9 ร้านอาหาร ICONSIAM วิวแม่น้ำเจ้าพระยา: ดื่มด่ำประสบการณ์อาหารหรูริมน้ำ

9 ร้านอาหาร ICONSIAM พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา: ประสบการณ์อาหารหรูริมน้ำ

จะดีแค่ไหนหากวันพักผ่อนหรือหลังจากทำงานเหนื่อย ๆ แล้วได้นั่งรับประทานอาหารอร่อย ๆ พร้อมชมวิวริมแม่น้ำยามค่ำคืน นอกจากได้อิ่มท้องกับอาหารดี ๆ แล้วยังได้อิ่มใจกับบรรยากาศรอบตัว เชื่อว่าต้องเป็นอะไรที่ฟินและฮีลใจได้ดีสุด ๆ และสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดี เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดหรูท่ามกลางวิวงดงาม ขอแนะนำ 9 ร้านอาหาร iconsiam ที่นอกจากพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแล้วยังพร้อมเสิร์ฟวิวสวย ๆ ของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย

แนะนำ 9 ร้านอาหาร Iconsiam พร้อมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

James Boulangerie
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: James Boulangerie

เริ่มต้นกันที่ร้านอาหารไทยและอาหารสไตล์ยุโรปที่ขนทัพเมนูมาให้เลือกอย่างคับคั่ง ใครที่เป็นแฟนคลับร้านนี้น่าจะทราบว่าเมนูไฮไลต์ของร้านคือครัวซองต์เนื้อนุ่มหอมอร่อย แต่เมื่อมาเปิดที่ไอคอนสยามก็กลายเป็นร้านอาหารที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยทั้งวัน การตกแต่งร้านเน้นโทนสีขาวและความโปร่งสบายจึงสามารถนั่งรับชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มอิ่ม เลือกนั่งได้ทั้งด้านในและด้านนอก เมื่อมาถึงร้านนี้แล้วเมนูที่พลาดไม่ได้ ได้แก่ ครัวซองต์รสชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะครัวซองต์ชาเขียวรสอร่อยเกินห้ามใจ นอกจากนี้ยังมีเมนูอิ่มท้องอื่น ๆ อย่างพาสต้า สเต็ก สลัด ซุปเห็ดทรัฟเฟิล ฯลฯ แต่ละจานการันตีว่าอร่อยเด็ด

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
Fallabella River Front
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Fallabella

ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากชั้นบนสุดของไอคอนสยามได้ที่ร้านนี้ บอกเลยว่าเป็นร้านที่จะทำให้ทุกคนดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนได้อย่างเต็มอิ่ม จุดเด่นคือการเป็นร้าน Rooftop เสิร์ฟอาหารไทย-อิตาเลียน ช่วงค่ำยังเป็นบาร์ให้ดื่มชิล ๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสงสีของกรุงเทพฯ และโค้งน้ำเจ้าพระยาสุดโรแมนติก สำหรับเมนูที่อยากบอกต่อ ได้แก่ เนื้อย่าง บอกเลยว่าเนื้อนุ่มมาก ยิ่งรับประทานคู่กับซอสที่เสิร์ฟมาด้วยกันยิ่งลงตัว หรือจะเป็นเมนูพาสต้าก็อร่อยไม่แพ้กัน เส้นเหนียวหนึบแบบกำลังดี ถูกใจคนชอบอาหารอิตาเลียน นอกจากนี้ยังขอแนะนำซีซ่าร์สลัด เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะผักกรอบมากและน้ำสลัดเข้มข้นถึงใจ

  • ช่วงราคา : 500 – 1,200 บาท
Greyhound Café
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Greyhound cafe

ลิ้มรสความอร่อยของอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตกได้แบบไม่มีเบื่อ นอกจากมีเมนูให้เลือกมากมายแล้วยังได้รับชมวิวสวย ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวพระอาทิตย์ตกดินหรือวิวโค้งน้ำยามค่ำคืน การตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีขาวและสีดำสุดมินิมอล โดยรอบร้านแต่งแต้มด้วยกระจกเปิดรับวิวด้านนอกเต็มที่ พร้อมเพิ่มบรรยากาศสุดผ่อนคลายด้วยต้นไม้สีเขียวที่กระจายโดยรอบ เมนูแนะนำ ได้แก่ แซลม่อนแช่พริก ปลาส้มสีสันน่ารับประทานมาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด และปลากะพงย่างเสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่งและมันฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มและของหวานขึ้นชื่อ ได้แก่ ทับทัมกรอบ สาคูไอศกรีมมะพร้าว และชาไทย รสชาติเข้มข้นอร่อยแน่นอน

  • ช่วงราคา : 300 – 1,000 บาท
Café Chilli
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Cafe Chilli

ใครว่าในไอคอนสยามจะมีแต่ร้านอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตกเท่านั้น หากกำลังเปรี้ยวปากอยากรับประทานอาหารอีสานแนะนำที่ร้านนี้เลย ร้านอาหารอีสานพร้อมเสิร์ฟความแซ่บแบบพรีเมียม จุดเด่นคือวัตถุดิบสำคัญนำมาจากภาคอีสาน การันตีความอร่อยแซ่บ เมนูที่ต้องสั่ง ได้แก่ แจ่วฮ้อนหมูหมักน้ำมันงามาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด รวมถึงต้มแซ่บหมูเด้งและข้าวโพดทอด  อิ่มอร่อยท่ามกลางการจัดร้านแบบไทย ๆ ผสมผสานวัฒนธรรมอีสานไว้อย่างลงตัว

  • ช่วงราคา : 250 – 500 บาท
 Jumbo Seafood

ใครเคยไปเที่ยวสิงคโปร์เชื่อว่าต้องคุ้นหูชื่อร้าน Jumbo Seafood เพราะนี่คือร้านดังของสิงคโปร์ที่ทนกระแสความฮิตไม่ไหวเลยต้องมาเปิดร้านที่ไทย แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารที่เน้นซีฟู้ดเป็นหลัก และไม่ใช่แค่ซีฟู้ดธรรมดานะแต่เป็นซีฟู้ดขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู หอย คัดมาเฉพาะไซซ์บิ๊ก ๆ จนกลายเป็นจุดเด่นของร้านไปเสียแล้ว ที่นี่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบมาก ๆ โดยวัตถุดิบจะต้องสดใหม่เพื่อชูรสอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น การตกแต่งของร้านเรียบง่ายแต่หรูหรา มีกระจกบานใหญ่มองวิวด้านนอกได้ สำหรับเมนูแนะนำที่ต้องลอง ได้แก่ หนังปลาทอดไข่เค็มที่แอบกระซิบว่าอร่อยนัวและเข้มข้น กุ้งผัดพริกไทยและเกลือที่คัดกุ้งตัวโต ๆ แน่น ๆ และที่ขาดไม่ได้คือปูผัดไข่เค็ม เสิร์ฟเฉพาะปูไซซ์จัมโบ้และไข่เค็มหอม ๆ รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ คือดีไม่ไหว

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: nice two Sea u 나이스투씨유

ใครชื่นชอบอาหารทะเลบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด ร้านปิ้งย่างวิวแจ่ม ๆ ที่หาได้ยากในกรุงเทพฯ สำหรับร้านนี้จัดให้เพื่อคนรักการรับประทานปิ้งย่างอาหารทะเลสไตล์เกาหลี ร้านตั้งอยู่บน Rooftop เปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับเมนูที่บอกว่าต้องลอง ได้แก่ เมนูซีฟู้ดที่สั่งมาย่างได้แบบฟิน ๆ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปลาหมึก รับประกันความสดใหม่ รวมถึงยังมีเมนูปูดองซีอิ๊วเกาหลี จูกุมิกับหอยเชลล์กระทะร้อน และหอยสังข์ซาชิมิ แค่ได้ยินชื่อก็ท้องร้อง ขาดไม่ได้เลยคือน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด เมื่อรับประทานกับอาหารทะเลคืออร่อยลงตัวสุด ๆ นอกจากอาหารอร่อยถูกปากคนไทยแล้วยังมอบวิวสวย ๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกได้ว่าทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจกับบรรยากาศไปพร้อมกันเลยทีเดียว

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
HOBS ICONSIAM

ได้เวลาสนุกกับบาร์วิวแม่น้ำกันบ้าง บอกเลยว่าที่นี่เหมาะมากกับสายแฮงก์เอาท์ เพราะช่วงค่ำมีดนตรีสดแวะเวียนมามอบเสียงเพลง การจัดร้านเน้นความโปร่งสบายเพราะต้องการเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุด สำหรับอาหารพร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติ ไหนจะเครื่องดื่มที่มีทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และแบบไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับเมนูที่ต้องบอกต่อ ได้แก่ Truffle Cheese Bomb เบอร์เกอร์ชิ้นโต ไฮไลต์คือบันนุ่ม ๆ โดยเมนูนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านใครมาก็ต้องสั่ง อย่าลืมขาหมูเยอรมันที่บอกได้แค่ว่าเด็ดจริง ขาหมูกรอบมาก แถมน้ำจิ้มรสเด็ดอร่อยเกินห้ามใจ

  • ช่วงราคา : 400 – 1,000 บาท
Great Habour
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Great Harbour

เอาใจคนรักการรับประทานบุฟเฟต์กันบ้าง โดยนี่คือร้านบุฟเฟต์อาหารนานาชาติชื่อดังจากไต้หวัน บินมาเสิร์ฟความอร่อยให้คนไทยแบบไม่อั้น ภาพรวมร้านค่อนข้างใหญ่ รองรับได้มากถึง 400 ที่นั่ง ไลน์อาหารบอกเลยว่าจัดเต็ม โดยเฉพาะซีฟู้ดที่สดใหม่และชิ้นใหญ่เต็มคำ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู หอย หอยนางรม และซาชิมิ ซึ่งเป็นเมนูได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเมนูจานเดียวขอแนะนำเป็ดย่าง ซูชิเนื้อวากิว ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่น ที่รับรองว่าสั่งครั้งเดียวไม่เคยพอ และคนรักชีสต้องไม่พลาดเพราะที่นี่จัดเรียงชีสไว้อย่างน่ารับประทานแถมมีให้เลือกหลายแบบอีกด้วย

  • ช่วงราคา : 500 – 1,500 บาท
บ้านขนิษฐา
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: ถนัดชิม

แค่ชื่อร้านก็คาดเดาได้แล้วว่าเป็นร้านอาหารไทยอย่างแน่นอน และไม่ใช่แค่ร้านอาหารไทยธรรมดาแต่เป็นร้านอาหารไทยรสชาติไทยแท้ จุดเด่นของร้านคือแต่ละเมนูพิถีพิถันการจัดจานทำให้ทุกเมนูหน้าตาสวยงามน่ารับประทาน แถมรสชาติยังขึ้นชื่อ สูตรอาหารได้รับรางวัลการันตีความอร่อย คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี การแต่งร้านยังคงสอดแทรกด้วยความงามแบบไทย มีให้เลือกทั้งที่นั่งด้านในและที่นั่งด้านนอกเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เมนูที่ต้องบอกต่อ ได้แก่ กุ้งมังกรภูเก็ตทอดกระเทียมพริกไทย กระซิบว่ากุ้งตัวใหญ่มากและยังสดใหม่ ปูนิ่มผัดซอสมะขามรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี รวมถึงแกงส้มชะอมชุบไข่ทอด รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ คือเข้ากันเป็นอย่างดี

  • ช่วงราคา : 300 – 800 บาท

จะเห็นว่านอกจากที่นี่จะเป็นแลนมาร์กแห่งการชอปปิงแล้ว ร้านอาหาร iconsiam ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นไม่แพ้กัน เพราะมีหลากหลายร้านอาหารอร่อยมาพร้อมบรรยากาศดี โดดเด่นด้วยวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งหากเป็นตอนค่ำยิ่งได้สัมผัสลมเย็น ๆ และชื่นชมไปกับแสงสียามค่ำคืน จึงไม่น่าแปลกใจว่าเพราะอะไรไอคอนสยามจึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ทั้งคนไทยและต่างชาติต้องแวะเช็กอิน ใครอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ขอเชิญที่ไอคอนสยาม เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีเจริญนคร เชื่อมต่อสู่ห้างสรรพสินค้าได้เลย หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ก็มีที่จอดรถเพียบ สะดวกสบายไม่แพ้กัน 

ที่มาข้อมูล

อัพเดทคู่มือ: 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนใช้รถไฟฟ้าไปยังไอคอนสยามสายสีทอง

อัพเดทคู่มือ: 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนใช้รถไฟฟ้าไปยังไอคอนสยามสายสีทอง

หากเอ่ยถึงห้างสรรพสินค้าริมน้ำที่เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของทั้งคนไทยและต่างชาติ เชื่อว่าหลายคนจะต้องทายถูกว่าเรากำลังพูดถึง “ไอคอนสยาม” ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังไว้มากมายจนกลายเป็นจุดเช็กอินสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย นอกจากการเป็นห้างขนาดใหญ่แล้ว ปัจจุบันได้มีโครงการ ไอคอนสยาม รถไฟฟ้า สายสีทอง ครั้งแรกของไทยที่มีรถไฟฟ้าไร้คนขับ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางมาย่านนี้

ประวัติไอคอนสยาม ห้างริมน้ำสุดหรูของไทย

ห้างหรูริมแม่น้ำแห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง สยามพิวรรธน์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดิเวล็อปเม้นต์ ร่วมทุนกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อเนรมิตห้างหรูบนพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร ของเขตคลองสาน ใครที่เคยคิดว่าไอคอนสยามเป็นห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียวต้องบอกว่าเข้าใจผิด เพราะประกอบด้วยส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้า อาคารสำหรับพักอาศัย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ สยาม ทาคาชิมายะ ห้างพรีเมียมจากญี่ปุ่นที่เปิดสาขาในไทยครั้งแรก ความยิ่งใหญ่นี้จึงทำให้ไอคอนสยามกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของไทยที่มีคนไทยและต่างชาติแวะเวียนมาไม่ขาดสาย

ประวัติไอคอนสยาม ห้างริมน้ำสุดหรูของไทย
  1. รถไฟฟ้าสายสีทองถูกยกให้เป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับสายแรกของไทย เปิดให้บริการเพียง 3 สถานีเท่านั้น ได้แก่ กรุงธนบุรี เจริญนคร และคลองสาน ใครได้ใช้บริการถือว่าเอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ  
  2. เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563
  3. ใครอยากมาไอคอนสยามต้องลงสถานีเจริญนคร ทางออก 3 รับรองถึงชัวร์ เดินเข้าทางเชื่อมตัวห้างสรรพสินค้าได้เลย
  4. รถไฟฟ้าสายสีทองออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคนที่พักอาศัยละแวกนั้น เพราะใช้ตอม่อขนาดเล็ก ไม่กินพื้นที่ ลดการเวนคืน และออกแบบให้ลดเสียงรบกวน ทันสมัยและทนทานสุด ๆ 
  5. รู้หรือไม่ รถไฟฟ้าสายสีทองคือรูปแบบเดียวกับรถไฟฟ้าที่ให้บริการที่ London Heathrow (อังกฤษ) และที่ Frankfurt Main (เยอรมัน)
  6. รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 276 คนต่อขบวน รอคิวไม่นานแน่นอน
  7. แม้จะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน มีเวลาแค่ 6 นาที ก็เดินทางจากสถานีกรุงธนบุรีถึงไอคอนสยามได้ 
  8. ทำความเร็วสูงสุดถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รีบแค่ไหนก็เอาอยู่ทั้งคนทำงานและคนที่เดินทางไปย่านนั้น
  9. ราคาสบายกระเป๋า เพียง 16 บาทตลอดสาย
  10. เปิดบริการเช้าและปิดดึก เวลาให้บริการ รถขบวนแรก 06.00 น. และขบวนสุดท้ายให้บริการเวลาประมาณ 23.30 น. ชอปปิงกันถึงดึกได้เลย

ใครที่คิดว่าการเดินทางไปไอคอนสยามไม่สะดวกสบายเพราะไม่ใช่ห้างใจกลางเมือง บอกเลยว่าผิดคาด เพราะ ไอคอนสยาม รถไฟฟ้า สายสีทองพร้อมให้บริการแล้ว อุดรอยรั่วด้านการเดินทางที่เคยคิดว่ายากให้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับความสะดวกสบาย อยากชอปปิงเมื่อไหร่ก็เดินทางได้อย่างรวดเร็วทันใจ

ที่มาข้อมูล

ตะลุยความสนุก! รีวิวเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดในฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม 2024

ที่มารูปภาพ : harborland

หากพูดถึงสนามเด็กเล่นในยุคนี้คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ที่มีลูกอยู่ในวัยกำลังซนแทบทุกคนจะรู้จักกับ “ฮาร์เบอร์แลนด์” สนามเด็กเล่นชื่อดังจากต่างประเทศที่เด็กเข้าได้ตั้งแต่อายุ 5 เดือน ไปจนถึงอายุ 15 ปี หลังจากที่ฮาร์เบอร์แลนด์เปิดตัวในไทยมานานกว่า 7 ปี ก็มีสาขาเพิ่มมากขึ้นหลายแห่ง รวมถึง ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ บนพื้นที่ชั้น 6 ที่กว้างมากถึง 5,000 ตร.ม. ได้ถูกเนรมิตเป็น Mega Harborland ในธีม Little Thailand ความหมายคือสนุกที่เดียว เที่ยวได้ทั่วไทย เพราะผู้จัดต้องการให้การพาครอบครัวมาเที่ยวที่นี่เป็นเสมือนกับการได้ไปท่องเที่ยวทั่วประเทศในวันเดียว

เครื่องเล่นในฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยามมีกี่โซน 

ที่นี่มีเครื่องเล่นครบรสความสนุกแบบสุด ๆ ซึ่งนอกจากเครื่องเล่นในโซน Mega Harborland ที่ทั้งสนุกและตื่นเต้นแล้ว ยังมีโซน JumpZ ให้กระโดดอย่างจุใจและท้าทายความเร็ว อีกโซนหนึ่งคือ Harbor Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่แบบ Full Floor ทุกโซนเปิดให้เด็กทุกวัยเข้าไปเล่นได้ เพราะจะมีเครื่องเล่นชนิดต่าง ๆ ที่พร้อมสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย ไปดูกันว่าไฮไลต์ของที่นี่มีอะไรบ้าง

  • เครื่องเล่นในโซน Mega Harborland เล่นได้ทั้งเด็กเล็กและเด็กโต 
  • เครื่องเล่นสไลเดอร์ มี Dragon Spiral Tower Slide เครื่องเล่นที่ต้องสไลด์ลงมาจากหอคอยมังกร ให้ความสนุกและตื่นเต้นเหมือนได้ผจญภัย, Boomerang Donut Slide เครื่องเล่นสไลด์แบบสะใจกับแรงเหวี่ยง และ Ta-Khon Roller Slide เครื่องเล่นโรลเลอร์สไลด์ที่ยาวที่สุด ไม่ควรพลาด เด็กเล็กสามารถเล่นได้นั่งตักคุณแม่สไลด์ลงได้เลย
  • Zip Line เครื่องเล่นห้อยโหนให้เด็กไหลลื่นไปตามเส้นลวดเหมือนนกโบยบิน แต่ไม่สูงมาก ปลอดภัยสำหรับเด็ก 
  • เครื่องเล่นแนวแข่งขัน มี Interactive Ball Attack เครื่องเล่นแข่งชู๊ตลูกบอล และ Interactive Cannon Target เครื่องเล่นแข่งยิงปืน เหมาะสำหรับเด็กโตที่ชอบเล่นแข่งขันทำคะแนน
  • โซน JumpZ มีเครื่องเล่นแทรมโพลีนสำหรับเด็กเล็กและเด็กโต 
  • High 9 Interactive Trampoline เครื่องเล่นกระโดดกดปุ่มเพื่อทำคะแนนบนแทรมโพลีน เหมาะสำหรับเด็กโต
  • Sweeper Trampoline เครื่องเล่นกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางบนแทรมโพลีน ฝึกความเร็ว เหมาะสำหรับเด็กโตเช่นกัน
  • โซน Harbor Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่เต็มพื้นที่
  • Sweeper Inflatable เป็นเครื่องเล่นที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางให้เด็กได้ใช้ทักษะในการหลบหลีก ฝึกความคล่องแคล่วและท้าทาย เด็กเล็กเล่นได้ พื้นผิวเครื่องเล่นรองรับการล้มไม่ต้องกลัวเจ็บ

นอกจากความสนุกสนานที่หยิบยกมานี้ยังมีเครื่องเล่นอีกมากมายรอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเองที่ ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ชั้น 6 ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทต่อคน คิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง หากมาหลายคนหรือจัดกิจกรรมทัศนศึกษา, Team Building สามารถซื้อเป็นแพ็กเกจได้ จองบัตรออนไลน์ที่เว็บไซต์ของ Harborland Group เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น. Long Weekend เปิดให้บริการถึง 21.00 น. 

ที่มาข้อมูล

ตะลุยกิน! 8 ร้านอาหารจตุจักร 2024 อร่อยเด็ด ฟินทุกจาน

ตะลุยกิน! 8 ร้านอาหารจตุจักร 2024 อร่อยเด็ด ฟินทุกจาน

จตุจักรแหล่งชอปปิงสุดฮิปของเมืองไทย บอกเลยว่าดีกรีความฮิตไม่แพ้แหล่งชอปปิงอื่น ๆ เพราะจตุจักรกลายเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องแวะมา รวมถึงคนไทยที่หากไม่รู้จะไปไหนก็ต้องนึกถึงจตุจักร โดยที่นี่รวบรวมสินค้าเอาไว้มากมาย ชอปได้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ นอกจากโดดเด่นเรื่องสินค้าแล้วต้องบอกว่า ร้านอาหารจตุจักร ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน รวบรวมความอร่อยไว้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสายปิ้งย่าง สายแซ่บ หรือสายไหน ๆ ก็แวะมาชิมความอร่อยได้แบบไม่มีเบื่อ 

ชี้เป้า ร้านอาหารจตุจักร สุดเด็ด แนะนำต้องแวะ 

ร้านแซ่บ สายกินเส้นก๋วยเตี๋ยวสุดเด็ดประจำจตุจักร

ใครชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือห้ามพลาดโดยเด็ดขาด บอกเลยว่าวัตถุดิบสดใหม่ จุดเด่นคือน้ำก๋วยเตี๋ยวมีกลิ่นหอมซีอิ๊วดำ เข้มข้น น่ารับประทานมาก ๆ มีให้เลือกทุกเส้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ หรือบะหมี่ ขาดไม่ได้คือกระเทียมเจียวที่เจียวใหม่วันต่อวัน อย่าลืมสั่งแคบหมูเพิ่มดีกรีความอร่อย ที่สำคัญควรรับประทานพร้อมเครื่องดื่มหวาน ๆ เติมความสดชื่นระหว่างเดินเล่นสวนจตุจักร

ใครชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่แล้วเชื่อว่าต้องรู้จักร้านนี้เพราะมีอยู่หลายสาขา เช่นเดียวกับที่สาขาสวนจตุจักรที่ตั้งอยู่ในโครงการ The Mix จุดเด่นคือน้ำก๋วยเตี๋ยวที่เข้มข้น สีสันน่ารับประทาน ราคาเริ่มต้นเพียงชามละ 20 บาท แต่บอกเลยว่าคุณภาพคับแน่น อย่าลืมสั่งแคบหมูและเกี๊ยวเพิ่มความฟิน รวมถึงเครื่องดื่มอร่อย ๆ ที่เข้ากันดี ความได้เปรียบคือมีที่นั่งในห้องแอร์เย็น ๆ ใครเดินผ่านโครงการ The Mix อย่าลืมไปแวะชิมความอร่อย

ร้านอาหารทะเล ซีฟู้ด สูตรเด็ดแซ่บเสร็จที่จตุจักร 

มากันที่คนชอบรับประทานอาหารทะเล บอกเลยว่าที่จตุจักรมีร้านอาหารทะเลให้เลือกหลายร้านเพราะเป็นเมนูโปรดของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมนูกุ้งถังของร้านกุ้งถัง อลังเวอร์ แต่ละวันมีนักชิมแวะเข้ามาแบบไม่ขาดสาย ร้านนี้ตั้งอยู่ในเจเจกรีน มาร์เก็ต เลือกมาให้เฉพาะกุ้งตัวโต ๆ และน้ำจิ้มรสเด็ด แน่นอนว่าใช้มือแกะกุ้งได้ตามสบายเพราะมีถุงมือบริการ นอกจากกุ้งแล้วยังมีเมนูหอย ปลาหมึกสด ๆ เรียกได้ว่ายกทะเลมาไว้ที่นี่ ใครเป็นสายซีฟู้ดแนะนำให้แวะมารับประทาน

ร้านกุ้งเผาที่ได้รับความนิยมในจตุจักร แค่ชื่อก็เดาออกว่าเมนูยอดฮิตคือกุ้งเผาตัวโต ๆ ที่สำคัญคือสดใหม่ สะอาดแน่นอน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด แซ่บ แต่เผ็ดแบบกำลังดี นอกจากเมนูขึ้นชื่ออย่างกุ้งเผาแล้วยังมีเมนูปลาเผาที่น่ารับประทานไม่แพ้กัน เสิร์ฟพร้อมผักสดและน้ำจิ้ม ใครไปจตุจักรอย่าลืมแวะไปชิมความอร่อย

มองหาร้านอาหารอิสลามต้องร้านนี้ 

ต้องยอมรับเลยว่าสวนจตุจักรได้รวมความหลากหลายของร้านอาหารเอาไว้จริง ๆ สำหรับใครที่มองหาร้านอาหารอิสลามก็สามารถแวะชิมความอร่อยได้ที่ร้านบังหมานราชาข้าวหมกไก่ ตั้งอยู่ภายในสวนจตุจักร โครงการ 5 ร้านนี้ไม่ว่าคนไทยหรือคนต่างชาติก็ต้องมาแวะรับประทาน เมนูไฮไลต์แน่นอนว่าเป็นข้าวหมกไก่ ข้าวหุงมาแบบนิ่มกำลังดี หอมกลิ่นเครื่องเทศ มาพร้อมไก่เนื้อแน่นทำสดแบบวันต่อวัน อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดคือข้าวเหนียวไก่ทอด เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเพราะหมักจนเข้าเนื้อ อร่อยติดใจแน่นอน

อีกหนึ่งร้านอาหารอิสลามที่รวบรวมเมนูเอาไว้มากมาย ใครอยากลิ้มลองความอร่อยเรียนเชิญที่สวนจตุจักร โครงการ 27 เมนูเด่นคือข้าวหมก 3 สี มีให้เลือกทั้งไก่และเนื้อ ทุกจานเนื้อแน่น ทำสดใหม่ หอมเครื่องเทศอ่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีข้าวซอยไก่ ลูกชิ้นเนื้อ อย่าลืมสั่งข้าวหมกอินเดียที่เรียกได้ว่าเป็นจานเด็ดเช่นกัน

ร้านปิ้งย่างที่ไม่ควรพลาด เหมาะกับสายย่างเนื้อ 

เอาใจคนชอบเดินสวนจตุจักรแล้วเกิดอยากรับประทานเมนูปิ้งย่าง แนะนำว่าต้องแวะร้านนี้ ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเจเจกรีน ตอบโจทย์คนชอบเนื้อย่าง เพราะจัดเต็มเนื้อพรีเมียมให้เลือกแบบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้ออสเตรเลีย เนื้อลายมัน เนื้อสัน เนื้องน่องลาย รวมถึงเนื้อพริกไทยดำที่กลิ่นพริกไทยหอมสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีชุดหมูและชุดซีฟู้ดไว้บริการ แอบกระซิบว่าข้าวผัดกระเทียมอร่อยสุด ๆ แนะนำว่าต้องสั่งเลย

หากมาเดินเล่นสวนจตุจักรและมองหาร้านปิ้งย่างบรรยากาศดี บอกเลยว่าห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด เพราะนี่คือร้านปิ้งย่างที่ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของเจเจกรีน นอกจากได้ชื่นชมกับวิวเมืองสวย ๆ อาหารของที่นี่ยังมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ เนื้อ หรือแม้แต่ซีฟู้ด วัตถุดิบแต่ละอย่างสดใหม่ ชิ้นโต มีครบทั้งกุ้ง หอย ปลาหมึก ที่สำคัญน้ำจิ้มรสเด็ดมาก ใครมาก็ต้องติดใจ นอกจากนี้อาหารทานเล่นก็จัดเต็มไม่แพ้กัน อย่าลืมปิดท้ายด้วยไอศกรีม โดยเฉพาะไอศกรีมเจลาโตที่เขาว่ากันว่าอร่อยมาก

ใครรู้ตัวว่าเป็นสายกินอย่าลืมแวะเวียนมาสัมผัสความอร่อยได้ที่สวนจตุจักร เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีกำแพงเพชรก็สามารถเดินชอป ชิม ชิลได้แบบเพลิน ๆ บอกเลยว่าเผื่อเวลาเอาไว้เยอะ ๆ เพราะเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ รวบรวมสินค้าและอาหารไว้แบบคับคั่ง รับรองว่าเลือกซื้อสินค้าได้แบบเพลิน ๆ ใครเป็นสายชอป สายกิน ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

ที่มาข้อมูล :

รวมวิธีเช็คเที่ยวบินด้วยตัวเองง่ายๆ กันพลาดก่อนเดินทาง

รวมวิธีเช็คเที่ยวบินด้วยตัวเองง่ายๆ กันพลาดก่อนเดินทาง

การเดินทางด้วยเครื่องบินในบางทริปอาจมีเรื่องให้ลุ้น ไม่ไฟลต์ดีเลย์ก็ยกเลิกเที่ยวบิน ดังนั้นก่อนวันเดินทางควร เช็คเที่ยวบิน ล่วงหน้า โดยดูจากอีเมลแจ้งเตือนหรือเข้าไปเช็กที่เว็บไซต์สนามบินที่จะไปขึ้นเครื่อง หรืออีกวิธีหนึ่งคือโหลดแอปพลิเคชันของสายการบินที่จองตั๋วไว้เพื่อเช็กไฟลต์บิน หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็เตรียมตัวเดินทางได้ ใช้วิธีเช็กอินออนไลน์ง่ายมาก เรามาทำความรู้จักกับวิธีเช็กอินแบบนี้กันเพราะเป็นวิธีที่สะดวกกว่าเยอะเลย

ทำความรู้จักกับการเช็กอินออนไลน์

ทำความรู้จักกับการเช็กอินออนไลน์

ในปัจจุบันนี้สามารถเช็กอินล่วงหน้าได้จากที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของสายการบิน โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง หลังจากเช็กอินแล้วจะได้รับ Boarding Pass คุณสามารถปรินต์หรือโหลดไว้ในโทรศัพท์แล้วถือติดตัวไปขึ้นเครื่องได้เลย 

  • เช็กอินออนไลน์ต่างกับเช็กอินหน้าเคาน์เตอร์อย่างไร?

สมัยก่อนต้องไปเข้าคิวรอเช็กอินกันที่หน้าเคาน์เตอร์สายการบินก่อนเวลาขึ้นเครื่อง อย่างน้อย 3 ชั่วโมงสำหรับทริปต่างประเทศ และ 1 – 2 ชั่วโมง สำหรับทริปในประเทศ ถ้าเช็กอินไม่ทันทริปนั้นคือพลาด ต่างจากยุคนี้ที่สายการบินต่าง ๆ ได้เปิดให้เช็กอินผ่านอินเทอร์เน็ตได้ก่อนวันเดินทาง ไม่ต้องกังวลกับการที่จะต้องออกจากบ้านตี 1 ตี 2 สำหรับไฟลต์เช้า และไม่ต้องเสียเวลาไปยืนเข้าคิวรอนานที่เคาน์เตอร์อีกด้วย  

  • ใครที่เหมาะกับการเช็กอินออนไลน์

การเช็กอินออนไลน์เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางในประเทศและผู้เดินทางที่ไม่มีกระเป๋าโหลด ส่วนผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของสายการบินว่าจะให้ทำได้หรือไม่ เพราะการไปต่างประเทศมีขั้นตอนในเรื่องการตรวจสอบเอกสารหลายอย่างจึงอาจไม่สะดวกในการใช้บริการเช็กอินออนไลน์ แต่บางสายการบินก็สามารถทำได้

  • ขั้นตอนการเช็กอินออนไลน์

ผู้เดินทางต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ในหน้า Check-in หรือแอปพลิเคชันของสายการบิน แล้วกรอกข้อมูลรายละเอียดของตัวเอง เช่น ชื่อ-นามสกุล ข้อมูล Passport เบอร์โทร และหมายเลขการจอง ข้อสำคัญคือต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องก่อนกดยืนยัน เพียงเท่านี้ก็จะได้รับ Boarding Pass ทางอีเมลหรือโหลดในแอปพลิเคชันให้คุณนำไปแสดงตอนขึ้นเครื่อง 

  • สายการบินที่มีบริการเช็กอินออนไลน์
สายการบินที่มีบริการเช็กอินออนไลน์
  • การบินไทย 
  • บางกอกแอร์เวย์ 
  • เอมิเรตส์ 
  • แอร์ฟรานซ์ 
  • เอทิฮัดแอร์เวย์ 
  • ออลนิปปอนแอร์เวย์ 
  • คาเธ่ย์แปซิฟิก 
  • เคแอลเอ็ม 
  • โคเรียนแอร์ 
  • ไทยแอร์เอเชีย 
  • ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ 
  • ไทยไลอ้อนแอร์ 
  • ไทยสมายล์ 
  • นกแอร์ 
  • สกู๊ต 
  • เจ็ทสตาร์ 
  • เวียดเจ็ทแอร์ 

สำหรับการเดินทางครั้งใหม่ถ้าหากว่าไม่มีกระเป๋าโหลดหรือเป็นการเดินทางในประเทศ อย่าลืม เช็คเที่ยวบิน ให้ชัวร์แล้วเช็กอินออนไลน์ก่อนล่วงหน้า สะดวกกว่า ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องกลัวตกเครื่อง และหากต้องการใช้บริการรับฝากกระเป๋าหรือส่งกระเป๋า แนะนำ Airportels ช่วยลดภาระในการเดินทางให้คุณตัวเบาขึ้น เดินทางสบายทั้งไปและกลับ สนุกกับทุกทริปได้อย่างเต็มที่

ที่มาข้อมูล

แชร์เคล็ดลับ! เช็คเที่ยวบินง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไม่ต้องง้อเจ้าหน้าที่

แชร์เคล็ดลับ! เช็คเที่ยวบินง่ายๆ ด้วยตัวเอง ไม่ต้องง้อเจ้าหน้าที่

ใครกำลังวางแผนเดินทางโดยเครื่องบิน โดยเฉพาะการขึ้นเครื่องบินครั้งแรก แนะนำว่าควรทำความรู้จักคำศัพท์ต่าง ๆ เกี่ยวกับการเดินทาง จะได้รู้ว่าควร เช็คเที่ยวบิน อย่างไร เช็คอินตรงไหน และยังอ่านตั๋วเครื่องบินได้อย่างถูกต้องแบบไม่ต้องกลัวตกเครื่อง

ทำความรู้จักกับคำศัพท์ต่าง ๆ ที่ควรรู้ ก่อนเดินทางไปสนามบิน

ทำความรู้จักกับคำศัพท์ต่าง ๆ ที่ควรรู้ ก่อนเดินทางไปสนามบิน
  • Departure วันและเวลาเดินทางที่ออกจากสนามบินต้นทาง
  • Arrival วันและเวลาเดินทางที่ไปถึงยังประเทศปลายทาง
  • Flight ชื่อเรียกเที่ยวบิน เช่น TG 213 หากได้ยินประกาศเลขที่ไฟลท์บินของตัวเองเมื่อไหร่ให้รีบตั้งใจฟังดี ๆ 
  • Transit เที่ยวบินที่มีการเปลี่ยนเครื่องระหว่างเดินทาง
  • Terminal อาคารผู้โดยสาร ซึ่งบางสนามบินมีอาคารผู้โดยสารมากกว่า 1 อาคาร
  • Booking Reference รหัสที่ได้จากการจองตั๋วเครื่องบินใช้อ้างอิงในเอกสารว่ามีการจองแล้ว
  • Row แถวที่นั่ง
  • Seat หมายเลขที่นั่งบนเครื่องบิน
คำศัพท์เกี่ยวกับการเช็กอิน
  • Check-in ขั้นตอนที่ผู้โดยสารต้องแสดงตัวโดยต้องแสดงพาสปอร์ตตัวจริงที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่เดินทาง บางสายการบินอนุญาตให้เช็กอินผ่านเว็บไซต์ได้ด้วย
  • Boarding Pass หลังจากเช็กอินจะได้รับ Boarding Pass หรือเอกสารอนุญาตให้ขึ้นเครื่อง ซึ่งใน Boarding Pass จะระบุประตูขึ้นเครื่อง ที่นั่ง และเวลาเดินทาง
  • Carry-on Luggage สัมภาระที่นำติดตัวขึ้นเครื่องได้ ส่วนใหญ่จะถูกจำกัดน้ำหนักให้ไม่เกิน 7 – 10 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของสายการบินนั้น ๆ 
  • Gate ประตูขึ้นเครื่อง ซึ่งผู้โดยสารควรเดินไปถึงประตูขึ้นเครื่องก่อนเครื่องออก 30 – 45 นาที
คำศัพท์เกี่ยวกับจุดตรวจกระเป๋าเดินทาง
  • Baggage Allowance จำนวนกระเป๋าเดินทางที่อนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องและโหลดใต้เครื่องบิน ซึ่งแต่ละสายการบินจำกัดจำนวนไม่เท่ากัน
  • X-Ray Machine เครื่องเอกซเรย์กระเป๋าเพื่อใช้ตรวจสอบการลักลอบขนของผิดกฎหมาย รวมถึงอาวุธอันตราย
  • Overweight น้ำหนักกระเป๋าเกิน ซึ่งหากพบปัญหานี้ต้องแก้ด้วยการนำสิ่งของบางส่วนโหลดใต้เครื่องบิน
คำศัพท์เกี่ยวกับจุดตรวจของและคนเข้าเมือง
  • Immigration จุดตรวจคนเข้าเมือง ซึ่งการเดินทางเข้าประเทศอื่น ๆ จำเป็นต้องผ่านจุดนี้เสมอ
  • Passport Control จุดตรวจหนังสือเดินทาง
  • Arrival Card ใบตรวจเข้าเมือง 
  • Departure Card ใบตรวจคนเข้าเมืองขาออกสำหรับยื่นให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง
  • Customs ด่านศุลกากร สำหรับแสดงสิ่งของ กรณีมีสิ่งของที่ต้องสำแดงตามเงื่อนไขของประเทศนั้น ๆ 

หากมีแพลนเดินทางด้วยเครื่องบินอย่าลืมทำความรู้จักคำศัพท์เหล่านี้เอาไว้ รับรองว่าจะช่วยคุณได้ ทำให้อ่านตั๋วเครื่องบิน เช็คเที่ยวบิน และเข้าใจคำเรียกต่าง ๆ ในสนามบินได้ดียิ่งขึ้น หมดห่วงว่าจะพลาดเที่ยวบินสำคัญ เพราะใครที่เดินทางโดยเครื่องบินเป็นประจำจะทราบดีว่าการตกเครื่องคือเรื่องใหญ่และยังเสียค่าใช้จ่ายสูง อีกทั้งพื้นที่ในสนามบินยังกว้างใหญ่ การเข้าใจคำศัพท์ต่าง ๆ จะทำให้เดินไปยังตำแหน่งที่ต้องการง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นควรทำความรู้จักคำศัพท์เหล่านี้ไว้ รับรองไม่มีพลาด

ที่มาข้อมูล

รวม 5 ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ สนามบินสุวรรณภูมิ 2024

บริการเช่ารถยนต์ สนามบินสุวรรณภูมิ 2024

สำหรับนักเดินทางที่กลับจากต่างประเทศหรือใครที่เข้ากรุงเทพฯ โดยนั่งเครื่องบินมาลงสุวรรณภูมิ หากยังนึกไม่ออกว่าจะไปต่อกันอย่างไร แนะนำให้ใช้บริการ เช่ารถ สนามบินสุวรรณภูมิ มีบริษัทเช่ารถให้เลือกมากมาย หลายคนคงจะเคยเห็นและคุ้นตากันมาบ้างแล้ว เช่น ECOCAR rent-a-car, Summer Carrent, Bizcar Rental การเช่ารถขับเองสะดวกกว่า ไม่ว่าจะไปที่ไหน ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ หรือเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ๆ สามารถจอดทำธุระหรือแวะพักตามแพลนของตัวเอง ทุกภารกิจสามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไปมาอย่างไร เพราะคุณสามารถเช่าขับได้ตลอดการเดินทาง บริษัทเช่ารถมีหลายแห่ง ถ้าใครกำลังมองหาบริการนี้ ดูจากลิสต์นี้ได้เลย

1. ECOCAR rent-a-car

ECOCAR rent-a-car
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: เช่ารถ ECO Car

ที่ทำการบริษัทสาขาสุวรรณภูมิตั้งอยู่ติดกับสนามบิน (ภายนอกสนามบิน) เปิดให้เช่ารถขับเองจากสนามบินสุวรรณภูมิหรือจะเช่าเป็นรถรับ-ส่งก็ได้ มีรถหลายรูปแบบให้เลือก ทั้ง SUV สำหรับผู้ที่เดินทางหลายคน, รถปิคอัพ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางต่างจังหวัดหรือมีการขนของจำนวนมาก, รถเก๋งทั่วไป สำหรับผู้เช่าที่เดินทางคนเดียวหรือ 2 คน ECOCAR มีรถเช่าหลายยี่ห้อเลือกได้หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Toyota Ativ, Toyota Yaris, Isuzu Space Cab, Honda Mobilio ฯลฯ สามารถโทรหรือติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลเพื่อเช่ารถและบริษัทจะนำรถมาส่งให้ที่อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 8 

นอกจากสาขาที่เปิดให้ เช่ารถ สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วยังมีสาขาในกรุงเทพฯ อีก 7 แห่ง และสาขาในต่างจังหวัด ได้แก่ พัทยา เชียงใหม่ หาดใหญ่ และอุบลราชธานี

  • ค่าเช่ารถเริ่มต้นที่วันละ 1,000 บาทต้น ๆ  มีค่าเงินมัดจำ 5,000 บาท
  • ECOCAR เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 – 20.00 น.

ช่องทางติดต่อ:

  • Facebook : รถเช่าสุวรรณภูมิ By Ecocar
  • Line : @ecocar
  • E-mail : [email protected]  
  • ติดต่อเช่ารถโทร: Call Center 02-002-4604

2. SUMMERCARRENT

SUMMERCARRENT: เช่ารถกรุงเทพ กทม เริ่มวันละ 500 บาท

เปิดให้บริการเช่ารถ 2 สาขา คือ สาขาบางแคและสาขาบางนา ไม่มีเคาน์เตอร์ที่สนามบินสุวรรณภูมิแต่สามารถติดต่อเช่ารถโดยโทรจองหรือผ่านทางไลน์และนัดรับรถที่สนามบินได้เลย เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ให้เช่ารถสภาพดีในราคาที่ไม่แพง รูปแบบของรถเช่าทุกคันที่นี่จะเป็นรถขับเกียร์ออโต้ทั้งหมด สามารถเลือกยี่ห้อรถได้ตามความต้องการใช้งานและจำนวนผู้โดยสารในรถ ยี่ห้อรถที่พร้อมให้บริการคือ Toyota, Honda, Nissan, Mitsubishi, Suzuki ข้อดีของที่นี่คือบริการรับส่งรถถึงที่และมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินในระหว่างการเดินทางที่ติดต่อง่าย 

  • Summer Carrent เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30 – 18.00 น.
  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 500 บาท ราคารวมประกันแล้ว
  • ผู้เช่าต้องจ่ายเงินจองล่วงหน้า 1,000 บาท ระยะเวลาเช่าขั้นต่ำ 5 วัน

ช่องทางติดต่อ:

  • Line ID : @summercarrent
  • E-mail : [email protected]
  • ติดต่อเช่ารถโทร: 089-770-8822, 02-100-6365

3. Drive Car Rental

Drive Car Rental

มีบริการรถเช่าภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ช่วงระหว่าง Gate 7 และ 8 ข้อดีของที่นี่คือรถใหม่ มีบริการเช่ารถพรีเมียม อย่าง BMW, Mercedes Benz และรถไฟฟ้าให้เลือกอย่าง Tesla, BYD แต่หากต้องการประหยัดแนะนำเป็น Eco Car และ City Car เหมาะกับผู้เช่ากลุ่มเพื่อน จำนวนคนนั่งไม่เกิน 5 คน หากมาเป็นครอบครัวสามารถเลือกรถใหญ่ รถ SUV ส่วนกรณีเดินทางกลุ่มใหญ่มีรถตู้ให้บริการ

ในการจองรถสามารถติดต่อล่วงหน้าแล้วรอรับรถที่สนามบินหรือจะมาจองที่เคาน์เตอร์ Drive Car Rental สุวรรณภูมิก็ได้เช่นกัน  

  • Drive Car Rental เคาน์เตอร์สุวรรณภูมิเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง สำนักงานใหญ่อยู่ที่ถนนศรีนครินทร์
  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 1,000 บาทต้น ๆ 
  • ลงทะเบียนเป็นสมาชิกทางเว็บไซต์มีส่วนลด 10%

ช่องทางติดต่อ:

4. Bizcar Rental

 Bizcar Rental

เคาน์เตอร์อยู่ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า สนามบินสุวรรณภูมิ ใครที่เดินทางมาลงเครื่องที่นี่ติดต่อเช่ารถได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีบริการรถเช่าหลายยี่ห้อ หลายประเภทตั้งแต่รถเก๋งซีดานสำหรับ 1 – 4 คน รถยนต์ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง รถกระบะ หรือปิคอัพสำหรับผู้ที่ต้องการบรรทุกสิ่งของไปด้วย รถตู้ 11 ที่นั่ง ยี่ห้อยอดนิยมที่ให้บริการคือ Toyota, Nissan และสำหรับผู้ที่ต้องการรถพรีเมียมมียี่ห้อ Benz ไว้ให้บริการ ทุกคันเป็นรถใหม่ใช้งานไม่เกิน 3 ปี มีการเช็กระยะทุกปี 

นอกจากสาขาสุวรรณภูมิแล้ว Bizcar Rental ยังมีสาขาอื่นในกรุงเทพฯ และที่เชียงใหม่, ภูเก็ต, สนามบินอู่ตะเภา และอื่นๆ รวม 11 สาขา

  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 700 พร้อมประกัน
  • โปรพิเศษเริ่มต้น 650 บาท สำหรับจองรถล่วงหน้า (พ.ค. – ส.ค. 2567)

ช่องทางติดต่อ:

5. Hertz Thailand

Hertz Thailand

เคาน์เตอร์ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ช่วงระหว่าง Gate 7 และ 8 เปิด 24 ชั่วโมง ให้บริการรถเช่าเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำธุระหรือไปสถานที่ท่องเที่ยว ผู้เช่าสามารถเลือกรถได้ทุกรูปแบบ และเลือกลักษณะรถได้ตามการใช้งาน จำนวนที่นั่งผู้โดยสาร พื้นที่บรรจุสิ่งของ และระยะทางรวมที่จะขับรถ รถที่พร้อมให้บริการส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อยอดนิยม เช่น Honda, Toyota และมีรถไฟฟ้าให้บริการ เช่น ORA Good Cat 

Hertz สาขาอื่นที่ให้บริการคือที่สนามบินดอนเมืองและสาขากรุงเทพฯ-สาทร ติดต่อเช่ารถโทร Call Center 02 266-4666 หรือที่

  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 700 บาท

ช่องทางติดต่อ:

บริษัทรถเช่าทุกแห่งล้วนแล้วแต่มีข้อดีและจุดเด่น แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะให้บริการที่คล้าย ๆ กัน ถูกชะตากับเคาน์เตอร์ไหน เดินเข้าไปติดต่อได้ตามความต้องการใช้งาน แต่สำหรับบริษัทที่ไม่มีเคาน์เตอร์ในสนามบินก็สามารถโทรติดต่อเพื่อขอรายละเอียดดูอีกครั้ง อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่เหมาะกับคุณก็ได้

ที่มาข้อมูล

ล่องเรือเจ้าพระยา: ค้นพบสุดยอด 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้การเดินทางของคุณไม่ธรรมดา

วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับสายน้ำมาเนิ่นนานโดยเฉพาะ “แม่น้ำเจ้าพระยา” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่ครั้งอดีต แม้ปัจจุบันบทบาทและความสำคัญจะลดเลือนลงไปตามกาลเวลา แต่ความงดงามของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังคงมีมนต์เสน่ห์เสมอ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายทำให้ทุกวันนี้ง่ายต่อการไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ริมฝั่งแม่น้ำ ทว่าการล่องเรือชมแม่เจ้าพระยาเป็นหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากนั่นเพราะจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามจากหลายสถานที่ในมุมมองที่แตกต่างแบบพาโนรามาด้วยเวลาเพียงไม่นาน 

10 แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อล่องเรือเจ้าพระยา

10 แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อล่องเรือเจ้าพระยา
วัดอรุณราชวราราม

วัดเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอกแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งในสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งในยุคนี้มีการอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรจากเวียงจันทน์มาประดิษฐานไว้ที่นี่ด้วย ต่อมารัชกาลที่ 2 ทรงสถาปนาเป็นวัดประจำพระองค์ และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดอรุณราชธาราม จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นวัดอรุณราชวรารามในสมัยรัชกาลที่ 4 วัดอรุณราชวรารามมีพระปรางค์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามด้านสถาปัตยกรรม โดดเด่นด้วยความสูงถึง 82 เมตร หากล่องเรือผ่านมาในช่วงเย็นจะมองเห็นภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าด้านหลังพระปรางค์ซึ่งสวยงามเกินคำบรรยาย หากเป็นช่วงค่ำพระปรางค์องค์ใหญ่จะกระทบแสงไฟระยิบระยับงามสง่าไปทั่วคุ้งน้ำจนไม่อาจละสายตาได้เช่นกัน

Royal Thai Navy Convention Hall
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Royal Thai Navy Hall – BANGKOK

นอกจากความสวยสง่าของอาคารสถานที่ อนุสาวรีย์บุคคลสำคัญของกองทัพเรือ และสะพานข้ามคลองมอญอันขึ้นชื่อแล้ว ที่นี่ยังมีหอประชุมกองทัพเรือซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับพระบรมมหาราชวัง โดยหอประชุมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2546 เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมและต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม APEC 2003 รวมทั้งเป็นสถานที่ชมการแสดงกระบวนพยุหยาตราชลมารคด้วย หากล่องเรือมาถึงบริเวณนี้จะเห็นพื้นที่ด้านหน้าซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นลานกว้างเปิดโล่งรับกับทัศนียภาพของพระปรางค์วัดอรุณ โดดเด่นด้วยศาลาทรงไทยขนาดใหญ่ซึ่งช่วยส่งให้อาคารหอประชุมสีขาวด้านหลังสง่างามมากยิ่งขึ้น 

สะพานพระราม8

สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามโดดเด่นจนเป็นเอกลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2538 และเปิดใช้บริการใน พ.ศ. 2545 มีลักษณะเป็นสะพานขึงแบบสมมาตร ยาว 475 เมตร ซึ่งเป็นสะพานแขวนอสมมาตรที่ยาวติดอันดับ 5 ของโลก ไม่ว่าจะล่องเรือผ่านมาในช่วงเย็น พลบค่ำ หรือกลางคืน บรรยากาศของสะพานพระราม 8 ก็มีเสน่ห์ชวนมองไม่รู้เบื่อ ถือป็นจุดถ่ายรูปบนเรือที่ไม่ควรพลาด 

สะพานพุทธ

สะพานถนนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เก่าแก่ที่สุดของไทย โดยสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 ลักษณะเด่นของสะพานจึงเกี่ยวเนื่องกับพระองค์ท่าน อาทิ เป็นสะพานเหล็กที่มีโครงสร้างทรงลูกศร (หัวลูกศรหันไปทางฝั่งธนบุรี) ซึ่งออกแบบตามพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 7 ทั้งยังเป็นสะพานสีเขียวแห่งเดียวในกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 7 นอกจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสะพานที่สวยงามแล้วบริเวณเชิงสะพานยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนและร้านค้ามากมาย เพราะมีตลาดกลางคืนขนาดใหญ่ ดังนั้นเมื่อล่องเรือเจ้าพระยาผ่านมาเราจะได้สัมผัสทั้งทัศนียภาพของสะพานพุทธและสีสันยามค่ำคืนของตลาดแห่งนี้

สะพานตากสิน

สะพานตากสินหรือสะพานสาทร ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2525 เนื่องในวโรกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปี เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแบบสะพานคู่ (ขาเข้าและขาออก) ห่างกัน 15 เมตร ตรงกลางเป็นรางรถไฟฟ้า เมื่อมองจากเรือล่องเจ้าพระยาเราจะเห็นแสงสียามค่ำคืนของกรุงเทพฯ และการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นบนสะพาน ด้วยความสูงจากระดับน้ำเพียง 12 เมตร หากล่องเรือผ่านมาในช่วงที่น้ำขึ้นจะมองเห็นใต้สะพานได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้สะพานตากสินยังเป็นจุดถ่ายรูปและชมพลุปีใหม่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมาก 

 เอเชียทีค ริเวอร์ฟรอนท์ 

จากโกดังเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาสู่การเป็นแหล่งชอปปิงยามค่ำคืนและสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ภายใต้แนวคิด Festival Market and Living Museum เมื่อมองมาจากบนเรือล่องเจ้าพระยาจะเห็นทัศนียภาพของศูนย์การค้าที่เปิดโล่งขนาดใหญ่พร้อมแสงสีไนท์ไลฟ์ยามค่ำคืน โดดเด่นด้วยเอเชียทีค สกาย ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงถึง 60 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนบนเรือก็สวย  

พระบรมมหาราชวัง

คนไทยเราคุ้นเคยกับภาพของพระบรมมหาราชวังกันเป็นอย่างดี ทั้งภาพถ่ายหรือวิดีโอที่ได้เห็นตามสื่อต่าง ๆ และอีกจำนวนไม่น้อยที่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชมสถานที่จริง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วภาพเหล่านั้นมักเป็นมุมมองจากบนถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง หากแต่ทัศนียภาพที่ได้ชมบนเรือล่องเจ้าพระยาจะเป็นพระบรมมหาราชวังฝั่งทิศตะวันตกซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาจึงให้มุมมองที่สวยงามและแตกต่างจากเดิม 

สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย วังบางขุนพรหมขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในวังที่สวยที่สุดของประเทศไทย ทั้งยังเป็นวังที่มีสถาปัตยกรรมบารอกและโรโคโคสมบูรณ์แบบที่สุดด้วย 

โบราณสถานสำคัญของชาติซึ่งถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันพระนคร ป้อมพระสุเมรุได้รับการซ่อมแซมบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5 และยังคงความสง่างามมาจนถึงปัจจุบัน

เป็นจุดนั่งชมทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง ทั้งยังมีพระที่นั่งสันติชัยปราการซึ่งเป็นพลับพลาที่สร้างขึ้นมาเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 9 สำหรับใช้เป็นสถานที่จัดพระราชประเพณีต่าง ๆ อันเกี่ยวกับแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่ออยู่บนเรือล่องเจ้าพระยาจะมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของพระที่นั่งสันติชัยปราการยามกระทบแสงไฟท่ามกลางภูมิทัศน์อันสวยงามร่มรื่นของสวนสาธารณะแห่งนี้

แนะนำวิธีการเยี่ยมชม

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการล่องเรือเจ้าพระยาหลายราย สามารถเลือกรายละเอียดได้ตามต้องการ อาทิ วัน/เวลาเดินทาง โปรโมชั่นอาหาร/เครื่องดื่ม ราคา และลักษณะของเรือ เช่น จำนวนชั้นของเรือ ดาดฟ้า หลังคา ทั้งนี้แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะได้จองที่นั่งริมระเบียงดาดฟ้าเรือซึ่งเต็มค่อนข้างเร็ว ถ้าเลือกได้ให้นั่งบริเวณปีกขวา ขาไปจะได้ใช้เวลาในการรับประทานอาหารแล้วขากลับค่อยถ่ายรูปให้ฉ่ำใจ และหากจุดที่นั่งอยู่ถ่ายรูปแล้วเห็นวิวไม่ชัดแนะนำให้เดินไปที่หัวเรือรับรองว่าได้รูปสวยแน่นอน 

คำแนะนำการล่องเรือ

การล่องเรือเจ้าพระยาในวันธรรมดาจะมีเฉพาะรอบค่ำ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์เปิดเพิ่มรอบเย็น (ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งใจมาถ่ายรูปเนื่องจากช่วงเวลานั้นแสงธรรมชาติกำลังสวย มองเห็นวิวได้ชัดเจน แถมมีโอกาสได้ที่นั่งวิวดีเพราะมีจำนวนผู้ใช้บริการน้อยกว่าช่วงค่ำ ทั้งยังมีราคาถูกกว่าด้วย อย่างไรก็ตามทุกรอบจะมีเส้นทางเดินเรือและการบริการภายในเรือที่เหมือนกัน เพียงแต่รอบเย็นนั้นใช้เวลาในการเดินเรือสั้นกว่า 

หากเรือที่จองเป็น Meridian Cruise, White Orchid River Cruise, Alangka Cruise, Smile Riverside และ Chao Phraya Princess จะต้องมาลงเรือที่ท่าเรือไอคอนสยาม ซึ่งสามารถติดต่อขอรับบัตรได้ที่จุดบริการชั้น G โซนสุขสยาม โดยจะมีห้องกระจกระบุชื่อเรือแต่ละลำไว้ หลังจากรับบัตรเรียบร้อยแล้วออกมานั่งเล่นรอบบริเวณท่าเรือตามที่ระบุไว้บนบัตรได้เลย และสำหรับผู้ที่มาใช้บริการ ล่องเรือเจ้าพระยา ไอคอนสยาม มอบสิทธิพิเศษในการจอดรถฟรี 4 ชั่วโมง โดยสามารถเดินจากลานจอดรถมาที่ท่าเรือได้อย่างสะดวกสบาย

เวลาประมาณสองชั่วโมงของการล่องเรือเจ้าพระยาเราได้ชมความงดงามของสถานที่ต่าง ๆ มากมาย ท่ามกลางลมเย็น ๆ จากแม่น้ำปะทะผิวหน้า วิวเจ้าพระยาแบบพาโนรามา อาหารแสนอร่อย แวดล้อมด้วยบรรยากาศแห่งความสุขโดยรอบ เชื่อว่าคงเป็นชั่วโมงต้องมนต์ของทุกคนอย่างแน่นอน

ที่มาข้อมูล :

สำรวจบุฟเฟ่ต์เด็ด MBK: ร้านอาหารที่จะทำให้คุณต้องกลับมาอีก

สำรวจบุฟเฟ่ต์เด็ด MBK: ร้านอาหารที่จะทำให้คุณต้องกลับมาอีก

ไม่ว่าจะอดีตในชื่อ “มาบุญครอง” หรือปัจจุบันในนาม “MBK Center” ที่นี่ยืนหนึ่งเรื่องการเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นมาทุกยุคทุกสมัย เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการโดยเฉพาะโซนอาหารและคาเฟ่ ซึ่ง MBK Center ได้คัดสรรร้านดังร้านเด็ดมากมายมารวมไว้จนกลายเป็น HUB OF CAFE & RESTAURANT ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองซึ่งเหล่านักชิมทั้งหลายไม่ควรพลาด

ล่าสุด MBK Center New Episode ยังได้จัดโซนใหม่ All Day Dining & Midnight Life Space ยกขบวนร้านอร่อยชื่อดังมาให้บริการตั้งแต่ 07.00 น. เรื่อยไปจนถึงดึก นอกจากขยายเวลาให้บริการความอร่อยแล้วที่นี่ยังมีร้านบุฟเฟต์ให้เลือกมากมายหลายแบบรับรองว่าถูกใจสายกินอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ไปส่องร้านบุฟเฟต์ที่ MBK Center กัน

1.Senju Shabu & Sushi Premium Buffet 

.Senju Shabu & Sushi Premium Buffet 
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Hungry with Pungy

บุฟเฟต์ชาบูและซูชิสุดพรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่นแท้ อิ่มอร่อยได้อย่างหลากหลายเพราะมีรายการอาหารให้เลือกเยอะ คุ้มค่ายืนหนึ่งในเรื่องของชาบูด้วยน้ำซุปที่มีมากถึง 8 แบบ ได้แก่ ซุปชาบู ซุปกิมจิ ซุปเล้งแซ่บ ซุปต้มยำ ซุปเห็ดหอมไวน์แดง ซุปหม่าล่า ซุปสุกี้ยากี้ และซุปกระดูกหมู โดยใน 1 หม้อ สามารถเลือกได้ถึง 4 ซุป พร้อมเนื้อวัวนำเข้าเกรดพรีเมียม เนื้อหมู อาหารทะเล และผักสด ซูชิก็ไม่น้อยหน้าจัดเต็มมาให้แบบจุก ๆ ทั้งยังมีซาชิมิ อาหารญี่ปุ่น และขนมหวานแสนอร่อยที่เสิร์ฟไม่อั้น

  • ราคา : Classic Buffet 399+, Superior Buffet 699 +, Deluxe Buffet 899 +, Diamond Buffet 1,099 + และ Royal Buffet 1,599 บาท  
  • เปิดบริการ : วันจันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 22.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ 10.00 – 22.00 น.                                      
  • พิกัด : ชั้น 7
สุกี้ตี๋น้อย

บุฟเฟต์สุกี้เจ้าดังที่ให้ทุกคนอิ่มอร่อยในราคาไม่แพง พร้อมความหลากหลายของเมนู ภายใต้คอนเซ็ปต์อร่อยได้ไม่อั้นเที่ยงวันยันเช้า โดยสาขานี้เป็นสาขาแรกที่มีของทอดให้ทานเล่น ทั้งเฟรนช์ฟรายส์ แผ่นเกี๊ยวทอด ชิกุว่าสอดไส้ชีส และไก่ป๊อป ไม่ว่าคิวจะยาวแค่ไหนก็ยังพออุ่นใจได้ในการรอเพราะสาขานี้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างรองรับการให้บริการได้จำนวนมาก

  • ราคา : 219 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิล 39 บาท/คน และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) เด็กส่วนสูงไม่ถึง 90 ซม. รับประทานฟรี
    เด็กส่วนสูง 91 – 120 ซม. ราคา 109 บาท 
  • เปิดบริการ : 12.00 – 05.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน C
Shinkanzen sushi
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Shinkanzen sushi

เป็น ร้านอาหาร mbk ที่มีให้เลือกทั้งแบบ A la carte และบุฟเฟต์ บอกเลยว่าซูชิเลิฟเวอร์ทั้งหลายไม่ควรพลาดเพราะร้านนี้มีซูชิคุณภาพเกรดพรีเมียม มาพร้อมอาหารญี่ปุ่นกว่า 200 เมนูให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นซูชิเนื้อวากิว ซูชิแซลมอนย่างสไปซี่ ซูชิปลาไหล ซูชิปลาหมึกหิ่งห้อย ซูชิอูนิ(ชิลี) ซาชิมิแซลมอน หอยเชลล์ ทูน่า ชิราชิด้ง เอ็นกาวะย่าง กุ้งดองซีอิ๊วญี่ปุ่น กุ้งหวานญี่ปุ่นจัมโบ้ย่างเมนไตโกะ หอยนางรมพอนสึ ไข่แซลมอน และอีกมากมายที่พร้อมเสิร์ฟแบบไม่อั้น 

  • ราคา : 329+, 549+ และ 879+ ( ไม่รวมเครื่องดื่มและภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)                      
  • เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น. 
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน A
บุฟเฟต์ชาบูสายพานมาพร้อมอาหารและเมนูทานเล่นหลากหลายเมนู ทั้งซูชิ เทมปุระ ซาบะย่าง ข้าวแกงกะหรี่ เ

บุฟเฟต์ชาบูสายพานมาพร้อมอาหารและเมนูทานเล่นหลากหลายเมนู ทั้งซูชิ เทมปุระ ซาบะย่าง ข้าวแกงกะหรี่ เกี๊ยวซ่า มิโสะซุป ไอศกรีม ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ส่วนไลน์สายพานนั้นก็ยังคงจัดเต็มเช่นเดิม หนึ่งในร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่นขวัญใจสายบุฟเฟต์ก็ต้องมีชื่อชาบูชิ 

  • ราคา : 399+ (ราคาสุทธิ 427 บาท)
  • เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 7
โม โม พาราไดซ์

ร้านอาหาร mbk สไตล์ชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ รสชาติต้นตำรับแท้จากประเทศญี่ปุ่นมาพร้อมกับเนื้อคุณภาพระดับพรีเมียม ทั้งเนื้อวากิว เนื้อ USDA และเนื้อวัว Australian นอกจากนี้ยังมีหมูคุโรบูตะ ไก่ไม้ไผ่ซึ่งใช้ไก่เบญจา เป็ดอนามัย และผักสดปลอดสารพิษ ลงตัวกับน้ำซุปที่หอมกลมกล่อม 4 แบบ ได้แก่ น้ำซุปชาบูชาบู น้ำซุปสุกี้ยากี้ น้ำซุปทงคตสึ และน้ำซุปคารามิโสะ ตบท้ายด้วยของหวานแสนอร่อยอย่างไดฟุกุ ซอฟครีม และไอศกรีมโฮมเมดหลากรส แม้จะมีเมนูไม่มากแต่จัดว่าเด็ดและเน้นการใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งร้านที่สายเนื้อไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง 

  • ราคา : 599+, 729+ และ 1,290+
  • เปิดบริการ : วันจันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 22.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ 10.00 – 22.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 7
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: นักล่าหมูกระทะ Nak-La Mookata

แม้จะเสิร์ฟมาในรูปแบบเซตแต่ก็ขอเหมารวมร้านหมูกระทะติดแอร์อย่างนักล่าหมูกระทะไว้ในกลุ่มบุฟเฟต์ด้วย เพราะที่นี่มีบาร์ผักให้เติมได้ไม่อั้นหรือเรียกได้ว่าเป็นบุฟเฟต์ผักนั่นเอง มาพร้อมน้ำจิ้ม 5 แบบ อร่อยทุกแบบโดยเฉพาะน้ำจิ้มไข่ดองซึ่งต้องยกนิ้วให้เลยว่าเด็ดจริง และไม่ว่าจะสั่งเซตหมูหรือเนื้อทางร้านมีซีฟู้ดมาให้ด้วยรับรองอิ่มคุ้มแน่นอน 

  • ราคา : เซตหมู เริ่มต้นที่ 279 บาท  เซตเนื้อ เริ่มต้นที่ 299 บาท 
  • เปิดบริการ : 11.00 – 02.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน C 

ไม่ว่าจะชอบบุฟเฟต์แบบไหน สุกี้ ชาบู หมูกระทะ ซูชิ หรือซาชิมิ MBK Center รวมไว้ให้ในที่เดียว หมดปัญหาว่าจะไปกินอะไรที่ไหนดี ? แค่นัดมาเจอกันก่อนที่ MBK Center แล้วค่อยมาเลือกร้านก็ได้ เพราะทุกร้านที่นี่ให้สายกินฟินแบบไม่อั้น แถมยังเดินทางง่ายจะใช้รถส่วนตัวหรือรถไฟฟ้าก็สะดวก ตอบโจทย์ความต้องการครบขนาดนี้นัดครั้งหน้าเจอกันเลยที่ MBK Center

ที่มาข้อมูล :

9 กิจกรรมน่าสนใจ เมื่อไปเดินเล่นย่าน Siam Center

แน่นอนว่าหากพูดถึง Siam Center คนส่วนใหญ่ต้องนึกถึงศูนย์รวมร้านอาหาร คาเฟ่ และความบันเทิงทุกรูปแบบ แต่ในความเป็นจริงย่านสยามยังเป็นแหล่งรวมกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ทั้งแบบเดี่ยว แบบกลุ่มเพื่อน และแบบครอบครัว ตอบโจทย์ทุกเพศทุกวัย แต่ตอนนี้จะมีกิจกรรมไหนน่าสนใจบ้างนั้น มาดูกันเลย

SEA LIFE Bangkok Ocean World

สำหรับ SEA LIFE Bangkok Ocean World เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโลกบนพื้นที่กว่า 10,000 ตารางเมตร อัดแน่นไปด้วยสัตว์น้ำนานาชนิดและมุมถ่ายรูปเก๋ ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็น อุโมงค์ใต้น้ำ โซนแอ่งหินเรียนรู้ โซน Rainforest Adventure โชว์ให้อาหารแพนกวิน

  • กิจกรรม

เดินชมนิทรรศการกว่า 11 จุด และสัตว์น้ำใต้ทะเลกว่า 400 สายพันธุ์ รวมกันกว่า 30,000 ชีวิต นอกจากนั้นด้านในยังมีร้านจำหน่ายขนม เครื่องดื่ม และของที่ระลึก

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสยาม รถโดยสารประจำทาง และรถยนต์ส่วนตัว เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 19.00 น. 

  • ราคาค่าเข้า

ราคาปกติ 640 บาท เด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบ เข้าชมฟรี

BACC หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

หากชอบเสพงานศิลป์บอกเลยว่าห้ามพลาดสำหรับ BACC หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพราะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนการจัดแสดงนิทรรศการจากศิลปินหลากหลายแนว เรียกว่ามีให้เสพให้เดินดูกันตลอดทั้งปี

  • กิจกรรม

ชมงานศิลปะหรือเข้ารวมกิจกรรมต่าง ๆ อย่างดนตรี ละคร ภาพยนตร์ กวี เสวนา และวรรณกรรม 

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่สี่แยกปทุมวัน ถนนพระราม 1 สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออกที่ 3 และเรือสายในคลองแสนแสบ ขึ้นที่ท่าเรือสะพานหัวช้าง เปิดให้บริการวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 20.00 น. หยุดให้บริการทุกวันจันทร์และช่วงวันหยุดปีใหม่ สงกรานต์

  • ราคาค่าเข้า

ไม่มีค่าใช้จ่าย ยกเว้นเข้าชมการแสดงพิเศษที่มีการเก็บค่าเข้าชม

ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Chula Book

ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คของคนรักการอ่านสำหรับศูนย์หนังสือจุฬาฯ เพราะมีครบทั้งตำราเรียน หนังสืออ่านเล่น หนังสือภาษาต่างประเทศ สื่อการสอน และอุปกรณ์เครื่องเขียนให้เลือกมากมาย รับประกันว่าต้องได้หนังสือกลับบ้านแน่นอน

  • กิจกรรม

เลือกซื้อหนังสือและอุปกรณ์เครื่องเขียน

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 อาคารวิทยกิตติ์ จุฬา 64 การเดินทางสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม เปิดให้บริการวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09.00 – 20.00 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 08.30 – 20.00 น.  

  • ราคาค่าเข้า

ไม่มีค่าใช้จ่าย

Don Don Donki ที่ MBK Center

ห้างสรรพสินค้าญี่ปุ่น Don Don Donki เป็นอีกหนึ่งแลนมาร์คที่คนไปเที่ยวสยามต้องแวะไปชอป เพราะที่นี้มีครบทั้งสินค้าแบรนด์เนม เครื่องสำอาง ของใช้ เครื่องเขียน ของเล่น ขนม และอาหารราคาดีส่งตรงมาจากญี่ปุ่น รวมทั้งยังมีโซนร้านอาหาร คาเฟ่ และโซนเอนเตอร์เทนเมนท์ D-SPORT STADIUM ให้สนุกอีกด้วย 

  • กิจกรรม

เลือกซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากประเทศญี่ปุ่น รับประทานอาหาร และสนุกกับกิจกรรมที่โซนเอนเตอร์เทนเมนท์ D-SPORT STADIUM

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ศูนย์การค้ามาบุญครอง เดินทางด้วยรถส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง หรือรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ ทางออกที่ 2 เดินไปยังทางเชื่อมเข้าห้างได้เลย เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 09.00 – 24.00 น.

  • ราคาค่าเข้า

ไม่มีค่าใช้จ่าย

The Stronghold Siam
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: The Stronghold Siam

หากชอบเล่นบอร์ดเกมและอยากทำความรู้จักกับกลุ่มคนที่ชอบเหมือนกันต้องไปที่ร้าน The Stronghold Siam เพราะนอกจากมีบอร์ดเกมให้เลือกเล่นมากกว่า 500 เกม ยังมีอาหารและเครื่องดื่มบริการอีกด้วย

  • กิจกรรม

เล่นบอร์ดเกม รับประทานอาหารและเครื่องดื่ม

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โรงหนังลิโด้ ถนนพระราม 1  สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม ทางออกที่ 2 และเดินไปทางถนนพระราม 1 เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 12.00 – 23.00 น.

  • ราคาค่าเข้า

ค่าเล่นเกมชั่วโมงละ 60 บาท เหมาทั้งวัน 200 บาท

The Rink Ice Arena
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: The Rink Ice Arena

ถือว่าเป็นอีกสถานที่ดับร้อนยอดฮิตของคนไทย สำหรับ The Rink Ice Arena ลานสเก็ตน้ำแข็งสุดโรแมนติกแห่งแรกของไทย เหมาะกับคู่วัยรุ่นหนุ่มสาวและเด็ก ๆ มาเล่นสนุก แต่ถ้าใครเล่นไม่เป็นยังมีบริการทดลองเรียนฟรีอีกด้วย

  • กิจกรรม

เล่นสเก็ตน้ำแข็ง 

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ฝั่งอิเซตัน สามารถเดินทางด้วยรถส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า BTS สถานีสยามหรือสถานีชิดลม เปิดให้บริการทุกวัน โดยวันจันทร์ – วันศุกร์ เปิดเวลา 11.00 – 21.00 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์ เปิดเวลา 10.30 – 21.00 น.

  • ราคาค่าเข้า

ค่าบริการ 1 ชั่วโมง ราคา 240 บาท 1.30 ชั่วโมง ราคา 270 บาท และ 2 ชั่วโมง ราคา 300 บาท ค่าเช่าแมวน้ำสำหรับเกาะ 150 บาท ค่าเช่าแพนกวิน 100 บาท ค่าเช่าถุงเท้าถุงมือ 500 บาท และค่าเช่าล็อกเกอร์ 30 บาท

คนที่ชอบดูหนังต้องลองไปที่ Paragon Cineplex โรงหนังสุดหรูที่จะเปลี่ยนประสบการณ์ดูหนังให้ตื่นเต้นมากกว่าเดิม และสักครั้งหนึ่งในชีวิตต้องลองไปสัมผัสกับสยามภาวลัย (Siam Pavalai) โรงภาพยนตร์ใหญ่ที่สุดในประเทศ รับรองเต็มตาแน่นอน

  • กิจกรรม

ดูภาพยนตร์ไทยและต่างประเทศ

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ชั้น 5 และ 6 ศูนย์การค้าสยามพารากอน สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสยาม ซึ่งสามารถเดินจากทางเชื่อมเข้าสู่ตัวห้างได้เลย เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 00.00 น.

  • ราคาค่าเข้า

เสียค่าเข้าชมภาพยนตร์

ร้องคาราโอเกะ (Blu-O Rhythm & Bowl)

อีกกิจกรรมที่แก๊งเพื่อนต้องไปลอง สำหรับการร้องคาราโอเกะที่ Blu-O Rhythm & Bowl รับประกันว่าสนุกสุดเหวี่ยงได้แบบเป็นส่วนตัว

  • กิจกรรม

ร้องคาราโอเกะ

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า BTS ลงที่สถานีสยาม เปิดให้บริการวันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 11.00 – 21.00 น. วันเสาร์ – วันอาทิตย์ เวลา 10:30 – 21:00 น.          

  • ราคาค่าเข้า

ค่าใช้บริการห้อง Size S ราคา 550 บาท Size M ราคา 600 บาท Size L ราคา 900 บาท ต่อชั่วโมง

ใครที่ชอบเล่นเกมและอยากเจอกับประสบการณ์จริง ต้องไปลองเล่นสนุกที่ Siam Laser Game มีพื้นที่ให้เล่นถึง 1,300 ตารางเมตร จุคนได้รอบละ 50 คน เครื่องเสียงแบบ High-End Surrounded และจัดเต็มไฟ LED สุดอลังการ

  • กิจกรรม

เล่นเกมยิงปืนเลเซอร์ครั้งละ 15 – 20 นาที 

  • ที่ตั้งและการเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ชั้นใต้ดินโรงแรมโนโวเทล สยามสแควร์ ซอย 6 สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้า BTS สถานีสยาม ทางออกที่ 6 ไปยังโรงแรม เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10.00 – 24.00 น.

  • ราคาค่าเข้า

ค่าบริการ 1 เกม เด็ก 300 บาท ผู้ใหญ่ 350 บาท 

เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งตัวเลือกเวลามาเที่ยว siam center สำหรับคนชอบทำกิจกรรม ส่วนจะเลือกทำกิจกรรมไหนก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว แต่รับประกันว่าสนุกถูกใจ 

ที่มาข้อมูล :