สายเดินทางต้องอ่าน! วิธีดูแลรักษากระเป๋าระหว่างเดินทางไม่ให้พัง

วิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง

ใครที่เดินทางบ่อย ๆ ชีพจรลงเท้าประจำ การมีกระเป๋าเดินทางคู่ใจสักใบนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะมันจะช่วยแบ่งเบาสัมภาระต่าง ๆ ของคุณในการเดินทางได้ดีทีเดียว แต่ก็อย่างที่เห็นกันในทุกทริปการเดินทางมันไม่ได้ราบรื่นไปเสียหมด ยิ่งถ้าเป็นเครื่องบินด้วยแล้วโอกาสที่กระเป๋าของคุณจะโดนกระแทก โดนโยนจนทำให้เกิดความเสียหายหรือสิ่งของต่าง ๆ ภายในกระเป๋าหลุดร่วงออกมามีสูงมาก ดังนั้นการ วิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง เพื่อไม่ให้พังระหว่างทางรวมถึงไม่ให้สิ่งของข้างในร่วงหล่นออกมาจึงต้องมีวิธีดังนี้

วิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง

1. ล็อกกระเป๋าเดินทางด้วยรหัสแน่นหนา

กระเป๋าเดินทางยุคใหม่จะมีรหัสที่ใช้ในการล็อกกระเป๋าก็สามารถใส่รหัสที่ว่าแล้วล็อกกระเป๋าได้เลย แต่ถ้าหากของใครไม่มีง่ายนิดเดียวแค่ซื้อกุญแจแบบรหัสล็อกมาคล้องเอาไว้อีกชั้นจะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งของข้างในร่วงหล่นลงมารวมถึงคนที่จะขโมยของในกระเป๋า แต่สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเลยคือรหัสของกระเป๋าตนเอง

2. รัดกระเป๋าให้แน่นกว่าเดิม

สำหรับคนที่ไม่มั่นใจว่ากระเป๋าเดินทางของตนเองแน่นหนามากพอหรือยัง วิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง ที่น่าสนใจอีกแบบคือ รัดกระเป๋าเดินทางให้แน่นหนา โดยอาจใช้ถุงคลุมแล้วรัดไว้อีกทีหรือการใช้เชือกรัดกระเป๋าอีกรอบก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน โดยการรัดกระเป๋าจะทำให้ความแน่นหนาเพิ่มมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการร่วงหล่นแล้วแตกกระจายได้พอสมควร

วิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง

3. ฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้หรือสถานที่รับฝาก

สำหรับใครที่แม้จะเช็คอินออกจากโรงแรมแล้วแต่ยังต้องการเที่ยวโดยไม่อยากแบกของไปด้วย สามารถนำกระเป๋าเดินทางฝากไว้กับล็อบบี้โรงแรมหรือฝากไว้ตามสถานที่ฝากในสนามบิน แล้วค่อยเดินทางไปนั่นไปนี่ แต่อย่าลืมมาเอากระเป๋าเดินทางกลับไปด้วย แค่นี้ก็ช่วยให้กระเป๋าคุณไม่ต้องตะลอนไปตลอดทั้งวันแบบง่าย ๆ

4. ส่งกระเป๋าไปก่อน

สำหรับใครที่ไม่มั่นใจว่าการแบกกระเป๋าไปเองอาจทำให้เกิดความเสียหายง่ายกว่าเพราะต้องเจอกับผู้คนและการจัดเก็บสัมภาระจำนวนมาก แนะนำว่าให้ส่งกระเป๋าเดินทางไปก่อนล่วงหน้าก็ได้ แต่วิธีนี้มักใช้กับคนที่ต้องไปอยู่นาน ๆ มีเสื้อผ้าของใช้เยอะกว่าการไปเที่ยวทั่ว ๆ ไป

นอกจาก 4 วิธีนี้ยังมีวิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง อีกหลากหลายที่จะช่วยทำให้คุณสามารถใช้กระเป๋าใบโปรดได้อีกนาน เช่น ติดสติ๊กเกอร์ระวังแตก, ไม่ใส่ของจนล้นเกินไป เป็นต้น ซึ่งหากรู้ว่าควรดูแลกระเป๋าใบโปรดของคุณอย่างไรจะทำให้ทุกทริปเดินทางมีความสุข ลากกระเป๋าไปที่ไหนก็ลุยได้ตลอดเวลา

5 อันดับกล้องที่เหมาะแก่การพกพาไปเที่ยว

ในยุคที่คนชอบเที่ยวพลาดไปไม่ได้เลยคือการถ่ายรูป เช็คอินแล้วแชร์ให้เพื่อน ๆ ได้รู้ เพราะแต่ละทริปเป็นทริปที่เราประทับใจและอยู่ในความทรงจำ การมีกล้องดี ๆ สักตัว พกพาง่าย ถ่ายรูปสวย เอาไว้เก็บภาพ แล้วแชร์ถือว่าเป็นอีกหนึ่งสิ่งของนักท่องเที่ยวที่ไม่ควรพลาด ทำให้ตลาดก้องถ่ายรูปผลิตกล้องดี ๆ ขนาดน่าพกพาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้า ซึ่งวันนี้เราจะมารีวิว 5 กล้องสำหรับเที่ยว ที่คุณควรมี

FUJIFILM X-T30,กล้องสำหรับเที่ยว

1. Fuji XT30

เป็น กล้องสำหรับเที่ยว ที่มีขนาดน่ารัก น่าพกพอ เป็นล้องแบบ Mirrorless ถ่ายวีดีโอได้ 4K เหมาะสำหรับสายเที่ยวที่ชอบรีวิว และ Vlog มาพร้อมระบบออโต้โฟกัส เหมาะมากสำหรับนักเดินทาง และไม่ชอบการปรับอะไรมาก จุดเด่นคือสามารถปรับ ISO ต่ำสุดที่ 160 และสูงสุดที่ 12800 ถ่ายภาพต่อเนื่องไป 8 ภาพต่อวินาที ต่อบลูทูธ และ wifi ได้

Panasonic DC-GF10,กล้องสำหรับเที่ยว

2. Panasonic Lumix GF10

รุ่นนี้สำหรับสายเที่ยวที่ชอบเซลฟี่ น้ำหนักเบาและค่อนข้างตอบโจทย์  กล้องรวมเลนส์แล้วน้ำหนักยังเบา ประมาณ 337 กรัม สามารถถ่ายวีดีโอได้ 4K เชื่อมต่อ WiFi ได้ มีจอแสดงผล 3 นิ้ว จุดเด่นตรงการถ่ายภาพแบบ Portrait  ที่โฟกัสสิ่งที่ต้องการถ่ายหรือตัวแบบได้ค่อนข้างชัดและอีกส่วนหนึ่งคือโหมดถ่ายภาพ selfie ที่มีโหมดหน้าเนียน เรียกว่าถูกใจคนที่ชอบถ่ายรูปมาก ๆ

Olympus OM-D E-M10 Mark III,กล้องสำหรับเที่ยว

3. Olympus OM-D E-M10 Mark III

ไต่ระดับมาอีกนิดสำหรับสายลุยและชอบภาพที่คมชัด รุ่นนี้จุดเด่นที่ Micro Four Thirds มีจุดโฟกัสทั้งหมด 21 จุด ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล หน้าจอ LCD มีปุ่มแบบสัมผัส เล่นง่าย น้ำหนัก 410 กรัม กล้องดีไซส์สวยงาม

fujifilm x-a5,กล้องสำหรับเที่ยว

4. Fujifilm XA5

ใครชอบความเล็กกะทัดรัด แนะนำตัวนี้ ดีไซส์สวย มาพร้อมฟังก์ชั่นที่น่าสนใจ APS-C เซ็นเซอร์ไม่ใหญ่มาก สามารถถ่ายภาพหน้าชัดหลังเบลอได้สวยไม่แพ้รุ่นอื่น ๆ ปรับโหมดต่าง ๆ ได้ไม่แพ้กล้อง DSLR มีช่องเสียบไมค์ สำหรับใครที่ชอบถ่ายวีดีโอ หรือรีวิว ถ่ายเซลฟี่ง่าย  สีสวยชัดเจน

Fujifilm X-T100

5. Fujifilm X-T100

รุ่นนี้จาก Fuji ตอบโจทย์รูปแบบการถ่ายภาพของคนยุคนี้ มาพร้อมฟังก์ชั่น ไม่ว่าจะเป็นการปรับโหมดให้เหมือนการถ่ายภาพกล้องฟิล์ม ทั้งสี และการโฟกัสภาพ มี Pop-up Flash มาพร้อมช่องมองภาพที่สามารถปรับให้เหมาะสมกับช่างภาพได้ แบตอึด สามารถถ่ายได้ 430 ภาพกรณีที่แบตเต็ม บอดีสวย พกพาง่าย

สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวนั้น เรียกว่าหากเราได้เก็บภาพ ทุกช็อต ทุกที่ที่ไป เมื่อนำภาพกลับมาดูเราก็จะนึกถึงเรื่องราวความประทบใจนั้น ๆ จึงจำเป็นมากสำหรับการมี กล้องสำหรับเที่ยว ดี ๆเอาไว้สักตัว ซึ่งกล้องที่เราแนะนำไปนั้นเป็นรุ่นที่พอเหมาะ น้ำหนักเบา ราคาไม่แรง ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคุณ

5 แอปฯ ที่จะทำให้การเดินทางของคุณสะดวกขึ้น

เดี๋ยวนี้เวลาจะไปเที่ยวที่ไหน ๆ ในประเทศหรือต่างประเทศเป็นเรื่องทีสะดวกสบาย ทำให้คุณสามารถวางแผนการเดินทางและเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับทุกทริปได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องมานั่งกังวลใจว่าทริปนี้จะเจอพายุฝนหรือพบปัญหาเรื่องแลกเงินระหว่างทาง เพราะเพียงโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเครื่องเดียวก็ทำให้การเดินทางง่ายขึ้น ด้วย 5 แอปช่วยในการเดินทาง ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้การท่องเที่ยวสนุกสนานยิ่งขึ้น

Google Maps service,แอปช่วยในการเดินทาง

1. Google map

หนึ่งใน แอปช่วยในการเดินทาง ยอดนิยมของคนส่วนใหญ่ เพราะเป็นตัวช่วยกันหลงใช้ได้ทุกพื้นที่ทั่วโลก พร้อมทั้งยังหาพิกัดสถานที่ต่าง ๆ พร้อมวิธีการเดินทางที่เร็วที่สุดให้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นแอปที่เหมาะกับนักเดินทางที่สุด นอกจากนั้นยังใช้หาสถานที่ต่าง ๆ ที่ใกล้เคียงกับจุดที่เราอยู่ เช่น ร้านอาหาร โรงพยาบาล ปั๊มน้ำมันได้อีกด้วย

Google translate

2. Google Translate

ปัญหาสำคัญของการท่องเที่ยวต่างประเทศคือ เรื่องภาษาและการสื่อสาร Google Translate เป็นอีก แอปช่วยในการเดินทาง ที่นักเดินทางทุกคนต้องมีในมือถือไว้ใช้แปลภาษาให้สื่อสารได้ง่ายขึ้น สำหรับสั่งอาหาร ถามทาง อ่านป้ายต่าง ๆ ด้วยความพิเศษที่สามารถแปลจากเสียงพูดได้เลย หรือเปิดกล้องถ่ายข้อความที่ต้องการแปล ก็สามารถแปลให้อัตโนมัติ ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ให้ยุ่งยาก

The Weather Channel mobile app,แอปช่วยในการเดินทาง

3. The Weather Channel

สภาพอากาศที่ไม่เป็นใจก็เป็นอุปสรรคกับการท่องเที่ยว การตรวจเช็คอากาศก่อนออกเดินทางจึงเป็นเรื่องห้ามพลาด The Weather Channel เป็นแอปพลิเคชั่นที่ช่วยเช็คสภาพอากาศ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนออกเดินทาง จะได้วางแผนกิจกรรมและการเดินทางได้อย่างเหมาะสม ช่วยให้การออกทริปท่องเที่ยวง่ายยิ่งขึ้น

Skyscanner Flights app,แอปช่วยในการเดินทาง

4. Skyscanner

เป็นแอปพลิเคชั่นที่ช่วยค้นหาตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรมที่พักและรถเช่าขับ ในทุกสถานที่บนโลกที่คุณต้องการเดินทางไปท่องเที่ยว แบบคุณภาพที่ดีที่สุดแต่ในราคาที่สุดแสนประหยัดสุด ๆ จะทำให้เราสามารถวางแผนการเงินสำหรับค่าเดินทางและที่พักได้ชัดเจน อุ่นใจได้ว่ามีตั๋วเดินทางและที่พักแน่นอน ไม่ต้องติดต่อเองให้ยุ่งยากและที่สำคัญถูกกว่าดำเนินการเองเป็นไหน ๆ ถือว่าสบายกระเป๋าเที่ยวได้อย่างสุขใจแน่นอน

cryptocurrency and future technology concept,แอปช่วยในการเดินทาง

5. My Currency

แอปพลิเคชั่นที่ช่วยคำนวณอัตราเงินในต่างประเทศแบบอัปเดตได้ทุกเวลา สามารถคำนวณอัตราการแลกเปลี่ยนเงินจากสกุลเงินต่าง ๆ เป็นเงินบาทไทยได้ง่าย ๆ เพียงแค่ใส่จำนวนเงินเข้าไป แอปฯ ก็จะแปลงค่าเงินตามอัตราแลกเปลี่ยนช่วงนั้นให้อัตโนมัติ ไม่ต้องคอยกดเครื่องคิดเลขให้วุ่นวาย ช่วยให้การการช็อปปิ้งสะดวกสบายยิ่งขึ้น

ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ๆ ถ้ามีแอปช่วยในการเดินทาง ทั้ง 5 นี้ติดสมาร์ทโฟนไว้ ทุก ๆ การเดินทางจะมีประสิทธิภาพ สามารถท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบายง่ายขึ้นอีกเยอะ

How to หลบโจรล้วงกระเป๋าอย่างไรให้ปลอดภัยในการท่องเที่ยว

ข่าวคราวที่พบเห็นกันบ่อย ๆ เกี่ยวกับนักท่องเที่ยวก็คือ ถูกล้วงกระเป๋า ฉกชิงทรัพย์สินมีค่าไปโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว ซึ่งไม่ว่าจะเป็นที่ไหนบนโลกก็มักจะมีมิจฉาชีพมาคอยก่อกวนให้ยุ่งยากใจเสมอ ๆ เราจึงต้องระมัดระวังตัวและทรัพย์สินอย่างรัดกุมระหว่างท่องเที่ยว วันนี้เรามีทริกดี ๆ เป็น วิธีป้องกันตัวจากมิจฉาชีพ ง่าย ๆ มาฝาก ดังนี้

5 วิธีป้องกันตัวจากมิจฉาชีพ

Wallet black leather

1. ไม่ควรพกกระเป๋าสตางค์ไว้ในกระเป๋ากางเกง

การใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ในกระเป๋ากางเกงเสี่ยงต่อการถูกมิจฉาชีพล้วงฉกได้ง่าย เพราะมีขนาดเล็กและตื้น ยิ่งเป็นกระเป๋ากางเกงด้านหลังยิ่งมีความเสี่ยงมาก ๆ ถ้าเรามัวเดินชมวิวทิวทัศน์หรือใช้โทรศัพท์อยู่ละก็ ไม่มีทางรู้ตัวเลยหากมีใครแอบมาล้วงหยิบไป และเสี่ยงต่อการหล่นหายในระหว่างทางได้ง่าย

Young hipster man

2. ใช้กระเป๋าแบบคล้องคอ หรือ cross body

แนะนำให้ใช้กระเป๋าเล็ก ๆ คล้องคอ หรือกระเป๋าแบบ cross body แทนกระเป๋าสะพายข้างในระหว่างท่องเที่ยว เพราะกระเป๋าประเภทนี้จะอยู่ด้านหน้าลำตัวเรา ซึ่งสามารถมองเห็นได้ตลอดเวลา ไม่เหมือนกระเป๋าแบบสะพายข้าง ซึ่งจะอยู่ข้างลำตัวและเสี่ยงต่อการถูกกรีดถูกล้วงโดยง่าย แนะนำอีกนิดว่าควรสวมแจ็คเก็ตทับอีกชั้นเพื่อป้องกันบรรดามิจฉาชีพล้วงกระเป๋า

A doller bills in a wallet

3. แบ่งเงินเป็นหลายส่วน

เป็น วิธีป้องกันตัวจากมิจฉาชีพ ที่เบสิกสุดคือ ไม่ควรเก็บเงินหรือของมีค่าไว้ที่ใดที่หนึ่งโดยเฉพาะ ควรมีการแบ่งแยกเงินไว้เป็นส่วน ๆ เช่น ในกระเป๋าสตางค์ส่วนหนึ่ง ในกระเป๋าเสื้อบริเวณหน้าอก หรือในกระเป๋าแบบคล้องคอ แล้วสวมเสื้อคลุมทับอีกที ไม่แนะนำให้เก็บไว้ในกระเป๋ากางเกงเพราะเสี่ยงต่อการถูกล้วงง่ายมาก

getting cash

4. สะพายเป้ไว้ด้านหน้า

สำหรับใครที่ชอบใช้กระเป๋าเป้สะพายหลังควรเปลี่ยนมาสะพายด้านหน้าแทน เพราะเราจะมองเห็นได้ตลอดเวลาอีกทั้งยังควบคุมได้ง่าย หากสะพายไว้ด้านหลังเสี่ยงต่อการถูกมิจฉาชีพเปิดกระเป๋าได้ง่าย ๆ ชนิดที่เราเองก็ไม่รู้ตัวได้เลย

Man with shoulder bag

5. หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด

สถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวหรือผู้คนจำนวนมากมักจะเสี่ยงต่อการโดนล้วงกระเป๋า จึงไม่ควรไปคนเดียว หากมีความจำเป็นต้องเดินทางไปคนเดียวควรหลีกเลียงไปสถานที่แออัดหรือทางที่ดีคือควรเดินทางไปกันเป็นกลุ่มจะมีความปลอดภัยกว่า

ทั้งหมดนี้เป็น วิธีป้องกันตัวจากมิจฉาชีพ ง่าย ๆ ที่ช่วยดูแลตัวเองในเบื้องต้นระหว่างท่องเที่ยวได้ เพราะการไปในที่ต่าง ๆ มีทั้งคนดีและคนไม่ดีคละเคล้าปะปนกันไปเสมอ การป้องกันดูแลทรัพย์สินของตนเองเป็นปัจจัยแรกที่เราต้องคำนึงถึงเป็นพิเศษ และที่สำคัญ ต้องมีสติอยู่กับตัวตลอด ไม่ตื่นตระหนก ไม่ประมาท เพียงเท่านี้มิจฉาชีพก็ทำอะไรเราไม่ได้แล้ว

จัดกระเป๋าอย่างไรให้ประหยัดเนื้อที่

จะออกเดินทางแต่ละครั้งต้องมานั่งจัดกระเป๋าเตรียมสัมภาระต่าง ๆ นับว่าเป็นเรื่องใหญ่เลยทีเดียวสำหรับใครที่ของเยอะ เพราะต้องคอยพะวงกลัวว่ากระเป๋าจะตุง หรืออาจต้องใช้กระเป๋าหลายใบให้พะรุงพะรัง ยิ่งหากต้องโหลดใต้ท้องเครื่องด้วยแล้วไม่อยากจะคิดถึงค่าน้ำหนักที่อาจจะต้องเสียเพิ่ม วันนี้เรามี วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง ให้ประหยัดเนื้อที่ง่าย ๆ 3 วิธีมานำเสนอทำให้การจัดกระเป๋าช่วยประหยัดเนื้อที่ภายในใบเดียวถือขึ้นเครื่องบินได้สบายใจ

3 วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง ให้ประหยัดเนื้อที่

Open suitcase with clothes,วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง

1. ม้วนเสื้อผ้าแทนการพับ

การม้วนเสื้อผ้าเป็นการจัดกระเป๋าแบบประหยัดเนื้อที่สุด ๆ ที่สำคัญยังไม่ทำให้ผ้ามีรอยยับจากการพับอีกด้วย แถมวิธีการก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรมากมายเพียงแค่วางแผ่เสื้อผ้าไว้กับพื้นเรียบ ๆ แล้วพับเก็บแขนเสื้อให้เรียบร้อย ส่วนกางเกงก็พับทบกัน จากนั้นก็ม้วนปลายด้านหนึ่งไปจนสุด ก็จะได้เสื้อผ้าเป็นลักษณะรูปทรงกระบอกเล็ก ๆ กะทัดรัด เท่านี้ก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย จัดเก็บในกระเป๋าแล้วเหลือพื้นที่มากกว่าการพับแบบธรรมดา

flat close open bag,วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง

2. พับผ้าแล้วจัดเรียงเป็นแนวตั้ง

เทคนิคนี้เป็น วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง แบบเบสิก เพียงแค่เปลี่ยนวิธีการจัดวางภายในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งคนส่วนใหญ่มักวางเสื้อผ้าที่พับแล้วในแนวนอนกับกระเป๋า เราขอแนะนำให้เปลี่ยนมาวางในแนวตั้งลักษณะคล้ายการจัดหนังสือเข้าชั้น นอกจากวิธีนี้จะทำให้ประหยัดเนื้อที่และเก็บของได้มากขึ้นแล้ว ข้อดีของการพับผ้าแบบนี้ยังทำให้กระเป๋ามีน้ำหนักเบา ประหยัดแรงในการยกหรือลากกระเป๋าลงไปได้อีกเยอะ ที่สำคัญเมื่อขึ้นเครื่องก็ไม่ต้องซื้อน้ำหนักส่วนเกินเพิ่ม

locked refrigerator bag,วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง

3. ใช้ถุงซิปล็อค

วิธีนี้เหมาะที่จะใช้จัดการกับสิ่งของอื่น ๆ นอกเหนือจากเสื้อผ้า โดยจะต้องแยกหมวดหมู่แบ่งของออกเป็นประเภท เช่น ถุงเท้า เครื่องสำอาง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ยาสีฟัน ชุดชั้นใน เป็นต้น จากนั้นก็เอาสิ่งของประเภทเดียวกันแยกใส่ถุงซิปล็อคเดียวกัน จากนั้นก็จัดแจงเก็บใส่ไว้ในกระเป๋าเดินทางให้เรียบร้อย เพื่อเป็นการแยกสิ่งของออกจากเสื้อผ้าอย่างชัดเจน ข้าวของไม่กระจัดกระจาย สามารถช่วยประหยัดเนื้อที่ได้ ทำให้ไม่ยุ่งยากต่อการหยิบใช้

วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง แบบง่าย ๆ

ทั้งหมดนี้คือ 3 วิธีจัดกระเป๋าเดินทาง แบบง่าย ๆ ที่จะทำให้เราสามารถเก็บเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ได้อย่างจุใจ และที่สำคัญยังประหยัดเนื้อที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องเนื้อที่ไม่พอ ไม่ต้องหอบกระเป๋าหลายใบให้พะรุงพะรัง แถมยังมีเนื้อที่เหลือสำหรับช็อปปิ้งของฝากของใช้ได้อีกเยอะ หากจัดกระเป๋าครั้งต่อไปลองนำ 3 วิธีนี้ไปปรับใช้กัน เพียงเท่านี้ก็จะเหลือพื้นที่ในกระเป๋าให้ใช้ประโยชน์ได้อีกมาก

รู้ก่อนโหลด สายการบินไหนควรโหลด สายการบินไหนควร carry on

โหลดกระเป๋า,กระเป๋าเดินทาง

เมื่อจะต้องจัดกระเป๋าออกเดินทางทีไร เรื่องน้ำหนักกระเป๋าเดินทางถือเป็นข้อกังวลใจอันดับต้น ๆ ที่ต้องคำนึงถึง เพราะเราจะต้องวางแผนให้ดีว่าจะเอาอะไรไปบ้างเพื่อประหยัดพื้นที่ไม่ให้น้ำหนักเกิน แถมยังต้องเผื่อเนื้อที่สำหรับของฝาก ของที่ระลึก ตอนซื้อกลับมาอีก ไม่เช่นนั้นหากน้ำหนักเกินจะต้องเสียเงิน โหลดกระเป๋า โดยใช่เหตุ ดังนั้น ลองมาเปรียบเทียบราคาและรายละเอียดข้อกำหนดการโหลดกระเป๋าของแต่ละสายการบินในประเทศไทยก่อนบินกันดีกว่าว่าแต่ละแห่งแตกต่างกันอย่างไร

โหลดกระเป๋า,กระเป๋าเดินทาง

ตามข้อกำหนดมาตรฐานกระเป๋าสัมภาระที่ไม่ต้องลงทะเบียนโหลดใต้ท้องเครื่องในทุก ๆ สายการบิน ส่วนใหญ่มักกำหนดน้ำหนักไว้ที่ไม่เกิน 7 กิโลกรัม นอกเหนือจากนี้แล้วต้อง โหลดกระเป๋า ใต้ท้องเครื่องเท่านั้น โดยแต่ละสายการบินก็มีราคาที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. Air Asia

ค่าโหลดกระเป๋า 15 – 40 กิโลกรัม เริ่มต้นที่ 430 – 1220 บาท

2. Nok Air

ค่าโหลดกระเป๋า 15 – 40 กิโลกรัม เริ่มต้นที่ 350 – 1,500 บาท

3. Vietjet Air

เริ่มต้นที่ 220 บาท กับน้ำหนัก 15 กิโลกรัม ไปถึงสูงสุด 40 กิโลกรัม ในราคา 950 บาท

4. Thai Lion Air

น้ำหนักกระเป๋า 15-40 กิโลกรัม ราคาเริ่มต้น 375 – 945 บาท แต่ไลอ้อนแอร์มีข้อกำหนดกระเป๋าสำหรับ carry on ต่างจากสายการบินอื่น คือ ขนาดไม่เกิน 30 ซม. (สูง) x 40 ซม. (กว้าง) x 20 ซม. (หนา) หนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ดังนั้น หากกระเป๋าใหญ่กว่านี้จะต้องโหลด จึงควรเช็คให้ดีเสียก่อน

5. Thai Airways

ฟรีน้ำหนักของการ โหลดกระเป๋า ที่สายการบินกำหนดไว้ตามประเภทชั้นบิน ได้แก่ ชั้นธุรกิจ 40 กิโลกรัม ชั้นประหยัด 30 กิโลกรัม นอกเหนือจากนี้ต้องจ่ายเพิ่มตามระยะทาง สำหรับใครที่เล็งแล้วว่าจะเดินทางด้วยสายการบินนี้จึงควรวางแผนเช็คให้แน่ใจว่าการเดินทางครั้งนั้นจะต้องแบกสัมภาระน้ำหนักเท่าไหร่

6. Thai Smile

เป็นสายการบินที่อนุญาตให้นำกระเป๋าโหลดลงใต้ท้องเครื่องฟรี โดยผู้โดยสารชั้นประหยัด Smile Class สามารถโหลดสัมภาระใต้เครื่องได้ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ส่วนผู้โดยสารชั้นธุรกิจ Smile Plus ได้สูงสุด 30 กิโลกรัม

7. Bangkok Airways

ฟรีน้ำหนักกระเป๋า โดยชั้นประหยัด น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม ส่วนชั้นธุรกิจ น้ำหนักไม่เกิน 40 กิโลกรัม

โหลดกระเป๋า,กระเป๋าเดินทาง

สายการบิน 3 สายสุดท้ายนี้ ให้ โหลดกระเป๋า ฟรี เริ่มต้นที่คนละ 20 กิโลกรัม โดยไม่ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่ม และหากมีน้ำหนักเกินต้องซื้อเพิ่มตามเรทที่ทางสายการบินกำหนดไว้ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีสัมภาระค่อนข้างเยอะ ต่างจาก 4 สายการบินแรก (แอร์เอเชีย นกแอร์ เวียตเจ็ท ไลอ้อนแอร์) ที่เหมาะกับการ carry on มากกว่า ดังนั้น ควรวางแผนเลือกสายการบินก่อนออกเดินทางจะได้หมดกังวลเรื่องน้ำหนักกระเป๋าเกินเดินทางสบายใจในทุกทริป

พาไปชม 4 สถานที่โดดเด่นใจกลางสยาม เเลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวห้ามพลาด

คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก สยาม ย่านการค้าชื่อดัง และเป็นแหล่งคอมมูนิตี้มอล ที่ใคร ๆ ก็อยากมา เพราะที่นี่นอกจากจุดเช็คอินถ่ายรูปสวย ๆ แล้ว โซนนี้เรียกว่ามีความน่าสนใจมากมาย ทั้งร้านอาหารชื่อดัง คาเฟ่น่ารัก ๆ สำหรับหนุ่มสาวยุคใหม่ เดินทางมาง่ายใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม ก็จะถึงแลนด์มาร์คที่ใหญ่ที่สุดอีกแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ได้ยินแบบนี้แล้ว เรามี 4 สถานที่โดดเด่น ที่คุณควรมาช้อปปิ้ง กิน ถ่ายรูป
และเดินเล่นใช้เวลาในวันว่าง

Siam Paragon Shopping mall,สยาม

สยาม พารากอน

เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ตกแต่งอย่างหรูหราและสวยงาม ไม่ใช่แค่สถานที่ช้อปปิ้งและเดินเล่นเท่านั้นแต่ที่นี่เรียกว่ามีแหล่งเรียนรู้และมีกิจกรรมต่าง ๆ สำหรับครอบครัวให้ลองมากมาย เริ่มต้นจาก KidZania เมืองที่เด็ก ๆ จะได้สนุกสนานไปกับอาชีพในฝัน ลองเล่นบทบาทสมมติต่าง ๆ ที่เสมือนจริง ตามมาด้วย Sea life สำหรับคนที่ชอบโลกใต้ทะเลด้านในเป็นส่วนแสดงสัตว์น้ำนานาพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นเพนกวิ้น เต่าทะเล ปลาดาว และสัตว์น้ำอื่น ๆ ที่หาชมได้ยาก

Siam Discovery, Bangkok,สยาม

สยาม ดิสคัฟเวอรี่

เป็นอีกหนึ่งห้างฯ ที่หากมา สยามแล้วต้องแวะเสียหน่อย เพราะหลังจากผ่านการปรับปรุงมาแล้วเมื่อปี 2559 ที่นี่ก็มีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น โดยมีพื้นที่การจัดแสดงงานต่าง ๆ ให้ได้เดินชมอยู่บ่อย ๆ

Siam Center,สยาม

สยาม เซ็นเตอร์

อีกหนึ่งจุดเช็คอินของ สยามเป็นอีกหนึ่งห้างฯ ขนาดใหญ่ที่มีทางเชื่อมไปสยามดิสคัฟเวอรี่และสยามพารากอน ด้านในจะมีสินค้าแฟชั่นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ทั้งแบรนด์ไทยและต่างประเทศ และที่น่าสนใจสำหรับวัยรุ่นคือ มีร้านอาหารดังหลายร้าน ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น คาเฟ่ ร้านอาหารทั่วไป เป็นอีกสถานที่ให้เพื่อน ๆ ได้ออกมาพบปะพูดคุยในร้านเหล่านี้

Siam square area,สยาม

สยาม สแควร์วัน

เป็นอีกหนึ่งจุดนัดพบของวัยรุ่น ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของสยาม มีไฮไลท์ของศูนย์รวมแฟชั่นสมัยใหม่ ศิลปะ และวัฒนธรรมร่วมสมัยจะเห็นการตกแต่งที่แตกต่างจากห้างฯ ทั่วไปโดยมีการแบ่งร้านค้าออกเป็นพื้นที่สี่เหลี่ยมเล็ก ๆ มีทั้งร้านนั่งชิวคาเฟ่ขนมหวาน ร้านกาแฟ ร้านอาหารชื่อดัง ยังรวมไปถึงร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ซึ่งราคาไม่แพงมาก

สำหรับการมาเช็คอินที่สยาม เรียกว่า 1 อาจจะไม่พอ เพราะในบริเวณเดียวกันยังมีร้านค้าต่าง ๆ ที่ถูกแบ่งออกเป็นซอยเล็ก ๆ แต่ละซอยจะมีร้านอาหารที่เหมาะสำหรับนั่งสังสรรค์ทั้งกลุ่มวัยทำงานและวัยรุ่น ทั้งนี้โซนด้านหลังยังมีลานกิจกรรมที่มีการจัดแสดงอยู่เป็นประจำ จึงไม่แปลกเลยที่ใคร ๆ ก็ยกให้ย่านสยาม เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของกรุงเทพฯ

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร พัทยา และบริเวณภูเก็ต

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้นจี, ตรงข้าม Tourist Lounge

Terminal 21 Pattaya ชั้น 2, โซนโตเกียว

เซ็นทรัล ป่าตอง ภูเก็ต ชั้น 1, โซนบริการ

โปรโมชั่นพิเศษ

บริการส่งกระเป๋าภายในกรุงเทพฯ, พัทยา และภูเก็ต เริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น บริการส่งกระเป๋าระหว่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 299 บาท/ชิ้น

ติดต่อเรา

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 6321-666-99

Website: Luggage Delivery Bangkok

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

WeChat: AIRPORTELs

Kakao Talk: AIRPORTELs

Facebook: www.facebook.com/airportels

ให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นได้ที่นี่! airportels.asia

ฟินสุดกับ 5 สุดยอดแหล่งสตรีทฟู้ด ของกินอร่อย สายกินต้องไป !!

กรุงเทพฯ ขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองที่หาของกินได้ง่ายสุด ๆ ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็มีร้านอาหารให้เลือกสรรเต็มไปหมด วันนี้เราจึงนำเสนอ 5 แหล่งของกินอร่อย ที่มีร้าน สตรีทฟู้ด มากมาย สายกินห้ามพลาด มีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

1. สตรีทฟู้ด ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ

ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ มองไปทางไหนก็เจอร้านอาหารเต็มไปหมด โดยมีสตรีทฟู้ดหลากหลายชนิดให้เลือกสรรไม่ว่าจะเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยจั๊บ ข้าวแกง ข้าวมันไก่ หรือหากใครอยากหาของกินเล่นก็มีมากมายให้ซื้อหา เช่น ขนมครก ขนมเบื้อง ผลไม้แช่อิ่ม ซึ่งมีทั้งร้านที่เปิดช่วงกลางวันและเปิดเฉพาะกลางคืน หากวันไหนว่าง ๆ มีโอกาสมาเดินเล่นที่อนุสาวรีย์ชัยฯ บอกได้เลยว่าต้องอิ่มท้องกลับไปแน่นอน

2. สตรีทฟู้ด ย่านเยาวราช

สตรีทฟู้ด ชื่อดังร่ายยาวยามเย็นไปถึงดึก เพราะร้านอาหารจะเปิดช่วงเย็นเป็นส่วนใหญ่และบางร้านเปิดจนถึงเช้ามืดก็มี ถนนเส้นนี้หากมาตอนกลางวันจะดูเงียบเหงา แต่ถ้ามาช่วงกลางคืนจะเต็มไปด้วยร้านรวงเรียงรายตลอดทาง มีอาหารขึ้นชื่อหลายชนิดทั้งของคาวและของหวาน เช่น สุกี้แห้งกระทะร้อน ก๋วยจั๊บ บะหมี่ลูกชิ้นปลา ข้าวต้มเป็ด ห่านพะโล้ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ นอกจากนี้ยังมีของหวานอีกหลายอย่าง เช่น บัวลอย 3 กษัตริย์ ขนมปังเจ้าอร่อยเด็ดเยาวราช เต้าทึง และอีกมายมาย เป็นอีกที่ ๆ หากตอนกลางคืนไม่รู้จะไปหาอะไรกินที่ไหน มาที่นี่รับรองไม่ผิดหวัง

3. สตรีทฟู้ด ย่านตลาดราชวัตร/ศรีย่าน

ตลาดราชวัตรและตลาดศรีย่านเป็นพื้นที่ ๆ ไม่ได้ติดกันแต่ก็เชื่อมต่อกัน มีร้านอาหารต่าง ๆ มากมายระหว่างสองตลาดนี้ โดยเมนู สตรีทฟู้ดที่ขึ้นชื่อส่วนมากจะเป็นพวกเส้น เช่น ก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ก๋วยเตี๋ยวเป็ด เย็นตาโฟฮ่องเต้ นอกจากนี้ยังมีโจ๊กศรีย่าน ข้าวต้มศรีย่าน ผัดไทย หอยทอด และมีร้านอาหารไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องรสชาติมาเป็นเวลานานอย่างแกงป่าศรีย่านด้วย โดยร้านแถวนี้จะเปิดช่วงสายไปจนถึงกลางคืนใครผ่านมาแถวนี้ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีอะไรกินเพราะมีร้านอร่อยเปิดอยู่ตลอดทาง

4. สตรีทฟู้ด ย่านเจริญกรุง

ใครมาแถวนี้แนะนำควรเตรียมท้องให้ว่างก่อนมา เพราะร้านต่าง ๆ มีเมนู สตรีทฟู้ดที่หลากหลายน่ากินสุด ๆ เช่น ผัดไทยที่มีทั้งเนื้อกุ้งและเนื้อปู หอยทอดแป้งกรอบนอกนุ่มในเป็ดย่างหนังกรอบเนื้อเหนียวนุ่ม ทอดมันปลาที่มีเนื้อปลาแบบเต็มคำ ผ่านมาแถวนี้ต้องห้ามพลาดเลย ซึ่งมีร้านที่เปิดหลายช่วงเวลาและบางร้านเปิด 24 ชั่วโมง ถ้าหิว ๆ ผ่านมานี่รับรองว่าได้มีอะไรเติมให้เต็มกระเพาะแน่

5. สตรีทฟู้ด ย่านตลาดพลู

เป็นอีกหนึ่งชุมชนที่มีวัฒนธรรมหลากหลาย เพราะมีคนหลายเชื้อชาติมาอยู่รวมกัน เราจึงได้เห็นอาหารมากมายที่เป็น สตรีทฟู้ดเมนูเด็ดของที่นี่ เช่น กุยช่าย ข้าวหมูแดง กระเพาะปลา ข้าวมันไก่ หมี่กรอบ ขนมเบื้องญวน ขนมเบื้องไทย ขนมหวานต่าง ๆ น้ำแข็งไส และอีกมากมาย ซึ่งร้านแถวนี้ส่วนใหญ่เปิดตั้งแต่สาย ๆ ไปจนถึงดึกเลย

เป็นยังไงบ้างกับ 5 แหล่ง สตรีทฟู้ดสายกินที่ชอบตามหาของอร่อยต้องห้ามพลาด หากสุดสัปดาห์นี้รู้สึกเบื่ออยากหาอะไรทำแล้ว ยังไม่มีแผนไปที่ไหนเลือกมาสักที่ในนี้รับรองว่าจะทำให้อิ่มทั้งพุงแล้วก็ได้เดินเล่นจนหายเบื่อแน่นอน

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร พัทยา และบริเวณภูเก็ต

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้นจี, ตรงข้าม Tourist Lounge

Terminal 21 Pattaya ชั้น 2, โซนโตเกียว

เซ็นทรัล ป่าตอง ภูเก็ต ชั้น 1, โซนบริการ

โปรโมชั่นพิเศษ

บริการส่งกระเป๋าภายในกรุงเทพฯ, พัทยา และภูเก็ต เริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น บริการส่งกระเป๋าระหว่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 299 บาท/ชิ้น

ติดต่อเรา

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 6321-666-99

Website: Luggage Delivery Bangkok

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

WeChat: AIRPORTELs

Kakao Talk: AIRPORTELs

Facebook: www.facebook.com/airportels

ให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นได้ที่นี่! airportels.asia

อะเมซิ่ง! 10 สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน สายเที่ยวไม่ควรพลาด!

หลายต่อหลายคนอาจคิดว่าเมืองไทยของเรานั้นสามารถเที่ยวได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น แต่เปล่าเลยฤดูฝนก็เที่ยวได้ หากแต่ต้องคอยระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัยและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเท่านั้นเอง มี “สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน” ที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

1. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก

น้ำตกทีลอซู ถือเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยมีความสูง 300 เมตร โดยประมาณมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างแวะเวียนมาชื่นชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของน้ำตกแห่งนี้ น้ำตกทีลอซูอยู่ในเขตพื้นที่การดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ปัจจุบันมีถนนตัดผ่านทำให้การเดินทางเข้าไปสะดวกมากยิ่งขึ้นแต่ถนนเข้าน้ำตกจะปิดในช่วงฤดูฝนจนถึงเดือนพฤศจิกายน ในช่วงฤดูฝนจะใช้ได้เฉพาะทางแพ จนกลายเป็นสถานที่ล่องแพของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนไปซะแล้ว

2. น้ำตกกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช

เป็นอีกหนึ่ง สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน สำหรับน้ำตกกรุงชิงในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราชแห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศป่าดิบชื้นและเส้นทางเดินชมป่าด้วยระยะทางเกือบ 4 กิโลเมตร ระหว่างทางจะมีศาลาพักพร้อมป้ายให้ความรู้ต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะบรรดาพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน อาทิ ดงชก หลุมขวาก มหาสดำ น้ำตกกรุงชิงมีด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นที่สวยที่สุดคือ หนานฝนแสห่า และเคยถูกนำภาพถ่ายไปตีพิมพ์ลงในธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ในปี 2535 อีกด้วย

3. เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ว่ากันว่าสวรรค์บนดินมีจริง ณ เขื่อนเชี่ยวหลาน กุ้ยหลินเมืองไทยเพราะนอกจากจะได้เที่ยวชมความงามของเขื่อนเชี่ยวหลานแล้ว ยังมีป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด แหล่งน้ำธรรมชาติที่มีน้ำใสมาก ๆ แม้การเดินทางจะโหดไปสักหน่อย แต่เมื่อได้สัมผัสกับธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่แล้วความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว

4. ภูลังกา จังหวัดพะเยา

เป็นอีก สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน ของเมืองรองอย่างจังหวัดพะเยา โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่จะทำให้คุณพบกับบรรยากาศสุดโรแมนติก ด้วยความสูงเหนือรับน้ำทะเล 1,720 เมตร จึงทำให้วิวยามเช้าที่ภูลังกาแห่งนี้อบอวลไปด้วยทะเลหมอก ณ จุดชมวิวผาช้างน้อย ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาสมคำล่ำลือกับที่บอกกันว่าที่พักหลักร้อยวิวหลักล้านจริง ๆ

5. ล่องแพเมืองกาญ

จังหวัดกาญจนบุรีถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถไปได้ตลอดทั้งปี ไม่เพียงแต่เป็น สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน เท่านั้น ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่มากแต่ไฮไลท์ที่สุดคงหนีไม่พ้นการล่องแพ โดยเฉพาะการพักอาศัยและนอนหลับบนเรือแพขนาดใหญ่กลางเขื่อนศรีนครินทร์ ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติและขุนเขา จะเลือกพักผ่อนกับเรือนแพริมฝั่งแม่น้ำแควน้อยก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของคุณโดยแท้จริง

6. เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

ชื่อนี้การันตีให้กับแหล่งท่องเที่ยวภายในเขาใหญ่ได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากคุณจะสามารถเข้าเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้ว ยังสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ในการเข้าทำกิจกรรมส่องสัตว์ในเวลากลางคืน
ได้อีกด้วย ด้วยที่พักที่หลากหลายและไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก จึงทำให้ทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์มีผู้คนมาท่องเที่ยวพักผ่อนไม่ขาดสาย

7. สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน โดยเฉพาะปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้ สวนผึ้งดินแดนแห่งทุ่งหญ้า ขุนเขา และสายหมอก ขับรถจากกรุงเทพฯ ไปเพียง 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้น คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่มีทุ่งหญ้าและฟาร์มเลี้ยงแกะ นอกจากนี้ยังมีน้ำตกเก้าโจรไว้ให้คุณได้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วยยิ่งช่วงหน้าฝนอย่างนี้คุณจะเห็นน้ำตกที่สวยงามอย่างยิ่ง

สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน,ท่องดอกกระเจียว

8. ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

ทุ่งดอกกระเจียวจะเริ่มบานและออกดอกในช่วงฤดูฝนเท่านั้น จึงทำให้คุณสามารถไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติที่สรรค์สร้าง ขึ้นมาให้บรรดานักเที่ยวอย่างคุณ ได้พบกับความอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งที่มีดอกไม้บานเต็มไปหมด อีกทั้งสามารถเข้าชมป่าหินงามที่ไม่เหมือนใครตลอดจนของป่าอย่างเห็ดป่าที่ชาวบ้านหามาให้คุณได้เลือกซื้อด้วย

9. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

เป็น สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน แม้โดยส่วนใหญ่คนจะนิยมมาในช่วงหน้าหนาวก็ตามทีแต่ปลายฝนต้นหนาวนี่แหละสวยงามยิ่งนักกับยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ดอยอินทนนท์ที่จะทำให้คุณได้พบกับความสวยงามตามธรรมชาติโดยเฉพาะสองข้างทางที่คุณเดินทางไปนั้น มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าทำให้มีอากาศเย็นสบายในช่วงฤดูร้อนและหนาวจับใจในช่วงฤดูหนาว

10. เชียงคาน จังหวัดเลย

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายสำหรับ สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน นั่นคือ
เชียงคาน ที่นี่คุณจะพบกับวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน อีกทั้งหากได้ที่พักริมแม่น้ำโขงจะพบกับความยิ่งใหญ่ของกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวได้เป็นอย่างดี ตลอดจนความมีอัธยาศัยที่ดีของคนในพื้นที่ที่จะทำให้คุณต้องติดใจและกลับมาเยือนอีกครั้ง

ไม่ว่าสถานที่เที่ยวจะสวยและน่าไปเพียงไร การเดินทางที่ปลอดภัยสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในฤดูฝนหรือปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้ ก่อนเดินทางอย่าลืมที่จะตรวจสอบ สภาพเส้นทาง ดิน ฟ้า อากาศ ตลอดจนยารักษาโรค หรือแม้แต่ถุงเท้ากันทาก เพื่อป้องกันตัวคุณเองไว้ก่อน เพราะจะได้ทำให้ทริปท่องเที่ยวของคุณมีแต่ความสุขตลอดการเดินทาง

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร พัทยา และบริเวณภูเก็ต

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้นจี, ตรงข้าม Tourist Lounge

Terminal 21 Pattaya ชั้น 2, โซนโตเกียว

เซ็นทรัล ป่าตอง ภูเก็ต ชั้น 1, โซนบริการ

โปรโมชั่นพิเศษ

บริการส่งกระเป๋าภายในกรุงเทพฯ, พัทยา และภูเก็ต เริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น บริการส่งกระเป๋าระหว่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 299 บาท/ชิ้น

ติดต่อเรา

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 6321-666-99

Website: Luggage Delivery Bangkok

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

WeChat: AIRPORTELs

Kakao Talk: AIRPORTELs

Facebook: www.facebook.com/airportels

ให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นได้ที่นี่! airportels.asia

แนะนำ 5 Sky Bar Rooftop ในกรุงเทพ สุดโรเเมนติกน่าชวนคู่รักมาดินเนอร์

Sky bar หรือ Rooftop เป็นสถานที่นั่งชิลที่หลายคนชื่นชอบเพราะนอกจากจะได้สัมผัสกับอากาศโปร่งโล่งแสนสบายกลางแจ้งแล้ว จุดเด่นที่สำคัญอีกอย่างก็คือวิวมุมสูงที่มองเห็นแสงไฟสว่างไสวในยามค่ำคืนได้อย่างเต็มตาที่ช่วยเสริมบรรยากาศสุดโรแมนติกสำหรับคู่รักที่ต้องการชิลเอาท์ในบรรยากาศดี ๆ ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 5 Sky Bar/Rooftop ในกรุงเทพสุดโรเเมนติกน่าชวนคู่รักมาดินเนอร์

1. Sirocco Restaurant And Sky bar The Dome at Lebua state tower

ร้านอาหารกึ่งบาร์สุดหรูที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก Sirocco Sky Bar ตั้งอยู่บนชั้นที่ 63 ของโรงแรมเลอบัวแอทสเตททาวเวอร์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเย็นจนถึงตี 1 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่คุณจะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศยามพระอาทิตย์ตกไปจนถึงยามค่ำคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีของกรุงเทพมหานคร Sirocco Sky Bar เป็นบาร์รูปวงกลมที่มีบริกรคอยให้บริการอย่างใกล้ชิด
มีเครื่องดื่มนานาชนิดจากหลายประเทศทั้งค็อกเทล,ไวน์ และแชมเปญ
มีวงดนตรีคอยให้ความเพลิดเพลินและสร้างบรรยากาศที่โรแมนติกในยามค่ำคืน

2. Vertigo and moon bar Banyan tree Hotel

บาร์ Rooftop ที่ตั้งอยู่บนชั้น 61 ของโรงแรมบันยันทรีกรุงเทพ เปิดให้บริการตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึงตี 1 สามารถมองเห็นวิวของกรุงเทพมหานครแบบเปิดกว้างได้ 360 องศา มีเครื่องดื่มหลากหลายประเภททั้งแบบมีแอลกอฮอล์และไร้แอลกอฮอล์สำหรับคนที่ไม่ดื่ม มีอาหารและของหวานหลากหลายชนิด

3. Cloud 47 Rooftop BAR And Bistro

ห้องอาหารสไตล์ Bar & Bistro ที่ตั้งอยู่บนดาดฟ้าชั้น 47 ของตึก United Silom เปิดให้บริการตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึงตี 1 ตัวร้านแบ่งออกเป็น 4 โซนที่สามารถเลือกที่นั่งได้ตามใจชอบ ตัวร้านเน้นตกแต่งด้วยสีขาวเพื่อให้ได้บรรยากาศเหมือนมาดินเนอร์บนก้อนเมฆเหมือนกับชื่อร้าน มีวงดนตรีหมุนเวียนมาสร้างบรรยากาศอบอุ่นละมุนในยามค่ำคืน

4. Zense Gourmet Deck & Lounge Central World

ร้านอาหารบรรยากาศดีที่ตั้งอยู่บนชั้น 17 ของ Central World ที่เปิดให้บริการตั้งแต่ 5 โมงเย็นจนถึง 5 ทุ่ม Zense Gourmet Deck เป็นร้านอาหาร Rooftop ที่มีบรรยากาศดีมาก วิวสวย อาหารอร่อยมีให้เลือกอย่างหลากหลายจากครัวไทย, ครัวยุโรป ,ครัวอิตาเลียน ,ครัวอินเดีย ,ครัวโมเดิร์น และครัวขนม ส่วนเครื่องดื่มมีให้บริการอย่างจุใจ

5. Park Society, Sofitel So

ร้านอาหารสไตล์ Rooftop ที่ตั้งอยู่บนชั้น 29 โรงแรม SO Sofitel ที่มีบรรยากาศสบาย ๆ ท่ามกลางวิวมุมกว้างยามค่ำคืนของกรุงเทพมหานคร
เปิดให้บริการตั้งแต่ 5 โมงจนถึง ตี 1 มีเมนูอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิดให้บริการ

ร้านอาหารและบาร์ Rooftop ทั้ง 5 แห่งที่เราแนะนำไปข้างต้นนี้เป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากและมีบรรยากาศดีเยี่ยม เหมาะสำหรับคู่รักที่กำลังมองหาสถานที่ดินเนอร์สุดแสนพิเศษที่ช่วยเติมเต็มความโรแมนติกให้กับชีวิตคู่ได้อย่างเพอร์เฟคที่สุด

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร พัทยา และบริเวณภูเก็ต

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้นจี, ตรงข้าม Tourist Lounge

Terminal 21 Pattaya ชั้น 2, โซนโตเกียว

เซ็นทรัล ป่าตอง ภูเก็ต ชั้น 1, โซนบริการ

โปรโมชั่นพิเศษ

บริการส่งกระเป๋าภายในกรุงเทพฯ, พัทยา และภูเก็ต เริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น บริการส่งกระเป๋าระหว่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 299 บาท/ชิ้น

ติดต่อเรา

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 6321-666-99

Website: Luggage Delivery Bangkok

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

WeChat: AIRPORTELs

Kakao Talk: AIRPORTELs

Facebook: www.facebook.com/airportels

ให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นได้ที่นี่! airportels.asia