How to ใช้ Google Maps แบบ Offline ไม่ต้องง้อเน็ต

ปกติเราจะใช้ Google Maps กันแบบออนไลน์ ทั้ง IOS และ Android  มาเป็นตัวช่วยในการเดินทาง แต่เดี๋ยวนี้สามารถดูได้แล้วแบบออฟไลน์ ซึ่ง Google Map Offline ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยการเดินทาง ที่ให้ความสะดวก และมีประโยชน์อย่างมาก ในเวลาที่เราเดินทางไปสถานที่ที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตและเราไม่ชำนาญทาง แต่จะนำแผนที่มาใช้อย่างไรนั้น สามารถมาดูพร้อมกันได้ในบทความนี้

Google Maps แบบ Offline คืออะไร

Google Maps แบบ Offline คืออะไร

Google Maps แบบ Offline คือ การดาวน์โหลดแผนที่การเดินทางล่วงหน้า โดยการดาวน์โหลดแผนที่จุดมุ่งหมายปลายทางที่ต้องการไป ในการดาวน์โหลดจะสามารถโหลดแผนที่ได้มากกว่า 1 สถานที่ และสามารถบันทึกแผนที่ไว้ดูภายหลังได้ ในแง่ของการใช้งานแบบออฟไลน์ก็สะดวกกว่ามาก เพราะการใช้งานแผนที่แบบออฟไลน์ จะสามารถใช้งานได้แม้ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต 

ส่วนการดาวน์โหลดแผนที่และการใช้งาน ก็สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ทั้งระบบ Google Map Offline ios และระบบ Google Map Offline Android ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่า การใช้งานแบบออฟไลน์จะต่างจากการใช้งาน Google Maps แบบออนไลน์อย่างสิ้นเชิง โดยการใช้งานแบบออนไลน์ จะต้องอาศัยสัญญาณอินเทอร์เน็ตเท่านั้น หากไม่มีอินเทอร์เน็ตหรือสัญญาณขัดคล่อง ก็จะไม่สามารถใช้งานได้

ประโยชน์ของ Google Maps Offline

ประโยชน์ของ Google Maps Offline

ในบางครั้ง เส้นทางการเดินทางของเราอาจจะไม่สามารถเชื่อมอินเทอร์เน็ตได้ เช่น ในกรณีที่เราหลงทางไปในที่ที่ไม่มีสัญญาณ หลงอยู่ท่ามกลางผู้คนแออัด หรือหลงไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย ดังนั้น การดาวน์โหลดและบันทึก Maps Offline Google ไว้ล่วงหน้า จึงจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการเดินทาง ซึ่งการใช้งาน จะใช้งานได้เหมือน Google Maps แบบออนไลน์ ใช้งานได้ง่าย แม้ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต การใช้งานก็สามารถ เลือกจากแผนที่ที่เราทำการบันทึกไว้ล่วงหน้า หรือการค้นหาแผนที่แบบออฟไลน์ ก็สามารถทำได้เช่นกัน เรียกได้ว่าการใช้งานแบบออฟไลน์ ถือเป็นเครื่องมือนำทางที่ดีและมีประโยชน์มากทีเดียว

วิธีดาวน์โหลด Google Maps Offline

วิธีดาวน์โหลด Google Maps Offline

วิธีดาวน์โหลด  Google Maps Offline ง่ายกว่าที่คิด ในการดาวน์โหลด สามารถเลือกดาวน์โหลดแผนที่เพื่อใช้งานออฟไลน์ กับเลือกดาวน์โหลดแผนที่ของตัวเราเอง และสามารถแยกวิธีดาวน์โหลดตามระบบ Android และ IOS ได้ดังนี้

ระบบ  Android

วิธีดาวน์โหลด Google Maps Offline 

  1. เปิดแอป  Google Maps บนโทรศัพท์มือถือ
  2. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตว่าเชื่อมต่ออยู่หรือไม่
  3. ลงชื่อเข้าใช้งาน Google Maps
  4. ค้นหาสถานที่ที่ต้องการไป เช่น จังหวัดภูเก็ต หรือเลือกสถานที่อย่างเฉพาะเจาะจง เช่น แหลมพรหมเทพ
  5. แตะชื่อ หรือสถานที่ จากนั้นเลือกคำว่า เพิ่มเติม หรือจุดสามจุดมุมขวาบน
  6. เมื่อเลือกเสร็จแล้ว จะมีกรอบสี่เหลี่ยมสีฟ้าขึ้นมา ซึ่งเราสามารถเลือกปรับเปลี่ยนความกว้างของแผนที่ได้ หรือจะปักหมุดสถานที่ที่เราต้องการไปแบบเฉพาะเจาะจงได้
  7. เมื่อได้จุดหมายแล้ว ก็สามารถดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ได้เลย

วิธีดาวน์โหลด แผนที่ของเราเอง

  1. เปิดแอป Google Maps บนโทรศัพท์มือถือ
  2. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตว่าเชื่อมต่ออยู่หรือไม่
  3. ลงชื่อเข้าใช้งาน Google Maps
  4. เลือกโปรไฟล์ด้านมุมขวาบน 
  5. เลือกคำว่าแผนที่ออฟไลน์ และกดคำว่าเลือกแผนที่ของคุณเอง
  6. เมื่อเลือกเสร็จแล้ว จะมีกรอบสี่เหลี่ยมสีฟ้าขึ้นมา ซึ่งเราสามารถเลือกปรับเปลี่ยนความกว้างของแผนที่ได้ 
  7. เมื่อได้จุดหมายแล้ว ก็สามารถดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ได้เลย

ระบบ  IOS

วิธีดาวน์โหลด Google Maps Offline 

  1. เปิดแอป Google Maps บนโทรศัพท์มือถือ
  2. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตอยู่หรือไม่
  3. ตรวจสอบว่าไม่ได้อยู่ในโหมดไม่ระบุตัวตน จากนั้นลงชื่อเข้าใช้ Google Maps
  4. ค้นหาสถานที่ที่ต้องการไป เช่น จังหวัดภูเก็ต หรือเลือกสถานที่อย่างเฉพาะเจาะจง เช่น แหลมพรหมเทพ
  5. แตะชื่อหรือสถานที่ จากนั้นเลือกคำว่า เพิ่มเติม หรือจุดสามจุดมุมขวาบน
  6. เมื่อเลือกเสร็จแล้ว จะมีกรอบสี่เหลี่ยมสีฟ้าขึ้นมา ซึ่งเราสามารถเลือกปรับเปลี่ยนความกว้างของแผนที่ได้ หรือจะปักหมุดสถานที่ที่เราต้องการไปแบบเฉพาะเจาะจงได้
  7. เมื่อได้จุดหมายแล้ว ก็สามารถดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ได้เลย

วิธีดาวน์โหลด แผนที่ของเราเอง

  1. เปิดแอป Google Maps บนโทรศัพท์มือถือ
  2. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตว่าเชื่อมต่ออยู่หรือไม่
  3. ตรวจสอบว่าไม่ได้อยู่ในโหมดไม่ระบุตัวตน จากนั้นลงชื่อเข้าใช้ Google Maps
  4. เลือก โปรไฟล์ด้านมุมขวาบน 
  5. เลือกคำว่า แผนที่ออฟไลน์ และกดคำว่า เลือกแผนที่ของคุณเอง
  6. เมื่อเลือกเสร็จแล้ว จะมีกรอบสี่เหลี่ยมสีฟ้าขึ้นมา ซึ่งเราสามารถเลือกปรับเปลี่ยนความกว้างของแผนที่ได้ 
  7. เมื่อได้จุดหมายแล้ว ก็สามารถดาวน์โหลดแผนที่ออฟไลน์ได้เลย
การบันทึก Google Maps Offline ใน SD สำหรับ Android

การบันทึก Google Maps Offline ใน SD สำหรับ Android

สำหรับ Android จะต่างจาก IOS ตรงที่ต้องโหลดแผนที่มาเก็บไว้ในการ์ด SD การดาวน์โหลดจะใช้ได้กับระบบ Android 6.0 ขึ้นไป โดยการบันทึกข้อมูล จะเป็นการบันทึกและการจัดเก็บข้อมูลแบบพกพา โดยจะมีวิธีการบันทึกลงการ์ด SD ได้ดังนี้

  1. ใส่การ์ด SD ลงในโทรศัพท์มือถือ
  2. ตรวจสอบการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตว่าเชื่อมต่ออยู่หรือไม่
  3. ลงชื่อเข้าใช้งาน Google Maps
  4. เลือก โปรไฟล์ด้านมุมขวาบน จากนั้นเลือกคำว่า แผนที่ออฟไลน์
  5. สังเกตมุมขวาบน จะมีรูปฟันเฟือง หรือการตั้งค่า กดเลือกได้เลย
  6. เมื่อเข้ามาหน้าตั้งค่าแล้วให้เลือกหัวข้อ ค่ากำหนดพื้นที่เก็บข้อมูล
  7. เลือกคำว่าอุปกรณ์ > เปลี่ยนการตั้งค่าจากอุปกรณ์ เป็นการ์ด SD
  8. เสร็จแล้ว ก็กดบันทึกการตั้งค่า
  9. จากนั้นเลือกแผนที่ที่ต้องการดาวน์โหลด และแผนที่จะถูกบันทึกลงในการ์ด SD

การเก็บข้อมูลในการ์ด SD ของ Android จะช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บข้อมูลในโทรศัพท์ให้มีพื้นที่เพิ่มมากขึ้นด้วย

วิธีใช้ Google Maps Offline

วิธีใช้ Google Maps Offline

เมื่อเราทำการดาวน์โหลด Google Maps Offline ลงในมือถือไว้เรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาดูวิธีใช้งานกัน

  1. เปิดแอป Google Maps ในโทรศัพท์ระบบ Android หรือ ios
  2. เลือก โปรไฟล์ด้านมุมขวาบน
  3. กดเลือกคำว่า แผนที่ออฟไลน์
  4. กดเลือก สถานที่ที่บันทึกไว้ เช่น จังหวัดภูเก็ต หรือสถานที่ที่เฉพาะเจาะจง เช่น แหลมพรหมเทพ
  5. กดใช้งานสถานที่บันทึกไว้ และเริ่มเดินทาง

ในส่วนของการใช้งาน Google Maps Offline จะคล้ายกับการใช้งาน Google Maps Online แต่จะมีข้อจำกัดในการใช้งาน คือ ในการดาวน์โหลด Google Maps Offline จะต้องโหลดกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตเท่านั้น ข้อจำกัดการใช้งาน เรื่องของพื้นที่ จะสามารถใช้งานได้ในเฉพาะพื้นที่ที่เราบันทึกไว้เท่านั้น เช่น บันทึกพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต ก็จะสามารถใช้งานได้เฉพาะในพื้นที่ภูเก็ตเท่านั้น ข้อจำกัดของข้อมูลการจราจรที่จะไม่มีการอัปเดตอย่างเรียลไทม์ ข้อมูลการเดินทางที่มีเฉพาะการเดินทางโดยรถยนต์ รวมถึงการคำนวณระยะเวลาในการเดินทาง ที่ไม่ใช่การคำนวณเวลาการเดินทางจากการจราจรในปัจจุบัน

Google Maps Offline เหมาะกับใคร

การใช้งาน Google Maps Offline เหมาะกับผู้ที่อาศัยหรือเดินทางไปในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณแต่ไม่ชำนาญทาง หรือผู้มีอายุ ที่ไม่มีทักษะในการใช้ Google Maps ออนไลน์ เพื่อให้การเดินทางของเราสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงใช้งานได้ต่อเนื่องแม้ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต เราก็สามารถโหลด Google Maps Offline ไว้และกำหนดเส้นทางและปลายทางไว้เพื่อใช้งานได้

สรุป

Google Maps แบบ Offline คือ การใช้งานแผนที่การเดินทางแบบออฟไลน์ โดยการดาวน์โหลดแผนที่และจุดหมายที่ต้องการไปไว้ล่วงหน้า แม้ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ตก็ยังสามารถใช้งานได้ ซึ่งจะต่างจาก Google Maps ออนไลน์ ที่จะต้องใช้งานกับสัญญาณอินเทอร์เน็ตเท่านั้น และใน Google Maps Offline ก็มีประโยชน์อย่างมากในการใช้งาน สำหรับผู้คนที่ไม่ชำนาญเส้น เพราะในบางครั้งที่เราเดินทาง ก็อาจจะเดินไปทางยังที่ที่ไม่มีสัญญาณ หรืออยู่ท่ามกลางผู้คนแออัด ทำให้สัญญาณขาดหาย จนไม่สามารถใช้งานแผนที่ได้ รวมถึงผู้สูงอายุ ที่ไม่มีทักษะการใช้งาน Google Maps ออนไลน์ ก็จะเป็นตัวช่วยในการเดินทางให้สะดวกขึ้นได้ 

ดังนั้น การดาวน์โหลดแผนที่ล่วงหน้าจึงเป็นสิ่งที่ดี ที่นอกจากจะทำให้การเดินทางราบรื่นแล้ว ก็ยังเดินทางไปยังจุดหมายที่เราตั้งใจไว้ได้อย่างแน่นอน

เตรียมตัวให้พร้อม check list ให้ดี ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

เตรียมตัวก่อนเดินทางต่างประเทศ

การเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปท่องเที่ยวหรือทำธุระก็ตาม ทุกคนจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ใบรับรองต่างๆ และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการไปพักในต่างประเทศ ซึ่งในบทความนี้ได้ลิสต์ทุกอย่างที่ควรเตรียมให้พร้อมก่อนการเดินทางไว้แล้ว เพื่อให้ทริปเดินทางไปยังต่างประเทศของทุกคนราบรื่นไม่ติดขัด หากพร้อมแล้วสามารถเช็กลิสต์ได้ตามนี้เลย

vaccine passport

เอกสารสำคัญ

แม้จะสิ้นสุดภาวะระบาดของโรค COVID-19 แล้ว แต่การเดินทางไปต่างประเทศบางประเทศ อาจจะต้องเตรียมตัวแสดงเอกสารใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ COVID-19 ที่นอกเหนือจากเอกสารปกติด้วย เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ เอกสารสำคัญๆ ได้แก่

Vaccine Passport

การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ต้องศึกษาว่าประเทศปลายทางนั้น จำเป็นต้องแสดงหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิค-19 หรือเรียกสั้นๆ ว่า “Vaccine Passport” หรือไม่ ซึ่งการขอ Vaccine Passport จะต้องเตรียมทั้งเอกสารตัวจริงและสำเนาให้ครบก่อน ได้แก่ เอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง และค่าธรรมเนียมการออกหนังสือรับรองฯ 50 บาท โดยมีทั้งแบบรูปเล่ม และแบบดิจิทัล สามารถยื่นขอที่หน่วยงานสาธารณสุข หรือจะยื่นขอผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ก็ได้ทั้งสองช่องทางเลย

ใบรับรองแพทย์ Fit to Fly

ใบรับรองแพทย์ Fit to Fly (Fit to Fly Health Certificate) เป็นเอกสารทางการแพทย์อีกหนึ่งประเภทที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เป็นการแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิค-19 ภายในระยะเวลา 36-72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ เงื่อนไขเรื่องของระยะเวลานั้น ขึ้นอยู่กับสายการบินและเกณฑ์ของประเทศปลายทาง

passport

หนังสือเดินทางหรือ Passport

หนังสือเดินทาง หรือ Passport เป็นเอกสารชิ้นแรกที่ต้องมีการเตรียมตัวเมื่อจะไปต่างประเทศ และเป็นเอกสารสำคัญที่สุดที่ต้องติดตัวไว้ตลอดระยะเวลาที่เดินทางหรืออยู่ในต่างประเทศ เพราะ Passport เปรียบเสมือนเอกสารที่แสดงตัวตนและสถานภาพของบุคคลนั้นๆ การเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศจะต้องตรวจสอบวันหมดอายุ และสภาพความเสียหายของเล่ม Passport ด้วยทุกครั้ง 

ตั๋วเครื่องบิน

ก่อนการเดินทางไปต่างประเทศจะต้องเช็กตั๋วเครื่องบินให้พร้อมเสมอ เบื้องต้น คือ การตรวจสอบเวลาเช็กอินและเคาท์เตอร์เช็กอินที่เป็นข้อมูลล่าสุด เพราะในบางครั้งสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนในช่วงเวลากระชั้นชิด สามารถตรวจสอบในเว็บไซต์หรือตรวจสอบ ณ สนามบินได้เลย แต่ว่าผู้เดินทางต้องเตรียมเอกสารสำหรับการเช็กอินให้พร้อม 

การเช็กอิน หากไม่มีสัมภาระที่ต้องโหลดสามารถเช็คอินล่วงหน้าในเว็บไซต์ได้ แต่หากมีสัมภาระก็จะต้องนำไปโหลดที่เคาท์เตอร์ก่อน ดังนั้น ผู้เดินทางจึงควรเตรียมตัวเผื่อเวลาสำหรับการทำธุรกรรมต่างๆ เหล่านี้ไว้ล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ

เอกสารจองเดินทาง

เอกสารจองที่พัก

การเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ควรจองที่พักไปก่อนล่วงหน้า ตามระยะเวลาที่พักในต่างประเทศ และเตรียมเอกสารจองที่พักไว้ด้วยตอนเดินทาง เพื่อเป็นสิ่งที่ใช้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ว่าเป็นการเข้าประเทศไปอย่างถูกต้องถูกกฎหมาย มีที่พักที่แน่นอนในประเทศนั้นๆ 

ประกันการเดินทาง

ประกันการเดินทางเป็นสิ่งที่บางคนอาจจะละเลยไปหรือมองว่าไม่จำเป็น ในการเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่สนใจที่จะทำประกันการเดินทาง แต่การทำประกันการเดินทางไปต่างประเทศนั้นมีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นสิ่งที่คุ้มครองผู้เดินทางเมื่อมีเหตุไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ กระเป๋าเดินทางล่าช้าสูญหาย ไฟลต์บินล่าช้า หรือในการยื่นขอวีซ่าบางประเทศจำเป็นต้องทำประกันการเดินทางด้วย เป็นต้น 

sim card

สิ่งอำนวยความสะดวก

การเตรียมตัวไปต่างประเทศ จะต้องเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกไปให้พร้อม เพราะจะทำให้การดำรงชีวิตในต่างประเทศง่ายขึ้นมาก ตัวช่วยอำนวยความสะดวกจะประกอบไปด้วย

ซิมเพื่อใช้งานต่างประเทศ

ปัจจุบันเครือข่ายโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมโยงกันระหว่างประเทศได้สะดวกขึ้น การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปต่างประเทศควรจะเตรียมเรื่องของการใช้งานเครือข่ายการสื่อสารระหว่างการเดินทางด้วย ซึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยเองมีหลายบริษัทที่รองรับการใช้งานซิมในต่างประเทศ หรือในบางกรณีไม่ต้องเปลี่ยนซิม สามารถใช้เบอร์เดิมในต่างประเทศได้เลย เพียงแค่สมัครแพคเกจสำหรับเปิดใช้งานในต่างประเทศเท่านั้น 

translate

แอปแปลภาษา

ควรเตรียมโหลดตัวช่วยที่ดีนี้ไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวที่ราบรื่น สามารถใช้แอปแปลภาษาช่วยในการสื่อสารกับคนท้องถิ่น โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้เดินทางและคนท้องถิ่นภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง หรือกรณีที่การพูดภาษาในแต่ละสำเนียงที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้การสื่อสารผิดพลาดได้ ดังนั้นการเตรียมโหลดแอปแปลภาษาไว้จะเป็นสิ่งที่ช่วยนักเดินทางได้เป็นอย่างดี

ที่ชาร์จแบตสำรอง

การเตรียมตัวไปต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่ห้ามลืมเลยคือที่ชาร์จแบตสำรอง เพราะจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เป็นปัจจัยที่ห้าเลยก็ว่าได้ ข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ การค้นหาข้อมูลสถานที่ต่างๆ การถ่ายรูป การเล่นโซเซียล ดังนั้นควรเตรียมที่ชาร์จแบตสำรองไปด้วยทุกครั้ง เพื่อจะได้ใช้โทรศัพท์ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเวลาฉุกเฉิน แต่การพกที่ชาร์ตแบตสำรองนั้น ต้องศึกษากฎของสายการบินต่างๆ ด้วย ว่าจะสามารถพกที่ชาร์จแบตสำรองประเภทไหนขึ้นเครื่องบินได้บ้าง

หัวแปลง

ที่แปลงหัวปลั๊ก

แต่ละประเทศนั้นจะใช้ปลั๊กแตกต่างกัน รวมถึงกระแสไฟก็ยังไม่เท่ากันด้วย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ได้รับความเสียหาย เช่น การเสียบสายชาร์ตโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป ไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผมต่างๆ จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการเตรียมที่แปลงหัวปลั๊กติดตัวไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเสียบอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ใดๆ ได้เลย อีกทั้งการไปหาซื้อตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างประเทศนั้นอาจจะไม่มีจำหน่ายหรือมีจำหน่ายในราคาแพงก็ได้ 

บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต

การเตรียมตัวเกี่ยวกับการเงินก่อนเดินทางไปต่างประเทศนั้น นอกจากควรเตรียมเงินสดไปตามความเหมาะสมแล้ว ยังควรเตรียมบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตติดตัวไปด้วย เพราะการเดินทางไปต่างประเทศ มักมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่สามารถใช้เงินสดได้หรือเงินสดไม่พอจ่าย การพกบัตรเครดิตบัตรเดบิตต่างๆ ไปด้วย จะเป็นตัวช่วยในกรณีฉุกเฉินได้

