5 สถานที่ในโรงแรม ที่นักท่องเที่ยวกำลังมองหามากที่สุด 2024

ไม่ว่านักเดินทางจะเป็นใครก็ตาม ทุกคนย่อมต้องการห้องพักค้างคืนที่สะดวกสบาย และบริการดี ๆ จากพนักงานต้อนรับที่เอาใจใส่ เข้าใจในสิ่งที่ผู้มาเยือนต้องการ

มาตรฐานโรงแรม เป็นปัจจัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานของการบริการ มาตรฐานในการจัดหาสิ่งอำนวยความสะดวก มาตรฐานด้านความสะอาด คุณภาพของอาหาร และสุขอนามัยในครัว ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้สำคัญต่อการสนองความคาดหวังของผู้มาเยือนได้ครบทุกสิ่ง

นักเดินทางแต่ละคนมีเป้าหมายที่ต่างกันไป บางคนเดินทางเพื่อท่องเที่ยว พาครอบครัวไปพักผ่อน เดินทางกับคนรักเพื่อฮันนีมูน บางคนเดินทางเพื่อธุรกิจ ในทุก ๆ เป้าหมายของนักเดินทางเหล่านี้ย่อมมีสิ่งที่คาดหวังจะได้รับจากสถานที่พักที่เขาตัดสินใจเลือก

ดังนั้น นอกเหนือจากการจัดเตรียมห้องพักไว้รองรับผู้มาเยือนเพื่อให้นอนค้างคืนแบบหลับสบายแล้ว โรงแรม ควรมีการจัดสรรพื้นที่ไว้สำหรับนักเดินทางแต่ละกลุ่มที่มีเป้าหมายไม่เหมือนกัน เพื่อให้สามารถเข้าถึงความคาดหวังของกลุ่มเป้าหมายได้ครบทุกกลุ่ม บริการเสริมที่ควรมีเพิ่มเติมคืออะไรบ้าง

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

1. ห้องทำงาน 

พื้นที่สำหรับทำงานในโรงแรม

นักเดินทาง หรือแขกที่มาพักแรมค้างคืน อาจเป็นนักธุรกิจที่เวลาเป็นเงินเป็นทอง และต้องการความยืดหยุ่นสามารถทำงานจากที่ไหนก็ได้

ดังนั้น ในที่พักก็ควรมีพื้นที่ให้นั่งทำงานหรือจะเรียกว่าเป็น Workation ก็ได้ คำนี้หมายถึงการทำงานไปด้วยและท่องเที่ยวพักผ่อนไปด้วย มาจากคำว่า WORK และ VACATION ผสมกัน

แนะนำบริการในโรงแรม ควรมีพื้นที่สำหรับห้องทำงานแบบนี้ พร้อมกับมีอุปกรณ์และสิ่งที่จำเป็น ซึ่งได้แก่

  • Wi-Fi สัญญานอินเทอร์เน็ตที่เสถียร
  • ปลั๊กไฟ
  • พื้นที่กว้าง
  • โต๊ะ เก้าอี้นั่งทำงาน
  • เครื่องปรับอากาศ
  • เครื่องดื่ม อาหารเล็กน้อยไว้บริการ

การเข้าสู่ยุคของการทำงานแบบรีโมท ห้องทำงานที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบถือว่าตอบโจทย์ และโดนใจลูกค้าเป้าหมาย

2. ห้องเด็กเล่น

ห้องเด็กเล่นในโรงแรม

สำหรับทริปครอบครัวที่มีเด็กเล็กไปด้วย นักเดินทางมักเลือกที่พักที่มี Hotel Facility สำหรับเด็ก และการออกแบบห้องที่สามารถพาเด็กเข้าไปเล่นได้ บางที่จัดเป็น Kids Club พร้อมมีบริการที่ดึงดูดใจเด็ก ๆ เช่น

  • ของเล่นเสริมพัฒนาการ ตัวต่อเลโก้
  • อุปกรณ์วาดภาพ ระบายสี
  • หนังสือ
  • เกมคอมพิวเตอร์
  • บ้านเป่าลม ลูกบอล

นอกจากห้องเด็กเล่นแล้ว หากมีพื้นที่เพียงพออาจมีการสร้างสนามเด็กเล่นแบบ Outdoor มีสระว่ายน้ำเด็ก หรือพื้นที่เล่นน้ำในร่ม พร้อมจัดกิจกรรมในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ไว้ต้อนรับเด็ก ๆ ที่มาเที่ยวพักผ่อนกับครอบครัวอีกด้วย

บริการเหล่านี้มีประโยชน์มาก ช่วยเติมเต็มช่วงเวลาในวันพักผ่อนของครอบครัวให้เป็นวันที่ดี และเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีให้แก่ครอบครัวได้มากยิ่งขึ้น

3. ห้องอาหาร

อาหารในโรงแรม

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าห้องอาหารเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่ช่วยดึงดูดลูกค้าได้มาก คนทั่วไปหลายคนไม่ได้คิดว่าจะมาใช้ห้องพักค้างคืน แต่ตั้งใจมาเพื่อรับประทานอาหารโดยเฉพาะ ถ้าเป็นอาหารที่อร่อย เชฟดังฝีมือดี รีวิวเยอะ

ดังนั้น ห้องอาหารจึงเป็นองค์ประกอบหลักที่ขาดไม่ได้ โดยส่วนใหญ่ลูกค้าชอบเข้ามาทานอาหารในที่พักที่มีห้องอาหารดี ๆ ไม่ว่าจะเป็น

  • ห้องอาหารเต็มรูปแบบ เช่น ห้องอาหารนานาชาติ อาหารไทย อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น บุฟเฟต์ซีฟู้ด ฯลฯ 
  • Cocktail Lounge ให้บริการเครื่องดื่มพร้อม Snack อาหารว่าง และดนตรี
  • บาร์ บริการเครื่องดื่มและอาหารเบา ๆ ริมสระว่ายน้ำ ในสวนหย่อม ดาดฟ้าพร้อมวิวพาโนราม่า

การมีห้องอาหารดี ๆ นับว่าเป็นทางเลือกที่ดึงดูดใจมาก ๆ เพราะนอกจากลูกค้าจะได้รับความสะดวกเมื่อเข้ามาพักค้างคืนโดยไม่ต้องออกไปข้างนอกเพื่อหาอาหารรับประทานแล้ว ยังได้รับประทานอาหารที่มีคุณภาพ ไม่เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยอีกด้วย

โรงแรมในกรุงเทพ หลายแห่งเน้นให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพอาหารเป็นอย่างดี เพื่อรักษาชื่อเสียงและภาพลักษณ์เอาไว้

4. ห้องเก็บกระเป๋าเดินทาง

บริการฝากกระเป๋าในโรงแรม

รีสอร์ทที่พักต้องมีห้องเก็บกระเป๋าเดินทาง หรือห้องเก็บสัมภาระไว้สำหรับผู้เข้าพักที่ต้องการนำของมาฝากก่อนเวลาเช็กอิน เพราะบางครั้งพวกเขาอาจมาถึงก่อนเวลา

หรือในกรณีที่นักเดินทางจำเป็นต้องไปธุระก่อน และไม่สามารถหอบหิ้วสัมภาระไปด้วยได้ 

การมีบริการรับฝากสัมภาระและเช็กอินชั่วคราวมีความสำคัญไม่เพียงแค่รับฝากกระเป๋าของนักเดินทางก่อนเข้าพักเท่านั้น

ในบางสถานการณ์ ผู้เข้าพักมีการเช็กเอาท์ไปแล้วแต่ลืมของสำคัญไว้ ทางรีสอร์ทที่พักจำเป็นจะต้องเก็บรักษาของนั้นไว้เพื่อรอการมารับคืนจากเจ้าของอย่างปลอดภัย

5. ห้องออกกำลังกาย

ห้องออกกำลังกายในโรงแรม

ที่พักกรุงเทพ แทบทุกแห่งจะมีฟิตเนส หรือห้องออกกำลังกายเพราะในยุคสมัยนี้คนเราให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น ห้องออกกำลังกายของรีสอร์ทที่พักหลายแห่งเปิดให้บริการแก่บุคคลทั่วไปให้เข้ามาใช้บริการแบบระบบสมาชิกได้

บริการฟิตเนสและห้องออกกำลังกายเป็นอีกแขนงหนึ่งที่ได้รับการตอบรับดีไม่แพ้บริการด้านอื่น ๆ เลย ยิ่งถ้าเตรียมพื้นที่และอุปกรณ์บริการต่าง ๆ ภายในฟิตเนสเป็นที่ถูกใจ ก็ยิ่งเรียกแขกได้มาก เช่น

  • อุปกรณ์ออกกำลังมีให้เลือกใช้เป็นจำนวนมาก
  • มีเทรนเนอร์คอยให้คำแนะนำการออกกำลังกาย
  • มีห้องอาบน้ำแต่งตัวที่สะอาด สะดวกสบาย
  • มีล็อคเกอร์สำหรับเก็บของใช้ส่วนตัวอย่างเพียงพอ
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม เป็นเรื่องจำเป็นมาก โดยเฉพาะที่พัก 3 ดาวขึ้นไป การมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มเข้ามาหลาย ๆ อย่าง ทั้งร้านอาหาร ร้านค้า สปา ฟิตเนส และ Facility อื่น ๆ ที่ครบครัน

จะช่วยให้นักท่องเที่ยว นักธุรกิจ และนักเดินทางสนใจมาพักค้างแรมมากยิ่งขึ้น ประกอบกับถ้ามีศักยภาพในการบริหารจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกเหล่านี้ได้อย่างเป็นระบบ ก็จะยิ่งสร้างชื่อเสียงจากปากต่อปากโดยไม่ต้องพึ่งงบโฆษณา เป็นการเพิ่มคุณค่าให้กับบริการ และคุณค่านั้นก็จะถูกส่งมอบต่อไปยังลูกค้า

โรงแรมก็จะได้รับความเชื่อมั่นจากลูกค้า เมื่อสะสมรีวิวดี ๆ ไปเรื่อย ๆ ก็จะเป็นชื่อเสียงของ โรงแรม ในระยะยาว

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล

7 สิ่งอำนวยความสะดวกที่โรงแรมควรมี

เหตุผลอันดับต้น ๆ ที่ทำให้หลายคนตัดสินใจเข้าพัก โรงแรม มากกว่าบ้านเช่าหรือห้องพักรายวันนั้นหนีไม่พ้นต้องการสถานที่พักผ่อนที่มีความปลอดภัยและให้ความสะดวกสบายไม่ต่างจากเวลาอยู่บ้านของตัวเอง

ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ โรงแรมในกรุงเทพ และโรงแรมขนาดใหญ่ในต่างจังหวัดจะพยายามจัดหนักจัดเต็มเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกมาให้อย่างเต็มรูปแบบ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและสร้างความประทับใจให้กับผู้เข้าพัก

ส่วนจะมีสิ่งอำนวยความสะดวกแบบไหนบ้างนั้น เรามีคำตอบมาฝากแล้ว

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

สิ่งอำนวยความสะดวกที่จะดึงดูดผู้เข้าพัก

ปกติแล้วเวลาจอง ที่พักกรุงเทพ หรือต่างจังหวัด คนส่วนใหญ่จะพิจารณาจากทำเลที่ตั้งเป็นหลัก เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางท่องเที่ยวหรือทำธุระ

แต่ถึงอย่างนั้นปฎิเสธไม่ได้ว่า Hotel Facility หรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรมเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญที่ทำให้ผู้เข้าพักตัดสินใจเข้ามาใช้บริการมากขึ้น ซึ่ง 7 สิ่งอำนวยความสะดวกหลัก ๆ ที่ผู้เข้าพักที่ทุกโรงแรมควรมี ได้แก่ 

1. สระว่ายน้ำ 

สระว่ายน้ำโรงแรม

การว่ายน้ำในสระว่ายน้ำสวย ๆ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่น เป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัวได้มากขึ้น เพราะไม่ต้องเหนื่อยออกไปเที่ยวนอกโรงแรมก็สามารถพักผ่อนเล่นน้ำสนุกกับเพื่อนหรือคนในครอบครัวได้เช่นกัน

2. Wi-Fi 

ไวไฟ โรงแรม

ไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรเลยก็ได้ แต่ยุคนี้จะขาด Wi-Fi ไม่ได้ เพราะถึงทุกคนจะใช้งานอินเทอร์เน็ตจากเครือข่ายมือถือเป็นหลัก

แต่หากมีฟรี Wi-Fi เชื่อมต่อเร็ว เสถียร รวมทั้งมีพื้นที่ทำงาน พื้นที่สำหรับวางแล็ปท็อปและอุปกรณ์เชื่อมต่อ จะทำให้กลุ่มลูกค้าวัยรุ่นและวัยทำงานตัดสินใจเข้าพักได้ง่ายขึ้น

3. ที่จอดรถฟรี

ลานจอดรถโรงแรม

ถึงโรงแรมในประเทศไทยไม่ว่าโรงแรมเล็กหรือใหญ่จะมีที่จอดรถให้บริการฟรีกับผู้เข้าพักที่เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวอยู่แล้ว แต่หากมีที่จอดรถจำนวนมาก เพียงพอต่อจำนวนผู้เข้าพัก และที่สำคัญควรอยู่ไม่ไกลจากที่พักเพื่อความสะดวกและปลอดภัย

จะทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกประทับใจจนกลับมาใช้บริการและบอกต่อคนใกล้ชิดมากขึ้น

