ปักหมุดลุย! 22 ที่เที่ยว เขาใหญ่ เปิดใหม่ บรรยากาศดี ถ่ายรูปสวย อัพเดทล่าสุด 2022

ถ้าอยากเที่ยว หน้าหนาว แต่ไม่อยากเดินทางไกล ปักหมุดไป 22 จุดเช็คอินเขาใหญ่ก็เอาอยู่ รับประกันวิวปังถ่ายรูปสวยเทียบชั้นต่างประเทศ อัพเดทสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจตามในลิสต์นี้แล้วเซฟเก็บไว้เลยเพื่อเป็นแผนสำหรับการท่องเที่ยวในครั้งต่อไป

The Campus Khaoyai

Local Market ริมถนนธนะรัชต์ที่น่าเดิน มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ และแหล่งช้อปสินค้าออแกนิคสดใหม่ ปลายปีที่แล้วจัดเทศกาลฉลองคริสต์มาสได้บรรยากาศ เมืองนอก มาก ๆ ปีนี้รอชมความอลังการกันอีกครั้ง

(Image credit: https://www.facebook.com/Thecampuskhaoyai)

Flowermountain Khaoyai

ชมพันธุ์ไม้เมืองหนาวที่อบอวลไปด้วยความสวยและหอม ถ่ายรูปกับมวลบุปผาได้ตลอดวัน จะนอนพักที่นี่เลยก็ได้ มีรีสอร์ทสวยน่าอยู่ ทุ่งดอกไม้ฟลาวเวอร์เมาน์เทนอยู่ใกล้ตลาดน้ำเขาใหญ่ 

(Image credit: https://www.facebook.com/search/top/?q=Flowermountain%20Khaoyai)

Assana Cafe 

คาเฟ่ริมลำตะคองลมพัดเย็นสบาย เที่ยวได้ทุกฤดู นั่งจิบกาแฟและเครื่องดื่มแล้วอย่าลืมสั่งเบเกอรีมาชิม หรือจะจัดของหนักเป็นเมนูจานหลักก็อร่อยได้อีก

(Image credit: https://www.facebook.com/Assanacafe/)

Timber Tales Cafe and Bistro Khaoyai 

คาเฟ่สวยอร่อย ในธีมป่า 360 องศา เดินเข้าไปจะรู้สึกเหมือนกำลังปลีกวิเวกกลางป่า อาหารอร่อยหลากสไตล์ทั้งไทยและตะวันตก เมนูซิกเนเจอร์คือมะม่วงเบาปั่นที่ยังหาชิมที่ไหนได้ไม่อร่อยเท่า 

(Image credit: https://www.facebook.com/timbertaleskhaoyai)

Zen Villa Khaoyai

อยากได้ ที่พักฟิลเมืองนอก มาที่นี่เลย รีสอร์ทสไตล์ญี่ปุ่นตกแต่งแนวเซน อยากได้โมเมนต์แบบเจแปนนิสจ๋าต้องไป เลี้ยวเข้าถนนธนะรัชต์ไปไม่ไกลก็เจอแล้ว

(Image credit: https://www.facebook.com/zenvillakhaoyai)

Khaam Khaoyai 

คาเฟ่ที่ได้รับการกล่าวขานในความเป็นเจแปนนิสอย่างมาก ตกแต่งบรรยากาศโดยผสมผสานกับไม้ไทยโบราณอย่างต้นมะขามได้ลงตัว เป็นคาเฟ่มาแรงที่ห้ามพลาด 

(Image credit: https://www.facebook.com/KhaamKhaoyai)

ทุ่งกังหันลมและภูเขาเควสตา 

หนาวนี้ออกไป รับบรรยากาศบริสุทธิ์ กับวิวกังหันลมกันบ้างที่อ่างเก็บน้ำลำตะคอง แหล่งผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดและภูเขาเควสตาที่มีความสวยงามแปลกตา 

(Image credit: https://www.facebook.com/Chillpainai/)

ไร่องุ่น GranMonte

พาครอบครัวไปร่วม กิจกรรม ทัวร์ไร่องุ่นที่กราน-มอนเต้ สนุกและได้ความรู้ ไปดูเขาปลูกองุ่นและกรรมวิธีบ่มไวน์ สัมผัสวิถีชีวิตชาวไร่และชิมอาหารอร่อยที่ร้าน VinCotto สไตล์โฮมเมดเข้าบรรยากาศ  

(Image credit: https://www.facebook.com/granmonte/)

Khao Yai Farm Village

ใครชอบท่องเที่ยวเชิงเกษตรและอยากทำ กิจกรรม ร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัวต้องไปที่เขาใหญ่ฟาร์ม วิลเลจ ไปกับเพื่อนเป็นกลุ่มใหญ่เก็บความทรงจำที่ดีไว้ได้ยาวนาน

(Image credit: https://www.facebook.com/khaoyai.farmvillage.fanpage/)

Journey Cafe Khaoyai 

อยู่ภูเขาแต่ตกแต่งแนวคาเฟ่ริมทะเลกระชากอารมณ์คนไปเที่ยวแบบสุด ๆ และยังได้เก็บโมเมนต์ดี ๆ ระหว่างจิบกาแฟข้างหอไอเฟลอีกด้วย ที่นี่เหมาะ เที่ยวได้ทุกฤดู 

(Image credit: https://www.facebook.com/Journeycafekhaoyai/)

Chowbarn E-SAN SOUL CAFE 

เป็น คาเฟ่สวยอร่อย ที่ต้องแนะนำให้ไปชิมแหนมห่อใบตองย่างเตาถ่าน ปลาช่อนนาพอกเกลืออบสมุนไพร รสชาติถึงใจไม่ธรรมดา 

(Image credit: https://www.facebook.com/ChowBarnRestaurant)

Tayama Farm Khaoyai

ฟาร์มออแกนิคและร้านอาหารญี่ปุ่นผสมกัน มีสวนน้ำให้เล่นและมีที่กางเต็นท์ให้ด้วย  ผ่านมาทางหนองสาหร่ายให้สังเกตซูโม่ยักษ์สองคนลงไปเช็คอินกันได้ 

(Image credit: https://www.facebook.com/Tayamakhaoyai/)

สวนดอกไม้ The Bloom by ทีวีพูล

ใครชอบดอกไม้แวะไปที่เดอะ บลูม บาย ทีวีพูลไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะเป็นสวนดอกไม้ขนาดใหญ่ในพื้นที่นับร้อยไร่ พร้อมรีสอร์ทที่พักเขาใหญ่แสนสบายเหมาะไป รับบรรยากาศบริสุทธิ์ 

(Image credit: https://www.facebook.com/thebloomkaoyai/?ref=page_internal)

Pete Maze

พิชญ์เขาวงกตสุดท้าทายปลุกพลังนักผจญภัยเหมือนอยู่ในเกม เหมาะกับเด็ก ๆ ก็จริงแต่ผู้ใหญ่ก็แอบชอบ ควรไปเช้าหน่อยเพราะกลางวันแดดจัดอาจเวียนหัวกับเขาวงกตได้ 

(Image credit: https://www.facebook.com/petepetemaze)

Secret Art Garden 

ตลาดนัดศิลปะกลางป่าที่เรียกกันว่า สวนซ่อนศิลป์ มีที่พักสำหรับนักท่องเที่ยวที่ไปเป็นครอบครัว พร้อม กิจกรรม ปิ้งย่างบาร์บีคิวกลางป่าให้ด้วย 

(Image credit: https://www.facebook.com/secretartgarden)

KhaoYai Art Museum

สถานที่เช็คอินของสายติสท์ เป็นพื้นที่กลางแจ้งจัดแสดงผลงานศิลปะและประติมากรรมไทยระดับฝีมือชั้นครู อย่าง อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์, อ.ถวัลย์ ดัชนี, อ.ประเทือง เอมเจริญ รู้อย่างนี้จะพลาดได้อย่างไร

(Image credit: https://www.facebook.com/KhaoYaiArtMuseum)

ทุ่งทานตะวันไร่มณีศร 

ชมดอกทานตะวันในทุ่งขนาดใหญ่สุดลูกหูลูกตาที่บานรับแสงอาทิตย์อยู่เต็มท้องทุ่งและมีต้นปอเทืองสีเหลืองปลูกแซมไว้อีกมากมาย เหมาะเดินทางไปในช่วงฤดูหนาวนี้จนถึงเดือนมกราคม 

(Image credit: https://www.facebook.com/manesornsunflower/)

ตาดหินยาว 

รับบรรยากาศบริสุทธิ์ สไตล์นักท่องเที่ยวสายอนุรักษ์ที่ตาดหินยาวกันบ้าง น้ำตกที่สวยไม่ธรรมดาในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมดฝนแล้วควรแพลนไปที่นี่ด่วน ๆ 

(Image credit: https://www.facebook.com/SiamInterTravel)

Wonderland Thailand

เที่ยวแบบย้อนวัยต้องไปสวนสนุก Wonderland Thailand อยู่ในเขตจังหวัดสระบุรีใกล้เขาใหญ่ มีทั้งเครื่องเล่นเพื่อความบันเทิงและสัตว์ป่าน้อยใหญ่มากมาย มาที่นี่ที่เดียวได้ความสนุกครบแนว 

(Image credit: https://www.facebook.com/wonderland.saraburi)

Lago di Khao Yai

ลาโก ดิ เขาใหญ่ มีมุมถ่ายภาพเริ่ดสไตล์ เมืองนอก ทั้งทะเลสาบจำลอง อาคารทรงอิตาลีที่กำลังเตรียมจะเป็นโรงแรมสุดหรูในอีกไม่นานรอเช็คอินได้เลย

(Image credit: https://www.facebook.com/LagoKhaoYai/)

Toscana valley

เป็น ที่พักฟีลเมืองนอก ที่ไม่ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเล มีที่พักหรูเป็นตึกรูปทรงเดียวกับอาคารในแคว้นทอสคานา ประเทศอิตาลี และที่เพิ่งเปิดไม่นานคือห้องพักในหอคอย Toscana Piazza สูงสง่าไม่แพ้ต่างประเทศ

(Image credit: https://www.facebook.com/ToscanaValley/)

โบสถ์ Kensington 

วัดบุญราศี นิโคลาส บุญเกิด กฤษบำรุง ซึ่งเป็นโบสถ์คริสต์ที่เปี่ยมมนต์ขลังและบรรยากาศเหมือนอยู่ เมืองนอก เมืองนา มีการทำพิธีมิสซาของชาวคริสต์ทุกเช้าวันอาทิตย์ 

(Image credit: https://www.facebook.com/wiang.pai.reuay)

และนี่คือ 22 ที่เที่ยวเขาใหญ่ที่มีบรรยากาศเป็นต่างประเทศแบบสุด ๆ หน้าหนาว นี้ห้ามพลาด

 

ที่มาข้อมูล

เทคนิคจัดกระเป๋าเดินทาง ด้วยกระเป๋า 20″ ใบจิ๋ว

 

เทคนิคจัดกระเป๋าเดินทาง ด้วยกระเป๋า 20″ ใบจิ๋ว

การจัดกระเป๋าเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่งเมื่อต้องออกเดินทาง ซึ่งอาจมีหลายสิ่งหลายอย่างที่เราต้องการเตรียมไป โดย กระเป๋า20 นิ้ว จะเป็นขนาดกระเป๋าที่มีความกะทัดรัด สามารถใช้เดินทางในระยะเวลาสั้น ๆ ได้สะดวก ซึ่งหากโดยสารด้วยเครื่องบินก็ไม่ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มให้เปลืองเงินอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหา รีวิวการจัดกระเป๋า วันนี้เรามีเทคนิคดี ๆ มาบอก ไปดูกันว่าจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง

 

1. จัดของเป็นหมวดหมู่แล้วแยกใส่กระเป๋าใบเล็ก

การแยกของให้เป็นหมวดหมู่นอกจากจะสะดวกต่อการหยิบใช้งานแล้ว ยังช่วยให้การจัดกระเป๋าเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้นด้วย โดยสิ่งต่าง ๆ ที่ควรแยกอย่างเช่น อุปกรณ์อาบน้ำ เครื่องสำอาง ยารักษาโรคประจำตัวหรือยาที่ควรใช้ระหว่างการเดินทางและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งแต่ละส่วนควรจัดลำดับความสำคัญในการใช้งาน โดยสิ่งที่เราจำเป็นต้องใช้ก่อนถึงที่พัก หรือต้องใช้แบบเร่งด่วน เช่น ยาหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ พวกสายชาร์จ ก็ควรเก็บไว้ในที่หยิบใช้งานสะดวก 

 

