รวมแหล่งช้อปปิ้งริมแม่น้ำที่มีชื่อเสียงกรุงเทพฯ – แม่น้ำเจ้าพระยา

วันนี้มาเอาใจสายช้อปและสายชิลที่ชอบท่องเที่ยวไปกับสถานที่ต่าง ๆ ที่นอกจากจะได้เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศแล้ว ยังได้อิ่มเอมไปกับการช้อปของสวย ๆ งามอีกด้วย จะชวนมาช้อปทั้งทีจะพาเดินห้างก็ดูจะธรรมดาเกินไป วันนี้เราจะพามา ช้อปปิ้งริมแม่น้ำ มีชื่อเสียงของกรุงเทพฯ – แม่น้ำเจ้าพระยากัน แต่จะเป็นที่ไหนต้องตามมาดู

ช้อปปิ้งริมแม่น้ำ,เอเชียทีค

เอเชียทีค แหล่ง ช้อปปิ้งริมแม่น้ำ ที่รวมเรื่องช้อปแบบหลากสไตล์ไว้ที่เดียว

          นาทีนี้ ถ้าเอ่ยถึง เอเชียทีค คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักอย่างแน่นอน ความน่าสนใจของแหล่งช้อปปิ้งริมน้ำแห่งนี้เป็นแหล่งรวมของร้านค้าที่ให้คุณได้เลือกช้อปปิ้งได้หลากหลาย เพราะมีร้านค้ามากถึง 1000 กว่าร้านค้า มีร้านอาหารให้นักชิมได้เลือกชิมเมนูอาหารเป็นร้อยเมนู มีกิจกรรมให้คุณได้เพลินเพลินสนุกสนานกับมุมที่ให้คุณได้ถ่ายรูปแบบไม่มีซ้ำ มีเครื่องเล่นที่ทำให้คุณกลับไปรู้สึกนึกถึงความเป็นเด็กในตัวคุณอีกครั้ง มีชิงช้าขนาดใหญ่ที่ทำให้มองเห็นวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาและวิวของกรุงเทพมาหานครได้ไกลสุดลูกหูลูกตา เมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ไม่ว่าคุณจะเป็นนักช้อป นักชิม หรือชอบการถ่ายรูป ถือว่าให้คุณได้ครบอรรถรสของการพักผ่อนเลยทีเดียว

            เอเชียตั้งอยู่ที่ ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 17.00 – 24.00 น. สามารถการเดินทางไปได้ไม่ยากทั้งรถยนต์ รถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสาร และ BTS ลงสถานีตากสินนั่ง Shuttle Boat ของโครงการประมาณ 5 นาที ก็ถึงแล้ว

ช้อปปิ้งริมแม่น้ำ,ท่ามหาราช

ท่ามหาราช สถานที่ ช้อปปิ้งริมแม่น้ำ นั่ง ชม ช้อป แบบชิลล์ ๆ

          ท่ามหาราช แหล่งช้อปปิ้งและจุดนัดพบของคนยุคใหม่ ที่ผสมผสานเอาวัฒนธรรมชุมชน ศิลปะและความร่วมสมัยเข้ามารวมอยู่ในที่เดียวกันได้อย่างลงตัว เป็นแหล่งช้อปปิ้งที่เดินได้แบบชิลล์ ๆ มีร้านอาหาร มีมุมถ่ายรูปและมีมุมสำหรับให้นั่งพักผ่อนได้ตลอดทั้งวัน ใครสนใจ สามารถไปช้อป ชิม ชม แบบชิลล์ ๆ ได้ทุกวัน เปิดให้บริการตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม สามารถเดินทางได้ 2 วิธีคือ

  1. ใช้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน ออกสถานีสนามไชย ทางออก 1 ต่อรถเมล์สาย 53 ขึ้นป้ายหน้าโรงเรียนราชินีมาลงที่ป้ายมหาราช
  2. ใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา ขึ้นที่ท่าเรือท่าช้าง แล้วเดินอีกประมาณ 350 เมตรก็ถึง
ช้อปปิ้งริมแม่น้ำ,ท่าพระจันทร์

ท่าพระจันทร์ แหล่งช้อปปิ้งเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวของอดีต

            สายชิมหรือผู้ที่ชอบการท่องเที่ยวแบบร่วมสมัย คงไม่มีใครที่ไม่เคยมาที่แห่งนี้ ท่าพระจันทร์ที่ยังคงมีร้านค้าที่เปิดมาตั้งแต่อดีตหลายสิบปีและยังมีให้เห็น เป็นเสน่ห์ที่หาได้ยากมากในปัจจุบัน ความน่าสนใจของท่าพระจันทร์นอกจากภาพบรรยากาศเก่า ๆ สิ่งของยุคเก่า เช่น เทปคาสเซสท์ ซีดี หรือแม้แต่ของเล่นในยุคที่เรายังเป็นเด็กแล้ว ท่าพระจันทร์ยังขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารอร่อยที่รอให้นักช้อปนักชิมได้เข้าไปลิ้มลองอีกด้วย

การเดินทางมา ท่าพระจันทร์ มีหลากหลายวิธีมาก

  • เดินทางโดยเรือ คือ นั่งเรือด่วนเจ้าพระยามาลงที่ท่าพรานนก แล้วนั่งเรือข้ามฟากจากฝั่งโรงพยาบาลศิริราช จากท่าวังหลัง มาขึ้นที่ท่าพระจันทร์ ก็ถึงแล้ว
  • เดินทางโดยรถเมล์ นั่งสายที่ผ่านสนามหลวง วัดพระแก้ว ม.ธรรมศาสตร์ ได้ทุกสายแล้วเดินมาที่ท่าพระจันทร์ได้
ช้อปปิ้งริมแม่น้ำ

River City Bangkok

            River City Bangkok หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ท่าเรือริเวอร์ซิตี้ สี่พระยา ที่เป็นศูนย์รวมแหล่งช้อปปิ้ง ร้านค้า ร้านอาหาร และท่าเรือสำคัญเพื่อการล่องเรือชมบรรยากาศริมน้ำและดินเนอร์ล่องแม่น้ำเจ้าพระยา ใครสนใจมาช้อปปิ้งที่นี่เดินทางมาได้ไม่ยาก ด้วยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีตากสิน แล้วต่อแท็กซี่ ตุ๊กตุ๊ก มอเตอร์ไซค์ หรือต่อเรือที่ท่าเรือสาทร มาก็ได้ หรือนั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ที่สถานีหัวลำโพง ออกทางออกที่ 1 แล้วต่อรถมาได้เช่นกัน

         ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่ชื่นชอบการเดินทางหาประสบการณ์ใหม่ ชอบชิมอาหารอร่อย ชอบการช้อบปิ้ง เชื่อว่า แหล่ง ช้อปปิ้งริมแม่น้ำ ทั้ง 4 แห่งนี้จะสร้างความประทับใจให้คุณได้อย่างไม่รู้ลืม

เดินทางบ่อยต้องอ่าน! สิ่งของที่ควรห่อก่อนเดินทาง

ใครที่เดินทางบ่อย ๆ อาจจะเคยมีประสบการณ์ที่เลวร้ายแบบไม่อยากให้เจออีกเลยไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทริปไหนก็ตาม นั่นก็คือ ความเสียหายของสัมภาระหรือกระเป๋าที่ใช้แพ็กสัมภาระในการเดินทางนั่นเอง ซึ่งใครที่เดินทางบ่อยอาจจะทราบอยู่แล้วว่า สิ่งไหนที่มีโอกาสหรือเสี่ยงที่จะเสียหาย แต่สำหรับนักเดินทางมือใหม่ วันนี้เราจะพาคุณมาเปิดคัมภีร์สำหรับนักเดินทางว่าในกระเป๋าสัมภาระของคุณมีสิ่งไหนที่เป็น สิ่งของที่ควรห่อ เป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการแตก หัก บุบ หรือเกิดความเสียหาย เพื่อให้การเดินทางของคุณนั้นราบรื่นและสนุกได้อย่างเต็มที่

1. กระเป๋าเดินทาง

สิ่งของที่ควรห่อ อย่างแรกเลยนั่นคือกระเป๋าสำหรับใส่สัมภาระนั่นเอง คุณลองนึกภาพกระเป๋าใบสวยที่คุณเลือกมากับมือ หมายมั่นปั้นฝันไว้ว่าจะใช้ให้ถึง 5 ปี 10 ปี แล้วเกิดเป็นรอยขีดข่วน หรือมีรอยบุบจากการกระแทกจนหมดสภาพ คุณจะทำใจรับได้ไหมกับเหตุการณ์แบบนี้ ถ้าคุณทำใจไม่ได้ที่จะให้กระเป๋าของคุณเป็นรอย เสียหาย แตก บุบ แนะนำว่าให้ห่อก่อนการเดินทางดีที่สุด

สิ่งของที่ควรห่อ,อาหารกลิ่นฉุน

2. อาหารหรือของที่มีกลิ่นฉุน

คุณคงไม่อยากเปิดกระเป๋าออกมาแล้วพบว่าของที่อยู่ในกระเป๋ามีกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากของที่ตัวคุณเองเป็นคนใส่เข้าไป โดยที่ลืมนึกไปว่ามันมีกลิ่นที่ฉุนและรุนแรง ถ้าเป็นน้ำหอมคงไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นปลาเค็มหรืออาหารทะเลที่จะทำให้มีกลิ่นติดที่เสื้อผ้าแบบสลัดสะบัดอย่างไรก็ไม่มีทางหลุดออกไปได้ขึ้นมา รับรองว่าทริปนั้นคุณคงหมดความมั่นใจและหมดสนุกไปอย่างแน่นอน

สิ่งของที่ควรห่อ,ไดร์เป่าผม

3. ของที่อาจแตกได้ระหว่างเดินทาง

ของที่อาจจะแตกหรือมีรอย เช่น อุปกรณ์ในการออกกำลังกาย อุปกรณ์กีฬา หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จะช่วยอำนวยความสะดวกอย่าง ไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผม ที่ถือเป็น สิ่งของที่ควรห่อ ที่หลายคนอาจจะมองข้ามไป ถ้าคุณไม่อยากให้เครื่องไม้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ของคุณเสียหายระหว่างเดินทางล่ะก็ ห่อกันไว้ดีกว่า ถ้าไม่อยากเสียเงินซื้อใหม่

สิ่งของที่ควรห่อ,เครื่องสำอาง

4. เครื่องสำอาง

สิ่งที่สาว ๆ ทุกคนหวงแหนที่สุดนั่นก็คือเครื่องสำอาง เครื่องสำอางเป็น สิ่งของที่ควรห่อ อีกประเภทหนึ่ง เชื่อว่าคุณสาว ๆ ทุกคนคงเคยเจอเปิดกระเป๋าใส่เครื่องสำอางออกมาแล้วพบว่า แป้งในตลับแตก บลัชออนแตกหลุดออกมา หรือแม้แต่ตลับอายแชโดว์สีโปรดของคุณก็มีสิทธิ์โดนกระแทกได้ ดังนั้นควรห่อป้องกันไว้แต่ต้นจะดีกว่า หากแตกเสียหายไปแล้ว คุณอาจจะต้องเสียเงินซื้อเครื่องสำอางใหม่โดยใช่เหตุก็เป็นได้

สิ่งของที่ควรห่อ,ที่หนีบผม

5. ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นของเหลว

 ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เป็นของเหลวนี้ หมายความรวมถึงของใช้ทุกชนิดที่อาจจะเกิดการรั่วไหลออกมาจากหลอดหรือขวดที่บรรจุ เช่น โลชั่น ครีมบำรุง แชมพู ครีมนวด เป็นต้น จนทำให้เสื้อผ้าของคุณเลอะเทอะเปรอะเปื้อน ต้องมานั่งคอยแก้ปัญหา หรือต้องซักชุดใหม่ ถ้าไม่อยากตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น ก็ห่อหรือแพ็กให้เรียบร้อยจะดีที่สุด

            สิ่งเหล่านี้เป็นเคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่สำคัญ หากคุณพลาดลืมห่อ อาจทำให้คุณหมดสนุกหรือต้องมานั่งเซ็งที่และมาคอยหาวิธีจัดการหรือแก้ไขปัญหาเหล่านั้นอีก จนทำให้คุณหมดสนุกไปตลอดการเดินทางนั้นก็เป็นได้

6 เกาะที่นักท่องเที่ยวมาถึงไทยแล้วห้ามพลาด!

มาถึงประเทศไทยแล้ว อยากไปเที่ยวทะเลแต่ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน เรามี 6 เกาะท่องเที่ยวในไทย ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดมาแนะนำ

เกาะช้าง

1. เกาะช้าง

ถือเป็น เกาะท่องเที่ยวในไทย ที่อยู่ใน List ติดอันดับต้น ๆ ที่หลายคนอยากไปเที่ยวมากที่สุด เกาะช้างตั้งอยู่ใน ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด นอกจากทะเล และบรรยากาศหาดทรายสวย ๆ แล้วเกาะช้างยังมีน้ำตกให้เดินสำรวจธรรมชาติอีก 4 แห่งด้วยกัน คือ น้ำตกคลองนนทรี น้ำตกธารมะยม น้ำตกคลองพลู น้ำตกคีรีเพชร กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ ดำน้ำดูปลาและปะการัง สามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์และนั่งเครื่อง หากเริ่มต้นที่กรุงเทพฯ สามารถเดินทางได้ทั้งหมด 3 เส้นทางคือ

  1. เส้นทางหลวงหมายเลข 3 สายบางนา-ตราด หรือทางยกระดับบางนา-บางปะกง จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 344 ถึง อ.แกลง และเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 3 ผ่าน จ.จันทบุรี มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง จ.ตราด รวมระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร
  2. เส้นมอเตอร์เวย์ ขับตรงมาเรื่อย ๆ จนพบกับทางหลวงหมายเลข 344 สายบ้านบึง-แกลง จนถึงอำเภอแกลงต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3 ผ่าน อ.ขลุง ในจังหวัดจันทบุรี ผ่าน อ.เขาสมิง วิ่งตรงเข้าสู่ตัวเมืองตราด รวมระยะทาง 315 กิโลเมตร
  3. มาเส้นทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านชลบุรี พัทยา สัตหีบ ระยอง ถึง อ.แกลง วิ่งตามทางหลวงหมายเลขเดิมผ่านจันทบุรีเข้าตัวเมืองตราด หรือจะใช้เส้นทางหมายเลข 36 จากพัทยาเข้าระยอง อ.แกลง ระยะทางก็จะใกล้กว่าประมาณ 40 กิโลเมตร

หรือจะโดยสารรถประจำทางก็สะดวกเช่นกัน มีจุดขึ้นรถที่หมอชิตและสถานีขนส่งเอกมัย จากกรุงเทพถึงขนส่ง จ.ตราด ราคาค่ารถ 250 บาทต่อคน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชม. แล้วต่อรถสองแถวไปท่าเรืออีก ค่ารถคนละ 50 บาท

ถ้าโดยสารเครื่องบินค่าตั๋วตามแต่ช่วงเวลา เริ่มต้นที่ 3,000 บาทขึ้นไป แล้วต่อรถตู้ก็เริ่มต้นที่ 300 ขึ้นไปแล้วแต่ปลายทางที่เราลง สามารถเช็คข้อมูลการเดินทางได้ที่ http://www.kohchangebooking.com/travel.html หรือโทร 039 538 288 ถึง 9

เกาะท่องเที่ยวในไทย,เกาะลันตา

2. เกาะลันตา

            เกาะลันตาประกอบไปด้วยเกาะ 2 เกาะคือเกาะลันตาใหญ่ และเกาะลันตาน้อย เป็นหนึ่งในอำเภอของจังหวัดกระบี่ จุดเด่นของเกาะลันตาคือหาดทรายที่มีความสวยงามและเงียบสงบ และอีกฟากหนึ่งก็เป็นหาดหินที่มีความสวยงามไม่แพ้กับหาดทราย มีหมู่บ้านชาวเลที่ยังคงใช้ชีวิตและสืบสานวัฒนธรรมโบราณสืบต่อกัน มีอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ที่อุดมไปด้วยต้นไม้และป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ไฮไลท์คือจุดชมวิวแหลมโตนดที่เป็นที่ตั้งของประภาคาร ที่เป็นจุดชมวิวสวยสวย ๆ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมบริการนักท่องเที่ยวทั้งอินเทอร์เน็ต ร้านอาหาร ถนนหนทางที่สะดวก

การเดินทาง

            เกาะลันตาอยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ 70 กม. เราสามารถเดินทางไป จ.กระบี่ ได้ทั้งรถยนต์ รถโดยสารซึ่งสามารถไปถึงเกาะลันตาได้เลย หรือเดินทางด้วยเครื่องบิน สามารถต่อรถตู้เช่าที่สนามบิน เพื่อเดินทางไปเกาะได้

เกาะท่องเที่ยวในไทย,เกาะห้อง

3. เกาะห้อง

เกาะห้องหรือเกาะเหลาบิเละ ตั้งอยู่ ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก ในเขตอุทยานแห่งชาติโบกขรณี ที่อยู่ในเขตของจังหวัดกระบี่ เป็นเกาะที่มีทัศนียภาพสวยงามมาก หาดทรายสีขาวเม็ดทรายละเอียด โอบล้อมด้วยน้ำทะเลใสสีมรกต ปะการังสวย กัลปังหา หลากชนิด เหมาะกับการดำน้ำดูปะการัง นักท่องเทียวนิยมพายเรือคายัค ความสวยงามของเกาะห้องได้รับการจัดอันดับให้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของเกาะที่สะอาดและสวยงามของโลกเลยทีเดียว

จุดเด่นของเกาะห้อง คืออ่าวห้องหรือทะเลในที่มีลักษณะคล้ายห้อง เป็นสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่มีผนังเป็นหน้าผาชันล้อมรอบ

การเดินทางไปเกาะห้อง ทำได้ 3 วิธีคือ

  1. ใช้บริการเรือหางยาว ราคา 600 บาท
  2. ใช้บริการเช่าเรือเหมาลำ ราคา 2,500 – 3,000 บาท จำกัดผู้โดยสาร 6 คน
  3. ใช้บริการเรือสปีดโบท ราคา 1,300 บาท
เกาะท่องเที่ยวในไทย,เกาะกระดาน

4. เกาะกระดาน

            เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดตรัง อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เกาะกระดานด้วยความเป็นเกาะที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วยชายหาดอ่าวเนียง หาดอ่าวไผ่ ชายหาดอ่าวช่องลม เสน่ห์ของเกาะกระดานคือหาดทรายที่กว้าง น้ำทะเลใส ทัศนียภาพสวย มีความสงบ นักท่องเที่ยวส่วนนิยมมาดำน้ำดูปะการังและนอนอาบแดดตามชายหาด ความน่าสนใจของ เกาะกระดาน คือ ได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรของจังหวัด เพราะเป็นเกาะที่สวยที่สุดของ จ.ตรัง นั่นเอง

            การเดินทางไปเกาะกระดานคือไปทางเรือนั้น โดยมีจุดที่ขึ้นเรือคือ ท่าเรือกวน ตุน กู และท่าเรือปากเมง ซึ่งเรือที่ให้บริการจะเป็นเรือหางยาว หรือจะซื้อทัวร์ไปเป็นกรุ๊ปก็จะสะดวกหน่อย

เกาะท่องเที่ยวในไทย,เกาะเต่า

5. เกาะเต่า

เกาะเต่าเป็นเกาะที่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดชุมพร ที่ตั้งอยู่กลางทะเลอ่าวไทย เป็น เกาะท่องเที่ยวในไทย ที่ติดอันดับ 20 ชายหาดที่ดีที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย เกาะเต่ามีหาดทรายรี เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดของเกาะเต่า กิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือการดำน้ำ กิจกรรมพายเรือคายัก เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ชมวิวรอบเกาะ และเกาะเต่าก็อยู่ห่างจากเกาะนางยวนเพียง 1 กม. จึงถือเป็นจุดไฮไลท์อีกจุดที่นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเกาะเต่าจะต้องแวะไปเยือนเกือบทุกคน

            การเดินทางไปเกาะเต่า ด้วยจุดที่ตั้งของเกาะเต่าอยู่กลางอ่าวไทย ทำให้สามารถเดินทางไปเกาะเต่าได้จาก 4 จุดคือ

  1. เดินทางจากชายฝั่ง ทะเลชุมพร ระยะทาง 74 กม.
  2. เดินทางจากชายฝั่ง ทะเลสุราษฏร์ธานี ระยะทาง 110 กม.
  3. เดินทางจากเกาะสมุย ระยะทาง 64 กม.
  4. เดินทางจากเกาะพะงัน 45 กม.
เกาะหลีเป๊ะ

6. เกาะหลีเป๊ะ

เกาะหลีเป๊ะ เกาะสวยน้ำทะเลใสที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสตูล ความน่าสนใจของเกาะหลีเป๊ะ คือ ชายหาดที่ประกอบไปด้วย 3 หาดคือ

  • หาดพัทยา เป็นหาดที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว รีสอร์ทที่พัก ร้านอาหาร และกิจกรรมยามค่ำคืนอย่างคึกคัก
  • หาดซันไรซ์ หาดที่มีแต่ความเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อน เต็มไปด้วยแนวของทิวต้นสน เหมาะที่จะเป็นที่ลงเล่นน้ำและนอนอาบแดด
  • หาดซันเซ็ต หาดที่จะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินสวยและโรแมนติก

การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ สามารถเดินทางได้ทั้งเครื่องบินไปลงสนามบินหาดใหญ่ และต่อรถตู้ไปยังท่าเทียบเรือปากบารา จ.สตูล และขึ้นเรือสปีดโบ้ท หรือเดินทางด้วยรถไฟลงที่ชุมทางหาดใหญ่ ต่อรถมอเตอร์ไซค์ไปคิว รถตู้ตลาดเกษตร ต่อรถตู้ไปท่าเรือปากบารา ซึ่งอาศัยการต่อรถหลายทอด แต่ราคาค่าโดยสารถูกกว่าเดินทางด้วยเครื่อง หรือจะเดินทางด้วยรถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์สายกรุงเทพ-สตูล มาลง อ.ละงู ต่อสองแถวสีส้มไปท่าเรือปากบารา ก็ได้เช่นกัน

ใครที่กำลังมองหาที่พักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดยาวนี้ก็ลองให้ เกาะท่องเที่ยวในไทย ทั้ง 6 เกาะนี้ได้เป็นตัวเลือกสุดพิเศษให้คุณได้พักผ่อนในทริปต่อไป รับรองว่าคุณจะได้เติมพลังกายและใจให้ตัวคุณเองได้อย่างเต็มอิ่มและไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

วางแผน ท่องเที่ยวกรุงเทพ อย่างไรดีให้คุ้ม!

กรุงเทพฯ เป็นศูนย์รวมความหลากหลายของวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับการจับจองพื้นที่เพื่ออยู่อาศัยของคนที่มีเชื้อชาติและวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปตั้งแต่อดีต จนเกิดเป็นชุมชนที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวของแต่ละพื้นที่ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยวได้เป็นอย่างมากทั้งคนไทยและต่างชาติ ยิ่งเป็นพื้นที่ ๆ สามารถเดินทางได้สะดวก มีสถาปัตยกรรมและอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจและมีผู้ต้องการไปเที่ยวมากขึ้น มาดูกันว่าจะมีวิธีใดบ้างที่จะช่วยให้การ “ท่องเที่ยวกรุงเทพ” สนุกและคุ้มค่าได้ตลอดการเดินทาง

วางแผนการท่องเที่ยว

การวางแผนเป็นสิ่งสำคัญในการทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่าง เนื่องจากจะทำให้เราสามารถคาดการณ์และเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้ ในเรื่องการท่องเที่ยวก็เช่นกัน หากไม่มีแผนก็จะส่งผลให้ต้องใช้เวลาในการคิดและประมวลผลมากขึ้น ทำให้เสียเวลาเที่ยวไปโดยไม่รู้ตัวและบางทีอาจทำให้การเดินทางของเราหมดสนุกไปด้วย

ท่องเที่ยวกรุงเทพ

ดูเรื่องการเดินทาง

แต่ละสถานที่ก็มีการคมนาคมหลากหลายรูปแบบให้ประชาชนเลือกใช้และเข้าถึงได้สะดวกแตกต่างกัน เช่น ทางรถยนต์ รถไฟฟ้า รวมถึงเรือด้วย เราก็ควรดูว่าสถานที่ ท่องเที่ยวกรุงเทพ ที่ต้องการไปสามารถเดินทางได้แบบใดบ้าง และเลือกรูปแบบการเดินทางตามความต้องการ โดยเราขอแนะนำว่าหากไม่ต้องการเสียเวลากับการเดินทางมากเกินไปควรเลือก รถไฟฟ้าหรือเรือ เพราะมีเวลาที่ค่อนข้างแน่นอนและไม่ต้องเผชิญกับการจราจรบนท้องถนนที่คาดการณ์ได้ยาก

ท่องเที่ยวกรุงเทพ

เลือกที่พักใกล้สถานที่ที่ต้องการไป/เดินทางได้สะดวก

การเลือกที่พักใกล้จุดหมายปลายทางช่วยให้ประหยัดเวลาในเรื่องการเดินทางได้อย่างมาก ซึ่งบางทีก็ต้องแลกมาด้วยราคาที่สูงขึ้น แต่เมื่อเทียบกับการที่ต้องเดินทางด้วยความเร่งรีบแล้ววิธีนี้คุ้มกว่าแน่นอน และต้องคำนึงถึงการเดินทางไปยังสถานที่อื่น ๆ ที่ต้องการด้วย โดยส่วนใหญ่การเดินทางด้วยรถไฟฟ้าก็จะเป็นการคมนาคมที่สะดวกที่สุดในปัจจุบัน เพราะเชื่อมต่อกันได้หลากหลายเส้นทาง และครอบคลุมที่ ท่องเที่ยวกรุงเทพ ไว้เกือบทั้งหมดแล้ว

ท่องเที่ยวกรุงเทพ

ดูเวลาทำการของสถานที่เที่ยวที่ต้องการไป

บางสถานที่มีกำหนดเวลาทำการระบุไว้ เราก็ต้องวางแผน เผื่อเวลาไปเที่ยวและใช้เวลาให้คุ้มค่าไม่ใช่ว่าพอเดินทางไปถึงก็พบว่าใกล้ปิดทำการแล้ว ซึ่งจะทำให้ไม่มีความสุขในการเที่ยวชมสิ่งต่าง ๆ  แน่นอนดังนั้นการวางแผนจึงมีความสำคัญตลอดการเดินทางท่องเที่ยว  

ที่เที่ยวในกรุงเทพฯ มีมากมาย ซึ่งไม่สามารถเที่ยวครบได้ภายในทริปเดียว หากเราตัดสินใจเลือกกลุ่มความสนใจได้ว่าต้องการเที่ยแผนที่วที่ไหนเป็นพิเศษก็จะช่วยให้ประหยัดเวลา วางแผนการเดินทางได้ง่าย และเป็นการท่องเที่ยวที่คุ้มค่ามากขึ้นแน่นอน  

แนะขั้นตอนการฝากกระเป๋าที่ ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า

ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า

เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่จะเดินทางท่องเที่ยวหลังจากถึงที่หมายเลยโดยไม่ได้เข้าโรงแรมหรือที่พักก่อน จะต้องหาตัวช่วย หรือที่ฝากกระเป๋าสัมภาระแน่นอน วันนี้เราจึงมาแนะนำ “ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า” ว่ามีกี่ประเภท มีวิธีการใช้อย่างไรบ้าง สถานที่ที่มักจะมีล็อกเกอร์ให้ฝากกระเป๋า และข้อควรระวังในการฝากกระเป๋าและสัมภาระในล็อกเกอร์กัน

ประเภทของ ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า

โดยทั่วไป มี 2 ประเภท ประเภทแรกคือแบบใช้กุญแจในการไขเปิด และประเภทที่สอง แบบใช้การ์ด ใบเสร็จ หรือบาร์โค้ดในการเปิดล็อกเกอร์

ขั้นตอนการฝากกระเป๋าที่ล็อกเกอร์

สำหรับประเภทการใช้กุญแจในการเปิดตู้ล็อกเกอร์

1. ค้นหาตู้ล็อกเกอร์ที่ยังว่าง โดยสังเกตได้จากกุญแจ ถ้ามีกุญแจอยู่แสดงว่าว่าง

2. ใส่สัมภาระเข้าไปในตู้ล็อกเกอร์

3. ปิดประตูล็อกเกอร์ ควรตรวจสอบว่า ใส่ของครบทั้งหมดไหม เนื่องจากถ้าปิดแล้วจ่ายเงินเรียบร้อย แล้วต้องเปิดเพื่อใส่ของเพิ่ม เท่ากับต้องจ่ายเงินใหม่อีกรอบ

4. หยอดเหรียญ จ่ายเงิน

5. ดึงกุญแจออก เป็นอันเรียบร้อยสำหรับการฝากกระเป๋า เวลานำกระเป๋าออกจากล็อกเกอร์สามารถนำกุญแจมาไขเปิดประตูได้เลย

ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า

สำหรับประเภทที่ 2 คือการใช้การ์ด ใบเสร็จ หรือบาร์โค้ดในการเปิด ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า โดยสามารถแยกได้เป็น 2 แบบ

แบบที่ 1: หาตู้ว่าง แล้วค่อยไปยืนยันชำระเงินจากหน้าจออัตโนมัติ

1. ค้นหาตู้ล็อกเกอร์ที่ว่าง โดยดูได้จากสัญลักษณ์ ไฟเขียว หรือไม่มีสัญญาณไฟแล้วแต่รุ่นของตู้

2. ใส่กระเป๋า สัมภาระ เก็บในตู้ ควรตรวจสอบว่า ใส่ของครบทั้งหมดไหม เนื่องจากถ้าปิดแล้วจ่ายเงินเรียบร้อย แล้วต้องเปิดเพื่อใส่ของเพิ่ม เท่ากับต้องจ่ายเงินใหม่อีกรอบ

3. ไปที่หน้าจออัตโนมัติ ใส่หมายเลขตู้

4. จ่ายเงิน สามารถจ่ายได้ทั้ง เงินสดและบัตร

5. รับการ์ด ใบเสร็จ หรือบาร์โค้ด

เวลานำกระเป๋าออก ใช้การ์ด ใบเสร็จ หรือบาร์โค้ด โดยต้องกดหมายเลขตู้ก่อน อาจจะใช้เป็น PIN หรือการสแกนจากการ์ด บาร์โค้ด เพราะฉะนั้นควรเก็บรักษาการ์ด ใบเสร็จ หรือบาร์โค้ด เป็นอย่างดี

ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า

แบบที่ 2: สามารถกดหาตู้ว่างได้จากหน้าจออัตโนมัติ

1. ค้นหาตู้ล็อกเกอร์ที่ว่าง ได้จากหน้าจออัตโนมัติ เลือก ฝากของ

2. เลือกขนาดล็อกเกอร์ที่ต้องการ เลือกระยะเวลาที่ต้องการฝาก

3. ใส่รหัสผ่านที่ต้องการ

4. เลือกวิธีชำระเงิน ชำระเงิน

5. ตู้ล็อกเกอร์จะเปิดออก ใส่กระเป๋า สัมภาระ เก็บในตู้ ควรตรวจสอบว่า ใส่ของครบทั้งหมดไหม เนื่องจากถ้าจะเปิดเพื่อใส่ของเพิ่ม เท่ากับต้องจ่ายเงินใหม่อีกรอบ

6. ปิดประตูตู้ล็อกเกอร์

เวลานำกระเป๋าออก คลิกจากหน้าจออัตโนมัติ เลือกช่อง นำกระเป๋าออก ใส่รหัสผ่านแล้ว​ จึงนำของออกมาได้

ข้อควรระวัง ในการฝากกระเป๋าและสัมภาระ ในล็อกเกอร์รับฝากสัมภาระ

1. ต้องเก็บกุญแจ การ์ด สลิป หรือบาร์โค้ดที่ใช้เปิดล็อกเกอร์อย่างดี

2. ต้องจำหรือถ่ายภาพ สถานที่ฝาก เลขตู้ล็อกเกอร์ เนื่องจากบางสถานที่มีจุด ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า หลายจุดในสถานที่เดียวกัน

3. ในสถานีใหญ่ ๆ บางครั้งตู้ล็อกเกอร์มักเต็ม

ข้อดี – ข้อเสียของการ ห่อกระเป๋าเดินทาง

หากคุณกำลังมีแพลนจะเดินทางด้วยเครื่องบินในเร็ว ๆ นี้ หรือเป็นผู้ที่เดินทางโดยเครื่องบินอยู่บ่อยครั้ง​ แต่ยังไม่เคยใช้บริการ ห่อกระเป๋าเดินทาง วันนี้เราจะมาแนะนำทั้งข้อดีและข้อเสียของการห่อกระเป๋าเดินทางเพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจในการเดินทางครั้งหน้ากันเลย

ห่อกระเป๋าเดินทาง

การห่อกระเป๋าเดินทางหรือ wrap ส่วนมากจะใช้พลาสติกที่มีลักษณะคล้ายกับพลาสติกห่ออาหารมาพันรอบกระเป๋าเดินทางให้แน่นหนา หรือใช้เป็นวัสดุอื่น ๆ ที่พันด้วยเทปกาวอย่างแน่นหนาก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน หากคุณไม่สะดวกที่จะห่อกระเป๋าด้วยตัวเอง ทางสนามบินก็จะมีจุดห่อกระเป๋าไว้บริการ ค่าใช้จ่ายโดยมากจะคิดตามขนาดของกระเป๋า ข้อดีของการห่อกระเป๋าก่อนโหลดขึ้นเครื่องที่เห็นได้ชัดเจน และคงเดากันได้ไม่ยากเลยนั่นก็คือเพื่อป้องกันรอยขีดข่วนหรือป้องกันความเสียหายต่าง ๆ นั่นเอง หากกระเป๋าเดินทางของคุณเป็นวัสดุไฟเบอร์ก็ควรอย่างยิ่งที่จะต้อง ห่อกระเป๋าเดินทาง เพราะวัสดุชนิดนี้จะค่อนข้างเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย ในการเคลื่อนย้ายจึงมีโอกาสสูงที่จะเกิดรอยขีดข่วน การห่อจะช่วยถนอมกระเป๋าให้คงความสวยงามไว้ได้

ห่อกระเป๋าเดินทาง

ข้อดีข้อต่อมานั่นก็คือการช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระเป๋าเดินทางของคุณ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าผ้า กระเป๋าเนื้อบาง กระเป๋าเดินทางที่ชำรุดล็อกกระเป๋าไม่ได้​เป็นต้น การ ห่อกระเป๋าเดินทาง จะทำให้คุณไม่ต้องกังวลว่าของด้านในจะเสียหาย ไม่ต้องคอยลุ้นว่ากระเป๋าจะเปิดจนของเล็ดลอดออกมาจากกระเป๋าได้หรือไม่

ห่อกระเป๋าเดินทาง

และข้อดีที่สำคัญอีกประการก็คือเพื่อป้องกันการถูกขโมยทรัพย์สิน หากเราห่อกระเป๋าเดินทางอย่างมิดชิด​ ก็จะช่วยลดโอกาสการถูกเปิดกระเป๋าเพื่อขโมยของ หรือการนำของผิดกฎหมายมาใส่ในกระเป๋าของเราได้ กระเป๋าที่เป็นซิปจะถูกเปิดได้ง่ายการห่อกระเป๋าจะช่วยให้กระเป๋ามิดชิด ไม่ตกเป็นเป้าของมิจฉาชีพ

นอกจากข้อดีที่ได้กล่าวไป​ มาต่อกันที่ข้อเสียของการห่อกระเป๋า แน่นอนว่าเมื่อเราห่อกระเป๋าก็จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม หากคุณประเมินแล้วว่ากระเป๋าและทรัพย์สินข้างในไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง การห่อก็ไม่ได้จำเป็นมากนัก​ ก็ไม่ต้องห่อก็ได้

ข้อเสียอีกข้อหนึ่งก็คือ​ เมื่อคุณห่อกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว เกิดอยากเปิดกระเป๋า หรือโดนขอตรวจกระเป๋า​ คราวนี้ก็จะเป็นงานใหญ่ที่เราจะต้องเอาส่วนที่ห่อออกก่อนนั่นเอง​ และหากคุณเลือกที่จะห่อกระเป๋าเอง เพราะไม่อยากจ่ายเงินค่าห่อกระเป๋าที่สนามบิน การห่อกระเป๋าจะเป็นการเพิ่มขั้นตอนในการเตรียมกระเป๋าอีกอย่างหนึ่ง

การห่อกระเป๋าเดินทางก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน​ ขึ้นอยู่กับความจำเป็นของคุณ หากพิจารณาว่าการ ห่อกระเป๋าเดินทาง จะเป็นผลดีกับกระเป๋ามากกว่า แม้จะเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม​ แต่กระเป๋าไม่เกิดความเสียหาย​ ก็คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่ายไป

หัวหิน เมืองที่ใครไปก็ต้องติดใจ

หัวหิน

หากลองนึกถึงเมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ เดินทางสะดวก ทะเลสวย ที่พักดี อาหารอร่อย พร้อมด้วยแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ อีกมากมาย “หัวหิน” คือคำตอบที่ทุก ๆ คนต้องบอกเป็นเสียงเดียวกันอย่างแน่นอน ด้วยเป็นเมืองติดชายทะเลอันมีความสวยงามจึงทำให้เมืองแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางในทุกช่วงเวลาแบบไม่ขาดสาย แถมพอไปแล้วก็อยากกลับไปอีกไม่รู้จบ

ที่ตั้งพร้อมวิธีเดินทาง

ตั้งอยู่ที่ อ. หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เดินทางง่ายสามารถใช้ได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและรถประจำทาง มาจาก ถ.พระราม 2 จนถึงแยกวังมะนาวเลี้ยวซ้ายเข้า ถ.เพชรเกษมจนถึงแยกหุบกะพงจะเลี้ยวผ่าน อ.ชะอำ จ.เพชรบุรีหรือตรงต่อเพื่อเข้าตามซอยต่าง ๆ ก็ได้เช่นกัน ส่วนใครอยากชิลก็นั่งรถไฟมาลงสถานีหัวหินได้เลย

หัวหิน

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ

1. ชายหาด หัวหิน

มาถึงทะเลก็ต้องเดินชายหาด เล่นน้ำทะเลกันหน่อย ที่นี่เป็นชายหาดแบบเงียบสงบ ผู้คนไม่พลุกพล่านมากนัก จึงเหมาะกับการมาทำกิจกรรมเป็นครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือจะมาชมวิวพระอาทิตย์ขึ้น – ตกสวย ๆ แบบคู่รักก็ได้เช่นกัน

2. วัดห้วยมงคล

สถานที่ประดิษฐานหลวงพ่อทวดองค์ใหญ่สุดในโลก นักท่องเที่ยวนิยมมากราบไว้สักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลของชีวิต

3. สวนน้ำวานานาวา

พื้นที่กว่า 20 ไร่ พร้อมเครื่องเล่นอันสุดสนุก หวาดเสียว จึงทำให้สวนน้ำแห่งนี้กลายเป็นแลนด์มาร์คสำหรับคนที่ชื่นชอบความตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่ง พร้อมด้วยร้านอาหารและร้านขายของที่ระลึกอีกมากมาย

4. ตลาดนัดโต้รุ่ง

แหล่งช้อปปิ้งของกิน ของใช้ยามค่ำคืนที่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกสรรได้อย่างจุใจ มีร้านอาหารอร่อย ๆ มากมายให้ได้ลิ้มลอง พร้อมเดินชิล ๆ ในอากาศสบาย ๆ ตอนดึก

5. ตลาดแทมมารีนและตลาดชิคาด้า

ตลาดนัดขายของที่เต็มไปด้วยงานแฮนด์เมด ของกิน ของใช้อื่น ๆ มากมาย ตั้งอยู่ติด ๆ กัน สามารถเดินเที่ยวเล่นทั้ง 2 ตลาดได้เลย

หัวหิน

ที่พักสุดแนวแบบไม่ซ้ำใคร

1. The Verona Riviera Hua Hin

ที่พักสไตล์อิตาลีที่ได้แรงบันดาลใจจากเมืองเวโรน่า เน้นการตกแต่งแบบโทนสีขาวตัดฟ้า ที่จะทำให้คุณได้พักผ่อนในวันหยุดสุดพิเศษแบบไม่เหมือนใคร

2. Marrakesh Hua Hin Resort & Spa

กับบรรยากาศแบบโมร็อกโกเน้นสีสันอันหลากหลายจากกระเบื้องโมเสส แถมตั้งอยู่ใจกลางเมือง ติดถนนใหญ่ หาเจอไม่ยาก

3. เฌอ รีสอร์ท

ที่พักที่เน้นลวดลายของต้นไม้พร้อมสร้างบรรยากาศอันเชียวชอุ่มทำให้รู้สึกแปลกตาไม่เหมือนใคร ตัวที่พักจะคลุมโทน 3 สี คือ ดำ ขาว เทา สร้างความพิเศษได้อย่างลงตัว

ร้านอาหารห้ามพลาด

1. บ้านอิสระ

ร้านติดทะเลที่อัดแน่นด้วยของทะเลสด ๆ ชนิดว่าเลือกเมนูที่ต้องการได้เลย โดดเด่นด้วยเมนูสไตล์ไทยและฟิวชั่นจากยุโรป เช่น ปลาทูย่างน้ำปลาดิบ, หอยตลับผัดซอสโหระพา อิ่มอร่อยแน่นอน

2. ครัวกรรณิการ์

เน้นการตกแต่งด้วยต้นไม้ร่มรื่น ร้านแบบเปิดโล่ง เย็นสบาย พร้อมด้วยเมนูเด็ดอย่าง ไก่ทอดโกศล ที่ใช้สูตรหมักแบบพิเศษ และเมนูอื่น ๆ อีกมากมาย

3. ครัวลุงจ่า

ร้านในตลาดโต้รุ่งที่ผู้คนต่อคิวกันแน่นขนัด เมนูเด็ดที่นี่คือ ล็อบสเตอร์ที่สามารถสั่งให้ทำได้หลากหลายตามความชอบ พร้อมด้วยเมนูซีฟู๊ดอื่น ๆ อีกเพียบ

ของฝากจาก หัวหิน

ปิดท้ายด้วยของฝากที่น่าสนใจ มีหลายอย่างโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์สุด ๆ เช่น ขนมไทย, ตะโก้เสวย, อาหารทะเลแปรรูป, สับปะรดสด, สับปะรดแปรรูปและอื่น ๆ อีกมากมาย

ใครที่กำลังวางแผนเดินทางเที่ยวใกล้กรุงเทพฯ อย่าลืมปักหมุดที่หัวหิวเพราะที่นี่เป็นเมืองที่ใครไปก็ต้องติดใจเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย มีของฝากขึ้นชื่อให้เลือกซื้อมากมายอีกด้วย

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ มวยไทย ดังไกลระดับโลก

มวยไทย

ศิลปะการป้องกันตัวประจำชาติไทยที่น่าภาคภูมิใจคือ มวยไทย อันเป็นเอกลักษณ์ที่ได้รับการยกย่องระดับโลกว่าอันตรายและเป็นศิลปะป้องกันตัวที่ได้กลายมาเป็นกีฬาระดับโลก ด้วยความสำคัญเหล่านี้จึงอยากพาคนไทยทุกคนมารู้จักกับเรื่องราวดี ๆ เกี่ยวกับมวยไทย เอกลักษณ์ที่บรรพบุรุษไทยได้สร้างมาเนิ่นนาน

ต้นกำเนิดตั้งแต่ครั้งอดีต

สำหรับต้นกำเนิดที่แท้จริงของกีฬาหรือศิลปะป้องกันตัวชนิดนี้ไม่สามารถระบุได้อย่างชัดเจน เพียงแค่รู้ว่าคนไทยใช้ศิลปะในการป้องกันตัวเพื่อต่อสู้มาอย่างยาวนาน โดยแต่ละพื้นที่ก็จะมีทักษะรวมถึงรูปแบบในการต่อสู้ต่างกันออกไป เช่น มวยไชยาของภาคใต้, มวยโคราชของภาคอีสาน, มวยพระนครของภาคกลาง, มวยท่าเสาของภาคเหนือ เป็นต้น แต่เท่าที่มีการค้นพบประวัติเชื่อว่าน่าจะเริ่มต้นจากบรรดาทหารที่ฝึกฝนเพื่อให้เกิดความแข็งแกร่ง มีทักษะในการต่อสู้ ประกอบกับในยุคโบราณยังไม่มีมีดหรือปืนเป็นอาวุธ กระทั่งเมื่อศิลปะดังกล่าวได้มีการเผยแพร่สู่ชาวบ้านมากขึ้นจึงทำให้คนไทยคุ้นชินและมีทักษะของ มวยไทย สืบเรื่อยมา

มวยไทย

ท่าต่าง ๆ ที่น่าสนใจ

ท่าต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นมีอยู่ด้วยกันมากมายตามแต่ความคิดและศิลปะการป้องกันตัวในแต่ละกลุ่มคน โดยจะขอยกท่าทางที่โด่งดังพร้อมเป็นที่รู้จักมาฝากกัน

  • มอญยันหลัก เป็นการยกเท้าเพื่อยันไปยังฝ่ายตรงข้ามไม่ให้เข้ามาทำร้ายได้ในระยะใกล้ แล้วใช้หมัดอีกข้างต่อยเข้าไปบริเวณใบหน้า
  • จระเข้ฟาดหาง ให้หมุนตัวกลับหลังแล้วย่อตัวเล็กน้อย เหวี่ยงขาข้างที่ถนัดเข้าไปบริเวณลำคอของคู่ต่อสู้อีกฝ่าย
  • หนุมานถวายแหวน เมื่ออีกฝ่ายชกหมัดตรงมาแล้วหลบได้ให้ใช้หมัดของตนเองต่อยเข้าไปบริเวณปลายคาง
  • บาทาลูบพักตร์ คู่ต่อสู้ชกหมัดตรงมาให้ใช้แขนบริเวณท่อนล่างปัดหนีจากนั้นก็ใช้เท้ายันเข้าไปบริเวณใบหน้า

มวไทยเป็นกีฬาระดับโลก

ด้วยความแพร่หลายที่มากขึ้นประกอบกับการแข่งขันกีฬาในระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่าง ซีเกมส์ ทำให้มวยไทยค่อย ๆ ได้รับการสนับสนุนเพื่อให้ถูกบรรจุเข้าสู่กีฬาแห่งความเป็นสากลระดับโลกมากขึ้น โดยทางไอโอซีหรือคณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้ยอมรับให้กีฬา มวยไทย สามารถเปิดสู่ระดับโลกและมีรายการแข่งขันชิงแชมป์ต่าง ๆ มากมาย

มวยไทย

เสน่ห์ที่ทำให้ชาวต่างชาติหลงใหล

ต้องยอมรับว่า มวยไทย ของชาติเรามีเสน่ห์ที่ทำให้ชาวต่างชาติหลงใหล ชื่นชอบในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นท่าทางที่สวยงาม, การป้องกันตัวที่ใช้ได้จริง, ฝีกเอาไว้สำหรับการต่อสู้ยามเกิดเหตุไม่คาดฝันและยังเป็นกีฬาที่มีความท้าทายต่อการฝึกมากทีเดียว 

เหล่านี้คือเรื่องของมวยไทย ศิลปะการป้องกันช่วยของคนไทยที่สืบทอดมายาวนานและยังเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน ซึ่งหากสนใจจเรียนรู้เจาะลึกเกี่ยวกับศิลปะป้องกันตัวแขนงนี้ ปัจจุบันทุกคนสามารถเข้าคอร์สเรียนเกี่ยวกับศิลปะป้องกันตัวชนิดนี้ได้จากสถาบันสอนมวยไทยที่เปิดให้บริการหลายแห่ง เพราะนับว่าเป็นศิลปะป้องกันตัวที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อผู้เล่นได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ทั้งยังเป็นกีฬาที่อยู่ในเทรนด์รักสุขภาพอีกด้วย

รู้สักนิด! เบอร์สำคัญที่จำเป็นสำหรับนักท่องเที่ยว

เบอร์โทรฉุกเฉิน

การออกไปท่องเที่ยวถือเป็นประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่จะได้เรียนรู้ด้วยตนเอง แต่ก็อย่างที่เห็นกันในหลาย ๆ จุดมักมีอันตรายซ่อนอยู่เสมอ ดังนั้นใครที่คิดจะเดินทางไม่ว่าในหรือต่างประเทศก็ควรจะต้องรู้เบอร์สำคัญรวมถึงสถานที่ที่จะช่วยเหลือเวลาเกิดปัญหาเพื่อให้รอดพันจากอันตราย ลองมาดูกันว่า เบอร์โทรฉุกเฉิน ที่ควรรู้เอาไว้ในการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ มีเบอร์อะไรบ้าง

เบอร์โทรฉุกเฉินในประเทศไทย

1. 1155 ตำรวจท่องเที่ยว

กรณีเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทยแล้วเกิดปัญหาไม่ว่าเรื่องใดก็ตามสามารถประสานงานกับตำรวจท่องเที่ยวที่เบอร์นี้เพื่อติดต่อขอความช่วยเหลือเอาไว้ได้เลย ทุกจุดจะมีตำรวจท่องเที่ยวให้บริการนักท่องเที่ยวอยู่แล้ว

2. 191 เหตุด่วนเหตุร้าย

เบอร์พื้นฐานที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี กรณีมีเหตุด่วนเหตุร้ายต่าง ๆ เช่น โดนจี้ปล้น ชิงทรัพย์, โดนทำร้ายร่างกาย ฯลฯ สามารถติดต่อเพื่อประสานงานให้เจ้าหน้าที่เข้าไปให้ความช่วยเหลือได้ทันทีหรือเจ้าหน้าที่อาจมีการประสานงานให้หน่วยที่อยู่ใกล้เคียงเข้าไปดูแล

เบอร์โทรฉุกเฉิน

3. 199 ดับเพลิงและกู้ภัย

กรณีที่เดินทางท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ และปริมณฑล หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ไฟไหม้, เจอสัตว์มีพิษในที่พัก สามารถติดต่อ เบอร์โทรฉุกเฉิน เบอร์นี้ได้เลย แต่สำหรับคนเดินทางไปต่างจังหวัดแล้วคิดเบอร์อะไรไม่ออกก็ยังติดต่อได้ เจ้าหน้าที่จะประสานงานกับหน่วยงานใกล้เคียงให้เข้าไปช่วยเหลือดูแล

4. 1669 เจ็บป่วยฉุกเฉิน

หากนักท่องเที่ยวเดินทางไปยังจุดที่ตนเองไม่รู้จัก ไม่คุ้นเคย แล้วมีการเจ็บป่วยเกิดขึ้นชนิดกะทันหัน ไม่รู้จักโรงพยาบาลใกล้เคียง ไม่รู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากอาการดังกล่าว สามารถติดต่อไปยังเบอร์นี้เพื่อขอความช่วยเหลือได้ทันที

5. 1554 หน่วยกู้ชีพวชิรพยาบาล

หากเกิดปัญหาเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุชนิดตั้งตัวไม่ทัน ต้องการความช่วยเหลือแบบเร่งด่วนที่สุด หน่วยกู้ชีพวชิรพยาบาลจะทำให้หน้าที่ตรงนี้ให้คุณได้เป็นอย่างดี แค่ติดต่อเข้าไปแล้วแจ้งรายละเอียดต่าง ๆ เกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้น

6. 1192 แจ้งรถหาย โดนขโมย

หากไปในจุดที่มีความสุ่มเสี่ยงกับการโดนโจรกรรมรถยนต์แล้วปรากฏว่ารถหาย ให้ติดต่อไปยัง เบอร์โทรฉุกเฉิน พร้อมอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น เจ้าหน้าที่จะช่วยประสานงานติดตามหารถของคุณอย่างรวดเร็วที่สุด

สถานที่ติดต่อในประเทศไทย

สำหรับสถานที่ติดต่อกรณีเกิดเหตุร้ายขึ้นแนะนำว่าให้ติดต่อยังสถานีตำรวจจุดต่าง ๆ หน่วยดูแลความปลอดภัยในบริเวณนั้น ๆ รวมถึงจุดสถานตำรวจทางหลวงเพื่อให้เข้ามาดูแลพร้อมแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

เบอร์โทรฉุกเฉิน

กรณีอยู่ต่างประเทศ

สำหรับคนที่เดินทางไปต่างประเทศแล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นแนะนำว่าให้ลองค้นหา เบอร์โทรฉุกเฉิน ของประเทศนั้น ๆ ดู แต่ถ้าคุณพูดคุยไม่รู้เรื่องให้ไปยังสถานีตำรวจ, จุดตรวจนักท่องเที่ยวหรือถ้ารุนแรงจริง ๆ แนะนำว่าให้มองหาสถานทูตไทยเอาไว้ก่อนเลย

สายเดินทางต้องอ่าน! วิธีดูแลรักษากระเป๋าระหว่างเดินทางไม่ให้พัง

วิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง

ใครที่เดินทางบ่อย ๆ ชีพจรลงเท้าประจำ การมีกระเป๋าเดินทางคู่ใจสักใบนับว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ เพราะมันจะช่วยแบ่งเบาสัมภาระต่าง ๆ ของคุณในการเดินทางได้ดีทีเดียว แต่ก็อย่างที่เห็นกันในทุกทริปการเดินทางมันไม่ได้ราบรื่นไปเสียหมด ยิ่งถ้าเป็นเครื่องบินด้วยแล้วโอกาสที่กระเป๋าของคุณจะโดนกระแทก โดนโยนจนทำให้เกิดความเสียหายหรือสิ่งของต่าง ๆ ภายในกระเป๋าหลุดร่วงออกมามีสูงมาก ดังนั้นการ วิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง เพื่อไม่ให้พังระหว่างทางรวมถึงไม่ให้สิ่งของข้างในร่วงหล่นออกมาจึงต้องมีวิธีดังนี้

วิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง

1. ล็อกกระเป๋าเดินทางด้วยรหัสแน่นหนา

กระเป๋าเดินทางยุคใหม่จะมีรหัสที่ใช้ในการล็อกกระเป๋าก็สามารถใส่รหัสที่ว่าแล้วล็อกกระเป๋าได้เลย แต่ถ้าหากของใครไม่มีง่ายนิดเดียวแค่ซื้อกุญแจแบบรหัสล็อกมาคล้องเอาไว้อีกชั้นจะช่วยป้องกันไม่ให้สิ่งของข้างในร่วงหล่นลงมารวมถึงคนที่จะขโมยของในกระเป๋า แต่สิ่งสำคัญที่ห้ามลืมเลยคือรหัสของกระเป๋าตนเอง

2. รัดกระเป๋าให้แน่นกว่าเดิม

สำหรับคนที่ไม่มั่นใจว่ากระเป๋าเดินทางของตนเองแน่นหนามากพอหรือยัง วิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง ที่น่าสนใจอีกแบบคือ รัดกระเป๋าเดินทางให้แน่นหนา โดยอาจใช้ถุงคลุมแล้วรัดไว้อีกทีหรือการใช้เชือกรัดกระเป๋าอีกรอบก็ไม่มีปัญหาเช่นกัน โดยการรัดกระเป๋าจะทำให้ความแน่นหนาเพิ่มมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการร่วงหล่นแล้วแตกกระจายได้พอสมควร

วิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง

3. ฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้หรือสถานที่รับฝาก

สำหรับใครที่แม้จะเช็คอินออกจากโรงแรมแล้วแต่ยังต้องการเที่ยวโดยไม่อยากแบกของไปด้วย สามารถนำกระเป๋าเดินทางฝากไว้กับล็อบบี้โรงแรมหรือฝากไว้ตามสถานที่ฝากในสนามบิน แล้วค่อยเดินทางไปนั่นไปนี่ แต่อย่าลืมมาเอากระเป๋าเดินทางกลับไปด้วย แค่นี้ก็ช่วยให้กระเป๋าคุณไม่ต้องตะลอนไปตลอดทั้งวันแบบง่าย ๆ

4. ส่งกระเป๋าไปก่อน

สำหรับใครที่ไม่มั่นใจว่าการแบกกระเป๋าไปเองอาจทำให้เกิดความเสียหายง่ายกว่าเพราะต้องเจอกับผู้คนและการจัดเก็บสัมภาระจำนวนมาก แนะนำว่าให้ส่งกระเป๋าเดินทางไปก่อนล่วงหน้าก็ได้ แต่วิธีนี้มักใช้กับคนที่ต้องไปอยู่นาน ๆ มีเสื้อผ้าของใช้เยอะกว่าการไปเที่ยวทั่ว ๆ ไป

นอกจาก 4 วิธีนี้ยังมีวิธีดูแลกระเป๋าเดินทาง อีกหลากหลายที่จะช่วยทำให้คุณสามารถใช้กระเป๋าใบโปรดได้อีกนาน เช่น ติดสติ๊กเกอร์ระวังแตก, ไม่ใส่ของจนล้นเกินไป เป็นต้น ซึ่งหากรู้ว่าควรดูแลกระเป๋าใบโปรดของคุณอย่างไรจะทำให้ทุกทริปเดินทางมีความสุข ลากกระเป๋าไปที่ไหนก็ลุยได้ตลอดเวลา