4. เครื่องปรับอากาศ

แอร์โรงแรม

แน่นอนว่า “เครื่องปรับอากาศ” เป็น สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม ที่จำเป็นสำหรับประเทศไทย เนื่องด้วยภูมิอากาศที่ร้อนอบอ้าวทั้งเวลากลางวันและกลางคืน

ซึ่งไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้นที่ต้องการ ผู้เข้าพักชาวไทยเองก็มองว่าเครื่องปรับอากาศเป็นสิ่งจำเป็นที่ โรงแรมในกรุงเทพ และต่างจังหวัดทุกแห่งต้องมี 

5. EV charging

ที่ชาร์จรถไฟฟ้าโรงแรม

เนื่องจากคนไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันมากขึ้น แต่ปัจจุบัน EV charging กลับน้อยกว่าความต้องการ ทั้งยังหายากจนทำให้คนขับรถยนต์ไฟฟ้ารู้สึกไม่สะดวกเวลาเดินทาง

ดังนั้นหากมีการติดตั้ง EV charging เพื่อให้บริการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าก็จะดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้มากขึ้น

6. อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเข้าที่พัก

โรงแรมที่นำสัตว์เลี้ยงเข้าไปได้

หากถามคนเลี้ยงสุนัขและแมวว่ารู้สึกเหนื่อยกับเรื่องไหนมากที่สุดเวลาเดินทางไปท่องเที่ยว มั่นใจว่าเกินกว่าครึ่งต้องตอบว่า “การหาที่พัก” เนื่องด้วยไม่ใช่ทุกโรงแรมหรือรีสอร์ตจะเป็น Pet friendly

ทำให้กว่าจะหาที่พักได้ก็ทำเอาหลายคนรู้สึกเหนื่อยจนไม่อยากเที่ยว เพราะฉะนั้นหากปรับการบริการให้เป็น Pet friendly หรือสร้างโซนสำหรับคนที่เข้าพักพร้อมสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ รับประกันว่าได้รับการตอบรับจากคนรักสัตว์ถล่มถลายอย่างไม่ต้องสงสัย

7. บริการรับส่งกระเป๋า

บริการส่งกระเป๋าไปโรงแรม

คงไม่มีบริการไหนดีกับผู้เข้าพักที่ชอบช้อปปิ้งในวันสุดท้ายเพื่อซื้อของฝากก่อนกลับบ้านมากเท่ากับบริการรับส่งกระเป๋าเดินทาง

เพราะนอกจากช่วยลดภาระไม่ต้องถือกระเป๋าเดินทางระหว่างเลือกซื้อของแล้ว ยังลดความเสี่ยงเรื่องอุบัติเหตุและสัมภาระสูญหายอีกด้วย 

เช็กลิสต์

สำหรับคนเดินทางและเข้าพัก โรงแรม คงรู้ดีอยู่แล้วว่าไม่ใช่ทุกที่จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่างตามที่ต้องการ แต่ถึงอย่างนั้นควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐาน สิ่งอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย และสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับครอบครัวและสัตว์เลี้ยงให้ครบ เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตประจำวันจึงควรเตรียมไว้ให้ครบ ซึ่งสิ่งอำนวยความสะดวกแต่ละกลุ่มที่ควรมี ได้แก่ 

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า
  • สิ่งอำนวยความสะดวกมาตรฐานที่ต้องมี ประกอบด้วยเครื่องนอนและอุปกรณ์ทำความสะอาดร่างกายภายในห้องน้ำ อย่างผ้าขนหนู ผ้าเช็ดผม อุปกรณ์เครื่องนอน กระดาษทิชชูเช็ดมือ สบู่อาบน้ำ เจลล้างมือ ยาสระผม ครีมนวดผม แปรงสีฟัน ยาสีฟัน กระจก ไม้แขวนเสื้อ ไดร์เป่าผม แก้วน้ำ หลอดน้ำ น้ำดื่มบรรจุขวด พรมเช็ดเท้า และปลั๊กไฟ
  • สิ่งอำนวยความสะดวกด้านความปลอดภัย ประกอบด้วยถังดับเพลิงบริเวณทางเดิน ชุดปฐมพยาบาล อุปกรณ์ตรวจจับควันไฟ เบอร์โทรฉุกเฉินในห้อง นอกจากนั้นบางแห่งยังมีตู้เซฟนิรภัยเตรียมไว้ให้ผู้เข้าพักสำหรับเก็บของมีค่าด้วย
  • สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับครอบครัวและสัตว์เลี้ยง ประกอบด้วยเตียงเด็กอ่อน อ่างอาบน้ำ เครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า อุปกรณ์ทำความสะอาดเด็กเล็ก ชามใส่อาหารน้ำดื่มสำหรับสัตว์เลี้ยง หรือผ้าเช็ดเท้าสัตว์เลี้ยง

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ผู้เข้าพักต้องการที่นำมาฝาก จะเห็นว่าสิ่งอำนวยความสะดวกคือสิ่งที่ช่วยดึงดูดให้ผู้เข้าพักตัดสินใจเลือกมากขึ้น แต่สำหรับที่พักขนาดเล็กที่ไม่สามารถจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกครบทุกอย่างตามที่ลูกค้าต้องการ อาจเลือกเสริมบางอย่างเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกพิเศษมากขึ้นกว่าการมีเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานเท่านั้น

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล 

5 Facility สุดเจ๋งในโรงแรม ที่ผู้บริหารไม่ควรมองข้าม

พนักงานต้อนรับของโรงแรมและแขกผู้เข้าพัก
พนักงานต้อนรับของโรงแรมและแขกผู้เข้าพัก

นอกจากพิจารณาเรื่องทำเลที่ตั้ง บรรยากาศ และราคาแล้ว เชื่อว่าอีกสิ่งที่ช่วยดึงดูดให้คนส่วนใหญ่เลือกพักในโรงแรมนั้นหนีไม่พ้น Hotel Facility  หรือสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโรงแรม เนื่องจากเป็นบริการที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเข้าพักโรงแรมมากขึ้น เพราะฉะนั้นจะตั้งอยู่ในกรุงเทพฯ หัวเมืองเศรษฐกิจ หรือต่างจังหวัด จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับ สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม ไม่แพ้กับส่วนอื่น ๆ ของโรงแรม แต่จะมีบริการไหนที่ไม่ควรมองข้ามบ้างนั้น มาดูกันเลย

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

พนักงานต้อนรับ 24 ชั่วโมง

เรียกว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้เลย สำหรับ “พนักงานต้อนรับ 24 ชั่วโมง” เพราะเปรียบเสมือนหน้าบ้านที่ให้การต้อนรับและเข้าพูดคุยกับผู้มาเข้าพักเป็นคนแรก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่โรงแรมส่วนใหญ่เตรียมพนักงานต้อนรับพร้อมให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง  เพื่ออำนวยความสะดวกและสร้างความประทับใจให้กับผู้ที่เข้ามาใช้บริการ

  • บริการพนักงานต้อนรับ 24 ชั่วโมง ช่วยสร้างประโยชน์แก่แขกผู้เข้าพักอย่างไรได้บ้าง

สำหรับหน้าที่หลักของพนักงานต้อนรับคือยืนอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์คอยต้อนรับผู้เข้าพักบริเวณหน้าโรงแรม แนะนำบริการในโรงแรม รับลงทะเบียนห้องพัก มอบกุญแจ ดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย ติดต่อประสานงานกับแผนกต่าง ๆ ภายในโรงแรมตามความต้องการของผู้เข้าพัก และที่สำคัญทำหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน แก้ไข และติดตามความพึ่งพอใจของผู้เข้าพักหลังจากแก้ไขปัญหาเรียบร้อยแล้ว

แม่บ้านสุดเนี้ยบ

เนื่องจากความสะอาดนั้นนับเป็นอีกหนึ่งในตัววัดมาตรฐานโรงแรมของธุรกิจในด้านบริการของโรงแรม ทำให้โรงแรมทุกแห่งจำเป็นต้องมี “แม่บ้านสุดเนี้ยบมืออาชีพ” คอยทำหน้าที่ดูแลในส่วนต่าง ๆ ภายในโรงแรมให้สวยงามพร้อมให้ผู้เข้าพักใช้บริการอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานดูแลห้องพัก (Room Attendant) พนักงานดูแลทำความสะอาดทั่วไป (Housekeeper) แม่บ้านประจำฟลอร์ (Floor Housekeeper)  และหัวหน้าห้องผ้า (Linen Room Supervisor)

  • บริการแม่บ้านสุดเนี้ยบ ช่วยสร้างประโยชน์แก่แขกผู้เข้าพักอย่างไรได้บ้าง

สำหรับหน้าที่ของแม่บ้านคือทำความสะอาดที่ได้รับมอบหมายตามตำแหน่งของตัวเอง โดยพนักงานดูแลห้องพักทำหน้าที่ดูแลความสะอาดภายในห้องพักและเตรียมห้องพักให้พร้อมรับผู้เข้าพักใหม่ หลังจากผู้เข้าพักเดิมเช็กเอาท์ออกเรียบร้อยแล้วหรือเมื่อผู้เข้าพักต้องการ พนักงานดูแลทำความสะอาดทั่วไปทำหน้าที่ดูแลทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม แม่บ้านประจำฟลอร์ทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของพนักงานดูแลห้องพักและพนักงานดูแลทำความสะอาดทั่วไปให้เป็นไปตามมาตรฐานโรงแรม ก่อนเปิดให้ลูกค้าเข้าใช้บริการ

ส่วนพนักงานห้องผ้าจะทำหน้าที่เป็นหลังบ้านให้กับแผนกแม่บ้าน รับผิดชอบทำความสะอาดผ้าทุกชนิดและจ่ายผ้าสะอาดให้กับแม่บ้านในส่วนต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม โรงแรมในกรุงเทพ หรือโรงแรมใหญ่ในเมืองท่องเที่ยวมักมีบริการซักรีดเป็นบริการเสริมให้กับผู้เข้าพักอีกด้วย

ห้องธุรกิจ (สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องทำงาน)

เพราะผู้เข้าพักโรงแรมไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเท่านั้น แต่ยังมีกลุ่มคนทำงานเดินทางมาทำงานด้วย ดังนั้น “ห้องธุรกิจ” หรือบางแห่งใช้คำว่า “Co-working Space”  จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ อย่างไรก็ตามโดยส่วนใหญ่แล้วมักมีให้บริการในโรงแรมในกรุงเทพ โรงแรมระดับ 4 – 5 ดาว โรงแรมในเมืองท่องเที่ยว หรือโรงแรมที่ตั้งอยู่ในเมืองเศรษฐกิจสำคัญเท่านั้น หากเป็นโรงแรมขนาดเล็กอาจมีเพียงพื้นที่โซนล็อบบี้ให้นั่งทำงานเท่านั้น

  • บริการห้องธุรกิจ ช่วยสร้างประโยชน์แก่แขกผู้เข้าพักอย่างไรได้บ้าง

สำหรับห้องธุรกิจจะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน  โดยทางโรงแรมจะมีการจัดโต๊ะ เก้าอี้ โซนประชุม และห้องประชุมส่วนตัวท่ามกลางบรรยากาศดี ๆ พร้อมอุปกรณ์สนับสนุนการนั่งทำงาน อย่างเครือข่ายอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ต่อพ่วงไฟ สายชาร์จโทรศัพท์ ปลั๊กอะแดปเตอร์ คอมพิวเตอร์ และเครื่องพิมพ์เอกสารไว้ให้บริการกับผู้เข้าพักที่ต้องการใช้พื้นที่ในการทำงาน อีกทั้งยังสามารถสั่งอาหาร ของทานเล่น หรือเครื่องดื่มได้ด้วย

Trainer ส่วนตัวในห้องฟิตเนส

ตามที่พักกรุงเทพ หรือโรงแรมใหญ่ในต่างจังหวัดมักมีบริการห้องฟิตเนสให้แก่ผู้เข้าพักที่ต้องการหากิจกรรมทำระหว่างเข้าพักในโรงแรมใช้บริการฟรี  แต่ถึงอย่างนั้นก็มีบางแห่งยังเปิดให้บริการกับลูกค้าที่ไม่ได้เข้าพักโดยมีการเก็บค่าสมัครเป็นสมาชิกแบบรายวัน รายเดือน หรือรายปี ดังนั้นเพื่ออำนวยความสะดวกและดูแลการใช้ห้องฟิตเนสอย่างปลอดภัย หลายโรงแรมจึงมีการเตรียมบริการ Trainer ส่วนตัวในห้องฟิตเนสให้กับผู้เข้าใช้บริการ

  • บริการ Trainer ส่วนตัวในห้องฟิตเนส ช่วยสร้างประโยชน์แก่แขกผู้เข้าพักอย่างไรได้บ้าง

สำหรับ Trainer ส่วนตัวในห้องฟิตเนสนอกจากมีหน้าที่เป็นผู้ให้คำแนะนำด้านการออกกำลังกายและให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายให้กับผู้เข้าใช้บริการห้องฟิตเนสแล้ว ยังมีหน้าที่ดูแลอุปกรณ์ออกกำลังกายให้พร้อมใช้งานอยู่เสมอ เพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าใช้บริการทุกคน

บริการรับฝากและขนส่งกระเป๋าเดินทาง

คงไม่มีบริการไหนตอบโจทย์สายเที่ยวสายช้อปได้ดีไปกว่าบริการรับฝากและส่งกระเป๋าเดินทางไปยังจุดต่าง ๆ ตามที่ต้องการ เพราะแน่นอนว่าหลังเช็กเอาท์ยังมีเวลาเหลือก่อนขึ้นเครื่องหลายคนคงอยากเดินเที่ยวสบาย  ๆ ไม่ต้องแบกกระเป๋าเดินทางใบใหญ่เดินไปเดินมาให้เหนื่อย

