พามาส่อง Facility ของ 10 โรงแรม หรูระดับ 5 ดาว ใจกลางกรุงเทพ

โรงแรม5ดาว จัดว่าเป็นที่สุดของความหรูหรา สะดวกสบาย ทันสมัยใคร ๆ ก็อยากเข้าพักถ้าไม่ติดเรื่องราคา แต่ถ้าไม่อยากจ่ายแพงจะลดระดับลงมาเล็กน้อยเป็นโรงแรม 4 ดาวจะยังพอได้อยู่ไหม เราลองมาเปรียบเทียบมาตรฐานของโรงแรม 4 ดาว และ 5 ดาวกันดู 

Facility ของ 10 โรงแรม หรูระดับ 5 ดาว ใจกลางกรุงเทพ
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ความต่างของ โรงแรม 5 ดาว กับ 4 ดาว

โรงแรม 4 ดาว
ห้องพักขนาด 24 ตร.ม. +

Facilities ภายในห้องนอนประกอบด้วย
-เตียงนอน 3.5 ฟุต+
-TV 20 นิ้ว+ 
-ช่องรายการทีวีมากกว่า 8 ช่อง 
-ตู้เสื้อผ้า
-ตู้เย็น 
-ในห้องน้ำมีสบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว ไดร์ อ่างอาบน้ำ
-Facility ภายในโรงแรม มีห้องอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องประชุม
-การตกแต่งโรงแรม เป็นสไตล์ที่ดูดีมีระดับ
โรงแรม 5 ดาว
ห้องพักขนาด 30 ตร.ม. +

Facilities ภายในห้องนอนประกอบด้วย
-เตียงขนาด 4 ฟุต+
-TV 20 นิ้ว+ มีรีโมทคอนโทรล 
-ช่องรายการทีวีมากกว่า 12 ช่อง 
-ตู้เย็น มินิบาร์ 
-อุปกรณ์สื่อสาร โทรศัพท์ 
-ห้องน้ำขนาดใหญ่ เครื่องสุขภัณฑ์สวยงาม 
-Facility ภายในโรงแรม มีห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ บาร์เครื่องดื่มห้องนวด สปา ห้องอาหารชั้นดี ห้องสัมมนา-ขนาดใหญ่ ห้องประชุมย่อย
-การตกแต่ง สวยงามหรูหรา มีระดับ

ดูเหมือนว่าจะมีข้อแตกต่างกันบ้างในเรื่องของความหรูหรา ความสมบูรณ์แบบของโรงแรม 4 ดาวย่อมไม่เท่า 5 ดาว สำหรับวันนี้เราจะพาไปส่องโรงแรมในกรุงเทพฯ กันว่า ถ้าเป็นระดับ 5 ดาว มีโรงแรมไหนน่าสนใจบ้าง

โรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพฯ

โรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพฯ

ถ้าพูดถึง โรงแรมในกรุงเทพ ที่อยู่ในระดับ 5 ดาวแล้ว แต่ละแห่งจะมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น วิวแม่น้ำเจ้าพระยา, ติดสถานีรถไฟฟ้า อยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจ เป็นต้น บางโรงแรมมีจุดเด่นเรื่องของดีไซน์ สถาปัตยกรรม อินทีเรีย ส่วนระดับของห้องพักก็จะแบ่งเป็นหลายระดับ เช่น Deluxe, Suite Room, Superior อัตราค่าบริการถูก-แพงตามความหรูหรา ในส่วนของราคาที่อยู่ในบทความนี้เป็นเพียงราคาเฉลี่ยเริ่มต้น อัตราค่าที่พักขึ้นอยู่กับประเภทของห้องและโปรโมชั่นแต่ละช่วงเวลา มาดูรายละเอียดทีละแห่งไปพร้อมกัน

1. Mandarin Oriental Bangkok

Mandarin Oriental Bangkok

Mandarin Oriental Bangkok โรงแรมริมน้ำที่เปิดมาแล้วกว่าร้อยปี จุดเด่นของโรงแรมอยู่ที่สถาปัตยกรรมอันงดงามของโรงแรมและห้องพักสไตล์ Luxury ที่บ่งบอกความพิถีพิถันในรายละเอียดของงานออกแบบ ทำให้ที่นี่เป็น ที่พักกรุงเทพ ที่ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายและเป็นโรงแรมที่รับรองอาคันตุกะระดับประเทศด้วยมาตรฐานบริการชั้นเลิศ ห้องพักของโรงแรมมีเกือบ 400 ห้อง ห้องอาหารนานาชาติ 8 ห้อง พร้อมห้องสัมมนา สปา บริการล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา อัตราค่าบริการห้องพักสุดหรูเริ่มต้น 20,000 บาท

โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพ ตั้งอยู่ที่ ซอยเจริญกรุง 40 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก กรุงเทพฯ หากไม่อยากขับรถไป สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีตากสิน แล้วเดินต่อบนเส้นทางถนนบางรักประมาณ 10 นาที

2.The Peninsula Bangkok

The Peninsula Bangkok

เพนนินซูล่า โรงแรมหรูอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพที่มีดีไซน์คลาสสิก ผู้เข้าพักจะได้อิ่มเอมกับบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่พิเศษสุด ๆ ก็คือการออกแบบโครงสร้างอาคารโรงแรมเป็นรูปตัวอักษร W ทำให้ห้องพักทุกห้องที่มีจำนวน 370 ห้องเปิดรับวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำได้ทั้งหมด Hotel Facility จัดอยู่ในระดับไฮคลาส ผู้เข้าพักสามารถใช้บริการรถลีมูซีนเป็นรถยนต์โรสรอยล์และบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7 และเพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ ทางโรงแรมยังมีบริการรถตุ๊กตุ๊กและเรือข้ามฟากอีกด้วย สำหรับห้องอาหารมี 5 ร้าน เน้นอาหารไทย จีน และนานาชาติ มีศูนย์ฟิตเนส สปา บริการนวดและบำรุงผิว ราคาห้องพักเริ่มต้นหลักหมื่นบาทขึ้นไป

โรงแรมเพนนินซูลา ตั้งอยู่ที่ 333 ถนนเจริญนคร คลองสาน กรุงเทพฯ เดินทางโดยรถยนต์ เรือ และรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีตากสิน มีเรือของโรงแรมคอยให้บริการ

3.Capella Bangkok 

Capella Bangkok 

โรงแรมคาเพลล่า กรุงเทพ เป็นโรงแรมไฮเอนด์ระดับ Ultra Luxury ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่น่าพักผ่อน ดีไซน์ร่วมสมัย มีกลิ่นของความเป็นไทยผสมผสานกับความโมเดิร์นของ สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม ที่มีมาให้อย่างครบเครื่อง การได้มาพักที่นี่แม้จะอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก็ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศโรงแรมรายรอบด้วยต้นไม้สีเขียว ห้องพักจำนวน 101 ห้องเป็นแบบ Suite และ Villa พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว-นักธุรกิจที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ภายในโรงแรมมีห้องอาหาร เลานจ์ บาร์ สระว่ายน้ำวิวแม่น้ำ ฟิตเนส และมีเรือบริการฟรีสำหรับผู้ที่อยากไปเที่ยว IconSiam ราคาห้องพักเริ่มต้นคืนละ 30,000 บาท

โรงแรมคาเพลล่า ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ ขับรถไปหรือเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส, รถไฟใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

4.Four Seasons Hotel Bangkok

Four Seasons Hotel Bangkok

ที่พักกรุงเทพ น่านอนอีกแห่งหนึ่งคือโรงแรมโฟร์ซีซั่น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดีไซน์ร่วมสมัยสวยงาม มีบริการร้านค้า บาร์ ร้านอาหารนานาชาติ ที่ขึ้นชื่อคือร้านอาหารจีนและติ่มซำ มีคาเฟ่ชิล ๆ น่านั่ง สามารถลงเล่นน้ำในสระแบบอินฟินิตี้มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเดินเล่นในสวนหย่อนใจ ห้องพักมีถึง 299 ห้องพร้อมอาหารเช้าเต็มอิ่ม ราคาห้องพักเริ่มต้นคืนละ 18,000 บาท

โรงแรมโฟร์ซีซั่นตั้งอยู่ที่ 300/2 ถนนเจริญกรุง เขตสาทร กรุงเทพฯ แนะนำเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส, รถไฟใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน

5.Lebua Hotels & Resorts 

Lebua Hotels & Resorts 

โรงแรมเลอบัว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นแบบไทย ๆ บริหารห้องพักหลากหลายระดับที่มี Facility เตรียมไว้ให้ตามมาตรฐานสากล ในส่วนของโรงแรมมีห้องอาหารไฟน์ไดนนิ่งและบาร์สุดหรูที่การันตีคุณภาพจากดาวมิชิลิน ช่วงเวลาที่ดีสุดของที่นี่คือเวลาพลบค่ำ แนะนำทานอาหารที่เดอะโดมของโรงแรมซึ่งมีทั้งอาหารรสเลิศและวิวสุดอลังการริมฝั่งน้ำให้ชื่นชม ส่วนตอนเช้ามี Breakfast ริมสระน้ำ ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป

โรงแรมเลอบัวตั้งอยู่ที่ 1055 ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพ เดินทางด้วยรถยนต์ หรือนั่งเรือ และสามารถขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสไปสงสถานีตากสิน เดินต่อไปยังโรงแรมไม่ไกลมาก

6.Grand Hyatt Erawan 

Grand Hyatt Erawan 

โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ที่พักสุดหรูใกล้สถานีรถไฟฟ้าและย่านธุรกิจ ดีไซน์ห้องพักตกแต่งหรูหรา มีห้องน้ำขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และ Facilities เพิ่มเติมสำหรับผู้พิการ ห้องพักของโรงแรมรวมทั้งหมด 380 ห้อง ราคาเริ่มต้น 6,000 บาท ที่นี่มีสระน้ำอุ่น ห้องประชุม ห้องอาหาร 9 ห้อง อาหารเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม 

โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำริ กรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีชิดลม

7.The Athenee Hotel

The Athenee Hotel

โรงแรมดิ แอทธินี ในเครือแมริออท รายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ทันสมัย ในส่วนของโรงแรมดีไซน์แบบร่วมสมัย สไตล์ Luxury สำหรับร้านอาหารที่นี่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ถึง 8 ร้านด้วยกัน บริการสปา ฟิตเนสครบ และยังมีสระว่ายน้ำฟรีฟอร์มให้ลงเล่นอย่างสบายใจอีกด้วย ราคาเริ่มต้นคืนละ 3,400 บาท

โรงแรมดิ แอทธินี ตั้งอยู่ที่ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี กรุงเทพฯ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเพลินจิต เดินทางสะดวก

8.Waldorf Astoria Hotel 

.Waldorf Astoria Hotel Bangkok

โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสทอเรีย เป็น โรงแรม 5 ดาว ที่สวยโดดเด่น มองจากโรงแรมเห็นวิวสนามม้าเขียวราชกรีฑาสโมสร เหมาะกับการพักผ่อน ห้องพักกว้าง เฟอร์นิเจอร์หรู ภายในโรงแรมมีสปา สระว่ายน้ำเปิดโล่ง ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ร้านอาหารระดับ Fine Dining และบาร์ ผู้เข้าพักจะได้รับการดูแลโดยผู้ช่วยส่วนตัวตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในโรงแรม ราคาเริ่มต้นคืนละ 7,000 บาท

โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสทอเรีย ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี กรุงเทพฯ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีชิดลม

9.Siam Kempinski Hotel

Siam Kempinski Hotel

โรงแรมสยาม เคมปิน สกี้ เป็นสถานที่พักผ่อนที่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งของคนรุ่นใหม่มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสยามพารากอน สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ เป็นอีกหนึ่ง โรงแรมหรูกรุงเทพ ที่มีเอกลักษณ์ไทยและเป็นที่พักในดวงใจของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติ มีห้องพักรองรับบริการถึง 397 ห้องที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบ Luxury ภายในบริเวณโรงแรมมีสระว่ายน้ำ สวนหย่อม สปา ร้านอาหารฝีมือเชฟระดับโลก ราคาเริ่มต้นคืนละ 7,800 บาท

โรงแรมสยาม เคมปิน สกี้ตั้งอยู่ที่ถนนพระรามที่ 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ เดินทางง่ายมากด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีสยาม

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

10.Carlton Hotel Bangkok

Carlton Hotel Bangkok

โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพ โรงแรมมาตรฐานระดับสากล การได้มาพักที่นี่จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยมาก ๆ ภายใต้ดีไซน์การตกแต่งที่ยังคงความเป็นไทยซึ่งสถาปนิกออกแบบได้อย่างลงตัว เปิดให้บริการห้องพัก 338 ห้อง มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง สปา ฟิตเนส สปา ห้องอาหารชั้นเลิศ และคาเฟ่ หลังอาหารมื้อค่ำสามารถขึ้นไปชมวิวแสงไฟระยิบระยับของเมืองหลวงพร้อมจิบค็อกเทลสุดฟินที่บาร์รูฟท็อป ราคาเริ่มต้นคืนละ 5,000 บาท

โรงแรมคาร์ลตัน ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพ ใกล้ห้างเอ็มควอเทีย หลีกเลี่ยงรถติดสามารถขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีอโศกสะดวกมาก

สิ่งอำนวยความสะดวกของ โรงแรม5ดาว ช่วยให้ผู้เข้าพักพักผ่อนได้ดีขึ้นได้อย่างไร

Hotel facility

การได้พักโรงแรมระดับ 5 ดาว จะพรั่งพร้อมไปด้วยบริการชั้นเลิศและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้ผู้เข้าพักได้รับความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งช่วยให้ได้พักผ่อนอย่างสุขสบาย เป็นการผ่อนคลายความเครียด นักธุรกิจระดับสูงมักเลือกพักโรงแรมดี ๆ เพื่อให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนเริ่มทำงานในวันต่อไป ส่วนนักท่องเที่ยวที่อยากให้รางวัลชีวิตกับตัวเองก็ย่อมเลือกการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การพักโรงแรมระดับ 5 ดาวยังมีข้อดีอีกหลายอย่างคือ

  • Hotel Facility มีความทันสมัย และสมบูรณ์แบบ

ต่อให้ผู้มาเยือนไม่ได้พกของใช้ส่วนตัวอะไรมาเลยก็สามารถเข้าพักได้อย่างสะดวกสบาย เพราะที่ห้องพักของโรงแรมจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้ครบแล้ว สามารถใช้งานได้ดี

  • พนักงานโรงแรมดูแลผู้เข้าพักเป็นอย่างดีด้วยความสุภาพ

มีความเอาใจใส่ทุกรายละเอียดอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็น บัตเลอร์ส่วนตัว รูมเซอร์วิส บริการรับจอดรถให้ เทรนเนอร์ส่วนตัวในฟิตเนส

  • โรงแรมหรู จะมีบริการเพื่อสันทนาการที่หลากหลาย

เพื่อให้ผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายเต็มที่ เช่น สระว่ายน้ำอุ่น ห้องเต้นรำ สนามกอล์ฟ ฯลฯ

  • ได้รับประทานอาหารชั้นเลิศที่ได้รับการปรุงอย่างใส่ใจ

ทั้งรสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบ ว่ากันว่า บุฟเฟ่ต์โรงแรมกรุงเทพ เป็นการทานอาหารที่คุ้มค่า ได้ทานของดี ๆ สดใหม่ ได้ปริมาณมาก

การพักโรงแรมระดับ 5 ดาวจึงถือว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวกสบายขั้นสูงสุด ซึ่งสามารถการันตีได้ว่าทุกความคาดหวังของคุณจะได้รับการตอบสนองอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล

บริการรับฝากกระเป๋าเดินทาง สาขา Central Pattaya | AIRPORTELs ประเทศไทย

Central Pattaya (Central Festival)

พัทยาเป็นอีกหนึ่งเมืองในประเทศไทยที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ด้วยความโด่งดังของชายหาดแสนสวย, เมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน, และถนนแหล่งบันเทิงในยามค่ำคืน
มากไปกว่านั้น อาหารทะเลที่นี่ดีงามมาก คุณควรจะเพิ่มเมืองพัทยาในบักเก็ตลิสต์สถานที่ที่ควรมาเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต

คุณต้องพกกระเป๋าหรือแบกสัมภาระติดตัวตลอดเวลาเมื่อเดินทาง
แต่ถ้าหากว่าคุณโชคดี โรงแรมหรือที่พักของคุณอาจจะมีบริการรับฝากกระเป๋าเดินทาให้
แต่ถ้าไม่มีล่ะก็ คุณสามารถนึกถึง AIRPORTELs บริการที่จะเปรียบเสมือนตัวช่วยในการเดินทางสุดแสนสบายของคุณในพัทยา

บริการรับฝากกระเป๋าเดินทางที่ Central Pattaya Beach ด้วย AIRPORTELs ประเทศไทย

A woman lugging luggage to the AIRPROTELs’ counter

และที่ Central Pattaya Beach คุณสามารถใช้บริการของ AIRPORTELs ผู้ให้บริการรับฝากกระเป๋าเป้
กระเป๋าเดินทาง, หรือสัมภาระ ระหว่างที่คุณเดินเล่นอยู่ในศูนย์การค้าได้อีกด้วย
คุณจะได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบมือเปล่าสุดชิลล์ได้เลย

อัตราค่าบริการนั้นมีตัวเลือกอย่างหลากหลาย
คุณสามารถฝากกระเป๋าเป็นรายชั่วโมง, รายวัน, รายสัปดาห์, รายเดือน โดยจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 30 บาทต่อชิ้น และ 4,000 บาท ต่อชิ้นสำหรับการฝากรูปแบบระยะยาว

เคาน์เตอร์ให้บริการ สาขา Central Pattaya

AIRPORTELs counter in Central Pattaya

เคาน์เตอร์ของเราตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ประตูทางเข้าจากโรงแรม Hilton Pattaya
หรือถ้าคุณต้องการแผนที่ที่ชัดเจนมากขึ้น คุณสามารถสอบถามวิธีการเดินทางกับจุดประชาสัมพันธ์ได้

เวลาทำการ

วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00 นาฬิกา – 22.00 นาฬิกา
วันศุกร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00 นาฬิกา – 23.00 นาฬิกา

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

  • ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลง กรุณาแจ้ง AIRPORTELs อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเวลาเดิม
  • ในกรณีที่ขนส่งกระเป๋าไปสนามบิน กรุณามารับกระเป๋าของคุณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง
  • บริษัทฯ AIRPORTELs ไม่รับฝากสิ่งของต้องห้าม เช่น ประทัด ยาเสพติด อาวุธ อาหาร สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตใด ๆ
  • บริษัทฯ AIRPORTELs จะไม่รับผิดชอบต่อเหตุสุดวิสัยหรือบุคคลที่สาม เช่น แจ้งข้อมูลผิด ลูกค้าสาย ลูกค้าไม่ตอบสนอง ภัยธรรมชาติ การประท้วง ฯลฯ
  • กรณีลูกค้าไม่สามารถมารับกระเป๋า บริษัทฯ AIRPORTELs จะเก็บรักษากระเป๋าของคุณ แต่จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายใด ๆ
  • ในกรณีที่ขนส่งกระเป๋าไปโรงแรม ลูกค้าจะต้องแจ้งให้โรงแรมได้ทราบเกี่ยวกับการขนส่ง
  • ในกรณีที่ขนส่งกระเป๋าไป Airbnb หรือ เกตส์เฮาส์ ลูกค้าจะต้องแจ้งให้ Airbnb และ เกตส์เฮาส์ได้ทราบเกี่ยวกับการขนส่ง
  • สำหรับลูกค้าที่อาศัยอยู่ที่โรงแรม พนักงานของเราจะเข้ารับกระเป๋าเดินทางของคุณหลักจากคุณทำการฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้ว

ลิสต์รายการของฝากจากไทยที่นักท่องเที่ยวเกาหลีควรซื้อกลับ

ของฝากจากไทย อย่างที่ทราบดีว่าประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อติดอันดับของโลก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในหนึ่งวันจะมีนักท่องเที่ยวจากดินแดนต่าง ๆ หลั่งไหลเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวผิวขาวหน้าใสจากแดนกิมจิอย่างชาวเกาหลีนั้นเอง

https://www.youtube.com/watch?v=QXI2ElblqHM

ของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีชอบ

ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเดินทางเข้าออกประเทศไทยในแต่ละปี ไม่ต่ำกว่าล้านคน ทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มากกว่าสองพันล้านบาท

เพราะไม่มีชาวเกาหลีคนไหนที่มาเที่ยวเมืองไทยและเดินทางกลับมือเปล่าอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆ ต้องก็มี ของฝากจากไทยติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วยทุกราย ซึ่งของฝากจากไทยที่ถูกอกถูกใจจนกลายเป็นของยอดฮิตที่ชาวเกาหลีคนไหนมาก็ต้องซื้อกลับ ได้แก่

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

1. ของฝากจากไทย ยาดม ต้องตราโป๊ยเซียน

Poysian Yadom,ของฝากจากไทย

คงเป็นเพราะกลิ่นที่หอมสดชื่นของยาดมไทยที่มีมาอย่างยาวนานจึงทำให้ยาดมกลายเป็นของฝากจากไทย ที่นักท่องเที่ยวเกาหลีต้องหอบคว้านซื้อแบบยกแผงกลับบ้านกันเลยทีเดียว ถ้ามาเที่ยวไทยแล้วไม่ซื้อยาดมกลับประเทศละก็รับรองว่าคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องอย่างแน่นอน

2. ของกินรสชาติแบบไทยแท้ให้ฟีลเหมือนสตรีทฟู้ด

ต้องบอกเลยว่าขนมเบนโตะ ถือเป็นขนมติดอันดับเทรนด์ฮิตที่คนเกาหลีซื้อกลับประเทศมากที่สุด อาจเป็นเพราะรสชาติที่มีความผสมทั้งเผ็ดและหวานทั้งยังมีราคาที่แสนถูกจึงทำให้เบนโต๊ะกลายเป็นของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีฮิตสุด ๆ ไปเลยทีเดียว หรือ ขนมอื่นๆที่ให้ฟีลเหมือนสตรีทฟู๊ดไทย อย่างเลย์รสเมี่ยงคำ และอื่นๆยิ่งกินยิ่งคิดถึงไทย

3. เจ้าแห่งยาสีฟันอย่างดาร์ลี่ ของฝากจากไทย สุดแปลก

Darlie,ของฝากจากไทย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ยาสีฟันดาร์ลี่คือของติดไม้ติดมือที่คนเกาหลีจะหยิบกลับบ้านไปด้วยใช่ว่าที่ประเทศเกาหลีไม่มียาสีฟันขายนะ แต่เพราะว่ายี่ห้อดาร์ลี่หรือยี่ห้อแปลกอื่น ๆ ไม่มีขายที่เกาหลีต่างหาก อีกอย่างเรื่องของราคาที่แสนถูกจึงทำให้เป็นของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีทั้งหลายหอบหิ้วกลับบ้านกันคนละหลอดสองหลอดนั้นแหละ

4. ผลไม้ที่ผ่านการแปรรูป

ผลไม้แปรรูปไทย ป้าเพี้ยน กล้วยต่กอบน้ำผึ้ง ทุเรียน มะขาม

ผลไม้แทบจะทุกชนิดที่ผ่านการแปรรูปจะมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนาน
ขึ้น และยังมีความอร่อยมากขึ้น โดยเฉพาะทุเรียนทอด ถือเป็นไอเทมสุดฮิตของฝากจากไทย ที่ชาวกิมจิควรจะซื้อกลับ ประเทศมากที่สุด เพราะทุเรียนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งผลไม้ไทย ย่อมการันตีถึงความอร่อยได้อย่างแน่นอน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

5. กระเป๋าผ้าไทย

fashion textile silk handcraft bag,ของฝากจากไทย,handcraft bag

มาเมืองไทยทั้งทีก็ควรจะมีของอะไรไทย ๆ ติดมือกลับบ้านสักหน่อย กระเป๋าใส่ของที่ทำจากผ้าไทย ก็ถือเป็นของฝากจากไทย ที่บ่งบอกว่ามาเยือนถิ่นไทยได้อย่างชัดเจนซื้อกระเป๋าที่ทำจากผ้าไทยอย่างยี่ห้อ นารายา ก็ถือว่ามีระดับเลยทีเดียว หรือหากไปเยือนถิ่นอีสานก็กระเป๋าผ้าย้อมครามสักใบรับรองเกาหลีไม่มีอย่างแน่นอน

6. สบู่รสไม้

fruit soap carvings,ของฝากจากไทย

เป็นอีกหนึ่งของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีชอบมาก จริง ๆ ชาวต่างชาติที่มาไทยน่าจะซื้อติดไม้ติดมือกลับประเทศกันทุกคน นั่นก็คือสบู่ผลไม้อะโรม่า ที่ทำมาในรูปของผลไม้นั้นจริงๆ เช่น มังคุด กล้วย แต่ที่ขายดีที่สุดต้องยกให้มะม่วงเลย อาบน้ำทีเหมือนนั่งปอกมะม่วงอยู่ในห้องน้ำ ฮิตถึงขนาดที่เกาหลีก็เริ่มมีหลายแบรนด์ทำสบู่มะม่วงออกมาหน้าตาแบบนี้

ของฝากจากไทย เป็นสิ่งที่สะท้อนวัฒนธรรม

อันที่จริง ของฝากจากไทยยังมีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจและน่าเป็นตัวเลือกในการซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านแดนกิมจิอีกหลายชนิด เพราะของฝากแต่ละชิ้นย่อมแสดงถึงความสวยงาม วัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของคนไทยทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความน่าสนใจก็ไม่ได้อยู่ขึ้นอยู่ตรงเพียงแค่ของฝากอย่างเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับความตั้งใจของผู้ซื้อที่จะซื้อไปฝากผู้รับอีกด้วย

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ใบ/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋าในกรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้นที่ 299 บาท/ใบ และยังมีบริการส่งกระเป๋าเดินทางไปต่างจังหวัด เรามีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

อ่านเพิ่มเติม

4 ที่เที่ยว ณ แม่ฮ่องสอน สวรรค์ของคนรักธรรมชาติที่คุณต้องไปแอ่ว!

แม่ฮ่องสอน เป็นเมืองที่เรียกว่าโรแมนติกที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย แถมเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติ และอากาศดี โดยเฉพาะคนที่รักธรรมชาติ ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านชาวเขาที่มีวัฒนธรรมพื้นเมืองดั้งเดิม ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต อาหารการกิน และประเพณี หรือจะเป็นวัดที่มีความงดงามทางศิลปะตามแบบฉบับชาวเหนือ รวมไปถึงธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ และวันนี้เรามี 4 สถานที่ท่องเที่ยวที่มาแม่ฮ่องสอนแล้วต้องไปแอ่ว!

ถ้ำลอด

ถ้ำลอด

ถ้ำลอด เป็นจุดเช็คอินที่มาเที่ยวแม่ฮ่องสอนแล้วต้องแวะ ถ้ำลอดตั้งอยู่ที่อำเภอปางมะผ้า ห่างจากอำเภอปายไม่มากนัก ไฮไลท์ที่นี่คือการนั่งแพไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวจะชมความสวยงามของถ้ำ โดยมีไกด์ท้องถิ่นเป็นคนแนะนำ บอกเล่าเรื่องราวภายในถ้ำว่ามีความเป็นมาอย่างไร ภายในจะมีภาชนะดินเผา โรงศพ และเครื่องใช้ในยุคนั้น ทั้งนี้ยังมีหินงอกหินย้อยให้พบเห็นอีกด้วย

วัดพระธาตุดอยกองมู

 วัดพระธาตุดอยกองมู

วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นจุดที่เรียกว่าสวยที่สุดและควรมามากที่สุดหากมาเที่ยว แม่ฮ่องสอนเพราะเป็นเจดีย์แบบทรงมอญสีขาวแบบดั้งเดิม มีฐานแปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์แบบปูนปั้น ประดับด้วยซุ้มพระอยู่บริเวณฐาน บนยอดพระธาตุสามารถมองเห็นวิวตัวเมืองทั้งเมือง ทั้งกลางวันและกลางคืน มีพระธาตุองค์เล็กโดยพระยาสิงหนาทราชา เป็นผู้ก่อสร้าง องค์ใหญ่บรรจุพระโมคคัลลานะเถระ ที่นำมาจากประเทศพม่า ทำให้เป็นที่เคารพและศรัทธาของคนที่นี่ 

สะพานซูตองเป้

 สะพานซูตองเป้

สะพานซูตองเป้ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยทอดยาวผ่านทุ่งนา เราจะเห็นภาพสวย ๆ ที่ใครมาแม่ฮ่องสอนต้องแวะชักภาพที่นี่เสียหน่อย เพราะสะพานแห่งนี้มีที่มาที่ไป สร้างด้วยการร่วมแรงร่วมใจจากชาวบ้าน เพื่อให้พระเณรเดินผ่านเพื่อมาบิณฑบาต ตัวสะพานสร้างด้วยไม้และไม้ไผ่ที่หาได้ในท้องถิ่น ทำให้สะพานแห่งนี้ถูกขนานนามว่าเป็นสะพานไม้แห่งศรัทธา

ปางอุ๋ง

 ปางอุ๋ง

ปางอุ๋ง คือโครงการในพระราชดำริ ปางตอง 2 เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอนที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย อ่างเก็บน้ำที่รายล้อมไปด้วยป่าสน ช่วงเช้าจะมีหมอกลอยเหนือผิวน้ำ บรรยากาศดีมาก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมมาแคมป์ปิ้งที่นี่ และไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการมีโอกาสได้พบกับหงส์ขาวหงส์ดำ เจ้าถิ่นของที่นี่

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดเล็ก ๆ เหมาะสำหรับการเดินทางมาพักผ่อน สูดโอโซนและชาร์จแบตให้กับตัวเอง การเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ปัจจุบันมาได้ค่อนข้างสะดวก มีรถโดยสารไปถึงทุกที่และมีสายการบินที่ช่วยให้การเดินทางมาเที่ยวเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น เรียกว่าหากมีเวลาว่าง ที่นี่แหละเป็นอีกแห่งที่เราอยากแนะนำ

บริการของแอร์พอเทลล์

แอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร พัทยา และบริเวณภูเก็ต

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

  • สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
  • สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

  • MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)
  • Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)
  • Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)
  • Terminal 21 Pattaya ชั้น 1, โซนปารีส
  • ICONSIAM ชั้น B2 โซนสยามทาคาชิมายะ
  • เยาวราช ไชน่าทาวน์ ชั้น 2 , อาคารพิชัยญาติ
  • Mixt Chatuchak ชั้น 2 , โซน B
  • Central Pattaya ชั้น 1 , ใกล้ประตูโรงแรมฮิลตันพัทยา 

ติดต่อเรา

อ่านเพิ่มเติม

20 ร้านอาหารเยาวราช อร่อยไม่หยุดตั้งแต่กลางวันยันกลางคืน ฉบับปี 2023

ถ้าถามถึงย่านของกินบ้านเรา เยาวราชก็คือหนึ่งในโลเคชั่นที่ทุกคนจะต้องคิดถึง เพราะที่นี่คือสถานที่รวบรวมแหล่งของกินขึ้นชื่อเอาไว้มากมาย โดดเด่นด้วยอาหารรสเลิศที่เปิดขายพร้อมทั้งกลางวันและกลางคืนให้เราได้เข้ามาใช้บริการ

การันตีด้วยลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต่อคิวแน่นขนัดทุกร้าน และต่อไปนี้ก็คือพิกัดร้านอร่อยเยาวราช 2023 ที่คุณต้องไม่พลาดเด็ดขาดเลย

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

รวมร้านอาหารเยาวราชกลางวัน

เพราะจริง ๆ แล้ว เยาวราชไม่ได้มีดีแค่ร้านอาหารกลางคืนเท่านั้น แต่กลางวันเองก็บอกเลยว่าเด็ดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะร้านเจ้าเก่า ร้านในตำนานที่เปิดมานาน ซึ่งตอบโจทย์คนชอบอาหารที่มีความเป็นต้นตำรับสุด ๆ ไปดูกันว่ามีร้านไหนน่าโดนบ้าง

1. ไท้เฮง

ร้านอาหารเยาวราช, ไท้เฮง
Image : PookEats

ร้านเก่าแก่อายุกว่า 80 ปี ซึ่งเปิดเป็นภัตตาคารตั้งอยู่ภายในตรอกเต๊า แหล่งรวมความอร่อยหลากหลายเมนู ณ เยาวราชซอย 8 

  • เมนูห้ามพลาด : สุกี้โบราณ และ ข้าวมันไก่
  • เวลาเปิด-ปิด: จันทร์ – เสาร์ 10:00 – 17:00
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/Bpbddnu4XNyBe3R38
  • ช่องทางการติดต่อ : 093 – 656 – 5366

2. กู่หลงเปา

ร้านซาลาเปาสูตรแต้จิ๋ว ตำนานกว่า 100 ปีแห่งแยกหมอมี โดดเด่นด้วยเมนูซาลาเปาสูตรเฉพาะแต้จิ๋วโบราณ จัดเต็มไส้แน่น ๆ แป้งนุ่ม ๆ มาฟิน ชิม ความอร่อยสูตรโบราณกันได้เลย

  • เมนูห้ามพลาด : เปาไส้หมูสับไข่เค็ม
  • เวลาเปิด-ปิด: จันทร์ – เสาร์ 09:00 – 17:00
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/7thMftHqLrRfm5Yg8
  • ช่องทางการติดต่อ: 095-797-5747

3.เท็กซัสสุกี้

ร้านสุกี้สุดคงกระพัน แกร่งสุดในย่าน กับตำนานสุกี้ที่เปิดมานานกว่า 40 ปี ใครสายกินหนัก เน้นเยอะ และอร่อย ในราคามิตรภาพ มาลองกันได้เลย

  • เมนูห้ามพลาด: ลูกชิ้น ปลาสวรรค์ และ ข้าวอบสับปะรด
  • เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 21:00
  • ระดับราคา: 251 – 500 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/e3MSTS9zDjMkmNPs9
  • ช่องทางการติดต่อ: 02-623-3298, 02-223-9807 (สาขาเยาวราช), 02-115-4551 (สาขาเสนาเฟส เจริญนคร)

4.กั้งดอง ปูดอง เจ๊ดาเยาวราช

กั้งดอง ปูดอง เจ๊ดาเยาวราช
Image : Eh Nopphadon

ร้านทะเลดองในตำนานแห่งแรกที่เปิดอยู่คู่ย่านเยาวราชมานานมากกว่า 50 ปี เหมาะสำหรับคนที่เป็นสายของดองที่จะต้องมาตำให้ได้ หากใครหาไม่เจอให้มองหาป้ายร้านขายทองทองใบ ร้านเจ๊ดาจะอยู่หน้าร้านทองเลย

  • เมนูห้ามพลาด : กั้งดองไข่ กั้งดองเนื้อ
  • เวลาเปิด-ปิด: 08:30 – 18:00
  • ระดับราคา: 251 – 500 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/w2yCmuQDr2dvwKbK9
  • ช่องทางการติดต่อ: 088-495-0553, 099-152-5335, 089-219-2600

5.อุไร ห่านพะโล้ ทรงวาด

อุไร ห่านพะโล้ ทรงวาด (อุไร)
Image : NanNan

ร้านในตำนานบนถนนทรงวาดที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปี กับเมนูห่านพะโล้ที่หมดไวจนเหมือนแจกฟรี ใครที่ชอบเมนูห่านพะโล้บอกเลยว่าชาตินี้ต้องไม่พลาดอุไร ห่านพะโล้ ทรงวาด

  • เมนูห้ามพลาด: ห่านพะโล้
  • เวลาเปิด-ปิด: 09:30 – 13:00 เปิดให้บริการทุกวัน
  • ระดับราคา: 120 – 380 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/dTX4UFTFoLFNzVjY9
  • ช่องทางการติดต่อ: 02-221-4413

6.เบญโอเดี้ยน

ร้านก๋วยเตี๋ยวผัดอร่อยเด็ดสุดในย่าน กับเมนูผัดงี่เง่าที่รสชาติไม่ธรรมดา และขอแนะนำว่าให้มาก่อนเวลาเปิด เพราะถ้าช้าได้ต่อคิวยาวแน่ ร้านเป็นร้านตั้งข้างทางหน้าเซเว่นนะคะ

  • เมนูห้ามพลาด : ผัดงี่เง่า ผัดหมี่ฮ่องกงรวมมิตร
  • เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 16:00
  • ระดับราคา: 100 บาททุกจาน
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/SMypKYXEAtcMgAg6A
  • ช่องทางการติดต่อ: 081-814-7479

7.โจ๊กเจ๊หมวยเกี้ย

โจ๊กเจ๊หมวยเกี้ย
Image : Anakin

ร้านโจ๊กชื่อดังที่ทุกคนต้องรู้จัก กับเมนูโจ๊กระดับตำนานที่เปิดมานานกว่า 60 ปี พร้อมให้คุณได้สัมผัสเมนูแสนอร่อยในราคาเบา ๆ รีบมานะ เพราะช้าหมดอดแน่

  • เมนูห้ามพลาด : โจ๊กใส่ทุกอย่างเพิ่มปาท่องโก๋
  • เวลาเปิด-ปิด: อังคาร – อาทิตย์ 04:30 – 10:00
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/Mhvr7Ft9XfiPFJPT9
  • ช่องทางการติดต่อ: 089-011-8802

8.Jok โต๊ะเดียว (เยาวราช)

ร้านในตำนานของเชฟจก การันตีความอร่อยด้วยรางวัล Michelin Guide ถ้าคุณเป็นสายล่าอาหารรางวัล มาที่นี่เลย เชฟจก จัดให้

  • เมนูห้ามพลาด: เกี๊ยวกุ้งลวก
  • เวลาเปิด-ปิด: 07:30 – 18:30 (เปิดทุกวัน)
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/v69vkY6QuMxZcqiE6
  • ช่องทางการติดต่อ: 062-947-6766, 099-629-2449

9.เล่าตั้งลือชื่อห่านพะโล้

เล่าตั้งลือชื่อห่านพะโล้
Image : TeakaDET

ร้านอาหารเปิดกลางวันชื่อดังย่านเยาวราช รางวัลการันตรีความอร่อยจากหลายสำนัก กับเมนูห่านพะโล้ที่ยากหาใครมาทัดเทียม

  • เมนูห้ามพลาด: ห่านพะโล้ และ ต้มซี่โครงหัวไชเท้า
  • เวลาเปิด-ปิด: 08:30 – 15:00 น.
  • ระดับราคา: 101 – 250 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/GzGBmDUnwVNwLDhg8
  • ช่องทางการติดต่อ: 02-221-6070, 089-215-8760, 085-155-5953

10.ไต่เซ๊งเยาวราช

ตำนานร้านอาหารจีน เปิดมากว่าสิบปี กับเมนูอาหารจีนเลิศรส เมนูระดับภัตตาคาร กับร้านอาหารจีนสไตล์ครอบครัวของแท้

  • เมนูห้ามพลาด : ขนมจีนกุ้ง ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง ขนมผักกาด(ที่เริ่มหากินยากทุกวัน)
  • เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 14:00 และ 17:00 – 22:00
  • ระดับราคา: 251 – 500 บาท
  • Map Location : https://maps.app.goo.gl/tucpvj3VfiYQEjSZ8
  • ช่องทางการติดต่อ: 02-639-5855, 02-639-4040, 085-409-9412
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

รวมร้านอาหารเยาวราชกลางคืน

มาต่อกันที่ร้านเปิดกลางคืนที่บอกเลยว่าเด็ดสุด ใครที่เป็นสายทัวร์กินแล้วอยากหาร้านอร่อย ๆ จะต้องไม่พลาดเด็ดขาด ปิดดีลหิวตอนดึกตามรายการร้านแนะนำของเราได้เลยที่นี่

1.เจ้เข่งหมึกย่าง-เยาวราช

เจ้เข่งหมึกย่าง-เยาวราช
Image : Luknam

ร้านปลาหมึกย่างรถเข็นลับ ย่างถ่านแบบออริจินัล พร้อมด้วยน้ำจิ้มรสเด็ดของจริงที่สายแซ่บห้ามพลาด

  • เมนูห้ามพลาด : หมึกย่าง
  • เวลาเปิด-ปิด: 18.00-02.00 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: 40-400 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/UXKZpAo2feuaRc5m7
  • ช่องทางการติดต่อ: 094-464-1155

2.เจ๊ลั้งก๋วยเตี๋ยวแคระ ลูกชิ้นปลา

ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอร่อยที่สุดในย่าน ที่จัดเต็มลูกชิ้นเน้น ๆ แน่น ๆ การันตีความเลิศรสด้วยประวัติร้านที่เปิดมานานกว่า 40 ปี

  • เมนูห้ามพลาด : ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟต้มยำ และก๋วยเตี๋ยวแห้ง
  • เวลาเปิด-ปิด: 18.00-22.00 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/u2aDWKVi7GNUc7tXA
  • ช่องทางการติดต่อ: 089-505-4736

3.ยิ้ม ยิ้ม ภัตตาคาร

ยิ้ม ยิ้ม ภัตตาคาร
Image : 8le

ร้านอาหารจีน การันตีความอร่อยมากอย่างยาวนานกว่า 100 ปี จัดเต็มความอร่อยด้วยเมนูอาหารจีนแต้จิ๋ว แบบดั้งเดิม รสเลิศ กินเพลินห้ามใจไม่อยู่

  • เมนูห้ามพลาด: กระเพาะปลาน้ำแดง ผัดหมี่ กระเพาะปลาผัดแห้ง
  • เวลาเปิด-ปิด: 11.00-14.00 และ 17.00-22.00
  • ระดับราคา: 200-400 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/bGe5UXSdMcPdRN4L7
  • ช่องทางการติดต่อ: 02-224-2205, 062-396-4255

4.Oyster bar by Sea Bah Bar

Oyster bar by Sea Bah Bar
Image : Ning Laksana

บาร์อาหารทะเลย่านเยาวราชบรรยากาศร้านสบาย ๆ ที่พร้อมยกทะเลมาไว้ที่เยาวราชให้คุณได้สัมผัสกับเมนูสุดฟินในยามค่ำคืน

  • เมนูห้ามพลาด : หอยเชลล์ญี่ปุ่นเนยกระเทียมอบชีส
  • เวลาเปิด-ปิด: 18.00-00.00 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: 100-1,799 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/2Qo6UGt6CFD3MZnK8
  • ช่องทางการติดต่อ: 096-879-7978

5.Claypot King

ร้านรูปแบบ Home Cook ครัวไทยเชื้อสายจีน ที่พิถีพิถันทุกเมนูด้วยความตั้งใจ ให้คุณได้สัมผัสกับความอร่อยพร้อมจิบบรรยากาศเยาวราชแบบสบาย ๆ

  • เมนูห้ามพลาด: ขาหมูจักรพรรดิ ไก่ดำตุ๋นยาจีน
  • เวลาเปิด-ปิด: 10.00-21.00
  • ระดับราคา: 90-500 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/zF8J1YPzJA8eiF3y6
  • ช่องทางการติดต่อ: 065-565-5835

6.Lucky Ngou 65

ร้านไอศกรีมเล็ก ๆ สัมผัสกับความเป็นเยาวราช ให้คุณได้ฟินไปกับความมินิมอลและความอบอุ่นแบบพิเศษที่ไม่เหมือนใคร

  • เมนูห้ามพลาด: ไอศกรีมเจลาโต้โฮมเมด
  • เวลาเปิด-ปิด: 12.00-22.00 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: 65-185 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/iHy8seEEERSkZPHWA
  • ช่องทางการติดต่อ: 093-926-5926

7.เกี๊ยวซ่าเยาวราช by เจ๊โอ๋

เกี๊ยวซ่าเยาวราช by เจ๊โอ๋
Image : Go Eat Chill

ร้านเกี๊ยวซ่าทอดเจ้าเก่าจากตลาดพลู พร้อมให้สาวกเมนูเกี๊ยวไปท้าประลองความอร่อยได้แล้วที่เยาวราชซอย 9

  • เมนูห้ามพลาด: เกี๊ยวซ่าทอดไส้หมู ไส้กุ้ง กุยช่าย
  • เวลาเปิด-ปิด: 15.00-23.00 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: 50-75 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/WCNd19WcoaN4JATD7
  • ช่องทางการติดต่อ: 087-516-1520

8.เซี้ยไชน่าทาวน์

ร้านอาหารจีนสไตล์พรีเมียม ขึ้นชื่อความอร่อยด้วยตำแหน่งต้นตำรับผัดหมี่ฮ่องกงเจ้าแรกในเยาวราชที่มีอายุมากกว่า 30 ปี

  • เมนูห้ามพลาด: กระเพาะปลาน้ำแดง ผัดหมี่ฮ่องกง
  • เวลาเปิด-ปิด: 15.30-00.30 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: 180-600 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/A3BThHCejKUnFF7y8
  • ช่องทางการติดต่อ: 096-915-6659

9.เซี่ยงกี่ข้าวต้มปลา

ร้านข้าวต้มปลาเตาถ่านในตำนานย่านเยาวราชมากกว่า 95 ปี กับการรังสรรค์ทุกเมนูด้วยความใส่ใจอย่างที่สุด

  • เมนูห้ามพลาด: ข้าวต้มปลาสไตล์จีน
  • เวลาเปิด-ปิด: 15.00-21.30
  • ระดับราคา: 300 – 500 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/wGpmBDCQWm57ARhR6
  • ช่องทางการติดต่อ: 089-968-6842

10.หมูสะเต๊ะแปลงนาม

หมูสะเต๊ะแปลงนาม
Image : Anakin

หมูสะเต๊ะร้านดังย่านเยาวราช ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย และคิวที่ยาวมาก บอกก่อนนะ ถ้าอยากกินต้องโทรจองคิวก่อนเท่านั้นนะ

  • เมนูห้ามพลาด: หมูสะเต๊ะ
  • เวลาเปิด-ปิด: 18.00-22.00 (ปิดวันจันทร์-วันพุธ)
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/FZGso7KemsRjSSZZ9
  • ช่องทางการติดต่อ: 086-548-4628
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

และทั้งหมดนั้นก็คือ 20 ร้านของกินเยาวราชกลางวันจนถึงกลางคืน 2023 ที่คุณสามารถทัวร์กินได้แบบยาว ๆ ไม่มีเบื่อเลย ร้านไหนยังไม่เคยไปลองก็ต้องรีบหน่อยแล้ว เพราะคิวยาวทุกร้านเลย

ที่มาของข้อมูล: wongnai, ryoiireview, chillpainai, bangkokbiznews

อ่านเพิ่มเติม

Boarding Pass คืออะไร สำคัญอย่างไรเมื่อเรามีเที่ยวบิน

Boarding Pass คือ กระดาษใบยาวๆ ที่เราได้รับหลังทำการเช็กอิน (check-in) เมื่อไปถึงสนามบิน มีใครเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าคืออะไรกันแน่ ทำไมเวลาเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ต้องใช้ Boarding Pass อยู่เสมอ และที่สำคัญ คือ ทุกคนจะทำ Boarding Pass หาย ไม่ได้นะ ไม่งั้นไม่ได้ขึ้นเครื่องแน่ๆ

Boarding Pass คืออะไร

Boarding Pass คือ เอกสารสำคัญที่ควรถือไว้คู่กับหนังสือเดินทาง (Passport) เพราะเป็นเอกสารที่มีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการบิน จึงมีไว้สำหรับยืนยันตัวตนของเราหลายระหว่างบิน โดยตัว Boarding Pass จะประกอบด้วยข้อมูลสำคัญของเรา ไม่ว่าจะเป็นชื่อ-นามสกุล หมายเลขเที่ยวบิน เวลาขึ้นเครื่อง เวลาถึงปลายทาง ประตูทางออกขึ้นเครื่อง ชั้นที่นั่งโดยสาร และเลขที่นั่งโดยสาร

จริงๆ แล้วถ้าเราทำ Boarding Pass หาย ไม่ใช่แค่เราจะไม่ได้ขึ้นเครื่อง แต่ยังเกิดความเสี่ยงต่างๆ ตามมาจากข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล เพราะ Boarding Pass นั้นมีบาร์โค้ดที่สามารถสแกนเข้าไปดูข้อมูลอื่นๆ ของเราได้เทียบเท่ากับตัวเล่ม Passport เลยนะ ดังนั้น เมื่อได้ Boarding Pass มาแล้ว ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าทำหาย หรือ ถ่ายรูปโพสต์ลงบนโซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นอันขาด

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

Boarding Pass คืออะไร

passport

เมื่อเราไปถึงสนามบินแล้ว เราไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ในทันที สิ่งแรกที่ทุกคนต้องทำเหมือนกันเลย คือ การเช็กอิน (check-in) หรือ การลงทะเบียนยืนยันการเดินทาง ซึ่งปกติแล้วทางสายการบินจะมีเคาน์เตอร์เตรียมไว้รอรับเราอยู่ใกล้ๆ กับประตูทางเข้าอยู่แล้ว พอทำการเช็กอิน (check-in) เสร็จ ทุกคนจะได้รับกระดาษสีขาวใบยาวๆ ที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในเที่ยวบินนี้ของเรามา เจ้ากระดาษใบนี้แหละ คือ “Boarding Pass”

  • การเช็กอิน (check-in) แบบอัตโนมัติด้วยตัวเอง ผ่านเครื่อง kiosk ตามจุดที่สนามบินเตรียมเอาไว้ให้ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยลักษณะของตู้ประเภทนี้จะคล้ายๆ กับตู้ ATM เราสามารถตอบคำถามต่างๆ ที่ตู้นี้ถามให้ครบ เช่น ชื่อ-สกุลอะไร นั่งตรงไหน สายการบินอะไร ถ้าตอบถูกหมด ก็จะได้รับ “Boarding Pass” เช่นเดียวกัน
  • บางสายการบินก็มีบริการเช็กอินออนไลน์ (online-check-in) ผ่านเว็บไซต์ โดยเราสามารถทำการเช็กอินได้ภายระยะเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนเครื่องออก ซึ่งการเช็กอินประเภทนี้ เราจะได้ “Boarding Pass” ในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถกดบันทึกไว้เป็นไฟล์รูปภาพภายในโทรศัพท์มือถือได้ วิธีนี้จะเป็นวิธีที่สะดวกสบายมากที่สุด แถมยังช่วยรักษ์โลกผ่านการลดปริมาณการใช้กระดาษได้อีกด้วย

ข้อมูลใน Boarding Pass

ไม่ว่าเราจะทำการเช็กอินแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นการเช็กอินหน้าเคาเตอร์ เช็กอินผ่านตู้ kiosk หรือเช็กอินผ่านช่องทางออนไลน์ Boarding Pass ที่ได้รับมา คือ Boarding Pass เดียวกัน สามารถใช้เป็นเอกสารในการขอขึ้นเครื่องบินได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระดาษสีขาวทรงแนวนอนแบบยาว หรือเป็นภาพไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะ Boarding Pass ที่เราได้รับมาจะมีข้อมูลสำคัญของตัวเรา ดังนี้

boarding pass

1.ชื่อ-นามสกุล ผู้โดยสาร

สำหรับชื่อ-นามสกุลของผู้โดยสารที่ปรากฎอยู่บน Boarding Pass นั้น อาจจะดูแปลกตาสำหรับคนไทย เพราะอย่างแรกเลย
คือ ชื่อ-นามสกุลผู้โดยสารที่ปรากฎอยู่บน Boarding Pass จะพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ และอย่างที่สอง คือ ชื่อ-นามสกุลบน Boarding Pass จะมีการสลับตำแหน่งกัน คือ นามสกุลจะปรากฎอยู่ข้างหน้า ส่วนชื่อจะอยู่ด้านหลังนามสกุลอีกที เช่น ถ้าคุณชื่อ Michel Jackson ชื่อ-นามสกุลที่ปรากฎอยู่บน Boarding Pass ของคุณ คือ Jackson Michel

โดยเราต้องตรวจทานให้ดีว่าชื่อ-นามสกุลของเรา มีการสะกดที่เหมือนกับชื่อ-นามสกุลที่ปรากฎอยู่บนหนังสือเดินทาง (Passport) หรือไม่ เพราะถ้าหากมีตัวอักษรสะกดแตกต่างกันแม้แต่ตัวเดียว เราก็อาจจะถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบินได้ และสำหรับใครที่ขึ้นเที่ยวบินภายในประเทศ อาจใช้บัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารยืนยันตัวตนแทนหนังสือเดินทาง (Passport) ได้เช่นกัน

2. หมายเลขเที่ยวบิน

ในส่วนของหมายเลขเที่ยวบินนั้น จะเป็นโค้ดตัวอักษรภาษาอังกฤษจำนวน 2 ตัว ตามด้วยตัวเลขอีก 3-4 หลักต่อท้าย ทุกคนจึงควรจำตัวอักษร 2 หลักแรกบน Boarding Pass ให้ดี เพราะตัวอักษรนั้น คือ รหัสที่จะบอกสายการบินที่ต้องขึ้น เช่น AK1234 ตัวอักษร AK ที่ปรากฎอยู่ด้านหน้า จะบอกให้รู้ว่าเที่ยวบินที่ต้องขึ้นเป็นเที่ยวบินของสายการบินใด ซึ่งแต่ละสายการบินจะมีรหัสตัวอักษรนำคู่ที่แตกต่างออกไป

3. เวลาขึ้นเครื่อง

สำหรับใครที่ได้รับ Boarding Pass มาแล้ว จะเห็นตัวเลข 3-4 หลัก ที่เขียนติดกันเอาไว้ โดยมีตัวอักษร A หรือ P ต่อท้าย มักปรากฎอยู่บริเวณที่ส่วนกลางของขอบกระดาษ เช่น 300A หรือ 1010P โดยเจ้าตัวโค้ด A หรือ P นี้ คือ ตัวเลขบอกเวลาขึ้นเครื่อง โดย 300A หมายถึง เวลา ตี 3 ส่วน 1010P หมายถึง เวลา 4 ทุ่ม 10 นาที

  • ตัวอักษร A นั้น ย่อมาจากคำว่า AM (Ante Meridiem) หมายถึง เวลา 12 ชั่วโมงหลังเที่ยงคืน
  • ตัว P นั้น ย่อมาจากคำว่า PM (Post Meridiem) หมายถึง เวลา 12 ชั่วโมงหลังเที่ยงวัน

นอกจากนี้ เราควรเผื่อเวลาก่อนขึ้นเครื่องสักเล็กน้อย หากเวลาขึ้นเครื่องบน Boarding Pass คือ 1130A หรือ 11 โมงครึ่ง เราก็ควรจะไปรอที่เกต (Gate) ตั้งแต่ 10 โมงครึ่ง หรือหากมาสาย ถ่ายรูป กินข้าว ช็อปปิงเพลินไปหน่อย ก็ควรมาถึงเกตอย่างช้าสุดตอน 11 โมงเช้า ไม่งั้นอาจตกเครื่องได้ เพราะไม่ใช่ว่ามาถึงเกตแล้วจะได้ขึ้นเครื่องทันที พี่ๆ แอร์โฮสเตสและสจ๊วต เขาจะเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องตามโซนและคลาสของที่นั่ง หากเราไปผิดเวลา อาจจะทำให้เกิดความล่าช้าได้

check in
  • โดยผู้โดยสารชั้น First Class และ Business Class จะได้ขึ้นเครื่องก่อน
  • ผู้โดยสารขึ้น Economy Class โดยจะเรียกขึ้นเครื่องตามโซนที่นั่ง ซึ่งใครได้ที่นั่งเข้าออกยากๆ บริเวณตรงกลางด้านหลัง ก็มักจะถูกเรียกให้ขึ้นเครื่องก่อน

พูดง่ายๆ คือ หากเราไม่อยากมีปัญหาในการเดินทาง จนต้องมาลุ้นว่าจะขึ้นเครื่องทันก่อนเครื่องออกหรือไม่ ให้ดูเวลาขึ้นเครื่องใน Boarding Pass ให้ดี คือ เวลาเครื่องออกเท่าไหร่ ควรไปรอที่เกตก่อนหน้าเวลาที่ปรากฎสัก 30-60 นาที ซึ่งเวลาที่เขียนอยู่บน Boarding Pass คือ เวลาท้องถิ่นที่สนามบินนั้นๆ ตั้งอยู่

4. เวลาถึงปลายทาง

ในส่วนของเวลาถึงปลายทาง คือ เวลาคาดการณ์โดยประมาณที่ครื่องบินจะลงจอดยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งมีหลักการในการเขียนตัวเลขลงใน Boarding Pass เหมือนกันกับการเขียนบอกเวลาขึ้นเครื่อง คือ ตัวเลข 3-4 หลัก แล้วตามด้วยตัวอักษร A หรือ P เช่น 1010A คือ 10 โมงเช้ากับอีก 10 นาที นั่นเอง

นอกจากนี้ เราควรปรับนาฬิกาให้เวลาตรงตามเวลาท้องถิ่นของปลายทางนั้นๆ โดยสามารถดูเวลาจาก Time Zone สากลได้ เช่น เมืองไทยมีรหัสโซนเวลาเป็น GMT+7:00 BKK นั่นหมายความว่า โซนเวลาของประเทศไทย ที่มีเมืองหลวง คือ กรุงเทพมหานครนั้น จะมีเวลาเร็วกว่าโซนเวลามาตรฐาน คือ เมืองกรีนิชประเทศอังกฤษ (Greenwich Mean Time) อยู่ 7 ชั่วโมง หากเราเดินทางไปจากเมืองไทยไปถึงประเทศอังกฤษ ก็ต้องปรับเวลาให้เร็วขึ้น 7 ชั่วโมง เช่น เวลาเครื่องลงจอดที่อังกฤษ นาฬิกาเราบอกเวลา 10 โมงเช้า เราก็ต้องปรับลดเวลาลง 7 ชั่วโมง ให้เป็นเวลา ตี 3 แทน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

5. ประตูทางออกขึ้นเครื่อง

อีกสิ่งสำคัญที่ Boarding Pass สามารถบอกเราได้ คือ ประตูทางออกขึ้นเครื่อง หรือ Gate นั่นเอง เพราะเครื่องบินโดยสารนั้นมีขนาดที่ใหญ่ ทำให้มีประตูทางออกขึ้นเครื่อง หรือ Gate หลายประตู แยกตามโซนและคลาสที่นั่ง เมื่อเราได้ Boarding Pass มาแล้ว ก็ต้องตรวจดูว่า เราได้ขึ้นเครื่องบินที่ประตูทางออกขึ้นเครื่อง หรือ Gate ไหน และจำหมายเลข Gate เอาไว้ให้ดี แต่บางครั้งอาจมีตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่ด้านบน คล้ายกับโซนของที่จอดรถ เช่น Gate B12 เป็นต้น

6. เลขที่นั่งโดยสาร

Boarding Pass คือ สิ่งที่สามารถบอกเลขที่นั่งโดยสารของเราได้ โดยมีเลขบอกแถวและที่นั่ง จะมีลักษณะคล้ายเลขที่นั่งเวลาไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเราต้องดูที่ตัวอักษรภาษาอังกฤษในหลักแรกก่อน ว่าเราได้นั่งแถวไหน และตามปกติแล้ว แถวหน้าสุดจะเป็นรหัส A แถวที่ 2 เป็น B แถวที่ 3 เป็น C เรียงตามลำดับ A-Z แล้วหลังจากนั้น ค่อยดูเลขที่นั่งต่อท้าย ว่าเราได้เลขที่นั่งอะไร โดยจะนับ 1 ที่ตำแหน่งซ้ายสุด เช่น A1 คือ ที่นั่งแถวหน้าสุด ติดริมหน้าต่างฝั่งซ้ายของตัวเครื่องบิน

7. ชั้นที่นั่งโดยสาร

สำหรับชั้นที่นั่งโดยสาร จะมีโค้ดเป็นตัวย่อภาษาอังกฤษต่อท้ายเลขที่นั่ง ซึ่งเป็นตัวอักษรแบ่งเอาไว้ตามหลักสากลให้ดูบน Boarding Pass เหมือนกันทุกสายการบิน คือ รหัส P J และ Yโดยรหัสทั้ง 3 มีความหมายดังต่อไปนี้

  • P หมายถึง First Class
  • J หมายถึง Business Class
  • Y หมายถึง Economy Class

ยกตัวอย่างเช่น Boarding Pass ระบุว่าคุณได้ที่นั่ง A1Y คือ คุณได้นั่งที่นั่งชั้นประหยัด (Economy Class) แถวแรก ติดหน้าต่างด้านซ้ายสุดนั่นเอง

boarding pass ทำอะไรได้บ้าง

Boarding Pass ทำอะไรได้บ้าง

อย่างที่กล่าวไป Boarding Pass คือ เอกสารที่สำคัญที่สุดแล้วในการเดินทางโดยเครื่องบิน ดังนั้น คุณต้องระวังไม่ให้ Boarding Pass หาย เพราะคุณต้องใช้ Boarding Pass เป็นเอกสารประกอบการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนระหว่างที่อยู่ในสนามบิน ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างการตรวจสอบ และโหลดกระเป๋า การโชว์ให้เจ้าหน้าที่ตรงประตูทางออกขึ้นเครื่องดู และโชว์ให้พนักงานต้อนรับดูตอนหาที่นั่ง

ตรวจสอบและโหลดกระเป๋า

การโหลดกระเป๋า

สำหรับใครที่ถึงสนามบินเร็ว และอยากเดินช็อปปิงสินค้าปลอดภาษีในสนามบินระหว่างรอขึ้นเครื่อง แต่ไม่อยากลากกระเป๋าไปมาให้พะรุงพะรัง สามารถนำกระเป๋าฝากกับ AIRPORTELs ก่อนได้ พอถึงเวลาค่อยกลับมานำกระเป๋าไปโหลดทีหลัง โดยใช้ Boarding Pass เป็นเอกสารในการยืนยันตัวตนว่าเราคือผู้โดยสารคนเดียวกับคนที่ได้เช็กอินไปก่อนหน้านี้ ของที่โหลดเพิ่มจะได้เอาไปรวมกับของเก่าที่โหลดเอาไว้ก่อนหน้าได้ถูกคน

โดยหลายคนเลือกที่จะมาช็อปปิงสินค้าในสนามบินกันค่อนข้างมาก เพราะนอกจากราคาจะถูกกว่าตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปแล้ว ยังสามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ฟรี เพิ่มเติมจากน้ำหนักมาตรฐานที่สายการบินแจ้ง หรือผู้โดยสารได้ซื้อน้ำหนักเอาไว้

โชว์ให้เจ้าหน้าที่ตรงประตูทางออกขึ้นเครื่องดู

เราจำเป็นต้องแสดง Boarding Pass โชว์ให้เจ้าหน้าที่ตรงประตูทางออกขึ้นเครื่องดู เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนว่าเราคือผู้โดยสารของสายการบินนั้นๆ และเราขึ้นเครื่องบินถูก Gate เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างต้น ว่าเครื่องบินโดยสารนั้นมีขนาดใหญ๋ และมีหลาย Gate หากขึ้นผิด Gate จะสร้างความลำบากให้กับเรา รวมถึงแอร์โฮสเตส และสจ๊วตบนเครื่องบินเวลาต้องหาที่นั่ง อีกทั้งยังเป็นการตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่าเราเป็นผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเครื่องบินมาอย่างถูกต้อง

โชว์ให้พนักงานต้อนรับดู

สาเหตุสำคัญที่ต้องโชว์ Boarding Pass ให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องดูอีกรอบ คือ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ให้จัดหาที่นั่งให้เราได้อย่างสะดวก และจะได้มีหลักฐานยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของที่นั่งนั้นๆ หากมีคนอื่นมานั่งที่นั่งของเราบนเครื่องบิน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

Boarding Pass คือ เอกสารที่สำคัญที่สุดในการเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะมีข้อมูลสำคัญต่างๆ มากมาย ทั้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขเที่ยวบิน เวลาขึ้นเครื่อง เวลาถึงปลายทาง ประตูทางออกขึ้นเครื่อง เลขที่นั่ง และชั้นโดยสาร แถมยังมีบาร์โค้ดที่สามารถเข้าไปแก้ไขชื่อ-นามสกุล และเที่ยวบินต่างๆ แบบออนไลน์ได้ด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่ทางเรานำมาฝาก ว่า Boarding Pass มีความสำคัญมากแค่ไหน ก่อนออกจากบ้านไปสนามบิน อย่าลืมเช็คกันน้า และทุกคนต้องเก็บรักษา และห้ามทำ Boarding Pass หาย ตลอดจนห้ามโพสต์ข้อมูลบน Boarding Pass ลงบนโซเชียลเป็นอันขาด

อ่านเพิ่มเติม

19 โรงแรมใกล้เยาวราชระดับตำนาน ห้ามพลาด

เยาวราช เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพซึ่งเป็นที่รู้จักทั้งในกลุ่มคนไทยและต่างชาติ มีชื่อเสียงในเรื่องสตรีทฟู้ด รวมถึงยังมีเขตเมืองเก่าซึ่งคุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิม ความคึกคักของเยาวราชจะเริ่มในช่วงเย็น

ซึ่งเมื่อมาเที่ยวแล้วก็อาจไม่จบในวันเดียว เพราะมีร้านอาหารมากมายรอให้คุณลิ้มลอง ยิ่งไปกว่านั้นช่วงระหว่างวันก็ยังเที่ยวบริเวณใกล้เคียงอย่างเช่นเกาะรัตนโกสินทร์ได้ ถ้ามีโรงแรมในโซนเยาวราชให้พักก่อนเที่ยวในวันรุ่งขึ้นก็คงดี

ถ้าคุณกำลังมองหาที่พักในโซนเยาวราช วันนี้เราจัดมาให้ถึง 19 โรงแรม โดยเป็นที่พักระดับตำนาน ไปดูกันได้เลยครับ!

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

1. Grand China Hotel Bangkok

ขอเริ่มด้วยโรงแรมเก่าแก่บนถนนเยาวราช และเป็นโรงแรมที่นักท่องเที่ยวต่างยกให้เป็นโรงแรมที่ให้บริการระดับ First Class จุดเด่นของที่นี่คือห้องพักที่ให้คุณได้เห็นวิวแบบ 360 องศา มีอ่างอาบน้ำอยู่ติดริมระเบียงซึ่งกั้นไว้ด้วยกระจกสีใสทำให้คุณได้เห็นวิวเยาวราชอย่างชัดเจน

2. Shanghai Mansion Bangkok

จุดเด่นของที่นี่คือการตกแต่งด้วยผ้าไหมพร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใส ภายในโรงแรมมีบริการสปา พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายในห้องพักก็พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และยังมีสวนในร่มขนาดใหญ่ รวมถึงการเดินทางก็สะดวกด้วย เพราะอยู่ใกล้ MRT วัดมังกรในระยะที่เดินถึงได้สบาย

3. Ago Hotel Chinatown

อีกหนึ่งโรงแรมที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องพักตกแต่งสไตล์เรียบง่าย และบางห้องยังมีวิวสวนให้รับชมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารบุฟเฟต์นานาชาติให้ผู้เข้าพักด้วย

4. Hotel Royal Bangkok @ Chinatown

โรงแรมที่เปิดมานานหลายปี เป็นที่รู้จักในกลุ่มชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนที่มาเยาวราช ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น และมีห้องพักให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่ห้องแบบ Superior ไปจนถึงห้องแบบ Suite ซึ่งมีห้องนั่งเล่น จัดเป็นโรงแรมระดับ 4.5 ดาว จึงขึ้นชื่อเรื่องความหรูหราอยู่สบาย และยังมีบริการห้องจัดเลี้ยงด้วย

5. The Quarter Hualamphong by UHG

รู้จักกันอีกในชื่อโรงแรม Prime Hotel Central Station Bangkok ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นผสมกับสไตล์มินิมอล เป็นโรงแรมระดับสี่ดาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายทั้งในเรื่องการเดินทางและการพักผ่อน ตัวโรงแรมตั้งอยู่ตรงข้าม MRT หัวลำโพง โดดเด่นด้วยห้องพักที่สามารถมองเห็นวิวกรุงเทพแบบ 360 องศาได้จากภายในห้อง 

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

6. Villa De Pranakorn – Relais & Chateaux

โรงแรมที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของกรุงเทพฯ รายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย ตัวโรงแรมตกแต่งสไตล์โมเดิร์น จัดว่าเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว จึงการันตีได้เลยในเรื่องความหรูหราสะดวกสบาย พูดถึงการเดินทางจากที่นี่ไปเที่ยวเยาวราช ก็จัดว่าไม่ไกล

7. Miramar Hotel Bangkok

จุดเด่นของที่นี่คือตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ รายล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และไม่ไกลจากแหล่งของกินรวมถึงที่เที่ยวซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของเยาวราช ตัวโรงแรมตกแต่งในรูปแบบซึ่งเน้นความเป็นไทยโดยผสานให้เข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกแบบโมเดิร์นได้อย่างลงตัว

8. The Krungkasem Srikrung Hotel

โรงแรมสไตล์คลาสสิกซึ่งอยู่คู่กับสถานีรถไฟหัวลำโพงมาอย่างยาวนาน ตกแต่งด้วยเครื่องกระเบื้อง มีลิฟต์แบบเก่าซึ่งยังคงใช้งานได้จริงและไม่ค่อยเห็นตามสถานที่ต่าง ๆ ในทุกวันนี้แล้ว Coffee Shop ของโรงแรมตกแต่งสไตล์ Retro ใครต้องการที่พักแบบคลาสสิก ต้องที่นี่เลย

9. The Spades Private Residence

ตัวโรงแรมตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เน้นตกแต่งด้วยโทนสีที่ดูสบายตา พร้อมวิวเมืองและวิวพื้นที่สีเขียวจากห้องพัก จึงเหมาะกับการพักผ่อนหลังจากเที่ยวมาทั้งวัน

10. Room Quest 2499 Heritage Hotel Chinatown

ตัวโรงแรมตั้งอยู่ตรงซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีน ตกแต่งภายนอกด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมจีน ผสานเข้ากับการแต่งห้องพักสไตล์มินิมอลได้อย่างลงตัว

11. Lhong Yaowarat Boutique Hotel & Cafe

ที่พักซึ่งได้รับการปรับปรุงจากอาคารเก่าอายุ 80 ปี ชั้นล่างเปิดเป็นคาเฟ่ ส่วนชั้นบนเป็นที่พักแบบโฮสเทล คาเฟ่ตกแต่งสไตล์วินเทจไม่ว่าจะเป็นโทนสีและเครื่องกระเบื้องเพนต์มือ มีห้องพักให้เลือกสามแบบ เหมาะทั้งมาพักผ่อนคนเดียวและกับครอบครัว

12. The Mustang Blu

ตัวโรงแรมรีโนเวตจากอาคารแบบโคโลเนียลอายุกว่า 100 ปีโดดเด่นด้วยพื้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ชั้นล่างของโรงแรมเปิดเป็นคาเฟ่ มาพร้อมกับห้องพักให้เลือกสองรูปแบบโดยตกแต่งในสไตล์วินเทจ

13. Live Local Yaowarat

LIVE LOCAL
Image : LIVE LOCAL

ที่พักสไตล์วินเทจ ตัวอาคารเป็นสไตล์ห้องแถวโบราณ มีคาเฟ่ให้บริการบริเวณชั้นล่าง ห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงสองชั้น สำหรับการเดินทางก็สะดวกเพราะอยู่ใกล้ MRT สถานีวัดมังกร

14. Luk Hostel

อีกหนึ่งโรงแรมที่ได้รับการปรับปรุงจากอาคารเก่า ผสานสไตล์โมเดิร์นเข้ากับสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมได้อย่างลงตัว มีให้เลือกทั้งห้องพักรวมแบบโฮสเทลและห้องพักแบบส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีบาร์และพื้นที่ส่วนกลางของแต่ละชั้นให้พักผ่อน

15. Old Thai Heng Hotel

ตัวโรงแรมรีโนเวตจากอาคารเก่าอายุกว่า 60 ปีโดยคงโครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบจีนดั้งเดิมไว้และผสานเข้ากับความโมเดิร์นได้แบบลงตัว ช่วยให้คุณได้สัมผัสความอบอุ่นของวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิม

16. Cacha Bed Heritage Hotel

เดินทางสะดวกสบายเพียงแค่ลง MRT สถานีสามยอด ตัวโรงแรมรีโนเวตจากอาคารเก่าทรงวิคตอเรียนซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1900 ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้เก่าแก่ ซึ่งบางชิ้นมีอายุตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ถือเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ซึ่งไม่ซ้ำแบบใคร

17. China Town Hotel

โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเยาวราช ตกแต่งสไตล์จีนผสมกับสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีสว่างทำให้รู้สึกสบายตา เหมาะกับการพักผ่อนเพราะในห้องพักแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

18. ASAI Bangkok Chinatown

asaihotels
Image : asaihotels

ตกแต่งด้วยสไตล์เรียบง่าย ผสานการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีอ่อนทำให้ดูแล้วสบายตา เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนด้วยความสงบ

19. The Orientale

ปิดท้ายกับบูติคโฮสเทลสุดหรู อยู่ในทำเลที่ดี ห่างจาก MRT สถานีหัวลำโพงในระยะที่เดินได้ ด้วยทำเลแบบนี้ทำให้สามารถเดินไปทุกจุดในเยาวราชได้แบบสบาย ๆ 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ 19 โรงแรมที่เราจัดมาให้ มีตั้งแต่บูติคโฮเทลไปจนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว หลายที่ได้รับการปรับปรุงจากอาคารเก่าโดยยังคงเอกลักษณ์โครงสร้างเดิมเอาไว้ ทำให้มีสไตล์ไม่เหมือนใคร

มาเยาวราชครั้งต่อไป ไม่จำเป็นต้องรีบกลับอีกแล้ว เลือกโรงแรมจากลิสต์ของเรา และพักผ่อนให้สบายก่อนเริ่มวันใหม่ดีกว่า ไม่ว่าจะมาเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจ ก็มีที่พักถูกใจสำหรับคุณอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล

วิธีไปเยาวราช แผนที่เยาวราชพร้อมพิกัดที่จอดรถ ใกล้ MRT

เยาวราช เป็นอีกหนึ่งจุดหมายที่เหล่าสายกินต่างยกให้เป็นแลนด์มาร์กสำคัญ แต่ว่าการจะไปเยาวราชแต่ละทีก็เป็นเรื่องที่คิดแล้วคิดอีกไม่รู้จะเดินทางยังไงให้ง่ายและสะดวกที่สุด

บล็อกนี้เราเลยอยากจะมาแชร์พิกัดลายแทงที่เที่ยวเยาวราชและวิธีการเดินทาง รับรองว่าอ่านจบสามารถเดินเที่ยวเยาวราชได้ครบไม่หลงไม่งงแน่นอน

เยาวราช

แผนที่เที่ยวเยาวราช จุดไหนน่าไปบ้าง

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ผดุงด้าว (ซอยเท็กซัส)

ถนนผดุงด้าวหรือที่เรียกติดปากกันว่าซอยเท็กซัสตามชื่อของโรงหนังเท็กซัสที่เคยตั้งอยู่ในซอยนี้  ซึ่งเป็นโรงหนังที่เน้นฉายหนังอินเดียหรือหนังแขกก่อนที่จะเลิกกิจการไป ตรงนี้เป็นอีกหนึ่งจุดเช็กอินเยาวราชที่มีร้านเด็ดร้านอร่อยเพียบ

ร้านอาหารเยาวราช

ร้านเด็ดในซอย

  • เท็กซัสสุกี้
  • ป้าจินหอยแครงลวก ซอยเท็กซัส
  • ข้าวหมูแดงเท็กซัสเยาวราช
  • T&K Seafood
  • Ba Hao Tian Mi (ปา เฮ่า เถียน มี่)

เมนูห้ามพลาดในซอย

  • หอยแครงลวก
  • ผัดไทยห่อไข่
  • พุดดิ้งร้าน Ba Hao Tian Mi (ปา เฮ่า เถียน มี่)

ซอยแปลงนาม

อีกหนึ่งโซนในเยาวราชที่รวมร้านเด็ดร้านอร่อยเอาไว้ เรียกได้ว่าตั้งแต่ต้นซอยยันท้ายซอยเต็มไปด้วยร้านรวงของอร่อยให้เลือกละลานตาเต็มไปหมด

หมูสะเต๊ะ

ร้านเด็ดในซอย

  • หมูสะเต๊ะแปลงนาม 
  • Nam Dao Huu น้ำเต้าหู้
  • ครัวพรละไม
  • น้ำปลาหวานเจ๊แป๊ว
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

เมนูห้ามพลาดในซอย

  • หมูสะเต๊ะ
  • ร้านหน้ากระทะร้อนที่ครัวพรละไม
  • มะม่วงน้ำปลาหวาน

บนถนนเยาวราช

ไฮไลต์เด็ดก็คือตลอดสองฟากฝั่งของถนนเยาวราชในยามค่ำคืนที่จะมีร้านของกินของอร่อยเรียงรายมากมายให้ได้เลือกชิมเลือกช้อปแบบจุใจ

ของกินเยาวราช

ร้านเด็ดในซอย

  • กวยจั๊บนายเอ๊ก 
  • ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช 
  • ยู้ ลูกชิ้นปลาเยาวราช
  • น้องกาย & น้องเก้า ปลาหมึกย่าง

เมนูห้ามพลาด

  • ปลาหมึกย่าง
  • ขนมปังไส้ทะลัก
  • กวยจั๊บ
  • ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาเยาวราช

การเดินทางไปเยาวราช

การเดินทางไปเยาวราช

วิธีการเดินทางไปเยาวราชมีด้วยกันหลายวิธี แนะนำว่าให้ใช้ขนส่งสาธารณะจะสะดวกกว่า เพราะที่เยาวราชหาที่จอดรถยากมาก แต่ถ้าจะขับรถมาจริง ๆ สามารถนำไปจอดได้ที่ห้างแอมไชน่าทาวน์ (15 นาทีแรกจอดฟรี) อาคารเท็กซัสสุกี้ (ชั่วโมงละ 20 บาท) โรงแรมรอยัล แบ็งคอก ไชน่าทาวน์ (ชั่วโมงละ 50 บาท) วัดสัมพันธวงศารามวรวิหาร (วัดเกาะ) (ชั่วโมงละ 30 บาท) โรงงิ้วเก่าเยาวราช (ชั่วโมงละ 60 บาท) ส่วนวิธีเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะก็มีหลายวิธี ดังนี้

  • MRT ลงสถานีวัดมังกร (วัดเล่งเน่ยยี่)
  • Taxi/Delivery Applications
  • Tuk Tuk 
  • Boat ลงท่าเรือราชวงศ์ เดินผ่านย่านตลาดสำเพ็งทะลุมายังเยาวราช
  • Bus รถเมล์สาย 1, 4, 7, 8, 25, 35, 40, 53, 501 
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

เสน่ห์ของเยาวราชก็คือผู้คนและของกินของอร่อย รวมถึงบรรยากาศที่ยังคงมีกลิ่นไอของย่านการค้าโบราณของคนไทยเชื้อสายจีน แนะนำว่าให้เตรียมล้างท้องให้พร้อมก่อนมาตะลุยกินจะได้ไม่พลาดของอร่อย ๆ จากหลาย ๆ ร้าน 

ที่มาข้อมูล

อ่านเพิ่มเติม

Airbnb คืออะไร ต่างจาก hotel อย่างไร  ทำไมถึงกำลังเป็นที่นิยม

Airbnb คืออะไร ต่างจาก hotel อย่างไร  ทำไมถึงกำลังเป็นที่นิยม

Airbnb คือ บริษัท Startup ผู้ผลิตคิดค้นแพลตฟอร์มออนไลน์ บริการเปิดห้องว่างให้เช่าห้องพัก ซึ่งได้พัฒนามาโดยตลอดหลายปี แม้จะเจออุปสรรคหรือโดนปฏิเสธก็ไม่ยอมแพ้ กว่าจะกลายมาเป็นแพลตฟอร์มที่ประสบความสำเร็จจนถึงทุกวันนี้ 

Airbnb ทำหน้าที่เป็นตัวกลางระหว่างเจ้าของบ้านและผู้เช่า โดยมอบทางเลือกใหม่ๆ ในราคาที่เป็นมิตรกับผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว เดินทางไปยังสถานที่และประเทศต่างๆ โดยต่างกับโรงแรมทั่วไป เพราะผู้พักจะได้ประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดจากที่พักแต่ละที่ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยเหตุนี้ Airbnb จึงเป็นแพลตฟอร์มที่ครองใจนักท่องเที่ยวทั่วโลกนั่นเอง

Airbnb vs hotel ต่างกันอย่างไร

airbnb vs hotel ต่างกันอย่างไร

ปกติแล้ว จุดเด่นของโรงแรมทั่วไปคือ การจองห้องที่สะดวก ได้มาตรฐาน ละแวกใกล้เคียงอยู่ใกล้กับห้างสรรพสินค้า ซูเปอร์มาร์เก็ต สถานีรถไฟต่างๆ แถมสามารถจองได้โดยไม่ต้องชำระล่วงหน้า เชื่อถือได้ ถูกกฎหมาย มีบริการซักผ้า ขนกระเป๋า มีพนักงานคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา 

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

อย่างไรก็ตาม Airbnb ก็มีข้อดีที่แตกต่างจากโรงแรมหลายประการ ตรงที่ว่าสามารถรองรับคนได้มากกว่า ได้บรรยากาศเหมือนอาศัยกับคนที่อาศัยอยู่ในท้องถิ่นจริงๆ ราคาน่ารัก มีครัวส่วนตัวหรือเครื่องซักผ้าให้อีกด้วย มีรีวิวประกอบการตัดสินใจ การให้ความสำคัญกับประสบการณ์การเดินทางและราคา Airbnb จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักเดินทางที่ต้องการดื่มด่ำกับวัฒนธรรมใหม่ๆ และสำรวจจุดหมายปลายทางใหม่ๆ ในราคาประหยัด

ที่มาของ Airbnb เกิดจากอะไร

ที่มาของ airbnb เกิดจากอะไร

กว่าจะมาเป็นบริษัท Startup ที่ประสบความสำเร็จได้จนถึงขนาดนี้ ต้องย้อนกลับไปยังปี 2007 ที่ Airbnb เกิดจากไอเดียของสองหนุ่มรูมเมท ขณะที่เกิดวิกฤติเงินไม่พอจ่ายค่าเช่าห้องย่าน San francisco ทีนี้จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่าจะให้คนเข้ามาเช่า  โดยโพสต์รูปและแผนที่ลงใน www.airbedandbreakfast.com ปรากฎว่ามีผู้สนใจเข้ามาเช่าห้องจริงๆ จากนั้นพวกเขาก็ได้ชวนรูมเมทเก่าอีกหนึ่งคนมาพัฒนาต่อยอดไอเดียนี้ เพื่อให้ฝันพวกเขาเป็นจริง 

Airbnb ลองหารายได้ทางอื่นโดยเกาะกระแสการเลือกตั้ง ทำกล่องซีเรียล Obama O’s และ Cap’n McCain’s ออกมาขายกวาดรายได้หลายหมื่นเหรียญ ถึงกระนั้น Airbnb ก็ยังไม่ได้ประสบความสำเร็จซะทีเดียว จนกระทั่ง พบคำตอบแล้วว่าภาพถ่ายมีผลทำให้ห้องดูไม่น่าพัก ทั้งสามหนุ่มจึงเปลี่ยนรูปถ่าย และชื่อเว็บจาก  airbedandbreakfast.com มาเป็น Airbnb.com รวมทั้งขยายประเภทที่พักและเก็บค่าเช่าเอง หลังจากนั้น

มือกลองชื่อดัง วง Barry Manilow ได้มาเช่า Airbnb ทั้งอะพาร์ตเมนต์ ทำให้คนได้รู้จักบริการนี้มากขึ้น นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนที่ทำให้ Airbnb เป็นที่รู้จักมาจนถึงทุกวันนี้

Airbnb สร้างรายได้แบบไม่ต้องลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างไร

airbnb สร้างรายได้แบบไม่ต้องลงทุนอสังหาริมทรัพย์ได้อย่างไร

จากวันแรกที่ใช้รูปภาพลงบนเว็บไซต์ พวกเขาพบว่า รูปของที่พักนั้นดึงดูดให้มีผู้คนมาเช่ามากที่สุด และทุ่มเทให้กับรูปภาพของที่พักเป็นจำนวนมาก เนื่องจากลูกค้าไม่สามารถเดินทางมาด้วยตนเอง รูปภาพจึงกลายมาเป็นจุดขายของแพลตฟอร์ม Airbnb 

อีกหนึ่งกลยุทธ์การตลาดที่น่าสนใจ คือ โปรแกรมบอกต่อ Referral program หรือการโปรโมทโดยการบอกต่อเพื่อรับคูปองโบนัสส่วนลด เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้เข้าใช้มากขึ้นโดยไม่ต้องลงทุนเลย รวมถึงระบบรีวิว ที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจที่จะจองห้องพักนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี 

การเข้าพักกับ Airbnb ยังมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ที่โรงแรมไม่สามารถทำได้ เช่น การจัดปาร์ตี้หรือพักผ่อนทำกิจกรรมกับครอบครัว ในราคาที่เป็นมิตรกว่า ออกแคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยวหมู่บ้านเล็กๆ 

ข้อดีของ airbnb

  • ราคาเป็นมิตร มีดีลส่วนลดที่น่าสนใจ
  • มีห้องพักที่ไม่ซ้ำใคร ให้เลือกสรร
  • อุปกรณ์ทำครัว อุปการณ์อาบน้ำพร้อม 
  • ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน
  • ที่พักหลากหลายขนาด รองรับได้หมด ทั้งคู่รัก ครอบครัว เพื่อนกลุ่มใหญ่ แล้วแต่จะเลือก
  • มีพื้นที่กิจกรรม เช่น สระว่ายน้ำ สนามหญ้า ห้องเล่นเกม เป็นต้น
  • โอกาสดื่มด่ำวัฒนธรรมต่างประเทศกับเจ้าของที่พัก

ข้อเสียของ airbnb

  • รูปไม่ตรงปก ขนาดห้อง วิว ไม่เหมือนกับที่โฆษณาไว้
  • หาโลเคชั่นลำบาก บางที่ไม่มีชื่อระบุอย่างชัดเจน
  • การสื่อสารไม่เข้าใจกัน อาจขัดข้องได้ ข้อมูลไม่ตรงกับที่ขอ
  • ที่จอดรถระบุไม่ละเอียด บางครั้งต้องจอดริมถนนหรือเสียเงินเพิ่ม
  • ยกเลิกกะทันหัน โดยต่างฝ่ายต่างไม่ทันตั้งตัว
Airbnb ส่งผลกระทบอย่างไรต่อธุรกิจโรงแรม ห้องพัก รีสอร์ต

airbnb ส่งผลกระทบอย่างไรต่อธุรกิจโรงแรม ห้องพัก รีสอร์ต

ธุรกิจปล่อยห้องเช่า Airbnb ส่งผลกระทบต่อรายได้ธุรกิจโรงแรม ห้องพัก รีสอร์ตถึง 3.7% อ้างจาก Harvard และ MTI ซึ่งมีแนวโน้มที่จะเติบโตเรื่อยๆ ในปี 2025 ทิศทางธุรกิจของ Airbnb เกี่ยวข้องกับการขยายธุรกิจหลักที่ให้เช่าระยะสั้น และสำรวจโอกาสในกลุ่มใหม่ๆ ของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เช่น การเช่าระยะยาวและที่พักสำหรับองค์กร 

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

นอกจากนี้ Airbnb ยังมุ่งเน้นไปที่การยกระดับประสบการณ์ของผู้เข้าพัก สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่งและขยายสู่ตลาดใหม่ เพื่อดึงดูดนักเดินทางให้มากขึ้น ลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์เหล่านี้ชี้ให้เห็นว่า Airbnb มุ่งมั่นที่จะสร้างนวัตกรรมและการเติบโต ในขณะที่พยายามรักษาตำแหน่งในฐานะแพลตฟอร์มชั้นนำในอุตสาหกรรมที่พักให้เช่าควบคู่ไปด้วย

ที่พักแบบ new experience เปิดโลกกว้าง พร้อมแลกเปลี่ยนทัศนคติ

ที่พักแบบ new experience เปิดโลกกว้าง พร้อมแลกเปลี่ยนทัศนคติ

นอกจากประสบการณ์ที่แปลกใหม่ Airbnb ยังมอบประสบการณ์ที่หลากหลายให้ผู้ที่เข้ามาพักได้แลกเปลี่ยนไอเดีย ทัศนคติ นักท่องเที่ยวยังสามารถเลือกที่พักที่มีหลากหลายสไตล์  ตั้งแต่สไตล์อบอุ่นแนวคอตเทจไปจนถึงประสบการณ์สุดหรูจากเพนต์เฮาส์ราคาแพง 

ไม่ว่าจะเดินทางเพื่อธุรกิจหรือหยุดสุดสัปดาห์ การพักแบบนิวเอ็กซ์พีเรียนซ์ จะทำให้ผู้พักมีประสบการณ์การร่วมในท้องถิ่นทั้งแบบเข้าร่วมสถานที่จริงและออนไลน์ ที่จัดโดยคนพื้นเมืองที่มีใจรักและเชี่ยวชาญในการทำสิ่งนั้น เช่น การทำอาหาร ดนตรี และดูแลสัตว์ นอกจากนี้ยังมีมัคคุเทศก์ท้องถิ่นที่เป็นคนคอย นำกลุ่มเล็กๆ ไปผจญภัยแบบเอกซ์คลูซิฟ รับรองได้ว่าไม่เหมือนใครแน่นอน

บริการที่ปลอดภัย ไว้ใจได้แม้พักกับคนแปลกหน้า

ทาง airbnb มีระบบยืนยันความปลอดภัย ให้ผู้เข้าพักมั่นใจแม้ต้องพักกับคนแปลกหน้า โดยมีวิธีตรวจสอบ ดังนี้

  • การตรวจสอบที่เข้าถึงได้ เช่น การยืนยันข้อมูลประวัติส่วนตัว
  • มีระบบแชตให้ผู้เช่ามั่นใจที่จะติดต่อสอบถามข้อมูลกับผู้ให้เช่ากันอย่างปลอดภัย
  • เป็นแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือสำหรับการเรียกเงินและโอนเงิน ชำระจ่ายบริการอย่างง่ายๆ ด้วยการชำระเงินหลายช่องทาง เช่น บัตร Visa, MasterCard, Amex, JCB, Google Pay, Apple Pay, เดบิต และ Paypal อีกทั้งยังเลือกสกุลเงินที่ใช้ชำระได้อีกด้วย
Airbnb กับกฎหมายด้านความปลอดภัย

airbnb กับกฎหมายด้านความปลอดภัย

เพื่อให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยตามที่กฎหมายกำหนดในแต่ละประเทศ Airbnb จึงพิจารณาที่จะออกกฎระเบียบแก่ผู้ปล่อยเช่า รับรองความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเข้ามาพัก โดยแต่ละท้องถิ่นมีการกำหนดแตกต่างกัน แบ่งจำแนกเป็นหมวดใหญ่ๆ ได้ ดังนี้ จำนวนผู้เข้าพัก เจ้าของต้องขออนุญาตใบประกอบธุรกิจ มาตรฐานที่อยู่อาศัยขั้นต่ำ ใบอนุญาตพิเศษ ภาษีท้องถิ่น กฎหมายผู้ให้เช่า-ผู้เช่า รวมทั้งกฎอื่นๆ

airbnb ส่งผลต่อความเป็นส่วนตัว (Privacy) หรือไม่

ด้วยความที่แขกที่เข้ามาพักอาจมีหลากหลายเชื้อชาติ มากหน้าหลายตา อาจทำให้เพื่อนบ้านรู้สึกไม่สบายใจที่ต้องพบคนแปลกหน้าเวียนเข้าเวียนออกอยู่บ่อยๆ บางครั้งก็เกิดเสียงดังรบกวนผู้พักอยู่ระแวกเดียวกัน 

ดังนั้น Airbnb ต้องปฏิบัติตามกฎหมายของรัฐบาลกลาง รัฐ และท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง จึงมีกฎบังคับแจ้งผู้พักให้ระบุกฎหน้าโพรไฟล์ที่พัก ไม่ว่าจะเป็นกฎของอาคาร การเลี้ยงสัตว์ การสูบบุหรี่ ที่จอดรถ และเสียงรบกวน เพื่อป้องกันปัญหาข้างต้น 

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

การท่องเที่ยวด้วยการจัดหาที่พักที่หลากหลายไม่เหมือนใครและราคาย่อมเยา พร้อมทั้งประสบการณ์ส่วนตัวสุดพิเศษที่โรงแรมไม่สามารถให้ได้ airbnb ได้สร้างวิธีการพักอาศัยแบบใหม่ ที่ช่วยให้ผู้คนได้สัมผัสกับวิถีพื้นเมืองอย่างแท้จริง Airbnb จึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักเดินทางมากมาย ส่งผลให้จำนวนผู้เข้าพักและรายได้ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมลดลง  

อย่างไรก็ตาม ที่พักใน Airbnb มักอยู่ห่างไกลในย่านหรือซอยที่ไม่คุ้นเคย ไม่สะดวกต่อการเดินทางโดยสาธารณะ Airportels มีบริการส่งกระเป๋าเดินทางและสัมภาระมายังที่พักก่อน จะได้ช่วยลดความยุ่งยากในการเดินทาง ให้คุณท่องเที่ยวอย่างเต็มที่โดยไม่ต้องก

อ่านเพิ่มเติม

ไม่ต้องลากกระเป๋าให้ลำบากอีกต่อไป เพียงฝากกระเป๋าที่สนามบินสุวรรณภูมิ
ใบเล็ก-ใบใหญ่ ไม่ใช่ปัญหา มาส่งกระเป๋าที่ MBK CENTER | AIRPORTELS
จุดรับฝากกระเป๋าดอนเมือง ที่จะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

ไปเที่ยวทะเลไทยช่วงไหนปังสุด ด้วยปฏิทินเที่ยวทะเลไทย 12 เดือน

แน่นอนว่าประเทศไทยนั้น มีจุดเด่นเรื่องการท่องเที่ยว โดยเฉพาะทะเลไทยที่สวยงามไม่แพ้ชาติใดในโลก ทำให้ทะเลของไทยเป็นที่นิยมตลอดทั้งปี เนื่องจากมีน้ำทะเลสีฟ้าสดใส สภาพอากาศเอื้ออำนวย ทำให้คุณพร้อมออกเดินทางศึกษาโลกใต้ท้องทะเลอันกว้างใหญ่อย่างไร้ขีดจำกัด  

ปฏิทินเที่ยวทะเล 12 เดือน เที่ยวยังไงให้เจอทะเลสวย

ปฏิทินเที่ยวทะเล 12 เดือน เที่ยวยังไงให้เจอทะเลสวย 

เที่ยวทะเลช่วงไหนดี? หลายคนกว่าจะได้ไปเที่ยวในแต่ละครั้ง ต้องทำงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อย เมื่อมีโอกาสเที่ยวเลยต้องการผ่อนคลายด้วยบรรยากาศริมทะเล แน่นอนว่าทะเลไทยสามารถเที่ยวได้ทั้งปี แต่ต้องเลือกฝั่งทะเลที่จะไปให้เหมาะสมในแต่ละเดือนก่อน เพราะช่วงมรสุมของทะเลแต่ละฝั่งนั้น แตกต่างกันไปในแต่ละเดือน 

ดังนั้นควรเช็กดูสภาพอากาศของทะเลที่จะไปว่าเป็นอย่างไร มีลม พายุ ฝนฟ้าคะนองหรือไม่? เพื่อให้เที่ยวทะเลได้อย่างเต็มที่ ในบทความนี้ ทาง Airpostels ได้รวบรวมข้อมูลไว้ให้เรียบร้อยแล้วว่าในแต่ละเดือนควรเที่ยวทะเลที่ไหนดี

ทะเลไทยแบ่งออกเป็นกี่โซน

ทะเลไทยแบ่งออกเป็นกี่โซน 

ทะเลของไทย เป็นที่นิยมทั้งนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติ เนื่องจากประเทศไทยเป็นเมืองร้อนที่มีแดดส่องตลอดทั้งวัน อีกทั้งมีหาดทรายเม็ดละเอียดสีขาวจนถึงสีเหลืองอร่าม น้ำทะเลของไทยก็มีสีสว่างเป็นประกาย ทำให้ทะเลไทยติดอันดับทะเลที่สวยอันดับต้นๆ ของโลก โดยทะเลของไทยนั้น แบ่งออกเป็น 4 โซนหลักๆ ได้แก่ 

  1. ทะเลฝั่งอันดามัน เช่น เกาะพีพี เกาะหลีเป๊ะ เกาะราชา
  2. ทะเลฝั่งอ่าวไทย เช่น เกาะเต่า เกาะพะงัน เกาะสมุย
  3. ทะเลฝั่งตะวันออก เช่น พัทยา เกาะล้าน เกาะเสม็ด เกาะช้าง เกาะกูด
  4. ทะเลฝั่งตะวันตก หรือฝั่งอ่าวไทยตอนบน เช่น  ทะเลชะอำ หัวหิน

ซึ่งทะเลทั้ง 4 โซนของไทยนั้น จะมีช่วงที่ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้ามา โดยลมมรสุมตัวนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า ‘ลมฝน’ เมื่อลมฝนพัดผ่านเข้ามาบริเวณทะเลไทย ทำให้ ทะเลบริเวณนั้นมีฝนตก ฟ้าคะนอง ลมแรง ถือเป็นช่วงมรสุม จึงควรศึกษาสภาพอากาศให้ดีก่อน 

1.ทะเลอ่าวไทย

ทะเลอ่าวไทย

เที่ยวทะเลอ่าวไทยช่วงไหนดี? ทะเลอ่าวไทย เป็นทะเลที่มีความโดดเด่นในเรื่องของน้ำทะเลใสไม่แพ้กับโซนอันดามัน แต่แตกต่างกันตรงที่ชายฝั่งทะเลอ่าวไทยจะเป็นทรงแบบยกตัว ทำให้ชายฝั่งจะค่อนข้างเรียบตรงมากกว่า แต่เนื้อทรายยังคงมีความละเอียด อีกทั้งน้ำทะเลสีฟ้า มองลงไปก็เห็นฝูงปลา และปะการังชัดเจน 

  • ช่วงเดือนที่เหมาะสม 

ช่วงเดือนที่เหมาะสมกับการไปเที่ยวทะเลอ่าวไทย คือ ช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนพฤศจิกายน

  • จังหวัดที่ติดทะเล

จังหวัดของไทยที่ติดอยู่กับทะเลอ่าวไทย มีทั้งหมด 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดพัทลุง จังหวัดสงขลา จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี และจังหวัดนครศรีธรรมราช

  • ที่เที่ยวแนะนำ

ที่ทะเลอ่าวไทย อยากให้ทุกคนได้มาลองสัมผัสกับ ‘เกาะพะงัน’ กันดู เพราะเกาะแห่งนี้มีชื่อเสียงอย่างมากกับงานฟูลมูนปาร์ตี้ (Full Moon Party) ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องแวะมา นอกจากงานฟูลมูนปาร์ตี้แล้ว เกาะพะงันยังมีชายหาดสวยๆ อีกมากมายทั้งหาดยาว หาดแม่หาด หาดริ้น ให้คุณได้สัมผัสน้ำทะเลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด 

2.ทะเลอันดามัน 

จังหวัดพังงา ทะเลอันดามัน

เที่ยวทะเลอันดามันช่วงไหนดี? ทะเลอันดามันมีชื่อเสียงอย่างมาก เนื่องจากเกาะหลายๆ เกาะนั้น เกิดการยุบตัวของชายฝั่ง เกิดเป็นอ่าวใหญ่น้อยและเกาะต่างๆ มากมาย มีหาดทรายขาวสะอาด พร้อมน้ำทะเลสีฟ้าเข้มแต่ดูใสเป็นประกาย ทำให้เห็นฝูงปลา สีของปะการังชัดเจน จึงทำให้ทะเลอันดามันเลื่องชื่อไปไกลถึงต่างประเทศ

  • ช่วงเดือนที่เหมาะสม 

ช่วงเดือนที่เหมาะสมกับการไปเที่ยวทะเลอันดามัน คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน ขอบอกก่อนเลยว่าใครที่จะไปช่วงต้นเดือนพฤศจิกายน หรือปลายเดือนเมษายนให้ระวังฝนตก

  • จังหวัดที่ติดทะเล

ทะเลอันดามัน ประกอบด้วยจังหวัดโดยรอบทั้งหมด 6 จังหวัดด้วยกัน คือ จังหวัดสตูล จังหวัดกระบี่ จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา จังหวัดระนอง และจังหวัดตรัง

  • ที่เที่ยวแนะนำ

ที่เที่ยวแนะนำของทะเลอันดามันมีมากมาย สำหรับใครที่ต้องการความเป็นส่วนตัวขึ้นมาหน่อย แนะนำให้เลือกไปเที่ยวที่ ‘เกาะไข่’ เนื่องจากเกาะไข่เป็นเกาะขนาดเล็กที่อยู่ใกล้กับเกาะยาวน้อย โดยเกาะไข่สามารถแบ่งย่อยๆ ออกได้อีก 3 เกาะ คือ เกาะไข่นอก เกาะไข่ใน และเกาะไข่นุ้ย (ไม่ได้เปิดให้เข้าชม) และใครที่ได้แวะมาเกาะไข่ต้องอย่าลืมแวะออกแรงด้วยการเดินขึ้นไปที่จุดชมวิวเกาะไข่นอก ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศวิวทะเลแสนสวยได้จากมุมสูง 

3.ทะเลตะวันออก 

koh samaesarn

ทะเลตะวันออก เป็นโซนที่ใกล้กับกรุงเทพมหานครเป็นอย่างมาก ใช้เวลาขับรถเพียงเล็กน้อยก็สามารถถึงที่หมายได้ง่าย โดยทะเลตะวันออกนั้น มีจุดเด่นในเรื่องของการเดินทาง ให้คุณได้พักชมวิวทะเล ว่ายน้ำเพื่อความผ่อนคลาย ทานอาหารแสนอร่อย เติมแรงก่อนกลับไปทำงาน

  • ช่วงเดือนที่เหมาะสม 

เที่ยวทะเลตะวันออกช่วงไหนดี? เดือนที่เหมาะสมที่จะไปทะเลตะวันตก คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน 

  • จังหวัดที่ติดทะเล

ทะเลตะวันออก ประกอบด้วยจังหวัดโดยรอบ คือ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดตราด จังหวัดจันทบุรี

  • ที่เที่ยวแนะนำ

สำหรับที่เที่ยวทะเลตะวันออกนั้น ขอแนะนำเกาะแสมสาร ซึ่งเป็นเกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ‘เกาะแสมสาร’ เป็นเกาะที่อยู่ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช อันเนื่องมาจากโครงการในพระราชดำริ ถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่จะมีเวลาเปิด-ปิดเกาะชัดเจน ทำให้เกาะมีสภาพดี หาดสวย น้ำใส อีกทั้งมีกิจกรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้ทำ ไม่ว่าจะเป็นการดำน้ำดูปะการัง, การนั่งเรือท้องกระจก, พายเรือคายัก ฯลฯ ให้คุณสามารถเห็นธรรมชาติและความสวยงามจากโลกใต้ท้องทะเล

4.ทะเลตะวันตก

หัวหิน ประเทศไทย

ทะเลตะวันตก เป็นทะเลที่อาจจะไม่ได้สวยเท่าทะเลอันดามัน หรือโซนอื่นๆ แต่มีข้อดีที่การเดินทางไม่ไกลจากเมืองหลวงมากนัก เพียงขับรถ 2-3 ชั่วโมง สามารถชมทะเลสวยๆ ได้แล้ว สำหรับใครที่มีแพลนไปทะเลตะวันตก แนะนำให้ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเลย

  • ช่วงเดือนที่เหมาะสม 

เดือนที่เหมาะสมที่จะไปทะเลตะวันตก คือ ช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม โดยแนะนำให้เริ่มไปทะเลตะวันตกในช่วงต้นเมษายน ถือเป็นช่วงเวลาที่ดี เพราะมีโอกาสที่ฝนตกค่อนข้างน้อย

  • จังหวัดที่ติดทะเล

จังหวัดที่ติดทะเลฝั่งตะวันตกนั้น ประกอบด้วย 2 จังหวัด คือ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และจังหวัดเพชรบุรี

  • ที่เที่ยวแนะนำ

ที่เที่ยวแนะนำของทะเลฝั่งตะวันตก คงหนีไม่พ้นจุดยอดฮิตอย่าง ‘หัวหิน’ ไม่ได้เลย เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวและสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ตอบโจทย์ทั้งสายชอบไปเที่ยว สายชอปปิง สายคาเฟ่ เดินรับบรรยากาศริมทะเล ชมพระอาทิตย์ตกในช่วงเย็น นับว่าหัวหินเป็นเมืองที่มีความเจริญไม่แพ้กับกรุงเทพเลยทีเดียว! 

พามาดูไปเที่ยวทะเลเดือนไหนดี

เที่ยวทะเลเดือนมกราคมที่ไหนดี ?

เที่ยวทะเลเดือนมกราคมที่ไหนดี ? 

มกราคมเที่ยวทะเลไหนดี? ในเดือนแรกของปีนั้น ต้องบอกว่าเป็นเรื่องดีที่จะมีแพลนไปทะเล เพราะสภาพอากาศดีเกือบทุกที่ ยกเว้นฝั่งอ่าวไทย ขอแนะนำให้เลือกไปทะเลฝั่งอันดามันที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวย น้ำใส หาดทรายสีขาว รีบกางแผนที่แล้วเลือกทะเลที่สนใจได้เลย! 

  • เกาะพีพี จังหวัดกระบี่

เกาะพีพี จังหวัดกระบี่ ถือเป็นไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด เพราะช่วงเดือนมกราคมเป็นช่วงที่น้ำทะเลสีสวยมาก อีกทั้งอากาศกำลังดี ให้คุณได้ดำน้ำดูปะการัง นั่งชมวิวทะเลสวยๆ พร้อมชมพระอาทิตย์ตกยามเย็น เพียงเท่านี้แล้วเรียกว่าคุ้มในคุ้ม

  • เกาะราชา จังหวัดภูเก็ต

เกาะราชา มีทรายเม็ดละเอียดสีขาวสะอาด พร้อมน้ำทะเลสีฟ้า-ฟ้าเข้มที่มีความใสสะอาด เหมาะกับผู้ที่ต้องการดำน้ำดูปะการัง เพราะที่นี่เป็นศูนย์รวมของปะการังหายาก รวมถึงสัตว์น้ำหายากอีกด้วย ให้คุณได้เห็นปะการังเขากวาง ปลาไหลทะเล ปลาปักเป้า ปลากระเบนด้วยสายตาตนเอง

  • เกาะไม้ท่อน จังหวัดภูเก็ต 

ห่างจากเกาะราชาไปไม่ไกล จะเจอกับเกาะไม้ท่อน โดยเกาะไม้ท่อนเป็นเกาะส่วนตัว เลยทำให้นักท่องเที่ยวมีจำนวนไม่มาก เหมาะกับผู้ที่อยากสัมผัสบรรยากาศความสงบของทะเล แถมยังสามารถดำน้ำดูปะการังที่หน้าเกาะได้เลย ไม่ต้องนั่งเรือต่อ

เที่ยวทะเลเดือนกุมภาพันธ์ที่ไหนดี ?

มกราผ่านไป แล้วกุมภาพันธ์เที่ยวทะเลไหนดี? ด้วยสภาพอากาศของเดือนนี้ ต้องบอกว่าสามารถไปเที่ยวทะเลได้ทุกที่ โดยให้ระวังฝั่งอ่าวไทยเหมือนเดิม เพราะฝั่งอ่าวไทยอาจมีมรสุมในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์

  • เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เกาะเต่า ถือว่าเป็นเกาะยอดนิยมสำหรับนักดำน้ำ สามารถฝึกดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้น น้ำลึก และแบบฟรีไดฟ์ เนื่องจากมีจุดดำน้ำมากกว่า 20 จุดรอบเกาะ โดยเกาะเต่าเป็นเกาะที่มีลักษณ์โค้งเว้าคล้ายเมล็ดถั่ว ตั้งอยู่ห่างจากเกาะพะงันออกไปประมาณ 45 กิโลเมตร มีน้ำทะเลที่ใสสะอาด พร้อมสูดอากาศดีๆ จากธรรมชาติโดยตรง

  • เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี

เกาะล้าน จังหวัดชลบุรี เดินทางง่ายๆ ไม่ไกลจากกรุงเทพ พร้อมชมหาดทรายสีขาว น้ำทะเลสวยๆ จากหาดตาแหวน หาดเทียน หาดนวล และหาดอื่นๆ ได้ตามต้องการ

  • หาดเขาตะเกียบ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

หาดเขาตะเกียบ เป็นชายหาดหัวหินที่มีแลนมาร์กอันโดดเด่น ชัดเจน ด้วยองค์พระพุทธรูปปางสมุทรที่ตั้งอยู่บนเขาริมชายหาด หันหน้าออกสู่ทะเล เป็นหาดกว้างให้ทุกท่านได้เดินริมทะเลอย่างเพลิดเพลิน

เที่ยวทะเลเดือนมีนาคมที่ไหนดี ?

มีนาคมเที่ยวทะเลไหนดี? เดือนมีนาคมเป็นเดือนที่ควรหลีกเลี่ยงทะเลฝั่งอ่าวไทย เพราะถือเป็นช่วงที่กำลังจะมีมรสุม แนะนำให้เลือกเที่ยวทะเลฝั่งอันดามัน ฝั่งตะวันออก หรือฝั่งตะวันตกก็ยังได้เห็นวิวทะเลสวยๆ อยู่

เที่ยวทะเลเดือนเมษายนที่ไหนดี ?
  • หาดชะอำ จังหวัดเพชรบุรี

หาดชะอำเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักท่องเที่ยว หลายๆ คนคงชินตาไปกับเตียงผ้าใบจำนวนมากที่ตั้งอยู่ริมทะเล อีกทั้งหาดชะอำมีกิจกรรมให้ทำมากมายทั้งขี่ม้า เล่นเจ็ตสกี ให้คุณได้ใช้เวลากับทะเลให้เต็มที่

  • หาดหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

หาดหัวหิน ตั้งอยู่ในอำเภอหัวหิน เป็นหาดชื่อดังที่ทุกคนต้องเคยได้ยิน มีกิจกรรมหลากหลายให้ทำทั้งการขี่ม้า เล่นน้ำทะเล แต่ที่หาดนี้จะไม่มีการเล่นกีฬาทางน้ำที่เสียงดัง เช่น เจ็ตสกี ทำให้บรรยากาศของหาดนี้จะค่อนข้างเงียบสงบ ได้ยินเสียงลมทะเลได้ชัดเจน

  • เกาะกูด จังหวัดตราด

เกาะกูดเป็นเกาะที่มีความเงียบสงบ มีชายหาดที่สวยงามพร้อมกับน้ำใสสะอาด เป็นศูนย์รวมธรรมชาติมากมายทั้งน้ำตก ลำธาร ให้คุณสามารถผ่อนคลายความเครียดไปกับเกาะแห่งนี้

เที่ยวทะเลเดือนเมษายนที่ไหนดี ?

ในช่วงเมษายนเที่ยวทะเลไหนดี? เดือนนี้ถือเป็นช่วงหน้าร้อนที่หลายๆ คนอยากเดินทางไปสัมผัสน้ำทะเล ขอแนะนำให้ไปทะเลฝั่งตะวันออก และหลีกเลี่ยงการเดินทางไปทะเลฝั่งอ่าวไทย เพราะช่วงนี้อ่าวไทยกำลังมีมรสุมอยู่

phuket
  • เกาะเฮ จังหวัดภูเก็ต

เกาะเฮเป็นเกาะเล็กๆ ในจังหวัดภูเก็ต ที่มีชื่อเสียงเรื่องหาดทรายขาว น้ำใส สามารถเห็นฝูงปลาได้จากผิวน้ำ อีกทั้งยังสามารถทำกิจกรรมทางน้ำได้หลากหลาย เช่น ขี่เจ็ตสกี ดำน้ำชมปะการัง เล่นเรือลากร่ม เป็นต้น

  • หาดเขาเต่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับใครที่อยากหลบหนีความวุ่นวาย มาเน้นความสงบจากธรรมชาติต้องมาที่หาดเขาเต่าเลย เพราะหาดแห่งนี้มีน้ำทะเลที่ไม่ลึกมาก เหมาะกับการว่ายน้ำเล่น หรือเดินเล่นริมชายหาดเพื่อสูดบรรยากาศริมทะเล

  • หาดบางแสน จังหวัดชลบุรี

ผลัดเปลี่ยนบรรยากาศจากความสงบอย่างเขาเต่า มาสู่บรรยากาศริมทะเล แต่ใกล้กรุงเทพกันบ้าง หาดบางแสนเป็นสถานที่ยอดนิยมของคนไทยเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเดือนไหนๆ หาดบางแสนก็จะเต็มไปด้วยผู้คนเสมอ โดยเฉพาะในช่วงสงกรานต์ เดือนเมษายน จะมีงานสงกรานต์ให้ผู้คนได้มาเล่นน้ำสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน

เที่ยวทะเลเดือนพฤษภาคมที่ไหนดี ?

เดือนพฤษภาคมเริ่มมีฝนตก ไปเที่ยวทะเลไหนดี? เดือนนี้ถือเป็นเดือนที่ประเทศไทยนั้น เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการ จะมีฝนฟ้าคะนองจำนวนมาก โดยเฉพาะบริเวณริมทะเล คลื่นจะขึ้นสูง ลมพัดแรง ทำให้ทะเลที่พอจะไปเที่ยวได้อยู่ คือ ทะเลฝั่งตะวันตก นั่นเอง

หาดเจ้าสำราญ
  • หาดหว้าขาว จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

คำว่า ‘หาดสวย น้ำใส ได้ชมวาฬ’ ถือเป็นสโลแกนของหาดแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ซึ่งหาดแห่งนี้เป็นหาดเล็กๆ ในหมู่บ้านชาวประมงที่หลายๆ คนอาจยังไม่เคยได้ยินชื่อเลย แต่ขอบอกว่าทะเลที่นี่มักพบวาฬบรูด้าบ่อยๆ ด้วย

  • หาดเจ้าสำราญ จังหวัดเพชรบุรี

หาดเจ้าสำราญเป็นชายหาดที่เน้นความเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มีร่มมาตั้งบังวิวทะเล อีกทั้งหาดแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องของการมาพักผ่อนหย่อนใจ ให้คุณได้นั่งเล่นน้ำชิลๆ พร้อมกับแวะทานอาหารทะเลอร่อยๆ ก่อนกลับ

  • หาดปึกเตียน จังหวัดเพชรบุรี

ใครที่เคยอ่านวรรณคดีไทยต้องรู้จักกับรูปปั้นที่มีชื่อเสียงของที่นี่ ด้วยการนำรูปตัวละครจากเรื่องพระอภัยมณีที่มีทั้งนางผีเสื้อสมุทร พระอภัยมณี นางเงือก และสินสมุทรมาวางที่หาดปึกเตียน ให้ทุกคนได้กลับสู่โลกแห่งวรรณคดีไทย พร้อมชมวิวทะเลอันกว้างใหญ่

เที่ยวทะเลเดือนมิถุนายนที่ไหนดี ?

อยากไปเที่ยวเดือนมิถุนายนเที่ยวทะเลไหนดี? ในช่วงนี้ถือว่าเป็นฤดูฝนของไทย ทะเลฝั่งอันดามัน ฝั่งตะวันออก และตะวันตกโดยส่วนใหญ่จะมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นหลัก แนะนำให้เลือกไปทะเลฝั่งอ่าวไทยจะดีกว่า

เกาะพะงัน Full Monn Party
  • หาดยาว เกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 

ใครที่อยากจะแวะเกาะพะงันต้องมาที่นี่เลย หาดยาว ซึ่งเป็นหาดที่มีความยาวกว่า 1 กิโลเมตร ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันตกของเกาะ ให้คุณได้ชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ราวกับว่าหายไปที่ผืนน้ำได้อย่างไร้สิ่งกีดขวาง

  • เกาะกุลา จังหวัดชุมพร

ขึ้นชื่อในเรื่องน้ำใสสะอาดของทะเลฝั่งอ่าวไทย ต้องเคยได้ยินชื่อ ‘เกาะกุลา’ ที่เกาะแห่งนี้สามารถมองเห็นปะการังและฝูงปลาจากผิวน้ำเลย เพราะตัวน้ำมีความใสมาก สามารถดำน้ำดูปะการังได้ตั้งแต่หน้าหาดเลยทีเดียว

  • เกาะนุัยนอก จังหวัดนครศรีธรรมราช

เกาะนุ้ยนอก เป็นเกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในจังหวัดนครศรีธรรมราช เกาะแห่งนี้มีจุดไฮไลต์ที่ทำให้ที่นี่กลายเป็นที่รู้จักของคนไทย ก็คือ บ่อน้ำจืดที่มีรูปเท้าขนาดประมาณ 30 นิ้ว ซึ่งจะมองเห็นรอยเท้านี้ได้ในช่วงที่น้ำทะเลลดลงเท่านั้น ซึ่งจุดนี้ถือเป็นจุดกำเนิดของ ‘หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืด’ อีกทั้งตัวเกาะนุ้ยนอกเองมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ สามารถนั่งเรือชมปลาโลมาสีชมพูรอบเกาะได้เลย

เที่ยวทะเลเดือนกรกฏาคมที่ไหนดี ?

เดือนกรกฎาคมเที่ยวทะเลไหนดี? นับว่าเป็นเรื่องยากสำหรับการวางแผนไปเที่ยวทะเล ขอแนะนำให้เลือกทะเลฝั่งอ่าวไทยไปก่อน เพื่อลดโอกาสการเจอลมมรสุม

เที่ยวทะเลเดือนสิงหาคมที่ไหนดี ?
  • เกาะพิทักษ์ จังหวัดชุมพร

เกาะแห่งนี้เป็นเกาะของชุมชนชาวประมงขนาดเล็ก แต่มีกิจกรรมให้ทำแบบไม่เหมือนใคร ให้ทุกท่านได้ลองศึกษาชีวิตแบบชาวประมง ด้วยการรับประทานอาหารทะเลแบบสดๆ พร้อมกับปั่นจักรยานชมเกาะ หรือล่องเรือชมปะการัง ก็สามารถเลือกได้ตามสะดวก

  • เกาะมัดสุม จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เกาะมัดสุมหรือเกาะหมู เป็นเกาะที่มีหาดทรายสีขาวสะอาด พร้อมกับน้ำทะเลสีฟ้าสดใส ให้คุณได้ใช้เวลาภายในเกาะได้อย่างเต็มที่ เพราะมีทั้งร้านอาหาร เครื่องดื่ม และสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย

  • เกาะง่าม จังหวัดชุมพร

เกาะง่ามแห่งนี้ไม่ได้มีแค่เกาะเดียว ยังมีทั้งเกาะง่ามใหญ่ เกาะง่ามน้อย เกาะหลักง่ามให้คุณได้ดำน้ำชมปะการัง ซึ่งเกาะแห่งนี้ปะการังจะไม่ได้มีสีสันสวยงามมากแต่มีการพบปะการังสีดำ ซึ่งถือว่าเป็นปะการังที่หาเจอได้ยาก

เที่ยวทะเลเดือนสิงหาคมที่ไหนดี ?

เดือนสิงหาคมเที่ยวทะเลไหนดี? สภาพอากาศเดือนสิงหาคมยังคงมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากเป็นช่วงมรสุม จึงควรวางแผนเที่ยวทะเลโซนอ่าวไทยไปก่อน

เกาะมะพร้าว จังหวัดชุมพร
  • เกาะหลักแรด จังหวัดชุมพร

เกาะแห่งนี้เป็นเกาะหินปูนที่มีลักษณะคล้ายกับตัวแรด ไม่มีชายหาด แต่นิยมมาดำน้ำชมปะการัง เพื่อชมสีสันของโลกใต้ท้องทะเล ทั้งดอกไม้ทะเล สัตว์ทะเลนานาชนิด โดยเฉพาะปลิงทะเลสร้อยไข่มุก หรืองูทะเลก็มักพบที่บริเวณนี้

  • เกาะมะพร้าว จังหวัดชุมพร

เกาะแห่งนี้เป็นเกาะสัมปทานรังนก จะต้องมีการขออนุญาตก่อนเข้าชม ซึ่งบนเกาะแห่งนี้มีหาดทรายสีขาวนวล พร้อมทรัพยากรธรรมชาติอย่างครบครัน เนื่องจากมีต้องขออนุญาตก่อนถึงจะเข้าได้ ทำให้พื้นน้ำตรงนี้เป็นแหล่งความอุดมสมบูรณ์

  • เกาะมาตรา จังหวัดชุมพร

เกาะมาตราหรือมัตรา เป็นเกาะที่มีทรายขาวสะอาดสลับกับกองโขดหิน มีจุดเด่นในเรื่องของปะการัง ให้คุณได้ดำน้ำชมปะการังสวยๆ พร้อมกับชมความงามของกลุ่มฝูงปลา

เที่ยวทะเลเดือนมกันยายนที่ไหนดี ?

เดือนกันยายนเที่ยวทะเลไหนดี? เข้าสู่เดือนที่ 9 ของปีกันแล้ว แต่ยังอยู่ในช่วงฤดูฝน ทำให้ทะเลโซนอื่นๆ ยังคงอยู่ในช่วงมรสุม แต่โซนอ่าวไทยยังถือว่าสภาพอากาศดีกว่าโซนอื่นๆ  

  • เกาะทะลุ จังหวัดชุมพร

เกาะทะลุ ตัวเกาะแห่งนี้เป็นเกาะหินปูนที่มีโพรงถ้ำขนาดใหญ่คร่อมอยู่ที่ผิวน้ำ มีทั้งจุดดำน้ำตื้นและน้ำลึกให้คุณได้ชมบรรยากาศใต้ทะเล ทั้งปะการัง ดอกไม้ทะเล และสัตว์น้ำอีกมากมาย

  • เกาะกะโหลก จังหวัดชุมพร

เกาะกะโหลก เป็นเกาะหินปูนขนาดใหญ่ คล้ายกับเกาะทะลุ เพียงแต่เกาะกะโหลกจะมีรูปร่างเป็นก้อนใหญ่ๆ โดดเด่นในเรื่องของกิจกรรมดำน้ำชมปะการัง ให้คุณได้พบปะกับฝูงปลามากมาย โดยเฉพาะฝูงปลาโทงเทงร่มตัวโตที่ถือเป็นไฮไลต์ของเกาะแห่งนี้เลยก็ว่าได้

  • เกาะลังกาจิว จังหวัดชุมพร

เกาะลังกาจิว เป็นเกาะที่มีความสวยงามทางธรรมชาติ ทั้งหาดทรายสีขาวเม็ดละเอียด น้ำทะเลสีฟ้า พร้อมกับพื้นที่แนวปะการังที่สมบูรณ์กว่า 0.025 ตารางกิโลเมตร

เที่ยวทะเลเดือนตุลาคมที่ไหนดี ?

ตุลาคมเที่ยวทะเลไหนดี? ในเดือนนี้ยังคงเป็นฤดูฝนอยู่ แนะนำให้ไปเที่ยวทะเลฝั่งอ่าวไทย จะมีโอกาสเจอฝนน้อยกว่าทะเลอื่น หรือสามารถเลือกไปทะเลฝั่งตะวันตก บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ที่ก็กำลังเข้าสู่ช่วงปลายมรสุม

เกาะช้าง เที่ยวทะเลภาคใต้
  • หาดวนกร จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

สำหรับหาดวนกร เป็นชายหาดที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติวนกร ทำให้พื้นที่แห่งนี้ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี มีหาดสวย น้ำใส พร้อมเปิดบริการให้นักท่องเที่ยวได้มาเล่นน้ำ และนอนเต็นท์ค้างแรม

  • เกาะนางยวน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

เกาะนางยวน เป็นเกาะเล็กๆ จำนวน 3 เกาะเชื่อมต่อกัน โดยที่สามารถเห็นหาดทรายเชื่อมถึงกันในช่วงที่เวลาน้ำลง เกาะนางยวนโดดเด่นเรื่องการดำน้ำดูปะการังเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นเกาะขนาดเล็ก ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่ ทำให้เกาะแห่งนี้เป็นสมบัติจากธรรมชาติที่แท้จริง

  • เกาะช้าง จังหวัดตราด

ขึ้นชื่อว่า ‘เกาะช้าง’ ก็จะต้องเป็นเกาะขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในจังหวัดตราด ภายในเกาะมีทั้งหาดทรายขาว หาดคลองพร้าว ให้คุณได้เล่นน้ำทะเลอย่างจุใจ พร้อมทำกิจกรรมมากมาย ทั้งการดำน้ำดูปะการัง  นั่งเรือชมธรรมชาติ พายเรือคายัก ฯลฯ 

เที่ยวทะเลเดือนพฤศจิกายนที่ไหนดี ?

เที่ยวทะเลช่วงไหนดี? ต้องบอกเลยว่าเดือนพฤศจิกายนเป็นเดือนที่มีสภาพอากาศที่ดีขึ้นชัดเจน ท้องฟ้าโปร่งขึ้น มีฝนน้อยลงมาก แต่ทะเลบางแห่งยังคงเป็นช่วงมรสุมหรือยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวัง แนะนำให้เลือกทะเลฝั่งอ่าวไทย หรือฝั่งทะเลอันดามันจะปลอดภัยมากกว่า

เที่ยวทะเลเดือนธันวาคมที่ไหนดี ?
  • เกาะห้อง จังหวัดกระบี่

เกาะห้อง หรืออีกชื่อหนึ่งเรียกว่า เกาะเหลาบิเละ ซึ่งเกาะห้องแห่งนี้ เป็นอ่าวรูปทรงโค้ง 2 อ่าวและหันหน้าเข้าหากัน เมื่อมองดูจากด้านบนจะเห็นเหมือนรูปปีกนก ถือเป็นธรรมชาติที่หาดูได้ยาก อีกทั้งมีแนวปะการังอยู่รอบเกาะห้องอีกด้วย

  • เกาะรอกนอก จังหวัดกระบี่

เกาะรอกจะประกอบไปด้วยเกาะรอกนอก และเกาะรอกใน โดยเกาะรอกนอกจะมีจุดเด่นในเรื่องของหาดทรายสีขาวละเอียด และสัตว์น้ำนานาชนิด ให้คุณได้สัมผัสประสบการณ์ใกล้ชิดกับสัตว์โลกใต้ท้องทะเล

  • เกาะพะลวย จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ที่นี่คือเกาะพลังงานสะอาดต้นแบบของประเทศไทย โดยจะเห็นกังหันลมจำนวนกว่า 68 ต้น กำลังทำงานอยู่ ขอบอกว่าที่นี่หาดสวย น้ำใส อีกทั้งยังใช้พลังงานทดแทนแบบครบ 100% เต็ม

เที่ยวทะเลเดือนธันวาคมที่ไหนดี ?

เดือนสุดท้ายของปีมาแล้ว ใครที่มีแพลนไปทะเลช่วงสิ้นปี สามารถเลือกได้เลย เพราะสภาพอากาศในเดือนธันวาคมเป็นช่วงที่เหมาะกับการไปทะเลทั่วไทย ให้คุณได้เตรียมแพ็กกระเป๋าแล้วไปรับลมทะเลกันเลย 

  • หมู่เกาะตะรุเตา จังหวัดสตูล

หมู่เกาะตะรุเตา เป็นเกาะขนาดใหญ่ที่ห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติสีเขียว อีกทั้งมีหาดเล็กหาดน้อยอยู่เพียบ สำหรับใครที่ชอบการผจญภัยคงพลาดไม่ได้ เพราะที่นี่มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติ พร้อมเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของเกาะแห่งนี้ ถือว่าได้เล่นน้ำทะเลด้วย แล้วยังได้รู้ความเป็นมาของเกาะแห่งนี้อีกด้วย

  • หาดเจ้าหลาว จังหวัดจันทบุรี

หาดเจ้าหลาว เป็นหาดขึ้นชื่อของจังหวัดจันทบุรี มีน้ำทะเลใสสะอาด พร้อมกับหาดทรายสีเหลืองที่มีเม็ดละเอียด อีกทั้งมีร้านค้าค่อนข้างน้อย ทำให้สามารถชมความสวยงามของธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

  • หาดสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

หลายๆ คนอาจยังไม่รู้จักหาดสามร้อยยอดแต่จะคุ้นเคยกับเขาสามร้อยยอดมากกว่า หาดสามร้อยยอดแห่งนี้เป็นหาดที่เงียบสงบ มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ มีน้ำทะเลใสสะอาด เมื่อลงไปเดินริมชายหาดจะเห็นเปลือกหอยและปลาดาวมากมาย

ไปเที่ยวทะเลอย่าลืมเตรียมอะไรไปบ้าง

ไปเที่ยวทะเลต้องเตรียมอะไรไปบ้าง มัดรวมสิ่งของที่จำเป็นไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ไปดูกันเลย!

ไปเที่ยวทะเลอย่าลืมเตรียมอะไรไปบ้าง
  • กระเป๋าเดินทาง สำหรับใส่เสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่ต้องการนำไปด้วย
  • ชุดว่ายน้ำ แน่นอนว่าเป็นการไปเที่ยวทะเล จะขาดไม่ได้เลยกับชุดว่ายน้ำ
  • รองเท้าแตะ ควรเลือกรองเท้าแตะที่สามารถโดนน้ำได้ ไม่ลื่นจนเกินไป แนะนำให้เลือกรองเท้าที่มีพื้นยึดเกาะกับพื้นพอสมควร เพื่อลดโอกาสการเกิดอุบัติเหตุลื่นล้ม
  • ครีมกันแดด ไอเทมหลักสำหรับทริปทะเล ออกไปรับแสงแดด ต้องดูแลผิวให้ดีด้วย ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง เพื่อป้องกันรังสียูวี
  • ผ้าเช็ดตัว ถึงแม้ว่าโรงแรมส่วนใหญ่จะมีเตรียมผ้าขนหนูผืนใหญ่และผืนเล็กไว้ให้แล้ว แต่สำหรับผู้ที่ชอบว่ายน้ำ หรือมีแพลนจะเดินทางไปเกาะต่างๆ ควรมีผ้าเช็ดตัวอีกผืนติดเผื่อไปด้วย
  • โทรศัพท์มือถือหรือกล้อง ใช้สำหรับถ่ายรูปสวยๆ เก็บไว้เป็นความทรงจำดีๆ 
  • ถุงซิปกันน้ำ สำหรับใส่อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นสายชาร์จ แบตเตอรี่สำรอง โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ

สรุป

เที่ยวทะเลช่วงไหนดี? แล้วหากอยากไปเที่ยวทะเลอันดามันช่วงไหนดี? เชื่อว่าหลายๆ คนที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ คงมีทะเลที่เล็งไว้ในใจแล้วแน่ๆ และสำหรับใครที่มีแพลนจะไปเที่ยวทะเลเร็วๆ นี้ แนะนำให้ดูปฏิทินเที่ยวทะเลที่ทาง Airportels รวมรวมไว้ให้แบบจบครบทั้ง 12 เดือน เพื่อให้ทุกคนได้ไปเที่ยวทะเลอย่างสนุกสนาน ท่ามกลางสภาพอากาศดี ทะเลสวย น้ำใส อีกทั้งอย่าลืมเช็กสิ่งที่ควรเตรียมก่อนไปเที่ยวด้วย เมื่อทุกอย่างพร้อมหมดแล้ว ก็ออกเดินทางสู่ชายหาดสวย เกาะอันงดงาม และโลกใต้ท้องทะเลอันกว้างใหญ่กันได้เลย!