องนานหลายชั่วโมง ห้องพักสะอาดตาราคาหลักร้อยอาจดูย่อมเยากว่าค่าห้องนอนส่วนตัวในโรงแรมอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้สนามบินที่ให้ความสะดวกสบายและกว้างขวางกว่ามาก แต่ชดเชยกับความสบายใจว่าจะไม่พลาดเที่ยวบินสำคัญแน่นอน

 

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 299 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯ

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

โปรโมชั่นพิเศษ

ฝากกระเป๋าฟรี 4 ชั่วโมงแรก ที่MBK CENTER

ติดต่อเรา

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 02 026 6927

Website: Luggage Delivery Bangkok

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

ที่มาข้อมูล : 

AIRPORTELs Sukhumvit Terminal 21

AIRPORTELs Sukhumvit Terminal 21

อโศก-สุขุมวิท เป็นแหล่งท่องเที่ยวและช็อปปิงที่เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์ดังให้เลือกสรรมากมาย โดยสินค้าเฉพาะแบรนด์เนม รวมถึง Food Court ที่ขึ้นชื่อในเรื่องราคาถูก เป็นที่สนใจของทั้งคนไทยและต่างชาติมากเลยทีเดียว ซึ่งใครที่กำลังมาในย่านนี้และกำลังมองหาที่ฝากกระเป๋าอโศกหรือที่ฝากสัมภาระอโศก เพื่อฝากกระเป๋าหรือสัมภาระระหว่างชอปปิง ไม่ว่าจะฝากสินค้าที่ซื้อมาหรือสัมภาระที่ติดตัวมาด้วย ก็สบายใจได้ ฝากกระเป๋าปลอดภัย ไม่หาย ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ด้วยบริการฝากกระเป๋า Terminal 21 จาก AIRPORTELs 

เวลาเปิดทำการ: 10:00 – 22:00 น.

เบอร์ติดต่อ:  02-026-6927

Bts sky train

วิธีการเดินทางไป AIRPORTELs Sukhumvit Terminal 21

– ด้วยรถไฟฟ้า BTS: เลือกเส้นทางสายสุขุมวิท ลงสถานีอโศก ทางออกที่ 1 แล้วไปที่ชั้น 1 โซนโตเกียว บริเวณทางออกลานจอดรถ
– ด้วยรถไฟฟ้า MRT: เลือกเส้นทางสายสีน้ำเงิน (สายเฉลิมรัชมงคล) ลงสถานีสุขุมวิท ทางออกที่ 3 แล้วไปที่ชั้น 1 โซนโตเกียว บริเวณทางออกลานจอดรถ
– ด้วยรถส่วนตัว: เดินทางมายังเส้นถนนสุขุมวิทหรือถนนรัชดาภิเษกมายังจุดหมายแยกอโศก
– ด้วยรถสาธารณะ:   รสบัสประจำทาง สาย 136,สาย  185, สาย 2, สาย 25,สาย 38, สาย 40 (ปอ.) และ สาย 511 (ปอ.) 

Airportels services

ขั้นตอนการฝากกระเป๋าอโศก

การฝากกระเป๋าอโศกที่ AIRPORTELs สาขา Terminal 21 ไม่ยุ่งยาก มีเพียงไม่กี่ขั้นตอนเท่านั้น ก็ไปเที่ยวต่อหรือชอปปิงในย่านนี้ได้อย่างสบายใจ ไร้กังวล สามารถจองได้ 2 วิธีด้วยกัน

วิธีที่ 1 จองผ่านช่องทางออนไลน์

  • จองฝากกระเป๋าได้ที่เว็บไซต์ AIRPOTELs ที่นี่ 
  • เลือกจุกฝากสัมภาระและวันที่ต้องการ
  • ตรวจสอบข้อมูลก่อนยืนยัน
  • ชำระเงินผ่านบัตรเครดิต

วิธีที่ 2 Walk-in ฝากกระเป๋า Terminal 21

  • ไปที่ AIRPOTELs สาขา Terminal 21 ชั้น 1 โซนโตเกียว บริเวณทางออกไปอาคารจอดรถ
  • ชำระเงินที่เคาน์เตอร์
Airportels Terminal21

ภาพบรรยากาศ AIRPORTELs Sukhumvit Terminal 21

ฝากกระเป๋า Terminal 21 เดินมาที่ชั้น 1 โซนโตเกียว บริเวณทางออกไปยังลานจอดรถ แล้วมองหา AIRPORTELs บริเวณที่มีสีเหลืองและเคาน์เตอร์ที่มีสีทองได้เลย 

Airportels Terminal21

บริการ ราคาและเงื่อนไข

AIRPORTELs ไม่เพียงแต่มีบริการฝากกระเป๋าเท่านั้น แต่ยังมีบริการส่งกระเป๋าหรือสัมภาระอีกด้วย โดยการให้บริการไม่จำกัดน้ำหนัก ไม่จำกัดขนาดกระเป๋า ไม่จำกัดระยะทาง คิดราคาแบบเหมา พร้อมกับมีระบบติดตามสัมภาระให้สามารถเช็กได้ว่าตอนนี้สัมภาระอยู่ที่ไหน มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ของไม่หายแน่นอน เมื่อใช้บริการกับ AIRPORTELs 

ฝากกระเป๋า

บริการฝากกระเป๋าที่อโศกหรือฝากสัมภาระที่อโศก ของ AIRPORTELs นั้นไม่เพียงแต่รับฝากกระเป๋าแต่ยังรับฝากสัมภาระของอื่นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นสินค้า เสื้อผ้าที่ช็อปปิง รวมไปถึง Laptop Notebook ด้วย โดยคิดราคาค่าบริการเป็นแบบเหมาต่อชิ้น โดยไม่จำกัดน้ำหนักและไม่จำกัดขนาดของสัมภาระ โดยราคาเริ่มต้นฝากกระเป๋าที่ Terminal 21 ราคาเหมา 1 วันอยู่ที่ 150.- ต่อกระเป๋า 1 ใบหรือสัมภาระ 1 ชิ้น 

ส่งสัมภาระ

บริการส่งสัมภาระ เป็นอีกบริการที่ตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอปปิงเยอะหรือมีสัมภาระจำนวนหลายชิ้น ไม่สะดวกขนย้ายหรือพกพาไปด้วยตัวเอง สามารถให้ AIRPORTELs ช่วยส่งสัมภาระถึงที่พัก โรงแรมหรือที่บ้านได้เลย ค่าบริการเริ่มต้นเพียง 299.- เท่านั้น ส่งได้ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด โดยการส่งสัมภาระในจังหวัดจะนัดส่งกระเป๋าที่จุด Drop off หรือให้เจ้าหน้าที่เข้ามารับถึงที่ก็ได้ ส่วนการส่งสัมภาระต่างจังหวัดสามารถส่งกระเป๋าถึงโรงแรมหรือที่บ้านได้เลย

 4 เรื่องที่ทำให้คุณต้องใช้บริการของ AIRPORTELs

มองหาที่ฝากกระเป๋า Terminal 21 หรือที่ฝากสัมภาระย่านอโศก เลือกใช้บริการกับ AIRPORTELs มั่นใจกว่า ปลอดภัย ช่วยให้ท่องเที่ยวได้สบายใจและสะดวกกว่าเดิม ไม่ต้องกังวลกับการแบกสัมภาระหรือลากกระเป๋าไปด้วย 

1. ใช้งานง่าย จองผ่านเว็บไซต์ได้

สามารถจองฝากกระเป๋าที่ Terminal 21 อโศกหรือบริการส่งสัมภาระได้ง่ายๆ ผ่านเว็บไซต์ตลอด 24 ชั่วโมง ทำการจองได้จากทุกที่ทั่วโลกหรือจะเข้ามาติดต่อใช้บริการฝากกระเป๋าและบริการส่งสัมภาระที่สาขาต่างๆ ของ AIRPOTELs ก็สะดวกเช่นกัน ด้วยพื้นที่สาขาที่ครอบคลุมทั่วกรุงเทพฯ ได้แก่ สาขาสนามบินสุวรรณภูมิ สาขาสนามบินดอนเมือง สาขา MBK Center สาขา Central World และสาขา Terminal 21 อโศก

2.ประหยัดเวลาและเงิน

AIRPOTELs ช่วยให้ประหยัดเวลาและเงินได้เยอะ เมื่อเทียบกับค่าเดินทางเมื่อไปฝากและรับกระเป๋าที่โรงแรม ค่าโหลดกระเป๋า ช่วยให้หมดกังวลเรื่องสัมภาระที่ฝากกับไฟลต์บินที่กำลังจะมาถึงเพราะ AIRPOTELs สาขาสนามบินสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง 

 3. รวดเร็วและสะดวก

บริการรับ-ส่งกระเป๋า สัมภาระจาก AIRPOTELs ช่วยให้ประหยัดเวลาได้เยอะมาก ด้วยบริการส่งสัมภาระถึงที่หมายภายใน 6 ชั่วโมงหรือบริการส่งสัมภาระถึงที่แบบด่วนภายใน 3 ชั่วโมง ท่องเที่ยวได้สะดวกสบายไร้กังวล

 4. ปลอดภัย ไว้ใจได้

Airportels Terminal21

ใช้บริการฝากกระเป๋าหรือส่งสัมภาระถึงที่หมายกับ AIRPOTELs มั่นใจได้ว่าปลอดภัย ของไม่หายแน่นอน ด้วยบริการประกันค่าเสียหายสูงสุด 50,000 บาท ระบบตรวจเช็กสถานะสัมภาระ และระบบความปลอดภัยที่ช่วยดูแลสัมภาระตลอด 24 ชั่วโมง

เที่ยวสบายไม่ต้องแบกของ ด้วยบริการฝากกระเป๋า |AIRPORTELs

เที่ยวสบายไม่ต้องแบกของ ด้วยบริการฝากกระเป๋า

ฝากกระเป๋ากับ AIRPORTELs

ฝากกระเป๋า AIRPORTELs

กรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางความเจริญของประเทศไทยที่มีจุดท่องเที่ยวหลายจุด ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ให้คุณได้ผจญภัยไปกับดินแดนแห่งนี้ที่มีทั้งห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ศิลปะวัฒนธรรมอันสวยงาม หรือแม้แต่ลองชิมอาหารอร่อยๆ ที่มีรสชาติแบบไทยแท้ที่รอให้คุณได้มาสัมผัส ดังนั้นมาเตรียมตัวให้พร้อมที่จะเข้าสู่กรุงเทพมหานคร ดินแดนที่ครองอันดับต้นๆ ของโลกในเรื่องของการพักผ่อนและท่องเที่ยว

เมื่อเข้าสู่กรุงเทพมหานครแล้ว หลายๆ คนคงพลาดไม่ได้กับการเดินชอปปิงของดีราคาถูกในกรุงเทพ หากเดินถือกระเป๋าเดินทางไปด้วย ถือถุงชอปปิงไปด้วยคงลำบากน่าดู หากมีแหล่งฝากกระเป๋าใจกลางกรุงเทพคงจะดีไม่ใช่น้อย โดยทาง AIRPORTELs เป็นบริษัทชั้นนำที่มีบริการดีๆ อย่างบริการการฝากกระเป๋าที่พร้อมอำนวยความสะดวกให้คุณได้ใช้เวลาสำรวจประเทศไทยได้อย่างเต็มที่

บริการฝากกระเป๋าทำงานอย่างไร ?

บริการฝากกระเป๋า หรือฝากสัมภาระกับทาง AIRPORTELs นั้น มีเคาน์เตอร์บริการทั้งหมด 6 จุดรอบกรุงเทพมหานคร ได้แก่ 

  1. สนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณชั้น B ใกล้กับแอร์พอร์ตเรลลิงก์
  2. สนามบินดอนเมือง บริเวณอาคารผู้โดยสาร 2 ชั้น 1 ใกล้กับเกท 9
  3. ห้างสรรพสินค้า Central World บริเวณชั้น 1 โซน Groove
  4. ห้างสรรพสินค้า MBK Center บริเวณชั้น 6 โซน B
  5. ห้างสรรพสินค้า Terminal 21 อโศก บริเวณชั้น 1 โซนโตเกียว
  6. ห้างสรรพสินค้า Mixt Chatuchak บริเวณชั้น 2 โซน บี

โดยมีขั้นตอนการฝากกระเป๋าทั้งหมด เพียง 3 ขั้นตอน ได้แก่

ฝาก กระเป๋า

Step 1 : ฝาก

เริ่มจากขั้นตอนที่1 การฝากกระเป๋า แบกกันมาให้เต็มที่ จะถือมากี่ใบก็ได้ หนักเท่าไหร่ก็ได้ ไม่จำกัดขนาดกระเป๋าอีก สามารถเลือกติดต่อเคาน์เตอร์บริการทั้ง 6 แห่งได้ตามความสะดวก

ที่ ฝาก กระเป๋า

 Step 2 : ช้อป

ฝากสัมภาระเสร็จแล้ว ก็ชอปปิงให้เต็มที่! จะเที่ยวไหนก็สนุกสุดเหวี่ยงไม่ต้องกังวลเรื่องของหายอีกต่อไป อีกทั้งยังมั่นใจได้ว่าที่ฝากสัมภาระของทาง AIRPORTELs นั้นมีความปลอดภัย แล้วยังเปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจรดเย็นอีกด้วย

รับ กระเป๋า

Step 3 : รับ

หลังจากชอปปิง เดินเที่ยวจนหนำใจ สามารถมาแวะรับกระเป๋าได้ที่จุดฝากสัมภาระ โดยนำใบเสร็จรับ (Receive Slip) ยื่นให้พนักงานเค้าน์เตอร์ และตรวจสอบสัมภาระให้เรียบร้อย เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการใช้บริการฝากกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว

ฝากกระเป๋า

ทำไมต้องฝากกระเป๋า ?

ทำไมต้องฝากกระเป๋า ฝากกระเป๋าดียังไง? มาดูข้อดีของการฝากกระเป๋ากับทาง AIRPORTELs กันดีกว่า

  • ฝากกระเป๋าช่วยลดภาระการแบกของ
  • ฝากกระเป๋าทำให้สามารถเดินเที่ยว หรือชอปปิงได้ตามสะดวก ของไม่เกะกะใคร
  • สามารถฝากกระเป๋าแบบไหนก็ได้ อีกทั้งยังฝากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์กีฬาได้อีก
  • ช่วยอำนวยความสะดวก รวดเร็ว มีเว็บไซต์ให้เข้าไปจองที่ฝากกระเป๋าก่อน หมดปัญหาที่ฝากกระเป๋าเต็ม
  • เพิ่มความปลอดภัย เนื่องจากมีระบบ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง
  • บริการฝากกระเป๋าช่วยลดโอกาสเสี่ยงการลืมของ หรือของหาย
  • หากกระเป๋าเกิดการสูญหาย บริษัทมีวงเงินชดเชยให้สูงสุดถึง 50,000 บาทต่อใบ
ที่ ฝาก กระเป๋า

บริการฝากกระเป๋าเหมาะกับ ใครบ้าง ?

บริการฝากกระเป๋าเหมาะกับใครบ้าง? แน่นอนว่าการฝากกระเป๋านั้นช่วยอำนวยความสะดวกมากมาย ตอบโจทย์ในเรื่องของการเดินทาง ทำให้การเดินทางของคุณสะดวกสบาย ลดภาระในการแบกของหนัก อีกทั้งยังลดความเสี่ยงที่จะลืมของอีกด้วย โดยบริการฝากกระเป๋าเหมาะกับผู้คนหลายแบบ

1. Shop hoppers

สายชอปปิงตัวแม่ต้องมาลองฝากกระเป๋ากับทาง AIRPORTELs ดู เพราะที่นี่มีบริการที่หลากหลาย และไม่ได้จำกัดว่าของที่ฝากต้องเป็นกระเป๋าเดินทางเท่านั้น สามารถฝากถุงชอปปิง หรือของที่เพิ่งซื้อมาได้เลย จะฝากไว้เท่าไหร่ก็ได้อีก ให้คุณได้ชอปปิงได้อย่างจุใจ แล้วค่อยกลับมารับกระเป๋าได้ตามเวลาที่ต้องการ 

2. Backpackers

สายแบกต้องชอบบริการนี้ เหล่านักท่องเที่ยวสายลุย แบกกระเป๋าเต็มสองไหล่อยู่ตลอด ถือของหนักๆ ไว้เต็มบ่า คงอยากหาพื้นที่ฝากกระเป๋าไว้สักพัก แล้วค่อยกลับมารับ บริการฝากกระเป๋าจึงตอบโจทย์ของแบ็กแพ็กเกอร์ที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในไทย ให้คุณได้สำรวจประเทศไทยแบบใกล้ชิด แล้วยังเบาไหล่อีกด้วย

3. Travelers

นักท่องเที่ยวที่เที่ยวประเทศไทยก็ใช้บริการฝากกระเป๋าได้ บางคนเพิ่งลงจากสนามบินก็วางแผนตรงเข้ามาที่กรุงเทพมหานครเลย กว่าจะรอ Check-in เข้าที่พักก็ต้องรอเวลาถึงช่วงบ่าย จะเดินไปด้วยถือกระเป๋าเดินทางด้วย ก็ไม่สะดวกอีก บริการฝากสัมภาระถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกดีๆ ที่จะช่วยให้การท่องเที่ยวของคุณสนุกสนานมากยิ่งขึ้น

4. Everyones

บริการฝากกระเป๋าตอบโจทย์กับทุกคน ไม่ว่าจะทำอาชีพอะไร เพียงมีของเยอะแล้วอยากหาที่วางของ ก็สามารถมาฝากกระเป๋าไว้ได้เลย ทั้งนี้บริการของ AIRPORTELs นั้นมีความปลอดภัยสูง อีกทั้งยังสามารถฝากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้อีกด้วย ให้คุณมั่นใจได้ว่าการฝากกระเป๋าครั้งนี้คุ้มค่า คุ้มราคา ตอบโจทย์ความสะดวกสบายได้อย่างเต็มที่

Airportels ที่ฝากกระเป๋า

จะเห็นได้ว่าบริการฝากกระเป๋านั้น สามารถอำนวยความสะดวกให้กับทุกๆ คน โดยบริการฝากกระเป๋าของ AIRPORTELs มีจุดให้บริการถึง 5 แห่งทั่วกรุงเทพ สามารถไปลองใช้บริการได้ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ แถมค่าบริการก็ไม่แพง เริ่มต้นที่ 100 บาทต่อใบต่อวัน อีกทั้งบางเคาน์เตอร์ยังสามารถฝากกระเป๋าแบบฟรีๆ ไม่มีค่าใช้จ่ายได้ถึง 2 ชั่วโมงเต็ม* สามารถเข้าไปจองฝากกระเป๋าแบบล่วงหน้าได้ ที่นี่

ปักหมุดลุย! 22 ที่เที่ยว เขาใหญ่ เปิดใหม่ บรรยากาศดี ถ่ายรูปสวย อัพเดทล่าสุด 2022

ถ้าอยากเที่ยว หน้าหนาว แต่ไม่อยากเดินทางไกล ปักหมุดไป 22 จุดเช็คอินเขาใหญ่ก็เอาอยู่ รับประกันวิวปังถ่ายรูปสวยเทียบชั้นต่างประเทศ อัพเดทสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจตามในลิสต์นี้แล้วเซฟเก็บไว้เลยเพื่อเป็นแผนสำหรับการท่องเที่ยวในครั้งต่อไป

The Campus Khaoyai

Local Market ริมถนนธนะรัชต์ที่น่าเดิน มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และแหล่งช้อปสินค้าออแกนิคสดใหม่ ปลายปีที่แล้วจัดเทศกาลฉลองคริสต์มาสได้บรรยากาศ เมืองนอก มาก ๆ ปีนี้รอชมความอลังการกันอีกครั้ง

(Image credit: https://www.facebook.com/Thecampuskhaoyai)

Flowermountain Khaoyai

ชมพันธุ์ไม้เมืองหนาวที่อบอวลไปด้วยความสวยและหอม ถ่ายรูปกับมวลบุปผาได้ตลอดวัน จะนอนพักที่นี่เลยก็ได้ มีรีสอร์ทสวยน่าอยู่ ทุ่งดอกไม้ฟลาวเวอร์เมาน์เทนอยู่ใกล้ตลาดน้ำเขาใหญ่ 

(Image credit: https://www.facebook.com/search/top/?q=Flowermountain%20Khaoyai)

Assana Cafe 

คาเฟ่ริมลำตะคองลมพัดเย็นสบาย เที่ยวได้ทุกฤดู นั่งจิบกาแฟและเครื่องดื่มแล้วอย่าลืมสั่งเบเกอรีมาชิม หรือจะจัดของหนักเป็นเมนูจานหลักก็อร่อยได้อีก

(Image credit: https://www.facebook.com/Assanacafe/)

Timber Tales Cafe and Bistro Khaoyai 

คาเฟ่สวยอร่อย ในธีมป่า 360 องศา เดินเข้าไปจะรู้สึกเหมือนกำลังปลีกวิเวกกลางป่า อาหารอร่อยหลากสไตล์ทั้งไทยและตะวันตก เมนูซิกเนเจอร์คือมะม่วงเบาปั่นที่ยังหาชิมที่ไหนได้ไม่อร่อยเท่า 

(Image credit: https://www.facebook.com/timbertaleskhaoyai)

Zen Villa Khaoyai

อยากได้ ที่พักฟิลเมืองนอก มาที่นี่เลย รีสอร์ทสไตล์ญี่ปุ่นตกแต่งแนวเซน อยากได้โมเมนต์แบบเจแปนนิสจ๋าต้องไป เลี้ยวเข้าถนนธนะรัชต์ไปไม่ไกลก็เจอแล้ว

(Image credit: https://www.facebook.com/zenvillakhaoyai)

Khaam Khaoyai 

คาเฟ่ที่ได้รับการกล่าวขานในความเป็นเจแปนนิสอย่างมาก ตกแต่งบรรยากาศโดยผสมผสานกับไม้ไทยโบราณอย่างต้นมะขามได้ลงตัว เป็นคาเฟ่มาแรงที่ห้ามพลาด 

(Image credit: https://www.facebook.com/KhaamKhaoyai)

ทุ่งกังหันลมและภูเขาเควสตา 

หนาวนี้ออกไป รับบรรยากาศบริสุทธิ์ กับวิวกังหันลมกันบ้างที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง แหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดและภูเขาเควสตาที่มีความสวยงามแปลกตา 

(Image credit: https://www.facebook.com/Chillpainai/)

ไร่องุ่น GranMonte

พาครอบครัวไปร่วม กิจกรรม ทัวร์ไร่องุ่นที่กราน-มอนเต้ สนุกและได้ความรู้ ไปดูเขาปลูกองุ่นและกรรมวิธีบ่มไวน์ สัมผัสวิถีชีวิตชาวไร่และชิมอาหารอร่อยที่ร้าน VinCotto สไตล์โฮมเมดเข้าบรรยากาศ  

(Image credit: https://www.facebook.com/granmonte/)

Khao Yai Farm Village

ใครชอบท่องเที่ยวเชิงเกษตรและอยากทำ กิจกรรม ร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวต้องไปที่เขาใหญ่ฟาร์ม วิลเลจ ไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่เก็บความทรงจำที่ดีไว้ได้ยาวนาน

(Image credit: https://www.facebook.com/khaoyai.farmvillage.fanpage/)

Journey Cafe Khaoyai 

อยู่ภูเขาแต่ตกแต่งแนวคาเฟ่ริมทะเลกระชากอารมณ์คนไปเที่ยวแบบสุด ๆ และยังได้เก็บโมเมนต์ดี ๆ ระหว่างจิบกาแฟข้างหอไอเฟลอีกด้วย ที่นี่เหมาะ เที่ยวได้ทุกฤดู 

(Image credit: https://www.facebook.com/Journeycafekhaoyai/)

Chowbarn E-SAN SOUL CAFE 

เป็น คาเฟ่สวยอร่อย ที่ต้องแนะนำให้ไปชิมแหนมห่อใบตองย่างเตาถ่าน ปลาช่อนนาพอกเกลืออบสมุนไพร รสชาติถึงใจไม่ธรรมดา 

(Image credit: https://www.facebook.com/ChowBarnRestaurant)

Tayama Farm Khaoyai

ฟาร์มออแกนิคและร้านอาหารญี่ปุ่นผสมกัน มีสวนน้ำให้เล่นและมีที่กางเต็นท์ให้ด้วย  ผ่านมาทางหนองสาหร่ายให้สังเกตซูโม่ยักษ์สองคนลงไปเช็คอินกันได้ 

(Image credit: https://www.facebook.com/Tayamakhaoyai/)

สวนดอกไม้ The Bloom by ทีวีพูล

ใครชอบดอกไม้แวะไปที่เดอะ บลูม บาย ทีวีพูลไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะเป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่นับร้อยไร่ พร้อมรีสอร์ทที่พักเขาใหญ่แสนสบายเหมาะไป รับบรรยากาศบริสุทธิ์ 

(Image credit: https://www.facebook.com/thebloomkaoyai/?ref=page_internal)

Pete Maze

พิชญ์เขาวงกตสุดท้าทายปลุกพลังนักผจญภัยเหมือนอยู่ในเกม เหมาะกับเด็ก ๆ ก็จริงแต่ผู้ใหญ่ก็แอบชอบ ควรไปเช้าหน่อยเพราะกลางวันแดดจัดอาจเวียนหัวกับเขาวงกตได้ 

(Image credit: https://www.facebook.com/petepetemaze)

Secret Art Garden 

ตลาดนัดศิลปะกลางป่าที่เรียกกันว่า สวนซ่อนศิลป์ มีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเป็นครอบครัว พร้อม กิจกรรม ปิ้งย่างบาร์บีคิวกลางป่าให้ด้วย 

(Image credit: https://www.facebook.com/secretartgarden)

KhaoYai Art Museum

สถานที่เช็คอินของสายติสท์ เป็นพื้นที่กลางแจ้งจัดแสดงผลงานศิลปะและประติมากรรมไทยระดับฝีมือชั้นครู อย่าง อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, อ.ถวัลย์ ดัชนี, อ.ประเทือง เอมเจริญ รู้อย่างนี้จะพลาดได้อย่างไร

(Image credit: https://www.facebook.com/KhaoYaiArtMuseum)

ทุ่งทานตะวันไร่มณีศร 

ชมดอกทานตะวันในทุ่งขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่บานรับแสงอาทิตย์อยู่เต็มท้องทุ่งและมีต้นปอเทืองสีเหลืองปลูกแซมไว้อีกมากมาย เหมาะเดินทางไปในช่วงฤดูหนาวนี้จนถึงเดือนมกราคม 

(Image credit: https://www.facebook.com/manesornsunflower/)

ตาดหินยาว 

รับบรรยากาศบริสุทธิ์ สไตล์นักท่องเที่ยวสายอนุรักษ์ที่ตาดหินยาวกันบ้าง น้ำตกที่สวยไม่ธรรมดาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมดฝนแล้วควรแพลนไปที่นี่ด่วน ๆ 

(Image credit: https://www.facebook.com/SiamInterTravel)

Wonderland Thailand

เที่ยวแบบย้อนวัยต้องไปสวนสนุก Wonderland Thailand อยู่ในเขตจังหวัดสระบุรีใกล้เขาใหญ่ มีทั้งเครื่องเล่นเพื่อความบันเทิงและสัตว์ป่าน้อยใหญ่มากมาย มาที่นี่ที่เดียวได้ความสนุกครบแนว 

(Image credit: https://www.facebook.com/wonderland.saraburi)

Lago di Khao Yai

ลาโก ดิ เขาใหญ่ มีมุมถ่ายภาพเริ่ดสไตล์ เมืองนอก ทั้งทะเลสาบจำลอง อาคารทรงอิตาลีที่กำลังเตรียมจะเป็นโรงแรมสุดหรูในอีกไม่นานรอเช็คอินได้เลย

(Image credit: https://www.facebook.com/LagoKhaoYai/)

Toscana valley

เป็น ที่พักฟีลเมืองนอก ที่ไม่ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเล มีที่พักหรูเป็นตึกรูปทรงเดียวกับอาคารในแคว้นทอสคานา ประเทศอิตาลี และที่เพิ่งเปิดไม่นานคือห้องพักในหอคอย Toscana Piazza สูงสง่าไม่แพ้ต่างประเทศ

(Image credit: https://www.facebook.com/ToscanaValley/)

โบสถ์ Kensington 

วัดบุญราศี นิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์ที่เปี่ยมมนต์ขลังและบรรยากาศเหมือนอยู่ เมืองนอก เมืองนา มีการทำพิธีมิสซาของชาวคริสต์ทุกเช้าวันอาทิตย์ 

(Image credit: https://www.facebook.com/wiang.pai.reuay)

และนี่คือ 22 ที่เที่ยวเขาใหญ่ที่มีบรรยากาศเป็นต่างประเทศแบบสุด ๆ หน้าหนาว นี้ห้ามพลาด

 

ที่มาข้อมูล

เทคนิคจัดกระเป๋าเดินทาง ด้วยกระเป๋า 20″ ใบจิ๋ว

 

เทคนิคจัดกระเป๋าเดินทาง ด้วยกระเป๋า 20″ ใบจิ๋ว

การจัดกระเป๋าเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งเมื่อต้องออกเดินทาง ซึ่งอาจมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องการเตรียมไป โดย กระเป๋า20 นิ้ว จะเป็นขนาดกระเป๋าที่มีความกะทัดรัด สามารถใช้เดินทางในระยะเวลาสั้น ๆ ได้สะดวก ซึ่งหากโดยสารด้วยเครื่องบินก็ไม่ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มให้เปลืองเงินอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหา รีวิวการจัดกระเป๋า วันนี้เรามีเทคนิคดี ๆ มาบอก ไปดูกันว่าจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

 

1. จัดของเป็นหมวดหมู่แล้วแยกใส่กระเป๋าใบเล็ก

การแยกของให้เป็นหมวดหมู่นอกจากจะสะดวกต่อการหยิบใช้งานแล้ว ยังช่วยให้การจัดกระเป๋าเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นด้วย โดยสิ่งต่าง ๆ ที่ควรแยกอย่างเช่น อุปกรณ์อาบน้ำ เครื่องสำอาง ยารักษาโรคประจำตัวหรือยาที่ควรใช้ระหว่างการเดินทางและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแต่ละส่วนควรจัดลำดับความสำคัญในการใช้งาน โดยสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ก่อนถึงที่พัก หรือต้องใช้แบบเร่งด่วน เช่น ยาหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พวกสายชาร์จ ก็ควรเก็บไว้ในที่หยิบใช้งานสะดวก 

 

2.จัดแบบม้วนดีกว่าแบบพับ

การม้วนเสื้อผ้าชิ้นบาง ๆ ทำให้ประหยัดพื้นที่มากกว่าการพับ อย่างเช่น เสื้อยืด หรือชุดนอน ซึ่งควรจัดเป็นชุด ๆ ไว้ เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน โดยพับเสื้อหรือกางเกงให้ส่วนแขนหรือส่วนที่ยื่นออกไปมารวมอยู่ตรงกลางให้เป็นทรงกระบอก จากนั้นก็ม้วนจากด้านบนลงมาด้านล่าง เพื่อไล่อากาศระหว่างทางออกไป และหากตรงปลายมีปลายเปิดก็พับทบกลับมาห่อเสื้อผ้าชิ้นนั้น ๆ เพื่อเป็นการช่วยไม่ให้ม้วนผ้าคลายออกไปมากขึ้น

 

3. ให้ถุงสุญญากาศเป็นตัวช่วย 

สำหรับผ้าชิ้นหนา เช่น เสื้อกันหนาว หรือผ้าเช็ดตัว ที่มักจะกินเนื้อที่ทั้งการม้วนและการพับ จึงต้องมีตัวช่วยอย่างถุงสุญญากาศที่จะช่วยให้ประหยัดเนื้อที่ได้ 70-80 % โดยมีทั้งถุงที่ต้องใช้เครื่องดูดอากาศออกและถุงที่ใช้วิธีการม้วนอย่างเดียว ใครสะดวกใช้งานแบบไหนก็ลองไปเลือกซื้อกันได้ โดยนอกจากจะใช้ถุงสุญญากาศเพื่อใส่เสื้อผ้าชิ้นหนาแล้วก็สามารถใช้ใส่เสื้อผ้าชิ้นบาง ๆ หลาย ๆ ชิ้น เข้าด้วยกันเพื่อประหยัดพื้นที่อีกด้วย

 

4.แยกชุดชั้นในไว้ในถุงเฉพาะ 

เมื่อเรา ไปเที่ยวกัน อาจเกิดเหตุไม่คาดคิดมากมาย ซึ่งบางทีอาจต้องเปิดกระเป๋าระหว่างทาง และถ้าเปิดมาเห็นชุดชั้นในกระจายอยู่เต็มกระเป๋าคงเป็นภาพที่ไม่ค่อยน่ามองเท่าไหร่นัก การจัดเก็บชุดชั้นในแยกไว้ในกระเป๋าเฉพาะจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยจัดเสื้อชั้นในเรียงซ้อนกันและเสริมตรงที่ว่างด้วยกางเกงชั้นใน เพื่อใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยไม่ให้เสื้อชั้นในเสียทรงด้วย ถ้าหากกระเป๋ามีที่ว่างเหลือ ก็อาจจะใส่ถุงเท้าพับแล้วเข้าไปด้วย 

 

5.ใช้ของขนาดพกพา

ในการเดินทางหลายคนมักจะพกพาเครื่องประทินผิวต่าง ๆ อย่างเช่น ครีมอาบน้ำ แชมพู และโลชั่น ที่ใช้ประจำอยู่ไปด้วย ซึ่งจะนำขวดใหญ่แบบที่ใช้อยู่ที่บ้านใส่ไปใน กระเป๋า20 นิ้ว ด้วยก็คงไม่สะดวก การหาซื้อขวดแบ่งขนาดเล็กไปจึงเหมาะสมมากกว่า หรือถ้ามีขนาดพกพาขายก็สามารถซื้อไปใช้ได้อย่างสะดวก แต่สำหรับใครที่ไม่อยากซื้อหลายรอบ ซื้อขวดแบ่งมาใช้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะหากใช้หมดก็นำกลับมาเติมและใช้ซ้ำได้ง่ายกว่าอีกด้วย

 

6.วางสิ่งของที่มีน้ำหนักไว้ด้านล่าง

เทคนิคจัดกระเป๋า ที่ดีนอกจากจะคำนึงถึงการทำสิ่งของให้มีขนาดเล็กแล้ว การจัดวางโดยคำนึงถึงน้ำหนักสิ่งของก็จะช่วยให้ง่ายต่อการเดินทางมากขึ้น โดยควรวางสิ่งของที่มีน้ำหนักไว้ด้านล่างใกล้ฐานล้อ เพราะจะได้ช่วยถ่วงน้ำหนักเวลาลากไปกับพื้น และของที่ต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกกดทับก็ต้องวางไว้ด้านบน หากใครพกพาสิ่งของที่เป็นแก้วซึ่งจะแตกได้ง่ายก็ใช้เสื้อผ้าพันไว้หลายทบ เพื่อรองรับการกระแทกและช่วยให้ประหยัดพื้นที่มากขึ้น

 

7.ใส่ถุงเท้าไว้ในรองเท้า

หากการเดินทางที่ต้องนำรองเท้าไปเปลี่ยนด้วย ควรหาพื้นที่ ๆ จะไม่ถูกกดทับมาก เพราะอาจทำให้รองเท้าเสียทรงได้ โดยต้องหาถุงมาใส่รองเท้าเพื่อแยกจากของชิ้นอื่น ๆ ป้องกันความสกปรก โดยอาจจะใช้หมวกอาบน้ำมาคลุมรองเท้ารอบหนึ่งเพื่อช่วยกักเก็บเศษฝุ่นที่ติดอยู่ หลังจากนั้นก็เอาไปใส่ถุงรองเท้าได้ และควรใส่ถุงเท้าไว้ในรองเท้า เพราะนอกจากประหยัดพื้นที่แล้ว ยังช่วยรักษาทรงรองเท้าได้ด้วย

 

8.พกถุงสำหรับใส่เสื้อผ้าใช้แล้ว

เมื่อเราเดินทางคงไม่สะดวกที่จะซักผ้าทุกวัน การเตรียมถุงสำหรับใส่เสื้อผ้าใช้แล้วจังเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าไม่แยกกันก็อาจทำให้ชุดที่ยังไม่ได้ใส่เปื้อนไปด้วย การเลือกใช้ถุงสำหรับใส่ผ้าใช้แล้วควรใช้ถุงที่ระบายอากาศได้ดี แต่ถ้าเดินทางช่วงสั้น ๆ และไม่กังวลเรื่องกลิ่นอับมากนัก ก็อาจจะใช้เป็นถุงพลาสติกธรรมดาก็ได้ 

 

9.จัดเสื้อผ้าเป็นชุดตามวัน 

สำหรับใครที่มีพื้นที่เหลือพอที่จะสามารถจัดชุดตามวันได้ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะจะได้ไม่เสียเวลาในการเลือกตอนใส่อีกรอบ และช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบสบายตาด้วย โดยอาจจะใช้วิธีม้วนเป็นชุดเสื้อกางเกงของแต่ละวันหรือใส่ถุงสุญญากาศไว้ก็ได้ แล้วแต่ความสะดวก หากมีที่เหลือพอก็อาจจะจัดทั้ง เสื้อผ้าชุดนอก ชุดชั้นใน และถุงเท้าของแต่ละวันไว้ด้วยกันเลยก็ได้ 

 

10.เรียงของให้เต็มพื้นที่ 

การจัดเรียงของในกระเป๋านอกจากการคำนึงถึงการใช้พื้นที่ให้มีประสิทธิภาพแล้ว ก็ต้องไม่ลืมเรื่องการจัดของให้เต็มพื้นที่ด้วย เพราะหากมีที่เหลือ ก็จะทำให้ของภายในกระเป๋าที่เราจัดไว้กระจัดกระจาย ไม่เป็นระเบียบ สร้างความปวดหัวและเสียเวลาต้องจัดอีกรอบเป็นแน่ เราก็อาจเติมกระเป๋าให้เต็มด้วยการใช้หมอน ผ้าห่ม หรือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ มาช่วย 

 

สำหรับ เทคนิคจัดกระเป๋า หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน และถ้าใครอ่าน รีวิวการจัดกระเป๋า และเตรียมกระเป๋าพร้อมแล้วก็เตรียมตัวออก ไปเที่ยวกัน ได้เลย 

 

ที่มาข้อมูล:

อัพเดทสถานที่ฝากกระเป๋า ราคาถูกทั่วกรุงเทพฯ 

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ หรือเพื่อมาช็อปปิ้งในเมืองหลวงพร้อมกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ คงไม่ดีแน่หากต้องคอยแบกเป้หรือกระเป๋าเดินทางตะลอนทัวร์ไปทั่ว กทม. ในขณะที่โรงแรมบางแห่งก็ไม่สามารถการันตีถึงความปลอดภัยและทรัพย์สินในกระเป๋าให้คุณได้ การหาร้านที่รับ ฝากกระเป๋า สัก 2-3 ชั่วโมงก็น่าจะเพียงพอต่อการทำธุระในเมืองหลวงได้แบบสบายตัว ช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ต้องขนสัมภาระให้เกะกะ ซึ่งนอกจากบริการรับฝากกระเป๋าแล้ว สถานที่รับฝากกระเป๋ายังมีบริการจัด ส่งกระเป๋า สัมภาระ สิ่งของที่ช้อปปิ้ง ตามไปให้ยังโรงแรม หรือ สนามบิน โดยที่คุณไม่ต้องหิ้วให้เมื่อยอีกต่อไป

 

อัตราการให้บริการดีที่สุดที่ AIRPORTELs 

สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ ทุกคนจะต้องมีกระเป๋าสัมภาระ ทั้งใบเล็ก ใบใหญ่ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในปัญหาของเจ้าของกระเป๋าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเดินทางไปขึ้นเครื่องบิน ด้วยกระเป๋าที่มีขนาดใหญ่ที่ทำให้การใช้บริการรถสาธารณะค่อนข้างลำบาก การเลือกใช้บริการรับส่งกระเป๋าจากบ้านไป สนามบิน เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางจึงเป็นทางออกที่ดีมาก  

 

AIRPORTELs หนึ่งในผู้นำด้านการรับฝากและจัดส่งกระเป๋า สัมภาระ สินค้า จากสนามบินไป โรงแรม บ้าน ที่พัก หรือจาก ห้าง สรรพสินค้าไปสนามบิน โรงแรมหรือที่พักอาศัย โดยมีอัตราการให้บริการเริ่มต้นที่ 20,40 บาท/ชั่วโมง หรือ 100 บาท/วัน สำหรับการรับฝากสิ่งของ สัมภาระ ณ จุดให้บริการและมีอัตราค่าบริการในการจัดส่งกระเป๋าเดินทาง สัมภาระต่าง ๆ จากบ้าน ที่พัก หรือโรงแรมไปยังสนามบินในราคาเริ่มต้น 299 บาทเท่านั้น  นับเป็นอัตราการให้บริการที่ดีที่สุดแล้วในปัจจุบัน

 

สะดวก สบาย เมื่อใช้บริการ AIRPORTELs 

AIRPORTELs เปิดให้บริการรับฝาก จัด ส่งกระเป๋า ครอบคลุม 2 สนามบินหลักของประเทศ นั่นหมายความว่าทุกการเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารทั้งไปและกลับ คุณสามารถที่จะเก็บสิ่งของมีค่าของคุณเป็นชั่วโมง หรือเป็นวันได้หากต้องการ ได้ทั้ง 2 สนามบิน โดยตำแหน่งที่ตั้งเคาน์เตอร์บริการของสนามบินสุวรรณภูมิจะอยู่ที่ชั้นบี โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของสนามบินดอนเมือง เคาน์เตอร์ที่ให้บริการจะอยู่ที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ชั้นจี (G) ประตู 9 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น.

 

นอกจากนี้ AIRPORTELs ยังมีเคาน์เตอร์ให้บริการประจำอยู่ตาม ห้าง สรรพสินค้าชั้นนำ ดังต่อไปนี้

โซนห้าง เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 22.00 น.

  • เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 6 โซนบี (B) ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ
  • เทอร์มินอล 21 อโศก ชั้น 1 โซนโตเกียว ทางออกลานจอดรถ
  • เซ็นทรัลเวิร์ด ชั้น 1 โซนกรูฟ ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ

ในส่วนของต่างจังหวัด AIRPORTELs เปิดให้บริการแล้ว โดยจะเป็นการให้บริการขนส่งกระเป๋าไปยังต่างจังหวัด หากใครไม่อยากโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง หรือไม่อยากมีสัมภาระเยอะระหว่างเดินทางก็สามารถจองบริการของเราทางออนไลน์ได้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 349 บาท/ใบ น้ำหนักไม่เกิน 15 กก.

ติดต่อสอบถาม

 

Lock Box ช่วยคุณได้ ล็อกเกอร์ฝากของฉบับคนกรุง

คงจะดีไม่น้อยหากการเดินทางไปทำงานหรือเรียนหนังสือระหว่างทางมีตู้ล็อกเกอร์ไว้คอยบริการ เพราะจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปทำธุระอีกหลายแห่ง สามารถที่จะฝากกระเป๋า หนังสือเรียนหรือแม้แต่สัมภาระขนาดใหญ่ไว้ในล็อกเกอร์ได้ โดยมั่นใจว่าสิ่งของเหล่านั้นจะไม่สูญหายไป 

Lock Box หนึ่งในผู้ให้บริการตู้ล็อกเกอร์สำหรับฝากสินค้า กระเป๋าสัมภาระตามแนวรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน ซึ่งปัจจุบันกำลังขยายตู้รับฝากไปยังจุดต่าง ๆ ให้ทั่วทั้ง กรุงเทพ และปริมณฑลรวมไปถึงสนามบินและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น สยามพารากอน, เซนทรัล วิลเลจ, ไอคอนสยามและเซนทรัลเวิร์ด แถมยังเปิดรับแฟรนไชส์เพื่อขยายสถานที่เก็บกระเป๋าอีกจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวก สบายให้แก่ผู้ใช้บริการ จะได้ไม่ต้องหอบกระเป๋าพะรุงพะรังอีกต่อไป ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจ พนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา ที่มีจุดหมายปลายทางมากกว่า 2 แห่ง Lock Bok ช่วยคุณได้ จะได้ไม่ต้องแบกกระเป๋าสัมภาระในการเดินทางไกลอีกต่อไป สนนราคาและค่าบริการในการรับฝากเริ่มต้นที่ 30 บาท/ ชั่วโมง หรือ 180 บาท/วัน สำหรับไซซ์วัสดุ 7X35X58cm.

 

Bellugg ปลอดภัย ตรงเวลา ตรวจสอบได้

อีกหนึ่งผู้ให้บริการรับฝากกระเป๋าและจัดส่งกระเป๋าเดินทางให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยยึดหลักปลอดภัย ตรงเวลาและตรวจสอบได้ มั่นใจว่ากระเป๋าทุกใบจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด เพราะมีประกันภัยคุ้มครองให้กับกระเป๋าทุกใบ พร้อมระบบขนส่งที่เชื่อถือได้ว่ากระเป๋า สัมภาระทุกใบจะส่งตรงถึงมือลูกค้าทุกคนด้วยความรวดเร็วและตรงเวลา นอกจากนี้ทาง Bellugg ยังเปิดให้บริการรับส่งสินค้าแบบวันเดียวถึงในเขต กรุงเทพ และปริมณฑล พร้อมกับรถที่มีเครื่องรักษาความเย็นไว้คอยบริการสำหรับร้านค้า ร้านอาหารที่ต้องการจัดส่งอาหารไปให้ถึงมือลูกค้าในขณะที่ยังสดใหม่ สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อจองการฝากและรับส่งสินค้า กระเป๋าสัมภาระต่าง ๆ ได้ที่ 087-336-6666 หรือที่เว็บไซต์ Bellugg.com/th/ 

 

โรงแรมส่วนใหญ่เลือกที่จะให้คุณ ฝากกระเป๋า ก่อนเช็กอินหรือหลังเช็กเอ้าท์สัก 2-3 ชั่วโมง ซึ่งหากโรงแรมอยู่ไกลจากแผนการเดินทาง ก็ควรเลือกที่จะใช้บริการฝากและรับ-ส่งดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการย้อนกลับมาเอากระเป๋าระหว่างท่องเที่ยว หรือช้อปปิ้งระหว่างที่รอเช็คอินกับสายการบิน ซึ่งสะดวกมากกว่าและที่สำคัญอย่าลืมที่จะดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน AIRPORTELs เพื่อเรียกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ที่มาข้อมูล :