  • บริการรับฝากและขนส่งกระเป๋าเดินทาง ช่วยสร้างประโยชน์แก่แขกผู้เข้าพักอย่างไรได้บ้าง

การบริการรับฝากและส่งกระเป๋าเดินทางเป็นการให้บริการรับฝากกระเป๋าสัมภาระให้กับผู้เข้าพักหลังเช็กเอาท์ หรือส่งไปที่สนามบินหรือสถานที่ที่ระบุไว้ แต่สำหรับบริการนี้หากโรงแรมไม่มีให้บริการสามารถอำนวยความสะดวกให้กับผู้เข้ามาใช้บริการโรงแรมด้วยการติดต่อบริการรับฝากและส่งสัมภาระไปสนามบินจากผู้ให้บริการอื่น ๆ ที่เปิดสาขาตามห้างได้เช่นกัน

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 5 บริการสุดเจ๋งในโรงแรมที่นำมาฝาก ซึ่งจะเห็นว่าทุกบริการเป็นบริการที่ช่วยเสริมความสะดวกสบายให้กับผู้เข้าพักและรับประกันว่าจะทำให้เป็นเหตุผลที่ทำให้ถูกเลือกเข้ารับบริการมากขึ้น

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล

พามาส่อง Facility ของ 10 โรงแรม หรูระดับ 5 ดาว ใจกลางกรุงเทพ

โรงแรม5ดาว จัดว่าเป็นที่สุดของความหรูหรา สะดวกสบาย ทันสมัยใคร ๆ ก็อยากเข้าพักถ้าไม่ติดเรื่องราคา แต่ถ้าไม่อยากจ่ายแพงจะลดระดับลงมาเล็กน้อยเป็นโรงแรม 4 ดาวจะยังพอได้อยู่ไหม เราลองมาเปรียบเทียบมาตรฐานของโรงแรม 4 ดาว และ 5 ดาวกันดู 

Facility ของ 10 โรงแรม หรูระดับ 5 ดาว ใจกลางกรุงเทพ
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ความต่างของ โรงแรม 5 ดาว กับ 4 ดาว

โรงแรม 4 ดาว
ห้องพักขนาด 24 ตร.ม. +

Facilities ภายในห้องนอนประกอบด้วย
-เตียงนอน 3.5 ฟุต+
-TV 20 นิ้ว+ 
-ช่องรายการทีวีมากกว่า 8 ช่อง 
-ตู้เสื้อผ้า
-ตู้เย็น 
-ในห้องน้ำมีสบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว ไดร์ อ่างอาบน้ำ
-Facility ภายในโรงแรม มีห้องอาหาร สระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องประชุม
-การตกแต่งโรงแรม เป็นสไตล์ที่ดูดีมีระดับ
โรงแรม 5 ดาว
ห้องพักขนาด 30 ตร.ม. +

Facilities ภายในห้องนอนประกอบด้วย
-เตียงขนาด 4 ฟุต+
-TV 20 นิ้ว+ มีรีโมทคอนโทรล 
-ช่องรายการทีวีมากกว่า 12 ช่อง 
-ตู้เย็น มินิบาร์ 
-อุปกรณ์สื่อสาร โทรศัพท์ 
-ห้องน้ำขนาดใหญ่ เครื่องสุขภัณฑ์สวยงาม 
-Facility ภายในโรงแรม มีห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำ บาร์เครื่องดื่มห้องนวด สปา ห้องอาหารชั้นดี ห้องสัมมนา-ขนาดใหญ่ ห้องประชุมย่อย
-การตกแต่ง สวยงามหรูหรา มีระดับ

ดูเหมือนว่าจะมีข้อแตกต่างกันบ้างในเรื่องของความหรูหรา ความสมบูรณ์แบบของโรงแรม 4 ดาวย่อมไม่เท่า 5 ดาว สำหรับวันนี้เราจะพาไปส่องโรงแรมในกรุงเทพฯ กันว่า ถ้าเป็นระดับ 5 ดาว มีโรงแรมไหนน่าสนใจบ้าง

โรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพฯ

โรงแรม 5 ดาวในกรุงเทพฯ

ถ้าพูดถึง โรงแรมในกรุงเทพ ที่อยู่ในระดับ 5 ดาวแล้ว แต่ละแห่งจะมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว เช่น วิวแม่น้ำเจ้าพระยา, ติดสถานีรถไฟฟ้า อยู่ใจกลางเมืองย่านธุรกิจ เป็นต้น บางโรงแรมมีจุดเด่นเรื่องของดีไซน์ สถาปัตยกรรม อินทีเรีย ส่วนระดับของห้องพักก็จะแบ่งเป็นหลายระดับ เช่น Deluxe, Suite Room, Superior อัตราค่าบริการถูก-แพงตามความหรูหรา ในส่วนของราคาที่อยู่ในบทความนี้เป็นเพียงราคาเฉลี่ยเริ่มต้น อัตราค่าที่พักขึ้นอยู่กับประเภทของห้องและโปรโมชั่นแต่ละช่วงเวลา มาดูรายละเอียดทีละแห่งไปพร้อมกัน

1. Mandarin Oriental Bangkok

Mandarin Oriental Bangkok โรงแรมริมน้ำที่เปิดมาแล้วกว่าร้อยปี จุดเด่นของโรงแรมอยู่ที่สถาปัตยกรรมอันงดงามของโรงแรมและห้องพักสไตล์ Luxury ที่บ่งบอกความพิถีพิถันในรายละเอียดของงานออกแบบ ทำให้ที่นี่เป็น ที่พักกรุงเทพ ที่ยังคงได้รับความนิยมไม่เสื่อมคลายและเป็นโรงแรมที่รับรองอาคันตุกะระดับประเทศด้วยมาตรฐานบริการชั้นเลิศ ห้องพักของโรงแรมมีเกือบ 400 ห้อง ห้องอาหารนานาชาติ 8 ห้อง พร้อมห้องสัมมนา สปา บริการล่องเรือชมแม่น้ำเจ้าพระยา อัตราค่าบริการห้องพักสุดหรูเริ่มต้น 20,000 บาท

โรงแรมแมนดาริน โอเรียลเต็ล กรุงเทพ ตั้งอยู่ที่ ซอยเจริญกรุง 40 ถนนเจริญกรุง แขวงบางรัก กรุงเทพฯ หากไม่อยากขับรถไป สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีตากสิน แล้วเดินต่อบนเส้นทางถนนบางรักประมาณ 10 นาที

2.The Peninsula Bangkok

เพนนินซูล่า โรงแรมหรูอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพที่มีดีไซน์คลาสสิก ผู้เข้าพักจะได้อิ่มเอมกับบรรยากาศริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ที่พิเศษสุด ๆ ก็คือการออกแบบโครงสร้างอาคารโรงแรมเป็นรูปตัวอักษร W ทำให้ห้องพักทุกห้องที่มีจำนวน 370 ห้องเปิดรับวิวทิวทัศน์ของแม่น้ำได้ทั้งหมด Hotel Facility จัดอยู่ในระดับไฮคลาส ผู้เข้าพักสามารถใช้บริการรถลีมูซีนเป็นรถยนต์โรสรอยล์และบีเอ็มดับเบิลยูซีรีส์ 7 และเพื่อให้ผู้มาเยือนได้สัมผัสประสบการณ์วิถีชีวิตคนกรุงเทพฯ ทางโรงแรมยังมีบริการรถตุ๊กตุ๊กและเรือข้ามฟากอีกด้วย สำหรับห้องอาหารมี 5 ร้าน เน้นอาหารไทย จีน และนานาชาติ มีศูนย์ฟิตเนส สปา บริการนวดและบำรุงผิว ราคาห้องพักเริ่มต้นหลักหมื่นบาทขึ้นไป

โรงแรมเพนนินซูลา ตั้งอยู่ที่ 333 ถนนเจริญนคร คลองสาน กรุงเทพฯ เดินทางโดยรถยนต์ เรือ และรถไฟฟ้าบีทีเอสลงสถานีตากสิน มีเรือของโรงแรมคอยให้บริการ

3.Capella Bangkok 

Capella Bangkok 

โรงแรมคาเพลล่า กรุงเทพ เป็นโรงแรมไฮเอนด์ระดับ Ultra Luxury ริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่น่าพักผ่อน ดีไซน์ร่วมสมัย มีกลิ่นของความเป็นไทยผสมผสานกับความโมเดิร์นของ สิ่งอำนวยความสะดวกในโรงแรม ที่มีมาให้อย่างครบเครื่อง การได้มาพักที่นี่แม้จะอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ก็ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ บรรยากาศโรงแรมรายรอบด้วยต้นไม้สีเขียว ห้องพักจำนวน 101 ห้องเป็นแบบ Suite และ Villa พร้อมรองรับนักท่องเที่ยว-นักธุรกิจที่เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ภายในโรงแรมมีห้องอาหาร เลานจ์ บาร์ สระว่ายน้ำวิวแม่น้ำ ฟิตเนส และมีเรือบริการฟรีสำหรับผู้ที่อยากไปเที่ยว IconSiam ราคาห้องพักเริ่มต้นคืนละ 30,000 บาท

โรงแรมคาเพลล่า ตั้งอยู่ที่ถนนเจริญกรุง แขวงยานนาวา เขตสาทร กรุงเทพฯ ขับรถไปหรือเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส, รถไฟใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

4.Four Seasons Hotel Bangkok

Four Seasons Hotel Bangkok

ที่พักกรุงเทพ น่านอนอีกแห่งหนึ่งคือโรงแรมโฟร์ซีซั่น ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ดีไซน์ร่วมสมัยสวยงาม มีบริการร้านค้า บาร์ ร้านอาหารนานาชาติ ที่ขึ้นชื่อคือร้านอาหารจีนและติ่มซำ มีคาเฟ่ชิล ๆ น่านั่ง สามารถลงเล่นน้ำในสระแบบอินฟินิตี้มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา หรือเดินเล่นในสวนหย่อนใจ ห้องพักมีถึง 299 ห้องพร้อมอาหารเช้าเต็มอิ่ม ราคาห้องพักเริ่มต้นคืนละ 18,000 บาท

โรงแรมโฟร์ซีซั่นตั้งอยู่ที่ 300/2 ถนนเจริญกรุง เขตสาทร กรุงเทพฯ แนะนำเดินทางโดยรถไฟฟ้าบีทีเอส, รถไฟใต้ดิน MRT สายสีน้ำเงิน

5.Lebua Hotels & Resorts 

Lebua Hotels & Resorts 

โรงแรมเลอบัว ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นโรงแรมที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นแบบไทย ๆ บริหารห้องพักหลากหลายระดับที่มี Facility เตรียมไว้ให้ตามมาตรฐานสากล ในส่วนของโรงแรมมีห้องอาหารไฟน์ไดนนิ่งและบาร์สุดหรูที่การันตีคุณภาพจากดาวมิชิลิน ช่วงเวลาที่ดีสุดของที่นี่คือเวลาพลบค่ำ แนะนำทานอาหารที่เดอะโดมของโรงแรมซึ่งมีทั้งอาหารรสเลิศและวิวสุดอลังการริมฝั่งน้ำให้ชื่นชม ส่วนตอนเช้ามี Breakfast ริมสระน้ำ ราคาห้องพักเริ่มต้นที่ประมาณ 5,000 บาทขึ้นไป

โรงแรมเลอบัวตั้งอยู่ที่ 1055 ถนนสีลม เขตบางรัก กรุงเทพ เดินทางด้วยรถยนต์ หรือนั่งเรือ และสามารถขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอสไปสงสถานีตากสิน เดินต่อไปยังโรงแรมไม่ไกลมาก

6.Grand Hyatt Erawan 

Grand Hyatt Erawan 

โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ที่พักสุดหรูใกล้สถานีรถไฟฟ้าและย่านธุรกิจ ดีไซน์ห้องพักตกแต่งหรูหรา มีห้องน้ำขนาดใหญ่ พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน และ Facilities เพิ่มเติมสำหรับผู้พิการ ห้องพักของโรงแรมรวมทั้งหมด 380 ห้อง ราคาเริ่มต้น 6,000 บาท ที่นี่มีสระน้ำอุ่น ห้องประชุม ห้องอาหาร 9 ห้อง อาหารเช้าเป็นบุฟเฟ่ต์สุดคุ้ม 

โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำริ กรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีชิดลม

7.The Athenee Hotel

The Athenee Hotel

โรงแรมดิ แอทธินี ในเครือแมริออท รายล้อมด้วยแหล่งช้อปปิ้งขนาดใหญ่ ทันสมัย ในส่วนของโรงแรมดีไซน์แบบร่วมสมัย สไตล์ Luxury สำหรับร้านอาหารที่นี่มีให้เลือกอย่างหลากหลาย ถึง 8 ร้านด้วยกัน บริการสปา ฟิตเนสครบ และยังมีสระว่ายน้ำฟรีฟอร์มให้ลงเล่นอย่างสบายใจอีกด้วย ราคาเริ่มต้นคืนละ 3,400 บาท

โรงแรมดิ แอทธินี ตั้งอยู่ที่ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี กรุงเทพฯ ใกล้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีเพลินจิต เดินทางสะดวก

