เชียงใหม่เฮ! รถเมล์เชียงใหม่ กลับมาแล้วเจ้า แจกจุด Check-in สุดปังพร้อมวิธีการเดินทางด้วยมือเปล่า

กลับมาให้บริการอีกครั้งสำหรับรถเมล์เชียงใหม่ หลังจากต้องหยุดให้บริการในช่วงวิกฤตโควิดที่ผ่านมา โดยครั้งนี้มีให้บริการถึง 2 บริษัทด้วยกัน ได้แก่ รถเมล์ RTC Chiang Mai City Bus ที่ให้บริการเดินรถภายในตัวเมืองเชียงใหม่และ รถเมล์ Hop and Go ที่ให้บริการเดินรถไปตามจุดท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่และ 3 อำเภอยอดนิยมได้แก่  แม่ริม แม่ออนและเวียงกุมกาม อำเภอสารภี 

สำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเชียงใหม่ เมืองแห่งวัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงาม หากมิได้เช่ารถหรือขับรถส่วนตัวมาด้วยตนเอง สามารถใช้บริการขนส่งสาธารณะได้แล้ว แม้จะเป็นจังหวัดท่องเที่ยวแต่การเดินทางในเมืองนั้นสะดวกสบายยิ่งนักและมีหลากหลายตัวเลือกในการเดินทาง ทั้งแบบส่วนตัวและสาธารณะ ได้แก่

  • แท็กซี่หรือGrab

บริการรถแท็กซี่และรถยนต์รับจ้างผ่านแอปพลิเคชัน Grab เปิดให้บริการอย่างแพร่หลายในจังหวัดเชียงใหม่ เพิ่มความสะดวก สบายและความรวดเร็วให้แก่นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนมาก แต่อาจจะมีค่าบริการที่สูงกว่าตัวเลือกอื่น ๆ แต่ถ้าแลกมากับความสะดวก รวดเร็วก็ถือว่าคุ้มค่ามาก ช่วยประหยัดเวลาไปได้เยอะ

  • รถแดงสองแถว

รถแดงสองแถว ถือเป็นรถโดยสารสาธารณะประจำทางที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของเมืองเชียงใหม่ ค่าบริการไม่แพง แต่เส้นทางที่ใช้บริการอาจไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ ซึ่งหากคิดราคาเหมาอาจมีค่าใช้จ่ายที่สูง 

  • รถเมล์เชียงใหม่

รถเมล์เชียงใหม่ เป็นบริการที่เปิดตัวได้ไม่นานและปิดให้บริการในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด ปัจจุบันกลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งพร้อมเส้นทางที่มากขึ้นและครอบคลุมเกือบทุกแหล่งท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่และบางอำเภอที่นักท่องเที่ยวนิยมไป จุดเด่นตรงที่ค่าบริการไม่แพง ไม่ต้องต่อรถหลายสาย สามารถนั่งชมวิวเมืองได้ตลอดทั้งวัน

ขอบคุณรูปภาพจาก : The New RTC Chiang Mai City Bus

ที่ให้บริการเส้นทางภายในตัวเชียงใหม่ มีด้วยกัน 6 สาย ประกอบไปด้วย

22 สายสีเหลือง ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล-ขนส่งอาเขต-ขนส่งช้างเผือก-มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

สายสีส้ม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ วิ่งเป็นวงกลมสลับสาย 22 สีส้ม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่-ขนส่งช้างเผือก-ขนส่งอาเขต-ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล

24 สายสีแดง ท่าอากาศยานเชียงใหม่-เมืองเก่า-ตลาดวโรรส-ท่าอากาศยานเชียงใหม่

  • New Route 1 ท่าอากาศยานเชียงใหม่-เมืองเก่า-ขนส่งอาเขต-ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเฟสติวัล
  • New Route 2 ประตูท่าแพ – วัดพระสิงห์
  • New Route 3 ประตูช้างเผือก – ประตูเชียงใหม่
  • New Route 4 คูเมืองชั้นใน

จะเห็นว่าแต่ละเส้นทางครอบคลุมสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญ ๆ ในตัวเชียงใหม่ โดยในส่วนของ New Route 1 – New Route 4 กำลังอยู่ในช่วงขอดำเนินการอนุญาตเดินรถ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเพิ่มศักยภาพในจุดเชื่อมต่อเมืองเชียงใหม่ให้เป็นหนึ่งเดียว

ขอบคุณรูปภาพจาก : Hop and Go 

Hop and Go เป็นรถเมล์ที่ให้บริการจุดท่องเที่ยวต่าง ๆ ในตัวเมืองเชียงใหม่และไปยัง 3 อำเภอยอดนิยมอย่าง แม่ริม แม่ออนและเวียงกุมกาม อำเภอสารภี ซึ่งที่สถานที่ท่องเที่ยวมากมาย โดยแต่ละสายมีเส้นทางเดินรถดังนี้

  • HG1 สายสีชมพู เชียงใหม่-แม่ริม

เริ่มต้นจากเซนทรัลเชียงใหม่ (เซนเฟส) -วัดป่าดาราภิรมย์ -ไทเกอร์คิงดอม -สีมา การ์เดน-333 สนามยิงปืน / 333 shooting Ran-เอ็กซ์ เซ็นเตอร์ เชียงใหม่-สวนสัตว์แมลงสยาม-อารมณ์ออร์คิด-ปางช้างแม่สา-สวนพฤกษศาสตร์-ร้านอาหารโป่งแยงแอ่งดอย-7-11 ตำบลโป่งแยง

  • HG2 สายสีน้ำเงิน เชียงใหม่-แม่ออน

ศูนย์การค้าเมญ่า-วัดเจ็ดยอด พระอารามหลวง-พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เชียงใหม่-เซนทรัลเชียงใหม่-อาร์ต อินพาราไดซ์-เชนู-เอ็ม สปอร์ต คอมเพล็กซ์-กระดาษคาเฟ่-ศูนย์หัตถกรรมบ่อสร้าง-พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยใหม่เอี่ยม-นาซีจําปู / Nasi Jumpru Restaurant-โรสมาเนีย-ม่อนพญานาคราช-สคุกก้า ฟาร์ม-เซนส์ ฮ็อต สปริง แอนด์ เวลเนส-น้ำพุร้อนสันกำแพง-ม่อนกุเวร 

  • HG3 สายสีเขียว เชียงใหม่-เวียงกุมกาม

เริ่มต้นจากน้ำตกห้วยแก้ว/อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย-ร้านนมห้วยแก้ว-เดอะวอลล์ พลาซ่า-วันนิมมาน-สวนสุขภาพสมเด็จย่า-เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี-อุทยานหลวงราชพฤกษ์-ลานจอดรถวัดพระธาตุดอยคำ-เดอะแคมป์มวยไทยรีสอร์ท-ร้านอาหาร ข้าวเม่า-ข้าวฟ่าง-เวียงกุมกาม-สถานธรรมไท่หลินฝอเอี้ย (ศาลเจ้าแม่กวนอิม) 

  • HG4 สายสีแดง เส้นทางรอบเมือง 

เริ่มต้นจาก เซนทรัลเชียงใหม่-สถานีขนส่งเชียงใหม่-สถานีรถไฟเชียงใหม่-อาคารอนุสาร-วัดราชมณเฑียร-โรงพยาบาลมหาราชเชียงใหม่-สวนสุขภาพสมเด็จย่า-นิมมานพรอมินาด-มหาวิทยาลัยเชียงใหม่-สวนสัตว์เชียงใหม่-น้ำตกห้วยแก้ว-วัดเจ็ดยอดพระอารามหลวง-พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเชียงใหม่และสิ้นสุดที่เซนทรัลเชียงใหม่ 

เดินทางง่ายยิ่งขึ้นด้วยบริการฝากกระเป๋าและสัมภาระเชียงใหม่

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางแบบตัวเบา ไม่ต้องแบกกระเป๋าเดินทางหรือมีสัมภาระเยอะเกินกว่าจะพกพาไปด้วยตลอดเวลา AIRPORTELs ยินดีให้บริการรับ-ส่งกระเป๋าเดินทางและสัมภาระไปยังโรงแรมที่พักหรือรับฝากกระเป๋าเพื่อให้คุณได้รับความสะดวก สบายในการเดินทาง โดยทาง AIRPORTELs เปิดให้บริการที่สนามบินเชียงใหม่ นักท่องเที่ยวสามารถจองใช้งานผ่านเว็บไซต์ก่อนวันเดินทางได้ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความคล่องตัวในการเดินทางโดยไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระที่พกพายากอีกต่อไป

ที่มาข้อมูล

เที่ยวเชียงใหม่ทั้งที แจกจุดฝากกระเป๋าง่ายๆ ใกล้สนามบิน

จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย ภูมิประเทศเต็มไปด้วยภูเขาจึงทำให้มีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติหลายแห่ง พร้อมเสน่ห์ของประเพณีและวัฒนธรรมที่สวยงามสามารถที่จะดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากเอาไว้ได้ โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวและฤดูหนาวของทุกปี จะมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมมาเที่ยวจำนวนมาก แต่การที่จะเที่ยวเมืองเชียงใหม่ให้สะดวก ปลอดภัยและตอบโจทย์ที่สุดนั้น มีปัจจัยใดบ้างไปดูกัน 

