9 ร้านอาหาร ICONSIAM วิวแม่น้ำเจ้าพระยา: ดื่มด่ำประสบการณ์อาหารหรูริมน้ำ

9 ร้านอาหาร ICONSIAM พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา: ประสบการณ์อาหารหรูริมน้ำ

จะดีแค่ไหนหากวันพักผ่อนหรือหลังจากทำงานเหนื่อย ๆ แล้วได้นั่งรับประทานอาหารอร่อย ๆ พร้อมชมวิวริมแม่น้ำยามค่ำคืน นอกจากได้อิ่มท้องกับอาหารดี ๆ แล้วยังได้อิ่มใจกับบรรยากาศรอบตัว เชื่อว่าต้องเป็นอะไรที่ฟินและฮีลใจได้ดีสุด ๆ และสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดี เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดหรูท่ามกลางวิวงดงาม ขอแนะนำ 9 ร้านอาหาร iconsiam ที่นอกจากพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแล้วยังพร้อมเสิร์ฟวิวสวย ๆ ของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย

แนะนำ 9 ร้านอาหาร Iconsiam พร้อมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

James Boulangerie
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: James Boulangerie

เริ่มต้นกันที่ร้านอาหารไทยและอาหารสไตล์ยุโรปที่ขนทัพเมนูมาให้เลือกอย่างคับคั่ง ใครที่เป็นแฟนคลับร้านนี้น่าจะทราบว่าเมนูไฮไลต์ของร้านคือครัวซองต์เนื้อนุ่มหอมอร่อย แต่เมื่อมาเปิดที่ไอคอนสยามก็กลายเป็นร้านอาหารที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยทั้งวัน การตกแต่งร้านเน้นโทนสีขาวและความโปร่งสบายจึงสามารถนั่งรับชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มอิ่ม เลือกนั่งได้ทั้งด้านในและด้านนอก เมื่อมาถึงร้านนี้แล้วเมนูที่พลาดไม่ได้ ได้แก่ ครัวซองต์รสชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะครัวซองต์ชาเขียวรสอร่อยเกินห้ามใจ นอกจากนี้ยังมีเมนูอิ่มท้องอื่น ๆ อย่างพาสต้า สเต็ก สลัด ซุปเห็ดทรัฟเฟิล ฯลฯ แต่ละจานการันตีว่าอร่อยเด็ด

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
Fallabella River Front
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Fallabella

ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากชั้นบนสุดของไอคอนสยามได้ที่ร้านนี้ บอกเลยว่าเป็นร้านที่จะทำให้ทุกคนดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนได้อย่างเต็มอิ่ม จุดเด่นคือการเป็นร้าน Rooftop เสิร์ฟอาหารไทย-อิตาเลียน ช่วงค่ำยังเป็นบาร์ให้ดื่มชิล ๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสงสีของกรุงเทพฯ และโค้งน้ำเจ้าพระยาสุดโรแมนติก สำหรับเมนูที่อยากบอกต่อ ได้แก่ เนื้อย่าง บอกเลยว่าเนื้อนุ่มมาก ยิ่งรับประทานคู่กับซอสที่เสิร์ฟมาด้วยกันยิ่งลงตัว หรือจะเป็นเมนูพาสต้าก็อร่อยไม่แพ้กัน เส้นเหนียวหนึบแบบกำลังดี ถูกใจคนชอบอาหารอิตาเลียน นอกจากนี้ยังขอแนะนำซีซ่าร์สลัด เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะผักกรอบมากและน้ำสลัดเข้มข้นถึงใจ

  • ช่วงราคา : 500 – 1,200 บาท
Greyhound Café
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Greyhound cafe

ลิ้มรสความอร่อยของอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตกได้แบบไม่มีเบื่อ นอกจากมีเมนูให้เลือกมากมายแล้วยังได้รับชมวิวสวย ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวพระอาทิตย์ตกดินหรือวิวโค้งน้ำยามค่ำคืน การตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีขาวและสีดำสุดมินิมอล โดยรอบร้านแต่งแต้มด้วยกระจกเปิดรับวิวด้านนอกเต็มที่ พร้อมเพิ่มบรรยากาศสุดผ่อนคลายด้วยต้นไม้สีเขียวที่กระจายโดยรอบ เมนูแนะนำ ได้แก่ แซลม่อนแช่พริก ปลาส้มสีสันน่ารับประทานมาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด และปลากะพงย่างเสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่งและมันฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มและของหวานขึ้นชื่อ ได้แก่ ทับทัมกรอบ สาคูไอศกรีมมะพร้าว และชาไทย รสชาติเข้มข้นอร่อยแน่นอน

  • ช่วงราคา : 300 – 1,000 บาท
Café Chilli
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Cafe Chilli

ใครว่าในไอคอนสยามจะมีแต่ร้านอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตกเท่านั้น หากกำลังเปรี้ยวปากอยากรับประทานอาหารอีสานแนะนำที่ร้านนี้เลย ร้านอาหารอีสานพร้อมเสิร์ฟความแซ่บแบบพรีเมียม จุดเด่นคือวัตถุดิบสำคัญนำมาจากภาคอีสาน การันตีความอร่อยแซ่บ เมนูที่ต้องสั่ง ได้แก่ แจ่วฮ้อนหมูหมักน้ำมันงามาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด รวมถึงต้มแซ่บหมูเด้งและข้าวโพดทอด  อิ่มอร่อยท่ามกลางการจัดร้านแบบไทย ๆ ผสมผสานวัฒนธรรมอีสานไว้อย่างลงตัว

  • ช่วงราคา : 250 – 500 บาท
 Jumbo Seafood

ใครเคยไปเที่ยวสิงคโปร์เชื่อว่าต้องคุ้นหูชื่อร้าน Jumbo Seafood เพราะนี่คือร้านดังของสิงคโปร์ที่ทนกระแสความฮิตไม่ไหวเลยต้องมาเปิดร้านที่ไทย แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารที่เน้นซีฟู้ดเป็นหลัก และไม่ใช่แค่ซีฟู้ดธรรมดานะแต่เป็นซีฟู้ดขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู หอย คัดมาเฉพาะไซซ์บิ๊ก ๆ จนกลายเป็นจุดเด่นของร้านไปเสียแล้ว ที่นี่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบมาก ๆ โดยวัตถุดิบจะต้องสดใหม่เพื่อชูรสอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น การตกแต่งของร้านเรียบง่ายแต่หรูหรา มีกระจกบานใหญ่มองวิวด้านนอกได้ สำหรับเมนูแนะนำที่ต้องลอง ได้แก่ หนังปลาทอดไข่เค็มที่แอบกระซิบว่าอร่อยนัวและเข้มข้น กุ้งผัดพริกไทยและเกลือที่คัดกุ้งตัวโต ๆ แน่น ๆ และที่ขาดไม่ได้คือปูผัดไข่เค็ม เสิร์ฟเฉพาะปูไซซ์จัมโบ้และไข่เค็มหอม ๆ รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ คือดีไม่ไหว

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: nice two Sea u 나이스투씨유

ใครชื่นชอบอาหารทะเลบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด ร้านปิ้งย่างวิวแจ่ม ๆ ที่หาได้ยากในกรุงเทพฯ สำหรับร้านนี้จัดให้เพื่อคนรักการรับประทานปิ้งย่างอาหารทะเลสไตล์เกาหลี ร้านตั้งอยู่บน Rooftop เปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับเมนูที่บอกว่าต้องลอง ได้แก่ เมนูซีฟู้ดที่สั่งมาย่างได้แบบฟิน ๆ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปลาหมึก รับประกันความสดใหม่ รวมถึงยังมีเมนูปูดองซีอิ๊วเกาหลี จูกุมิกับหอยเชลล์กระทะร้อน และหอยสังข์ซาชิมิ แค่ได้ยินชื่อก็ท้องร้อง ขาดไม่ได้เลยคือน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด เมื่อรับประทานกับอาหารทะเลคืออร่อยลงตัวสุด ๆ นอกจากอาหารอร่อยถูกปากคนไทยแล้วยังมอบวิวสวย ๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกได้ว่าทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจกับบรรยากาศไปพร้อมกันเลยทีเดียว

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
HOBS ICONSIAM

ได้เวลาสนุกกับบาร์วิวแม่น้ำกันบ้าง บอกเลยว่าที่นี่เหมาะมากกับสายแฮงก์เอาท์ เพราะช่วงค่ำมีดนตรีสดแวะเวียนมามอบเสียงเพลง การจัดร้านเน้นความโปร่งสบายเพราะต้องการเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุด สำหรับอาหารพร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติ ไหนจะเครื่องดื่มที่มีทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และแบบไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับเมนูที่ต้องบอกต่อ ได้แก่ Truffle Cheese Bomb เบอร์เกอร์ชิ้นโต ไฮไลต์คือบันนุ่ม ๆ โดยเมนูนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านใครมาก็ต้องสั่ง อย่าลืมขาหมูเยอรมันที่บอกได้แค่ว่าเด็ดจริง ขาหมูกรอบมาก แถมน้ำจิ้มรสเด็ดอร่อยเกินห้ามใจ

  • ช่วงราคา : 400 – 1,000 บาท
Great Habour
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Great Harbour

เอาใจคนรักการรับประทานบุฟเฟต์กันบ้าง โดยนี่คือร้านบุฟเฟต์อาหารนานาชาติชื่อดังจากไต้หวัน บินมาเสิร์ฟความอร่อยให้คนไทยแบบไม่อั้น ภาพรวมร้านค่อนข้างใหญ่ รองรับได้มากถึง 400 ที่นั่ง ไลน์อาหารบอกเลยว่าจัดเต็ม โดยเฉพาะซีฟู้ดที่สดใหม่และชิ้นใหญ่เต็มคำ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู หอย หอยนางรม และซาชิมิ ซึ่งเป็นเมนูได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเมนูจานเดียวขอแนะนำเป็ดย่าง ซูชิเนื้อวากิว ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่น ที่รับรองว่าสั่งครั้งเดียวไม่เคยพอ และคนรักชีสต้องไม่พลาดเพราะที่นี่จัดเรียงชีสไว้อย่างน่ารับประทานแถมมีให้เลือกหลายแบบอีกด้วย

  • ช่วงราคา : 500 – 1,500 บาท
บ้านขนิษฐา
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: ถนัดชิม

แค่ชื่อร้านก็คาดเดาได้แล้วว่าเป็นร้านอาหารไทยอย่างแน่นอน และไม่ใช่แค่ร้านอาหารไทยธรรมดาแต่เป็นร้านอาหารไทยรสชาติไทยแท้ จุดเด่นของร้านคือแต่ละเมนูพิถีพิถันการจัดจานทำให้ทุกเมนูหน้าตาสวยงามน่ารับประทาน แถมรสชาติยังขึ้นชื่อ สูตรอาหารได้รับรางวัลการันตีความอร่อย คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี การแต่งร้านยังคงสอดแทรกด้วยความงามแบบไทย มีให้เลือกทั้งที่นั่งด้านในและที่นั่งด้านนอกเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เมนูที่ต้องบอกต่อ ได้แก่ กุ้งมังกรภูเก็ตทอดกระเทียมพริกไทย กระซิบว่ากุ้งตัวใหญ่มากและยังสดใหม่ ปูนิ่มผัดซอสมะขามรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี รวมถึงแกงส้มชะอมชุบไข่ทอด รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ คือเข้ากันเป็นอย่างดี

  • ช่วงราคา : 300 – 800 บาท

จะเห็นว่านอกจากที่นี่จะเป็นแลนมาร์กแห่งการชอปปิงแล้ว ร้านอาหาร iconsiam ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นไม่แพ้กัน เพราะมีหลากหลายร้านอาหารอร่อยมาพร้อมบรรยากาศดี โดดเด่นด้วยวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งหากเป็นตอนค่ำยิ่งได้สัมผัสลมเย็น ๆ และชื่นชมไปกับแสงสียามค่ำคืน จึงไม่น่าแปลกใจว่าเพราะอะไรไอคอนสยามจึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ทั้งคนไทยและต่างชาติต้องแวะเช็กอิน ใครอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ขอเชิญที่ไอคอนสยาม เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีเจริญนคร เชื่อมต่อสู่ห้างสรรพสินค้าได้เลย หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ก็มีที่จอดรถเพียบ สะดวกสบายไม่แพ้กัน 

ที่มาข้อมูล

อัพเดทคู่มือ: 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนใช้รถไฟฟ้าไปยังไอคอนสยามสายสีทอง

อัพเดทคู่มือ: 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนใช้รถไฟฟ้าไปยังไอคอนสยามสายสีทอง

หากเอ่ยถึงห้างสรรพสินค้าริมน้ำที่เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของทั้งคนไทยและต่างชาติ เชื่อว่าหลายคนจะต้องทายถูกว่าเรากำลังพูดถึง “ไอคอนสยาม” ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังไว้มากมายจนกลายเป็นจุดเช็กอินสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย นอกจากการเป็นห้างขนาดใหญ่แล้ว ปัจจุบันได้มีโครงการ ไอคอนสยาม รถไฟฟ้า สายสีทอง ครั้งแรกของไทยที่มีรถไฟฟ้าไร้คนขับ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางมาย่านนี้

ประวัติไอคอนสยาม ห้างริมน้ำสุดหรูของไทย

ห้างหรูริมแม่น้ำแห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง สยามพิวรรธน์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดิเวล็อปเม้นต์ ร่วมทุนกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อเนรมิตห้างหรูบนพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร ของเขตคลองสาน ใครที่เคยคิดว่าไอคอนสยามเป็นห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียวต้องบอกว่าเข้าใจผิด เพราะประกอบด้วยส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้า อาคารสำหรับพักอาศัย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ สยาม ทาคาชิมายะ ห้างพรีเมียมจากญี่ปุ่นที่เปิดสาขาในไทยครั้งแรก ความยิ่งใหญ่นี้จึงทำให้ไอคอนสยามกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของไทยที่มีคนไทยและต่างชาติแวะเวียนมาไม่ขาดสาย

ประวัติไอคอนสยาม ห้างริมน้ำสุดหรูของไทย
  1. รถไฟฟ้าสายสีทองถูกยกให้เป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับสายแรกของไทย เปิดให้บริการเพียง 3 สถานีเท่านั้น ได้แก่ กรุงธนบุรี เจริญนคร และคลองสาน ใครได้ใช้บริการถือว่าเอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ  
  2. เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563
  3. ใครอยากมาไอคอนสยามต้องลงสถานีเจริญนคร ทางออก 3 รับรองถึงชัวร์ เดินเข้าทางเชื่อมตัวห้างสรรพสินค้าได้เลย
  4. รถไฟฟ้าสายสีทองออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคนที่พักอาศัยละแวกนั้น เพราะใช้ตอม่อขนาดเล็ก ไม่กินพื้นที่ ลดการเวนคืน และออกแบบให้ลดเสียงรบกวน ทันสมัยและทนทานสุด ๆ 
  5. รู้หรือไม่ รถไฟฟ้าสายสีทองคือรูปแบบเดียวกับรถไฟฟ้าที่ให้บริการที่ London Heathrow (อังกฤษ) และที่ Frankfurt Main (เยอรมัน)
  6. รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 276 คนต่อขบวน รอคิวไม่นานแน่นอน
  7. แม้จะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน มีเวลาแค่ 6 นาที ก็เดินทางจากสถานีกรุงธนบุรีถึงไอคอนสยามได้ 
  8. ทำความเร็วสูงสุดถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รีบแค่ไหนก็เอาอยู่ทั้งคนทำงานและคนที่เดินทางไปย่านนั้น
  9. ราคาสบายกระเป๋า เพียง 16 บาทตลอดสาย
  10. เปิดบริการเช้าและปิดดึก เวลาให้บริการ รถขบวนแรก 06.00 น. และขบวนสุดท้ายให้บริการเวลาประมาณ 23.30 น. ชอปปิงกันถึงดึกได้เลย

ใครที่คิดว่าการเดินทางไปไอคอนสยามไม่สะดวกสบายเพราะไม่ใช่ห้างใจกลางเมือง บอกเลยว่าผิดคาด เพราะ ไอคอนสยาม รถไฟฟ้า สายสีทองพร้อมให้บริการแล้ว อุดรอยรั่วด้านการเดินทางที่เคยคิดว่ายากให้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับความสะดวกสบาย อยากชอปปิงเมื่อไหร่ก็เดินทางได้อย่างรวดเร็วทันใจ

ที่มาข้อมูล

ตะลุยความสนุก! รีวิวเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดในฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม 2024

ที่มารูปภาพ : harborland

หากพูดถึงสนามเด็กเล่นในยุคนี้คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ที่มีลูกอยู่ในวัยกำลังซนแทบทุกคนจะรู้จักกับ “ฮาร์เบอร์แลนด์” สนามเด็กเล่นชื่อดังจากต่างประเทศที่เด็กเข้าได้ตั้งแต่อายุ 5 เดือน ไปจนถึงอายุ 15 ปี หลังจากที่ฮาร์เบอร์แลนด์เปิดตัวในไทยมานานกว่า 7 ปี ก็มีสาขาเพิ่มมากขึ้นหลายแห่ง รวมถึง ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ บนพื้นที่ชั้น 6 ที่กว้างมากถึง 5,000 ตร.ม. ได้ถูกเนรมิตเป็น Mega Harborland ในธีม Little Thailand ความหมายคือสนุกที่เดียว เที่ยวได้ทั่วไทย เพราะผู้จัดต้องการให้การพาครอบครัวมาเที่ยวที่นี่เป็นเสมือนกับการได้ไปท่องเที่ยวทั่วประเทศในวันเดียว

เครื่องเล่นในฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยามมีกี่โซน 

ที่นี่มีเครื่องเล่นครบรสความสนุกแบบสุด ๆ ซึ่งนอกจากเครื่องเล่นในโซน Mega Harborland ที่ทั้งสนุกและตื่นเต้นแล้ว ยังมีโซน JumpZ ให้กระโดดอย่างจุใจและท้าทายความเร็ว อีกโซนหนึ่งคือ Harbor Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่แบบ Full Floor ทุกโซนเปิดให้เด็กทุกวัยเข้าไปเล่นได้ เพราะจะมีเครื่องเล่นชนิดต่าง ๆ ที่พร้อมสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย ไปดูกันว่าไฮไลต์ของที่นี่มีอะไรบ้าง

  • เครื่องเล่นในโซน Mega Harborland เล่นได้ทั้งเด็กเล็กและเด็กโต 
  • เครื่องเล่นสไลเดอร์ มี Dragon Spiral Tower Slide เครื่องเล่นที่ต้องสไลด์ลงมาจากหอคอยมังกร ให้ความสนุกและตื่นเต้นเหมือนได้ผจญภัย, Boomerang Donut Slide เครื่องเล่นสไลด์แบบสะใจกับแรงเหวี่ยง และ Ta-Khon Roller Slide เครื่องเล่นโรลเลอร์สไลด์ที่ยาวที่สุด ไม่ควรพลาด เด็กเล็กสามารถเล่นได้นั่งตักคุณแม่สไลด์ลงได้เลย
  • Zip Line เครื่องเล่นห้อยโหนให้เด็กไหลลื่นไปตามเส้นลวดเหมือนนกโบยบิน แต่ไม่สูงมาก ปลอดภัยสำหรับเด็ก 
  • เครื่องเล่นแนวแข่งขัน มี Interactive Ball Attack เครื่องเล่นแข่งชู๊ตลูกบอล และ Interactive Cannon Target เครื่องเล่นแข่งยิงปืน เหมาะสำหรับเด็กโตที่ชอบเล่นแข่งขันทำคะแนน
  • โซน JumpZ มีเครื่องเล่นแทรมโพลีนสำหรับเด็กเล็กและเด็กโต 
  • High 9 Interactive Trampoline เครื่องเล่นกระโดดกดปุ่มเพื่อทำคะแนนบนแทรมโพลีน เหมาะสำหรับเด็กโต
  • Sweeper Trampoline เครื่องเล่นกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางบนแทรมโพลีน ฝึกความเร็ว เหมาะสำหรับเด็กโตเช่นกัน
  • โซน Harbor Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่เต็มพื้นที่
  • Sweeper Inflatable เป็นเครื่องเล่นที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางให้เด็กได้ใช้ทักษะในการหลบหลีก ฝึกความคล่องแคล่วและท้าทาย เด็กเล็กเล่นได้ พื้นผิวเครื่องเล่นรองรับการล้มไม่ต้องกลัวเจ็บ

นอกจากความสนุกสนานที่หยิบยกมานี้ยังมีเครื่องเล่นอีกมากมายรอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเองที่ ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ชั้น 6 ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทต่อคน คิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง หากมาหลายคนหรือจัดกิจกรรมทัศนศึกษา, Team Building สามารถซื้อเป็นแพ็กเกจได้ จองบัตรออนไลน์ที่เว็บไซต์ของ Harborland Group เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น. Long Weekend เปิดให้บริการถึง 21.00 น. 

ที่มาข้อมูล

ตะลุยกิน! 8 ร้านอาหารจตุจักร 2024 อร่อยเด็ด ฟินทุกจาน

ตะลุยกิน! 8 ร้านอาหารจตุจักร 2024 อร่อยเด็ด ฟินทุกจาน

จตุจักรแหล่งชอปปิงสุดฮิปของเมืองไทย บอกเลยว่าดีกรีความฮิตไม่แพ้แหล่งชอปปิงอื่น ๆ เพราะจตุจักรกลายเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องแวะมา รวมถึงคนไทยที่หากไม่รู้จะไปไหนก็ต้องนึกถึงจตุจักร โดยที่นี่รวบรวมสินค้าเอาไว้มากมาย ชอปได้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ นอกจากโดดเด่นเรื่องสินค้าแล้วต้องบอกว่า ร้านอาหารจตุจักร ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน รวบรวมความอร่อยไว้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสายปิ้งย่าง สายแซ่บ หรือสายไหน ๆ ก็แวะมาชิมความอร่อยได้แบบไม่มีเบื่อ 

ชี้เป้า ร้านอาหารจตุจักร สุดเด็ด แนะนำต้องแวะ 

ร้านแซ่บ สายกินเส้นก๋วยเตี๋ยวสุดเด็ดประจำจตุจักร

ใครชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือห้ามพลาดโดยเด็ดขาด บอกเลยว่าวัตถุดิบสดใหม่ จุดเด่นคือน้ำก๋วยเตี๋ยวมีกลิ่นหอมซีอิ๊วดำ เข้มข้น น่ารับประทานมาก ๆ มีให้เลือกทุกเส้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ หรือบะหมี่ ขาดไม่ได้คือกระเทียมเจียวที่เจียวใหม่วันต่อวัน อย่าลืมสั่งแคบหมูเพิ่มดีกรีความอร่อย ที่สำคัญควรรับประทานพร้อมเครื่องดื่มหวาน ๆ เติมความสดชื่นระหว่างเดินเล่นสวนจตุจักร

ใครชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่แล้วเชื่อว่าต้องรู้จักร้านนี้เพราะมีอยู่หลายสาขา เช่นเดียวกับที่สาขาสวนจตุจักรที่ตั้งอยู่ในโครงการ The Mix จุดเด่นคือน้ำก๋วยเตี๋ยวที่เข้มข้น สีสันน่ารับประทาน ราคาเริ่มต้นเพียงชามละ 20 บาท แต่บอกเลยว่าคุณภาพคับแน่น อย่าลืมสั่งแคบหมูและเกี๊ยวเพิ่มความฟิน รวมถึงเครื่องดื่มอร่อย ๆ ที่เข้ากันดี ความได้เปรียบคือมีที่นั่งในห้องแอร์เย็น ๆ ใครเดินผ่านโครงการ The Mix อย่าลืมไปแวะชิมความอร่อย

ร้านอาหารทะเล ซีฟู้ด สูตรเด็ดแซ่บเสร็จที่จตุจักร 

มากันที่คนชอบรับประทานอาหารทะเล บอกเลยว่าที่จตุจักรมีร้านอาหารทะเลให้เลือกหลายร้านเพราะเป็นเมนูโปรดของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมนูกุ้งถังของร้านกุ้งถัง อลังเวอร์ แต่ละวันมีนักชิมแวะเข้ามาแบบไม่ขาดสาย ร้านนี้ตั้งอยู่ในเจเจกรีน มาร์เก็ต เลือกมาให้เฉพาะกุ้งตัวโต ๆ และน้ำจิ้มรสเด็ด แน่นอนว่าใช้มือแกะกุ้งได้ตามสบายเพราะมีถุงมือบริการ นอกจากกุ้งแล้วยังมีเมนูหอย ปลาหมึกสด ๆ เรียกได้ว่ายกทะเลมาไว้ที่นี่ ใครเป็นสายซีฟู้ดแนะนำให้แวะมารับประทาน

ร้านกุ้งเผาที่ได้รับความนิยมในจตุจักร แค่ชื่อก็เดาออกว่าเมนูยอดฮิตคือกุ้งเผาตัวโต ๆ ที่สำคัญคือสดใหม่ สะอาดแน่นอน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด แซ่บ แต่เผ็ดแบบกำลังดี นอกจากเมนูขึ้นชื่ออย่างกุ้งเผาแล้วยังมีเมนูปลาเผาที่น่ารับประทานไม่แพ้กัน เสิร์ฟพร้อมผักสดและน้ำจิ้ม ใครไปจตุจักรอย่าลืมแวะไปชิมความอร่อย

มองหาร้านอาหารอิสลามต้องร้านนี้ 

ต้องยอมรับเลยว่าสวนจตุจักรได้รวมความหลากหลายของร้านอาหารเอาไว้จริง ๆ สำหรับใครที่มองหาร้านอาหารอิสลามก็สามารถแวะชิมความอร่อยได้ที่ร้านบังหมานราชาข้าวหมกไก่ ตั้งอยู่ภายในสวนจตุจักร โครงการ 5 ร้านนี้ไม่ว่าคนไทยหรือคนต่างชาติก็ต้องมาแวะรับประทาน เมนูไฮไลต์แน่นอนว่าเป็นข้าวหมกไก่ ข้าวหุงมาแบบนิ่มกำลังดี หอมกลิ่นเครื่องเทศ มาพร้อมไก่เนื้อแน่นทำสดแบบวันต่อวัน อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดคือข้าวเหนียวไก่ทอด เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเพราะหมักจนเข้าเนื้อ อร่อยติดใจแน่นอน

อีกหนึ่งร้านอาหารอิสลามที่รวบรวมเมนูเอาไว้มากมาย ใครอยากลิ้มลองความอร่อยเรียนเชิญที่สวนจตุจักร โครงการ 27 เมนูเด่นคือข้าวหมก 3 สี มีให้เลือกทั้งไก่และเนื้อ ทุกจานเนื้อแน่น ทำสดใหม่ หอมเครื่องเทศอ่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีข้าวซอยไก่ ลูกชิ้นเนื้อ อย่าลืมสั่งข้าวหมกอินเดียที่เรียกได้ว่าเป็นจานเด็ดเช่นกัน

ร้านปิ้งย่างที่ไม่ควรพลาด เหมาะกับสายย่างเนื้อ 

เอาใจคนชอบเดินสวนจตุจักรแล้วเกิดอยากรับประทานเมนูปิ้งย่าง แนะนำว่าต้องแวะร้านนี้ ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเจเจกรีน ตอบโจทย์คนชอบเนื้อย่าง เพราะจัดเต็มเนื้อพรีเมียมให้เลือกแบบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้ออสเตรเลีย เนื้อลายมัน เนื้อสัน เนื้องน่องลาย รวมถึงเนื้อพริกไทยดำที่กลิ่นพริกไทยหอมสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีชุดหมูและชุดซีฟู้ดไว้บริการ แอบกระซิบว่าข้าวผัดกระเทียมอร่อยสุด ๆ แนะนำว่าต้องสั่งเลย

หากมาเดินเล่นสวนจตุจักรและมองหาร้านปิ้งย่างบรรยากาศดี บอกเลยว่าห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด เพราะนี่คือร้านปิ้งย่างที่ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของเจเจกรีน นอกจากได้ชื่นชมกับวิวเมืองสวย ๆ อาหารของที่นี่ยังมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ เนื้อ หรือแม้แต่ซีฟู้ด วัตถุดิบแต่ละอย่างสดใหม่ ชิ้นโต มีครบทั้งกุ้ง หอย ปลาหมึก ที่สำคัญน้ำจิ้มรสเด็ดมาก ใครมาก็ต้องติดใจ นอกจากนี้อาหารทานเล่นก็จัดเต็มไม่แพ้กัน อย่าลืมปิดท้ายด้วยไอศกรีม โดยเฉพาะไอศกรีมเจลาโตที่เขาว่ากันว่าอร่อยมาก

ใครรู้ตัวว่าเป็นสายกินอย่าลืมแวะเวียนมาสัมผัสความอร่อยได้ที่สวนจตุจักร เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีกำแพงเพชรก็สามารถเดินชอป ชิม ชิลได้แบบเพลิน ๆ บอกเลยว่าเผื่อเวลาเอาไว้เยอะ ๆ เพราะเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ รวบรวมสินค้าและอาหารไว้แบบคับคั่ง รับรองว่าเลือกซื้อสินค้าได้แบบเพลิน ๆ ใครเป็นสายชอป สายกิน ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

ที่มาข้อมูล :

รวมวิธีเช็คเที่ยวบินด้วยตัวเองง่ายๆ กันพลาดก่อนเดินทาง

รวมวิธีเช็คเที่ยวบินด้วยตัวเองง่ายๆ กันพลาดก่อนเดินทาง

การเดินทางด้วยเครื่องบินในบางทริปอาจมีเรื่องให้ลุ้น ไม่ไฟลต์ดีเลย์ก็ยกเลิกเที่ยวบิน ดังนั้นก่อนวันเดินทางควร เช็คเที่ยวบิน ล่วงหน้า โดยดูจากอีเมลแจ้งเตือนหรือเข้าไปเช็กที่เว็บไซต์สนามบินที่จะไปขึ้นเครื่อง หรืออีกวิธีหนึ่งคือโหลดแอปพลิเคชันของสายการบินที่จองตั๋วไว้เพื่อเช็กไฟลต์บิน หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็เตรียมตัวเดินทางได้ ใช้วิธีเช็กอินออนไลน์ง่ายมาก เรามาทำความรู้จักกับวิธีเช็กอินแบบนี้กันเพราะเป็นวิธีที่สะดวกกว่าเยอะเลย

ทำความรู้จักกับการเช็กอินออนไลน์

ทำความรู้จักกับการเช็กอินออนไลน์

ในปัจจุบันนี้สามารถเช็กอินล่วงหน้าได้จากที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของสายการบิน โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง หลังจากเช็กอินแล้วจะได้รับ Boarding Pass คุณสามารถปรินต์หรือโหลดไว้ในโทรศัพท์แล้วถือติดตัวไปขึ้นเครื่องได้เลย 

  • เช็กอินออนไลน์ต่างกับเช็กอินหน้าเคาน์เตอร์อย่างไร?

สมัยก่อนต้องไปเข้าคิวรอเช็กอินกันที่หน้าเคาน์เตอร์สายการบินก่อนเวลาขึ้นเครื่อง อย่างน้อย 3 ชั่วโมงสำหรับทริปต่างประเทศ และ 1 – 2 ชั่วโมง สำหรับทริปในประเทศ ถ้าเช็กอินไม่ทันทริปนั้นคือพลาด ต่างจากยุคนี้ที่สายการบินต่าง ๆ ได้เปิดให้เช็กอินผ่านอินเทอร์เน็ตได้ก่อนวันเดินทาง ไม่ต้องกังวลกับการที่จะต้องออกจากบ้านตี 1 ตี 2 สำหรับไฟลต์เช้า และไม่ต้องเสียเวลาไปยืนเข้าคิวรอนานที่เคาน์เตอร์อีกด้วย  

  • ใครที่เหมาะกับการเช็กอินออนไลน์

การเช็กอินออนไลน์เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางในประเทศและผู้เดินทางที่ไม่มีกระเป๋าโหลด ส่วนผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของสายการบินว่าจะให้ทำได้หรือไม่ เพราะการไปต่างประเทศมีขั้นตอนในเรื่องการตรวจสอบเอกสารหลายอย่างจึงอาจไม่สะดวกในการใช้บริการเช็กอินออนไลน์ แต่บางสายการบินก็สามารถทำได้

  • ขั้นตอนการเช็กอินออนไลน์

ผู้เดินทางต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ในหน้า Check-in หรือแอปพลิเคชันของสายการบิน แล้วกรอกข้อมูลรายละเอียดของตัวเอง เช่น ชื่อ-นามสกุล ข้อมูล Passport เบอร์โทร และหมายเลขการจอง ข้อสำคัญคือต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องก่อนกดยืนยัน เพียงเท่านี้ก็จะได้รับ Boarding Pass ทางอีเมลหรือโหลดในแอปพลิเคชันให้คุณนำไปแสดงตอนขึ้นเครื่อง 

  • สายการบินที่มีบริการเช็กอินออนไลน์
สายการบินที่มีบริการเช็กอินออนไลน์
  • การบินไทย 
  • บางกอกแอร์เวย์ 
  • เอมิเรตส์ 
  • แอร์ฟรานซ์ 
  • เอทิฮัดแอร์เวย์ 
  • ออลนิปปอนแอร์เวย์ 
  • คาเธ่ย์แปซิฟิก 
  • เคแอลเอ็ม 
  • โคเรียนแอร์ 
  • ไทยแอร์เอเชีย 
  • ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ 
  • ไทยไลอ้อนแอร์ 
  • ไทยสมายล์ 
  • นกแอร์ 
  • สกู๊ต 
  • เจ็ทสตาร์ 
  • เวียดเจ็ทแอร์ 

สำหรับการเดินทางครั้งใหม่ถ้าหากว่าไม่มีกระเป๋าโหลดหรือเป็นการเดินทางในประเทศ อย่าลืม เช็คเที่ยวบิน ให้ชัวร์แล้วเช็กอินออนไลน์ก่อนล่วงหน้า สะดวกกว่า ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องกลัวตกเครื่อง และหากต้องการใช้บริการรับฝากกระเป๋าหรือส่งกระเป๋า แนะนำ Airportels ช่วยลดภาระในการเดินทางให้คุณตัวเบาขึ้น เดินทางสบายทั้งไปและกลับ สนุกกับทุกทริปได้อย่างเต็มที่

ที่มาข้อมูล

รวม 5 ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ สนามบินสุวรรณภูมิ 2024

บริการเช่ารถยนต์ สนามบินสุวรรณภูมิ 2024

สำหรับนักเดินทางที่กลับจากต่างประเทศหรือใครที่เข้ากรุงเทพฯ โดยนั่งเครื่องบินมาลงสุวรรณภูมิ หากยังนึกไม่ออกว่าจะไปต่อกันอย่างไร แนะนำให้ใช้บริการ เช่ารถ สนามบินสุวรรณภูมิ มีบริษัทเช่ารถให้เลือกมากมาย หลายคนคงจะเคยเห็นและคุ้นตากันมาบ้างแล้ว เช่น ECOCAR rent-a-car, Summer Carrent, Bizcar Rental การเช่ารถขับเองสะดวกกว่า ไม่ว่าจะไปที่ไหน ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ หรือเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ๆ สามารถจอดทำธุระหรือแวะพักตามแพลนของตัวเอง ทุกภารกิจสามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไปมาอย่างไร เพราะคุณสามารถเช่าขับได้ตลอดการเดินทาง บริษัทเช่ารถมีหลายแห่ง ถ้าใครกำลังมองหาบริการนี้ ดูจากลิสต์นี้ได้เลย

1. ECOCAR rent-a-car

ECOCAR rent-a-car
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: เช่ารถ ECO Car

ที่ทำการบริษัทสาขาสุวรรณภูมิตั้งอยู่ติดกับสนามบิน (ภายนอกสนามบิน) เปิดให้เช่ารถขับเองจากสนามบินสุวรรณภูมิหรือจะเช่าเป็นรถรับ-ส่งก็ได้ มีรถหลายรูปแบบให้เลือก ทั้ง SUV สำหรับผู้ที่เดินทางหลายคน, รถปิคอัพ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางต่างจังหวัดหรือมีการขนของจำนวนมาก, รถเก๋งทั่วไป สำหรับผู้เช่าที่เดินทางคนเดียวหรือ 2 คน ECOCAR มีรถเช่าหลายยี่ห้อเลือกได้หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Toyota Ativ, Toyota Yaris, Isuzu Space Cab, Honda Mobilio ฯลฯ สามารถโทรหรือติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลเพื่อเช่ารถและบริษัทจะนำรถมาส่งให้ที่อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 8 

นอกจากสาขาที่เปิดให้ เช่ารถ สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วยังมีสาขาในกรุงเทพฯ อีก 7 แห่ง และสาขาในต่างจังหวัด ได้แก่ พัทยา เชียงใหม่ หาดใหญ่ และอุบลราชธานี

  • ค่าเช่ารถเริ่มต้นที่วันละ 1,000 บาทต้น ๆ  มีค่าเงินมัดจำ 5,000 บาท
  • ECOCAR เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 – 20.00 น.

ช่องทางติดต่อ:

  • Facebook : รถเช่าสุวรรณภูมิ By Ecocar
  • Line : @ecocar
  • E-mail : [email protected]  
  • ติดต่อเช่ารถโทร: Call Center 02-002-4604

2. SUMMERCARRENT

SUMMERCARRENT: เช่ารถกรุงเทพ กทม เริ่มวันละ 500 บาท

เปิดให้บริการเช่ารถ 2 สาขา คือ สาขาบางแคและสาขาบางนา ไม่มีเคาน์เตอร์ที่สนามบินสุวรรณภูมิแต่สามารถติดต่อเช่ารถโดยโทรจองหรือผ่านทางไลน์และนัดรับรถที่สนามบินได้เลย เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ให้เช่ารถสภาพดีในราคาที่ไม่แพง รูปแบบของรถเช่าทุกคันที่นี่จะเป็นรถขับเกียร์ออโต้ทั้งหมด สามารถเลือกยี่ห้อรถได้ตามความต้องการใช้งานและจำนวนผู้โดยสารในรถ ยี่ห้อรถที่พร้อมให้บริการคือ Toyota, Honda, Nissan, Mitsubishi, Suzuki ข้อดีของที่นี่คือบริการรับส่งรถถึงที่และมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินในระหว่างการเดินทางที่ติดต่อง่าย 

  • Summer Carrent เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30 – 18.00 น.
  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 500 บาท ราคารวมประกันแล้ว
  • ผู้เช่าต้องจ่ายเงินจองล่วงหน้า 1,000 บาท ระยะเวลาเช่าขั้นต่ำ 5 วัน

ช่องทางติดต่อ:

  • Line ID : @summercarrent
  • E-mail : [email protected]
  • ติดต่อเช่ารถโทร: 089-770-8822, 02-100-6365

3. Drive Car Rental

Drive Car Rental

มีบริการรถเช่าภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ช่วงระหว่าง Gate 7 และ 8 ข้อดีของที่นี่คือรถใหม่ มีบริการเช่ารถพรีเมียม อย่าง BMW, Mercedes Benz และรถไฟฟ้าให้เลือกอย่าง Tesla, BYD แต่หากต้องการประหยัดแนะนำเป็น Eco Car และ City Car เหมาะกับผู้เช่ากลุ่มเพื่อน จำนวนคนนั่งไม่เกิน 5 คน หากมาเป็นครอบครัวสามารถเลือกรถใหญ่ รถ SUV ส่วนกรณีเดินทางกลุ่มใหญ่มีรถตู้ให้บริการ

ในการจองรถสามารถติดต่อล่วงหน้าแล้วรอรับรถที่สนามบินหรือจะมาจองที่เคาน์เตอร์ Drive Car Rental สุวรรณภูมิก็ได้เช่นกัน  

  • Drive Car Rental เคาน์เตอร์สุวรรณภูมิเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง สำนักงานใหญ่อยู่ที่ถนนศรีนครินทร์
  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 1,000 บาทต้น ๆ 
  • ลงทะเบียนเป็นสมาชิกทางเว็บไซต์มีส่วนลด 10%

ช่องทางติดต่อ:

4. Bizcar Rental

 Bizcar Rental

เคาน์เตอร์อยู่ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า สนามบินสุวรรณภูมิ ใครที่เดินทางมาลงเครื่องที่นี่ติดต่อเช่ารถได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีบริการรถเช่าหลายยี่ห้อ หลายประเภทตั้งแต่รถเก๋งซีดานสำหรับ 1 – 4 คน รถยนต์ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง รถกระบะ หรือปิคอัพสำหรับผู้ที่ต้องการบรรทุกสิ่งของไปด้วย รถตู้ 11 ที่นั่ง ยี่ห้อยอดนิยมที่ให้บริการคือ Toyota, Nissan และสำหรับผู้ที่ต้องการรถพรีเมียมมียี่ห้อ Benz ไว้ให้บริการ ทุกคันเป็นรถใหม่ใช้งานไม่เกิน 3 ปี มีการเช็กระยะทุกปี 

นอกจากสาขาสุวรรณภูมิแล้ว Bizcar Rental ยังมีสาขาอื่นในกรุงเทพฯ และที่เชียงใหม่, ภูเก็ต, สนามบินอู่ตะเภา และอื่นๆ รวม 11 สาขา

  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 700 พร้อมประกัน
  • โปรพิเศษเริ่มต้น 650 บาท สำหรับจองรถล่วงหน้า (พ.ค. – ส.ค. 2567)

ช่องทางติดต่อ:

5. Hertz Thailand

Hertz Thailand

เคาน์เตอร์ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ช่วงระหว่าง Gate 7 และ 8 เปิด 24 ชั่วโมง ให้บริการรถเช่าเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำธุระหรือไปสถานที่ท่องเที่ยว ผู้เช่าสามารถเลือกรถได้ทุกรูปแบบ และเลือกลักษณะรถได้ตามการใช้งาน จำนวนที่นั่งผู้โดยสาร พื้นที่บรรจุสิ่งของ และระยะทางรวมที่จะขับรถ รถที่พร้อมให้บริการส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อยอดนิยม เช่น Honda, Toyota และมีรถไฟฟ้าให้บริการ เช่น ORA Good Cat 

Hertz สาขาอื่นที่ให้บริการคือที่สนามบินดอนเมืองและสาขากรุงเทพฯ-สาทร ติดต่อเช่ารถโทร Call Center 02 266-4666 หรือที่

  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 700 บาท

ช่องทางติดต่อ:

บริษัทรถเช่าทุกแห่งล้วนแล้วแต่มีข้อดีและจุดเด่น แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะให้บริการที่คล้าย ๆ กัน ถูกชะตากับเคาน์เตอร์ไหน เดินเข้าไปติดต่อได้ตามความต้องการใช้งาน แต่สำหรับบริษัทที่ไม่มีเคาน์เตอร์ในสนามบินก็สามารถโทรติดต่อเพื่อขอรายละเอียดดูอีกครั้ง อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่เหมาะกับคุณก็ได้

ที่มาข้อมูล

ฝากกระเป๋าในภูเก็ตและไปตะลอนกินของเด็ด ที่คนภูเก็ตคอนเฟิร์ม!

ฝากกระเป๋าในภูเก็ตอย่างปลอดภัย แล้วไปตะลอนหาของกินกัน!

เมื่อมาถึงจังหวัดภูเก็ต สิ่งที่แรกที่คิดถึงตั้งแต่ตอนวางแผนมาเที่ยวก็คือการหาของอร่อย ๆ ลงพุง! วันนี้ AIRPORTELs จึงขอนำเสนอ 10 เมนูเด็ดที่ชาวภูเก็ตคอนเฟิร์มว่าอร่อยชัวร์ อีกทั้งยังเป็นเมนูที่ถ้าเพื่อน ๆ มาถึงที่นี่แล้วและยังไม่ได้ลิ้มลองชิม ก็จะถือว่ายังมาไม่ถึงภูเก็ตนั่นเอง!

แต่ก่อนที่จะเริ่มออกเดินทางไปตะลอนหาเมนูเด็ด AIRPORTELs อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับจุดฝากกระเป๋าในจังหวัดภูเก็ตกันก่อน ซึ่งตอนนี้ AIRPORTELs พร้อมให้บริการฝากกระเป๋าในสนามบินภูเก็ตกันได้แล้วนะ!

รายละเอียดการให้บริการของ AIRPORTELs

บริการรับฝากและขนส่งกระเป๋าเดินทาง AIRPORTELs
  • บริการขนส่งกระเป๋าจากโรงแรมในตัวเมืองภูเก็ต ไปยังสนามบินภูเก็ต
  • บริการขนส่งกระเป๋าภายในตัวเมืองภูเก็ต (Same-day Delivery)
  • บริการขนส่งกระเป๋าถึงหน้าบ้านของคุณในวันถัดไป (Next-day Delivery)
  • ใช้งานง่ายผ่านการระบบการจองแบบออนไลน์ ที่ app.airportels.asia
  • การันตีการขนส่งกระเป๋าถึงปลายทาง 100%
  • พร้อมประกันภัยกระเป๋ามูลค่าสูงถึง 50,000 บาท
  • ระบบการแจ้งเตือนสถานะการขนส่งทาง Facebook, WeChat, Kakaotalk, E-mail
  • ราคาเริ่มต้น 400 บาท สำหรับการใช้บริการขนส่งกระเป๋าภายในตัวเมืองภูเก็ต ไม่จำกัดขนาด น้ำหนักกระเป๋า หรือระยะทาง
  • ราคาเริ่มต้น 599 บาท สำหรับการใช้บริการขนส่งไปยังพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทย จำกัดน้ำหนักกระเป๋าที่ 30 กิโลกรัม
  • จองออนไลน์ล่วงหน้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนเวลาที่ต้องการใช้บริการ

ตอนนี้เพื่อน ๆ ก็ได้ทราบจุดรับฝากกระเป๋าในจังหวัดภูเก็ตกันแล้ว เราขอเริ่มพาทุกคนไปหาของอร่อยทานกันเลยดีกว่า โดยเมนูที่จะแนะนำทั้งหมดก็จะรวมทั้งอาหารคาวและขนมหวาน และเราก็ยังแถมของฝากที่เพื่อน ๆ สามารถซื้อกลับไปให้เพื่อน ครอบครัว หรือคนสนิทกัน ไปดูกันเลย!

เมนูแนะนำในจังหวัดภูเก็ต

  • 1. หมี่หุ้นแกงปูใบชะพลู
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
หมี่หุ้นแกงปูใบชะพลู

แกงปูใบชะพลู หรือน้ำยาปู คล้ายกับน้ำยาที่ทานกับขนมจีน มีส่วนผสมของเครื่องพริกแกง กะปิ กะทิ และขมิ้น แกงจึงมีสีเหลืองสวย มีรสชาติเผ็ด เค็ม เข้มข้นตามแบบฉบับอาหารใต้ ทางใต้มีอาหารทะเลเยอะเลยใช้เนื้อปูมาประกอบอาหาร ทานคู่กับเส้นหมี่ขาว หรือที่คนภูเก็ตนิยมเรียกว่า หมี่หุ้น โรยด้วยกระเทียมเจียว อร่อยจนต้องขอแนะนำ!

ร้านแนะนำ: ร้านครัวระย้า, ร้านชมจันทร์, ร้านหลังคาสังกะสี

  • 2. หมูฮ้อง
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
หมูฮ้อง

หมูฮ้อง หรือหมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว มีลักษณะคล้ายหมูพะโล้ แต่รสชาติไม่เหมือนกัน ทำมาจากหมูสามชั้นหมักกับสมุนไพร ได้แก่ พริกไทยขาว หอมแดง กระเทียม และอบเชย ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ซีอิ๊วขาว ช่วยเพิ่มรสชาติ และซีอิ๊วดำ ช่วยเพิ่มสีสันให้หมูฮ้องของเรา ผัดและตุ๋นไปเรื่อยๆ จนหมูเปื่อย ทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ร้านแนะนำ: ร้านตู้กับข้าว, ร้านวันจันทร์, ร้านมะลิ อาหารพื้นเมืองภูเก็ต

  • 3. โลบะ
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
โละบะ

โลบะ คือ ส่วนต่างๆ จากหมู เช่น เนื้อหมู หัวหมู เครื่องในหมู นำไปต้มกับเครื่องพะโล้ ก่อนนำไปลวกด้วยน้ำผสมซีอิ๊วดำ แล้วจึงนำไปทอดให้ผิวด้านนอกกรอบ ทานกับน้ำจิ้มหวานอมเปรี้ยว ซึ่งทำจากมะขามเปียก น้ำตาล และพริกป่น คนภูเก็ตนิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง

ร้านแนะนำ: ร้านโลบะ บางเหนียว, ร้านโลบะแม่ย่านาง

  • 4. โอวต้าว
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
โอวต้าว

โอวต้าว มีลักษณะคล้ายหอยทอดในภาคกลาง แต่เนื้อแป้งมีความเหนียวนุ่มกว่า มีส่วนผสมของหอยนางรมตัวเล็กๆ (ชาวภูเก็ตเรียกหอยติบ) ไข่ เผือกนึ่ง มีถั่วงอกเป็นผักเคียง โรยด้วยกากหมู กุ้งแห้ง หอมแดงเจียว เสิร์ฟคู่กับซอสพริก มีรสชาติจัดจ้าน

ร้านแนะนำ: ร้านโอวต้าว บางเหนียว, ร้านโอวต้าวจี้เปี่ยน, ร้านโอวต้าว สี่แยกจุ๊ยตุ่ย

  • 5. ฮูแช้
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
ฮูแช้

ฮูแช้ หรือบางคนอาจเรียกว่าสลัดผักภูเก็ต เพราะมีหน้าตาคล้ายสลัดผัก ประกอบด้วยผักกาดหอม แครอทซอย มันแกวซอย แตงกวาหั่นซอย เมล็ดข้าวโพดต้มสุก เต้าหู้เหลืองทอดหั่นซอย ไข่ต้ม หมี่กรอบ แต่แท้จริงแล้วฮูแช้ในสมัยก่อนต้องมีผักบุ้งลวกและถั่วงอกลวกด้วย ทานคู่กับน้ำจิ้มพริกแห้ง โรยด้วยถั่วลิสงและงาขาวคั่ว

ร้านแนะนำ: ร้านหมี่สะปำ คุณยายเจียร

  • 6. โอเอ๋ว
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
โอเอ๋ว

โอเอ๋ว เป็นขนมท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต มีลักษณะเป็นวุ้นใส แตกต่างจากวุ้นทั่วไปเพราะทำจากสมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นเมล็ดเล็กๆ สีน้ำตาล แก้ร้อนใน ส่วนผสมหลักๆ ของการทำโอเอ๋ว คือ เมล็ดโอเอ๋ว กล้วย และเจี๊ยะกอ ทานคู่กับน้ำแข็งไส ราดน้ำเชื่อมหรือน้ำหวานสีแดง เพิ่มเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ถั่วแดงต้ม วุ้นดำ (เฉาก๊วย) แตงโม กล้วย เป็นเมนูช่วยดับร้อนชั้นดี

ร้านแนะนำ: ร้านโอเอ๋วบ้านโกโรจน์, ร้านโอเอ๋ว หล่อโรง ตลาดฉำฉ่า, ร้านลกเที้ยน

  • 7. เต้าส้อ
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
เต้าส้อ

หลายคนชอบคิดว่าขนมเต้าส้อกับขนมเปี๊ยะคือขนมชนิดเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ ขนมเต้าส้อจะมีขนาดใหญ่กว่า มีเปลือกกรอบ ร่วนซุยกว่าขนมเปี๊ยะ เนื่องจากต้องอบหรือย่างไฟทั้ง 2 ด้าน มีไส้หวานกับไส้เค็ม ซื้อไปทานเล่นก็ได้ หรือซื้อเป็นของฝากก็ดี

ร้านแนะนำ: ร้านบ้านปิยวรรณ, ร้านเต้าส้อ แม่บุญธรรม

  • 8. อาโป้ง
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
อาโป้ง

อาโป้ง หรือขนมเบื้องมาเลเซีย มีลักษณะคล้ายขนมถังแตก ทำจากแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย ไข่ไก่ (ไข่แดงอย่างเดียว) น้ำกะทิ ผสมให้เข้ากัน กลิ้งน้ำแป้งเป็นแผ่นกลมให้ทั่วกระทะ พอเหลืองก็ลอกแล้วม้วนออกมาทิ้งไว้ จะกรอบนอกนุ่มใน นิยมรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟ

ร้านแนะนำ: ร้านอาโป้งแม่สุณี, ร้านอาโป้ง โกเนี้ยว เจ้าเก่า

  • 9. บี้ผ้าง
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
บี้ผ้าง

ขนมบี้ผ้าง เป็นขนมท้องถิ่นของภูเก็ตที่มีมานาน ลักษณะเป็นข้าวพอง (ข้าวเหนียว) ทอดกรอบ ตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ราดด้วยน้ำตาลเคี่ยวรสชาติหวานเค็ม กลมกล่อม คล้ายข้าวตัง มีกลิ่นหอมจากหอมเจียว เหมาะเป็นของว่างที่ทานคู่กับเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นสักแก้ว รับประทานได้ง่าย เก็บได้นาน

ร้านแนะนำ: ร้านขายของฝากทั่วไป

  • 10. ปุ้ยควาย
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
ปุ้ยควาย

ขนมปุ้ยควาย หรือขนมหัวใจงาขาว เป็นขนมสมัยโบราณ ทำจากแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล อบพร้อมงาขาว รสสัมผัสนุ่มหนึบ รสชาติหวาน กลิ่นหอม อร่อย รับประทานเป็นของว่าง คู่กับชา กาแฟ

ร้านแนะนำ: ร้านเค่งติ้น

เป็นไงกันบ้างเพื่อน ๆ อาหารพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ตที่นำมาฝากนั้นน่าทานมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ? ถ้าใครมาเที่ยวภูเก็ตก็อย่าลืมแวะตะลอนชิมตามรอยบทความของเรากันนะ และเพื่อความสะดวกสบาย แนะนำให้ฝากกระเป๋าในภูเก็ต กับ AIRPORTELs ด้วยน้า

บริการขนส่งกระเป๋าของ AIRPORTELs ใช้บริการอย่างไร?