8.Waldorf Astoria Hotel 

.Waldorf Astoria Hotel Bangkok

โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสทอเรีย เป็น โรงแรม 5 ดาว ที่สวยโดดเด่น มองจากโรงแรมเห็นวิวสนามม้าเขียวราชกรีฑาสโมสร เหมาะกับการพักผ่อน ห้องพักกว้าง เฟอร์นิเจอร์หรู ภายในโรงแรมมีสปา สระว่ายน้ำเปิดโล่ง ฟิตเนส 24 ชั่วโมง ร้านอาหารระดับ Fine Dining และบาร์ ผู้เข้าพักจะได้รับการดูแลโดยผู้ช่วยส่วนตัวตลอดช่วงเวลาที่อยู่ในโรงแรม ราคาเริ่มต้นคืนละ 7,000 บาท

โรงแรมวอลดอร์ฟ แอสทอเรีย ตั้งอยู่ที่ถนนราชดำริ แขวงลุมพินี กรุงเทพฯ เดินทางสะดวกด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีชิดลม

9.Siam Kempinski Hotel

โรงแรมสยาม เคมปิน สกี้ เป็นสถานที่พักผ่อนที่ใกล้แหล่งช้อปปิ้งของคนรุ่นใหม่มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นสยามพารากอน สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามเซ็นเตอร์ เป็นอีกหนึ่ง โรงแรมหรูกรุงเทพ ที่มีเอกลักษณ์ไทยและเป็นที่พักในดวงใจของนักท่องเที่ยวและนักธุรกิจทั้งไทยและต่างชาติ มีห้องพักรองรับบริการถึง 397 ห้องที่ครบครันด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกแบบ Luxury ภายในบริเวณโรงแรมมีสระว่ายน้ำ สวนหย่อม สปา ร้านอาหารฝีมือเชฟระดับโลก ราคาเริ่มต้นคืนละ 7,800 บาท

โรงแรมสยาม เคมปิน สกี้ตั้งอยู่ที่ถนนพระรามที่ 1 ปทุมวัน กรุงเทพฯ เดินทางง่ายมากด้วยรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีสยาม

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

10.Carlton Hotel Bangkok

Carlton Hotel Bangkok

โรงแรมคาร์ลตัน กรุงเทพ โรงแรมมาตรฐานระดับสากล การได้มาพักที่นี่จึงมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัยมาก ๆ ภายใต้ดีไซน์การตกแต่งที่ยังคงความเป็นไทยซึ่งสถาปนิกออกแบบได้อย่างลงตัว เปิดให้บริการห้องพัก 338 ห้อง มีสระว่ายน้ำกลางแจ้ง สปา ฟิตเนส สปา ห้องอาหารชั้นเลิศ และคาเฟ่ หลังอาหารมื้อค่ำสามารถขึ้นไปชมวิวแสงไฟระยิบระยับของเมืองหลวงพร้อมจิบค็อกเทลสุดฟินที่บาร์รูฟท็อป ราคาเริ่มต้นคืนละ 5,000 บาท

โรงแรมคาร์ลตัน ตั้งอยู่ที่ถนนสุขุมวิท เขตวัฒนา กรุงเทพ ใกล้ห้างเอ็มควอเทีย หลีกเลี่ยงรถติดสามารถขึ้นรถไฟฟ้าบีทีเอส ลงสถานีอโศกสะดวกมาก

สิ่งอำนวยความสะดวกของ โรงแรม5ดาว ช่วยให้ผู้เข้าพักพักผ่อนได้ดีขึ้นได้อย่างไร

Hotel facility

การได้พักโรงแรมระดับ 5 ดาว จะพรั่งพร้อมไปด้วยบริการชั้นเลิศและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทำให้ผู้เข้าพักได้รับความพึงพอใจสูงสุด ซึ่งช่วยให้ได้พักผ่อนอย่างสุขสบาย เป็นการผ่อนคลายความเครียด นักธุรกิจระดับสูงมักเลือกพักโรงแรมดี ๆ เพื่อให้ได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ก่อนเริ่มทำงานในวันต่อไป ส่วนนักท่องเที่ยวที่อยากให้รางวัลชีวิตกับตัวเองก็ย่อมเลือกการพักผ่อนที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางเช่นเดียวกัน นอกจากนี้การพักโรงแรมระดับ 5 ดาวยังมีข้อดีอีกหลายอย่างคือ

  • Hotel Facility มีความทันสมัย และสมบูรณ์แบบ

ต่อให้ผู้มาเยือนไม่ได้พกของใช้ส่วนตัวอะไรมาเลยก็สามารถเข้าพักได้อย่างสะดวกสบาย เพราะที่ห้องพักของโรงแรมจะเตรียมทุกอย่างไว้ให้ครบแล้ว สามารถใช้งานได้ดี

  • พนักงานโรงแรมดูแลผู้เข้าพักเป็นอย่างดีด้วยความสุภาพ

มีความเอาใจใส่ทุกรายละเอียดอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ไม่ว่าจะเป็น บัตเลอร์ส่วนตัว รูมเซอร์วิส บริการรับจอดรถให้ เทรนเนอร์ส่วนตัวในฟิตเนส

  • โรงแรมหรู จะมีบริการเพื่อสันทนาการที่หลากหลาย

เพื่อให้ผู้เข้าพักได้ผ่อนคลายเต็มที่ เช่น สระว่ายน้ำอุ่น ห้องเต้นรำ สนามกอล์ฟ ฯลฯ

  • ได้รับประทานอาหารชั้นเลิศที่ได้รับการปรุงอย่างใส่ใจ

ทั้งรสชาติและคุณภาพของวัตถุดิบ ว่ากันว่า บุฟเฟ่ต์โรงแรมกรุงเทพ เป็นการทานอาหารที่คุ้มค่า ได้ทานของดี ๆ สดใหม่ ได้ปริมาณมาก

การพักโรงแรมระดับ 5 ดาวจึงถือว่าเป็นทางเลือกที่เหมาะสำหรับนักเดินทางที่ต้องการความสะดวกสบายขั้นสูงสุด ซึ่งสามารถการันตีได้ว่าทุกความคาดหวังของคุณจะได้รับการตอบสนองอย่างไม่ขาดตกบกพร่องแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล

บริการรับฝากกระเป๋าเดินทาง สาขา Central Pattaya | AIRPORTELs ประเทศไทย

Central Pattaya (Central Festival)

พัทยาเป็นอีกหนึ่งเมืองในประเทศไทยที่นักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก
ด้วยความโด่งดังของชายหาดแสนสวย, เมืองที่เต็มไปด้วยผู้คน, และถนนแหล่งบันเทิงในยามค่ำคืน
มากไปกว่านั้น อาหารทะเลที่นี่ดีงามมาก คุณควรจะเพิ่มเมืองพัทยาในบักเก็ตลิสต์สถานที่ที่ควรมาเยี่ยมชมสักครั้งในชีวิต

คุณต้องพกกระเป๋าหรือแบกสัมภาระติดตัวตลอดเวลาเมื่อเดินทาง
แต่ถ้าหากว่าคุณโชคดี โรงแรมหรือที่พักของคุณอาจจะมีบริการรับฝากกระเป๋าเดินทาให้
แต่ถ้าไม่มีล่ะก็ คุณสามารถนึกถึง AIRPORTELs บริการที่จะเปรียบเสมือนตัวช่วยในการเดินทางสุดแสนสบายของคุณในพัทยา

บริการรับฝากกระเป๋าเดินทางที่ Central Pattaya Beach ด้วย AIRPORTELs ประเทศไทย

A woman lugging luggage to the AIRPROTELs’ counter

และที่ Central Pattaya Beach คุณสามารถใช้บริการของ AIRPORTELs ผู้ให้บริการรับฝากกระเป๋าเป้
กระเป๋าเดินทาง, หรือสัมภาระ ระหว่างที่คุณเดินเล่นอยู่ในศูนย์การค้าได้อีกด้วย
คุณจะได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบมือเปล่าสุดชิลล์ได้เลย

อัตราค่าบริการนั้นมีตัวเลือกอย่างหลากหลาย
คุณสามารถฝากกระเป๋าเป็นรายชั่วโมง, รายวัน, รายสัปดาห์, รายเดือน โดยจะมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 30 บาทต่อชิ้น และ 4,000 บาท ต่อชิ้นสำหรับการฝากรูปแบบระยะยาว

เคาน์เตอร์ให้บริการ สาขา Central Pattaya

AIRPORTELs counter in Central Pattaya

เคาน์เตอร์ของเราตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ประตูทางเข้าจากโรงแรม Hilton Pattaya
หรือถ้าคุณต้องการแผนที่ที่ชัดเจนมากขึ้น คุณสามารถสอบถามวิธีการเดินทางกับจุดประชาสัมพันธ์ได้

เวลาทำการ

วันจันทร์ – วันพฤหัสบดี เปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00 นาฬิกา – 22.00 นาฬิกา
วันศุกร์ – วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 11.00 นาฬิกา – 23.00 นาฬิกา

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

  • ในกรณีที่เกิดการเปลี่ยนแปลง กรุณาแจ้ง AIRPORTELs อย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเวลาเดิม
  • ในกรณีที่ขนส่งกระเป๋าไปสนามบิน กรุณามารับกระเป๋าของคุณ 3 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง
  • บริษัทฯ AIRPORTELs ไม่รับฝากสิ่งของต้องห้าม เช่น ประทัด ยาเสพติด อาวุธ อาหาร สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตใด ๆ
  • บริษัทฯ AIRPORTELs จะไม่รับผิดชอบต่อเหตุสุดวิสัยหรือบุคคลที่สาม เช่น แจ้งข้อมูลผิด ลูกค้าสาย ลูกค้าไม่ตอบสนอง ภัยธรรมชาติ การประท้วง ฯลฯ
  • กรณีลูกค้าไม่สามารถมารับกระเป๋า บริษัทฯ AIRPORTELs จะเก็บรักษากระเป๋าของคุณ แต่จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายใด ๆ
  • ในกรณีที่ขนส่งกระเป๋าไปโรงแรม ลูกค้าจะต้องแจ้งให้โรงแรมได้ทราบเกี่ยวกับการขนส่ง
  • ในกรณีที่ขนส่งกระเป๋าไป Airbnb หรือ เกตส์เฮาส์ ลูกค้าจะต้องแจ้งให้ Airbnb และ เกตส์เฮาส์ได้ทราบเกี่ยวกับการขนส่ง
  • สำหรับลูกค้าที่อาศัยอยู่ที่โรงแรม พนักงานของเราจะเข้ารับกระเป๋าเดินทางของคุณหลักจากคุณทำการฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมแล้ว

ลิสต์รายการของฝากจากไทยที่นักท่องเที่ยวเกาหลีควรซื้อกลับ

ของฝากจากไทย อย่างที่ทราบดีว่าประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อติดอันดับของโลก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในหนึ่งวันจะมีนักท่องเที่ยวจากดินแดนต่าง ๆ หลั่งไหลเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวผิวขาวหน้าใสจากแดนกิมจิอย่างชาวเกาหลีนั้นเอง

https://www.youtube.com/watch?v=QXI2ElblqHM

ของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีชอบ

ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเดินทางเข้าออกประเทศไทยในแต่ละปี ไม่ต่ำกว่าล้านคน ทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มากกว่าสองพันล้านบาท

เพราะไม่มีชาวเกาหลีคนไหนที่มาเที่ยวเมืองไทยและเดินทางกลับมือเปล่าอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆ ต้องก็มี ของฝากจากไทยติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วยทุกราย ซึ่งของฝากจากไทยที่ถูกอกถูกใจจนกลายเป็นของยอดฮิตที่ชาวเกาหลีคนไหนมาก็ต้องซื้อกลับ ได้แก่

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

1. ของฝากจากไทย ยาดม ต้องตราโป๊ยเซียน

Poysian Yadom,ของฝากจากไทย

คงเป็นเพราะกลิ่นที่หอมสดชื่นของยาดมไทยที่มีมาอย่างยาวนานจึงทำให้ยาดมกลายเป็นของฝากจากไทย ที่นักท่องเที่ยวเกาหลีต้องหอบคว้านซื้อแบบยกแผงกลับบ้านกันเลยทีเดียว ถ้ามาเที่ยวไทยแล้วไม่ซื้อยาดมกลับประเทศละก็รับรองว่าคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องอย่างแน่นอน

2. ของกินรสชาติแบบไทยแท้ให้ฟีลเหมือนสตรีทฟู้ด

ต้องบอกเลยว่าขนมเบนโตะ ถือเป็นขนมติดอันดับเทรนด์ฮิตที่คนเกาหลีซื้อกลับประเทศมากที่สุด อาจเป็นเพราะรสชาติที่มีความผสมทั้งเผ็ดและหวานทั้งยังมีราคาที่แสนถูกจึงทำให้เบนโต๊ะกลายเป็นของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีฮิตสุด ๆ ไปเลยทีเดียว หรือ ขนมอื่นๆที่ให้ฟีลเหมือนสตรีทฟู๊ดไทย อย่างเลย์รสเมี่ยงคำ และอื่นๆยิ่งกินยิ่งคิดถึงไทย

3. เจ้าแห่งยาสีฟันอย่างดาร์ลี่ ของฝากจากไทย สุดแปลก

Darlie,ของฝากจากไทย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ยาสีฟันดาร์ลี่คือของติดไม้ติดมือที่คนเกาหลีจะหยิบกลับบ้านไปด้วยใช่ว่าที่ประเทศเกาหลีไม่มียาสีฟันขายนะ แต่เพราะว่ายี่ห้อดาร์ลี่หรือยี่ห้อแปลกอื่น ๆ ไม่มีขายที่เกาหลีต่างหาก อีกอย่างเรื่องของราคาที่แสนถูกจึงทำให้เป็นของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีทั้งหลายหอบหิ้วกลับบ้านกันคนละหลอดสองหลอดนั้นแหละ

4. ผลไม้ที่ผ่านการแปรรูป

ผลไม้แปรรูปไทย ป้าเพี้ยน กล้วยต่กอบน้ำผึ้ง ทุเรียน มะขาม

ผลไม้แทบจะทุกชนิดที่ผ่านการแปรรูปจะมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนาน
ขึ้น และยังมีความอร่อยมากขึ้น โดยเฉพาะทุเรียนทอด ถือเป็นไอเทมสุดฮิตของฝากจากไทย ที่ชาวกิมจิควรจะซื้อกลับ ประเทศมากที่สุด เพราะทุเรียนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งผลไม้ไทย ย่อมการันตีถึงความอร่อยได้อย่างแน่นอน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

5. กระเป๋าผ้าไทย

fashion textile silk handcraft bag,ของฝากจากไทย,handcraft bag

มาเมืองไทยทั้งทีก็ควรจะมีของอะไรไทย ๆ ติดมือกลับบ้านสักหน่อย กระเป๋าใส่ของที่ทำจากผ้าไทย ก็ถือเป็นของฝากจากไทย ที่บ่งบอกว่ามาเยือนถิ่นไทยได้อย่างชัดเจนซื้อกระเป๋าที่ทำจากผ้าไทยอย่างยี่ห้อ นารายา ก็ถือว่ามีระดับเลยทีเดียว หรือหากไปเยือนถิ่นอีสานก็กระเป๋าผ้าย้อมครามสักใบรับรองเกาหลีไม่มีอย่างแน่นอน

6. สบู่รสไม้

fruit soap carvings,ของฝากจากไทย

เป็นอีกหนึ่งของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีชอบมาก จริง ๆ ชาวต่างชาติที่มาไทยน่าจะซื้อติดไม้ติดมือกลับประเทศกันทุกคน นั่นก็คือสบู่ผลไม้อะโรม่า ที่ทำมาในรูปของผลไม้นั้นจริงๆ เช่น มังคุด กล้วย แต่ที่ขายดีที่สุดต้องยกให้มะม่วงเลย อาบน้ำทีเหมือนนั่งปอกมะม่วงอยู่ในห้องน้ำ ฮิตถึงขนาดที่เกาหลีก็เริ่มมีหลายแบรนด์ทำสบู่มะม่วงออกมาหน้าตาแบบนี้

ของฝากจากไทย เป็นสิ่งที่สะท้อนวัฒนธรรม

อันที่จริง ของฝากจากไทยยังมีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจและน่าเป็นตัวเลือกในการซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านแดนกิมจิอีกหลายชนิด เพราะของฝากแต่ละชิ้นย่อมแสดงถึงความสวยงาม วัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของคนไทยทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความน่าสนใจก็ไม่ได้อยู่ขึ้นอยู่ตรงเพียงแค่ของฝากอย่างเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับความตั้งใจของผู้ซื้อที่จะซื้อไปฝากผู้รับอีกด้วย

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ใบ/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋าในกรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้นที่ 299 บาท/ใบ และยังมีบริการส่งกระเป๋าเดินทางไปต่างจังหวัด เรามีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

อ่านเพิ่มเติม

4 ที่เที่ยว ณ แม่ฮ่องสอน สวรรค์ของคนรักธรรมชาติที่คุณต้องไปแอ่ว!

แม่ฮ่องสอน เป็นเมืองที่เรียกว่าโรแมนติกที่สุดอีกแห่งหนึ่งในประเทศไทย แถมเป็นเมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติ และอากาศดี โดยเฉพาะคนที่รักธรรมชาติ ที่นี่มีสถานที่ท่องเที่ยวไม่ว่าจะเป็นหมู่บ้านชาวเขาที่มีวัฒนธรรมพื้นเมืองดั้งเดิม ทั้งเรื่องการใช้ชีวิต อาหารการกิน และประเพณี หรือจะเป็นวัดที่มีความงดงามทางศิลปะตามแบบฉบับชาวเหนือ รวมไปถึงธรรมชาติที่ยังคงอุดมสมบูรณ์ และวันนี้เรามี 4 สถานที่ท่องเที่ยวที่มาแม่ฮ่องสอนแล้วต้องไปแอ่ว!

ถ้ำลอด

ถ้ำลอด

ถ้ำลอด เป็นจุดเช็คอินที่มาเที่ยวแม่ฮ่องสอนแล้วต้องแวะ ถ้ำลอดตั้งอยู่ที่อำเภอปางมะผ้า ห่างจากอำเภอปายไม่มากนัก ไฮไลท์ที่นี่คือการนั่งแพไม้ไผ่ นักท่องเที่ยวจะชมความสวยงามของถ้ำ โดยมีไกด์ท้องถิ่นเป็นคนแนะนำ บอกเล่าเรื่องราวภายในถ้ำว่ามีความเป็นมาอย่างไร ภายในจะมีภาชนะดินเผา โรงศพ และเครื่องใช้ในยุคนั้น ทั้งนี้ยังมีหินงอกหินย้อยให้พบเห็นอีกด้วย

วัดพระธาตุดอยกองมู

 วัดพระธาตุดอยกองมู

วัดพระธาตุดอยกองมู เป็นจุดที่เรียกว่าสวยที่สุดและควรมามากที่สุดหากมาเที่ยว แม่ฮ่องสอนเพราะเป็นเจดีย์แบบทรงมอญสีขาวแบบดั้งเดิม มีฐานแปดเหลี่ยม เป็นเจดีย์แบบปูนปั้น ประดับด้วยซุ้มพระอยู่บริเวณฐาน บนยอดพระธาตุสามารถมองเห็นวิวตัวเมืองทั้งเมือง ทั้งกลางวันและกลางคืน มีพระธาตุองค์เล็กโดยพระยาสิงหนาทราชา เป็นผู้ก่อสร้าง องค์ใหญ่บรรจุพระโมคคัลลานะเถระ ที่นำมาจากประเทศพม่า ทำให้เป็นที่เคารพและศรัทธาของคนที่นี่ 

สะพานซูตองเป้

 สะพานซูตองเป้

สะพานซูตองเป้ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยทอดยาวผ่านทุ่งนา เราจะเห็นภาพสวย ๆ ที่ใครมาแม่ฮ่องสอนต้องแวะชักภาพที่นี่เสียหน่อย เพราะสะพานแห่งนี้มีที่มาที่ไป สร้างด้วยการร่วมแรงร่วมใจจากชาวบ้าน เพื่อให้พระเณรเดินผ่านเพื่อมาบิณฑบาต ตัวสะพานสร้างด้วยไม้และไม้ไผ่ที่หาได้ในท้องถิ่น ทำให้สะพานแห่งนี้ถูกขนานนามว่าเป็นสะพานไม้แห่งศรัทธา

ปางอุ๋ง

 ปางอุ๋ง

ปางอุ๋ง คือโครงการในพระราชดำริ ปางตอง 2 เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวของแม่ฮ่องสอนที่ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย อ่างเก็บน้ำที่รายล้อมไปด้วยป่าสน ช่วงเช้าจะมีหมอกลอยเหนือผิวน้ำ บรรยากาศดีมาก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมมาแคมป์ปิ้งที่นี่ และไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดคือการมีโอกาสได้พบกับหงส์ขาวหงส์ดำ เจ้าถิ่นของที่นี่

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดเล็ก ๆ เหมาะสำหรับการเดินทางมาพักผ่อน สูดโอโซนและชาร์จแบตให้กับตัวเอง การเดินทางมาท่องเที่ยวที่นี่ปัจจุบันมาได้ค่อนข้างสะดวก มีรถโดยสารไปถึงทุกที่และมีสายการบินที่ช่วยให้การเดินทางมาเที่ยวเป็นเรื่องที่ง่ายมากขึ้น เรียกว่าหากมีเวลาว่าง ที่นี่แหละเป็นอีกแห่งที่เราอยากแนะนำ

บริการของแอร์พอเทลล์

แอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร พัทยา และบริเวณภูเก็ต

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

  • สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
  • สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

  • MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)
  • Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)
  • Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)
  • Terminal 21 Pattaya ชั้น 1, โซนปารีส
  • ICONSIAM ชั้น B2 โซนสยามทาคาชิมายะ
  • เยาวราช ไชน่าทาวน์ ชั้น 2 , อาคารพิชัยญาติ
  • Mixt Chatuchak ชั้น 2 , โซน B
  • Central Pattaya ชั้น 1 , ใกล้ประตูโรงแรมฮิลตันพัทยา 

ติดต่อเรา

อ่านเพิ่มเติม

20 ร้านอาหารเยาวราช อร่อยไม่หยุดตั้งแต่กลางวันยันกลางคืน ฉบับปี 2023

ถ้าถามถึงย่านของกินบ้านเรา เยาวราชก็คือหนึ่งในโลเคชั่นที่ทุกคนจะต้องคิดถึง เพราะที่นี่คือสถานที่รวบรวมแหล่งของกินขึ้นชื่อเอาไว้มากมาย โดดเด่นด้วยอาหารรสเลิศที่เปิดขายพร้อมทั้งกลางวันและกลางคืนให้เราได้เข้ามาใช้บริการ

การันตีด้วยลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต่อคิวแน่นขนัดทุกร้าน และต่อไปนี้ก็คือพิกัดร้านอร่อยเยาวราช 2023 ที่คุณต้องไม่พลาดเด็ดขาดเลย

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

รวมร้านอาหารเยาวราชกลางวัน

เพราะจริง ๆ แล้ว เยาวราชไม่ได้มีดีแค่ร้านอาหารกลางคืนเท่านั้น แต่กลางวันเองก็บอกเลยว่าเด็ดไม่แพ้กัน โดยเฉพาะร้านเจ้าเก่า ร้านในตำนานที่เปิดมานาน ซึ่งตอบโจทย์คนชอบอาหารที่มีความเป็นต้นตำรับสุด ๆ ไปดูกันว่ามีร้านไหนน่าโดนบ้าง

1. ไท้เฮง

ร้านอาหารเยาวราช, ไท้เฮง
Image : PookEats

ร้านเก่าแก่อายุกว่า 80 ปี ซึ่งเปิดเป็นภัตตาคารตั้งอยู่ภายในตรอกเต๊า แหล่งรวมความอร่อยหลากหลายเมนู ณ เยาวราชซอย 8 

  • เมนูห้ามพลาด : สุกี้โบราณ และ ข้าวมันไก่
  • เวลาเปิด-ปิด: จันทร์ – เสาร์ 10:00 – 17:00
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/Bpbddnu4XNyBe3R38
  • ช่องทางการติดต่อ : 093 – 656 – 5366

2. กู่หลงเปา

ร้านซาลาเปาสูตรแต้จิ๋ว ตำนานกว่า 100 ปีแห่งแยกหมอมี โดดเด่นด้วยเมนูซาลาเปาสูตรเฉพาะแต้จิ๋วโบราณ จัดเต็มไส้แน่น ๆ แป้งนุ่ม ๆ มาฟิน ชิม ความอร่อยสูตรโบราณกันได้เลย

  • เมนูห้ามพลาด : เปาไส้หมูสับไข่เค็ม
  • เวลาเปิด-ปิด: จันทร์ – เสาร์ 09:00 – 17:00
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/7thMftHqLrRfm5Yg8
  • ช่องทางการติดต่อ: 095-797-5747

3.เท็กซัสสุกี้

ร้านสุกี้สุดคงกระพัน แกร่งสุดในย่าน กับตำนานสุกี้ที่เปิดมานานกว่า 40 ปี ใครสายกินหนัก เน้นเยอะ และอร่อย ในราคามิตรภาพ มาลองกันได้เลย

  • เมนูห้ามพลาด: ลูกชิ้น ปลาสวรรค์ และ ข้าวอบสับปะรด
  • เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 21:00
  • ระดับราคา: 251 – 500 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/e3MSTS9zDjMkmNPs9
  • ช่องทางการติดต่อ: 02-623-3298, 02-223-9807 (สาขาเยาวราช), 02-115-4551 (สาขาเสนาเฟส เจริญนคร)

4.กั้งดอง ปูดอง เจ๊ดาเยาวราช

กั้งดอง ปูดอง เจ๊ดาเยาวราช
Image : Eh Nopphadon

ร้านทะเลดองในตำนานแห่งแรกที่เปิดอยู่คู่ย่านเยาวราชมานานมากกว่า 50 ปี เหมาะสำหรับคนที่เป็นสายของดองที่จะต้องมาตำให้ได้ หากใครหาไม่เจอให้มองหาป้ายร้านขายทองทองใบ ร้านเจ๊ดาจะอยู่หน้าร้านทองเลย

  • เมนูห้ามพลาด : กั้งดองไข่ กั้งดองเนื้อ
  • เวลาเปิด-ปิด: 08:30 – 18:00
  • ระดับราคา: 251 – 500 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/w2yCmuQDr2dvwKbK9
  • ช่องทางการติดต่อ: 088-495-0553, 099-152-5335, 089-219-2600

5.อุไร ห่านพะโล้ ทรงวาด

อุไร ห่านพะโล้ ทรงวาด (อุไร)
Image : NanNan

ร้านในตำนานบนถนนทรงวาดที่เปิดขายมานานกว่า 60 ปี กับเมนูห่านพะโล้ที่หมดไวจนเหมือนแจกฟรี ใครที่ชอบเมนูห่านพะโล้บอกเลยว่าชาตินี้ต้องไม่พลาดอุไร ห่านพะโล้ ทรงวาด

  • เมนูห้ามพลาด: ห่านพะโล้
  • เวลาเปิด-ปิด: 09:30 – 13:00 เปิดให้บริการทุกวัน
  • ระดับราคา: 120 – 380 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/dTX4UFTFoLFNzVjY9
  • ช่องทางการติดต่อ: 02-221-4413

6.เบญโอเดี้ยน

ร้านก๋วยเตี๋ยวผัดอร่อยเด็ดสุดในย่าน กับเมนูผัดงี่เง่าที่รสชาติไม่ธรรมดา และขอแนะนำว่าให้มาก่อนเวลาเปิด เพราะถ้าช้าได้ต่อคิวยาวแน่ ร้านเป็นร้านตั้งข้างทางหน้าเซเว่นนะคะ

  • เมนูห้ามพลาด : ผัดงี่เง่า ผัดหมี่ฮ่องกงรวมมิตร
  • เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 16:00
  • ระดับราคา: 100 บาททุกจาน
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/SMypKYXEAtcMgAg6A
  • ช่องทางการติดต่อ: 081-814-7479

7.โจ๊กเจ๊หมวยเกี้ย

โจ๊กเจ๊หมวยเกี้ย
Image : Anakin

ร้านโจ๊กชื่อดังที่ทุกคนต้องรู้จัก กับเมนูโจ๊กระดับตำนานที่เปิดมานานกว่า 60 ปี พร้อมให้คุณได้สัมผัสเมนูแสนอร่อยในราคาเบา ๆ รีบมานะ เพราะช้าหมดอดแน่

  • เมนูห้ามพลาด : โจ๊กใส่ทุกอย่างเพิ่มปาท่องโก๋
  • เวลาเปิด-ปิด: อังคาร – อาทิตย์ 04:30 – 10:00
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/Mhvr7Ft9XfiPFJPT9
  • ช่องทางการติดต่อ: 089-011-8802

8.Jok โต๊ะเดียว (เยาวราช)

ร้านในตำนานของเชฟจก การันตีความอร่อยด้วยรางวัล Michelin Guide ถ้าคุณเป็นสายล่าอาหารรางวัล มาที่นี่เลย เชฟจก จัดให้

  • เมนูห้ามพลาด: เกี๊ยวกุ้งลวก
  • เวลาเปิด-ปิด: 07:30 – 18:30 (เปิดทุกวัน)
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/v69vkY6QuMxZcqiE6
  • ช่องทางการติดต่อ: 062-947-6766, 099-629-2449

9.เล่าตั้งลือชื่อห่านพะโล้

เล่าตั้งลือชื่อห่านพะโล้
Image : TeakaDET

ร้านอาหารเปิดกลางวันชื่อดังย่านเยาวราช รางวัลการันตรีความอร่อยจากหลายสำนัก กับเมนูห่านพะโล้ที่ยากหาใครมาทัดเทียม

  • เมนูห้ามพลาด: ห่านพะโล้ และ ต้มซี่โครงหัวไชเท้า
  • เวลาเปิด-ปิด: 08:30 – 15:00 น.
  • ระดับราคา: 101 – 250 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/GzGBmDUnwVNwLDhg8
  • ช่องทางการติดต่อ: 02-221-6070, 089-215-8760, 085-155-5953

10.ไต่เซ๊งเยาวราช

ตำนานร้านอาหารจีน เปิดมากว่าสิบปี กับเมนูอาหารจีนเลิศรส เมนูระดับภัตตาคาร กับร้านอาหารจีนสไตล์ครอบครัวของแท้

  • เมนูห้ามพลาด : ขนมจีนกุ้ง ก๋วยเตี๋ยวหลอดกุ้ง ขนมผักกาด(ที่เริ่มหากินยากทุกวัน)
  • เวลาเปิด-ปิด: 11:00 – 14:00 และ 17:00 – 22:00
  • ระดับราคา: 251 – 500 บาท
  • Map Location : https://maps.app.goo.gl/tucpvj3VfiYQEjSZ8
  • ช่องทางการติดต่อ: 02-639-5855, 02-639-4040, 085-409-9412
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

รวมร้านอาหารเยาวราชกลางคืน

มาต่อกันที่ร้านเปิดกลางคืนที่บอกเลยว่าเด็ดสุด ใครที่เป็นสายทัวร์กินแล้วอยากหาร้านอร่อย ๆ จะต้องไม่พลาดเด็ดขาด ปิดดีลหิวตอนดึกตามรายการร้านแนะนำของเราได้เลยที่นี่

1.เจ้เข่งหมึกย่าง-เยาวราช

เจ้เข่งหมึกย่าง-เยาวราช
Image : Luknam

ร้านปลาหมึกย่างรถเข็นลับ ย่างถ่านแบบออริจินัล พร้อมด้วยน้ำจิ้มรสเด็ดของจริงที่สายแซ่บห้ามพลาด

  • เมนูห้ามพลาด : หมึกย่าง
  • เวลาเปิด-ปิด: 18.00-02.00 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: 40-400 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/UXKZpAo2feuaRc5m7
  • ช่องทางการติดต่อ: 094-464-1155

2.เจ๊ลั้งก๋วยเตี๋ยวแคระ ลูกชิ้นปลา

ร้านก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาอร่อยที่สุดในย่าน ที่จัดเต็มลูกชิ้นเน้น ๆ แน่น ๆ การันตีความเลิศรสด้วยประวัติร้านที่เปิดมานานกว่า 40 ปี

  • เมนูห้ามพลาด : ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟต้มยำ และก๋วยเตี๋ยวแห้ง
  • เวลาเปิด-ปิด: 18.00-22.00 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/u2aDWKVi7GNUc7tXA
  • ช่องทางการติดต่อ: 089-505-4736

3.ยิ้ม ยิ้ม ภัตตาคาร

ยิ้ม ยิ้ม ภัตตาคาร
Image : 8le

ร้านอาหารจีน การันตีความอร่อยมากอย่างยาวนานกว่า 100 ปี จัดเต็มความอร่อยด้วยเมนูอาหารจีนแต้จิ๋ว แบบดั้งเดิม รสเลิศ กินเพลินห้ามใจไม่อยู่

  • เมนูห้ามพลาด: กระเพาะปลาน้ำแดง ผัดหมี่ กระเพาะปลาผัดแห้ง
  • เวลาเปิด-ปิด: 11.00-14.00 และ 17.00-22.00
  • ระดับราคา: 200-400 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/bGe5UXSdMcPdRN4L7
  • ช่องทางการติดต่อ: 02-224-2205, 062-396-4255

4.Oyster bar by Sea Bah Bar

Oyster bar by Sea Bah Bar
Image : Ning Laksana

บาร์อาหารทะเลย่านเยาวราชบรรยากาศร้านสบาย ๆ ที่พร้อมยกทะเลมาไว้ที่เยาวราชให้คุณได้สัมผัสกับเมนูสุดฟินในยามค่ำคืน

  • เมนูห้ามพลาด : หอยเชลล์ญี่ปุ่นเนยกระเทียมอบชีส
  • เวลาเปิด-ปิด: 18.00-00.00 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: 100-1,799 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/2Qo6UGt6CFD3MZnK8
  • ช่องทางการติดต่อ: 096-879-7978

5.Claypot King

ร้านรูปแบบ Home Cook ครัวไทยเชื้อสายจีน ที่พิถีพิถันทุกเมนูด้วยความตั้งใจ ให้คุณได้สัมผัสกับความอร่อยพร้อมจิบบรรยากาศเยาวราชแบบสบาย ๆ

  • เมนูห้ามพลาด: ขาหมูจักรพรรดิ ไก่ดำตุ๋นยาจีน
  • เวลาเปิด-ปิด: 10.00-21.00
  • ระดับราคา: 90-500 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/zF8J1YPzJA8eiF3y6
  • ช่องทางการติดต่อ: 065-565-5835

6.Lucky Ngou 65

ร้านไอศกรีมเล็ก ๆ สัมผัสกับความเป็นเยาวราช ให้คุณได้ฟินไปกับความมินิมอลและความอบอุ่นแบบพิเศษที่ไม่เหมือนใคร

  • เมนูห้ามพลาด: ไอศกรีมเจลาโต้โฮมเมด
  • เวลาเปิด-ปิด: 12.00-22.00 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: 65-185 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/iHy8seEEERSkZPHWA
  • ช่องทางการติดต่อ: 093-926-5926

7.เกี๊ยวซ่าเยาวราช by เจ๊โอ๋

เกี๊ยวซ่าเยาวราช by เจ๊โอ๋
Image : Go Eat Chill

ร้านเกี๊ยวซ่าทอดเจ้าเก่าจากตลาดพลู พร้อมให้สาวกเมนูเกี๊ยวไปท้าประลองความอร่อยได้แล้วที่เยาวราชซอย 9

  • เมนูห้ามพลาด: เกี๊ยวซ่าทอดไส้หมู ไส้กุ้ง กุยช่าย
  • เวลาเปิด-ปิด: 15.00-23.00 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: 50-75 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/WCNd19WcoaN4JATD7
  • ช่องทางการติดต่อ: 087-516-1520

8.เซี้ยไชน่าทาวน์

ร้านอาหารจีนสไตล์พรีเมียม ขึ้นชื่อความอร่อยด้วยตำแหน่งต้นตำรับผัดหมี่ฮ่องกงเจ้าแรกในเยาวราชที่มีอายุมากกว่า 30 ปี

  • เมนูห้ามพลาด: กระเพาะปลาน้ำแดง ผัดหมี่ฮ่องกง
  • เวลาเปิด-ปิด: 15.30-00.30 (ปิดวันจันทร์)
  • ระดับราคา: 180-600 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/A3BThHCejKUnFF7y8
  • ช่องทางการติดต่อ: 096-915-6659

9.เซี่ยงกี่ข้าวต้มปลา

ร้านข้าวต้มปลาเตาถ่านในตำนานย่านเยาวราชมากกว่า 95 ปี กับการรังสรรค์ทุกเมนูด้วยความใส่ใจอย่างที่สุด

  • เมนูห้ามพลาด: ข้าวต้มปลาสไตล์จีน
  • เวลาเปิด-ปิด: 15.00-21.30
  • ระดับราคา: 300 – 500 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/wGpmBDCQWm57ARhR6
  • ช่องทางการติดต่อ: 089-968-6842

10.หมูสะเต๊ะแปลงนาม

หมูสะเต๊ะแปลงนาม
Image : Anakin

หมูสะเต๊ะร้านดังย่านเยาวราช ขึ้นชื่อเรื่องความอร่อย และคิวที่ยาวมาก บอกก่อนนะ ถ้าอยากกินต้องโทรจองคิวก่อนเท่านั้นนะ

  • เมนูห้ามพลาด: หมูสะเต๊ะ
  • เวลาเปิด-ปิด: 18.00-22.00 (ปิดวันจันทร์-วันพุธ)
  • ระดับราคา: ต่ำกว่า 100 บาท
  • Map Location: https://maps.app.goo.gl/FZGso7KemsRjSSZZ9
  • ช่องทางการติดต่อ: 086-548-4628
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

และทั้งหมดนั้นก็คือ 20 ร้านของกินเยาวราชกลางวันจนถึงกลางคืน 2023 ที่คุณสามารถทัวร์กินได้แบบยาว ๆ ไม่มีเบื่อเลย ร้านไหนยังไม่เคยไปลองก็ต้องรีบหน่อยแล้ว เพราะคิวยาวทุกร้านเลย

ที่มาของข้อมูล: wongnai, ryoiireview, chillpainai, bangkokbiznews

อ่านเพิ่มเติม

Boarding Pass คืออะไร สำคัญอย่างไรเมื่อเรามีเที่ยวบิน

Boarding Pass คือ กระดาษใบยาวๆ ที่เราได้รับหลังทำการเช็กอิน (check-in) เมื่อไปถึงสนามบิน มีใครเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าคืออะไรกันแน่ ทำไมเวลาเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ต้องใช้ Boarding Pass อยู่เสมอ และที่สำคัญ คือ ทุกคนจะทำ Boarding Pass หาย ไม่ได้นะ ไม่งั้นไม่ได้ขึ้นเครื่องแน่ๆ

Boarding Pass คืออะไร

Boarding Pass คือ เอกสารสำคัญที่ควรถือไว้คู่กับหนังสือเดินทาง (Passport) เพราะเป็นเอกสารที่มีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการบิน จึงมีไว้สำหรับยืนยันตัวตนของเราหลายระหว่างบิน โดยตัว Boarding Pass จะประกอบด้วยข้อมูลสำคัญของเรา ไม่ว่าจะเป็นชื่อ-นามสกุล หมายเลขเที่ยวบิน เวลาขึ้นเครื่อง เวลาถึงปลายทาง ประตูทางออกขึ้นเครื่อง ชั้นที่นั่งโดยสาร และเลขที่นั่งโดยสาร

จริงๆ แล้วถ้าเราทำ Boarding Pass หาย ไม่ใช่แค่เราจะไม่ได้ขึ้นเครื่อง แต่ยังเกิดความเสี่ยงต่างๆ ตามมาจากข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล เพราะ Boarding Pass นั้นมีบาร์โค้ดที่สามารถสแกนเข้าไปดูข้อมูลอื่นๆ ของเราได้เทียบเท่ากับตัวเล่ม Passport เลยนะ ดังนั้น เมื่อได้ Boarding Pass มาแล้ว ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าทำหาย หรือ ถ่ายรูปโพสต์ลงบนโซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นอันขาด

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

Boarding Pass คืออะไร

passport

เมื่อเราไปถึงสนามบินแล้ว เราไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ในทันที สิ่งแรกที่ทุกคนต้องทำเหมือนกันเลย คือ การเช็กอิน (check-in) หรือ การลงทะเบียนยืนยันการเดินทาง ซึ่งปกติแล้วทางสายการบินจะมีเคาน์เตอร์เตรียมไว้รอรับเราอยู่ใกล้ๆ กับประตูทางเข้าอยู่แล้ว พอทำการเช็กอิน (check-in) เสร็จ ทุกคนจะได้รับกระดาษสีขาวใบยาวๆ ที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในเที่ยวบินนี้ของเรามา เจ้ากระดาษใบนี้แหละ คือ “Boarding Pass”

  • การเช็กอิน (check-in) แบบอัตโนมัติด้วยตัวเอง ผ่านเครื่อง kiosk ตามจุดที่สนามบินเตรียมเอาไว้ให้ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยลักษณะของตู้ประเภทนี้จะคล้ายๆ กับตู้ ATM เราสามารถตอบคำถามต่างๆ ที่ตู้นี้ถามให้ครบ เช่น ชื่อ-สกุลอะไร นั่งตรงไหน สายการบินอะไร ถ้าตอบถูกหมด ก็จะได้รับ “Boarding Pass” เช่นเดียวกัน
  • บางสายการบินก็มีบริการเช็กอินออนไลน์ (online-check-in) ผ่านเว็บไซต์ โดยเราสามารถทำการเช็กอินได้ภายระยะเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนเครื่องออก ซึ่งการเช็กอินประเภทนี้ เราจะได้ “Boarding Pass” ในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถกดบันทึกไว้เป็นไฟล์รูปภาพภายในโทรศัพท์มือถือได้ วิธีนี้จะเป็นวิธีที่สะดวกสบายมากที่สุด แถมยังช่วยรักษ์โลกผ่านการลดปริมาณการใช้กระดาษได้อีกด้วย

ข้อมูลใน Boarding Pass

ไม่ว่าเราจะทำการเช็กอินแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นการเช็กอินหน้าเคาเตอร์ เช็กอินผ่านตู้ kiosk หรือเช็กอินผ่านช่องทางออนไลน์ Boarding Pass ที่ได้รับมา คือ Boarding Pass เดียวกัน สามารถใช้เป็นเอกสารในการขอขึ้นเครื่องบินได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระดาษสีขาวทรงแนวนอนแบบยาว หรือเป็นภาพไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะ Boarding Pass ที่เราได้รับมาจะมีข้อมูลสำคัญของตัวเรา ดังนี้

boarding pass

1.ชื่อ-นามสกุล ผู้โดยสาร

สำหรับชื่อ-นามสกุลของผู้โดยสารที่ปรากฎอยู่บน Boarding Pass นั้น อาจจะดูแปลกตาสำหรับคนไทย เพราะอย่างแรกเลย
คือ ชื่อ-นามสกุลผู้โดยสารที่ปรากฎอยู่บน Boarding Pass จะพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ และอย่างที่สอง คือ ชื่อ-นามสกุลบน Boarding Pass จะมีการสลับตำแหน่งกัน คือ นามสกุลจะปรากฎอยู่ข้างหน้า ส่วนชื่อจะอยู่ด้านหลังนามสกุลอีกที เช่น ถ้าคุณชื่อ Michel Jackson ชื่อ-นามสกุลที่ปรากฎอยู่บน Boarding Pass ของคุณ คือ Jackson Michel

โดยเราต้องตรวจทานให้ดีว่าชื่อ-นามสกุลของเรา มีการสะกดที่เหมือนกับชื่อ-นามสกุลที่ปรากฎอยู่บนหนังสือเดินทาง (Passport) หรือไม่ เพราะถ้าหากมีตัวอักษรสะกดแตกต่างกันแม้แต่ตัวเดียว เราก็อาจจะถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบินได้ และสำหรับใครที่ขึ้นเที่ยวบินภายในประเทศ อาจใช้บัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารยืนยันตัวตนแทนหนังสือเดินทาง (Passport) ได้เช่นกัน

2. หมายเลขเที่ยวบิน

ในส่วนของหมายเลขเที่ยวบินนั้น จะเป็นโค้ดตัวอักษรภาษาอังกฤษจำนวน 2 ตัว ตามด้วยตัวเลขอีก 3-4 หลักต่อท้าย ทุกคนจึงควรจำตัวอักษร 2 หลักแรกบน Boarding Pass ให้ดี เพราะตัวอักษรนั้น คือ รหัสที่จะบอกสายการบินที่ต้องขึ้น เช่น AK1234 ตัวอักษร AK ที่ปรากฎอยู่ด้านหน้า จะบอกให้รู้ว่าเที่ยวบินที่ต้องขึ้นเป็นเที่ยวบินของสายการบินใด ซึ่งแต่ละสายการบินจะมีรหัสตัวอักษรนำคู่ที่แตกต่างออกไป

3. เวลาขึ้นเครื่อง

สำหรับใครที่ได้รับ Boarding Pass มาแล้ว จะเห็นตัวเลข 3-4 หลัก ที่เขียนติดกันเอาไว้ โดยมีตัวอักษร A หรือ P ต่อท้าย มักปรากฎอยู่บริเวณที่ส่วนกลางของขอบกระดาษ เช่น 300A หรือ 1010P โดยเจ้าตัวโค้ด A หรือ P นี้ คือ ตัวเลขบอกเวลาขึ้นเครื่อง โดย 300A หมายถึง เวลา ตี 3 ส่วน 1010P หมายถึง เวลา 4 ทุ่ม 10 นาที

  • ตัวอักษร A นั้น ย่อมาจากคำว่า AM (Ante Meridiem) หมายถึง เวลา 12 ชั่วโมงหลังเที่ยงคืน
  • ตัว P นั้น ย่อมาจากคำว่า PM (Post Meridiem) หมายถึง เวลา 12 ชั่วโมงหลังเที่ยงวัน

นอกจากนี้ เราควรเผื่อเวลาก่อนขึ้นเครื่องสักเล็กน้อย หากเวลาขึ้นเครื่องบน Boarding Pass คือ 1130A หรือ 11 โมงครึ่ง เราก็ควรจะไปรอที่เกต (Gate) ตั้งแต่ 10 โมงครึ่ง หรือหากมาสาย ถ่ายรูป กินข้าว ช็อปปิงเพลินไปหน่อย ก็ควรมาถึงเกตอย่างช้าสุดตอน 11 โมงเช้า ไม่งั้นอาจตกเครื่องได้ เพราะไม่ใช่ว่ามาถึงเกตแล้วจะได้ขึ้นเครื่องทันที พี่ๆ แอร์โฮสเตสและสจ๊วต เขาจะเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องตามโซนและคลาสของที่นั่ง หากเราไปผิดเวลา อาจจะทำให้เกิดความล่าช้าได้

check in
  • โดยผู้โดยสารชั้น First Class และ Business Class จะได้ขึ้นเครื่องก่อน
  • ผู้โดยสารขึ้น Economy Class โดยจะเรียกขึ้นเครื่องตามโซนที่นั่ง ซึ่งใครได้ที่นั่งเข้าออกยากๆ บริเวณตรงกลางด้านหลัง ก็มักจะถูกเรียกให้ขึ้นเครื่องก่อน

พูดง่ายๆ คือ หากเราไม่อยากมีปัญหาในการเดินทาง จนต้องมาลุ้นว่าจะขึ้นเครื่องทันก่อนเครื่องออกหรือไม่ ให้ดูเวลาขึ้นเครื่องใน Boarding Pass ให้ดี คือ เวลาเครื่องออกเท่าไหร่ ควรไปรอที่เกตก่อนหน้าเวลาที่ปรากฎสัก 30-60 นาที ซึ่งเวลาที่เขียนอยู่บน Boarding Pass คือ เวลาท้องถิ่นที่สนามบินนั้นๆ ตั้งอยู่

4. เวลาถึงปลายทาง

ในส่วนของเวลาถึงปลายทาง คือ เวลาคาดการณ์โดยประมาณที่ครื่องบินจะลงจอดยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งมีหลักการในการเขียนตัวเลขลงใน Boarding Pass เหมือนกันกับการเขียนบอกเวลาขึ้นเครื่อง คือ ตัวเลข 3-4 หลัก แล้วตามด้วยตัวอักษร A หรือ P เช่น 1010A คือ 10 โมงเช้ากับอีก 10 นาที นั่นเอง

นอกจากนี้ เราควรปรับนาฬิกาให้เวลาตรงตามเวลาท้องถิ่นของปลายทางนั้นๆ โดยสามารถดูเวลาจาก Time Zone สากลได้ เช่น เมืองไทยมีรหัสโซนเวลาเป็น GMT+7:00 BKK นั่นหมายความว่า โซนเวลาของประเทศไทย ที่มีเมืองหลวง คือ กรุงเทพมหานครนั้น จะมีเวลาเร็วกว่าโซนเวลามาตรฐาน คือ เมืองกรีนิชประเทศอังกฤษ (Greenwich Mean Time) อยู่ 7 ชั่วโมง หากเราเดินทางไปจากเมืองไทยไปถึงประเทศอังกฤษ ก็ต้องปรับเวลาให้เร็วขึ้น 7 ชั่วโมง เช่น เวลาเครื่องลงจอดที่อังกฤษ นาฬิกาเราบอกเวลา 10 โมงเช้า เราก็ต้องปรับลดเวลาลง 7 ชั่วโมง ให้เป็นเวลา ตี 3 แทน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

5. ประตูทางออกขึ้นเครื่อง

อีกสิ่งสำคัญที่ Boarding Pass สามารถบอกเราได้ คือ ประตูทางออกขึ้นเครื่อง หรือ Gate นั่นเอง เพราะเครื่องบินโดยสารนั้นมีขนาดที่ใหญ่ ทำให้มีประตูทางออกขึ้นเครื่อง หรือ Gate หลายประตู แยกตามโซนและคลาสที่นั่ง เมื่อเราได้ Boarding Pass มาแล้ว ก็ต้องตรวจดูว่า เราได้ขึ้นเครื่องบินที่ประตูทางออกขึ้นเครื่อง หรือ Gate ไหน และจำหมายเลข Gate เอาไว้ให้ดี แต่บางครั้งอาจมีตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่ด้านบน คล้ายกับโซนของที่จอดรถ เช่น Gate B12 เป็นต้น

6. เลขที่นั่งโดยสาร

Boarding Pass คือ สิ่งที่สามารถบอกเลขที่นั่งโดยสารของเราได้ โดยมีเลขบอกแถวและที่นั่ง จะมีลักษณะคล้ายเลขที่นั่งเวลาไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเราต้องดูที่ตัวอักษรภาษาอังกฤษในหลักแรกก่อน ว่าเราได้นั่งแถวไหน และตามปกติแล้ว แถวหน้าสุดจะเป็นรหัส A แถวที่ 2 เป็น B แถวที่ 3 เป็น C เรียงตามลำดับ A-Z แล้วหลังจากนั้น ค่อยดูเลขที่นั่งต่อท้าย ว่าเราได้เลขที่นั่งอะไร โดยจะนับ 1 ที่ตำแหน่งซ้ายสุด เช่น A1 คือ ที่นั่งแถวหน้าสุด ติดริมหน้าต่างฝั่งซ้ายของตัวเครื่องบิน

7. ชั้นที่นั่งโดยสาร

สำหรับชั้นที่นั่งโดยสาร จะมีโค้ดเป็นตัวย่อภาษาอังกฤษต่อท้ายเลขที่นั่ง ซึ่งเป็นตัวอักษรแบ่งเอาไว้ตามหลักสากลให้ดูบน Boarding Pass เหมือนกันทุกสายการบิน คือ รหัส P J และ Yโดยรหัสทั้ง 3 มีความหมายดังต่อไปนี้

  • P หมายถึง First Class
  • J หมายถึง Business Class
  • Y หมายถึง Economy Class

ยกตัวอย่างเช่น Boarding Pass ระบุว่าคุณได้ที่นั่ง A1Y คือ คุณได้นั่งที่นั่งชั้นประหยัด (Economy Class) แถวแรก ติดหน้าต่างด้านซ้ายสุดนั่นเอง

boarding pass ทำอะไรได้บ้าง

Boarding Pass ทำอะไรได้บ้าง

อย่างที่กล่าวไป Boarding Pass คือ เอกสารที่สำคัญที่สุดแล้วในการเดินทางโดยเครื่องบิน ดังนั้น คุณต้องระวังไม่ให้ Boarding Pass หาย เพราะคุณต้องใช้ Boarding Pass เป็นเอกสารประกอบการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนระหว่างที่อยู่ในสนามบิน ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างการตรวจสอบ และโหลดกระเป๋า การโชว์ให้เจ้าหน้าที่ตรงประตูทางออกขึ้นเครื่องดู และโชว์ให้พนักงานต้อนรับดูตอนหาที่นั่ง

ตรวจสอบและโหลดกระเป๋า

การโหลดกระเป๋า

สำหรับใครที่ถึงสนามบินเร็ว และอยากเดินช็อปปิงสินค้าปลอดภาษีในสนามบินระหว่างรอขึ้นเครื่อง แต่ไม่อยากลากกระเป๋าไปมาให้พะรุงพะรัง สามารถนำกระเป๋าฝากกับ AIRPORTELs ก่อนได้ พอถึงเวลาค่อยกลับมานำกระเป๋าไปโหลดทีหลัง โดยใช้ Boarding Pass เป็นเอกสารในการยืนยันตัวตนว่าเราคือผู้โดยสารคนเดียวกับคนที่ได้เช็กอินไปก่อนหน้านี้ ของที่โหลดเพิ่มจะได้เอาไปรวมกับของเก่าที่โหลดเอาไว้ก่อนหน้าได้ถูกคน

โดยหลายคนเลือกที่จะมาช็อปปิงสินค้าในสนามบินกันค่อนข้างมาก เพราะนอกจากราคาจะถูกกว่าตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปแล้ว ยังสามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ฟรี เพิ่มเติมจากน้ำหนักมาตรฐานที่สายการบินแจ้ง หรือผู้โดยสารได้ซื้อน้ำหนักเอาไว้

โชว์ให้เจ้าหน้าที่ตรงประตูทางออกขึ้นเครื่องดู

เราจำเป็นต้องแสดง Boarding Pass โชว์ให้เจ้าหน้าที่ตรงประตูทางออกขึ้นเครื่องดู เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนว่าเราคือผู้โดยสารของสายการบินนั้นๆ และเราขึ้นเครื่องบินถูก Gate เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างต้น ว่าเครื่องบินโดยสารนั้นมีขนาดใหญ๋ และมีหลาย Gate หากขึ้นผิด Gate จะสร้างความลำบากให้กับเรา รวมถึงแอร์โฮสเตส และสจ๊วตบนเครื่องบินเวลาต้องหาที่นั่ง อีกทั้งยังเป็นการตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่าเราเป็นผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเครื่องบินมาอย่างถูกต้อง

โชว์ให้พนักงานต้อนรับดู

สาเหตุสำคัญที่ต้องโชว์ Boarding Pass ให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องดูอีกรอบ คือ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ให้จัดหาที่นั่งให้เราได้อย่างสะดวก และจะได้มีหลักฐานยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของที่นั่งนั้นๆ หากมีคนอื่นมานั่งที่นั่งของเราบนเครื่องบิน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

Boarding Pass คือ เอกสารที่สำคัญที่สุดในการเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะมีข้อมูลสำคัญต่างๆ มากมาย ทั้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขเที่ยวบิน เวลาขึ้นเครื่อง เวลาถึงปลายทาง ประตูทางออกขึ้นเครื่อง เลขที่นั่ง และชั้นโดยสาร แถมยังมีบาร์โค้ดที่สามารถเข้าไปแก้ไขชื่อ-นามสกุล และเที่ยวบินต่างๆ แบบออนไลน์ได้ด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่ทางเรานำมาฝาก ว่า Boarding Pass มีความสำคัญมากแค่ไหน ก่อนออกจากบ้านไปสนามบิน อย่าลืมเช็คกันน้า และทุกคนต้องเก็บรักษา และห้ามทำ Boarding Pass หาย ตลอดจนห้ามโพสต์ข้อมูลบน Boarding Pass ลงบนโซเชียลเป็นอันขาด

อ่านเพิ่มเติม

19 โรงแรมใกล้เยาวราชระดับตำนาน ห้ามพลาด

เยาวราช เป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญในกรุงเทพซึ่งเป็นที่รู้จักทั้งในกลุ่มคนไทยและต่างชาติ มีชื่อเสียงในเรื่องสตรีทฟู้ด รวมถึงยังมีเขตเมืองเก่าซึ่งคุณจะได้สัมผัสวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิม ความคึกคักของเยาวราชจะเริ่มในช่วงเย็น

ซึ่งเมื่อมาเที่ยวแล้วก็อาจไม่จบในวันเดียว เพราะมีร้านอาหารมากมายรอให้คุณลิ้มลอง ยิ่งไปกว่านั้นช่วงระหว่างวันก็ยังเที่ยวบริเวณใกล้เคียงอย่างเช่นเกาะรัตนโกสินทร์ได้ ถ้ามีโรงแรมในโซนเยาวราชให้พักก่อนเที่ยวในวันรุ่งขึ้นก็คงดี

ถ้าคุณกำลังมองหาที่พักในโซนเยาวราช วันนี้เราจัดมาให้ถึง 19 โรงแรม โดยเป็นที่พักระดับตำนาน ไปดูกันได้เลยครับ!

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

1. Grand China Hotel Bangkok

ขอเริ่มด้วยโรงแรมเก่าแก่บนถนนเยาวราช และเป็นโรงแรมที่นักท่องเที่ยวต่างยกให้เป็นโรงแรมที่ให้บริการระดับ First Class จุดเด่นของที่นี่คือห้องพักที่ให้คุณได้เห็นวิวแบบ 360 องศา มีอ่างอาบน้ำอยู่ติดริมระเบียงซึ่งกั้นไว้ด้วยกระจกสีใสทำให้คุณได้เห็นวิวเยาวราชอย่างชัดเจน

2. Shanghai Mansion Bangkok

จุดเด่นของที่นี่คือการตกแต่งด้วยผ้าไหมพร้อมด้วยเฟอร์นิเจอร์สีสันสดใส ภายในโรงแรมมีบริการสปา พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ภายในห้องพักก็พรั่งพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก และยังมีสวนในร่มขนาดใหญ่ รวมถึงการเดินทางก็สะดวกด้วย เพราะอยู่ใกล้ MRT วัดมังกรในระยะที่เดินถึงได้สบาย

3. Ago Hotel Chinatown

อีกหนึ่งโรงแรมที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ห้องพักตกแต่งสไตล์เรียบง่าย และบางห้องยังมีวิวสวนให้รับชมอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารบุฟเฟต์นานาชาติให้ผู้เข้าพักด้วย

4. Hotel Royal Bangkok @ Chinatown

โรงแรมที่เปิดมานานหลายปี เป็นที่รู้จักในกลุ่มชาวต่างชาติโดยเฉพาะชาวจีนที่มาเยาวราช ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น และมีห้องพักให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่ห้องแบบ Superior ไปจนถึงห้องแบบ Suite ซึ่งมีห้องนั่งเล่น จัดเป็นโรงแรมระดับ 4.5 ดาว จึงขึ้นชื่อเรื่องความหรูหราอยู่สบาย และยังมีบริการห้องจัดเลี้ยงด้วย

5. The Quarter Hualamphong by UHG

รู้จักกันอีกในชื่อโรงแรม Prime Hotel Central Station Bangkok ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นผสมกับสไตล์มินิมอล เป็นโรงแรมระดับสี่ดาว เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายทั้งในเรื่องการเดินทางและการพักผ่อน ตัวโรงแรมตั้งอยู่ตรงข้าม MRT หัวลำโพง โดดเด่นด้วยห้องพักที่สามารถมองเห็นวิวกรุงเทพแบบ 360 องศาได้จากภายในห้อง 

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

6. Villa De Pranakorn – Relais & Chateaux

โรงแรมที่ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าของกรุงเทพฯ รายล้อมด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญมากมาย ตัวโรงแรมตกแต่งสไตล์โมเดิร์น จัดว่าเป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว จึงการันตีได้เลยในเรื่องความหรูหราสะดวกสบาย พูดถึงการเดินทางจากที่นี่ไปเที่ยวเยาวราช ก็จัดว่าไม่ไกล

7. Miramar Hotel Bangkok

จุดเด่นของที่นี่คือตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์ รายล้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ และไม่ไกลจากแหล่งของกินรวมถึงที่เที่ยวซึ่งเป็นไฮไลท์สำคัญของเยาวราช ตัวโรงแรมตกแต่งในรูปแบบซึ่งเน้นความเป็นไทยโดยผสานให้เข้ากับสิ่งอำนวยความสะดวกแบบโมเดิร์นได้อย่างลงตัว

8. The Krungkasem Srikrung Hotel

โรงแรมสไตล์คลาสสิกซึ่งอยู่คู่กับสถานีรถไฟหัวลำโพงมาอย่างยาวนาน ตกแต่งด้วยเครื่องกระเบื้อง มีลิฟต์แบบเก่าซึ่งยังคงใช้งานได้จริงและไม่ค่อยเห็นตามสถานที่ต่าง ๆ ในทุกวันนี้แล้ว Coffee Shop ของโรงแรมตกแต่งสไตล์ Retro ใครต้องการที่พักแบบคลาสสิก ต้องที่นี่เลย

9. The Spades Private Residence

ตัวโรงแรมตกแต่งสไตล์โมเดิร์น ภายในห้องพักมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เน้นตกแต่งด้วยโทนสีที่ดูสบายตา พร้อมวิวเมืองและวิวพื้นที่สีเขียวจากห้องพัก จึงเหมาะกับการพักผ่อนหลังจากเที่ยวมาทั้งวัน

10. Room Quest 2499 Heritage Hotel Chinatown

ตัวโรงแรมตั้งอยู่ตรงซุ้มประตูวัฒนธรรมไทย-จีน ตกแต่งภายนอกด้วยสไตล์สถาปัตยกรรมจีน ผสานเข้ากับการแต่งห้องพักสไตล์มินิมอลได้อย่างลงตัว

11. Lhong Yaowarat Boutique Hotel & Cafe

ที่พักซึ่งได้รับการปรับปรุงจากอาคารเก่าอายุ 80 ปี ชั้นล่างเปิดเป็นคาเฟ่ ส่วนชั้นบนเป็นที่พักแบบโฮสเทล คาเฟ่ตกแต่งสไตล์วินเทจไม่ว่าจะเป็นโทนสีและเครื่องกระเบื้องเพนต์มือ มีห้องพักให้เลือกสามแบบ เหมาะทั้งมาพักผ่อนคนเดียวและกับครอบครัว

12. The Mustang Blu

ตัวโรงแรมรีโนเวตจากอาคารแบบโคโลเนียลอายุกว่า 100 ปีโดดเด่นด้วยพื้นไม้และเฟอร์นิเจอร์ไม้ ชั้นล่างของโรงแรมเปิดเป็นคาเฟ่ มาพร้อมกับห้องพักให้เลือกสองรูปแบบโดยตกแต่งในสไตล์วินเทจ

13. Live Local Yaowarat

LIVE LOCAL
Image : LIVE LOCAL

ที่พักสไตล์วินเทจ ตัวอาคารเป็นสไตล์ห้องแถวโบราณ มีคาเฟ่ให้บริการบริเวณชั้นล่าง ห้องพักมีให้เลือกทั้งแบบเตียงเดี่ยวและเตียงสองชั้น สำหรับการเดินทางก็สะดวกเพราะอยู่ใกล้ MRT สถานีวัดมังกร

14. Luk Hostel

อีกหนึ่งโรงแรมที่ได้รับการปรับปรุงจากอาคารเก่า ผสานสไตล์โมเดิร์นเข้ากับสถาปัตยกรรมจีนดั้งเดิมได้อย่างลงตัว มีให้เลือกทั้งห้องพักรวมแบบโฮสเทลและห้องพักแบบส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีบาร์และพื้นที่ส่วนกลางของแต่ละชั้นให้พักผ่อน

15. Old Thai Heng Hotel

ตัวโรงแรมรีโนเวตจากอาคารเก่าอายุกว่า 60 ปีโดยคงโครงสร้างสถาปัตยกรรมแบบจีนดั้งเดิมไว้และผสานเข้ากับความโมเดิร์นได้แบบลงตัว ช่วยให้คุณได้สัมผัสความอบอุ่นของวัฒนธรรมจีนแบบดั้งเดิม

16. Cacha Bed Heritage Hotel

เดินทางสะดวกสบายเพียงแค่ลง MRT สถานีสามยอด ตัวโรงแรมรีโนเวตจากอาคารเก่าทรงวิคตอเรียนซึ่งสร้างมาตั้งแต่ปีค.ศ. 1900 ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้เก่าแก่ ซึ่งบางชิ้นมีอายุตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 ถือเป็นเอกลักษณ์ของที่นี่ซึ่งไม่ซ้ำแบบใคร

17. China Town Hotel

โรงแรมตั้งอยู่ใจกลางเยาวราช ตกแต่งสไตล์จีนผสมกับสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีสว่างทำให้รู้สึกสบายตา เหมาะกับการพักผ่อนเพราะในห้องพักแบ่งสัดส่วนอย่างชัดเจน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

18. ASAI Bangkok Chinatown

asaihotels
Image : asaihotels

ตกแต่งด้วยสไตล์เรียบง่าย ผสานการเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีอ่อนทำให้ดูแล้วสบายตา เหมาะกับนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักผ่อนด้วยความสงบ

19. The Orientale

ปิดท้ายกับบูติคโฮสเทลสุดหรู อยู่ในทำเลที่ดี ห่างจาก MRT สถานีหัวลำโพงในระยะที่เดินได้ ด้วยทำเลแบบนี้ทำให้สามารถเดินไปทุกจุดในเยาวราชได้แบบสบาย ๆ 

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ 19 โรงแรมที่เราจัดมาให้ มีตั้งแต่บูติคโฮเทลไปจนถึงโรงแรมระดับ 5 ดาว หลายที่ได้รับการปรับปรุงจากอาคารเก่าโดยยังคงเอกลักษณ์โครงสร้างเดิมเอาไว้ ทำให้มีสไตล์ไม่เหมือนใคร

มาเยาวราชครั้งต่อไป ไม่จำเป็นต้องรีบกลับอีกแล้ว เลือกโรงแรมจากลิสต์ของเรา และพักผ่อนให้สบายก่อนเริ่มวันใหม่ดีกว่า ไม่ว่าจะมาเที่ยวหรือติดต่อธุรกิจ ก็มีที่พักถูกใจสำหรับคุณอย่างแน่นอน

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล