จุดเปลี่ยนเชียงใหม่ ด้วยบริการฝากกระเป๋าที่จะทำให้การท่องเที่ยวของคุณคุณสะดวกสบายมากขึ้นยิ่งขึ้น

bagpack-chiang-mai

เชียงใหม่ เมืองแห่งขุนเขาและวัฒนธรรมอันงดงาม เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ด้วยความหลากหลายทางธรรมชาติ วัดวาอารามที่เก่าแก่และวิถีชีวิตที่ผ่อนคลาย เชียงใหม่จึงมีเสน่ห์ที่ดึงดูดใจผู้มาเยือนให้กลับมาครั้งแล้วครั้งเล่า

การเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการท่องเที่ยวเชียงใหม่

วัฒนธรรมการท่องเที่ยวในเชียงใหม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ปัจจุบันเน้นการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน มีการส่งเสริมการอนุรักษ์วัฒนธรรมและประเพณีของชาวบ้านในท้องถิ่น รวมถึงการสร้างกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถมีส่วนร่วมได้ เช่น การเรียนรู้การทำอาหารพื้นเมือง การทำงานฝีมือท้องถิ่น อีกด้านความเปลี่ยนแปลงคือความสะดวกสบายและการบริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวสมัยใหม่ปัจจุบันมีมากขึ้นคือมีการอำนวยความสะดวกในทุกการเดินทางยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางด้วยรถโดยสารหรือเครื่องบิน หนึ่งในบริการที่เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้คือ การให้บริการรับฝากกระเป๋าและส่งกระเป๋า ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้นักท่องเที่ยวมีความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ยังช่วยให้สามารถสัมผัสกับเมืองเชียงใหม่ได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าสัมภาระที่ต้องถือไปมาตลอดทั้งวัน

บริการฝากกระเป๋าที่ทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากขึ้น

ฝากกระเป๋า

การรับฝากกระเป๋าและส่งกระเป๋าไปยังที่พักหรือสถานีขนส่ง เป็นหนึ่งในบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางอย่างสะดวกสบายและไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าสัมภาระ บริการนี้ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ เนื่องจากช่วยลดเวลาในการเดินทางเพื่อนำกระเป๋าสัมภาระไปเก็บไว้ยังโรงแรมที่พัก ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถใช้เวลาท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่ เพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง ซึ่งบริการนี้ไม่เพียงแต่ช่วยลดภาระในการพกพากระเป๋าหนัก ๆ แต่ยังช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถสนุกสนานกับการท่องเที่ยวได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเวลาไปกับการดูแลกระเป๋า

บริการระบบขนส่งสาธารณะและเอกชน

rod-deang-chiang-mai
ขอบคุณภาพจาก : กรุงเทพธุรกิจ

เชียงใหม่มีระบบขนส่งที่หลากหลาย ตั้งแต่รถสองแถวสีแดงที่เป็นเอกลักษณ์ รถแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ไปจนถึงบริการขนส่งสาธารณะ เช่น รถเมล์สายต่าง ๆ ที่ให้บริการวิ่งในพื้นที่ชั้นในของจังหวัดเชียงใหม่ รวมถึงบริการเช่ารถท่องเที่ยวจากบริษัทเอกชน

การปรับตัวของธุรกิจท่องเที่ยวยุคใหม่

ในยุคที่เทคโนโลยีและการแข่งขันทางการตลาดพัฒนาอย่างรวดเร็ว ธุรกิจท่องเที่ยวจำเป็นที่จะต้องปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของนักท่องเที่ยว โดยมุ่งเน้นไปที่การเพิ่มความสะดวกสบายและประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น โดยอาศัยกลยุทธ์บางอย่าง เช่น

การจองแบบดิจิทัลแบบไร้รอยต่อ

online booking

ปัจจุบันนักท่องเที่ยวอาศัยข้อมูลและการจองทัวร์ เที่ยวบินและที่พักผ่านเว็บไซต์ แพลตฟอร์มออนไลน์ ที่สามารถจองได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านมือถือสมาร์ทโฟนและมีการบูรณาการกับระบบการจองต่าง ๆ ให้เสร็จสรรพภายในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเดียวเพื่อให้กระบวนการจองเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ เช่น เมื่อนักท่องเที่ยวจองตั๋วเครื่องบิน ก็จะมีออปชันเสริมให้จองที่พัก บริการรับฝากกระเป๋า รถโดยสารหรือรถเช่า แบบเบ็ดเสร็จในแอปพลิเคชันเดียว เป็นต้น

การชำระเงินที่ยืดหยุ่นและปลอดภัย

นักท่องเที่ยวต้องการตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลายและปลอดภัย ธุรกิจท่องเที่ยวควรให้บริการช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิตและระบบการชำระเงินออนไลน์ที่เชื่อถือได้ เพื่อให้แน่ใจว่านักท่องเที่ยวสามารถชำระเงินได้อย่างสะดวกและปลอดภัย

การบริการลูกค้าแบบออนไลน์

นักท่องเที่ยวต้องการการสนับสนุนและข้อมูลตลอดการเดินทาง ธุรกิจท่องเที่ยวควรให้บริการการสนับสนุนลูกค้าแบบออนไลน์ผ่านทางแชทบอท อีเมล หรือโซเชียลมีเดีย เพื่อตอบคำถามและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปใช้ในธุรกิจท่องเที่ยวสามารถเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่นักท่องเที่ยวได้อย่างมาก ซึ่งส่งผลให้เกิดความพึงพอใจของลูกค้าเพิ่มขึ้น การจองซ้ำมากขึ้นและธุรกิจสามารถเติบโตในระยะยาวได้ บริการฝากกระเป๋าเป็นตัวอย่างที่ดีของการปรับตัวของธุรกิจท่องเที่ยวในยุคดิจิทัล โดยผู้ประกอบการได้ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการพัฒนาบริการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจองบริการผ่านแอปพลิเคชัน หรือการติดตามสถานะการจัดส่งกระเป๋าผ่านระบบออนไลน์ อำนวยความสะดวกและสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยวหรือผู้ใช้บริการได้มากยิ่งขึ้น

ประสิทธิภาพของการท่องเที่ยวแบบไม่ต้องถือสัมภาระเอง

การท่องเที่ยวแบบไม่ต้องถือสัมภาระเองเป็นแนวคิดที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเดินทางและทำให้การท่องเที่ยวสนุกสนานมากยิ่งขึ้น การเดินทางไปเยือนสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องกระเป๋าหรือสัมภาระทำให้คุณสามารถใช้เวลาไปกับการสำรวจเมืองและสถานที่ท่องเที่ยวได้มากขึ้น

นอกจากนั้นการท่องเที่ยวแบบนี้ยังช่วยลดความเหนื่อยล้าจากการแบกกระเป๋าและหอบสัมภาระหนัก ๆ ทำให้คุณสามารถสนุกกับการเดินทางได้อย่างเต็มที่ เช่น หากคุณต้องการเดินเที่ยวในตัวเมืองเชียงใหม่ สำรวจวัดต่าง ๆ หรือเดินเล่นในตลาดนัดกลางคืน การฝากกระเป๋าไว้ที่สถานที่ที่ปลอดภัยจะช่วยให้คุณสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระและเพลิดเพลินกับบรรยากาศของเมืองได้มากขึ้น

การลดความไม่สะดวกในการเดินทาง

การเดินทางในเชียงใหม่อาจไม่ราบรื่น โดยเฉพาะในเรื่องของการพกพาสัมภาระหนัก ๆ เช่น การเดินทางจากสนามบินไปยังที่พัก หรือการย้ายจากโรงแรมหนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ในกรณีเหล่านี้การมีบริการฝากกระเป๋าและส่งกระเป๋าที่สะดวกและหลากหลายสถานที่ทั่วเมืองช่วยลดความยุ่งยากในการเดินทางของนักท่องเที่ยวได้

traveler tired

สถานที่ฝากกระเป๋าในเชียงใหม่มีให้บริการในหลาย ๆ พื้นที่สำคัญ เช่น ใกล้กับสถานีขนส่ง สนามบิน ห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ บางบริการยังมีตัวเลือกในการจัดส่งกระเป๋าไปยังที่พักหรือสถานที่ที่นักท่องเที่ยวต้องการโดยตรง ซึ่งช่วยลดความยุ่งยากในการเดินทางและทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

airportels-luggage-storage
เคาน์เตอร์รับฝากกระเป๋าที่เชียงใหม่ โดย แอร์พอเทลล์

การเพิ่มประสิทธิภาพในการท่องเที่ยว

การไม่ต้องพกกระเป๋าของตัวเองทั้งวันช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเพลิดเพลินกับทริปท่องเที่ยวได้อย่างเต็มประสิทธิภาพโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสิ่งของที่ต้องพกพา การที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องพกพาสัมภาระทำให้มีเวลาและพลังงานมากขึ้นในการสำรวจและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ ๆ โดยเฉพาะการท่องเที่ยวที่มีเวลาอันจำกัด ซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพในการท่องเที่ยวเช่นนี้ยังส่งผลให้นักท่องเที่ยวได้วางแผนการเดินทางได้อย่างยืดหยุ่นมากขึ้น สามารถเลือกที่จะเดินทางไปยังหลายสถานที่ในหนึ่งวัน โดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับกระเป๋าสัมภาระ ทำให้ใช้เวลาในการท่องเที่ยวได้อย่างเต็มที่

การส่งเสริมความยั่งยืน

การให้บริการฝากกระเป๋าที่มีคุณภาพและเป็นมาตรฐานสูงช่วยเสริมสร้างความพึงพอใจในการท่องเที่ยวและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวกลับมาใช้บริการอีกครั้งในอนาคตได้ บริการที่ดีไม่เพียงแต่ทำให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์ที่ดีในการเดินทาง แต่ยังส่งผลให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืนในธุรกิจท่องเที่ยว เมื่อธุรกิจท่องเที่ยวมีการให้บริการที่ดีและตอบสนองต่อความต้องการของนักท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ นักท่องเที่ยวก็มีแนวโน้มที่จะกลับมาใช้บริการอีกครั้งและแนะนำให้คนรู้จักใช้บริการเช่นกัน 

เพื่อความสะดวกสบายในการท่องเที่ยว คุณสามารถเลือกใช้บริการฝากกระเป๋าที่มีอยู่หลายแห่งในเชียงใหม่ ซึ่งสามารถตอบสนองต่อความต้องการของคุณได้อย่างดี ไม่ว่าจะเป็นการฝากกระเป๋าใกล้กับสนามบิน สถานีขนส่ง หรือในตัวเมือง คุณจะพบว่าการท่องเที่ยวเชียงใหม่ของคุณจะเป็นประสบการณ์ที่ดีและน่าจดจำมากยิ่งขึ้น

ที่มาของข้อมูล

ดำน้ำดูปะการังที่แสมสารชลบุรี ทะเลบรรยากาศดี มาชลทั้งทีต้องได้เที่ยว

แสมสาร ชลบุรี เกาะนี้ดี บรรยากาศอภิรมย์ ชมทะเลสัตหีบ

หากพูดถึงจุดดำน้ำที่เดินทางสะดวก ทะเลสวย น้ำใส ปะการังใต้ทะเลยังคงมีความสมบูรณ์ เชื่อว่าหนึ่งในคำตอบที่หลายคนนึกถึงมากที่สุดนั้นหนีไม่พ้น “เกาะแสมสาร” เกาะเล็ก ๆ ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นเรื่องของทัศนียภาพที่งดงาม เรียกว่าหันไปมองมุมไหนก็สวยตอบโจทย์คนชอบถ่ายรูปลงโซเชียลแล้ว แสมสาร ยังได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำที่ชอบดำน้ำดูปะการังและฝูงปลาทะเลที่พร้อมแหวกว่ายมาให้ดูอย่างใกล้ชิด แต่จะเดินทางไปเกาะแห่งนี้ได้อย่างไร และมีกิจกรรมไหนน่าสนใจบ้างนั้น เรามีคำตอบมาฝาก

การเดินทางไปที่เกาะแสมสารสามารถเดินทางได้หลายวิธี แต่วิธีที่นิยมคือรถยนต์ส่วนตัวและรถประจำทาง ในกรณีเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์หรือทางด่วนพิเศษบูรพาวิถีเพื่อมุ่งหน้าไปยังสัตหีบ จากนั้นให้ใช้เส้นสุขุมวิทเดินทางไปถึงแยกเข้าอำเภอสัตหีบให้เลี้ยวไปทางซ้ายตามถนนสุขุมวิท

ขับไปประมาณ 6 กิโลเมตร เมื่อเห็นพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวให้กลับรถมาเข้าซอยที่อยู่ข้าง ๆ ขับมาอีก 2 เมตร ให้เลี้ยวขวาเข้าถนน 3126 ขับมาอีกประมาณ 100 เมตร ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อไปทางบ้านช่องแสมสาร และขับไปอีก 6 กิโลเมตร จะเจอพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ส่วนการเดินทางไปด้วยรถประจำทางสามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) นั่งรถกรุงเทพ – ระยอง หรือสถานีขนส่งกรุงเทพเอกมัย นั่งรถกรุงเทพฯ – ตราด ไปลงที่ตลาดสัตหีบ

จากนั้นให้ต่อรถสองแถวสีน้ำเงินที่มีป้ายระบุว่าไปเกาะแสมสาร ซึ่งเมื่อมาถึงแล้วให้ไปที่จุดซื้อตั๋วและขึ้นเรือที่ท่าเรือเขาหมาจอเพื่อข้ามไปยังเกาะแสมสาร ค่าบริการเที่ยวชมเกาะแบบไปกลับสำหรับผู้ใหญ่ราคา 300 บาทต่อคน เด็ก 220 บาทต่อคน และชาวต่างชาติ 600 บาทต่อคน สำหรับการให้บริการขาไปจากท่าเรือมีจำนวน 5 เที่ยว เรือออกจากฝั่งเวลา 09.00 น. 10.00 น. 11.00 น 12.00 น. และ 13.00 น.

ขณะที่ขากลับให้บริการจำนวน 4 เที่ยว เรือออกจากเกาะแสมสารเวลา 13.30 น. 15.00 น. 16.00 น. และ 16.30 น. ซึ่งการเดินทางแต่ละเที่ยวจะใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาทีต่อเที่ยวเท่านั้น แต่เนื่องจากเกาะแสมสารมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว 500 คนต่อวัน ดังนั้นควรไปก่อนเวลาเรือออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อเข้าแถวรอรับบัตรคิวจากเจ้าหน้าที่ โดยปกติจะเปิดคิวตั้งแต่เวลา 06.00 น. 

“ดำน้ำ” ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปถึงเกาะแสมสาร ด้วยเกาะนี้โดดเด่นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ท้องทะเล เพราะมีครบทั้งแนวปะการังอ่อน ปะการังแข็ง ดอกไม้ทะเล และยังมีฝูงปลานานาชนิดแหวกว่ายอวดโฉมให้ชมมากมาย ซึ่งจุดดำน้ำดูปะการังของเกาะแสมสารมีอยู่หลาย ๆ จุด แต่จุดที่นิยมจะอยู่ห่างจากหาดลูกลมประมาณ 450 เมตร เพราะเป็นจุดที่มีปะการังและสัตว์ทะเลเป็นจำนวนมาก สำหรับกิจกรรมดำน้ำดูปะการังของเจ้าหน้าที่มีค่าบริการ 50 บาท


ที่มารูปภาพ hotelandresortthailand

เดินทางด้วยเรือยางสีดำของทหาร ความจุรอบละ 20 คน ให้บริการรอบละ 1 ชั่วโมง โดยก่อนเริ่มทำกิจกรรมทางเจ้าหน้าที่จะมีเสื้อชูชีพและอุปกรณ์ดำน้ำแบบสน็อกเกิ้ลพร้อมสอนวิธีใช้ให้ด้วย แต่หากใครที่เดินทางเป็นกลุ่มและต้องการความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ซื้อทริปแบบ One Day Trip กับผู้ให้บริการเอกชน เนื่องจากมีความเป็นส่วนตัว

กำหนดจำนวนคนต่อเที่ยวได้ง่าย มีรอบให้บริการนานกว่า นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์ดำน้ำ เสื้อชูชีพ อาหาร และเครื่องดื่มให้บริการอีกด้วย ส่วนใครที่อยากดูโลกใต้ทะเลแต่ไม่อยากเปียกที่เกาะแสมสารยังมีบริการนั่งเรือท้องกระจกดูปะการัง ค่าบริการคนละ 20 บาท ให้บริการครั้งละ 8 คน รอบละประมาณ 15 นาที

นอกจากกิจกรรมดำน้ำดูปะการังแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะได้จากการไปเที่ยวเกาะแสมสารคือวิวสวย ๆ ของเกาะแสมสาร ซึ่งจุดที่เป็นไฮไลต์คือ “หาดลูกลม” จุดถ่ายรูปสวย ๆ ที่มีฉากหลังเป็นน้ำทะเลสีฟ้าสดใส และ “เกาะปลาหมึก” เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่หน้าหาด อีกทั้งยังมีร้านค้า จุดชมวิว จุดเล่นน้ำ และพื้นที่พักผ่อนมากมาย อย่างไรก็ตามหลังจากกลับมาถึงฝั่งอย่าเพิ่งรีบออกจากพื้นที่ แนะนำให้แวะเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย

เพื่อสักการะศาลเจ้าพ่อตากสิน เดินเที่ยวชมอาคารจัดแสดงนิทรรศการต่าง ๆ ภายใน ชมธรรมชาติระหว่างทางเดินอาคารพิพิธภัณฑ์ และชมวิวที่มองเห็นเกาะต่าง ๆ ของอ่าวแสมสาร รับรองว่าถ่ายมุมไหนก็สวย สำหรับค่าเข้าชมผู้ใหญ่ราคา 50 บาทต่อคน เด็กอายุตั้งแต่ 3 – 15 ปี ราคา 20 บาทต่อคน ทหารเรือราคา 30 บาทต่อคน และชาวต่างชาติ 100 บาทต่อคน โดยเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น 

เนื่องจากเกาะแสมสารเป็นเกาะที่ต้องไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ เพราะทางกองทัพเรือยังไม่อนุญาตให้เที่ยวพักค้างคืนบนเกาะ ด้วยเหตุนี้นักท่องเที่ยวที่ตั้งใจอยู่หลายวันจึงต้องใช้บริการห้องพักที่อยู่บนฝั่ง ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบโฮมสเตย์ รีสอร์ท และโรงแรม เช่น ยาหยี & ยี่หวา โฮมสเตย์ ที่พักสไตล์โฮมสเตย์ติดทะเลกับบรรยากาศชิล ๆ มองพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น, บ้านคุณยายโฮมสเตย์ ที่พักสไตล์ลอฟท์ปูนเปลือยใกล้ท่าขึ้นปลาของชาวประมง ในเวลากลางคืนยังมีกิจกรรมตกหมึกด้วย,


ที่มาของรูปภาพ baanonsea

ภูสิงห์รีสอร์ท ที่พักสไตล์รีสอร์ทติดทะเลสำหรับสายชิล ใกล้ตลาด และแหล่งท่องเที่ยว หรือ Baan On Sea บ้านพักติดทะเลสไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์นแสนสงบสำหรับคนที่อยากพักผ่อน แต่สำหรับใครเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับหรือเดินทางด้วยรถไฟ รถโดยสารประจำทาง เครื่องบิน แล้วอยากเดินเที่ยวแบบสบายตัวหรือสายชอปที่เป็นกังวลเรื่องของฝาก

แนะนำให้ใช้บริการฝากกระเป๋ากับ AIRPORTELs ซึ่งนอกจากจะทำให้สะดวกสบายในการเที่ยวมากขึ้นแล้ว ยังมีบริการส่งกระเป๋าเดินทางไปยังโรงแรม สนามบิน หรือจุดให้บริการต่าง ๆ พร้อมประกันความเสียหายและระบบความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับเคาน์เตอร์บริการของ AIRPORTELs ที่ใกล้กับเกาะแสมสารคือสาขาเทอร์มินอล 21 พัทยา และสาขาเซ็นทรัลพัทยา

 Bull Beach Club คาเฟ่ & Restaurant
ที่มาของภาพ welovepattaya58

สำหรับใครที่เป็นกังวลเรื่องอาหารการกินบนเกาะแสมสารบอกเลยว่าไม่ต้องกังวล เพราะบนเกาะมีร้านค้าร้านอาหารจำหน่าย แต่อาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารตามสั่งแบบง่าย ๆ เท่านั้น ถ้าอยากจัดเต็มแนะนำให้มาโซนสัตหีบ เนื่องจากมีร้านอาหารและคาเฟ่วิวสวยให้เลือกมากมาย อย่างร้าน Bull Beach Club คาเฟ่ & Restaurant ร้านอาหารริมทะเลตกแต่งสไตล์โบฮีเมียนที่มีทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่ม,

Curve Beach Café
ที่มาของภาพ https://www.sanook.com/travel/1437031/

ร้าน Curve Beach Café คาเฟ่ยอดฮิตบนหาดนางรำที่มีทั้งเบเกอรีและเครื่องดื่ม, ร้าน House Of Benedict แลนด์มาร์คของสัตหีบที่ตกแต่งหลากหลายธีม สามารถเลือกเข้าไปถ่ายรูปได้ตามใจชอบ หรือร้าน DAM Pattaya คาเฟ่สวยตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียล เลือกนั่งได้ทั้งโซนอินดอร์หรือโอเพ่นแอร์

จากข้อมูลจะเห็นว่า แสมสาร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะมีครบทั้งกิจกรรมดำน้ำ หาดทรายสวย น้ำใส และมุมถ่ายภาพสวย ๆ มากมาย แต่สำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเกาะแสมสารอย่าลืมวางแผนการเดินทางให้ดีด้วยการจองที่พักล่วงหน้าหรือใช้บริการฝากกระเป๋าเดินทาง เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว

ที่มาข้อมูล:

หาดทรายแก้ว เที่ยวทะเลน้ำใสสัตหีบ กับบรรยากาศเงียบสงบ ใกล้กรุงเทพ

หาดทรายแก้ว สัตหีบ
หาดทรายแก้ว สัตหีบ

หากพูดถึงจุดหมายปลายทางที่คนจำนวนมากเลือกมาใช้เวลาช่วงวันหยุด เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึง “ทะเล” แลนด์มาร์กยอดฮิตของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะทะเลไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ว่ากันว่าหาดทรายขาว น้ำทะเลใส และทิวเขาเขียวขจี จะช่วยมอบความรู้สึกผ่อนคลาย นี่จึงกลายเป็นจุดเช็กอินสำคัญช่วงวันหยุด และตัวเลือกที่ห้ามพลาดสำหรับคนที่กำลังมองหาหาดทรายสวยไว้พักผ่อน นั่นคือ หาดทรายแก้ว แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทั้งคนไทยและชาวต่างชาตินิยมปักหมุด

หาดทรายแก้ว

หาดทรายแก้วหาดสวยงามอันดับต้น ๆ ของไทยตั้งอยู่ในพื้นที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นั่นทำให้หาดทรายแก้วเป็นชายหาดที่อยู่ในความดูแลของทหารเรือ เดิมเคยชื่อว่าหาดน้อย จนกระทั่งเกิดการสำรวจเพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเมื่อชายหาดขาวสะอาดและน้ำทะเลใสแจ๋ว

จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น หาดทรายแก้ว นอกจากมีชายหาดขาวสะอาดและน้ำทะเลน่าเล่นแล้ว โดยรอบชายหาดยังถูกโอบล้อมด้วยภูเขาขนาดย่อม ๆ ความยาวหาด 1,700 เมตร บรรยากาศสวยงามของหาดทรายแก้วทำให้กลายเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

  • นั่งชิลริมทะเล

หากมาทะเลแล้วไม่อยากทำอะไร บอกเลยว่าการนั่งเฉย ๆ ริมชายหาดคือกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะแต่ละวันหลายคนอาจเหนื่อยกับการทำงาน การได้นั่งมองวิวสวย ๆ ริมหาดทรายแก้วจึงช่วยฮีลใจได้เป็นอย่างดี บางคนอาจซื้ออาหารและเครื่องดื่มมานั่งรับประทาน หรือบางคนใส่หูฟังฟังเพลงชิล ๆ บอกเลยว่าต้องฟินแน่ ๆ 

นั่งชิลริมทะเล
  • สนุกไปกับน้ำทะเลใส มองเห็นตัวปลา 

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาเที่ยวหาดทรายแก้วคือการเล่นน้ำทะเล เสน่ห์ของน้ำทะเลที่นี่คือน้ำใสน่าเล่น มองเห็นตัวปลา แม้บางครั้งอากาศจะร้อนบ้างแต่พอร่างกายได้สัมผัสกับน้ำทะเลเย็นใส บอกเลยว่าลืมเรื่องอากาศไปโดยปริยาย 

  • อาบแดด

กิจกรรมยอดฮิตในกลุ่มชาวต่างชาติแต่แอบกระซิบว่าเดี๋ยวนี้คนไทยก็หันมาอาบแดดเยอะขึ้น โดยเฉพาะคนที่อยากมีผิวสีแทน ริมหาดทรายแก้วจึงมักมีนักท่องเที่ยวปูเสื่อนอนอาบแดดจำนวนมาก

  • พายเรือคายัค

ใครชอบทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์นิด ๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะที่นี่มีบริการให้เช่าเรือคายัคสำหรับนักท่องเที่ยว แถมยังมีเสื้อชูชีพเพื่อการทำกิจกรรมอย่างปลอดภัย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะพายเรือคายัคไม่ไกลจากชายหาด แต่บอกเลยว่าแค่นี้ก็สนุกมากแล้ว 

อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตทั้งในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เรียกได้ว่าหากมาถึงหาดทรายแก้วแล้วไม่ได้ทำจะเรียกว่ามาไม่ถึง นั่นคือกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง แม้ที่หาดทรายแก้วจะไม่มีบริการพาดำน้ำลึกหรือบริการพาดำน้ำนอกชายหาด แต่หลายคนก็เตรียมอุปกรณ์ประเภทแว่นดำน้ำมาเสมอ นั่นเพราะที่นี่สามารถดำน้ำดูสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลและปะการังน้ำตื้นได้ แม้จะเป็นแค่การดำน้ำตื้นแต่บอกเลยว่าต้องฟิน เพราะมีบรรดาฝูงปลาน่ารัก ๆ เพียบ สามารถดำได้ตลอดทั้งวันที่ชายหาดเปิดให้บริการ

  • บลู คาเฟ่
บลูคาเฟ่

คาเฟ่เล็ก ๆ บนชายหาด บรรยากาศดีมากสวยทั้งกลางวันและกลางคืน รับวิวทะเลแบบเต็ม ๆ พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่น อยู่บริเวณสุดหาดทรายแก้ว ใครไปเที่ยวห้ามพลาดเด็ดขาด

  • หาดทรายแก้ว คอฟฟี่
หาดทรายแก้ว คอฟฟี่

เติมความสดชื่นระหว่างทริปภายในร้านกาแฟขนาดกะทัดรัดแต่นั่งชิลได้ทั้งวัน เพราะมองไปแล้วเห็นวิวทะเล ได้บรรยากาศแห่งการพักผ่อน นอกจากเครื่องดื่มแล้วยังมีอาหารรองท้องอร่อย ๆ อย่างไข่กระทะไว้บริการด้วย

ด้วยความที่หาดทรายแก้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นั่นทำให้มีกฎระเบียบที่นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตาม โดยนักท่องเที่ยวทุกคนต้องแลกบัตร ค่าเข้าชมคนละ 50 บาท สำหรับคนไทย และ 100 บาท สำหรับชาวต่างชาติ รถยนต์สามารถนำเข้าได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ หากเป็นวันเสาร์ – อาทิตย์ ต้องจอดรถไว้ด้านนอก

นอกจากนี้ยังห้ามประกอบอาหาร ห้ามก่อไฟ ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามนำสุนัขเข้า และชาวต่างชาติต้องออกจากหาดภายใน 18.00 น. ใครมาเที่ยวที่นี่ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดและหากอยากเที่ยวแบบชิล ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ อย่าลืมฝากกระเป๋ากับ AIRPORTELs ที่มีบริการรับส่งกระเป๋าจากสนามบินไปยังสถานที่ต่าง ๆ การท่องเที่ยวจะได้คล่องตัวมากขึ้น หมดกังวลเรื่องกระเป๋าใบใหญ่

การเดินทางมาเที่ยวหาดทรายแก้วทำได้ไม่ยาก หากมารถตู้ที่ให้บริการเส้นทางสัตหีบสามารถลงที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ จากนั้นต่อรถจักรยานยนต์หรือรถสองแถวเพื่อมายังหาดทรายแก้ว หากเดินทางโดยรถยนต์ เดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 สุขุมวิท จากนั้นตัดเข้าเส้นบางเสร่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องชายหาดสวยงาม จนทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมความงามจำนวนมาก ใครกำลังมองหาหาดทรายสวย น้ำทะเลใส สำหรับวันพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาคนเดียว มาเป็นคู่ มาเป็นครอบครัว หรือมาเป็นกลุ่ม แนะนำให้เดินทางมาที่นี่ ชายหาดงดงามที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางง่าย ขับรถจากกรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมง จะเที่ยวแบบวันเดียวหรือค้างคืนก็คุ้มค่า แถมมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในย่านนี้อีกหลายแห่ง เชื่อว่าทริปนี้จะช่วยเติมเต็มความสุขของทุกคนได้เป็นอย่างดี

ที่มาข้อมูล

เอาใจชาวออฟฟิศ รวม 20 ร้านอาหารสุดชิคใน Siam Center

สยามเซ็นเตอร์
สยาม เซ็นเตอร์

แจ้งพิกัดร้านอาหารราคาไม่แพงแต่อร่อยเวอร์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่กำลังมองหาร้านอาหารกลางวันหรือร้านอาหารอร่อย ๆ สำหรับช่วงเวลาหลังเลิกงาน แถมอยู่ใจกลางเมือง นั่นก็คือ ร้านอาหาร siam center อัดแน่นด้วยร้านอาหารคุณภาพแสนอร่อยราคาดี วันนี้จัดเต็มมาให้มากถึง 20 ร้าน ใครชอบแบบไหน แนะนำให้ไปเลือกรับประทานกันเลยSiam Center

รวม 20 ร้านอาหารสุดชิคใน Siam Center

บอนชอน
ขอบคุณภาพจาก : klook : klook Travel : ไทย : กรุงเทพ

ใครชอบอาหารสไตล์เกาหลี เรียนเชิญร้านนี้ เมนูที่ต้องสั่งคือไก่บอนชอน มีซอสให้เลือกหลายชนิด รวมถึงหม้อไฟเกาหลี อร่อยเข้มข้นเหมือนได้ไปรับประทานที่แดนกิมจิ

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ข้างร้าน MUJI CURRY
อาหารเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก : Gourmet & Cuisine : Eating Out : รีวิวร้านอาหาร : Hasul Korean Restaurant

อีกหนึ่งร้านอาหารเกาหลีมาพร้อมราคามิตรภาพ แต่ละเมนูเสิร์ฟจานใหญ่ รับรองว่าอิ่มแน่ เมนูห้ามพลาดคือซุปกิมจิหอยขาว กิมจิคือเข้มข้นสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีเซตอาหารเกาหลีราคาย่อมเยา

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน EASY BUDDY
อาหารไทย
ขอบคุณภาพจาก : Krungsri Credit Card (krungsricard.com)

ตำนานความอร่อยรสมือแม่ โดดเด่นเรื่องอาหารไทยรสกลมกล่อมถูกปากคนไทย เมนูการันตีความอร่อยและได้รับความนิยมมากคือข้าวไข่ข้น เลือกส่วนผสมได้ตามใจ

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน ON THE TABLE
ผัดกะเพรา
ขอบคุณภาพจาก : BKKMUNU : FUSION : Thai

ใครชอบรับประทานข้าวผัดกะเพราบอกเลยว่าห้ามพลาดร้านนี้ รวมมิตรผัดกะเพรามาให้แบบจุก ๆ ทั้งกะเพราหมู เนื้อ หมูแจ่ว ขาดไม่ได้คือไข่เป็ดดาวสีเหลืองส้มน่ารับประทาน รสชาติจัดจ้านแบบไทย ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน LA MEOW
เน้นเนื้อ
ขอบคุณภาพจาก : ธนาคารกรุงเทพ (bangkokbanksme.com)

แค่ชื่อก็เดาได้แล้วว่าเป็นร้านอาหารเพื่อคนรักเนื้อ เมนูที่ต้องสั่งคือหม้อไฟเน้นเนื้อ น้ำซุปสุดเข้มข้นรับประทานพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ และยังมีเมนูหมูให้เลือกสั่งด้วยนะ

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS อยู่ตรงข้ามร้าน หมาน
ไก่ทอดเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก : TWINKLEBABYSTYLE : THINKS TO EAT

ร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลี แน่นอนว่าเมนูขึ้นชื่อคือเมนูไก่ทอดที่เตรียมมาให้เลือกสั่งหลากหลายรสชาติ เช่น Snow Onion, Garlic Soy Sauce หรือหากอยากได้รสเผ็ดจัดจ้าน แนะนำ Red Hot Chicken

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน HACHIBAN RAMEN
สลัดแซลมอน
ขอบคุณภาพจาก : klook : klook Travel : ไทย : กรุงเทพ

ร้านอาหารสุดชิคพร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตก เมนูขึ้นชื่อต้องยกให้สปาเก็ตตี้ผัดไส้กรอกหมูอิตาเลียนและข้าวคลุกกะปิสูตรคุณยายตุ๋ยที่ถูกจัดมาอย่างน่ารับประทานสุด ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 1 FASHIOON VISONARY โซน FASHIOON VISONARY ตรงข้าม BY GRAYHOUND
แกงกะหรี่
ขอบคุณภาพจาก : WANDEE BISTRO (wandeehouse.com)

ร้านอาหารเอาใจคนชอบแกงกะหรี่ ร้านนี้เป็นร้านดังจากญี่ปุ่น เมนูห้ามพลาดคือข้าวแกงกะหรี่เนื้อ รับประทานพร้อมเครื่องเคียงยิ่งเข้ากันสุด ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน PFESTA
ส้มตำนัว
ขอบคุณภาพจาก : POST TODAY : Lifestyle

ใครมองหามื้อกลางวันหรือมื้อเย็นแบบแซ่บ ๆ แนะนำร้านนี้ จัดเต็มหลากหลายเมนูเผ็ดแซ่บถึงใจ เมนูที่ต้องสั่งขอยกให้ส้มตำปูปลาร้าสุดนัว ปีกไก่เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว อย่าลืมรับประทานคู่ข้าวเหนียวร้อน ๆ 

  • ปิดสาขาสยามเซ็นเตอร์
  • ย้ายมาที่ สยามสแควร์วัน ซอย 5
เนื้อแท้
ขอบคุณภาพจาก : PANASM BLOG (panasm.com)

อีกหนึ่งร้านสำหรับคนชอบรับประทานเนื้อ บอกเลยวัตถุดิบดีมาก เนื้อไม่เหนียว สปาเก็ตตี้ซอสเนื้อคือเมนูยอดฮิตที่ห้ามพลาด รสชาติกลมกล่อมสุด ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน OLINO PUZZLE
อาหารญี่ปุ่น
ขอบคุณภาพจาก : ICONSIAM : Dining : Yayoi Teishoku…The Best of Yayoi Especially for ICONSIAM

อีกขั้นของร้านอาหารญี่ปุ่น Yayoi ที่พรีเมียมขึ้น เมนูเด็ดที่ห้ามพลาดคือชุดเบนโตะ Yayoi Sakana Bento เสิร์ฟมาเป็นเซตพร้อมเครื่องเคียง อร่อยเหมือนรับประทานอยู่ที่ญี่ปุ่น

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน SHIORI UDON GINZ
กิมจิ
ขอบคุณภาพจาก : Sale Here : อาหาร : Dak Galbi (ทัคคาลบี้)

ร้านอาหารเกาหลีรสชาติเข้มข้นทุกจาน เมนูยอดฮิตขอแนะนำซีฟู้ดผัดซอสคาลบี้ รับประทานคู่กับชุดผักคือดีสุด ๆ หรือจะสั่งเมนูไก่ทอดก็อร่อยไม่เบา

  • ปิดถาวร
ทงตัดสึ
ขอบคุณภาพจาก : ICONSIAM : Dining : ทงคัตสึวาโก: สุดยอดทงคัตสึในใจทุกคน

คนรักเมนูทงคัตสึต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเมนูทงคัตสึ อย่าลืมสั่งชุดทงคัตสึหมู เนื้อแน่นเต็มคำ ทอดมาแบบไม่อมน้ำมัน ถูกใจคนรักสุขภาพ

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน PALSAIK
เรดซัน
ขอบคุณภาพจาก : SIAM CENTER : HAPPENING : NEWS : Red Sun ต๊อกปกกิระดับแชมป์

ร้านอาหารเกาหลีที่อร่อยเหมือนได้รับประทานอยู่แดนกิมจิ เมนูต้องสั่งคือ Chicken Bong เสิร์ฟพร้อมซอสหลายชนิด อย่าลืมสั่งข้าวผัด Red Sun ที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านด้วยนะ

  • ปิดกิจการไปแล้ว
  • ย้ายมาที่ สยามสแควร์ หน้าศูนย์หนังสือจุฬา
หมูย่างเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก : SIAM CENTER : TREND UPDATE : Palsaik korean BBQ ต้นตำรับหมูย่าง 8 สี เจ้าดังจากเกาหลี

ร้านดังจากเกาหลีมาอยู่ที่สยามเซ็นเตอร์แล้ว ตอบโจทย์สายปิ้งย่าง เมนูความฟินคือหมูย่าง 8 สี หมักซอสสไตล์ต่าง ๆ อร่อยทุกรสชาติ

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน TONKOTSU KAZAN RAMEN
ราเมง
ขอบคุณภาพจาก : PMCU สำนักงานทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : PMCU-Story

ร้านนี้ขอเอาใจคนรักอาหารญี่ปุ่น เมนูที่ต้องสั่งรับประทานคือราเมงภูเขาไฟ เสิร์ฟด้วยชามร้อนแถมมีไอพุ่งออกมา ได้คอนเทนต์แน่นอน ที่สำคัญเมนูทงคัตสึหอม รสชาติกลมกล่อมมาก

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS อยู่ตรงข้ามร้าน MOLLY ALLY
เนื้อวัว
ขอบคุณภาพจาก : BKKMANU : BKK.EAT : JAPANESE : Yuzu Suki

คนชอบรับประทานชาบูห้ามพลาดร้านนี้ คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพ จัดเต็มเนื้อหมูแบบสดใหม่ จะสั่งเป็นเซตหรือจะสั่งแยกก็ได้ เมนูห้ามพลาดต้องยกให้เซตหมูคุโรบูตะสามชั้น 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน CHOONGMAN CHICKEN
เซตอาหาร
ขอบคุณภาพจาก : lul.la : EAT : Audrey Cafe

ร้านอาหารฟิวชันพร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูอาหารคาวและหวาน อาหารคาวต้องยกให้ขาหมูเยอรมันหั่นเต๋าทอด รับประทานง่าย รสอร่อย สำหรับอาหารหวานต้องยกให้เครปชาไทย รสชาติเข้มข้น กลมกล่อมอย่าบอกใคร

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน BONCHON CHICKEN
บาบีคิว
ขอบคุณภาพจาก : klook : klook Travel : ไทย : กรุงเทพ : คูปองแทนเงินสด ร้าน บาร์บิคิว พลาซ่า (Bar B Q Plaza)

เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักร้านนี้ นอกจากอิ่มอร่อยได้ทั้งแบบเป็นเซตและแบบจานเดี่ยวแล้ว ทีเด็ดคือน้ำจิ้มและกะหล่ำปลีฝอยที่เติมได้ไม่อั้น 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน MUJI CURRY
พิซซ่า
ขอบคุณภาพจาก : eatigo : ออน เดอะ เทเบิล @ สยามเซ็นเตอร์ (On the Table @ Siam Center)

ร้านอาหารโฮมเมดพร้อมเสิร์ฟเมนูเพื่อสุขภาพ เมนูแนะนำคือข้าวหน้าแฮมเบิร์กหมูแกงกะหรี่อบชีส การันตีว่าเนื้อหมูชุ่มฉ่ำ รสชาติกลมกล่อมสุด ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน YAYOI TEISHOKU

จัดเต็มมาให้ขนาดนี้ใครยังไม่มีไอเดียว่าจะไปรับประทานอาหารกลางวันหรืออาหารมื้อเย็นที่ไหน แนะนำ ร้านอาหาร siam center ยกทัพหลากหลายความอร่อยมาให้เลือกรับประทานถึงใจกลางเมือง มีให้เลือกทั้งอาหารไทย อาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่น อาหารสไตล์ตะวันตก เลือกได้อย่างจุใจ แถมยังเดินทางง่าย เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีสยามและสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ เดินทางสะดวกแน่นอน

ที่มาข้อมูล

รวม 13 เว็บจองโรงแรม และเว็บจองที่พักราคาถูก อัปเดตล่าสุดปี 2023

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจท่องเที่ยวซบเซาลงไปเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 แต่ในปี 2023 นี้ โลกกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ ธุรกิจท่องเที่ยวจึงเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ด้วยความที่ไม่ได้ท่องเที่ยวมานาน หลายๆ คนจึงติดปัญหาตรงที่ไม่รู้ว่าจะจองที่พักโรงแรมแบบไหนให้ได้ราคาถูกหรือคุ้มค่าที่สุด บทความนี้จึงพามาดูว่าจองที่พักเว็บไหนถูก โดยรวบรวมมาทั้ง 13 เว็บไซต์จองโรงแรมและที่พักราคาถูกมาให้เลือกกันตามความต้องการ พร้อมทั้งบอกข้อดี-ข้อเสียของแต่ละเว็บไซต์ จะมีเว็บไซต์ไหนบ้าง มาดูกันเลย

1. Agoda

มาเริ่มต้นกันที่เว็บจองโรงแรมยอดนิยมในประเทศไทยอย่าง Agoda ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ครบครันไปด้วยห้องพักทั้งจากโรงแรม และที่พักรายย่อยอีกมากมาย ในตอนแรก Agoda นั้นเน้นการจองห้องพักในแถบเอเชียเป็นหลัก แต่ต่อมาก็ได้ขยายการจองไปทั่วโลก โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจของเว็บไซต์นี้ คือ มีโปรโมชันราคาพิเศษและดีลต่างๆ ให้เลือกมากมาย นอกจากนั้นยังมีบริการค้นหาเที่ยวบิน รถโดยสาร รถไฟ เช่ารถ จองรถรับส่งสนามบิน รวมไปถึงจองกิจกรรมต่างๆ และยังมีฟีเจอร์จองที่พักพร้อมเที่ยวบินอีกด้วย ช่วยให้นักท่องเที่ยวทั้งมือใหม่และมือโปรสามารถวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย
  • มีโปรโมชันและดีลต่างๆ มากมาย
  • มีส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิก
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นภาษาไทย

ข้อเสีย

  • ราคายังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม ทำให้ดูราคาถูกกว่าปกติ
  • ผลลัพธ์การค้นหายังไม่ดีเท่าที่ควรในแถบอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือแถบเอเชีย

2. Airbnb

Airbnb คือเว็บจองที่พักที่จะเปิดประสบการณ์ที่พักแบบใหม่ โดยปกติแล้วการจองที่พักมักจะเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ต ที่สร้างขึ้นเพื่อให้มีคนเข้าพักโดยเฉพาะ แต่ที่ Airbnb สามารถจองที่พักที่เป็นบ้านส่วนบุคคลหรือคอนโดที่เจ้าของปล่อยให้เข้าพักได้ ให้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่นั้นๆ ทำให้ที่พักในเว็บไซต์นี้มีรูปแบบและสไตล์การตกแต่งที่หลากหลาย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบบรรยากาศแบบคนท้องถิ่น ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปพักที่บ้านญาติหรือบ้านเพื่อนนั่นเอง

ข้อดี

  • ได้ราคาที่ถูกกว่าการจองโรงแรม
  • ที่พักที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า เช่น มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ฯลฯ
  • มีฟีเจอร์ที่ให้เลือกความเป็นส่วนตัว เช่น เลือกที่พักแบบมีห้องน้ำส่วนตัวหรือห้องน้ำรวมได้
  • ได้พูดคุยกับโฮสต์และได้รู้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับท้องถิ่นที่เข้าพัก
  • ที่พักที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนพักบ้านคนรู้จัก

ข้อเสีย

  • ตำแหน่งที่พักระบุเป็นรัศมี ทำให้ไม่ค่อยชัดเจน
  • รูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักมีค่อนข้างน้อย
  • โฮสต์สามารถปฏิเสธการจองได้
  • ต้องพูดคุยกับโฮสต์ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการสื่อสาร

3. Booking.com

มาต่อกันที่เว็บไซต์จองที่พักเจ้าใหญ่ที่หลายๆ คนคุ้นตา นั่นก็คือ Booking.com ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกันกับบริษัท Agoda ทำให้มีความคล้ายคลึงกันในหลายๆ อย่าง โดยสามารถจองที่พักที่เป็นโรงแรม บ้านพัก อพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ได้ทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงสามารถจองเที่ยวบิน รถไฟ รถโดยสาร เช่ารถ และยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ Booking.com แตกต่างจาก Agoda คือ เน้นการจองที่พักในแถบยุโรปเป็นหลัก ทำให้เว็บไซต์นี้มีข้อเสนอที่พักในแถบยุโรปที่มีราคาถูกมากกว่านั่นเอง นอกจากนั้นยังใช้งานง่าย สะดวกสบาย จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ

ข้อดี

  • สามารถจองที่พักได้หลายรูปแบบ ทั้งโรงแรม อพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ฯลฯ
  • มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • มีรูปภาพและรายละเอียดที่พักอย่างชัดเจน
  • มีบริการข้อมูลการจองมากถึง 43 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย
  • สามารถยกเลิกการจองได้ฟรี

ข้อเสีย

  • หากจองที่พักในแถบเอเชียหรือซื้อแพ็กเกจเหมารวม อาจมีราคาสูง
  • ด้วยความที่ลูกค้าสามารถยกเลิกการจองห้องพักได้ฟรี ทำให้ที่พักอาจปฏิเสธการจองผ่าน Booking.com และเลือกสำรองที่พักให้กับเว็บไซต์อื่นก่อน

4. Expedia

Expedia ก็เป็นอีกหนึ่งเว็บจองโรงแรมที่เรียกได้ว่าครบครันทุกการเดินทางเลยก็ว่าได้ แม้ว่า Expedia จะมีชื่อเสียงในเรื่องการจองเที่ยวบิน แต่เว็บไซต์นี้ยังให้บริการทั้งจองเที่ยวบินพร้อมที่พัก โดยที่พักก็จะมีตั้งแต่ที่พักเล็กๆ ไปจนถึงโรงแรมใหญ่ๆ นอกจากนั้นยังมีบริการเช่ารถ ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว หรือจองกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย ทำให้ Expedia เป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวทุกสไตล์ได้วางแผนการเดินทางตามที่ต้องการได้

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์การจองที่หลากหลาย
  • มีตัวเลือกที่พักหลากหลาย ทั้งที่พักเล็กๆ อพาร์ตเมนต์ โรงแรม ฯลฯ
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ค่อนข้างดี
  • มีการแสดงราคาที่พักที่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว
  • สามารถยกเลิกที่พักได้ฟรี

ข้อเสีย

  • ราคาที่พักอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย หรือบางครั้งอาจมีราคาสูงกว่าเจ้าอื่น

5. Google.com/travel/hotels

อย่างที่หลายๆ คนเคยได้ยินกันว่า “นึกอะไรไม่ออก บอก Google” และแน่นอนว่า Google ก็สามารถช่วยหาที่พักดีๆ ราคาถูกได้ด้วยเช่นกัน เข้าไปที่ Google.com/travel/hotels จะพบกับผลการค้นหาโรงแรมและที่พักในราคาสุดคุ้มมากมายที่ทาง Google คัดมาให้แล้ว อีกทั้งยังสามารถค้นหาเที่ยวบิน กิจกรรมต่างๆ และบอกจุดท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียงกับที่พักอีกด้วย

ข้อดี

  • ค้นหาที่พักได้อย่างรวดเร็ว
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย
  • Google คำนวณให้แล้วว่าจองที่พักในเว็บไซต์ใดให้ราคาที่ดีที่สุด
  • มีตัวเลือกให้ดูราคาที่พักพร้อมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์การค้นหาที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น
  • Google จะแสดงผลลัพธ์ของพาร์ทเนอร์ที่ซื้อโฆษณาก่อนเสมอ อาจทำให้ไม่พบที่พักที่ตรงตามความต้องการ

6. HotelsCombined.com

เว็บจองโรงแรมสัญชาติออสเตรเลียอย่าง HotelsCombined.com ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นเว็บที่สามารถเปรียบเทียบราคากับเว็บจองที่พักของเจ้าอื่นได้ พร้อมทั้งมีเครื่องมือติดตามราคาให้คุณไม่พลาดการจองที่พักในราคาที่ดีที่สุด นอกจากนั้นยังมีบริการจองตั๋วเครื่องบินและรถเช่า อีกทั้งในส่วนของหน้าเว็บไซต์ดูสะอาดสะอ้าน มีตัวกรองการค้นหาที่ละเอียด ทำให้ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย

ข้อดี

  • มีเครื่องมือติดตามและแจ้งเตือนราคา
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดีเยี่ยม
  • มีตัวเลือกดูราคาแบบมีหรือไม่มีภาษี

ข้อเสีย

  • ตัวเลือกที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น
  • บางครั้งราคาก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อกดซื้อจริงกับผู้ขาย

7. Hotels.com

Hotels.com เป็นเว็บจองที่พักที่มีจุดประสงค์เพื่อจองที่พักโดยเฉพาะ ไม่มีการบริการอย่างอื่น ด้วยความที่เป็นเว็บจองที่พักอย่างเดียว เว็บจึงใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีตัวเลือกที่พักค่อนข้างหลากหลาย ทั้งโฮสเทล รีสอร์ต อพาร์ตเมนต์ โรงแรม ฯลฯ อีกทั้งยังมีรายละเอียดของที่พักอย่างชัดเจน ดังนั้นใครที่อยากจะจองที่พักอย่างเดียว เว็บไซต์นี้ตอบโจทย์ทุกความต้องการแน่นอน

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
  • ค้นหาได้เร็วและแสดงตัวเลือกที่พักได้อย่างหลากหลาย
  • มีตัวกรองการค้นหาและการเรียงลำดับที่ดี
  • มีรายละเอียดที่พักชัดเจน

ข้อเสีย

  • สามารถจองที่พักได้เพียงอย่างเดียว ไม่มีบริการเสริม
  • ราคาที่พักอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย

8. Kayak

Kayak คือเว็บจองโรงแรมที่ให้บริการค้นหารายละเอียดการเดินทาง ทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า รวมไปถึงให้บริการข้อมูลแพ็กเกจเที่ยวบิน+ที่พัก โดยมุ่งเน้นเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เปรียบเทียบข้อมูลและวางแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจ ซึ่งในหน้าเว็บไซต์นั้นใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีตัวกรองการค้นหาที่หลากหลาย ใครที่ต้องการวางแผนการเดินทางหรืออยากค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับที่พักที่ต้องการ ก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมที่เว็บไซต์นี้ได้เลย

ข้อดี

  • มีตัวเลือกแสดงราคาแบบรวมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • มีเครื่องมือติดตามและแจ้งเตือนราคา
  • สามารถค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ที่พักได้โดยตรง

ข้อเสีย

  • ราคาที่เห็นในหน้าเว็บไซต์อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดเสมอไป
  • รายการที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น

9. Klook

Klook เป็นอีกหนึ่งเว็บจองที่พักสำหรับวางแผนการเดินทางที่น่าสนใจ เพราะมีบริการทั้งจองที่พัก เที่ยวบิน รถโดยสาร รวมไปถึงจองกิจกรรม บัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือจะจองเป็นแพ็กเกจทัวร์เลยก็ทำได้ เรียกได้ว่าเว็บเดียวครบ จบทุกการท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้นคือสามารถใช้งานได้ครอบคลุมทั่วโลก ดังนั้นไม่ว่าจะมีจุดหมายปลายทางที่ใด Klook ก็สามารถให้บริการได้แน่นอน

ข้อดี

  • มีการบริการที่หลากหลาย ทั้งเรื่องที่พัก การเดินทาง กิจกรรมต่างๆ ฯลฯ
  • สามารถรับเครดิตเพื่อเป็นส่วนลดในการเดินทางครั้งถัดไป
  • มีโปรโมชันและดีลส่วนลดมากมาย
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย

ข้อเสีย

  • บางครั้งไม่สามารถใช้ voucher ที่ได้รับมาได้
  • การติดต่อกับฝ่ายบริการลูกค้าค่อนข้างลำบาก เนื่องจากใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

10. Traveloka

Traveloka เป็นเว็บจองที่พักที่ครบครันทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ไม่ว่าจะจองที่พัก ซึ่งมีให้เลือกทุกระดับ ตั้งแต่ที่พักเล็กๆ ไปจนถึงโรงแรมหรู หรือจะค้นหารถเช่า เที่ยวบิน รถรับส่งสนามบิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางก็สามารถทำได้ อีกทั้งยังมีบริการจองกิจกรรม ร้านอาหาร สปาเพื่อสุขภาพ หรือแม้กระทั่งคลาสเรียนอีกด้วย โดย Traveloka จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดท้องถิ่น โดยเฉพาะในอินโดนีเซียและไทย ทำให้เป็นเว็บไซต์ที่เข้าใจในความต้องการของนักเดินทางชาวไทยนั่นเอง

ข้อดี

  • มีการบริการท่องเที่ยวที่ครบครัน ทั้งจองที่พัก ตั๋วโดยสาร บัตรเข้างาน ฯลฯ
  • มีส่วนลดและโปรโมชันค่อนข้างเยอะ
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นภาษาไทย

ข้อเสีย

  • อาจไม่ได้ราคาการจองที่ถูกที่สุด 
  • หากยกเลิกการจอง อาจต้องใช้เวลานานในการคืนเงิน

11. Trip.com

มาถึงเว็บที่เพิ่งเปิดให้บริการด้านท่องเที่ยวในไทยอย่าง Trip.com มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายและชัดเจน สามารถค้นหาที่พักพร้อมเปรียบเทียบราคาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีบริการที่ครบครัน ทั้งจองโรงแรมที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ รถเช่า หรือจะค้นหาทัวร์ เที่ยวบิน+โรงแรม ก็ทำได้เป็นอย่างดี และมีฟีเจอร์การค้นหาสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนใกล้บ้าน ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลหรือลาหยุดงานให้ได้อีกด้วย

ข้อดี

  • ให้บริการแบบครบครันทุกการท่องเที่ยวและพักผ่อน
  • มีฟีเจอร์ที่ช่วยแก้ไขแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น
  • มีแจ้งเตือนราคาพิเศษ
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และชัดเจน

ข้อเสีย

  • ฝ่ายบริการลูกค้าค่อนข้างดำเนินการช้า และไม่ค่อยยืดหยุ่น
  • เพิ่งเข้าไทยได้ไม่นาน อาจทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ
  • การให้บริการในแถบยุโรปยังค่อนข้างน้อย

12. Tripadvisor.com

เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะคุ้นหูกับเว็บจองโรงแรม Tripadvisor.com กันมาบ้าง เพราะเว็บนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการเขียนบล็อกและมีรีวิวของนักท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลกให้ได้อ่านกัน ใครที่อยากจองที่พักพร้อมกับอ่านรีวิวที่น่าเชื่อถือและมาจากประสบการณ์จริง ก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์นี้ นอกจากนั้น Tripadvisor ยังมีฟีเจอร์เปรียบเทียบราคาที่พัก ซึ่งจัดวางอย่างเป็นระเบียบสวยงาม ทำให้ผู้ใช้สามารถเห็นและเปรียบเทียบได้อย่างรวดเร็วด้วย

ข้อดี

  • มีรีวิวมากมายที่มาจากประสบการณ์จริงและมีประโยชน์ต่อการเดินทาง
  • เว็บไซต์ออกแบบมาสวยงามและใช้งานง่าย
  • เก่งในเรื่องการค้นหาห้องพักที่มีราคาถูกที่สุด

ข้อเสีย

  • ตัวกรองการค้นหายังไม่ค่อยเสถียร
  • บางรีวิวอาจเป็นรีวิวที่หลอกลวงหรือไม่น่าเชื่อถือ

13. Trivago

มาถึงเว็บไซต์สุดท้ายที่เป็นเว็บจองที่พักเจ้าใหญ่ที่สุดอย่าง Trivago ซึ่งรวบรวมราคาที่พักทั้งในและต่างประเทศมากถึง 5 ล้านแห่งใน 190 ประเทศทั่วโลก โดยจุดเด่นของเว็บไซต์คือสามารถเปรียบเทียบราคาที่พักจากหลายแหล่งข้อมูลได้ โดยฐานข้อมูลของ Trivago ก็มาจากเว็บไซต์ชั้นนำมากมาย ทั้ง Agoda, Booking.com, Expedia และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงข้อมูลจากเว็บไซต์ของที่พักโดยตรงอีกด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นภาพรวมราคาที่พักได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบที่อยากวางแผนการเดินทางอย่างรวดเร็ว

ข้อดี

  • เว็บไซต์ดูเรียบง่ายและสะอาดตา พร้อมออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย
  • เปรียบเทียบราคาที่พักจากเว็บไซต์อื่นๆ ได้
  • สามารถค้นหาราคาจากเว็บไซต์ของที่พักได้โดยตรง
  • รายละเอียดที่พักชัดเจน

ข้อเสีย

  • ตัวเลือกที่พักค่อนข้างน้อย
  • ราคาที่เห็นอาจไม่ใช่ราคาจริง เพราะยังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • แสดงผลลัพธ์เฉพาะที่พักที่ตรงตามเกณฑ์ที่เว็บไซต์กำหนด

สรุป

มาถึงตรงนี้ คงจะพอทราบกันแล้วว่าจองที่พักเว็บไหนถูกบ้าง ซึ่งปี 2023 นี้มีเว็บจองโรงแรมราคาถูกให้เลือกมากมาย โดยแต่ละเว็บไซต์ก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ดังนั้น หากเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง ก็จะได้ที่พักในราคาสุดคุ้มอย่างแน่นอน แต่หลังจากได้ที่พักราคาดีๆ แล้ว อย่าลืมเลือกใช้บริการขนส่งสัมภาระ ที่จะช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย สบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ อย่างที่ Airportels มีบริการขนส่งสัมภาระที่สะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดูแลสัมภาระให้ถึงที่พักอย่างปลอดภัยหายห่วง

เปรียบเทียบ ราคาโหลดกระเป๋า กับราคาส่งกระเป๋าของแอร์พอเทลล์

ราคาโหลดกระเป๋า

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าเวลาจองตั๋วเครื่องบิน ราคาโหลดกระเป๋า เป็นอีกหนึ่งปัญหาเพราะบางครั้ง ราคาโหลดกระเป๋า แพงพอๆกับราคาตั๋วเครื่องบินเลย จะบิน Full Service ก็แพงไป แอร์พอเทลล์ เลยจะมาแนะนำบริการใหม่ของเราคือส่งกระเป๋าไปยังต่างจังหวัดแบบวันเดียวถึง ในราคา 399 บาท (กุมภาพันธ์ 2563)

สำหรับบริการส่งกระเป๋า ไปต่างจังหวัดแบบวันเดียวถึง เราให้บริการการส่งจากสถานที่ใดก็ได้ในเขตกรุงเทพไม่ว่าจะเป็นบ้าน โรงแรม ที่ทำงาน หรือสนามบิน ไปยังจังหวัดภูเก็ต และจังหวัดเชียงใหม่ โดยเราจะส่งกระเป๋าหรือสัมภาระไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการ โดยเพียงแค่ให้เราเข้าไปรับกระเป๋าก่อนเที่ยงวัน เราจะนำกระเป๋าไปส่งให้ถึงปลายทางประมาณ 3 ทุ่ม ในราคา 399 บาท สำหรับกระเป๋าที่หนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม และ 599 สำหรับกระเป๋าที่หนักไม่เกิน 40 กิโลกรัม

อ่านมาถึงตรงนี้เชื่อว่าหลายคนอาจจะยังงงๆ ว่ามันจะคุ้มว่าโหลดกระเป๋ากับสายการบินไหมเราเลยทำตารางเปรียบเทียบ ราคาโหลดกระเป๋า ของสายการบิน เวียดเจ็ท แอร์เอเชีย นกแอร์ และไลออนแอร์ มาเทียกับราคาบริการส่งกระเป๋าต่างจังหวัดของเรากัน

ราคาโหลดกระเป๋า เมื่อซื้อน้ำหนักพร้อมตั๋วเครื่องบิน

สายการบินแอร์พอเทลล์เวียดเจ็ทแอร์เอเชียนกแอร์ไลออนแอร์
15 kg399220430350375
20 kg399320460450405
25 kg599420580565495
30 kg599650910850645
40 kg5999501,2201,500945

เราจะเห็นว่าการจอง โหลดกระเป๋าของเกือบทุกสายการบินจะถูกกว่าเมื่อจองพร้อมตั๋ว โดยราคาของ เวียดเจ็ท จะถูกที่สุดในช่วง 15 – 25 กิโลกรัม และในช่วง 30 – 40 กิโลกรัม แอร์พอเทลล์ จะถูกที่สุด ซึ่งราคาของ แอร์พอเทลล์ เป็นราคาที่เราไปรับกระเป๋าจากที่บ้าน หรือที่ไหนก็ได้ในกรุงเทพ ไปส่งถึงโรงแรมเลย เรียกได้ว่าหมดกังวลเรื่องกระเป๋า และไปเที่ยวหรือทำธุระได้อย่างหมดกังวล

ราคาโหลดกระเป๋า

ราคาโหลดกระเป๋า เมื่อซื้อน้ำหนักก่อนบิน (ผ่านเว็บ หรือแอปพลิเคชั่น)

สายการบินแอร์พอเทลล์เวียดเจ็ทแอร์เอเชียนกแอร์ไลออนแอร์
15 kg399220500450375
20 kg399320520625405
25 kg599420660865495
30 kg5996501,0401,200645
40 kg5999501,4002,000945

ถ้าเราไม่ได้วางแผนไว้ล่วงหน้าว่าจะเอาของไปเยอะเราก็ต้องมาซื้อก่อนบินซึ่งข้อกำหนดการซื้อโหลดกระเป๋าก่อนบินของแต่ละสายการบินนั้นก็แตกต่างกันออกไป มีตั้งแต่ต้องซื้อล่วงหน้า 24 ชั่วโมง ไปจนถึงก่อนบิน 3 ชั่วโมงเลย หลายๆสายการบินจะมีราคาที่แพงกว่าซื้อพร้อมตั๋ว แต่จะมี เวียดเจ็ท และ ไลออนแอร์ ที่ราคาเท่าเดิม

ราคาโหลดกระเป๋า เมื่อซื้อน้ำหนักหน้าเคาน์เตอร์เช็คอิน (Walk-in)

สายการบินแอร์พอเทลล์เวียดเจ็ทแอร์เอเชียนกแอร์ไลออนแอร์
15 kg3999101,0009005,250
20 kg3999101,0002,4007,000
25 kg5991,9802,0003,9008,750
30 kg5993,0502,0005,40010,500
40 kg5995,1903,0008,40014,000

สุดท้ายคือฉุกเฉินสุดๆ ไม่ได้ซื้อไปเลย หรือคิดว่าจะถือขึ้นเครื่อง แต่อาจะจะเจอปัญหา เช่น น้ำหนักเกิน ขนาดกระเป๋า หรือสัมภาระ ใหญ่เกินกว่าที่สายการบินกำหนด ราคาโหลดกระเป๋า ในสถานะการณ์แบบนี้จะต้องชำระค่าโหลดกระเป๋าที่อาจจะแพงกว่าค่าตั๋วเครื่องบินซะอีก

ราคาโหลดกระเป๋า

ทางออกที่ดีที่สุดคงจะไม่ใช่การยอมทิ้งของแน่นอน วิธีง่ายๆแค่เอากระเป๋าหรือสัมภาระ มาให้ แอร์พอเทลล์ ทำการส่งให้ดีกว่า เราไม่มีคิดเงินเพิ่ม และมีประกันกระเป๋าทุกใบแบบไม่ต้องซื้อเพิ่ม เรามีเคาน์เตอร์อยู่ทั้ง 2 สนามบินคือ สนามบินดอนเมือง จะอยู่อาคารผู้โดยสารในประเทศ ชั้น 1 บริเวณ ประตู 9 และ สนามบินสุวรรณภูมิ อยู่ชั้น B บริเวณสถานี Airport Rail Link ข้างๆ Super Rich สีส้ม

แอร์พอเทลล์ จะได้เปรียบกว่าในด้านความสะดวกสบายเพราะเราจะไปรับกระเป๋าให้ถึงบ้าน และนำไปส่งถึงโรงแรมปลายทางเลย ทำให้ไม่ต้องลากกระเป๋าไปไหนมาไหนด้วย ไม่ต้องไปต่อแถวโหลดกระเป๋า สามารถวางแผนการเดินทางการท่องเที่ยวได้อย่างอิสระไม่ต้องเอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรมก่อน และสามารถขึ้นรถบัส สองแถวได้ ไม่ต้องขึ้นแท็กซี่ตลอด ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าเดินทางไปได้เยอะเลย และวันนี้เรายังมีราคาพิเศษ สำหรับลูกค้าสายการบินนกแอร์ และไลออนแอร์ สามารถสอบถามกับทางเรา หรือทางสายการบินได้เลย

อ่านเกร็ดความรู้เรื่องการท่องเที่ยวได้ที่นี้
https://th.airportels.asia/contents/