ยาประจำตัว

สิ่งของจำเป็น

แต่ละคนมีสิ่งของที่จำเป็นสำหรับร่างกายไม่เหมือนกัน ซึ่งการไปต่างประเทศจะต้องเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อมที่สุด เพราะบางสิ่งบางอย่างเป็นความจำเป็นเฉพาะตัว จึงต้องเตรียมไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

ยาประจำตัว

การเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงยาที่ควรจะพกไปด้วย โดยทั่วไปสามารถพกไปได้หากเป็นยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาพาราเซตามอล ยาลดไข้ แก้ปวด ยาแก้แพ้ ยาลดกรด แก้ท้องอืดท้องเสีย เป็นต้น แต่หากเป็นยาเฉพาะโรคบางชนิดที่เป็นยาห้ามเข้าประเทศนั้นๆ จะต้องกรอกแบบฟอร์มขออนุญาตการนำยาเข้าประเทศ และจะต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุถึงโรคประจำตัวและยาที่จำเป็นต้องใช้ด้วย

ชุดปฐมพยาบาล

ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญที่ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บ จะได้สามารถหยิบมาใช้ได้ทันที ซึ่งหากสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นทั้งตนเองและเพื่อนร่วมเดินทางได้โดยไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล ก็จะทำให้การเดินทางราบรื่นมากขึ้น

covid 19 kit

COVID-19 Kit

ทุกการเดินทางไปต่างประเทศควรเตรียมชุด COVID-19 Kit ติดตัวไปด้วย โดยมีอุปกรณ์สำคัญ เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สเปย์แอลกอฮอล์ เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดและป้องกันเชื้อโรค เนื่องจากไวรัสโควิดยังสามารถติดต่อกันได้ง่ายอยู่ในปัจจุบัน

สิ่งของส่วนตัว

สิ่งของส่วนตัว

สิ่งของส่วนตัวที่ต้องมีการเตรียมให้ครบก่อนการเดินทาง ประเภทเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัวต่างๆ นั้น ควรเตรียมให้เรียบร้อย ครบจำนวนวันที่ต้องเดินทางไปและอาศัยในต่างประเทศ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลเมื่อไปเที่ยวหรือทำธุระ

เสื้อผ้า

การเตรียมเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศนั้น ควรจะเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับฤดูกาลของประเทศนั้นๆ พร้อมทั้งคำนึงถึงจุดประสงค์ของการเดินทางด้วย เช่น การเตรียมเสื้อผ้าสำหรับการไปเที่ยวย่อมแตกต่างจากการเตรียมเสื้อผ้าสำหรับการไปทำธุระ เป็นต้น อีกทั้งการเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมยังช่วยให้สามารถจัดการน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางได้ด้วย

ถุงมือและถุงเท้า

ในกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศในช่วงฤดูหนาวนั้น นอกจากเสื้อผ้า การแต่งตัวที่เหมาะสมแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมถุงมือและถุงเท้าด้วย ซึ่งจะต้องเป็นถุงมือถุงเท้าที่ใส่ในฤดูหนาวโดยเฉพาะ เพราะจะมีเนื้อผ้าที่หนา กันลมหนาวได้ ที่แตกต่างจากวัสดุทั่วไป 

รองเท้า

รองเท้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการแต่งตัว การเตรียมรองเท้าไปเที่ยวต่างประเทศจะต้องพิจารณาถึงสภาพอากาศและภูมิประเทศของประเทศนั้นๆ ด้วย เช่น รองเท้าที่ใส่สำหรับเดินบนหิมะ รองเท้าสำหรับประเทศเขตร้อน และรองเท้าที่เหมาะกับการเดินในพื้นที่ที่เป็นเนินสูงต่ำ เป็นต้น ซึ่งต้องเตรียมรองเท้าให้เหมาะสม โดยที่ตัวผู้สวมใส่ต้องรู้สึกสบายเท้า เพราะจะส่งผลถึงสุขภาพในด้านอื่นๆ ด้วย

ของใช้ประจำวัน

การเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง ควรเตรียมของใช้ส่วนตัวที่ต้องในชีวิตประจำวันสำหรับทำความสะอาดไปด้วย เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า เครื่องสำอางค์ ผ้าเช็ดตัว ซึ่งควรแบ่งเป็นเซ็ตเล็กสำหรับถือขึ้นเครื่องบินอีกหนึ่งเซ็ต เพื่อที่จะได้ใช้ทำความสะอาดร่างกายระหว่างทาง ในกรณีที่เดินทางระยะเวลายาวนานหรือต้องเปลี่ยนเครื่อง (Transit) ที่สนามบินใดสนามบินหนึ่ง โดยการพกพาสิ่งของเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามกฎของการบิน คือ การพกของเหลวชิ้นเล็กไม่เกินชิ้นละ 100 มิลลิลิตร

ข้อมูลต่างประเทศ

ข้อมูลของประเทศนั้น

ก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวหาข้อมูลที่จำเป็นต่างๆ ของประเทศปลายทางด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ข้อห้ามปฏิบัติ วัฒนธรรม สภาพอากาศ และระบบขนส่งมวลชน เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยดี ดังนี้

ข้อห้ามของประเทศนั้น และวัฒนธรรมของประเทศปลายทาง

แต่ละประเทศมีวัฒนธรรม ธรรมเนียมปฏิบัติที่แตกต่างกัน การออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศคือการไปค้นพบโลกในอีกด้านหนึ่ง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศที่จะเดินทางไป โดยเฉพาะข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งบางประเด็นจะต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ หากเป็นประเด็นอ่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อและศาสนา 

สภาพอากาศ

สภาพอากาศเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละประเทศ ดังนั้นก่อนจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศจึงต้องศึกษาเรื่องของสภาพอากาศในช่วงเวลานั้นๆ ที่จะเดินทางไปถึง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเตรียมตัวในเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น การเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสม การเตรียมยาป้องกันไข้หวัด การเตรียมอุปกรณ์ที่สำคัญ การเตรียมแผนการเดินทาง และการเตรียมสภาพร่างกายให้มีความพร้อมที่จะเผชิญกับอากาศที่ไม่คุ้นเคยในต่างประเทศ

ข้อมูลระบบขนส่งมวลชน

เพื่อให้การเดินทางไปต่างประเทศมีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา ควรเตรียมตัวไว้ก่อน โดยการศึกษาข้อมูลระบบขนส่งมวลชนของประเทศนั้นๆ ให้ดีเสียก่อน จะช่วยให้วางแผนการเดินทางได้คล่องแคล่วยิ่งขึ้น เช่น ตารางเวลารถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถบัส เป็นต้น การเตรียมข้อมูลในเรื่องของระบบขนส่งมวลชนเป็นสิ่งที่ควรทำก่อนจะเดินทางไปถึงประเทศปลายทาง เพราะการท่องเที่ยวจะได้ไม่เสียเวลาไปกับการหลงทางหรือการหาเส้นทาง

อาหาร

ก่อนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ควรเตรียมตัวหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารประจำชาติ หรืออาหารประจำถิ่นต่างๆ ที่ควรไปจะลองรับประทานดู เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศอื่นๆ ด้วย การวางแผนเกี่ยวกับอาหารการกินนั้นก็จะกลายเป็นอีกเรื่องสนุกของการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเลยทีเดียว  

สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเดินทางไปต่างประเทศให้พร้อมเสมอ ได้แก่ การเตรียมเอกสารสำคัญ การเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก สิ่งของจำเป็น สิ่งของส่วนตัว ตลอดจนข้อมูลของประเทศปลายทาง ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งสิ่ง คือ การบริหารจัดการเวลาและความคล่องตัวในการเดินทาง ซึ่ง Airportels เป็นบริการที่ตอบโจทย์ของนักเดินทางในเรื่องการรับฝากกระเป๋าสัมภาระทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ลดความกังวลใจในการต้องดูแลสัมภาระระหว่างรอในสนามบิน เพียงนำไปฝากไว้ นักเดินทางก็สามารถจัดการธุระในส่วนอื่นๆ ได้อย่างสบายใจก่อนการเช็กอิน และยังมีความปลอดภัย รวดเร็ว ใช้งานง่ายอีกด้วย

รวม 13 เว็บจองโรงแรม และเว็บจองที่พักราคาถูก อัปเดตล่าสุดปี 2023

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจท่องเที่ยวซบเซาลงไปเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 แต่ในปี 2023 นี้ โลกกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ ธุรกิจท่องเที่ยวจึงเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ด้วยความที่ไม่ได้ท่องเที่ยวมานาน หลายๆ คนจึงติดปัญหาตรงที่ไม่รู้ว่าจะจองที่พักโรงแรมแบบไหนให้ได้ราคาถูกหรือคุ้มค่าที่สุด บทความนี้จึงพามาดูว่าจองที่พักเว็บไหนถูก โดยรวบรวมมาทั้ง 13 เว็บไซต์จองโรงแรมและที่พักราคาถูกมาให้เลือกกันตามความต้องการ พร้อมทั้งบอกข้อดี-ข้อเสียของแต่ละเว็บไซต์ จะมีเว็บไซต์ไหนบ้าง มาดูกันเลย

1. Agoda

มาเริ่มต้นกันที่เว็บจองโรงแรมยอดนิยมในประเทศไทยอย่าง Agoda ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ครบครันไปด้วยห้องพักทั้งจากโรงแรม และที่พักรายย่อยอีกมากมาย ในตอนแรก Agoda นั้นเน้นการจองห้องพักในแถบเอเชียเป็นหลัก แต่ต่อมาก็ได้ขยายการจองไปทั่วโลก โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจของเว็บไซต์นี้ คือ มีโปรโมชันราคาพิเศษและดีลต่างๆ ให้เลือกมากมาย นอกจากนั้นยังมีบริการค้นหาเที่ยวบิน รถโดยสาร รถไฟ เช่ารถ จองรถรับส่งสนามบิน รวมไปถึงจองกิจกรรมต่างๆ และยังมีฟีเจอร์จองที่พักพร้อมเที่ยวบินอีกด้วย ช่วยให้นักท่องเที่ยวทั้งมือใหม่และมือโปรสามารถวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย
  • มีโปรโมชันและดีลต่างๆ มากมาย
  • มีส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิก
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นภาษาไทย

ข้อเสีย

  • ราคายังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม ทำให้ดูราคาถูกกว่าปกติ
  • ผลลัพธ์การค้นหายังไม่ดีเท่าที่ควรในแถบอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือแถบเอเชีย

2. Airbnb

Airbnb คือเว็บจองที่พักที่จะเปิดประสบการณ์ที่พักแบบใหม่ โดยปกติแล้วการจองที่พักมักจะเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ต ที่สร้างขึ้นเพื่อให้มีคนเข้าพักโดยเฉพาะ แต่ที่ Airbnb สามารถจองที่พักที่เป็นบ้านส่วนบุคคลหรือคอนโดที่เจ้าของปล่อยให้เข้าพักได้ ให้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่นั้นๆ ทำให้ที่พักในเว็บไซต์นี้มีรูปแบบและสไตล์การตกแต่งที่หลากหลาย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบบรรยากาศแบบคนท้องถิ่น ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปพักที่บ้านญาติหรือบ้านเพื่อนนั่นเอง

ข้อดี

  • ได้ราคาที่ถูกกว่าการจองโรงแรม
  • ที่พักที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า เช่น มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ฯลฯ
  • มีฟีเจอร์ที่ให้เลือกความเป็นส่วนตัว เช่น เลือกที่พักแบบมีห้องน้ำส่วนตัวหรือห้องน้ำรวมได้
  • ได้พูดคุยกับโฮสต์และได้รู้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับท้องถิ่นที่เข้าพัก
  • ที่พักที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนพักบ้านคนรู้จัก

ข้อเสีย

  • ตำแหน่งที่พักระบุเป็นรัศมี ทำให้ไม่ค่อยชัดเจน
  • รูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักมีค่อนข้างน้อย
  • โฮสต์สามารถปฏิเสธการจองได้
  • ต้องพูดคุยกับโฮสต์ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการสื่อสาร

3. Booking.com

มาต่อกันที่เว็บไซต์จองที่พักเจ้าใหญ่ที่หลายๆ คนคุ้นตา นั่นก็คือ Booking.com ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกันกับบริษัท Agoda ทำให้มีความคล้ายคลึงกันในหลายๆ อย่าง โดยสามารถจองที่พักที่เป็นโรงแรม บ้านพัก อพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ได้ทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงสามารถจองเที่ยวบิน รถไฟ รถโดยสาร เช่ารถ และยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ Booking.com แตกต่างจาก Agoda คือ เน้นการจองที่พักในแถบยุโรปเป็นหลัก ทำให้เว็บไซต์นี้มีข้อเสนอที่พักในแถบยุโรปที่มีราคาถูกมากกว่านั่นเอง นอกจากนั้นยังใช้งานง่าย สะดวกสบาย จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ

ข้อดี

  • สามารถจองที่พักได้หลายรูปแบบ ทั้งโรงแรม อพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ฯลฯ
  • มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • มีรูปภาพและรายละเอียดที่พักอย่างชัดเจน
  • มีบริการข้อมูลการจองมากถึง 43 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย
  • สามารถยกเลิกการจองได้ฟรี

ข้อเสีย

  • หากจองที่พักในแถบเอเชียหรือซื้อแพ็กเกจเหมารวม อาจมีราคาสูง
  • ด้วยความที่ลูกค้าสามารถยกเลิกการจองห้องพักได้ฟรี ทำให้ที่พักอาจปฏิเสธการจองผ่าน Booking.com และเลือกสำรองที่พักให้กับเว็บไซต์อื่นก่อน

4. Expedia

Expedia ก็เป็นอีกหนึ่งเว็บจองโรงแรมที่เรียกได้ว่าครบครันทุกการเดินทางเลยก็ว่าได้ แม้ว่า Expedia จะมีชื่อเสียงในเรื่องการจองเที่ยวบิน แต่เว็บไซต์นี้ยังให้บริการทั้งจองเที่ยวบินพร้อมที่พัก โดยที่พักก็จะมีตั้งแต่ที่พักเล็กๆ ไปจนถึงโรงแรมใหญ่ๆ นอกจากนั้นยังมีบริการเช่ารถ ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว หรือจองกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย ทำให้ Expedia เป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวทุกสไตล์ได้วางแผนการเดินทางตามที่ต้องการได้

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์การจองที่หลากหลาย
  • มีตัวเลือกที่พักหลากหลาย ทั้งที่พักเล็กๆ อพาร์ตเมนต์ โรงแรม ฯลฯ
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ค่อนข้างดี
  • มีการแสดงราคาที่พักที่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว
  • สามารถยกเลิกที่พักได้ฟรี

ข้อเสีย

  • ราคาที่พักอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย หรือบางครั้งอาจมีราคาสูงกว่าเจ้าอื่น

5. Google.com/travel/hotels

อย่างที่หลายๆ คนเคยได้ยินกันว่า “นึกอะไรไม่ออก บอก Google” และแน่นอนว่า Google ก็สามารถช่วยหาที่พักดีๆ ราคาถูกได้ด้วยเช่นกัน เข้าไปที่ Google.com/travel/hotels จะพบกับผลการค้นหาโรงแรมและที่พักในราคาสุดคุ้มมากมายที่ทาง Google คัดมาให้แล้ว อีกทั้งยังสามารถค้นหาเที่ยวบิน กิจกรรมต่างๆ และบอกจุดท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียงกับที่พักอีกด้วย

ข้อดี

  • ค้นหาที่พักได้อย่างรวดเร็ว
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย
  • Google คำนวณให้แล้วว่าจองที่พักในเว็บไซต์ใดให้ราคาที่ดีที่สุด
  • มีตัวเลือกให้ดูราคาที่พักพร้อมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์การค้นหาที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น
  • Google จะแสดงผลลัพธ์ของพาร์ทเนอร์ที่ซื้อโฆษณาก่อนเสมอ อาจทำให้ไม่พบที่พักที่ตรงตามความต้องการ

6. HotelsCombined.com

เว็บจองโรงแรมสัญชาติออสเตรเลียอย่าง HotelsCombined.com ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นเว็บที่สามารถเปรียบเทียบราคากับเว็บจองที่พักของเจ้าอื่นได้ พร้อมทั้งมีเครื่องมือติดตามราคาให้คุณไม่พลาดการจองที่พักในราคาที่ดีที่สุด นอกจากนั้นยังมีบริการจองตั๋วเครื่องบินและรถเช่า อีกทั้งในส่วนของหน้าเว็บไซต์ดูสะอาดสะอ้าน มีตัวกรองการค้นหาที่ละเอียด ทำให้ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย

ข้อดี

  • มีเครื่องมือติดตามและแจ้งเตือนราคา
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดีเยี่ยม
  • มีตัวเลือกดูราคาแบบมีหรือไม่มีภาษี

ข้อเสีย

  • ตัวเลือกที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น
  • บางครั้งราคาก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อกดซื้อจริงกับผู้ขาย

7. Hotels.com

Hotels.com เป็นเว็บจองที่พักที่มีจุดประสงค์เพื่อจองที่พักโดยเฉพาะ ไม่มีการบริการอย่างอื่น ด้วยความที่เป็นเว็บจองที่พักอย่างเดียว เว็บจึงใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีตัวเลือกที่พักค่อนข้างหลากหลาย ทั้งโฮสเทล รีสอร์ต อพาร์ตเมนต์ โรงแรม ฯลฯ อีกทั้งยังมีรายละเอียดของที่พักอย่างชัดเจน ดังนั้นใครที่อยากจะจองที่พักอย่างเดียว เว็บไซต์นี้ตอบโจทย์ทุกความต้องการแน่นอน

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
  • ค้นหาได้เร็วและแสดงตัวเลือกที่พักได้อย่างหลากหลาย
  • มีตัวกรองการค้นหาและการเรียงลำดับที่ดี
  • มีรายละเอียดที่พักชัดเจน

ข้อเสีย

  • สามารถจองที่พักได้เพียงอย่างเดียว ไม่มีบริการเสริม
  • ราคาที่พักอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย

8. Kayak

Kayak คือเว็บจองโรงแรมที่ให้บริการค้นหารายละเอียดการเดินทาง ทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า รวมไปถึงให้บริการข้อมูลแพ็กเกจเที่ยวบิน+ที่พัก โดยมุ่งเน้นเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เปรียบเทียบข้อมูลและวางแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจ ซึ่งในหน้าเว็บไซต์นั้นใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีตัวกรองการค้นหาที่หลากหลาย ใครที่ต้องการวางแผนการเดินทางหรืออยากค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับที่พักที่ต้องการ ก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมที่เว็บไซต์นี้ได้เลย

ข้อดี

  • มีตัวเลือกแสดงราคาแบบรวมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • มีเครื่องมือติดตามและแจ้งเตือนราคา
  • สามารถค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ที่พักได้โดยตรง

ข้อเสีย

  • ราคาที่เห็นในหน้าเว็บไซต์อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดเสมอไป
  • รายการที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น

9. Klook

Klook เป็นอีกหนึ่งเว็บจองที่พักสำหรับวางแผนการเดินทางที่น่าสนใจ เพราะมีบริการทั้งจองที่พัก เที่ยวบิน รถโดยสาร รวมไปถึงจองกิจกรรม บัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือจะจองเป็นแพ็กเกจทัวร์เลยก็ทำได้ เรียกได้ว่าเว็บเดียวครบ จบทุกการท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้นคือสามารถใช้งานได้ครอบคลุมทั่วโลก ดังนั้นไม่ว่าจะมีจุดหมายปลายทางที่ใด Klook ก็สามารถให้บริการได้แน่นอน

ข้อดี

  • มีการบริการที่หลากหลาย ทั้งเรื่องที่พัก การเดินทาง กิจกรรมต่างๆ ฯลฯ
  • สามารถรับเครดิตเพื่อเป็นส่วนลดในการเดินทางครั้งถัดไป
  • มีโปรโมชันและดีลส่วนลดมากมาย
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย

ข้อเสีย

  • บางครั้งไม่สามารถใช้ voucher ที่ได้รับมาได้
  • การติดต่อกับฝ่ายบริการลูกค้าค่อนข้างลำบาก เนื่องจากใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

10. Traveloka

Traveloka เป็นเว็บจองที่พักที่ครบครันทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ไม่ว่าจะจองที่พัก ซึ่งมีให้เลือกทุกระดับ ตั้งแต่ที่พักเล็กๆ ไปจนถึงโรงแรมหรู หรือจะค้นหารถเช่า เที่ยวบิน รถรับส่งสนามบิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางก็สามารถทำได้ อีกทั้งยังมีบริการจองกิจกรรม ร้านอาหาร สปาเพื่อสุขภาพ หรือแม้กระทั่งคลาสเรียนอีกด้วย โดย Traveloka จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดท้องถิ่น โดยเฉพาะในอินโดนีเซียและไทย ทำให้เป็นเว็บไซต์ที่เข้าใจในความต้องการของนักเดินทางชาวไทยนั่นเอง

ข้อดี

  • มีการบริการท่องเที่ยวที่ครบครัน ทั้งจองที่พัก ตั๋วโดยสาร บัตรเข้างาน ฯลฯ
  • มีส่วนลดและโปรโมชันค่อนข้างเยอะ
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นภาษาไทย

ข้อเสีย

  • อาจไม่ได้ราคาการจองที่ถูกที่สุด 
  • หากยกเลิกการจอง อาจต้องใช้เวลานานในการคืนเงิน

11. Trip.com

มาถึงเว็บที่เพิ่งเปิดให้บริการด้านท่องเที่ยวในไทยอย่าง Trip.com มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายและชัดเจน สามารถค้นหาที่พักพร้อมเปรียบเทียบราคาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีบริการที่ครบครัน ทั้งจองโรงแรมที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ รถเช่า หรือจะค้นหาทัวร์ เที่ยวบิน+โรงแรม ก็ทำได้เป็นอย่างดี และมีฟีเจอร์การค้นหาสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนใกล้บ้าน ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลหรือลาหยุดงานให้ได้อีกด้วย

ข้อดี

  • ให้บริการแบบครบครันทุกการท่องเที่ยวและพักผ่อน
  • มีฟีเจอร์ที่ช่วยแก้ไขแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น
  • มีแจ้งเตือนราคาพิเศษ
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และชัดเจน

ข้อเสีย

  • ฝ่ายบริการลูกค้าค่อนข้างดำเนินการช้า และไม่ค่อยยืดหยุ่น
  • เพิ่งเข้าไทยได้ไม่นาน อาจทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ
  • การให้บริการในแถบยุโรปยังค่อนข้างน้อย

12. Tripadvisor.com

เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะคุ้นหูกับเว็บจองโรงแรม Tripadvisor.com กันมาบ้าง เพราะเว็บนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการเขียนบล็อกและมีรีวิวของนักท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลกให้ได้อ่านกัน ใครที่อยากจองที่พักพร้อมกับอ่านรีวิวที่น่าเชื่อถือและมาจากประสบการณ์จริง ก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์นี้ นอกจากนั้น Tripadvisor ยังมีฟีเจอร์เปรียบเทียบราคาที่พัก ซึ่งจัดวางอย่างเป็นระเบียบสวยงาม ทำให้ผู้ใช้สามารถเห็นและเปรียบเทียบได้อย่างรวดเร็วด้วย

ข้อดี

  • มีรีวิวมากมายที่มาจากประสบการณ์จริงและมีประโยชน์ต่อการเดินทาง
  • เว็บไซต์ออกแบบมาสวยงามและใช้งานง่าย
  • เก่งในเรื่องการค้นหาห้องพักที่มีราคาถูกที่สุด

ข้อเสีย

  • ตัวกรองการค้นหายังไม่ค่อยเสถียร
  • บางรีวิวอาจเป็นรีวิวที่หลอกลวงหรือไม่น่าเชื่อถือ

13. Trivago

มาถึงเว็บไซต์สุดท้ายที่เป็นเว็บจองที่พักเจ้าใหญ่ที่สุดอย่าง Trivago ซึ่งรวบรวมราคาที่พักทั้งในและต่างประเทศมากถึง 5 ล้านแห่งใน 190 ประเทศทั่วโลก โดยจุดเด่นของเว็บไซต์คือสามารถเปรียบเทียบราคาที่พักจากหลายแหล่งข้อมูลได้ โดยฐานข้อมูลของ Trivago ก็มาจากเว็บไซต์ชั้นนำมากมาย ทั้ง Agoda, Booking.com, Expedia และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงข้อมูลจากเว็บไซต์ของที่พักโดยตรงอีกด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นภาพรวมราคาที่พักได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบที่อยากวางแผนการเดินทางอย่างรวดเร็ว

ข้อดี

  • เว็บไซต์ดูเรียบง่ายและสะอาดตา พร้อมออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย
  • เปรียบเทียบราคาที่พักจากเว็บไซต์อื่นๆ ได้
  • สามารถค้นหาราคาจากเว็บไซต์ของที่พักได้โดยตรง
  • รายละเอียดที่พักชัดเจน

ข้อเสีย

  • ตัวเลือกที่พักค่อนข้างน้อย
  • ราคาที่เห็นอาจไม่ใช่ราคาจริง เพราะยังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • แสดงผลลัพธ์เฉพาะที่พักที่ตรงตามเกณฑ์ที่เว็บไซต์กำหนด

สรุป

มาถึงตรงนี้ คงจะพอทราบกันแล้วว่าจองที่พักเว็บไหนถูกบ้าง ซึ่งปี 2023 นี้มีเว็บจองโรงแรมราคาถูกให้เลือกมากมาย โดยแต่ละเว็บไซต์ก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ดังนั้น หากเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง ก็จะได้ที่พักในราคาสุดคุ้มอย่างแน่นอน แต่หลังจากได้ที่พักราคาดีๆ แล้ว อย่าลืมเลือกใช้บริการขนส่งสัมภาระ ที่จะช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย สบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ อย่างที่ Airportels มีบริการขนส่งสัมภาระที่สะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดูแลสัมภาระให้ถึงที่พักอย่างปลอดภัยหายห่วง

รวบแอปฯที่ใช้ชีวิตยามป่วยเมื่อไปต่างประเทศ

อาการเจ็บป่วยล้วนเป็นสิ่งที่ไม่มีใครปรารถนาอยากจะให้เกิดขึ้น ยิ่งเป็นช่วงที่ไปเที่ยวแล้ว ถ้าเกิดป่วยขึ้นมาต้องทำให้ความสนุกลดลงเป็นแน่ หากใครไปเที่ยวโดยเฉพาะในต่างประเทศที่เป็นพื้นที่ไม่คุ้นเคย หรือไม่สะดวกเหมือนอยู่ในบ้านเรา การเตรียมยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ปวด แก้แพ้ แก้เมารถ ยาดม หรือติดตั้ง แอปช่วยชีวิต ไว้ในโทรศัพท์มือถือ ก็เป็นทางหนึ่งที่จะช่วยให้เราผ่านสภาวะความเจ็บป่วยแบบเบื้องต้นไปได้ โดยมีแอปพลิเคชันที่น่าสนใจ ดังนี้

online medical consultation,แอปช่วยชีวิต

1. DoctorMe

เป็นแอปที่รวมความรู้เกี่ยวกับโรค และอาการต่าง ๆ รวมถึงวิธีการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และยังมีรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้ยาทั้งแผนปัจจุบันและยาสมุนไพร โดยใช้งานได้ง่าย มีการแบ่งอาการบาดเจ็บเป็นส่วนต่าง ๆ หรือใส่อาการที่เกิดขึ้นในช่องค้นหาก็จะมีวิธีแก้ไขขึ้นมาให้อ่านได้อย่างสะดวก ในแอปยังมีฟังก์ชันสมุดบันทึกสุขภาพไว้ให้คนที่รักสุขภาพได้บันทึกติดตามสภาพร่างกายได้ทั้งครอบครัว

checking information,แอปช่วยชีวิต

2. YaAndYou

แอปที่รวบรวมชนิดและรายละเอียดของยา เพื่อให้มีการใช้ยาได้อย่างเหมาะสม โดยเป็นเนื้อหาในลักษณะทั่วไปไม่ได้เจาะจงสำหรับโรคใดเป็นการเฉพาะ หากผู้ป่วยที่มีโรคเฉพาะควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์หรือเภสัชกร แต่เป็นแอปที่ดีที่ทำให้เราสามารถหารายละเอียดของยาแต่ละชนิดได้อย่างง่ายดาย ยิ่งเป็นในต่างประเทศที่อาจจะสื่อสารกันลำบากน่าจะช่วยได้มากเลยทีเดียว

Frustrated sad female crying,แอปช่วยชีวิต

3. RDU รู้เรื่องยา

เป็นอีกแอปที่รวบรวมข้อมูลยาและความรู้ต่าง ๆ ด้านสุขภาพที่เราอาจพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน เช่น เครื่องสำอางนาโน ความผิดปกติทางจิต การสัก ยาหอม และอีกหลายหลายเรื่องที่จะเพิ่มเติมความรู้ให้กับเรา และยังรวบรวมข้อมูลของโรงพยาบาลและร้านยาในประเทศไทยไว้อย่างหลากหลาย และมีฟังก์ชันมากมายเพื่อให้การใช้ยาเป็นไปอย่างเหมาะสม ทั้งการหาชื่อและขนาดการใช้ยา การอ่าน QR code ที่อยู่บนฉลากยา รวมถึงบันทึกรายละเอียดการใช้ยา และวิดีโอสาระน่ารู้ที่จะให้คุณได้ทำความเข้าใจกับเรื่องสุขภาพได้อย่างง่ายดาย

pill medicine science,แอปช่วยชีวิต

4. HonestDocs คุณหมอมือถือ

แอปช่วยชีวิต นี้มีฟีเจอร์สำคัญ ๆ สำหรับคนรักสุขภาพ โดยมีฟังก์ชันให้ใช้งานมากมายทั้ง การค้นหาอาการของโรคและยา สอบถามปัญหาสุขภาพ โดยจะมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมาตอบแบบเบื้องต้น บันทึกประวัติและผลการตรวจสุขภาพ และมีโปรโมชันเด็ด ราคาโดนใจมากมาย เช่น ในด้านทันตกรรม กายภาพบำบัด และความงาม เป็นต้น นอกจากนี้ก็มีบทความสาระทางสุขภาพให้ได้หาความรู้แบบง่าย ๆ อีกด้วย

แอปช่วยชีวิต เป็นเครื่องมือที่ควรติดตั้งไว้ในเครื่องสมาร์ทโฟนตลอดเวลา ไม่ใช่เฉพาะตอนที่ไปเที่ยวต่างประเทศเท่านั้น เพราะในแต่ละแอปมีสาระน่ารู้มากมาย หากศึกษาก็จะได้ความรู้เพิ่มมากขึ้น เผื่อมีวันใดที่ต้องการใช้แอปเหล่านี้ จะสามารถใช้งานได้คล่องเพราะความคุ้นเคยกับอินเทอร์เฟซต่าง ๆ ในแอป

5 แอปฯ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณสะดวกขึ้น

เดี๋ยวนี้เวลาจะไปเที่ยวที่ไหน ๆ ในประเทศหรือต่างประเทศเป็นเรื่องทีสะดวกสบาย ทำให้คุณสามารถวางแผนการเดินทางและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกทริปได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมานั่งกังวลใจว่าทริปนี้จะเจอพายุฝนหรือพบปัญหาเรื่องแลกเงินระหว่างทาง เพราะเพียงโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น ด้วย 5 แอปช่วยในการเดินทาง ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การท่องเที่ยวสนุกสนานยิ่งขึ้น

Google Maps service,แอปช่วยในการเดินทาง

1. Google map

หนึ่งใน แอปช่วยในการเดินทาง ยอดนิยมของคนส่วนใหญ่ เพราะเป็นตัวช่วยกันหลงใช้ได้ทุกพื้นที่ทั่วโลก พร้อมทั้งยังหาพิกัดสถานที่ต่าง ๆ พร้อมวิธีการเดินทางที่เร็วที่สุดให้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นแอปที่เหมาะกับนักเดินทางที่สุด นอกจากนั้นยังใช้หาสถานที่ต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่เราอยู่ เช่น ร้านอาหาร โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมันได้อีกด้วย

Google translate

2. Google Translate

ปัญหาสำคัญของการท่องเที่ยวต่างประเทศคือ เรื่องภาษาและการสื่อสาร Google Translate เป็นอีก แอปช่วยในการเดินทาง ที่นักเดินทางทุกคนต้องมีในมือถือไว้ใช้แปลภาษาให้สื่อสารได้ง่ายขึ้น สำหรับสั่งอาหาร ถามทาง อ่านป้ายต่าง ๆ ด้วยความพิเศษที่สามารถแปลจากเสียงพูดได้เลย หรือเปิดกล้องถ่ายข้อความที่ต้องการแปล ก็สามารถแปลให้อัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ให้ยุ่งยาก

The Weather Channel mobile app,แอปช่วยในการเดินทาง

3. The Weather Channel

สภาพอากาศที่ไม่เป็นใจก็เป็นอุปสรรคกับการท่องเที่ยว การตรวจเช็คอากาศก่อนออกเดินทางจึงเป็นเรื่องห้ามพลาด The Weather Channel เป็นแอปพลิเคชั่นที่ช่วยเช็คสภาพอากาศ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง จะได้วางแผนกิจกรรมและการเดินทางได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้การออกทริปท่องเที่ยวง่ายยิ่งขึ้น

Skyscanner Flights app,แอปช่วยในการเดินทาง

4. Skyscanner

เป็นแอปพลิเคชั่นที่ช่วยค้นหาตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรมที่พักและรถเช่าขับ ในทุกสถานที่บนโลกที่คุณต้องการเดินทางไปท่องเที่ยว แบบคุณภาพที่ดีที่สุดแต่ในราคาที่สุดแสนประหยัดสุด ๆ จะทำให้เราสามารถวางแผนการเงินสำหรับค่าเดินทางและที่พักได้ชัดเจน อุ่นใจได้ว่ามีตั๋วเดินทางและที่พักแน่นอน ไม่ต้องติดต่อเองให้ยุ่งยากและที่สำคัญถูกกว่าดำเนินการเองเป็นไหน ๆ ถือว่าสบายกระเป๋าเที่ยวได้อย่างสุขใจแน่นอน

cryptocurrency and future technology concept,แอปช่วยในการเดินทาง

5. My Currency

แอปพลิเคชั่นที่ช่วยคำนวณอัตราเงินในต่างประเทศแบบอัปเดตได้ทุกเวลา สามารถคำนวณอัตราการแลกเปลี่ยนเงินจากสกุลเงินต่าง ๆ เป็นเงินบาทไทยได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใส่จำนวนเงินเข้าไป แอปฯ ก็จะแปลงค่าเงินตามอัตราแลกเปลี่ยนช่วงนั้นให้อัตโนมัติ ไม่ต้องคอยกดเครื่องคิดเลขให้วุ่นวาย ช่วยให้การการช็อปปิ้งสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ๆ ถ้ามีแอปช่วยในการเดินทาง ทั้ง 5 นี้ติดสมาร์ทโฟนไว้ ทุก ๆ การเดินทางจะมีประสิทธิภาพ สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายง่ายขึ้นอีกเยอะ