2.จัดแบบม้วนดีกว่าแบบพับ

การม้วนเสื้อผ้าชิ้นบาง ๆ ทำให้ประหยัดพื้นที่มากกว่าการพับ อย่างเช่น เสื้อยืด หรือชุดนอน ซึ่งควรจัดเป็นชุด ๆ ไว้ เพื่อสะดวกต่อการใช้งาน โดยพับเสื้อหรือกางเกงให้ส่วนแขนหรือส่วนที่ยื่นออกไปมารวมอยู่ตรงกลางให้เป็นทรงกระบอก จากนั้นก็ม้วนจากด้านบนลงมาด้านล่าง เพื่อไล่อากาศระหว่างทางออกไป และหากตรงปลายมีปลายเปิดก็พับทบกลับมาห่อเสื้อผ้าชิ้นนั้น ๆ เพื่อเป็นการช่วยไม่ให้ม้วนผ้าคลายออกไปมากขึ้น

 

3. ให้ถุงสุญญากาศเป็นตัวช่วย 

สำหรับผ้าชิ้นหนา เช่น เสื้อกันหนาว หรือผ้าเช็ดตัว ที่มักจะกินเนื้อที่ทั้งการม้วนและการพับ จึงต้องมีตัวช่วยอย่างถุงสุญญากาศที่จะช่วยให้ประหยัดเนื้อที่ได้ 70-80 % โดยมีทั้งถุงที่ต้องใช้เครื่องดูดอากาศออกและถุงที่ใช้วิธีการม้วนอย่างเดียว ใครสะดวกใช้งานแบบไหนก็ลองไปเลือกซื้อกันได้ โดยนอกจากจะใช้ถุงสุญญากาศเพื่อใส่เสื้อผ้าชิ้นหนาแล้วก็สามารถใช้ใส่เสื้อผ้าชิ้นบาง ๆ หลาย ๆ ชิ้น เข้าด้วยกันเพื่อประหยัดพื้นที่อีกด้วย

 

4.แยกชุดชั้นในไว้ในถุงเฉพาะ 

เมื่อเรา ไปเที่ยวกัน อาจเกิดเหตุไม่คาดคิดมากมาย ซึ่งบางทีอาจต้องเปิดกระเป๋าระหว่างทาง และถ้าเปิดมาเห็นชุดชั้นในกระจายอยู่เต็มกระเป๋าคงเป็นภาพที่ไม่ค่อยน่ามองเท่าไหร่นัก การจัดเก็บชุดชั้นในแยกไว้ในกระเป๋าเฉพาะจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม โดยจัดเสื้อชั้นในเรียงซ้อนกันและเสริมตรงที่ว่างด้วยกางเกงชั้นใน เพื่อใช้พื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยไม่ให้เสื้อชั้นในเสียทรงด้วย ถ้าหากกระเป๋ามีที่ว่างเหลือ ก็อาจจะใส่ถุงเท้าพับแล้วเข้าไปด้วย 

 

5.ใช้ของขนาดพกพา

ในการเดินทางหลายคนมักจะพกพาเครื่องประทินผิวต่าง ๆ อย่างเช่น ครีมอาบน้ำ แชมพู และโลชั่น ที่ใช้ประจำอยู่ไปด้วย ซึ่งจะนำขวดใหญ่แบบที่ใช้อยู่ที่บ้านใส่ไปใน กระเป๋า20 นิ้ว ด้วยก็คงไม่สะดวก การหาซื้อขวดแบ่งขนาดเล็กไปจึงเหมาะสมมากกว่า หรือถ้ามีขนาดพกพาขายก็สามารถซื้อไปใช้ได้อย่างสะดวก แต่สำหรับใครที่ไม่อยากซื้อหลายรอบ ซื้อขวดแบ่งมาใช้ก็ถือเป็นเรื่องที่ดีกว่า เพราะหากใช้หมดก็นำกลับมาเติมและใช้ซ้ำได้ง่ายกว่าอีกด้วย

 

6.วางสิ่งของที่มีน้ำหนักไว้ด้านล่าง

เทคนิคจัดกระเป๋า ที่ดีนอกจากจะคำนึงถึงการทำสิ่งของให้มีขนาดเล็กแล้ว การจัดวางโดยคำนึงถึงน้ำหนักสิ่งของก็จะช่วยให้ง่ายต่อการเดินทางมากขึ้น โดยควรวางสิ่งของที่มีน้ำหนักไว้ด้านล่างใกล้ฐานล้อ เพราะจะได้ช่วยถ่วงน้ำหนักเวลาลากไปกับพื้น และของที่ต้องระมัดระวังไม่ให้ถูกกดทับก็ต้องวางไว้ด้านบน หากใครพกพาสิ่งของที่เป็นแก้วซึ่งจะแตกได้ง่ายก็ใช้เสื้อผ้าพันไว้หลายทบ เพื่อรองรับการกระแทกและช่วยให้ประหยัดพื้นที่มากขึ้น

 

7.ใส่ถุงเท้าไว้ในรองเท้า

หากการเดินทางที่ต้องนำรองเท้าไปเปลี่ยนด้วย ควรหาพื้นที่ ๆ จะไม่ถูกกดทับมาก เพราะอาจทำให้รองเท้าเสียทรงได้ โดยต้องหาถุงมาใส่รองเท้าเพื่อแยกจากของชิ้นอื่น ๆ ป้องกันความสกปรก โดยอาจจะใช้หมวกอาบน้ำมาคลุมรองเท้ารอบหนึ่งเพื่อช่วยกักเก็บเศษฝุ่นที่ติดอยู่ หลังจากนั้นก็เอาไปใส่ถุงรองเท้าได้ และควรใส่ถุงเท้าไว้ในรองเท้า เพราะนอกจากประหยัดพื้นที่แล้ว ยังช่วยรักษาทรงรองเท้าได้ด้วย

 

8.พกถุงสำหรับใส่เสื้อผ้าใช้แล้ว

เมื่อเราเดินทางคงไม่สะดวกที่จะซักผ้าทุกวัน การเตรียมถุงสำหรับใส่เสื้อผ้าใช้แล้วจังเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะถ้าไม่แยกกันก็อาจทำให้ชุดที่ยังไม่ได้ใส่เปื้อนไปด้วย การเลือกใช้ถุงสำหรับใส่ผ้าใช้แล้วควรใช้ถุงที่ระบายอากาศได้ดี แต่ถ้าเดินทางช่วงสั้น ๆ และไม่กังวลเรื่องกลิ่นอับมากนัก ก็อาจจะใช้เป็นถุงพลาสติกธรรมดาก็ได้ 

 

9.จัดเสื้อผ้าเป็นชุดตามวัน 

สำหรับใครที่มีพื้นที่เหลือพอที่จะสามารถจัดชุดตามวันได้ก็เป็นเรื่องที่ดีเพราะจะได้ไม่เสียเวลาในการเลือกตอนใส่อีกรอบ และช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบสบายตาด้วย โดยอาจจะใช้วิธีม้วนเป็นชุดเสื้อกางเกงของแต่ละวันหรือใส่ถุงสุญญากาศไว้ก็ได้ แล้วแต่ความสะดวก หากมีที่เหลือพอก็อาจจะจัดทั้ง เสื้อผ้าชุดนอก ชุดชั้นใน และถุงเท้าของแต่ละวันไว้ด้วยกันเลยก็ได้ 

 

10.เรียงของให้เต็มพื้นที่ 

การจัดเรียงของในกระเป๋านอกจากการคำนึงถึงการใช้พื้นที่ให้มีประสิทธิภาพแล้ว ก็ต้องไม่ลืมเรื่องการจัดของให้เต็มพื้นที่ด้วย เพราะหากมีที่เหลือ ก็จะทำให้ของภายในกระเป๋าที่เราจัดไว้กระจัดกระจาย ไม่เป็นระเบียบ สร้างความปวดหัวและเสียเวลาต้องจัดอีกรอบเป็นแน่ เราก็อาจเติมกระเป๋าให้เต็มด้วยการใช้หมอน ผ้าห่ม หรือผ้าขนหนูผืนเล็กๆ มาช่วย 

 

สำหรับ เทคนิคจัดกระเป๋า หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกท่าน และถ้าใครอ่าน รีวิวการจัดกระเป๋า และเตรียมกระเป๋าพร้อมแล้วก็เตรียมตัวออก ไปเที่ยวกัน ได้เลย 

 

ที่มาข้อมูล:

อัพเดทสถานที่ฝากกระเป๋า ราคาถูกทั่วกรุงเทพฯ 

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ หรือเพื่อมาช็อปปิ้งในเมืองหลวงพร้อมกระเป๋าสัมภาระใบใหญ่ คงไม่ดีแน่หากต้องคอยแบกเป้หรือกระเป๋าเดินทางตะลอนทัวร์ไปทั่ว กทม. ในขณะที่โรงแรมบางแห่งก็ไม่สามารถการันตีถึงความปลอดภัยและทรัพย์สินในกระเป๋าให้คุณได้ การหาร้านที่รับ ฝากกระเป๋า สัก 2-3 ชั่วโมงก็น่าจะเพียงพอต่อการทำธุระในเมืองหลวงได้แบบสบายตัว ช่วยให้คุณทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ต้องขนสัมภาระให้เกะกะ ซึ่งนอกจากบริการรับฝากกระเป๋าแล้ว สถานที่รับฝากกระเป๋ายังมีบริการจัด ส่งกระเป๋า สัมภาระ สิ่งของที่ช้อปปิ้ง ตามไปให้ยังโรงแรม หรือ สนามบิน โดยที่คุณไม่ต้องหิ้วให้เมื่อยอีกต่อไป

 

อัตราการให้บริการดีที่สุดที่ AIRPORTELs 

สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ ทุกคนจะต้องมีกระเป๋าสัมภาระ ทั้งใบเล็ก ใบใหญ่ ซึ่งนับเป็นหนึ่งในปัญหาของเจ้าของกระเป๋าเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเวลาที่ต้องเดินทางไปขึ้นเครื่องบิน ด้วยกระเป๋าที่มีขนาดใหญ่ที่ทำให้การใช้บริการรถสาธารณะค่อนข้างลำบาก การเลือกใช้บริการรับส่งกระเป๋าจากบ้านไป สนามบิน เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการเดินทางจึงเป็นทางออกที่ดีมาก  

 

AIRPORTELs หนึ่งในผู้นำด้านการรับฝากและจัดส่งกระเป๋า สัมภาระ สินค้า จากสนามบินไป โรงแรม บ้าน ที่พัก หรือจาก ห้าง สรรพสินค้าไปสนามบิน โรงแรมหรือที่พักอาศัย โดยมีอัตราการให้บริการเริ่มต้นที่ 20,40 บาท/ชั่วโมง หรือ 100 บาท/วัน สำหรับการรับฝากสิ่งของ สัมภาระ ณ จุดให้บริการและมีอัตราค่าบริการในการจัดส่งกระเป๋าเดินทาง สัมภาระต่าง ๆ จากบ้าน ที่พัก หรือโรงแรมไปยังสนามบินในราคาเริ่มต้น 299 บาทเท่านั้น  นับเป็นอัตราการให้บริการที่ดีที่สุดแล้วในปัจจุบัน

 

สะดวก สบาย เมื่อใช้บริการ AIRPORTELs 

AIRPORTELs เปิดให้บริการรับฝาก จัด ส่งกระเป๋า ครอบคลุม 2 สนามบินหลักของประเทศ นั่นหมายความว่าทุกการเดินทางด้วยเครื่องบินโดยสารทั้งไปและกลับ คุณสามารถที่จะเก็บสิ่งของมีค่าของคุณเป็นชั่วโมง หรือเป็นวันได้หากต้องการ ได้ทั้ง 2 สนามบิน โดยตำแหน่งที่ตั้งเคาน์เตอร์บริการของสนามบินสุวรรณภูมิจะอยู่ที่ชั้นบี โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ในส่วนของสนามบินดอนเมือง เคาน์เตอร์ที่ให้บริการจะอยู่ที่อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ชั้นจี (G) ประตู 9 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 – 24.00 น.

 

นอกจากนี้ AIRPORTELs ยังมีเคาน์เตอร์ให้บริการประจำอยู่ตาม ห้าง สรรพสินค้าชั้นนำ ดังต่อไปนี้

โซนห้าง เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 10.00 22.00 น.

  • เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ที่ ชั้น 6 โซนบี (B) ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ
  • เทอร์มินอล 21 อโศก ชั้น 1 โซนโตเกียว ทางออกลานจอดรถ
  • เซ็นทรัลเวิร์ด ชั้น 1 โซนกรูฟ ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ

ในส่วนของต่างจังหวัด AIRPORTELs เปิดให้บริการแล้ว โดยจะเป็นการให้บริการขนส่งกระเป๋าไปยังต่างจังหวัด หากใครไม่อยากโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง หรือไม่อยากมีสัมภาระเยอะระหว่างเดินทางก็สามารถจองบริการของเราทางออนไลน์ได้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 349 บาท/ใบ น้ำหนักไม่เกิน 15 กก.

ติดต่อสอบถาม

 

Lock Box ช่วยคุณได้ ล็อกเกอร์ฝากของฉบับคนกรุง

คงจะดีไม่น้อยหากการเดินทางไปทำงานหรือเรียนหนังสือระหว่างทางมีตู้ล็อกเกอร์ไว้คอยบริการ เพราะจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปทำธุระอีกหลายแห่ง สามารถที่จะฝากกระเป๋า หนังสือเรียนหรือแม้แต่สัมภาระขนาดใหญ่ไว้ในล็อกเกอร์ได้ โดยมั่นใจว่าสิ่งของเหล่านั้นจะไม่สูญหายไป 

Lock Box หนึ่งในผู้ให้บริการตู้ล็อกเกอร์สำหรับฝากสินค้า กระเป๋าสัมภาระตามแนวรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน ซึ่งปัจจุบันกำลังขยายตู้รับฝากไปยังจุดต่าง ๆ ให้ทั่วทั้ง กรุงเทพ และปริมณฑลรวมไปถึงสนามบินและห้างสรรพสินค้าชั้นนำ เช่น สยามพารากอน, เซนทรัล วิลเลจ, ไอคอนสยามและเซนทรัลเวิร์ด แถมยังเปิดรับแฟรนไชส์เพื่อขยายสถานที่เก็บกระเป๋าอีกจำนวนมาก เพื่ออำนวยความสะดวก สบายให้แก่ผู้ใช้บริการ จะได้ไม่ต้องหอบกระเป๋าพะรุงพะรังอีกต่อไป ไม่ว่าคุณจะเป็นนักธุรกิจ พนักงานออฟฟิศ นักเรียน นักศึกษา ที่มีจุดหมายปลายทางมากกว่า 2 แห่ง Lock Bok ช่วยคุณได้ จะได้ไม่ต้องแบกกระเป๋าสัมภาระในการเดินทางไกลอีกต่อไป สนนราคาและค่าบริการในการรับฝากเริ่มต้นที่ 30 บาท/ ชั่วโมง หรือ 180 บาท/วัน สำหรับไซซ์วัสดุ 7X35X58cm.

 

Bellugg ปลอดภัย ตรงเวลา ตรวจสอบได้

อีกหนึ่งผู้ให้บริการรับฝากกระเป๋าและจัดส่งกระเป๋าเดินทางให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยยึดหลักปลอดภัย ตรงเวลาและตรวจสอบได้ มั่นใจว่ากระเป๋าทุกใบจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด เพราะมีประกันภัยคุ้มครองให้กับกระเป๋าทุกใบ พร้อมระบบขนส่งที่เชื่อถือได้ว่ากระเป๋า สัมภาระทุกใบจะส่งตรงถึงมือลูกค้าทุกคนด้วยความรวดเร็วและตรงเวลา นอกจากนี้ทาง Bellugg ยังเปิดให้บริการรับส่งสินค้าแบบวันเดียวถึงในเขต กรุงเทพ และปริมณฑล พร้อมกับรถที่มีเครื่องรักษาความเย็นไว้คอยบริการสำหรับร้านค้า ร้านอาหารที่ต้องการจัดส่งอาหารไปให้ถึงมือลูกค้าในขณะที่ยังสดใหม่ สำหรับท่านใดที่สนใจสามารถติดต่อจองการฝากและรับส่งสินค้า กระเป๋าสัมภาระต่าง ๆ ได้ที่ 087-336-6666 หรือที่เว็บไซต์ Bellugg.com/th/ 

 

โรงแรมส่วนใหญ่เลือกที่จะให้คุณ ฝากกระเป๋า ก่อนเช็กอินหรือหลังเช็กเอ้าท์สัก 2-3 ชั่วโมง ซึ่งหากโรงแรมอยู่ไกลจากแผนการเดินทาง ก็ควรเลือกที่จะใช้บริการฝากและรับ-ส่งดีกว่า จะได้ไม่ต้องเสียเวลาในการย้อนกลับมาเอากระเป๋าระหว่างท่องเที่ยว หรือช้อปปิ้งระหว่างที่รอเช็คอินกับสายการบิน ซึ่งสะดวกมากกว่าและที่สำคัญอย่าลืมที่จะดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน AIRPORTELs เพื่อเรียกใช้บริการได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 

ที่มาข้อมูล :

รวมพิกัดสถานที่เช่าชุดไทย ถ่ายรูปสวยๆในวัด

กระแสละครบุพเพสันนิวาสปลุกเทรนด์ฮิตสวมเสื้อผ้าชุดไทยถ่ายรูปสวยๆ กันทั่วบ้านทั่วเมือง จนถึงทุกวันนี้ปรากฏการณ์ออเจ้าฟีเวอร์ยังไม่แผ่ว เป็นอีกกิจกรรมที่ส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะธุรกิจให้ เช่าชุดไทย เที่ยวชมโบราณสถานที่พระนครศรีอยุธยาตามรอยแม่หญิงการะเกดในละครบุพเพสันนิวาส และจุดเช็คอินห่มสไบนุ่งโจงกระเบนถ่ายรูปสวยๆ ตาม วัด วาอารามใน กรุงเทพ ใครอยากรู้ว่ามีสถานที่เช่าชุดไทยสวยๆ ที่ไหนบ้าง ตามมาดูกันเลย

อยุธยาเมืองเก่าเป็นจุดหมายปลายทางหลักของนักท่องเที่ยวที่ตามหาร้านเช่าชุดไทยไปถ่ายรูปเป็นออเจ้าและพี่หมื่นตามสถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง มีบริการถ่ายรูปโดยช่างภาพมืออาชีพของร้านด้วย เรารวมร้านดังร้านเด็ดมาให้คุณแล้ว

 

1.สไบไทย SaBai Thai

เป็นร้านให้เช่าชุดไทยห่มสไบอิงกระแสละครบุพเพสันนิวาส ชุดไทยร่วมสมัยที่สวมง่าย ไปจนถึงชุดไทยแฟนซีสำหรับสวมในโอกาสพิเศษ มีทั้งบริการเช่าชุดและจำหน่ายให้กับลูกค้าที่อยากมีชุดไทยสวยๆ เป็นของตนเอง ใครอยากสวมชุดแบบจัดเต็มถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ทางร้านมีบริการแต่งหน้าทำผมพร้อมบริการถ่ายภาพแบบครบวงจร ได้รูปสวยไม่ซ้ำใครในราคาที่เอื้อมถึง

ที่ตั้ง : ร้านอยู่เชิงสะพานปรีดี ตรงข้ามร้านอาหารเวนิส ถนนอู่ทอง ตำบลหอรัตนไชย สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียงที่สามารถแวะสักการะพระรัตนตรัยและแช๊ะรูปได้ ได้แก่ วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดพนัญเชิงวรวิหาร, วัดมหาธาตุ, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดพระราม, วัดราชบูรณะ

 

2.สไบปลิว By Mangpor Ayutthaya

เป็นร้านเช่าชุดไทยหลายแบบ ชุดไทยสำหรับงาน แต่งงาน ชุดแฟนซีสำหรับงานอีเวนท์ต่างๆ พร้อมเครื่องประดับ มีบริการแต่งหน้าทำผมสวยครบ ให้บริการทั้งในและนอกสถานที่ ไม่มีบริการถ่ายภาพให้ ราคาเช่าชุดย่อมเยา สวยไม่แพ้ใคร

ที่ตั้ง : ร้านอยู่แถวถนนอู่ทอง ตำบลหอรัตนไชย ไม่ห่างจากร้านสไบไทย สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดพนัญเชิงวรวิหาร, วัดมหาธาตุ, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดพระราม, วัดราชบูรณะ

 

3.เช่าชุดไทยร้านอลังการอยุธยา

ร้านเช่าชุดไทยในตัวเมือง จัดเต็มทั้งชุดไทยสวยอลังการหลายแบบ พร้อมอุปกรณ์เสริมให้เช่า เช่น ร่ม รองเท้า มีช่างแต่งหน้าทำผมและบริการ ถ่ายรูป เก็บไว้เป็นที่ระลึก ราคาย่อมเยา หากถ่ายรูปในร้านไม่จุใจ สามารถไปเดินเที่ยวถ่ายรูปเล่นในวัดและโบราณสถานใกล้ๆ สวมบทบาทแม่หญิงการะเกดและพี่หมื่นกันอย่างจุใจ 

ที่ตั้ง : ร้านอยู่ที่ถนนนเรศวร ใกล้วัดราชบูรณะและวัดมหาธาตุ สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ วัดมหาธาตุ, วัดใหญ่ชัยมงคล, วัดพระศรีสรรเพชญ์, วัดพระราม, วัดราชบูรณะ, วัดพนัญเชิงวรวิหาร

 

4.อยุธยาชุดไทย

เป็นบริการให้เช่าชุดไทยพร้อมแต่งหน้าทำผมสวยครบตั้งแต่หัวจรดเท้า ปัจจุบันไม่มีหน้าร้าน ผู้สนใจโทรสอบถามและนัดคิวไปเลือกชุดสวยๆ ได้ที่บ้าน มีตั้งแต่ชุดไทยพื้นฐานเหมือนในวรรณคดี ชุดไทยถอดแบบจากละครย้อนยุคที่โด่งดัง หรือมองหาชุดสวยสำหรับพิธีแต่งงานและเพื่อนเจ้าสาว จัดเต็มให้ทุกชุดตามสโลแกน “สวยดุจดารา ราคามหาชน” งบไม่บานปลาย 

ที่ตั้ง : ร้านเช่าชุดไทยอยู่ในโซนบางปะอิน  สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ วัดใหญ่ชัยมงคล, ตลาดน้ำอโยธยา

 

5.ออเจ้า วัดไชยวัฒนาราม

ร้านเช่าชุดไทยทำเลดีหน้าวัดไชยวัฒนาราม เป็นร้านเช่าชุดเก่าแก่ที่ลูกค้าไว้วางใจมานานตั้งแต่ก่อนกระแสละครดัง มีชุดไทยและเครื่องประดับให้เลือกหลายรูปแบบ เช่าชุดราคาเบาๆ สวมเป็นออเจ้าไปเดินเที่ยวได้ทั้งวัน โดยเฉพาะวัดไชยวัฒนารามซึ่งเป็น วัด เก่าแก่ตั้งแต่สมัยพระเจ้าปราสาททองในสมัยอยุธยาตอนปลาย และเป็นอีกหนึ่งสถานที่ถ่ายทำละครเรื่องบุพเพสันนิวาสก็อยู่หน้าร้านพอดี มีบริการเช่าชุดพร้อมช่างแต่งหน้าทำผม ถ่ายรูปสวยๆ โดยช่างมืออาชีพ 

ที่ตั้ง : พิกัดร้านอยู่หน้าวัดไชยวัฒนาราม ตำบลบ้านป้อม สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ วัดไชยวัฒนาราม, วัดพุทไธศวรรย์, อุทยานประวัติศาสตร์, วัดบรมพุทธาราม, วัดพระราม, วัดพระศรีสรรเพชญ์, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา, วังช้างอยุธยา

 

6.ร้านผ้าไทย By มณฑิตา วัดไชยวัฒนาราม

เป็นอีกหนึ่งร้านที่มีทำเลอยู่ใกล้วัดไชยวัฒนาราม บริการลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่มาท่องเที่ยวและสนใจสวมชุดไทยโพสต์ท่าถ่ายรูป มีให้เลือกทั้งชุดไทยอยุธยาแบบออเจ้า ไปจนถึงผ้าไทยวัยรุ่นแต่งชุดไทยเก๋ๆ พร้อมเครื่องประดับจัดเต็มทั้งแต่งหน้าและทำผมโดยช่างมืออาชีพ ตามสโลแกนไม่สวย ไม่หล่อ ไม่ให้ออกจากร้าน รับประกันความพอใจในราคาจับต้องได้ มีบริการถ่ายรูปในร้านหรือจะเช่าชุดสวมไปเดินเที่ยวถ่ายรูปในวัด ตลอดจนงานถ่ายรูปพรีเวดดิ้งก็มีให้บริการเช่นกัน

ที่ตั้ง : ร้านตั้งอยู่หน้าวัดไชยวัฒนาราม สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ วัดไชยวัฒนาราม, วัดพุทไธศวรรย์, อุทยานประวัติศาสตร์, วัดบรมพุทธาราม, วัดพระราม, วัดพระศรีสรรเพชญ์, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา, วังช้างอยุธยา

 

7.ร้านชื่นชีวา ชุดไทยย้อนยุค

บริการให้เช่าชุดผ้าไทยสวยเกินราคา รีวิวลูกค้ามากมายประทับใจในความพิถีพิถันจัดแต่งตัวให้อย่างสวยเป๊ะ ภายในร้านจัดแต่งร้านเป็นสตูดิโอถ่ายรูปสวยแบบโบราณมีทั้งฉากมีทั้งบัลลังก์สุดอลังการ สวยทั้งชุดเก๋ทั้งเครื่องประทับครบจบในที่เดียว บริการถ่ายรูปทั้งในและนอกสถานที่เก็บไว้เป็นเมมโมรี

ที่ตั้ง : ทำเลร้านใกล้วัดไชยวัฒนาราม สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ วัดไชยวัฒนาราม, วัดพุทไธศวรรย์, อุทยานประวัติศาสตร์, วัดบรมพุทธาราม, วัดพระราม, วัดพระศรีสรรเพชญ์, พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา, วังช้างอยุธยา

 

8. Sense Of Thai : Thai Costume Rental

ร้านเช่าชุดไทยร่วมสมัยที่โดดเด่นในกรุงเทพคงหนีไม่พ้นร้านนี้และอีกหลายร้านที่มีพิกัดใกล้วัดพระแก้วและวัดอรุณซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวนุ่งโจงห่มสไบที่ควรไปเยือนสักครั้ง ร้าน Sense Of Thai เปิดให้บริการไม่นานแต่คัดสรรชุดไทยมาให้เลือกอย่างครบครัน ตั้งแต่ชุดเจ้าบ่าว เจ้าสาว และงานมงคลต่างๆ เลือกชุดสวยไปสวมได้ทุกโอกาสพร้อมเครื่องประดับเข้าเซตกัน มีพนักงานผู้เชี่ยวชาญบริการแต่งชุดให้พร้อมกับแนะนำวิธีเลือกชุดสวมให้เหมาะกับโอกาส และเดินเที่ยวถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆ ใกล้เคียงอย่างวัดและวังหลวง

ที่ตั้ง : พิกัดร้านอยู่แถวมหาราช-ท่าเตียน แขวงพระบรมมหาราชวัง สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ วัดพระแก้ว, วัดอรุณราชวราม, วัดเบญจมบพิตร และพระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท

 

9.ร้านเช่าชุดไทย by NuchaRin

เป็นร้านเช่าชุดแบบครบวงจร มีทั้งชุดไทยสไบเฉียง ชุดเพื่อนเจ้าสาสว ชุดผ้าไทยสำหรับงานอีเวนท์ งานบริษัท งานประกวด งานเกษียณ ชุดลอยกระทง และเดินเที่ยวถ่ายรูปเล่น ใครมีแพลนงานไหนแจ้งแบบที่ต้องการจองคิวได้ทางออนไลน์สะดวกง่ายดาย พร้อมจัดส่งทั่วประเทศ

ที่ตั้ง : ร้านนี้อยู่ปากซอยอาภาสิริ ถนนสุทธิสาร แขวงสามเสนนอก สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง ได้แก่ วัดพระแก้ว, วัดอรุณราชวราม, วัดเบญจมบพิตร, พระที่นั่งสุทไธสวรรยปราสาท-พระราชวังสราญรมย์ และสถานที่อื่นๆ รอบกรุงเทพฯ

 

10.ร้านมิสซูริ

บริการให้เช่าชุดไทยและแต่งหน้าแบบครบวงจร มีชุดออกงานสวยงามประณีต ให้เลือกสวมเหมาะกับหลายโอกาส ตั้งแต่ชุดไทยออกงาน ชุดราตรี ชุดงานแต่งงาน ชุดถ่ายพรีเวดดิ้ง งานบวช หรือเที่ยวถ่ายรูปในวัดและสถานที่ท่องเที่ยว ราคาไม่เกินเอื้อม บริการทั้งแบบเช่าชุด ตัดเช่า และตัดซื้อตามออเดอร์ของลูกค้า พร้อมปรับแก้ไซซ์ให้เหมาะสมกับรูปร่าง จัดเต็มทั้งรองเท้าและเครื่องประดับครบเซ็ต ลูกค้าเข้าเว็บไซต์ไปกดเลือกรูป ดูว่าชุดไหนพร้อมเช่าจองคิวได้เลยไม่เสียเวลา

ที่ตั้ง : ทำเลร้านอยู่ใจกลางเมืองแถวถนนเกษตร-นวมินทร์  ช่วงตอม่อที่ 27 แขวงเสนานิคม เขตจตุจักร เลือกเช่าชุดไปออกงานหรือไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ ได้ตามต้องการ

จากงานอุ่นไอรักมาถึงกระแสละครดัง ผ้าไทยเป็นแฟชั่นสวยๆ ที่นักท่องเที่ยวสวมเที่ยวชมวัดและเดินเล่นตามสถานที่ท่องเที่ยวได้อย่างน่ารักและดีงาม ชุดผ้าไทยสไบเฉียง ชุดไทยประยุกต์ ไปจนถึงชุดไทยแฟนซีมีเสน่ห์แตกต่างกันไป สวมใส่ได้ไม่ซ้ำแบบ ไม่แปลกใจที่หลายคนแต่งชุดไทยแล้วมั่นใจไม่ขวยเขิน ใครอ่านแล้วสนใจอยาก เช่าชุดไทย ตามสไตล์ที่ตนชื่นชอบใส่ไปเที่ยวถ่ายรูปเก๋ๆ ลองเข้าไปใช้บริการพิกัดที่ปักหมุดให้ต้อง มีช่างภาพมืออาชีพ และราคาที่เอื้อมถึง จะได้ความประทับใจกลับไปแน่นอน

 

ที่มาข้อมูล : 

7ที่”แคมป์ปิ้ง”ใกล้กรุงเทพฯ ไม่ต้องเดินทางไกลก็ได้ฟีล

วันหยุดพักผ่อนอยากเปลี่ยนบรรยากาศจากเที่ยวห้าง เดินช้อปปิ้ง ไปหาที่ตั้งแคมป์ใจกลางกรุงแต่ไม่รู้จะไปที่ไหนดี วันนี้ชวนมาคนอยากไป แคมป์ปิ้ง ใจกลางกรุงและสายแคมป์มาหาที่พักแรมค้างคืนสุดชิล เดินทางง่ายอยู่ใจกลางกรุงแต่ได้ฟีลดี เป็นส่วนตัว ใกล้ชิดธรรมชาติ ให้วันหยุดของคุณไม่น่าเบื่อและได้พักร่างชาร์จแบตพร้อมสำหรับการกลับไปทำงาน มาดูกันว่ามีที่ไหนบ้างน่าไป

1.Bangkok Backyard 

เริ่มต้นกันที่ลานกางเต็นท์ ใจกลางกรุงเทพ ตั้งอยู่เส้นถนนไมตรีจิต ถูกใจสายแคมป์ปิ้งสุด ๆ เพราะมีลานให้คุณได้ตั้งแคมป์นอนชิลท่ามกลางธรรมชาติริมบึงไมตรีจิต ทำเลดีลานตั้งแคมป์อยู่บนพื้นที่สนามหญ้าเขียวขจีล้อมรอบด้วยบึงน้ำเหมือนเกาะที่อยู่กลางน้ำเพราะมีลักษณะพื้นที่ตั้งแคมป์ยื่นออกไปกลางบึงไมตรีจิต จุดเด่นนอกจากจะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติวิวริมน้ำแล้ว ที่นี่จำกัดคนเข้ามาตั้งแคมป์จึงรู้สึกถึงความเป็นส่วนตัว ไม่วุ่นวาย เหมาะแก่การพักผ่อนดีทีเดียว เรื่องไฟฟ้ามีปลั๊กไฟพร้อมใช้งานหมดห่วงตั้งแคมป์สบายใจมีไฟฟ้าใช้สะดวก แต่งดการก่อไฟทำอาหาร ปิ้งย่าง ที่นี่จึงไม่เหมาะกับสายกินหมูกระทะ เน้นตั้งแคมป์นอนชิลมากกว่า  

ที่ตั้ง : ถนนไมตรีจิต เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 

 

2.ช่างสุข คาเฟ่ ปากเกร็ด

มาต่อกันที่ช่างสุข คาเฟ่ ที่บอกเลยว่าตอบโจทย์ของสายแคมป์ปิ้งสายคาเฟ่ เพราะที่นี่ในตอนเช้าจะมีร้านขายเบเกอรี่รสชาติอร่อย เรื่องทำเลได้ใจคนชอบฟีลธรรมชาติ กับลานกว้างแวดล้อมด้วยต้นไม้ ไฮไลท์ของที่นี่คือความเรียบง่าย บรรยากาศดีเหมาะกับการมานั่ง นอนชิล ส่วนความสะดวกมีไฟฟ้าและห้องน้ำให้บริการ ที่สำคัญราคาไม่แพงคนละ 100 บาท 

พิกัด : ซอยหลังโรงพยาบาลปากเกร็ด2 ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี 11120 

ติดต่อ FB: ช่างสุข คาเฟ่ – Camping Café 

 

3. One cc. ราชพฤกษ์ 

สำหรับที่ตั้งแคมป์ปิ้ง จุดนี้จัดว่าเด็ดเพราะบรรยากาศดีใกล้ชิดธรรมชาติไม่แพ้ที่อื่น ที่สำคัญมาที่นี่ไม่ต้องกลัวอดเพราะในพื้นที่เดียวกันก็มีร้านอาหาร คาเฟ่ให้บริการเมนูอาหารและเครื่องดื่มอร่อย ๆ ที่หลายคนต่างไปแล้วลงความเห็นว่าแต่ละเมนูรสชาติดีมาก เป็นที่สถานที่เหมาะสำหรับการกางเต็นท์พักผ่อนในวันหยุด เดินทางง่ายอยู่ใจกลางกรุง ส่วนบรรยากาศให้ฟิลบ้านสวน กลางเต็นท์กลางสวนหย่อม 

พิกัด : 121 21 หมู่ 5 ถนนราชพฤกษ์ ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี. 11130 

ติดต่อ FB: One cc. 

 

4. 54 Camp เป็นเกียรติ สตูดิโอ ลาดกระบัง 54

เหล่าคนเมืองกรุงไม่ต้องหาเวลาหลายวันหรือเหนื่อยกับการเดินทางเพื่อหาที่ แคมป์ปิ้งเพราะที่นี่เป็นหนึ่งในจุดกางเต็นท์ใจกลางกรุง เดินทางสะดวก ตั้งอยู่หลังเลนปั่นจักรยานสุวรรณภูมิ ใครไปแถวนั้นจะทราบดีว่าบรรยากาศที่นี่ดีมาก เพราะโล่ง ปลอดโปร่ง จุดเด่นที่น่าสนใจของที่นี่ไม่เพียงเป็นเรื่องบรรยากาศเท่านั้น แต่ยังสะดวกสบาบเพราะมีทั้งบริการ WiFi ฟรี ห้องน้ำ ไฟฟ้าพร้อมใช้ และยังมีร้านสะดวกซื้อให้ได้ซื้อของไปตุนกันในช่วงพักผ่อนที่แคมป์แล้วไม่อยากเดินทางออกไปข้างนอกบ่อย ๆ 

พิกัด : 26/1 ถ.ลาดกระบัง 54 แขวงลาดกระบัง อ.บางเสาธง จ.สมุทรปราการ 10520 

ติดต่อ : คุณอาร์ต โทร 081-869-9111

 

5. James 500 City Camp & City Farm รามคำแหง 

เป็นอีกหนึ่งแห่งที่สายแคมป์ปิ้งห้ามพลาด นอกจากไม่ต้องเดินทางไกลแล้วที่นี่ยังเป็นทั้งจุดแคมป์ปิ้ง ปิกนิกในวันพักผ่อนสุดชิล จุดเด่นคืออยู่ติดทะเลสาบ อากาศดี ลมเย็นสบาย ที่น่าสนใจคือสายกินปิ้งย่างหายห่วงเพราะที่นี่อนุญาตให้ปิ้งย่างได้ แถมสะดวกสบายอีกต่างหากเพราะมีบริการอุปกรณ์ เช่น เตาปิ้ง เก้าอี้ เครื่องดื่ม ครบครัน 

ปากซอย 53 หมู่บ้านสัมมากร ซอยรามคำแหง112 แขวง/เขตสะพานสูง กรุงเทพฯ 10240

ติดต่อ FB: James 500 City Camp & City Farm, Line: @James500organic 

 

6. Camp Safari 

สำหรับที่ตั้งแคมป์ปิ้งแห่งนี้มาพร้อมกับบรรยากาศได้ฟิลกลางป่าไม่น้อย เพราะคุณจะได้สัมผัสกับธรรมชาติทั้งต้นไม้ และได้เห็นนกนานาชนิด โอบล้อมด้วยธรรมชาติอย่างแท้จริงเหมือนไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองกรุง ชอบและอยากตั้งแคมป์ริมน้ำกลางป่าสนต้องที่นี่เลย สะอาด สะดวกสบาย บรรยาการดีได้ฟิลสุด ๆ 

พิกัดแขวง สามวาตะวันตก เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร 10510

ติดต่อ : https://www.facebook.com/Campsafaribkk/

 

7. Yaks Park บางปะอิน 

จ่ายหลักร้อยได้วิวเกินราคาเพราะที่นี่มีลานตั้งแคมป์ที่ทำให้คุณได้เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา จุดเด่นคือเป็นลานแคมป์ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ที่มาพร้อมบริการให้คุณได้เช่าอุปกรณ์อย่างเตาปิ้งย่าง อุปกรณ์สำหรับสายแคมป์ แถมด้วยกิจกรรมตกปลาอีกด้วย เป็นอีกหนึ่งที่แคมป์ปิ้งใจกลางกรุงที่น่าไปเยือนสุด ๆ ไฮไลท์อีกหนึ่งอย่างของที่นี่คือคุณจะได้ชมพระอาทิตย์ตกฟีลดีมาก แวดล้อมด้วยธรรมชาติทั้งยังอากาศดี เหมาะสำหรับการพักผ่อนทั้งกลุ่มเพื่อน ครอบครัว คนโสดหรือจะมาเป็นคู่ก็ได้ฟีล

ต.บ้านโพธิ์ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา 13160

ติดต่อ FB: Yaks Park, โทร 085-238-0736

 

อยากเที่ยวพักผ่อนไม่ว่าจะไปแบบคนโสด มีคู่หรือกับเพื่อนฝูง สไตล์สายแคมป์ได้นอนพักผ่อนชิล ๆ ท่ามกลางบรรยากาศดี ห่างไกลความวุ่นวายของเมืองใหญ่ วันนี้ 7 ที่แคมป์ปิ้ง ใจกลางกรุงเทพ ที่เรารวบรวมมาให้น่าไป การันตีจากเหล่าสายแคมป์ปิ้งว่าต้องไปลองตั้งแคมป์ นั่ง นอนชิลกันสักครั้ง ลองปักหมุดไปสักที่ เชื่อว่าคุณจะประทับใจเพราะแต่ละแห่งไม่เพียงอยู่ใจกลางกรุง เดินทางง่าย ยังมาพร้อมกับ  

 

ที่มาข้อมูล

แจกพิพัดร้านนวดสปา นวดไทยแนะนำ ในกรุงเทพฯ

กรุงเทพเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งนวัตกรรมทั้งหลายล้วนถูกนำไปใช้ในการทำสปาให้มีความครบวงจร ถือเป็นสวรรค์ของเหล่าคนที่รักการนวดสปา ใครที่ชื่นชอบการผ่อนคลายด้วยวิธีนี้จะต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน ในวันนี้เราจึงได้รวบรวม สปาในกรุงเทพฯ ที่จัดว่าเด็ด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบริการ บรรยากาศ เทคโนโลยีที่นำเข้ามาใช้ แต่ละที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน ทั้งหมดล้วนสร้างความประทับใจ ไปดูกันว่าแต่ละที่มีจุดเด่นและความน่าสนใจอย่างไร

  

1.บริสุทธิ์ เพียว สปา (Borisud Pure Spa)

เริ่มต้นกันด้วยที่แรกสปาสำหรับคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะได้นำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหรือออแกร์นิกมาใช้ในการทำทรีตเมนต์ทุกตัว ถือเป็นความใส่ใจในเรื่องของสุขภาพร่างกายของลูกค้าที่มาใช้บริการ ทำให้ได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ถือเป็นจุดเด่นที่ไม่ว่าใครเมื่อมาสัมผัสก็ต้องเกิดความประทับใจ  อีกทั้งบรรยากาศมีความทันสมัย สะอาดตา ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความงามมากมาย อาทิ ห้องซาวน่าระบบอินฟราเรด (Infrared Sauna) ให้ความรู้สึกอบอุ่นคล้ายกับแสงแดดของพระอาทิตย์ อ่างน้ำจากุซซี่ (Jacuzzi) มีระบบนวดตัวขณะแช่น้ำและห้องอบไอน้ำ (Steam Bath) สำหรับฟื้นฟูสภาพผิว เป็นต้น

พิกัด : Borisud Pure Spa (Mode Sathorn Hotel, ชั้น 11)

เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 23:00

 

2.Kashikiri Onsen and Spa

ใครที่ชื่นชอบการแช่ตัวแบบออนเซ็นฟิลเหมือนอยู่ญี่ปุ่นต้องที่ Kashikiri Onsen and Spa สปาที่แรกของเมืองไทยย่านสุขุมวิท ที่จะมามอบความเป็นส่วนตัวแก่คุณหรือที่เรียกว่า ไพรเวทออนเซ็น พร้อมทั้งชุดคลุมยูกาตะให้สวมใส่ขณะใช้บริการ เข้ากับบรรยากาศสุด ๆ เพราะตกแต่งออกมาในสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่ง สปาในกรุงเทพฯ แห่งนี้ได้รับความนิยมจากคนเมืองไม่น้อย ต่างหนีความวุ่นวายมาอาบน้ำแร่ แช่น้ำนมให้ร่างกายได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ในส่วนของบริการภายในลูกค้าสามารถเลือกกลิ่นอโรม่าเองได้และน้ำแร่ออนเซ็นก็เช่นกันมีถึง 3 แบบ คุณสมบัติที่ดีต่อร่างกายต่างกัน พร้อมนวัตกรรมสปาออนเซ็นฟองอากาศจะทำให้ทั้งผิวและเส้นผมมีสุขภาพที่ดี

พิกัด : อุดมสุข (วชิรธรรมสาธิต ซ.32) และ สุขุมวิท 49 (BTS ทองหล่อ)

เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 21:00

 

3.Pañpuri Wellness

ต้องยกให้สปาปัญญ์ปุริ เวลเนส (Pañpuri Wellness) เป็น สุดยอดสปา ออแกนิคและทรีตเม้นต์เสริมความงาม เพราะให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ เหมาะอย่างมากกับคนที่รักสุขภาพจริงจัง หากได้มาใช้บริการคุณจะลืมความเครียด บรรยากาศภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ท่ามกลางวิวทิวทัศ 360 องศาของกรุงเทพฯ มาพร้อมบริการที่หลากหลาย เช่น การแช่ออนเซ็น ออร์แกนิกสปา ขัดผิว นวดไทย นวดบำบัด แบบนี้แม้ว่าคุณจะเหนื่อยมาแค่ไหน บริการของที่นี่จะทำให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แน่นอน

พิกัด : Gaysorn Urban Retreat, ชั้น 12

เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 21:00

 

4.Erb Spa (Warehouse 30)

หลังจากที่ไปสัมผัสบริการของร้านสปาใน 3 อันดับแรกที่ให้ฟิลความเป็นสมัยใหม่และญี่ปุ่นแล้ว เราลองไปทำความรู้จักกับบริการที่ เอิบ สปา (Erb Spa) ได้นำเสนอการให้บริการในรูปแบบไทย ๆ แต่มีความทันสมัย เพราะตกแต่งภายในร้านแบบทรอปิคอล เน้นเฉดสีเขียว เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงการพักผ่อนอย่างเต็มที่ อีกทั้งทางสปาแห่งนี้ได้พิถีพิถันคัดสรรค์ผลิตภัณฑ์ในการปรนนิบัติผิวนั้นคือเกสรดอกไม้ไทยโบราณ 7 ชนิด ถือเป็นภูมิปัญญาตามตำรับชาววังอันควรค่าแก่การรักษาไว้ ไม่เพียงเท่านี้ เพื่อให้สปาเป็นหนึ่งตัวช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ จึงได้มีการผสมสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะมาให้บริการ ผสานรวมกับศาสตร์แห่งวิทยาการสมัยใหม่ จึงทำให้สปาแห่งนี้มีเอกลักษณ์ในเรื่องของการดูแลผิวหน้าที่ไม่เหมือนใคร 

พิกัด : Erb Spa (เจริญกรุง ซ.30) และ Erb Bliss Room (Gaysorn Village, ชั้น 2)

เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 19:00

 

5.De Rest Spa

หากคุณกำลังเครียดจากการทำงานอย่างหนักลองให้ เดอะเรส สปา (De Rest Spa) เป็นคนดูแลปรนนิบัติคุณด้วยบริการ นวดไทย ตั้งแต่บริเวณฝ่าเท้า คอและไหล่ ผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยนวดน้ำมันสปา ในส่วนของบริการดูแลผิวจะเป็นการทำทรีตเม้นต์อโรม่าหรือการใช้กลิ่นจากน้ำมันหอมระเหย ขณะได้รับบริการคุณจะรู้สึกผ่อนคลายมากทีเดียว ไม่เพียงเท่านี้ยังมีการสครับผิวกายเพื่อฟื้นฟูให้แลดูผิวพรรณดีขึ้น อย่างไรก็ตามคุณสามารถมั่นใจในบริการของทางร้านได้เลย เพราะผู้ให้บริการทั้งหมดได้รับใบรับรองการนวดมาแล้วและมีประสบการณ์

พิกัด : De Rest Spa (Maneeya Center, BTS ชิดลม)

เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 – 23:45

 

6.Chi The Spa, Shangri-la Hotel

การให้รางวัลตอบแทนตัวเองไม่เพียงเป็นการให้ของมีค่า ราคาแพงอย่างเดียว แต่การได้พาร่างกายไปผ่อนคลายเป็นสิ่งที่ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยตรง เพราะบริการที่ Chi The Spa ศูนย์บริการนวดสปาที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรมแชงกรีล่า จะทำหน้าที่สลัดความเมื่อยล้าออกไปจากคุณ อีกทั้งในส่วนของการดูแลผิวมีสครับให้เลือกทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ Pink Salt, Coconut, green Tea, Sesame และอีกหนึ่งความพิเศษคือสปาแห่งนี้เป็นบริการสปาต้นตำหรับจากวัฒนธรรมเอเชียหลากหลายประเทศ ด้วยนักบำบัดมืออาชีพที่มีความรู้ด้านนี้โดยตรง

พิกัด : Chi The Spa (Shangri-la Hotel)

 

เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 22:00 ในวันหยุดพักผ่อนนี้หากคุณรู้สึกเมื่อยล้าและมองผิวพรรณแล้วช่างแห้งเหี่ยวขาดการดูแลบำรุง ลองเลือกใช้บริการร้านสปาที่เราแนะนำในวันนี้ รับรองว่าร่างกายของคุณจะได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่และคุณเองก็จะต้องหลงใหลในการถูกสัมผัสตัวด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพมากมาย ที่ปรนนิบัติผิวอย่างล้ำลึก ถือเป็น สุดยอดสปา ในกรุงเทพที่คนรักสุขภาพเช่นคุณไม่ควรพลาด

 

ที่มาข้อมูล

หนาวนี้ไปไหนดี 2565 ปักหมุดไปเช็กอินกัน

หน้าหนาวใกล้เข้ามาแล้ว ยังงี้ก็ต้องเตรียมจัดทริปไปชมทะเลหมอกสัมผัสกับลมหนาวกันสักหน่อย ถ้าหากใครยังไม่มีไอเดียว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในช่วงหน้านี้เรามี เที่ยวหน้าหนาว 10 ที่มาฝากกัน จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้นไปดูกันเลยดีกว่า

  

1. ดอยอินทนนท์

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของการเที่ยวหน้าหนาว เพราะเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน ประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร บริเวณโดยรอบเป็นป่าดิบชื้นที่มีต้นไม้นานาพันธุ์ บนยอดดอยอากาศหนาวเย็นมากถึงขั้นที่ว่าเกิดแม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งก็มีมาแล้ว ใครที่อยากจะออกไปสัมผัสทะเลหมอกท้าความหนาวพลาดไม่ได้เลย ด้านบนมีที่พักหลากหลายแบบทั้งลานกางเต็นท์ โฮมสเตย์ รีสอร์ต และที่พักของอุทยาน คุณสามารถเลือกได้ตามรสนิยม

พิกัด : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตู้ ปณ.2 119 หมู่7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160

(อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่)

เวลาเปิด – ปิด อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

เวลา : 05:00 – 16:00

 

2. ปาย

สถานที่ท่องเที่ยวคลาสสิคที่ฮอตฮิตตลอดกาล ไม่ว่าเวลาผ่านไปไหนแค่ไหนมนต์เสน่ห์ของปายก็ไม่เคยเหือดหาย ที่นี่เป็นหมู่บ้านในหุบเขาที่อากาศเย็นสบายทั้งปียิ่งในหน้าหนาวยิ่งอากาศดีมาก ๆ แถมยังมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้ไปเปิดประสบการณ์ ยามเย็นก็มีถนนคนเดินเป็นตลาดขายของกินของที่ระลึกให้ได้เลือกชิมเลือกช้อปมากมาย 

 

3. ดอยเสมอดาว

สถานที่ท้าลมหนาวชมทะเลหมอกที่มาแรงในจังหวัดน่าน ที่นี่เป็นยอดดอยที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ สามารถหมอกเห็นทะเลหมอกยามเช้าได้แบบเต็มตา ที่นี่มีบ้านพักให้บริการ นอกจากนั้นยังมีลานกางเต็นท์ให้บริการสำหรับคนลุย ๆ  ด้านบนมีร้านอาหารไว้บริการไฮไลท์เด็ดเลยก็คือการนั่งกินหมูกระทะท้าลมหนาวพร้อมกับนอนดูแสงดาวยามค่ำคืนฟินสุด ๆ ไปเลย

พิกัด : อช.ศรีน่าน ดอยเสมอดาว อ.นาน้อย จ.น่าน

เต็นท์ของอุทยานกางไว้ให้แล้วทั้งสองจุด ไม่ต้องเข้าไปจองในเว็บไซต์ของอุทยานฯ

 

4. ภูทับเบิก

แลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้งที่มีพืชที่ทางการเกษตรปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศไทย ยิ่งในช่วงหน้าหนาวตั้งแต่ตุลาคม – ธันวาคม เป็นช่วงที่กะหล่ำปลีกำลังสวยเลย คุณจะได้เห็นไร่กะหล่ำปลีแบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา แถมตอนเช้า ๆ ยังสามารถมองเห็นทะเลหมอกหนาตาได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว

พิกัด : ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล จังหวัดเพชรบูรณ์

 

5. เชียงคาน

อีกหนึ่งสถานที่ เช็คอิน ช่วงหน้าหนาวสุดคลาสสิคอีกที่หนึ่ง เป็นการท่องเที่ยวประเภทเสพวิถีชีวิตของคนพื้นที่ ชุมชนที่นี่เป็นชุมชนเล็ก ๆ ริมฝั่งโขง อากาศเย็นสบายตลอดปีแต่ให้บรรยากาศอบอุ่นของรอยยิ้มผู้คน ยิ่งถ้ามาช่วงหน้าหนาวยิ่งเย็นสบาย สามารถมองเห็นทะเลหมอกเหนือแม่น้ำโขงในยามเช้า ไฮไลท์สำคัญก็คือการได้ตักบาตรข้าวเหนียวริมฝั่งโขง ใครอยากไปใช้ชีวิตช้า ๆ แบบสโลว์ไลฟ์ที่นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด

 

6. เขาใหญ่

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าหนาวไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพ เป็นอุทยานแห่งชาติที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งเลยทั้งยังเป็นมรดกโลกด้วย ที่สำคัญคือเดินทางสะดวก เดินทางออกจากกรุงเทพที่พอถึงสระบุรีแล้วเลี้ยวขวาใช้ถนนเส้นมิตรภาพเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็ถึงเขาใหญ่แล้ว อากาศเย็นสบาย ยามเช้าสามารถออกมาชมหมอกบาง ๆ พร้อมสูดรับโอโซนกันให้เต็มปอด ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เยี่ยมชมไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ สวนสัตว์แบบ Exotic ไร่องุ่น ร้านอาหารอร่อยๆ เพียบ แถมที่พักก็มีหลากหลายสไตล์ทั้งแบบขาลุยนอนกางเต็นท์ใกล้ชิดธรรมชาติไปจนถึงรีสอร์ทหรูที่ให้บรรยากาศราวกับอยู่ต่างประเทศ

พิกัด : จังหวัดนครราชสีมา

 

7. ดอยช้าง

ดอยช้างเป็นอีกหมุดหมายหนึ่งของการไปเที่ยวหน้าหนาว เพราะค่อนข้างสะดวกสบายเดินทางง่าย ต่างจากยอดดอยอื่น ๆ ที่มักต้องเดินทางสมบุกสมบันและยังมีไฟฟ้าใช้จำกัด ที่ดอยช้างยังเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ดีที่สุดในประเทศ จึงเหมาะกับการไปเที่ยวชิลล์ ๆ ทั้งครอบครัว ด้านบนมีที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟให้บริการหลากหลายร้าน พิเศษตรงที่คุณจะได้ดื่มกาแฟที่ปลูกสด ๆ กันบนนี้เลย กาแฟนทุกแก้วผ่านการคั่วบดด้วยวิธีแบบดั้งเดิม รับรองเลยว่าฟินสุด

พิกัด : จังหวัดเชียงราย

 

8. ม่อนแจ่ม

ใครที่อยากไปนอนเต็นท์สัมผัสกับอากาศหนาวม่อนแจ่มเป็นที่ที่ไม่ควรพลาด เพราะมีลานกางเต็นท์ที่มีชื่อเสียงที่สุด ให้คุณได้นอนชมดาวได้เต็มตาทั่วทั้งฟ้ายามค่ำคืน เช้ามาก็มีทะเลหมอกมาให้ชมถึงที่ วิวก็สวยงามมากมองเห็นนาขั้นบันได ไร่ส้ม สวนดอกไม้นานาพันธุ์ที่เบ่งบานแข่งสีสันกันตระการตา เหมาะกับการไปถ่ายรูป เช็คอิน อัพลงโซเชียลก็เรียกยอดไลค์ยอดแชร์ได้ไม่น้อย

พิกัด : ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ 50180

เวลาเปิด – ปิด : 7.00 – 19.00

ตั๋วเข้าชมม่อนแจ่ม : มอนแจ่มไม่เก็บค่าเข้าชม แต่เข้าชมไร่สตรอเบอรี่ ปลายฟ้าต้องเก็บค่าเข้าชม 20 บาท

 

9. ปางอุ๋ง

สถานที่ท่องเที่ยว unseen ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนขึ้นชื่อว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เพราะบรรยากาศเป็นอ่างเก็บที่โอบรอบไปด้วยป่าสนเขาบริเวณกว้าง ราวกับทะเลสาบในแถบยุโรปยังไงยังงั้น ซึ่งสามารถไปนอนกางเต็นท์บนลานสนสัมผัสความหนาวได้แบบใกล้ชิดกับธรรมชาติ นั่งดูหงส์คลอเคลียกันอยู่บนเหนือน้ำแบบชิลล์ ๆ หรือใครจะล่องแพชมความงามของธรรมชาติก็น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ไม่น้อย

พิกัด : โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ตั้งอยู่ในหมู่บ้านรวมไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 

 

10. บ้านนาคูหา จังหวัดแพร่

แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดแพร่ที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ที่นี่อากาศดีมากเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 7 ในประเทศไทย หมุดหมายแรกเลยก็คือวัดนาคูหาที่มีพระพุทธองค์ใหญ่สีทองตั้งตระหง่านโอบล้อมไปด้วยนาข้าวและภูเขา มีสะพานไม้ไผ่เดินข้ามนาข้าวให้แวะเวียนไปถ่ายรูป ไฮท์ไลต์ของที่นี่ก็คือการมาเก็บสาหร่ายเทาซึ่งเป็นสาหร่ายน้ำจืดชนิดหนึ่งนำไปประกอบอาหาร นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมการย้อมผ้าครามและทำผ้ามัดย้อมให้ได้ลงมือทำด้วย

พิกัด : บ้านนาคูหา หมู่5 ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่

เวลาเปิด – ปิด : 06.00 – 18.00 น.

 

เป็นอย่างไรบ้างกับ 10 ที่ เที่ยวหน้าหนาว ที่เรานำมาฝาก ยังไงหนาวนี้ก็ตามไปเช็คอินกันให้ได้นะ เหน็ดเหนื่อยทำงานมาทั้งปีก็ถึงเวลาออกไปท่องเที่ยวให้รางวัลตัวเองกันบ้างแล้ว รับรองเลยว่าคุณจะได้ชาร์จพลังใจท่ามกลางธรรมชาติและไอหมอกได้อย่างเต็มที่

 

ที่มาข้อมูล : 

20 สุดยอดของฝากจากประเทศไทย มาแล้วต้องซื้อกลับไปแน่นอน 2022

 

ประเทศไทยเป็นเมืองน่าเที่ยวและมีของน่าซื้อมากมาย จนบางครั้งก็เยอะจนเลือกไม่ถูก ถ้าเรามีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ เวลาจะซื้อของไปฝากเพื่อนต่างเมืองของเราควรเลือกอะไรดี หรือหากมีชาวต่างชาติมาไทย เราจะพาเขาไปซื้ออะไรกลับบ้านที่คิดว่าโอเคสุด วันนี้เรามีลิสต์ 20สุดยอดของฝาก จากประเทศไทยมาให้เป็นไอเดีย 

  

1. เครื่องจักสาน

งานแฮนด์เมดที่ต่างชาติชื่นชอบ ใช้ประโยชน์ได้และสวยด้วย มีตั้งแต่ กระเป๋า รองเท้าสาน หมวก ไปจนถึงของใช้ในครัวเรือนอย่าง ฝาชี ตะกร้าใส่ของ ที่รองจาน และที่ถูกอกถูกใจชาวต่างชาติมาก ๆ ก็คือกระติ๊บข้าวเหนียว 

 

2. ยาหม่อง-ยาดม-น้ำมันนวด

ของฝากแนวสมุนไพรไทย ชาวต่างชาตินิยมใช้ ยาหม่องและยาดม มีไว้พกติดกระเป๋าคู่กายแก้วิงเวียน หน้ามืด ตาลายได้ ส่วนน้ำมันนวดนั้น ต่างชาติเขายกให้บ้านเรายืนหนึ่งเรื่องนวดอยู่แล้ว

 

3. ผลไม้ไทยอบกรอบ – อบแห้ง

ผลไม้ไทยหลายชนิดถูกปากชาวต่างชาติ แต่จะซื้อกลับไปแบบสด ๆ ก็คงไม่เหมาะ เลือกเป็นผลิตภัณฑ์ผลไม้แห้ง ประเภทอบกรอบ หรืออบแห้งจะดีกว่า เก็บไว้รับประทานได้นาน คนต่างชาติ มาไทยต้องซื้อ แน่นอน

 

4. ผลิตภัณฑ์ทำจากผ้า แบรนด์ NaRaYa

เป็น ของฝากในไทย ที่ต่างชาติชื่นชอบ โดยเฉพาะสาว ๆ ญี่ปุ่น NaRaYa เป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋าผ้าลายสวยหวาน มีตั้งแต่ใบเล็กใส่เหรียญ ไปจนถึงกระเป๋าใส่เสื้อผ้าใบใหญ่ ๆ 

 

5. ผลิตภัณฑ์ลายช้าง

ซื้อของลายช้าง ไปประเทศไหนก็รู้ว่ามาจากเมืองไทย ผลิตภัณฑ์ที่ตกแต่งด้วยลายช้างมีให้เลือกมากมาย ทั้งกระเป๋าผ้า ปลอกหมอน โมบายตุ๊กตาช้าง พวงกุญแจรูปช้าง นิยมซื้อเป็นของที่ระลึกจากเมืองไทย

 

6. รองเท้าแตะตราช้างดาว

รองเท้าแตะหนีบที่ใส่กันมานานเป็นสิบปี ตอนนี้มีแบบสลักลายสวยงามบนพื้นรองเท้า เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่น่าซื้อฝาก ใช้ประโยชน์ได้ดีใส่เดินชายหาดได้

 

7.กางเกงช้าง

ยังคงเป็นของฝากสายช้างกันต่อ กางเกงสุดชิคที่ฝรั่งชื่นชอบ มาไทยต้องซื้อ เพราะใส่สบาย วัยรุ่นไทยเราเองก็ฮิตใส่เหมือนกัน เป็นกางเกงที่มีความอเนกประสงค์มาก ทั้งใส่นอนใส่เที่ยวตัวเดียวกันได้เลย

 

8. เสื้อยืด T-Shirt สกรีนลาย ไทยแลนด์

หลังจากซื้อกางเกงช้างแล้ว ต้องเพิ่มเติมเสื้อตัวนี้ไว้ใส่คู่กัน กลายเป็นแฟชั่นอินเตอร์ที่เรามักจะเห็นชาวต่างชาติใส่บ่อย ๆ 

 

9. ผ้ามัดย้อม

ผ้ามัดย้อมเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นที่ไม่ยอมล้าสมัยเสียที นับวันยิ่งมีลวดลายแพรวพราว ผ้ามัดย้อมที่คนนิยมซื้อกันมากจะเป็นของจังหวัดแพร่ แต่มีขายทั่วไปเพราะของเขาแพร่หลายจริง ๆ 

 

10. เครื่องประดับเงิน

ของฝากทรงคุณค่า แม้ว่าจะหาซื้อจากประเทศอื่น ๆ ได้ แต่เครื่องประดับเงินไทยนั้นได้รับการยกย่องจากต่างชาติว่าเป็นที่สุดของเครื่องประดับเงินเลยทีเดียว ดีงามทั้งในด้านคุณภาพและดีไซน์สวย

 

11. ผ้าไหมไทย

นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมซื้อกันมาก ผ้าไหมเนื้อดีงานละเอียดต้องไหมจากภาคอีสาน อาจเลือกซื้อเป็นผ้าพันคอ ผ้านำไปตัดเสื้อ หรือซื้อเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าไหม เช่น ปลอกหมอนอิง 

 

12. เสื้อผ้า กระเป๋า & เครื่องประดับชาวเขา

ผลิตภัณฑ์ชาวเขามีความโดดเด่นในเรื่องของสีสัน ลวดลายที่สะดุดตา สามารถเลือกซื้อได้ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าสะพาย หรือ Accessories ของผู้หญิง เช่น กิ๊บติดผม สร้อยข้อมือ ตุ๊กตาชาวเขา เช่น ดินสอ หรือพวงกุญแจก็น่าซื้อ

 

13. โมเดลรถตุ๊กตุ๊ก

รถตุ๊กตุ๊กบ่งบอกความเป็นไทยที่คนทั่วโลกรู้จักและนึกถึงอยู่เสมอ สามารถนำไปตั้งโชว์เป็นของตกแต่งเก๋ไก๋อีกชิ้นหนึ่งในบ้าน ถ้าเพื่อนต่างชาติของเราเขายังคิดไม่ออกว่า ซื้ออะไรดีเมื่อมาไทย แนะนำโมเดลนี้ได้เลย

 

14. เครื่องเบญจรงค์ลายไทย

ของฝากระดับพรีเมียม มีเอกลักษณ์ที่ความอ่อนช้อย ไม่ว่าจะเป็นลายกนก ลายนรสิงห์ ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ แต่ละลวดลายยังแสดงถึงวัฒนธรรมของไทยอีกด้วย เป็นของฝากที่ผู้รับประทับใจ

 

15. ของตกแต่งจากกะลามะพร้าว

เป็นของตกแต่งที่ครีเอทีฟมาก ๆ มีความเฉพาะตัวและยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ อย่างเช่น โคมไฟ โมบาย เครื่องประดับผู้หญิง และของใช้ในครัวเรือนต่าง ๆ 

 

16. เทียนหอม

ซื้ออะไรดีเมื่อมาไทย หากใครมีเพื่อนต่างชาติมาถึงบ้านเรา อย่าลืมพาไปซื้อของฝากขึ้นชื่อชนิดนี้ แสงเทียนกับความหอมเป็นเครื่องสร้างความทรงจำที่ดี และยังสามารถใช้เป็นของประจำบ้านสำหรับคนที่ชอบความหอมแบบอโรมา คลายความเครียดได้ดี

 

17. สบู่นกแก้ว

คนไทยใช้กันมาตั้งแต่สมัยตักน้ำในตุ่มอาบ มาถึงตอนนี้นิยมซื้อเป็นของฝากเวลาเดินทางไปหาเพื่อนที่ต่างประเทศด้วย ถ้าอยากให้คลาสสิกมาก ๆ ก็ต้องซื้อสบู่นกแก้วดั้งเดิมซองสีเขียว 

 

18. น้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้เช็ดเครื่องสำอาง ใช้ทาผิวป้องกันผิวแตก เหมาะกับชาวต่างชาติที่อยู่เมืองหนาว

 

19. ผงปรุงรสต้มยำ

ซื้อของฝากสำหรับสายกินบ้าง ชาวต่างชาติกับต้มยำกุ้งเป็นอะไรที่เหมือนพรหมลิขิต พอได้ชิมก็ถูกชะตากันทันที แต่ในเมื่อไม่สามารถซื้อต้มยำใส่ถุงไปถึงเมืองนอกเมืองนาได้ ก็ซื้อเป็นผงปรุงรสต้มยำชนิดซองไปแทน รับประกันความถูกใจและถูกปาก

 

20. ชาตรามือ

นี่ก็ของดีบ้านเราอีกเหมือนกัน รสชาติดั้งเดิมไม่มีใครเหมือน กลมกล่อม เข้มข้นด้วยสัญลักษณ์ชาสีส้ม แต่ปัจจุบันมีรสชาติใหม่ ๆ ออกมาให้ลิ้มลองมากมาย ทั้งชากุหลาบ ชาเขียว อร่อยทุกรส 

 

ของฝากในไทย ยังมีอีกมากมาย และ 20สุดยอดของฝาก นี้เป็นไอเดียดี ๆ สำหรับคนที่กำลังจะพาเพื่อนต่างชาติทัวร์ซื้อของ รวมถึงคนที่กำลังจะซื้อของฝากเพื่อนต่างชาติ เพื่อเพิ่มความประทับใจในความเป็นไทยของเรา 

 

ที่มาข้อมูล

บริการฟรีภายในสนามบิน ใครสายเดินทางห้ามพลาด

สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองเงียบเหงาไปพักใหญ่เพราะโควิด-19 ทำพิษ แต่หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย ทำให้สุวรรณภูมิและดอนเมืองเริ่มกลับมามีสีสันอีกครั้ง ร้านค้าต่าง ๆ เตรียมจัด โปรสนามบิน รอนักเดินทางไว้แล้ว ระหว่างรอขึ้นเครื่องรับรองว่าไม่เหงาอย่างแน่นอน เราไปส่องโปรกันไว้ก่อนดีกว่า เวลาไปสนามบินจริง ๆ จะได้ไม่พลาด

 
 

PT MAX CARD 

สมาชิกบัตร PT MAX CARD ไม่ผิดหวัง เพราะบัตรนี้จัดโปรปัง ๆ ร่วมกับร้านค้าภายในสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ระหว่างรอขึ้นเครื่องสามารถนั่งจิบกาแฟผ่อนคลาย ช่วงนี้มีมาหลายรายการ อาทิ 

  • รายการ Super Deal ที่กาแฟพันธุ์ไทย
  • Duo Deal ใน Coffee World 
  • มีโปรให้จอง Miracle Lounge กับ Coral Executive Lounge ฟรีผ่านแอป AOT Airports 
  • ใช้บริการ AOT Limousine ได้ส่วนลด 15% 

แนะนำบัตรนี้กันหน่อย PT MAX CARD เป็นบัตรสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าที่เติมน้ำมันจากปั๊ม PT แล้วนำไปแลกของรางวัลได้หลากสไตล์ บวกกับใช้สิทธิพิเศษที่ร้านค้า ซึ่งนอกจากในสนามบินแล้ว ยังมีร้านค้าพันธมิตรอื่น ๆ อีกมากมายหลายแห่ง ถ้าใครยังไม่มีบัตรนี้ สมัครผ่านแอป AOT Airports ไม่เสียค่าธรรมเนียม เผื่อไว้ใช้สิทธิ์เวลาเดินทาง ท่องเที่ยว 

ไปต่อที่บัตรเครดิตบ้าง มีมาจัดโปรที่สนามบินหลายธนาคารเหมือนกัน ไปรอขึ้นเครื่องอย่าลืมสำรวจกระเป๋าเงินว่ามีบัตรใบไหนพอจะใช้ได้ระหว่างเดินเล่น

 
 

บัตรเครดิต UOB จัดโปรโมชั่น UOB FLY WITH ME

เป็นโปรโมชั่นสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต UOB เดินเข้าแมคโดนัลด์รับเบอร์เกอร์พร้อมกับพายแสนอร่อยได้เลย ที่สาขาสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง (แมคสุวรรณภูมิอยู่บริเวณ Concourse D และ F ส่วนที่ดอนเมืองอยู่ชั้น 3) โปรนี้ยาวถึงมกราคม 2566

 
 

บัตรเครดิต Citibank ให้กินฟรี ๆ แบบอิ่มจุก ๆ

Citibank มีโปรกินฟรีที่สนามบินอีกแล้ว เมื่อ 2-3 ปีก่อนก็เคยมีมาแล้ว แต่สำหรับคราวนี้ Citibank ร่วมกับ Subway และ Coffee World สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองเฉพาะเที่ยวบินขาออกไปต่างประเทศ สามารถใช้ได้ทั้งบัตรเครดิต Citibank และบัตรกดเงินสด Ready Credit มาดูกันว่าจะได้อะไรบ้าง

  • Subway 

ฟรีชนิดที่เรียกว่าจุกกันเลยทีเดียว เพราะได้ Subway Classic พร้อมน้ำดื่ม มูลค่า 224 บาท

  • Coffee World

รับฟรีเครื่องดื่มเย็น หรือเครื่องดื่มปั่น ชื่นใจสุด ๆ ไปเลย 

ทั้ง Subway และ Coffee World สนามบินสุวรรณภูมิอยู่บริเวณ Concourse B และ Concourse F ส่วนที่ดอนเมืองอยู่บริเวณเที่ยวบินขาออกระหว่างประเทศ สำหรับโปรโมชั่นรายการนี้จัดถึงสิ้นปี 2565

 
 

โปรสนามบิน ของค่ายมือถือก็มีพร้อม ดังนี้ 

ฟ้าเปิดคราวนี้ AIS จัดโปรที่สนามบินให้อิ่มสบายท้องก่อนออก เดินทาง หรือจะเลือกนั่งพักผ่อนที่ห้องรับรองพิเศษก็ได้ สำหรับลูกค้าเซเรเนดทั้ง 3 ประเภท แพลทินัม โกลด์ และ เอมเมอรัลด์ สามารถเลือกรับสิทธิพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น

  • ส่วนลด Miracle Lounge 
  • โปรร่วมกับร้านค้าในสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง มีทั้งของว่างฟรีพร้อมเครื่องดื่มเย็น ๆ จาก Burger King, Bonchon, KohHopBar และ Imm Rice & Noodle 1 เลขหมายใช้ได้ 1 สิทธิ์ต่อ 1 เดือน สิ้นสุด ธ.ค. 65

ส่วนอีกร้านที่ไม่แวะไม่ได้เมื่อไปสนามบิน ก็เห็นจะเป็นที่นี่เลย King Power ไปดูโปรของเขากัน

 
 
  • King Power ครบรอบ 33 ปี Delights and Surprises 2022
  • พลาดไม่ได้สำหรับ Favorite Brand Fest ลดราคาสูงสุด 40% พร้อมของแจกมากมาย ถึงแค่สิ้นเดือนตุลาคม 2022
  • ช้อปออนไลน์แล้วไปรับของที่สนามบินก็มีจัดโปรมากมายหลายรายการ เช่น ได้คูปอง บัตรกำนัล และส่วนลด แต่ก่อนอื่นต้องดาวน์โหลดแอป King Power หรือแอด LINE Official @kingpower ก่อน โปรนี้หมดเขตตุลาคม 2022 เช่นกัน 
  • Click & Collect เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมของพี่คิง จัดถึงสิ้นปีนี้เลย
  • มีโปรแกรมผ่อน 0% กับธนาคารที่ร่วมรายการ อาทิ SCB Citibank K-Bank ฯลฯ ซื้อสินค้า 10,000 บาทขึ้นไป เลือกผ่อน 6 เดือน หรือซื้อสินค้า 15,000 บาท เลือกผ่อน 10 เดือน แบบนี้คงได้สอยสินค้าแบรนด์เนมกันเพลินแน่ ๆ 

ไปดูโปรบริการแท็กซี่รับส่งสนามบินกันบ้าง ดีกว่าขับรถไปแล้วต้องลุ้นหาที่จอดเอง

 
 
  • AIRASIA RIDE จัดโปรโมชั่นส่วนลดเรียกแท็กซี่ผ่านแอป airasia Super App
  • โปรแรก Airport Ride บริการจองแท็กซี่ล่วงหน้าได้ส่วนลด 50 บาท ใครที่จะ เดินทาง ไปสนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมือง เรียกผ่านแอปพลิเคชัน สะดวกมาก 
  • โปรที่ 2 City Ride เรียกรถเพื่อเดินทางไปเที่ยวไหนก็ได้ทั่วเมือง ได้ส่วนลด 30 บาท 

เขาจัดโปรกันจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 รับเทศกาลท่องเที่ยวที่กำลังกลับมา รีบสมัครเป็นสมาชิก AIRASIA พร้อมดาวน์โหลด airasia Super App เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่นักเดินทางไม่ควรพลาด นอกจาก AIRASIA RIDE จองรถแท็กซี่แล้ว ยังมีแพลตฟอร์มจองเที่ยวบิน จองโรงแรมได้ด้วย หรือจะสั่งอาหารก็ยังได้ สมาชิกที่ทำรายการจองบริการต่าง ๆ จะได้รับคะแนนสะสมทุกรายการ เก็บคะแนนไว้ใช้แทนเงินสด คุ้มสุด ๆ 

 
 

ท่องเที่ยว อย่างไรให้ตัวปลิว ไร้สัมภาระ

จบเรื่องโปรไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ว่านักเดินทางที่สัมภาระเยอะ จะเที่ยวอย่างไรให้สนุกเต็มที่ สำหรับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยว กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต ขอแนะนำ AIRPORTELs ผู้ดูแลสัมภาระที่ไว้ใจได้ ตามเราไปดูบริการของที่นี่กัน

บริการฝากกระเป๋า – สามารถฝากค้างคืนได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นของมีค่า สัมภาระหนัก ฝากไว้กับผู้ดูแลมือโปรแบบไม่ต้องห่วง เพราะเขามีการรับประกันความเสียหายและมีระบบรักษาความปลอดภัยในการดูแลกระเป๋าให้กับผู้มาใช้บริการ ช่วยให้การเดินทางทุกทริปคล่องตัวขึ้น สามารถใช้บริการได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 03.00 น. โดยนักท่องเที่ยวสามารถฝากกระเป๋าเดินทางไว้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ชั้น 2 ประตู 4

บริการส่งกระเป๋า – นอกจากรับฝากกระเป๋าแล้ว ยังมีบริการส่งกระเป๋าเดินทางพร้อมสัมภาระทุกอย่างให้ด้วย นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการส่งกระเป๋าไปที่สนามบิน หรือจะให้ส่งไปโรงแรมก็ได้ 

โปรโมชั่นในสนามบินก็เตรียมส่องไว้แล้ว ส่วนสัมภาระก็หมดกังวลเพราะมีผู้ดูแลให้ จะรออะไร รีบวางแผนแล้วออกเดินทางกันแบบตัวปลิวได้เลย

 
 

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล

รีวิว เข้าเกาหลียังไงให้ผ่านตม.แน่นอน!!

กระแสปักหมุดเที่ยวตามรอยซีรีส์ดังจุดไฟให้ธุรกิจท่องเที่ยว ประเทศเกาหลีบูมต่อเนื่องนานหลายปี มีสถานที่ท่องเที่ยวดังมากมายที่สาวกซีรีส์เกาหลีโดยเแพาะสาว ๆ ฝันอยากไปสักครั้งถ่ายรูปปัง ๆ ลงอวดในโซเชียล แต่ระยะหลังชาวไทยจำนวนมากไปเที่ยวแล้วไม่กลับประเทศ หลบหนีเป็นแรงงานผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่เกาหลีจึงเข้มงวดกับคนไทยกลัวไม่ได้ไปเที่ยวจริง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวฝ่าด่าน ตม.เกาหลียากยิ่งขึ้น

 
 

เข้าใจ กฎใหม่ และเตรียมตัวให้พร้อมที่สุด

หลายปีที่ผ่านมาคนไทยจำนวนมากหลบหนีวีซ่าเข้าเมืองเพื่อลักลอบทำงานแบบผิดกฎหมายในเกาหลี หรือที่เรียกกันว่าผีน้อย สร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยวตัวจริงที่ถูกด่านตรวจคนเข้าเมืองจับตามองเป็นพิเศษ เนื่องจาก ตม.เกาหลี เพิ่มมาตรการที่เข้มงวดกับคนไทยยิ่งขึ้น กลายเป็นว่าถ้าใครไม่เตรียมพร้อมให้อาจถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าประเทศทั้งที่วางแผนไปเที่ยวอย่างสบายใจ กลับเสียทั้งเงิน เสียเวลา หลายเสียงโอดครวญว่าประเทศเกาหลีเข้ายากเข้าเย็น แค่ทำตามกฎระเบียบอย่างชัดเจนไม่พออาจยังมีความเสี่ยงถูกปฏิเสธเข้าประเทศ จะทำอย่างไรให้ผ่านไฟเขียว ตม.เกาหลีได้ไปท่องเที่ยวสมกับความตั้งใจ เรารวมเคล็ดลับดี ๆ มาให้แล้ว ติดตามอ่านกันเลย

 
 

ไปเที่ยวเกาหลี เตรียมตัวอย่างไรให้ผ่านด่าน ตม. แน่นอน

เมื่อเรารู้กิติศัพท์ความโหดและสาเหตุที่ไม่ผ่าน ตม.เกาหลีมาบ้างแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเตรียมความพร้อมให้ดีและอุดช่องโหว่ที่เป็นปัญหาไว้ล่วงหน้า ไม่ว่าจะเจอด่านตรวจอย่างโหดแค่ไหนก็จะผ่านไปได้ฉลุย 

1.เตรียมเอกสาร สำคัญให้ครบถ้วน

วิธีการผ่านด่าน ตม.เกาหลีต้องเตรียมเอกสารให้ครบ ถือเป็นเรื่องสำคัญอันดับหนึ่งเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไปเที่ยวจริงๆ ทำให้ผ่านด่านตรวจได้ไม่ยาก เอกสารที่ลืมไม่ได้ มีดังนี้

  • ห้ามลืมพาสปอร์ตเด็ดขาด พาสปอร์ตไม่ใช่แค่หนังสือเดินทาง แต่เป็นตัวแทนของบัตรประชาชนเพื่อระบุตัวตน ถ้ารูปหน้าบนพาสสปอร์ตไม่ตรงกับหน้าปัจจุบัน เจ้าหน้าที่ไม่ค่อยแน่ใจก็อาจเข้าประเทศไม่ได้หรือซักถามวุ่นวาย ไม่ให้ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองไปง่าย ๆ ไม่อยากมีปัญหาติดขัดควรพกพาสปอร์ตเล่มเก่าติดไปด้วย ในกรณีที่เพิ่งเดินทางออกนอกประเทศเป็นครั้งแรกอาจถูกสงสัยได้ง่าย ควรเตรียมเอกสารที่ช่วยยืนยันตัวตนให้ได้มากที่สุด เช่น ใบรับรองการทำงาน ใบรับรองการเป็นนักศึกษา เป็นต้น
  • เอกสารจองตั๋วเครื่องบินทั้งขาไปและขากลับ เพื่อให้เจ้าหน้าที่รู้ว่าเดินทางมาไฟล์ไหนและจะบินกลับวันไหน ใช้เป็นหลักฐานยืนยันว่ามาเที่ยวตามตารางในทริปเป็นวิธียืนยันว่ามีแผนบินกลับประเทศแน่นอน 
  • ใบจองโรงแรมที่พัก ทำตารางการท่องเที่ยวพร้อมแนบใบจองที่พักมาให้ครบในรูปของอีเมลตอบรับ หรือแคปหน้าจอจากหน้าเว็บไซต์จองที่พักก็ได้ ข้อมูลระบุวันที่เข้าพักและวันที่เช็คเอาท์เพื่อให้ตรวจสอบว่ามาเที่ยวกี่วัน ตรงกับเที่ยวบินกลับหรือไม่ หากสามารถขอเอกสารยืนยันการเข้าพักจากโรงแรมมาด้วย จะเป็นประโยชน์ต่อการตรวจสอบและตามตัวในกรณีที่เกิดปัญหา ยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือและมีส่วนช่วยให้ผ่าน ตม. เกาหลีง่ายขึ้น
  • เอกสารรับรองการทำงานหรือเป็นนักศึกษาเป็นภาษาอังกฤษ เตรียมเอกสารเช่น ใบรับรองการทำงาน ใบรับรองเงินเดือน ใบลางานที่ระบุวันลาตรงกับแผนการเดินทาง นามบัตรหรือบัตรพนักงาน ถ้าเป็นนักศึกษาควรใช้ใบรับรองการเป็นนักเรียนนักศึกษา หรือพกบัตรนักศึกษาติดตัวไปด้วย 
  • เตรียมแลกเงินไปให้เพียงพอ การไปเที่ยวต่างประเทศย่อมมีเรื่องค่าใช้จ่าย เตรียมแลกเงินสกุลนั้นไปให้เพียงพอตลอดทริป ควรมีเงินสำรองไว้หากใช้จ่ายเผื่อช้อปปิ้งของถูกใจ เผื่อมีเหตุฉุกเฉิน หรือมีบัตรที่สามารถใช้จ่ายในต่างประเทศได้ หรือมีเงินไทยรองรับในบัญชีเพื่อใช้บัตรเดบิตแลกเงินสกุลอื่นแบบออนไลน์ การมีหลักฐานทางการเงินที่ดีจะให้ความมั่นใจกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้ไปตัวเปล่าเพื่อวางแผนเป็นผีน้อยทำงานผิดกฎหมายในเกาหลี
 
 

2.วิธีเตรียมตัวและตอบคำถาม ที่คุณควรรู้

นอกเหนือจากบรรดาเอกสารสำคัญที่ลืมไม่ได้แล้ว ยังมีเรื่องการสุ่มถามจาก ตม. เกาหลี เนื่องจากความเข้มงวดของ กฎใหม่ทำให้เจ้าหน้าที่ตั้งข้อสงสัยมากขึ้นและเพ่งเล็งนักท่องเที่ยวชาวไทยเป็นพิเศษ ควรเตรียมคำตอบดี ๆ ไว้ล่วงหน้าเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้มากที่สุด ดังนี้

  • กรณีที่เปิดเล่มพาสปอร์ตมาใหม่ ไม่เคยเดินทางไปต่างประเทศมาก่อน หรือเพิ่งต่อพาสปอร์ตมาหมาด ๆ ต้องเตรียมตอบคำถามว่าทำไมถึงเดินทางไปเกาหลี มีแผนทำอะไร จะพักที่ไหน ไปที่ไหนบ้าง ควรท่องโปรแกรมทัวร์ให้คล่องแคล่ว อย่างน้อยที่สุดควรตอบได้ว่าจะเดินทางไปเมืองไหน จุดสำคัญบริเวณที่เที่ยวและที่พัก หรือทำแผนเที่ยวอย่างละเอียดพิมพ์ออกมาแล้วพกติดตัวไว้เพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ใจว่าเป็นทริปท่องเที่ยวจริง ไม่มีเหตุผลอื่นแอบแฝง
  • ระยะเวลาเดินทางนานผิดปกติ สำหรับคนที่มาเกาหลีโดยใช้วีซ่านักท่องเที่ยว สามารถอยู่ได้นานถึง 90 วัน หากไม่มีเอกสารใบรับรองอาชีพเพราะทำธุรกิจค้าขายส่วนตัว เป็นเกษตรกร หรือทำงานอิสระ พูดได้ว่าไม่มีเอกสารระบุตัวตนเพิ่มเติม อาจถูกสงสัยว่าเข้าประเทศโดยมีเหตุผลอื่นแอบแฝง ยิ่งต้องเขียนแผนการเดินทางที่ชัดเจนและรัดกุม จะไปเที่ยวที่ไหน พักที่ไหน และทำอะไรบ้าง ระหว่างที่อยู่ในเกาหลีจะสามารถตามหาตัวได้ที่ไหน หากไม่มีข้อมูลหรือหลักฐานชัดเจน อาจเสี่ยงติด ตม.เกาหลี และถูกส่งตัวกลับเพราะเข้าข่ายต้องสงสัยว่าเข้าประเทศมาเพื่อลักลอบทำงานผิดกฎหมาย
  • ปัญหาเรื่องภาษาสื่อสารกันไม่เข้าใจ หากไม่ชำนาญภาษาอังกฤษ ไม่รู้ภาษาเกาหลี การไปเที่ยวเองอาจทุลักทุเลเกิดปัญหาได้ตลอดเวลา ในกรณีที่ติดขัดเรื่องเอกสาร กรอกข้อมูลผิด พอสื่อสารพูดคุยได้รู้เรื่องแต่ไม่สามารถอธิบายรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ ตม. ให้เข้าใจได้อาจเกิดความยุ่งยากมากขึ้น แนะนำให้ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตากับกรุ๊ปทัวร์ที่มีคุณภาพจะช่วยลดปัญหากับ ตม. ได้ในระดับหนึ่ง
  • แต่งกายให้เหมาะสม การแต่งกายให้สุภาพและมีพฤติกรรมเรียบร้อยแสดงให้เห็นความน่าเชื่อถือ เลือกชุดเสื้อผ้าเหมาะสมกับสภาพอากาศในช่วงที่เดินทาง แสดงให้เห็นว่าเตรียมตัวมาพร้อมสำหรับการท่องเที่ยวใน ประเทศเกาหลีบวกกับความน่าเชื่อถือของเอกสาร หากเกิดปัญหาต้องตั้งสติให้ดีและตอบคำถามอย่างมั่นใจ ไม่มีพิรุธตอบอึกอักหรือหลบสายตา เตรียมตัวมาดีอย่างนี้ผ่านด่านฉลุยไม่ต้องกังวลว่าจะสอบตก คุณได้ไปต่อแน่นอน
 
 

เนื่องจากการตรวจสอบที่เข้มข้นทางประเทศเกาหลี แม้แต่กระเป๋าเดินทางก็ต้องเลือกอย่างพิถีพิถัน กระเป๋าใบใหญ่ไปหรือหลายใบเกินไปอาจเป็นเป้าสายตาสะดุดทำให้เจ้าหน้าที่ ตม.เกาหลีสงสัยได้เช่นกัน กรณีที่เราอยากไปเที่ยวแบบสบาย ๆ จัดเตรียมกระเป๋าเดินให้พอเหมาะดีที่สุด ไม่ต้องการแบกกระเป๋าหนัก ๆ ออกจากบ้าน สามารถใช้บริการขนส่งกระเป๋าจากบ้านไปสนามบินหรือต้องการฝากสัมภาระอย่างปลอดภัย จองผ่านเว็บไซต์สะดวกตลอด 24 ชั่วโมง ติดต่อได้ที่ https://th.airportels.asia/

 

ที่มาข้อมูล :