9 ร้านอาหาร ICONSIAM วิวแม่น้ำเจ้าพระยา: ดื่มด่ำประสบการณ์อาหารหรูริมน้ำ

9 ร้านอาหาร ICONSIAM พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา: ประสบการณ์อาหารหรูริมน้ำ

จะดีแค่ไหนหากวันพักผ่อนหรือหลังจากทำงานเหนื่อย ๆ แล้วได้นั่งรับประทานอาหารอร่อย ๆ พร้อมชมวิวริมแม่น้ำยามค่ำคืน นอกจากได้อิ่มท้องกับอาหารดี ๆ แล้วยังได้อิ่มใจกับบรรยากาศรอบตัว เชื่อว่าต้องเป็นอะไรที่ฟินและฮีลใจได้ดีสุด ๆ และสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดี เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดหรูท่ามกลางวิวงดงาม ขอแนะนำ 9 ร้านอาหาร iconsiam ที่นอกจากพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแล้วยังพร้อมเสิร์ฟวิวสวย ๆ ของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย

แนะนำ 9 ร้านอาหาร Iconsiam พร้อมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

James Boulangerie
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: James Boulangerie

เริ่มต้นกันที่ร้านอาหารไทยและอาหารสไตล์ยุโรปที่ขนทัพเมนูมาให้เลือกอย่างคับคั่ง ใครที่เป็นแฟนคลับร้านนี้น่าจะทราบว่าเมนูไฮไลต์ของร้านคือครัวซองต์เนื้อนุ่มหอมอร่อย แต่เมื่อมาเปิดที่ไอคอนสยามก็กลายเป็นร้านอาหารที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยทั้งวัน การตกแต่งร้านเน้นโทนสีขาวและความโปร่งสบายจึงสามารถนั่งรับชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มอิ่ม เลือกนั่งได้ทั้งด้านในและด้านนอก เมื่อมาถึงร้านนี้แล้วเมนูที่พลาดไม่ได้ ได้แก่ ครัวซองต์รสชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะครัวซองต์ชาเขียวรสอร่อยเกินห้ามใจ นอกจากนี้ยังมีเมนูอิ่มท้องอื่น ๆ อย่างพาสต้า สเต็ก สลัด ซุปเห็ดทรัฟเฟิล ฯลฯ แต่ละจานการันตีว่าอร่อยเด็ด

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
Fallabella River Front
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Fallabella

ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากชั้นบนสุดของไอคอนสยามได้ที่ร้านนี้ บอกเลยว่าเป็นร้านที่จะทำให้ทุกคนดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนได้อย่างเต็มอิ่ม จุดเด่นคือการเป็นร้าน Rooftop เสิร์ฟอาหารไทย-อิตาเลียน ช่วงค่ำยังเป็นบาร์ให้ดื่มชิล ๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสงสีของกรุงเทพฯ และโค้งน้ำเจ้าพระยาสุดโรแมนติก สำหรับเมนูที่อยากบอกต่อ ได้แก่ เนื้อย่าง บอกเลยว่าเนื้อนุ่มมาก ยิ่งรับประทานคู่กับซอสที่เสิร์ฟมาด้วยกันยิ่งลงตัว หรือจะเป็นเมนูพาสต้าก็อร่อยไม่แพ้กัน เส้นเหนียวหนึบแบบกำลังดี ถูกใจคนชอบอาหารอิตาเลียน นอกจากนี้ยังขอแนะนำซีซ่าร์สลัด เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะผักกรอบมากและน้ำสลัดเข้มข้นถึงใจ

  • ช่วงราคา : 500 – 1,200 บาท
Greyhound Café
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Greyhound cafe

ลิ้มรสความอร่อยของอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตกได้แบบไม่มีเบื่อ นอกจากมีเมนูให้เลือกมากมายแล้วยังได้รับชมวิวสวย ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวพระอาทิตย์ตกดินหรือวิวโค้งน้ำยามค่ำคืน การตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีขาวและสีดำสุดมินิมอล โดยรอบร้านแต่งแต้มด้วยกระจกเปิดรับวิวด้านนอกเต็มที่ พร้อมเพิ่มบรรยากาศสุดผ่อนคลายด้วยต้นไม้สีเขียวที่กระจายโดยรอบ เมนูแนะนำ ได้แก่ แซลม่อนแช่พริก ปลาส้มสีสันน่ารับประทานมาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด และปลากะพงย่างเสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่งและมันฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มและของหวานขึ้นชื่อ ได้แก่ ทับทัมกรอบ สาคูไอศกรีมมะพร้าว และชาไทย รสชาติเข้มข้นอร่อยแน่นอน

  • ช่วงราคา : 300 – 1,000 บาท
Café Chilli
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Cafe Chilli

ใครว่าในไอคอนสยามจะมีแต่ร้านอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตกเท่านั้น หากกำลังเปรี้ยวปากอยากรับประทานอาหารอีสานแนะนำที่ร้านนี้เลย ร้านอาหารอีสานพร้อมเสิร์ฟความแซ่บแบบพรีเมียม จุดเด่นคือวัตถุดิบสำคัญนำมาจากภาคอีสาน การันตีความอร่อยแซ่บ เมนูที่ต้องสั่ง ได้แก่ แจ่วฮ้อนหมูหมักน้ำมันงามาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด รวมถึงต้มแซ่บหมูเด้งและข้าวโพดทอด  อิ่มอร่อยท่ามกลางการจัดร้านแบบไทย ๆ ผสมผสานวัฒนธรรมอีสานไว้อย่างลงตัว

  • ช่วงราคา : 250 – 500 บาท
 Jumbo Seafood

ใครเคยไปเที่ยวสิงคโปร์เชื่อว่าต้องคุ้นหูชื่อร้าน Jumbo Seafood เพราะนี่คือร้านดังของสิงคโปร์ที่ทนกระแสความฮิตไม่ไหวเลยต้องมาเปิดร้านที่ไทย แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารที่เน้นซีฟู้ดเป็นหลัก และไม่ใช่แค่ซีฟู้ดธรรมดานะแต่เป็นซีฟู้ดขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู หอย คัดมาเฉพาะไซซ์บิ๊ก ๆ จนกลายเป็นจุดเด่นของร้านไปเสียแล้ว ที่นี่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบมาก ๆ โดยวัตถุดิบจะต้องสดใหม่เพื่อชูรสอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น การตกแต่งของร้านเรียบง่ายแต่หรูหรา มีกระจกบานใหญ่มองวิวด้านนอกได้ สำหรับเมนูแนะนำที่ต้องลอง ได้แก่ หนังปลาทอดไข่เค็มที่แอบกระซิบว่าอร่อยนัวและเข้มข้น กุ้งผัดพริกไทยและเกลือที่คัดกุ้งตัวโต ๆ แน่น ๆ และที่ขาดไม่ได้คือปูผัดไข่เค็ม เสิร์ฟเฉพาะปูไซซ์จัมโบ้และไข่เค็มหอม ๆ รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ คือดีไม่ไหว

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: nice two Sea u 나이스투씨유

ใครชื่นชอบอาหารทะเลบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด ร้านปิ้งย่างวิวแจ่ม ๆ ที่หาได้ยากในกรุงเทพฯ สำหรับร้านนี้จัดให้เพื่อคนรักการรับประทานปิ้งย่างอาหารทะเลสไตล์เกาหลี ร้านตั้งอยู่บน Rooftop เปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับเมนูที่บอกว่าต้องลอง ได้แก่ เมนูซีฟู้ดที่สั่งมาย่างได้แบบฟิน ๆ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปลาหมึก รับประกันความสดใหม่ รวมถึงยังมีเมนูปูดองซีอิ๊วเกาหลี จูกุมิกับหอยเชลล์กระทะร้อน และหอยสังข์ซาชิมิ แค่ได้ยินชื่อก็ท้องร้อง ขาดไม่ได้เลยคือน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด เมื่อรับประทานกับอาหารทะเลคืออร่อยลงตัวสุด ๆ นอกจากอาหารอร่อยถูกปากคนไทยแล้วยังมอบวิวสวย ๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกได้ว่าทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจกับบรรยากาศไปพร้อมกันเลยทีเดียว

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
HOBS ICONSIAM

ได้เวลาสนุกกับบาร์วิวแม่น้ำกันบ้าง บอกเลยว่าที่นี่เหมาะมากกับสายแฮงก์เอาท์ เพราะช่วงค่ำมีดนตรีสดแวะเวียนมามอบเสียงเพลง การจัดร้านเน้นความโปร่งสบายเพราะต้องการเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุด สำหรับอาหารพร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติ ไหนจะเครื่องดื่มที่มีทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และแบบไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับเมนูที่ต้องบอกต่อ ได้แก่ Truffle Cheese Bomb เบอร์เกอร์ชิ้นโต ไฮไลต์คือบันนุ่ม ๆ โดยเมนูนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านใครมาก็ต้องสั่ง อย่าลืมขาหมูเยอรมันที่บอกได้แค่ว่าเด็ดจริง ขาหมูกรอบมาก แถมน้ำจิ้มรสเด็ดอร่อยเกินห้ามใจ

  • ช่วงราคา : 400 – 1,000 บาท
Great Habour
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Great Harbour

เอาใจคนรักการรับประทานบุฟเฟต์กันบ้าง โดยนี่คือร้านบุฟเฟต์อาหารนานาชาติชื่อดังจากไต้หวัน บินมาเสิร์ฟความอร่อยให้คนไทยแบบไม่อั้น ภาพรวมร้านค่อนข้างใหญ่ รองรับได้มากถึง 400 ที่นั่ง ไลน์อาหารบอกเลยว่าจัดเต็ม โดยเฉพาะซีฟู้ดที่สดใหม่และชิ้นใหญ่เต็มคำ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู หอย หอยนางรม และซาชิมิ ซึ่งเป็นเมนูได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเมนูจานเดียวขอแนะนำเป็ดย่าง ซูชิเนื้อวากิว ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่น ที่รับรองว่าสั่งครั้งเดียวไม่เคยพอ และคนรักชีสต้องไม่พลาดเพราะที่นี่จัดเรียงชีสไว้อย่างน่ารับประทานแถมมีให้เลือกหลายแบบอีกด้วย

  • ช่วงราคา : 500 – 1,500 บาท
บ้านขนิษฐา
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: ถนัดชิม

แค่ชื่อร้านก็คาดเดาได้แล้วว่าเป็นร้านอาหารไทยอย่างแน่นอน และไม่ใช่แค่ร้านอาหารไทยธรรมดาแต่เป็นร้านอาหารไทยรสชาติไทยแท้ จุดเด่นของร้านคือแต่ละเมนูพิถีพิถันการจัดจานทำให้ทุกเมนูหน้าตาสวยงามน่ารับประทาน แถมรสชาติยังขึ้นชื่อ สูตรอาหารได้รับรางวัลการันตีความอร่อย คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี การแต่งร้านยังคงสอดแทรกด้วยความงามแบบไทย มีให้เลือกทั้งที่นั่งด้านในและที่นั่งด้านนอกเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เมนูที่ต้องบอกต่อ ได้แก่ กุ้งมังกรภูเก็ตทอดกระเทียมพริกไทย กระซิบว่ากุ้งตัวใหญ่มากและยังสดใหม่ ปูนิ่มผัดซอสมะขามรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี รวมถึงแกงส้มชะอมชุบไข่ทอด รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ คือเข้ากันเป็นอย่างดี

  • ช่วงราคา : 300 – 800 บาท

จะเห็นว่านอกจากที่นี่จะเป็นแลนมาร์กแห่งการชอปปิงแล้ว ร้านอาหาร iconsiam ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นไม่แพ้กัน เพราะมีหลากหลายร้านอาหารอร่อยมาพร้อมบรรยากาศดี โดดเด่นด้วยวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งหากเป็นตอนค่ำยิ่งได้สัมผัสลมเย็น ๆ และชื่นชมไปกับแสงสียามค่ำคืน จึงไม่น่าแปลกใจว่าเพราะอะไรไอคอนสยามจึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ทั้งคนไทยและต่างชาติต้องแวะเช็กอิน ใครอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ขอเชิญที่ไอคอนสยาม เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีเจริญนคร เชื่อมต่อสู่ห้างสรรพสินค้าได้เลย หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ก็มีที่จอดรถเพียบ สะดวกสบายไม่แพ้กัน 

ที่มาข้อมูล

อัพเดทคู่มือ: 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนใช้รถไฟฟ้าไปยังไอคอนสยามสายสีทอง

อัพเดทคู่มือ: 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนใช้รถไฟฟ้าไปยังไอคอนสยามสายสีทอง

หากเอ่ยถึงห้างสรรพสินค้าริมน้ำที่เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของทั้งคนไทยและต่างชาติ เชื่อว่าหลายคนจะต้องทายถูกว่าเรากำลังพูดถึง “ไอคอนสยาม” ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังไว้มากมายจนกลายเป็นจุดเช็กอินสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย นอกจากการเป็นห้างขนาดใหญ่แล้ว ปัจจุบันได้มีโครงการ ไอคอนสยาม รถไฟฟ้า สายสีทอง ครั้งแรกของไทยที่มีรถไฟฟ้าไร้คนขับ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางมาย่านนี้

ประวัติไอคอนสยาม ห้างริมน้ำสุดหรูของไทย

ห้างหรูริมแม่น้ำแห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง สยามพิวรรธน์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดิเวล็อปเม้นต์ ร่วมทุนกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อเนรมิตห้างหรูบนพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร ของเขตคลองสาน ใครที่เคยคิดว่าไอคอนสยามเป็นห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียวต้องบอกว่าเข้าใจผิด เพราะประกอบด้วยส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้า อาคารสำหรับพักอาศัย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ สยาม ทาคาชิมายะ ห้างพรีเมียมจากญี่ปุ่นที่เปิดสาขาในไทยครั้งแรก ความยิ่งใหญ่นี้จึงทำให้ไอคอนสยามกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของไทยที่มีคนไทยและต่างชาติแวะเวียนมาไม่ขาดสาย

ประวัติไอคอนสยาม ห้างริมน้ำสุดหรูของไทย
  1. รถไฟฟ้าสายสีทองถูกยกให้เป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับสายแรกของไทย เปิดให้บริการเพียง 3 สถานีเท่านั้น ได้แก่ กรุงธนบุรี เจริญนคร และคลองสาน ใครได้ใช้บริการถือว่าเอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ  
  2. เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563
  3. ใครอยากมาไอคอนสยามต้องลงสถานีเจริญนคร ทางออก 3 รับรองถึงชัวร์ เดินเข้าทางเชื่อมตัวห้างสรรพสินค้าได้เลย
  4. รถไฟฟ้าสายสีทองออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคนที่พักอาศัยละแวกนั้น เพราะใช้ตอม่อขนาดเล็ก ไม่กินพื้นที่ ลดการเวนคืน และออกแบบให้ลดเสียงรบกวน ทันสมัยและทนทานสุด ๆ 
  5. รู้หรือไม่ รถไฟฟ้าสายสีทองคือรูปแบบเดียวกับรถไฟฟ้าที่ให้บริการที่ London Heathrow (อังกฤษ) และที่ Frankfurt Main (เยอรมัน)
  6. รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 276 คนต่อขบวน รอคิวไม่นานแน่นอน
  7. แม้จะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน มีเวลาแค่ 6 นาที ก็เดินทางจากสถานีกรุงธนบุรีถึงไอคอนสยามได้ 
  8. ทำความเร็วสูงสุดถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รีบแค่ไหนก็เอาอยู่ทั้งคนทำงานและคนที่เดินทางไปย่านนั้น
  9. ราคาสบายกระเป๋า เพียง 16 บาทตลอดสาย
  10. เปิดบริการเช้าและปิดดึก เวลาให้บริการ รถขบวนแรก 06.00 น. และขบวนสุดท้ายให้บริการเวลาประมาณ 23.30 น. ชอปปิงกันถึงดึกได้เลย

ใครที่คิดว่าการเดินทางไปไอคอนสยามไม่สะดวกสบายเพราะไม่ใช่ห้างใจกลางเมือง บอกเลยว่าผิดคาด เพราะ ไอคอนสยาม รถไฟฟ้า สายสีทองพร้อมให้บริการแล้ว อุดรอยรั่วด้านการเดินทางที่เคยคิดว่ายากให้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับความสะดวกสบาย อยากชอปปิงเมื่อไหร่ก็เดินทางได้อย่างรวดเร็วทันใจ

ที่มาข้อมูล

ตะลุยความสนุก! รีวิวเครื่องเล่นใหม่ล่าสุดในฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม 2024

ที่มารูปภาพ : harborland

หากพูดถึงสนามเด็กเล่นในยุคนี้คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ที่มีลูกอยู่ในวัยกำลังซนแทบทุกคนจะรู้จักกับ “ฮาร์เบอร์แลนด์” สนามเด็กเล่นชื่อดังจากต่างประเทศที่เด็กเข้าได้ตั้งแต่อายุ 5 เดือน ไปจนถึงอายุ 15 ปี หลังจากที่ฮาร์เบอร์แลนด์เปิดตัวในไทยมานานกว่า 7 ปี ก็มีสาขาเพิ่มมากขึ้นหลายแห่ง รวมถึง ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ บนพื้นที่ชั้น 6 ที่กว้างมากถึง 5,000 ตร.ม. ได้ถูกเนรมิตเป็น Mega Harborland ในธีม Little Thailand ความหมายคือสนุกที่เดียว เที่ยวได้ทั่วไทย เพราะผู้จัดต้องการให้การพาครอบครัวมาเที่ยวที่นี่เป็นเสมือนกับการได้ไปท่องเที่ยวทั่วประเทศในวันเดียว

เครื่องเล่นในฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยามมีกี่โซน 

ที่นี่มีเครื่องเล่นครบรสความสนุกแบบสุด ๆ ซึ่งนอกจากเครื่องเล่นในโซน Mega Harborland ที่ทั้งสนุกและตื่นเต้นแล้ว ยังมีโซน JumpZ ให้กระโดดอย่างจุใจและท้าทายความเร็ว อีกโซนหนึ่งคือ Harbor Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่แบบ Full Floor ทุกโซนเปิดให้เด็กทุกวัยเข้าไปเล่นได้ เพราะจะมีเครื่องเล่นชนิดต่าง ๆ ที่พร้อมสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย ไปดูกันว่าไฮไลต์ของที่นี่มีอะไรบ้าง