วิธีการเดินทางท่องเที่ยวเชียงใหม่

การที่จะเดินทางไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ได้นั้นประกอบไปด้วย 2 วิธีหลัก ๆ ได้แก่ใช้รถยนต์ส่วนตัวและบริการขนส่งสาธารณะ ในที่นี้จะกล่าวถึงการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ มีด้วยกัน 3 วิธี ได้แก่ 

  •  การเดินทางด้วยเครื่องบิน เป็นวิธีการเดินทางที่ใช้เวลาสั้นที่สุด สะดวก รวดเร็ว แต่ราคาสูง ซึ่งสนามบินนานาชาติเชียงใหม่รองรับเที่ยวบินทั้งในและต่างประเทศ  
  • การเดินทางด้วยรถไฟ เป็นการเดินทางที่ค่อนข้างประหยัดกว่าการเดินทางด้วยเครื่องบิน แต่ใช้เวลานาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสบรรยากาศสองข้างทางระหว่างเดินทาง ซึ่งสถานีรถไฟเชียงใหม่จะตั้งอยู่ใจกลางเมือง
  • รถโดยสารประจำทาง ราคาถูก มีหลายสายให้เลือก ใช้เวลาเดินทางนานอาจพอ ๆ กับรถไฟ 

วางแผนท่องเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่

  • กำหนดจุดหมายปลายทาง ก่อนที่จะเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ ควรกำหนดจุดหมายปลายทางที่แน่ชัดเสียก่อนว่าต้องการจะไปเที่ยวชมสถานที่ใดบ้าง เช่น ดอยอินทนนท์ วัดพระธาตุดอยสุเทพ วัดพระสิงห์ ตลาดนัดคนเดิน ฯลฯ เพื่อวางแผนการเดินทางได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
  • เลือกช่วงเวลาที่เหมาะสม ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่คือช่วงฤดูหนาว (พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์) และช่วงเทศกาลต่าง ๆ เช่น สงกรานต์ เป็นต้น
  • เลือกที่พัก จังหวัดเชียงใหม่มีที่พักหลายรูปแบบ ควรเลือกที่พักที่สะดวก ปลอดภัยและใกล้กับจุดหมายปลายทาง โดยเน้นที่พักที่ใกล้กับเส้นทางการเดินรถเมล์เชียงใหม่ เพราะจะทำให้คุณสะดวก สบายและประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางลงได้
  • หาที่บริการรับฝากกระเป๋า เป็นหนึ่งในคำแนะนำสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้เวลาในการเที่ยวชมเมืองเชียงใหม่ให้ได้มากที่สุด โดยเฉพาะคนที่มาทริปสั้น ๆ ควรหาที่บริการรับฝากกระเป๋าและสัมภาระ เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องหอบกระเป๋าพะรุงพะรังไปทั่วเมืองเชียงใหม่ 

หลังจากที่เดินทางมาถึงจังหวัดเชียงใหม่แล้ว เชื่อได้ว่าทุกคนจะต้องมีกระเป๋าและสัมภาระใบโต ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวไม่ค่อยราบรื่นสักเท่าใดนัก เพราะต้องแบกกระเป๋าเดินทางขึ้นรถขนส่งสาธารณะท้องถิ่นเพื่อไปเช็กอินยังโรงแรมหรือที่พักเพื่อฝากกระเป๋า จึงจะสามารถเดินทางไปเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ได้ ทำให้เสียเวลาอย่างน้อยครึ่งวัน การหาที่ฝากกระเป๋าจึงเป็นหนึ่งหลาย ๆ ทางเลือก เพื่อความสะดวกสบายและประหยัดเวลาของคุณได้ 

AIRPORTELs หนึ่งในผู้ให้บริการที่ตอบโจทย์การเดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่ของคุณ เพราะไม่เพียงแต่ให้บริการรับฝากกระเป๋าและสัมภาระเท่านั้น แต่ยังให้บริการรับ-ส่งกระเป๋าของคุณจากสนามบินไปที่พักและจากที่พักมาสนามบิน โดยที่คุณไม่ต้องหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางอีกต่อไป สามารถที่จะเดินตัวปลิวไปเที่ยวต่อได้ในทันทีหลังจากลงเครื่อง ช่วยให้คุณประหยัดเวลาในการเดินทางและท่องเที่ยวไปได้เยอะ สะดวก รวดเร็ว แถมยังมีประกันความเสียหายที่เกิดขึ้นกับกระเป๋าและสัมภาระของคุณด้วย เพียงคุณลงจากเครื่องนำกระเป๋ามาดรอปไว้ที่เคาน์เตอร์ AIRPORTELs ที่สนามบิน หลังจากนั้นออกไปเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยวได้เลย พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจเช็กสถานะการจัดส่งของกระเป๋าคุณผ่านทางเว็บไซต์ AIRPORTELs ได้ตลอดเวลาที่ใช้บริการอีกด้วย

บริการของ AIRPORTELs เป็นบริการที่รับฝากและช่วยส่งกระเป๋าสัมภาระระหว่างสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, ห้างสรรพสินค้าและโรงแรมต่าง ๆ ในประเทศไทย ซึ่งมีจุดให้บริการดังนี้ สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินดอนเมือง, สนามบินเชียงใหม่, สนามบินภูเก็ต, เทอร์มินอล 21 อโศก, เทอร์มินอล 21 พัทยา, เซนทรัลเวิร์ด, เซนทรัลพัทยา, เซนทรัลสมุย, MBK Center, MIXT Chatuchak, เยาวราช, Iconsiam, Siam-Chula 16, Ratchada-Rama 9 และ MeSpace LadPrao  หากใช้บริการ ฝากกระเป๋าหรือรับ-ส่งกระเป๋าที่สนามบินเชียงใหม่ สามารถจองผ่านเว็บไซต์ app.airportels.asia/ หรือ คลิกที่นี่  หรือจะนำกระเป๋าไปติดต่อด้วยตนเองที่หน้าเคาน์เตอร์ AIRPORTELs สนามบินเชียงใหม่ก็ได้ 

วันหยุดพักผ่อนทั้งทีเที่ยวให้เต็มที่ เดินทางไปเที่ยวเชียงใหม่วันนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าและสัมภาระอีกต่อไป กับบริการรับฝากกระเป๋าและบริการรับ-ส่งกระเป๋าจาก AIRPORTELs ที่จะช่วยให้คุณได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็วในการเดินทางและใช้เวลาในการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่

ที่มาของข้อมูล

บริการรับฝากสัมภาระภูเก็ต กับ แอร์พอเทลส์ ประเทศไทย

ภูเก็ต เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เรื่องชายหาดที่สวยงาม สาถนที่ท่องเที่ยวและวิถีชีวิตกลางคืนที่คึกคัก วัฒนธรรมที่หลากหลาย และกิจกรรมกลางแจ้ง อีกมากมาย

สนามบินภูเก็ต

ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต (IATA: HKT) เป็นท่าอากาศยานหลักที่ให้บริการบนเกาะภูเก็ต ประเทศไทย เป็นหนึ่งในท่าอากาศยานที่พลุกพล่านที่สุดในประเทศไทย และเป็นประตูสู่จุดหมายปลายทางหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเกาะภูเก็ต ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องชายหาดและรีสอร์ทที่สวยงาม

AIRPORTELs บริการรับฝากสัมภาระที่สนามบินภูเก็ต

บริการฝากสัมภาระและจัดส่งสัมภาระ โดยมีเคาน์เตอร์ที่สนามบินภูเก็ตซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถฝากสัมภาระของตนได้อย่างปลอดภัย นี่คือสิ่งที่คุณอาจต้องทราบเกี่ยวกับบริการฝากสัมภาระของ AIRPORTELs ที่สนามบินภูเก็ต

AIRPORTELs มีเคาน์เตอร์ให้บริการ 2 จุดที่สนามบินภูเก็ต

  • ฝั่งภายในประเทศ เคาน์เตอร์ของเราตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 ใกล้ประตู 1
  • ฝั่งต่างประเทศ เคาน์เตอร์ของเราตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 ใกล้ประตู 2

เวลาทำการ

  • เคาน์เตอร์ของเราเปิดทุกวันตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 12.00 น.

อัตราค่าบริการฝากสัมภาระ

กระเป๋าเดินทางธรรมดา / กระเป๋าใส่ไม้กอล์ฟ

  • ชิ้นละ 150 บาท (วัน)
  • ชิ้นละ 750 บาท (สัปดาห์)
  • ชิ้นละ 3,000 บาท (เดือน)

สัมภาระพิเศษ

  • ชิ้นละ 200 บาท (วัน)
  • ชิ้นละ 1,000 บาท (สัปดาห์)
  • ชิ้นละ 4,000 บาท (เดือน)

ทำไมต้องใช้บริการฝากกระเป๋ากับ AIRPORTELs

เป็นบริการที่สะดวกสบายในประเทศไทย ซึ่งช่วยให้ผู้เดินทางสามารถฝากสัมภาระของตนได้อย่างปลอดภัยในขณะที่ออกสำรวจเมือง โดยไม่ต้องลำบากในการพกพาสัมภาระ บริการนี้ได้รับความนิยมเป็นพิเศษในหมู่นักท่องเที่ยวที่มีเวลาว่างระหว่างเช็คเอาต์จากโรงแรมและขึ้นเครื่องบิน หรือผู้ที่ต้องการสำรวจเมืองโดยไม่ต้องแบกสัมภาระหนักๆ

5 สถานที่ช็อปปิ้งยอดนิยมในภูเก็ต

1. ตลาดเมืองเก่าภูเก็ต

ตลาดเมืองเก่าภูเก็ต หรือที่เรียกอีกอย่างว่า ตลาดถนนคนเดินภูเก็ตหรือตลาดหลาดใหญ่เป็นตลาดที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและวัฒนธรรม ตั้งอยู่ใจกลางย่านเมืองเก่าภูเก็ต ตลาดแห่งนี้จัดขึ้นทุกวันอาทิตย์ตอนเย็นตามถนนถลาง ซึ่งเป็นถนนที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในพื้นที่ โดยมีชื่อเสียงจากสถาปัตยกรรมแบบชิโน-โปรตุเกสที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี

2. เซ็นทรัลภูเก็ต

ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดและหรูหราที่สุดของเกาะ แบ่งออกเป็น 2 โซน ได้แก่ ฟลอเรสต้าและเฟสติวัล ฟลอเรสต้ามีสินค้าแบรนด์เนมและสินค้าหรูหรามากมาย ในขณะที่เฟสติวัลเน้นที่สินค้าแบรนด์เนมราคาไม่แพงและความบันเทิงสำหรับครอบครัว นอกจากนี้ ศูนย์การค้าแห่งนี้ยังมีโรงภาพยนตร์ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และร้านอาหารหลากหลาย

3. ศูนย์การค้าจังซีลอน (หาดป่าตอง)

ศูนย์การค้าจังซีลอนตั้งอยู่ในย่านที่คึกคักของหาดป่าตอง เป็นสถานที่ยอดนิยมสำหรับทั้งคนในท้องถิ่นและนักท่องเที่ยว ที่นี่มีร้านค้าปลีกหลากหลายประเภท ห้างสรรพสินค้า ร้านขายของที่ระลึก และร้านอาหารมากมาย นอกจากนี้ ศูนย์การค้ายังมีโรงภาพยนตร์ โบว์ลิ่ง และสปาอีกด้วย

4. พรีเมี่ยม เอาท์เล็ท ภูเก็ต

ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่จำหน่ายสินค้าแบรนด์เนมทั้งไทยและต่างประเทศในราคาลดพิเศษ เป็นแหล่งที่ยอดเยี่ยมในการหาสินค้าลดราคาสำหรับเสื้อผ้า ชุดกีฬา และเครื่องประดับ นอกจากนี้ ศูนย์การค้ายังมีร้านอาหารหลายแห่งให้คุณได้เลือกเติมพลังระหว่างการช้อปปิ้ง

5. ตลาดชิลวา

ตลาดชิลวาเป็นตลาดกลางคืนสุดเก๋ที่ขึ้นชื่อในเรื่องบรรยากาศสุดฮิปและวัยรุ่น เป็นแหล่งที่ยอดเยี่ยมในการหาเสื้อผ้า เครื่องประดับ และสินค้าแฮนด์เมดที่ไม่ซ้ำใคร นอกจากนี้ ตลาดแห่งนี้ยังมีแผงขายอาหารหลากหลายชนิดและดนตรีสด ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่สนุกสนานในยามเย็น

อ่านเพิ่มเติม

บริการส่งกระเป๋าในภูเก็ต กับ AIRPORTELs ผู้ให้บริการอันดับ 1 ด้านการฝากและขนส่งกระเป๋า

บริการส่งกระเป๋าในภูเก็ต กับ AIRPORTELs

หากคุณกำลังเดินทางไปภูเก็ตและต้องการบริการจัดส่งสัมภาระที่เชื่อถือ ไม่ต้องมองหาที่ไหนไกล เพราะ AIRPORTELs เปิดให้บริการแล้วที่สนามบินภูเก็ต ไม่ว่าคุณจะมาถึงที่สนามบินนานาชาติภูเก็ตหรือพักที่โรงแรมในตัวเมือง บริการจัดส่งสัมภาระของ AIRPORTELS จะช่วยให้คุณ เที่ยวตัวปลิวได้อย่างเพลิดเพลินโดยไม่ต้องพกสัมภาระเลยตั้งแต่

AIRPORTELs สนามบินภูเก็ต

เป็นบริการจัดส่งสัมภาระที่ให้บริการในสถานที่ต่างๆ ทั่วไทย และพร้อมให้บริการที่สนามบินภูเก็ต บริการของเราได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้เดินทางที่ต้องการมาท่องเที่ยวโดยไม่ต้องแบกสัมภาระให้ยุ่งยาก AIRPORTELs ให้บริการจัดส่งสัมภาระที่สะดวกสบาย จัดส่งจากสนามบินถึงโรงแรม และ ยังมีบริการจัดส่งระหว่างเมืองอีกด้วย

AIRPORTELs สนามบินภูเก็ต

AIRPORTELs มีเคาน์เตอร์ให้บริการ 2 จุดที่สนามบินภูเก็ต

  • ฝั่งภายในประเทศ เคาน์เตอร์ของเราตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 ใกล้ประตู 1
  • ฝั่งต่างประเทศ เคาน์เตอร์ของเราตั้งอยู่ที่ ชั้น 1 ใกล้ประตู 2

เวลาทำการ

  • เคาน์เตอร์ของเราเปิดทุกวันตั้งแต่ 6.00 น. ถึง 12.00 น.

อัตราค่าบริการจัดส่ง

บริการส่งสัมภาระภายในเมืองภูเก็ต

  • กระเป๋าเดินทาง เริ่มต้นที่ 349 บาทต่อชิ้น
  • กระเป๋ากอล์ฟ 399 บาทต่อชิ้น
  • สัมภาระชนิดพิเศษ 599 บาทต่อชิ้น

จุดหมายปลายทาง

  • บริการจัดส่งสัมภาระ จากสนามบินไปยังโรงแรม
  • บริการจัดส่งสัมภาระ จากโรงแรมไปยังสนามบิน
  • บริการจัดส่งสัมภาระ จากโรงแรมไปยังโรงแรม

บริการจัดส่งสัมภาระไปกรุงเทพฯ

  • กระเป๋าเดินทางปกติเริ่มต้นที่ 599 บาทต่อชิ้น

ข้อกำหนดและเงื่อนไขมาตรฐานการใช้บริการ

  • หากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ โปรดแจ้งให้ AIRPORTELs ทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทางเดิม
  • หากต้องนำสัมภาระไปส่งที่สนามบิน โปรดรับสัมภาระล่วงหน้า 2 ชั่วโมงก่อนเวลาออกเดินทาง
  • เราไม่รับวัตถุต้องห้าม เช่น พลุ ยาเสพติด อาวุธ อาหาร สัตว์ หรือสิ่งมีชีวิตใดๆ
  • AIRPORTELs จะไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดจากบุคคลที่สามหรือสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ เช่น การได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ลูกค้ามาช้า ลูกค้าไม่ตอบสนอง ภัยธรรมชาติ การประท้วง เป็นต้น
  • AIRPORTELs จะไม่รับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดจากบุคคลที่สามหรือสถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ เช่น การได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ลูกค้ามาช้า ลูกค้าไม่ตอบสนอง ภัยธรรมชาติ การประท้วง เป็นต้น
  • หากลูกค้าไม่สามารถรับสัมภาระได้ AIRPORTELs จะเก็บสัมภาระไว้ แต่จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือสูญหายใดๆ หากลูกค้าไม่ติดต่อ AIRPORTELs ภายใน 30 วัน AIRPORTELs มีสิทธิ์ทำลายทรัพย์สินดังกล่าว
  • สำหรับลูกค้าที่ต้องการให้นำสัมภาระไปส่งที่โรงแรม ลูกค้าจะต้องแจ้งให้โรงแรมทราบล่วงหน้าก่อนทำการจัดส่ง
  • สำหรับลูกค้าที่ใช้บริการรับฝากสัมภาระจาก Airbnb หรือเกสต์เฮ้าส์ โปรดแจ้ง AIRPORTELs ก่อนดำเนินการรับฝาก
  • สำหรับลูกค้าที่พักในโรงแรม พนักงานของเราจะมารับสัมภาระของคุณหลังจากฝากสัมภาระไว้กับโรงแรมแล้ว

5 กิจกรรมยอดนิยม ในภูเก็ต

ภูเก็ตยังเป็น 1 ในสถานที่ต้องเที่ยวยอดนิยมตลอดปี 2024 เราได้รวบรวมกิจกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว และ กำลังมาแรงที่สุดในปีนี้

1. การเดินทางไปยังเกาะต่างๆ

การเดินทางไปยังเกาะต่างๆ

สำรวจหมู่เกาะที่สวยงามรอบๆ ภูเก็ต เช่น เกาะพีพี เกาะเจมส์บอนด์ และหมู่เกาะสิมิลัน ทริปเหล่านี้มักรวมถึงการดำน้ำตื้น ว่ายน้ำ และพักผ่อนบนชายหาดอันสวยงาม ไฮไลท์ของแต่ละเกาะน้ำทะเลใสราวกับคริสตัล ชีวิตใต้ทะเลที่สดใส และทิวทัศน์ที่งดงามทำให้การเที่ยวชมเกาะต่างๆ กลายเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวเลือกเป็นอันดับต้นๆ ในทุกครั้งที่มาภูเก็ต

2. ท่องเที่ยวและช็อปปิ้งย่านเมืองเก่าภูเก็ต

ท่องเที่ยวและช็อปปิ้งย่านเมืองเก่าภูเก็ต

ค้นพบหัวใจทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของภูเก็ตโดยการเดินเที่ยวไปตามถนนในย่านเมืองเก่าภูเก็ต ซึ่งมีชื่อเสียงในเรื่องสถาปัตยกรรมชิโน-โปรตุเกสที่มีสีสัน ศิลปะริมถนน ตลาด และร้านกาแฟที่มีชีวิตชีวา ที่นี่มีทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และจุดถ่ายรูปบน Instagram รวมถึงโอกาสที่จะได้ลิ้มลองอาหารริมทางในท้องถิ่นอีกด้วย

3. กีฬาและกิจกรรมผจญภัย

กิจกรรมผจญภัยต่างๆ มากมาย เช่น พายเรือแคนู ซิปไลน์ ขี่รถเอทีวี บันจี้จัมพ์ และดำน้ำ จุดดำน้ำลึกและดำน้ำตื้นเป็นที่นิยมโดยเฉพาะบริเวณเกาะกะตะ ป่าตอง และเกาะราชา

4.เที่ยวชมวิวแบบ พาโนรามา ในภูเก็ต

Big Buddha ยังเป็นที่นิยมอยู่เสมอ นักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นหาดกะตะ กะรน อ่าวฉลอง และบางส่วนของตัวเมืองภูเก็ต ทำให้ที่นี่เป็นจุดยอดนิยมสำหรับการถ่ายภาพและเที่ยวชม

5.สุขภาพและสปา

ที่นี่มีชื่อเสียงในด้านสปาหรูหราและรีสอร์ทเพื่อสุขภาพ ทำให้ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการฟื้นฟูและผ่อนคลาย

9 ร้านอาหาร ICONSIAM วิวแม่น้ำเจ้าพระยา: ดื่มด่ำประสบการณ์อาหารหรูริมน้ำ

9 ร้านอาหาร ICONSIAM พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา: ประสบการณ์อาหารหรูริมน้ำ

จะดีแค่ไหนหากวันพักผ่อนหรือหลังจากทำงานเหนื่อย ๆ แล้วได้นั่งรับประทานอาหารอร่อย ๆ พร้อมชมวิวริมแม่น้ำยามค่ำคืน นอกจากได้อิ่มท้องกับอาหารดี ๆ แล้วยังได้อิ่มใจกับบรรยากาศรอบตัว เชื่อว่าต้องเป็นอะไรที่ฟินและฮีลใจได้ดีสุด ๆ และสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดี เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดหรูท่ามกลางวิวงดงาม ขอแนะนำ 9 ร้านอาหาร iconsiam ที่นอกจากพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแล้วยังพร้อมเสิร์ฟวิวสวย ๆ ของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย

แนะนำ 9 ร้านอาหาร Iconsiam พร้อมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

James Boulangerie
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: James Boulangerie

เริ่มต้นกันที่ร้านอาหารไทยและอาหารสไตล์ยุโรปที่ขนทัพเมนูมาให้เลือกอย่างคับคั่ง ใครที่เป็นแฟนคลับร้านนี้น่าจะทราบว่าเมนูไฮไลต์ของร้านคือครัวซองต์เนื้อนุ่มหอมอร่อย แต่เมื่อมาเปิดที่ไอคอนสยามก็กลายเป็นร้านอาหารที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยทั้งวัน การตกแต่งร้านเน้นโทนสีขาวและความโปร่งสบายจึงสามารถนั่งรับชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มอิ่ม เลือกนั่งได้ทั้งด้านในและด้านนอก เมื่อมาถึงร้านนี้แล้วเมนูที่พลาดไม่ได้ ได้แก่ ครัวซองต์รสชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะครัวซองต์ชาเขียวรสอร่อยเกินห้ามใจ นอกจากนี้ยังมีเมนูอิ่มท้องอื่น ๆ อย่างพาสต้า สเต็ก สลัด ซุปเห็ดทรัฟเฟิล ฯลฯ แต่ละจานการันตีว่าอร่อยเด็ด

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
Fallabella River Front
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Fallabella

ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากชั้นบนสุดของไอคอนสยามได้ที่ร้านนี้ บอกเลยว่าเป็นร้านที่จะทำให้ทุกคนดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนได้อย่างเต็มอิ่ม จุดเด่นคือการเป็นร้าน Rooftop เสิร์ฟอาหารไทย-อิตาเลียน ช่วงค่ำยังเป็นบาร์ให้ดื่มชิล ๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสงสีของกรุงเทพฯ และโค้งน้ำเจ้าพระยาสุดโรแมนติก สำหรับเมนูที่อยากบอกต่อ ได้แก่ เนื้อย่าง บอกเลยว่าเนื้อนุ่มมาก ยิ่งรับประทานคู่กับซอสที่เสิร์ฟมาด้วยกันยิ่งลงตัว หรือจะเป็นเมนูพาสต้าก็อร่อยไม่แพ้กัน เส้นเหนียวหนึบแบบกำลังดี ถูกใจคนชอบอาหารอิตาเลียน นอกจากนี้ยังขอแนะนำซีซ่าร์สลัด เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะผักกรอบมากและน้ำสลัดเข้มข้นถึงใจ

  • ช่วงราคา : 500 – 1,200 บาท
Greyhound Café
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Greyhound cafe

ลิ้มรสความอร่อยของอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตกได้แบบไม่มีเบื่อ นอกจากมีเมนูให้เลือกมากมายแล้วยังได้รับชมวิวสวย ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวพระอาทิตย์ตกดินหรือวิวโค้งน้ำยามค่ำคืน การตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีขาวและสีดำสุดมินิมอล โดยรอบร้านแต่งแต้มด้วยกระจกเปิดรับวิวด้านนอกเต็มที่ พร้อมเพิ่มบรรยากาศสุดผ่อนคลายด้วยต้นไม้สีเขียวที่กระจายโดยรอบ เมนูแนะนำ ได้แก่ แซลม่อนแช่พริก ปลาส้มสีสันน่ารับประทานมาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด และปลากะพงย่างเสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่งและมันฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มและของหวานขึ้นชื่อ ได้แก่ ทับทัมกรอบ สาคูไอศกรีมมะพร้าว และชาไทย รสชาติเข้มข้นอร่อยแน่นอน

  • ช่วงราคา : 300 – 1,000 บาท
Café Chilli
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Cafe Chilli

ใครว่าในไอคอนสยามจะมีแต่ร้านอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตกเท่านั้น หากกำลังเปรี้ยวปากอยากรับประทานอาหารอีสานแนะนำที่ร้านนี้เลย ร้านอาหารอีสานพร้อมเสิร์ฟความแซ่บแบบพรีเมียม จุดเด่นคือวัตถุดิบสำคัญนำมาจากภาคอีสาน การันตีความอร่อยแซ่บ เมนูที่ต้องสั่ง ได้แก่ แจ่วฮ้อนหมูหมักน้ำมันงามาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด รวมถึงต้มแซ่บหมูเด้งและข้าวโพดทอด  อิ่มอร่อยท่ามกลางการจัดร้านแบบไทย ๆ ผสมผสานวัฒนธรรมอีสานไว้อย่างลงตัว

  • ช่วงราคา : 250 – 500 บาท
 Jumbo Seafood

ใครเคยไปเที่ยวสิงคโปร์เชื่อว่าต้องคุ้นหูชื่อร้าน Jumbo Seafood เพราะนี่คือร้านดังของสิงคโปร์ที่ทนกระแสความฮิตไม่ไหวเลยต้องมาเปิดร้านที่ไทย แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารที่เน้นซีฟู้ดเป็นหลัก และไม่ใช่แค่ซีฟู้ดธรรมดานะแต่เป็นซีฟู้ดขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู หอย คัดมาเฉพาะไซซ์บิ๊ก ๆ จนกลายเป็นจุดเด่นของร้านไปเสียแล้ว ที่นี่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบมาก ๆ โดยวัตถุดิบจะต้องสดใหม่เพื่อชูรสอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น การตกแต่งของร้านเรียบง่ายแต่หรูหรา มีกระจกบานใหญ่มองวิวด้านนอกได้ สำหรับเมนูแนะนำที่ต้องลอง ได้แก่ หนังปลาทอดไข่เค็มที่แอบกระซิบว่าอร่อยนัวและเข้มข้น กุ้งผัดพริกไทยและเกลือที่คัดกุ้งตัวโต ๆ แน่น ๆ และที่ขาดไม่ได้คือปูผัดไข่เค็ม เสิร์ฟเฉพาะปูไซซ์จัมโบ้และไข่เค็มหอม ๆ รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ คือดีไม่ไหว

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: nice two Sea u 나이스투씨유

ใครชื่นชอบอาหารทะเลบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด ร้านปิ้งย่างวิวแจ่ม ๆ ที่หาได้ยากในกรุงเทพฯ สำหรับร้านนี้จัดให้เพื่อคนรักการรับประทานปิ้งย่างอาหารทะเลสไตล์เกาหลี ร้านตั้งอยู่บน Rooftop เปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับเมนูที่บอกว่าต้องลอง ได้แก่ เมนูซีฟู้ดที่สั่งมาย่างได้แบบฟิน ๆ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปลาหมึก รับประกันความสดใหม่ รวมถึงยังมีเมนูปูดองซีอิ๊วเกาหลี จูกุมิกับหอยเชลล์กระทะร้อน และหอยสังข์ซาชิมิ แค่ได้ยินชื่อก็ท้องร้อง ขาดไม่ได้เลยคือน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด เมื่อรับประทานกับอาหารทะเลคืออร่อยลงตัวสุด ๆ นอกจากอาหารอร่อยถูกปากคนไทยแล้วยังมอบวิวสวย ๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกได้ว่าทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจกับบรรยากาศไปพร้อมกันเลยทีเดียว

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
HOBS ICONSIAM

ได้เวลาสนุกกับบาร์วิวแม่น้ำกันบ้าง บอกเลยว่าที่นี่เหมาะมากกับสายแฮงก์เอาท์ เพราะช่วงค่ำมีดนตรีสดแวะเวียนมามอบเสียงเพลง การจัดร้านเน้นความโปร่งสบายเพราะต้องการเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุด สำหรับอาหารพร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติ ไหนจะเครื่องดื่มที่มีทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และแบบไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับเมนูที่ต้องบอกต่อ ได้แก่ Truffle Cheese Bomb เบอร์เกอร์ชิ้นโต ไฮไลต์คือบันนุ่ม ๆ โดยเมนูนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านใครมาก็ต้องสั่ง อย่าลืมขาหมูเยอรมันที่บอกได้แค่ว่าเด็ดจริง ขาหมูกรอบมาก แถมน้ำจิ้มรสเด็ดอร่อยเกินห้ามใจ

  • ช่วงราคา : 400 – 1,000 บาท
Great Habour
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Great Harbour

เอาใจคนรักการรับประทานบุฟเฟต์กันบ้าง โดยนี่คือร้านบุฟเฟต์อาหารนานาชาติชื่อดังจากไต้หวัน บินมาเสิร์ฟความอร่อยให้คนไทยแบบไม่อั้น ภาพรวมร้านค่อนข้างใหญ่ รองรับได้มากถึง 400 ที่นั่ง ไลน์อาหารบอกเลยว่าจัดเต็ม โดยเฉพาะซีฟู้ดที่สดใหม่และชิ้นใหญ่เต็มคำ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู หอย หอยนางรม และซาชิมิ ซึ่งเป็นเมนูได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเมนูจานเดียวขอแนะนำเป็ดย่าง ซูชิเนื้อวากิว ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่น ที่รับรองว่าสั่งครั้งเดียวไม่เคยพอ และคนรักชีสต้องไม่พลาดเพราะที่นี่จัดเรียงชีสไว้อย่างน่ารับประทานแถมมีให้เลือกหลายแบบอีกด้วย

  • ช่วงราคา : 500 – 1,500 บาท
บ้านขนิษฐา
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: ถนัดชิม

แค่ชื่อร้านก็คาดเดาได้แล้วว่าเป็นร้านอาหารไทยอย่างแน่นอน และไม่ใช่แค่ร้านอาหารไทยธรรมดาแต่เป็นร้านอาหารไทยรสชาติไทยแท้ จุดเด่นของร้านคือแต่ละเมนูพิถีพิถันการจัดจานทำให้ทุกเมนูหน้าตาสวยงามน่ารับประทาน แถมรสชาติยังขึ้นชื่อ สูตรอาหารได้รับรางวัลการันตีความอร่อย คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี การแต่งร้านยังคงสอดแทรกด้วยความงามแบบไทย มีให้เลือกทั้งที่นั่งด้านในและที่นั่งด้านนอกเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เมนูที่ต้องบอกต่อ ได้แก่ กุ้งมังกรภูเก็ตทอดกระเทียมพริกไทย กระซิบว่ากุ้งตัวใหญ่มากและยังสดใหม่ ปูนิ่มผัดซอสมะขามรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี รวมถึงแกงส้มชะอมชุบไข่ทอด รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ คือเข้ากันเป็นอย่างดี

  • ช่วงราคา : 300 – 800 บาท

จะเห็นว่านอกจากที่นี่จะเป็นแลนมาร์กแห่งการชอปปิงแล้ว ร้านอาหาร iconsiam ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นไม่แพ้กัน เพราะมีหลากหลายร้านอาหารอร่อยมาพร้อมบรรยากาศดี โดดเด่นด้วยวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งหากเป็นตอนค่ำยิ่งได้สัมผัสลมเย็น ๆ และชื่นชมไปกับแสงสียามค่ำคืน จึงไม่น่าแปลกใจว่าเพราะอะไรไอคอนสยามจึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ทั้งคนไทยและต่างชาติต้องแวะเช็กอิน ใครอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ขอเชิญที่ไอคอนสยาม เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีเจริญนคร เชื่อมต่อสู่ห้างสรรพสินค้าได้เลย หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ก็มีที่จอดรถเพียบ สะดวกสบายไม่แพ้กัน 

ที่มาข้อมูล

อัพเดทคู่มือ: 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนใช้รถไฟฟ้าไปยังไอคอนสยามสายสีทอง

อัพเดทคู่มือ: 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนใช้รถไฟฟ้าไปยังไอคอนสยามสายสีทอง

หากเอ่ยถึงห้างสรรพสินค้าริมน้ำที่เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของทั้งคนไทยและต่างชาติ เชื่อว่าหลายคนจะต้องทายถูกว่าเรากำลังพูดถึง “ไอคอนสยาม” ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังไว้มากมายจนกลายเป็นจุดเช็กอินสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย นอกจากการเป็นห้างขนาดใหญ่แล้ว ปัจจุบันได้มีโครงการ ไอคอนสยาม รถไฟฟ้า สายสีทอง ครั้งแรกของไทยที่มีรถไฟฟ้าไร้คนขับ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางมาย่านนี้

ประวัติไอคอนสยาม ห้างริมน้ำสุดหรูของไทย

ห้างหรูริมแม่น้ำแห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง สยามพิวรรธน์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดิเวล็อปเม้นต์ ร่วมทุนกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อเนรมิตห้างหรูบนพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร ของเขตคลองสาน ใครที่เคยคิดว่าไอคอนสยามเป็นห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียวต้องบอกว่าเข้าใจผิด เพราะประกอบด้วยส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้า อาคารสำหรับพักอาศัย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ สยาม ทาคาชิมายะ ห้างพรีเมียมจากญี่ปุ่นที่เปิดสาขาในไทยครั้งแรก ความยิ่งใหญ่นี้จึงทำให้ไอคอนสยามกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของไทยที่มีคนไทยและต่างชาติแวะเวียนมาไม่ขาดสาย

ประวัติไอคอนสยาม ห้างริมน้ำสุดหรูของไทย
  1. รถไฟฟ้าสายสีทองถูกยกให้เป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับสายแรกของไทย เปิดให้บริการเพียง 3 สถานีเท่านั้น ได้แก่ กรุงธนบุรี เจริญนคร และคลองสาน ใครได้ใช้บริการถือว่าเอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ  
  2. เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563
  3. ใครอยากมาไอคอนสยามต้องลงสถานีเจริญนคร ทางออก 3 รับรองถึงชัวร์ เดินเข้าทางเชื่อมตัวห้างสรรพสินค้าได้เลย
  4. รถไฟฟ้าสายสีทองออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคนที่พักอาศัยละแวกนั้น เพราะใช้ตอม่อขนาดเล็ก ไม่กินพื้นที่ ลดการเวนคืน และออกแบบให้ลดเสียงรบกวน ทันสมัยและทนทานสุด ๆ 
  5. รู้หรือไม่ รถไฟฟ้าสายสีทองคือรูปแบบเดียวกับรถไฟฟ้าที่ให้บริการที่ London Heathrow (อังกฤษ) และที่ Frankfurt Main (เยอรมัน)
  6. รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 276 คนต่อขบวน รอคิวไม่นานแน่นอน
  7. แม้จะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน มีเวลาแค่ 6 นาที ก็เดินทางจากสถานีกรุงธนบุรีถึงไอคอนสยามได้ 
  8. ทำความเร็วสูงสุดถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รีบแค่ไหนก็เอาอยู่ทั้งคนทำงานและคนที่เดินทางไปย่านนั้น
  9. ราคาสบายกระเป๋า เพียง 16 บาทตลอดสาย
  10. เปิดบริการเช้าและปิดดึก เวลาให้บริการ รถขบวนแรก 06.00 น. และขบวนสุดท้ายให้บริการเวลาประมาณ 23.30 น. ชอปปิงกันถึงดึกได้เลย

ใครที่คิดว่าการเดินทางไปไอคอนสยามไม่สะดวกสบายเพราะไม่ใช่ห้างใจกลางเมือง บอกเลยว่าผิดคาด เพราะ ไอคอนสยาม รถไฟฟ้า สายสีทองพร้อมให้บริการแล้ว อุดรอยรั่วด้านการเดินทางที่เคยคิดว่ายากให้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับความสะดวกสบาย อยากชอปปิงเมื่อไหร่ก็เดินทางได้อย่างรวดเร็วทันใจ

ที่มาข้อมูล

ตะลุยความสนุก! รีวิวเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดในฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม 2024

ที่มารูปภาพ : harborland

หากพูดถึงสนามเด็กเล่นในยุคนี้คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ที่มีลูกอยู่ในวัยกำลังซนแทบทุกคนจะรู้จักกับ “ฮาร์เบอร์แลนด์” สนามเด็กเล่นชื่อดังจากต่างประเทศที่เด็กเข้าได้ตั้งแต่อายุ 5 เดือน ไปจนถึงอายุ 15 ปี หลังจากที่ฮาร์เบอร์แลนด์เปิดตัวในไทยมานานกว่า 7 ปี ก็มีสาขาเพิ่มมากขึ้นหลายแห่ง รวมถึง ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ บนพื้นที่ชั้น 6 ที่กว้างมากถึง 5,000 ตร.ม. ได้ถูกเนรมิตเป็น Mega Harborland ในธีม Little Thailand ความหมายคือสนุกที่เดียว เที่ยวได้ทั่วไทย เพราะผู้จัดต้องการให้การพาครอบครัวมาเที่ยวที่นี่เป็นเสมือนกับการได้ไปท่องเที่ยวทั่วประเทศในวันเดียว

เครื่องเล่นในฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยามมีกี่โซน 

ที่นี่มีเครื่องเล่นครบรสความสนุกแบบสุด ๆ ซึ่งนอกจากเครื่องเล่นในโซน Mega Harborland ที่ทั้งสนุกและตื่นเต้นแล้ว ยังมีโซน JumpZ ให้กระโดดอย่างจุใจและท้าทายความเร็ว อีกโซนหนึ่งคือ Harbor Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่แบบ Full Floor ทุกโซนเปิดให้เด็กทุกวัยเข้าไปเล่นได้ เพราะจะมีเครื่องเล่นชนิดต่าง ๆ ที่พร้อมสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย ไปดูกันว่าไฮไลต์ของที่นี่มีอะไรบ้าง

  • เครื่องเล่นในโซน Mega Harborland เล่นได้ทั้งเด็กเล็กและเด็กโต 
  • เครื่องเล่นสไลเดอร์ มี Dragon Spiral Tower Slide เครื่องเล่นที่ต้องสไลด์ลงมาจากหอคอยมังกร ให้ความสนุกและตื่นเต้นเหมือนได้ผจญภัย, Boomerang Donut Slide เครื่องเล่นสไลด์แบบสะใจกับแรงเหวี่ยง และ Ta-Khon Roller Slide เครื่องเล่นโรลเลอร์สไลด์ที่ยาวที่สุด ไม่ควรพลาด เด็กเล็กสามารถเล่นได้นั่งตักคุณแม่สไลด์ลงได้เลย
  • Zip Line เครื่องเล่นห้อยโหนให้เด็กไหลลื่นไปตามเส้นลวดเหมือนนกโบยบิน แต่ไม่สูงมาก ปลอดภัยสำหรับเด็ก 
  • เครื่องเล่นแนวแข่งขัน มี Interactive Ball Attack เครื่องเล่นแข่งชู๊ตลูกบอล และ Interactive Cannon Target เครื่องเล่นแข่งยิงปืน เหมาะสำหรับเด็กโตที่ชอบเล่นแข่งขันทำคะแนน
  • โซน JumpZ มีเครื่องเล่นแทรมโพลีนสำหรับเด็กเล็กและเด็กโต 
  • High 9 Interactive Trampoline เครื่องเล่นกระโดดกดปุ่มเพื่อทำคะแนนบนแทรมโพลีน เหมาะสำหรับเด็กโต
  • Sweeper Trampoline เครื่องเล่นกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางบนแทรมโพลีน ฝึกความเร็ว เหมาะสำหรับเด็กโตเช่นกัน
  • โซน Harbor Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่เต็มพื้นที่
  • Sweeper Inflatable เป็นเครื่องเล่นที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางให้เด็กได้ใช้ทักษะในการหลบหลีก ฝึกความคล่องแคล่วและท้าทาย เด็กเล็กเล่นได้ พื้นผิวเครื่องเล่นรองรับการล้มไม่ต้องกลัวเจ็บ

นอกจากความสนุกสนานที่หยิบยกมานี้ยังมีเครื่องเล่นอีกมากมายรอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเองที่ ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ชั้น 6 ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทต่อคน คิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง หากมาหลายคนหรือจัดกิจกรรมทัศนศึกษา, Team Building สามารถซื้อเป็นแพ็กเกจได้ จองบัตรออนไลน์ที่เว็บไซต์ของ Harborland Group เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น. Long Weekend เปิดให้บริการถึง 21.00 น. 

ที่มาข้อมูล

ตะลุยกิน! 8 ร้านอาหารจตุจักร 2024 อร่อยเด็ด ฟินทุกจาน

ตะลุยกิน! 8 ร้านอาหารจตุจักร 2024 อร่อยเด็ด ฟินทุกจาน

จตุจักรแหล่งชอปปิงสุดฮิปของเมืองไทย บอกเลยว่าดีกรีความฮิตไม่แพ้แหล่งชอปปิงอื่น ๆ เพราะจตุจักรกลายเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องแวะมา รวมถึงคนไทยที่หากไม่รู้จะไปไหนก็ต้องนึกถึงจตุจักร โดยที่นี่รวบรวมสินค้าเอาไว้มากมาย ชอปได้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ นอกจากโดดเด่นเรื่องสินค้าแล้วต้องบอกว่า ร้านอาหารจตุจักร ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน รวบรวมความอร่อยไว้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสายปิ้งย่าง สายแซ่บ หรือสายไหน ๆ ก็แวะมาชิมความอร่อยได้แบบไม่มีเบื่อ 

ชี้เป้า ร้านอาหารจตุจักร สุดเด็ด แนะนำต้องแวะ 

ร้านแซ่บ สายกินเส้นก๋วยเตี๋ยวสุดเด็ดประจำจตุจักร

ใครชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือห้ามพลาดโดยเด็ดขาด บอกเลยว่าวัตถุดิบสดใหม่ จุดเด่นคือน้ำก๋วยเตี๋ยวมีกลิ่นหอมซีอิ๊วดำ เข้มข้น น่ารับประทานมาก ๆ มีให้เลือกทุกเส้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ หรือบะหมี่ ขาดไม่ได้คือกระเทียมเจียวที่เจียวใหม่วันต่อวัน อย่าลืมสั่งแคบหมูเพิ่มดีกรีความอร่อย ที่สำคัญควรรับประทานพร้อมเครื่องดื่มหวาน ๆ เติมความสดชื่นระหว่างเดินเล่นสวนจตุจักร

ใครชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่แล้วเชื่อว่าต้องรู้จักร้านนี้เพราะมีอยู่หลายสาขา เช่นเดียวกับที่สาขาสวนจตุจักรที่ตั้งอยู่ในโครงการ The Mix จุดเด่นคือน้ำก๋วยเตี๋ยวที่เข้มข้น สีสันน่ารับประทาน ราคาเริ่มต้นเพียงชามละ 20 บาท แต่บอกเลยว่าคุณภาพคับแน่น อย่าลืมสั่งแคบหมูและเกี๊ยวเพิ่มความฟิน รวมถึงเครื่องดื่มอร่อย ๆ ที่เข้ากันดี ความได้เปรียบคือมีที่นั่งในห้องแอร์เย็น ๆ ใครเดินผ่านโครงการ The Mix อย่าลืมไปแวะชิมความอร่อย

ร้านอาหารทะเล ซีฟู้ด สูตรเด็ดแซ่บเสร็จที่จตุจักร 

มากันที่คนชอบรับประทานอาหารทะเล บอกเลยว่าที่จตุจักรมีร้านอาหารทะเลให้เลือกหลายร้านเพราะเป็นเมนูโปรดของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมนูกุ้งถังของร้านกุ้งถัง อลังเวอร์ แต่ละวันมีนักชิมแวะเข้ามาแบบไม่ขาดสาย ร้านนี้ตั้งอยู่ในเจเจกรีน มาร์เก็ต เลือกมาให้เฉพาะกุ้งตัวโต ๆ และน้ำจิ้มรสเด็ด แน่นอนว่าใช้มือแกะกุ้งได้ตามสบายเพราะมีถุงมือบริการ นอกจากกุ้งแล้วยังมีเมนูหอย ปลาหมึกสด ๆ เรียกได้ว่ายกทะเลมาไว้ที่นี่ ใครเป็นสายซีฟู้ดแนะนำให้แวะมารับประทาน

ร้านกุ้งเผาที่ได้รับความนิยมในจตุจักร แค่ชื่อก็เดาออกว่าเมนูยอดฮิตคือกุ้งเผาตัวโต ๆ ที่สำคัญคือสดใหม่ สะอาดแน่นอน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด แซ่บ แต่เผ็ดแบบกำลังดี นอกจากเมนูขึ้นชื่ออย่างกุ้งเผาแล้วยังมีเมนูปลาเผาที่น่ารับประทานไม่แพ้กัน เสิร์ฟพร้อมผักสดและน้ำจิ้ม ใครไปจตุจักรอย่าลืมแวะไปชิมความอร่อย

มองหาร้านอาหารอิสลามต้องร้านนี้ 

ต้องยอมรับเลยว่าสวนจตุจักรได้รวมความหลากหลายของร้านอาหารเอาไว้จริง ๆ สำหรับใครที่มองหาร้านอาหารอิสลามก็สามารถแวะชิมความอร่อยได้ที่ร้านบังหมานราชาข้าวหมกไก่ ตั้งอยู่ภายในสวนจตุจักร โครงการ 5 ร้านนี้ไม่ว่าคนไทยหรือคนต่างชาติก็ต้องมาแวะรับประทาน เมนูไฮไลต์แน่นอนว่าเป็นข้าวหมกไก่ ข้าวหุงมาแบบนิ่มกำลังดี หอมกลิ่นเครื่องเทศ มาพร้อมไก่เนื้อแน่นทำสดแบบวันต่อวัน อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดคือข้าวเหนียวไก่ทอด เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเพราะหมักจนเข้าเนื้อ อร่อยติดใจแน่นอน

อีกหนึ่งร้านอาหารอิสลามที่รวบรวมเมนูเอาไว้มากมาย ใครอยากลิ้มลองความอร่อยเรียนเชิญที่สวนจตุจักร โครงการ 27 เมนูเด่นคือข้าวหมก 3 สี มีให้เลือกทั้งไก่และเนื้อ ทุกจานเนื้อแน่น ทำสดใหม่ หอมเครื่องเทศอ่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีข้าวซอยไก่ ลูกชิ้นเนื้อ อย่าลืมสั่งข้าวหมกอินเดียที่เรียกได้ว่าเป็นจานเด็ดเช่นกัน

ร้านปิ้งย่างที่ไม่ควรพลาด เหมาะกับสายย่างเนื้อ 

เอาใจคนชอบเดินสวนจตุจักรแล้วเกิดอยากรับประทานเมนูปิ้งย่าง แนะนำว่าต้องแวะร้านนี้ ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเจเจกรีน ตอบโจทย์คนชอบเนื้อย่าง เพราะจัดเต็มเนื้อพรีเมียมให้เลือกแบบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้ออสเตรเลีย เนื้อลายมัน เนื้อสัน เนื้องน่องลาย รวมถึงเนื้อพริกไทยดำที่กลิ่นพริกไทยหอมสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีชุดหมูและชุดซีฟู้ดไว้บริการ แอบกระซิบว่าข้าวผัดกระเทียมอร่อยสุด ๆ แนะนำว่าต้องสั่งเลย

หากมาเดินเล่นสวนจตุจักรและมองหาร้านปิ้งย่างบรรยากาศดี บอกเลยว่าห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด เพราะนี่คือร้านปิ้งย่างที่ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของเจเจกรีน นอกจากได้ชื่นชมกับวิวเมืองสวย ๆ อาหารของที่นี่ยังมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ เนื้อ หรือแม้แต่ซีฟู้ด วัตถุดิบแต่ละอย่างสดใหม่ ชิ้นโต มีครบทั้งกุ้ง หอย ปลาหมึก ที่สำคัญน้ำจิ้มรสเด็ดมาก ใครมาก็ต้องติดใจ นอกจากนี้อาหารทานเล่นก็จัดเต็มไม่แพ้กัน อย่าลืมปิดท้ายด้วยไอศกรีม โดยเฉพาะไอศกรีมเจลาโตที่เขาว่ากันว่าอร่อยมาก

ใครรู้ตัวว่าเป็นสายกินอย่าลืมแวะเวียนมาสัมผัสความอร่อยได้ที่สวนจตุจักร เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีกำแพงเพชรก็สามารถเดินชอป ชิม ชิลได้แบบเพลิน ๆ บอกเลยว่าเผื่อเวลาเอาไว้เยอะ ๆ เพราะเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ รวบรวมสินค้าและอาหารไว้แบบคับคั่ง รับรองว่าเลือกซื้อสินค้าได้แบบเพลิน ๆ ใครเป็นสายชอป สายกิน ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

ที่มาข้อมูล :

รวมวิธีเช็คเที่ยวบินด้วยตัวเองง่ายๆ กันพลาดก่อนเดินทาง

รวมวิธีเช็คเที่ยวบินด้วยตัวเองง่ายๆ กันพลาดก่อนเดินทาง

การเดินทางด้วยเครื่องบินในบางทริปอาจมีเรื่องให้ลุ้น ไม่ไฟลต์ดีเลย์ก็ยกเลิกเที่ยวบิน ดังนั้นก่อนวันเดินทางควร เช็คเที่ยวบิน ล่วงหน้า โดยดูจากอีเมลแจ้งเตือนหรือเข้าไปเช็กที่เว็บไซต์สนามบินที่จะไปขึ้นเครื่อง หรืออีกวิธีหนึ่งคือโหลดแอปพลิเคชันของสายการบินที่จองตั๋วไว้เพื่อเช็กไฟลต์บิน หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็เตรียมตัวเดินทางได้ ใช้วิธีเช็กอินออนไลน์ง่ายมาก เรามาทำความรู้จักกับวิธีเช็กอินแบบนี้กันเพราะเป็นวิธีที่สะดวกกว่าเยอะเลย

ทำความรู้จักกับการเช็กอินออนไลน์

ทำความรู้จักกับการเช็กอินออนไลน์

ในปัจจุบันนี้สามารถเช็กอินล่วงหน้าได้จากที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของสายการบิน โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง หลังจากเช็กอินแล้วจะได้รับ Boarding Pass คุณสามารถปรินต์หรือโหลดไว้ในโทรศัพท์แล้วถือติดตัวไปขึ้นเครื่องได้เลย 

  • เช็กอินออนไลน์ต่างกับเช็กอินหน้าเคาน์เตอร์อย่างไร?

สมัยก่อนต้องไปเข้าคิวรอเช็กอินกันที่หน้าเคาน์เตอร์สายการบินก่อนเวลาขึ้นเครื่อง อย่างน้อย 3 ชั่วโมงสำหรับทริปต่างประเทศ และ 1 – 2 ชั่วโมง สำหรับทริปในประเทศ ถ้าเช็กอินไม่ทันทริปนั้นคือพลาด ต่างจากยุคนี้ที่สายการบินต่าง ๆ ได้เปิดให้เช็กอินผ่านอินเทอร์เน็ตได้ก่อนวันเดินทาง ไม่ต้องกังวลกับการที่จะต้องออกจากบ้านตี 1 ตี 2 สำหรับไฟลต์เช้า และไม่ต้องเสียเวลาไปยืนเข้าคิวรอนานที่เคาน์เตอร์อีกด้วย  

  • ใครที่เหมาะกับการเช็กอินออนไลน์

การเช็กอินออนไลน์เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางในประเทศและผู้เดินทางที่ไม่มีกระเป๋าโหลด ส่วนผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของสายการบินว่าจะให้ทำได้หรือไม่ เพราะการไปต่างประเทศมีขั้นตอนในเรื่องการตรวจสอบเอกสารหลายอย่างจึงอาจไม่สะดวกในการใช้บริการเช็กอินออนไลน์ แต่บางสายการบินก็สามารถทำได้

  • ขั้นตอนการเช็กอินออนไลน์

ผู้เดินทางต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ในหน้า Check-in หรือแอปพลิเคชันของสายการบิน แล้วกรอกข้อมูลรายละเอียดของตัวเอง เช่น ชื่อ-นามสกุล ข้อมูล Passport เบอร์โทร และหมายเลขการจอง ข้อสำคัญคือต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องก่อนกดยืนยัน เพียงเท่านี้ก็จะได้รับ Boarding Pass ทางอีเมลหรือโหลดในแอปพลิเคชันให้คุณนำไปแสดงตอนขึ้นเครื่อง 

  • สายการบินที่มีบริการเช็กอินออนไลน์
สายการบินที่มีบริการเช็กอินออนไลน์
  • การบินไทย 
  • บางกอกแอร์เวย์ 
  • เอมิเรตส์ 
  • แอร์ฟรานซ์ 
  • เอทิฮัดแอร์เวย์ 
  • ออลนิปปอนแอร์เวย์ 
  • คาเธ่ย์แปซิฟิก 
  • เคแอลเอ็ม 
  • โคเรียนแอร์ 
  • ไทยแอร์เอเชีย 
  • ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ 
  • ไทยไลอ้อนแอร์ 
  • ไทยสมายล์ 
  • นกแอร์ 
  • สกู๊ต 
  • เจ็ทสตาร์ 
  • เวียดเจ็ทแอร์ 

สำหรับการเดินทางครั้งใหม่ถ้าหากว่าไม่มีกระเป๋าโหลดหรือเป็นการเดินทางในประเทศ อย่าลืม เช็คเที่ยวบิน ให้ชัวร์แล้วเช็กอินออนไลน์ก่อนล่วงหน้า สะดวกกว่า ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องกลัวตกเครื่อง และหากต้องการใช้บริการรับฝากกระเป๋าหรือส่งกระเป๋า แนะนำ Airportels ช่วยลดภาระในการเดินทางให้คุณตัวเบาขึ้น เดินทางสบายทั้งไปและกลับ สนุกกับทุกทริปได้อย่างเต็มที่

ที่มาข้อมูล

รวม 5 ผู้ให้บริการเช่ารถยนต์ สนามบินสุวรรณภูมิ 2024

บริการเช่ารถยนต์ สนามบินสุวรรณภูมิ 2024

สำหรับนักเดินทางที่กลับจากต่างประเทศหรือใครที่เข้ากรุงเทพฯ โดยนั่งเครื่องบินมาลงสุวรรณภูมิ หากยังนึกไม่ออกว่าจะไปต่อกันอย่างไร แนะนำให้ใช้บริการ เช่ารถ สนามบินสุวรรณภูมิ มีบริษัทเช่ารถให้เลือกมากมาย หลายคนคงจะเคยเห็นและคุ้นตากันมาบ้างแล้ว เช่น ECOCAR rent-a-car, Summer Carrent, Bizcar Rental การเช่ารถขับเองสะดวกกว่า ไม่ว่าจะไปที่ไหน ท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ หรือเดินทางต่อไปยังจังหวัดอื่น ๆ สามารถจอดทำธุระหรือแวะพักตามแพลนของตัวเอง ทุกภารกิจสามารถทำได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไปมาอย่างไร เพราะคุณสามารถเช่าขับได้ตลอดการเดินทาง บริษัทเช่ารถมีหลายแห่ง ถ้าใครกำลังมองหาบริการนี้ ดูจากลิสต์นี้ได้เลย

1. ECOCAR rent-a-car

ECOCAR rent-a-car
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: เช่ารถ ECO Car

ที่ทำการบริษัทสาขาสุวรรณภูมิตั้งอยู่ติดกับสนามบิน (ภายนอกสนามบิน) เปิดให้เช่ารถขับเองจากสนามบินสุวรรณภูมิหรือจะเช่าเป็นรถรับ-ส่งก็ได้ มีรถหลายรูปแบบให้เลือก ทั้ง SUV สำหรับผู้ที่เดินทางหลายคน, รถปิคอัพ สำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางต่างจังหวัดหรือมีการขนของจำนวนมาก, รถเก๋งทั่วไป สำหรับผู้เช่าที่เดินทางคนเดียวหรือ 2 คน ECOCAR มีรถเช่าหลายยี่ห้อเลือกได้หลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Toyota Ativ, Toyota Yaris, Isuzu Space Cab, Honda Mobilio ฯลฯ สามารถโทรหรือติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลเพื่อเช่ารถและบริษัทจะนำรถมาส่งให้ที่อาคารผู้โดยสารขาออก ชั้น 4 ประตู 8 

นอกจากสาขาที่เปิดให้ เช่ารถ สนามบินสุวรรณภูมิ แล้วยังมีสาขาในกรุงเทพฯ อีก 7 แห่ง และสาขาในต่างจังหวัด ได้แก่ พัทยา เชียงใหม่ หาดใหญ่ และอุบลราชธานี

  • ค่าเช่ารถเริ่มต้นที่วันละ 1,000 บาทต้น ๆ  มีค่าเงินมัดจำ 5,000 บาท
  • ECOCAR เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00 – 20.00 น.

ช่องทางติดต่อ:

  • Facebook : รถเช่าสุวรรณภูมิ By Ecocar
  • Line : @ecocar
  • E-mail : [email protected]  
  • ติดต่อเช่ารถโทร: Call Center 02-002-4604

2. SUMMERCARRENT

SUMMERCARRENT: เช่ารถกรุงเทพ กทม เริ่มวันละ 500 บาท

เปิดให้บริการเช่ารถ 2 สาขา คือ สาขาบางแคและสาขาบางนา ไม่มีเคาน์เตอร์ที่สนามบินสุวรรณภูมิแต่สามารถติดต่อเช่ารถโดยโทรจองหรือผ่านทางไลน์และนัดรับรถที่สนามบินได้เลย เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่ให้เช่ารถสภาพดีในราคาที่ไม่แพง รูปแบบของรถเช่าทุกคันที่นี่จะเป็นรถขับเกียร์ออโต้ทั้งหมด สามารถเลือกยี่ห้อรถได้ตามความต้องการใช้งานและจำนวนผู้โดยสารในรถ ยี่ห้อรถที่พร้อมให้บริการคือ Toyota, Honda, Nissan, Mitsubishi, Suzuki ข้อดีของที่นี่คือบริการรับส่งรถถึงที่และมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินในระหว่างการเดินทางที่ติดต่อง่าย 

  • Summer Carrent เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.30 – 18.00 น.
  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 500 บาท ราคารวมประกันแล้ว
  • ผู้เช่าต้องจ่ายเงินจองล่วงหน้า 1,000 บาท ระยะเวลาเช่าขั้นต่ำ 5 วัน

ช่องทางติดต่อ:

  • Line ID : @summercarrent
  • E-mail : [email protected]
  • ติดต่อเช่ารถโทร: 089-770-8822, 02-100-6365

3. Drive Car Rental

Drive Car Rental

มีบริการรถเช่าภายในสนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ช่วงระหว่าง Gate 7 และ 8 ข้อดีของที่นี่คือรถใหม่ มีบริการเช่ารถพรีเมียม อย่าง BMW, Mercedes Benz และรถไฟฟ้าให้เลือกอย่าง Tesla, BYD แต่หากต้องการประหยัดแนะนำเป็น Eco Car และ City Car เหมาะกับผู้เช่ากลุ่มเพื่อน จำนวนคนนั่งไม่เกิน 5 คน หากมาเป็นครอบครัวสามารถเลือกรถใหญ่ รถ SUV ส่วนกรณีเดินทางกลุ่มใหญ่มีรถตู้ให้บริการ

ในการจองรถสามารถติดต่อล่วงหน้าแล้วรอรับรถที่สนามบินหรือจะมาจองที่เคาน์เตอร์ Drive Car Rental สุวรรณภูมิก็ได้เช่นกัน  

  • Drive Car Rental เคาน์เตอร์สุวรรณภูมิเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง สำนักงานใหญ่อยู่ที่ถนนศรีนครินทร์
  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 1,000 บาทต้น ๆ 
  • ลงทะเบียนเป็นสมาชิกทางเว็บไซต์มีส่วนลด 10%

ช่องทางติดต่อ:

4. Bizcar Rental

 Bizcar Rental

เคาน์เตอร์อยู่ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า สนามบินสุวรรณภูมิ ใครที่เดินทางมาลงเครื่องที่นี่ติดต่อเช่ารถได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีบริการรถเช่าหลายยี่ห้อ หลายประเภทตั้งแต่รถเก๋งซีดานสำหรับ 1 – 4 คน รถยนต์ขนาดใหญ่ 7 ที่นั่ง รถกระบะ หรือปิคอัพสำหรับผู้ที่ต้องการบรรทุกสิ่งของไปด้วย รถตู้ 11 ที่นั่ง ยี่ห้อยอดนิยมที่ให้บริการคือ Toyota, Nissan และสำหรับผู้ที่ต้องการรถพรีเมียมมียี่ห้อ Benz ไว้ให้บริการ ทุกคันเป็นรถใหม่ใช้งานไม่เกิน 3 ปี มีการเช็กระยะทุกปี 

นอกจากสาขาสุวรรณภูมิแล้ว Bizcar Rental ยังมีสาขาอื่นในกรุงเทพฯ และที่เชียงใหม่, ภูเก็ต, สนามบินอู่ตะเภา และอื่นๆ รวม 11 สาขา

  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 700 พร้อมประกัน
  • โปรพิเศษเริ่มต้น 650 บาท สำหรับจองรถล่วงหน้า (พ.ค. – ส.ค. 2567)

ช่องทางติดต่อ:

5. Hertz Thailand

Hertz Thailand

เคาน์เตอร์ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 อาคารผู้โดยสารขาเข้า ช่วงระหว่าง Gate 7 และ 8 เปิด 24 ชั่วโมง ให้บริการรถเช่าเดินทางไปในที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปทำธุระหรือไปสถานที่ท่องเที่ยว ผู้เช่าสามารถเลือกรถได้ทุกรูปแบบ และเลือกลักษณะรถได้ตามการใช้งาน จำนวนที่นั่งผู้โดยสาร พื้นที่บรรจุสิ่งของ และระยะทางรวมที่จะขับรถ รถที่พร้อมให้บริการส่วนใหญ่เป็นยี่ห้อยอดนิยม เช่น Honda, Toyota และมีรถไฟฟ้าให้บริการ เช่น ORA Good Cat 

Hertz สาขาอื่นที่ให้บริการคือที่สนามบินดอนเมืองและสาขากรุงเทพฯ-สาทร ติดต่อเช่ารถโทร Call Center 02 266-4666 หรือที่

  • ค่าเช่าเริ่มต้นวันละ 700 บาท

ช่องทางติดต่อ:

บริษัทรถเช่าทุกแห่งล้วนแล้วแต่มีข้อดีและจุดเด่น แต่โดยส่วนใหญ่แล้วก็จะให้บริการที่คล้าย ๆ กัน ถูกชะตากับเคาน์เตอร์ไหน เดินเข้าไปติดต่อได้ตามความต้องการใช้งาน แต่สำหรับบริษัทที่ไม่มีเคาน์เตอร์ในสนามบินก็สามารถโทรติดต่อเพื่อขอรายละเอียดดูอีกครั้ง อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีที่เหมาะกับคุณก็ได้

ที่มาข้อมูล