9 คาเฟ่และบาร์ลับ ที่ไม่ลับอีกต่อไปย่านเยาวราช 2023

หากนึกถึงเยาวราชภาพแรกที่ผุดขึ้นก็คงไม่พ้นแหล่งท่องเที่ยวที่มี Street Food และของกินแบบละลานตา แต่จริง ๆ แล้วที่เยาวราชยังมีคาเฟ่และบาร์ลับซุกซ่อนตัวตามตรอกซอกซอยอีกเพียบ

วันนี้เราเลยจะแอบมาบอกพิกัดคาเฟ่และบาร์ลับในเยาวราชให้คุณได้ไปแวะเช็กอินตามกันดู จะมีที่ไหนบ้างนั้นตามไปดูกันเลย

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

9 พิกัดคาเฟ่เยาวราชบรรยากาศดีมุมถ่ายรูปสวย

Wallflowers Cafe

ที่นี่เป็นทั้งคาเฟ่และบาร์ บรรยากาศตกแต่งไปด้วยหมู่มวลของแมกไม้และดอกไม้นานาพรรณบรรยากาศดีมาก ๆ มุมสวย ๆ ชิค ๆ เพียบ

  • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน Cafe 11.00 – 18.00 น. และ Bar 17.30 – 24.00 น.
  • เว็บไซต์ : www.facebook.com/wallflowerscafe.th
  • ที่อยู่ : 31-33 ซอยนานา (วงเวียน 22 กรกฎาคม) เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ : 094 671 4433

 Wanderlust BKK

ร้านกาแฟสไตล์มินิมอล เมนูกาแฟของที่นี่มีให้เลือกหลากหลาย พร้อมกับเมล็ดกาแฟหลากหลายสายพันธุ์ให้คุณเลือกสั่งได้ตามความชอบ ด้านบนของร้านก็เปิดเป็นโฮสเทลสุดชิคไว้รองรับนักท่องเที่ยว

  • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 10.00 – 19.00 น.
  • เว็บไซต์ : www.facebook.com/wanderlustbkk.th
  • ที่อยู่ :  149-151 ถนนพระรามที่ 4 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :  089 757 7770

 Akirart Cafe

Akirart
Image : Akirart

ร้านกาแฟที่ตกแต่งแนวออฟฟิศสุดวินเทจ ให้บรรยากาศเหมือนนั่งจิบกาแฟอยู่ในออฟฟิศยุค 80-90 ที่รายล้อมด้วยอุปกรณ์สำนักงานที่ชวนย้อนความทรงจำ น่าไปถ่ายรูปเช็กอินสุด ๆ

  • เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00 น. หยุดทุกวันอังคาร
  • เว็บไซต์ : www.facebook.com/AkirartCafe
  • ที่อยู่ :  138 ซอยประดู่ แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ : 086 814 3834

Woodbrookbkk

Woodbrookbkk
Image : Woodbrookbkk

คาเฟ่ลับติดริมน้ำเจ้าพระยา มีทั้งโซน in door และโซน out door ที่เป็นระเบียงมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและรับลมเย็น ๆ บรรยากาศดีสุด ๆ

  • เวลาเปิด-ปิด :  ทุกวัน 10.00 – 19.00 น.
  • เว็บไซต์ :  www.facebook.com/woodbrookbkk/
  • ที่อยู่ :  1222/1 ถนนทรงวาด แขวงจักรวรรดิ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :  064 424 2929

Jadeoldtown

Jadeoldtown
Image : Jadeoldtown

คาเฟ่ในตึกแถวสไตล์จีนโมเดิร์น ผสมความลอฟท์และความวินเทจ ให้ความรู้สึกเหมือนโรงน้ำชาสมัยก่อน น่าไปนั่งชิลล์ถ่ายรูปเช็กอินสุด ๆ

  • เวลาเปิด-ปิด :  ทุกวัน 10.00 – 18.00 น.
  • เว็บไซต์ :  www.facebook.com/profile.php?id=100031961816461
  • ที่อยู่ :  86 ถนนพระรามสี่ แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :   065 549 4924

NAHIM CAFE

NAHIM CAFE
Image : NAHIM CAFE

คาเฟ่สุดคิวท์สไตล์โฮมเมดเหมาะกับสายหวานสุด ๆ ที่นี่ตกแต่งสไตล์บ้านให้ฟีลอบอุ่น ๆ แถมเขายังโรงเรียนสอนทำขนมมีกิจกรรม workshop ให้ร่วมด้วย

  • เวลาเปิด-ปิด จันทร์ – พุธ 12.00 – 20.00 น. พฤหัสบดี – อาทิตย์ 11.00 – 19.00 น.
  • เว็บไซต์ www.facebook.com/nahimcafe.handncraft/
  • ที่อยู่ : 78 ซอยนานา แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :   095 989 9839

CHATA Specialty Coffee

ใครที่เป็นสายกาแฟดริปต้องห้ามพลาดที่นี่ เขาคัดสรรเมล็ดกาแฟคุณภาพ อีกทั้งยังใช้ Dripper แบบแก้ว และ Grinder บดกาแฟใช้มือหมุน ให้ความรู้สึกโฮมเมดและดึงเสน่ห์กาแฟออกมาได้เป็นเอกลักษณ์

  • เวลาเปิด-ปิด 09.00-18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
  • เว็บไซต์ :   www.facebook.com/chataspecialtycoffee/
  • ที่อยู่ :   98 ถนนพาดสาย แขวง/ เขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :  084 625 2324

Ti Bangkok

ร้านคาเฟ่บรรยากาศสุดมินิมอล นอกจากเครื่องดื่มแล้วที่ร้านยังขึ้นชื่อเรื่องพุดดิ้ง มีให้เลือกชิมกันหลายรสชาติเลย

  • เวลาเปิด-ปิด :   09.00 – 16.30 น. (หยุดวันพุธ)
  • เว็บไซต์ :   www.facebook.com/ti.bangkok.thailand
  • ที่อยู่ :  768 ถนนมังกร เขตป้อมปราบ แขวงป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :  094 452 5649

La Cabra

ร้านกาแฟสัญชาติเดนมาร์กสาขาแรกของไทย เมล็ดกาแฟคัดสรรและส่งตรงจาก Copenhagen ประเทศเดนมาร์ก ใครที่อยากลองห้ามพลาด

  • เวลาเปิด-ปิด :   09.00 – 18.00 น. (หยุดวันจันทร์)
  • เว็บไซต์ :  www.facebook.com/lacabra.thailand
  • ที่อยู่ :   813 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :  084 149 6495
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

9 พิกัดบาร์ลับเยาวราชบรรยากาศสุดชิลล์

Widdershins

Widdershins
Image : Widdershins

บาร์ลับที่ตั้งอยู่ในร้านอาหารจีน บรรยากาศคลาสสิกที่แฝงความหรูหรา เหมาะกับการไปนั่งชิล ๆ ปล่อยใจในวันสบาย ๆ

  • เวลาเปิด-ปิด :   18.00-01.00 น.
  • เว็บไซต์ :  www.facebook.com/widdershinsyaowarat/
  • ที่อยู่ :  ชั้น 3 ของร้าน Laoteng ปากซอยเยาวราช 9 ถนนเยาวราช สัมพันธวงศ์ กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :   095 987 9239

 TEP BAR

TEP BAR
Image : TEP BAR

บาร์ที่ตกแต่งด้วยการผสานความเป็นไทยประยุกต์ บรรยากาศสลัว ๆ เครื่องดื่มของที่นี่ก็เน้นค็อกเทลที่ผสมผสานความเป็นไทยเป็นเอกลักษณ์มาก ๆ ต้องไปลอง

  • เวลาเปิด-ปิด : 18.00-24.00 น.
  • เว็บไซต์ :   www.facebook.com/TEPBARBKK/
  • ที่อยู่ :   69/71 ซอยยี่สิบสองกรกฎาคม 4 แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :   098 467 2944

 Rabbit Hill

Rabbit Hill
Image : Rabbit Hill

บาร์สไตล์จีนร่วมสมัยให้ความรู้สึกเหมือนโรงเตี๊ยมโรงน้ำชาสุด ๆ เครื่องดื่มก็ดีกับแกล้มก็เด็ด เหมาะกับการไปนั่งแฮงค์เอาท์กับเพื่อน ๆ 

  • เวลาเปิด-ปิด :  17.00-24.00 น.
  • เว็บไซต์ :  www.facebook.com/rabbithillbangkok
  • ที่อยู่ :  1 ถนนสันติภาพ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :   061 663 9565

Melts

Melts
Image : Melts

บาร์ลับที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าของโฮสเทล บรรยากาศดี ที่ร้านมีอาหารและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกัญชาด้วย ก่อนไปต้อง inbox หน้าเพจเพื่อขอรหัสเข้าร้าน

  • เวลาเปิด-ปิด :   18.00 – 24.00 น. (ปิดวันจันทร์)
  • เว็บไซต์ :   https://www.facebook.com/meltschinatownbkk
  • ที่อยู่ :   135/9 ถนนเยาวพานิช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :   099 332 0049

Pijiu Bar

Píjiǔ Bar
Image : Píjiǔ Bar

ที่นี่เด่นเรื่องคราฟต์เบียร์มาก บรรยากาศร้านก็ชิค ใครที่เป็นสายคราฟต์เบียร์ต้องห้ามพลาด

  • เวลาเปิด-ปิด :   18.00 – 24.00 น. (ปิดวันจันทร์)
  • เว็บไซต์ :   https://www.facebook.com/pijiubar
  • ที่อยู่ :  16 ซอยนานา ถนนเยาวราช แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :   095 660 2636

 Ba Hao

บาร์แนวจีนโมเดิร์นให้ความรู้สึกคล้ายโรงน้ำชา เครื่องดื่มและอาหารที่นี่เป็นสไตล์จีน แถมยังมีห้องพักไว้บริการด้วย

  • เวลาเปิด-ปิด :   17.00 – 24.00 น. (ปิดวันจันทร์)
  • เว็บไซต์ :   www.facebook.com/8bahao
  • ที่อยู่ :   8 ซอยนานา แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :  062 464 5468

 Teens of Thailand

บาร์ลับบรรยากาศแบบดิบ ๆ ตกแต่งด้วยสติกเกอร์สเกตบอร์ดเท่ ๆ เมนูของที่หลายก็หลากหลายรับรองถูกใจสายแฮงเอาต์แน่นอน

  • เวลาเปิด-ปิด :  18.00-24.00 น.
  • เว็บไซต์ :  www.facebook.com/teensofthailand
  • ที่อยู่ :  76 ซอยนานา แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :   097 003 1173

Charoenkrung Bar & Bistro

บาร์กึ่งร้านอาหารสไตล์จีนร่วมสมัย อาหารและเครื่องดื่มครบ เหมาะกับการไปนั่งชิล ๆ ฟังเพลงเพราะ ๆ ร่วมกับกลุ่มเพื่อน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า
  • เวลาเปิด-ปิด :   16.00-24.00 น.
  • เว็บไซต์ :   www.facebook.com/Charoenkrungbarandbistro
  • ที่อยู่ :  609 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :   099 448 5646

El Chiringuito

ที่นี่เป็นร้านอาหารสเปนและมีบาร์ตกแต่งสวยงามสวยถูกใจสายวินเทจ ให้ฟีลย้อนยุคหน่อย ๆ เครื่องดื่มและอาหารก็มีให้เลือกหลากหลาย เป็นอีกหนึ่งร้านที่เหมาะไปนั่งชิลล์

  • เวลาเปิด-ปิด :  18.00 – 23.00 น. (ปิดวันจันทร์-พุธ)
  • เว็บไซต์ : www.facebook.com/elchiringuitobangkok
  • ที่อยู่ :   221 ซอยนานา แขวงป้อมปราบ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพ
  • เบอร์ติดต่อ :  098 996 5479

จบไปแล้วกับ 9 พิกัดคาเฟ่และบาร์ลับย่านเยาวราช อย่าพลาดรีบตามไปเช็คอินกัน แต่ละร้านอาหารและเครื่องดื่มเด็ด ๆ ทั้งนั้น แถมยังมีมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ รับรองเลยว่าจะติดใจจนอยากกลับไปซ้ำอีกแน่นอน 

ที่มาข้อมูล

รู้ไว้กันพลาด!! ขนาดกระเป๋าที่โหลดขึ้นเครื่องพร้อมค่าโหลด 2023

เมื่อจำเป็นต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน ไม่ว่าเป็น เที่ยวบินภายในประเทศหรือเที่ยวบินระหว่างประเทศ “กระเป๋าสัมภาระ” ถือเป็นอีกหนึ่งเพื่อนร่วมทางที่ทุกคนต้องนำไปด้วยเสมอ แม้เคยเดินทางบ่อยหรือเพิ่งขึ้นเครื่องบินครั้งแรก หลายๆ คนอาจมีความกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักกระเป๋า ค่าใช้จ่ายในการโหลดกระเป๋าหรือแม้แต่ขนาดของกระเป๋า

บทความนี้ ได้รวบรวมคำตอบเกี่ยวกับการนำกระเป๋าขึ้นเครื่องและการโหลดกระเป๋าไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ขนาดกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง จำนวนกระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง และอัตราค่าโหลดกระเป๋าแต่ละสายการบิน เช่น การบินไทย นกแอร์ แอร์เอเชีย ไทยเวียตเจ็ท และไลอ้อนแอร์

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ขนาดไซส์ทั่วไปของกระเป๋าเดินทางแบบล้อลาก 

แม้ว่าสายการบินต่างๆ มีรายละเอียดของข้อกำหนดหรือนโยบายเกี่ยวกับการสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องและโหลดขึ้นเครื่องที่แตกต่างกันอยู่บ้าง

แต่กระเป๋าล้อลากบางขนาดสามารถโหลดขึ้นเครื่องได้เพียงอย่างเดียว เพราะมีขนาดใหญ่กว่าขนาดของช่องสัมภาระเหนือศีรษะในห้องโดยสาร ทั้งนี้ ในท้องตลาดยังมีกระเป๋าให้เลือกซื้อหลายขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องจึงมีดังนี้  

ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง

1. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 16 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 16 นิ้ว เป็นขนาดกระเป๋าที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 24×41 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 43 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่เหมาะกับทริปเดินทางประมาณ 1-2 วัน 

2. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 18 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 18 นิ้ว เป็นขนาดกระเป๋าที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 24×46 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 46 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด จึงเหมาะกับทริปเดินทางประมาณ 2-3 วัน

3. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 22 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 22 นิ้ว ถือเป็นขนาดของกระเป๋าที่ใหญ่ที่สุด ที่สายการบินต่างๆ ยังอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องและใส่ในช่องสัมภาระเหนือศีรษะในห้องโดยสารได้ โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 23×40 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 55 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่เหมาะกับทริปเดินทางประมาณ 2-4 วัน 

4. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 24 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 24 นิ้ว เป็นขนาดกระเป๋าที่ต้องโหลดขึ้นเครื่องแทนการถือ เพราะมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่นโยบายของสายการบินส่วนใหญ่อนุญาต โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 24×45 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 61 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่เหมาะกับทริปเดินทางประมาณ 5 วัน – 1 สัปดาห์ 
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

5. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 26 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 26 นิ้ว เป็นขนาดกระเป๋าที่ต้องโหลดขึ้นเครื่องแทนการถือ โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 27×40 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 67 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่เหมาะกับทริปเดินทางตั้งแต่ 1 สัปดาห์ – 10 วัน 

6. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 28 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 28 นิ้ว เป็นขนาดกระเป๋าที่ต้องโหลดขึ้นเครื่อง โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 30×46 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 78 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่เหมาะกับทริปเดินทางไม่เกิน 2 สัปดาห์

กระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องแบบไหนได้บ้าง

โดยทั่วไป สัมภาระหรือกระเป๋าเดินทางที่สามารถนำขึ้นเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง หรือกระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง สามารถใช้ได้ทั้งกระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย หรือกระเป๋ามีล้อลาก 

นอกจากเรื่องนโยบายในส่วนของน้ำหนักและขนาดกระเป๋าแล้ว บางสายการบินอาจมีการกำหนดจำนวนของสัมภาระร่วมด้วย ซึ่งรายละเอียดของการถือกระเป๋าขึ้นเครื่องและการโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้ 

กระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่อง

1. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง คือ สัมภาระที่ผู้โดยสารสามารถพกติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ เช่น กระเป๋าถือหรือกระเป๋าเดินทางที่มีล้อลากไซส์ 12-22 นิ้ว ซึ่งต้องเก็บไว้บนช่องใส่กระเป๋าเหนือศีรษะหรือช่องใส่ของด้านหน้าเก้าอี้

โดยมักกำหนดน้ำหนักไว้ไม่เกิน 7 กิโลกรัม ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสายการบิน นอกจากนี้ ต้องไม่มีของต้องห้ามต่างๆ เช่น

  • ของเหลวปริมาณเกิน 50 มิลลิลิตร
  • ของมีคมหรืออาวุธต่างๆ เช่น มีด ปืน หรือกรรไกร
  • สัตว์ที่มีชีวิตหรือซากของสัตว์
  • อาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ทุเรียน ปลาร้า หรือขนุน
  • เพาว์เวอร์แบงก์ความจุต้องไม่เกิน 20,000 mAh

2. กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage) 

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง คือ กระเป๋าเดินทางที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 24 นิ้วขึ้นไป โดยส่วนใหญ่ การเดินทางภายในประเทศ ไม่เกิน 15 กิโลกรัม ส่วนการเดินทางระหว่างประเทศ ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ซึ่งของที่ไม่ควรใส่หรือต้องห้าม มีดังนี้

  • ของต้องห้ามตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ เช่น ของผิดกฎหมาย หรือยารักษาโรคบางชนิด
  • ของมีค่า เช่น แล็ปท็อป เงินสด หรือเครื่องประดับ
  • อุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี เช่น บุหรี่ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี หรือเพาว์เวอร์แบงก์
  • อาวุธและวัตถุไวไฟ

ทั้งนี้ ของมีค่าและอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี สามารถถือขึ้นเครื่องได้ โดยเพาว์เวอร์แบงก์ความจุต้องไม่เกิน 32,000 mAh และบุหรี่ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรีความจุไม่เกิน 100Wh ซึ่งไม่อนุญาตให้ชาร์จบนเครื่องบิน

ขนาด น้ำหนัก และค่าโหลดของแต่ละสายการบิน

แต่ละสายการบินมีการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับขนาดและน้ำหนักของกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือขึ้นเครื่อง ไปจนถึงมีค่าบริการในการโหลดกระเป๋าที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งผู้ที่ต้องการเดินทางด้วยการโดยสารเครื่องบิน ควรศึกษาและทำความเข้าใจ เพื่อให้ง่ายต่อการเตรียมตัว หมดปัญหาการต้องแกะสัมภาระมาแพ็กใหม่ที่สนามบินหรือต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม 

สำหรับใครที่กำลังจะบินหรือกำลังเปรียบเทียบสายการบินที่ใช้บริการ แต่ละสายการบินมีนโยบายเกี่ยวกับขนาด น้ำหนัก และค่าโหลดสัมภาระ ดังนี้

ขนาด น้ำหนัก และค่าโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง

1. การบินไทย (Thai Airway)

การบินไทย (Thai Airway) เป็นสายการบินสัญชาติไทยที่ให้บริการทั้งจุดหมายปลายทางภายในประเทศและต่างประเทศ รวมกว่า 35 ประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมันนี ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

โดยมีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋าการบินไทย

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทย กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยขนาดของกระเป๋าต้องไม่เกิน 25x45x56 เซนติเมตร รวมความสูงจากล้อ และมือจับ ซึ่งต้องเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะหรือใต้เบาะนั่งได้

นอกจากนี้ยังสามารถพกสิ่งของเหล่านี้ขึ้นเครื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

  • กระเป๋าใส่ของมีค่า เช่น กระเป๋าถือ หรือกระเป๋าใส่เงิน โดยมีขนาดกระเป๋าไม่เกิน 12.5x25x37.5 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือแล็ปท็อป
  • ไม้ค้ำยัน ในกรณีที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรือผู้ที่ทุพพลภาพ
  • กล้องหรือกล้องส่องทางไกลขนาดเล็ก
  • อาหารเด็กเล็ก

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทย กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ คือ 

  • ชั้นหนึ่ง ระหว่างประเทศ 50 กิโลกรัม
  • ชั้นธุรกิจ ในประเทศ 40 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 40 กิโลกรัม
  • ชั้นประหยัดพิเศษ  ในประเทศ 30 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 40 กิโลกรัม
  • ชั้นประหยัด  ในประเทศ 20-30 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 20-35 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยบาท โดยคิดเป็น 1.5% ของค่าบัตรโดยสารชั้นประหยัด แบบบินตรงเที่ยวเดียว ปกติสูงสุด หรือประมาณ 55-125 บาทต่อ 1 กิโลกรัม 
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแตกต่างกันออกไปตามโซนของประเทศจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทาง โดยค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 12-70 ดอลลาร์สหรัฐ การแปลงค่าเงินขึ้นอยู่กับอัตราการแลกเปลี่ยนในวันนั้นๆ

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยจำเป็นต้องซื้ออย่างน้อย 5 กิโลกรัม และไม่เกิน 50 กิโลกรัม โดยต้องซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยบาท อยู่ระหว่าง 50-60 บาท
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ อยู่ระหว่าง 8-56 ดอลลาร์สหรัฐ การแปลงค่าเงินขึ้นอยู่กับอัตราการแลกเปลี่ยนในวันนั้นๆ

2. ไทยสมายล์ (Thai Smile)

ไทยสมายล์ (Thai Smile) เป็นสายการบินสัญชาติไทยที่มีเส้นทางการบินภายในประเทศและจุดหมายปลายทางต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น อินเดีย เวียดนาม ศรีลังกา จีน และมาเลเซีย

โดยมีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋าไทยสมายล์

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยสมายล์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยขนาดของกระเป๋าต้องไม่เกิน 25x45x56 เซนติเมตร รวมความสูงจากล้อ และมือจับ ซึ่งต้องเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะหรือใต้เบาะนั่งได้ 

นอกจากนี้ยังสามารถพกสิ่งของเหล่านี้ขึ้นเครื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

  • กระเป๋าใส่ของมีค่า เช่น กระเป๋าถือ หรือกระเป๋าใส่เงิน โดยมีขนาดกระเป๋าไม่เกิน 12.5x25x37.5 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์แบบพกพา หรือแล็ปท็อป
  • ผ้าคลุมไหล่ หรือผ้าห่ม จำนวนไม่เกิน 1 ผืน
  • ร่ม จำนวนไม่เกิน 1 ด้าม
  • กล้องถ่ายภาพหรือกล้องส่องทางไกลขนาดเล็ก จำนวน 1 ตัว
  • หนังสือจำนวนที่เหมาะสม
  • อาหารของเด็กทารกในปริมาณที่เหมาะสม
  • อุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนไหวหรือการเดิน เช่น ไม้ค้ำยัน เก้าอี้วีลแชร์ หรือกายอุปกรณ์เทียม สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้
  • สุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดหรือหูหนวก
  • สินค้าปลอดภาษี ที่ไม่ขัดต่อกฎหมายของประเทศ เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือบุหรี่

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยสมายล์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ คือ

  • ชั้นพรีเมียม  ในประเทศ 30 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 40 กิโลกรัม
  • ชั้นประหยัด  ในประเทศ 20 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 30 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 180 บาท  
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ บาทไทย หรือรูปีอินเดีย ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางหรือจุดหมายปลายทาง โดยค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 12-15 ดอลลาร์สหรัฐ 405-540 บาทไทย และ 1400 รูปีอินเดีย

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ซึ่งมีอัตราค่าใช้จ่ายเท่ากันทั้งในกรณีบินภายในประเทศและบินระหว่างประเทศ มีรายละเอียด ดังนี้

  • 5 กิโลกรัม = 600 บาท
  • 10 กิโลกรัม = 900 บาท
  • 15 กิโลกรัม = 1,350 บาท
  • 20 กิโลกรัม = 1,800 บาท
  • 25 กิโลกรัม = 2,250 บาท
  • 30 กิโลกรัม = 2,700 บาท
  • 40 กิโลกรัม = 3,600 บาท 

3. สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways)

บางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) เป็นสายการบินเชิงพาณิชย์ของไทยที่ให้บริการครอบคลุมหลายจังหวัดในประเทศไทย เช่น สุโขทัย ภูเก็ต เชียงใหม่ และตราด

โดยมีท่าอากาศยานหลักในประเทศหลายแห่ง ไม่ว่าเป็น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา และท่าอากาศยานสมุย นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางการบินต่างประเทศ เช่น ลาว ฮ่องกง และมัลดีฟส์ อีกด้วย สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋าบางกอกแอร์

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม โดยขนาดของกระเป๋าที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องบินที่โดยสาร มีรายละเอียดดังนี้ 

  • ประเภทเครื่องบิน ATR72 ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องไม่เกิน 23x36x50 เซนติเมตร
  • ประเภทเครื่องบิน Airbus 319 และ Airbus 320 ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องไม่เกิน 23x36x56 เซนติเมตร

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ คือ

  • ชั้นธุรกิจบลูริบบิน  น้ำหนักกระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง 40 กิโลกรัม
  • ชั้นประหยัด  น้ำหนักกระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง 20 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 180 บาท  
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 11-60 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าก่อนเวลาเดินทางอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

  • กรณีที่บินภายในประเทศ
    • 5 กิโลกรัม = 600 บาท
    • 10 กิโลกรัม = 900 บาท
    • 15 กิโลกรัม = 1,350 บาท
    • 20 กิโลกรัม = 1,800 บาท
    • 25 กิโลกรัม = 2,250 บาท
    • 30 กิโลกรัม = 2,700 บาท
    • 40 กิโลกรัม = 3,600 บาท 
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ อยู่ระหว่าง 8-48 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งราคามีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางและจุดหมายปลายทาง โดยต้องซื้อน้ำหนักอย่างน้อย 5 กิโลกรัม

4. นกแอร์ (Nok Air)

นกแอร์ (Nok Air) เป็นสายการบินราคาประหยัดของไทย ให้บริการพื้นที่ครอบคลุมทั้งประเทศไทยและภายในทวีปเอเชีย เช่น เวียดนาม จีน อินเดีย และญี่ปุ่น

โดยมีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่สนามบินดอนเมือง สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋านกแอร์

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินนกแอร์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม  โดยขนาดของกระเป๋าต้องไม่เกิน 23x36x56 เซนติเมตร รวมความสูงจากล้อ และมือจับ ซึ่งต้องเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะหรือใต้เบาะนั่งได้ 

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินนกแอร์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ แบ่งตามประเภทของบัตรโดยสาร คือ

  • บินเบาๆ (Nok Lite) ไม่มี
  • บินสบาย (Nok X-tra) ในประเทศ 15 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 20 กิโลกรัม
  • บินเพลิดเพลิน (Nok MAX) ในประเทศ 25 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 30 กิโลกรัม
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 400 บาท  
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 500 บาท

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยมีอัตราแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรโดยสาร จุดหมายปลายทาง จำนวนน้ำหนักที่ซื้อเพิ่ม และช่วงเวลาที่ซื้อน้ำหนักเพิ่ม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • กรณีซื้อพร้อมบัตรโดยสาร ภายในประเทศเริ่มต้นที่ 5 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 150 บาท ส่วนระหว่างประเทศเริ่มต้นที่ 5 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 200 บาท
  • กรณีซื้อเพิ่มหลังซื้อบัตรโดยสารแล้ว ภายในประเทศเริ่มต้นที่ 5 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 250 บาท ส่วนระหว่างประเทศเริ่มต้นที่ 5 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 300 บาท

5. ไทยเวียตเจ็ทแอร์ (Thai Vietjet Air)

ไทยเวียตเจ็ทแอร์ (Thai Vietjet Air) เป็นสายการบินในเครือเวียตเจ็ทแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำจากประเทศเวียดนาม โดยเป็นสายการบินที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งภายในประเทศไทยและเมืองสำคัญของประเทศเวียดนาม เช่น เกิ่นเทอ และดานัง นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางบินระหว่างประเทศในแถบเอเชีย อาทิ กัมพูชา สิงคโปร์ และไต้หวัน อีกด้วย

โดยมีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋าเวียตเจ็ทแอร์

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยขนาดของกระเป๋าต้องไม่เกิน 23x36x56 เซนติเมตร ซึ่งต้องเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะหรือใต้เบาะนั่ง 

นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถนำกระเป๋าถือใบเล็กหรือกระเป๋าแล็ปท็อปอีก 1 ใบขึ้นเครื่องได้

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์  กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักรวมไม่เกิน 32 กิโลกรัม และแต่ละชิ้นต้องมีขนาดไม่เกิน 81x119x119 เซนติเมตร 

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน

  • กรณีที่บินภายในประเทศ  ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 320 บาท 
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ  ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 450-650 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการเดินทาง

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม 

  • น้ำหนัก 15 กิโลกรัม ภายในประเทศ 355 บาท และบินระหว่างประเทศ 540-1050 บาท
  • น้ำหนัก 20 กิโลกรัม ภายในประเทศ 395 บาท และบินระหว่างประเทศ 715-1,400 บาท
  • น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ภายในประเทศ 495 บาท และบินระหว่างประเทศ 923-1,650 บาท
  • น้ำหนัก 30 กิโลกรัม ภายในประเทศ 795 บาท และบินระหว่างประเทศ 1,260-1,980บาท
  • น้ำหนัก 35 กิโลกรัม ภายในประเทศ 955 บาท และบินระหว่างประเทศ 1,512-2,310 บาท
  • น้ำหนัก 40 กิโลกรัม ภายในประเทศ 1,195 บาท และบินระหว่างประเทศ 1,875-2,800 บาท

6. แอร์เอเชีย (Air Asia)

แอร์เอเชีย (Air Asia) เป็นสายการบินข้ามชาติต้นทุนต่ำระหว่างไทยกับมาเลเซีย ให้บริการเส้นทางการบินในหลายจังหวัดของประเทศไทย เช่น ขอนแก่น ตรัง และเชียงใหม่ รวมถึง จุดหมายปลายทางในภูมิภาคเอเชียอีกหลายแห่ง เช่น จีน ฮ่องกง และอินเดีย

โดยมีฐานการบินอยู่ทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋าแอร์เอเชีย

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินแอร์เอเชีย สามารถถือกระเป๋าขึ้นเครื่องได้จำนวน 2 ใบ โดยต้องมีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 7 กิโลกรัม ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

  • กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ใบ ต้องมีขนาดไม่เกิน 23x36x56 เซนติเมตร และต้องสามารถเก็บในช่องใส่สัมภาษณ์เหนือศีรษะได้
  • กระเป๋าใส่ทรัพย์สินจำนวน 1 ใบ โดยอาจเป็นกระเป๋าถือ กระเป๋าขนาดเล็ก หรือกระเป๋าใส่แล็ปท็อป ที่มีขนาดไม่เกิน 10x30x40 เซนติเมตร และต้องสามารถจัดเก็บไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าได้

ในกรณีของเที่ยวการบินแอร์เอเชียอินเดีย จากจัมมู หรือ ศรีนาการ์ ไม่อนุญาตให้นำกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่อง เนื่องจากข้อกำหนดการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินแอร์เอเชีย สามารถโหลดกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่องได้โดยไม่จำกัดจำนวน แต่น้ำหนักรวมของกระเป๋าสัมภาระต้องไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด โดยแบ่งตามประเภทของบัตรโดยสาร คือ

  • Low Fare ไม่มี
  • Value Pack และ Premium Flex น้ำหนัก 20 กิโลกรัม
  • Premium Flatbed น้ำหนัก 40 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน 

  • กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ในกรณีที่น้ำหนักของกระเป๋าเกิน ค่าใช้จ่ายในส่วนของ 15 กิโลกรัมแรก คิดเป็น 1,300 บาท และในกิโลกรัมต่อไปกิโลกรัมละ 455 บาท รวมถึง หากกระเป๋าสัมภาระมีขนาดใบใหญ่กว่าช่องเก็บของเหนือศีรษะ มีค่าใช้จ่าย 2,210 บาท

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยซื้อได้ไม่เกิน 40 กิโลกรัม

  • กรณีซื้อพร้อมบัตรโดยสาร ภายในประเทศเริ่มต้นที่ 15 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 468 บาท ส่วนระหว่างประเทศเริ่มต้นที่ 20 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,368 บาท
  • กรณีซื้อเพิ่มหลังซื้อบัตรโดยสารแล้ว ภายในประเทศเริ่มต้นที่ 15 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 520 บาท ส่วนระหว่างประเทศเริ่มต้นที่ 20 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,533 บาท

7. ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air)

ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air) เป็นสายการบินต้นทุนต่ำระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ซึ่งมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั้งภายในประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชีย เช่น จีน เนปาล ไต้หวัน และเวียดนาม

โดยมีฐานการบินอยู่ทั้งท่าอากาศยานดอนเมือง สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยขนาดของกระเป๋าต้องไม่เกิน 20x30x40 เซนติเมตร

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ คือ

  • กรณีบินภายในประเทศ  จำนวน 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม
  • กรณีบินระหว่างประเทศ  จำนวนไม่เกิน 2 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน 

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 300 บาท  
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 500 บาท แต่ถ้าเป็นเส้นทางกรุงเทพฯ-กัวลาลัมเปอร์ ราคา 400 บาทต่อ 1 กิโลกรัม 

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ซึ่งซื้อได้ไม่เกิน 45 กิโลกรัม และน้ำหนักสัมภาระแต่ละชิ้นต้องไม่เกิน 32 กิโลกรัม มีอัตราค่าใช้จ่ายเท่ากันทั้งในกรณีบินภายในประเทศและบินระหว่างประเทศ มีรายละเอียด ดังนี้

  • เพิ่ม 5 กิโลกรัม ภายในประเทศ 200 บาท และระหว่างประเทศ 325 บาท
  • เพิ่ม 10 กิโลกรัม ภายในประเทศ 275 บาท และระหว่างประเทศ 475 บาท
  • เพิ่ม 15 กิโลกรัม ภายในประเทศ 375 บาท และระหว่างประเทศ 625 บาท
  • เพิ่ม 20 กิโลกรัม ภายในประเทศ 405 บาท และระหว่างประเทศ 775 บาท
  • เพิ่ม 25 กิโลกรัม ภายในประเทศ 495 บาท และระหว่างประเทศ 1,000 บาท
  • เพิ่ม 30 กิโลกรัม ภายในประเทศ 645 บาท 
  • เพิ่ม 35 กิโลกรัม ภายในประเทศ 795 บาท 

ขึ้นเครื่อง แบบไม่ต้องสนใจเรื่องขนาด น้ำหนัก ทำได้ไหม?

หลังจากที่ได้ทราบเกี่ยวกับข้อจำกัดของน้ำหนักกระเป๋าที่ถือหรือโหลดขึ้นเครื่อง รวมถึง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการโหลดกระเป๋า ในกรณีที่น้ำหนักกระเป๋าเกิน หลายๆ คนอาจสงสัยว่า สามารถเดินทางโดยสารเครื่องบิน แบบไม่ต้องสนใจเรื่องขนาดหรือน้ำหนักของสัมภาระได้ไหม? 

คำตอบ คือ สามารถทำได้ เพราะ AIRPORTELs มีบริการรับฝากกระเป๋าตามจุดต่างๆ และบริการขนส่งสัมภาระไปทั่วประเทศไทย ไม่ว่าเป็น สนามบิน ห้างสรรพสินค้า หรือโรงแรม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ใช้บริการอะไรได้บ้าง

AIRPORTELs พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกให้การท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น โดยมีบริการหลักๆ ดังนี้

บริการขนส่งสัมภาระกระเป๋า

บริการขนส่งกระเป๋า

AIRPORTELs ให้บริการขนส่งสัมภาระ ทั้งภายในกรุงเทพฯ และการขนส่งข้ามจังหวัด ไม่ว่าเป็น ท่าอากาศยาน ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่พัก

โดยไม่จำกัดทั้งขนาดและน้ำหนักของสัมภาระ รวมถึง ระยะทางการขนส่ง มีอัตราค่าบริการขนส่งสัมภาระกระเป๋าเริ่มต้นที่ 299 บาท พร้อมระบบติดตามสถานะของสัมภาระ 

บริการฝากของ ฝากกระเป๋า 

บริการฝากกระเป๋า

บริการรับฝากสัมภาระของแอร์พอเทลล์ นั้นครอบคลุมตั้งแต่ กระเป๋าสัมภาระ อุปกรณ์กีฬา และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แล็ปท็อป จักรยาน หรือถุงกอล์ฟ มีอัตราค่าบริการเริ่มต้นเพียง 100 บาท ต่อสัมภาระ 1 ชิ้น

ซึ่งไม่มีการจำกัดน้ำหนักหรือขนาด โดยมีบริการจุดบริการที่สนามบิน และห้างสรรพสินค้า ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้แก่

  • ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • ท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดให้บริการระหว่างเวลา 06.00 – 24.00 น.
  • เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เปิดให้บริการระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น.
  • เทอร์มินอล 21 อโศก เปิดให้บริการระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น.
  • เทอร์มินอล 21 พัทยา เปิดให้บริการวันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 11.00 – 22.00 น. และวันศุกร์-วันอาทิตย์(วันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 11.00 – 2300 น.
  • เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น.
  • ไอคอนสยาม เปิดให้บริการระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น.
  • มิกซ์จตุจักร เปิดให้บริการวันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 10.00 – 20.00 น. และวันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 21.00 น.
  • เยาวราช เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 10.00 – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 10.00 – 14.00 น.

นอกจากนี้ ยังมีบริการรับฝากระยะยาว รับประกันมูลค่าของสูงสุดถึง 50,000 บาทอีกด้วย 

ส่งกระเป๋าดีกว่าการโหลดหรือนำขึ้นเครื่องเองอย่างไร

สำหรับข้อดีของบริการจาก Airportels ที่โดดเด่นกว่าการนำกระเป๋าถือหรือโหลดขึ้นเครื่อง มีด้วยกันมากมาย เช่น

  • เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับแผนการท่องเที่ยว หลายๆ คนจำเป็นต้องนำสัมภาระไปเก็บยังที่พักก่อน ถึงเริ่มการท่องเที่ยวได้ หรือหากบินไฟล์ตดึก หลังจากเช็กเอาต์แล้วไม่สามารถฝากกระเป๋าไว้กับที่พักได้ แต่บริการขนส่งกระเป๋าของ AIRPORTELs สามารถนำสัมภาระไปส่งให้ยังโรงแรม สนามบิน หรือห้างสรรพสินค้าใกล้รถไฟฟ้า BTS 
  • ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดและน้ำหนักของกระเป๋า แม้ว่าสายการบินต่างๆ มีบริการโหลดกระเป๋าและการซื้อน้ำหนักเพิ่ม แต่ส่วนใหญ่ก็ยังจำกัดน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 40-50 กิโลกรัมต่อคน รวมถึงยังมีการจำกัดขนาดของกระเป๋าที่สามารถใช้ได้อีกด้วย
  • ไม่ต้องแกะและแพ็กสัมภาระใหม่ เนื่องจากสายการบินต่างๆ ได้กำหนดปริมาณของของเหลว เช่น แชมพู ครีมนวดผม หรือน้ำหอม รวมถึง ลิสต์รายการสัมภาระที่ไม่สามารถโหลดได้ แต่จำเป็นต้องถือขึ้นเครื่อง ซึ่งทำให้หลายๆ คนต้องประสบปัญหาการแกะและแพ็กสัมภาระใหม่
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ก่อนการโดยสารเครื่องบิน ไม่ว่าเป็น การเดินทางท่องเที่ยวภายในและระหว่างประเทศ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง และอัตราค่าบริการโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องก่อน เพราะแต่ละสายการบินมีนโยบายสัมภาระที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องแกะสัมภาระและแพ็กใหม่ที่สนามบิน หรือเสียเงินเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักกระเป๋าเกิน แต่สำหรับใครที่อยากออกทริปภายในประเทศไทย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเกณฑ์สัมภาระและยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นสำหรับแผนการท่องเที่ยว บริการฝากของและขนส่งสัมภาระของ AIRPORTELs คือคำตอบ

อ่านเพิ่มเติม

เปิดประสบการณ์การนอนในสนามบิน อัพเดตที่พักในสุวรรณภูมิ 2023

ห้องพักรายวันแถว สนามบินสุวรรณภูมิ มีอยู่หลายสิบแห่ง เดินทางเพียง 5 นาทีถึง ราคาหลักร้อย ประหยัดและพักสบายเหมาะสำหรับคนที่รอขึ้นเครื่องข้ามวัน ส่วนคนที่ต้องการแค่ที่พักเอนหลังสักสองสามชั่วโมง ไม่อยากตกเครื่อง และไม่อยากนอนรอตามเก้าอี้สนามบิน ไม่ควรพลาดเช็คอินโรงแรมลับในสนามบิน เช็คอินเวลาไหนก็ได้ จ่ายค่าห้องรายชั่วโมงหรือรายวัน สะดวกมากและราคาไม่แพง รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็กเกอร์โดยเฉพาะ มาดูกันว่าพักที่ไหนได้บ้าง

 

1.Boxtel Suvarnabhumi Airport

โรงแรมในสนามบินที่ว่ากันว่าเป็นโรงแรมลับแห่งนั้นคือ “Boxtel” โรงแรมรายชั่วโมงที่อยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมินั่นเอง ไฮไลท์ของโรงแรมแคปซูลคือห้องพักส่วนตัวขนาดเล็กสำหรับนอนพักผ่อนช่วงสั้น ๆ ระหว่างรอขึ้นเครื่องหรือเปลี่ยนเครื่องเนื่องจากเที่ยวบินมีปัญหา ได้นอนพักในห้องสะอาดสักงีบประหยัดแรงหายเหนื่อยดีกว่านอนตามเก้าอี้เหนื่อย ๆ ง่วง ๆ โดยไม่ต้องเดินทางออกไปนอกสนามบิน ไม่ต้องเสี่ยงกับรถติดกลับมาขึ้นเครื่องไม่ทันเวลา สามารถเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เพื่อขึ้นรถโดยสารสาธารณะได้โดยไม่ต้องต่อรถใดๆ ไม่ต้องเสี่ยงกับรถติดกลับมาขึ้นเครื่องไม่ทันเวลา สามารถเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เพื่อขึ้นรถโดยสารสาธารณะได้โดยไม่ต้องต่อรถใด ๆ 

 
 

โรงแรม Boxtel สำหรับนักท่องเที่ยวเป็นห้องเตียงเดี่ยวสำหรับนอนคนเดียว มีระบบปรับอากาศ คำนวณราคาค่าห้องเป็นรายชั่วโมง จ่ายสบายกระเป๋าราคาถูกกว่าอัตราค้างคืนโรงแรมทั่วไป พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ฟรี ค่าบริการ 925-972 บาท/ห้อง/คืน จองโปรโมชั่นพักนาน 12 ช.ม. เหมาจ่าย 2,100 บาท สามารถจองห้องพักทางออนไลน์หรือโทรสอบถามข้อมูลโปรโมชั่นได้ตลอดเวลา นอกจากบริการห้องพักแล้วยังมีบริการรับฝากกระเป๋า ค่าบริการเริ่มต้นที่ 80 บาท/วัน หรือนำกระเป๋ามาฝากกับเราAIRPORTELs ในราคา 100บาท/วัน สามารถจองห้องพักผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงในเว็บไซต์ Traveloka.com

 

รีวิวห้องพักที่ Boxtel 

ใครสนใจใช้บริการห้องพักรายชั่วโมงของโรงแรม BOXTEL ในสนามบินสุวรรณภูมิ เดินหาไม่ยาก เพราะตั้งอยู่บริเวณชั้น B หรือชั้นใต้ดินตรงโซนแอร์พอร์ตลิงก์ สถานีสุวรรณภูมิ เหมาะแก่การเดินทางรถสาธารณะอย่างมาก รีวิวห้องพักจากนักเดินทางหลายคนที่ลองไปบริการกันมาแล้ว ห้องพักมีลักษณะเป็นห้องไม้ทรงกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดประมาณ 4 ตารางเมตร มีความเป็นส่วนตัว พื้นที่ไม่กว้างใหญ่แต่ไม่คับแคบเกินไป ภายในห้องพักมีเตียงเดี่ยวและเครื่องนอนคุณภาพเยี่ยมเทียบเท่ามาตรฐานโรงแรม 5 ดาว มีกระจกเงาด้วย ผู้ใหญ่นอนคนเดียวสบายหรือมีเด็กเล็กนอนด้วยได้อีกคน (เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร) แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ต้องนอนแยกเดี่ยวเท่านั้น ประตูห้องพักเป็นระบบสมาร์ทคีย์ ในห้องมีปลั๊กไฟ และรหัส Wi-Fi ให้ใช้ฟรี มีโต๊ะพับเอาไว้เขียน นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือก็ได้

ในห้องพักแบบ BOXTEL ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว ด้วยขนาดพื้นที่จำกัด ห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วนออกไปก็เป็นเรื่องดี เดินไปไม่ไกลใช้ห้องน้ำส่วนกลางของแอร์พอร์ตลิงก์ได้ มีปุ่มกดเรียกพนักงานเมื่อ ต้องการความช่วยเหลือและบริการโทรปลุกแขกที่อยู่ในห้องพัก (Wake Up Call) ไม่ต้องกังวลว่าจะนอนหลับเพลินจนตื่นมาขึ้นเครื่องไม่ทัน บริเวณใกล้เคียงห้องพักมีตู้ ATM และบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ห้องพักของ BOXTEL เปิดบริการมานานกว่า 6 ปีแล้ว มั่นใจในบริการที่มีคุณภาพได้แน่นอน

 

2. Avagard Capsule Hotel

อวกาศ แคปซูล โฮเทล เป็น โรงแรมในสนามบิน อีกแห่งที่หลายคนสนใจเข้ามาเช็คอิน สัมผัสประสบการณ์นอนชิล ๆ ในโรงแรมแคปซูลสักครั้ง ให้บริการห้องพักส่วนตัวสุดชิค บรรยากาศห้องพักสะอาดมากและเรียบง่าย ห้องพักของที่นี่มีล็อกเกอร์ให้เก็บกระเป๋าสัมภาระ 1 ช่องด้วย โรงแรมอวกาศ แคปซูลตั้งอยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิสะดวกมาก ๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อนระยะสั้นรอต่อเครื่อง ค่าบริการ 589-1,439 บาท/ห้อง/คืน ปัจจุบันโรงแรมแคปซูลได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ไม่ได้บริการเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น คนไทยที่เดินทางขึ้นเครื่องตอนเช้ามืดหรือลงเครื่องกลางดึกสำรองห้องพักเข้าใช้บริการพักค้างคืนได้ไม่ต้องนั่งแท็กซี่เสี่ยงอันตรายตอนกลางคืน

  

รีวิวห้องพักที่ Avagard Capsule Hotel

โรงแรมแคปซูลสำหรับนอนหลับพักผ่อนมีลักษณะเป็นห้องเล็กกะทัดรัดดีไซน์ล้ำสมัยเหมือนยุคอวกาศ มีเครื่องใช้บริการในแคปซูลสำหรับ 1 คน เป็นเตียงควีนไซส์และชุดเครื่องนอนสะอาดคุณภาพดี ในห้องแคปซูลมีที่เก็บกระเป๋าเดินทาง ช่องชาร์จ USB พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ฟรี และไฟอ่านหนังสือ ด้านในยังมีกล้องวงจรปิดคอยรักษาความปลอดภัยไว้ให้ด้วย แต่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว ใช้ห้องน้ำส่วนกลางของแอร์พอร์ตลิงก์ได้ ใกล้ ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งใกล้ที่พักเพียงไม่กี่ก้าว ใครอยากรู้จักโรงแรมแคปซูล อย่าพลาดเข้าไปสำรองห้องพักกัน

  

บริการโรงแรมในสนามบินสุวรรณภูมิเหมาะกับใครบ้าง

ถ้าบ้านไกลต้องบินเช้ามืด ไม่คิดจะเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ตีสี่ แต่ก็ไม่อยากพลาดเที่ยวบิน เพียงจองห้องพักแบบส่วนตัวเข้ามาเอนหลังรอก่อนขึ้นเครื่องได้ที่ Boxtel และ Avagard Capsuleไม่ต้องนั่ง ๆ นอน ๆ รอเครื่องตามเก้าอี้สนามบินเป็นเวลานาน ๆ ไปนอนรอที่สนามบินเลยทั้งสะดวกและประหยัดเงินกว่าค่าห้องพักของโรงแรมใกล้สนามบิน เนื่องจากแอร์พอร์ตลิงก์สุวรรณภูมิเปิดเที่ยวแรกเวลา 05.30 น. และเที่ยวสุดท้ายเวลาประมาณเที่ยงคืน หากกลับไฟล์ทดึก รถไฟฟ้าหมดและเรียกแท็กซี่ยาก แต่ลงเครื่องดึกแค่ไหนก็เข้าเช็คอินห้องพักที่นี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งต้องแบกสัมภาระเดินทางด้วย การพักโรงแรมใน สนามบินสุวรรณภูมิเป็นทางเลือกที่สะดวกมากเพราะไม่ต้องแบกกระเป๋าเดินทางออกนอกอาคารสนามบิน

เปรียบเทียบกับโรงแรมทั่วไปแล้ว โรงแรมในสนามบินทั้งสองแห่งให้ความสะดวกสบายสำหรับคนที่มีเที่ยวบินเช้าหรือรอต่อเครื่องนานหลายชั่วโมง ห้องพักสะอาดตาราคาหลักร้อยอาจดูย่อมเยากว่าค่าห้องนอนส่วนตัวในโรงแรมอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้สนามบินที่ให้ความสะดวกสบายและกว้างขวางกว่ามาก แต่ชดเชยกับความสบายใจว่าจะไม่พลาดเที่ยวบินสำคัญแน่นอน

 

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 299 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯ

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

โปรโมชั่นพิเศษ

ฝากกระเป๋าฟรี 4 ชั่วโมงแรก ที่MBK CENTER

ติดต่อเรา

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 02 026 6927

Website: Luggage Delivery Bangkok

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

ที่มาข้อมูล : 

เตรียมพร้อมจัดกระเป๋า Check list ของมันต้องมีก่อนไป เที่ยวกระบี่

เตรียมพร้อมจัดกระเป๋า Check list ของมันต้องมีก่อนไป เที่ยวกระบี่

กระบี่,เที่ยวกระบี่

                    กระบี่เป็นหนึ่งในจังหวัดที่มีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย ขึ้นชื่อเรื่องหาดทราย ทะเลน้ำใส และยังเป็นที่ตั้งของหมู่เกาะน้อยใหญ่กว่า 100 เกาะ การไป เที่ยวกระบี่ นอกจากการไปลงน้ำทะเลสวยๆแล้วยังมีอีกหลายกิจกรรมแอดเวนเจอร์ที่น่าสนใจ ทั้งปีนผา ขึ้นเขา พายเรือคายัค ดูปะการังน้ำตื้น หรือแม้แต่ Paddle Board ถ้าอยากจะทำกิจกรรมทั้งหมดนี้มีอะไรที่ต้องเตรียมพร้อมกันบ้าง สาวๆสายแอดเวนเจอร์ตามมาทางนี้ค่ะ เราจัดลิสต์เตรียมพร้อมสำหรับของมันต้องมีในกระเป๋าก่อนไปเที่ยวกระบี่ ไว้ให้แล้ว

เที่ยวกระบี่…ชมวิวที่วัดถ้ำเสือ

                    เริ่มจากกิจกรรมเบาๆอย่างการเดินขึ้นบันได 1,237 ขั้น ขึ้นเขาไปชมวิวเมืองที่วัดถ้ำเสือ ซึ่งมีโอกาสได้ดูทะเลหมอกจากจุดนี้ด้วย แนะนำให้ขึ้นช่วงเช้า(6โมง) หรือเย็น(4โมง)ไปเลย เพราะนอกนั้นแดดจะทำให้เราทรมานจนไม่อินกับวิวสวยๆแล้ว ขาขึ้นใช้เวลาตั้งแต่ 30-60 นาที ขึ้นอยู่กับกำลังขาของแต่ละคน ระหว่างทางมีจุดพัก 2 จุด (ห้องน้ำมีแค่ตรงนี้) ส่วนขาลงประมาณ 30 นาที และต้องใช้ความระมัดระวัง

กระบี่,เที่ยวกระบี่,วัดถ้ำเสือ

สิ่งที่ต้องเตรียม:

น้ำดื่ม– สำคัญมาก หน้าทางขึ้นบันไดไปจุดชมวิวจะมีป้ายติดไว้เตือนให้ทุกคนเตรียมน้ำขึ้นไปเพราะทางเป็นบันไดขั้นค่อนข้างสูง ยังไงก็เหนื่อยก่อนขึ้นไปถึงแน่นอน

รองเท้า– รองเท้าแตะอาจจะไม่เหมาะกับกิจกรรมนี้เท่าไหร่ แนะนำเป็นรองเท้าที่การยึดเกาะดี รับน้ำหนักได้ เดินแล้วไม่เจ็บ มีสายรัดพอดีส้นเท้า อย่าลืมว่าขาลงความชันของบันไดจะทำให้คุณก้าวด้วยความเร็วที่มากกว่าเดิม พลาดท่ารองเท้าหลุดกระเด็นล่ะแย่เลย

ปีนผาที่เกาะไรเล่ย์

                     หลายคนอาจจะไปเล่นน้ำที่เกาะไรเล่ย์แล้วเห็นภาพมนุษย์ตัวเล็กๆไต่อยู่ตามหน้าผาแล้วอยากรู้ว่าต้องเป็นใคร โปรแค่ไหนถึงจะทำได้? ไม่ต้องสนใจเรื่องนั้นเลยค่ะ ถึงเป็นมือใหม่ First time in Railay ก็สามารถทำกิจกรรมนี้ได้ โดยสามารถติดต่อกับเอเจนซี่ในพื้นที่ที่ทำกิจกรรมปีนผาโดยเฉพาะ เขาจะมีครูฝึกที่ผ่านการรับรองมาเป็นผู้ดูแลในกรุ๊ปเล็กๆไม่เกิน 2-4 คน แต่ละรูทก็มีเลเวลแตกต่างกันตั้งแต่ Beginner จนถึง Advance ครูฝึกจะเป็นผู้พิจารณาพาเราไปค่ะ

กระบี่,เที่ยวกระบี่,เกาะไรเล่ย์,ปะการังน้ำตื้น

สิ่งที่ต้องเตรียม:

อุปกรณ์ปีนผา– อุปกรณ์สามารถยืมได้จากเอเจนซี่เลยค่ะ

รองเท้า– ถ้าไม่มีรองเท้าสำหรับเดินทางไกล แนะนำเป็นสนีกเกอร์ที่กระชับกับเท้า เบา มีพื้นยึดเกาะดี แต่ของลิมิเต็ดราคาแพงเก็บไว้ที่บ้านเลยค่ะ(เป็นรอยแน่ๆ) ต้องรุ่นพร้อมลุยเท่านั้น

เสื้อผ้า– ไม่ต้องถึงกับรัดกุมพร้อมเดินทัพ แค่ให้ทะมัดทะแมงพร้อมใส่อุปกรณ์ติดเชือกปีนเขาก็พอค่ะ ถ้าชอบกางเกงขาสั้นก็ให้เป็นแบบพอดีตัวขาไม่บานจะสะดวกที่สุด

พายเรือคายัคที่เกาะห้อง

                    เกาะห้องเป็นเกาะที่มีธรรมชาติงดงามล้อมรอบด้วยหน้าผาชัน น้ำทะเลสีคราม หาดทรายขาว มีกัลปังหาและปะการังรอบเกาะ การจะเข้าไปยังส่วนของ “ห้อง” ตามชื่อของเกาะนั้นมีทางเดียว โดยการพายเรือคายัคที่นี่จะต้องไปพายมาจากทางทะเลเปิดก่อนจะเข้ามาได้

กระบี่,เที่ยวกระบี่,เกาะห้อง,ปะการังน้ำตื้น

สิ่งที่ต้องเตรียม:

อุปกรณ์ชูชีพ– อุปกรณ์จะมาให้กับเรือที่เราเช่าค่ะ ที่หาดจะมีหลายเจ้าให้เลือกเลย

เสื้อผ้า– ควรเป็นชุดพร้อมลงน้ำ อาจจะสวมบิกินี่ หรือชุดว่ายน้ำไว้ด้านในนะคะ เพราะไม่อมน้ำ แห้งง่ายกว่าชุดชั้นในมาก

ครีมกันแดด– สำคัญมากสำหรับสาวๆที่ไม่อยากมานั่งรักษาผิวเสียหลังจบทริป กิจกรรมนี้ตากแดดกันยาวๆแน่นอน แต่เดี๋ยวนี้จะห่วงผิวแล้วไม่แคร์โลกไม่ได้ เรามีครีมกันแดดชนิด reef-safe ที่ไม่ทิ้งสารตกค้างทำลายแนวปะการังมาแนะนำค่ะ (สนใจอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่นี่)

Passun (ข้อมูลผลิตภัณฑ์)

                    ครีมกันแดดสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกิจกรรมทางทะเลโดยเฉพาะ ผลิตจากสารสกัดธรรมชาติ กันน้ำ เนื้อครีมไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่แสบตา แล้วยังสามารถลงน้ำได้ทันทีไม่ต้องรอด้วย

กันแดด,ครีมกันแดด,ครีมกันแดดแบบกันน้ำ,ครีมกันแดด reef-safe

SPF 50 PA+++

ราคาเริ่มต้นที่ 329฿

Rereef (ข้อมูลผลิตภัณฑ์)

                    กันแดดสูตรน้ำแร่ สำหรับกิจกรรมทางทะเล และทุกๆวัน  กันน้ำ และไม่มีสารที่จะตกค้างเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตในทะเล รอแอคทีฟ 15 นาที หลังจากทา

กันแดด,ครีมกันแดด,ครีมกันแดดแบบกันน้ำ,ครีมกันแดด reef-safe

SPF 50 PA+++

ราคาเริ่มต้นที่ 349฿

เที่ยวกระบี่…เล่น Paddle Board ที่เขาขนาบน้ำ

                    เจ้า Stand Up Paddle Board นี้ก็เหมือนกับการเอาเซิร์ฟบอร์ดมาลอยบนน้ำนิ่ง แล้วเราก็ขึ้นไปยืนบนนั้น โดยใช้ไม้พายช่วยเคลื่อนที่ เล่นง่ายมากค่ะ เส้นทางจะเริ่มจากท่าน้ำลานปูดำ ไปที่เขาขนาบน้ำ ลงเที่ยวที่ถ้ำแล้วก็พาย Paddle Board กลับมาจุดเดิม

กระบี่,เที่ยวกระบี่,เขาขนาบน้ำ,paddle board,SUP

สิ่งที่ต้องเตรียม:

อุปกรณ์ชูชีพ– อุปกรณ์ทุกอย่างมีเตรียมไว้ให้โดยผู้ให้บริการค่ะ

เสื้อผ้า– ถึงจะบอกว่ากระดาน Paddle Board นั้นพลิกยากถ้าเราไม่เสียสมดุลจริงๆ แต่ก็เตรียมตัวตกน้ำไว้ดีกว่าค่ะ ควรเป็นเสื้อผ้าที่คล่องตัว ไม่หนาอมน้ำและแห้งง่าย มี UV Cut ด้วยก็จะดีมาก

อุปกรณ์กันแดด– นอกจากการทาครีมกันแดดชนิด reef-safe แล้ว อาจจะใส่แว่นตากันแดด หรือหมวกมีปีกร่วมด้วย กิจกรรมนี้ไม่ได้ผาดโผนแต่ต้องอยู่กลางเวิ้งแม่น้ำเป็นเวลานาน

เที่ยวกระบี่…ดำน้ำดูปะการังน้ำตื้น

                     กระบี่มีจุดแนะนำสำหรับลงไปดูปะการังหลายพื้นที่มากๆ และบางจุดก็ตื้นเพียงแค่เรามุดหน้าลงไปในน้ำทะเลเท่านั้นเอง ไม่ต้องถึงขนาดสน็อกเกิ้ลก็สามารถชมกลุ่มปะการังสวยๆได้

กระบี่,เที่ยวกระบี่,ปะการังน้ำตื้น

สิ่งที่ต้องเตรียม:

ครีมกันแดด– อย่าลืมเลือกครีมกันแดดชนิด reef-safe จะได้ไม่ไปทำร้ายธรรมชาติใต้น้ำสวยๆนะคะ

แว่นตาว่ายน้ำ– เนื่องจากเราไม่รู้ว่าจะได้เจอจุดชมปะการังเมื่อไหร่ จึงควรมีแว่นตาว่ายน้ำเก๋ๆสักอันติดกระเป๋าไว้เผื่อเจอกระแสน้ำไม่แรงเรือบางลำจะจอดให้ลงค่ะ เราเลยมีแว่นตาว่ายน้ำแฟชั่นที่เหมาะกับการถ่ายเซลฟี่ และครอบเลนส์กว้างเหมาะสำหรับชมทัศนียภาพมาแนะนำ

                      Speedo รุ่น AQUAPULSE MAX MIRROR                                   Copozz รุ่น Red Goggles

                                                  

                                              

                    มาถึงตรงนี้น่าจะได้แนวทางการ เที่ยวกระบี่ กันพอสมควรนะคะ สำหรับสาวๆสายแอดเวนเจอร์ กระบี่มีกิจกรรมหลากหลายให้เลือกทำจริงๆค่ะ และแต่ละจุดมีความสวยงามต่างกัน ไปเที่ยวที่สวยๆแล้วก็อย่าลืมช่วยกันรักษาให้พื้นที่คงความสวยงามไว้ด้วยนะคะ

                    สุดท้ายแล้ว สำหรับใครที่ไม่อยากวุ่นวายแบกกระเป๋าสัมภาระไปมา เรามีบริการขนส่งจาก

แอร์พอเทลมาแนะนำค่ะ

ราคาและเงื่อนไขการให้บริการ

700 บาท ต่อชิ้น น้ำหนัก  ไม่เกิน 25 กิโลกรัม

น้ำหนักส่วนเกินคิดเพิ่ม 50 ต่อกิโลกรัม

เพิ่ม 100 บาทต่อรายการ         เมื่อขนส่งในวันเสาร์
เพิ่ม 100 บาทต่อรายการ         หากให้ไปรับที่โรงแรม

ส่งกระเป๋าก่อนเวลา 12:00, รับกระเป๋าหลังเวลา (ในวันถัดไป)

*ราคานี้ไม่รวมอุปกรณ์กีฬา

*ให้บริการเฉพาะวันทำการเท่านั้น

จุดเด่น

เป็นวิธีจัดเวลาที่ดี ช่วยให้คุณจัดการแผนการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ใช้งานง่ายผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ

มั่นใจได้ 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายโดยปลอดภัย

ประกันความเสียหายสูงสุดที่มูลค่า 100,000 บาท

การตรวจสอบสถานะ และสอบถาม สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail

                     แอร์พอเทลล์จะทำการรับกระเป๋าสัมภาระของคุณจากจุดที่ต้องการไปส่งยังจุดหมายปลายทางที่กรุงเทพฯให้อย่างเรียบร้อย คุณสามารถเดินตัวปลิวไปสนามบิน หรือกลับไปรอรับกระเป๋าที่บ้านได้เลย

บริการขนส่งกระเป๋าของแอร์พอเทลล์ ใช้บริการอย่างไร?

วิธีที่สะดวกที่สุดคือการจองออนไลน์ที่เว็บไซต์ของแอร์พอเทลล์ https://app.airportels.asia/book

หรือ ติดต่อสตาฟฟ์ของแอร์พอเทลส์โดยตรงทางโทรศัพท์ หรือแอปพลิเคชั่นที่สะดวก มีสตาฟฟ์รอให้ความช่วยคุณตลอด 24 ชั่วโมงค่ะ

โทรศัพท์ : +66 6321-666-99

E-mail: [email protected]

ฝากกระเป๋าเชียงใหม่ แล้วไปตามรอยประวัติศาสตร์ กินข้าวร้านดัง

ฝากกระเป๋าเชียงใหม่ แล้วไปตามรอยประวัติศาสตร์ กินข้าวมันไก่ร้านดัง            

                 วันสุดท้ายแล้วของการมาทำงานที่เชียงใหม่ ต้องบินกลับเย็นนี้เลยหาข้อมูลว่าในตัวเมืองมีที่เที่ยวอะไรบ้างแล้วก็ที่เชียงใหม่ฝากกระเป๋าได้ที่ไหนบ้าง พอได้ข้อมูลที่เที่ยว ที่ ฝากกระเป๋าเชียงใหม่ แล้วก็เลยนั่งรถแดงไปฝากกระเป๋าที่สนามบินก่อนเลย ที่สนามบินเชียงใหม่มีที่ ฝากกระเป๋า เป็นล็อคเกอร์อยู่ชั้น 1 ทางเชื่อมระหว่างอาคารผู้โดยสารในประเทศ และต่างประเทศ อยู่ตรงไปรษณีย์ในสนามบินเลย ราคาวันละ 200บาท

ฝากกระเป๋าเชียงใหม่, สนามบินเชียงใหม่
ล็อคเกอร์ฝากกระเป๋าที่สนามบินเชียงใหม่ ถ่ายโดยคุณMaeyingyae

ฝากกระเป๋าเชียงใหม่, อนุสาวรีย์สามกษัตริย์, เชียงใหม่
อนุสาวรีย์สามกษัตริย์

                 ถ้าที่สนามบินเต็มด้านนอกก็จะมีร้านรับฝาก หรือที่เซ็นทรัลก็มีร้านรับฝากกระเป๋าเหมือนกันนะ หรือถ้าเดินทางโดยรถไฟ ที่สถานีรถไฟเชียงใหม่ก็มีที่ฝากกระเป๋าอยู่ในสถานีเป็นของเอกชน และรถทัวร์ ที่สถานีขนส่งเชียงใหม่ (อาเขต) ที่ฝากจะอยู่ทางที่จะไปขึ้นรถทัวร์ หลังจากฝากกระเป๋าก็ตัวปลิวพร้อมเที่ยว โบกรถแดงหน้าสนามบินนั้นแหละบอกเขาว่าไป อนุสาวรีย์สามกษัตริย์ กษัตริย์ทั้งสามพระองค์นี้ถือได้ว่าเป็นผู้สร้างอาณาจักรล้านนา และนพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่ให้มีความเจริญรุ่งเรืองมากว่า 700 ปี นับว่าเป็นองค์อนุสาวรีย์ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร
                 อนุสาวรีย์สามกษัตริย์สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่กษัตริย์ทั้งสามพระองค์ เมื่อครั้งหาชัยภูมิในการสร้างนพบุรีศรีนครพิงค์ราชธานีแห่งอาณาจักรล้านนา พญามังรายมหาราช กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา กับสองพระสหายพ่อขุนรามคำแหง มหาราชกษัตริย์แห่งกรุงสุโขทัย และพญางำเมือง กษัตริย์แห่งภูกามยาว ทั้งสามพระองค์ได้ดื่มน้ำสาบานบริเวณแม่น้ำอิง ว่าจะไม่รุกรานเมืองต่อกัน องค์สามกษัตริย์หล่อด้วยทองแดงและทองเหลืองรมดำมีขนาดเท่าครึ่งของพระองค์จริง เป็นที่เคารพสักการะของชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวทัวไป

                 และถ้าเดินมาทางซ้ายของอนุสาวรีย์จะพบกับวิหารตั้งอยู่ริมถนน คือวัดอินทขีลสะดือเมือง ที่เรียกว่าสะดือเมืองเพราะตั้งอยู่ใจกลางเมืองเชียงใหม่ และจะเห็นว่าวิหารนั้นสร้างออกไปกลางถนนเล็กน้อย ที่จริงนั้นเดิมทีถนนไม่ได้ผ่านบริเวณนี้ แต่พอวัดร้างไปทางราชการจึงสร้างถนนผ่านวัดแห่งนี้จึงไม่มีรั้วรอบกำหนดขอบเขตให้เห็นอย่างชัดเจน หลังจากไหว้พระถ่ายรูปเสร็จ เดินตามถนนถัดจากวัดจะมีร้านอาหารให้เลือกทานมื้อกลางวันหลายร้านเลย ร้านดังตรงนั้นคือข้าวมันไก่กฤษโอชา หลังจากกินอะไรเรียบร้อยแล้วก็ข้ามถนนมาฝั่งตรงข้ามคือหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ จะบอกเล่าประวัติศาสตร์ตั้งแต่ก็เป็นเมืองเชียงใหม่ จนถึงเชียงใหม่ในปัจจุบัน

ฝากกระเป๋าเชียงใหม่, เชียงใหม่, วัดอินทขีลสะดือเมือง
วัดอินทขีลสะดือเมือง

ก่อนกลับมาสักการะพระพุทธสิหิงค์ ที่วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เดินมาจากหอประวัติศาสตร์เมืองเชียงใหม่ประมาณ 500เมตรมีงานศิลปะที่น่าสนใจแล้วถ้ามาช่วงเย็นๆหน่อยแสงจะเหมาะกับการถ่ายรูปมาก วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร ได้รับการประกาศเป็นโบราณสถานสำหรับชาติ  เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2478  วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นเอก วัดพระสิงห์ฯ เป็นวัดสำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ เป็นประดิษฐานพระสิงห์ (พระพุทธสิหิงค์) พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองเชียงใหม่และแผ่นดินล้านนา พระพุทธรูปเป็นศิลปะเชียงแสนรู้จักกันในชื่อ “เชียงแสนสิงห์หนึ่ง” หลังจากไหว้พระแล้วก็ได้เวลากลับบ้าน นั่งรถแดงจากหน้าวัดพระสิงห์ไปที่สนามบิน เอากระเป๋าที่ฝากไว้

ฝากกระเป๋าเชียงใหม่, เชียงใหม่, วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร, พระพุทธสิหิงค์
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

แต่เดี๋ยวก่อนตอนนี้ถ้าใครอยากสบายกว่านั้นแบบไม่ต้องฝากกระเป๋าเลย แอร์พอเทลล์ เรามีบริการรับกระเป๋าจากโรงแรมที่เชียงใหม่ไปส่งถึงบ้านที่กรุงเทพ หรือจากกรุงเทพไปส่งถึงโรงแรมที่เชียงใหม่ก็ทำได้เช่นกัน ราคาเริ่มต้น ที่ 700บาท แบบวันเดียวถึงเลยก็มีนะ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

WeChat: AIRPORTELs

Kakao Talk: AIRPORTELs

Facebook: www.facebook.com/airportels

หรือ Comment ที่ข้างล่างนี้ก็ได้นะ

 

https://th.airportels.asia/uncategorized-th/luggage-storage-price-and-promotion

อยากแวะวางสัมภาระแล้วเดินเล่นเมืองหาดใหญ่…ฝากกระเป๋าสัมภาระได้ที่ไหนได้บ้าง??

https://pantip.com/topic/37342714

ฝากกระเป๋าในอุดร…ให้อุ่นใจ ก่อนแวะเที่ยวในเมืองแบบ One day trip

เหนื่อยไหม? ที่อยากเที่ยวในเมืองอุดรฯ แต่ต้องแบกสัมภาระใบใหญ่ไปไหนมาไหนตลอดเวลา…เรามีจุด ฝากกระเป๋าในอุดร เป็นทางออก…

ก่อนอื่นขอแนะนำจังหวัดอุดรธานีคร่าวๆ นะคะ “อุดรธานี” ตั้งอยู่ตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศไทย เป็นศูนย์กลางหน่วยงานราชการต่างๆ ในภูมิภาค รวมถึงเป็นศูนย์กลางการเดินทางทั้งทางบกและทางอากาศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวในจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อไม่ให้การท่องเที่ยวเกิดความลำบาก ตัดปัญหาเรื่องสัมภาระที่ยังไม่ต้องการใช้งาน เราจึงรวบรวมจุดรับฝากกระเป๋าสัมภาระทั้งในสนามบินและขนส่งจังหวัดอุดรธานี ไว้อำนวยความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวที่จะแวะพักผ่อนในอุดรธานีก่อนเดินทางต่อ

ไม่ว่าเพื่อนๆ จะกลับจากนครพนม, หนองคาย หรือสปป.ลาว แล้วมาขึ้นรถที่อุดรธานี เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว เราขอเสนอแผนการท่องเที่ยวแบบ One day trip in Udon Thani แต่ก่อนอื่นเราไป ฝากกระเป๋าในอุดร กันก่อนนะคะ

จุดรับฝากสัมภาระที่สนามบินอุดรธานี

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
บริการรับฝากรถและสัมภาระ ของหจก.อุดรแก้วทัวร์ (Limousine Service)

จุดรับฝากสัมภาระที่ขนส่งอุดรธานี

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
บริการรับฝากสัมภาระที่ขนส่งอุดรธานี

จุดรับฝากสัมภาระที่ขนส่งอุดรธานี ตั้งอยู่ตรงข้ามประชาสัมพันธ์ของขนส่ง เปิดทุกวัน 07.00 – 21.00 น. ไม่มีวันหยุด โดยคิดบริการตามขนาด ขนาดเล็ก 20 บาท กลาง 30 บาท ใหญ่ 40 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร.085-683-0700 หรือทางเฟซบุ๊ก ในเพจ บริการรับฝากกระเป๋าและสัมภาระ

เมื่อ ฝากกระเป๋าในอุดร เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มเดินทางได้เลย…!

ถ้าเริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินอุดรธานี ให้เพื่อนๆ เดินมารอรถสองแถวสาย 15 หน้าสนามบิน หรือถ้าเริ่มเดินทางจากขนส่ง ให้เดินออกมารอรถตรงถนนใหญ่ด้านหน้า ขึ้นรถสองแถวสาย 15 เช่นกัน จุดมุ่งหมายแรกของเราคือ มูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
รถสองแถวสาย 15

ถึงแล้ววว สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่เราขอแนะนำ นั่นคือ มูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี ตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟใกล้ตลาดหนองบัว เป็นศาลเจ้าจีนที่มีความใหญ่โตและสวยงาม มีศาลาริมน้ำ 2 หลัง และมีสวนหย่อมริมหนองบัว บรรยากาศร่มรื่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุข เบื้องหน้าศาลไม่มีสิ่งกีดขวาง เป็นสัญลักษณ์ความเจริญรุ่งเรืองของชาวอุดรธานี เปิดให้เข้ากราบไหว้สักการะทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
ด้านหน้าของศาลเจ้า

เคล็ดลับการกราบไหว้ขอพร  นอกจากการกราบไหว้ด้วยธูป 30 ดอก ต้องถวายส้ม 4 ลูก พอกราบไหว้ครบทั้ง 6 จุดแล้ว ให้เดินไปที่สะพานเก้าเลี้ยวเชื่อกันว่าเป็นจุดเชื่อมต่อสวรรค์ และรับรู้ว่าขอพรอะไรไป เสร็จแล้วให้มากราบลาศาลปู่-ย่า พร้อมเอาส้มกลับมา 2 ลูก

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
รูปปั้นจำลองภายในศาลเจ้าปู่-ย่า

หลังจากกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลเจ้าปู่-ย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็นั่งรถสองแถวสาย 15 ไปต่อกันที่หนองประจักษ์ สถานที่สุดชิคที่ใครมาถึงอุดรธานีก็ต้องมาเช็กอิน

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
เป็ดเหลืองยักษ์ ซึ่งเป็นจุดแลนด์มาร์กของจังหวัดอุดรธานี

สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อหนองประจักษ์ เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ มีเกาะกลางน้ำ มีไฮไลต์สำคัญคือเป็ดยักษ์สีเหลืองที่ลอยเด่นอยู่กลางหนองน้ำ ใครไม่ได้มาถ่ายรูปด้วยบอกเลยว่าพลาดมาก นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมกิจกรรมต่างๆ ของชาวอุดรฯ อาทิ ออกกำลังกาย เล่นกีฬา และมีสนามเด็กเล่นเอาใจน้องๆ หนูๆ ถือเป็นแลนด์มาร์กของชาวอุดรธานีเลยก็ว่าได้ เปิดทุกวัน เวลา 04.00-20.00 น.

เมื่อแวะเดินเล่น ถ่ายรูปกับเจ้าเป็ดน้อยเสร็จแล้ว ไม่รอช้า ขึ้นรถสองแถวสาย 15 ที่เราคุ้นเคยไปยังจุดหมายต่อไปคือ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี

พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี (Udon Thani Museum) ตั้งอยู่ตรงข้ามวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี ติดกับสำนักงานที่ดินอุดรธานี ด้านหลังติดหนองประจักษ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุดรธานี เพราะที่นี่ได้รวบรวมประวัติความเป็นมา เรื่องราวและเหตุการณ์สำคัญที่ทรงคุณค่า อาทิ เรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดอุดรธานี ทั้งประวัติศาสตร์ โบราณคดี ธรรมชาติวิทยา ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และศิลปวัฒนธรรม  รวมถึงพระประวัติและพระเกียรติคุณของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี เป็นต้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ ถือเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงจังหวัดนี้

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
ภายนอกของอาคารพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
ตัวอย่างโบราณวัตถุ – เครื่องปั้นดินเผาบ้านเชียง

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
ข้อมูลทั่วไปของการเข้าชมพิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี http://www.museumthailand.com/th/museum/Udon-Thani-Museum

ก่อนจบ One day trip ของเรานะคะ เราจะพาไปแวะทานอาหารและซื้อของฝากที่ วีที แหนมเนือง อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดอุดรธานี เมนูที่ห้ามพลาดเลยคือ แหนมเนือง, กระยอสด และกุ้งพันอ้อย และที่พิเศษคือ ที่นี่มี Drive Thru ด้วย สะดวกมากๆ เลย สามารถดูรูปเพิ่มเติมและสอบถามข้อมูลได้ที่ http://vtnamnueng.net/

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
ด้านหน้าของร้านวีที แหนมเนือง

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
ภายในร้านวีที แหนมเนือง

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
โซนร้านอาหารในร้านวีที แหนมเนือง

หลังจากอิ่มท้องจากร้านวีที แหนมเนือง และอิ่มใจจากการท่องเที่ยวในเมืองอุดรฯ แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกลับกันสักที แต่อย่าลืม!!! ไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ที่จุด ฝากกระเป๋าในอุดร ด้วยนะคะ…

หรือถ้าต้องการความสะดวกสบายในการท่องเที่ยวถึงขั้นขีดสุด เราขอเสนอบริการขนส่งสัมภาระโดยบริษัท AIRPORTELs ซึ่งจะช่วยส่งสัมภาระไปยังปลายทางโดยที่เพื่อนๆ ไม่ต้องเหนื่อยอีกต่อไปฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร

ราคาและเงื่อนไขการให้บริการ

  • 700 บาท/ชิ้น
    น้ำหนักไม่เกิน 25 กิโลกรัม
  • เพิ่ม 50 บาท/กิโลกรัม
    เมื่อน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัม
  • เพิ่ม 100 บาท/รายการ เมื่อขนส่งในวันเสาร์
  • เพิ่ม 100 บาท/รายการ หากให้ไปรับที่โรงแรม
    ส่งกระเป๋าก่อนเวลา 12:00 น., รับกระเป๋าหลังเวลา (ในวันถัดไป)

    *ราคานี้ไม่รวมอุปกรณ์กีฬา
    *ให้บริการเฉพาะวันทำการเท่านั้น

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิและโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานครและบริเวณภูเก็ต


บริการขนส่งกระเป๋าของแอร์พอเทลล์ ใช้บริการอย่างไร?

ทำได้ง่ายๆ เพียงจองออนไลน์ที่เว็บไซต์ของแอร์พอเทลล์ https://www.airportels.asia/

โดยเลือกที่การบริการ Nationwide Delivery จากนั้นเลือกจุดส่งกระเป๋า(A) และจุดปลายทาง(B)

ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากสัมภาระอุดร, สนามบินอุดรธานี, ฝากกระเป๋าในอุดร, ฝากกระเป๋าสัมภาระ, ฝากของอุดร, เที่ยวอุดร
เมื่อถึงเวลา จะมีพนักงานมารับกระเป๋าสัมภาระไปส่งยังจุดหมายปลายทาง เป็นไงคะ? สะดวกสบายมากๆ เลยใช่ไหม?

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการขนส่งกระเป๋าของ AIRPORTELs กรุณาติดต่อเราที่

  • เคาน์เตอร์สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นใต้ดิน ใกล้กับ Airport Link
  • เคาน์เตอร์สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสาร 2
  • MBK เซนเตอร์ ชั้น6 โซน B
  • เทอร์มินอล 21 อโศก ชั้น 1 โซนญี่ปุ่น
  • เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซน Groove (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)
  • เซ็นทรัลภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้น G (ตรงข้าม Tourist Lounge)
  • เทอร์มินอล 21 พัทยา ชั้น 2 โซนญี่ปุ่น
  • เซ็นทรัลป่าตอง ภูเก็ต ชั้น 1 โซนบริการ
  • สนามบินภูเก็ต

หมายเลขโทรศัพท์: +66 6321-666-99
Website:  https://www.airportels.asia
E-mail: [email protected]
Facebook: www.facebook.com/airportels
Line/WeChat/KakaoTalk: @AIRPORTELs

ฝากกระเป๋าในภูเก็ต แล้วไปตะลอนกินของเด็ด ที่คนภูเก็ตคอนเฟิร์ม!

ฝากกระเป๋าในภูเก็ต ให้เสร็จก่อนนะ แล้วไปหาอะไรกินกัน…

เมื่อมาถึงจังหวัดภูเก็ต สิ่งแรกที่คิดถึงก่อนออกเดินทางไปท่องเที่ยว คือ การหาของอร่อยๆ ลงท้อง และวันนี้เราขอเสนอ 10 เมนูที่คนภูเก็ตแนะนำว่าเด็ด ถ้าไปภูเก็ตแล้วไม่ได้ลองชิมเมนูเหล่านี้ถือว่ายังมาไม่ถึง!!!

แต่ก่อนที่จะไปตะลอนกินกัน เราไป ฝากกระเป๋าในภูเก็ต กันก่อนนะคะ จุด ฝากกระเป๋าในภูเก็ต ที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตมีถึง 2 จุดด้วยกัน ซึ่งทั้ง 2 จุดเป็นบริการของท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ตฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

จุดรับฝากกระเป๋า อาคารผู้โดยสารระหว่างประเทศ ภาพจาก Klook

อัตราค่าบริการ 100 บาท/ใบ/วัน
สอบถามเพิ่มเติม คลิกที่นี่

นอกจากนี้ ยังมีจุด ฝากกระเป๋าในภูเก็ต ที่ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า และเซ็นทรัล ป่าตอง ภูเก็ต โดยบริษัท AIRPORTELs ให้บริการรับฝากกระเป๋า รวมถึงขนส่งกระเป๋าสัมภาระไปยังจุดหมายที่ท่านต้องการ

  • AIRPORTELs ในเซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ตั้งอยู่ชั้น G (ตรงข้ามกับ Tourist Lounge)ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

ราคา 100 บาท/ใบ/วัน (ฟรี 2 ชั่วโมงแรก)
เวลาทำการ 10.30 – 22.00 น.
โทร.+666-321-666-55, +669-890-888-89

  • AIRPORTELs ในเซ็นทรัล ป่าตอง ภูเก็ต ตั้งอยู่ชั้น 1 (Service Zone)ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

ราคา 100 บาท/ใบ/วัน (ฟรี 2 ชั่วโมงแรก)
เวลาทำการ 10.30 – 22.30 น.
โทร.+666-321-666-55, +669-890-888-89

รายละเอียดการให้บริการของ AIRPORTELs

  • บริการขนส่งกระเป๋าจากโรงแรมในตัวเมืองภูเก็ต ไปยังสนามบินนานาชาติภูเก็ต
  • บริการขนส่งกระเป๋าภายในตัวเมืองภูเก็ต
  • บริการขนส่งกระเป๋าถึงหน้าบ้านของคุณในวันถัดไป
  • ใช้งานง่ายผ่านการระบบการจองแบบออนไลน์
  • การันตีการขนส่งกระเป๋าถึงปลายทาง 100%
  • พร้อมประกันภัยกระเป๋ามูลค่าสูงถึง 100,000 บาท
  • ระบบการแจ้งเตือนสถานะการขนส่งทาง Facebook, WeChat, Kakaotalk, E-mail
  • ราคาเริ่มต้น 400 บาท สำหรับการใช้บริการขนส่งกระเป๋าภายในตัวเมืองภูเก็ต ไม่จำกัดขนาด น้ำหนักกระเป๋า หรือระยะทาง
  • ราคาเริ่มต้น 850 บาท สำหรับการใช้บริการขนส่งไปยังพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทย จำกัดน้ำหนักกระเป๋าที่ 25 กิโลกรัม
  • ระบบการจองออนไลน์ สามารถจองได้ผ่านทาง https://app.airportels.asia/book หรือติดต่อพนักงานของเราผ่านทาง E-mail, Messenger หรือทางไลน์ โดยจะต้องทำการจองล่วงหน้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนเวลาที่ต้องการใช้บริการ

เอาล่ะ ฝากกระเป๋าในภูเก็ต เสร็จแล้ว เราไปเริ่มตะลอนกินกันเลยดีกว่า…อาหารที่จะแนะนำมีทั้งของคาว ของหวาน และของที่เหมาะแก่การซื้อเป็นของฝาก ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!

1.หมี่หุ้นแกงปูใบชะพลู

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

แกงปูใบชะพลู หรือน้ำยาปู คล้ายกับน้ำยาที่ทานกับขนมจีน มีส่วนผสมของเครื่องพริกแกง กะปิ กะทิ และขมิ้น แกงจึงมีสีเหลืองสวย มีรสชาติเผ็ด เค็ม เข้มข้นตามแบบฉบับอาหารใต้ ทางใต้มีอาหารทะเลเยอะเลยใช้เนื้อปูมาประกอบอาหาร ทานคู่กับเส้นหมี่ขาว หรือที่คนภูเก็ตนิยมเรียกว่า หมี่หุ้น โรยด้วยกระเทียมเจียว อร่อยอย่าบอกใคร

ร้านแนะนำ: ร้านครัวระย้า, ร้านชมจันทร์, ร้านหลังคาสังกะสี

 

2.หมูฮ้อง

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

หมูฮ้อง หรือหมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว มีลักษณะคล้ายหมูพะโล้ แต่รสชาติไม่เหมือนกัน ทำมาจากหมูสามชั้นหมักกับสมุนไพร ได้แก่ พริกไทยขาว หอมแดง กระเทียม และอบเชย ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ซีอิ๊วขาว ช่วยเพิ่มรสชาติ และซีอิ๊วดำ ช่วยเพิ่มสีสันให้หมูฮ้องของเรา ผัดและตุ๋นไปเรื่อยๆ จนหมูเปื่อย ทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ร้านแนะนำ: ร้านตู้กับข้าว, ร้านวันจันทร์, ร้านมะลิ อาหารพื้นเมืองภูเก็ต

 

3.โลบะ

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

โลบะ คือ ส่วนต่างๆ จากหมู เช่น เนื้อหมู หัวหมู เครื่องในหมู นำไปต้มกับเครื่องพะโล้ ก่อนนำไปลวกด้วยน้ำผสมซีอิ๊วดำ แล้วจึงนำไปทอดให้ผิวด้านนอกกรอบ ทานกับน้ำจิ้มหวานอมเปรี้ยว ซึ่งทำจากมะขามเปียก น้ำตาล และพริกป่น คนภูเก็ตนิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง

ร้านแนะนำ: ร้านโลบะ บางเหนียว, ร้านโลบะแม่ย่านาง

 

4.โอวต้าว

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

โอวต้าว มีลักษณะคล้ายหอยทอดในภาคกลาง แต่เนื้อแป้งมีความเหนียวนุ่มกว่า มีส่วนผสมของหอยนางรมตัวเล็กๆ (ชาวภูเก็ตเรียกหอยติบ) ไข่ เผือกนึ่ง มีถั่วงอกเป็นผักเคียง โรยด้วยกากหมู กุ้งแห้ง หอมแดงเจียว เสิร์ฟคู่กับซอสพริก มีรสชาติจัดจ้าน

ร้านแนะนำ: ร้านโอวต้าว บางเหนียว, ร้านโอวต้าวจี้เปี่ยน, ร้านโอวต้าว สี่แยกจุ๊ยตุ่ย

 

5.ฮูแช้

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

ฮูแช้ หรือบางคนอาจเรียกว่าสลัดผักภูเก็ต เพราะมีหน้าตาคล้ายสลัดผัก ประกอบด้วยผักกาดหอม แครอทซอย มันแกวซอย แตงกวาหั่นซอย เมล็ดข้าวโพดต้มสุก เต้าหู้เหลืองทอดหั่นซอย ไข่ต้ม หมี่กรอบ แต่แท้จริงแล้วฮูแช้ในสมัยก่อนต้องมีผักบุ้งลวกและถั่วงอกลวกด้วย ทานคู่กับน้ำจิ้มพริกแห้ง โรยด้วยถั่วลิสงและงาขาวคั่ว

ร้านแนะนำ: ร้านหมี่สะปำ คุณยายเจียร

 

6.โอเอ๋ว

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

โอเอ๋ว เป็นขนมท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต มีลักษณะเป็นวุ้นใส แตกต่างจากวุ้นทั่วไปเพราะทำจากสมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นเมล็ดเล็กๆ สีน้ำตาล แก้ร้อนใน ส่วนผสมหลักๆ ของการทำโอเอ๋ว คือ เมล็ดโอเอ๋ว กล้วย และเจี๊ยะกอ ทานคู่กับน้ำแข็งไส ราดน้ำเชื่อมหรือน้ำหวานสีแดง เพิ่มเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ถั่วแดงต้ม วุ้นดำ (เฉาก๊วย) แตงโม กล้วย เป็นเมนูช่วยดับร้อนชั้นดี

ร้านแนะนำ: ร้านโอเอ๋วบ้านโกโรจน์, ร้านโอเอ๋ว หล่อโรง ตลาดฉำฉ่า, ร้านลกเที้ยน

 

7.เต้าส้อ

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

หลายคนชอบคิดว่าขนมเต้าส้อกับขนมเปี๊ยะคือขนมชนิดเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ ขนมเต้าส้อจะมีขนาดใหญ่กว่า มีเปลือกกรอบ ร่วนซุยกว่าขนมเปี๊ยะ เนื่องจากต้องอบหรือย่างไฟทั้ง 2 ด้าน มีไส้หวานกับไส้เค็ม ซื้อไปทานเล่นก็ได้ หรือซื้อเป็นของฝากก็ดี

ร้านแนะนำ: ร้านบ้านปิยวรรณ, ร้านเต้าส้อ แม่บุญธรรม

 

8.อาโป้ง

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

อาโป้ง หรือขนมเบื้องมาเลเซีย มีลักษณะคล้ายขนมถังแตก ทำจากแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย ไข่ไก่ (เอาแต่ไข่แดง) น้ำกะทิ ผสมให้เข้ากัน กลิ้งน้ำแป้งเป็นแผ่นกลมให้ทั่วกระทะ พอเหลืองก็ลอกแล้วม้วนออกมาทิ้งไว้ จะกรอบนอกนุ่มใน นิยมรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟ

ร้านแนะนำ: ร้านอาโป้งแม่สุณี, ร้านอาโป้ง โกเนี้ยว เจ้าเก่า

 

9.บี้ผ้าง

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

ขนมบี้ผ้าง เป็นขนมท้องถิ่นของภูเก็ตที่มีมานาน ลักษณะเป็นข้าวพอง (ข้าวเหนียว) ทอดกรอบ ตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ราดด้วยน้ำตาลเคี่ยวรสชาติหวานเค็ม กลมกล่อม คล้ายข้าวตัง มีกลิ่นหอมจากหอมเจียว เหมาะเป็นของว่างที่ทานคู่กับเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นสักแก้ว รับประทานได้ง่าย เก็บได้นาน

ร้านแนะนำ: ร้านขายของฝากทั่วไป

 

10.ปุ้ยควาย

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

ขนมปุ้ยควาย หรือขนมหัวใจงาขาว เป็นขนมสมัยโบราณ ทำจากแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล อบพร้อมงาขาว รสสัมผัสนุ่มหนึบ รสชาติหวาน กลิ่นหอม อร่อย รับประทานเป็นของว่าง คู่กับชา กาแฟ

ร้านแนะนำ: ร้านเค่งติ้น

 

เป็นไงกันบ้างคะ อาหารพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ตที่นำมาฝาก น่าทานมากๆ เลยใช่ไหม? ถ้าใครมาเที่ยวภูเก็ตก็อย่าลืมแวะตะลอนชิมตามรอยบทความของเรานะคะ และเพื่อความสะดวกสบาย แนะนำให้ ฝากกระเป๋าในภูเก็ต กับ AIRPORTELs ด้วยน้า

 

บริการขนส่งกระเป๋าของ AIRPORTELs ใช้บริการอย่างไร?

วิธีที่สะดวกที่สุดคือการจองออนไลน์ที่เว็บไซต์ของแอร์พอเทลล์ https://www.airportels.asia/

โดยเลือกที่การบริการ Nationwide Delivery จากนั้นเลือกจุดส่งกระเป๋า(A) และจุดปลายทาง (B)ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

หลังจากทำการจองเรียบร้อยแล้ว จะมีพนักงานมารับกระเป๋าสัมภาระไปส่งยังปลายทางให้อย่างเรียบร้อย สบายใจหายห่วงได้เลยค่ะ

 

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการขนส่งกระเป๋าของ AIRPORTELs กรุณาติดต่อเราที่

– เคาน์เตอร์สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นใต้ดิน ใกล้กับ Airport Link

– เคาน์เตอร์สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสาร 2

– MBK เซนเตอร์ ชั้น6 โซน B

– เทอร์มินอล 21 อโศก ชั้น 1 โซนญี่ปุ่น

– เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซน Groove (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

– เซ็นทรัลภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้น G (ตรงข้าม Tourist Lounge)

– เทอร์มินอล 21 พัทยา ชั้น 2 โซนญี่ปุ่น

– เซ็นทรัลป่าตอง ภูเก็ต ชั้น 1 โซนบริการ

– สนามบินนานาชาติภูเก็ต

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 6321-666-99
Website: https://www.airportels.asia 
E-mail: [email protected]
Line: @AIRPORTELs
WeChat: AIRPORTELs
Kakao Talk: AIRPORTELs
Facebook: www.facebook.com/airportels

17 ที่เที่ยวหน้าฝน สัมผัสกลิ่นไอดิน ละอองฝนชุ่มฉ่ำ อัปเดต 2023

หน้าฝนเที่ยวไหนดี? แจกที่เที่ยวหน้าฝน เอาใจนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ พร้อมรับบรรยากาศดีๆ เมื่อเอ่ยถึงหน้าฝน หลายๆ คน ก็คงจะนึกถึง ดอย อุทยาน น้ำตก เพราะฉะนั้นหากใครต้องการพักผ่อน ต้องตามไปปักหมุดกับ 17 ที่เที่ยวหน้าฝน สัมผัสกลิ่นไอดิน เลือกเที่ยวได้ตามสไตล์ เอาใจครอบครัว เพื่อน และคนรัก อัปเดตใหม่ปี 2023

เที่ยวดอยหน้าฝน ชมวิวทะเลหมอก

เที่ยวดอยหน้าฝน ชมวิวทะเลหมอก

เที่ยวดอยหน้าฝน สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ ชมวิวทะเลหมอกกันแบบเต็มอิ่ม ซึมซับบรรยากาศจัดเต็ม ไปดูกันเลย

1. ดอยหลวงเชียงดาว เชียงใหม่

หลวงเชียงดาว จุดชมวิวทะเลหมอกสูงสุดถึง 2,225 เมตร ชมวิวหลักล้าน นอนกางเต็นท์แบบชิลๆ กับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก ก็ฟินไม่แพ้กัน

  • ที่อยู่: อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/DQq93hxYsXp9wDrQA
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท 
  • เวลาปิด – เปิด: 08.00 – 16.00 น.
ดอยอ่างขาง เชียงใหม่

2. ดอยอ่างขาง เชียงใหม่

ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติสวยๆ เหมาะแก่การเที่ยวหน้าฝน เพราะจะได้พบกับทะเลหมอกที่มีลักษณะคล้ายปุยนุ่นล่องลอยไปมา แถมบรรยากาศเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว โรแมนติกสุดๆ 

  • ที่อยู่: ถนนเชียงใหม่ – ฝาง แม่งอน บ้านฝาง เชียงใหม่
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/7dC7qKfH3hCFCtTVA
  • อัตราค่าเข้า: –
  • เวลาปิด – เปิด: 08.00 – 18.00 น. 

3. ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่

ดอยอินทนนท์ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเชียงใหม่ที่ไม่ควรพลาด ดอยมีจุดชมวิวเยอะมาก ดูทะเลหมอกได้เต็มอิ่ม และมีพื้นที่กว้างสุดๆ เป็นที่เที่ยวหน้าฝน โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติเขียวขจี แบบจัดเต็มสุด ๆ

  • ที่อยู่: อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/dJxqyNHzLWE3BFqp8
  • อัตราค่าเข้า: เด็ก 30 บาท  ผู้ใหญ่ 60 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 06:00 น. – 18:00 น.
เดินอุทยานหน้าฝน ท่ามกลางธรรมชาติ เน้นกิจกรรม

เดินอุทยานหน้าฝน ท่ามกลางธรรมชาติ เน้นกิจกรรม

ที่เที่ยวหน้าฝน สำหรับสายเดินอุทยาน ชมธรรมชาติ สัมผัสอากาศชื้นฉ่ำๆ สูดกลิ่นไอดิน กลิ่นไอต้นไม้ใบหญ้าเข้าเต็มปอด และมีกิจกรรมอีกมากมายให้ได้ทำร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลยดีกว่า 

4. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติสวยงาม สัมผัสกับทะเลหมอก ผสมผสานธรรมชาติสีเขียวขจี และสัตว์ป่าอีกหลายชนิด พร้อมสถานที่กางเต็นท์ สำหรับสายแคมปิ้งอีกด้วย

  • ที่อยู่: ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/pUJCaGbQ2hJQZT8e8
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 06.00 – 18.00 น.

5. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พิษณุโลก

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวฤดูฝน ที่สามารถเดินชมธรรมชาติ มองดูความเขียวขจี ฉ่ำๆ ต้นไม้และมอส ตัดกับแนวพื้นดินพื้นหิน รับรองว่าถ่ายรูปออกมาสวย ได้ลงโซเชียลอวดเพื่อนแน่นอน

  • ที่อยู่: 125 หมู่ 10 ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
  • พิกัด:  https://goo.gl/maps/zzmgQPuYJxVtMZ4c6
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 40 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 08.00 – 16.00 น.
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพชรบูรณ์

6. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพชรบูรณ์

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว มีเทือกเขาสูง อุดมสมบูรณ์ ทิวทัศน์สวยงาม เหมาะแก่การไปเที่ยวหน้าฝน รับรองได้ว่าใครได้ไปเยือน จะต้องปลื้มใจอย่างแน่นอน

  • ที่อยู่: ตำบลน้ำหนาว อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/3kB2HFxiv7KQfAqw9
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 8:00 – 16:30 น.

7. อุทยานแห่งชาติปางสีดา สระแก้ว

อุทยานแห่งชาติปางสีดา เป็นสถานที่ที่ให้นักท่องเที่ยวมาดื่มด่ำกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์แบบจัดเต็ม เข้าไปชมสัตว์ป่าได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กระทิง หมูป่า ช้างป่า กวาง เก้ง และกิจกรรมไฮไลต์ ที่ไม่ควรพลาด ก็คือ กิจกรรมดูผีเสื้อ ตอบโจทย์การเที่ยวหน้าฝนแบบสุดๆ มีผีเสื้อมารวมตัวกันมากกว่า 350 ชนิดกันเลยทีเดียว

  • ที่อยู่: ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/YCwiSfKpLbQoGMfb7
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 08.00-17.00 น.

8. อุทยานแห่งชาติแม่ยม แพร่

อุทยานแห่งชาติแม่ยม ที่เที่ยวหน้าฝนสุดยอดฮิตของจังหวัดแพร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยป่าสักที่อุดมสมบูรณ์ยิ่งในภาคเหนือ  นักท่องเที่ยวมักแห่กันไปชมดอกสัก ที่ผลิบานในช่วงหน้าฝน แถมยังมีกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ล่องแก่ง ปีนเขา แคมป์ปิ้ง เป็นต้น

  • ที่อยู่: ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/iPhXPVsmvuEHoBmL6
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 09.00 – 17.00 น.
อุทยานแห่งชาติภูซาง พะเยา

9. อุทยานแห่งชาติภูซาง พะเยา

อุทยานแห่งชาติภูซาง เต็มไปด้วยสัตว์ป่า และป่าไม้ พร้อมให้ฟีลพักผ่อนที่เงียบสงบ เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียวขจี และไม่ควรพลาดไปเช็กอิน ที่น้ำตกภูซาง ยิ่งถ้าหากได้ลงไปแช่น้ำ รับรองว่าผ่อนคลาย ฟินสุดๆ 

  • ที่อยู่: ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/DZGRQRm8Rq8d7349A
  • อัตราค่าเข้า: 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 06.00 – 17.00 น.

10. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เพชรบูรณ์

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่า และพันธุ์ไม้ นานาชนิด เงียบสงบ ยิ่งช่วงหน้าฝนยิ่งบรรยากาศดี เหมาะแก่การพาครอบครัว แฟน และเพื่อน ไปท่องเที่ยวพักผ่อนสุดๆ 

  • ที่อยู่: หนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/rcd7pSmMXWKkjQmt6
  • อัตราค่าเข้า: 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 24 ชั่วโมง

11. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ชัยภูมิ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม นักท่องเที่ยวหรือคนท้องถิ่นมักจะไปชมทุ่งดอกกระเจียวที่กำลังผลิบาน สีโดดเด่นชมพูอมม่วง ตัดกับพื้นหญ้าสีเขียวได้ดี พร้อมกับสัมผัสพื้นป่า สบายตาสุดๆ สดชื่นไปกับไอหมอก และสายฝน แบบฟินๆ สายแชะต้องเตรียมกล้องถ่ายรูป รับรองว่าได้ภาพสวยๆ อัปลงโซเชียลแน่นอน

  • ที่อยู่: ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/y4FbGUcczRpL3PFs6
  • อัตราค่าเข้า: ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 6:00–18:00 น.
เล่นน้ำตกหน้าฝน ชุ่มฉ่ำ น้ำเย็นสะใจ

เล่นน้ำตกหน้าฝน ชุ่มฉ่ำ น้ำเย็นสะใจ

เมื่อถึงหน้าฝนแล้ว ที่เที่ยวฤดูฝนที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ น้ำตก เพราะน้ำตกในช่วงหน้าฝน จะมีปริมาณมากและอากาศเย็น เหมาะกับการเล่นน้ำในประเทศที่ร้อนเกือบจะทั้งปีอย่างประเทศไทย หรือจะนั่งชิลฟังเสียงน้ำไหล ปล่อยใจให้ผ่อนคลายในวันหยุด ให้ธรรมชาติบำบัดก็เป็นตัวเลือกที่ดี

12. น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี

น้ำตกเอราวัณ มีน้ำสีเขียวมรกต แบบไม่ปรุงแต่ง เป็นธรรมชาติสรรค์สร้าง โดยน้ำตกแต่ละชั้นเต็มไปด้วยความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป เหมาะแก่การไปเที่ยวช่วงหน้าฝนสุดๆ สัมผัสบรรยากาศเย็นสบายกับน้ำตกทั้ง 7 ชั้น

  • ที่อยู่: อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/wd3aiPfdoi11b9Gq5
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 07.00 – 16.30 น.

13. น้ำตกปาโจ นราธิวาส

น้ำตกปาโจ ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว สัมผัสน้ำเย็นสบาย มีสัตว์ป่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น นกกาฝากท้องสีส้ม ค่างแว่นถิ่นใต้ และมีพันธุ์ไม้ที่ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกของโลก ก็คือ ใบไม้สีทอง หรือ ย่านดาโอ๊ะ

  • ที่อยู่: ตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/AJua5p4gLwq46NEEA 
  • อัตราค่าเข้า: 9:00–16:30
  • เวลาปิด-เปิด: 09.00 – 16.30 น.
น้ำตกกรุงชิง นครศรีธรรมราช

14. น้ำตกกรุงชิง นครศรีธรรมราช

น้ำตกกรุงชิง มีความสูง 7 ชั้น อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ ป่าดิบชื้นแน่นทึบ มีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเล่นน้ำตกและกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เป็นต้น

  • ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/KaFjK8GRRs3WCwYA8
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 08.30-16.30 น.

15. น้ำตกเปรโต๊ะลอซู น้ำตกรูปหัวใจ ตาก

น้ำตกเปรโต๊ะลอซู หัวใจแห่งขุนเขา รูปร่างน้ำตกมีความสวยงาม คล้ายกับรูปหัวใจ ความสูงเทียบเท่าตึกใบหยกกันเลยทีเดียว  ที่เที่ยวหน้าฝน ที่จะต้องถูกใจสายลุยแน่นอน เพราะต้องเดินเท้าเข้าป่า 4 – 5 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมากางเต็นท์ เพื่อสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติกลางป่า

  • ที่อยู่: ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/eJC79S9fVU1AwPsZ8
  • อัตราค่าเข้า: –
  • เวลาปิด – เปิด: –

น้ำตกวังตะไคร้ นครนายก

น้ำตกวังตะไคร้ ที่เที่ยวหน้าฝนที่สำคัญ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีสายน้ำไหลผ่าน เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมชมธรรมชาติ และการล่องแก่ง ยิ่งช่วงหน้าฝน กิจกรรมล่องแก่งจะสนุกมากๆ เนื่องจากจะมีน้ำไหลเชี่ยว รวมถึงมีบริการห้องพักอีกด้วย

  • ที่อยู่: ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/BipGVnXwZ5dgQPyU9
  • อัตราค่าเข้า: 150 / คัน หากเกิน 8 ท่าน เพิ่มท่านละ 10 บาท เดินเข้า 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.
น้ำตกเจ็ดสาวน้อย สระบุรี

17. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย สระบุรี

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย น้ำตกชื่อดังของสระบุรี แม้จะเป็นน้ำตกสายเล็กๆ แต่วิวหลักล้าน พร้อมพาไปสัมผัสบรรยากาศที่บริสุทธิ์ อุดมสมบูรณ์สีเขียวขจี น้ำสีเขียวใสไหลผ่านตลอดทั้งปี

  • ที่อยู่: ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/8YKhSKVY9QmW8MTTA
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท / เด็ก 10 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 8:00 – 17:00 น.

ข้อระวังในการท่องเที่ยวธรรมชาติหน้าฝน

  • เที่ยวหน้าฝน ห้ามเล่นน้ำตกตอนฝนตก และน้ำไหลเชี่ยว ในบางบริเวณจะติดป้ายห้ามเล่นน้ำ เนื่องจากมีน้ำวน ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
  • การเดินป่าช่วงที่หินเยอะ ควรระมัดระวังหินที่ลื่นเป็นพิเศษ ควรใส่เสื้อผ้า และรองเท้าให้คล่องตัว 
  • การตั้งแคมป์กลางป่า ควรตั้งให้สูงจากลำน้ำ เพื่อป้องกันน้ำ จากการเกิดน้ำป่าไหลหลากแบบกะทันหัน
  • ควรปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสถานที่ เช่น กฎของอุทยานแห่งชาติ เป็นต้น

แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด

AIRPORTELs พร้อมเปิดให้บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด เพื่อช่วยทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาเดินทาง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋า เนื่องจากทาง AIRPORTELs จะส่งกระเป๋าไปยังโรงแรมให้ เริ่มต้น 299 บาท และบริการฝากกระเป๋า เริ่มต้น 100 บาทต่อวัน สามารถเที่ยวได้อย่างอิสระ ทางเรามีกล้องวงจรปิดที่ห้องเก็บกระเป๋าตลอด 24 ชั่วโมง ไว้วางใจทุกความปลอดภัยได้ชัวร์ 100%

สรุปจบไปแล้วสำหรับ 17 ที่เที่ยวหน้าฝน ล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดยอดฮิต ทั้งดอย อุทยาน น้ำตก ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติได้เต็มอิ่ม ไม่ว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ครอบครัว คนรัก ก็ฟินสุดๆ แม้การเที่ยวช่วงหน้าฝนบรรยากาศดีก็จริง แต่ต้องระวังอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ที่สำคัญเมื่อเที่ยวจนจบทริป กลับกรุงเทพฯ สามารถใช้บริการของ AIRPORTELs ได้ หากเกิดอาการเหนื่อยล้าไม่อยากขนกระเป๋าสัมภาระของตนเองหรือครอบครัวในปริมาณเยอะๆ เพราะ  AIRPORTELs มีบริการส่งกระเป๋าให้ถึงที่พัก

รวม 15 สถานที่เที่ยวสุขุมวิท ย่านธุรกิจสุดฮิตของคนกรุงฯ

ถนนสุขุมวิทเป็นชื่อถนนที่หลายคนคุ้นหู นับเป็นถนนสำคัญอีกหนึ่งสายที่ทอดยาวที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มต้นจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครไปจนถึงชายแดนประเทศกัมพูชา นอกจากเป็นชื่อถนนแล้ว ยังเป็นชื่อย่านใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพมหานครอีกด้วย เพราะที่นี่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารชื่อดัง สถานบันเทิงมากมาย แหล่งที่เที่ยวสุขุมวิทเป็นพื้นที่ที่ให้ผู้คนมากิน เที่ยว เล่น พักผ่อนได้อย่างครบจบในที่เดียว 

นับเป็นย่านที่คึกคักอันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ทำให้คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จึงมักเลือกพักผ่อนและมาหาที่เที่ยวแถวสุขุมวิท ทั้งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และหลังเลิกงาน 

สำหรับใครที่กำลังหาที่เที่ยวสุขุมวิทที่สะดวกสบาย ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง บทความนี้ได้รวบรวมมาให้แล้ว ทั้งหมด 15 ที่เที่ยวสุขุมวิทที่น่าสนใจ 

ท้องฟ้าจำลอง

1. ท้องฟ้าจำลอง

ท้องฟ้าจำลองเป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่เดินทางไปได้สะดวกมากๆ โดยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ที่นี่เป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ถูกอนุมัติจัดสร้างโดยกระทรวงศึกษาธิการ 

ภายในเต็มไปด้วยเครื่องมือการเรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ท้องฟ้าจำลอง ซึ่งเป็นไฮไลต์เด่นที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่ เป็นการจัดแสดงท้องฟ้าจำลองรอบละ 1 ชั่วโมง  ซึ่งมีทั้งการบรรยายความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์และมีการฉายภาพยนตร์เต็มเรื่องในตอนจบด้วย 

นอกจากนี้แล้วยังมี นิทรรศการวิทยาศาสตร์ โลกใต้น้ำ อาคารสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ อาคารตระหนักรู้พลังงาน และนิทรรศการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะพาน้องๆ หนูๆ มาเรียนรู้หรือผู้ใหญ่จะไปเที่ยวชมก็ได้ 

  • ที่อยู่: 928 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: ท้องฟ้าจำลอง  
  • เวลาทำการ: วันศุกร์ 11:00 น. – 15:00 น. /  วันเสาร์-อาทิตย์ 10:00 น. – 15:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัว จอดรถได้ที่พื้นที่จอดรถที่จัดไว้ของท้องฟ้าจำลอง
    • รถเมล์ประจำทาง สาย 149, 2, 25, 38, 40, 48, 501, 508, 511, 72
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย ทางออก 2
สวนเบญจสิริ

2. สวนเบญจสิริ

สวนเบญจสิริเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสุขุมวิทแนวธรรมชาติที่น่าสนใจ ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้ พื้นที่ธรรมชาติ เน้นการออกแบบให้เป็นสวนที่มีพื้นที่โล่ง โปร่ง สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้กว้างเต็มตา เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อนหรือออกกำลังกาย ภายในสวนนอกจากจะมีต้นไม้ให้ร่มเงาแล้ว ยังมีประติมากรรมสวยๆ กลางสวนให้ได้ชมกันอีกด้วย 

สวนเบญจสิริเป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่คนกรุงนิยมมาพักผ่อนกันอย่างมาก ด้วยการเดินทางที่สะดวก ใกล้ถนนสายหลัก เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ได้ อยู่ใจกลางเมืองที่สามารถมาออกกำลังกายหลังเลิกงาน จึงตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับใครที่มองหาที่เที่ยวแนวธรรมชาติกลางกรุงขอแนะนำให้มาที่นี่เลย

  • ที่อยู่: อยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 22 และ 24 บนถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: สวนเบญจสิริ 
  • เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 05:00 – 21:00 น.
  • การเดินทาง: รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ 

3. หอศิลป์ศุภโชค (SAC Gallery)

หอศิลป์ศุภโชคเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่โดนใจสายอาร์ตที่รักศิลปะอย่างแน่นอน เพราะที่นี่เป็นตึกรวมผลงานศิลปะมากมายทั้งจากชาวไทยและชาวต่างประเทศ 

โดยตึกถูกออกแบบสไตล์โมเดิร์น ดูโดดเด่น มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นมีงานศิลปะจัดแสดงเต็มทุกพื้นที่ ภายในมีทั้งการบรรยาย งานนิทรรศการศิลปะงานสาธิตต่างๆ รวมถึงงานเวิร์กช็อปอีกด้วย ใครที่มองหาที่เที่ยวแถวสุขุมวิทแนวนี้แวะมาได้เลยที่หอศิลป์ศุภโชค 

  • ที่อยู่: 160/3 ซอยสุขุมวิท 33 (แดงอุดม) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110  
  • พิกัด: หอศิลป์ศุภโชค (SAC Gallery) 
  • เวลาทำการ: วันอังคาร – ศุกร์ เวลา 10:00 – 18:00 น. และ วันเสาร์เวลา 11:00 – 18:00 น.  (ปิดทุกวันอาทิตย์-วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออกที่ 5 (ซอยสุขุมวิท 35) 
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท ทางออกที่ 2 (อาคารอินเตอร์เช้นจ์ 21) 
    • รถเมล์โดยสารประจำทาง สาย 2, 25, 501, 508, 511, 513, 38, 40 และ 48
    • เรือด่วนคลองแสนแสบ ลงที่ท่าเรืออิตันไทย
Japanese Town

4. Japanese Town

Japanese Town เป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากเดินเล่น ชมบรรยากาศแบบญี่ปุ่น โดยไม่ต้องบินไปไกล ใจกลางกรุงเทพฯ ก็มี เดิมทีที่นี่เป็นชุมชนคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่เที่ยวสุดฮิตของนักท่องเที่ยวแทน เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มีเมนูให้เลือกมากมายหลายร้านเลยทีเดียว ทุกร้านทำโดยคนญี่ปุ่นแท้ๆ 

นอกจากนี้ยังมีร้านอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านนวด สปา ร้านหนังสือ ร้านเช่า DVD โรงเรียนคาราเต้ และร้านขายทัวร์ ทำให้ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยบรรยากาศเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นมากๆ นับเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทสุดสัปดาห์ที่น่ามาไม่แพ้ที่อื่นเลย 

  • ที่อยู่: ซอยสุขุมวิท 33/1 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตพัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Japanese Town 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออกที่ 5 เดินต่อไปที่ซอยสุขุมวิท 33/1 
Flow House Thailand (Bangkok)

5. Flow House Thailand (Bangkok)

เอาใจสายลุยกันบ้างกับที่เที่ยวสุขุมวิทอย่าง Flow House Thailand บีชคลับกลางใจเมือง ที่นี่คือศูนย์เล่นเซิร์ฟจำลองกลางกรุงเทพฯ ที่เดินทางสะดวก ไม่ต้องไปถึงทะเลก็เล่นเซิร์ฟได้ที่นี่ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีสปอร์ตบาร์ ห้องเล่นเกม ร้านค้าต่างๆ ร้านอาหารและคาเฟ่อีกด้วย เป็นอีกที่เที่ยวแถวสุขุมวิทสำหรับสายกีฬาที่น่าสนใจอย่างมาก มาที่เดียวจบทั้งทำกิจกรรม ทานอาหาร พักผ่อน

  • ที่อยู่: 120/1 A-Square, ซอยสุขุมวิท 26 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด:  Flow House Thailand (Bangkok)  
  • เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันพุธ 11:00 – 21:00 น. / วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ 10:00 – 21:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีคลองเตย 
Whizdom Club

6. Whizdom Club

สำหรับใครที่มองหาพื้นที่ทำงาน อ่านหนังสือ ไม่จำเป็นต้องพึ่งแค่ห้องสมุดอีกต่อไป เพราะที่เที่ยวสุขุมวิทสำหรับคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ ได้แรงบันดาลใจมาจาก Knowledge Sharing Society ทำให้ที่นี่กลายเป็น Co-Working Space ที่ถูกแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน ทั้งโซนพื้นที่ทำงาน (Workspace Station) โซนพื้นที่ทำกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน (Whiz Ground) และโซนพื้นที่จัดแสดง (Exhibition Room) ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าพื้นที่ทำงานร่วมกัน แต่เป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่เต็มไปด้วย Inspiration ความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้สิ่งใหม่ที่น่าสนใจกลางกรุงเทพมหานคร 

  • ที่อยู่: โครงการ 101 True Digital Park ชั้น 4 ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10260
  • พิกัด: Whizdom Club  
  • เวลาทำการ:  ทุกวัน 08:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี ทางออกที่ 6

7. Park Lane 

Park Lane เอกมัยเป็นอีกที่เที่ยวสุขุมวิทที่น่าสนใจ ที่นี่เป็นคอมมิวนิตีมอลล์สไตล์คนเมืองตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ จุดเด่นคือที่นี่ถูกออกแบบให้ผู้ที่มาเยือนได้รับรู้สึกผ่อนคลายกลางใจเมืองสุดๆ ด้วยต้นไม้ สวน น้ำพุ การตกแต่งอาคารสุดชิคทำให้ที่นี่แตกต่างจากสถานที่ชอปปิงบนตึกสูงทั่วไป

ที่สำคัญเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอาง ร้านเสริมสวย ร้านสปา ร้านแว่น ร้านอาหาร คาเฟ่ และที่สำคัญที่นี่ตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาที่เที่ยวสุขุมวิทที่มีพื้นที่รองรับเด็กๆ เพราะที่นี่มีร้าน Play Time สวนสนุกในร่มสำหรับเด็กไว้ให้บริการด้วย 

  • ที่อยู่: 18 ซอยสุขุมวิท 61 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Park Lane 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 06:00 – 02:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย แล้วเข้าซอยสุขุมวิท 63 ต่อไปอีก 400 เมตร
The TwentySix 

8. The TwentySix 

The Twenty Six เป็น Shop House ที่เที่ยวสุขุมวิทใจกลางเมือง ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 26 เป็นพื้นที่ที่ได้รวมเอา 8 ร้านค้าไว้ในพื้นที่เดียวกัน มาที่เดียวครบครันทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านขายของใช้น่ารักๆ คาเฟ่ ร้านทำเล็บ ร้านต่อขนตา สักคิ้ว ฝังสีปาก สตูดิโอสอนทอผ้า Golf Academy ร้านขายเสื้อผ้าและร้านแว็กซ์ ให้คุณได้มาพักผ่อนกับที่เที่ยวแถวสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพฯ เพียบพร้อมด้วยบริการที่ครบครัน

  • ที่อยู่:  34/1 ซอยสุขุมวิท 26  แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด:  The TwentySix 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพษ์ แล้วเข้าซอยอารีย์ 650 เมตร 
RQ 49 Health & Lifestyle Mall

9. RQ 49 Health & Lifestyle Mall

มาต่อกันที่ที่เที่ยวสุขุมวิทเอาใจสายสุขภาพกันบ้าง ที่ RQ 49 Health & Lifestyle Mall ที่นี่เป็นมากกว่าคอมมิวนิตีมอลล์ทั่วไป เพราะเต็มไปด้วยการให้บริการด้านสุขภาพและความงามและร้านอาหารชั้นนำ โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นมีให้เลือกมากมาย พร้อมกับการตกแต่งสไตล์ Japan Modern ทำให้บรรยากาศที่นี่ นอกจากจะเป็นศูนย์รวมศูนย์สุขภาพแล้วยังได้รู้สึกเหมือนอยู่ใจกลางญี่ปุ่นอีกด้วย

  • ที่อยู่: 49/7 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110 
  • พิกัด: RQ 49 Health & Lifestyle Mall 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 08:00. น. – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีทองหล่อหรือสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเข้าซอยสุขุมวิท 49 ต่อไปอีก 1.5 กิโลเมตร
The EmQuartier

10. The EmQuartier

ที่เที่ยวสุขุมวิทที่สายชอปปิงจะพลาดไม่ได้เลยก็คือ ศูนย์การค้า The EmQuartier ที่มีร้านค้าชั้นนำระดับโลกมากมายให้ได้เลือกชอป ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าและยังมีร้านอาหารชื่อดังมากมาย

เป็นแหล่งการค้าใจกลางเมืองที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมากันเยอะมาก เพราะมีสินค้าให้เลือกครบครัน ไม่ว่าจะมาชอปปิงหรือพักผ่อนก็ถือว่าตอบโจทย์มากเลยทีเดียว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีโปรโมชั่นมากมายเอาใจนักชอปรออยู่อีกด้วย

และจุดที่พลาดไม่ได้สำหรับใครที่อยากชมวิวเมืองย่านสุขุมวิทจากมุมกว้าง ต้องไปที่สกายคลิฟ ชั้น 45 ของ The EmQuartier ที่นี่คุณจะได้เห็นกรุงเทพมหานครในแบบ 360 องศาเต็มๆ ตา รับรองว่าหาไม่ได้จากห้างสรรพสินค้าไหนอย่างแน่นอน

  • ที่อยู่: 695 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110 
  • พิกัด: The EmQuartier 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น. 
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท
Terminal 21 Asok

11. Terminal 21 Asok

ที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่เป็นทั้งแหล่งชอปปิงและรวมร้านอาหารชื่อดังรสเด็ด ที่เมื่อมาเที่ยวกรุงเทพฯ จะต้องมาเยือนให้ได้ ก็คือที่ Terminal 21 Asok (อโศก) นั่นเอง ที่นี่มีทั้งร้านค้าแบรนด์ชั้นนำให้คุณได้ชอปปิงมากมาย รวมถึงร้านอาหารเด็ดๆ อีกหลากหลายร้าน มีให้เลือกทั้งอาหารไทยและนานาชาติ ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่มีศูนย์อาหารที่ราคาถูกกลางใจเมือง อยู่ในห้างสรรพสินค้า Terminal 21 หลากหลายร้านด้วยกัน 

สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่มาเที่ยวแล้วไม่อยากลากกระเป๋าเดินทางติดตัวให้วุ่นวาย หรือชอปปิงเยอะจนถือไม่ไหว ไม่อยากหิ้วถุงชอปปิงไปที่อื่นต่อ ที่ Terminal 21 มีให้บริการฝากกระเป๋าเดินทางและถุงชอปปิงของ Airportels ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชอปได้อย่างสบาย เที่ยวได้ไร้กังวล เพียงฝากกระเป๋าหรือฝากของไว้กับ Airportels 

  • ที่อยู่: 88 ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตทวีวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Terminal 21 Asok 
  • เวลาทำการ:  ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.  
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท
Gateway Ekamai

12. Gateway Ekamai

หากกำลังมองหาที่เที่ยวสุขุมวิท แหล่งชอปปิงกลางใจเมืองที่ส่วนใหญ่มีราคาไม่แพง ขอแนะนำ Gateway Ekamai ศูนย์การค้าที่รวมสินค้ามากมายในสไตล์ญี่ปุ่นที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แพง โดยเฉพาะสินค้า IT ที่นี้ได้แบ่งโซน IT CITY ที่รวมอุปกรณ์ IT Gatget ไว้มากมายสำหรับสาย IT ต้องถูกใจอย่างแน่นอน รวมทั้งยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ราคาดีให้เลือกสรรหลายร้านด้วยกัน เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ครบทั้งชอปปิงของที่ชอบและได้ทานอาหารรสชาติที่ใช่ 

  • ที่อยู่: 982 ถนนสุขุมวิท 22  แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Gateway Ekamai 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถเมล์ รถประจำทาง สาย 2, 23, 25, 38, 40, 48, 71, 98, 501, 508, 511
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย ทางออก 4 
    • เรือโดยสาร คลองแสนแสบ เลือกลงท่าเรือ ร.ร. วิจิตรฯ ท่าเรือชาญอิสระ หรือท่าเรือทองหล่อ

13. Starbucks Sukhumvit 21

พลาดไม่ได้สำหรับที่เที่ยวสุขุมวิทเอาใจสายคาเฟนั่นคือ Starbucks Sukhumvit 21 สาขา Camp Davis ภายนอกร้านถูกออกแบบตกแต่งในสไตล์อังกฤษ ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ทำให้ mood ภาพออกมาแล้วราวกับอยู่ที่อังกฤษจริงๆ เป็นอีกคาเฟที่ดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนคาเฟอื่นๆ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทย คนต่างชาติ รวมถึงคนกรุงเทพฯ เองมักไปเที่ยวพักผ่อนนั่งรับประทานขนมและจิบเครื่องดื่ม รวมถึงถ่ายรูปสวยๆ กันเยอะมากๆ ใครที่อยากได้รูปสุดเก๋ มูดภาพชิคๆ ต้องมาที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่นี่เลย

  • ที่อยู่: 88 สุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Starbucks Sukhumvit 21  
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 06:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออก 4 เดินต่อเข้าซอยสุขุมวิท 24 อีก 1.4 กิโลเมตร
Bo.lan

14. Bo.lan

ที่เที่ยวสุขุมวิทสำหรับสายกินที่อยากลิ้มลองอาหารไทยรสเลิศติดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดของเอเชีย ต้องมาที่ร้าน Bo.lan (โบราณ) ที่นี่เป็นร้านอาหารไทยที่มีจุดเด่นคือ เลือกใช้วัตถุดิบจากเกษตรไทยเป็นหลักในการทำอาหาร โดยผ่านการคิดและพัฒนาจนเพิ่มมูลค่าของอาหารได้มากขึ้น จนได้พาอาหารไทยไปสร้างความรู้จักทั่วโลก 

สำหรับเมนูอาหารที่ร้านนี้จะแตกต่างกันออกไปตามช่วงฤดูของวัตถุดิบ นอกจากอาหารคาวที่รสชาติเป็นเลิศแล้ว ยังมีของหวานแสนอร่อยให้เลือกรับประทานตบท้ายของมื้อกันอีกด้วย ไม่ว่าจะมาแบบคนเดียว มากับคนรู้ใจ มากับเพื่อนหรือมาพร้อมหน้าทั้งครอบครัว ร้าน Bo.lan ถือว่าเป็นอีกที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่ต้องลิสต์เอาไว้เลย 

  • ที่อยู่: 24 ซอยสุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Bo.lan 
  • เวลาทำการ:
    • วันอาทิตย์ : เปิด 12:00 – 14:00 น.
    • วันจันทร์: ปิด
    • วันอังคาร:  ปิด
    • วันพุธ : 18:00 – 22:00 น.
    • วันพฤหัสบดี : 12:00 – 14:00 น. และ 18:00 – 22:00 น.
    • วันศุกร์ : 12:00 – 14:00 น. และ 18:00 – 22:00 น.
    • วันเสาร์:  12:00 – 14:00 น. และ 18:30 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • BTS ทองหล่อ แล้วเดินเข้าซอยสุขุมวิท 53 อีก 450 เมตร
Unbirthday Cafe

15. Unbirthday Cafe

ปิดท้ายที่เที่ยวสุขุมวิทที่สุดท้ายกับคาเฟ่บรรยากาศสุดชิลที่มีชื่อว่า Unbirthday Cafe ที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่มีคอนเซปต์ว่าการทานเค้กที่ดี อิ่มอกอิ่มใจ สามารถทานได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ในวันเกิด ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยเค้กที่หลากหลาย รสชาติดี น่าทานทุกชิ้น พร้อมเสิร์ฟให้คุณอิ่มเอมกับวันธรรมดาให้รู้สึกว่าพิเศษขึ้นมาได้ทุกวัน 

ซึ่งหากใครอยากทานเค้กอย่างเดียวก็สามารถไปซื้อได้ที่ Cake shelf ทั้ง 2 สาขา Emquartier ชั้น G และ Siam Paragon ชั้น G แต่ถ้าใครอยากทานเค้กอร่อยๆ พร้อมสัมผัสบรรยากาศ Cozy อบอุ่น สบายตา เหมือนอยู่บ้าน ต้องมาที่ Unbirthday Cafe Flagship Store ที่สุขุมวิท 31 

จุดเด่นของคาเฟ่นี้ หากมาตามทางที่บอกแล้วอาจมองหาร้านไม่เจอเพราะที่ตั้งของคาเฟ่จะอยู่บนชั้น 2 ของมาเปงเส็ง อพาร์ทเม้นท์ ให้เดินขึ้นมาเลยแล้วจะพบกับบรรยากาศสุดน่ารักและอบอุ่นของร้าน ในโทนสีขาวและสระว่ายน้ำ พร้อมกับมีส่วน Glasshouse ให้แสงเล็ดลอดเข้ามาเล็กน้อย ไม่ว่าจะพักผ่อนด้วยการทานเค้กแสนอร่อยหรือถ่ายรูปสวยๆ Unbirthday Cafe ก็ตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง 

  • ที่อยู่: ชั้น 2 มาเปงเส็ง อพาร์ทเม้นท์ 14 สุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/mCNPYdZWxWok3DMi8 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 09:00 – 19:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า สถานีพร้อมพงษ์ เดินตรงเข้าซอยสุขุมวิท 31 อีก 750 เมตร 

ย่านที่เที่ยวสุขุมวิทนอกจากจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมายที่หลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงที่เที่ยวแถวสุขุมวิท ยังมีที่เที่ยวที่ให้เดินเล่น ชมธรรมชาติ พักผ่อน เที่ยวแบบชิลล์นอกจากการชอปปิงอีกหลายต่อหลายที่ที่น่าสนใจ หลายคนอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าใจกลางเมือง ย่านเศรษฐกิจอย่างสุขุมวิทจะมีที่เที่ยวที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่พักผ่อนสุดชิลล์อยู่ด้วย และจะเห็นได้ว่ากรุงเทพฯ ก็มีที่เที่ยวอีกหลายที่มากมายที่น่าสนโดยเฉพาะที่เที่ยวสุขุมวิทที่รอให้คุณไปลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ 

สามารถเที่ยวอย่างสบายใจ ไม่กังวลเรื่องกระเป๋าเดินทาง แม้ชอปเยอะก็ไม่ต้องว่าจะกลัวแบกไม่ไหว เพียงฝากกระเป๋าให้ Airportels ดูแล ก็ทำให้คุณเที่ยวได้เต็มที่ ชอปได้จุใจ ไม่ต้องลากกระเป๋าไปด้วย 

AIRPORTELs  ในห้างTerminal 21

บริการรับฝากและขนส่งกระเป๋าเดินทางในประเทศไทย ให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย ไม่ต้องกังวลกับน้ำหนักสัมภาระ ให้คุณท่องเที่ยวในประเทศไทยแบบไร้กระเป๋าเดินทาง ราคาขนส่งกระเป๋าเริ่มต้น 299 บาท ราคารับฝากกระเป๋าเริ่มต้น 30 บาท/ชั่วโมง เท่านั้น หรือจะเหมาทั้งวัน 150 บาท/ใบ 

  • AIRPORTELs  ในห้างTerminal 21 ชั้น1 โซนโตเกียว (ติดทางออกลานจอดรถ)
  • พิกัด: Terminal 21 Asok 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.

21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ง้อรถส่วนตัว

ในวันหยุดพักผ่อนทั้งทีแต่มีเวลาแสนน้อยนิด คุณลองมองหาที่เที่ยวที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลหลายกิโลก็สามารถเอนจอยได้ เป็นแพลนการเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนไม่มีรถส่วนตัว ไม่สะดวกเดินทางไปไหนมาไหนไกลแต่คุณสามารถไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ BTS ได้อย่างเพลิดเพลินกับ 21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ต้องง้อรถส่วนตัว 

BTS สนามกีฬาแห่งชาติ 

BTS สนามกีฬาแห่งชาติ 

เริ่มต้นที่สถานีแรกก็ปังไม่ไหวกับสถานี BTS สนามกีฬาแห่งชาติ สามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดาย แต่คุณกลับได้พบกับสถานที่สุดพิเศษเสิร์ฟตรงหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินสุดชิกอย่างหอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชวนเพื่อนมาถ่ายรูปแนวเก๋ ๆ แนวสวยก็มีหลายมุม หรือจะเป็นอุทยาน 100 ปี จุฬาจุดพักผ่อนชิลๆ รับลมเย็น ที่สำคัญใครที่อยากเดินเล่นด้วยความคล่องตัวที่นี่เขามีจุดฝากกระเป๋าด้วย 

  • บริการฝากสัมภาระ MBK CENTER : AIRPORTELs – ชั้น 6 , โซน บี
  • โปรโมชั่นฝากฟรี 2 ชั่วโมง

อุ่นใจเมื่อกระเป๋าสุดที่รักอยู่ในที่ปลอดภัย แล้วทีนี่ก็เดินเที่ยวอย่างไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วล่ะ       

1. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

จุดเช็กอินแรกที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงสถานีนี้ก็คือ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือเรียกสั้น ๆ ว่าหอศิลป์ ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตในหมู่วัยรุ่นที่หลงใหลในงานศิลป์ไปพร้อมๆ กับได้ถ่ายรูปเด็ดเก็บไว้ในอัลบั้มโปรดก็แจ่มเวอร์ โดยหอศิลป์จะเป็นสถานที่รวบรวมในการจัดแสดงงานศิลปะหลายแขนงเลย รับรองถูกใจสายอาร์ตแน่นอน สามารถเดินทางจาก BTS สนามกีฬาแห่งชาติเพียง 200 เมตรเท่านั้น เรียกว่าเดินเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึง

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/CyrHwyT7BfhydKQu8 
  • เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 20:00 น. 
  • เบอร์โทร : 02 – 2146630 

2. อุทยาน 100 ปี จุฬา 

อุทยาน 100 ปี จุฬา เป็นสวนสาธารณะพื้นที่สีเขียวแสนโดดเด่นใจกลางเมือง โดยมีเนื้อที่กว่า 29 ไร่ สวนแห่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยนโยบายการสร้างเมือง Green & clean city ได้ทราบถึงที่มาที่ไปอันน่าทึ่งขนาดนี้แล้วจะพลาดได้ยังไงล่ะ ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่รักความเป็นส่วนตัว อากาศดีปลอดโปร่ง และได้เห็นวิวธรรมชาติชิลๆ ซึ่งการเดินทางมาจาก BTS สนามกีฬาแห่งชาติห่างกัน 1.3 กิโลเมตร แนะนำให้เรียกวินจะได้ถึงที่หมายได้เร็วขึ้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/KaFm5ghSfiv9eyKy9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 05:00 – 22:00 น. 
  • เบอร์โทร : 022183590 
ที่เที่ยวใกล้ BTS หมอชิต

BTS หมอชิต 

สถานีต่อมาเป็นสถานี BTS ที่สร้างความตะลึงพรึงเพริดต่อคนเพิ่งมาเยือนกรุงเทพฯ ครั้งแรกได้ดี และเป็นหนึ่งสถานีที่แน่นไปด้วยผู้คน แต่ผู้คนเหล่านั้นล้วนตื่นเต้นที่จะไปต่อเพราะหนทางข้างหน้ามีอะไรที่น่าสนใจเยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะมุมพักผ่อนอย่างสวนจตุจักร หรือสายชอปปิงก็ไปเดินเล่นที่ตลาดนัดจตุจักรได้เลย แล้วคุณจะไม่ผิดหวังกับการลงจาก BTS หมอชิต แน่นอน 

3. สวนจตุจักร

ใครที่อยากปลีกความวุ่นวายชั่วครู่ แนะนำให้คุณมาเยือนสวนจตุจักรเลย ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางให้คุณได้มาเดินเล่นอย่างสบายใจ เป็นสถานที่เหมาะสำหรับออกกำลังกายได้ทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นเช้าหรือเย็นก็ดีทั้งนั้น จัดว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่ต้องการความสงบ ร่มรื่น รายล้อมไปด้วยสีเขียวเย็นตา ซึ่งการเดินทางมาที่นี่จาก BTS หมอชิตก็ห่างกันเพียง 700 เมตรเท่านั้น 

  • บริการฝากสัมภาระ MIXT Chatuchak : AIRPORTELs – ชั้น 2 , โซน บี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/yfBKXx4VVzCEerFA9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 04:30 – 22:00 น. 
  • เบอร์โทร : –

4. ตลาดนัดจตุจักร 

ใครที่ชื่นชอบการชอปปิงให้ลองมาเยือนตลาดนัดจตุจักรไม่มีผิดหวังแน่ ที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวมการขายสินค้าขนาดใหญ่แบ่งเป็น 27 โครงการเลยทีเดียว สินค้ามีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ร้านอาหาร รวมไปถึงงานศิลป์งานฝีมือก็มีจัดแสดงและจำหน่ายด้วย  จัดว่าที่นี่เหมาะสำหรับสายเที่ยว กิน ชอป ครบจบในที่เดียว  ซึ่งการเดินทางจาก BTS หมอชิตห่างกันเพียง 450 เมตรเท่านั้น

  • บริการฝากสัมภาระ MIXT Chatuchak : AIRPORTELs – ชั้น 2 , โซน บี     
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/utjr1JpyNr7qfmXV7 
  • เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ – ศุกร์ 07:00 – 18:00 น.

                วันเสาร์ – อาทิตย์ 09:00 – 18:00 น.

  • เบอร์โทร : –
ที่เที่ยวใกล้ BTS ชิดลม

BTS ชิดลม

มาต่อกันที่สถานี BTS ชิดลม สถานีใจกลางเมืองอีกหนึ่งแห่งที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร สามารถเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก นั่นคือ เซ็นทรัลชิดลม สำหรับใครที่ชอบเดินห้างเมื่อลงจากสถานีแล้วสามารถเดินต่อไปหน่อยหนึ่งก็ถึงศูนย์การค้าทันที

5. เซ็นทรัลชิดลม 

สำหรับเซ็นทรัลชิดลมถือเป็นห้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมาก ใครที่ผ่านมาเห็นต่างก็สะดุดตากันทั้งนั้น ด้วยตัวห้างตั้งอยู่บริเวณแยกที่มีวิวของมุมตึกในรูปแบบสถาปัตยกรรมสวยงามโดดเด่น เรียกว่าเห็นปั๊ปอยากเอามือถือที่จับอยู่มาแชะรูปทันที ที่นี่เหมาะสำหรับสายเดินห้างรับลมเย็น เดินเล่นตากแอร์สบาย ๆ ที่สำคัญที่นี่ห่างจากตัว BTS ชิดลมเพียง 650 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/iQCjixS1yqKKWstp8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 22:00 น. 
  • เบอร์โทร : 027937777  
ที่เที่ยวใกล้ BTS ศาลาแดง

BTS ศาลาแดง

ใครกำลังมองหาแหล่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟน่านั่งแล้วล่ะก็ลง BTS ศาลาแดงแล้วคุณจะเจอคำตอบที่ต้องการ สำหรับสถานีแห่งนี้มีคอมมอนส์ที่มีชื่อว่า the COMMONS จะเป็นยังไงนั้นตามไปดูกัน 

6. The Commons 

the COMMONS เป็นเซฟโซนสำหรับคนที่ต้องการหามุมทำงานสบายๆ แต่เดินทางได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพราะที่นี่แห่งนี้มีทั้งโซนนั่งแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ รับรองเลยว่าจะสร้างความประทับใจในการมาเยือนให้กับคุณได้แน่ ภายในมีอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ ให้เลือกเยอะมาก แถมแอร์ก็เย็นฉ่ำเวอร์ เหมาะสำหรับคนอยากมาพักผ่อนสุด ๆ และที่นี่ห่างจาก BTS ศาลาแดงประมาณ 7 กิโล อาจจะไกลหน่อยแต่สามารถเรียกวินได้เลย ระยะทางแค่นี้ไม่แพงมาก

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/niMnPXmqDiCu5ZNn7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 08:00 – 01:00 น. 
  • เบอร์โทร : 0891522677 
ที่เที่ยวใกล้ BTS ช่องนนทรี

BTS ช่องนนทรี

หากกำลังมองหาแลนด์มาร์กที่มีความโดดเด่นในช่วงกลางคืนแล้วล่ะก็ที่ BTS ช่องนนทรีจัดว่าเป็นจุดเช็กอินที่จะทำให้คุณได้ร้องว้าวกับภาพตรงหน้าในยามค่ำคืนในมหานครได้ดี มีจุดไฮไลต์เป็นสะพานช่องนนทรี สะพานสีขาวชื่อดังที่ทั้งคนกรุงและคนต่างจังหวัดต่างก็คุ้นตาเป็นอย่างดี

7. สะพานช่องนนทรี 

สายถ่ายรูปต้องหลงรักที่แห่งนี้แน่ สะพานช่องนนทรี เป็นสกายวอล์กที่กลายเป็นจุดถ่ายรูปสุดปังที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน ถ่ายยังไง ภาพที่ออกมาก็สวยเป๊ะปังทุกภาพแน่นอน ด้วยที่นี่มีตัวสะพานที่ขาวสุดโดดเด่นตั้งตระหง่านอย่างงดงาม เรียกว่าเห็นสิ่งนี้แต่ไกล ๆ ก็อยากรีบกระโจนเข้าไปใกล้ให้เร็วเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปใกล้ชิดมากที่สุด การเดินทางจาก BTS ช่องนนทรีจากที่นี่ไม่ไกลมากห่างแค่  110 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/niMnPXmqDiCu5ZNn7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
  • เบอร์โทร : –
ที่เที่ยวใกล้ BTS ตลาดพลู

BTS ตลาดพลู

ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ไม่ไกลจากกลางเมืองเท่าไรนัก และมีเสน่ห์ตรงมีแม่น้ำเจ้าพระยาคั่นไว้แต่กลับสามารถเดินทางสู่ CBD ได้ด้วยการเดินทางที่หลากหลาย และที่สำคัญ BTS ตลาดพลู มีแหล่งชอปปิงลับน่าสนใจที่ถูกซุกซ่อนในตลาดพลูหลายอย่าง อยากรู้แล้วตามมาเลย  

8. ตลาดพลู 

ที่ตลาดพลูแห่งนี้เป็นแหล่งรวมของกินที่เยอะและดีที่สุดของย่านฝั่งธนแล้วล่ะ ใครที่เป็นสายกินอย่าได้พลาดเชียว เมื่อมาถึงนี่แล้วมีโลเคชั่นอยากให้มาเยือนกัน ที่นี่เหมาะสำหรับสายคูลๆ ที่สามารถลองได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นของกินที่หลากหลายทั้งคาวและหวาน แอเรียใกล้เคียงก็เต็มไปด้วยวัดวามากมาย เรียกว่ากินอิ่มก็ไปทำบุญได้เลย ซึ่งการเดินทางจาก BTS ตลาดพลูห่างกัน 1.5 กิโล สามารถเรียกวินเพื่อไปตลาดได้เลย 

พิกัด : https://goo.gl/maps/ybnYfN17b9L4GFe59 

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
                วันพุธ – วันจันทร์เวลา 09:00 – 00:00 น.  

        วันอังคารเปิด 24 ชั่วโมง 

        เบอร์โทร : – 

ที่เที่ยวใกล้ BTS พร้อมพงษ์

BTS พร้อมพงษ์

สถานีถัดมา BTS พร้อมพงษ์ นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้วยังมีสถานที่เดินเล่นชิลล์สุดพิเศษอยู่หนึ่งที่  จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก The Manor 39 เป็นคอมมูนิตี้มอลล์เล็ก ๆ ที่บรรยากาศน่าเข้าไปหาสุด ๆ 

9. The Manor 39

ใครกำลังมองหาจุดแวะใกล้ BTS พร้อมพงษ์ กับสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกวิเศษต้องลองได้แวะที่นี่คุณต้องถูกใจอย่างแน่นอน The Manor 39 เต็มไปด้วยความสนุก ความผ่อนคลายในที่เดียวกัน เปิดประสบการณ์มาคอมมูนิตี้ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เป็นโครงการที่มีทั้งคาเฟ่ชิกๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดอร่อย ร้านเสริมสวย รวมไปถึงคาราโอเกะเร้าใจ เรียกว่าปาสุขปาใจได้ทั้งวัน อีกทั้งที่นี่หากจาก BTS พร้อมพงษ์เพียง 650 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/WAGvh6qv4ZPNobhh7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 11:30 – 00:00  น.
    เบอร์โทร : 026625541 
ที่เที่ยวใกล้ BTS สะพานตากสิน

BTS สะพานตากสิน

มาต่อกันด้วยสถานีที่จะทำให้คุณได้รับความสนุกสุดเหวี่ยงจัดเต็มไปทั้งวันอย่างที่คุณไม่เคยได้รับมหาศาลเท่านี้มาก่อน เพราะสถานีแห่งนี้พร้อมต้อนรับคุณด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตหลายที่ไม่ว่าจะเป็น ล้ง 1919, Warehouse 30, ตลาดน้อย, The Jam Factory, เอเชียทีค และไอคอนสยาม เป็นไงแต่ละที่มีแต่ปัง ๆ ใช่ไหมล่ะ รับรองงานนี้เที่ยวจนตัวแตกเพียงแค่ลงจาก BTS สะพานตากสิน ก็รับความสนุกได้เต็มแมกซ์ 

10. ล้ง 1919

ประเดิมด้วยสถานที่พักผ่อนสุดแนวเอาใจทุกเจน ที่นี่เดินทางมาได้ง่ายมากแค่ลง BTS ต่อเรือด่วนเจ้าพระยาเพื่อมาลงท่าเรือหวังหลีก็ถึงที่หมายแล้วล่ะ มาเยือนล้ง 1919 ทั้งทีคุณทำได้ทั้งเดินเล่นปล่อยใจ ทานอาหารอร่อยๆ กับร้านอาหารน่านั่ง ถ่ายรูปมุมสวยปังทุกช็อต พร้อมไหว้พระขอพรศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว เรียกว่าครบจบในที่เที่ยว ที่สำคัญที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสินเพียง 2.5 กิโล แต่ระยะทางนี้เราเดินต่อกันด้วยเรือนะ แต่เดินหน่อยเดียวก็ถึงแล้วล่ะ 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/XFZvwf19PVQovJZW8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 18:00  น.
    เบอร์โทร : –

11. Warehouse 30

เปลี่ยนบรรยากาศจากที่เที่ยววิวแม่น้ำมาต่อกันด้วยจุดเช็กอินที่เอาใจสายฮิปเปอร์ได้ดี เมื่อคุณลงจากสถานีแล้วเดินเท้าเปล่าอีกนิดไปทางไปรษณีย์กลางบางรัก เห็นเป็นโกดังเก่าติดกันยาวนั่นแหละถึงที่หมาย Warehouse 30 เรียบร้อย ที่นี่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ หรือร้านเสื้อผ้าก็มีเหมือนกัน พร้อมมีโรงฉายหนังขนาดเล็กดูเพื่อผ่อนคลายได้ดีเยี่ยม ที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสิน 1.3 กิโล ถือว่าไม่ไกลมากนั่งวินแป๊บเดียวถึง

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/pnoBuc1FZfyvYmQx5 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 09:00 – 18:00  น.
  • เบอร์โทร : 022375087 

12. ตลาดน้อย

สถานที่ต่อมาเป็นย่านจีนที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ลงมาจากสถานีเดินมาผ่านบางรักมาหน่อยนึงก็ถึงแล้ว หรือจะเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยาก็ได้เหมือนกัน ที่นี่เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่อยู่ตามแนวถนนเจริญกรุง ใครที่หลงใหลความคลาสสิคสไตล์จีนโบราณ หากได้มาเยือนที่ตลาดน้อยจะต้องชอบแน่ สายถ่ายรูปอย่าได้พลาด อีกทั้งยังห่างจาก BTS สะพานตากสิน 1.9 กิโล 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Snz396uah5qfSZiRA 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง 
  • เบอร์โทร : –

13. The Jam Factory

ที่ต่อมาจะพาทุกคนข้ามมาฝั่งธน เอาใจสายฮิปสเตอร์น ที่นี่ถูกเนรมิตจากโกดังเก่าให้กลายมาเป็นคาเฟ่สุดชิกที่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น มีโคมไฟเท่ ๆ คลอด้วยเสียงเพลงน่าฟัง นั่งชิลล์ได้แฮปปี้สุดๆ สำหรับ The Jam Factory ห่างจาก BTS สะพานตากสินเพียง 1.7 กิโลก็ถึงที่หมาย 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/D3z61MxHJaHmSDb67 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 09:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : 028610950 

14. เอเชียทีค

สถานที่ต่อมาเชื่อว่าเป็นจุดเช็กอินในใจที่หลายคนอยากมาเยือนให้ได้สักครั้ง เอเชียทีค เป็นแลนด์มาร์กสุดโรแมนติกในการมาเดตกับแฟน หรือมาเที่ยวกับผองเพื่อนก็สนุกได้เต็มที่ได้ทั้งนั้น ที่นี่ยืนหนึ่งในการเป็นศูนย์การค้าแนวราบริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย อีกทั้งยังมีโรงละครคาลิปโซ่ คุณสามารถดื่มด่ำกับการดูหนัง จิบกาแฟ กินอาหาร และชอปปิงพร้อมวิวแม่น้ำด้วยความเพลินตลอดค่ำคืน ที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสิน 2.2 กิโล อาจไกลนิดนึงแต่คุ้มกับความฟิน 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/N1RqxnDS9iSttJ7N8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 11:00 – 00:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0922460812 

15. ไอคอนสยาม (Iconsiam)

ปิดที่เที่ยวจาก BTS สะพานตากสินด้วยศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ตระการตาใจกลางมหานคร มาที่นี่คุณจะได้พบกับคนเกือบทุกมุมโลกในที่เดียว ใครที่เข้ากรุงเทพ ฯ มาต่างก็อยากมาเยือนที่นี่ ไอคอนสยามสามารถอยู่ได้ทั้งวันโดยไม่มีเบื่อ มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่น่ารัก ร้านค้าแบรนด์ดังครบ รับรองคุณจะตื่นตาตื่นใจทุกฝีก้าวที่ได้เดิน ที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสินเพียง 1.3 กิโลเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/kFfTjxVSyn7MxrWK9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 22:00 น.  
  • เบอร์โทร : 024957080 
ที่เที่ยวใกล้ BTS ราชเทวี

BTS ราชเทวี

สถานี BTS ราชเทวีเป็นทำเลที่รายล้อมด้วยศูนย์การค้ามากมาย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวแนวฮิปเอาใจวัยรุ่นได้ทุกยุค ด้วยตัวสถานีเชื่อมต่อกับย่าน BTS พญาไทและไม่ไกลจาก BTS อนุสาวรีย์เท่าไร อีกทั้งที่นี่ยังมี สวนเฉลิมหล้า Street Art ราชเทวี เป็นจุดที่เอาใจสายสตรีทอาร์ตได้ดี 

16. สวนเฉลิมหล้า Street Art ราชเทวี

สำหรับใครที่หลงใหลกับภาพวาดบนกำแพง ก็มาเยือนสวนเฉลิมหล้า Street Art ราชเทวี คุณจะสะกดคำว่าผิดหวังไม่เป็นแน่นอน ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพแนวภาพวาดฝาผนัง หรือสตรีทอาร์ต รูปภาพที่ถูกแต่งแต้มบนผนังมีความโดดเด่นสูง สีสันสวยสะดุดตา เรียกว่าถ่ายรูปยังไงก็ออกมาสวยหล่อทั้งนั้น และที่สำคัญที่นี่ห่างจาก BTS ราชเทวีเพียง 180 เมตรเท่านั้น โหใกล้ ๆ เลยนะเนี่ย 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/qukQtB2igJUNgtdW7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 05:30 – 19:00 น.  
  • เบอร์โทร : –
ที่เที่ยวใกล้ BTS สยาม

BTS สยาม

ต่อเนื่องกันที่สถานี BTS ที่ฮิตฮอตเหล่าวัยรุ่นตั้งแต่ยุคก่อนจนถึงปัจจุบัน และดูทีท่าว่าเสน่ห์ความฮิตก็ไม่อาจลดละหายไปไหนได้ง่ายๆ ที่นี่เป็นทำเลของคนที่ชื่นชอบวิถีคนเมืองที่หรูหรา มองไปทางไหนก็มีแต่ความเจริญพุ่งเข้าใส่ ที่สำคัญมีอควาเรียมกลางมหานครอีกด้วย จะเป็นที่ไหนได้นอกจาก Sea Life Bangkok Ocean World เป็นโอเชี่ยนที่เหมาะสำหรับมากันทุกความสัมพันธ์จริงๆ 

17. Sea Life Bangkok Ocean World

มีเวลาว่างไปเที่ยวแค่นิดเดียวแต่กลับอยากไปเห็นทะเล มาที่นี่ Sea Life Bangkok Ocean World คุณก็สามารถสัมผัสของความทะเลได้แล้วล่ะ แนะนำให้คุณชมปลาใต้ท้องทะเลด้วยความเพลินจัดเต็ม พร้อมลอดอุโมงค์ทางเดินใต้น้ำสร้างความตื่นเต้นสุด ๆ มาแล้วไม่มีผิดหวัง ที่นี่ห่างจาก BTS สยามเพียง 100 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Kr2eUQ2Y56dEP6HB9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : 026872000 
ที่เที่ยวใกล้ BTS อารีย์

BTS อารีย์

สำหรับสถานีนี้เป็นหนึ่งย่านที่เหมาะสำหรับการมาใช้ชีวิตมากๆ ไม่ได้เป็นย่านที่วุ่นวายจนเกินไป และสามารถพบความสงบได้ด้วย ถึงแม้ BTS อารีย์ไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่รอบข้างก็ล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมที่เที่ยวเอาใจทั้งสายคาเฟ่และคอมมูนี้ตี้มอลล์  

18. Kid Mai Death Cafe

คาเฟ่แห่งนี้มาในคอนเซปต์ที่แปลกแหวกแนวกว่าหลายๆ ที่ แค่ชื่อก็สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของความตาย เมื่อมาถึงนี่สิ่งที่คุณต้องไม่พลาดนั่นคือ ทดลองตาย ก่อนตาย ในโลงศพที่ถูกปูด้วยผ้าผืนสีชมพู นอกจากคุณจะได้ดื่มรสชาติกาแฟแสนอร่อยก็ยังได้ดื่มด่ำกับสัจธรรมชีวิตอีกด้วย ที่นี่ห่างจาก BTS อารีย์ เพียง 77 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/cDWE2YSbvw7WQRYu8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 09:00 – 21:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0633244519  

19. GUMP’s Ari Community Space

ต่อเนื่องกันที่คาเฟ่สุดน่ารักที่เอาใจสาว ๆ ที่หลงใหลกับอะไรที่เห็นแล้วจะต้องตาแป๋วทนความน่ารักไม่ไหว เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งสไตล์มินิมอลหวาน ๆ มุมถ่ายรูปเยอะมาก แถมกาแฟสดก็รสชาติดีมาก ห่างจาก BTS อารีย์เพียง 400 เมตรเท่านั้น

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/FwsT4uY5V4MgG8sX8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : –
BTS สุรศักดิ์ - วัดแขก

BTS สุรศักดิ์

มาต่อกันที่สถานีรองสุดท้ายด้วย BTS สุรศักดิ์ เป็นสถานีทำเลดี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่นี่มีเส้นคมนาคมหลายรูปแบบ ล้อมด้วยอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล ร้านอาหาร คอนโด และอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวเอาใจสายชิลล์เพียบ 

20. Roots BKK

ใครกำลังมองหากาแฟสดรสชาติดี คุณภาพเยี่ยม ให้คุณได้ลองก้าวมาร้านนี้แล้วคุณจะเจอคำตอบที่ใช่ สำหรับร้าน Roots BKK ไม่ได้เป็นแค่ร้านกาแฟธรรมดา ๆ แต่มันมากกว่านั้น มีเรื่องราวของกาแฟไทยเกรดดีคัดสรรทุกเมล็ดให้คุณได้ดื่มอย่างสุขใจ ภายในร้านหอมฟุ้งด้วยกลิ่นกาแฟ ร้านตกแต่งได้สวย สะอาด น่ามองน่านั่ง ที่สำคัญที่นี่ห่างจาก BTS สุรศักดิ์เพียง 170 เมตรเท่านั้นเอง 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/5FkYqPqZLSudoo2p9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 07:00 – 19:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0820916175 

21. วัดแขก

ปิดท้ายด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเอาใจสายมู ใครที่เลื่อมใสในพระแม่อุมาเทวี มาที่นี่คุณสามารถสักการะท่านแม่ได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงอินเดีย วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ย่านสีลม ย่านชื่อดังใจกลางเมืองกรุง วัดนี้ตกแต่งได้สวยงามให้บรรยากาศเหมือนอยู่อินเดียได้ดีมาก ไปเหอะอย่าพลาดเลย และที่นี่ห่างจาก BTS สุรศักดิ์เพียง 800 เท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/ZBgDuB99zabdcho58 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 06:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0973159569 

แอร์พอเทลล์บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระ

บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระสนามบินดอนเมือง

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าที่มีสาขาในสนามบิน และห้างชั้นนำในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีบริการส่งสัมภาระไปยังโรงแรม-ห้าง-สนามบิน ราคาเริ่มต้น 299 บาท/ใบ รวมถึงบริการส่งกระเป๋าไปยังต่างจังหวัด

สาขาของแอร์พอเทลล์

  • สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ 
  • สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 
  • MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)
  • Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)
  • Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)
  • MIXT Chatuchak ชั้น2, โซนบี
  • Terminal 21 Pattaya ชั้น 1 , โซนปารีส (บริเวณใกล้อีฟแอนด์บอย)

สรุป

จบกันไปแล้วสำหรับ 21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ง้อรถส่วนตัว เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับจุดเช็กอินที่ทางเราได้มาแนะนำให้กับทุกคน เรียกว่าถูกใจสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถเที่ยวได้หลากรูปแบบ หลายรสชาติได้จัดเต็มเลยใช่ไหมล่ะครับ BTS จะไม่ได้เป็นแค่การเดินทางเพื่อไปเรียนหรือไปที่ทำงานอีกต่อไป เพราะคุณสามารถเปลี่ยนทิศทางที่เคยเดินไปประสบกับที่ใหม่ ๆ ได้ง่ายแสนง่าย และห่างจากสถานีไม่ไกลมากเท่าไรก็ถึงที่เที่ยวได้เลย และสำหรับใครที่อยู่ต่างจังหวัดต้องการเดินทางมาเที่ยวกรุงเทพแล้วล่ะก็ทางเราอยากแนะนำ Airportels  บริการส่งกระเป๋าจากสนามบินถึงที่พักได้ทันที เรียกว่ามาถึงกรุงเทพสามารถออกเดินทางไปเที่ยวทั้ง 21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ง้อรถส่วนตัว รู้แบบนี้รีบ ๆ ตามรอยให้ได้เลย