  • เครื่องเล่นในโซน Mega Harborland เล่นได้ทั้งเด็กเล็กและเด็กโต 
  • เครื่องเล่นสไลเดอร์ มี Dragon Spiral Tower Slide เครื่องเล่นที่ต้องสไลด์ลงมาจากหอคอยมังกร ให้ความสนุกและตื่นเต้นเหมือนได้ผจญภัย, Boomerang Donut Slide เครื่องเล่นสไลด์แบบสะใจกับแรงเหวี่ยง และ Ta-Khon Roller Slide เครื่องเล่นโรลเลอร์สไลด์ที่ยาวที่สุด ไม่ควรพลาด เด็กเล็กสามารถเล่นได้นั่งตักคุณแม่สไลด์ลงได้เลย
  • Zip Line เครื่องเล่นห้อยโหนให้เด็กไหลลื่นไปตามเส้นลวดเหมือนนกโบยบิน แต่ไม่สูงมาก ปลอดภัยสำหรับเด็ก 
  • เครื่องเล่นแนวแข่งขัน มี Interactive Ball Attack เครื่องเล่นแข่งชู๊ตลูกบอล และ Interactive Cannon Target เครื่องเล่นแข่งยิงปืน เหมาะสำหรับเด็กโตที่ชอบเล่นแข่งขันทำคะแนน
  • โซน JumpZ มีเครื่องเล่นแทรมโพลีนสำหรับเด็กเล็กและเด็กโต 
  • High 9 Interactive Trampoline เครื่องเล่นกระโดดกดปุ่มเพื่อทำคะแนนบนแทรมโพลีน เหมาะสำหรับเด็กโต
  • Sweeper Trampoline เครื่องเล่นกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางบนแทรมโพลีน ฝึกความเร็ว เหมาะสำหรับเด็กโตเช่นกัน
  • โซน Harbor Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่เต็มพื้นที่
  • Sweeper Inflatable เป็นเครื่องเล่นที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางให้เด็กได้ใช้ทักษะในการหลบหลีก ฝึกความคล่องแคล่วและท้าทาย เด็กเล็กเล่นได้ พื้นผิวเครื่องเล่นรองรับการล้มไม่ต้องกลัวเจ็บ

นอกจากความสนุกสนานที่หยิบยกมานี้ยังมีเครื่องเล่นอีกมากมายรอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเองที่ ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ชั้น 6 ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทต่อคน คิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง หากมาหลายคนหรือจัดกิจกรรมทัศนศึกษา, Team Building สามารถซื้อเป็นแพ็กเกจได้ จองบัตรออนไลน์ที่เว็บไซต์ของ Harborland Group เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น. Long Weekend เปิดให้บริการถึง 21.00 น. 

ที่มาข้อมูล

ตะลุยกิน! 8 ร้านอาหารจตุจักร 2024 อร่อยเด็ด ฟินทุกจาน

ตะลุยกิน! 8 ร้านอาหารจตุจักร 2024 อร่อยเด็ด ฟินทุกจาน

จตุจักรแหล่งชอปปิงสุดฮิปของเมืองไทย บอกเลยว่าดีกรีความฮิตไม่แพ้แหล่งชอปปิงอื่น ๆ เพราะจตุจักรกลายเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวต่างชาติต้องแวะมา รวมถึงคนไทยที่หากไม่รู้จะไปไหนก็ต้องนึกถึงจตุจักร โดยที่นี่รวบรวมสินค้าเอาไว้มากมาย ชอปได้ทั้งคนไทยและคนต่างชาติ นอกจากโดดเด่นเรื่องสินค้าแล้วต้องบอกว่า ร้านอาหารจตุจักร ก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน รวบรวมความอร่อยไว้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสายปิ้งย่าง สายแซ่บ หรือสายไหน ๆ ก็แวะมาชิมความอร่อยได้แบบไม่มีเบื่อ 

ชี้เป้า ร้านอาหารจตุจักร สุดเด็ด แนะนำต้องแวะ 

ร้านแซ่บ สายกินเส้นก๋วยเตี๋ยวสุดเด็ดประจำจตุจักร

ใครชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือห้ามพลาดโดยเด็ดขาด บอกเลยว่าวัตถุดิบสดใหม่ จุดเด่นคือน้ำก๋วยเตี๋ยวมีกลิ่นหอมซีอิ๊วดำ เข้มข้น น่ารับประทานมาก ๆ มีให้เลือกทุกเส้น ไม่ว่าจะเป็นเส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ หรือบะหมี่ ขาดไม่ได้คือกระเทียมเจียวที่เจียวใหม่วันต่อวัน อย่าลืมสั่งแคบหมูเพิ่มดีกรีความอร่อย ที่สำคัญควรรับประทานพร้อมเครื่องดื่มหวาน ๆ เติมความสดชื่นระหว่างเดินเล่นสวนจตุจักร

ใครชอบรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่แล้วเชื่อว่าต้องรู้จักร้านนี้เพราะมีอยู่หลายสาขา เช่นเดียวกับที่สาขาสวนจตุจักรที่ตั้งอยู่ในโครงการ The Mix จุดเด่นคือน้ำก๋วยเตี๋ยวที่เข้มข้น สีสันน่ารับประทาน ราคาเริ่มต้นเพียงชามละ 20 บาท แต่บอกเลยว่าคุณภาพคับแน่น อย่าลืมสั่งแคบหมูและเกี๊ยวเพิ่มความฟิน รวมถึงเครื่องดื่มอร่อย ๆ ที่เข้ากันดี ความได้เปรียบคือมีที่นั่งในห้องแอร์เย็น ๆ ใครเดินผ่านโครงการ The Mix อย่าลืมไปแวะชิมความอร่อย

ร้านอาหารทะเล ซีฟู้ด สูตรเด็ดแซ่บเสร็จที่จตุจักร 

มากันที่คนชอบรับประทานอาหารทะเล บอกเลยว่าที่จตุจักรมีร้านอาหารทะเลให้เลือกหลายร้านเพราะเป็นเมนูโปรดของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเมนูกุ้งถังของร้านกุ้งถัง อลังเวอร์ แต่ละวันมีนักชิมแวะเข้ามาแบบไม่ขาดสาย ร้านนี้ตั้งอยู่ในเจเจกรีน มาร์เก็ต เลือกมาให้เฉพาะกุ้งตัวโต ๆ และน้ำจิ้มรสเด็ด แน่นอนว่าใช้มือแกะกุ้งได้ตามสบายเพราะมีถุงมือบริการ นอกจากกุ้งแล้วยังมีเมนูหอย ปลาหมึกสด ๆ เรียกได้ว่ายกทะเลมาไว้ที่นี่ ใครเป็นสายซีฟู้ดแนะนำให้แวะมารับประทาน

ร้านกุ้งเผาที่ได้รับความนิยมในจตุจักร แค่ชื่อก็เดาออกว่าเมนูยอดฮิตคือกุ้งเผาตัวโต ๆ ที่สำคัญคือสดใหม่ สะอาดแน่นอน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด แซ่บ แต่เผ็ดแบบกำลังดี นอกจากเมนูขึ้นชื่ออย่างกุ้งเผาแล้วยังมีเมนูปลาเผาที่น่ารับประทานไม่แพ้กัน เสิร์ฟพร้อมผักสดและน้ำจิ้ม ใครไปจตุจักรอย่าลืมแวะไปชิมความอร่อย

มองหาร้านอาหารอิสลามต้องร้านนี้ 

ต้องยอมรับเลยว่าสวนจตุจักรได้รวมความหลากหลายของร้านอาหารเอาไว้จริง ๆ สำหรับใครที่มองหาร้านอาหารอิสลามก็สามารถแวะชิมความอร่อยได้ที่ร้านบังหมานราชาข้าวหมกไก่ ตั้งอยู่ภายในสวนจตุจักร โครงการ 5 ร้านนี้ไม่ว่าคนไทยหรือคนต่างชาติก็ต้องมาแวะรับประทาน เมนูไฮไลต์แน่นอนว่าเป็นข้าวหมกไก่ ข้าวหุงมาแบบนิ่มกำลังดี หอมกลิ่นเครื่องเทศ มาพร้อมไก่เนื้อแน่นทำสดแบบวันต่อวัน อีกหนึ่งเมนูห้ามพลาดคือข้าวเหนียวไก่ทอด เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดาเพราะหมักจนเข้าเนื้อ อร่อยติดใจแน่นอน

อีกหนึ่งร้านอาหารอิสลามที่รวบรวมเมนูเอาไว้มากมาย ใครอยากลิ้มลองความอร่อยเรียนเชิญที่สวนจตุจักร โครงการ 27 เมนูเด่นคือข้าวหมก 3 สี มีให้เลือกทั้งไก่และเนื้อ ทุกจานเนื้อแน่น ทำสดใหม่ หอมเครื่องเทศอ่อน ๆ นอกจากนี้ยังมีข้าวซอยไก่ ลูกชิ้นเนื้อ อย่าลืมสั่งข้าวหมกอินเดียที่เรียกได้ว่าเป็นจานเด็ดเช่นกัน

ร้านปิ้งย่างที่ไม่ควรพลาด เหมาะกับสายย่างเนื้อ 

เอาใจคนชอบเดินสวนจตุจักรแล้วเกิดอยากรับประทานเมนูปิ้งย่าง แนะนำว่าต้องแวะร้านนี้ ร้านปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเจเจกรีน ตอบโจทย์คนชอบเนื้อย่าง เพราะจัดเต็มเนื้อพรีเมียมให้เลือกแบบหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้ออสเตรเลีย เนื้อลายมัน เนื้อสัน เนื้องน่องลาย รวมถึงเนื้อพริกไทยดำที่กลิ่นพริกไทยหอมสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีชุดหมูและชุดซีฟู้ดไว้บริการ แอบกระซิบว่าข้าวผัดกระเทียมอร่อยสุด ๆ แนะนำว่าต้องสั่งเลย

หากมาเดินเล่นสวนจตุจักรและมองหาร้านปิ้งย่างบรรยากาศดี บอกเลยว่าห้ามพลาดร้านนี้เด็ดขาด เพราะนี่คือร้านปิ้งย่างที่ตั้งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของเจเจกรีน นอกจากได้ชื่นชมกับวิวเมืองสวย ๆ อาหารของที่นี่ยังมีให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นหมู ไก่ เนื้อ หรือแม้แต่ซีฟู้ด วัตถุดิบแต่ละอย่างสดใหม่ ชิ้นโต มีครบทั้งกุ้ง หอย ปลาหมึก ที่สำคัญน้ำจิ้มรสเด็ดมาก ใครมาก็ต้องติดใจ นอกจากนี้อาหารทานเล่นก็จัดเต็มไม่แพ้กัน อย่าลืมปิดท้ายด้วยไอศกรีม โดยเฉพาะไอศกรีมเจลาโตที่เขาว่ากันว่าอร่อยมาก

ใครรู้ตัวว่าเป็นสายกินอย่าลืมแวะเวียนมาสัมผัสความอร่อยได้ที่สวนจตุจักร เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีกำแพงเพชรก็สามารถเดินชอป ชิม ชิลได้แบบเพลิน ๆ บอกเลยว่าเผื่อเวลาเอาไว้เยอะ ๆ เพราะเป็นตลาดนัดขนาดใหญ่ รวบรวมสินค้าและอาหารไว้แบบคับคั่ง รับรองว่าเลือกซื้อสินค้าได้แบบเพลิน ๆ ใครเป็นสายชอป สายกิน ห้ามพลาดโดยเด็ดขาด

ที่มาข้อมูล :

บริการฝากกระเป๋าสนามบินสุวรรณภูมิ กับ AIRPORTELs ผู้ให้บริการอันดับ 1 ด้านการให้บริการฝากและขนส่งกระเป๋า

ถ้าคุณเป็นคนที่เดินทางบ่อยๆ แอร์พอเทลล์ เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่คุณควรรู้จัก เราเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านกระเป๋าของนักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งกระเป๋า หรือฝากกระเป๋า โดยสนามบินสุวรรณภูมิเป็นอีกหนึ่งจุดที่ที่มีเคาน์เตอร์แอร์พอเทลล์ให้บริการ

เกี่ยวกับ AIRPORTELs

สนามบินสุวรรณภูมิถือเป็นสาขาแรกของแอร์พอเทลล์ โดยตั้งอยู่ที่ชั้น B อยู่ชั้นเดียวกับแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ (Map Location)

airportels,luggage storage,luggage storage bangkok

เคาน์เตอร์ของเราเป็นเคาน์เตอร์สีดำอยู่ทางเชื่อมใต้ดินระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิกับโรงแรมโนโวเทล สุวรรณภูมิ เมื่อไหร่ที่ต้องเดินทางแล้วไม่รู้จะทำอย่างไรกับกระเป๋าที่แสนเกะกะ ลองมาใช้บริการของเราได้ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง

ฝากกระเป๋าที่สุวรรณภูมิ

ค่าบริการฝากกระเป๋า

เรามีบริการฝากระยะสั้น และระยะยาว โดยราคาค่าฝากตามนี้

  • ฝากกระเป๋า 1 วัน ค่าบริการ 100 บาท
  • ฝากกระเป๋า 5–7 วัน ค่าบริการ 500 บาท
  • ฝากกระเป๋า 26–30 วัน ค่าบริการ 2,000 บาท

ทำไมต้องใช้บริการฝากกระเป๋ากับ AIRPORTELs

  • AIRPORTELs เปิดให้มานานแล้วกว่า 9 ปี ทำให้มีความเชี่ยวชาญในการบริการด้านกระเป๋าเดินทางโดยเฉพาะ
  • ประกันภัยสำหรับกระเป๋ามูลค่าสูงสุด 50,000 บาท
  • ช่วยให้คุณบริหารจัดการเวลาและแผนการเดินทางได้ดียิ่งขึ้น
  • มีบริการฝากแบบรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • พร้อมให้บริการขนส่งกระเป๋า จากสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ไปยังโรงแรม บ้าน คอนโด หรือที่พักที่คุณกำหนด ทั้งในกรุงเทพฯและตัวเมืองภูเก็ต
AIRPORTELs สนามบินสุวรรณภูมิ

การฝากกระเป๋ากับแอร์พอเทลล์นั้นไม่ยุ่งยาก ไม่ว่ากระเป๋าคุณจะขนาดจะใหญ่ หรือน้ำหนักจะมากขนาดไหนเราก็รับฝากในราคาเท่ากัน แอร์พอเทลล์เราคำนึงถึงความปลอดภัยของกระเป๋าทุกใบ กระเป๋าทุกใบจะถูกเก็บอย่างดีและปลอดภัย และเรายังมีห้องเก็บกระเป๋าในสนามบินสุวรรณภูมิที่สามารถเก็บกระเป๋าได้กว่า 5,000 ใบ ในห้องที่มี CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง

เราเชื่อว่าเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคนดังนั้นอย่าให้กระเป๋า หรือสัมภาระต่างๆทำให้คุณเสียเวลา

ฝากอะไรได้บ้างที่สนามบินสุวรรณภูมิ

airportels luggage delivery, ฝากกระเป๋าสนามบินสุวรรณภูมิ

ไม่เพียงแต่กระเป๋าเดินทางที่เรารับฝาก แต่สัมภาระอื่นเช่นอุปกรณ์กีฬา ไม่ว่าจะเป็นถุงกอล์ฟหรือจักรยาน เราก็รับฝาก รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โน้ตบุ๊ก ซึ่งหลายๆที่มักจะไม่รับฝากเพราะมีราคาสูง

AIRPORTELs ต้องการเห็นทุกคนเดินทางอย่างมีความสุขโดยไม่ถูกผูกมัดกับกระเป๋าเดินทาง ขอบคุณที่ใช้บริการ ฝากกระเป๋า ส่งกระเป๋า สนามบินสุวรรณภูมิ กับแอร์พอเทลล์

รวมวิธีเช็คเที่ยวบินด้วยตัวเองง่ายๆ กันพลาดก่อนเดินทาง

รวมวิธีเช็คเที่ยวบินด้วยตัวเองง่ายๆ กันพลาดก่อนเดินทาง

การเดินทางด้วยเครื่องบินในบางทริปอาจมีเรื่องให้ลุ้น ไม่ไฟลต์ดีเลย์ก็ยกเลิกเที่ยวบิน ดังนั้นก่อนวันเดินทางควร เช็คเที่ยวบิน ล่วงหน้า โดยดูจากอีเมลแจ้งเตือนหรือเข้าไปเช็กที่เว็บไซต์สนามบินที่จะไปขึ้นเครื่อง หรืออีกวิธีหนึ่งคือโหลดแอปพลิเคชันของสายการบินที่จองตั๋วไว้เพื่อเช็กไฟลต์บิน หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงก็เตรียมตัวเดินทางได้ ใช้วิธีเช็กอินออนไลน์ง่ายมาก เรามาทำความรู้จักกับวิธีเช็กอินแบบนี้กันเพราะเป็นวิธีที่สะดวกกว่าเยอะเลย

ทำความรู้จักกับการเช็กอินออนไลน์

ทำความรู้จักกับการเช็กอินออนไลน์

ในปัจจุบันนี้สามารถเช็กอินล่วงหน้าได้จากที่บ้านหรือที่ไหนก็ได้ทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของสายการบิน โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำได้ล่วงหน้า 24 ชั่วโมง หลังจากเช็กอินแล้วจะได้รับ Boarding Pass คุณสามารถปรินต์หรือโหลดไว้ในโทรศัพท์แล้วถือติดตัวไปขึ้นเครื่องได้เลย 

  • เช็กอินออนไลน์ต่างกับเช็กอินหน้าเคาน์เตอร์อย่างไร?

สมัยก่อนต้องไปเข้าคิวรอเช็กอินกันที่หน้าเคาน์เตอร์สายการบินก่อนเวลาขึ้นเครื่อง อย่างน้อย 3 ชั่วโมงสำหรับทริปต่างประเทศ และ 1 – 2 ชั่วโมง สำหรับทริปในประเทศ ถ้าเช็กอินไม่ทันทริปนั้นคือพลาด ต่างจากยุคนี้ที่สายการบินต่าง ๆ ได้เปิดให้เช็กอินผ่านอินเทอร์เน็ตได้ก่อนวันเดินทาง ไม่ต้องกังวลกับการที่จะต้องออกจากบ้านตี 1 ตี 2 สำหรับไฟลต์เช้า และไม่ต้องเสียเวลาไปยืนเข้าคิวรอนานที่เคาน์เตอร์อีกด้วย  

  • ใครที่เหมาะกับการเช็กอินออนไลน์

การเช็กอินออนไลน์เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางในประเทศและผู้เดินทางที่ไม่มีกระเป๋าโหลด ส่วนผู้ที่เดินทางไปต่างประเทศนั้นขึ้นอยู่กับนโยบายของสายการบินว่าจะให้ทำได้หรือไม่ เพราะการไปต่างประเทศมีขั้นตอนในเรื่องการตรวจสอบเอกสารหลายอย่างจึงอาจไม่สะดวกในการใช้บริการเช็กอินออนไลน์ แต่บางสายการบินก็สามารถทำได้

  • ขั้นตอนการเช็กอินออนไลน์

ผู้เดินทางต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ในหน้า Check-in หรือแอปพลิเคชันของสายการบิน แล้วกรอกข้อมูลรายละเอียดของตัวเอง เช่น ชื่อ-นามสกุล ข้อมูล Passport เบอร์โทร และหมายเลขการจอง ข้อสำคัญคือต้องกรอกข้อมูลให้ถูกต้องก่อนกดยืนยัน เพียงเท่านี้ก็จะได้รับ Boarding Pass ทางอีเมลหรือโหลดในแอปพลิเคชันให้คุณนำไปแสดงตอนขึ้นเครื่อง 

  • สายการบินที่มีบริการเช็กอินออนไลน์
สายการบินที่มีบริการเช็กอินออนไลน์
  • การบินไทย 
  • บางกอกแอร์เวย์ 
  • เอมิเรตส์ 
  • แอร์ฟรานซ์ 
  • เอทิฮัดแอร์เวย์ 
  • ออลนิปปอนแอร์เวย์ 
  • คาเธ่ย์แปซิฟิก 
  • เคแอลเอ็ม 
  • โคเรียนแอร์ 
  • ไทยแอร์เอเชีย 
  • ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ 
  • ไทยไลอ้อนแอร์ 
  • ไทยสมายล์ 
  • นกแอร์ 
  • สกู๊ต 
  • เจ็ทสตาร์ 
  • เวียดเจ็ทแอร์ 

สำหรับการเดินทางครั้งใหม่ถ้าหากว่าไม่มีกระเป๋าโหลดหรือเป็นการเดินทางในประเทศ อย่าลืม เช็คเที่ยวบิน ให้ชัวร์แล้วเช็กอินออนไลน์ก่อนล่วงหน้า สะดวกกว่า ไม่ต้องรอคิว ไม่ต้องกลัวตกเครื่อง และหากต้องการใช้บริการรับฝากกระเป๋าหรือส่งกระเป๋า แนะนำ Airportels ช่วยลดภาระในการเดินทางให้คุณตัวเบาขึ้น เดินทางสบายทั้งไปและกลับ สนุกกับทุกทริปได้อย่างเต็มที่

ที่มาข้อมูล

ล่องเรือเจ้าพระยา: ค้นพบสุดยอด 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้การเดินทางของคุณไม่ธรรมดา

วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับสายน้ำมาเนิ่นนานโดยเฉพาะ “แม่น้ำเจ้าพระยา” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่ครั้งอดีต แม้ปัจจุบันบทบาทและความสำคัญจะลดเลือนลงไปตามกาลเวลา แต่ความงดงามของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังคงมีมนต์เสน่ห์เสมอ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายทำให้ทุกวันนี้ง่ายต่อการไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ริมฝั่งแม่น้ำ ทว่าการล่องเรือชมแม่เจ้าพระยาเป็นหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากนั่นเพราะจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามจากหลายสถานที่ในมุมมองที่แตกต่างแบบพาโนรามาด้วยเวลาเพียงไม่นาน 

10 แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อล่องเรือเจ้าพระยา

10 แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อล่องเรือเจ้าพระยา
วัดอรุณราชวราราม

วัดเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอกแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งในสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งในยุคนี้มีการอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรจากเวียงจันทน์มาประดิษฐานไว้ที่นี่ด้วย ต่อมารัชกาลที่ 2 ทรงสถาปนาเป็นวัดประจำพระองค์ และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดอรุณราชธาราม จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นวัดอรุณราชวรารามในสมัยรัชกาลที่ 4 วัดอรุณราชวรารามมีพระปรางค์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามด้านสถาปัตยกรรม โดดเด่นด้วยความสูงถึง 82 เมตร หากล่องเรือผ่านมาในช่วงเย็นจะมองเห็นภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าด้านหลังพระปรางค์ซึ่งสวยงามเกินคำบรรยาย หากเป็นช่วงค่ำพระปรางค์องค์ใหญ่จะกระทบแสงไฟระยิบระยับงามสง่าไปทั่วคุ้งน้ำจนไม่อาจละสายตาได้เช่นกัน

Royal Thai Navy Convention Hall
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Royal Thai Navy Hall – BANGKOK

นอกจากความสวยสง่าของอาคารสถานที่ อนุสาวรีย์บุคคลสำคัญของกองทัพเรือ และสะพานข้ามคลองมอญอันขึ้นชื่อแล้ว ที่นี่ยังมีหอประชุมกองทัพเรือซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับพระบรมมหาราชวัง โดยหอประชุมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2546 เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมและต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม APEC 2003 รวมทั้งเป็นสถานที่ชมการแสดงกระบวนพยุหยาตราชลมารคด้วย หากล่องเรือมาถึงบริเวณนี้จะเห็นพื้นที่ด้านหน้าซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นลานกว้างเปิดโล่งรับกับทัศนียภาพของพระปรางค์วัดอรุณ โดดเด่นด้วยศาลาทรงไทยขนาดใหญ่ซึ่งช่วยส่งให้อาคารหอประชุมสีขาวด้านหลังสง่างามมากยิ่งขึ้น 

สะพานพระราม8

สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามโดดเด่นจนเป็นเอกลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2538 และเปิดใช้บริการใน พ.ศ. 2545 มีลักษณะเป็นสะพานขึงแบบสมมาตร ยาว 475 เมตร ซึ่งเป็นสะพานแขวนอสมมาตรที่ยาวติดอันดับ 5 ของโลก ไม่ว่าจะล่องเรือผ่านมาในช่วงเย็น พลบค่ำ หรือกลางคืน บรรยากาศของสะพานพระราม 8 ก็มีเสน่ห์ชวนมองไม่รู้เบื่อ ถือป็นจุดถ่ายรูปบนเรือที่ไม่ควรพลาด 

สะพานพุทธ

สะพานถนนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เก่าแก่ที่สุดของไทย โดยสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 ลักษณะเด่นของสะพานจึงเกี่ยวเนื่องกับพระองค์ท่าน อาทิ เป็นสะพานเหล็กที่มีโครงสร้างทรงลูกศร (หัวลูกศรหันไปทางฝั่งธนบุรี) ซึ่งออกแบบตามพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 7 ทั้งยังเป็นสะพานสีเขียวแห่งเดียวในกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 7 นอกจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสะพานที่สวยงามแล้วบริเวณเชิงสะพานยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนและร้านค้ามากมาย เพราะมีตลาดกลางคืนขนาดใหญ่ ดังนั้นเมื่อล่องเรือเจ้าพระยาผ่านมาเราจะได้สัมผัสทั้งทัศนียภาพของสะพานพุทธและสีสันยามค่ำคืนของตลาดแห่งนี้

สะพานตากสิน

สะพานตากสินหรือสะพานสาทร ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2525 เนื่องในวโรกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปี เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแบบสะพานคู่ (ขาเข้าและขาออก) ห่างกัน 15 เมตร ตรงกลางเป็นรางรถไฟฟ้า เมื่อมองจากเรือล่องเจ้าพระยาเราจะเห็นแสงสียามค่ำคืนของกรุงเทพฯ และการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นบนสะพาน ด้วยความสูงจากระดับน้ำเพียง 12 เมตร หากล่องเรือผ่านมาในช่วงที่น้ำขึ้นจะมองเห็นใต้สะพานได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้สะพานตากสินยังเป็นจุดถ่ายรูปและชมพลุปีใหม่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมาก 

 เอเชียทีค ริเวอร์ฟรอนท์ 

จากโกดังเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาสู่การเป็นแหล่งชอปปิงยามค่ำคืนและสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ภายใต้แนวคิด Festival Market and Living Museum เมื่อมองมาจากบนเรือล่องเจ้าพระยาจะเห็นทัศนียภาพของศูนย์การค้าที่เปิดโล่งขนาดใหญ่พร้อมแสงสีไนท์ไลฟ์ยามค่ำคืน โดดเด่นด้วยเอเชียทีค สกาย ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงถึง 60 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนบนเรือก็สวย  

พระบรมมหาราชวัง

คนไทยเราคุ้นเคยกับภาพของพระบรมมหาราชวังกันเป็นอย่างดี ทั้งภาพถ่ายหรือวิดีโอที่ได้เห็นตามสื่อต่าง ๆ และอีกจำนวนไม่น้อยที่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชมสถานที่จริง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วภาพเหล่านั้นมักเป็นมุมมองจากบนถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง หากแต่ทัศนียภาพที่ได้ชมบนเรือล่องเจ้าพระยาจะเป็นพระบรมมหาราชวังฝั่งทิศตะวันตกซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาจึงให้มุมมองที่สวยงามและแตกต่างจากเดิม 

สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย วังบางขุนพรหมขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในวังที่สวยที่สุดของประเทศไทย ทั้งยังเป็นวังที่มีสถาปัตยกรรมบารอกและโรโคโคสมบูรณ์แบบที่สุดด้วย 

โบราณสถานสำคัญของชาติซึ่งถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันพระนคร ป้อมพระสุเมรุได้รับการซ่อมแซมบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5 และยังคงความสง่างามมาจนถึงปัจจุบัน

เป็นจุดนั่งชมทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง ทั้งยังมีพระที่นั่งสันติชัยปราการซึ่งเป็นพลับพลาที่สร้างขึ้นมาเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 9 สำหรับใช้เป็นสถานที่จัดพระราชประเพณีต่าง ๆ อันเกี่ยวกับแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่ออยู่บนเรือล่องเจ้าพระยาจะมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของพระที่นั่งสันติชัยปราการยามกระทบแสงไฟท่ามกลางภูมิทัศน์อันสวยงามร่มรื่นของสวนสาธารณะแห่งนี้

แนะนำวิธีการเยี่ยมชม

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการล่องเรือเจ้าพระยาหลายราย สามารถเลือกรายละเอียดได้ตามต้องการ อาทิ วัน/เวลาเดินทาง โปรโมชั่นอาหาร/เครื่องดื่ม ราคา และลักษณะของเรือ เช่น จำนวนชั้นของเรือ ดาดฟ้า หลังคา ทั้งนี้แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะได้จองที่นั่งริมระเบียงดาดฟ้าเรือซึ่งเต็มค่อนข้างเร็ว ถ้าเลือกได้ให้นั่งบริเวณปีกขวา ขาไปจะได้ใช้เวลาในการรับประทานอาหารแล้วขากลับค่อยถ่ายรูปให้ฉ่ำใจ และหากจุดที่นั่งอยู่ถ่ายรูปแล้วเห็นวิวไม่ชัดแนะนำให้เดินไปที่หัวเรือรับรองว่าได้รูปสวยแน่นอน 

คำแนะนำการล่องเรือ

การล่องเรือเจ้าพระยาในวันธรรมดาจะมีเฉพาะรอบค่ำ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์เปิดเพิ่มรอบเย็น (ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งใจมาถ่ายรูปเนื่องจากช่วงเวลานั้นแสงธรรมชาติกำลังสวย มองเห็นวิวได้ชัดเจน แถมมีโอกาสได้ที่นั่งวิวดีเพราะมีจำนวนผู้ใช้บริการน้อยกว่าช่วงค่ำ ทั้งยังมีราคาถูกกว่าด้วย อย่างไรก็ตามทุกรอบจะมีเส้นทางเดินเรือและการบริการภายในเรือที่เหมือนกัน เพียงแต่รอบเย็นนั้นใช้เวลาในการเดินเรือสั้นกว่า 

หากเรือที่จองเป็น Meridian Cruise, White Orchid River Cruise, Alangka Cruise, Smile Riverside และ Chao Phraya Princess จะต้องมาลงเรือที่ท่าเรือไอคอนสยาม ซึ่งสามารถติดต่อขอรับบัตรได้ที่จุดบริการชั้น G โซนสุขสยาม โดยจะมีห้องกระจกระบุชื่อเรือแต่ละลำไว้ หลังจากรับบัตรเรียบร้อยแล้วออกมานั่งเล่นรอบบริเวณท่าเรือตามที่ระบุไว้บนบัตรได้เลย และสำหรับผู้ที่มาใช้บริการ ล่องเรือเจ้าพระยา ไอคอนสยาม มอบสิทธิพิเศษในการจอดรถฟรี 4 ชั่วโมง โดยสามารถเดินจากลานจอดรถมาที่ท่าเรือได้อย่างสะดวกสบาย

เวลาประมาณสองชั่วโมงของการล่องเรือเจ้าพระยาเราได้ชมความงดงามของสถานที่ต่าง ๆ มากมาย ท่ามกลางลมเย็น ๆ จากแม่น้ำปะทะผิวหน้า วิวเจ้าพระยาแบบพาโนรามา อาหารแสนอร่อย แวดล้อมด้วยบรรยากาศแห่งความสุขโดยรอบ เชื่อว่าคงเป็นชั่วโมงต้องมนต์ของทุกคนอย่างแน่นอน

ที่มาข้อมูล :

สำรวจบุฟเฟ่ต์เด็ด MBK: ร้านอาหารที่จะทำให้คุณต้องกลับมาอีก

สำรวจบุฟเฟ่ต์เด็ด MBK: ร้านอาหารที่จะทำให้คุณต้องกลับมาอีก

ไม่ว่าจะอดีตในชื่อ “มาบุญครอง” หรือปัจจุบันในนาม “MBK Center” ที่นี่ยืนหนึ่งเรื่องการเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นมาทุกยุคทุกสมัย เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการโดยเฉพาะโซนอาหารและคาเฟ่ ซึ่ง MBK Center ได้คัดสรรร้านดังร้านเด็ดมากมายมารวมไว้จนกลายเป็น HUB OF CAFE & RESTAURANT ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองซึ่งเหล่านักชิมทั้งหลายไม่ควรพลาด

ล่าสุด MBK Center New Episode ยังได้จัดโซนใหม่ All Day Dining & Midnight Life Space ยกขบวนร้านอร่อยชื่อดังมาให้บริการตั้งแต่ 07.00 น. เรื่อยไปจนถึงดึก นอกจากขยายเวลาให้บริการความอร่อยแล้วที่นี่ยังมีร้านบุฟเฟต์ให้เลือกมากมายหลายแบบรับรองว่าถูกใจสายกินอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ไปส่องร้านบุฟเฟต์ที่ MBK Center กัน

1.Senju Shabu & Sushi Premium Buffet 

.Senju Shabu & Sushi Premium Buffet 
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Hungry with Pungy

บุฟเฟต์ชาบูและซูชิสุดพรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่นแท้ อิ่มอร่อยได้อย่างหลากหลายเพราะมีรายการอาหารให้เลือกเยอะ คุ้มค่ายืนหนึ่งในเรื่องของชาบูด้วยน้ำซุปที่มีมากถึง 8 แบบ ได้แก่ ซุปชาบู ซุปกิมจิ ซุปเล้งแซ่บ ซุปต้มยำ ซุปเห็ดหอมไวน์แดง ซุปหม่าล่า ซุปสุกี้ยากี้ และซุปกระดูกหมู โดยใน 1 หม้อ สามารถเลือกได้ถึง 4 ซุป พร้อมเนื้อวัวนำเข้าเกรดพรีเมียม เนื้อหมู อาหารทะเล และผักสด ซูชิก็ไม่น้อยหน้าจัดเต็มมาให้แบบจุก ๆ ทั้งยังมีซาชิมิ อาหารญี่ปุ่น และขนมหวานแสนอร่อยที่เสิร์ฟไม่อั้น

  • ราคา : Classic Buffet 399+, Superior Buffet 699 +, Deluxe Buffet 899 +, Diamond Buffet 1,099 + และ Royal Buffet 1,599 บาท  
  • เปิดบริการ : วันจันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 22.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ 10.00 – 22.00 น.                                      
  • พิกัด : ชั้น 7
สุกี้ตี๋น้อย

บุฟเฟต์สุกี้เจ้าดังที่ให้ทุกคนอิ่มอร่อยในราคาไม่แพง พร้อมความหลากหลายของเมนู ภายใต้คอนเซ็ปต์อร่อยได้ไม่อั้นเที่ยงวันยันเช้า โดยสาขานี้เป็นสาขาแรกที่มีของทอดให้ทานเล่น ทั้งเฟรนช์ฟรายส์ แผ่นเกี๊ยวทอด ชิกุว่าสอดไส้ชีส และไก่ป๊อป ไม่ว่าคิวจะยาวแค่ไหนก็ยังพออุ่นใจได้ในการรอเพราะสาขานี้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างรองรับการให้บริการได้จำนวนมาก

  • ราคา : 219 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิล 39 บาท/คน และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) เด็กส่วนสูงไม่ถึง 90 ซม. รับประทานฟรี
    เด็กส่วนสูง 91 – 120 ซม. ราคา 109 บาท 
  • เปิดบริการ : 12.00 – 05.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน C
Shinkanzen sushi
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Shinkanzen sushi

เป็น ร้านอาหาร mbk ที่มีให้เลือกทั้งแบบ A la carte และบุฟเฟต์ บอกเลยว่าซูชิเลิฟเวอร์ทั้งหลายไม่ควรพลาดเพราะร้านนี้มีซูชิคุณภาพเกรดพรีเมียม มาพร้อมอาหารญี่ปุ่นกว่า 200 เมนูให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นซูชิเนื้อวากิว ซูชิแซลมอนย่างสไปซี่ ซูชิปลาไหล ซูชิปลาหมึกหิ่งห้อย ซูชิอูนิ(ชิลี) ซาชิมิแซลมอน หอยเชลล์ ทูน่า ชิราชิด้ง เอ็นกาวะย่าง กุ้งดองซีอิ๊วญี่ปุ่น กุ้งหวานญี่ปุ่นจัมโบ้ย่างเมนไตโกะ หอยนางรมพอนสึ ไข่แซลมอน และอีกมากมายที่พร้อมเสิร์ฟแบบไม่อั้น 

  • ราคา : 329+, 549+ และ 879+ ( ไม่รวมเครื่องดื่มและภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)                      
  • เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น. 
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน A
บุฟเฟต์ชาบูสายพานมาพร้อมอาหารและเมนูทานเล่นหลากหลายเมนู ทั้งซูชิ เทมปุระ ซาบะย่าง ข้าวแกงกะหรี่ เ

บุฟเฟต์ชาบูสายพานมาพร้อมอาหารและเมนูทานเล่นหลากหลายเมนู ทั้งซูชิ เทมปุระ ซาบะย่าง ข้าวแกงกะหรี่ เกี๊ยวซ่า มิโสะซุป ไอศกรีม ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ส่วนไลน์สายพานนั้นก็ยังคงจัดเต็มเช่นเดิม หนึ่งในร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่นขวัญใจสายบุฟเฟต์ก็ต้องมีชื่อชาบูชิ 

  • ราคา : 399+ (ราคาสุทธิ 427 บาท)
  • เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 7
โม โม พาราไดซ์

ร้านอาหาร mbk สไตล์ชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ รสชาติต้นตำรับแท้จากประเทศญี่ปุ่นมาพร้อมกับเนื้อคุณภาพระดับพรีเมียม ทั้งเนื้อวากิว เนื้อ USDA และเนื้อวัว Australian นอกจากนี้ยังมีหมูคุโรบูตะ ไก่ไม้ไผ่ซึ่งใช้ไก่เบญจา เป็ดอนามัย และผักสดปลอดสารพิษ ลงตัวกับน้ำซุปที่หอมกลมกล่อม 4 แบบ ได้แก่ น้ำซุปชาบูชาบู น้ำซุปสุกี้ยากี้ น้ำซุปทงคตสึ และน้ำซุปคารามิโสะ ตบท้ายด้วยของหวานแสนอร่อยอย่างไดฟุกุ ซอฟครีม และไอศกรีมโฮมเมดหลากรส แม้จะมีเมนูไม่มากแต่จัดว่าเด็ดและเน้นการใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งร้านที่สายเนื้อไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง 

  • ราคา : 599+, 729+ และ 1,290+
  • เปิดบริการ : วันจันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 22.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ 10.00 – 22.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 7
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: นักล่าหมูกระทะ Nak-La Mookata

แม้จะเสิร์ฟมาในรูปแบบเซตแต่ก็ขอเหมารวมร้านหมูกระทะติดแอร์อย่างนักล่าหมูกระทะไว้ในกลุ่มบุฟเฟต์ด้วย เพราะที่นี่มีบาร์ผักให้เติมได้ไม่อั้นหรือเรียกได้ว่าเป็นบุฟเฟต์ผักนั่นเอง มาพร้อมน้ำจิ้ม 5 แบบ อร่อยทุกแบบโดยเฉพาะน้ำจิ้มไข่ดองซึ่งต้องยกนิ้วให้เลยว่าเด็ดจริง และไม่ว่าจะสั่งเซตหมูหรือเนื้อทางร้านมีซีฟู้ดมาให้ด้วยรับรองอิ่มคุ้มแน่นอน 

  • ราคา : เซตหมู เริ่มต้นที่ 279 บาท  เซตเนื้อ เริ่มต้นที่ 299 บาท 
  • เปิดบริการ : 11.00 – 02.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน C 

ไม่ว่าจะชอบบุฟเฟต์แบบไหน สุกี้ ชาบู หมูกระทะ ซูชิ หรือซาชิมิ MBK Center รวมไว้ให้ในที่เดียว หมดปัญหาว่าจะไปกินอะไรที่ไหนดี ? แค่นัดมาเจอกันก่อนที่ MBK Center แล้วค่อยมาเลือกร้านก็ได้ เพราะทุกร้านที่นี่ให้สายกินฟินแบบไม่อั้น แถมยังเดินทางง่ายจะใช้รถส่วนตัวหรือรถไฟฟ้าก็สะดวก ตอบโจทย์ความต้องการครบขนาดนี้นัดครั้งหน้าเจอกันเลยที่ MBK Center

ที่มาข้อมูล :

ตะลุยกิน! 10 ร้านบุฟเฟต์ยอดนิยม ใกล้ Siam Center

ร้านบุฟเฟต์สุดฮิตใกล้ Siam Center

อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าโซน Siam Center เป็นศูนย์รวมกิจกรรมที่ตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็น BACC หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งระดับโลก  Madame Tussauds Bangkok ห้องอ่านหนังสือ Art Library อควาเรียม SEA LIFE Bangkok Ocean World  สนามเกมยิงปืนเลเซอร์ โรงภาพยนตร์ระบบปกติ 3D และ 4D ลานโบว์ลิ่ง คาราโอเกะ แกลเลอรีงานศิลปะ และกิจกรรม Workshop งานฝีมือ แต่นอกจากกิจกรรมเหล่านี้แล้ว Siam Center ยังเป็นศูนย์รวมของร้านอาหารบุฟเฟต์ที่มีให้เลือกทั้งญี่ปุ่น เกาหลี ปิ้งย่าง ชาบู ซีฟู้ด ร้านอาหาร siam center ร้านไหนน่าสนใจบ้างนั้น เรารวบรวมที่เด็ด ๆ มาฝาก 

Mo-Mo-Paradise

ร้านสุกี้ยากี้และชาบูชาบูชื่อดังต้นตำรับแท้จากญี่ปุ่น โดดเด่นด้วยรสชาติของน้ำซุปต้นตำรับ ไข่อนามัยที่กินดิบได้ และไอศกรีมโฮมเมดสูตรเฉพาะที่มีให้เลือกถึง 5 รสชาติ ได้แก่ นมข้าว ชาเขียว บ๊วย มะม่วง และชาโคล นอกจากนี้ยังมีไดฟุกุรสเด็ดรับประทานได้ไม่อั้น

  • ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 เปิดให้บริการเวลา 11.00 – 20.00 น.
  • ประเภทอาหาร  บุฟเฟต์ชาบูชาบูสไตล์ญี่ปุ่น
  • ราคา ผู้ใหญ่ 659 บาทต่อคน เด็กความสูง 110 – 140 ซม. 329 บาทต่อคน รับประทานได้ 1 ชั่วโมง 40 นาที
ร้าน Sukishi เป็นร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลี

ร้าน Sukishi เป็นร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีที่มาพร้อมอาหารญี่ปุ่น มีเมนูให้เลือกหลากหลาย ทั้งเนื้อสัตว์หมักซอสโคชูจัง เนื้อสัตว์หมักซอสสไตล์เกาหลี อาหารทะเล ซาชิมิ ทะเลดองซีอิ๊วเกาหลี ซูชิ ซุปเต้าหู้ ข้าวยำเกาหลี ของทอด ของหวาน และไอศกรีม 

  • ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 เปิดให้บริการเวลา 11.00 – 20.00 น.
  • ประเภทอาหาร  บุฟเฟต์ปิ้งย่างสไตล์เกาหลีและอาหารญี่ปุ่น
  • ราคา มี 4 ราคา ได้แก่ Copper 489 บาทต่อคน Silver 599 บาทต่อคน Gold 819 บาทต่อคน และ Platinum 1,479 บาทต่อคน รับประทานได้ 1 ชั่วโมง 30 นาที เด็กความสูงต่ำกว่า 110 ซม. รับประทานฟรี
You & I Premium Suki Buffet
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: You&I Premium Suki Buffet (Fashion Island. B flr.) 

ร้านบุฟเฟต์สุกี้เกรดพรีเมียมที่ตอบโจทย์คนชอบเนื้อด้วยเนื้อหลากหลายแบบ ทั้งวากิว เนื้อคาราร่าวากิว เนื้อพรีเมียมวากิวชัคโรล และเนื้อแองกัสชัคโรล แต่ถ้าใครไม่กินเนื้อก็มีคุโรบูตะชีส หมูชาชู อาหารทะเล ปลาไหลย่างซีอิ๊ว หอยนางรม และมีขนมหวานหลากหลายชนิดให้เลือกรับประทานด้วย 

  • ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 2 เปิดให้บริการเวลา 11.00 – 20.00 น.
  • ประเภทอาหาร  บุฟเฟต์สุกี้
  • ราคา มีให้เลือก 4 ราคา ไม่รวมเครื่องดื่ม ได้แก่ Standard Buffet 533 บาทต่อคน Premium Buffet 747 บาทต่อคน Super Premium Buffet 961 บาทต่อคน และ Ultimate Buffet 1,496 บาทต่อคน รับประทานได้ 1 ชั่วโมง 20 นาที เด็กส่วนสูงไม่เกิน 120 ซม. รับประทานฟรี 
Sizzler ร้านสเต๊กยอดฮิตที่หลายคนชื่นชอบ

ร้านสเต๊กยอดฮิตที่หลายคนชื่นชอบ เพราะนอกจากรสชาติที่ถูกปากคนไทยแล้ว ยังมีบุฟเฟต์สลัดผัก ซุป และขนมหวานให้เลือกรับประทานมากมาย 

  • ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 4 เปิดให้บริการเวลา 10.00 – 21.00 น.
  • ประเภทอาหาร  สเต๊กแบบ A La Carte บุฟเฟต์สลัดบาร์
  • ราคา ขึ้นอยู่กับประเภทอาหารที่สั่ง ราคาเริ่มต้นที่ 139 บาท
Dookki Topokki (ดุ๊กกี้ ต๊อกโปกี)

ร้าน Dookki Topokki (ดุ๊กกี้ ต๊อกโปกี) จากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งนอกจากจะมีต๊อกให้เลือกหลายแบบ ทั้งต๊อกแบบยาว ต๊อกแบบเส้น และต๊อกรูปหัวใจแล้ว ยังมีเนื้อสัตว์ ผัก ของทานเล่น และน้ำอัดลมบริการแบบไม่อั้นอีกด้วย 

  • ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ชั้น G เปิดให้บริการเวลา 10.30 – 22.00 น.
  • ประเภทอาหาร บุฟเฟต์ต๊อกโบกี 
  • ราคา ผู้ใหญ่ 299 บาทต่อคน เพิ่ม Fondue Cheese ราคา 120 บาท รับประทานได้ 1 ชั่วโมง 30 นาที
Tenjo Sushi & Yakiniku Premium Buffet 

ร้านบุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น มีอาหารให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวากิว หมูคุโรบูตะ หมูชาบู ปลาไข่ แซลมอน ซูชิ กุ้งแม่น้ำ ชีส ขนม ไอศกรีม และของทานเล่นอีกมากมาย 

  • ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 5 เปิดให้บริการเวลา 11.00 – 22.00 น.
  • ประเภทอาหาร บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่นปิ้งย่าง 
  • ราคา มีให้เลือก 6 ราคา ได้แก่ Yakiniku Lover ราคา 470 บาทต่อคน Premium Buffet 764 บาทต่อคน Prime Buffet 1,000 บาทต่อคน  Platinum Buffet 1,294 บาทต่อคน Prestige Buffet 1,647 บาทต่อคน Ultima Buffet 2,118 บาทต่อคน สั่งอาหารได้ 1 ชั่วโมง 30 นาที รับประทานอาหารได้ 2 ชั่วโมง
Hongdae Buffet ร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลี

ร้านบุฟเฟต์ปิ้งย่างเกาหลีที่เหมือนยกเอาย่านฮงแดมาอยู่ใจกลางสยาม เพราะนอกจากจะจัดเนื้อสัตว์หมักซอสเกาหลี ของทานเล่น และเครื่องเคียงมาให้อย่างจุใจแล้ว ภายในร้านยังเปิดเพลงเกาหลีฮิต ๆ ตลอดทั้งวันเพิ่มบรรยากาศความเป็นเกาหลีอีกด้วย 

  • ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 5 เปิดให้บริการเวลา 11.00 – 22.00 น.
  • ประเภทอาหาร บุฟเฟต์อาหารเกาหลีปิ้งย่าง 
  • ราคา มีให้เลือก 2 ราคา ได้แก่ Standard Buffet 387 บาทต่อคน  Premium Buffet 470 บาทต่อคน รับประทานได้ 1 ชั่วโมง 30 นาที 
ร้าน Kouen Sushi Bar สุดยอดบุฟเฟต์แซลมอนและอาหารญี่ปุ่น

ร้าน Kouen Sushi Bar สุดยอดบุฟเฟต์แซลมอนและอาหารญี่ปุ่นที่มีจุดเด่นเรื่องการเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพเกรดพรีเมียมนำเข้าจากญี่ปุ่น อย่างเมนูแซลมอนซาชิมิ ปูหิมะย่างซอสมิโซะ ข้าวปั้นไส้กุ้งโบตันราดซอสมันกุ้งล็อบสเตอร์สูตรเข้มข้น กุ้งโบตันราดซอสสูตรพิเศษเบิร์นไฟ เนื้อสันในย่าง ซูชิวากิว ตบท้ายด้วยไอศกรีมสูตรเฉพาะของทางร้าน รับรองว่ามาแล้วไม่มีคำว่าผิดหวัง

  • ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 5 เปิดให้บริการเวลา 11.00 – 22.00 น.
  • ประเภทอาหาร บุฟเฟต์อาหารญี่ปุ่น 
  • ราคา มีให้เลือก 5 ราคา ได้แก่ Variety Buffet 587 บาทต่อคน  Deluxe Buffet 823 บาทต่อคน  Premium Buffet 940 บาทต่อคน Oyster Lover Buffet 999 บาทต่อคน และ Ultima Buffet 1,764 บาทต่อคน รับประทานได้ 2 ชั่วโมง 
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Wisdom International Buffet 

ร้านอาหารบุฟเฟต์ที่เสิร์ฟเมนูอาหารนานาชาติ ทั้งอาหารไทย อาหารจีน อาหารญี่ปุ่น อาหารตะวันตก และที่สำคัญทุกเมนูใช้วัตถุดิบคุณภาพที่ดูก็รู้ว่าคุณภาพเกินราคา 

  • ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 5 เปิดให้บริการเวลา 11.00 – 22.00 น.
  • ประเภทอาหาร บุฟเฟต์อาหารนานาชาติ 
  • ราคา มีให้เลือก 3 ราคา ได้แก่ Wisdom Buffet Platinum Buffet 1,353 บาทต่อคน Wisdom Buffet Diamond Buffet 2,000 บาทต่อคน และ Wisdom Buffet Elite Buffet 3,530 บาทต่อคน รับประทานได้ 2 ชั่วโมง 
ร้าน BURN WHALE ร้านบุฟเฟต์ที่ยกซีฟู้ดเกรดพรีเมียม
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: BURN WHALE 

ร้าน BURN WHALE ร้านบุฟเฟต์ที่ยกซีฟู้ดเกรดพรีเมียมมาให้เลือกรับประทานมากกว่า 80 เมนู แถมไม่ต้องนั่งย่างเองให้เสียเวลาและไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นควัน

  • ตั้งอยู่ที่ ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ชั้น 5 เปิดให้บริการเวลา 11.00 – 22.00 น.
  • ประเภทอาหาร บุฟเฟต์อาหารทะเล 
  • ราคา มีให้เลือก 2 ราคา ได้แก่ 599 บาทต่อคน และ 799 บาทต่อคน รับประทานได้ 1 ชั่วโมง 40 นาที

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับ 10 ร้านบุฟเฟต์สุดฮิตใกล้ Siam Center ที่เรานำมาฝากในวันนี้ เรียกว่าน่าสนใจและอัดแน่นไปด้วยคุณภาพ ส่วนจะเลือกร้านไหนก็แล้วแต่ความชอบ เพราะราคาบุฟเฟต์ของ ร้านอาหาร siam center ไม่แตกต่างกันมากนัก

ที่มาข้อมูล

JJ Mall 2024 : อัพเดทเทรนด์ใหม่ ของวินเทจ ของฮิต คนไทยนิยมช้อป

TukTuk Thailand

jj mall แหล่งชอปสุดฮิปที่ปัจจุบันกลายเป็นแลนด์มาร์กของคนรุ่นใหม่รวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องการมาเลือกสินค้ากลับไปฝากคนที่บ้าน จุดเด่นคือการเป็นตลาดนัดจตุจักรเวอร์ชั่นมีแอร์ ไม่ร้อน เดินชอปได้อย่างชิล ๆ ตั้งอยู่ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ติดกับสวนจตุจักร ชอปปิงมอลล์ที่ครบเครื่อง รวบรวมสินค้ายอดฮิตมาไว้ที่นี่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ที่สำคัญยังมี Food Court ขนาดใหญ่ ชอป ชิม ชิลแบบครบ ๆ 

เจเจมอลล์มีอะไร เพราะอะไรใคร ๆ ก็อยากมา

 bangsue junction

ไม่ว่าจะเป็นสายไหน สายแฟชั่น สายรักสัตว์ สายรักสวยรักงาม หรือสายแต่งบ้าน ก็สามารถมาเดินชอปไอเทมที่ตัวเองชอบได้ รวบรวมสินค้ามากมายหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง เครื่องประดับ ของแต่งบ้าน ของที่ระลึก เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า หัตถกรรม เครื่องหนัง ฯลฯ อีกทั้งยังมีโซนกิจกรรมเพิ่มความคึกคักทุกเทศกาลด้วยการแสดงที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมามอบความบันเทิง

ใครอยากรู้ว่าเจเจมอลล์มีอะไร เพราะอะไรใคร ๆ ก็อยากมา ลองมาดูกันว่าแต่ละชั้นและโดยรอบโครงการมีอะไรน่าสนใจบ้าง จะได้ไม่พลาด

เจเจมอลล์ จตุจักรติดแอร์ รวบรวมสินค้าไว้มากมาย อยากได้อะไรก็หาได้

ชั้นที่รวบรวมสินค้าหลากหลายหมวดหมู่แต่ที่ดูโดดเด่นเป็นพิเศษคือสินค้าแฮนด์เมด สินค้า OTOP รวมถึงของแต่งบ้านดีไซน์เก๋ บอกเลยว่าคนชอบงานทำมือหรือชอบแต่งบ้านต้องเพลิดเพลินและได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน

ต่อกันที่ชั้น 1 ซึ่งหากมาชั้นนี้แน่นอนว่าต้องนึกถึงสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋าหนัง นอกจากนี้ยังมีร้านดอกไม้ที่สามารถซื้อไปตกแต่งบ้านได้ สำหรับร้านแนะนำ ได้แก่ ร้านผ้าไหมจีน เสื้อดีไซน์เอกลักษณ์ เหมาะกับช่วงตรุษจีนสุด ๆ ร้าน Riotino ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นดีไซน์เก๋ ร้านมาดาม สโตน ร้านเครื่องประดับ หินสวย ๆ เพียบ และร้าน DEC ร้านดอกไม้ที่แสนสดใสสำหรับคนชอบแต่งบ้าน

เอาใจสายอาร์ตและสายแต่งบ้านกันบ้าง ชั้นนี้รวบรวมภาพวาดศิลป์ งานปั้น พระพุทธรูป และของแต่งบ้านมีสไตล์ ร้านแนะนำ ได้แก่ ร้านดอกไม้แต่งบ้าน Seasonray ร้านสบู่ไทยแลนด์มาพร้อมลวดลายสบู่อันมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์อาหารชั้นนำที่ถูกยกให้เป็นศูนย์อาหารที่ดีที่สุดในย่านจตุจักร รวบรวมเมนูดังมากกว่า 1,000 เมนู 

ใครเป็นคนรักสัตว์หรือมองหาสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ โดยรอบโครงการก็มีตลาดสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นปลาสวยงาม สุนัข กระต่าย กระรอก ฯลฯ มากไปกว่านั้นยังมีกิจกรรมมากมาย หมุนเวียนมามอบความบันเทิง เช่น กิจกรรมร้องเพลง กิจกรรมเชิดสิงโต เป็นต้น

การรวบรวมสินค้าไว้มากมาย แถมยังมี Food Court ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถชอปปิงและหาของอร่อยรับประทานได้แบบครบ ๆ ในที่เดียว jj mall จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กสุดฮิปที่ไม่ว่าใครก็ห้ามพลาด เปิดให้บริการทุกวัน จะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงสถานีกำแพงเพชรก็สะดวก หรือจะนำรถมาเองก็มีลานจอดรถที่รองรับได้มากกว่า 2,000 คัน ใครสะดวกอย่ารอช้า รีบพุ่งตัวมาชอปกันเลย

ที่มาข้อมูล: