ฝากท้อง-ฝากกระเป๋า 10 ร้านอาหารเด็ดเชียงใหม่ พร้อมบริการอำนวยความสะดวกไม่ต้องแบกสัมภาระ

chiang-mai-restaurant

หากจะพูดถึงอาหาร​ในจังหวัดเชียงใหม่​ เมืองใหญ่แห่งนี้​มีร้านอาหารอร่อยเยอะมาก​ เรียกได้ว่าตั้งแต่ฟ้าสางไปจรดตะวันตกดินร้านอาหาร คาเฟ่ต่าง ๆ​ คึกคักไม่เคยหลับใหล​ วันนี้จึงอยากจะชวนลิ้มรสอาหารเหนือและแนะนำร้านเด็ดของเมืองเชียงใหม่ที่ไม่ควรพลาด

อร่อยไปกับเชียงใหม่ มัดรวมร้านอาหารเด็ด

1. ข้าวซอยเสมอใจ​ ฟ้าฮ่าม

khao-soi-chiang-mai

ถือเป็นร้านข้าวซอยยอดนิยม ติด Top 10 ในเชียงใหม่มาทุกยุคสมัย เปิดมานานกว่า 60 ปี และยังคงความเข้มข้นแบบต้นตำรับเอาไว้ โดดเด่นด้วยเส้นที่เหนียวนุ่ม บวกกับน้ำซุปเข้มข้นจัดเต็มเครื่องเทศ นอกจากนี้ยังมีอาหารเหนือแท้ ๆ อย่าง​ ไส้อั่ว​ น้ำพริกหนุ่ม​ และแกงฮังเล ให้ได้ลิ้มรสเข้าถึงอาหารเหนืออย่างแท้

  • ที่ตั้ง : 391 ต. ฟ้าฮ่า​ม ​อ.เมือง 

2. น้ำเงี้ยว​ ข้าวเงี้ยว​ ท่าแพ 100 ปี

kanom-jean-nam-ngeaw

ร้านขนมจีนน้ำเงี้ยวที่อยู่คู่เชียงใหม่มามากกว่า 100 ปี​ เปิดขายมาอย่างยาวนานตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ขนมจีนน้ำเงี้ยวของที่นี่ทำบนเตาถ่านเพียงวันละหม้อเท่านั้น​ ที่​สำคัญใช้พริกแกงที่ทำเอง เป็นสูตรน้ำเงี้ยวแบบไทยใหญ่ ที่ปรุงอย่างพิถีพิถันและสดใหม่จนได้ความอร่อยที่ทุกคนติดใจ

  • ที่ตั้ง : 49 ถ.ท่าแพ​ ต. ช้างม่อย​ อ.เมือง

3. ฮ้านถึงเชียงใหม่

Northern-food

ฮ้านถึงเชียงใหม่มีดีกรีการันตีจากมิชลินไกด์ประจำปี 2565 คุณจะได้สัมผัสกับอาหารเหนือแท้ ๆ ที่ได้จากวัตถุดิบธรรมชาติ​ ของหากินยากไม่ว่าจะเป็น​ ผัดเห็ดถอบ​ แกงเชียงดาไข่มดแดง​ ปูอ่อง​ ตำขนุน​ และอีกสารพัดอาหารขึ้นชื่อของภาคเหนือที่รอให้ลิ้มรสความเป็นคนเมืองแบบลำแต๊ ๆ

  • ที่ตั้ง : 63/9 ซอย สุเทพ ต. สุเทพ​ อ.เมือง

4. ข้าวเงี้ยวตาบุญ​ พ.ศ ๒๕๐๓

Khao-ngiao-chiang-mai

ข้าวเงี้ยว​ คือข้าวที่หุงกับเลือดหมู​ ที่ร้านของตาบุญจะเสิร์ฟในจานสังกะสีพร้อมกับเครื่องเคียงต่าง ๆ ได้รสชาติอร่อยจัดจ้าน​ ที่ร้านยังมีเมนูขนมจีน และอาหารทานเล่นอื่น ๆ​ ให้เลือกรับประทาน มีอยู่ 2 สาขา คือสาขาหน้าประปา​ และ​สาขาเจ็ดยอด​ ใครที่อยากลิ้มลองความอร่อยสามารถแวะไปได้

  • ที่ตั้ง : 250/17 ต. ป่าตัน​ อ.เมือง​  และ​  31/8 ถ.เจ็ดยอด-อยู่​เย็น​ ต.ช้างเผือก​ อ.เมือง

5. ลาบบังเกอร์​

Larb Muang

ร้านลาบเมืองแท้ ๆ​ ของเด็กเชียงใหม่ ที่มีจุดเด่นที่ราคาแสนถูก​ เพราะทุกจานราคาแค่ 10 บาทเท่านั้น ราคาถูกสุดประหยัดแต่กินอร่อยได้แบบรสชาติคนเมืองแท้ๆ​ แน่นอน

  • ที่ตั้ง : 168 ถ. เชียงใหม่-ลำพูน​ ต.วัดเกต​ อ.เมือง

6. ข้าวโซอิ Khao-so-I

Khao-soi-meat

ข้าวซอยประยุกต์ในสไตล์ญี่ปุ่น​ ตกแต่งร้านเป็นสไตล์ญี่ปุ่น นำอาหารเหนือมาผสมผสานเข้ากับความเป็นญี่ปุ่น คุณจะได้ลิ้มรสอาหารรสชาติเหนือแท้ ๆ​ แต่หน้าตาญี่ปุ่น ที่รับรองว่าทั้งเพลินตาและอร่อยอิ่มท้องอย่างแน่นอน

  • ที่ตั้ง : ถ.เจริญราษฏร์ ต.วัดเกต อ.เมือง

7. เฮือนสุนทรี

lanna-food-chiang-mai

ร้านอาหารเหนือเก่าแก่ประจำเชียงใหม่ ตกแต่งร้านให้เป็นบรรยากาศแบบล้านนาแท้ ๆ​ ที่นี่เสิร์ฟอาหาร ภาคเหนือสไตล์พื้นเมืองดั้งเดิม ที่อร่อยเข้มข้น​ นั่งรับประทานอาหารพร้อมฟังดนตรีสดเพลิน ๆ​ ได้บรรยากาศเชียงใหม่แบบย้อนยุค

  • ที่ตั้ง​ : 208 ซอยป่าตัน ต.สันผีเสื้อ อ.เมือง 

8. ก๋วยจั๊บช้างม่อยตัดใหม่

ก๋วยจั๊บ-ช้างม่อย
ขอบคุณภาพจาก : TEERAPAT.COM

ร้านก๋วยจั๊บครบเครื่องที่อัดแน่นไปด้วยหมูกรอบมันน้อย​ น้ำซุปรสชาติเข้มข้น​ กลมกล่อม​ นอกจากนี้ยังมีเมนูเด็ด อย่างข้าวหมูตุ๋นที่จะได้ลิ้มรสเนื้อหมูเข้มข้นพร้อมราดซอสสูตรเด็ดที่อร่อยลงตัว

  • ที่ตั้ง​ : 99/11-12 ถ.ช้างม่อยตัดใหม่ ต.ช้างม่อย อ.เมือง

9.​ โรตีป้าเด

Roti-pa-day
ขอบคุณภาพจากเพจ : Wherever I Go

ร้านโรตีในตำนานที่ดูภายนอกก็คืออาหาร Street Food ทั่วไปแต่หากได้ลิ้มรสชาติต้องติดใจทุกราย มีโรตีไส้ต่าง ๆ​ ไม่ว่าจะเป็นช็อกโกแลต กล้วย​ ชีส​ ส้ม และยังมีเครื่องดื่มอย่างนมสดและชาร้อนที่กินเข้ากันดี ใครอิ่มอร่อยจากอาหารคาวแล้วสามารถไปต่อของหวานที่ร้านป้าเดได้

  • ที่ตั้ง : หน้าวัดมหาวัน ถ.ท่าแพ​ ต.ช้างม่อย อ.เมือง

10. คั่วไก่นิมมาน

Kua-kai-Nim-Man
ขอบคุณภาพจาก : Atcharawan Boonvearojkul

ชื่อธรรมดาแต่หน้าตาไม่ธรรมดาเพราะร้านนี้มีทีเด็ดที่หน้าตาแตกต่างออกไป​ คุณจะได้สัมผัสกับก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ที่เสิร์ฟมาบนกระทะร้อน เนื้อไก่ชิ้นโต ๆ กลิ่นหอมกระทะ ที่หลายคนอร่อยจานเดียวไม่เคยพอ

  • ที่ตั้ง​ : ซอยสายน้ำผึ้ง (นิมมานฯ ซอย17) ต.สุเทพ อ.เมือง

การท่องเที่ยวไม่มีสับสนด้วยบริการรับฝากกระเป๋าและสัมภาระ

luggage-family

ถ้าหากคุณเบื่อหน่ายกับการที่ต้องหอบหิ้วของพะรุงพะรังหอบขึ้นรถ​ ลงรถแบกไปไหนต่อไหน​ แน่นอนว่าคุณจะเที่ยวไม่สนุกอย่างแน่นอน แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะหากคุณไปเที่ยวเชียงใหม่ ทุกวันนี้ที่นี่มีบริการรับฝากกระเป๋า เพื่ออำนวยความสะดวกให้การท่องเที่ยวของคุณราบรื่นยิ่งขึ้น​และมีข้อดี​คือ

  • ทำให้คุณเที่ยวได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น
  • จะซื้อของมากแค่ไหน​ กระเป๋าใบใหญ่หรือมีหลายชิ้น​ ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป​ ช้อปได้อย่างเพลินใจ​ ฝากของไว้แล้วช้อปได้ต่อ
  • สนุกกับการท่องเที่ยวมากขึ้นไม่ต้องกังวลว่าจะไปวางลืมสัมภาระไว้ที่ไหน

แนะนำบริการฝากกระเป๋าและสัมภาระ

AIRPORTELs บริการรับฝากกระเป๋า​ วันนี้มีสาขาเปิดให้บริการแล้วที่เชียงใหม่ สำหรับใครที่ไปเดิน​        ช้​อปปิงที่ห้าง​สรรพ​สินค้า​เซ็นทรัลเชียงใหม่ แอร์พอร์ต​ สามารถฝากกระเป๋าและสัมภาระของคุณได้ที่ AIRPORTELs บริเวณชั้น G ประตู​ 3 ที่เปิดให้บริการเวลา​ 11.00-21:00 น.​ ของทุกวัน​ ราคาประหยัดเริ่มต้นเพียง 100 บาท​ ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าขนาดเล็ก​ ขนาดใหญ่ หรืออุปกรณ์กีฬาอย่างถุงกอล์ฟ​หรือ​รถจักรยานที่ AIRPORTELs เขาก็มีพื้นที่รองรับอย่างเพียงพอ และเก็บรักษาสัมภาระของคุณไว้ในพื้นที่อย่างปลอดภัยและได้มาตรฐาน

chiang-mai-luggage-storage
เคาน์เตอร์แอร์พอเทลล์ เชียงใหม่แอร์พอร์ต

แนะนำบริการขนส่งกระเป๋าและสัมภาระ

Airportels-Luggage-Delivery

สะดวกสบายกับบริการขนส่งกระเป๋าและสัมภาระของแอร์พอร์ตเทล ที่จะส่งสัมภาระของคุณจากกรุงเทพฯ​ ไปยังเชียงใหม่​ หรือจากเชียงใหม่ส่งตรงถึงกรุงเทพฯ​ กลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย​ บริการขนส่งกระเป๋าสะดวกรวด​เร็วและใช้บริการง่าย​ เพียงแค่ Booking นัดหมายให้พนักงานเข้าไปรับกระเป๋าและสัมภาระของคุณที่บ้าน​ จาก​นั้นจะทำการขนส่งกระเป๋าจากบ้านของคุณ​ไปส่งถึงที่พักโรงแรมของคุณในเชียงใหม่​ ซึ่งระหว่างการเดินทางลูกค้าสามารถเช็กสถานะการเดินทางของกระเป๋าได้​  ทั้งทางไลน์, Facebook, รวมถึงอีเมล​ นอกจากนี้ยังหมดห่วง เกี่ยวกับการขนส่งเพราะ​ AIRPORTELs มีประกันกระเป๋าที่มีมูลค่าสูงถึง 100,000 บาทให้กับทุก ๆ​ การเดินทางเลยทีเดียว​

Chaing-mai-wat

เที่ยวเชียงใหม่ไม่เคยเบื่อ​ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ​ รวมถึงร้านอาหาร ก็มีหลากหลายสไตล์ไม่จำเจ การไปเที่ยวเชียง​ใหม่ทุกครั้งจึงได้อารมณ์ที่แตกต่างกันไปตื่นตาตื่นใจและได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ​  และที่สำคัญทุกวันนี้ยังสะดวกสบายเพราะมีบริการทั้งขนส่งกระเป๋าและสัมภาระ รวมถึงมีบริการฝากรับกระเป๋า​ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้คุณได้เดินท่องเที่ยวอย่างสบายใจ​ สะดวก​ ปลอดภัย​ สร้างความสุขใจในการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นได้อีกระดับ 

ที่มาของข้อมูล

9 ร้านอาหาร ICONSIAM วิวแม่น้ำเจ้าพระยา: ดื่มด่ำประสบการณ์อาหารหรูริมน้ำ

9 ร้านอาหาร ICONSIAM พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา: ประสบการณ์อาหารหรูริมน้ำ

จะดีแค่ไหนหากวันพักผ่อนหรือหลังจากทำงานเหนื่อย ๆ แล้วได้นั่งรับประทานอาหารอร่อย ๆ พร้อมชมวิวริมแม่น้ำยามค่ำคืน นอกจากได้อิ่มท้องกับอาหารดี ๆ แล้วยังได้อิ่มใจกับบรรยากาศรอบตัว เชื่อว่าต้องเป็นอะไรที่ฟินและฮีลใจได้ดีสุด ๆ และสำหรับใครที่กำลังมองหาร้านอาหารริมน้ำบรรยากาศดี เพื่อเติมเต็มประสบการณ์การรับประทานอาหารสุดหรูท่ามกลางวิวงดงาม ขอแนะนำ 9 ร้านอาหาร iconsiam ที่นอกจากพร้อมเสิร์ฟความอร่อยแล้วยังพร้อมเสิร์ฟวิวสวย ๆ ของโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาอีกด้วย

แนะนำ 9 ร้านอาหาร Iconsiam พร้อมชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

James Boulangerie
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: James Boulangerie

เริ่มต้นกันที่ร้านอาหารไทยและอาหารสไตล์ยุโรปที่ขนทัพเมนูมาให้เลือกอย่างคับคั่ง ใครที่เป็นแฟนคลับร้านนี้น่าจะทราบว่าเมนูไฮไลต์ของร้านคือครัวซองต์เนื้อนุ่มหอมอร่อย แต่เมื่อมาเปิดที่ไอคอนสยามก็กลายเป็นร้านอาหารที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยทั้งวัน การตกแต่งร้านเน้นโทนสีขาวและความโปร่งสบายจึงสามารถนั่งรับชมวิวของแม่น้ำเจ้าพระยาได้แบบเต็มอิ่ม เลือกนั่งได้ทั้งด้านในและด้านนอก เมื่อมาถึงร้านนี้แล้วเมนูที่พลาดไม่ได้ ได้แก่ ครัวซองต์รสชาติต่าง ๆ โดยเฉพาะครัวซองต์ชาเขียวรสอร่อยเกินห้ามใจ นอกจากนี้ยังมีเมนูอิ่มท้องอื่น ๆ อย่างพาสต้า สเต็ก สลัด ซุปเห็ดทรัฟเฟิล ฯลฯ แต่ละจานการันตีว่าอร่อยเด็ด

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
Fallabella River Front
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Fallabella

ชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจากชั้นบนสุดของไอคอนสยามได้ที่ร้านนี้ บอกเลยว่าเป็นร้านที่จะทำให้ทุกคนดื่มด่ำกับบรรยากาศยามค่ำคืนได้อย่างเต็มอิ่ม จุดเด่นคือการเป็นร้าน Rooftop เสิร์ฟอาหารไทย-อิตาเลียน ช่วงค่ำยังเป็นบาร์ให้ดื่มชิล ๆ ท่ามกลางบรรยากาศแสงสีของกรุงเทพฯ และโค้งน้ำเจ้าพระยาสุดโรแมนติก สำหรับเมนูที่อยากบอกต่อ ได้แก่ เนื้อย่าง บอกเลยว่าเนื้อนุ่มมาก ยิ่งรับประทานคู่กับซอสที่เสิร์ฟมาด้วยกันยิ่งลงตัว หรือจะเป็นเมนูพาสต้าก็อร่อยไม่แพ้กัน เส้นเหนียวหนึบแบบกำลังดี ถูกใจคนชอบอาหารอิตาเลียน นอกจากนี้ยังขอแนะนำซีซ่าร์สลัด เมนูธรรมดาที่ไม่ธรรมดา เพราะผักกรอบมากและน้ำสลัดเข้มข้นถึงใจ

  • ช่วงราคา : 500 – 1,200 บาท
Greyhound Café
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Greyhound cafe

ลิ้มรสความอร่อยของอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตกได้แบบไม่มีเบื่อ นอกจากมีเมนูให้เลือกมากมายแล้วยังได้รับชมวิวสวย ๆ ไม่ว่าจะเป็นวิวพระอาทิตย์ตกดินหรือวิวโค้งน้ำยามค่ำคืน การตกแต่งร้านสไตล์โมเดิร์น เน้นโทนสีขาวและสีดำสุดมินิมอล โดยรอบร้านแต่งแต้มด้วยกระจกเปิดรับวิวด้านนอกเต็มที่ พร้อมเพิ่มบรรยากาศสุดผ่อนคลายด้วยต้นไม้สีเขียวที่กระจายโดยรอบ เมนูแนะนำ ได้แก่ แซลม่อนแช่พริก ปลาส้มสีสันน่ารับประทานมาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด และปลากะพงย่างเสิร์ฟพร้อมหน่อไม้ฝรั่งและมันฝรั่ง นอกจากนี้ยังมีเครื่องดื่มและของหวานขึ้นชื่อ ได้แก่ ทับทัมกรอบ สาคูไอศกรีมมะพร้าว และชาไทย รสชาติเข้มข้นอร่อยแน่นอน

  • ช่วงราคา : 300 – 1,000 บาท
Café Chilli
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Cafe Chilli

ใครว่าในไอคอนสยามจะมีแต่ร้านอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตกเท่านั้น หากกำลังเปรี้ยวปากอยากรับประทานอาหารอีสานแนะนำที่ร้านนี้เลย ร้านอาหารอีสานพร้อมเสิร์ฟความแซ่บแบบพรีเมียม จุดเด่นคือวัตถุดิบสำคัญนำมาจากภาคอีสาน การันตีความอร่อยแซ่บ เมนูที่ต้องสั่ง ได้แก่ แจ่วฮ้อนหมูหมักน้ำมันงามาพร้อมน้ำจิ้มรสเด็ด รวมถึงต้มแซ่บหมูเด้งและข้าวโพดทอด  อิ่มอร่อยท่ามกลางการจัดร้านแบบไทย ๆ ผสมผสานวัฒนธรรมอีสานไว้อย่างลงตัว

  • ช่วงราคา : 250 – 500 บาท
 Jumbo Seafood

ใครเคยไปเที่ยวสิงคโปร์เชื่อว่าต้องคุ้นหูชื่อร้าน Jumbo Seafood เพราะนี่คือร้านดังของสิงคโปร์ที่ทนกระแสความฮิตไม่ไหวเลยต้องมาเปิดร้านที่ไทย แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าร้านนี้เป็นร้านอาหารที่เน้นซีฟู้ดเป็นหลัก และไม่ใช่แค่ซีฟู้ดธรรมดานะแต่เป็นซีฟู้ดขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู หอย คัดมาเฉพาะไซซ์บิ๊ก ๆ จนกลายเป็นจุดเด่นของร้านไปเสียแล้ว ที่นี่ให้ความสำคัญกับวัตถุดิบมาก ๆ โดยวัตถุดิบจะต้องสดใหม่เพื่อชูรสอาหารให้อร่อยยิ่งขึ้น การตกแต่งของร้านเรียบง่ายแต่หรูหรา มีกระจกบานใหญ่มองวิวด้านนอกได้ สำหรับเมนูแนะนำที่ต้องลอง ได้แก่ หนังปลาทอดไข่เค็มที่แอบกระซิบว่าอร่อยนัวและเข้มข้น กุ้งผัดพริกไทยและเกลือที่คัดกุ้งตัวโต ๆ แน่น ๆ และที่ขาดไม่ได้คือปูผัดไข่เค็ม เสิร์ฟเฉพาะปูไซซ์จัมโบ้และไข่เค็มหอม ๆ รับประทานคู่กับข้าวสวยร้อน ๆ คือดีไม่ไหว

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: nice two Sea u 나이스투씨유

ใครชื่นชอบอาหารทะเลบอกเลยว่าห้ามพลาดเด็ดขาด ร้านปิ้งย่างวิวแจ่ม ๆ ที่หาได้ยากในกรุงเทพฯ สำหรับร้านนี้จัดให้เพื่อคนรักการรับประทานปิ้งย่างอาหารทะเลสไตล์เกาหลี ร้านตั้งอยู่บน Rooftop เปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา สำหรับเมนูที่บอกว่าต้องลอง ได้แก่ เมนูซีฟู้ดที่สั่งมาย่างได้แบบฟิน ๆ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปลาหมึก รับประกันความสดใหม่ รวมถึงยังมีเมนูปูดองซีอิ๊วเกาหลี จูกุมิกับหอยเชลล์กระทะร้อน และหอยสังข์ซาชิมิ แค่ได้ยินชื่อก็ท้องร้อง ขาดไม่ได้เลยคือน้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ด เมื่อรับประทานกับอาหารทะเลคืออร่อยลงตัวสุด ๆ นอกจากอาหารอร่อยถูกปากคนไทยแล้วยังมอบวิวสวย ๆ ของแม่น้ำเจ้าพระยา เรียกได้ว่าทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจกับบรรยากาศไปพร้อมกันเลยทีเดียว

  • ช่วงราคา : 500 – 1,000 บาท
HOBS ICONSIAM

ได้เวลาสนุกกับบาร์วิวแม่น้ำกันบ้าง บอกเลยว่าที่นี่เหมาะมากกับสายแฮงก์เอาท์ เพราะช่วงค่ำมีดนตรีสดแวะเวียนมามอบเสียงเพลง การจัดร้านเน้นความโปร่งสบายเพราะต้องการเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุด สำหรับอาหารพร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติ ไหนจะเครื่องดื่มที่มีทั้งแบบมีแอลกอฮอล์และแบบไม่มีแอลกอฮอล์ สำหรับเมนูที่ต้องบอกต่อ ได้แก่ Truffle Cheese Bomb เบอร์เกอร์ชิ้นโต ไฮไลต์คือบันนุ่ม ๆ โดยเมนูนี้เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านใครมาก็ต้องสั่ง อย่าลืมขาหมูเยอรมันที่บอกได้แค่ว่าเด็ดจริง ขาหมูกรอบมาก แถมน้ำจิ้มรสเด็ดอร่อยเกินห้ามใจ

  • ช่วงราคา : 400 – 1,000 บาท
Great Habour
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Great Harbour

เอาใจคนรักการรับประทานบุฟเฟต์กันบ้าง โดยนี่คือร้านบุฟเฟต์อาหารนานาชาติชื่อดังจากไต้หวัน บินมาเสิร์ฟความอร่อยให้คนไทยแบบไม่อั้น ภาพรวมร้านค่อนข้างใหญ่ รองรับได้มากถึง 400 ที่นั่ง ไลน์อาหารบอกเลยว่าจัดเต็ม โดยเฉพาะซีฟู้ดที่สดใหม่และชิ้นใหญ่เต็มคำ ไม่ว่าจะเป็นกุ้ง ปู หอย หอยนางรม และซาชิมิ ซึ่งเป็นเมนูได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่ง สำหรับเมนูจานเดียวขอแนะนำเป็ดย่าง ซูชิเนื้อวากิว ข้าวหน้าปลาไหลญี่ปุ่น ที่รับรองว่าสั่งครั้งเดียวไม่เคยพอ และคนรักชีสต้องไม่พลาดเพราะที่นี่จัดเรียงชีสไว้อย่างน่ารับประทานแถมมีให้เลือกหลายแบบอีกด้วย

  • ช่วงราคา : 500 – 1,500 บาท
บ้านขนิษฐา
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: ถนัดชิม

แค่ชื่อร้านก็คาดเดาได้แล้วว่าเป็นร้านอาหารไทยอย่างแน่นอน และไม่ใช่แค่ร้านอาหารไทยธรรมดาแต่เป็นร้านอาหารไทยรสชาติไทยแท้ จุดเด่นของร้านคือแต่ละเมนูพิถีพิถันการจัดจานทำให้ทุกเมนูหน้าตาสวยงามน่ารับประทาน แถมรสชาติยังขึ้นชื่อ สูตรอาหารได้รับรางวัลการันตีความอร่อย คัดสรรวัตถุดิบชั้นดี การแต่งร้านยังคงสอดแทรกด้วยความงามแบบไทย มีให้เลือกทั้งที่นั่งด้านในและที่นั่งด้านนอกเปิดรับวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เมนูที่ต้องบอกต่อ ได้แก่ กุ้งมังกรภูเก็ตทอดกระเทียมพริกไทย กระซิบว่ากุ้งตัวใหญ่มากและยังสดใหม่ ปูนิ่มผัดซอสมะขามรสชาติเปรี้ยวหวานกำลังดี รวมถึงแกงส้มชะอมชุบไข่ทอด รับประทานกับข้าวสวยร้อน ๆ คือเข้ากันเป็นอย่างดี

  • ช่วงราคา : 300 – 800 บาท

จะเห็นว่านอกจากที่นี่จะเป็นแลนมาร์กแห่งการชอปปิงแล้ว ร้านอาหาร iconsiam ก็เป็นอีกหนึ่งจุดเด่นไม่แพ้กัน เพราะมีหลากหลายร้านอาหารอร่อยมาพร้อมบรรยากาศดี โดดเด่นด้วยวิวแม่น้ำเจ้าพระยา ยิ่งหากเป็นตอนค่ำยิ่งได้สัมผัสลมเย็น ๆ และชื่นชมไปกับแสงสียามค่ำคืน จึงไม่น่าแปลกใจว่าเพราะอะไรไอคอนสยามจึงกลายเป็นแลนด์มาร์กที่ทั้งคนไทยและต่างชาติต้องแวะเช็กอิน ใครอยากสัมผัสประสบการณ์แบบนี้ขอเชิญที่ไอคอนสยาม เดินทางง่ายด้วยรถไฟฟ้าสายสีทอง สถานีเจริญนคร เชื่อมต่อสู่ห้างสรรพสินค้าได้เลย หรือจะเดินทางด้วยรถยนต์ก็มีที่จอดรถเพียบ สะดวกสบายไม่แพ้กัน 

ที่มาข้อมูล

ฝากกระเป๋าในภูเก็ตและไปตะลอนกินของเด็ด ที่คนภูเก็ตคอนเฟิร์ม!

ฝากกระเป๋าในภูเก็ตอย่างปลอดภัย แล้วไปตะลอนหาของกินกัน!

เมื่อมาถึงจังหวัดภูเก็ต สิ่งที่แรกที่คิดถึงตั้งแต่ตอนวางแผนมาเที่ยวก็คือการหาของอร่อย ๆ ลงพุง! วันนี้ AIRPORTELs จึงขอนำเสนอ 10 เมนูเด็ดที่ชาวภูเก็ตคอนเฟิร์มว่าอร่อยชัวร์ อีกทั้งยังเป็นเมนูที่ถ้าเพื่อน ๆ มาถึงที่นี่แล้วและยังไม่ได้ลิ้มลองชิม ก็จะถือว่ายังมาไม่ถึงภูเก็ตนั่นเอง!

แต่ก่อนที่จะเริ่มออกเดินทางไปตะลอนหาเมนูเด็ด AIRPORTELs อยากแนะนำให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกับจุดฝากกระเป๋าในจังหวัดภูเก็ตกันก่อน ซึ่งตอนนี้ AIRPORTELs พร้อมให้บริการฝากกระเป๋าในสนามบินภูเก็ตกันได้แล้วนะ!

รายละเอียดการให้บริการของ AIRPORTELs

บริการรับฝากและขนส่งกระเป๋าเดินทาง AIRPORTELs
  • บริการขนส่งกระเป๋าจากโรงแรมในตัวเมืองภูเก็ต ไปยังสนามบินภูเก็ต
  • บริการขนส่งกระเป๋าภายในตัวเมืองภูเก็ต (Same-day Delivery)
  • บริการขนส่งกระเป๋าถึงหน้าบ้านของคุณในวันถัดไป (Next-day Delivery)
  • ใช้งานง่ายผ่านการระบบการจองแบบออนไลน์ ที่ app.airportels.asia
  • การันตีการขนส่งกระเป๋าถึงปลายทาง 100%
  • พร้อมประกันภัยกระเป๋ามูลค่าสูงถึง 50,000 บาท
  • ระบบการแจ้งเตือนสถานะการขนส่งทาง Facebook, WeChat, Kakaotalk, E-mail
  • ราคาเริ่มต้น 400 บาท สำหรับการใช้บริการขนส่งกระเป๋าภายในตัวเมืองภูเก็ต ไม่จำกัดขนาด น้ำหนักกระเป๋า หรือระยะทาง
  • ราคาเริ่มต้น 599 บาท สำหรับการใช้บริการขนส่งไปยังพื้นที่อื่นๆ ในประเทศไทย จำกัดน้ำหนักกระเป๋าที่ 30 กิโลกรัม
  • จองออนไลน์ล่วงหน้าอย่างน้อย 4 ชั่วโมงก่อนเวลาที่ต้องการใช้บริการ

ตอนนี้เพื่อน ๆ ก็ได้ทราบจุดรับฝากกระเป๋าในจังหวัดภูเก็ตกันแล้ว เราขอเริ่มพาทุกคนไปหาของอร่อยทานกันเลยดีกว่า โดยเมนูที่จะแนะนำทั้งหมดก็จะรวมทั้งอาหารคาวและขนมหวาน และเราก็ยังแถมของฝากที่เพื่อน ๆ สามารถซื้อกลับไปให้เพื่อน ครอบครัว หรือคนสนิทกัน ไปดูกันเลย!

เมนูแนะนำในจังหวัดภูเก็ต

  • 1. หมี่หุ้นแกงปูใบชะพลู
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
หมี่หุ้นแกงปูใบชะพลู

แกงปูใบชะพลู หรือน้ำยาปู คล้ายกับน้ำยาที่ทานกับขนมจีน มีส่วนผสมของเครื่องพริกแกง กะปิ กะทิ และขมิ้น แกงจึงมีสีเหลืองสวย มีรสชาติเผ็ด เค็ม เข้มข้นตามแบบฉบับอาหารใต้ ทางใต้มีอาหารทะเลเยอะเลยใช้เนื้อปูมาประกอบอาหาร ทานคู่กับเส้นหมี่ขาว หรือที่คนภูเก็ตนิยมเรียกว่า หมี่หุ้น โรยด้วยกระเทียมเจียว อร่อยจนต้องขอแนะนำ!

ร้านแนะนำ: ร้านครัวระย้า, ร้านชมจันทร์, ร้านหลังคาสังกะสี

  • 2. หมูฮ้อง
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
หมูฮ้อง

หมูฮ้อง หรือหมูสามชั้นต้มซีอิ๊ว มีลักษณะคล้ายหมูพะโล้ แต่รสชาติไม่เหมือนกัน ทำมาจากหมูสามชั้นหมักกับสมุนไพร ได้แก่ พริกไทยขาว หอมแดง กระเทียม และอบเชย ที่ขาดไม่ได้เลยคือ ซีอิ๊วขาว ช่วยเพิ่มรสชาติ และซีอิ๊วดำ ช่วยเพิ่มสีสันให้หมูฮ้องของเรา ผัดและตุ๋นไปเรื่อยๆ จนหมูเปื่อย ทานพร้อมข้าวสวยร้อนๆ

ร้านแนะนำ: ร้านตู้กับข้าว, ร้านวันจันทร์, ร้านมะลิ อาหารพื้นเมืองภูเก็ต

  • 3. โลบะ
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
โละบะ

โลบะ คือ ส่วนต่างๆ จากหมู เช่น เนื้อหมู หัวหมู เครื่องในหมู นำไปต้มกับเครื่องพะโล้ ก่อนนำไปลวกด้วยน้ำผสมซีอิ๊วดำ แล้วจึงนำไปทอดให้ผิวด้านนอกกรอบ ทานกับน้ำจิ้มหวานอมเปรี้ยว ซึ่งทำจากมะขามเปียก น้ำตาล และพริกป่น คนภูเก็ตนิยมรับประทานเป็นอาหารว่าง

ร้านแนะนำ: ร้านโลบะ บางเหนียว, ร้านโลบะแม่ย่านาง

  • 4. โอวต้าว
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
โอวต้าว

โอวต้าว มีลักษณะคล้ายหอยทอดในภาคกลาง แต่เนื้อแป้งมีความเหนียวนุ่มกว่า มีส่วนผสมของหอยนางรมตัวเล็กๆ (ชาวภูเก็ตเรียกหอยติบ) ไข่ เผือกนึ่ง มีถั่วงอกเป็นผักเคียง โรยด้วยกากหมู กุ้งแห้ง หอมแดงเจียว เสิร์ฟคู่กับซอสพริก มีรสชาติจัดจ้าน

ร้านแนะนำ: ร้านโอวต้าว บางเหนียว, ร้านโอวต้าวจี้เปี่ยน, ร้านโอวต้าว สี่แยกจุ๊ยตุ่ย

  • 5. ฮูแช้
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
ฮูแช้

ฮูแช้ หรือบางคนอาจเรียกว่าสลัดผักภูเก็ต เพราะมีหน้าตาคล้ายสลัดผัก ประกอบด้วยผักกาดหอม แครอทซอย มันแกวซอย แตงกวาหั่นซอย เมล็ดข้าวโพดต้มสุก เต้าหู้เหลืองทอดหั่นซอย ไข่ต้ม หมี่กรอบ แต่แท้จริงแล้วฮูแช้ในสมัยก่อนต้องมีผักบุ้งลวกและถั่วงอกลวกด้วย ทานคู่กับน้ำจิ้มพริกแห้ง โรยด้วยถั่วลิสงและงาขาวคั่ว

ร้านแนะนำ: ร้านหมี่สะปำ คุณยายเจียร

  • 6. โอเอ๋ว
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
โอเอ๋ว

โอเอ๋ว เป็นขนมท้องถิ่นของจังหวัดภูเก็ต มีลักษณะเป็นวุ้นใส แตกต่างจากวุ้นทั่วไปเพราะทำจากสมุนไพรจีนชนิดหนึ่งที่มีลักษณะเป็นเมล็ดเล็กๆ สีน้ำตาล แก้ร้อนใน ส่วนผสมหลักๆ ของการทำโอเอ๋ว คือ เมล็ดโอเอ๋ว กล้วย และเจี๊ยะกอ ทานคู่กับน้ำแข็งไส ราดน้ำเชื่อมหรือน้ำหวานสีแดง เพิ่มเครื่องเคียงต่างๆ เช่น ถั่วแดงต้ม วุ้นดำ (เฉาก๊วย) แตงโม กล้วย เป็นเมนูช่วยดับร้อนชั้นดี

ร้านแนะนำ: ร้านโอเอ๋วบ้านโกโรจน์, ร้านโอเอ๋ว หล่อโรง ตลาดฉำฉ่า, ร้านลกเที้ยน

  • 7. เต้าส้อ
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
เต้าส้อ

หลายคนชอบคิดว่าขนมเต้าส้อกับขนมเปี๊ยะคือขนมชนิดเดียวกัน แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ ขนมเต้าส้อจะมีขนาดใหญ่กว่า มีเปลือกกรอบ ร่วนซุยกว่าขนมเปี๊ยะ เนื่องจากต้องอบหรือย่างไฟทั้ง 2 ด้าน มีไส้หวานกับไส้เค็ม ซื้อไปทานเล่นก็ได้ หรือซื้อเป็นของฝากก็ดี

ร้านแนะนำ: ร้านบ้านปิยวรรณ, ร้านเต้าส้อ แม่บุญธรรม

  • 8. อาโป้ง
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
อาโป้ง

อาโป้ง หรือขนมเบื้องมาเลเซีย มีลักษณะคล้ายขนมถังแตก ทำจากแป้งข้าวเจ้า น้ำตาลทราย ไข่ไก่ (ไข่แดงอย่างเดียว) น้ำกะทิ ผสมให้เข้ากัน กลิ้งน้ำแป้งเป็นแผ่นกลมให้ทั่วกระทะ พอเหลืองก็ลอกแล้วม้วนออกมาทิ้งไว้ จะกรอบนอกนุ่มใน นิยมรับประทานคู่กับชาหรือกาแฟ

ร้านแนะนำ: ร้านอาโป้งแม่สุณี, ร้านอาโป้ง โกเนี้ยว เจ้าเก่า

  • 9. บี้ผ้าง
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
บี้ผ้าง

ขนมบี้ผ้าง เป็นขนมท้องถิ่นของภูเก็ตที่มีมานาน ลักษณะเป็นข้าวพอง (ข้าวเหนียว) ทอดกรอบ ตัดเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ราดด้วยน้ำตาลเคี่ยวรสชาติหวานเค็ม กลมกล่อม คล้ายข้าวตัง มีกลิ่นหอมจากหอมเจียว เหมาะเป็นของว่างที่ทานคู่กับเครื่องดื่มร้อนหรือเย็นสักแก้ว รับประทานได้ง่าย เก็บได้นาน

ร้านแนะนำ: ร้านขายของฝากทั่วไป

  • 10. ปุ้ยควาย
ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต
ปุ้ยควาย

ขนมปุ้ยควาย หรือขนมหัวใจงาขาว เป็นขนมสมัยโบราณ ทำจากแป้งข้าวเหนียว น้ำตาล อบพร้อมงาขาว รสสัมผัสนุ่มหนึบ รสชาติหวาน กลิ่นหอม อร่อย รับประทานเป็นของว่าง คู่กับชา กาแฟ

ร้านแนะนำ: ร้านเค่งติ้น

เป็นไงกันบ้างเพื่อน ๆ อาหารพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ตที่นำมาฝากนั้นน่าทานมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะ? ถ้าใครมาเที่ยวภูเก็ตก็อย่าลืมแวะตะลอนชิมตามรอยบทความของเรากันนะ และเพื่อความสะดวกสบาย แนะนำให้ฝากกระเป๋าในภูเก็ต กับ AIRPORTELs ด้วยน้า

บริการขนส่งกระเป๋าของ AIRPORTELs ใช้บริการอย่างไร?

วิธีที่สะดวกที่สุดคือการจองออนไลน์ที่เว็บไซต์ของแอร์พอเทลล์ https://www.airportels.asia/

ฝากกระเป๋าภูเก็ต, ฝากกระเป๋า สนามบินภูเก็ต, สนามบินภูเก็ต, ฝากกระเป๋า,เที่ยวภูเก็ต

โดยเลือกที่การบริการ Nationwide Delivery จากนั้นเลือกจุดส่งกระเป๋า (A) และจุดปลายทาง (B)

หลังจากทำการจองเรียบร้อยแล้ว จะมีพนักงานมารับกระเป๋าสัมภาระไปส่งยังปลายทางให้อย่างเรียบร้อย สบายใจหายห่วงได้เลย!

บริการฝากและขนส่งกระเป๋าของ AIRPORTELs ในประเทศไทย

พื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล

  1. สนามบินสุวรรณภูมิ
  2. สนามบินดอนเมือง
  3. ห้างสรรพสินค้า Central World (Groove Zone)
  4. ห้างสรรพสินค้า Central World (Hug Thai Zone)
  5. ห้างสรรพสินค้า MBK Center
  6. ห้างสรรพสินค้า Mixt Chatuchak
  7. ห้างสรรพสินค้า Terminal21 Asok
  8. ICONSIAM
  9. อาคารพิชัยญาติ เยาวราช
  10. MeSpace สยาม-จุฬา 16
  11. MeSpace รัชดา-พรราม 9
  12. MeSpace ลาดพร้าว

พื้นที่เมืองพัทยา

  1. ห้างสรรพสินค้า Terminal21 Pattaya
  2. ห้างสรรพสินค้า Central Pattaya

พื้นที่จังหวัดเชียงใหม่

  1. ห้างสรรพสินค้า Central Chiangmai Airport
  2. สนามบินเชียงใหม่

พื้นที่จังหวัดสมุย

  1. ห้างสรรพสินค้า Central Samui

หมายเลขโทรศัพท์ : 02-026-6927
Website: www.airportels.asia 
E-mail: [email protected]
Line: @AIRPORTELs
WeChat: AIRPORTELs
Kakao Talk: AIRPORTELs
Facebook: www.facebook.com/airportels

สำรวจบุฟเฟ่ต์เด็ด MBK: ร้านอาหารที่จะทำให้คุณต้องกลับมาอีก

สำรวจบุฟเฟ่ต์เด็ด MBK: ร้านอาหารที่จะทำให้คุณต้องกลับมาอีก

ไม่ว่าจะอดีตในชื่อ “มาบุญครอง” หรือปัจจุบันในนาม “MBK Center” ที่นี่ยืนหนึ่งเรื่องการเป็นแหล่งไลฟ์สไตล์ของวัยรุ่นมาทุกยุคทุกสมัย เรียกได้ว่ามาที่เดียวครบตอบโจทย์ได้ทุกความต้องการโดยเฉพาะโซนอาหารและคาเฟ่ ซึ่ง MBK Center ได้คัดสรรร้านดังร้านเด็ดมากมายมารวมไว้จนกลายเป็น HUB OF CAFE & RESTAURANT ขนาดใหญ่ใจกลางเมืองซึ่งเหล่านักชิมทั้งหลายไม่ควรพลาด

ล่าสุด MBK Center New Episode ยังได้จัดโซนใหม่ All Day Dining & Midnight Life Space ยกขบวนร้านอร่อยชื่อดังมาให้บริการตั้งแต่ 07.00 น. เรื่อยไปจนถึงดึก นอกจากขยายเวลาให้บริการความอร่อยแล้วที่นี่ยังมีร้านบุฟเฟต์ให้เลือกมากมายหลายแบบรับรองว่าถูกใจสายกินอย่างแน่นอน ว่าแล้วก็ไปส่องร้านบุฟเฟต์ที่ MBK Center กัน

1.Senju Shabu & Sushi Premium Buffet 

.Senju Shabu & Sushi Premium Buffet 
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Hungry with Pungy

บุฟเฟต์ชาบูและซูชิสุดพรีเมียมสไตล์ญี่ปุ่นแท้ อิ่มอร่อยได้อย่างหลากหลายเพราะมีรายการอาหารให้เลือกเยอะ คุ้มค่ายืนหนึ่งในเรื่องของชาบูด้วยน้ำซุปที่มีมากถึง 8 แบบ ได้แก่ ซุปชาบู ซุปกิมจิ ซุปเล้งแซ่บ ซุปต้มยำ ซุปเห็ดหอมไวน์แดง ซุปหม่าล่า ซุปสุกี้ยากี้ และซุปกระดูกหมู โดยใน 1 หม้อ สามารถเลือกได้ถึง 4 ซุป พร้อมเนื้อวัวนำเข้าเกรดพรีเมียม เนื้อหมู อาหารทะเล และผักสด ซูชิก็ไม่น้อยหน้าจัดเต็มมาให้แบบจุก ๆ ทั้งยังมีซาชิมิ อาหารญี่ปุ่น และขนมหวานแสนอร่อยที่เสิร์ฟไม่อั้น

  • ราคา : Classic Buffet 399+, Superior Buffet 699 +, Deluxe Buffet 899 +, Diamond Buffet 1,099 + และ Royal Buffet 1,599 บาท  
  • เปิดบริการ : วันจันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 22.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ 10.00 – 22.00 น.                                      
  • พิกัด : ชั้น 7
สุกี้ตี๋น้อย

บุฟเฟต์สุกี้เจ้าดังที่ให้ทุกคนอิ่มอร่อยในราคาไม่แพง พร้อมความหลากหลายของเมนู ภายใต้คอนเซ็ปต์อร่อยได้ไม่อั้นเที่ยงวันยันเช้า โดยสาขานี้เป็นสาขาแรกที่มีของทอดให้ทานเล่น ทั้งเฟรนช์ฟรายส์ แผ่นเกี๊ยวทอด ชิกุว่าสอดไส้ชีส และไก่ป๊อป ไม่ว่าคิวจะยาวแค่ไหนก็ยังพออุ่นใจได้ในการรอเพราะสาขานี้มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างรองรับการให้บริการได้จำนวนมาก

  • ราคา : 219 บาท (ไม่รวมเครื่องดื่มรีฟิล 39 บาท/คน และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) เด็กส่วนสูงไม่ถึง 90 ซม. รับประทานฟรี
    เด็กส่วนสูง 91 – 120 ซม. ราคา 109 บาท 
  • เปิดบริการ : 12.00 – 05.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน C
Shinkanzen sushi
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Shinkanzen sushi

เป็น ร้านอาหาร mbk ที่มีให้เลือกทั้งแบบ A la carte และบุฟเฟต์ บอกเลยว่าซูชิเลิฟเวอร์ทั้งหลายไม่ควรพลาดเพราะร้านนี้มีซูชิคุณภาพเกรดพรีเมียม มาพร้อมอาหารญี่ปุ่นกว่า 200 เมนูให้เลือก ไม่ว่าจะเป็นซูชิเนื้อวากิว ซูชิแซลมอนย่างสไปซี่ ซูชิปลาไหล ซูชิปลาหมึกหิ่งห้อย ซูชิอูนิ(ชิลี) ซาชิมิแซลมอน หอยเชลล์ ทูน่า ชิราชิด้ง เอ็นกาวะย่าง กุ้งดองซีอิ๊วญี่ปุ่น กุ้งหวานญี่ปุ่นจัมโบ้ย่างเมนไตโกะ หอยนางรมพอนสึ ไข่แซลมอน และอีกมากมายที่พร้อมเสิร์ฟแบบไม่อั้น 

  • ราคา : 329+, 549+ และ 879+ ( ไม่รวมเครื่องดื่มและภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)                      
  • เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น. 
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน A
บุฟเฟต์ชาบูสายพานมาพร้อมอาหารและเมนูทานเล่นหลากหลายเมนู ทั้งซูชิ เทมปุระ ซาบะย่าง ข้าวแกงกะหรี่ เ

บุฟเฟต์ชาบูสายพานมาพร้อมอาหารและเมนูทานเล่นหลากหลายเมนู ทั้งซูชิ เทมปุระ ซาบะย่าง ข้าวแกงกะหรี่ เกี๊ยวซ่า มิโสะซุป ไอศกรีม ขนมหวาน และเครื่องดื่ม ส่วนไลน์สายพานนั้นก็ยังคงจัดเต็มเช่นเดิม หนึ่งในร้านชาบูสไตล์ญี่ปุ่นขวัญใจสายบุฟเฟต์ก็ต้องมีชื่อชาบูชิ 

  • ราคา : 399+ (ราคาสุทธิ 427 บาท)
  • เปิดบริการ : 10.00 – 22.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 7
โม โม พาราไดซ์

ร้านอาหาร mbk สไตล์ชาบูชาบูและสุกี้ยากี้ รสชาติต้นตำรับแท้จากประเทศญี่ปุ่นมาพร้อมกับเนื้อคุณภาพระดับพรีเมียม ทั้งเนื้อวากิว เนื้อ USDA และเนื้อวัว Australian นอกจากนี้ยังมีหมูคุโรบูตะ ไก่ไม้ไผ่ซึ่งใช้ไก่เบญจา เป็ดอนามัย และผักสดปลอดสารพิษ ลงตัวกับน้ำซุปที่หอมกลมกล่อม 4 แบบ ได้แก่ น้ำซุปชาบูชาบู น้ำซุปสุกี้ยากี้ น้ำซุปทงคตสึ และน้ำซุปคารามิโสะ ตบท้ายด้วยของหวานแสนอร่อยอย่างไดฟุกุ ซอฟครีม และไอศกรีมโฮมเมดหลากรส แม้จะมีเมนูไม่มากแต่จัดว่าเด็ดและเน้นการใช้วัตถุดิบชั้นเยี่ยม เป็นอีกหนึ่งร้านที่สายเนื้อไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง 

  • ราคา : 599+, 729+ และ 1,290+
  • เปิดบริการ : วันจันทร์ – ศุกร์ 11.00 – 22.00 น. วันเสาร์ อาทิตย์ และนักขัตฤกษ์ 10.00 – 22.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 7
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: นักล่าหมูกระทะ Nak-La Mookata

แม้จะเสิร์ฟมาในรูปแบบเซตแต่ก็ขอเหมารวมร้านหมูกระทะติดแอร์อย่างนักล่าหมูกระทะไว้ในกลุ่มบุฟเฟต์ด้วย เพราะที่นี่มีบาร์ผักให้เติมได้ไม่อั้นหรือเรียกได้ว่าเป็นบุฟเฟต์ผักนั่นเอง มาพร้อมน้ำจิ้ม 5 แบบ อร่อยทุกแบบโดยเฉพาะน้ำจิ้มไข่ดองซึ่งต้องยกนิ้วให้เลยว่าเด็ดจริง และไม่ว่าจะสั่งเซตหมูหรือเนื้อทางร้านมีซีฟู้ดมาให้ด้วยรับรองอิ่มคุ้มแน่นอน 

  • ราคา : เซตหมู เริ่มต้นที่ 279 บาท  เซตเนื้อ เริ่มต้นที่ 299 บาท 
  • เปิดบริการ : 11.00 – 02.00 น.
  • พิกัด : ชั้น 2 โซน C 

ไม่ว่าจะชอบบุฟเฟต์แบบไหน สุกี้ ชาบู หมูกระทะ ซูชิ หรือซาชิมิ MBK Center รวมไว้ให้ในที่เดียว หมดปัญหาว่าจะไปกินอะไรที่ไหนดี ? แค่นัดมาเจอกันก่อนที่ MBK Center แล้วค่อยมาเลือกร้านก็ได้ เพราะทุกร้านที่นี่ให้สายกินฟินแบบไม่อั้น แถมยังเดินทางง่ายจะใช้รถส่วนตัวหรือรถไฟฟ้าก็สะดวก ตอบโจทย์ความต้องการครบขนาดนี้นัดครั้งหน้าเจอกันเลยที่ MBK Center

ที่มาข้อมูล :

เปิดตี้หมูกระทะด่วน ที่ร้านนักล่าหมูกระทะ MBK

นักล่าหมูกระทะ
ขอบคุณภาพจาก : Marketeer (marketeeronline.co)

หากเอ่ยถึงเมนูโปรดของคนไทยที่ไม่ว่าจะนัดรับประทานกันเป็นคู่ นัดกันเป็นแก๊ง หรือแม้แต่ต้องฉายเดี่ยว เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงเมนูหมูกระทะ เมนูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะร้านหมูกระทะจะรวบรวมวัตถุดิบต่าง ๆ ไว้มากมาย เลือกสั่งได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งบรรยากาศของร้านหมูกระทะยังเหมาะกับการพบปะสังสรรค์ คุยกันไปพร้อมปิ้งย่างไปด้วยเพลิน ๆ

ที่สำคัญราคาย่อมเยา นั่นทำให้คนไทยเทใจให้กับเมนูนี้ และสำหรับใครที่ชอบเมนูนี้เป็นชีวิตจิตใจหรือชอบนัดเพื่อนรู้ใจไปเปิดตี้หมูกระทะ ขอแนะนำร้านหมูกระทะยอดฮิตอย่างนักล่าหมูกระทะ แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าต้องโดนใจคนชอบรับประทานเมนูนี้อย่างแน่นอน

ร้านนักล่าหมูกระทะมีสาขาอยู่ที่ไหนบ้าง

MBK center
เอ็มบีเค เซ็นเตอร์

อิ่มอร่อยแบบไม่ต้องกลัวร้อนเพราะที่ร้าน นักล่าหมูกระทะ mbk ติดแอร์ เมื่อเดินเข้ามาแล้วจะเห็นว่าบรรยากาศภายในร้านสบาย ๆ ไม่แออัดจึงทำให้รับประทานได้แบบชิล ๆ หมูกระทะที่นี่ไม่ได้เป็นแบบบุฟเฟต์ แต่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยในรูปแบบเซต มีให้เลือกทั้งชุดหมูและชุดเนื้อ ราคาตั้งแต่ 279 – 499 บาท ใครมาร้านนี้รับรองว่าติดใจ เพราะนอกจากวัตถุดิบสดใหม่และน้ำจิ้มรสเด็ดแล้ว การเดินทางมายังร้าน นักล่าหมูกระทะ mbk แสนสะดวกเพียงนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติก็เดินเชื่อมต่อห้างได้เลย

  • พิกัด : ชั้น 2 โซน C
  • เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 02.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 095-586-2465
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
พหลโยธิน

นักล่าหมูกระทะสาขานี้ถือเป็นสาขาที่ 2 และเป็นสาขาที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษาโดยเฉพาะ รวมถึงยังเหมาะกับคนย่านชานเมืองที่กำลังมองหาร้านหมูกระทะราคาคุ้มค่า สำหรับสาขานี้ถือเป็นสาขาใหญ่ ตัวร้านตั้งเด่นตระหง่านด้านหน้าโครงการ The Forest ภายในร้านยังตกแต่งด้วยโทนสีแดง ขาว ดำ โต๊ะไม่แออัด ปิ้งย่างได้แบบชิล ๆ สำหรับน้ำจิ้มอร่อยเหมือนเดิม เช่นเดียวกับวัตถุดิบที่สดใหม่เสมอ ที่สำคัญใครมาที่นี่หมดห่วงเรื่องที่จอดรถเพราะมีลานจอดรถบริการเพียงพอ

  • พิกัด : อ.คลองหลวง ติดกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (ศูนย์รังสิต)
  • เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 02.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 097-112-2623
Victory Hub 
วิคตอรี่ ฮับ

อิ่มอร่อยย่านใจกลางเมืองกับร้านนักล่าหมูกระทะสาขาที่ 3 จัดเต็มความอร่อยจนถึงตีสอง หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาได้เลย แถมในร้านยังติดแอร์ฉ่ำ ๆ ปิ้งย่างนานแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวร้อน ราคาเริ่มต้นเพียงเซตละ 279 บาท รับประทานได้แบบอิ่มคุ้ม สำหรับผักและน้ำจิ้มพร้อมให้เติมแบบไม่อั้น จุดเด่นของสาขานี้นอกจากตั้งอยู่ใจกลางเมืองแล้วยังเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใครอยากอิ่มฟินแถมเดินทางง่าย แนะนำเลย

  • พิกัด : ชั้น 3 Victory Hub ถนนพญาไท
  • เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 02.00 น. 
  • เบอร์ติดต่อ : 097-085-2616
ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต

ใครเป็นหมูกระทะเลิฟเวอร์ที่พักอาศัยย่านรังสิต อย่าลืมมาแวะชิมความอร่อยที่นักล่าหมูกระทะสาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต แหล่งไลฟ์สไตล์ชื่อดังของย่านนี้ แน่นอนว่าหากร้านตั้งในห้างสรรพสินค้าต้องมีที่จอดรถที่สะดวกสบาย หาง่าย และยังได้นั่งปิ้งย่างในห้องแอร์ชิล ๆ วัตถุดิบของสาขานี้บอกเลยว่าสดใหม่ไม่แพ้สาขาอื่น ๆ น้ำจิ้มพร้อมให้ตักแบบไม่อั้น แถมมีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย ใครไปอย่าลืมเผื่อเวลารอคิวกันสักนิดเพราะได้รับความนิยมสุด ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 2 ฝั่ง ZPELL
  • เวลาเปิด – ปิด : วันจันทร์ – ศุกร์ 10.30 – 21.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 21.30 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 065-504-8569
ไอคอนสายไหม 56
ขอบคุณภาพจาก : Facebook page : ICON 56 Saimai

เรียกได้ว่าเป็นร้านหมูกระทะที่กระจายตัวในพื้นที่สำคัญ ๆ โดยร้านนักล่าหมูกระทะได้เปิดสาขาใหม่ย่านสายไหม มาพร้อมรูปแบบร้านที่คล้ายกับสาขาอื่น ๆ นั่นคือการเป็นหมูกระทะในห้องแอร์ จัดร้านโล่งสบาย นั่งรับประทานแบบไม่อึดอัด ไม่ว่าจะสั่งเซตเนื้อหรือเซตหมูก็มั่นใจว่าสดใหม่ ผักฟรี น้ำจิ้มไม่อั้น ที่สำคัญน้ำจิ้มเด็ดมากมีให้เลือกหลายสูตร อย่าลืมสั่งของหวานปิดท้าย คอมพลีทมื้ออร่อยแบบฟิน ๆ นอกจากนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถเพราะมีเพียบ จอดเพียงพอแน่นอน 

  • พิกัด : ชั้น 1 ถนนสายไหม
  • เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 02.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 081-141-4890
Paradise Place
ขอบคุณภาพจาก : MGR ONLINE : ข่าวธุรกิจการตลาด

อีกหนึ่งสาขาของนักล่าหมูกระทะที่เชื่อว่าจะต้องถูกใจชาวหมูกระทะเลิฟเวอร์ โดยโครงการนี้เป็นโครงการในเครือ MBK มีที่จอดรถพร้อม ภายในร้านเปิดแอร์ไว้ฉ่ำ ๆ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยเซตหมูและเซตเนื้อในราคาคุ้ม ๆ ที่ขาดไม่ได้คือน้ำจิ้มที่เตรียมมาให้เลือก 5 สูตร และผักที่รับประทานได้แบบไม่อั้น เรื่องความสดใหม่ไม่ต้องห่วงเพราะทางร้านให้ความสำคัญกับวัตถุดิบก่อนเสมอ ได้รับประทานอาหารสดใหม่และสะอาดแน่นอน

  • พิกัด : ชั้น 1 Paradise Place ถนนศรีนครินทร์
  • เวลาเปิด – ปิด : 10.30 – 02.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 081-141-4743

ใครชอบรับประทานหมูกระทะเป็นชีวิตจิตใจหรือชอบชวนเพื่อนเปิดตี้หมูกระทะ ห้ามพลาดนักล่าหมูกระทะ ร้านหมูกระทะราคาเป็นมิตรที่พร้อมต้อนรับทั้งคู่รักและกลุ่มเพื่อนมาร่วมปิ้งย่างและพบปะสังสรรค์ไปด้วยกัน มากไปกว่านั้นยังมีให้เลือกหลายสาขา ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น สามารถปักหมุดและเดินทางตามพิกัดที่ให้ข้อมูลไว้ได้เลย เชื่อว่าใครเคยไปลิ้มรสความอร่อยต้องติดใจจนต้องหาโอกาสมารับประทานซ้ำ ที่สำคัญสาขาเยอะแบบนี้การันตีว่าต้องอร่อยแน่นอน 

ที่มาข้อมูล

เอาใจชาวออฟฟิศ รวม 20 ร้านอาหารสุดชิคใน Siam Center

สยามเซ็นเตอร์
สยาม เซ็นเตอร์

แจ้งพิกัดร้านอาหารราคาไม่แพงแต่อร่อยเวอร์ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิศที่กำลังมองหาร้านอาหารกลางวันหรือร้านอาหารอร่อย ๆ สำหรับช่วงเวลาหลังเลิกงาน แถมอยู่ใจกลางเมือง นั่นก็คือ ร้านอาหาร siam center อัดแน่นด้วยร้านอาหารคุณภาพแสนอร่อยราคาดี วันนี้จัดเต็มมาให้มากถึง 20 ร้าน ใครชอบแบบไหน แนะนำให้ไปเลือกรับประทานกันเลยSiam Center

รวม 20 ร้านอาหารสุดชิคใน Siam Center

บอนชอน
ขอบคุณภาพจาก : klook : klook Travel : ไทย : กรุงเทพ

ใครชอบอาหารสไตล์เกาหลี เรียนเชิญร้านนี้ เมนูที่ต้องสั่งคือไก่บอนชอน มีซอสให้เลือกหลายชนิด รวมถึงหม้อไฟเกาหลี อร่อยเข้มข้นเหมือนได้ไปรับประทานที่แดนกิมจิ

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ข้างร้าน MUJI CURRY
อาหารเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก : Gourmet & Cuisine : Eating Out : รีวิวร้านอาหาร : Hasul Korean Restaurant

อีกหนึ่งร้านอาหารเกาหลีมาพร้อมราคามิตรภาพ แต่ละเมนูเสิร์ฟจานใหญ่ รับรองว่าอิ่มแน่ เมนูห้ามพลาดคือซุปกิมจิหอยขาว กิมจิคือเข้มข้นสุด ๆ นอกจากนี้ยังมีเซตอาหารเกาหลีราคาย่อมเยา

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน EASY BUDDY
อาหารไทย
ขอบคุณภาพจาก : Krungsri Credit Card (krungsricard.com)

ตำนานความอร่อยรสมือแม่ โดดเด่นเรื่องอาหารไทยรสกลมกล่อมถูกปากคนไทย เมนูการันตีความอร่อยและได้รับความนิยมมากคือข้าวไข่ข้น เลือกส่วนผสมได้ตามใจ

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน ON THE TABLE
ผัดกะเพรา
ขอบคุณภาพจาก : BKKMUNU : FUSION : Thai

ใครชอบรับประทานข้าวผัดกะเพราบอกเลยว่าห้ามพลาดร้านนี้ รวมมิตรผัดกะเพรามาให้แบบจุก ๆ ทั้งกะเพราหมู เนื้อ หมูแจ่ว ขาดไม่ได้คือไข่เป็ดดาวสีเหลืองส้มน่ารับประทาน รสชาติจัดจ้านแบบไทย ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน LA MEOW
เน้นเนื้อ
ขอบคุณภาพจาก : ธนาคารกรุงเทพ (bangkokbanksme.com)

แค่ชื่อก็เดาได้แล้วว่าเป็นร้านอาหารเพื่อคนรักเนื้อ เมนูที่ต้องสั่งคือหม้อไฟเน้นเนื้อ น้ำซุปสุดเข้มข้นรับประทานพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ และยังมีเมนูหมูให้เลือกสั่งด้วยนะ

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS อยู่ตรงข้ามร้าน หมาน
ไก่ทอดเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก : TWINKLEBABYSTYLE : THINKS TO EAT

ร้านไก่ทอดสไตล์เกาหลี แน่นอนว่าเมนูขึ้นชื่อคือเมนูไก่ทอดที่เตรียมมาให้เลือกสั่งหลากหลายรสชาติ เช่น Snow Onion, Garlic Soy Sauce หรือหากอยากได้รสเผ็ดจัดจ้าน แนะนำ Red Hot Chicken

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน HACHIBAN RAMEN
สลัดแซลมอน
ขอบคุณภาพจาก : klook : klook Travel : ไทย : กรุงเทพ

ร้านอาหารสุดชิคพร้อมเสิร์ฟทั้งอาหารไทยและอาหารสไตล์ตะวันตก เมนูขึ้นชื่อต้องยกให้สปาเก็ตตี้ผัดไส้กรอกหมูอิตาเลียนและข้าวคลุกกะปิสูตรคุณยายตุ๋ยที่ถูกจัดมาอย่างน่ารับประทานสุด ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 1 FASHIOON VISONARY โซน FASHIOON VISONARY ตรงข้าม BY GRAYHOUND
แกงกะหรี่
ขอบคุณภาพจาก : WANDEE BISTRO (wandeehouse.com)

ร้านอาหารเอาใจคนชอบแกงกะหรี่ ร้านนี้เป็นร้านดังจากญี่ปุ่น เมนูห้ามพลาดคือข้าวแกงกะหรี่เนื้อ รับประทานพร้อมเครื่องเคียงยิ่งเข้ากันสุด ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน PFESTA
ส้มตำนัว
ขอบคุณภาพจาก : POST TODAY : Lifestyle

ใครมองหามื้อกลางวันหรือมื้อเย็นแบบแซ่บ ๆ แนะนำร้านนี้ จัดเต็มหลากหลายเมนูเผ็ดแซ่บถึงใจ เมนูที่ต้องสั่งขอยกให้ส้มตำปูปลาร้าสุดนัว ปีกไก่เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว อย่าลืมรับประทานคู่ข้าวเหนียวร้อน ๆ 

  • ปิดสาขาสยามเซ็นเตอร์
  • ย้ายมาที่ สยามสแควร์วัน ซอย 5
เนื้อแท้
ขอบคุณภาพจาก : PANASM BLOG (panasm.com)

อีกหนึ่งร้านสำหรับคนชอบรับประทานเนื้อ บอกเลยวัตถุดิบดีมาก เนื้อไม่เหนียว สปาเก็ตตี้ซอสเนื้อคือเมนูยอดฮิตที่ห้ามพลาด รสชาติกลมกล่อมสุด ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน OLINO PUZZLE
อาหารญี่ปุ่น
ขอบคุณภาพจาก : ICONSIAM : Dining : Yayoi Teishoku…The Best of Yayoi Especially for ICONSIAM

อีกขั้นของร้านอาหารญี่ปุ่น Yayoi ที่พรีเมียมขึ้น เมนูเด็ดที่ห้ามพลาดคือชุดเบนโตะ Yayoi Sakana Bento เสิร์ฟมาเป็นเซตพร้อมเครื่องเคียง อร่อยเหมือนรับประทานอยู่ที่ญี่ปุ่น

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน SHIORI UDON GINZ
กิมจิ
ขอบคุณภาพจาก : Sale Here : อาหาร : Dak Galbi (ทัคคาลบี้)

ร้านอาหารเกาหลีรสชาติเข้มข้นทุกจาน เมนูยอดฮิตขอแนะนำซีฟู้ดผัดซอสคาลบี้ รับประทานคู่กับชุดผักคือดีสุด ๆ หรือจะสั่งเมนูไก่ทอดก็อร่อยไม่เบา

  • ปิดถาวร
ทงตัดสึ
ขอบคุณภาพจาก : ICONSIAM : Dining : ทงคัตสึวาโก: สุดยอดทงคัตสึในใจทุกคน

คนรักเมนูทงคัตสึต้องถูกใจสิ่งนี้ เพราะร้านนี้ขึ้นชื่อเรื่องเมนูทงคัตสึ อย่าลืมสั่งชุดทงคัตสึหมู เนื้อแน่นเต็มคำ ทอดมาแบบไม่อมน้ำมัน ถูกใจคนรักสุขภาพ

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน PALSAIK
เรดซัน
ขอบคุณภาพจาก : SIAM CENTER : HAPPENING : NEWS : Red Sun ต๊อกปกกิระดับแชมป์

ร้านอาหารเกาหลีที่อร่อยเหมือนได้รับประทานอยู่แดนกิมจิ เมนูต้องสั่งคือ Chicken Bong เสิร์ฟพร้อมซอสหลายชนิด อย่าลืมสั่งข้าวผัด Red Sun ที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์ของร้านด้วยนะ

  • ปิดกิจการไปแล้ว
  • ย้ายมาที่ สยามสแควร์ หน้าศูนย์หนังสือจุฬา
หมูย่างเกาหลี
ขอบคุณภาพจาก : SIAM CENTER : TREND UPDATE : Palsaik korean BBQ ต้นตำรับหมูย่าง 8 สี เจ้าดังจากเกาหลี

ร้านดังจากเกาหลีมาอยู่ที่สยามเซ็นเตอร์แล้ว ตอบโจทย์สายปิ้งย่าง เมนูความฟินคือหมูย่าง 8 สี หมักซอสสไตล์ต่าง ๆ อร่อยทุกรสชาติ

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน TONKOTSU KAZAN RAMEN
ราเมง
ขอบคุณภาพจาก : PMCU สำนักงานทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย : PMCU-Story

ร้านนี้ขอเอาใจคนรักอาหารญี่ปุ่น เมนูที่ต้องสั่งรับประทานคือราเมงภูเขาไฟ เสิร์ฟด้วยชามร้อนแถมมีไอพุ่งออกมา ได้คอนเทนต์แน่นอน ที่สำคัญเมนูทงคัตสึหอม รสชาติกลมกล่อมมาก

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS อยู่ตรงข้ามร้าน MOLLY ALLY
เนื้อวัว
ขอบคุณภาพจาก : BKKMANU : BKK.EAT : JAPANESE : Yuzu Suki

คนชอบรับประทานชาบูห้ามพลาดร้านนี้ คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบคุณภาพ จัดเต็มเนื้อหมูแบบสดใหม่ จะสั่งเป็นเซตหรือจะสั่งแยกก็ได้ เมนูห้ามพลาดต้องยกให้เซตหมูคุโรบูตะสามชั้น 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน CHOONGMAN CHICKEN
เซตอาหาร
ขอบคุณภาพจาก : lul.la : EAT : Audrey Cafe

ร้านอาหารฟิวชันพร้อมเสิร์ฟทั้งเมนูอาหารคาวและหวาน อาหารคาวต้องยกให้ขาหมูเยอรมันหั่นเต๋าทอด รับประทานง่าย รสอร่อย สำหรับอาหารหวานต้องยกให้เครปชาไทย รสชาติเข้มข้น กลมกล่อมอย่าบอกใคร

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน BONCHON CHICKEN
บาบีคิว
ขอบคุณภาพจาก : klook : klook Travel : ไทย : กรุงเทพ : คูปองแทนเงินสด ร้าน บาร์บิคิว พลาซ่า (Bar B Q Plaza)

เชื่อว่าไม่มีใครไม่รู้จักร้านนี้ นอกจากอิ่มอร่อยได้ทั้งแบบเป็นเซตและแบบจานเดี่ยวแล้ว ทีเด็ดคือน้ำจิ้มและกะหล่ำปลีฝอยที่เติมได้ไม่อั้น 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน MUJI CURRY
พิซซ่า
ขอบคุณภาพจาก : eatigo : ออน เดอะ เทเบิล @ สยามเซ็นเตอร์ (On the Table @ Siam Center)

ร้านอาหารโฮมเมดพร้อมเสิร์ฟเมนูเพื่อสุขภาพ เมนูแนะนำคือข้าวหน้าแฮมเบิร์กหมูแกงกะหรี่อบชีส การันตีว่าเนื้อหมูชุ่มฉ่ำ รสชาติกลมกล่อมสุด ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 2 FOOD FACTORY  โซน CAFE & RESTAURANTS ใกล้ร้าน YAYOI TEISHOKU

จัดเต็มมาให้ขนาดนี้ใครยังไม่มีไอเดียว่าจะไปรับประทานอาหารกลางวันหรืออาหารมื้อเย็นที่ไหน แนะนำ ร้านอาหาร siam center ยกทัพหลากหลายความอร่อยมาให้เลือกรับประทานถึงใจกลางเมือง มีให้เลือกทั้งอาหารไทย อาหารเกาหลี อาหารญี่ปุ่น อาหารสไตล์ตะวันตก เลือกได้อย่างจุใจ แถมยังเดินทางง่าย เชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีเขียวสถานีสยามและสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ เดินทางสะดวกแน่นอน

ที่มาข้อมูล

Siam Center ชิลล์ๆ : 7 คาเฟ่นั่งทำงาน จิบกาแฟ ฟินๆ

Siam Center

เทรนด์การทำงานในยุคนี้ต้องยกให้กับการทำงานแบบ Work from Anywhere หรือการทำงานจากที่ไหนก็ได้ ขอให้เพียงงานเสร็จ เข้าประชุมออนไลน์ตามนัดหมาย แต่จะให้ทำงานจากที่บ้านทุกวันก็กลัวว่าจะดูน่าเบื่อเกินไป หลายคนจึงเลือกทำงานจากนอกบ้าน โดยเฉพาะคาเฟ่บรรยากาศสวย ๆ เหมาะกับการทำงาน นอกจากได้ทำงานแล้วยังได้แฮงเอาท์กับเพื่อน ๆ และหาแรงบันดาลใจจากสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว หากใครเป็นคนทำงาน นักเรียน หรือนักศึกษา ที่กำลังมองหาคาเฟ่นั่งทำงานสุดชิลล์ ขอแนะนำคาเฟ่เหมาะกับการนั่งทำงานใน siam center นอกจากมีตัวเลือกหลายร้านแล้วยังเดินทางสะดวกมาก ๆ 

1.Maison Claris

ขอบคุณภาพจาก : Maison Claris 

ร้านเกิดจากการร่วมมือกันของคนรุ่นใหม่ที่รู้จักกันมานานและมีโอกาสเดินทางเที่ยวหลายประเทศ สั่งสมความรู้และประสบการณ์จนกลายมาเป็นคาเฟ่ขนมหวาน การจัดร้านโดดเด่นสะดุดตา เลือกใช้โทนสีหวานและดอกไม้สีสวยเหมาะกับการเป็นคาเฟ่เอาใจสายหวาน จุดเด่นคือเมนูต่าง ๆ ออกแบบอย่างพิถีพิถัน หน้าตาสวยงามแถมรสชาติอร่อย เมนูที่ห้ามพลาดคือ Claris Set ซิกเนเจอร์ของร้าน ได้แรงบันดาลใจจากทุ่งดอกไม้และโรงงานน้ำหอมจากฝรั่งเศส เหมาะกับสายคอนเทนต์ นักเรียน คนทำงาน ที่มองหาพื้นที่นั่งหาไอเดียคูล ๆ 

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 1 
  • ช่วงราคา 150 – 500 บาท

2.T (Bar) x The Summer House

คาเฟ่สำหรับสายฮิป โดดเด่นด้วยการตกแต่งร้านสีสันสะดุดตา หากมาถึงต้องได้คอนเทนต์แน่ ๆ เมนูแนะนำ คือ Matcha Latte with Bubble ชงสดแบบแก้วต่อแก้ว เสิร์ฟพร้อมไข่มุกสีทองเคี้ยวหนึบหนับ แถมยังมีกลิ่นหอมของน้ำตาลเคี่ยวและน้ำผึ้ง หากนั่งทำงานแล้วหิวทางร้านก็มีเมนูสุขภาพดีอย่างสลัดเตรียมไว้ให้รองท้อง นอกจากเป็นคาเฟ่สุดเก๋แล้วยังมีสินค้าแฟชั่นจำหน่าย นักเรียน นักศึกษา ที่ชอบแต่งตัวสไตล์คูล ๆ หรือมองหาที่นั่งทำงานสุดชิลห้ามพลาดเด็ดขาด

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 1 
  • ช่วงราคา : 90 – 300 บาท

3.Everyday Karmakamet

หากพูดถึง Everyday Karmakamet เชื่อว่าหลายคนคงคิดถึงร้านจำหน่ายเครื่องหอมและสินค้ามีสไตล์ แต่ทราบหรือไม่ว่าที่นี่มีคาเฟ่พร้อมเสิร์ฟความหอมหวานละมุนของเครื่องดื่มอีกด้วย เมนูยอดฮิต ได้แก่ Rose with Milk Tea ที่จะได้ดื่มด่ำกับความหอมของชาและกลิ่นกุหลาบ เหมาะกับการนั่งทำการบ้านสุด ๆ การตกแต่งร้านเน้นความเรียบง่ายแต่มีสไตล์ หากมีโอกาสได้มานั่งทำงานอย่าลืมซื้อโปสการ์ดหรือเครื่องหอมติดไม้ติดมือกลับไปด้วยนะ

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 4
  • ช่วงราคา : 100 – 250 บาท

4.Mom & Sis The Smoothie Cafe’

ขอบคุณภาพจาก : Momandsiscafe 

ใครเป็นสายรักสุขภาพเชิญทางนี้ เพราะนี่คือคาเฟ่เอาใจสายสุขภาพ เครื่องดื่มส่วนใหญ่เป็นสมูธตี้เพื่อคนสุขภาพดี จุดเด่นคือเลือกใช้วัตถุดิบธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงดีต่อสุขภาพสุด ๆ แถมบางแก้วยังใส่ Super Food อย่างธัญพืช ผลไม้ คอมพลีทการเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเป็นอย่างดี เมนูแนะนำ ได้แก่ Avocado Bowl เมนูซิกเนเจอร์ แหล่งรวมไขมันชั้นดี ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ หรือ Berry Blast ที่มิกซ์ผลไม้ตระกูลเบอร์รีไว้ในแก้วเดียว สำหรับสไตล์การจัดร้านเน้นความโปร่งสบาย แต่งแต้มด้วยต้นไม้สีเขียว เหมาะกับคนทำงาน นักศึกษา ที่มองหาคาเฟ่สไตล์เรียบง่ายแต่ยังมีกลิ่นอายความสดชื่น

  • พิกัด : Siam Center ชั้น G
  • ช่วงราคา : 150 – 300 บาท

5.Fire Tiger by Seoulcial Club

ขอบคุณภาพจาก : Fire Tiger by Seoulcial Club 

ใครเป็นสายชานมไข่มุกเชื่อว่าต้องรู้จักร้านนี้ โดยร้านดังอย่างคาเฟ่เสือพ่นไฟได้มาเปิดคาเฟ่ใจกลางสยาม ตกแต่งร้านโทนสีทอง ขาดไม่ได้คือใบหน้าเสือขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน เมนูที่อยากบอกต่อ คือ Fire Tiger Milk Tea เมนูซิกเนเจอร์มาพร้อมไข่มุกบุกและไข่มุกธรรมดา หากอยากเติมความสดชื่นแนะนำ Fruit Tea ภายในร้านมีพื้นที่นั่งทำงานขนาดกะทัดรัด เหมาะอย่างยิ่งกับนักศึกษา นักเรียน ที่มองหาคาเฟ่ราคาเบา ๆ นั่งอ่านหนังสือ ดื่มเสร็จก็เดินชอปปิงต่อได้แบบสบาย ๆ 

  • พิกัด : Siam Center ชั้น M, Siam Square ซอย 3
  • ช่วงราคา : 100 – 250 บาท

6.Yenly Yours

ขอบคุณภาพจาก : Mike Lennore

คาเฟ่มะม่วงยืนหนึ่งเรื่องการออกแบบเมนูเครื่องดื่มที่ผสมผสานผลไม้ขึ้นชื่ออย่างมะม่วงไว้อย่างลงตัว แน่นอนว่าเมนูที่ต้องสั่งคือเมนูน้ำมะม่วงปั่น มีท็อปปิงให้เลือกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อมะม่วงสด ไข่มุก อย่าลืมสั่งโมจิมะม่วงมาพร้อมความอร่อยแบบกำลังดีแต่หอมมะม่วงสุด ๆ การตกแต่งร้านเน้นโทนสีเหลืองสะท้อนความหวานฉ่ำของมะม่วงตัดกับโทนสีดำ โดดเด่นและดูสดใส เหมาะมากกับนักศึกษาและคนทำงานที่มองหามุมนั่งทำงานแถมมีเครื่องดื่มอร่อย ๆ พร้อมเสิร์ฟ

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 2
  • ช่วงราคา 100 – 200 บาท

7.Coco Fresh Tea & Juice

คาเฟ่ชานมไข่มุกที่ไม่ธรรมดาเพราะนี่คือแบรนด์จากไต้หวัน ยกทัพความอร่อยมาที่ไทย จุดเด่นคือใบชาต้มสด รสชาติไม่หวานเกินไป และไข่มุกเหนียวหนึบกำลังดี เมนูไฮไลต์ คือ Lava Pearl Fresh Milk ที่ทั้งหอมหวานกลมกล่อม รวมถึงน้ำเยลลี่เสาวรส เหมาะกับคนชอบรสเปรี้ยว เติมความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ในร้านมีมุมทำงานเล็ก ๆ สำหรับคนอยากแวะนั่งชิลล์หรือคิดไอเดียงานอีกด้วย

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 2
  • ช่วงราคา : 90 – 150 บาท

ใครกำลังมองหาคาเฟ่นั่งทำงานใจกลางเมือง แนะนำให้เดินทางมาที่ siam center ห้างใจกลางเมืองที่เดินทางสะดวก สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีสยามและเดินเชื่อมต่อเข้าห้างได้ทันที หรือจะมาโดยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวก นอกจากได้เปรียบด้านการเดินทางแล้วยังมีคาเฟ่สุดชิลล์บรรยากาศเหมาะกับการทำงานอีกเพียบ เลือกได้เลยว่าชอบคาเฟ่แบบไหนหรือพื้นที่ทำงานแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง ใครมีสไตล์ทำงานแบบ Work from Anywhere ห้ามพลาดมาใช้บริการเด็ดขาด

ที่มาข้อมูล

ฟินจัดเต็ม! 6 บุฟเฟ่ต์ไอคอนสยาม อร่อย คุ้มค่า อัพเดท 2024

ใครรู้ตัวว่าเป็นสายกิน ชอบกินเยอะ กินจุ และยังชอบกินแบบคุ้ม ๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะเราได้เตรียม 6 ร้าน บุฟเฟ่ต์ ไอคอนสยาม ประจำปี 2024 มาให้ได้ลิ้มลอง แต่ละร้านคือปังมาก ขนความอร่อยมาให้รับประทานแบบคุ้มค่า เลือกได้แบบไม่อั้น ของอร่อย ๆ เพียบ โดยไอคอนสยามถือเป็นห้างใหญ่ห้างดังของไทยที่ทั้งคนไทยและคนต่างชาตินิยมไปเช็กอิน นอกจากทำเลริมแม่น้ำทำให้ได้ลิ้มลองบรรยากาศสวย ๆ แล้ว ยังรวบรวมร้านบุฟเฟ่ต์มากมายมาให้ลิ้มรส อิ่มแล้วยังชอปปิงต่อได้แบบเพลิน ๆ ใครเป็นสายกินแนะนำให้พุ่งตัวไปโดยด่วน

1.CP-HiLai Harbour Restaurant 

หากพูดถึงบุฟเฟ่ต์ดังในไอคอนสยามแน่นอนว่าต้องมีชื่อร้านนี้ เพราะเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่งตรงมาจากไต้หวัน พร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติ ยกมาครบทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น ยุโรป จัดเต็มทั้งของคาวและของหวาน เพื่อไม่ให้เสียชื่อคอนเซ็ปต์ร้าน “The Best of East and West” ซีฟู้ดคือสดเหมือนนั่งรับประทานอยู่ริมทะเล อาหารประเภทซาชิมิคือเนื้อใส สดใหม่ ไม่มีคาว ใครสายเนื้อก็ห้ามพลาดเพราะเนื้อดี มีให้เลือกหลากหลายเมนู เรื่องราคาบอกเลยว่าคุ้มค่า เพราะอาหารคุณภาพ สดใหม่ ไม่ว่าจะชอบอาหารชาติไหนก็มีให้เลือกแบบครบ ๆ 

  • ราคา : 799 – 1,099 บาท
  • พิกัด : ชั้น 6 ไอคอนสยาม

2.Mo Mo Paradise

Mo-Mo Paradise เป็นบุฟเฟ่ต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในหมู่คนไทย เพราะราคาเป็นมิตร มีงบประมาณไม่ถึงพันก็สามารถอิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น จุดเด่นของที่นี่คือการเสิร์ฟวัตถุดิบคุณภาพดี อาหารทุกอย่างสดใหม่ เมื่อนำมารับประทานเป็นชาบูจึงยิ่งอร่อย บวกกับน้ำจิ้มรสชาติถูกปากคนไทยแต่ยังคงไว้ซึ่งสไตล์ญี่ปุ่นยิ่งทำให้สายกินติดใจ อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือเมนูตระกูลเนื้อ เลือกใช้เนื้อพรีเมียม ตอบโจทย์คนรักเนื้อเป็นอย่างยิ่ง พนักงานก็บริการอย่างเป็นมิตร รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน อาหารอร่อยแถมบริการเลิศ แนะนำเลย

  • ราคา : 599+ บาท
  • พิกัด : ชั้น 6 ไอคอนสยาม

3. Evaime Shabu Shabu

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนชอบรับประทานบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น บอกเลยว่าบุฟเฟ่ต์เจ้านี้มาพร้อมราคาเบา ๆ แต่คุณภาพคับแน่น โดยเฉพาะเมนูเนื้อสไลด์ หมูสไลด์ รวมถึงเนื้อหมูทรงเครื่องที่หมักมาให้อย่างเข้าเนื้อ จิ้มกับน้ำจิ้มคือฟินสุด ๆ มีน้ำซุปให้เลือกมากถึง 9 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นซุปหมาล่า ซุปญี่ปุ่น หรือซุปต้นตำรับ มีบาร์ตักน้ำจิ้มให้เลือกแบบฟิน ๆ บริการรวดเร็ว พื้นที่โดยรอบสะอาด สำหรับราคาย่อมเยาสบายกระเป๋า มีงบแค่ 1 แบงก์ม่วงก็สามารถรับประทานได้ รับรองอิ่มนาน คุ้มค่าเรื่องราคาแบบนี้ใครไปไอคอนสยามห้ามพลาดเด็ดขาด

  • ราคา : 389 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

4.Tenjo Sushi & Yakiniku Premium Buffet

มากันที่ร้านบุฟเฟ่ต์ในไอคอนสยามที่เหมาะกับคนชอบปิ้งย่างและชอบเมนูซูชิ ซาชิมิ โดย Tenjo คือร้านอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟเมนูปิ้งย่างและซูชิระดับพรีเมียม เมนูที่อยากแนะนำคือ ซูชิและซาชิมิ การันตีว่าสดใหม่ เนื้อหวานทุกคำ รวมถึงเมนูเนื้อพรีเมียมวากิวริบอาย เนื้อนุ่มละลายในปาก อย่าลืมปิดท้ายด้วยขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นแบบฟิน ๆ ในบรรยากาศการตกแต่งแบบญี่ปุ่น เรื่องความคุ้มค่าแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะคุณจะได้รับประทานเนื้อพรีเมียมและซูชิสดใหม่ปั้นแบบคำต่อคำ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง ใครชอบปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นบอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

  • ราคา : 399 – 1,799 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

5.Katei Shabu

ขอบคุณภาพจาก : KATEI SHABU 

ร้านชาบูเจ้าดังที่ก่อนหน้านี้เปิดให้บริการที่พุทธมณฑลสาย 4 แต่ปัจจุบันได้ขยับเข้ามาในเมืองมากขึ้น เพราะได้มาเปิดที่ห้างไอคอนสยาม ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นร้านนี้มีแนวคิดการออกแบบร้านต้องการให้ทุกคนรู้สึกสบาย ๆ เหมือนมาบ้านเพื่อน ทางร้านให้ความสำคัญเรื่องวัตถุดิบที่ต้องสะอาด สดใหม่ เพราะอาหารสดใหม่จะเพิ่มอรรถรสในการรับประทานมากขึ้น นอกจากพิถีพิถันเรื่องรสชาติแล้วยังให้ความสำคัญเรื่องการจัดจานที่ต้องสวยงาม เมนูแนะนำคือบรรดาเนื้อสไลด์ ซาชิมิสดใหม่ และไข่ดิบที่การันตีว่ารับประทานสดได้เลยเพราะนำเข้าจากฟาร์มที่เลี้ยงระบบปิด

  • ราคา : 699 – 1,699 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

6.E – Sarn by Evaime

ขอบคุณภาพจาก : Evaime Shabu Shabu 

ใครว่าที่ไอคอนสยามจะมีแต่บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติหรืออาหารญี่ปุ่น ที่นี่ยังมีบุฟเฟ่ต์อาหารอีสาน ใครชอบชาบูสไตล์อีสานห้ามพลาด ปรุงรสน้ำซุปมาอย่างถึงใจ มีกลิ่นสมุนไพรทำให้หอมและน่ารับประทานในเวลาเดียวกัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ มีให้เลือกทั้งชาบูชุดหมู ชุดเนื้อ หรือหากอยากสั่งเพิ่มเป็นอาหารจานเดียวก็ได้เช่นกัน ไหนจะการตกแต่งร้านด้วยสีสันสะดุดตาและราคาย่อมเยาที่พูดเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ แนะนำให้มาห้ามพลาดเด็ดขาด

  • ราคา : 299 – 399 บาท
  • พิกัด : ชั้น G ไอคอนสยาม

เมื่อสายกินรู้แล้วว่ามี บุฟเฟ่ต์ ไอคอนสยาม หลากหลายร้านมาให้เลือกรับประทานได้แบบไม่อั้น บอกเลยว่าต้องรีบพุ่งตัวไปโดยด่วน แต่ละร้านจัดหนักจัดเต็มอาหารคุณภาพ เตรียมมาให้เลือกแบบละลานตา อยากรับประทานอะไรเพียงแค่สั่ง รับรองว่าคุ้มค่า สำหรับการเดินทางก็ง่าย มีรถไฟฟ้าสายสีทองบริการ เพียงลงสถานีเจริญนครก็เดินเชื่อมต่อเข้าห้างได้อย่างสบาย ๆ เมื่อรับประทานเสร็จแล้วเดินชมวิวริมแม่น้ำหรือไม่ก็ชอปปิงต่อแบบชิล ๆ แต่หากเดินทางมาวันหยุดแนะนำให้จองคิวหรือเผื่อเวลาต่อคิวกันสักหน่อย เพราะเชื่อว่าสายกินเพียบ บุฟเฟ่ต์ดี ๆ แบบนี้ใครก็พลาดไม่ได้อยู่แล้ว

ที่มาข้อมูล

อัพเดทปี 2024 กับ 10 ตลาดนัดกลางคืนยอดนิยมในกรุงเทพฯ

ไม่ว่าจะเป็นวันทำงาน หรือวันหยุดสุดสัปดาห์ ถ้าได้ไปเดินเที่ยวหาของกิน ของใช้ หรือของสะสมในกรุงเทพฯ ที่ตลาดนัดกลางคืน ก็น่าจะเป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายได้มากเลยเหมือนกันน้าา วันนี้ AIRPORTELs ขอมาแนะนำ 10 สถานที่ สำหรับสายเดินตลาดนัดกลางคืนได้มาดูกัน เลื่อนลงมาอ่านกันได้เลยยย!

1. ตลาด JODD FAIRS (จ๊อดแฟร์ เซ็นทรัลพระรามเก้า)

JODD FAIRS เซ็นทรัลพระรามเก้า เป็นศูนย์รวมอาหาร ของกินแบบสตรีทฟู้ด มีคน รีวิวของกิน ลงในโซเชียลการันตีเรื่องของกินอร่อย ราคาหลักสิบ สายกินไม่ควรพลาดที่นี่เลย มีทั้งทะเลถัง ทะเลดอง ร้านขนมหวาน อย่างเมนูฮิตต้องลองคือ นมหมีปั่น แซนด์วิชไข่ ฮอตด็อกเกาหลี อีกทั้งยังเอาใจสายแฟชั่น ที่มีทั้งเสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ และอีกมากมาย เรื่องบรรยากาศดี ครึกครื้น ติดห้างเซ็นทรัลพระรามเก้า รับรองว่าถ้ามาเดินแล้วต้องได้ของกินติดไม้ติดมือไปเพียบ! 

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 – 24.00 น.

2. ตลาด JODD FAIRS (จ๊อดแฟร์ แดนเนรมิตร)

JODD FAIRS แดนเนรมิตร ตลาดนัดกลางคืนที่เพิ่งเปิดให้เดินเมื่อเมษายน 2023 ที่ผ่านมา ที่นี่มีความน่าสนใจ อีกทั้งยังดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติให้ได้มาเยี่ยมชมได้เยอะมาก ๆ เพราะว่าเป็นโลเคชั่นที่เดินทางสะดวก มาได้ทั้งรถไฟฟ้า รถเมล์สาธารณะ และรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ส่วนตัวมาได้อง เพราะเค้ามีที่จอดกว้างมาก ๆ และที่นี่ก็ยังมีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขนม และลานเบียร์ ให้เลือกเต็มไปหมดเลย ที่คำสัญคือมีปราสาทให้ขึ้นไปถ่ายรูปเก็บบรรยากาศดี ๆ ได้เจอฝูงฟลามิงโก้บนพื้นหญ้า และรถยนต์คลาสสิกสุดเท่ ที่ทุกคนสามารถถ่ายรูปกันได้ตามชอบเลยยย

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 16.00 – 24.00 น.

3. ตลาดอินดี้ ปิ่นเกล้า

ตลาดนัดกลางคืนที่ไม่ควรพลาดเลยนั่นก็คือตลาดอินดี้ ปิ่นเกล้า เราขอการันตีว่าเด็ดเพราะว่ามีคนเดินทางมาเยอะมาก เป็นที่นิยมของคนชื่นชอบการเดินเที่ยวช่วงกลางคืนไม่น้อยเลย จุดเด่นของตลาดแห่งนี้คือ ร้านอาหารที่มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งร้าน
อาหารสตรีทฟู้ดเกาหลี อาหารญี่ปุ่น และอาหารทะเลให้คุณได้อร่อยกับอาหารทะเลปรุงด้วยวัตถุดิบสด นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารสไตล์บุฟเฟต์ด้วย ตอบโจทย์สายกินเพลิน ๆ เดินชิลล์ ๆ 

เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 18.00 – 24.00 น.

4. ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทรา

ตลาดนัดเลียบด่วนรามอินทราก็เป็นอีกหนึ่งในตลาดนัดที่เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ฮิตของคนกรุงเทพฯ เลย นักท่องเที่ยวที่ชอบเที่ยวช่วงค่ำ ๆ ก็ยังสามารถมาเดินเล่นหาของทานอร่อย ๆ ได้จากที่นี่ เพราะตลาดเลิกดึกมาก มีอาหารน่าทานเพียบ ใครพักอยู่เขตบางเขนไม่ควรพลาดเลย เช่น ร้านอาหารเกาหลี บุฟเฟต์ อาหารทะเล ปลาหมึกย่าง ทะเลดอง ขนมหวานก็มีหลากหลาย จะสไตล์อิตาเลี่ยน เกาหลี หรือจะไทย ครบทุกรสชาติ ถ้าหิวตอนดึก แวะมาฝากท้องสักหน่อยก็ได้

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 2.00 น.

5. ถนนเยาวราช

ถนนเยาวราช หรือไชน่าทาวน์ของกรุงเทพฯ

คงไม่มีใครไม่รู้จักที่นี่ ถนนเยาวราช ที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและตลาดยามค่ำคืนที่มีความโด่งดังสำหรับทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ผู้ที่รักอาหารจีนก็ไม่ควรพลาดเช่นเดียวกัน มีร้านอาหารสตรีทฟู้ด ภัตตาคารจีนให้เพื่อนทานได้อย่างมากมาย เช่น ร้านข้าวมันไก่ ร้านข้าวหมูแดง ขนมจีบ ร้านก๋วยจั๊บ ไปจนถึงเมนูที่ระดับตำนานอย่างหูฉลามน้ำแดง ไปจนถึงขนมปังย่างถ่านที่มีความฮิตอย่างมากในหมู่วัยรุ่น แต่ถ้าใครจะทาน ก็อย่าลืมเตรียมทิชชู่เปียก หรือกระดาษเอาไว้เช็ดไส้เยิ้ม ๆ ของขนมปังกันด้วยล่ะ!

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 17.00 – 2.00 น.

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

6. ตลาดกรีนวินเทจ รัชดา Green vintage pop up

ตลาดกรีนวินเทจ รัชดา Green vintage pop up เป็นอีกหนึ่งตลาดที่ครบครัน ที่มีทั้งของกินเล่น เสื้อผ้า อุปกรณ์โทรศัพท์มือถือ และของใช้ให้นักช็อปได้ไปเดินเลือกสรรคกันได้อย่างสบายใจ สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกสบายเพราะอยู่กลางเมือง ซึ่งที่ตั้งของตลาดนั้นตั้งอยู่ด้านหน้าของห้าง The Street ที่เป็นจุดนัดพบที่ผู้คนสามารถไปเดินเล่น อีกทั้งยังมีสนามกีฬา และฮอลล์ตั้งอยู่ด้านบนอีกด้วย

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 15.00 – 24.00 น.

7. ตลาดนัดจตุจักร

ชาว Bangkok คงจะรู้จักที่นี่ดีอยู่แล้ว เพราะตลาดนัดจตุจักรนั้นถือเป็นแหล่งสำหรับการเดินช็อป การเดินทางง่าย สะดวก ขึ้นรถไฟฟ้ามาได้ เป็นตลาดนัดกลางคืนที่รวบรวมสินค้าหลากหลาย แบ่งโซนให้คุณได้เลือกช้อป ทั้งโซนตลาดต้นไม้ ตลาดสัตว์เลี้ยง ตลาดเสื้อผ้า และอื่น ๆ รวมถึงโซนขายอาหาร มีอาหารน่าชิมเยอะมาก จะสไตล์ไทย ญี่ปุ่น ยุโรป มีครบถ้วน มาที่เดียวคุ้มช็อปของกิน ของใช้ ของสะสม

เปิดให้บริการวันและเวลาที่เปิดของทุกโซนต่างกัน

8. ช่างชุ่ย ChangChui

ตลาดนัดแห่งนี้มีความโดดเด่นตั้งแต่บริเวณทางเข้าที่มีป้ายขนาดใหญ่ สไตล์อาร์ต ๆ เท่ ๆ  เป็นอีกที่เที่ยวที่คุณสามารถเดินทางมาง่ายด้วยรถไฟฟ้า ในตลาดมีโซนที่น่าสนใจมาก ทั้งร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านอาหารที่มีตั้งแต่สตรีทฟู้ด บุฟเฟต์ ไปจนถึงบาร์ นอกจากนี้ใครที่ชอบมาช่วงดึก ก็มีการเล่นดนตรีสด ใครสายปาร์ตี้ มากับแก๊งเพื่อนซี้ ก็สนุกได้ทั้งคืนเลย ใครมีไลฟ์สไตล์แบบไหน ก็มาจอยกันได้เลย

เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 23.00 น.

9. ตลาดนัดรถไฟ : Train Night Market 

ปิดท้ายกันด้วยอีกหนึ่งตลาดนัดกลางคืนรวบรวมร้านค้าหลากหลายประเภท ทั้งร้านหนังสือ ร้านเสื้อผ้า รองเท้า ร้านตัดผม ร้านขายภาชนะ ร้านอาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย ช้อปได้เพลินจุใจแน่นอน ที่สำคัญจุดเด่นของที่นี่คือมีโซนที่นักท่องเที่ยวสามารถถ่ายรูปได้ อย่างโซนโกดังที่ตกแต่งด้วยจิตรกรรมฝาผนังสุดเท่ สายอาร์ตติสชื่นชอบ นอกจากนั้นแล้วใครที่อยากมาเดินเที่ยว ช็อปปิ้ง หรือหาอาหารอร่อย ๆ ทานช่วงหลังเลิกงาน รับรองว่าถูกใจแน่นอน ทั้งอิ่มท้องและได้ของสะสมกลับบ้าน

เปิดบริการทุกวันพฤหัสบดี – อาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 17.00 – 01.00 น.

10. หัวมุม Market & More

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบสะสมตุ๊กตา สินค้า หรืออุปกรณ์วินเทจ ตลาดหัวมุม ก็อาจจะเป็นตลาดในฝันที่เพื่อน ๆ ต้องชื่นชอบแน่ ๆ และไม่ใช่เพียงสินค้าวินเทจเท่านั้นที่เป็นจุดเด่นของที่นี่ แต่เค้ายังมีอาหาร เสื้อผ้า ขนม และกิจกรรมอีกมากมายที่ถูกใจทั้งเด็กน้อย วัยรุ่น ไปจนถึงผู้ใหญ่กันได้อย่างแน่นอน

เปิดบริการทุกวันจันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 16:00 – 24:00 น.
และวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 18:00 – 24:30 น.

นักท่องเที่ยวกับวิวของตลาดนัดในยามค่ำคืน

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับ 10 ตลาดนัดกลางคืน 2024 พื้นที่สำหรับการช้อปปิ้งของคนกรุงที่ไม่ควรพลาด ทั้งยังเป็นตลาดที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงปีนี้อีกด้วย ซึ่งแต่ละตลาดนั้นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ใครชอบช็อปแบบไหน กำลังมองหาสินค้าหรือซื้ออะไร ก็ลองไปเยือนตลาดนัดกลางคืนทั้ง 10 แห่งที่ AIRPORTELs นำมาให้เพื่อน ๆ ได้รู้จักกันได้เลย ขอให้มีความกับการเดินช็อปปิ้งในตลาดนัดกลางคืนกันนะทุกคนน! 

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ที่มาข้อมูล

ลิสต์รายการของฝากจากไทยที่นักท่องเที่ยวเกาหลีควรซื้อกลับ

ของฝากจากไทย อย่างที่ทราบดีว่าประเทศไทยถือเป็นประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อติดอันดับของโลก จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ในหนึ่งวันจะมีนักท่องเที่ยวจากดินแดนต่าง ๆ หลั่งไหลเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวผิวขาวหน้าใสจากแดนกิมจิอย่างชาวเกาหลีนั้นเอง

https://www.youtube.com/watch?v=QXI2ElblqHM

ของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีชอบ

ปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีเดินทางเข้าออกประเทศไทยในแต่ละปี ไม่ต่ำกว่าล้านคน ทำให้ประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้มากกว่าสองพันล้านบาท

เพราะไม่มีชาวเกาหลีคนไหนที่มาเที่ยวเมืองไทยและเดินทางกลับมือเปล่าอย่างแน่นอน อย่างน้อยๆ ต้องก็มี ของฝากจากไทยติดไม้ติดมือกลับบ้านไปด้วยทุกราย ซึ่งของฝากจากไทยที่ถูกอกถูกใจจนกลายเป็นของยอดฮิตที่ชาวเกาหลีคนไหนมาก็ต้องซื้อกลับ ได้แก่

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

1. ของฝากจากไทย ยาดม ต้องตราโป๊ยเซียน

Poysian Yadom,ของฝากจากไทย

คงเป็นเพราะกลิ่นที่หอมสดชื่นของยาดมไทยที่มีมาอย่างยาวนานจึงทำให้ยาดมกลายเป็นของฝากจากไทย ที่นักท่องเที่ยวเกาหลีต้องหอบคว้านซื้อแบบยกแผงกลับบ้านกันเลยทีเดียว ถ้ามาเที่ยวไทยแล้วไม่ซื้อยาดมกลับประเทศละก็รับรองว่าคุยกับคนอื่นไม่รู้เรื่องอย่างแน่นอน

2. ของกินรสชาติแบบไทยแท้ให้ฟีลเหมือนสตรีทฟู้ด

ต้องบอกเลยว่าขนมเบนโตะ ถือเป็นขนมติดอันดับเทรนด์ฮิตที่คนเกาหลีซื้อกลับประเทศมากที่สุด อาจเป็นเพราะรสชาติที่มีความผสมทั้งเผ็ดและหวานทั้งยังมีราคาที่แสนถูกจึงทำให้เบนโต๊ะกลายเป็นของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีฮิตสุด ๆ ไปเลยทีเดียว หรือ ขนมอื่นๆที่ให้ฟีลเหมือนสตรีทฟู๊ดไทย อย่างเลย์รสเมี่ยงคำ และอื่นๆยิ่งกินยิ่งคิดถึงไทย

3. เจ้าแห่งยาสีฟันอย่างดาร์ลี่ ของฝากจากไทย สุดแปลก

Darlie,ของฝากจากไทย

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่า ยาสีฟันดาร์ลี่คือของติดไม้ติดมือที่คนเกาหลีจะหยิบกลับบ้านไปด้วยใช่ว่าที่ประเทศเกาหลีไม่มียาสีฟันขายนะ แต่เพราะว่ายี่ห้อดาร์ลี่หรือยี่ห้อแปลกอื่น ๆ ไม่มีขายที่เกาหลีต่างหาก อีกอย่างเรื่องของราคาที่แสนถูกจึงทำให้เป็นของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีทั้งหลายหอบหิ้วกลับบ้านกันคนละหลอดสองหลอดนั้นแหละ

4. ผลไม้ที่ผ่านการแปรรูป

ผลไม้แปรรูปไทย ป้าเพี้ยน กล้วยต่กอบน้ำผึ้ง ทุเรียน มะขาม

ผลไม้แทบจะทุกชนิดที่ผ่านการแปรรูปจะมีอายุการเก็บรักษาที่ยาวนาน
ขึ้น และยังมีความอร่อยมากขึ้น โดยเฉพาะทุเรียนทอด ถือเป็นไอเทมสุดฮิตของฝากจากไทย ที่ชาวกิมจิควรจะซื้อกลับ ประเทศมากที่สุด เพราะทุเรียนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งผลไม้ไทย ย่อมการันตีถึงความอร่อยได้อย่างแน่นอน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

5. กระเป๋าผ้าไทย

fashion textile silk handcraft bag,ของฝากจากไทย,handcraft bag

มาเมืองไทยทั้งทีก็ควรจะมีของอะไรไทย ๆ ติดมือกลับบ้านสักหน่อย กระเป๋าใส่ของที่ทำจากผ้าไทย ก็ถือเป็นของฝากจากไทย ที่บ่งบอกว่ามาเยือนถิ่นไทยได้อย่างชัดเจนซื้อกระเป๋าที่ทำจากผ้าไทยอย่างยี่ห้อ นารายา ก็ถือว่ามีระดับเลยทีเดียว หรือหากไปเยือนถิ่นอีสานก็กระเป๋าผ้าย้อมครามสักใบรับรองเกาหลีไม่มีอย่างแน่นอน

6. สบู่รสไม้

fruit soap carvings,ของฝากจากไทย

เป็นอีกหนึ่งของฝากจากไทย ที่คนเกาหลีชอบมาก จริง ๆ ชาวต่างชาติที่มาไทยน่าจะซื้อติดไม้ติดมือกลับประเทศกันทุกคน นั่นก็คือสบู่ผลไม้อะโรม่า ที่ทำมาในรูปของผลไม้นั้นจริงๆ เช่น มังคุด กล้วย แต่ที่ขายดีที่สุดต้องยกให้มะม่วงเลย อาบน้ำทีเหมือนนั่งปอกมะม่วงอยู่ในห้องน้ำ ฮิตถึงขนาดที่เกาหลีก็เริ่มมีหลายแบรนด์ทำสบู่มะม่วงออกมาหน้าตาแบบนี้

ของฝากจากไทย เป็นสิ่งที่สะท้อนวัฒนธรรม

อันที่จริง ของฝากจากไทยยังมีอะไรอีกมากมายที่น่าสนใจและน่าเป็นตัวเลือกในการซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านแดนกิมจิอีกหลายชนิด เพราะของฝากแต่ละชิ้นย่อมแสดงถึงความสวยงาม วัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของคนไทยทั้งสิ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ความน่าสนใจก็ไม่ได้อยู่ขึ้นอยู่ตรงเพียงแค่ของฝากอย่างเดียว แต่มันขึ้นอยู่กับความตั้งใจของผู้ซื้อที่จะซื้อไปฝากผู้รับอีกด้วย

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ใบ/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋าในกรุงเทพฯ ราคาเริ่มต้นที่ 299 บาท/ใบ และยังมีบริการส่งกระเป๋าเดินทางไปต่างจังหวัด เรามีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

อ่านเพิ่มเติม