17 ที่เที่ยวหน้าฝน สัมผัสกลิ่นไอดิน ละอองฝนชุ่มฉ่ำ อัปเดต 2023

หน้าฝนเที่ยวไหนดี? แจกที่เที่ยวหน้าฝน เอาใจนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ พร้อมรับบรรยากาศดีๆ เมื่อเอ่ยถึงหน้าฝน หลายๆ คน ก็คงจะนึกถึง ดอย อุทยาน น้ำตก เพราะฉะนั้นหากใครต้องการพักผ่อน ต้องตามไปปักหมุดกับ 17 ที่เที่ยวหน้าฝน สัมผัสกลิ่นไอดิน เลือกเที่ยวได้ตามสไตล์ เอาใจครอบครัว เพื่อน และคนรัก อัปเดตใหม่ปี 2023

เที่ยวดอยหน้าฝน ชมวิวทะเลหมอก

เที่ยวดอยหน้าฝน ชมวิวทะเลหมอก

เที่ยวดอยหน้าฝน สัมผัสความงดงามของธรรมชาติ ชมวิวทะเลหมอกกันแบบเต็มอิ่ม ซึมซับบรรยากาศจัดเต็ม ไปดูกันเลย

1. ดอยหลวงเชียงดาว เชียงใหม่

หลวงเชียงดาว จุดชมวิวทะเลหมอกสูงสุดถึง 2,225 เมตร ชมวิวหลักล้าน นอนกางเต็นท์แบบชิลๆ กับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรัก ก็ฟินไม่แพ้กัน

  • ที่อยู่: อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/DQq93hxYsXp9wDrQA
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท 
  • เวลาปิด – เปิด: 08.00 – 16.00 น.
ดอยอ่างขาง เชียงใหม่

2. ดอยอ่างขาง เชียงใหม่

ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติสวยๆ เหมาะแก่การเที่ยวหน้าฝน เพราะจะได้พบกับทะเลหมอกที่มีลักษณะคล้ายปุยนุ่นล่องลอยไปมา แถมบรรยากาศเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว โรแมนติกสุดๆ 

  • ที่อยู่: ถนนเชียงใหม่ – ฝาง แม่งอน บ้านฝาง เชียงใหม่
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/7dC7qKfH3hCFCtTVA
  • อัตราค่าเข้า: –
  • เวลาปิด – เปิด: 08.00 – 18.00 น. 

3. ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่

ดอยอินทนนท์ สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของเชียงใหม่ที่ไม่ควรพลาด ดอยมีจุดชมวิวเยอะมาก ดูทะเลหมอกได้เต็มอิ่ม และมีพื้นที่กว้างสุดๆ เป็นที่เที่ยวหน้าฝน โอบล้อมไปด้วยบรรยากาศธรรมชาติเขียวขจี แบบจัดเต็มสุด ๆ

  • ที่อยู่: อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/dJxqyNHzLWE3BFqp8
  • อัตราค่าเข้า: เด็ก 30 บาท  ผู้ใหญ่ 60 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 06:00 น. – 18:00 น.
เดินอุทยานหน้าฝน ท่ามกลางธรรมชาติ เน้นกิจกรรม

เดินอุทยานหน้าฝน ท่ามกลางธรรมชาติ เน้นกิจกรรม

ที่เที่ยวหน้าฝน สำหรับสายเดินอุทยาน ชมธรรมชาติ สัมผัสอากาศชื้นฉ่ำๆ สูดกลิ่นไอดิน กลิ่นไอต้นไม้ใบหญ้าเข้าเต็มปอด และมีกิจกรรมอีกมากมายให้ได้ทำร่วมกับเพื่อนหรือครอบครัว จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกันเลยดีกว่า 

4. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของประเทศไทย ที่อุดมไปด้วยธรรมชาติสวยงาม สัมผัสกับทะเลหมอก ผสมผสานธรรมชาติสีเขียวขจี และสัตว์ป่าอีกหลายชนิด พร้อมสถานที่กางเต็นท์ สำหรับสายแคมปิ้งอีกด้วย

  • ที่อยู่: ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/pUJCaGbQ2hJQZT8e8
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 06.00 – 18.00 น.

5. อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า พิษณุโลก

อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า เป็นอีกหนึ่งในที่เที่ยวฤดูฝน ที่สามารถเดินชมธรรมชาติ มองดูความเขียวขจี ฉ่ำๆ ต้นไม้และมอส ตัดกับแนวพื้นดินพื้นหิน รับรองว่าถ่ายรูปออกมาสวย ได้ลงโซเชียลอวดเพื่อนแน่นอน

  • ที่อยู่: 125 หมู่ 10 ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
  • พิกัด:  https://goo.gl/maps/zzmgQPuYJxVtMZ4c6
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 60 บาท เด็ก 40 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 08.00 – 16.00 น.
อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพชรบูรณ์

6. อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เพชรบูรณ์

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว เต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว มีเทือกเขาสูง อุดมสมบูรณ์ ทิวทัศน์สวยงาม เหมาะแก่การไปเที่ยวหน้าฝน รับรองได้ว่าใครได้ไปเยือน จะต้องปลื้มใจอย่างแน่นอน

  • ที่อยู่: ตำบลน้ำหนาว อำเภอน้ำหนาว จังหวัดเพชรบูรณ์
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/3kB2HFxiv7KQfAqw9
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 8:00 – 16:30 น.

7. อุทยานแห่งชาติปางสีดา สระแก้ว

อุทยานแห่งชาติปางสีดา เป็นสถานที่ที่ให้นักท่องเที่ยวมาดื่มด่ำกับธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์แบบจัดเต็ม เข้าไปชมสัตว์ป่าได้หลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็น กระทิง หมูป่า ช้างป่า กวาง เก้ง และกิจกรรมไฮไลต์ ที่ไม่ควรพลาด ก็คือ กิจกรรมดูผีเสื้อ ตอบโจทย์การเที่ยวหน้าฝนแบบสุดๆ มีผีเสื้อมารวมตัวกันมากกว่า 350 ชนิดกันเลยทีเดียว

  • ที่อยู่: ตำบลท่าแยก อำเภอเมืองสระแก้ว จังหวัดสระแก้ว
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/YCwiSfKpLbQoGMfb7
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 08.00-17.00 น.

8. อุทยานแห่งชาติแม่ยม แพร่

อุทยานแห่งชาติแม่ยม ที่เที่ยวหน้าฝนสุดยอดฮิตของจังหวัดแพร่ พื้นที่ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยป่าสักที่อุดมสมบูรณ์ยิ่งในภาคเหนือ  นักท่องเที่ยวมักแห่กันไปชมดอกสัก ที่ผลิบานในช่วงหน้าฝน แถมยังมีกิจกรรมสนุกๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ล่องแก่ง ปีนเขา แคมป์ปิ้ง เป็นต้น

  • ที่อยู่: ตำบลสะเอียบ อำเภอสอง จังหวัดแพร่
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/iPhXPVsmvuEHoBmL6
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 09.00 – 17.00 น.
อุทยานแห่งชาติภูซาง พะเยา

9. อุทยานแห่งชาติภูซาง พะเยา

อุทยานแห่งชาติภูซาง เต็มไปด้วยสัตว์ป่า และป่าไม้ พร้อมให้ฟีลพักผ่อนที่เงียบสงบ เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียวขจี และไม่ควรพลาดไปเช็กอิน ที่น้ำตกภูซาง ยิ่งถ้าหากได้ลงไปแช่น้ำ รับรองว่าผ่อนคลาย ฟินสุดๆ 

  • ที่อยู่: ตำบลภูซาง อำเภอภูซาง จังหวัดพะเยา
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/DZGRQRm8Rq8d7349A
  • อัตราค่าเข้า: 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 06.00 – 17.00 น.

10. อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง เพชรบูรณ์

อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นทุ่งหญ้าสะวันนาเมืองไทย อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่า และพันธุ์ไม้ นานาชนิด เงียบสงบ ยิ่งช่วงหน้าฝนยิ่งบรรยากาศดี เหมาะแก่การพาครอบครัว แฟน และเพื่อน ไปท่องเที่ยวพักผ่อนสุดๆ 

  • ที่อยู่: หนองแม่นา อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/rcd7pSmMXWKkjQmt6
  • อัตราค่าเข้า: 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 24 ชั่วโมง

11. อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม ชัยภูมิ

อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม นักท่องเที่ยวหรือคนท้องถิ่นมักจะไปชมทุ่งดอกกระเจียวที่กำลังผลิบาน สีโดดเด่นชมพูอมม่วง ตัดกับพื้นหญ้าสีเขียวได้ดี พร้อมกับสัมผัสพื้นป่า สบายตาสุดๆ สดชื่นไปกับไอหมอก และสายฝน แบบฟินๆ สายแชะต้องเตรียมกล้องถ่ายรูป รับรองว่าได้ภาพสวยๆ อัปลงโซเชียลแน่นอน

  • ที่อยู่: ตำบลบ้านไร่ อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/y4FbGUcczRpL3PFs6
  • อัตราค่าเข้า: ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 6:00–18:00 น.
เล่นน้ำตกหน้าฝน ชุ่มฉ่ำ น้ำเย็นสะใจ

เล่นน้ำตกหน้าฝน ชุ่มฉ่ำ น้ำเย็นสะใจ

เมื่อถึงหน้าฝนแล้ว ที่เที่ยวฤดูฝนที่ไม่ควรพลาดเลยก็คือ น้ำตก เพราะน้ำตกในช่วงหน้าฝน จะมีปริมาณมากและอากาศเย็น เหมาะกับการเล่นน้ำในประเทศที่ร้อนเกือบจะทั้งปีอย่างประเทศไทย หรือจะนั่งชิลฟังเสียงน้ำไหล ปล่อยใจให้ผ่อนคลายในวันหยุด ให้ธรรมชาติบำบัดก็เป็นตัวเลือกที่ดี

12. น้ำตกเอราวัณ กาญจนบุรี

น้ำตกเอราวัณ มีน้ำสีเขียวมรกต แบบไม่ปรุงแต่ง เป็นธรรมชาติสรรค์สร้าง โดยน้ำตกแต่ละชั้นเต็มไปด้วยความสวยงามที่แตกต่างกันออกไป เหมาะแก่การไปเที่ยวช่วงหน้าฝนสุดๆ สัมผัสบรรยากาศเย็นสบายกับน้ำตกทั้ง 7 ชั้น

  • ที่อยู่: อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/wd3aiPfdoi11b9Gq5
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 07.00 – 16.30 น.

13. น้ำตกปาโจ นราธิวาส

น้ำตกปาโจ ล้อมรอบไปด้วยพื้นที่สีเขียว สัมผัสน้ำเย็นสบาย มีสัตว์ป่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น นกกาฝากท้องสีส้ม ค่างแว่นถิ่นใต้ และมีพันธุ์ไม้ที่ถูกค้นพบเป็นครั้งแรกของโลก ก็คือ ใบไม้สีทอง หรือ ย่านดาโอ๊ะ

  • ที่อยู่: ตำบลบาเจาะ อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/AJua5p4gLwq46NEEA 
  • อัตราค่าเข้า: 9:00–16:30
  • เวลาปิด-เปิด: 09.00 – 16.30 น.
น้ำตกกรุงชิง นครศรีธรรมราช

14. น้ำตกกรุงชิง นครศรีธรรมราช

น้ำตกกรุงชิง มีความสูง 7 ชั้น อุดมสมบูรณ์ไปด้วยธรรมชาติ ป่าดิบชื้นแน่นทึบ มีกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การเล่นน้ำตกและกิจกรรมเดินป่าศึกษาธรรมชาติ เป็นต้น

  • ที่อยู่: อุทยานแห่งชาติเขาหลวง อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/KaFjK8GRRs3WCwYA8
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 08.30-16.30 น.

15. น้ำตกเปรโต๊ะลอซู น้ำตกรูปหัวใจ ตาก

น้ำตกเปรโต๊ะลอซู หัวใจแห่งขุนเขา รูปร่างน้ำตกมีความสวยงาม คล้ายกับรูปหัวใจ ความสูงเทียบเท่าตึกใบหยกกันเลยทีเดียว  ที่เที่ยวหน้าฝน ที่จะต้องถูกใจสายลุยแน่นอน เพราะต้องเดินเท้าเข้าป่า 4 – 5 ชั่วโมง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่นิยมมากางเต็นท์ เพื่อสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติกลางป่า

  • ที่อยู่: ตำบลแม่จัน อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/eJC79S9fVU1AwPsZ8
  • อัตราค่าเข้า: –
  • เวลาปิด – เปิด: –

น้ำตกวังตะไคร้ นครนายก

น้ำตกวังตะไคร้ ที่เที่ยวหน้าฝนที่สำคัญ ล้อมรอบไปด้วยต้นไม้ใหญ่ มีสายน้ำไหลผ่าน เพลิดเพลินไปกับกิจกรรมชมธรรมชาติ และการล่องแก่ง ยิ่งช่วงหน้าฝน กิจกรรมล่องแก่งจะสนุกมากๆ เนื่องจากจะมีน้ำไหลเชี่ยว รวมถึงมีบริการห้องพักอีกด้วย

  • ที่อยู่: ตำบลหินตั้ง อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/BipGVnXwZ5dgQPyU9
  • อัตราค่าเข้า: 150 / คัน หากเกิน 8 ท่าน เพิ่มท่านละ 10 บาท เดินเข้า 20 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: ทุกวัน 08.00 – 17.00 น.
น้ำตกเจ็ดสาวน้อย สระบุรี

17. น้ำตกเจ็ดสาวน้อย สระบุรี

น้ำตกเจ็ดสาวน้อย น้ำตกชื่อดังของสระบุรี แม้จะเป็นน้ำตกสายเล็กๆ แต่วิวหลักล้าน พร้อมพาไปสัมผัสบรรยากาศที่บริสุทธิ์ อุดมสมบูรณ์สีเขียวขจี น้ำสีเขียวใสไหลผ่านตลอดทั้งปี

  • ที่อยู่: ตำบลมวกเหล็ก อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/8YKhSKVY9QmW8MTTA
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท / เด็ก 10 บาท
  • เวลาปิด – เปิด: 8:00 – 17:00 น.

ข้อระวังในการท่องเที่ยวธรรมชาติหน้าฝน

  • เที่ยวหน้าฝน ห้ามเล่นน้ำตกตอนฝนตก และน้ำไหลเชี่ยว ในบางบริเวณจะติดป้ายห้ามเล่นน้ำ เนื่องจากมีน้ำวน ดังนั้นจึงต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
  • การเดินป่าช่วงที่หินเยอะ ควรระมัดระวังหินที่ลื่นเป็นพิเศษ ควรใส่เสื้อผ้า และรองเท้าให้คล่องตัว 
  • การตั้งแคมป์กลางป่า ควรตั้งให้สูงจากลำน้ำ เพื่อป้องกันน้ำ จากการเกิดน้ำป่าไหลหลากแบบกะทันหัน
  • ควรปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของสถานที่ เช่น กฎของอุทยานแห่งชาติ เป็นต้น

แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด

AIRPORTELs พร้อมเปิดให้บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด เพื่อช่วยทำให้นักท่องเที่ยวใช้เวลาเดินทาง โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋า เนื่องจากทาง AIRPORTELs จะส่งกระเป๋าไปยังโรงแรมให้ เริ่มต้น 299 บาท และบริการฝากกระเป๋า เริ่มต้น 100 บาทต่อวัน สามารถเที่ยวได้อย่างอิสระ ทางเรามีกล้องวงจรปิดที่ห้องเก็บกระเป๋าตลอด 24 ชั่วโมง ไว้วางใจทุกความปลอดภัยได้ชัวร์ 100%

สรุปจบไปแล้วสำหรับ 17 ที่เที่ยวหน้าฝน ล้วนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดยอดฮิต ทั้งดอย อุทยาน น้ำตก ที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติได้เต็มอิ่ม ไม่ว่าจะไปเที่ยวกับเพื่อน ครอบครัว คนรัก ก็ฟินสุดๆ แม้การเที่ยวช่วงหน้าฝนบรรยากาศดีก็จริง แต่ต้องระวังอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย ที่สำคัญเมื่อเที่ยวจนจบทริป กลับกรุงเทพฯ สามารถใช้บริการของ AIRPORTELs ได้ หากเกิดอาการเหนื่อยล้าไม่อยากขนกระเป๋าสัมภาระของตนเองหรือครอบครัวในปริมาณเยอะๆ เพราะ  AIRPORTELs มีบริการส่งกระเป๋าให้ถึงที่พัก

รวม 15 สถานที่เที่ยวสุขุมวิท ย่านธุรกิจสุดฮิตของคนกรุงฯ

ถนนสุขุมวิทเป็นชื่อถนนที่หลายคนคุ้นหู นับเป็นถนนสำคัญอีกหนึ่งสายที่ทอดยาวที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มต้นจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครไปจนถึงชายแดนประเทศกัมพูชา นอกจากเป็นชื่อถนนแล้ว ยังเป็นชื่อย่านใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพมหานครอีกด้วย เพราะที่นี่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารชื่อดัง สถานบันเทิงมากมาย แหล่งที่เที่ยวสุขุมวิทเป็นพื้นที่ที่ให้ผู้คนมากิน เที่ยว เล่น พักผ่อนได้อย่างครบจบในที่เดียว 

นับเป็นย่านที่คึกคักอันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ทำให้คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จึงมักเลือกพักผ่อนและมาหาที่เที่ยวแถวสุขุมวิท ทั้งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และหลังเลิกงาน 

สำหรับใครที่กำลังหาที่เที่ยวสุขุมวิทที่สะดวกสบาย ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง บทความนี้ได้รวบรวมมาให้แล้ว ทั้งหมด 15 ที่เที่ยวสุขุมวิทที่น่าสนใจ 

ท้องฟ้าจำลอง

1. ท้องฟ้าจำลอง

ท้องฟ้าจำลองเป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่เดินทางไปได้สะดวกมากๆ โดยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ที่นี่เป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ถูกอนุมัติจัดสร้างโดยกระทรวงศึกษาธิการ 

ภายในเต็มไปด้วยเครื่องมือการเรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ท้องฟ้าจำลอง ซึ่งเป็นไฮไลต์เด่นที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่ เป็นการจัดแสดงท้องฟ้าจำลองรอบละ 1 ชั่วโมง  ซึ่งมีทั้งการบรรยายความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์และมีการฉายภาพยนตร์เต็มเรื่องในตอนจบด้วย 

นอกจากนี้แล้วยังมี นิทรรศการวิทยาศาสตร์ โลกใต้น้ำ อาคารสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ อาคารตระหนักรู้พลังงาน และนิทรรศการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะพาน้องๆ หนูๆ มาเรียนรู้หรือผู้ใหญ่จะไปเที่ยวชมก็ได้ 

  • ที่อยู่: 928 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: ท้องฟ้าจำลอง  
  • เวลาทำการ: วันศุกร์ 11:00 น. – 15:00 น. /  วันเสาร์-อาทิตย์ 10:00 น. – 15:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัว จอดรถได้ที่พื้นที่จอดรถที่จัดไว้ของท้องฟ้าจำลอง
    • รถเมล์ประจำทาง สาย 149, 2, 25, 38, 40, 48, 501, 508, 511, 72
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย ทางออก 2
สวนเบญจสิริ

2. สวนเบญจสิริ

สวนเบญจสิริเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสุขุมวิทแนวธรรมชาติที่น่าสนใจ ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้ พื้นที่ธรรมชาติ เน้นการออกแบบให้เป็นสวนที่มีพื้นที่โล่ง โปร่ง สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้กว้างเต็มตา เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อนหรือออกกำลังกาย ภายในสวนนอกจากจะมีต้นไม้ให้ร่มเงาแล้ว ยังมีประติมากรรมสวยๆ กลางสวนให้ได้ชมกันอีกด้วย 

สวนเบญจสิริเป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่คนกรุงนิยมมาพักผ่อนกันอย่างมาก ด้วยการเดินทางที่สะดวก ใกล้ถนนสายหลัก เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ได้ อยู่ใจกลางเมืองที่สามารถมาออกกำลังกายหลังเลิกงาน จึงตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับใครที่มองหาที่เที่ยวแนวธรรมชาติกลางกรุงขอแนะนำให้มาที่นี่เลย

  • ที่อยู่: อยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 22 และ 24 บนถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: สวนเบญจสิริ 
  • เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 05:00 – 21:00 น.
  • การเดินทาง: รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ 

3. หอศิลป์ศุภโชค (SAC Gallery)

หอศิลป์ศุภโชคเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่โดนใจสายอาร์ตที่รักศิลปะอย่างแน่นอน เพราะที่นี่เป็นตึกรวมผลงานศิลปะมากมายทั้งจากชาวไทยและชาวต่างประเทศ 

โดยตึกถูกออกแบบสไตล์โมเดิร์น ดูโดดเด่น มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นมีงานศิลปะจัดแสดงเต็มทุกพื้นที่ ภายในมีทั้งการบรรยาย งานนิทรรศการศิลปะงานสาธิตต่างๆ รวมถึงงานเวิร์กช็อปอีกด้วย ใครที่มองหาที่เที่ยวแถวสุขุมวิทแนวนี้แวะมาได้เลยที่หอศิลป์ศุภโชค 

  • ที่อยู่: 160/3 ซอยสุขุมวิท 33 (แดงอุดม) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110  
  • พิกัด: หอศิลป์ศุภโชค (SAC Gallery) 
  • เวลาทำการ: วันอังคาร – ศุกร์ เวลา 10:00 – 18:00 น. และ วันเสาร์เวลา 11:00 – 18:00 น.  (ปิดทุกวันอาทิตย์-วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออกที่ 5 (ซอยสุขุมวิท 35) 
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท ทางออกที่ 2 (อาคารอินเตอร์เช้นจ์ 21) 
    • รถเมล์โดยสารประจำทาง สาย 2, 25, 501, 508, 511, 513, 38, 40 และ 48
    • เรือด่วนคลองแสนแสบ ลงที่ท่าเรืออิตันไทย
Japanese Town

4. Japanese Town

Japanese Town เป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากเดินเล่น ชมบรรยากาศแบบญี่ปุ่น โดยไม่ต้องบินไปไกล ใจกลางกรุงเทพฯ ก็มี เดิมทีที่นี่เป็นชุมชนคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่เที่ยวสุดฮิตของนักท่องเที่ยวแทน เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มีเมนูให้เลือกมากมายหลายร้านเลยทีเดียว ทุกร้านทำโดยคนญี่ปุ่นแท้ๆ 

นอกจากนี้ยังมีร้านอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านนวด สปา ร้านหนังสือ ร้านเช่า DVD โรงเรียนคาราเต้ และร้านขายทัวร์ ทำให้ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยบรรยากาศเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นมากๆ นับเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทสุดสัปดาห์ที่น่ามาไม่แพ้ที่อื่นเลย 

  • ที่อยู่: ซอยสุขุมวิท 33/1 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตพัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Japanese Town 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออกที่ 5 เดินต่อไปที่ซอยสุขุมวิท 33/1 
Flow House Thailand (Bangkok)

5. Flow House Thailand (Bangkok)

เอาใจสายลุยกันบ้างกับที่เที่ยวสุขุมวิทอย่าง Flow House Thailand บีชคลับกลางใจเมือง ที่นี่คือศูนย์เล่นเซิร์ฟจำลองกลางกรุงเทพฯ ที่เดินทางสะดวก ไม่ต้องไปถึงทะเลก็เล่นเซิร์ฟได้ที่นี่ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีสปอร์ตบาร์ ห้องเล่นเกม ร้านค้าต่างๆ ร้านอาหารและคาเฟ่อีกด้วย เป็นอีกที่เที่ยวแถวสุขุมวิทสำหรับสายกีฬาที่น่าสนใจอย่างมาก มาที่เดียวจบทั้งทำกิจกรรม ทานอาหาร พักผ่อน

  • ที่อยู่: 120/1 A-Square, ซอยสุขุมวิท 26 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด:  Flow House Thailand (Bangkok)  
  • เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันพุธ 11:00 – 21:00 น. / วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ 10:00 – 21:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีคลองเตย 
Whizdom Club

6. Whizdom Club

สำหรับใครที่มองหาพื้นที่ทำงาน อ่านหนังสือ ไม่จำเป็นต้องพึ่งแค่ห้องสมุดอีกต่อไป เพราะที่เที่ยวสุขุมวิทสำหรับคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ ได้แรงบันดาลใจมาจาก Knowledge Sharing Society ทำให้ที่นี่กลายเป็น Co-Working Space ที่ถูกแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน ทั้งโซนพื้นที่ทำงาน (Workspace Station) โซนพื้นที่ทำกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน (Whiz Ground) และโซนพื้นที่จัดแสดง (Exhibition Room) ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าพื้นที่ทำงานร่วมกัน แต่เป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่เต็มไปด้วย Inspiration ความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้สิ่งใหม่ที่น่าสนใจกลางกรุงเทพมหานคร 

  • ที่อยู่: โครงการ 101 True Digital Park ชั้น 4 ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10260
  • พิกัด: Whizdom Club  
  • เวลาทำการ:  ทุกวัน 08:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี ทางออกที่ 6

7. Park Lane 

Park Lane เอกมัยเป็นอีกที่เที่ยวสุขุมวิทที่น่าสนใจ ที่นี่เป็นคอมมิวนิตีมอลล์สไตล์คนเมืองตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ จุดเด่นคือที่นี่ถูกออกแบบให้ผู้ที่มาเยือนได้รับรู้สึกผ่อนคลายกลางใจเมืองสุดๆ ด้วยต้นไม้ สวน น้ำพุ การตกแต่งอาคารสุดชิคทำให้ที่นี่แตกต่างจากสถานที่ชอปปิงบนตึกสูงทั่วไป

ที่สำคัญเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอาง ร้านเสริมสวย ร้านสปา ร้านแว่น ร้านอาหาร คาเฟ่ และที่สำคัญที่นี่ตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาที่เที่ยวสุขุมวิทที่มีพื้นที่รองรับเด็กๆ เพราะที่นี่มีร้าน Play Time สวนสนุกในร่มสำหรับเด็กไว้ให้บริการด้วย 

  • ที่อยู่: 18 ซอยสุขุมวิท 61 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Park Lane 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 06:00 – 02:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย แล้วเข้าซอยสุขุมวิท 63 ต่อไปอีก 400 เมตร
The TwentySix 

8. The TwentySix 

The Twenty Six เป็น Shop House ที่เที่ยวสุขุมวิทใจกลางเมือง ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 26 เป็นพื้นที่ที่ได้รวมเอา 8 ร้านค้าไว้ในพื้นที่เดียวกัน มาที่เดียวครบครันทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านขายของใช้น่ารักๆ คาเฟ่ ร้านทำเล็บ ร้านต่อขนตา สักคิ้ว ฝังสีปาก สตูดิโอสอนทอผ้า Golf Academy ร้านขายเสื้อผ้าและร้านแว็กซ์ ให้คุณได้มาพักผ่อนกับที่เที่ยวแถวสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพฯ เพียบพร้อมด้วยบริการที่ครบครัน

  • ที่อยู่:  34/1 ซอยสุขุมวิท 26  แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด:  The TwentySix 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพษ์ แล้วเข้าซอยอารีย์ 650 เมตร 
RQ 49 Health & Lifestyle Mall

9. RQ 49 Health & Lifestyle Mall

มาต่อกันที่ที่เที่ยวสุขุมวิทเอาใจสายสุขภาพกันบ้าง ที่ RQ 49 Health & Lifestyle Mall ที่นี่เป็นมากกว่าคอมมิวนิตีมอลล์ทั่วไป เพราะเต็มไปด้วยการให้บริการด้านสุขภาพและความงามและร้านอาหารชั้นนำ โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นมีให้เลือกมากมาย พร้อมกับการตกแต่งสไตล์ Japan Modern ทำให้บรรยากาศที่นี่ นอกจากจะเป็นศูนย์รวมศูนย์สุขภาพแล้วยังได้รู้สึกเหมือนอยู่ใจกลางญี่ปุ่นอีกด้วย

  • ที่อยู่: 49/7 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110 
  • พิกัด: RQ 49 Health & Lifestyle Mall 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 08:00. น. – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีทองหล่อหรือสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเข้าซอยสุขุมวิท 49 ต่อไปอีก 1.5 กิโลเมตร
The EmQuartier

10. The EmQuartier

ที่เที่ยวสุขุมวิทที่สายชอปปิงจะพลาดไม่ได้เลยก็คือ ศูนย์การค้า The EmQuartier ที่มีร้านค้าชั้นนำระดับโลกมากมายให้ได้เลือกชอป ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าและยังมีร้านอาหารชื่อดังมากมาย

เป็นแหล่งการค้าใจกลางเมืองที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมากันเยอะมาก เพราะมีสินค้าให้เลือกครบครัน ไม่ว่าจะมาชอปปิงหรือพักผ่อนก็ถือว่าตอบโจทย์มากเลยทีเดียว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีโปรโมชั่นมากมายเอาใจนักชอปรออยู่อีกด้วย

และจุดที่พลาดไม่ได้สำหรับใครที่อยากชมวิวเมืองย่านสุขุมวิทจากมุมกว้าง ต้องไปที่สกายคลิฟ ชั้น 45 ของ The EmQuartier ที่นี่คุณจะได้เห็นกรุงเทพมหานครในแบบ 360 องศาเต็มๆ ตา รับรองว่าหาไม่ได้จากห้างสรรพสินค้าไหนอย่างแน่นอน

  • ที่อยู่: 695 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110 
  • พิกัด: The EmQuartier 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น. 
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท
Terminal 21 Asok

11. Terminal 21 Asok

ที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่เป็นทั้งแหล่งชอปปิงและรวมร้านอาหารชื่อดังรสเด็ด ที่เมื่อมาเที่ยวกรุงเทพฯ จะต้องมาเยือนให้ได้ ก็คือที่ Terminal 21 Asok (อโศก) นั่นเอง ที่นี่มีทั้งร้านค้าแบรนด์ชั้นนำให้คุณได้ชอปปิงมากมาย รวมถึงร้านอาหารเด็ดๆ อีกหลากหลายร้าน มีให้เลือกทั้งอาหารไทยและนานาชาติ ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่มีศูนย์อาหารที่ราคาถูกกลางใจเมือง อยู่ในห้างสรรพสินค้า Terminal 21 หลากหลายร้านด้วยกัน 

สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่มาเที่ยวแล้วไม่อยากลากกระเป๋าเดินทางติดตัวให้วุ่นวาย หรือชอปปิงเยอะจนถือไม่ไหว ไม่อยากหิ้วถุงชอปปิงไปที่อื่นต่อ ที่ Terminal 21 มีให้บริการฝากกระเป๋าเดินทางและถุงชอปปิงของ Airportels ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชอปได้อย่างสบาย เที่ยวได้ไร้กังวล เพียงฝากกระเป๋าหรือฝากของไว้กับ Airportels 

  • ที่อยู่: 88 ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตทวีวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Terminal 21 Asok 
  • เวลาทำการ:  ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.  
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท
Gateway Ekamai

12. Gateway Ekamai

หากกำลังมองหาที่เที่ยวสุขุมวิท แหล่งชอปปิงกลางใจเมืองที่ส่วนใหญ่มีราคาไม่แพง ขอแนะนำ Gateway Ekamai ศูนย์การค้าที่รวมสินค้ามากมายในสไตล์ญี่ปุ่นที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แพง โดยเฉพาะสินค้า IT ที่นี้ได้แบ่งโซน IT CITY ที่รวมอุปกรณ์ IT Gatget ไว้มากมายสำหรับสาย IT ต้องถูกใจอย่างแน่นอน รวมทั้งยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ราคาดีให้เลือกสรรหลายร้านด้วยกัน เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ครบทั้งชอปปิงของที่ชอบและได้ทานอาหารรสชาติที่ใช่ 

  • ที่อยู่: 982 ถนนสุขุมวิท 22  แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Gateway Ekamai 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถเมล์ รถประจำทาง สาย 2, 23, 25, 38, 40, 48, 71, 98, 501, 508, 511
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย ทางออก 4 
    • เรือโดยสาร คลองแสนแสบ เลือกลงท่าเรือ ร.ร. วิจิตรฯ ท่าเรือชาญอิสระ หรือท่าเรือทองหล่อ

13. Starbucks Sukhumvit 21

พลาดไม่ได้สำหรับที่เที่ยวสุขุมวิทเอาใจสายคาเฟนั่นคือ Starbucks Sukhumvit 21 สาขา Camp Davis ภายนอกร้านถูกออกแบบตกแต่งในสไตล์อังกฤษ ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ทำให้ mood ภาพออกมาแล้วราวกับอยู่ที่อังกฤษจริงๆ เป็นอีกคาเฟที่ดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนคาเฟอื่นๆ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทย คนต่างชาติ รวมถึงคนกรุงเทพฯ เองมักไปเที่ยวพักผ่อนนั่งรับประทานขนมและจิบเครื่องดื่ม รวมถึงถ่ายรูปสวยๆ กันเยอะมากๆ ใครที่อยากได้รูปสุดเก๋ มูดภาพชิคๆ ต้องมาที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่นี่เลย

  • ที่อยู่: 88 สุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Starbucks Sukhumvit 21  
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 06:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออก 4 เดินต่อเข้าซอยสุขุมวิท 24 อีก 1.4 กิโลเมตร
Bo.lan

14. Bo.lan

ที่เที่ยวสุขุมวิทสำหรับสายกินที่อยากลิ้มลองอาหารไทยรสเลิศติดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดของเอเชีย ต้องมาที่ร้าน Bo.lan (โบราณ) ที่นี่เป็นร้านอาหารไทยที่มีจุดเด่นคือ เลือกใช้วัตถุดิบจากเกษตรไทยเป็นหลักในการทำอาหาร โดยผ่านการคิดและพัฒนาจนเพิ่มมูลค่าของอาหารได้มากขึ้น จนได้พาอาหารไทยไปสร้างความรู้จักทั่วโลก 

สำหรับเมนูอาหารที่ร้านนี้จะแตกต่างกันออกไปตามช่วงฤดูของวัตถุดิบ นอกจากอาหารคาวที่รสชาติเป็นเลิศแล้ว ยังมีของหวานแสนอร่อยให้เลือกรับประทานตบท้ายของมื้อกันอีกด้วย ไม่ว่าจะมาแบบคนเดียว มากับคนรู้ใจ มากับเพื่อนหรือมาพร้อมหน้าทั้งครอบครัว ร้าน Bo.lan ถือว่าเป็นอีกที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่ต้องลิสต์เอาไว้เลย 

  • ที่อยู่: 24 ซอยสุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Bo.lan 
  • เวลาทำการ:
    • วันอาทิตย์ : เปิด 12:00 – 14:00 น.
    • วันจันทร์: ปิด
    • วันอังคาร:  ปิด
    • วันพุธ : 18:00 – 22:00 น.
    • วันพฤหัสบดี : 12:00 – 14:00 น. และ 18:00 – 22:00 น.
    • วันศุกร์ : 12:00 – 14:00 น. และ 18:00 – 22:00 น.
    • วันเสาร์:  12:00 – 14:00 น. และ 18:30 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • BTS ทองหล่อ แล้วเดินเข้าซอยสุขุมวิท 53 อีก 450 เมตร
Unbirthday Cafe

15. Unbirthday Cafe

ปิดท้ายที่เที่ยวสุขุมวิทที่สุดท้ายกับคาเฟ่บรรยากาศสุดชิลที่มีชื่อว่า Unbirthday Cafe ที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่มีคอนเซปต์ว่าการทานเค้กที่ดี อิ่มอกอิ่มใจ สามารถทานได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ในวันเกิด ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยเค้กที่หลากหลาย รสชาติดี น่าทานทุกชิ้น พร้อมเสิร์ฟให้คุณอิ่มเอมกับวันธรรมดาให้รู้สึกว่าพิเศษขึ้นมาได้ทุกวัน 

ซึ่งหากใครอยากทานเค้กอย่างเดียวก็สามารถไปซื้อได้ที่ Cake shelf ทั้ง 2 สาขา Emquartier ชั้น G และ Siam Paragon ชั้น G แต่ถ้าใครอยากทานเค้กอร่อยๆ พร้อมสัมผัสบรรยากาศ Cozy อบอุ่น สบายตา เหมือนอยู่บ้าน ต้องมาที่ Unbirthday Cafe Flagship Store ที่สุขุมวิท 31 

จุดเด่นของคาเฟ่นี้ หากมาตามทางที่บอกแล้วอาจมองหาร้านไม่เจอเพราะที่ตั้งของคาเฟ่จะอยู่บนชั้น 2 ของมาเปงเส็ง อพาร์ทเม้นท์ ให้เดินขึ้นมาเลยแล้วจะพบกับบรรยากาศสุดน่ารักและอบอุ่นของร้าน ในโทนสีขาวและสระว่ายน้ำ พร้อมกับมีส่วน Glasshouse ให้แสงเล็ดลอดเข้ามาเล็กน้อย ไม่ว่าจะพักผ่อนด้วยการทานเค้กแสนอร่อยหรือถ่ายรูปสวยๆ Unbirthday Cafe ก็ตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง 

  • ที่อยู่: ชั้น 2 มาเปงเส็ง อพาร์ทเม้นท์ 14 สุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/mCNPYdZWxWok3DMi8 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 09:00 – 19:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า สถานีพร้อมพงษ์ เดินตรงเข้าซอยสุขุมวิท 31 อีก 750 เมตร 

ย่านที่เที่ยวสุขุมวิทนอกจากจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมายที่หลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงที่เที่ยวแถวสุขุมวิท ยังมีที่เที่ยวที่ให้เดินเล่น ชมธรรมชาติ พักผ่อน เที่ยวแบบชิลล์นอกจากการชอปปิงอีกหลายต่อหลายที่ที่น่าสนใจ หลายคนอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าใจกลางเมือง ย่านเศรษฐกิจอย่างสุขุมวิทจะมีที่เที่ยวที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่พักผ่อนสุดชิลล์อยู่ด้วย และจะเห็นได้ว่ากรุงเทพฯ ก็มีที่เที่ยวอีกหลายที่มากมายที่น่าสนโดยเฉพาะที่เที่ยวสุขุมวิทที่รอให้คุณไปลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ 

สามารถเที่ยวอย่างสบายใจ ไม่กังวลเรื่องกระเป๋าเดินทาง แม้ชอปเยอะก็ไม่ต้องว่าจะกลัวแบกไม่ไหว เพียงฝากกระเป๋าให้ Airportels ดูแล ก็ทำให้คุณเที่ยวได้เต็มที่ ชอปได้จุใจ ไม่ต้องลากกระเป๋าไปด้วย 

AIRPORTELs  ในห้างTerminal 21

บริการรับฝากและขนส่งกระเป๋าเดินทางในประเทศไทย ให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย ไม่ต้องกังวลกับน้ำหนักสัมภาระ ให้คุณท่องเที่ยวในประเทศไทยแบบไร้กระเป๋าเดินทาง ราคาขนส่งกระเป๋าเริ่มต้น 299 บาท ราคารับฝากกระเป๋าเริ่มต้น 30 บาท/ชั่วโมง เท่านั้น หรือจะเหมาทั้งวัน 150 บาท/ใบ 

  • AIRPORTELs  ในห้างTerminal 21 ชั้น1 โซนโตเกียว (ติดทางออกลานจอดรถ)
  • พิกัด: Terminal 21 Asok 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.

21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ง้อรถส่วนตัว

ในวันหยุดพักผ่อนทั้งทีแต่มีเวลาแสนน้อยนิด คุณลองมองหาที่เที่ยวที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลหลายกิโลก็สามารถเอนจอยได้ เป็นแพลนการเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนไม่มีรถส่วนตัว ไม่สะดวกเดินทางไปไหนมาไหนไกลแต่คุณสามารถไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ BTS ได้อย่างเพลิดเพลินกับ 21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ต้องง้อรถส่วนตัว 

BTS สนามกีฬาแห่งชาติ 

BTS สนามกีฬาแห่งชาติ 

เริ่มต้นที่สถานีแรกก็ปังไม่ไหวกับสถานี BTS สนามกีฬาแห่งชาติ สามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดาย แต่คุณกลับได้พบกับสถานที่สุดพิเศษเสิร์ฟตรงหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินสุดชิกอย่างหอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชวนเพื่อนมาถ่ายรูปแนวเก๋ ๆ แนวสวยก็มีหลายมุม หรือจะเป็นอุทยาน 100 ปี จุฬาจุดพักผ่อนชิลๆ รับลมเย็น ที่สำคัญใครที่อยากเดินเล่นด้วยความคล่องตัวที่นี่เขามีจุดฝากกระเป๋าด้วย 

  • บริการฝากสัมภาระ MBK CENTER : AIRPORTELs – ชั้น 6 , โซน บี
  • โปรโมชั่นฝากฟรี 2 ชั่วโมง

อุ่นใจเมื่อกระเป๋าสุดที่รักอยู่ในที่ปลอดภัย แล้วทีนี่ก็เดินเที่ยวอย่างไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วล่ะ       

1. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

จุดเช็กอินแรกที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงสถานีนี้ก็คือ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือเรียกสั้น ๆ ว่าหอศิลป์ ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตในหมู่วัยรุ่นที่หลงใหลในงานศิลป์ไปพร้อมๆ กับได้ถ่ายรูปเด็ดเก็บไว้ในอัลบั้มโปรดก็แจ่มเวอร์ โดยหอศิลป์จะเป็นสถานที่รวบรวมในการจัดแสดงงานศิลปะหลายแขนงเลย รับรองถูกใจสายอาร์ตแน่นอน สามารถเดินทางจาก BTS สนามกีฬาแห่งชาติเพียง 200 เมตรเท่านั้น เรียกว่าเดินเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึง

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/CyrHwyT7BfhydKQu8 
  • เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 20:00 น. 
  • เบอร์โทร : 02 – 2146630 

2. อุทยาน 100 ปี จุฬา 

อุทยาน 100 ปี จุฬา เป็นสวนสาธารณะพื้นที่สีเขียวแสนโดดเด่นใจกลางเมือง โดยมีเนื้อที่กว่า 29 ไร่ สวนแห่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยนโยบายการสร้างเมือง Green & clean city ได้ทราบถึงที่มาที่ไปอันน่าทึ่งขนาดนี้แล้วจะพลาดได้ยังไงล่ะ ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่รักความเป็นส่วนตัว อากาศดีปลอดโปร่ง และได้เห็นวิวธรรมชาติชิลๆ ซึ่งการเดินทางมาจาก BTS สนามกีฬาแห่งชาติห่างกัน 1.3 กิโลเมตร แนะนำให้เรียกวินจะได้ถึงที่หมายได้เร็วขึ้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/KaFm5ghSfiv9eyKy9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 05:00 – 22:00 น. 
  • เบอร์โทร : 022183590 
ที่เที่ยวใกล้ BTS หมอชิต

BTS หมอชิต 

สถานีต่อมาเป็นสถานี BTS ที่สร้างความตะลึงพรึงเพริดต่อคนเพิ่งมาเยือนกรุงเทพฯ ครั้งแรกได้ดี และเป็นหนึ่งสถานีที่แน่นไปด้วยผู้คน แต่ผู้คนเหล่านั้นล้วนตื่นเต้นที่จะไปต่อเพราะหนทางข้างหน้ามีอะไรที่น่าสนใจเยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะมุมพักผ่อนอย่างสวนจตุจักร หรือสายชอปปิงก็ไปเดินเล่นที่ตลาดนัดจตุจักรได้เลย แล้วคุณจะไม่ผิดหวังกับการลงจาก BTS หมอชิต แน่นอน 

3. สวนจตุจักร

ใครที่อยากปลีกความวุ่นวายชั่วครู่ แนะนำให้คุณมาเยือนสวนจตุจักรเลย ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางให้คุณได้มาเดินเล่นอย่างสบายใจ เป็นสถานที่เหมาะสำหรับออกกำลังกายได้ทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นเช้าหรือเย็นก็ดีทั้งนั้น จัดว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่ต้องการความสงบ ร่มรื่น รายล้อมไปด้วยสีเขียวเย็นตา ซึ่งการเดินทางมาที่นี่จาก BTS หมอชิตก็ห่างกันเพียง 700 เมตรเท่านั้น 

  • บริการฝากสัมภาระ MIXT Chatuchak : AIRPORTELs – ชั้น 2 , โซน บี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/yfBKXx4VVzCEerFA9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 04:30 – 22:00 น. 
  • เบอร์โทร : –

4. ตลาดนัดจตุจักร 

ใครที่ชื่นชอบการชอปปิงให้ลองมาเยือนตลาดนัดจตุจักรไม่มีผิดหวังแน่ ที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวมการขายสินค้าขนาดใหญ่แบ่งเป็น 27 โครงการเลยทีเดียว สินค้ามีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ร้านอาหาร รวมไปถึงงานศิลป์งานฝีมือก็มีจัดแสดงและจำหน่ายด้วย  จัดว่าที่นี่เหมาะสำหรับสายเที่ยว กิน ชอป ครบจบในที่เดียว  ซึ่งการเดินทางจาก BTS หมอชิตห่างกันเพียง 450 เมตรเท่านั้น

  • บริการฝากสัมภาระ MIXT Chatuchak : AIRPORTELs – ชั้น 2 , โซน บี     
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/utjr1JpyNr7qfmXV7 
  • เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ – ศุกร์ 07:00 – 18:00 น.

                วันเสาร์ – อาทิตย์ 09:00 – 18:00 น.

  • เบอร์โทร : –
ที่เที่ยวใกล้ BTS ชิดลม

BTS ชิดลม

มาต่อกันที่สถานี BTS ชิดลม สถานีใจกลางเมืองอีกหนึ่งแห่งที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร สามารถเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก นั่นคือ เซ็นทรัลชิดลม สำหรับใครที่ชอบเดินห้างเมื่อลงจากสถานีแล้วสามารถเดินต่อไปหน่อยหนึ่งก็ถึงศูนย์การค้าทันที

5. เซ็นทรัลชิดลม 

สำหรับเซ็นทรัลชิดลมถือเป็นห้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมาก ใครที่ผ่านมาเห็นต่างก็สะดุดตากันทั้งนั้น ด้วยตัวห้างตั้งอยู่บริเวณแยกที่มีวิวของมุมตึกในรูปแบบสถาปัตยกรรมสวยงามโดดเด่น เรียกว่าเห็นปั๊ปอยากเอามือถือที่จับอยู่มาแชะรูปทันที ที่นี่เหมาะสำหรับสายเดินห้างรับลมเย็น เดินเล่นตากแอร์สบาย ๆ ที่สำคัญที่นี่ห่างจากตัว BTS ชิดลมเพียง 650 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/iQCjixS1yqKKWstp8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 22:00 น. 
  • เบอร์โทร : 027937777  
ที่เที่ยวใกล้ BTS ศาลาแดง

BTS ศาลาแดง

ใครกำลังมองหาแหล่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟน่านั่งแล้วล่ะก็ลง BTS ศาลาแดงแล้วคุณจะเจอคำตอบที่ต้องการ สำหรับสถานีแห่งนี้มีคอมมอนส์ที่มีชื่อว่า the COMMONS จะเป็นยังไงนั้นตามไปดูกัน 

6. The Commons 

the COMMONS เป็นเซฟโซนสำหรับคนที่ต้องการหามุมทำงานสบายๆ แต่เดินทางได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพราะที่นี่แห่งนี้มีทั้งโซนนั่งแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ รับรองเลยว่าจะสร้างความประทับใจในการมาเยือนให้กับคุณได้แน่ ภายในมีอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ ให้เลือกเยอะมาก แถมแอร์ก็เย็นฉ่ำเวอร์ เหมาะสำหรับคนอยากมาพักผ่อนสุด ๆ และที่นี่ห่างจาก BTS ศาลาแดงประมาณ 7 กิโล อาจจะไกลหน่อยแต่สามารถเรียกวินได้เลย ระยะทางแค่นี้ไม่แพงมาก

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/niMnPXmqDiCu5ZNn7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 08:00 – 01:00 น. 
  • เบอร์โทร : 0891522677 
ที่เที่ยวใกล้ BTS ช่องนนทรี

BTS ช่องนนทรี

หากกำลังมองหาแลนด์มาร์กที่มีความโดดเด่นในช่วงกลางคืนแล้วล่ะก็ที่ BTS ช่องนนทรีจัดว่าเป็นจุดเช็กอินที่จะทำให้คุณได้ร้องว้าวกับภาพตรงหน้าในยามค่ำคืนในมหานครได้ดี มีจุดไฮไลต์เป็นสะพานช่องนนทรี สะพานสีขาวชื่อดังที่ทั้งคนกรุงและคนต่างจังหวัดต่างก็คุ้นตาเป็นอย่างดี

7. สะพานช่องนนทรี 

สายถ่ายรูปต้องหลงรักที่แห่งนี้แน่ สะพานช่องนนทรี เป็นสกายวอล์กที่กลายเป็นจุดถ่ายรูปสุดปังที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน ถ่ายยังไง ภาพที่ออกมาก็สวยเป๊ะปังทุกภาพแน่นอน ด้วยที่นี่มีตัวสะพานที่ขาวสุดโดดเด่นตั้งตระหง่านอย่างงดงาม เรียกว่าเห็นสิ่งนี้แต่ไกล ๆ ก็อยากรีบกระโจนเข้าไปใกล้ให้เร็วเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปใกล้ชิดมากที่สุด การเดินทางจาก BTS ช่องนนทรีจากที่นี่ไม่ไกลมากห่างแค่  110 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/niMnPXmqDiCu5ZNn7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
  • เบอร์โทร : –
ที่เที่ยวใกล้ BTS ตลาดพลู

BTS ตลาดพลู

ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ไม่ไกลจากกลางเมืองเท่าไรนัก และมีเสน่ห์ตรงมีแม่น้ำเจ้าพระยาคั่นไว้แต่กลับสามารถเดินทางสู่ CBD ได้ด้วยการเดินทางที่หลากหลาย และที่สำคัญ BTS ตลาดพลู มีแหล่งชอปปิงลับน่าสนใจที่ถูกซุกซ่อนในตลาดพลูหลายอย่าง อยากรู้แล้วตามมาเลย  

8. ตลาดพลู 

ที่ตลาดพลูแห่งนี้เป็นแหล่งรวมของกินที่เยอะและดีที่สุดของย่านฝั่งธนแล้วล่ะ ใครที่เป็นสายกินอย่าได้พลาดเชียว เมื่อมาถึงนี่แล้วมีโลเคชั่นอยากให้มาเยือนกัน ที่นี่เหมาะสำหรับสายคูลๆ ที่สามารถลองได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นของกินที่หลากหลายทั้งคาวและหวาน แอเรียใกล้เคียงก็เต็มไปด้วยวัดวามากมาย เรียกว่ากินอิ่มก็ไปทำบุญได้เลย ซึ่งการเดินทางจาก BTS ตลาดพลูห่างกัน 1.5 กิโล สามารถเรียกวินเพื่อไปตลาดได้เลย 

พิกัด : https://goo.gl/maps/ybnYfN17b9L4GFe59 

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
                วันพุธ – วันจันทร์เวลา 09:00 – 00:00 น.  

        วันอังคารเปิด 24 ชั่วโมง 

        เบอร์โทร : – 

ที่เที่ยวใกล้ BTS พร้อมพงษ์

BTS พร้อมพงษ์

สถานีถัดมา BTS พร้อมพงษ์ นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้วยังมีสถานที่เดินเล่นชิลล์สุดพิเศษอยู่หนึ่งที่  จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก The Manor 39 เป็นคอมมูนิตี้มอลล์เล็ก ๆ ที่บรรยากาศน่าเข้าไปหาสุด ๆ 

9. The Manor 39

ใครกำลังมองหาจุดแวะใกล้ BTS พร้อมพงษ์ กับสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกวิเศษต้องลองได้แวะที่นี่คุณต้องถูกใจอย่างแน่นอน The Manor 39 เต็มไปด้วยความสนุก ความผ่อนคลายในที่เดียวกัน เปิดประสบการณ์มาคอมมูนิตี้ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เป็นโครงการที่มีทั้งคาเฟ่ชิกๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดอร่อย ร้านเสริมสวย รวมไปถึงคาราโอเกะเร้าใจ เรียกว่าปาสุขปาใจได้ทั้งวัน อีกทั้งที่นี่หากจาก BTS พร้อมพงษ์เพียง 650 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/WAGvh6qv4ZPNobhh7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 11:30 – 00:00  น.
    เบอร์โทร : 026625541 
ที่เที่ยวใกล้ BTS สะพานตากสิน

BTS สะพานตากสิน

มาต่อกันด้วยสถานีที่จะทำให้คุณได้รับความสนุกสุดเหวี่ยงจัดเต็มไปทั้งวันอย่างที่คุณไม่เคยได้รับมหาศาลเท่านี้มาก่อน เพราะสถานีแห่งนี้พร้อมต้อนรับคุณด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตหลายที่ไม่ว่าจะเป็น ล้ง 1919, Warehouse 30, ตลาดน้อย, The Jam Factory, เอเชียทีค และไอคอนสยาม เป็นไงแต่ละที่มีแต่ปัง ๆ ใช่ไหมล่ะ รับรองงานนี้เที่ยวจนตัวแตกเพียงแค่ลงจาก BTS สะพานตากสิน ก็รับความสนุกได้เต็มแมกซ์ 

10. ล้ง 1919

ประเดิมด้วยสถานที่พักผ่อนสุดแนวเอาใจทุกเจน ที่นี่เดินทางมาได้ง่ายมากแค่ลง BTS ต่อเรือด่วนเจ้าพระยาเพื่อมาลงท่าเรือหวังหลีก็ถึงที่หมายแล้วล่ะ มาเยือนล้ง 1919 ทั้งทีคุณทำได้ทั้งเดินเล่นปล่อยใจ ทานอาหารอร่อยๆ กับร้านอาหารน่านั่ง ถ่ายรูปมุมสวยปังทุกช็อต พร้อมไหว้พระขอพรศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว เรียกว่าครบจบในที่เที่ยว ที่สำคัญที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสินเพียง 2.5 กิโล แต่ระยะทางนี้เราเดินต่อกันด้วยเรือนะ แต่เดินหน่อยเดียวก็ถึงแล้วล่ะ 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/XFZvwf19PVQovJZW8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 18:00  น.
    เบอร์โทร : –

11. Warehouse 30

เปลี่ยนบรรยากาศจากที่เที่ยววิวแม่น้ำมาต่อกันด้วยจุดเช็กอินที่เอาใจสายฮิปเปอร์ได้ดี เมื่อคุณลงจากสถานีแล้วเดินเท้าเปล่าอีกนิดไปทางไปรษณีย์กลางบางรัก เห็นเป็นโกดังเก่าติดกันยาวนั่นแหละถึงที่หมาย Warehouse 30 เรียบร้อย ที่นี่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ หรือร้านเสื้อผ้าก็มีเหมือนกัน พร้อมมีโรงฉายหนังขนาดเล็กดูเพื่อผ่อนคลายได้ดีเยี่ยม ที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสิน 1.3 กิโล ถือว่าไม่ไกลมากนั่งวินแป๊บเดียวถึง

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/pnoBuc1FZfyvYmQx5 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 09:00 – 18:00  น.
  • เบอร์โทร : 022375087 

12. ตลาดน้อย

สถานที่ต่อมาเป็นย่านจีนที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ลงมาจากสถานีเดินมาผ่านบางรักมาหน่อยนึงก็ถึงแล้ว หรือจะเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยาก็ได้เหมือนกัน ที่นี่เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่อยู่ตามแนวถนนเจริญกรุง ใครที่หลงใหลความคลาสสิคสไตล์จีนโบราณ หากได้มาเยือนที่ตลาดน้อยจะต้องชอบแน่ สายถ่ายรูปอย่าได้พลาด อีกทั้งยังห่างจาก BTS สะพานตากสิน 1.9 กิโล 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Snz396uah5qfSZiRA 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง 
  • เบอร์โทร : –

13. The Jam Factory

ที่ต่อมาจะพาทุกคนข้ามมาฝั่งธน เอาใจสายฮิปสเตอร์น ที่นี่ถูกเนรมิตจากโกดังเก่าให้กลายมาเป็นคาเฟ่สุดชิกที่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น มีโคมไฟเท่ ๆ คลอด้วยเสียงเพลงน่าฟัง นั่งชิลล์ได้แฮปปี้สุดๆ สำหรับ The Jam Factory ห่างจาก BTS สะพานตากสินเพียง 1.7 กิโลก็ถึงที่หมาย 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/D3z61MxHJaHmSDb67 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 09:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : 028610950 

14. เอเชียทีค

สถานที่ต่อมาเชื่อว่าเป็นจุดเช็กอินในใจที่หลายคนอยากมาเยือนให้ได้สักครั้ง เอเชียทีค เป็นแลนด์มาร์กสุดโรแมนติกในการมาเดตกับแฟน หรือมาเที่ยวกับผองเพื่อนก็สนุกได้เต็มที่ได้ทั้งนั้น ที่นี่ยืนหนึ่งในการเป็นศูนย์การค้าแนวราบริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย อีกทั้งยังมีโรงละครคาลิปโซ่ คุณสามารถดื่มด่ำกับการดูหนัง จิบกาแฟ กินอาหาร และชอปปิงพร้อมวิวแม่น้ำด้วยความเพลินตลอดค่ำคืน ที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสิน 2.2 กิโล อาจไกลนิดนึงแต่คุ้มกับความฟิน 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/N1RqxnDS9iSttJ7N8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 11:00 – 00:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0922460812 

15. ไอคอนสยาม (Iconsiam)

ปิดที่เที่ยวจาก BTS สะพานตากสินด้วยศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ตระการตาใจกลางมหานคร มาที่นี่คุณจะได้พบกับคนเกือบทุกมุมโลกในที่เดียว ใครที่เข้ากรุงเทพ ฯ มาต่างก็อยากมาเยือนที่นี่ ไอคอนสยามสามารถอยู่ได้ทั้งวันโดยไม่มีเบื่อ มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่น่ารัก ร้านค้าแบรนด์ดังครบ รับรองคุณจะตื่นตาตื่นใจทุกฝีก้าวที่ได้เดิน ที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสินเพียง 1.3 กิโลเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/kFfTjxVSyn7MxrWK9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 22:00 น.  
  • เบอร์โทร : 024957080 
ที่เที่ยวใกล้ BTS ราชเทวี

BTS ราชเทวี

สถานี BTS ราชเทวีเป็นทำเลที่รายล้อมด้วยศูนย์การค้ามากมาย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวแนวฮิปเอาใจวัยรุ่นได้ทุกยุค ด้วยตัวสถานีเชื่อมต่อกับย่าน BTS พญาไทและไม่ไกลจาก BTS อนุสาวรีย์เท่าไร อีกทั้งที่นี่ยังมี สวนเฉลิมหล้า Street Art ราชเทวี เป็นจุดที่เอาใจสายสตรีทอาร์ตได้ดี 

16. สวนเฉลิมหล้า Street Art ราชเทวี

สำหรับใครที่หลงใหลกับภาพวาดบนกำแพง ก็มาเยือนสวนเฉลิมหล้า Street Art ราชเทวี คุณจะสะกดคำว่าผิดหวังไม่เป็นแน่นอน ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพแนวภาพวาดฝาผนัง หรือสตรีทอาร์ต รูปภาพที่ถูกแต่งแต้มบนผนังมีความโดดเด่นสูง สีสันสวยสะดุดตา เรียกว่าถ่ายรูปยังไงก็ออกมาสวยหล่อทั้งนั้น และที่สำคัญที่นี่ห่างจาก BTS ราชเทวีเพียง 180 เมตรเท่านั้น โหใกล้ ๆ เลยนะเนี่ย 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/qukQtB2igJUNgtdW7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 05:30 – 19:00 น.  
  • เบอร์โทร : –
ที่เที่ยวใกล้ BTS สยาม

BTS สยาม

ต่อเนื่องกันที่สถานี BTS ที่ฮิตฮอตเหล่าวัยรุ่นตั้งแต่ยุคก่อนจนถึงปัจจุบัน และดูทีท่าว่าเสน่ห์ความฮิตก็ไม่อาจลดละหายไปไหนได้ง่ายๆ ที่นี่เป็นทำเลของคนที่ชื่นชอบวิถีคนเมืองที่หรูหรา มองไปทางไหนก็มีแต่ความเจริญพุ่งเข้าใส่ ที่สำคัญมีอควาเรียมกลางมหานครอีกด้วย จะเป็นที่ไหนได้นอกจาก Sea Life Bangkok Ocean World เป็นโอเชี่ยนที่เหมาะสำหรับมากันทุกความสัมพันธ์จริงๆ 

17. Sea Life Bangkok Ocean World

มีเวลาว่างไปเที่ยวแค่นิดเดียวแต่กลับอยากไปเห็นทะเล มาที่นี่ Sea Life Bangkok Ocean World คุณก็สามารถสัมผัสของความทะเลได้แล้วล่ะ แนะนำให้คุณชมปลาใต้ท้องทะเลด้วยความเพลินจัดเต็ม พร้อมลอดอุโมงค์ทางเดินใต้น้ำสร้างความตื่นเต้นสุด ๆ มาแล้วไม่มีผิดหวัง ที่นี่ห่างจาก BTS สยามเพียง 100 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Kr2eUQ2Y56dEP6HB9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : 026872000 
ที่เที่ยวใกล้ BTS อารีย์

BTS อารีย์

สำหรับสถานีนี้เป็นหนึ่งย่านที่เหมาะสำหรับการมาใช้ชีวิตมากๆ ไม่ได้เป็นย่านที่วุ่นวายจนเกินไป และสามารถพบความสงบได้ด้วย ถึงแม้ BTS อารีย์ไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่รอบข้างก็ล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมที่เที่ยวเอาใจทั้งสายคาเฟ่และคอมมูนี้ตี้มอลล์  

18. Kid Mai Death Cafe

คาเฟ่แห่งนี้มาในคอนเซปต์ที่แปลกแหวกแนวกว่าหลายๆ ที่ แค่ชื่อก็สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของความตาย เมื่อมาถึงนี่สิ่งที่คุณต้องไม่พลาดนั่นคือ ทดลองตาย ก่อนตาย ในโลงศพที่ถูกปูด้วยผ้าผืนสีชมพู นอกจากคุณจะได้ดื่มรสชาติกาแฟแสนอร่อยก็ยังได้ดื่มด่ำกับสัจธรรมชีวิตอีกด้วย ที่นี่ห่างจาก BTS อารีย์ เพียง 77 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/cDWE2YSbvw7WQRYu8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 09:00 – 21:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0633244519  

19. GUMP’s Ari Community Space

ต่อเนื่องกันที่คาเฟ่สุดน่ารักที่เอาใจสาว ๆ ที่หลงใหลกับอะไรที่เห็นแล้วจะต้องตาแป๋วทนความน่ารักไม่ไหว เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งสไตล์มินิมอลหวาน ๆ มุมถ่ายรูปเยอะมาก แถมกาแฟสดก็รสชาติดีมาก ห่างจาก BTS อารีย์เพียง 400 เมตรเท่านั้น

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/FwsT4uY5V4MgG8sX8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : –
BTS สุรศักดิ์ - วัดแขก

BTS สุรศักดิ์

มาต่อกันที่สถานีรองสุดท้ายด้วย BTS สุรศักดิ์ เป็นสถานีทำเลดี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่นี่มีเส้นคมนาคมหลายรูปแบบ ล้อมด้วยอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล ร้านอาหาร คอนโด และอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวเอาใจสายชิลล์เพียบ 

20. Roots BKK

ใครกำลังมองหากาแฟสดรสชาติดี คุณภาพเยี่ยม ให้คุณได้ลองก้าวมาร้านนี้แล้วคุณจะเจอคำตอบที่ใช่ สำหรับร้าน Roots BKK ไม่ได้เป็นแค่ร้านกาแฟธรรมดา ๆ แต่มันมากกว่านั้น มีเรื่องราวของกาแฟไทยเกรดดีคัดสรรทุกเมล็ดให้คุณได้ดื่มอย่างสุขใจ ภายในร้านหอมฟุ้งด้วยกลิ่นกาแฟ ร้านตกแต่งได้สวย สะอาด น่ามองน่านั่ง ที่สำคัญที่นี่ห่างจาก BTS สุรศักดิ์เพียง 170 เมตรเท่านั้นเอง 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/5FkYqPqZLSudoo2p9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 07:00 – 19:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0820916175 

21. วัดแขก

ปิดท้ายด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเอาใจสายมู ใครที่เลื่อมใสในพระแม่อุมาเทวี มาที่นี่คุณสามารถสักการะท่านแม่ได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงอินเดีย วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ย่านสีลม ย่านชื่อดังใจกลางเมืองกรุง วัดนี้ตกแต่งได้สวยงามให้บรรยากาศเหมือนอยู่อินเดียได้ดีมาก ไปเหอะอย่าพลาดเลย และที่นี่ห่างจาก BTS สุรศักดิ์เพียง 800 เท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/ZBgDuB99zabdcho58 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 06:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0973159569 

แอร์พอเทลล์บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระ

บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระสนามบินดอนเมือง

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าที่มีสาขาในสนามบิน และห้างชั้นนำในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีบริการส่งสัมภาระไปยังโรงแรม-ห้าง-สนามบิน ราคาเริ่มต้น 299 บาท/ใบ รวมถึงบริการส่งกระเป๋าไปยังต่างจังหวัด

สาขาของแอร์พอเทลล์

  • สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ 
  • สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 
  • MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)
  • Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)
  • Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)
  • MIXT Chatuchak ชั้น2, โซนบี
  • Terminal 21 Pattaya ชั้น 1 , โซนปารีส (บริเวณใกล้อีฟแอนด์บอย)

สรุป

จบกันไปแล้วสำหรับ 21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ง้อรถส่วนตัว เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับจุดเช็กอินที่ทางเราได้มาแนะนำให้กับทุกคน เรียกว่าถูกใจสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถเที่ยวได้หลากรูปแบบ หลายรสชาติได้จัดเต็มเลยใช่ไหมล่ะครับ BTS จะไม่ได้เป็นแค่การเดินทางเพื่อไปเรียนหรือไปที่ทำงานอีกต่อไป เพราะคุณสามารถเปลี่ยนทิศทางที่เคยเดินไปประสบกับที่ใหม่ ๆ ได้ง่ายแสนง่าย และห่างจากสถานีไม่ไกลมากเท่าไรก็ถึงที่เที่ยวได้เลย และสำหรับใครที่อยู่ต่างจังหวัดต้องการเดินทางมาเที่ยวกรุงเทพแล้วล่ะก็ทางเราอยากแนะนำ Airportels  บริการส่งกระเป๋าจากสนามบินถึงที่พักได้ทันที เรียกว่ามาถึงกรุงเทพสามารถออกเดินทางไปเที่ยวทั้ง 21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ง้อรถส่วนตัว รู้แบบนี้รีบ ๆ ตามรอยให้ได้เลย 

21 คาเฟ่ดอนเมือง ใกล้สนามบิน นั่งชิลรอเช็กอินไม่ตกเครื่องแน่นอน

สำหรับใครกำลังมีแพลนขึ้นเครื่องที่สนามบินดอนเมือง และต้องเผื่อเวลาล่วงหน้ามาสนามบิน แล้วรู้สึกเบื่อที่ต้องไปนั่งคอยเหงาๆ ที่สนามบิน สามารถเลือกคาเฟ่ดอนเมือง เพื่อแวะถ่ายรูปพร้อมหาที่นั่งชิลๆ หรือจะแวะหาของกินดอนเมืองก่อน แล้วค่อยกลับไปสนามบินก็ยังได้ วันนี้ AIRPORTELs ได้รวบรวม 20 คาเฟ่ดอนเมือง ให้ทุกคนได้เลือกแวะจิบกาแฟ ถ่ายรูป และทานอาหารกันได้ตามอัธยาศัย

Makvid cafe & bistro

1. Makvid cafe & bistro

เริ่มกันที่ ‘Makvid cafe & bristo’ คาเฟ่ดอนเมืองสุดชิกที่เรียกว่ามีลูกเล่นไม่ธรรมดา ตอนกลางวันเป็นคาเฟ่ ส่วนกลางคืนผันตัวเป็นบาร์ได้ด้วย ภายในร้านตกแต่งด้วยตัวอาคารแบบเรือนกระจก ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศใกล้ชิดกับธรรมชาติ พร้อมถ่ายรูป ทานอาหาร เครื่องดื่ม หรือชิมเบเกอรีโฮมเมดได้ตลอดทั้งวัน 

  • ที่อยู่ : เลขที่ 435 ซอย 2 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 8 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20  นาที
  • พิกัด : Makvid cafe & bistro
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันพุธถึงจันทร์ (หยุดทุกวันอังคาร) 11.00-21.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 089-662-6681

2. Foresta cafe

ห้ามพลาดกับ ‘Foresta cafe’ คาเฟ่ดอนเมืองที่เป็นทั้งคาเฟ่ และร้านอาหารภายในตัว ตกแต่งแบบเน้นธรรมชาติ และป่าเขาตามชื่อ Foresta cafe ให้คุณได้ผ่อนคลายจากความเหนื่อยล้า ทานอาหารอร่อยๆ กับครอบครัว ขอแนะนำเมนูขึ้นชื่ออย่าง ปลาหมึกผัดไข่เค็ม ปลากระพงทอดน้ำปลา ส้มตำ บิงซู ชีสเค้ก ฯลฯ พร้อมสัมผัสร่มเงาธรรมชาติ ฟังเสียงน้ำตกและชมความสวยงามฝูงปลาคาร์ฟหลากสี เรียกได้ว่าได้ทั้งทานอาหารอร่อยริมธรรมชาติ และยังได้แวะถ่ายรูปตามมุมยอดนิยมของทางร้านอีกด้วย

  • ที่อยู่ : เลขที่ 6 ซอย เดชะตุงคะ 1 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20  นาที
  • พิกัด : Foresta cafe
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10.00-23.00 น. และพิเศษในวันศุกร์, เสาร์ เปิดถึง 00.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 088-254-4444
Butter UP Cafe

3. Butter UP Cafe

คาเฟ่ดอนเมืองที่เหมาะสำหรับสายของหวาน ต้องแวะมาที่นี่เลย ‘Butter UP Cafe’ คาเฟ่ที่โดดเด่นเรื่องนมและขนมปัง ตัวร้านถูกเปลี่ยนจากบ้านเก่าๆ เป็นคาเฟ่น่ารัก สไตล์อบอุ่นโทนสีขาว-น้ำตาล หากมาที่นี่ต้องลองทานเมนูหลักอย่าง Rich Cocoa โกโก้เข้มข้นที่คุณสามารถเลือกระดับความหวานได้ตามใจ 

  • ที่อยู่ : เลขที่ 59, 318 ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 39 อำเภอปากเกร็ด นนทบุรี 11120
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 14 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
  • พิกัด : Butter UP Cafe
  • เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 099-222-6144

4. Malinny Cafe

 คาเฟ่ดอนเมืองที่ถือว่าใกล้สนามบินดอนเมืองแบบสุดๆ ต้องมาที่ ‘Malinny Cafe’ เพราะที่นี่มีทั้งอาหาร และของหวานให้ทุกคนได้เลือกทานได้ตามสะดวก แนะนำให้ลองชิมเมนูขึ้นชื่อของทางร้านอย่าง ข้าวกะเพราไข่ข้น พร้อมตามด้วยเครื่องดื่มหวานๆ สีสดใสอย่าง นมเย็น 

  • ที่อยู่ : เลขที่ 12 ซ. ช่างอากาศอุทิศ 5 แยก 6 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที
  • พิกัด : Malinny Cafe
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันอังคารถึงอาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์) เวลา 10.00-18.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 086-383-2580
ร้านบ้าน บ้าน 34 Home Cafe

5. ร้านบ้าน บ้าน 34 Home Cafe

คาเฟ่แนวอบอุ่น น่ารักๆ ที่เนรมิตมาจากบ้านพักอาศัยให้กลายเป็นคาเฟ่ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เรียกว่าเป็นความธรรมดาที่แสนจะลงตัว ต้องแวะมาที่ลองที่ ‘ร้านบ้าน บ้าน 34 Home Cafe’ พร้อมทานเมนูขายดีประจำร้านอย่าง ขนมปังปิ้งสังขยาทูโทน ที่เสิร์ฟสังขยาทั้งสองสี สีน้ำตาลส้มและสีเขียว ให้คุณได้เลือกจิ้มทานกับขนมปังนึ่งหอมกรุ่น

  • ที่อยู่ : เลขที่ 34 ซอยประชาอุทิศ 5 แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที
  • พิกัด : บ้าน 34 Home Cafe
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันศุกร์-พุธ (หยุดทุกวันพฤหัสบดี) เวลา 07.30-18.30 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 095-657-4689

6. Manna craft fe’

สำหรับใครที่อยากทานกาแฟแล้วรู้สึกผ่อนคลายเหมือนอยู่บ้าน ต้องห้ามพลาด! ‘แมนนาคราฟ แอนด์ คาเฟ่’ คาเฟ่ที่ตกแต่งบรรยากาศภายในร้านด้วยโทนสีขาวสะอาด พร้อมประดับต้นไม้เขียวขจี ให้ความรู้สึกเบาสบาย พร้อมเลือกทานเครื่องดื่มสมูทที หรือเลือกทานกาแฟก็อร่อยทุกเมนู และสำหรับใครที่สายกาแฟเข้มๆ สามารถสั่งเพิ่มกาแฟได้อีกด้วย

  • ที่อยู่ : เลขที่ 36, 13 ซอยประชาอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-20 นาที
  • พิกัด : Manna Craft fe’ แมนนาคราฟ แอนด์ คาเฟ่
  • เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวันพฤหัสบดี-อาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์-พุธ) เวลา 10.00-17.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 083-108-5999
โอชากาแฟ

7. โอชากาแฟ

อยากเปลี่ยนบรรยากาศเป็นโทนคลาสสิก ได้ถ่ายรูปเก๋ๆ ต้องแวะมาที่ ‘โอชากาแฟ’ คาเฟ่ดอนเมืองที่คงบรรยากาศภายในร้านแบบยุค 90s ให้คุณรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปในอดีต หากใครที่แต่งตัวแนววินเทจ แล้วอยากได้รูปสวยๆ กลับไป ขอบอกเลยว่าสามารถถ่ายรูปได้ทุกมุมของร้าน เพราะมุมสวยๆ เยอะมาก อีกทั้งกาแฟก็รสชาติดี สามารถบอกระดับความหวานที่ต้องการได้อีกด้วย 

  • ที่อยู่ : ถนนนาวงประชาพัฒนา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 12 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
  • พิกัด : โอชากาแฟ | 噢 茶 咖 啡
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์) เวลา 08.00-16.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 098-552-3636

8. COK Cream of The Koff

คาเฟ่ที่มองเห็นโดดเด่นเป็นสง่าตั้งแต่หน้าร้าน เพราะร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาวสว่าง ใครที่ชอบรูปขาวๆ คลีนๆ ต้องพลาดไม่ได้กับคาเฟ่ดอนเมืองชื่อดัง ‘COK Cream of the Koff’ คาเฟ่ที่จัดมาครบทั้งอาหารคาว ของหวาน เครื่องดื่ม ขอแนะนำให้ลองทานเมนูติดดาวอย่าง เอสเพรสโซ่เย็น หวานน้อย เมนูแนะนำที่สายกาแฟจะรู้สึกหอมกลิ่นกาแฟ กลมกล่อมด้วยรสชาติ อย่าพลาดที่จะไปลองชิมด้วยตนเอง

  • ที่อยู่ : เลขที่ 50/042 ถนนเอกทักษิณ ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี ปทุมธานี 12000
  • ใกล้สนามบิน :  ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 15 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20-30 นาที
  • พิกัด : COK Cream of The Koff
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.00-00.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 084-141-8664
Long Dog Coffee and Bakery

9. Long Dog Coffee and Bakery

‘Long Dog Coffee and Bekery’ คาเฟ่ดอนเมืองน่ารัก สบายๆ ที่เป็นร้านเล็กๆ แต่ดูสงบ ตัวตึกทำจากปูนสีขาว พร้อมตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์สีน้ำตาลอย่างลงตัว เหมาะสำหรับผู้ที่ชอบความเงียบ อยากนั่งชิลๆ เพื่อผ่อนคลาย ขอแนะนำให้ลองทานขนมโฮมเมดที่เจ้าของร้านลงมือทำเอง หรือเลือกทานลาเต้เย็น เมนูเด็ดของทางร้านที่ให้รสชาติอร่อย กลมกล่อม พร้อมสูดกลิ่นกาแฟหอมๆ ระหว่างทาน

  • ที่อยู่ : เลขที่ 52/454 หมู่บ้านเมืองเอก ถนนเอกทักษิณ 7 ตำบลหลักหก อำเภอเมืองปทุมธานี ปทุมธานี 12000
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 15 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที
  • พิกัด : Long Dog Coffee and Bakery
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันอังคาร-วันพฤหัสบดี (หยุดทุกวันพุธ) เวลา 09.00-17.30 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 083-303-1370

10. Koi Cafe DonMuang

คาเฟ่ดอนเมืองแนวเรียบๆ มินิมอล แต่ดูอบอุ่น เสิร์ฟพร้อมของหวานหลายชนิดให้คุณได้ลิ้มลอง ไม่ว่าจะเป็นโทสต์ วาฟเฟิล หรือชา กาแฟก็มีครบ ให้คุณได้สัมผัสบรรยากาศแบบเป็นกันเอง เพราะเป็นคาเฟ่เล็กๆ ที่เจ้าของร้านลงมาบริการด้วยตนเองเลยทีเดียว

  • ที่อยู่ : เลขที่ 22, 77 ซอยวิภาวดีรังสิต 35 แขวงสนามบิน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 8 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
  • พิกัด : Koi Cafe Don Mueang
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-20.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 061-659-2295
Sero Specialty Coffee

11. Sero Specialty Coffee

คาเฟ่ดอนเมืองลับๆ ที่หลายๆ คนยังไม่รู้จัก ‘Sero Speciality Coffee’ คาเฟ่คุมโทนสีเหลืองอ่อนตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีดำ พร้อมตัดแสงด้วยไฟโทนเหลืองส้ม ทำให้บรรยากาศภายในร้านดูเท่  แต่ยังรู้สึกสบายตา พร้อมทานกาแฟที่ชงจากบาริสต้ามากประสบการณ์ ใครที่อยากชิมกาแฟแบบใหม่ๆ หรืออยากรู้เรื่องชนิดกาแฟ การเลือกเมล็ดกาแฟ ก็สามารถพูดคุยกับบาริสต้าได้เลย เพราะที่นี่เขารู้ลึก รู้จริง!

  • ที่อยู่ : เลขที่ 310 341 ซอยสรงประภา 14 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
  • พิกัด : Sero Specialty Coffee
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันพฤหัสบดี-วันอังคาร (หยุดทุกวันพุธ) เวลา 09.00-17.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 081-359-6149

12. Xten Cafe

‘Xten Cafe’ เป็นคาเฟ่ดอนเมืองที่ตั้งอยู่บริเวณถนนสายไหม จังหวัดกรุงเทพมหานคร เป็นคาเฟ่ที่รวมกาแฟหลายชนิดเอาไว้ ให้คุณได้เลือกทานกาแฟมากกว่า 10 ชนิด และสำหรับใครที่สนใจเมนูขายดีติดดาว ต้องลองชิม Dirty Espresso กาแฟเอสเปรสโซคั่วเข้มสูตรเฉพาะของทางร้านที่รับรองว่าโดนใจสายกาแฟแน่นอน

  • ที่อยู่ : เลขที่ 390/1 โครงการวิลเลจสายไหม ห้อง A1 ถนนสายไหม เขตสายไหม กรุงเทพมหานคร 10220
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 17 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที
  • พิกัด : Xtencafeสายไหม
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 06.30-16.00 น. โดยในวันเสาร์-อาทิตย์จะเปิดเวลา 08.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 063-589-2561
The Leisurely House

13. The Leisurely House

เปลี่ยนบรรยากาศจากคาเฟ่ดอนเมืองชิกๆ เป็นคาเฟ่ดอนเมืองสไตล์บริติชแบบผู้ดีอังกฤษ ให้ความรู้สึกหรูหรา อลังการเหมือนอยู่ต่างประเทศ ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์อังกฤษทั้งร้าน ให้คุณได้ถ่ายรูปแบบจัดเต็ม พร้อมทานเมนูชื่อดังของร้านอย่าง Signature Drink Cookie & Cream ให้คุณได้สัมผัสรสชาติหวานอร่อยที่บอกเลยว่าสายหวานจะต้องชอบแบบสุดๆ ทานคู่กับเค้กช็อกโกแลตลาวา หรือลองทานกับครัวซองต์ก็ยิ่งอร่อย

  • ที่อยู่ : เลขที่ 109 ถนนประชาอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 17 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30-40 นาที
  • พิกัด : The Leisurely House
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 10.00-18.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 094-553-0632

14. AS SOON AS POSSIBLE

ใครที่อยู่เขตสายไหมคงเคยสะดุดตากับคาเฟ่สุดเท่อย่าง ‘As soon as possible’ คาเฟ่ดอนเมืองสไตล์ลอฟท์ที่ตกแต่งแบบดิบๆ เน้นโทนสีดำ ภายในร้านเพิ่มความเป็นลอฟท์ด้วยการโชว์ผิวพื้นปูนเปลือยที่ปราศจากการตกแต่งใดๆ เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่สุดชิกที่ดีทั้งบรรยากาศ รสชาติของอาหาร และเครื่องดื่ม แนะนำให้ลองชิมเมนูสุดเก๋จากทางร้านอย่าง Es x Kiwi ที่นำน้ำกีวีมาผสมกับกาแฟเอสเปรสโซ ให้ความรู้สึกหอม หวานอมเปรี้ยว สดชื่นตั้งแต่ชิมครั้งแรก

  • ที่อยู่ : เลขที่ 147/17, อนุสาวรีย์, เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร 10220
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15-20 นาที
  • พิกัด : AS SOON AS POSSIBLE
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 09.30-18.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 084-506-4565
A Hundred Kilo. - Brew & Bake

15. A Hundred Kilo. – Brew & Bake

คาเฟ่แนววินเทจที่เน้นตกแต่งด้วยสีน้ำตาลเป็นหลัก เป็นคาเฟ่ดอนเมืองขนาดเล็กแต่คุณภาพล้น เรียกได้ว่าเป็นร้านลับแต่รวมของดี ภายในร้านบรรยากาศอบอุ่น เครื่องดื่มก็อร่อย อีกทั้งเบเกอรีก็ยังรสชาติเยี่ยม ขอแนะนำให้ลองสั่งเค้กหน้าใดก็ได้มาลองชิมก็จะติดใจ เรียกได้ว่า คาเฟ่แห่งนี้ขนมอร่อยพิเศษใส่ไข่ไม่ธรรมดา และที่นี่ยังเป็นโรงเรียนสอนทำขนมอีกด้วย

  • ที่อยู่ : เลขที่ 5 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 7 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
  • พิกัด : A Hundred Kilo.—Brew&Bake
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 09.00-17.30น. และวันเสาร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00-17.30 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 094-159-4651

16. eXcoffee

แค่ชื่อก็ไม่ธรรมดาแล้วอย่าง ‘eXcoffee’ คาเฟ่ดอนเมืองที่เน้นคอนเซปต์ ‘extraordinary coffee made my day :-)’ หรือสรุปง่ายๆ ว่าเป็นความแตกต่างที่แสนพิเศษ ให้ผู้ที่ได้แวะมาชิมเครื่องดื่มของทางร้าน รู้สึกประทับใจกับบริการ และรสชาติของเครื่องดื่ม จนทำให้เป็นอีกหนึ่งวันที่ดีของคุณลูกค้าแน่นอน ขอบอกว่าเครื่องดื่มภายในร้านมีทั้งสูตรกาแฟ ไม่มีกาแฟ หรือใครที่ชอบสมูททีก็สามารถแวะมาลองชิมได้เช่นกัน  

  • ที่อยู่ : เลขที่ 222 5 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 5.7 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
  • พิกัด : eXcoffee ดอนเมือง
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 07.30-17.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 064-241-9559
20 Home cafe

17. 20 Home cafe

‘20 Home cafe’ ร้านคาเฟ่ดอนเมืองขนาดเล็กในซอยสรงประภา 28 เข้ามาไม่ลึกมากจะพบกับคาเฟ่น่ารักๆ แนวมินิมอลที่ตกแต่งด้วยผนังสีขาว ตัดด้วยประตูกระจกกรอบดำ ภายในจะมีโต๊ะเล็กๆ สีน้ำตาลตั้งอยู่ เรียกว่าคาเฟ่แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องตกแต่งเยอะ หรือไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ดว้าง ก็สวยได้ แนะนำให้ลองสั่งเมนูเครื่องดื่มแบบปั่นของทางร้านอย่างโกโก้ภูเขาไฟ หรือจะชาแดงใส่นมก็ถือว่าอร่อยกลมกล่อมทั้งนั้น

  • ที่อยู่ : เลขที่ 20 ซอยสรงประภา 28 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
  • พิกัด : 20 Home cafe
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.00 น. ยกเว้นวันเสาร์-วันอาทิตย์ เปิดเวลา 09.00-16.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 081-813-4111

18. Damnlicious (Home Cafe)

คาเฟ่ดอนเมืองลับๆ ที่ตกแต่งแบบไม่ซ้ำใคร เน้นสีไม้ พร้อมตัดด้วยเฟอร์นิเจอร์สีดำให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอยู่ต่างประเทศ ขอแนะนำเครื่องดื่มชื่อดังของทางร้านอย่าง Sparkling Americano กาแฟอเมริกาโนสูตรพิเศษจากทางร้าน หรือลองทานเมนูยอดนิยมอย่างชาไทยที่ให้ความรู้สึกหอมหวาน กลมกล่อมไปกับชาเข้มข้นที่ตัดด้วยความมันของนม รับรองว่าถูกใจสาวกชากาแฟแน่นอน

  • ที่อยู่ : เลขที่ 10 ซอย เทิดราชัน 1 แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
  • พิกัด : Damnlicious (Home Cafe)
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทำการทุกวันจันทร์-วันเสาร์ เวลา 07.30-17.30 น. (หยุดทุกวันอาทิตย์)
  • เบอร์ติดต่อ : 065-695-9788

19. At ล้าน๑คอฟฟี่

สายกาแฟที่กำลังหาของกินดอนเมืองอร่อยๆ อยู่ต้องแวะมา ‘At ล้าน๑คอฟฟี่’ ซึ่งเป็นคาเฟ่เล็กๆ โทนสีขาวสะอาด ตกแต่งกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ให้ความรู้สึกสบายตา ที่คาเฟ่แห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟหอมมาก เพราะใช้กาแฟอาราบิก้าแท้ 100% ให้สายกาแฟได้แวะจิบกาแฟเข้มๆ พร้อมขนมหวานหลากหลายเมนูภายในร้าน 

  • ที่อยู่ : เลขที่ 349 ถนนช่างอากาศอุทิศ แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 10 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที
  • พิกัด : @ล้าน๑คอฟฟี่
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 06.00-20.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 094-059-3182
นม ๖

20. นม ๖

ของกินดอนเมืองอร่อยๆ ที่สายหวานจะต้องรู้จักกับร้าน ‘นม ๖’  ร้านของหวานชื่อดังที่รวมเมนูของหวานไว้มากมาย ทั้งบิงซู โทสต์ ขนมปังปิ้งหน้าต่างๆ รวมถึงเครื่องดื่มปั่น พร้อมอาหารว่างอย่างเฟรนซ์ฟรายก็มีมาแล้ว เรียกได้ว่าร้านนี้มีทั้งพื้นที่กว้างขวาง เมนูหลากหลาย เป็นคาเฟ่ที่ยืนหนึ่งเรื่องของหวานย่านนี้เลย

  • ที่อยู่ : แขวงดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 5.6 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที
  • พิกัด : นม ๖ • ดอนเมือง
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 13.00-21.30 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 02-086-8048

21. R KOO Cafe’

‘R KOO Cafe’ คาเฟ่ดอนเมืองบรรยากาศสบายๆ ที่เน้นโทนสีน้ำตาล เพิ่มความเป็นธรรมชาติด้วยการนำดอกไม้สวยๆ เข้ามาประดับภายในร้าน ขอบอกว่าคาเฟ่ดอนเมืองแห่งนี้ เป็นที่ที่รวมเมนูเครื่องดื่มไว้หลายแบบ ทั้งกาแฟ สมูทที ชา นม ฯลฯ มีให้เลือกทานตามต้องการ พร้อมของหวานเมนูเด็ดอย่างฮันนี่โทสต์ที่จะเติมความหวานให้กับทุกๆ คน

  • ที่อยู่ : เลขที่ 570 สีกัน 306 ถนนสรงประภา แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 10210
  • ใกล้สนามบิน : ห่างจากสนามบินดอนเมืองเพียง 6 กิโลเมตรเท่านั้น ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10-15 นาที
  • พิกัด : RKOO COFFER & FLOWER
  • เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวันเวลา 07.00-17.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 02-047-0304

บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระสนามบินดอนเมือง

บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระสนามบินดอนเมือง

เดินทางกลับมาจากทริป ต้องออกไปทำธุระทำงานต่อ ไม่ต้องลากกระเป๋าไปมาให้เหนื่อย เพราะมีบริการรับฝากและขนส่งสัมภาระของ แอร์พอเทลล์ บริการรับฝากกระเป๋า จัดส่งกระเป๋าถึงโรงแรมหรือจะให้จัดส่งไปที่บ้าน หรือจะฝากกระเป๋าไว้ก่อน ก็สามารถไปรับกระเป๋าได้ตลอด 24 ชม. สะดวกสบายมากๆ สามารถออกไปทำธุระต่อไปได้แบบชิลๆ หรือจะไปรับตามจุดให้บริการต่างๆในกรุงเทพก็ได้เช่นกัน . 

  •  ฝากสัมภาระให้บริการทุกเค้าเตอร์ของแอร์พอเทลล์เริ่มต้นเพียง 20,40 บาท/ชั่วโมง (ใบเล็ก/ใบใหญ่) หรือ 100 บาท/วัน 
  • บริการขนส่งสัมภาระ ระหว่าง (สนามบิน – ห้าง – โรงแรม) เริ่มต้น 299บาท/ใบ (ไม่เกิน25KG) 
  • บริการขนส่งสัมภาระไปยังต่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 349 บาท (น้ำหนักไม่เกิน 15KG)
  • พิกัด : สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 

สรุป

ไม่ว่าคุณต้องเดินทางไป หรือกลับจากสนามบินดอนเมือง การเลือกแวะหาของกินดอนเมืองอร่อยๆ หรือแวะคาเฟ่ดอนเมือง ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยให้คุณได้พักผ่อน คลายความเหนื่อยล้า ชมบรรยากาศสวยๆ จิบกาแฟแสนอร่อยจะช่วยให้คุณรู้สึกผ่อนคลายก่อนการเดินทางครั้งใหม่ ทั้งนี้ หากใครที่รอเวลาต่อเครื่อง หรือเพิ่งลงเครื่องเสร็จแล้วอยากแวะเที่ยวต่อเลย โดยไม่อยากแบกสัมภาระให้ลำบาก Airportels ขอแนะนำบริการฝากกระเป๋าที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง ให้คุณได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย ทั้งกิน เที่ยว ชอป หรือหากใครที่ไม่สะดวกกลับมาที่สนามบิน สามารถเลือกใช้บริการส่งกระเป๋า กับทาง AIRPORTELs ที่เคาท์เตอร์บริเวณประตู 9 อาคารผู้โดยสาร 2 แล้วให้ไปส่งถึงโรงแรมได้เลย รับรองว่าปลอดภัย อีกทั้งยังอุ่นใจเพิ่มเป็นสองเท่าเพราะทาง AIRPORTELs มีประกันการสูญหายอีกด้วย

17 ร้านอาหารยอดนิยมที่ MBK Center มีอะไรกิน อัปเดตล่าสุด 2023

MBK Center หรือ ศูนย์การค้ามาบุญครอง เป็นย่านการค้าที่มีขนาดใหญ่ในกรุงเทพ มา mbk ทีไรก็มักจะมี อะไร ใหม่ๆ มาให้ลองกิน เพราะร้านอาหาร mbk นั้นมีให้เลือกหลากหลาย โดยบทความนี้ได้รวบรวมร้านอาหารยอดนิยมให้เลือกกัน ว่าจะพาแฟน พาเพื่อนไปกินร้านไหนจนเลือกไม่ถูกว่ามา mbk แล้วจะกินอะไรดี แถมยังเดินตัวปลิวเข้าร้านโน้นออกร้านนี้ได้สบายๆ เพราะตอนนี้ MBK มีบริการรับฝากกระเป๋าของ Airportels ที่สามารถฝากกระเป๋าได้ฟรี 2 ชั่วโมงเรียกได้ว่าจะกินจะชอป ก็เดินกันเพลินแบบตัวเบาหวิวไปเลยทีเดียว ว่าแต่ มีใครอยากรู้มั้ยว่าตอนนี้ mbk มีอะไรให้กินบ้าง? ตามมาดูกันเลย

สุกี้ตี๋น้อย

1. สุกี้ตี๋น้อย

สุกี้ตี๋น้อย ร้านสุกี้สัญชาติไทยอร่อยไม่อั้น เที่ยงวันยันเช้า กินได้เพลินๆ เหมาะที่จะพาเพื่อนมาทานเพราะคิวยาวมาก แจกบัตรคิวกันตั้งแต่ 11 โมง ก็ยังมีคนมารอแล้ว ถ้าพาแฟนมารอแฟนคงนอยด์ แต่ถ้าพาเพื่อนมา คงมีเวลาเม้าท์มอยกันให้สนุก ก่อนมาเติมพลังด้วยสุกี้กันต่อ 

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 251 – 500 บาท
  • พิกัด : ชั้น 2 ของ MBK
  • เวลาเปิด-ปิด : 12.00-5.00
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/sukiteenoithailand/?locale=th_TH
  • เบอร์โทรติดต่อ : 0634760217 

2. Senju Shabu&Sushi Premium Buffet

ร้านอาหารmbk ร้านต่อไปที่เราอยากชวนคุณไปชิมก็คือ Senju Shabu&Sushi Premium Buffet ร้านชาบูและซูชิแบบบุฟเฟต์สุดหรู มีที่นั่งมากถึง 41 – 80 ที่นั่ง เหมาะที่จะพาแฟนมากินข้าวสวยๆ เพราะแสงดีมาก ถ่ายรูปก็ดี อาหารก็มีให้เลือกหลากหลายโดนใจ เพราะชาบูเองก็มีน้ำซุปให้เลือกมากถึง 4 แบบ ส่วนซูชิและอาหารญี่ปุ่นเองก็มีเมนูให้เลือกเยอะ ตอบโจทย์คนไทยหัวใจญี่ปุ่น 

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 501 – 1,000 บาท 
  • พิกัด : ชั้น 7 หน้า Bowling Zone 
  • เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ – ศุกร์ 11:00 – 21:30

                   เสาร์         10:00 – 21:30

                   อาทิตย์ 10:00 – 21:00 

นักล่าหมูกระทะ

3. นักล่าหมูกระทะ

นักล่าหมูกระทะเป็นร้านหมูกระทะติดแอร์ อยู่ในห้างสรรพสินค้ากลางเมือง รสชาติดี ราคาไม่แรง เป็นร้านอาหารที่เหมาะจะมาทานกับเพื่อนฝูงหรือครอบครัว เด็กๆ ก็สามารถทานได้ มีทั้งกุ้ง หมูหมัก หมูสามชั้น และน้ำจิ้มรสเด็ดเตรียมพร้อมไว้รอบริการ หมดปัญหามา mbk กินอะไรดี 

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 251 – 500 บาท 
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน D ติดกับร้านสุกี้ตี๋น้อย เจ้าของเดียวกันกับร้านซูชิชินคันเซ็น 
  • เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 22:00 
  • เบอร์โทรติดต่อ :  095 586 2465

4. Ramenga

มาmbk มีอะไรกินเสมอ อย่าง Ramenga ราเมงอะ ラーメン ร้านราเมงสายบุญที่มักจะออกมาทำดีเพื่อสังคม เช่น แจกราเมงให้เด็กยากไร้ แจกราเมงฟรีให้คิดในช่วงโควิด 1,000 ชาม โดดเด่นด้วยน้ำซุปโชยุที่มีเอกลักษณ์ และไข่ต้มสูตรพิเศษ ที่ใครกินแล้วก็น่าคิดเหมือนกันว่าอร่อย ราคาไม่แรง อาหารเสิร์ฟเร็ว ไม่ต้องรอนาน จะมากินกับเพื่อนก็ได้ กินกับแฟนก็ดี ร้านอาหารแต่งสไตล์ญี่ปุ่น ดูดี สบายตา 

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้านต่ำกว่า 100 บาท 
  • พิกัด : ชั้น 5 ถัดจาก Fotofile 
  • เวลาเปิด-ปิด : จันทร์: 10:00 – 19:30

                         อังคาร – อาทิตย์: 10:00 – 20:30 

Oppa Daek

5. Oppa Daek

mbk มีอะไรกินหลายอย่าง แต่เราอยากแนะนำร้านอาหาร Oppa Daek มาเป็นพิเศษ เพราะเป็นร้านไก่ทอดเกาหลี สไตล์ครอบครัว ให้บริการอบอุ่นเป็นกันเองเหมือนมีพี่ชายมาคอยทำอาหารให้ทาน นอกจากไก่ทอดเกาหลีแล้ว ยังมีเมนูอื่นๆ ให้เลือกอีกมากมาย ทั้งบาร์บีคิว ซุปกิมจิ ข้าวยำเกาหลี ต๊อกบกกิชีส คิมมาริ คิมบับ ข้าวผัดกิมจิ ออมุก ข้าวหน้ามันปู กุ้งดองสไลต์เกาหลี จาจังเมียนแบบผัดแห้งสูตรพิเศษ เหมาะที่จะมาสวีทกับแฟนเป็นที่สุด แต่ถ้าจะชวนเพื่อนมาแฮงค์เอาท์ก็สามารถมาได้เช่นกัน 

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 101 – 250 บาท 
  • พิกัด : ชั้น 2
  • เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 22:30 
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/oppadaek?locale=th_TH
  • เบอร์โทรติดต่อ : 0971504565 

6. Nova Kitchen

Nova Kitchen ร้านอาหารไทยและอาหารจีนสไตล์สิงคโปร์ ร้านเล็กๆ รสชาติอร่อย หนึ่งในร้านอาหาร เก่าแก่ของ mbk  มีอาหารให้เลือกหลากหลาย คนจะเยอะมากในช่วงเทศกาลกินเจ เพราะร้าน Nova Kitchen มีอาหารมังสวิรัติขายด้วย เหมาะที่จะมาทานกับเพื่อนและครอบครัว กินด้วยกันได้ในทุกๆ เทศกาล

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 101 – 250 บาท 
  • พิกัด : ชั้น 1 ข้างๆ Tops supermarket
  • เวลาเปิด-ปิด : 10:30 – 20:00 
  • เบอร์โทรติดต่อ : 084 639 0033
ป้อน Ponn Café

7. ป้อน Ponn Café

Ponn Café ร้านอาหารไทยแนวใหม่ ที่มาในคอนเซปต์ว่า ฉันจะป้อนสิ่งดีๆ ให้กับคนที่ฉันรัก แน่นอนว่าพามาได้หมดทั้งเพื่อนฝูง ครอบครัว คนรัก แต่ถ้าพาแฟนมาก็จะมีโมเมนต์คิวท์ๆ เอาไว้เติมความหวานให้กินได้ อารมณ์กินไปมา ก็ป้อนกันบ้าง คนละคำสองคำ ตามคอนเซปต์ของร้าน แถมยังมั่นใจได้ว่าวัตถุดิบที่นำมาปรุงอาหารนั้นล้วนแล้วมีแต่สิ่งดีๆ ทั้งนั้น แบบใครกันจะไม่อยากพาแฟนมากินร้าน ป้อน Ponn Café แถมร้านยังตกแต่งแนวครอบครัวอบอุ่น ดูสะอาด เห็นแล้วอยากสร้างครอบครัว

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 251-500 บาท
  • พิกัด : อยู่ชั้นล่างตรงกลางมาบุญครองเลย 
  • เวลาเปิด-ปิด : 10:00 – 19:00 
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/ponncafe?locale=th_TH
  • เบอร์โทรติดต่อ :  0645875628

8. ชาวเลซีฟู้ดส์

ชาวเลซีฟู้ดส์อาหารไทย อาหารมุสลิม/ฮาลาล อาหารทะเลสดๆ ส่งตรงจากท้องทะเลสุราษฎร์ธานี ร้านอาหารซีฟู้ดที่เหมาะจะมากินกันครั้งละหลายๆ คน เช่น พาครอบครัวมากินเวลารวมญาติ หรือชวนเพื่อนที่ทำงานมาพูดคุยประชุมงาน และเลี้ยงสังสรรค์กันที่นี่ อาหารซีฟู้ดสด สะอาด จากท้องทะเลใต้ของไทย เป็นอีกหนึ่งร้านอาหารที่ mbk ที่ใครก็ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 101 – 250 บาท 
  • พิกัด :  ชั้น 1 โซน B
  • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน: 10:00 – 21:00 
  • แฟนเพจ :  https://www.facebook.com/Chaolayhalal
  • เบอร์โทรติดต่อ :  098 880 9065
Shinkanzen sushi

9. Shinkanzen sushi

Shinkanzen sushi ร้านอาหาร mbk เป็นร้านอาหารญี่ปุ่นขนาดกลางที่ใครก็ไม่ควรพลาด ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่นสมัยใหม่ มีอาหารให้เลือกทานทั้งแบบ A la carte และบุฟเฟต์มีราคา 329+ 549 + 879+ มีอาหารให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็นซาซิมิแซลมอน ทูน่า ปลาหมึก ซูชิเนื้อวากิว แซลมอนสไปซี่ ซูชิปลาไหล อาหารทานเล่นมากมาย ข้าวหน้าเนื้อก็อร่อย กุ้งตัวโต หอยนางรม หนังปลาจิ้มซีฟู้ด เหมาะที่จะมาทานมื้อใหญ่ๆ ร่วมกับเพื่อนและครอบครัว

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 501 – 1,000 บาท 
  • พิกัด : ชั้น 2
  • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 10:00 – 22:00 
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/shinkanzensushi
  • เบอร์โทรติดต่อ : 065-859-9865 

10. CoCo ICHIBANYA

รู้กันรึเปล่าว่า CoCo ICHIBANYA คือร้านแกงกะหรี่จากญี่ปุ่นสุดว้าว ที่มีออปชั่นให้เลือกมากมาย สามารถเลือกได้ว่าจะใส่ท็อปปิ้งอะไรบ้าง ที่สำคัญคือ เลือกความเผ็ดของแกงกะหรี่ได้ด้วยนะว่าจะเอาแบบเผ็ดมากน้อยแค่ไหน ใครๆ ก็กินได้ หรือถ้าอยากเพิ่มความนัว จะขอเพิ่มชีสออนท็อปไปอีกก็ทำได้เหมือนกัน ทำให้ข้าวแกงกะหรี่ของ CoCo ICHIBANYA มีความโดดเด่น มากี่ทีก็มีให้เลือกกินแบบไม่รู้จักเบื่อ แถมยังให้ปริมาณที่เยอะมากๆ ชนิดว่ากินคนเดียวมีจุกแน่ๆ อีกด้วย ร้านตกแต่งแนวญี่ปุ่น ใสๆ ดูสะอาด สบายตา เหมาะที่จะไปทานอาหารร่วมกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว แต่ก็เป็นอีกร้าน ที่ชวนแฟนไปกินข้าวด้วยกันได้ ร้านนี้เสียงไม่ดัง มีบรรยากาศที่อบอุ่น แฟนใครเป็นคนใสๆ น่าจะหลงรัก CoCo ICHIBANYA 

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 251 – 500 บาท  
  • พิกัด : ชั้น 7
  • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 10:00 – 21:00
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/cocoichibanyathailand
  • เบอร์โทรติดต่อ : 085-884-5496 
ฮองมิน ภัตตาคารจีน - Hongmin

11. ฮองมิน ภัตตาคารจีน – Hongmin

ฮองมิน ภัตตาคารจีน – Hongmin ร้านอาหาร mbk ที่มีอาหารจีนให้ทานได้ไม่อั้นในราคาหลักร้อย ชวนเพื่อน แฟน และครอบครัวมากินด้วยกันได้หมด

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน  501 – 1,000 บาท
  • พิกัด :  ชั้น 2 โซน A ห้อง A00500
  • เวลาเปิด-ปิด : จันทร์ 10:00 – 22:00

                 อังคาร 10:00 – 20:00

                 พุธ – อาทิตย์ 10:00 – 22:00 

12. Santa Fe’ Steak

ร้านอาหาร mbk ร้านถัดไปเป็นร้าน Santa Fe’ Steak ร้านสเต๊กจานด่วนสุดประหยัด เหมาะที่จะมาทานกับเพื่อนและครอบครัวก็ได้ ร้านอาหารตกแต่งแนวโมเดิร์นแบบง่ายๆ ให้ความรู้สึกสบายๆ

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 101 – 250 บาท 
  • พิกัด :  ชั้นที่ 5 ห้องเลขที่ เอฟ05 เอ003000
  • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 10:00 – 21:00
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/santafesteak.th
  • เบอร์โทรติดต่อ : 0922258716 
Sultana Indian Cuisine MBK

13. Sultana Indian Cuisine MBK

Sultana Indian Cuisine เป็นร้านอาหาร ร้านขายอาหารอินเดียใน food court ของ mbk มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ราคาไม่แพง รออาหารประมาณ 15 นาที เพราะทางร้านทำให้ใหม่ทุกจาน 

  • ราคา : ต่ำกว่า 100 บาท 
  • พิกัด : Food court ชั้น 6
  • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 11:00 – 19:00 
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100079898360502
  • เบอร์โทรติดต่อ : 02-084-8888 

14. Yayoi Japanese Restaurant

Yayoi Japanese Restaurant ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์ครอบครัว มีเมนูอาหารแบบข้าวกล่องและราเมงให้เลือกหลากหลาย ในราคากลางๆ เหมาะที่จะมาทานกับเพื่อนหลังเลิกงานในวันสบายๆ 

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 101 – 250 บาท
  • พิกัด :  ชั้น 7
  • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน: 10:00 – 20:30 
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/YayoiRestaurantThailand
  • เบอร์โทรติดต่อ : 083-099-6807 
Cinecafe.th

15. Cinecafe.th

Cinecafe.th เป็นร้านกาแฟของทาง​ SF cinema ตกแต่ง​สไตล์​โมเดิร์นสีสันสดใส​ มีเครื่องดื่ม​ทั้งกาแฟและไม่ใช่กาแฟ ถ้าซื้อตั๋ว​หนัง VIP สามารถรับข้าวโพดคั่วหรือเครื่องดื่ม 1 แก้ว บอกแล้วว่ามา mbk ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มี อะไร กิน 

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 101 – 250 บาท
  • พิกัด : ชั้น 7 หน้าโรง VIP 
  • เวลาเปิด-ปิด : 10.00 – 18.00น. 
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/Cinecafe.th
  • เบอร์โทรติดต่อ : –

16. Maidreamin

มา mbkมีอะไรให้กิน แน่นอน อย่างร้าน Maidreamin ร้านอาหารสไตล์ลูกคุณหนู เหมาะที่จะชวนแฟนแต่งตัวสวยๆ มาถ่ายรูปมากที่สุด หรือจะให้เด็กๆ แต่งคอสเพลย์มาเล่นที่ร้านก็เหมาะสุดๆ เลยล่ะ

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน 101 – 250 บาท 
  • พิกัด : ชั้น 7 ติดกับร้าน KFC
  • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 14:00 – 19:00 
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/MaidreaminThailand/
  • เบอร์โทรติดต่อ : 02-003-1616 
ขนมเบื้องหวานคำ ร้านกันเอง

17. ขนมเบื้องหวานคำ ร้านกันเอง 

อีกหนึ่งร้านอาหาร mbk ที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ ร้านขนมเบื้องหวานคำ ร้านกันเอง ร้านขนมเบื้องเก่าแก่แป้งบางกรอบ หอม อร่อย ทางร้านผสมแป้งเอง ไม่ได้ใช้แป้งสำเร็จรูป ร้านเปิดมานานมากๆ เด็กนักเรียนใครแวะมาสยามก็ต้องแวะร้านนี้

  • ราคา : ราคาโดยรวมทุกเมนูทั้งร้าน ต่ำกว่า 100 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 โซน B อยู่ใกล้บันไดเลื่อนขึ้นลง 
  • เวลาเปิด-ปิด : ทุกวัน 11:00 – 19:30
  • แฟนเพจ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100064028914217
  • เบอร์โทรติดต่อ : 0626368787 

สรุป

MBK มีทั้งอาหารคาว หวาน ทุกประเภท ทุกเชื้อชาติ มีครบที่นี่ หากนึกไม่ออกว่าจะกินอะไร ลองอ่านบทความและส่งให้เพื่อหรือแฟนตัดสินใจ รับรองได้ว่ามา mbk แล้วมีอะไรกิน หมดปัญหา “กินอะไรดี” แน่นอน ร้านอาหาร mbk มีให้เลือกเยอะขนาดนี้ ต้องมีสักร้านที่โดนใจล่ะน่า และหากใครที่เดินทาง พึ่งลงเครื่อง ไม่อยากแวะเข้าที่พักเพื่อนำสัมภาระไปเก็บ และจึงค่อยออกมาหาอาหารกินที่ร้านอาหาร mbk  

แนะนำ Airportels ที่มีบริการรับส่งกระเป๋าจากสนามบิน-ถึงที่พัก ตัดความกังวล ไม่ต้องขับรถวนไปมา เหมาะมากหากไปเป็นแก๊งใหญ่ๆ ลดความวุ่นวายไปได้เยอะ ที่สำคัญตอนนี้มีบริการฝากฟรี 2 ชั่วโมง หรือเหมาทั้งวัน 100 บาท/ใบ เท่านั้น

Airportels-MBK

ที่สำคัญคือใช้งานง่าย จองผ่านเว็บไซต์ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง แถมยังประหยัดเวลา และเงิน ไม่ต้องกังวลว่าจะบินกี่โมงเพราะเราเปิดตลอด 24 ชั่วโมง ประหยัดเวลาและค่าเดินทางกว่าฝากของ ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม ส่งสัมภาระกระเป๋าภายใน 6 ชั่วโมง หรือแบบด่วนภายใน 3 ชั่วโมง ไม่ต้องแบกกระเป๋าหนักๆ ไปด้วย

ปลอดภัยไว้ใจได้ ประกันค่าเสียหายสูงสุด 50,000 บาท ระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง สะดวกรวดเร็วขนาดนี้ ต้องลองใช้บริการ Airportels ดูแลแล้วล่ะหมายเหตุ ข้อมูลร้านอาหารอัปเดต ณ วันที่ 29 พฤษภาคม 2566 ในอนาคตอาจมีร้านอาหารอร่อยๆมาเปิดใหม่ใน mbk เพิ่มเติมมากกว่านี้ก็ได้นะ

คัดมาแล้ว! 10 คาเฟ่แถวอโศก ร้านสวยๆ คูลๆ สายคอนเทนต์ห้ามพลาด

อโศกนับว่าเป็นย่านสุดฮอตที่เป็นแหล่งทำงานรวมถึงแหล่งสถานที่เที่ยวต่างๆ และที่โดดเด่นที่สุดคือ คาเฟ่ที่อโศก ที่ต้องบอกว่าแต่ละร้านมีการตกแต่งตามสไตล์ของตัวเอง และในส่วนของอาหาร เครื่องดื่ม และของหวานก็พร้อมเสิร์ฟความอร่อยแบบเต็มรูปแบบ 

YEST WORKS

1. YEST WORKS

YEST WORKS เป็นร้านคาเฟ่ขนาดเล็ก เมื่อเข้ามาภายในร้านก็จะเห็นได้ว่าตกแต่งด้วยไม้เป็นส่วนใหญ่ แตกต่างจากร้านคาเฟ่ตรงชั้นวางกาแฟ ที่ทุกคนสามารถเข้ามาเชยชมเมล็ดกาแฟจากทางร้านได้ สำหรับร้านนี้เหมาะกับคนที่ชื่นชอบกาแฟเป็นอย่างมาก

คอนเซ็ปต์ของร้าน 

สำหรับคอนเซ็ปต์ของร้านก็คือ “Find your best coffee” หรือก็คือทุกคนสามารถตามหากาแฟที่ดีที่สุดกับตัวเองได้ เพราะร้านกาแฟเหล่านี้เน้นคัดเลือกกาแฟมาจากหลายๆ แหล่ง ถือได้ว่าเป็นแหล่งรวมกาแฟที่มีความหลากหลายมากที่สุดแห่งหนึ่งก็ว่าได้ 

เมนูซิกเนเจอร์

เมนูที่ทางร้านอยากจะแนะนำก็คือ “กาแฟดริป” ที่เน้นในเรื่องของความพิถีพิถันในการชง และจะขับคุณภาพของกาแฟได้อย่างดีเยี่ยม ด้วยเมล็ดกาแฟ ส่วนผสม การคั่ว และวิธีชง ทำให้กาแฟมีรสชาติที่แตกต่าง โดยเมนูเด่นๆ คือ Acaba , Dot mork และ Latte 

  • ที่ตั้งร้าน: 732 ถ. สุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/Fs2oPD215BWtY1BfA
  • เวลาเปิด-ปิดร้าน: เปิดทุกวัน เวลา 08:00 – 17:00 น.
Artis Coffee Bangkok

2. Artis Coffee Bangkok

Artis Coffee Bangkok เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ โดยทางร้านเน้นการตกแต่งด้วยการใช้สีดำ สีขาว ไม้สีอ่อน เมื่อมารวมกันแล้วได้กลิ่นอายร้านกาแฟที่ทันสมัย เหมาะสำหรับการนั่งทำงานยาวๆ

คอนเซ็ปต์ของร้าน 

คอนเซ็ปต์ของร้านจะเน้นในเรื่องบาริสต้าผู้เชี่ยวชาญในการชงกาแฟ และกาแฟมีความสดใหม่ ที่พร้อมรังสรรค์กาแฟแต่ละเมนู คั่วและชง ได้รสชาติตามที่ลูกค้าต้องการ 

เมนูซิกเนเจอร์

สำหรับเมนูที่โดดเด่นทางร้านไม่ได้มีการบอกที่แน่ชัด แต่สิ่งที่แตกต่างจากร้านคาเฟ่ที่อื่นได้อย่างชัดเจนนั้นก็คือ การคั่วสดๆ ในระดับที่พอเหมาะจึงทำให้รสชาติของกาแฟนั้นดีเยี่ยม โดยคนที่ชอบมักจะสั่ง Dirty Coffe, Latte, แซนด์วิช, และของหวาน

  • ที่ตั้งร้าน: 390, 20 ซอย สุขุมวิท 18 แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/KPnn2sFFfNTH5HkH8
  • เวลาเปิด-ปิดร้าน: เปิดทุกวัน เวลา 07:00 – 20:00 น.
28ml. Specialty Coffee & Tea Bar

3. 28ml Specialty Coffee & Tea Bar

28ml. Specialty Coffee & Tea Bar ถือว่าเป็นคาเฟ่ย่านอโศกยอดนิยม ไม่แพ้ร้านอื่น ๆ โดยคาเฟ่ของร้านนี้จะเน้นตกแต่งแนวสีส้ม ขาว น้ำตาล ที่จะใช้กระเบื้องเป็นการตกแต่งภายในร้าน

คอนเซ็ปต์ของร้าน 

สำหรับคอนเซ็ปต์ของร้านนับว่าเป็นอะไรที่ดีมากๆ เพราะมาจากชื่อร้าน “28ml” หรือก็คือสิ่งที่ตวงส่วนผสมของทางร้าน ให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษ และสามารถมั่นใจว่ามากินทุกครั้งอร่อยเหมือนเดิมทุกครั้ง

เมนูซิกเนเจอร์

เมนูที่เป็นซิกเนเจอร์ของร้านคือ “Dirty Coffee” ที่เน้นการสกัดกาแฟ 2AM ทำให้รสชาติของกาแฟมีความกลมกล่อม นุ่มละมุน ไม่ขม ไม่เข้มข้นจนเกินไป

  • ที่ตั้งร้าน: ที่อยู่ 155 10 ถนน อโศกมนตรี แขวง คลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/Ffnb8Hiix4cxxnpPA
  • เวลาเปิด-ปิดร้าน: จันทร์ – อังคาร 07:00 – 15:00  น.

                             พุธ                   09:00 – 15:00  น.

                             พฤหัสบดี – ศุกร์ 07:00 – 15:00  น.

                             เสาร์                   08:00 – 15:30  น.

Size S Coffee & Bakery

4. Size S Coffee & Bakery

Size S Coffee & Bakery เป็นร้านที่มีขนาดเล็กตกแต่งด้วยสไตล์มินิมอลมาในโทนสีขาวและเทา เน้นตกแต่งน้อยเพื่อให้เห็นพื้นที่กว้างๆ และสะอาดตา

คอนเซ็ปต์ของร้าน 

คอนเซ็ปต์ของร้าน จะเป็นไปตามชื่อร้านเลย Size S ซึ่งไซซ์ที่ว่านี้จะหมายถึงเมนูเบเกอรี่ที่จะทำออกมาชิ้นเล็กๆ  เพื่อที่ทุกคนจะสามารถเลือกทานเมนูได้หลากหลาย ทำให้เพลิดเพลินกับการกินมากยิ่งขึ้น

เมนูซิกเนเจอร์

สำหรับเมนูยอดฮิตก็คงหนีไม่พ้นเมนู Coconut Cake ที่ทางร้านเน้นใส่ใจในเรื่องของรสชาติ มีความนุ่มละมุนลิ้นสุดๆ ในส่วนของกาแฟภายในร้านก็มีความโดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะทางร้านมีโรงคั่วกาแฟเป็นของตัวเอง จึงสามารถทำกาแฟที่หลากหลายรสชาติได้

  • ที่ตั้งร้าน: 5, 25 ซอย งามดูพลี แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/8mSHoMkB8dY2oDAs8
  • เวลาเปิด-ปิดร้าน: เปิดจันทร์ – เสาร์ 7:30–17:00 น.
Cosmos Cafe Bangkok

5. Cosmos Cafe Bangkok

สำหรับ Cosmos Cafe Bangkok จะเป็นร้านที่มีขนาดใหญ่ เปิดกระจกโล่งเห็นภายในร้านชัดเจน โดยร้านจะมีนั่งแบบ in door และ out door ที่ชั้นสอง โดยทางร้านจะเน้นยกเพดานสูง ตกแต่งแบบคลีนๆ ทำให้เวลามานั่งชิลที่นี่แล้วรู้สึกโล่ง

คอนเซ็ปต์ของร้าน 

สำหรับคอนเซ็ปต์ของร้านคือประโยคที่ว่า “COFFEE IS UNIVERSAL” หรือก็คือ การสื่อสารด้วยกาแฟ ไม่จำเป็นต้องพูดจาอะไรกันมากมาย แต่ก็สามารถเข้าใจผ่านรสชาติกาแฟที่ได้สัมผัส

เมนูซิกเนเจอร์

Samui Iced Coffee เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของที่นี่ นอกจากจะใช้กาแฟในการชงแล้วยังมีการใส่น้ำมะพร้าวและน้ำอัญชันสร้างรสชาติที่แปลกใหม่ได้เป็นอย่างดี

  • ที่ตั้งร้าน: 36/1, ซอยสุขุมวิท 23, ถนนสุขุมวิท, คลองเตย, วัฒนา
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/i8sZbT3qv6cv4atg7
  • เวลาเปิด-ปิดร้าน: เปิดทุกวัน 07:30 – 17:30 น.
Chu Chocolate Bar & Cafe

6. Chu Chocolate Bar & Cafe

คาเฟ่แถวอโศก อีกหนึ่งร้านที่น่าค้นหาและลองแวะไปเยือนคือ Chu Chocolate Bar & Cafe ที่เน้นนั่งสบาย เมื่อเข้ามาในร้านจะให้ความรู้สึกอบอุ่น เพราะทางคาเฟ่เลือกใช้วัสดุของไม้ และเพิ่มความมีสีสันโดยการนำสีน้ำเงินมาตัด

คอนเซ็ปต์ของร้าน 

คอนเซ็ปต์ทางร้านจะเน้นในเรื่อง “อาหารมื้อสาย” ที่ถือว่าเป็นเมนูทานง่ายๆ เบาๆ ไม่หนักเกินไป ซึ่งสามารถทานได้ทุกเวลา เหมาะกับการนั่งกินยาวๆ แบบไม่ต้องเร่งรีบไปไหน

เมนูซิกเนเจอร์

สำหรับเมนูเด็ดของทางร้านจะเน้นในเรื่องของอาหารมื้อสาย หรือไม่ก็ของหวานมากกว่า ซึ่งจะมีการหมุนเวียนขายเฉพาะในแต่ละช่วง ในส่วนของกาแฟก็จะเป็น American Marshmallow ที่จะเป็นการนำดาร์กช็อกโกแลตมาผสมกับมาสเมลโล่ที่ให้สัมผัสแปลกใหม่

  • ที่ตั้งร้าน: 18/1 ซ. สุขุมวิท 31 เเขวง คลองตันเหนือ, เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/ouhaUKgXhiiUWrVR9
  • เวลาเปิด-ปิดร้าน: เปิดทุกวัน เวลา 08:00 – 22:00 น.
Bake Brothers

7. Bake Brothers

สำหรับร้านกาแฟ Bake Brothers จะเป็นร้านที่อยู่ใน Terminal21 โดยตัวร้านเน้นโทนตกแต่งเทาๆ ชิลๆ  เหมาะสำหรับคนที่เดินห้างแล้วเหนื่อยอยากแวะมานั่งพัก แล้วไปชอปต่อเพลินๆ แบบหนำใจหากมีของชอปเยอะไม่ต้องกังวล เพราะสามารถฝากได้ที่ได้ Airportels เลย

คอนเซ็ปต์ของร้าน 

ความอร่อยพร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูเบเกอรี่และเครื่องดื่มที่ได้ฟีลแบบพี่ชาย คุยง่าย นั่งชิล สบายๆ กับเมนูที่ใส่ใจเหมือนมีพี่ชายมาดูแล

เมนูซิกเนเจอร์

สำหรับเมนูทางร้าน จะชูเรื่องของเบเกอรี่รวมทั้งขนมต่างๆ ที่มีให้เลือกมากมาย ในส่วนของกาแฟจะมีการแนะนำ กาแฟเบรค บราเธอร์ส ที่นับว่าเป็นซิกเนเจอร์ของทางร้านถ้าอยากรู้ว่าเป็นกาแฟอะไรต้องไปลอง

  • ที่ตั้งร้าน: 88 ซอย วัฒนา แขวงคลองเตยเหนือ เขตทวีวัฒนา กทม.
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/B8LaXpYSdQAgGKbV9
  • เวลาเปิด-ปิดร้าน: วันจันทร์ – วันเสาร์ 10.00 – 22.00 น. , วันอาทิตย์ 10.00 – 20.00 น.
Hario Cafe Bangkok 

8. Hario Cafe Bangkok 

Hario Cafe Bangkok เป็นร้านคาเฟ่ที่มีขนาดใหญ่เน้นการตกแต่งแบบมินิมอลโดยใช้สีขาวเป็นส่วนใหญ่ และสร้างร้านให้ดูกว้าง สูง มีการเล่นมิติด้วยการตกแต่งโค้งเว้าทำให้ดูไม่อึดอัด

คอนเซ็ปต์ของร้าน 

คอนเซ็ปต์ของร้านจะมาสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความเป็นมินิมอล ใส่ใจละเอียดทุกกระบวนการ โดยเฉพาะบาริสต้าที่ต้องใช้มือโปรและมีความเชี่ยวชาญในการชงกาแฟชนิดต่างๆ เป็นอย่างมาก

เมนูซิกเนเจอร์

Syphon Slow Drip ที่ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของคาเฟ่ เพราะสามารถเลือกวิธีชงกาแฟได้ และสามารถเลือกเมล็ดกาแฟได้เองอีกด้วย 

  • ที่ตั้งร้าน: 29 ซ. สุขุมวิท 33 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/FKaBMiz2B987mJyV7
  • เวลาเปิด-ปิดร้าน: เปิดทุกวัน เวลา 06.30 – 20.30 น.
SANT DE' NHUAD

9. SANT DE’ NHUAD

สำหรับร้าน SANT DE’ NHUAD จัดว่าเป็นคาเฟ่แถวอโศกที่มาในสไตล์ Factory จะเน้นตกแต่งด้วยโทนขาวหรือเลือกใช้วัสดุที่เป็นโทนสีเงิน เพื่อให้บรรยากาศดูเป็นโรงงาน แต่ว่ามีความทันสมัยและสะอาดเป็นอย่างมาก

คอนเซ็ปต์ของร้าน 

คอนเซ็ปต์ของร้านจะเน้นฟีล Factory Homemade ที่จะให้เห็นบรรยากาศการทำครัวซองต์ ถือว่าเป็นจุดเด่นของแบรนด์ เพราะลูกค้าสามารถชมระหว่างการทำได้

เมนูซิกเนเจอร์

Plain Croissant นับว่าเป็นความอร่อยที่ท็อปฟอร์มที่สุดเพราะเป็นรสชาติดั้งเดิม วัตถุดิบนำเข้ามา ที่สามารถทำให้คุณได้สัมผัสถึงความเป็นครัวซองต์สไตล์ฝรั่งเศสแท้ๆ 

  • ที่ตั้งร้าน: BB Building, 54 ซอย สุขุมวิท 21 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/wcN4JQqe87MYw56F7
  • เวลาเปิด-ปิดร้าน: เปิดทุกวัน เวลา 08.00 – 15.00 น.
Fika & Co

10. Fika & Co 

สำหรับร้านคาเฟ่ย่านอโศก ที่สุดท้ายที่อยากจะแนะนำก็คือ  Fika & Co เป็นคาเฟ่ที่มาในสไตล์ลอฟท์ ทุกคนสามารถมานั่งชิล นั่งทำงาน หรือนั่งเพลินๆ กับการทานของอร่อยกันได้

คอนเซ็ปต์ของร้าน 

ทางร้านจะเป็นการที่คนรักกาแฟมารวมตัวกัน เพื่อเปิดร้านกาแฟในคอนเซ็ปต์ “ช่วงเวลาดีๆ ที่จะทำให้คุณดื่มด่ำอาหารอร่อยๆ ได้เต็ม” 

เมนูซิกเนเจอร์

สำหรับทางร้านมีการคัดเลือกกาแฟชั้นดี ในการทำ  Matcha Espresso หรือก็คือ ช็อตเอสเพรสโซที่นำมาผสมผสานกับมัทฉะกลายเป็นความอร่อยที่แตกต่างอย่างลงตัว

  • ที่ตั้งร้าน: 1788 Singha Complex แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/yNTY8YJM4xs4FG5j8
  • เวลาเปิด-ปิดร้าน: เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 18.00 น.

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ใบ/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 299บาท/ใบ ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

สาขาของแอร์พอเทลล์

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ 

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

MIXT Chatuchak ชั้น 2, โซนบี (เลขห้อง2055)

Terminal 21 Pattaya ชั้น1, โซนปารีส (ติดกับร้านอีฟแอนด์บอย)

สรุปสำหรับคาเฟ่แถวอโศก  ทั้ง 10 ที่ นับว่าเป็นร้านที่ผ่านการรีวิวมามากมาย ซึ่งโดดเด่นในเรื่องของบรรยากาศ โดดเด่นเรื่องของหวานและเครื่องดื่ม ที่สำคัญแต่ละร้านยังมีซิกเนเจอร์และสไตล์เป็นของตัวเอง เพื่อที่ทุกคนสามารถมาเปิดบรรยายแปลกใหม่เหล่านี้ได้ รับประกันเลยว่าเหมาะกับการนั่งชิลๆ หรือจะทำงานเพลินๆ ก็ได้ทั้งนั้น ซึ่งถือว่าเป็นอะไรที่น่าสนใจอย่างยิ่งและไม่ควรพลาดเป็นอันขาด

รวม 21 สถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่ ให้พร้อมไปแอ่วกันเจ้า

จังหวัดเชียงใหม่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย จัดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ อยากจะมีโอกาสไปเยือนสักครั้ง โดยปี 2564 จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสาร Travel and Leisure ให้เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับที่ 9 ของโลก 

สถานที่เที่ยวเชียงใหม่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนจากความศิวิไลช์ตามสไตล์วิถีคนเมืองไปเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบเต็มรูปแบบ แค่ใช้เวลาเดินทางออกจากตัวเมืองเพียงไม่กี่อึดใจ สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเยือนจังหวัดเชียงใหม่หรืออยากจะมาเยือน มาลองดูกันว่าสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ ทั้งในเมืองและนอกเมืองนั้น มีที่ไหนที่น่าสนใจและห้ามพลาดบ้าง ทั้งหมดนี้เราได้รวบรวมเอาไว้ให้แล้ว 

ประตูท่าแพ

1. ประตูท่าแพ

ประตูท่าแพถือเป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ในตัวเมืองที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สามารถเดินทางไปมาได้สะดวกเนื่องจากมีรถโดยสารสาธารณะผ่านตลอด กิจกรรมยอดฮิตที่ใครมาก็ต้องทำคือการถ่ายรูปสวยๆ กับประตูอิฐที่เรียงตัวอย่างสวยงาม และไฮไลต์ที่ขาดไม่ได้เลยคือการถ่ายรูปกับนกพิราบที่อยู่บริเวณนั้น หากได้จังหวะดีๆ อาจได้รูปสวยๆ ที่มีนกพิราบกำลังบินติดอยู่ในเฟรมด้วยก็ได้

  • ที่อยู่: ถนนท่าแพ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: ประตูท่าแพ  Tha Phae Gate 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอดเวลา
คลองแม่ข่า

2. คลองแม่ข่า

คลองแม่ข่าถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม จากเดิมที่เป็นเพียงลำคลองเล็กๆ หลังจากได้รับการปรับปรุงทัศนียภาพและตกแต่งอย่างสวยงาม มีการเปิดร้านค้าและร้านอาหารของคนในชุมชนบริเวณเลียบลำคลอง จนทำให้บรรยากาศดูคล้ายกับประเทศญี่ปุ่น จึงกลายเป็นจุดเช็กอินแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเดินเล่น ถ่ายรูป โดยแนะนำให้มาในช่วงเย็นเพราะอากาศจะไม่ร้อนมาก สามารถเดินเล่น ถ่ายรูป หรือนั่งทานอาหารตามร้านต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลินและสบายใจ

  • ที่อยู่: 9 ถนนศรีดอนไชย ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50100
  • Google Map: คลองแม่ข่า Khlong Mae Kha 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 15:00 – 20:00 น. 
One Nimman วันนิมมาน

3. One Nimman วันนิมมาน

One Nimman หรือ วันนิมมาน เป็น Community Mall สุดชิค ซึ่งตั้งอยู่บนถนนนิมมานเหมินทร์ เป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ชื่อดัง ด้วยโครงสร้างอาคารที่ออกแบบสไตล์ยุโรปผสานกลิ่นอายความเป็นล้านนาและการตกแต่งที่ทันสมัย จึงมีมุมเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย นอกจากนั้นยังมีลานกว้างที่ใช้จัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรีหรือผลงานศิลปะ เรียกได้ว่าสามารถเดินเล่น ชอปปิง ถ่ายรูป หรือร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

  • ที่อยู่: เลขที่ 1 ซอย 1 ถนนนิมมานเหมินท์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: One Nimman วันนิมมาน One Nimman 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 22:00 น.
สวนสาธารณะหนองบวกหาด

4. สวนสาธารณะหนองบวกหาด

สวนสาธารณะหนองบวกหาด เป็นสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ที่อยู่ใจกลางเมือง ภายในสวนมีการจัดแต่งให้ทัศนียภาพดูสวยงาม มีต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ มีสระน้ำ น้ำพุ และสนามเด็กเล่น รวมทั้งพื้นที่สำหรับการออกกำลังกาย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการไปพักผ่อนหย่อนใจ อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัวในวันว่าง

  • ที่อยู่: ถนนอารักษ์ ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: สวนสาธารณะหนองบวกหาด Nong Buak Haad Public Park 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันเวลา 05:00-21:00 น.
ตลาดวโรรส

5. ตลาดวโรรส

ตลาดวโรรส หรือ กาดหลวง ถือเป็นตลาดชื่อดังขนาดใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์รวมร้านขายเสื้อผ้า อาหาร ของฝาก และของที่ระลึกต่างๆ โดยเฉพาะอาหารพื้นเมือง เช่น ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ผลไม้อบแห้ง นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาที่ตลาดนี้เพื่อเลือกซื้อสินค้า ของที่ระลึกและของฝาก เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้สินค้าทุกอย่าง ครบทุกความต้องการอย่างแน่นอน

  • ที่อยู่:  ถนนวิชยานนท์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50300
  • Google Map: ตลาดวโรรส Warorot Market (Kad Luang) 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 05:00 – 18:00 (ทุกวัน)
ถนนคนเดินวัวลาย

6. ถนนคนเดินวัวลาย

ถนนคนเดินวัวลาย เป็นสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ในยามค่ำคืน โดยตลาดนัดจะเปิดเฉพาะคืนวันเสาร์ ตั้งอยู่เส้นถนนวัวลาย ใกล้กับประตูเชียงใหม่ มีระยะทางเดินประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ถนนคนเดินจะมีร้านค้าต่างๆ ให้ได้เลือกซื้ออย่างมากมายในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ของใช้ เสื้อผ้า ของฝากของที่ระลึก นอกจากนั้นยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองให้ได้ฟังกันเพลินๆ อีกด้วย

  • ที่อยู่: ถนนวัวลาย ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50100
  • Google Map: ถนนคนเดินวัวลาย Wua Lai Walking Street 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 17:00 น.-23:00 น. เฉพาะวันเสาร์
สวนสัตว์เชียงใหม่

7. สวนสัตว์เชียงใหม่

สวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่เอาใจคนรักสัตว์ ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ มีพื้นที่กว้างขวางและร่มรื่น มีส่วนแสดงสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ สามารถเดินชมความน่ารักและศึกษาธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือ Chiangmai Zoo Aquarium ซึ่งเป็นอุโมงค์น้ำที่จัดแสดงสัตว์น้ำทั้งสายพันธุ์น้ำจืดและน้ำเค็ม หรือสามารถเข้าไปเล่นหิมะภายใต้อากาศติดลบแห่งเดียวในภาคเหนือที่ Snow Buddy Winter Land ที่กำลังจะกลายเป็นสถานที่เช็กอินใหม่ของเชียงใหม่

  • ที่อยู่: 100 ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: สวนสัตว์เชียงใหม่ https://goo.gl/maps/Y3i7NSKP74RoMDNV9 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น.
อ่างแก้ว มช.

8. อ่างแก้ว มช.

อ่างแก้ว เป็นอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ด้วยบรรยากาศรอบอ่างน้ำที่โอมล้อมไปด้วยต้นไม้ที่เรียงรายอย่างสวยงาม บวกกับดอยสุเทพที่เป็นฉากหลัง ตัดกับภาพท้องฟ้ากว้าง จึงทำให้อ่างแก้วกลายเป็นสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่นอกจากจะเป็นจุดพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือเอาไว้ชมบรรยากาศยามเย็นแล้ว ยังกลายเป็นจุดถ่ายรูปสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเก็บภาพความสวยงามกันอีกด้วย

  • ที่อยู่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: อ่างแก้ว มช. Angkaew Reservoir 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 06.00-22.00 น.
วัดพระธาตุดอยคำ

9. วัดพระธาตุดอยคำ

วัดพระธาตุดอยคำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ ที่เชื่อว่าเหล่าสายมูตัวจริงต้องรู้จักอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานขององค์หลวงพ่อทันใจ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการขอพร โดยมีความเชื่อว่าคนที่มาขอพรที่นี่มักจะสมหวัง จึงทำให้มีผู้คนมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลพร้อมทั้งขอพรเป็นจำนวนมาก สำหรับการขึ้นไปวัดพระธาตุดอยคำนั้น สามารถขับรถขึ้นไปเองได้

แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากวัดตั้งอยู่บนเขาจึงมีเส้นทางค่อนข้างลาดชัน

  • ที่อยู่: 108 ถนนเชียงใหม่-หางดง ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50100
  • Google Map: วัดพระธาตุดอยคำ Wat Phra That Doi Kham 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00-17:00 น.
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

10. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

วัดพระสิงห์ฯ ถือเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่ ชื่อ พระสิงห์ มาจากการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่มาประดิษฐานที่นี่นั่นเอง ภายในวัดจะมีทั้งวิหารหลวง วิหารลายคำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์ มีการตกแต่งด้วยลายคำที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในล้านนา 

ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่หาชมได้ยากในประเทศไทย 

มีหอธรรมที่งดงามที่สุดในภาคเหนือ และพระเจดีย์ประธานประจำปีมะโรงตามคติของชาวล้านนา ซึ่งคนที่เกิดปีมะโรงก็มักจะเดินทางมาสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ที่มาใครมาแล้วก็จะรับบุญกลับไปกันอย่างถ้วนหน้า

  • ที่อยู่: 2 ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50280
  • Google Map: วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร Wat Phra Singh Woramahawihan 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 น. – 17:00 น.
วัดศรีสุพรรณ

11. วัดศรีสุพรรณ

วัดศรีสุพรรณขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของอุโบสถที่ทำจากเงินหลังแรกของโลก มีการแกะสลักลวดลายจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของสล่าพื้นบ้านอย่างวิจิตรงดงาม และยังแสดงเอกลักษณ์ของชุมชนวัวลาย ซึ่งมีการทำหัตถกรรมเครื่องเงินที่มีชื่อเสียงของจังหวัด 

นอกจากนั้นยังมีองค์พระพุทธรูป พระพิฆเนศ และท้าวเวสสุวรรณคู่ที่ทำมาจากเงินอยู่ภายในบริเวณวัดด้วย วัดศรีสุพรรณจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเชียงใหม่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งมาเพื่อสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมความสวยงามของอุโบสถเงิน

  • ที่อยู่: 100 ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50100
  • Google Map: วัดศรีสุพรรณ Wat Sri Suphan 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 น. – 17:00 น.
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

12. วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

วัดเจดีย์หลวง หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอารามหลวงเก่าแก่และมีความสำคัญมาก เป็นที่ตั้งของพระเจดีย์หลวงที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ โดยคาดว่าเริ่มต้นสร้างสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา พระเจดีย์มีฐานเป็นสี่เหลี่ยม มีทางขึ้นสี่ด้าน มีรูปปั้นช้างล้อมรอบ วัดเจดีย์หลวงยังเป็นที่ประดิษฐานของเสาอินทขิล ซึ่งถือเป็นเสาหลักเมือง สิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมือง โดยจะมีการจัดพิธีใส่ขันดอกเพื่อบูชาเสาอินทขิลเป็นประจำทุกปีด้วย

  • ที่อยู่: 103 ถนนพระปกเกล้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: วัดเจดีย์หลวง Wat Chedi Luang 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น.
วัดพันเตา

13. วัดพันเตา

ความน่าสนใจอย่างหนึ่งของวัดพันเตา คือ พระวิหารหอคำหลวงที่ทำจากไม้สักทั้งหลังตามศิลปะแบบเชียงแสน มีซุ้มประตูที่เรียกว่า หน้าบันเป็นรูปนกยูงรำแพนหางแกะสลักอย่างสวยงาม นอกจากนี้วัดพันเตายังมีชื่อเสียงในเรื่องการจุดผางประทีป 

หากใครอยากมายังสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่แห่งนี้ แนะนำให้มาช่วงเทศกาลลอยกระทง เพราะในช่วงเทศกาลนี้ของทุกปี จะมีการจุดผางประทีปบนพื้นดินบริเวณลานต้นโพธิ์จำนวนมาก เมื่อเหล่าพระสงฆ์และสามเณรมารวมกันเพื่อนั่งสมาธิและบรรยายธรรมบริเวณนี้ ประกอบการการประดับโคมไฟโดยรอบ ทำให้ได้ภาพที่สวยงามน่าประทับใจเป็นอย่างมาก

  • ที่อยู่: ถนนพระปกเกล้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: วัดพันเตา Wat Phantao 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 น. -17:00 น.
วัดหมื่นล้าน

14. วัดหมื่นล้าน

วัดหมื่นล้าน ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดที่ความโดดเด่นด้วยศิลปะแบบพม่า บริเวณวิหารมีหน้าบันที่ตกแต่งด้วยนกยูงรำแพนหางประดับกระจกสี มีหอไตรหรือหอธรรมซึ่งเป็นอาคารสูง 2 ชั้นที่ดูสวยแปลกตา เหล่าสายมูทั้งหลายยังนิยมมาสถานที่ท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่แห่งนี้เพื่อกราบไหว้ขอพรโดยเฉพาะทางด้านการเงิน เนื่องด้วยชื่อของวัดที่มีชื่อว่าหมื่นล้านซึ่งบ่งบอกถึงจำนวนเงินนั่นเอง

  • ที่อยู่: 14 ถนน ราชดำเนิน ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200
  • Google Map: วัดหมื่นล้าน Wat Muen Lan 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 น. -17:00 น.

15. บ้านข้างวัด

สายศิลปะ ชอบงานคราฟต์หรือของแฮนด์เมดต้องไม่พลาดที่นี่ บ้านข้างวัดเป็นโครงการที่ออกแบบร้านค้าแนวย้อนยุคให้ผสานกับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ร้านค้าส่วนใหญ่จึงเป็นแบบกึ่งไม้กึ่งปูน ให้อารมณ์เหมือนบ้านยุคเก่า บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ 

ภายในโครงการมีร้านค้า ของฝาก ของที่ระลึก ของแต่งบ้านดีไซน์น่ารัก เป็นเอกลักษณ์  ไม่ซ้ำใคร นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่เก๋ๆ ให้ได้เลือกนั่งชิล และยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ จึงสามารถเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าได้อย่างเพลิดเพลิน

  • ที่อยู่: 191 ถนนบ้านร่ำเปิง ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: บ้านข้างวัด https://goo.gl/maps/N1DnbZsizxQYZAUV7 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 10:00-18:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
บ้านม้งดอยปุย

16. บ้านม้งดอยปุย

บ้านม้งดอยปุย เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งที่อยู่เลยจากวัดพระธาตุดอยสุเทพไปไม่ไกล ภายในหมู่บ้านจะมีร้านขายของที่ระลึก เครื่องประดับ เสื้อผ้า กระเป๋า ซึ่งเป็นสินค้างานฝีมือที่ชาวบ้านทำเองมาจำหน่าย จึงมีความสวยงามไม่ซ้ำแบบใคร 

เป็นสถานที่เที่ยวของเชียงใหม่ ที่ทำให้เราได้สัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่าอย่างใกล้ชิด ได้เห็นชนเผ่าม้งแต่งชุดประจำเผ่าหลากสี ซึ่งหากใครต้องการใส่ชุดเผ่าม้งไว้ถ่ายรูปสวยๆ ก็มีร้านให้เช่าชุดได้ และด้วยหมู่บ้านขึ้นอยู่บนเขาสูงจึงมองเห็นวิวภูเขาชัดเจน อากาศเย็นสบาย มีลมพัดเย็​น ทำให้สามารถเดินเที่ยวเล่นเพลินจนลืมเวลาเลยทีเดียว

  • ที่อยู่: หมู่ที่ 11 อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: บ้านม้งดอยปุย Hmong Doi Pui Village 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น.
บ้านป่าบงเปียง

17. บ้านป่าบงเปียง

สำหรับใครที่เป็นสายท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ก็ยังมีบ้านป่าบงเปียงที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่แห่งหนึ่งที่ต้องลองมาพักผ่อนสักครั้ง โดยหากมาในช่วงฤดูฝน จะได้เห็นวิวนาขั้นบันไดเขียวขจีกว้างขวางสุดตา โอบล้อมด้วยภูเขาสูงที่เรียงตัวสลับซับซ้อน 

ถ้าโชคดีอาจจะได้เจอหมอกหนาในตอนเช้าด้วย จึงเหมาะมากกับการมาพักผ่อน ใช้ชีวิตแบบ slow life ปล่อยใจไปกับความสวยงามของธรรมชาติ โดยจะเลือกพักแบบโฮมเตย์ของชาวบ้านหรือจะกางเต้นท์ก็มีพื้นที่ให้บริการเช่นกัน

  • ที่อยู่: บ้านป่าบงเปียง ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ 50270
  • Google Map: บ้านป่าบงเปียง Ban Rabiang Na Pa Bong Piang 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 22:00 น.
บ้านแม่กำปอง

18. บ้านแม่กำปอง

บ้านแม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่าที่อุดมสมบูรณ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ไกล เป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวของเชียงใหม่แห่งนี้แบบไปกลับ เพื่อเดินเล่นชมธรรมชาติรอบหมู่บ้านหรือถ่ายรูปที่คาเฟ่เก๋ๆ ริมน้ำ จิบกาแฟอันเป็นสินค้าเกษตรที่ปลูกและผลิตเองในหมู่บ้าน ชิมอาหารท้องถิ่น หรือหากต้องการพักค้างคืนก็สามารถเลือกพักตามโฮมเสตย์ของชาวบ้านในหมู่บ้านได้

  • ที่อยู่: หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ 50130
  • Google Map: บ้านแม่กำปอง Mae Kampong Village 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 06:00 – 18:00 น.
สวนสนบ่อแก้ว

19. สวนสนบ่อแก้ว

สวนสนบ่อแก้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่เป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินสุดฮิตอีกที่หนึ่ง อยู่ติดกับถนนสายหลักจึงหาได้ง่าย บริเวณสวนสนมีต้นสนสูงใหญ่จำนวนมาก ปลูกเป็นแนวเรียงรายอย่างเป็นระเบียบสวยงาม จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป ยิ่งทิวต้นสนตัดกับแสงแดดที่สาดส่องในช่วงเช้าหรือตอนเย็น จะยิ่งทำให้ได้ภาพที่แปลกตาแต่สวยงามมากๆ 

  • ที่อยู่: ถนนฮอด-แม่สะเรียง ตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ 50240
  • Google Map: สวนสนบ่อแก้ว Bo Kaeo Pine Tree Garden 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00-17:00 น.
ดอยหลวงเชียงดาว

20. ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาวเป็นสถานที่เที่ยวเชิงธรรมชาติแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ที่สำคัญมาก โดยจัดเป็นดอยที่มีความสูงเป็นอันดับที่สามของประเทศไทย เป็นเขตพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย จน UNESCO ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑล 

ดังนั้นจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการผจญภัยอยากจะไปพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาวพร้อมทั้งศึกษาธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ให้ได้สักครั้ง แต่หากใครไม่ใช่สายลุย ขึ้นเขาไม่ไหว  ก็สามารถเลือกพักตามโฮมสเตย์ที่สามารถเห็นวิวดอยหลวงได้อย่างชัดเจนได้เช่นกัน

  • ที่อยู่: ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 50170
  • Google Map: ดอยหลวงเชียงดาว Chiang Dao 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น.
ดอยแม่โถ

21. ดอยแม่โถ

สายแคมปิงต้องไม่พลาดกับการตั้งแคมป์พร้อมชมวิว 360 องศา ที่ดอยแม่โถหรือที่เรียกกันว่าทุ่งหญ้าสะวันนา เป็นสถานที่เที่ยวในเชียงใหม่ ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ทุ่งหญ้าเขียวขจีบนม่อนดอยสูงต่ำสลับกัน และเนื่องจากเป็นที่ราบโล่งจึงสามารถเห็นดาวบนท้องฟ้าในตอนกลางคืนได้อย่างชัดเจน ข้อควรระวังสำหรับการตั้งแคมป์คือ ลมค่อนข้างแรงทั้งตอนกลางวันและกลางคืน เนื่องจากเป็นที่โล่ง จึงควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับการป้องกันลมให้พร้อม 

  • ที่อยู่: 109 ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ 50240
  • Google Map: ดอยแม่โถ Savannah Grassland (Doi Mae Tho) 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น.

จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย มีความโดดเด่นทั้งทางด้านภูมิประเทศ วิถีชีวิตและศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มีการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีความปลอดภัยสูง สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดู จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ สำหรับใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าต้องเตรียมเสื้อผ้าพร้อมพร็อปต่างๆ มาเต็มกระเป๋าเพื่อเอาไว้ใช้ในการเก็บภาพความประทับใจอย่างแน่นอน 

AIRPORTELs Luggage Delivery Service

หากมาถึงแล้วอยากออกไปเที่ยวเล่นเลยหรือยังไม่ถึงเวลาเช็กอินเข้าโรงแรม ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระพะรุงพะรัง ลองใช้บริการของ Airportels บริการรับส่งสัมภาระไปยังที่พัก ลงเครื่องปุ๊บ เดินตัวปลิวไปท่องเที่ยวตามสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ได้ทันที 

AIRPORTELs Luggage Delivery Service

ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Airportels ในการจัดส่งสัมภาระ ให้ไปถึงยังที่พักอย่างปลอดภัยด้วยการบริการที่มีมาตรฐานในระดับสากล ราคาเริ่มต้นเพียง 349บาท/ใบ ทีนี้ก็จดลิสต์รายการสถานที่เที่ยวเชียงใหม่แล้วออกเดินทางอย่างคล่องตัวได้ทันที พร้อมรอรับสัมภาระที่โรงแรมที่พักได้เลย

15 ที่เที่ยวหน้าหนาวใกล้กรุงเทพ สัมผัสไอหนาวได้ ไม่ต้องไปไกล 2023

พอเข้าสู่ช่วงปลายปี หลายคนก็คงจะเริ่มตั้งคำถามว่า หน้าหนาวเที่ยวไหนดี เพราะหลายที่ต้องวางแผนจองตั๋ว จองที่พักล่วงหน้า แต่สำหรับใครที่มีเวลาว่างแค่วันสองวันหรือไม่อยากเดินทางไกลๆ ก็สามารถสัมผัสไอหนาวได้เหมือนกัน เพราะใกล้กรุงเทพก็ยังมีที่เที่ยวหน้าหนาวสวยๆ บรรยากาศดีๆ อีกมากมาย และกิจกรรมที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวกับเพื่อน คนรัก หรือครอบครัว ก็ฟินได้เหมือนกัน !

ชมวิว สูดไอหมอก ท้าความเย็น

ชมวิว สูดไอหมอก ท้าความเย็น

หน้าหนาวเป็นช่วงเวลาเดียวของปีที่จะได้ไปชมวิวสวยๆ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ บนดอย บนภูเขาต่างๆ อุณหภูมิจะลดต่ำลงจนมีไอหมอกจางๆ ในยามเช้า ในขณะที่บางจุดหมอกก็หนามากจนกลายเป็นทะเลสีขาว ซึ่งไม่ใช่ภาพที่จะหาชมได้บ่อยๆ โดยจุดที่เที่ยวหน้าหนาวที่สามารถจะชมทะเลหมอกได้มีดังนี้ 

1. จุดชมวิวกังหันลมเขายายเที่ยง นครราชสีมา 

จุดชมวิวกังหันลมเขายายเที่ยง เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวซึ่งอยู่ห่างจากเขื่อนลำตะคองเพียง 15 นาที ใครที่มาเที่ยวเขื่อนลำตะคองก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาเที่ยวจุดนี้ด้วย เพราะวิวสวยมาก สามารถมองเห็นภูเขา เขื่อนลำตะคองและทุ่งกังหันลมได้แบบ 360 องศา อากาศเย็นสบาย จะปั่นจักรยานชมวิวเพลินๆ หรือนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกก็โรแมนติก การเดินทางสะดวกสบาย มีที่จอดรถ ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องน้ำ ให้บริการครบ

  • ที่อยู่: ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา 30340
  • พิกัด: กังหันลม เขายายเที่ยง
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 06:00-18:00 น.

2. จุดชมวิวเขากระโจม ราชบุรี 

จุดชมวิวเขากระโจมนั้นสามารถขับรถขึ้นไปได้ แต่เส้นทางจะสมบุกสมบันหน่อย จึงเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่เหมาะสำหรับสายลุย แต่พอขึ้นไปเห็นทิวทัศน์สวยๆ ด้านบนแล้ว เชื่อว่าความเหนื่อยจะหายเป็นปลิดทิ้ง เพราะวิวสวยอลังการมาก มองเห็นได้ไกลถึงประเทศพม่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะกางเต็นท์พักแรม เพื่อตื่นมาชมวิวแต่เช้าตรู่ มองดูพระอาทิตย์สีส้มค่อยๆ โผล่พ้นทะเลหมอกสีขาว แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็สร้างความประทับใจได้ไม่รู้ลืม

  • ที่อยู่: ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี 70180
  • พิกัด: จุดชมวิวเขากระโจม
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี (นำรถยนต์เสียค่าบริการขึ้นเขาคันละ 50 บาท)
  • เวลาปิด-เปิด: ขึ้นเวลา 04:00-07:00 น.
    ลงเวลา 07:00-09:00 น. / 09:00-19:00 น. ขึ้นและลงได้ตลอด

3. ผาหินกูบ จันทบุรี

ชื่อผาหินกูบอาจจะฟังดูแปลก แต่สาเหตุที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะจุดชมวิวด้านบนมีลักษณะโค้งลาดลงทั้ง 2 ข้าง จึงให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งชมวิวอยู่บนกูบหรือที่นั่งบนหลังช้าง เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่วิวสวยและบรรยากาศดีมาก ตลอดเส้นทาง 8-9 กม. นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งถ้ำ น้ำตก ลำธาร และหินรูปร่างแปลกตา การค้างแรมที่นี่ไม่มีเต็นท์ให้ แต่ใช้วิธีผูกเปลหรือนอนใต้ผาหิน ใครที่อยากออกจากเซฟโซน อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ต้องถูกใจแน่นอน

  • ที่อยู่: ตำบลตะเคียนทอง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี 22210
  • พิกัด: ผาหินกูบ
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี มีค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1,000 บาท
  • เวลาปิด-เปิด: เปิดเฉพาะเสาร์ – อาทิตย์
เขาพะเนินทุ่ง เพชรบุรี 

4. เขาพะเนินทุ่ง เพชรบุรี 

เขาพะเนินทุ่ง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวยอดนิยม เพราะช่วงที่อากาศเย็นจัด หมอกจะหนา จนกลายเป็นทะเลสีขาวที่กว้างสุดลูกหูลูกตา เส้นทางค่อนข้างชัน แต่สามารถขับรถขึ้นไปได้ ด้านบนมีลักษณะเป็นทุ่งหญ้ากว้าง จึงสามารถกางเต็นท์ได้อย่างสะดวกสบาย มีห้องอาบน้ำและร้านค้าสวัสดิการให้บริการ ถ้าใครเป็นสายลุย ก็สามารถเดินทางต่อไปพิชิตยอดเขาพะเนินทุ่งได้เลย ซึ่งที่ยอดเขานี้เป็นแหล่งดูนกป่าหายากด้วย

  • ที่อยู่: ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 76170
  • พิกัด: จุดชมวิวทะเลหมอกพะเนินทุ่ง
  • อัตราค่าเข้า: ค่าเข้าคนละ 100 บาท ค้างคืนเพิ่มอีกคนละ 30 บาท / คืน
  • เวลาปิด-เปิด: รถขึ้นได้เวลา 05:30-07:30 น. และ 13:00-15:00 น. ลงเวลา 09:00 – 10:00 น. และ 16:00 – 17:00 น.

5. สกายวอล์ก วัดเขาตะแบก ชลบุรี

สกายวอล์ก วัดเขาตะแบก มีลักษณะเป็นทางเดินทอดยาว 226 เมตร สูงจากพื้นดิน 25 เมตร หรือประมาณตึก 8 ชั้น ถึงจะไม่ใช่คนกลัวความสูง แต่มองลงมาก็ต้องมีหวั่น ยิ่งช่วงที่เป็นพื้นกระจกมีระยะทาง 50 เมตร เรียกว่าเป็นช่วงวัดใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้มองเห็นวิวของผืนป่าและอ่างเก็บน้ำได้แบบเต็มตา ถ่ายรูปออกมาสวยมาก และยังสามารถลงมาทำบุญที่วัดต่อได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่ครบครันจริงๆ

6. ผาเก็บตะวัน นครราชสีมา 

ผาเก็บตะวันไม่เพียงแต่จะเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำด้วย คือการปลูกป่าโดยใช้หนังสติ๊กยิงเมล็ดพันธุ์พืช เช่น เมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการยิงเล่นๆ แต่เติบโตได้จริงถึง 80% ดังนั้นนอกจากได้นอนกางเต็นท์ ชมวิวทะเลหมอกสวยๆ ก็ยังได้คืนความอุดมสมบูรณ์ให้ผืนป่าเป็นการตอบแทนด้วย 

เดินป่า เที่ยวอุทยาน ท่ามกลางธรรมชาติ

เดินป่า เที่ยวอุทยาน ท่ามกลางธรรมชาติ

อุทยาน เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่คนนิยมมาก เพราะแม้จะมีต้นไม้คอยให้ความร่มรื่น แต่ถ้าลองมาเดินป่าในช่วงหน้าร้อน ก็จะรู้สึกอบอ้าว เหนียวตัว เหนื่อยง่าย ในขณะที่ช่วงหน้าหนาวอากาศเย็นสบาย เดินชมนกชมไม้ได้เพลินๆ วิวทิวทัศน์สวยงาม ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ และยังเป็นช่วงที่แมลงน้อยด้วย โดยอุทยานที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพ มีดังนี้

7. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา 

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย และเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ขับรถออกจากกรุงเทพไม่นาน ก็จะได้สัมผัสกับอากาศที่สดชื่น เย็นสบาย และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมพืชพรรณและสัตว์หายาก โดยเฉพาะนกที่มีมากกว่า 280 ชนิด มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย เช่น การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ส่องนกในตอนกลางวัน ส่องสัตว์ป่าในยามค่ำคืน เล่นน้ำตก ฯลฯ 

  • ที่อยู่: ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130
  • พิกัด: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 06:00 – 18:00 น.

8. อุทยานแห่งชาติทับลาน นครราชสีมา 

นอกจากอุทยานแห่งชาติทับลานจะมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังมีป่าลานธรรมชาติที่ถือว่าเป็นป่าลานผืนสุดท้ายของเมืองไทย มีต้นลานขึ้นอย่างหนาแน่นบนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิด และด้านในก็ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น อ่างเก็บน้ำทับลาน น้ำตกบ่อทอง น้ำตกสวนห้อม เขามะค่า ฯลฯ จึงเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่เหมาะมากสำหรับการทำกิจกรรมและกางเต็นท์พักแรม

  • ที่อยู่: 520 หมู่ที่ 1 ถนนกบินทร์บุรี – ปักธงชัย ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี 25220
  • พิกัด: อุทยานแห่งชาติทับลาน
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท 
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 08:00 – 18:00 น.
อุทยานหินเขางู ราชบุรี

9. อุทยานหินเขางู ราชบุรี

อุทยานหินเขางู เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่แตกต่างจากอุทยานอื่นๆ เพราะเป็นเหมือนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่มีภูเขาหินปูนตั้งตระหง่าน เดิมที่พื้นที่นี้เป็นแหล่งระเบิดและย่อยหิน แต่ต่อมาถูกยกเลิกไปและกลายเป็นพื้นที่ร้าง จึงพัฒนาให้กลายเป็นสวนสวยๆ  โดยที่ยังอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยรอบเอาไว้ บรรยากาศจึงสวยงามแปลกตา หาชมยาก กิจกรรมที่นิยมก็จะเป็นการเดินเล่น ถีบเรือเป็ด ชมถ้ำ และแวะถ่ายรูปที่จุดเช็กอินยอดฮิตบนสะพานข้ามลำน้ำ

  • ที่อยู่: ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี 70000
  • พิกัด: อุทยานหินเขางู
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 09:00-17:00 น.

10. อุทยานแห่งชาติพุเตย สุพรรณบุรี 

อุทยานแห่งชาติพุเตย เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี จึงเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่คนสุพรรณและจังหวัดใกล้เคียงนิยมกันมาก เหมือนได้หลีกหนีความวุ่นวาย มาสัมผัสกับความสวยงามที่เงียบสงบ เปลี่ยนบรรยากาศมาใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ นอนกางเต็นท์ดูดาวยามค่ำคืน ตื่นมาจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ พร้อมชมทะเลหมอกยามเช้า และเดินเที่ยวชมน้ำตกสวยๆ ที่มีน้ำตลอดทั้งปี 

  • ที่อยู่: ตำบลวังยาว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี 72180
  • พิกัด: อุทยานแห่งชาติพุเตย สุพรรณบุรี
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท 
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 08:00 – 18:00 น.
ทุ่งกว้าง สวนดอกไม้ ถ่ายคอนเทนต์ สัมผัสความหนาว

ทุ่งกว้าง สวนดอกไม้ ถ่ายคอนเทนต์ สัมผัสความหนาว

เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของฤดูหนาวก็คือ ทุ่งนาสีทองที่พร้อมเก็บเกี่ยวและดอกไม้สีสันสดใสที่แข่งกันอวดโฉม ช่วงนี้จึงถือเป็นเวลาทองของการไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะใน 1 ปี มีเพียงแค่ 1 ครั้ง พลาดแล้วพลาดเลย ต้องรอไปถึงปีหน้า ที่เที่ยวหน้าหนาวบางแห่งจึงเปิดให้เข้าชมเพียงระยะเวลาสั้นๆ โดยสามารถไปชมได้ตามจุดต่างๆ ดังนี้

11. สะพานไม้ร้อยปี นครราชสีมา 

สะพานไม้ร้อยปี เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่เหมาะสำหรับการเดินเล่น ถ่ายรูปชิลๆ เพราะที่นี่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก เป็นสะพานไม้แคบๆ ขนาด 1-2 คนเดิน ระยะทางประมาณ 1 กม. เท่านั้น เดิมทีชาวบ้านร่วมใจกันสร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามทุ่งนาระหว่างหมู่บ้าน แต่ด้วยความที่บรรยากาศดี วิวสวย ก็เลยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก๋ๆ ในช่วงหน้าหนาว จะมีการตกแต่งไฟสวยงามเป็นพิเศษ และยังชมวิวทะเลหมอกยามเช้าได้ด้วย

  • ที่อยู่: ตำบลโคกกระชาย อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา 30250
  • พิกัด: สะพานไม้ 100 ปี
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 05:00-19:00 น.

12. ทุ่งทานตะวัน ไร่มณีศร นครราชสีมา 

ทุ่งทานตะวัน ไร่มณีศร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวที่อยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เหมาะที่จะแวะเดินเล่น ชมความสวยงาม เพราะช่วงปลายปี ทั่งทั้งอาณาบริเวณพื้นที่กว้างขวางกว่า 500 ไร่ จะถูกเติมเต็มด้วยดอกทานตะวันสีเหลืองแทบทุกตารางเมตร ถ่ายรูปกันได้เพลินๆ อากาศเย็นสบาย ไม่ต้องกลัวผิวไหม้ นอกจากนี้ด้านในยังมีร้านขายของฝากให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย

  • ที่อยู่: ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130
  • พิกัด: ไร่มณีศร ทุ่งทานตะวัน เขาใหญ่
  • อัตราค่าเข้า: คนละ 50 บาท
  • เวลาปิด-เปิด: เฉพาะฤดูหนาว เปิดทุกวัน เวลา 06:00-18:00 น. 

13. สะพานทุ่งนามุ้ย นครนายก 

สะพานทุ่งนามุ้ย เป็นสะพานที่ทำจากไม้ไผ่คดเคี้ยวอยู่เหนือทุ่งนา ช่วงปลายฝนต้นหนาวประมาณเดือนกันยายน – ตุลาคม ทุ่งนาบริเวณรอบๆ จะเป็นสีเขียวขจี แต่พอเข้าเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง บรรยากาศต่างกันแต่สวยทั้งคู่ 

จุดประสงค์หลักสร้างขึ้นเพื่อที่เวลาน้ำท่วมชาวบ้านจะได้ไม่ต้องเดินอ้อม แต่ปัจจุบันเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวยอดฮิต ที่นอกจากจะมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิวสวยๆ ได้แล้ว ยังสามารถปั่นจักรยานรับลมแบบเพลินๆ เลือกซื้อสินค้าจากชาวบ้าน หรือตักบาตรบนสะพานได้ด้วย 

  • ที่อยู่: ตำบล สาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก 26000
  • พิกัด: สะพานทุ่งนาน้อยเขาหล่น
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 06:00-19:00 น.
ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล ลพบุรี

14. ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล ลพบุรี

ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวที่สามารถชมดอกทานตะวันขนาดใหญ่ยักษ์นับพันได้ โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาที่เรียงรายต่อกันเป็นแนวยาว แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็คือนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถรางชมบรรยากาศรอบทุ่งแบบชิลๆ ได้ด้วย ไม่ต้องเดินให้เมื่อย หรือจะเป็นการขี่ม้าชมทุ่ง ขับ ATV ชมทุ่งก็มี ดังนั้นไม่ว่าจะมาเที่ยวกับเพื่อน คนรัก หรือมาเป็นครอบครัว มีทั้งเด็ก และผู้สูงอายุ ก็สนุกกันได้เต็มที่

  • ที่อยู่: ทางหลวงหมายเลข 3017 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี 15000
  • พิกัด: ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล 
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี (ไม่รวมค่าบริการรถราง และกิจกรรมอื่นๆ)
  • เวลาปิด-เปิด: เฉพาะฤดูหนาว เปิดทุกวัน เวลา 08:00-18:00 น.

15. ทุ่งคอสมอส น้องบุญทิ้ง นนท์ศิลาฟาร์ม สระบุรี

คอสมอสเป็นดอกไม้ที่จะบานเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ทุ่งคอสมอส จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวที่ไม่ควรพลาด เพราะมีวิวสวยมากเหมือนอยู่ต่างประเทศ ซึ่งจริงๆ แล้ว ที่นี่เป็นฟาร์มแพะ แต่แบ่งพื้นที่มาปลูกดอกคอสมอส 25 ไร่ พอถึงช่วงฤดูหนาว เลยกลายเป็นสีชมพูไปทั้งทุ่ง นักท่องเที่ยวเดินชมได้อย่างใกล้ชิด มีมุมสวยๆ ที่จัดไว้ให้ถ่ายรูปโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่ ให้นั่งพักกินของอร่อยด้วย

  • ที่อยู่: 37/3 หมู่ 6 ซอย 7 ซ้าย ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี 18240
  • พิกัด: น้องบุญทิ้ง นนท์ศิลาฟาร์ม
  • อัตราค่าเข้า: คนละ 50 บาท
  • เวลาปิด-เปิด: เฉพาะฤดูหนาว เปิดทุกวัน เวลา 08:00-18:00 น.
แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด

แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด

AIRPORTELs ให้บริการขนส่งกระเป๋าไปยังที่พัก ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบตัวเปล่า ไม่ต้องขนสัมภาระเอง หรือคอยกังวลว่าจะวางลืมไว้ที่ไหน 

วิธีใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่กดจองผ่านแอปพลิเคชัน และเลือกว่าต้องการให้ไปรับ-ส่งสัมภาระที่ไหน เวลาใด แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ AIRPORTELs ช่วยดูแลขนสัมภาระทั้งหมดแทนได้เลย 

ค่าบริการเริ่มต้นเพียง 299 บาทเท่านั้น อีกทั้งยังอุ่นใจไม่ต้องกลัวของหาย เพราะมีระบบติดตามสถานะการขนส่งแบบเรียลไทม์ และประกันค่าเสียหายสูงสุดถึง 50,000 บาท

สรุป

อากาศเย็นสบายแบบนี้อย่ามัวแต่อยู่บ้าน เพราะเมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวสวยๆ อีกมากมายที่รอทุกคนอยู่ ถึงจะมีเวลาน้อยก็ไม่เป็นไร เที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพก็ฟินได้เหมือนกัน มีทั้งจุดชมวิวสวยๆ อุทยาน ทุ่งกว้าง สวนดอกไม้ และกิจกรรมที่หลากหลาย แต่ถ้าใครไม่อยากขนสัมภาระเองให้เหนื่อย หรือขากลับซื้อของฝากเยอะ ก็ไม่ต้องหิ้วเองให้เปลืองแรง AIRPORTELs มีบริการขนกระเป๋าและสัมภาระทั้งหมดไปส่งให้ถึงที่พัก เดินทางกลับได้แบบชิลๆ จะแวะคาเฟ่ ถ่ายรูป หรือที่เที่ยวอื่นๆ ระหว่างทางก็ยังได้ ไม่ต้องวนกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมอีก ตรงกลับที่พักได้เลย ทั้งสะดวก ประหยัดเวลา และยังปลอดภัยด้วยระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.

รวม 15 จุดชมวิวทะเลหมอก เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องรอหน้าหนาว!

สำหรับใครที่ชื่นชอบการขึ้นเขา เพื่อไปสัมผัสธรรมชาติ จุดชมวิวทะเลหมอกนับเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู เพียงแค่เลือกไปให้ถูกจังหวะของที่เที่ยวทะเลหมอกสถานที่นั้นเป็นพอ เพราะการไปชมทะเลหมอกไม่จำเป็นที่จะต้องรอหน้าหนาวเสมอไป ทาง AIRPORTELs จึงได้รวบรวมจุดชมวิวทะเลหมอกทั่วไทย เที่ยวได้ตลอดทั้งปีมา มีที่ไหนบ้างไปดูกัน

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าร้อน

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าร้อน

เหมาะสำหรับใครที่อยากจะเที่ยวทะเลหมอกหน้าร้อน เพื่อสัมผัสธรรมชาติผ่านจุดชมวิวที่สูง จนสามารถเห็นบรรยากาศได้โดยรอบ 

ซึ่งการเที่ยวฤดูร้อนเพื่อชมทะเลหมอกมีจุดเด่นตรงที่ไม่ต้องรอหน้าฝนหรือหน้าหนาว ทุกคนก็สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศเหล่านั้นได้ หากใครเบื่อแล้วที่ฤดูร้อนต้องเอาแต่เที่ยวทะเล ไปทีไรก็ร้อนเกินไป ไม่ช่วยให้คลายร้อนสักเท่าไร ขอให้มาเปิดประสบการณ์ใหม่ในหน้าร้อนด้วยการชมทะเลหมอกกันดีกว่า

1. เขาพะเนินทุ่ง แก่งกระจาน

จุดชมวิวทะเลหมอก เขาพะเนินทุ่ง ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นับว่าเป็นจุดชมวิวที่เหมาะแก่การมารับไอเย็นๆ ชมทะเลหมอกไกลๆ อย่างสุดลูกหูลูกตา เพราะแก่งกระจานขึ้นชื่อว่าเป็นอุทยานที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีบรรยากาศที่ดีตลอดทั้งปี แม้มาในฤดูร้อนก็ไม่หวั่น ในส่วนของสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 900 เมตร แต่ถ้าอยากไปจุดสูงสุดของเขาจะอยู่ที่ 1,207 เมตร

จุดเด่นของเขาพะเนินทุ่ง นับว่าเป็นสถานที่ที่ท่องเที่ยวที่ดี ใครหลายคนต่างมากันแล้วได้ความประทับใจกลับไป เนื่องด้วยอากาศที่สดชื่นและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ หากมาจุดชมวิวในตอนเช้าก็สามารถเห็นทะเลหมอกได้ไม่ยาก จะมีทั้งเส้นทางที่เหมาะแก่การขับรถ และเส้นทางที่เหมาะกับการเดินขึ้นเขา

  • ที่ตั้ง – อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 76170
  • พิกัด – Khao Phanoen Thung
  • เวลาเปิด-ปิด –  ช่วงเวลา 05:30 – 07:30 น. และช่วงเวลา 13:00 – 15:00 น.

2. ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา

สำหรับใครที่กำลังมองหาทะเลหมอกหน้าร้อน ที่สามารถลอยตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติได้แบบ 360 องศา ขอให้แวะมาที่จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ที่จะมีพื้นที่ที่เป็นสกายวอล์ค ที่ทุกคนสามารถมายืนและชมวิวรอบทิศได้ โดยความสูงมากกว่า 2,038 ฟุต

จุดเด่นของทะเลหมอกอัยเยอร์เวง นับว่าเป็นจุดที่มีการสร้างสกายวอล์คขึ้นมา เพื่อให้มีบรรยากาศที่แตกต่างจากเวลาไปเที่ยวเขาที่อื่นๆ เพราะตัวสกายวอล์คจะเป็นทางเดินที่ทอดยาวไปด้วยกระจก และเมื่อไปถึงปลายทางก็ทำให้ชมทะเลหมอกได้ชัดเจน และที่แห่งนี้ก็มีอีกหลายชั้นให้ขึ้นชมทะเลหมอกได้อีกด้วย

อุทยานแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

3. อุทยานแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องบอกเลยว่าไม่ไกลจากกรุงเทพ นั่นก็คืออุทยานแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ นับว่าเป็นที่เที่ยวทะเลหมอกยอดฮิต ที่ใครหลายคนเลือกมา แม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนก็สามารถสัมผัสบรรยากาศไอเย็นและรับชมทะเลหมอกได้เป็นอย่างดี

จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติเขาค้อ เนื่องจากว่าเป็นอุทยานดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากการชมทะเลหมอกแล้วยังมีอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชมถ้ำ น้ำตก หน้าผา รวมไปถึงธรรมชาติที่มีความหลากหลาย จึงเหมาะมากกับคนที่ชื่นชอบการเดินป่า

  • ที่ตั้ง – 67 ม.1 ต ตำบลสะเดาะพง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 67270
  • พิกัด – อุทยานแห่งชาติเขาค้อ
  • เวลาเปิด-ปิด – เปิดทุกวัน 05:30 น. – 19:00 น

4. ภูตาจอ จังหวัดพังงา

ถ้าหากใครไปภาคใต้คงจะนึกถึงทะเลก่อน แต่ก็ต้องบอกว่าจุดชมทะเลหมอกหน้าร้อนอย่างภูตาจอ จังหวัดพังงาก็มีความโดดเด่นไม่แพ้ที่อื่นๆ ด้วยความสูงกว่า 1,350 เมตร ที่สามารถชมทะเลหมอกแม้อยู่ในช่วงฤดูร้อน หากใครมาพังงาแต่ไม่มาที่นี่ต้องบอกเลยว่าพลาดมาก

สำหรับจุดเด่นของที่นี่จะมีดีในเรื่องจุดชมวิวที่สามารถเห็นธรรมชาติสุดลูกหูลูกตา แถมบริเวณภูตาจอยังสามารถมากางเต็นท์ค้างคืน เพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกได้ ซึ่งเหมาะแก่การมาเที่ยวกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรักได้เป็นอย่างดี

5. กุนุงซิลิปัต จังหวัดยะลา

สุดท้ายสำหรับจุดชมวิวทะเลหมอกที่เหมาะแก่การเที่ยวในหน้าร้อน ขอแนะนำกุนุงซิลิปัต จังหวัดยะลา เป็นภูเขาหินที่มีความสูงประมาณ 21 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าความสูงน้อยกว่าจุดชมวิวในจังหวัดอื่นๆ เป็นอย่างมาก แต่ต้องบอกว่าถึงแม้จะไม่สูงแต่ของเขาก็ดีจริงๆ เพราะมาฤดูร้อนก็ยังสามารถเห็นหมอกได้โดยง่าย

จุดชมวิวกุนุงชิลิปัต จุดเด่นจะอยู่ที่เป็นเขาหินที่สามารถหมุนได้รอบทิศแบบ 360 องศา หากใครอยากจะมาไขว่คว้าหาความเย็นก็เหมาะมากที่จะมาในช่วงกุมภาพันธ์และเมษายน ถ้าหากใครสนใจที่จะไปเตรียมเสบียงไปให้พร้อมแล้วลุยได้เลย

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าฝน

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าฝน

เชื่อเลยว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนจะมีจุดชมวิวทะเลหมอกหลายจุดมากๆ โดยบรรยากาศนั้นจะได้ความชื้นแต่ไม่หนาวจนเกินไป ได้กลิ่นอายและใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างชัดเจน ถ้าหากใครไปตอนฝนตกก็อาจจะเซ็งๆ ที่ไม่ได้ออกไปไหน แต่ถ้าการขึ้นไปยังจุดชมวิวเพื่อชมทะเลหมอกหน้าฝน นับเป็นที่ถูกใจของคนไม่น้อยเลยทีเดียว ไปดูพร้อมกันเลยดีกว่าว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง

6. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ที่เที่ยวทะเลหมอก ไม่ว่าจะปีไหนๆ ก็ยังเป็นที่นิยมเสมอ อย่างม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มียอดเขาที่สูงราว 1,350 เมตร ที่ทุกคนสามารถนั่งรถเพื่อไปยังจุดชมวิวที่สูงที่สุดเพื่อให้ทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน เมื่อผ่านป่าเขาจะสามารถสัมผัสถึงความเย็นของไอหมอกได้เป็นอย่างดี

จุดเด่นของม่อนแจ่ม นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ใครหลายคนต่างนิยมมาท่องเที่ยวกัน ดังนั้นที่พักจึงมีหลากหลายแบบ ใครสะดวกแบบไหนเลือกพักแบบนั้นได้เลย นอกจากนี้ยังมีชุมชนที่เป็นตลาด พร้อมกับสวนดอกไม้สวยๆ ที่ผลิดอก และกิจกรรมท้าทายอื่นๆ อีกมากมาย

  • ที่ตั้ง – ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 50180
  • พิกัด – ม่อนแจ่ม
  • เวลาเปิด-ปิด – 07:00 – 20:00 น.

7. เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี

หากใครที่ชื่นชอบมาเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรี ถามหาถึงทะเลหมอกหน้าฝน ก็ขอแนะนำเนินช้างศึกซึ่งเป็นภูเขาสูงราว 1,053 เมตร วิวที่ทุกคนจะได้เห็นเป็นวิวที่มีภูเขาสลับทับซ้อนกันไปมาไกลๆ ทำให้เห็นวิวกว้างที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ ดื่มด่ำกับทะเลหมอกได้อย่างเต็มที่

จุดเด่นของที่นี่จะเห็นบรรยากาศที่ไกลสุดลูกหูลูกตาในช่วงหน้าฝน นอกจากนี้ยังได้เห็นเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ที่เชื่อมกับทางไทยเราได้อีกด้วย นอกจากนี้ที่แห่งนี้เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ได้ทั้งตอนขึ้นและตอนตกดิน สามารถนำเต็นท์มากางนอนได้ด้วย

  • ที่ตั้ง – ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
  • พิกัด – เนินช้างศึก
  • เวลาเปิด-ปิด – 05:30-18:30 น.
ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

8. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

สำหรับแลนด์มาร์กจุดชมวิวทะเลหมอก ในช่วงหน้าฝนที่ดีที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นภูทับเบิก ที่ในปัจจุบันนี้นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นเลิศที่ให้เราได้สัมผัสกับลมหนาวและไอชื้นในช่วงหน้าฝนได้เป็นอย่างดี โดยที่ภูทับเบิกมีความสูงอยู่ที่ 1,768 เมตร

จุดเด่นของภูทับเบิก ที่นี่มีชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ ทำให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น และที่สำคัญยังมีพื้นที่ปลูกกะหล่ำยาวเหยียดที่สามารถมองเห็นได้แบบสุดลูกหูลูกตา หากใครได้มาที่นี่รับรองติดใจแน่นอน เพราะไม่ได้มีเพียงแค่ร้านอาหาร ตลาด แต่ยังมีจุดที่สามารถกางเต็นท์ได้อีกด้วย

  • ที่ตั้ง – หมู่ที่ 14 ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ 42120
  • พิกัด – ภูทับเบิก
  • เวลาเปิด-ปิด – 

9. ดอยผาตั้ง จังหวัดเชียงราย

การไปโซนภาคเหนือช่วงหน้าฝน สถานที่ที่เหมาะแก่การเป็นที่เที่ยวทะเลหมอก ก็ขอแนะนำกับดอยผาตั้งที่มีความสูงอยู่ที่ 1,800 เมตร โดยแนะนำว่าให้ขับรถไปกัน เพื่อให้ได้แวะชมสถานที่ท่องเที่ยวหรือจุดชมวิวต่างๆ ในมุมที่แตกต่างกัน

จุดเด่นของที่นี่คงหนีไม่พ้นการที่ได้อยู่เหนือสุดของวิวทิวทัศน์ แม้แต่ทะเลหมอกก็ยังอยู่ใต้เท้าเราได้ ทำให้ได้ฟิลลิ่งอีกแบบที่แตกต่างจากที่อื่นๆ

  • ที่ตั้ง –  17 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 57310
  • พิกัด – ดอยผาตั้ง
  • เวลาเปิด-ปิด – เปิดทุกวัน 05:00 น. – 18:30 น.

10. ภูทอก จังหวัดเลย

ที่สุดท้ายกับการแนะนำจุดชมวิวทะเลหมอกในช่วงหน้าฝน ขอแนะนำให้รู้จักกับภูทอก นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความน่าสนใจ เพราะเป็นภูเขาที่ตั้งโดดเดี่ยวอยู่บริเวณนั้น เมื่อได้ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด มองลงมาจึงเห็นทะเลหมอกที่อยู่เบื้องล่าง

จุดเด่นของที่นี่จะได้วิวที่แตกต่างจากที่อื่น เพราะไม่มีภูเขาลูกอื่นๆ มาโดดเด่นเหนือภูทอกแห่งนี้ ถ้าใครอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นผ่านสายหมอกขอแนะนำให้มาที่นี่เลย นอกจากนี้ยังเป็นดินแดนที่เชื่อมต่อระหว่างไทย – ลาวด้วยนะ

  • ที่ตั้ง – ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย 42110
  • พิกัด – Phu Thok
  • เวลาเปิด-ปิด – เปิดทุกวัน 05:00-17:00 น.
จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าหนาว

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าหนาว

แน่นอนว่าฤดูหนาวนับว่าเป็นฤดูที่ฮอตฮิตที่สุดแก่การขึ้นเขา เพราะทุกคนจะได้สัมผัสบรรยากาศหนาวๆ กับวิวธรรมชาติสวยๆ โดยเฉพาะทะเลหมอกหน้าหนาวที่ใครหลายคนถึงกับยกนิ้วให้ ไม่เพียงแต่มีบรรยากาศที่ดีเลิศ แต่เพราะการขึ้นเขาในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดด้วย และหากอยากเก็บภาพความประทับใจของทะเลหมอกหนา พระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตก แนะนำว่าให้มาฤดูนี้ มีครบอย่างแน่นอน ว่าแต่จะแนะนำที่ไหนบ้างนั้น ตามไปอ่านกัน

11. อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า นับว่าเป็นจุดชมวิวทะเลหมอก ที่ใครหลายคนต่างรู้จัก เพราะเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงรายเป็นอย่างมาก มีความสูงตั้งแต่ 1,200-1,628 เมตร ซึ่งถือเป็นจุดที่สูงมากๆ จึงทำให้เห็นหมอกได้อย่างชัดเจน

จุดเด่นของที่นี่คงเป็นเอกลักษณ์ของเขาที่มีบางส่วนชี้ขึ้นฟ้าเลยถูกเรียกว่าภูชี้ฟ้า หากใครอยากอยู่เหนือหมอก และมองไปเบื้องล่างเห็นดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นมา รับรองว่าประสบการณ์นี้จะเป็นที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน

  • ที่ตั้ง – 3/1 หมู่ที่ 24 ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย 57160
  • พิกัด – Phu Chifa
  • เวลาเปิด-ปิด – 04:30 – 18:00 น.

12. กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

ทะเลหมอกหน้าหนาวที่โดดเด่นในเชียงใหม่ขอแนะนำให้ลองมาที่กิ่วแม่ปาน ความสูงประมาณ 2,200 เมตร ที่เหมาะแก่การมาเที่ยวและชมทะเลหมอกเป็นอย่างมาก โดยที่นี่ก็มีหลายจุดให้ได้ไปชมทะเลหมอกด้วยกัน สามารถเลือกหามุมดีๆ และถ่ายรูปกลับไปรับรองประทับใจไม่รู้ลืม

จุดเด่นของกิ่วแม่ปาน นับเป็นที่ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จึงทำให้มีพื้นที่เที่ยวที่หลากหลาย แต่ที่สุดแล้วคงหนีไม่พ้นการเดินขึ้นเขา ที่จะต้องใช้พละกำลังของตัวเอง เพื่อไปชมวิวทะเลหมอกที่ด้านบนสุดเหนือตัวเองได้

  • ที่ตั้ง – อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตู้ ป.ณ.2 หมู่ 7 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160
  • พิกัด – กิ่วแม่ปาน
  • เวลาเปิด-ปิด – 06:00-16:00 น.
ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

13. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

สำหรับใครที่อยากจะหาที่เที่ยวทะเลหมอก เพื่อมองวิวท้องฟ้าและมองทะเลหมอกได้ในเวลาเดียวกัน ขอแนะนำให้รู้จักดอยเสมอดาว ที่มีความสูงอยู่ที่ 888 เมตร ที่ถือว่าไม่สูงมากกว่าที่อื่นๆ สักเท่าไรแต่ต้องบอกว่าเป็นดอยที่มีเสน่ห์เหลือล้น

ดอยเสมอดาว เหมาะกับการมาค้างคืนเพื่อชมดาวยามค่ำคืนแบบใกล้ชิด ในขณะเดียวกันยามเช้าก็จะเห็นทะเลหมอก พร้อมกับเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้แบบ 360 องศา

  • ที่ตั้ง – ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150
  • พิกัด – ดอยเสมอดาว
  • เวลาเปิด-ปิด – เปิดตลอด

14. ภูลังกา จังหวัดพะเยา

สำหรับใครที่กำลังมองหาทะเลหมอกหน้าหนาว ที่อยู่ใกล้กับแหล่งแม่น้ำ ขอแนะนำให้ลองมาเที่ยวที่ภูลังกา ที่มีความสูงอยู่ที่ 1,720 เมตร ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากมายหลายอย่าง

จุดเด่นของการมาที่นี่เหมาะมากแก่การเดินป่า เดินขึ้นเขาเพื่อชมธรรมชาติที่ลายล้อม ดอกไม้นานาชนิด และสัตว์ป่าต่างๆ เหมาะกับสายผจญถัยเป็นอย่างมาก

  • ที่ตั้ง – วนอุทยานภูลังกา ตำบลช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา 56140
  • พิกัด – วนอุทยานภูลังกา
  • เวลาเปิด-ปิด – 06:00 – 18:00 น.

15. ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับที่สุดท้ายที่นับว่ามีชื่อเสียงโด่งดัง อย่างดอยอ่างขางที่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกมีความสูงโดยค่าเฉลี่ย อยู่ที่ 1,400 เมตร ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนจะไปยังจุดไหนๆ เพื่อไปรับชมความงามของทะเลหมอก

จุดเด่นของดอยอ่างขาง ให้คุณได้สามารถมาสัมผัสลมหนาว สวนดอกไม้ พืชผัก ผลไม้ เหมือนได้มาต่างประเทศ สำหรับที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่ใครหลายคนเลือกมา เพราะมีความสะดวกสบาย และสิ่งต่างๆ ที่ครบครันกว่าที่อื่นๆ

  • ที่ตั้ง – ตั้งอยู่บนทิวเขาแดนลาว ตำบลแม่สูน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 50320
  • พิกัด – ดอยอ่างขาง 
  • เวลาเปิด-ปิด – 
แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด

แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด

สำหรับใครที่มีแพลนจะเที่ยวล่วงหน้าภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะภาคกลาง เหนือ ใต้ หรือจะไปอีสาน ทาง AIRPORTELs  มีบริการส่งกระเป๋าล่วงหน้าไปยังจุดหมาย เพื่อที่ว่าคุณจะได้ไม่จำเป็นต้องรีบเตรียมกระเป๋าหรือต้องแบกกระเป๋าอย่างเร่งรีบ 

หากมีการวางแผนล่วงหน้าและเลือกชุดที่ต้องการใส่ไปเที่ยวแพ็กลงกระเป๋าเรียบร้อย สามารถนำกระเป๋ามาฝากไว้ที่เรา เรายินดีพร้อมส่งกระเป๋าไปล่วงหน้า เพื่อให้เพิ่มความสะดวกสบายแก่การท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น 

สรุป

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนอาจจะได้คำตอบแล้วว่าควรไปดูทะเลหมอกที่ไหนดี เพราะไม่ว่าจะไปฤดูไหนก็มี จุดชมวิวทะเลหมอก บรรยากาศชั้นเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องไปเฉพาะฤดูหนาวแต่อย่างใด ส่วนใครต้องการเที่ยวแบบสบายๆ ไม่ต้องแบกกระเป๋าให้เหนื่อย ให้เมื่อย สามารถมาลองใช้บริการ AIRPORTELs พร้อมส่งกระเป๋าไปยังจุดหมายปลายทางได้แบบล่วงหน้า บอกเลยว่าสามารถขึ้นเขาแบบตัวโล่งๆ ได้เลย

คำต้องห้ามในสนามบิน ถ้าไม่อยากเสี่ยงจำคุก ห้ามฝ่าฝืนเด็ดขาด!

สนามบินในประเทศ และต่างประเทศถือเป็นสถานที่สาธารณะ และมีการรวมตัวของกลุ่มคนมากมายหลายประเทศที่มาใช้บริการในสายการบินต่างๆ อย่างประเทศไทยเองก็มีนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือนมากมาย ความปลอดภัยจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่บริเวณสนามบินที่เสี่ยงต่อการเกิดความแตกตื่นได้ง่ายจากการกระทำ หรือคำพูดในรูปแบบต่างๆ ดังนั้น จึงมีการประกาศคำต้องห้ามในสนามบินออกมาบังคับใช้ บทความนี้ AIRPORTELs จะพาทุกคนไปดูคำต้องห้ามในสนามบิน ตัวอย่างสถานการณ์ และบทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน

คำต้องห้ามในสนามบิน คืออะไร

คำต้องห้ามในสนามบิน คืออะไร

คำต้องห้ามในสนามบิน คือ คำที่ห้ามพูด กล่าว หรือตะโกนในสนามบิน เพราะคำเหล่านี้เป็นคำที่อาจสร้างความไม่ปลอดภัย และสร้างความตื่นตระหนกให้กับผู้โดยสาร หรือเจ้าหน้าที่ในสนามบินได้ ซึ่งมาตรการนี้นับว่าเป็นมาตรการของท่าอากาศยานที่มีการใช้ร่วมกันอย่างเป็นสากล แม้เป็นภาษาต่างประเทศก็ไม่ควรพูด กล่าวถึง หรือตะโกนออกมาไม่ว่าด้วยเหตุผลใด เพราะอาจส่งผลมั่นคงในชีวิต ทรัพย์สิน และประเทศชาติได้

ประเภทของกลุ่มคำต้องห้ามในสนามบิน

ทาง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ให้ข้อมูลที่เป็นการกระทำความผิดต่อกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นในลักษณะของคำพูด ลักษณะท่าทาง หรือการสื่อสารที่ว่าด้วยเรื่องของคำต้องห้ามในสนามบิน หากมีการพูด หรือแสดงออกต้องได้รับบทลงโทษตามกฎหมาย โดยมีรายละเอียด ดังนี้

คำพูดที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เป็นเหตุให้ผู้อื่นตื่นตกใจ

คำพูดที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด เป็นเหตุให้ผู้อื่นตื่นตกใจ

คำต้องห้ามในสนามบินที่สร้างความเข้าใจผิด หรือทำให้ผู้อื่นตื่นตกใจ ถือว่าเป็นคำต้องห้าม เพราะสนามบินเป็นพื้นที่สาธารณะขนาดใหญ่ การใช้คำพูดเหล่านี้อาจสร้างความเข้าใจผิด หรือสร้างความตื่นตกใจ จนเกิดความโกลาหล และอาจเกิดเหตุจราจลจากการเข้าใจผิดภายในสนามบินได้ โดยกลุ่มคำต้องห้ามในสนามบินมีดังนี้

ระเบิด (Bomb, Explosive)

คำว่า ระเบิด หรือคำที่มีความหมายใกล้เคียงกับระเบิด ซึ่งเป็นอาวุธชนิดหนึ่งที่สามารถก่อเหตุอันตรายภายในสนามบินได้ ดังนั้น หากมีใครพูดขึ้นมา อาจสร้างความแตกตื่นให้กับผู้คนภายในสนามบินได้ คำว่า ระเบิด จึงถือเป็นคำห้ามพูดสนามบินที่ไม่ควรพูดออกมาเด็ดขาด

  • ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น การพูดว่ามีระเบิดอยู่ในกระเป๋า, สนามบินจะระเบิด, ติดตั้งระเบิดเรียบร้อยแล้ว, ระเบิดสนามบิน, ระเบิดเครื่องบิน, แม้แต่การเรียกชื่อ บอมบ์ ก็ไม่ควรเป็นอันขาด

อาวุธ วัตถุอันตราย และสารเสพติด

กลุ่มคำที่เกี่ยวกับอาวุธ วัตถุอันตราย และสารเสพติด เป็นกลุ่มคำที่อาจสร้างความตื่นตระหนก และความไม่ปลอดภัยให้กับผู้คนในสนามบินได้ อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดความวุ่นวาย หรือเหตุจลาจลในสนามบินได้ ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มคำที่ต้องระวังเป็นพิเศษ และถูกจัดว่าเป็นคำห้ามพูดในสนามบิน

  • ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น การพูดว่ามีอาวุธอยู่ในมือ, มีปืนอยู่ในกระเป๋า, เมายาหรือเปล่าเนี่ย, เสพยามา เป็นต้น

การก่อการร้าย การปล้น หรือจี้เครื่องบิน

สำหรับเหตุการณ์ที่สามารถสร้างความสะพรึงกลัวในสนามบิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการก่อการร้าย การปล้น หรือจี้เครื่องบิน ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดเป็นอันขาด เพราะเป็นกลุ่มคำที่สามารถสร้างภาวะตื่นตกใจให้คนโดยรอบ จนทำให้เกิดความวุ่นวานในสนามบินได้

  • ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น การพูดว่าเรามีตัวประกัน ไม่ทำตาม ตาย, นี่คือการปล้น, จี้เครื่องบิน, Hijack, ไม่ทำตามจะฆ่าให้หมด เป็นต้น

โรคระบาดร้ายแรง

กลุ่มคำพูดที่เกี่ยวกับโรคระบาดร้ายแรง ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรพูดในสนามบินเช่นกัน เพราะโรคระบาดมีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อไวรัส หรือโรคบางชนิดที่สามารถแพร่เชื้อให้กับคนในสนามบินได้ ไม่ว่าจะแพร่เชื้อผ่านการสัมผัส การพูดคุย การหายใจ หรือทางอากาศ โดยเฉพาะเชื้อโรคที่อันตรายต่อชีวิต และสร้างความหวาดกลัว นับว่าเป็นคำต้องห้ามในสนามบิน 

  • ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น ระวังเจอเชื้ออีโบล่า, คนนี้มีเชื้ออีโบล่า, โรคระบาดร้ายแรงชนิดใหม่ เป็นต้น
คำพูด เขียนข้อความ หรือการกระทำอื่น ๆ ที่เป็นการคุกคาม ข่มขู่ หรือเป็นภัย

คำพูด เขียนข้อความ หรือการกระทำอื่น ๆ ที่เป็นการคุกคาม ข่มขู่ หรือเป็นภัย

นอกจากคำพูดต้องห้ามในสนามบินแล้ว การแสดงออกด้วยวาจา การเขียนข้อความ หรือการกระทำอื่นๆ ที่เป็นการคุกคาม ข่มขู่ หรือเป็นภัย ก็นับว่าเป็นสิ่งต้องห้ามที่ไม่ควรทำเด็ดขาดในสนามบิน เพราะอาจสร้างความตื่นตระหนกตกใจ ความไม่ปลอดภัย รวมไปถึงความไม่มั่นคงในชีวิต ทรัพย์สิน และประเทศชาติ โดยพฤติกรรมที่ต้องห้ามในสนามบิน มีดังนี้

การพูด ตะโกน หรือเขียน

การพูด การตะโกน หรือการเขียน เป็นสิ่งที่สามารถสร้างอันตรายสำหรับผู้ที่อยู่ในสนามบิน ในกรณีที่มีการหลุดพูด หรือตะโกนคำต้องห้ามในสนามบินออกมาจนผู้คนในสนามบินได้ยินกันโดยทั่วไป หรือมีข้อความปริศนาที่มีวัตถุประสงค์ร้ายก็อาจสร้างความหวาดวิตก และกระทบต่อสภาพจิตใจได้

  • ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น การตะโกนว่าเครื่องบินลำนี้กำลังตะตก, การทิ้งข้อความในสนามบินว่ามีระเบิด, การป่าวประกาศไปทั่วว่าไฟกำลังไหม้สนามบิน เป็นต้น

การคุกคาม ข่มขู่ หรือทำร้ายร่างกาย

นอกจากคำห้ามพูดสนามบินแล้ว พฤติกรรมที่เกิดในสนามบินไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะเบาะแว้ง การตะโกนเสียงดังโวยวาย การข่มขู่ คุกคาม หรือแม้แต่การทำร้ายร่างกาย ถือเป็นการกระทำที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะอาจส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน อีกทั้งยังมีบทลงโทษอย่างหนักสำหรับผู้กระทำการฝ่าฝืน

  • ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น การข่มขู่ หรือคุกคามว่าเดี๋ยวก็ฆ่าทิ้งเสียหรอก, อยากตายมากเหรอ, ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม, จะกลับไม่กลับหรือต้องโดนกระทืบก่อน, การลงมือทำร้ายร่างกาย เป็นต้น

การโยนกระเป๋า หรือสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ หรือผู้โดยสาร

การโยนกระเป๋า หรือสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ หรือผู้โดยสาร ถือเป็นพฤติกรรมต้องห้ามในสนามบิน เพราะการขว้างปา หรือโยนสิ่งของอาจก่อให้เกิดความตื่นตระหนก การบาดเจ็บ หรือร้ายแรงถึงขั้นส่งผลต่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของผู้อื่นได้

  • ตัวอย่างสถานการณ์ เช่น ไม่พอใจเจ้าหน้าที่เลยโยนกระเป๋าใส่, ผู้โดยสารที่ทำการตรวจสัมภาระทำอะไรชักช้า โยนกระเป๋าใส่, แย่งที่วางกระเป๋า จนกระเป๋าไปกระแทกผู้โดยสารคนอื่น เป็นต้น
บทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน

บทลงโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน

  • ผู้ฝ่าฝืนแจ้งข้อความต้องห้ามในสนามบิน และเป็นเท็จ จนเป็นเหตุให้ผู้ที่อยู่ในท่าอากาศยาน หรือ ระหว่างบินตื่นตกใจ จำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
  • การกระทำนั้นสร้างอันตรายให้กับอากาศยาน และระหว่างการบิน จำคุกตั้งแต่ 5-15 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 200,000 – 600,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

สรุป

คำต้องห้ามในสนามบิน และพฤติกรรมต้องห้ามในสนามบิน มีจุดประสงค์เพื่อลดความเข้าใจผิด ลดการสร้างความตื่นตระหนกตกใจ ป้องกันการเกิดเหตุร้ายที่อาจส่งผลต่อสวัสดิภาพของผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่ รวมถึงป้องกันความเสียหายที่อาจส่งผลต่อชีวิต ทรัพย์สิน และความมั่นคงของประเทศชาติ ดังนั้น จึงจำเป็นต้องระวังเกี่ยวกับการสื่อสาร การพูด และการกระทำเสมอ เมื่ออยู่ภายในบริเวณสนามบิน

แจ้งความประสงค์


หากมีความกังวลขณะอยู่ในสนามบินเกี่ยวกับกระเป๋าสัมภาระ หรือเมื่อเกิดการจลาจลแล้วกลัวว่าสัมภาระอาจสูญหาย ทาง AIRPORTELs มีบริการรับฝาก และส่งกระกระเป๋า โดยจะจองผ่านเว็บไซต์ หรือเดินมาใช้บริการที่เคาน์เตอร์ก็สามารถทำได้ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย เพราะมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกันค่าเสียหายสูงสุด 50,000 บาท