วิธีที่สะดวกที่สุดคือการจองออนไลน์ที่เว็บไซต์ของแอร์พอเทลล์ https://www.airportels.asia/

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

โดยเลือกที่การบริการ Nationwide Delivery จากนั้นเลือกจุดส่งกระเป๋า (A) และจุดปลายทาง (B)

หลังจากทำการจองเรียบร้อยแล้ว จะมีพนักงานมารับกระเป๋าสัมภาระไปส่งยังปลายทางให้อย่างเรียบร้อย สบายใจหายห่วงได้เลย!

บริการฝากและขนส่งกระเป๋าของ AIRPORTELs ในประเทศไทย

พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  1. สนามบินสุวรรณภูมิ
  2. สนามบินดอนเมือง
  3. ห้างสรรพสินค้า Central World (Groove Zone)
  4. ห้างสรรพสินค้า Central World (Hug Thai Zone)
  5. ห้างสรรพสินค้า MBK Center
  6. ห้างสรรพสินค้า Mixt Chatuchak
  7. ห้างสรรพสินค้า Terminal21 Asok
  8. ICONSIAM
  9. อาคารพิชัยญาติ เยาวราช
  10. MeSpace สยาม-จุฬา 16
  11. MeSpace รัชดา-พรราม 9
  12. MeSpace ลาดพร้าว

พื้นที่เมืองพัทยา

  1. ห้างสรรพสินค้า Terminal21 Pattaya
  2. ห้างสรรพสินค้า Central Pattaya

พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

  1. ห้างสรรพสินค้า Central Chiangmai Airport
  2. สนามบินเชียงใหม่

พื้นที่จังหวัดสมุย

  1. ห้างสรรพสินค้า Central Samui

หมายเลขโทรศัพท์ : 02-026-6927
Website: www.airportels.asia 
E-mail: [email protected]
Line: @AIRPORTELs
WeChat: AIRPORTELs
Kakao Talk: AIRPORTELs
Facebook: www.facebook.com/airportels

ล่องเรือเจ้าพระยา: ค้นพบสุดยอด 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้การเดินทางของคุณไม่ธรรมดา

วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับสายน้ำมาเนิ่นนานโดยเฉพาะ “แม่น้ำเจ้าพระยา” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่ครั้งอดีต แม้ปัจจุบันบทบาทและความสำคัญจะลดเลือนลงไปตามกาลเวลา แต่ความงดงามของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังคงมีมนต์เสน่ห์เสมอ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายทำให้ทุกวันนี้ง่ายต่อการไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ริมฝั่งแม่น้ำ ทว่าการล่องเรือชมแม่เจ้าพระยาเป็นหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากนั่นเพราะจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามจากหลายสถานที่ในมุมมองที่แตกต่างแบบพาโนรามาด้วยเวลาเพียงไม่นาน 

10 แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อล่องเรือเจ้าพระยา

10 แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อล่องเรือเจ้าพระยา
วัดอรุณราชวราราม

วัดเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอกแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งในสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งในยุคนี้มีการอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรจากเวียงจันทน์มาประดิษฐานไว้ที่นี่ด้วย ต่อมารัชกาลที่ 2 ทรงสถาปนาเป็นวัดประจำพระองค์ และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดอรุณราชธาราม จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นวัดอรุณราชวรารามในสมัยรัชกาลที่ 4 วัดอรุณราชวรารามมีพระปรางค์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามด้านสถาปัตยกรรม โดดเด่นด้วยความสูงถึง 82 เมตร หากล่องเรือผ่านมาในช่วงเย็นจะมองเห็นภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าด้านหลังพระปรางค์ซึ่งสวยงามเกินคำบรรยาย หากเป็นช่วงค่ำพระปรางค์องค์ใหญ่จะกระทบแสงไฟระยิบระยับงามสง่าไปทั่วคุ้งน้ำจนไม่อาจละสายตาได้เช่นกัน

Royal Thai Navy Convention Hall
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Royal Thai Navy Hall – BANGKOK

นอกจากความสวยสง่าของอาคารสถานที่ อนุสาวรีย์บุคคลสำคัญของกองทัพเรือ และสะพานข้ามคลองมอญอันขึ้นชื่อแล้ว ที่นี่ยังมีหอประชุมกองทัพเรือซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับพระบรมมหาราชวัง โดยหอประชุมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2546 เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมและต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม APEC 2003 รวมทั้งเป็นสถานที่ชมการแสดงกระบวนพยุหยาตราชลมารคด้วย หากล่องเรือมาถึงบริเวณนี้จะเห็นพื้นที่ด้านหน้าซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นลานกว้างเปิดโล่งรับกับทัศนียภาพของพระปรางค์วัดอรุณ โดดเด่นด้วยศาลาทรงไทยขนาดใหญ่ซึ่งช่วยส่งให้อาคารหอประชุมสีขาวด้านหลังสง่างามมากยิ่งขึ้น 

สะพานพระราม8

สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามโดดเด่นจนเป็นเอกลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2538 และเปิดใช้บริการใน พ.ศ. 2545 มีลักษณะเป็นสะพานขึงแบบสมมาตร ยาว 475 เมตร ซึ่งเป็นสะพานแขวนอสมมาตรที่ยาวติดอันดับ 5 ของโลก ไม่ว่าจะล่องเรือผ่านมาในช่วงเย็น พลบค่ำ หรือกลางคืน บรรยากาศของสะพานพระราม 8 ก็มีเสน่ห์ชวนมองไม่รู้เบื่อ ถือป็นจุดถ่ายรูปบนเรือที่ไม่ควรพลาด 

สะพานพุทธ

สะพานถนนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เก่าแก่ที่สุดของไทย โดยสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 ลักษณะเด่นของสะพานจึงเกี่ยวเนื่องกับพระองค์ท่าน อาทิ เป็นสะพานเหล็กที่มีโครงสร้างทรงลูกศร (หัวลูกศรหันไปทางฝั่งธนบุรี) ซึ่งออกแบบตามพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 7 ทั้งยังเป็นสะพานสีเขียวแห่งเดียวในกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 7 นอกจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสะพานที่สวยงามแล้วบริเวณเชิงสะพานยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนและร้านค้ามากมาย เพราะมีตลาดกลางคืนขนาดใหญ่ ดังนั้นเมื่อล่องเรือเจ้าพระยาผ่านมาเราจะได้สัมผัสทั้งทัศนียภาพของสะพานพุทธและสีสันยามค่ำคืนของตลาดแห่งนี้

สะพานตากสิน

สะพานตากสินหรือสะพานสาทร ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2525 เนื่องในวโรกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปี เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแบบสะพานคู่ (ขาเข้าและขาออก) ห่างกัน 15 เมตร ตรงกลางเป็นรางรถไฟฟ้า เมื่อมองจากเรือล่องเจ้าพระยาเราจะเห็นแสงสียามค่ำคืนของกรุงเทพฯ และการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นบนสะพาน ด้วยความสูงจากระดับน้ำเพียง 12 เมตร หากล่องเรือผ่านมาในช่วงที่น้ำขึ้นจะมองเห็นใต้สะพานได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้สะพานตากสินยังเป็นจุดถ่ายรูปและชมพลุปีใหม่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมาก 

 เอเชียทีค ริเวอร์ฟรอนท์ 

จากโกดังเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาสู่การเป็นแหล่งชอปปิงยามค่ำคืนและสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ภายใต้แนวคิด Festival Market and Living Museum เมื่อมองมาจากบนเรือล่องเจ้าพระยาจะเห็นทัศนียภาพของศูนย์การค้าที่เปิดโล่งขนาดใหญ่พร้อมแสงสีไนท์ไลฟ์ยามค่ำคืน โดดเด่นด้วยเอเชียทีค สกาย ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงถึง 60 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนบนเรือก็สวย  

พระบรมมหาราชวัง

คนไทยเราคุ้นเคยกับภาพของพระบรมมหาราชวังกันเป็นอย่างดี ทั้งภาพถ่ายหรือวิดีโอที่ได้เห็นตามสื่อต่าง ๆ และอีกจำนวนไม่น้อยที่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชมสถานที่จริง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วภาพเหล่านั้นมักเป็นมุมมองจากบนถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง หากแต่ทัศนียภาพที่ได้ชมบนเรือล่องเจ้าพระยาจะเป็นพระบรมมหาราชวังฝั่งทิศตะวันตกซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาจึงให้มุมมองที่สวยงามและแตกต่างจากเดิม 

สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย วังบางขุนพรหมขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในวังที่สวยที่สุดของประเทศไทย ทั้งยังเป็นวังที่มีสถาปัตยกรรมบารอกและโรโคโคสมบูรณ์แบบที่สุดด้วย 

โบราณสถานสำคัญของชาติซึ่งถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันพระนคร ป้อมพระสุเมรุได้รับการซ่อมแซมบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5 และยังคงความสง่างามมาจนถึงปัจจุบัน

เป็นจุดนั่งชมทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง ทั้งยังมีพระที่นั่งสันติชัยปราการซึ่งเป็นพลับพลาที่สร้างขึ้นมาเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 9 สำหรับใช้เป็นสถานที่จัดพระราชประเพณีต่าง ๆ อันเกี่ยวกับแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่ออยู่บนเรือล่องเจ้าพระยาจะมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของพระที่นั่งสันติชัยปราการยามกระทบแสงไฟท่ามกลางภูมิทัศน์อันสวยงามร่มรื่นของสวนสาธารณะแห่งนี้

แนะนำวิธีการเยี่ยมชม

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการล่องเรือเจ้าพระยาหลายราย สามารถเลือกรายละเอียดได้ตามต้องการ อาทิ วัน/เวลาเดินทาง โปรโมชั่นอาหาร/เครื่องดื่ม ราคา และลักษณะของเรือ เช่น จำนวนชั้นของเรือ ดาดฟ้า หลังคา ทั้งนี้แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะได้จองที่นั่งริมระเบียงดาดฟ้าเรือซึ่งเต็มค่อนข้างเร็ว ถ้าเลือกได้ให้นั่งบริเวณปีกขวา ขาไปจะได้ใช้เวลาในการรับประทานอาหารแล้วขากลับค่อยถ่ายรูปให้ฉ่ำใจ และหากจุดที่นั่งอยู่ถ่ายรูปแล้วเห็นวิวไม่ชัดแนะนำให้เดินไปที่หัวเรือรับรองว่าได้รูปสวยแน่นอน 

คำแนะนำการล่องเรือ

การล่องเรือเจ้าพระยาในวันธรรมดาจะมีเฉพาะรอบค่ำ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์เปิดเพิ่มรอบเย็น (ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งใจมาถ่ายรูปเนื่องจากช่วงเวลานั้นแสงธรรมชาติกำลังสวย มองเห็นวิวได้ชัดเจน แถมมีโอกาสได้ที่นั่งวิวดีเพราะมีจำนวนผู้ใช้บริการน้อยกว่าช่วงค่ำ ทั้งยังมีราคาถูกกว่าด้วย อย่างไรก็ตามทุกรอบจะมีเส้นทางเดินเรือและการบริการภายในเรือที่เหมือนกัน เพียงแต่รอบเย็นนั้นใช้เวลาในการเดินเรือสั้นกว่า 

หากเรือที่จองเป็น Meridian Cruise, White Orchid River Cruise, Alangka Cruise, Smile Riverside และ Chao Phraya Princess จะต้องมาลงเรือที่ท่าเรือไอคอนสยาม ซึ่งสามารถติดต่อขอรับบัตรได้ที่จุดบริการชั้น G โซนสุขสยาม โดยจะมีห้องกระจกระบุชื่อเรือแต่ละลำไว้ หลังจากรับบัตรเรียบร้อยแล้วออกมานั่งเล่นรอบบริเวณท่าเรือตามที่ระบุไว้บนบัตรได้เลย และสำหรับผู้ที่มาใช้บริการ ล่องเรือเจ้าพระยา ไอคอนสยาม มอบสิทธิพิเศษในการจอดรถฟรี 4 ชั่วโมง โดยสามารถเดินจากลานจอดรถมาที่ท่าเรือได้อย่างสะดวกสบาย

เวลาประมาณสองชั่วโมงของการล่องเรือเจ้าพระยาเราได้ชมความงดงามของสถานที่ต่าง ๆ มากมาย ท่ามกลางลมเย็น ๆ จากแม่น้ำปะทะผิวหน้า วิวเจ้าพระยาแบบพาโนรามา อาหารแสนอร่อย แวดล้อมด้วยบรรยากาศแห่งความสุขโดยรอบ เชื่อว่าคงเป็นชั่วโมงต้องมนต์ของทุกคนอย่างแน่นอน

ที่มาข้อมูล :

สำรวจบุฟเฟ่ต์เด็ด MBK: ร้านอาหารที่จะทำให้คุณต้องกลับมาอีก

สำรวจบุฟเฟ่ต์เด็ด MBK: ร้านอาหารที่จะทำให้คุณต้องกลับมาอีก

ไม่ว่าจะอดีตในชื่อ “มาบุญครอง” หรือปัจจุบันในนาม “MBK Center” ที่นี่ยืนหนึ่งเรื่องการเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นมาทุกยุคทุกสมัย เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการโดยเฉพาะโซนอาหารและคาเฟ่ ซึ่ง MBK Center ได้คัดสรรร้านดังร้านเด็ดมากมายมารวมไว้จนกลายเป็น HUB OF CAFE & RESTAURANT ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองซึ่งเหล่านักชิมทั้งหลายไม่ควรพลาด

ล่าสุด MBK Center New Episode ยังได้จัดโซนใหม่ All Day Dining & Midnight Life Space ยกขบวนร้านอร่อยชื่อดังมาให้บริการตั้งแต่ 07.00 น. เรื่อยไปจนถึงดึก นอกจากขยายเวลาให้บริการความอร่อยแล้วที่นี่ยังมีร้านบุฟเฟต์ให้เลือกมากมายหลายแบบรับรองว่าถูกใจสายกินอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ไปส่องร้านบุฟเฟต์ที่ MBK Center กัน

1.Senju Shabu & Sushi Premium Buffet 

.Senju Shabu & Sushi Premium Buffet 
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Hungry with Pungy

บุฟเฟต์ชาบูและซูชิสุดพรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่นแท้ อิ่มอร่อยได้อย่างหลากหลายเพราะมีรายการอาหารให้เลือกเยอะ คุ้มค่ายืนหนึ่งในเรื่องของชาบูด้วยน้ำซุปที่มีมากถึง 8 แบบ ได้แก่ ซุปชาบู ซุปกิมจิ ซุปเล้งแซ่บ ซุปต้มยำ ซุปเห็ดหอมไวน์แดง ซุปหม่าล่า ซุปสุกี้ยากี้ และซุปกระดูกหมู โดยใน 1 หม้อ สามารถเลือกได้ถึง 4 ซุป พร้อมเนื้อวัวนำเข้าเกรดพรีเมียม เนื้อหมู อาหารทะเล และผักสด ซูชิก็ไม่น้อยหน้าจัดเต็มมาให้แบบจุก ๆ ทั้งยังมีซาชิมิ อาหารญี่ปุ่น และขนมหวานแสนอร่อยที่เสิร์ฟไม่อั้น

  • ราคา : Classic Buffet 399+, Superior Buffet 699 +, Deluxe Buffet 899 +, Diamond Buffet 1,099 + และ Royal Buffet 1,599 บาท  
  • เปิดบริการ : วันจันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 22.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ 10.00 – 22.00 น.                                      
  • พิกัด : ชั้น 7
สุกี้ตี๋น้อย

บุฟเฟต์สุกี้เจ้าดังที่ให้ทุกคนอิ่มอร่อยในราคาไม่แพง พร้อมความหลากหลายของเมนู ภายใต้คอนเซ็ปต์อร่อยได้ไม่อั้นเที่ยงวันยันเช้า โดยสาขานี้เป็นสาขาแรกที่มีของทอดให้ทานเล่น ทั้งเฟรนช์ฟรายส์ แผ่นเกี๊ยวทอด ชิกุว่าสอดไส้ชีส และไก่ป๊อป ไม่ว่าคิวจะยาวแค่ไหนก็ยังพออุ่นใจได้ในการรอเพราะสาขานี้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างรองรับการให้บริการได้จำนวนมาก

  • ราคา : 219 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิล 39 บาท/คน และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) เด็กส่วนสูงไม่ถึง 90 ซม. รับประทานฟรี
    เด็กส่วนสูง 91 – 120 ซม. ราคา 109 บาท 
  • เปิดบริการ : 12.00 – 05.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน C
Shinkanzen sushi
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Shinkanzen sushi

เป็น ร้านอาหาร mbk ที่มีให้เลือกทั้งแบบ A la carte และบุฟเฟต์ บอกเลยว่าซูชิเลิฟเวอร์ทั้งหลายไม่ควรพลาดเพราะร้านนี้มีซูชิคุณภาพเกรดพรีเมียม มาพร้อมอาหารญี่ปุ่นกว่า 200 เมนูให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นซูชิเนื้อวากิว ซูชิแซลมอนย่างสไปซี่ ซูชิปลาไหล ซูชิปลาหมึกหิ่งห้อย ซูชิอูนิ(ชิลี) ซาชิมิแซลมอน หอยเชลล์ ทูน่า ชิราชิด้ง เอ็นกาวะย่าง กุ้งดองซีอิ๊วญี่ปุ่น กุ้งหวานญี่ปุ่นจัมโบ้ย่างเมนไตโกะ หอยนางรมพอนสึ ไข่แซลมอน และอีกมากมายที่พร้อมเสิร์ฟแบบไม่อั้น 

  • ราคา : 329+, 549+ และ 879+ ( ไม่รวมเครื่องดื่มและภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)                      
  • เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น. 
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน A
บุฟเฟต์ชาบูสายพานมาพร้อมอาหารและเมนูทานเล่นหลากหลายเมนู ทั้งซูชิ เทมปุระ ซาบะย่าง ข้าวแกงกะหรี่ เ

บุฟเฟต์ชาบูสายพานมาพร้อมอาหารและเมนูทานเล่นหลากหลายเมนู ทั้งซูชิ เทมปุระ ซาบะย่าง ข้าวแกงกะหรี่ เกี๊ยวซ่า มิโสะซุป ไอศกรีม ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ส่วนไลน์สายพานนั้นก็ยังคงจัดเต็มเช่นเดิม หนึ่งในร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่นขวัญใจสายบุฟเฟต์ก็ต้องมีชื่อชาบูชิ 

  • ราคา : 399+ (ราคาสุทธิ 427 บาท)
  • เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 7
โม โม พาราไดซ์

ร้านอาหาร mbk สไตล์ชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ รสชาติต้นตำรับแท้จากประเทศญี่ปุ่นมาพร้อมกับเนื้อคุณภาพระดับพรีเมียม ทั้งเนื้อวากิว เนื้อ USDA และเนื้อวัว Australian นอกจากนี้ยังมีหมูคุโรบูตะ ไก่ไม้ไผ่ซึ่งใช้ไก่เบญจา เป็ดอนามัย และผักสดปลอดสารพิษ ลงตัวกับน้ำซุปที่หอมกลมกล่อม 4 แบบ ได้แก่ น้ำซุปชาบูชาบู น้ำซุปสุกี้ยากี้ น้ำซุปทงคตสึ และน้ำซุปคารามิโสะ ตบท้ายด้วยของหวานแสนอร่อยอย่างไดฟุกุ ซอฟครีม และไอศกรีมโฮมเมดหลากรส แม้จะมีเมนูไม่มากแต่จัดว่าเด็ดและเน้นการใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งร้านที่สายเนื้อไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง 

  • ราคา : 599+, 729+ และ 1,290+
  • เปิดบริการ : วันจันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 22.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ 10.00 – 22.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 7
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: นักล่าหมูกระทะ Nak-La Mookata

แม้จะเสิร์ฟมาในรูปแบบเซตแต่ก็ขอเหมารวมร้านหมูกระทะติดแอร์อย่างนักล่าหมูกระทะไว้ในกลุ่มบุฟเฟต์ด้วย เพราะที่นี่มีบาร์ผักให้เติมได้ไม่อั้นหรือเรียกได้ว่าเป็นบุฟเฟต์ผักนั่นเอง มาพร้อมน้ำจิ้ม 5 แบบ อร่อยทุกแบบโดยเฉพาะน้ำจิ้มไข่ดองซึ่งต้องยกนิ้วให้เลยว่าเด็ดจริง และไม่ว่าจะสั่งเซตหมูหรือเนื้อทางร้านมีซีฟู้ดมาให้ด้วยรับรองอิ่มคุ้มแน่นอน 

  • ราคา : เซตหมู เริ่มต้นที่ 279 บาท  เซตเนื้อ เริ่มต้นที่ 299 บาท 
  • เปิดบริการ : 11.00 – 02.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน C 

ไม่ว่าจะชอบบุฟเฟต์แบบไหน สุกี้ ชาบู หมูกระทะ ซูชิ หรือซาชิมิ MBK Center รวมไว้ให้ในที่เดียว หมดปัญหาว่าจะไปกินอะไรที่ไหนดี ? แค่นัดมาเจอกันก่อนที่ MBK Center แล้วค่อยมาเลือกร้านก็ได้ เพราะทุกร้านที่นี่ให้สายกินฟินแบบไม่อั้น แถมยังเดินทางง่ายจะใช้รถส่วนตัวหรือรถไฟฟ้าก็สะดวก ตอบโจทย์ความต้องการครบขนาดนี้นัดครั้งหน้าเจอกันเลยที่ MBK Center

ที่มาข้อมูล :

9 กิจกรรมน่าสนใจ เมื่อไปเดินเล่นย่าน Siam Center

แน่นอนว่าหากพูดถึง Siam Center คนส่วนใหญ่ต้องนึกถึงศูนย์รวมร้านอาหาร คาเฟ่ และความบันเทิงทุกรูปแบบ แต่ในความเป็นจริงย่านสยามยังเป็นแหล่งรวมกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเดี่ยว แบบกลุ่มเพื่อน และแบบครอบครัว ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย แต่ตอนนี้จะมีกิจกรรมไหนน่าสนใจบ้างนั้น มาดูกันเลย

SEA LIFE Bangkok Ocean World

สำหรับ SEA LIFE Bangkok Ocean World เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลกบนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร อัดแน่นไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิดและมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์ใต้น้ำ โซนแอ่งหินเรียนรู้ โซน Rainforest Adventure โชว์ให้อาหารแพนกวิน

  • กิจกรรม

เดินชมนิทรรศการกว่า 11 จุด และสัตว์น้ำใต้ทะเลกว่า 400 สายพันธุ์ รวมกันกว่า 30,000 ชีวิต นอกจากนั้นด้านในยังมีร้านจำหน่ายขนม เครื่องดื่ม และของที่ระลึก

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสยาม รถโดยสารประจำทาง และรถยนต์ส่วนตัว เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 19.00 น. 

  • ราคาค่าเข้า

ราคาปกติ 640 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าชมฟรี

BACC หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

หากชอบเสพงานศิลป์บอกเลยว่าห้ามพลาดสำหรับ BACC หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพราะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนการจัดแสดงนิทรรศการจากศิลปินหลากหลายแนว เรียกว่ามีให้เสพให้เดินดูกันตลอดทั้งปี

  • กิจกรรม

ชมงานศิลปะหรือเข้ารวมกิจกรรมต่าง ๆ อย่างดนตรี ละคร ภาพยนตร์ กวี เสวนา และวรรณกรรม 

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่สี่แยกปทุมวัน ถนนพระราม 1 สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออกที่ 3 และเรือสายในคลองแสนแสบ ขึ้นที่ท่าเรือสะพานหัวช้าง เปิดให้บริการวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 20.00 น. หยุดให้บริการทุกวันจันทร์และช่วงวันหยุดปีใหม่ สงกรานต์

  • ราคาค่าเข้า

ไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นเข้าชมการแสดงพิเศษที่มีการเก็บค่าเข้าชม

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Chula Book

ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของคนรักการอ่านสำหรับศูนย์หนังสือจุฬาฯ เพราะมีครบทั้งตำราเรียน หนังสืออ่านเล่น หนังสือภาษาต่างประเทศ สื่อการสอน และอุปกรณ์เครื่องเขียนให้เลือกมากมาย รับประกันว่าต้องได้หนังสือกลับบ้านแน่นอน

  • กิจกรรม

เลือกซื้อหนังสือและอุปกรณ์เครื่องเขียน

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 อาคารวิทยกิตติ์ จุฬา 64 การเดินทางสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม เปิดให้บริการวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.00 – 20.00 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 08.30 – 20.00 น.  

  • ราคาค่าเข้า

ไม่มีค่าใช้จ่าย

Don Don Donki ที่ MBK Center

ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น Don Don Donki เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คที่คนไปเที่ยวสยามต้องแวะไปชอป เพราะที่นี้มีครบทั้งสินค้าแบรนด์เนม เครื่องสำอาง ของใช้ เครื่องเขียน ของเล่น ขนม และอาหารราคาดีส่งตรงมาจากญี่ปุ่น รวมทั้งยังมีโซนร้านอาหาร คาเฟ่ และโซนเอนเตอร์เทนเมนท์ D-SPORT STADIUM ให้สนุกอีกด้วย 

  • กิจกรรม

เลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศญี่ปุ่น รับประทานอาหาร และสนุกกับกิจกรรมที่โซนเอนเตอร์เทนเมนท์ D-SPORT STADIUM

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้ามาบุญครอง เดินทางด้วยรถส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง หรือรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออกที่ 2 เดินไปยังทางเชื่อมเข้าห้างได้เลย เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 – 24.00 น.

  • ราคาค่าเข้า

ไม่มีค่าใช้จ่าย

The Stronghold Siam
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: The Stronghold Siam

หากชอบเล่นบอร์ดเกมและอยากทำความรู้จักกับกลุ่มคนที่ชอบเหมือนกันต้องไปที่ร้าน The Stronghold Siam เพราะนอกจากมีบอร์ดเกมให้เลือกเล่นมากกว่า 500 เกม ยังมีอาหารและเครื่องดื่มบริการอีกด้วย

  • กิจกรรม

เล่นบอร์ดเกม รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โรงหนังลิโด้ ถนนพระราม 1  สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม ทางออกที่ 2 และเดินไปทางถนนพระราม 1 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 – 23.00 น.

  • ราคาค่าเข้า

ค่าเล่นเกมชั่วโมงละ 60 บาท เหมาทั้งวัน 200 บาท

The Rink Ice Arena
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: The Rink Ice Arena

ถือว่าเป็นอีกสถานที่ดับร้อนยอดฮิตของคนไทย สำหรับ The Rink Ice Arena ลานสเก็ตน้ำแข็งสุดโรแมนติกแห่งแรกของไทย เหมาะกับคู่วัยรุ่นหนุ่มสาวและเด็ก ๆ มาเล่นสนุก แต่ถ้าใครเล่นไม่เป็นยังมีบริการทดลองเรียนฟรีอีกด้วย

  • กิจกรรม

เล่นสเก็ตน้ำแข็ง 

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่งอิเซตัน สามารถเดินทางด้วยรถส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า BTS สถานีสยามหรือสถานีชิดลม เปิดให้บริการทุกวัน โดยวันจันทร์ – วันศุกร์ เปิดเวลา 11.00 – 21.00 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์ เปิดเวลา 10.30 – 21.00 น.

  • ราคาค่าเข้า

ค่าบริการ 1 ชั่วโมง ราคา 240 บาท 1.30 ชั่วโมง ราคา 270 บาท และ 2 ชั่วโมง ราคา 300 บาท ค่าเช่าแมวน้ำสำหรับเกาะ 150 บาท ค่าเช่าแพนกวิน 100 บาท ค่าเช่าถุงเท้าถุงมือ 500 บาท และค่าเช่าล็อกเกอร์ 30 บาท

คนที่ชอบดูหนังต้องลองไปที่ Paragon Cineplex โรงหนังสุดหรูที่จะเปลี่ยนประสบการณ์ดูหนังให้ตื่นเต้นมากกว่าเดิม และสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องลองไปสัมผัสกับสยามภาวลัย (Siam Pavalai) โรงภาพยนตร์ใหญ่ที่สุดในประเทศ รับรองเต็มตาแน่นอน

  • กิจกรรม

ดูภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ชั้น 5 และ 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสยาม ซึ่งสามารถเดินจากทางเชื่อมเข้าสู่ตัวห้างได้เลย เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 00.00 น.

  • ราคาค่าเข้า

เสียค่าเข้าชมภาพยนตร์

ร้องคาราโอเกะ (Blu-O Rhythm & Bowl)

อีกกิจกรรมที่แก๊งเพื่อนต้องไปลอง สำหรับการร้องคาราโอเกะที่ Blu-O Rhythm & Bowl รับประกันว่าสนุกสุดเหวี่ยงได้แบบเป็นส่วนตัว

  • กิจกรรม

ร้องคาราโอเกะ

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสยาม เปิดให้บริการวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 11.00 – 21.00 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 10:30 – 21:00 น.          

  • ราคาค่าเข้า

ค่าใช้บริการห้อง Size S ราคา 550 บาท Size M ราคา 600 บาท Size L ราคา 900 บาท ต่อชั่วโมง

ใครที่ชอบเล่นเกมและอยากเจอกับประสบการณ์จริง ต้องไปลองเล่นสนุกที่ Siam Laser Game มีพื้นที่ให้เล่นถึง 1,300 ตารางเมตร จุคนได้รอบละ 50 คน เครื่องเสียงแบบ High-End Surrounded และจัดเต็มไฟ LED สุดอลังการ

  • กิจกรรม

เล่นเกมยิงปืนเลเซอร์ครั้งละ 15 – 20 นาที 

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินโรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ ซอย 6 สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า BTS สถานีสยาม ทางออกที่ 6 ไปยังโรงแรม เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 24.00 น.

  • ราคาค่าเข้า

ค่าบริการ 1 เกม เด็ก 300 บาท ผู้ใหญ่ 350 บาท 

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งตัวเลือกเวลามาเที่ยว siam center สำหรับคนชอบทำกิจกรรม ส่วนจะเลือกทำกิจกรรมไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว แต่รับประกันว่าสนุกถูกใจ 

ที่มาข้อมูล :