แนะขั้นตอนการฝากกระเป๋าที่ ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า

ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า

เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่จะเดินทางท่องเที่ยวหลังจากถึงที่หมายเลยโดยไม่ได้เข้าโรงแรมหรือที่พักก่อน จะต้องหาตัวช่วย หรือที่ฝากกระเป๋าสัมภาระแน่นอน วันนี้เราจึงมาแนะนำ “ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า” ว่ามีกี่ประเภท มีวิธีการใช้อย่างไรบ้าง สถานที่ที่มักจะมีล็อกเกอร์ให้ฝากกระเป๋า และข้อควรระวังในการฝากกระเป๋าและสัมภาระในล็อกเกอร์กัน

ประเภทของ ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า

โดยทั่วไป มี 2 ประเภท ประเภทแรกคือแบบใช้กุญแจในการไขเปิด และประเภทที่สอง แบบใช้การ์ด ใบเสร็จ หรือบาร์โค้ดในการเปิดล็อกเกอร์

ขั้นตอนการฝากกระเป๋าที่ล็อกเกอร์

สำหรับประเภทการใช้กุญแจในการเปิดตู้ล็อกเกอร์

1. ค้นหาตู้ล็อกเกอร์ที่ยังว่าง โดยสังเกตได้จากกุญแจ ถ้ามีกุญแจอยู่แสดงว่าว่าง

2. ใส่สัมภาระเข้าไปในตู้ล็อกเกอร์

3. ปิดประตูล็อกเกอร์ ควรตรวจสอบว่า ใส่ของครบทั้งหมดไหม เนื่องจากถ้าปิดแล้วจ่ายเงินเรียบร้อย แล้วต้องเปิดเพื่อใส่ของเพิ่ม เท่ากับต้องจ่ายเงินใหม่อีกรอบ

4. หยอดเหรียญ จ่ายเงิน

5. ดึงกุญแจออก เป็นอันเรียบร้อยสำหรับการฝากกระเป๋า เวลานำกระเป๋าออกจากล็อกเกอร์สามารถนำกุญแจมาไขเปิดประตูได้เลย

ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า

สำหรับประเภทที่ 2 คือการใช้การ์ด ใบเสร็จ หรือบาร์โค้ดในการเปิด ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า โดยสามารถแยกได้เป็น 2 แบบ

แบบที่ 1: หาตู้ว่าง แล้วค่อยไปยืนยันชำระเงินจากหน้าจออัตโนมัติ

1. ค้นหาตู้ล็อกเกอร์ที่ว่าง โดยดูได้จากสัญลักษณ์ ไฟเขียว หรือไม่มีสัญญาณไฟแล้วแต่รุ่นของตู้

2. ใส่กระเป๋า สัมภาระ เก็บในตู้ ควรตรวจสอบว่า ใส่ของครบทั้งหมดไหม เนื่องจากถ้าปิดแล้วจ่ายเงินเรียบร้อย แล้วต้องเปิดเพื่อใส่ของเพิ่ม เท่ากับต้องจ่ายเงินใหม่อีกรอบ

3. ไปที่หน้าจออัตโนมัติ ใส่หมายเลขตู้

4. จ่ายเงิน สามารถจ่ายได้ทั้ง เงินสดและบัตร

5. รับการ์ด ใบเสร็จ หรือบาร์โค้ด

เวลานำกระเป๋าออก ใช้การ์ด ใบเสร็จ หรือบาร์โค้ด โดยต้องกดหมายเลขตู้ก่อน อาจจะใช้เป็น PIN หรือการสแกนจากการ์ด บาร์โค้ด เพราะฉะนั้นควรเก็บรักษาการ์ด ใบเสร็จ หรือบาร์โค้ด เป็นอย่างดี

ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า

แบบที่ 2: สามารถกดหาตู้ว่างได้จากหน้าจออัตโนมัติ

1. ค้นหาตู้ล็อกเกอร์ที่ว่าง ได้จากหน้าจออัตโนมัติ เลือก ฝากของ

2. เลือกขนาดล็อกเกอร์ที่ต้องการ เลือกระยะเวลาที่ต้องการฝาก

3. ใส่รหัสผ่านที่ต้องการ

4. เลือกวิธีชำระเงิน ชำระเงิน

5. ตู้ล็อกเกอร์จะเปิดออก ใส่กระเป๋า สัมภาระ เก็บในตู้ ควรตรวจสอบว่า ใส่ของครบทั้งหมดไหม เนื่องจากถ้าจะเปิดเพื่อใส่ของเพิ่ม เท่ากับต้องจ่ายเงินใหม่อีกรอบ

6. ปิดประตูตู้ล็อกเกอร์

เวลานำกระเป๋าออก คลิกจากหน้าจออัตโนมัติ เลือกช่อง นำกระเป๋าออก ใส่รหัสผ่านแล้ว​ จึงนำของออกมาได้

ข้อควรระวัง ในการฝากกระเป๋าและสัมภาระ ในล็อกเกอร์รับฝากสัมภาระ

1. ต้องเก็บกุญแจ การ์ด สลิป หรือบาร์โค้ดที่ใช้เปิดล็อกเกอร์อย่างดี

2. ต้องจำหรือถ่ายภาพ สถานที่ฝาก เลขตู้ล็อกเกอร์ เนื่องจากบางสถานที่มีจุด ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋า หลายจุดในสถานที่เดียวกัน

3. ในสถานีใหญ่ ๆ บางครั้งตู้ล็อกเกอร์มักเต็ม

ข้อดี – ข้อเสียของการ ฝากกระเป๋าในล็อกเกอร์

ฝากกระเป๋าในล็อกเกอร์

การเดินทางต่างประเทศหรือในประเทศในยุคนี้สามารถเดินทางได้ง่าย ๆ ทั้งรถไฟ รถทัวร์ เครื่องบิน นอกจากมีหลายเส้นทางแล้ว ยังมีช่วงเวลาให้เลือกมากขึ้น บางครั้งเราเลือกเที่ยวบินช่วงกลางคืนถึงช่วงเช้าแล้วจะเดินเที่ยวต่อเลย แต่ติดตรงกระเป๋าใบใหญ่ที่เราถือมาด้วย ถ้าถือไปเที่ยวคงจะเกะกะทำให้หมดสนุกได้ วันนี้เราจึงมาแนะนำการ “ฝากกระเป๋าในล็อกเกอร์”เพื่อช่วยให้คุณเดินเที่ยวอย่างสบายใจ ไม่ต้องถือสัมภาระเยอะ ๆ ไปด้วย

ใครเหมาะกับการฝากกระเป๋าไว้ในล็อกเกอร์บ้าง

1. สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่สามารถถือสัมภาระไประหว่างท่องเที่ยวตามสถานที่ต่าง​ ๆ

2. สำหรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงแล้วจะเที่ยวต่อเลยหรือยังไม่สามารถเช็คอินเข้าที่พักได้เลย

3. สำหรับนักท่องเที่ยวที่จะไปเที่ยวต่างเมือง แต่ไม่ได้ค้างคืนที่เมืองนั้น โดยจะกลับมาพักที่เมืองเดิม

4. สำหรับนักท่องเที่ยวที่รอเวลาขึ้นเครื่องในตอนเย็น ซึ่งช่วงเช้าจะเที่ยวในบริเวณนั้น

5. สำหรับคนที่มีสัมภาระมาก และจะไปเดินเที่ยวในสถานที่ที่มีคนเยอะ หรือนักช้อป ที่ไม่ต้องการขนสัมภาระติดตัวระหว่างช้อปปิ้ง

ฝากกระเป๋าในล็อกเกอร์

ข้อดีของการ ฝากกระเป๋าในล็อกเกอร์

1. ปลอดภัยต่อทรัพย์สิน

2. วิธีใช้งานง่าย ผ่านระบบอัตโนมัติ สะดวก มีหลายจุด

3. ไม่ต้องถือสัมภาระไปเที่ยวด้วย

ข้อเสียของการ ฝากกระเป๋าในล็อกเกอร์

1. ต้องกลับมาที่เดิมเพื่อรับกระเป๋าคืน

2. มีค่าใช้จ่ายในการฝาก

3. บางสถานที่ไม่ได้มีตู้ล็อกเกอร์ทุกไซส์ อาจจะต้องใช้หลายตู้ในการฝากกระเป๋า

การฝากกระเป๋าไว้ในล็อกเกอร์ มีที่ไหนบ้าง

ปกติเราสามารถเจอตู้ล็อกเกอร์ได้ในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก ทั้งญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ไต้หวัน สิงคโปร์ ประเทศในยุโรป รวมทั้งประเทศไทยด้วย

ส่วนใหญ่ตู้ล็อกเกอร์ฝากกระเป๋าจะพบได้มากใน

1. สนามบิน เช่น​ ท่าอากาศยานนานาชาติจอห์น เอฟ. เคนเนดี สหรัฐอเมริกา ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทย สนามบินนานาชาติเถาหยวน ประเทศไต้หวัน

2. สถานีรถไฟ เช่นสถานีรถไฟอูเอโนะ, สถานีรถไฟชิบูย่า, สถานีรถไฟโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น

3. รถไฟฟ้า เช่น MRT, BTS ประเทศไทย

4. แหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยม เช่น ชินจูกุ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ตลาดนัดสวนจตุจักร เซ็นทรัลพระราม 9 ประเทศไทย

ฝากกระเป๋าในล็อกเกอร์

ขนาดและราคาของการฝากกระเป๋าไว้ในล็อกเกอร์

ส่วนใหญ่จะมี 3 ขนาด คือขนาดเล็ก (S) ขนาดกลาง (M) และขนาดใหญ่ (L) หรือบางที่มีแบบขนาดใหญ่มาก​ (XL) ด้วย ซึ่งราคาก็จะขึ้นกับขนาดช่องที่เลือกและระยะเวลาในการฝาก โดยมีทั้งแบบฝากเป็นรายชั่วโมงหรือรายวัน แต่ไม่สามารถฝากกระเป๋าไว้ในล็อกเกอร์เกินจำนวนวันตามกำหนดของแต่ละบริษัทได้

เมื่อทราบข้อดี-ข้อเสียของการฝากกระเป๋าไว้ในล็อกเกอร์กันแล้ว ถ้าใครอยากไปเที่ยวอย่างสบายใจ ไร้กังวลเรื่องสัมภาระ อย่าลืมใช้บริการฝากกระเป๋าในล็อกเกอร์เพื่อท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก