ฟินจัดเต็ม! 6 บุฟเฟ่ต์ไอคอนสยาม อร่อย คุ้มค่า อัพเดท 2024

ใครรู้ตัวว่าเป็นสายกิน ชอบกินเยอะ กินจุ และยังชอบกินแบบคุ้ม ๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะเราได้เตรียม 6 ร้าน บุฟเฟ่ต์ ไอคอนสยาม ประจำปี 2024 มาให้ได้ลิ้มลอง แต่ละร้านคือปังมาก ขนความอร่อยมาให้รับประทานแบบคุ้มค่า เลือกได้แบบไม่อั้น ของอร่อย ๆ เพียบ โดยไอคอนสยามถือเป็นห้างใหญ่ห้างดังของไทยที่ทั้งคนไทยและคนต่างชาตินิยมไปเช็กอิน นอกจากทำเลริมแม่น้ำทำให้ได้ลิ้มลองบรรยากาศสวย ๆ แล้ว ยังรวบรวมร้านบุฟเฟ่ต์มากมายมาให้ลิ้มรส อิ่มแล้วยังชอปปิงต่อได้แบบเพลิน ๆ ใครเป็นสายกินแนะนำให้พุ่งตัวไปโดยด่วน

1.CP-HiLai Harbour Restaurant 

หากพูดถึงบุฟเฟ่ต์ดังในไอคอนสยามแน่นอนว่าต้องมีชื่อร้านนี้ เพราะเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่งตรงมาจากไต้หวัน พร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติ ยกมาครบทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น ยุโรป จัดเต็มทั้งของคาวและของหวาน เพื่อไม่ให้เสียชื่อคอนเซ็ปต์ร้าน “The Best of East and West” ซีฟู้ดคือสดเหมือนนั่งรับประทานอยู่ริมทะเล อาหารประเภทซาชิมิคือเนื้อใส สดใหม่ ไม่มีคาว ใครสายเนื้อก็ห้ามพลาดเพราะเนื้อดี มีให้เลือกหลากหลายเมนู เรื่องราคาบอกเลยว่าคุ้มค่า เพราะอาหารคุณภาพ สดใหม่ ไม่ว่าจะชอบอาหารชาติไหนก็มีให้เลือกแบบครบ ๆ 

  • ราคา : 799 – 1,099 บาท
  • พิกัด : ชั้น 6 ไอคอนสยาม

2.Mo Mo Paradise

Mo-Mo Paradise เป็นบุฟเฟ่ต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในหมู่คนไทย เพราะราคาเป็นมิตร มีงบประมาณไม่ถึงพันก็สามารถอิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น จุดเด่นของที่นี่คือการเสิร์ฟวัตถุดิบคุณภาพดี อาหารทุกอย่างสดใหม่ เมื่อนำมารับประทานเป็นชาบูจึงยิ่งอร่อย บวกกับน้ำจิ้มรสชาติถูกปากคนไทยแต่ยังคงไว้ซึ่งสไตล์ญี่ปุ่นยิ่งทำให้สายกินติดใจ อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือเมนูตระกูลเนื้อ เลือกใช้เนื้อพรีเมียม ตอบโจทย์คนรักเนื้อเป็นอย่างยิ่ง พนักงานก็บริการอย่างเป็นมิตร รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน อาหารอร่อยแถมบริการเลิศ แนะนำเลย

  • ราคา : 599+ บาท
  • พิกัด : ชั้น 6 ไอคอนสยาม

3. Evaime Shabu Shabu

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนชอบรับประทานบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น บอกเลยว่าบุฟเฟ่ต์เจ้านี้มาพร้อมราคาเบา ๆ แต่คุณภาพคับแน่น โดยเฉพาะเมนูเนื้อสไลด์ หมูสไลด์ รวมถึงเนื้อหมูทรงเครื่องที่หมักมาให้อย่างเข้าเนื้อ จิ้มกับน้ำจิ้มคือฟินสุด ๆ มีน้ำซุปให้เลือกมากถึง 9 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นซุปหมาล่า ซุปญี่ปุ่น หรือซุปต้นตำรับ มีบาร์ตักน้ำจิ้มให้เลือกแบบฟิน ๆ บริการรวดเร็ว พื้นที่โดยรอบสะอาด สำหรับราคาย่อมเยาสบายกระเป๋า มีงบแค่ 1 แบงก์ม่วงก็สามารถรับประทานได้ รับรองอิ่มนาน คุ้มค่าเรื่องราคาแบบนี้ใครไปไอคอนสยามห้ามพลาดเด็ดขาด

  • ราคา : 389 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

4.Tenjo Sushi & Yakiniku Premium Buffet

มากันที่ร้านบุฟเฟ่ต์ในไอคอนสยามที่เหมาะกับคนชอบปิ้งย่างและชอบเมนูซูชิ ซาชิมิ โดย Tenjo คือร้านอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟเมนูปิ้งย่างและซูชิระดับพรีเมียม เมนูที่อยากแนะนำคือ ซูชิและซาชิมิ การันตีว่าสดใหม่ เนื้อหวานทุกคำ รวมถึงเมนูเนื้อพรีเมียมวากิวริบอาย เนื้อนุ่มละลายในปาก อย่าลืมปิดท้ายด้วยขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นแบบฟิน ๆ ในบรรยากาศการตกแต่งแบบญี่ปุ่น เรื่องความคุ้มค่าแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะคุณจะได้รับประทานเนื้อพรีเมียมและซูชิสดใหม่ปั้นแบบคำต่อคำ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง ใครชอบปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นบอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

  • ราคา : 399 – 1,799 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

5.Katei Shabu

ขอบคุณภาพจาก : KATEI SHABU 

ร้านชาบูเจ้าดังที่ก่อนหน้านี้เปิดให้บริการที่พุทธมณฑลสาย 4 แต่ปัจจุบันได้ขยับเข้ามาในเมืองมากขึ้น เพราะได้มาเปิดที่ห้างไอคอนสยาม ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นร้านนี้มีแนวคิดการออกแบบร้านต้องการให้ทุกคนรู้สึกสบาย ๆ เหมือนมาบ้านเพื่อน ทางร้านให้ความสำคัญเรื่องวัตถุดิบที่ต้องสะอาด สดใหม่ เพราะอาหารสดใหม่จะเพิ่มอรรถรสในการรับประทานมากขึ้น นอกจากพิถีพิถันเรื่องรสชาติแล้วยังให้ความสำคัญเรื่องการจัดจานที่ต้องสวยงาม เมนูแนะนำคือบรรดาเนื้อสไลด์ ซาชิมิสดใหม่ และไข่ดิบที่การันตีว่ารับประทานสดได้เลยเพราะนำเข้าจากฟาร์มที่เลี้ยงระบบปิด

  • ราคา : 699 – 1,699 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

6.E – Sarn by Evaime

ขอบคุณภาพจาก : Evaime Shabu Shabu 

ใครว่าที่ไอคอนสยามจะมีแต่บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติหรืออาหารญี่ปุ่น ที่นี่ยังมีบุฟเฟ่ต์อาหารอีสาน ใครชอบชาบูสไตล์อีสานห้ามพลาด ปรุงรสน้ำซุปมาอย่างถึงใจ มีกลิ่นสมุนไพรทำให้หอมและน่ารับประทานในเวลาเดียวกัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ มีให้เลือกทั้งชาบูชุดหมู ชุดเนื้อ หรือหากอยากสั่งเพิ่มเป็นอาหารจานเดียวก็ได้เช่นกัน ไหนจะการตกแต่งร้านด้วยสีสันสะดุดตาและราคาย่อมเยาที่พูดเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ แนะนำให้มาห้ามพลาดเด็ดขาด

  • ราคา : 299 – 399 บาท
  • พิกัด : ชั้น G ไอคอนสยาม

เมื่อสายกินรู้แล้วว่ามี บุฟเฟ่ต์ ไอคอนสยาม หลากหลายร้านมาให้เลือกรับประทานได้แบบไม่อั้น บอกเลยว่าต้องรีบพุ่งตัวไปโดยด่วน แต่ละร้านจัดหนักจัดเต็มอาหารคุณภาพ เตรียมมาให้เลือกแบบละลานตา อยากรับประทานอะไรเพียงแค่สั่ง รับรองว่าคุ้มค่า สำหรับการเดินทางก็ง่าย มีรถไฟฟ้าสายสีทองบริการ เพียงลงสถานีเจริญนครก็เดินเชื่อมต่อเข้าห้างได้อย่างสบาย ๆ เมื่อรับประทานเสร็จแล้วเดินชมวิวริมแม่น้ำหรือไม่ก็ชอปปิงต่อแบบชิล ๆ แต่หากเดินทางมาวันหยุดแนะนำให้จองคิวหรือเผื่อเวลาต่อคิวกันสักหน่อย เพราะเชื่อว่าสายกินเพียบ บุฟเฟ่ต์ดี ๆ แบบนี้ใครก็พลาดไม่ได้อยู่แล้ว

ที่มาข้อมูล

วิธีเดินทางไป ICONSIAM ด้วยรถไฟฟ้า BTS: แนะนำเส้นทางและเคล็ดลับการเดินทางที่ไม่ควรพลาด

ICONSIAM เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่กำลังได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เนื่องจากทุกพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร อัดแน่นไปด้วยสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโซน ICONLUXE แหล่งรวมแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลก โซนสยามทาคาชิมายะ ห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่นที่มีแบรดน์สินค้าจำหน่ายมากกว่า 500 แบรนด์  โซนสุขสยาม ศูนย์รวมผลงานศิลปะและสุดยอดอาหารไทยจากแต่ละจังหวัด ส่วนโซนด้านนอกเป็น River Park สำหรับชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและระบำน้ำพุที่มีขนาดยาวที่สุดในภูมิภาคอาเซียน แต่หากใครยังไม่เคยไปเที่ยว ICONSIAM วันนี้เรามีวิธีการเดินทางง่าย ๆ มาฝาก 

วิธีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

การเดินทางไป ICONSIAM ปัจจุบันสามารถเลือกเดินทางไปได้ทั้งทางเรือ รถโดยสารประจำทาง MRT และ BTS แต่ถึงอย่างนั้นวิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS  

  • วิธีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามายังไอคอนสยาม

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สามารถเลือกเดินทางสายสีเขียวไปลงที่สถานีตากสิน ออกประตู 2 และขึ้นเรือ Shuttle Boat ฟรีไม่เสียค่าบริการ หรือใช้บริการสายสีทอง มาลงที่สถานีเจริญนครและเดินต่อไปตามทางเชื่อมเพื่อเข้าสู่ ICONSIAM ได้เช่นกัน

  • สถานีที่ใกล้ที่สุด

หากเทียบการเดินทางแล้วต้องยอมรับว่าการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง เป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุด เพราะไม่ต้องต่อรถหรือเรือให้ยุ่งยาก ซึ่งสถานีที่ใกล้กับ ICONSIAM ที่สุดคือ สถานีเจริญนคร

สถานีเจริญนคร เป็นสถานีที่ 2 ของรถไฟฟ้าสายสีทอง อยู่บริเวณสะพานข้ามคลองวัดทองเพลง มุ่งไปทางแยกคลองสาร เข้าสู่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา โดยสถานีเจริญนครจะมีทางเข้าออกทั้งหมด 4 จุด ซึ่งมี 2 จุด ที่สามารถเดินไปยังศูนย์การค้า ICONSIAM ได้ โดยจุดแรกจะออกไปทางหน้าศูนย์การค้า ICONSIAM ใกล้กับประตูทางเข้าสยามทาคาชิมายะ ส่วนจุดที่สองออกไปทางหน้าศูนย์การค้า ICONSIAM ที่อยู่ใกล้กับซอยเจริญนคร

  • สถานีที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีทอง

เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีทองเป็นส่วนต่อขยายขนาดสั้นระยะทางเพียง 2.8 กิโลเมตร และบริการแค่ 4 สถานีเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายหลักถึงสามสาย ได้แก่

  • สายสีเขียว เชื่อมต่อกับ BTS สถานีกรุงธนบุรี
  • สายสีม่วง เชื่อมต่อกับ BTS สถานีประชาธิปก
  • สายสีแดง เชื่อมต่อกับ BTS สถานีคลองสาน
ภาพจาก : BTS SkyTrain

สำหรับ BTS สายสีทองขบวนแรกจากสถานีกรุงธนบุรีเริ่มที่เวลา 06.00 – 24.00 น. ราคาค่าโดยสารตลอดสาย 16 บาท

จากข้อมูลจะเห็นว่าการเดินทางไป ICONSIAM ด้วยรถไฟฟ้าไม่ยาก เพราะรถไฟฟ้าสายสีทองเชื่อมต่อกับสายหลักถึง 3 สาย  แต่ถึงอย่างนั้นเรามีเคล็ดลับง่าย ๆ ในการเดินทางมาแนะนำ 

  • เลือกเดินทางที่เหมาะกับตัวเอง

เพราะการเดินทางไป ICONSIAM สามารถเดินทางได้หลากหลายวิธี อีกทั้งอาจต้องต่อการเดินทางด้วยวิธีอื่น ๆ ดังนั้นก่อนออกเดินทางควรศึกษาและเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้น

  • ตรวจสอบเวลาการให้บริการ

หากต้องเดินทางไป ไอคอนสยาม รถไฟฟ้า หลายสายควรตรวจสอบเวลาให้บริการ เพราะรถไฟฟ้าแต่ละสายเปิดและปิดให้บริเวณไม่พร้อมกัน

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อมูลดี ๆ ในการเดินทางไป ICONSIAM ด้วยรถไฟฟ้าที่เรานำมาฝาก ซึ่งจะเห็นว่า ICONSIAM เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่น่าสนใจ รับประกันว่ามาเที่ยวไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน

ที่มาข้อมูล 

AIRPORTELs | ช็อปให้จุใจ แล้วมาส่งกระเป๋าที่เซ็นทรัลเวิลด์

เซ็นทรัลเวิลด์ เป็นห้างสรรพสินค้าที่มีขนาดใหญ่ เป็นแลนมาร์คสำคัญในกรุงเทพ ที่รวมเอาสินค้าและบริการอย่างครบครัน มารวมไว้ในที่เดียว และถือว่าเป็นช็อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ การเดินทางเพียงแค่นั่ง BTS มาลงที่สถานีสยามหรือชิดลม และใช้ทางเดินลอยฟ้า มาเข้าทางเชื่อมเพื่อเข้าสู่เซ็นทรัลเวิลด์

AIPORTELS Guide

บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบอกข้อมูลเกี่ยวกับบริการฝากกระเป๋าในเซ็นทรัลเวิลด์ หากเพื่อนๆ ต้องการข้อมูลเกี่ยวกับการฝากกระเป๋าสามารถตรวจสอบได้จาก บริการฝากกระเป๋าที่เซ็นทรัลเวิลด์

บริการส่งกระเป๋าเซ็นทรัลเวิลด์

บริการของ แอร์พอเทลล์ จะเปรียบเหมือนผู้ช่วยของเพื่อนๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกจากการขนส่งกระเป๋าสัมภาระจากห้างเซ็นทรัลเวิลด์ และระหว่างสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, ห้างสรรพสินค้าใจกลางเมือง และโรงแรมต่างๆ ในประเทศไทย โดยรับประกันค่าเสียหายสูงสุดถึง 50,000 บาท และการันตีเรื่องความตรงต่อเวลา เพราะกระเป๋าทุกใบของเพื่อนๆ จะถูกส่งถึงปลายทางในเวลาที่กำหนด โดยเพื่อนๆ สามารถตรวจสอบสถานะการขนส่งกระเป๋าผ่านอีเมล, เว็บไซต์ของ แอร์พอเทลล์, Facebook, Line และ WeChat ได้เลย!

แอร์พอเทลล์ Central World อยู่ตรงไหน

เคาน์เตอร์ แอร์พอเทลล์ มีทั้งหมด 2 ที่ ใน Central World

  • จุดที่ 1 : ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โซน กรูฟ หรือ ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพฯ
central world counter groove zone
  • จุดที่ 2 : ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โซน ฮักไทย หรือ ตรงข้ามชาตรามือ
central world counter hug thai zone

AIPORTELS Guide

ดูวิธีการเดินทางได้เพิ่มเติมได้แล้ว จาก พี่ๆ AIRPORTELs จาก ที่นี่

  • เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 น. จนถึง 22:00 น.

ส่งภายในกรุงเทพและปริมณฑล

  • เริ่มต้นใบละ 299 บาท/ชิ้น

ส่งไปต่างจังหวัด (ระยะเวลา 2-5 วัน)

  • เริ่มต้นใบละ 349 บาท/ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 15 kg.

ส่งไปต่างจังหวัด ระหว่าง กรุงเทพ-เชียงใหม่-ภูเก็ต (วันเดียวถึง)

  • เริ่มต้นใบละ 599 บาท/ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 15 kg.

ส่งภายในกรุงเทพและปริมณฑล

  • เริ่มต้นใบละ 399 บาท/ชิ้น

ส่งจากรุงเทพฯ – เชียงใหม่ (วันเดียวถึง)

  • เริ่มต้นใบละ 699 บาท/ชิ้น

ส่งจากรุงเทพฯ – ภูเก็ต (วันเดียวถึง)

  • เริ่มต้นใบละ 699 บาท/ชิ้น

ทำไมต้องใช้บริการกับ AIRPORTELs

บริการของแอร์พอเทลล์ จะเปรียบเสมือนเลขาฯของเพื่อนๆ ที่ช่วยส่งกระเป๋าสัมภาระระหว่างสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่นดังนี้

  • รับประกันค่าเสียหายสูงสุดถึง 50,000 บาท
  • การันตีเรื่องเวลาว่ากระเป๋าของเพื่อนๆจะถึงปลายทางในเวลาที่กำหนด
  • เพื่อนๆ สามารถตรวจสอบสถานะการขนส่งกระเป๋าผ่านอีเมล, เว็บไซต์ของแอร์พอเทลล์, Facebook, Line และ WeChat

หากใช้บริการ ส่งกระเป๋าที่ เซ็นทรัลเวิลด์เมื่อช้อปปิ้งเสร็จแล้วจะกลับโรงแรมกระเป๋าก็หนัก สัมภาระรุงรัง ทำให้เดินทางลำบาก เพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องกระเป๋าหนักอีกต่อไป เราจะเป็นผู้ช่วยจัดการจัดส่งสัมภาระจากสนามบินไปโรงแรม หรือโรงแรมไปสนามบินก็ได้เช่นกัน ให้บริการรวดเร็วและปลอดภัย ทำให้เวลาท่องเที่ยวหรือการทำงานของเพื่อนๆ ผ่านไปอย่างราบรื่นและมีโอกาสได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า

  เงื่อนไขการให้บริการ

  • ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการจอง กรุณาแจ้งทางแอร์พอเทลล์อย่างน้อย 4 ชั่วโมง
  • ในกรณีส่งกระเป๋าไปสนามบิน กรุณารับกระเป๋าของคุณก่อนเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง
  • เราไม่อนุญาตให้ส่งสิ่งของต้องห้าม เช่น วัตถุที่ทำให้เกิดประกายไฟ, ยา, อาวุธ, อาหาร, สัตว์ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
  • แอร์พอเทลล์ไม่รับผิดชอบในกรณีที่มีบุคคลที่สาม หรือเกิดเหตุการณ์เหนือการควบคุม รวมทั้งกรณีที่มีสาเหตุจากลูกค้า เช่น กรอกข้อมูลผิด, มาช้ากว่ากำหนด, ความไม่รับผิดชอบของลูกค้า, ภัยธรรมชาติ, การประท้วง และอื่นๆ
  • ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถมารับกระเป๋าได้ แอร์พอเทลล์จะเก็บกระเป๋าของคุณไว้ แต่ไม่รับผิดชอบความเสียหายหรือสูญหาย ถ้าลูกค้าไม่ติดต่อกลับภายใน 30 วัน แอร์พอเทลล์มีสิทธิทำลายทรัพย์สินของคุณ
  • สำหรับลูกค้าที่ต้องการส่งกระเป๋าไปโรงแรม กรุณาทำการติดต่อกับโรงแรมก่อนให้เรียบร้อย
  • สำหรับลูกค้าที่ส่งกระเป๋าไปยังบ้านหรือที่อยู่อาศัย ให้ติดต่อกับแอร์พอเทลล์เพื่อทำการจัดส่ง
  • สำหรับลูกค้าที่พักที่โรงแรม พนักงานของเราจะไปรับกระเป๋าหลังจากที่คุณฝากไว้กับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ในโรงแรม

ติดต่อ AIRPORTELs

มีบริการส่งจากที่อื่นไหม

กิน เที่ยว ช้อป ให้จุใจพร้อมบริการส่งกระเป๋าเยาวราช 2024

เคยเป็นกันไหมเที่ยวกันแต่ละทีที ต้องมากังวลกับประเป๋าเดินทางที่ทั้งหนักและใหญ่ จนเป็นภาระในการท่องเที่ยว

ปัญหาเหล่านั้นจะหมดไป เมื่อใช้บริการส่งกระเป๋าของแอร์พอเทลล์ที่เยาวราช เพื่อนๆ จะสามารถจัดการเวลาอันมีค่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจะช่วยส่งกระเป๋าเดินทางไปยังปลายทางโดยที่เพื่อนๆไม่ต้องกังวล ให้เพื่อนๆได้ท่องเที่ยวตามถนนเยาวราช แวะรับประทานอาหาร หรือช็อปปิ้งได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องลากกระเป๋าใบโต

เราจึงขอแนะนำบริการส่งกระเป๋าเดินทางจากเยาวราช โดย AIRPORTELs

บริการส่งกระเป๋าเยาวราช

ส่งกระเป๋าเยาวราช

บริการจัดส่งกระเป๋าสัมภาระจากเยาวราช โดย แอร์พอเทลล์ เป็นตัวเลือกหนึ่งสำหรับนักท่องเที่ยวเพื่อให้ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับกระเป๋าระหว่างเดินทางไปโรงแรมหรือสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในกรุงเทพ

ตอนนี้สามารถใช้บริการจัดส่งกระเป๋าเยาราข ได้แล้วกับ แอร์พอเทลล์ ที่จะทำให้เพื่อนๆ ได้เริ่มต้นวันดีๆ กับการกิน เที่ยว ช้อปให้จุใจ ท่องเที่ยวแบบสบายตัว

AIRPORTELs เยาวราช

เวลาเปิดทำการนั้น สามารถไปใช้บริการได้ทุกวัน ในเวลา  10.00 น. – 18.00 น. อาคารพิชัยญาติ ชั้น 2

บริการส่งกระเป๋าเยาวราชราคาเท่าไหร่

ส่งภายในกรุงเทพและปริมณฑล

  • เริ่มต้นใบละ 299 บาท/ชิ้น

ส่งไปต่างจังหวัด (ระยะเวลา 2-5 วัน)

  • เริ่มต้นใบละ 349 บาท/ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 15 kg.

ส่งไปต่างจังหวัด ระหว่าง กรุงเทพ-เชียงใหม่-ภูเก็ต (วันเดียวถึง)

  • เริ่มต้นใบละ 599 บาท/ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 15 kg.

ทำไมต้องใช้ AIRPORTELs

บริการของแอร์พอเทลล์ จะเปรียบเสมือนเลขาฯของเพื่อนๆ ที่ช่วยส่งกระเป๋าสัมภาระระหว่างสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่นดังนี้

  • รับประกันค่าเสียหายสูงสุดถึง 50,000 บาท
  • การันตีเรื่องเวลาว่ากระเป๋าของเพื่อนๆจะถึงปลายทางในเวลาที่กำหนด
  • เพื่อนๆ สามารถตรวจสอบสถานะการขนส่งกระเป๋าผ่านอีเมล, เว็บไซต์ของแอร์พอเทลล์, Facebook, Line และ WeChat

ถ้าใช้บริการ ส่งกระเป๋าที่สุวรรณภูมิ คุณไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องกระเป๋าหนักอีกต่อไป เราจะเป็นผู้ช่วยจัดการจัดส่งสัมภาระจากสนามบินไปโรงแรม หรือโรงแรมไปสนามบินก็ได้เช่นกัน ให้บริการรวดเร็วและปลอดภัย ทำให้เวลาท่องเที่ยวหรือการทำงานของคุณผ่านไปอย่างราบรื่น ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า

ส่งกระเป๋าเยาวราช

เงื่อนไขการให้บริการ

  • ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลงเวลารับส่งกระเป๋า กรุณาแจ้งฝ่ายประชาสัมพันธ์ลูกค้าของแอร์พอเทลล์อย่างน้อย 4 ชั่วโมง
  • ในกรณีส่งกระเป๋าไปสนามบินสุวรรณภูมิ กรุณารับกระเป๋าของคุณก่อนเวลาเรียกขึ้นเครื่อง 2 ชั่วโมง
  • ทางเราไม่อนุญาตให้ส่งสิ่งของต้องห้าม เช่น วัตถุไวไฟ, ยา, อาวุธยุทโธปกรณ์, อาหาร, สัตว์ และสิ่งมีชีวิตชนิดต่างๆ
  • แอร์พอเทลล์ไม่รับผิดชอบในกรณีมีบุคคลที่สามมารับแทน, เกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เหนือการควบคุม, ลูกค้ามาล่าช้า, ไม่ได้การตอบรับจากลูกค้า, ภัยธรรมชาติ, การประท้วง และอื่นๆ
  • ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถมารับกระเป๋าด้วยตัวเองได้ แอร์พอเทลล์จะเก็บรักษากระเป๋าของคุณไว้ แต่ไม่รับประกันความเสียหายหรือสูญหาย หากยังติดต่อลูกค้าเจ้าของกระเป๋าไม่ได้ภายใน 30 วัน กระเป๋าจะถูกทำลาย
  • ถ้าลูกค้าต้องการฝากกระเป๋ามากกว่า 3 วัน สามารถเลือกบริการฝากระยะยาวได้
  • สำหรับลูกค้าที่ต้องการส่งกระเป๋าไปโรงแรม กรุณาแจ้งข้อมูลไปยังโรงแรมก่อนใช้บริการ
  • สำหรับลูกค้าที่ส่งกระเป๋าจาก Airbnb หรือเกสต์เฮาส์ กรุณาแจ้งแอร์พอเทลล์ก่อนส่ง
  • สำหรับลูกค้าที่พักในโรงแรม สตาฟฟ์ของแอร์พอเทลล์จะรับกระเป๋าของคุณหลังจากที่คุณฝากไว้ที่โรงแรมแล้ว
AIRPORTELs-ส่งกระเป๋า

มีบริการส่งจากที่อื่นไหม

ติดต่อ AIRPORTELs

ฝากกระเป๋าเยาวราช ทางเลือกใหม่แห่งการท่องเที่ยว

ถ้าเพื่อนๆ เป็นคนที่เดินทางบ่อยๆ แอร์พอเทลล์เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จะมาช่วยให้ชีวิตการเดินทางของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น เราเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านกระเป๋าของนักเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นบริการส่งกระเป๋าหรือฝากกระเป๋า

ถนนเยาวราชเป็นอีกหนึ่งจุดที่ที่มีเคาน์เตอร์แอร์พอเทลล์ให้บริการ โดยเรามีบริการฝากกระเป๋าเดินทางในระยะสั้น และระยะยาว หรือจะส่งกระเป๋าไปตามเคาน์เตอร์แอร์พอเทลล์ที่มีอยู่ทั้งสนามบิน และห้างสรพพสินค้าชั้นนำก็ได้ โดยเคาน์เตอร์ของเราตั้งอยู่ที่ ชั้น 2 อาคารพิชัยญาติ

ที่ฝากกระเป๋าเยาวราช

ฝากกระเป๋าเยาวราช

สาขาน้องใหม่ของแอร์พอเทลล์ ที่พร้อมตอบสนองต่อการท่องเที่ยวแบบใหม่ ที่จะทำให้การเที่ยวสนุกและง่ายมากยิ่งขึ้น โดยตั้งอยู่ใจกลางถนนเยาวราช อาคารพิชัยญาติ ชั้น2

AIRPORTELs เยาวราชยู่ตรงไหน

เวลาเปิดทำการนั้น สามารถไปใช้บริการได้ทุกวัน ในเวลา  10.00 น. – 18.00 น. อาคารพิชัยญาติ ชั้น2

AIPORTELS Guide

ดูวิธีการเดินทางได้เพิ่มเติมได้แล้ว จาก พี่ๆ AIRPORTELs จาก ที่นี่

ค่าบริการฝากกระเป๋า

  • ชิ้นละ 20 บาท (ใบเล็ก) / 40 บาท (ใบใหญ่) (ชั่วโมง)
  • ชิ้นละ 100 บาท (วัน)
  • ชิ้นละ 500 บาท (สัปดาห์)
  • ชิ้นละ 2,000 บาท (เดือน)

ไม่เพียงแต่กระเป๋าเดินทางที่เรารับฝาก แต่สัมภาระอื่นเช่นอุปกรณ์กีฬา ไม่ว่าจะเป็นถุงกอล์ฟหรือจักรยาน เราก็รับฝาก รวมถึงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น โน๊ตบุ๊ค ซึ่งหลายๆที่มักจะไม่รับฝากเพราะมีราคาสูง โดยค่าบริการฝากมีรายละเอียดดังนี้

สัมภาระพิเศษ

  • ชิ้นละ 200 บาท (วัน)
  • ชิ้นละ 1,000 บาท (สัปดาห์)
  • ชิ้นละ 4,000 บาท (เดือน)
ฝากกระเป๋าเยาวราช

ทำไมต้องใช้ AIRPORTELs

  • ช่วยให้คุณบริหารจัดการเวลาและแผนการเดินทางได้ดียิ่งขึ้น
  • ประกันภัยสำหรับกระเป๋ามูลค่าสูงสุด 50,000 บาท
  • มีบริการฝากแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน
  • เราพร้อมให้บริการขนส่งกระเป๋า จากสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ไปยังโรงแรม บ้าน คอนโด หรือที่พักที่คุณกำหนด

การฝากกระเป๋ากับแอร์พอเทลล์นั้นไม่ยุ่งยาก ไม่ว่ากระเป๋าคุณจะขนาดจะใหญ่ หรือน้ำหนักจะมากขนาดไหนเราก็รับฝากในราคาเท่ากัน แอร์พอเทลล์เราคำนึงถึงความปลอดภัยของกระเป๋าทุกใบ กระเป๋าทุกใบจะถูกเก็บอย่างดีและปลอดภัย

ฝากกระเป๋าเยาวราช

นอกจากนี้แอร์พอเทลล์ยังมีห้องเก็บกระเป๋าในสนามบินสุวรรณภูมิที่สามารถเก็บกระเป๋าได้กว่า 2,000 ใบ ในห้องที่มี CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง เราเชื่อว่าเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคนดังนั้นอย่าให้กระเป๋า หรือสัมภาระต่างๆทำให้คุณเสียเวลา

มีบริการฝากที่อื่นๆ อีกไหม

เที่ยวแบบตัวปลิว2023 กับบริการส่งกระเป๋าไอคอนสยาม

iconsiam

ไอคอนสยาม เป็นศูนย์การค้าและความบันเทิงชั้นนำที่ตั้งอยู่ในกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา และมีชื่อเสียงในด้านศูนย์การค้าหรูหรา ร้านอาหารชั้นเลิศ และแหล่งบันเทิงต่างๆ

ถ้าต้องแบกกระเป๋าเดินทางไปด้วยทุกที่ คงไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนอยากจะทำเช่นนั้นมากนัก เพราะกระเป๋าเดินทางที่เต็มไปด้วยเสื้อผ้าและของใช้ส่วนตัวนั้นทั้งหนักและใหญ่เกินกว่าจะลากไปได้ในทุกพื้นที่ที่เพื่อนๆไปเที่ยว ลองนึกภาพเพื่อนๆ กำลังลากกระเป๋าใบใหญ่อยู่ไอคอนสยาม ห้างสรรพสินค้าที่พร้อมให้เราได้เพลิดเพลินกับสินค้าและอาหารมากมาย แต่เพื่อนๆ ต้องมาลำบากกับการลากกระเป๋าใบหนักอยู่ในไอคอนสยามแล้วต้องเจอปัญหามากมายจากการลากกระเป๋า

บริการส่งกระเป๋า ไอคอนสยาม

ส่งกระเป๋าไอคอนสยาม

เชื่อว่าหลายคนเคยไปเดินไอคอนสยามกันมาแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าที่นี่ก็มีที่ฝากกระเป๋า ตอนนี้ที่ไอคอนสยามมีบริการฝากกระเป๋าจาก แอร์พอเทลส์ มาเปิดให้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้การมาเปิดในครั้งนี้ไม่ได้มีแค่ ฝากกระเป๋า เท่านั้น ยังมีบริการ ส่งกระเป๋า ไปยังสนามบิน โรงแรมอีกด้วย

ตอนนี้สามารถใช้บริการจัดส่งกระเป๋าไอคอนสยาม ได้แล้วกับ แอร์พอเทลล์ ที่จะทำให้เพื่อนๆ ได้เริ่มต้นวันดีๆ กับการกิน เที่ยว ช้อปให้จุใจ ท่องเที่ยวแบบสบายตัว

แอร์พอเทลส์ ไอคอนสยาม อยู่ตรงไหน

  • เปิดให้บริการแล้วที่ โซนสยามทาคาชิมาย่า ชั้น G หาบันไดเลื่อนเดินลงไปชั้น B2 แอร์พอเทลส์ ก็จะอยู่ด้านล่างบันไดเลื่อนเลย
วิธีไปส่งกระเป๋าจากไอคอนสยาม

AIPORTELS Guide

ดูวิธีการเดินทางได้เพิ่มเติมได้แล้ว จาก พี่ๆ AIRPORTELs จาก ที่นี่

  • เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น.

บริการส่งกระเป๋า ไอคอนสยาม ราคาเท่าไหร่

ส่งภายในกรุงเทพและปริมณฑล

  • เริ่มต้นใบละ 299 บาท/ชิ้น

ส่งไปต่างจังหวัด (ระยะเวลา 2-5 วัน)

  • เริ่มต้นใบละ 349 บาท/ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลก

ส่งไปต่างจังหวัด ระหว่าง กรุงเทพ-เชียงใหม่-ภูเก็ต (วันเดียวถึง)

  • เริ่มต้นใบละ 599 บาท/ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 15 กิโลกรัม

ส่งภายในกรุงเทพและปริมณฑล

  • เริ่มต้นใบละ 399 บาท/ชิ้น

ส่งจากรุงเทพฯ – เชียงใหม่ (วันเดียวถึง)

  • เริ่มต้นใบละ 699 บาท/ชิ้น

ส่งจากรุงเทพฯ – ภูเก็ต (วันเดียวถึง)

  • เริ่มต้นใบละ 699 บาท/ชิ้น

ทำไมต้องใช้บริการกับ แอร์พอเทลส์

ส่งกระเป๋าไอคอนสยาม

บริการของแอร์พอเทลล์ จะเปรียบเสมือนเลขาฯของเพื่อนๆ ที่ช่วยส่งกระเป๋าสัมภาระระหว่างสนามบินดอนเมือง, สนามบินสุวรรณภูมิ, ห้างสรรพสินค้า และโรงแรมต่างๆ ในประเทศไทย ซึ่งมีจุดเด่นดังนี้

  • รับประกันค่าเสียหายสูงสุดถึง 50,000 บาท
  • การันตีเรื่องเวลาว่ากระเป๋าของเพื่อนๆจะถึงปลายทางในเวลาที่กำหนด
  • เพื่อนๆ สามารถตรวจสอบสถานะการขนส่งกระเป๋าผ่านอีเมล, เว็บไซต์ของแอร์พอเทลล์, Facebook, Line และ WeChat

หากใช้บริการ ส่งกระเป๋าที่ Terminal 21 พัทยา เพื่อนๆ ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องกระเป๋าหนักอีกต่อไป เราจะเป็นผู้ช่วยจัดการจัดส่งสัมภาระจากสนามบินไปโรงแรม หรือโรงแรมไปสนามบินก็ได้เช่นกัน ให้บริการรวดเร็วและปลอดภัย ทำให้เวลาท่องเที่ยวหรือการทำงานของเพื่อนๆ ผ่านไปอย่างราบรื่นและมีโอกาสได้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า

  เงื่อนไขการให้บริการ

  • ในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลงการจอง กรุณาแจ้งทางแอร์พอเทลล์อย่างน้อย 4 ชั่วโมง
  • ในกรณีส่งกระเป๋าไปสนามบิน กรุณารับกระเป๋าของคุณก่อนเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง
  • เราไม่อนุญาตให้ส่งสิ่งของต้องห้าม เช่น วัตถุที่ทำให้เกิดประกายไฟ, ยา, อาวุธ, อาหาร, สัตว์ และสิ่งมีชีวิตอื่นๆ
  • แอร์พอเทลล์ไม่รับผิดชอบในกรณีที่มีบุคคลที่สาม หรือเกิดเหตุการณ์เหนือการควบคุม รวมทั้งกรณีที่มีสาเหตุจากลูกค้า เช่น กรอกข้อมูลผิด, มาช้ากว่ากำหนด, ความไม่รับผิดชอบของลูกค้า, ภัยธรรมชาติ, การประท้วง และอื่นๆ
  • ในกรณีที่ลูกค้าไม่สามารถมารับกระเป๋าได้ แอร์พอเทลล์จะเก็บกระเป๋าของคุณไว้ แต่ไม่รับผิดชอบความเสียหายหรือสูญหาย ถ้าลูกค้าไม่ติดต่อกลับภายใน 30 วัน แอร์พอเทลล์มีสิทธิทำลายทรัพย์สินของคุณ
  • สำหรับลูกค้าที่ต้องการส่งกระเป๋าไปโรงแรม กรุณาทำการติดต่อกับโรงแรมก่อนให้เรียบร้อย
  • สำหรับลูกค้าที่ส่งกระเป๋าไปยังบ้านหรือที่อยู่อาศัย ให้ติดต่อกับแอร์พอเทลล์เพื่อทำการจัดส่ง
  • สำหรับลูกค้าที่พักที่โรงแรม พนักงานของเราจะไปรับกระเป๋าหลังจากที่คุณฝากไว้กับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ในโรงแรม

ติดต่อ แอร์พอเทลส์

มีบริการส่งจากที่อื่นไหม

ฝากกระเป๋าไอคอนสยาม ทางเลือกที่ดีที่สุดของชาวฝั่งธน 2024

iconsiam

ไอคอนสยาม คือห้างสรรพสินค้าที่รวบรวมเอาทุกสิ่งที่คุณต้องการ ความหรูหรา ความบันเทิง และวัฒนธรรมไทย หากคุณกำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว และ ช็อปปิ้งที่น่าสนใจในกรุงเทพฯ ไอคอนสยามคือคำตอบ

หลายคนคงเคยเจอกับปัญหากระเป๋าเดินทาง ขัดขวางการท่องเที่ยวในช่วงวันหยุด จะไปไหนก็ลำบาก มาไอคอนสยามทั้งทีจะ Shopping ยังไงก็ไม่สนุก

บริการฝากระเป๋า ไอคอนสยาม

ฝากกระเป๋าไอคอนสยาม

สาขาน้องใหม่ ไอคอนสยาม เป็นอีกหนึ่งจุดที่ที่มีเคาน์เตอร์ของเราให้บริการ แอร์พอเทลล์ จึงขอเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จะมาช่วยให้ชีวิตการเดินทางของคุณสะดวกมากยิ่งขึ้น เราเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านกระเป๋าของนักเดินทาง ไม่ว่าจะส่งกระเป๋าหรือฝากกระเป๋า โดยเรามีบริการฝากกระเป๋าเดินทางทั้งระยะสั้น และระยะยาว หรือจะส่งกระเป๋าให้ไปอยู่ที่สนามบินหรือที่บ้านก็ได้ โดยเคาน์เตอร์ของเราตั้งอยู่ใน ไอคอนสยาม โซนสยามทาคาชิมาย่า ชั้นB2

เคาน์เตอร์ของเราเป็นเคาน์เตอร์สีดำทอง มีพื้นขนาดใหญ่สามารถเก็บกระเป๋าได้มากกว่า 1,000 ใบ ใครจะมาใช้บริการแน่นอนว่าจะเห็นสีเหลืองมาแต่ไกลเลยยยย

แอร์พอเทลส์ ไอคอนสยาม อยู่ตรงไหน

  • เปิดให้บริการที่ โซนสยามทาคาชิมาย่า ชั้น G หาบันไดเลื่อนเดินลงไปชั้น B2 แอร์พอเทลส์ ก็จะอยู่ด้านล่างบันไดเลื่อน
วิธีการเดินทางฝากกระเป๋าไอคอนสยาม

AIPORTELS Guide

ดูวิธีการเดินทางได้เพิ่มเติมได้แล้ว จาก พี่ๆ AIRPORTELs จาก ที่นี่

  • เปิดให้บริการทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น.

ค่าบริการฝากกระเป๋า ไอคอนสยาม

เรามีบริการฝากระยะสั้น และระยะยาว โดยราคาค่าดังนี้

กระเป๋าเดินทางธรรมดา / กระเป๋าใส่ไม้กอล์ฟ

  • ชิ้นละ 60 บาท (ชั่วโมง)
  • ชิ้นละ 150 บาท (วัน)
  • ชิ้นละ 750 บาท (สัปดาห์)
  • ชิ้นละ 3,000 บาท (เดือน)

สัมภาระพิเศษ

  • ชิ้นละ 200 บาท (วัน)
  • ชิ้นละ 1,000 บาท (สัปดาห์)
  • ชิ้นละ 4,000 บาท (เดือน)

ทำไมต้องใช้บริการกับ แอร์พอเทลส์

ฝากกระเป๋าไอคอนสยาม
  • ช่วยให้คุณบริหารจัดการเวลาและแผนการเดินทางได้ดียิ่งขึ้น
  • ประกันภัยสำหรับกระเป๋ามูลค่าสูงสุด 50,000 บาท
  • มีบริการฝากแบบรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน
  • เราพร้อมให้บริการขนส่งกระเป๋า จากสนามบินสุวรรณภูมิ สนามบินดอนเมือง ไปยังโรงแรม บ้าน คอนโด หรือที่พักที่คุณกำหนด

การฝากกระเป๋ากับแอร์พอเทลล์นั้นไม่ยุ่งยาก ไม่ว่ากระเป๋าคุณจะขนาดจะใหญ่ หรือน้ำหนักจะมากขนาดไหนเราก็รับฝากในราคาเท่ากัน แอร์พอเทลล์เราคำนึงถึงความปลอดภัยของกระเป๋าทุกใบ กระเป๋าทุกใบจะถูกเก็บอย่างดีและปลอดภัย

นอกจากนี้แอร์พอเทลล์ยังมีห้องเก็บกระเป๋าใน สนามบินสุวรรณภูมิ ที่สามารถเก็บกระเป๋าได้กว่า 2,000 ใบ ในห้องที่มี CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง เราเชื่อว่าเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับทุกคนดังนั้นอย่าให้กระเป๋า หรือสัมภาระต่างๆทำให้คุณเสียเวลา

มีบริการฝากที่อื่นๆ อีกไหม

รวม 15 สถานที่เที่ยวสุขุมวิท ย่านธุรกิจสุดฮิตของคนกรุงฯ

ถนนสุขุมวิทเป็นชื่อถนนที่หลายคนคุ้นหู นับเป็นถนนสำคัญอีกหนึ่งสายที่ทอดยาวที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มต้นจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครไปจนถึงชายแดนประเทศกัมพูชา นอกจากเป็นชื่อถนนแล้ว ยังเป็นชื่อย่านใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพมหานครอีกด้วย เพราะที่นี่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารชื่อดัง สถานบันเทิงมากมาย แหล่งที่เที่ยวสุขุมวิทเป็นพื้นที่ที่ให้ผู้คนมากิน เที่ยว เล่น พักผ่อนได้อย่างครบจบในที่เดียว 

นับเป็นย่านที่คึกคักอันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ทำให้คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จึงมักเลือกพักผ่อนและมาหาที่เที่ยวแถวสุขุมวิท ทั้งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และหลังเลิกงาน 

สำหรับใครที่กำลังหาที่เที่ยวสุขุมวิทที่สะดวกสบาย ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง บทความนี้ได้รวบรวมมาให้แล้ว ทั้งหมด 15 ที่เที่ยวสุขุมวิทที่น่าสนใจ 

ท้องฟ้าจำลอง

1. ท้องฟ้าจำลอง

ท้องฟ้าจำลองเป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่เดินทางไปได้สะดวกมากๆ โดยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ที่นี่เป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ถูกอนุมัติจัดสร้างโดยกระทรวงศึกษาธิการ 

ภายในเต็มไปด้วยเครื่องมือการเรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ท้องฟ้าจำลอง ซึ่งเป็นไฮไลต์เด่นที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่ เป็นการจัดแสดงท้องฟ้าจำลองรอบละ 1 ชั่วโมง  ซึ่งมีทั้งการบรรยายความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์และมีการฉายภาพยนตร์เต็มเรื่องในตอนจบด้วย 

นอกจากนี้แล้วยังมี นิทรรศการวิทยาศาสตร์ โลกใต้น้ำ อาคารสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ อาคารตระหนักรู้พลังงาน และนิทรรศการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะพาน้องๆ หนูๆ มาเรียนรู้หรือผู้ใหญ่จะไปเที่ยวชมก็ได้ 

  • ที่อยู่: 928 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: ท้องฟ้าจำลอง  
  • เวลาทำการ: วันศุกร์ 11:00 น. – 15:00 น. /  วันเสาร์-อาทิตย์ 10:00 น. – 15:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัว จอดรถได้ที่พื้นที่จอดรถที่จัดไว้ของท้องฟ้าจำลอง
    • รถเมล์ประจำทาง สาย 149, 2, 25, 38, 40, 48, 501, 508, 511, 72
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย ทางออก 2
สวนเบญจสิริ

2. สวนเบญจสิริ

สวนเบญจสิริเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสุขุมวิทแนวธรรมชาติที่น่าสนใจ ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้ พื้นที่ธรรมชาติ เน้นการออกแบบให้เป็นสวนที่มีพื้นที่โล่ง โปร่ง สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้กว้างเต็มตา เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อนหรือออกกำลังกาย ภายในสวนนอกจากจะมีต้นไม้ให้ร่มเงาแล้ว ยังมีประติมากรรมสวยๆ กลางสวนให้ได้ชมกันอีกด้วย 

สวนเบญจสิริเป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่คนกรุงนิยมมาพักผ่อนกันอย่างมาก ด้วยการเดินทางที่สะดวก ใกล้ถนนสายหลัก เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ได้ อยู่ใจกลางเมืองที่สามารถมาออกกำลังกายหลังเลิกงาน จึงตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับใครที่มองหาที่เที่ยวแนวธรรมชาติกลางกรุงขอแนะนำให้มาที่นี่เลย

  • ที่อยู่: อยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 22 และ 24 บนถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: สวนเบญจสิริ 
  • เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 05:00 – 21:00 น.
  • การเดินทาง: รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ 

3. หอศิลป์ศุภโชค (SAC Gallery)

หอศิลป์ศุภโชคเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่โดนใจสายอาร์ตที่รักศิลปะอย่างแน่นอน เพราะที่นี่เป็นตึกรวมผลงานศิลปะมากมายทั้งจากชาวไทยและชาวต่างประเทศ 

โดยตึกถูกออกแบบสไตล์โมเดิร์น ดูโดดเด่น มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นมีงานศิลปะจัดแสดงเต็มทุกพื้นที่ ภายในมีทั้งการบรรยาย งานนิทรรศการศิลปะงานสาธิตต่างๆ รวมถึงงานเวิร์กช็อปอีกด้วย ใครที่มองหาที่เที่ยวแถวสุขุมวิทแนวนี้แวะมาได้เลยที่หอศิลป์ศุภโชค 

  • ที่อยู่: 160/3 ซอยสุขุมวิท 33 (แดงอุดม) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110  
  • พิกัด: หอศิลป์ศุภโชค (SAC Gallery) 
  • เวลาทำการ: วันอังคาร – ศุกร์ เวลา 10:00 – 18:00 น. และ วันเสาร์เวลา 11:00 – 18:00 น.  (ปิดทุกวันอาทิตย์-วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออกที่ 5 (ซอยสุขุมวิท 35) 
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท ทางออกที่ 2 (อาคารอินเตอร์เช้นจ์ 21) 
    • รถเมล์โดยสารประจำทาง สาย 2, 25, 501, 508, 511, 513, 38, 40 และ 48
    • เรือด่วนคลองแสนแสบ ลงที่ท่าเรืออิตันไทย
Japanese Town

4. Japanese Town

Japanese Town เป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากเดินเล่น ชมบรรยากาศแบบญี่ปุ่น โดยไม่ต้องบินไปไกล ใจกลางกรุงเทพฯ ก็มี เดิมทีที่นี่เป็นชุมชนคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่เที่ยวสุดฮิตของนักท่องเที่ยวแทน เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มีเมนูให้เลือกมากมายหลายร้านเลยทีเดียว ทุกร้านทำโดยคนญี่ปุ่นแท้ๆ 

นอกจากนี้ยังมีร้านอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านนวด สปา ร้านหนังสือ ร้านเช่า DVD โรงเรียนคาราเต้ และร้านขายทัวร์ ทำให้ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยบรรยากาศเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นมากๆ นับเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทสุดสัปดาห์ที่น่ามาไม่แพ้ที่อื่นเลย 

  • ที่อยู่: ซอยสุขุมวิท 33/1 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตพัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Japanese Town 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออกที่ 5 เดินต่อไปที่ซอยสุขุมวิท 33/1 
Flow House Thailand (Bangkok)

5. Flow House Thailand (Bangkok)

เอาใจสายลุยกันบ้างกับที่เที่ยวสุขุมวิทอย่าง Flow House Thailand บีชคลับกลางใจเมือง ที่นี่คือศูนย์เล่นเซิร์ฟจำลองกลางกรุงเทพฯ ที่เดินทางสะดวก ไม่ต้องไปถึงทะเลก็เล่นเซิร์ฟได้ที่นี่ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีสปอร์ตบาร์ ห้องเล่นเกม ร้านค้าต่างๆ ร้านอาหารและคาเฟ่อีกด้วย เป็นอีกที่เที่ยวแถวสุขุมวิทสำหรับสายกีฬาที่น่าสนใจอย่างมาก มาที่เดียวจบทั้งทำกิจกรรม ทานอาหาร พักผ่อน

  • ที่อยู่: 120/1 A-Square, ซอยสุขุมวิท 26 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด:  Flow House Thailand (Bangkok)  
  • เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันพุธ 11:00 – 21:00 น. / วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ 10:00 – 21:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีคลองเตย 
Whizdom Club

6. Whizdom Club

สำหรับใครที่มองหาพื้นที่ทำงาน อ่านหนังสือ ไม่จำเป็นต้องพึ่งแค่ห้องสมุดอีกต่อไป เพราะที่เที่ยวสุขุมวิทสำหรับคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ ได้แรงบันดาลใจมาจาก Knowledge Sharing Society ทำให้ที่นี่กลายเป็น Co-Working Space ที่ถูกแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน ทั้งโซนพื้นที่ทำงาน (Workspace Station) โซนพื้นที่ทำกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน (Whiz Ground) และโซนพื้นที่จัดแสดง (Exhibition Room) ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าพื้นที่ทำงานร่วมกัน แต่เป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่เต็มไปด้วย Inspiration ความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้สิ่งใหม่ที่น่าสนใจกลางกรุงเทพมหานคร 

  • ที่อยู่: โครงการ 101 True Digital Park ชั้น 4 ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10260
  • พิกัด: Whizdom Club  
  • เวลาทำการ:  ทุกวัน 08:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี ทางออกที่ 6

7. Park Lane 

Park Lane เอกมัยเป็นอีกที่เที่ยวสุขุมวิทที่น่าสนใจ ที่นี่เป็นคอมมิวนิตีมอลล์สไตล์คนเมืองตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ จุดเด่นคือที่นี่ถูกออกแบบให้ผู้ที่มาเยือนได้รับรู้สึกผ่อนคลายกลางใจเมืองสุดๆ ด้วยต้นไม้ สวน น้ำพุ การตกแต่งอาคารสุดชิคทำให้ที่นี่แตกต่างจากสถานที่ชอปปิงบนตึกสูงทั่วไป

ที่สำคัญเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอาง ร้านเสริมสวย ร้านสปา ร้านแว่น ร้านอาหาร คาเฟ่ และที่สำคัญที่นี่ตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาที่เที่ยวสุขุมวิทที่มีพื้นที่รองรับเด็กๆ เพราะที่นี่มีร้าน Play Time สวนสนุกในร่มสำหรับเด็กไว้ให้บริการด้วย 

  • ที่อยู่: 18 ซอยสุขุมวิท 61 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Park Lane 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 06:00 – 02:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย แล้วเข้าซอยสุขุมวิท 63 ต่อไปอีก 400 เมตร
The TwentySix 

8. The TwentySix 

The Twenty Six เป็น Shop House ที่เที่ยวสุขุมวิทใจกลางเมือง ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 26 เป็นพื้นที่ที่ได้รวมเอา 8 ร้านค้าไว้ในพื้นที่เดียวกัน มาที่เดียวครบครันทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านขายของใช้น่ารักๆ คาเฟ่ ร้านทำเล็บ ร้านต่อขนตา สักคิ้ว ฝังสีปาก สตูดิโอสอนทอผ้า Golf Academy ร้านขายเสื้อผ้าและร้านแว็กซ์ ให้คุณได้มาพักผ่อนกับที่เที่ยวแถวสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพฯ เพียบพร้อมด้วยบริการที่ครบครัน

  • ที่อยู่:  34/1 ซอยสุขุมวิท 26  แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด:  The TwentySix 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพษ์ แล้วเข้าซอยอารีย์ 650 เมตร 
RQ 49 Health & Lifestyle Mall

9. RQ 49 Health & Lifestyle Mall

มาต่อกันที่ที่เที่ยวสุขุมวิทเอาใจสายสุขภาพกันบ้าง ที่ RQ 49 Health & Lifestyle Mall ที่นี่เป็นมากกว่าคอมมิวนิตีมอลล์ทั่วไป เพราะเต็มไปด้วยการให้บริการด้านสุขภาพและความงามและร้านอาหารชั้นนำ โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นมีให้เลือกมากมาย พร้อมกับการตกแต่งสไตล์ Japan Modern ทำให้บรรยากาศที่นี่ นอกจากจะเป็นศูนย์รวมศูนย์สุขภาพแล้วยังได้รู้สึกเหมือนอยู่ใจกลางญี่ปุ่นอีกด้วย

  • ที่อยู่: 49/7 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110 
  • พิกัด: RQ 49 Health & Lifestyle Mall 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 08:00. น. – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีทองหล่อหรือสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเข้าซอยสุขุมวิท 49 ต่อไปอีก 1.5 กิโลเมตร
The EmQuartier

10. The EmQuartier

ที่เที่ยวสุขุมวิทที่สายชอปปิงจะพลาดไม่ได้เลยก็คือ ศูนย์การค้า The EmQuartier ที่มีร้านค้าชั้นนำระดับโลกมากมายให้ได้เลือกชอป ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าและยังมีร้านอาหารชื่อดังมากมาย

เป็นแหล่งการค้าใจกลางเมืองที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมากันเยอะมาก เพราะมีสินค้าให้เลือกครบครัน ไม่ว่าจะมาชอปปิงหรือพักผ่อนก็ถือว่าตอบโจทย์มากเลยทีเดียว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีโปรโมชั่นมากมายเอาใจนักชอปรออยู่อีกด้วย

และจุดที่พลาดไม่ได้สำหรับใครที่อยากชมวิวเมืองย่านสุขุมวิทจากมุมกว้าง ต้องไปที่สกายคลิฟ ชั้น 45 ของ The EmQuartier ที่นี่คุณจะได้เห็นกรุงเทพมหานครในแบบ 360 องศาเต็มๆ ตา รับรองว่าหาไม่ได้จากห้างสรรพสินค้าไหนอย่างแน่นอน

  • ที่อยู่: 695 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110 
  • พิกัด: The EmQuartier 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น. 
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท
Terminal 21 Asok

11. Terminal 21 Asok

ที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่เป็นทั้งแหล่งชอปปิงและรวมร้านอาหารชื่อดังรสเด็ด ที่เมื่อมาเที่ยวกรุงเทพฯ จะต้องมาเยือนให้ได้ ก็คือที่ Terminal 21 Asok (อโศก) นั่นเอง ที่นี่มีทั้งร้านค้าแบรนด์ชั้นนำให้คุณได้ชอปปิงมากมาย รวมถึงร้านอาหารเด็ดๆ อีกหลากหลายร้าน มีให้เลือกทั้งอาหารไทยและนานาชาติ ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่มีศูนย์อาหารที่ราคาถูกกลางใจเมือง อยู่ในห้างสรรพสินค้า Terminal 21 หลากหลายร้านด้วยกัน 

สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่มาเที่ยวแล้วไม่อยากลากกระเป๋าเดินทางติดตัวให้วุ่นวาย หรือชอปปิงเยอะจนถือไม่ไหว ไม่อยากหิ้วถุงชอปปิงไปที่อื่นต่อ ที่ Terminal 21 มีให้บริการฝากกระเป๋าเดินทางและถุงชอปปิงของ Airportels ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชอปได้อย่างสบาย เที่ยวได้ไร้กังวล เพียงฝากกระเป๋าหรือฝากของไว้กับ Airportels 

  • ที่อยู่: 88 ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตทวีวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Terminal 21 Asok 
  • เวลาทำการ:  ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.  
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท
Gateway Ekamai

12. Gateway Ekamai

หากกำลังมองหาที่เที่ยวสุขุมวิท แหล่งชอปปิงกลางใจเมืองที่ส่วนใหญ่มีราคาไม่แพง ขอแนะนำ Gateway Ekamai ศูนย์การค้าที่รวมสินค้ามากมายในสไตล์ญี่ปุ่นที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แพง โดยเฉพาะสินค้า IT ที่นี้ได้แบ่งโซน IT CITY ที่รวมอุปกรณ์ IT Gatget ไว้มากมายสำหรับสาย IT ต้องถูกใจอย่างแน่นอน รวมทั้งยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ราคาดีให้เลือกสรรหลายร้านด้วยกัน เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ครบทั้งชอปปิงของที่ชอบและได้ทานอาหารรสชาติที่ใช่ 

  • ที่อยู่: 982 ถนนสุขุมวิท 22  แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Gateway Ekamai 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถเมล์ รถประจำทาง สาย 2, 23, 25, 38, 40, 48, 71, 98, 501, 508, 511
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย ทางออก 4 
    • เรือโดยสาร คลองแสนแสบ เลือกลงท่าเรือ ร.ร. วิจิตรฯ ท่าเรือชาญอิสระ หรือท่าเรือทองหล่อ

13. Starbucks Sukhumvit 21

พลาดไม่ได้สำหรับที่เที่ยวสุขุมวิทเอาใจสายคาเฟนั่นคือ Starbucks Sukhumvit 21 สาขา Camp Davis ภายนอกร้านถูกออกแบบตกแต่งในสไตล์อังกฤษ ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ทำให้ mood ภาพออกมาแล้วราวกับอยู่ที่อังกฤษจริงๆ เป็นอีกคาเฟที่ดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนคาเฟอื่นๆ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทย คนต่างชาติ รวมถึงคนกรุงเทพฯ เองมักไปเที่ยวพักผ่อนนั่งรับประทานขนมและจิบเครื่องดื่ม รวมถึงถ่ายรูปสวยๆ กันเยอะมากๆ ใครที่อยากได้รูปสุดเก๋ มูดภาพชิคๆ ต้องมาที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่นี่เลย

  • ที่อยู่: 88 สุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Starbucks Sukhumvit 21  
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 06:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออก 4 เดินต่อเข้าซอยสุขุมวิท 24 อีก 1.4 กิโลเมตร
Bo.lan

14. Bo.lan

ที่เที่ยวสุขุมวิทสำหรับสายกินที่อยากลิ้มลองอาหารไทยรสเลิศติดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดของเอเชีย ต้องมาที่ร้าน Bo.lan (โบราณ) ที่นี่เป็นร้านอาหารไทยที่มีจุดเด่นคือ เลือกใช้วัตถุดิบจากเกษตรไทยเป็นหลักในการทำอาหาร โดยผ่านการคิดและพัฒนาจนเพิ่มมูลค่าของอาหารได้มากขึ้น จนได้พาอาหารไทยไปสร้างความรู้จักทั่วโลก 

สำหรับเมนูอาหารที่ร้านนี้จะแตกต่างกันออกไปตามช่วงฤดูของวัตถุดิบ นอกจากอาหารคาวที่รสชาติเป็นเลิศแล้ว ยังมีของหวานแสนอร่อยให้เลือกรับประทานตบท้ายของมื้อกันอีกด้วย ไม่ว่าจะมาแบบคนเดียว มากับคนรู้ใจ มากับเพื่อนหรือมาพร้อมหน้าทั้งครอบครัว ร้าน Bo.lan ถือว่าเป็นอีกที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่ต้องลิสต์เอาไว้เลย 

  • ที่อยู่: 24 ซอยสุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Bo.lan 
  • เวลาทำการ:
    • วันอาทิตย์ : เปิด 12:00 – 14:00 น.
    • วันจันทร์: ปิด
    • วันอังคาร:  ปิด
    • วันพุธ : 18:00 – 22:00 น.
    • วันพฤหัสบดี : 12:00 – 14:00 น. และ 18:00 – 22:00 น.
    • วันศุกร์ : 12:00 – 14:00 น. และ 18:00 – 22:00 น.
    • วันเสาร์:  12:00 – 14:00 น. และ 18:30 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • BTS ทองหล่อ แล้วเดินเข้าซอยสุขุมวิท 53 อีก 450 เมตร
Unbirthday Cafe

15. Unbirthday Cafe

ปิดท้ายที่เที่ยวสุขุมวิทที่สุดท้ายกับคาเฟ่บรรยากาศสุดชิลที่มีชื่อว่า Unbirthday Cafe ที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่มีคอนเซปต์ว่าการทานเค้กที่ดี อิ่มอกอิ่มใจ สามารถทานได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ในวันเกิด ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยเค้กที่หลากหลาย รสชาติดี น่าทานทุกชิ้น พร้อมเสิร์ฟให้คุณอิ่มเอมกับวันธรรมดาให้รู้สึกว่าพิเศษขึ้นมาได้ทุกวัน 

ซึ่งหากใครอยากทานเค้กอย่างเดียวก็สามารถไปซื้อได้ที่ Cake shelf ทั้ง 2 สาขา Emquartier ชั้น G และ Siam Paragon ชั้น G แต่ถ้าใครอยากทานเค้กอร่อยๆ พร้อมสัมผัสบรรยากาศ Cozy อบอุ่น สบายตา เหมือนอยู่บ้าน ต้องมาที่ Unbirthday Cafe Flagship Store ที่สุขุมวิท 31 

จุดเด่นของคาเฟ่นี้ หากมาตามทางที่บอกแล้วอาจมองหาร้านไม่เจอเพราะที่ตั้งของคาเฟ่จะอยู่บนชั้น 2 ของมาเปงเส็ง อพาร์ทเม้นท์ ให้เดินขึ้นมาเลยแล้วจะพบกับบรรยากาศสุดน่ารักและอบอุ่นของร้าน ในโทนสีขาวและสระว่ายน้ำ พร้อมกับมีส่วน Glasshouse ให้แสงเล็ดลอดเข้ามาเล็กน้อย ไม่ว่าจะพักผ่อนด้วยการทานเค้กแสนอร่อยหรือถ่ายรูปสวยๆ Unbirthday Cafe ก็ตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง 

  • ที่อยู่: ชั้น 2 มาเปงเส็ง อพาร์ทเม้นท์ 14 สุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/mCNPYdZWxWok3DMi8 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 09:00 – 19:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า สถานีพร้อมพงษ์ เดินตรงเข้าซอยสุขุมวิท 31 อีก 750 เมตร 

ย่านที่เที่ยวสุขุมวิทนอกจากจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมายที่หลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงที่เที่ยวแถวสุขุมวิท ยังมีที่เที่ยวที่ให้เดินเล่น ชมธรรมชาติ พักผ่อน เที่ยวแบบชิลล์นอกจากการชอปปิงอีกหลายต่อหลายที่ที่น่าสนใจ หลายคนอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าใจกลางเมือง ย่านเศรษฐกิจอย่างสุขุมวิทจะมีที่เที่ยวที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่พักผ่อนสุดชิลล์อยู่ด้วย และจะเห็นได้ว่ากรุงเทพฯ ก็มีที่เที่ยวอีกหลายที่มากมายที่น่าสนโดยเฉพาะที่เที่ยวสุขุมวิทที่รอให้คุณไปลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ 

สามารถเที่ยวอย่างสบายใจ ไม่กังวลเรื่องกระเป๋าเดินทาง แม้ชอปเยอะก็ไม่ต้องว่าจะกลัวแบกไม่ไหว เพียงฝากกระเป๋าให้ Airportels ดูแล ก็ทำให้คุณเที่ยวได้เต็มที่ ชอปได้จุใจ ไม่ต้องลากกระเป๋าไปด้วย 

AIRPORTELs  ในห้างTerminal 21

บริการรับฝากและขนส่งกระเป๋าเดินทางในประเทศไทย ให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย ไม่ต้องกังวลกับน้ำหนักสัมภาระ ให้คุณท่องเที่ยวในประเทศไทยแบบไร้กระเป๋าเดินทาง ราคาขนส่งกระเป๋าเริ่มต้น 299 บาท ราคารับฝากกระเป๋าเริ่มต้น 30 บาท/ชั่วโมง เท่านั้น หรือจะเหมาทั้งวัน 150 บาท/ใบ 

  • AIRPORTELs  ในห้างTerminal 21 ชั้น1 โซนโตเกียว (ติดทางออกลานจอดรถ)
  • พิกัด: Terminal 21 Asok 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.

23 จุดเช็คอิน แลนด์มาร์คในกรุงเทพ ที่นักสร้างคอนเทนต์ห้ามพลาด

กรุงเทพมหานครมีสถานที่ท่องเที่ยวอยู่มากมายที่สามารถตอบโจทย์กับทุกไลฟ์สไตล์ ทุกเพศ และทุกวัยได้ อีกทั้งยังมีจุดท่องเที่ยวสุดโดดเด่นที่ห้ามพลาดอีกด้วย โดยบทความนี้ได้รวบรวมแลนด์มาร์คในกรุงเทพที่ต้องไปให้ได้ พร้อมทั้งบอกพิกัดสถานที่เพื่อให้เดินทางได้อย่างสะดวกสบาย จะมีสถานที่ไหนบ้าง มาดูกันเลย

1. วัดพระแก้ว

วัดพระแก้ว มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงาม โดยเฉพาะภายในพระอุโบสถและระเบียงรอบวัดจะมีจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์ที่งดงามมาก นอกจากนี้ยังมีจุดถ่ายรูปสวย ๆ อีกมากมาย ทั้งพระศรีรัตนเจดีย์ นครวัดจำลอง ฯลฯ ให้ได้มาเก็บภาพความสวยงามและความประทับใจกัน เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คในกรุงเทพที่ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างต้องมาเยี่ยมชม โดยวัดเปิดให้ชาวไทยเข้าชมฟรี และชาวต่างชาติซื้อบัตรเข้าชม 500 บาท

  • ที่ตั้ง: ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10200
  • พิกัด: วัดพระแก้ว
  • การเดินทาง:
    • โดยรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสะพานตากสิน ต่อด้วยขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยา ขึ้นที่ท่าเรือท่าช้าง (N9) 
    • โดยเรือ ขึ้นที่ท่าเรือท่าเตียน (N8)
    • โดยรถประจำทาง สาย 1, 3, 9, 15, 25, 30, 32, 33, 43, 44, 47, 53, 59, 64, 80, 82, 91, 203, 503, 508, 512
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 08:00 – 15:30 น.

2. วัดอรุณราชวราราม

วัดอรุณเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คในกรุงเทพที่นักท่องเที่ยวนิยมมาไหว้พระ และเยี่ยมชมความสวยงามของพระปรางค์สีขาว สูง 82 เมตร ใครที่มายังวัดอรุณ เป็นต้องยืนโพสถ่ายรูปแบบเก๋ ๆ หน้าพระปรางค์ที่ประดับประดาไปด้วยกระเบื้องสีสันต่างๆ 

โดยที่วัดก็มีสถาปัตยกรรมและจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่ที่สวยงาม นอกจากนี้วิวในยามค่ำคืนยังสวยสะดุดตา ด้วยภาพของพระปรางค์องค์ใหญ่ติดริมแม่น้ำ ทำให้นักท่องเที่ยวต่างก็พากันชื่นชมในความงามของวัดอรุณแห่งนี้เป็นอย่างมาก โดยชาวไทยสามารถเข้าชมฟรี ส่วนชาวต่างชาติเสียค่าเข้าชม 50 บาท

  • ที่ตั้ง: 158 ถนนวังเดิม แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10600
  • พิกัด: วัดอรุณราชวราราม
  • การเดินทาง: รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสะพานตากสิน จากนั้นขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยา ขึ้นที่ท่าวัดอรุณ
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 08:00 – 18:00 น
วัดสุทัศน์

3. วัดสุทัศน์

ถ้าพูดถึงวัดที่เป็นแลนด์มาร์คในกรุงเทพ แน่นอนว่าจะต้องมีชื่อของวัดสุทัศนเทพวรารามอยู่ด้วยแน่นอน เพราะจุดเด่นของวัดนี้ก็คือเสาชิงช้าสูงสีแดงที่ตั้งอยู่หน้าวัดนั่นเอง นอกจากนั้นสถาปัตยกรรมของวัดยังสะท้อนให้เห็นศิลปะสมัยต้นรัตนโกสินทร์อีกด้วย ใครที่สนใจทำบุญก็สามารถมากันแต่เช้าได้ พร้อมกับเก็บภาพความสวยงามของเสาชิงช้าที่หน้าวัดสุทัศน์นี้ได้เลย

  • ที่ตั้ง: 146 ถนนบำรุงเมือง วัดราชบพิธ พระนคร จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10200
  • พิกัด: วัดสุทัศน์
  • การเดินทาง: รถไฟฟ้า MRT ลงสถานีสามยอด ทางออกที่ 3
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 08:30 – 21:00 น. หยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์
วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

4. วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

มาดูอีกหนึ่งวัดที่มีชื่อเสียงเป็นแลนด์มาร์คในกรุงเทพอย่างวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ โดยวัดนี้มีความเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอยุธยา และยังคงอนุรักษ์รูปแบบสถาปัตยกรรมสมัยนั้นไว้อย่างดี โดยจุดเด่นของวัดนี้คือ พระมหาเจดีย์มหารัชมงคล ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์และล้านนา และพระพุทธรูปปางสมาธิที่มีความสูง 69 เมตร จึงทำให้มองเห็นได้แต่ไกลลิบ ไม่ว่าจะมาวัดนี้ในช่วงกลางวันให้เห็นแสงอาทิตย์สาดส่องกระทบกับพระพุทธรูปหรือมาช่วงเย็นที่มีแสงรำไร ก็สามารถได้ภาพถ่ายที่สวยงามทั้งหมด นับว่าวัดปากน้ำ ภาษีเจริญเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินที่ให้ทั้งความสงบและความสวยงามเหมาะแก่การมาเยือนอย่างยิ่ง

  • ที่ตั้ง: 300 ซอยรัชมงคลประสาธน์ แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10160
  • พิกัด: วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
  • การเดินทาง: รถไฟฟ้า BTS สถานีตลาดพลู
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 08:00 – 18:00 น.
เอเชียทีค

5. เอเชียทีค

ใครอยากเที่ยวแบบชิลๆ ลองมาที่เอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ ฟรอนต์กันได้เลย เพราะที่นี่นับว่าเป็นแลนด์มาร์คในกรุงเทพที่ครบครันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเดินชิล ชิม ชอป และถ่ายรูปสวย ๆ กับชิงช้าสวรรค์อันเป็นจุดเด่นของที่นี่ รายล้อมไปด้วยการตกแต่งสไตล์เมืองท่า เป็นสถานที่ที่สามารถมาเที่ยวกันได้ทั้งช่วงเวลากลางวันและกลางคืน โดยให้เสน่ห์ที่แตกต่างกัน 

นอกจากนี้ในช่วงนี้ยังมีงานแสดง Disney 100 Village ที่ให้แฟนดิสนีย์ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้มาพบปะคาแรคเตอร์ดิสนีย์ที่ชื่นชอบกันอีกด้วย โดยงานเริ่มตั้งแต่ 24 มีนาคม – 31 กรกฎาคม 2566 นี้

  • ที่ตั้ง: 2194 ถนนเจริญกรุง แขวงวัดพระยาไกร เขตบางคอแหลม จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10120
  • พิกัด: เอเชียทีค
  • การเดินทาง: ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสะพานตากสิน จากนั้นขึ้นเรือโดยสารของเอเชียทีคโดยตรง
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 00:00 น.
มหานคร สกายวอล์ค

6. มหานคร สกายวอล์ค

ที่มหานคร สกายวอล์ค เป็นแลนด์มาร์คในกรุงเทพสำหรับคนที่ต้องการความท้าทายและความเร้าใจด้วยการยืนชมวิวบนพื้นกระจกลอยฟ้าที่ความสูง 310 เมตร พร้อมทั้งมีลิฟต์ที่เร็วที่สุดในภูมิภาคนี้ สามารถชมวิวเมืองหลวงอันสวยงามในเวลากลางวันและกลางคืนได้ 360 องศาเลยทีเดียว ใครที่อยากได้ความตื่นเต้นพร้อมเก็บภาพบรรยากาศเมืองกรุงเทพสวย ๆ ก็สามารถซื้อบัตรเยี่ยมชมที่นี่ได้เลย

  • ที่ตั้ง: 114 ถนนนราธิวาสราชนครินทร์ แขวงสีลม เขตบางรัก จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10500
  • พิกัด: มหานคร สกายวอล์ค
  • การเดินทาง: ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีช่องนนทรี
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น.
ท่ามหาราช

7. ท่ามหาราช

มาต่อกันที่จุดเช็คอินในกรุงเทพสุดชิคอย่างท่ามหาราช ซึ่งเป็นศูนย์การค้าที่ปรับให้เข้ากับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ แต่ยังคงให้กลิ่นอายของเมืองเก่าดั้งเดิมของไทย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ครบครัน ไม่ว่าจะกิน ชอปปิง เดินชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยาหรือถ่ายรูปตามมุมสวยๆ ก็ทำได้ทั้งนั้น มาตอนกลางวันก็ได้บรรยากาศแบบหนึ่ง มาตอนกลางคืนก็จะได้บรรยากาศอีกแบบ อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับสถานที่สำคัญอีกมากมาย ทำให้ที่นี่เป็นศูนย์รวมของคนหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว

  • ที่ตั้ง: 1/11 ตรอกมหาธาตุ ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10200
  • พิกัด: ท่ามหาราช
  • การเดินทาง: นั่งเรือด่วนเจ้าพระยาลงท่าช้าง (N9) หรือนั่งรถโดยสารประจำทาง ลงหน้าท่ามหาราช สาย 32, 53, 124, 203, 201, ปอ.32, ปอ.524
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 21:00 น.

8. สวนรถไฟ

ถ้าอยากสัมผัสบรรยากาศพื้นที่สีเขียวแบบสบาย ๆ ขอแนะนำให้มาที่สวนรถไฟ ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คในกรุงเทพที่เป็นศูนย์กลางให้คนทั่วไปได้พักผ่อนและออกกำลังกายกัน ด้วยพื้นที่กว่า 375 ไร่ มีกิจกรรมให้ทำมากมายได้ตั้งแต่เช้ายันค่ำ ทั้งปั่นจักรยาน เข้าชมอุทยานผีเสื้อและแมลง เมืองจราจรจำลองสำหรับเด็กๆ เป็นต้น ใครที่ชอบบรรยากาศร่มรื่นหรือหาพื้นที่สำหรับปิกนิก ก็แวะมาที่สวนรถไฟได้เลย

  • ที่ตั้ง: ถนนกำแพงเพชร 3 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10900
  • พิกัด: สวนรถไฟ
  • การเดินทาง: รถไฟฟ้า BTS สถานีหมอชิต หรือรถไฟฟ้า MRT สถานีสวนจตุจักร
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 05:00 – 21:00 น.
สวนลุมพินี

9. สวนลุมพินี

สวนลุมพินี เป็นอีกหนึ่งสวนสาธารณะแลนด์มาร์คในกรุงเทพที่เปิดให้คนทั่วไปได้พักผ่อนและทำกิจกรรมกันได้ทั้งช่วงเช้าและช่วงเย็น ด้วยพื้นที่ที่กว้างขวาง สามารถมาปิกนิก ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ หรือถ่ายรูปสวย ๆ โดยมีพื้นหลังเป็นสวนกว้างสีเขียวก็ทำได้ ตอบโจทย์ทุกกิจกรรมท่ามกลางธรรมชาติสีเขียว เหมาะสำหรับการพักผ่อนอย่างยิ่ง

  • ที่ตั้ง: แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10330
  • พิกัด: สวนลุมพินี 
  • การเดินทาง: ขิ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีศาลาแดง หรือขึ้น MRT ลงสถานีสีลม
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 04:30 – 22:00 น.

10. สวนเบญจกิติและสวนป่าเบญจกิติ

สวนเบญจกิติได้เปิดพื้นที่แลนด์มาร์คในกรุงเทพใหม่อย่างสวนป่าเบญจกิติขึ้น เพื่อรองรับทุกกิจกรรมและทุกช่วงเวลาทั้งยามเช้าหรือยามเย็น สำหรับคนเมืองทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นปั่นจักรยาน พื้นที่เล่นกีฬา พื้นที่ศิลปะ และพื้นที่ทางวัฒนธรรม นอกจากนั้นยังเป็นต้นแบบของสวนสาธารณะเชิงนิเวศเพื่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยพรรณไม้ต่าง ๆ นานา ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนก็มีแต่ความร่มรื่นแน่นอน

  • ที่ตั้ง: ถนนรัชดา แขวงคลองเตย เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: สวนเบญจกิติและสวนป่าเบญจกิติ
  • การเดินทาง: ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอโศก หรือ MRT ลงสถานีสุขุมวิท
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 05:00 – 21:00 น.
สะพานเขียว

11. สะพานเขียว

สะพานเขียวที่เชื่อมต่อระหว่างสวนเบญจกิติและสวนลุมพินีนั้น กลายเป็นหนึ่งในจุดเช็คอินในกรุงเทพและจุดถ่ายรูปยอดนิยมในกลุ่มวัยรุ่นอย่างมาก เพราะว่าเป็นสถานที่ที่ให้ความรู้สึกราวกับว่าอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยเฉพาะในช่วงตอนเย็นที่แสงแดดสาดส่องลงที่สะพานเขียวนั้น เมื่อถ่ายรูปแล้วจะทำให้ได้บรรยากาศของภาพที่ดูอบอุ่นชวนให้นึกถึงญี่ปุ่นสุด ๆ

  • ที่ตั้ง: ถนนสารสิน แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 10330
  • พิกัด: สะพานเขียว
  • การเดินทาง: ขิ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีศาลาแดง หรือขึ้น MRT ลงสถานีสีลม
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 06:00 – 21:00 น.
หอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

12. หอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

เหล่าคนที่ชื่นชอบในงานศิลปะจะต้องรู้จักแลนด์มาร์คในกรุงเทพอย่างหอศิลปะวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานครอย่างแน่นอน เพราะเป็นสถานที่จัดนิทรรศการศิลปะต่างๆ และเป็นศูนย์รวมของคนรักงานศิลปะ ให้ได้มาแสดงออกกัน จึงกลายเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่ช่วงบ่ายจะเป็นที่นิยมสำหรับวัยรุ่น ซึ่งมักจะมาถ่ายรูปตามมุมศิลปะสวย ๆ และเป็นจุดเช็คอินยอดนิยมนั่นเอง

นอกจากนี้หากใครไปเดินเล่นที่ MBK Center ซึ่งสามารถเดินเข้าทางเชื่อมBTS สนามกีฬาแห่งชาติ สามารถนำสัมภาระไปฝากฟรี 2 ชั่วโมง  เดินเที่ยวดูงานศิลป์ ช้อปปิ้งเพลินๆเดินตัวปลิวกับ AIRPORTELs

ที่ตั้ง: 939 ถนนพระราม 1 แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10330

MOCA Museum

13. MOCA Museum

MOCA Museum เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินในกรุงเทพที่เหล่าคนรักในงานศิลป์ต่างก็มาเพื่อชมงานศิลปะจากศิลปินชั้นครู และหามุมถ่ายรูปสวยๆ อยู่บ่อยๆ จนทำให้เป็นที่โด่งดังในโลกโซเชียลถึงความสวยงามของสถานที่ในสไตล์มินิมอล 

โดยเฉพาะมุมบันไดสีขาวที่ดูโล่งและกว้างใหญ่แต่ก็ดูสวยในเวลาเดียวกัน หากใครกำลังมองหาโลเคชันถ่ายรูปแบบมินิมอลอยู่ ต้องลองไปในวันธรรมดาที่มีคนน้อย บอกเลยว่าที่นี่ถือว่าตอบโจทย์และได้รูปสวยดั่งใจแน่นอน

  • ที่ตั้ง: 499 ถนนกำแพงเพชร 6 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
  • พิกัด: MOCA Museum 
  • การเดินทาง: รถโดยสารประจำทาง สาย 29, 69,134, 187, 191, 504, 510, 555 ลงป้ายสถานีปรมณู 1
  • เปิด-ปิด: วันอังคาร – วันอาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลา 10:00 – 18:00 น.

14. Terminal 21

ศูนย์การค้า Terminal 21 ก็เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คในกรุงเทพที่ครบครันและตอบโจทย์ทุกไลฟสไตล์ ด้วยแนวคิดการชอปปิงแบบ Market Street ราวกับยกย่านการค้าชื่อดังของโลกมารวมไว้ที่นี่ที่เดียว ไม่ว่าจะสายชิล สายกิน หรือสายชอป ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับที่นี่ได้แน่นอน ตั้งแต่ห้างเปิดยันห้างปิด 

นอกจากนี้ที่ Terminal 21 ยังมีที่รับฝากสัมภาระของ Airportels อีกด้วย ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวให้เดินชอปปิงต่อได้อย่างสบายใจ 

  • ที่ตั้ง: 88 ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Terminal 21
  • การเดินทาง: ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีอโศก หรือขึ้น MRT ลงสถานีสุขุมวิท
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น.

15. Siam Scape

แลนด์มาร์คในกรุงเทพแห่งใหม่ที่มาพร้อมกับคอนเซ็ปต์  “LIFELONG LEARNING” การเรียนรู้ที่ต่อยอดอย่างไม่มีสิ้นสุด จึงเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยสถาบันการศึกษา พร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่เปิดตั้งแต่สายจนถึงดึก ทั้งร้านอาหาร สินค้าต่างๆ คลินิกเสริมความงาม และสเปซสำหรับนัดพบ อีกทั้งยังมี 

Installation Art อย่าง “ILLUSCAPE” ที่แปลกตาไม่ซ้ำใคร เป็นจุดที่เหมาะแก่การถ่ายรูปเช็คอินสุดเท่อย่างยิ่ง

  • ที่ตั้ง: 215 ถนนพญาไท แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10330
  • พิกัด: Siam Scape
  • การเดินทาง: ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสยาม หรือลงสถานีสนามกีฬาแห่งชาติ
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น.

16. อาคารไปรษณีย์กลาง

หนึ่งในแลนด์มาร์คในกรุงเทพที่เป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ ประกอบกับอาคารที่ออกแบบมาอย่างสวยงามและโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมแบบ Brutalist ที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในประเทศแถบตะวันตกเลยทีเดียว 

ทำให้ที่นี่จึงเป็นจุดถ่ายรูปเช็คอินยอดนิยม โดยเฉพาะลานกว้างหน้าอาคารไปรษณีย์กลางที่มักจะมีผู้คนแวะเวียนมาถ่ายรูปอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นตอนในยามกลางวันหรือยามที่พระอาทิตย์ลับฟ้าแล้ว

  • ที่ตั้ง: 1160 อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง เขตบางรัก จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10500
  • พิกัด: อาคารไปรษณีย์กลาง
  • การเดินทาง: ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสะพานตากสิน หรือ MRT ลงสถานีหัวลำโพง
  • เปิด-ปิด: วันจันทร์ – วันศุกร์ เวลา 09:30 – 17:30 น.
Iconsiam

17. ICONSIAM

ICONSAM แลนด์มาร์คในกรุงเทพสุดอลังการที่นักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติต่างก็อยากมาเยี่ยมชม โดยในศูนย์การค้านี้ครบครันทุกความบันเทิง ตอบโจทย์ในทุกไลฟ์สไตล์ และยังประดับไปด้วยศิลปะไทยในรูปแบบหรูหราอย่างลงตัว จุดถ่ายรูปสวยๆ มีให้เลือกมากมาย ทั้งน้ำพุ น้ำตก ลานชมวิวริมแม่น้ำเจ้าพระยา ฯลฯ โดยเฉพาะในตอนกลางคืนจะมีการเล่นแสงสี ทำให้ยิ่งสวยมากขึ้น จะถ่ายมุมไหนก็ได้รูปสวยๆ กลับไปอย่างแน่นอน

  • ที่ตั้ง: 299 ซอยเจริญนคร 5 แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10600
  • พิกัด: ICONSIAM
  • การเดินทาง: ขึ้นรถไฟฟ้า BTS ลงสถานีสะพานกรุงธน ออกประตูทางออก 3 ต่อด้วยรถไฟฟ้าสายสีทอง
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 22:00 น.

18. บ้านบางเขน

ใครเป็นสายถ่ายรูปฮิปๆ แนะนำอีกหนึ่งจุดเช็คอินในกรุงเทพอย่าง บ้านบางเขน เพราะที่นี่เป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องราวในอดีต ตกแต่งด้วยธีมวันวานยุค 90 และยังสะสมของโบราณหาดูได้ยากอีกมากมาย ทำให้เต็มไปด้วยมุมถ่ายรูปสุดชิคสไตล์โบราณ รวมทั้งยังมีอาหารพื้นเมืองให้ทานอีกอีกด้วย เหมาะสำหรับการเดินเล่นถ่ายรูปชิล ๆ อย่างยิ่ง โดยเฉพาะในช่วงเวลากลางวัน

  • ที่ตั้ง: 17 ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10220
  • พิกัด: บ้านบางเขน
  • การเดินทาง: ขึ้นรถโดยสารประจำทาง สาย 26, 34, 39, 59, 107, 114, 129, 185, 503, 512, 522, 543
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 02:00 น.
ช่างชุ่ย

19. ช่างชุ่ย

สายอาร์ตพลาดไม่ได้เลยกับแลนด์มาร์คในกรุงเทพชื่อดังอย่าง ช่างชุ่ย ที่เนรมิตพื้นที่ว่างเปล่าให้เป็นอาณาจักรแห่งความสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ บูธขายของ สินค้า ต่างก็ดูแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร และยังมีจุดถ่ายรูปยอดฮิตอย่าง “นาโอ” ร้านอาหารที่อยู่ในเครื่องบินลำใหญ่ใจกลางช่างชุ่ย ที่ใครเห็นเป็นสะดุดตาแน่นอน ไม่ว่าจะเดินทางมาเที่ยวตอนกลางวันหรือตอนกลางคืน ก็สามารถเก็บภาพบรรยากาศของช่างชุ่ยที่สวยงามไม่แพ้กันเลย

  • ที่ตั้ง: 462 ถนนสิรินธร แขวงบางพลัด เขตบางพลัด จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10700
  • พิกัด: ช่างชุ่ย
  • การเดินทาง: โดยรถโดยสารประจำทาง สาย 515, 539
  • เปิด-ปิด: โซน Creative​ Park ​เปิดทุกวัน เวลา 11:00 – 23:00 น. และโซน Plane Night Market เปิดวันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 16:00 – 23:00 น.

20. ตลาดน้อย

อีกหนึ่งจุดแลนด์มาร์คในกรุงเทพที่อยากแนะนำ คือ ตลาดน้อย ตั้งอยู่ที่ซอยเจริญกรุง 22 ซึ่งเป็นย่านเก่าของชาวจีน ทำให้มีการผสมผสานวัฒนธรรมไทย – จีน จึงเห็นภาพบ้านเรือน ร้านอาหาร คาเฟสไตล์จีนเก่าอยู่มากมาย อีกทั้งมีสตรีตอาร์ตที่บอกเล่าชีวิตของคนในชุมชนนี้ ให้นักท่องเที่ยวสายถ่ายรูปได้เก็บภาพกันอย่างจุใจ ตั้งแต่เช้ายันเย็น 

  • ที่ตั้ง: ถนนเจริญกรุง แขวงสุริยวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10500
  • พิกัด: ตลาดน้อย
  • การเดินทาง: โดยรถโดยสารประจำทาง สาย 1, 35, 36, 75, 93
  • เปิด-ปิด: –
เยาวราช

21. เยาวราช

เยาวราช แลนด์มาร์คในกรุงเทพสุดฮิตที่จะเห็นคนเช็คอินในโซเชียลมีเดียอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นย่านที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ด้วยป้ายไฟสีแดงจากร้านทองที่เนืองแน่น ยิ่งในช่วงกลางคืนที่เต็มไปด้วยแสงสีและสตรีตฟู้ด ถือเป็นดินแดนในฝันของนักท่องเที่ยวสายถ่ายรูปและสายกิน จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเป็นจุดเช็คอินยอดนิยมในโซเชียลมีเดียอยู่เสมอ

  • ที่ตั้ง: ถนนเยาวราช แขวงสัมพันธวงศ์ เขตสัมพันธวงศ์ จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10100
  • พิกัด: เยาวราช
  • การเดินทาง: ขึ้นรถไฟฟ้า MRT ลงสถานี
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
สถานีรถไฟหัวลำโพง

22. สถานีรถไฟหัวลำโพง

สถานีรถไฟหัวลำโพง เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คในกรุงเทพที่ควรไปเยือนให้ได้สักครั้ง เพราะเป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 5 โดยตัวอาคารก่อสร้างเป็นโดมสไตล์อิตาเลียนผสมผสานกับศิลปะเรอเนซองส์ ทำให้มีความโดดเด่นราวกับสถาปัตยกรรมในยุโรป เพียงหาเวลาเหมาะ ๆ มาเดินชิล นั่งเล่น หรือถ่ายรูปสวย ๆ ทั้งในและนอกสถานีก็ได้ทั้งหมด

  • ที่ตั้ง: ถนนรองเมือง แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10330
  • พิกัด: สถานีรถไฟหัวลำโพง
  • การเดินทาง: ขึ้นรถไฟฟ้า MRT ลงสถานีหัวลำโพง
  • เปิด-ปิด:

23. ท่าช้าง

มาถึงจุดเช็คอินในกรุงเทพที่สุดท้ายที่อยากแนะนำ คือ ท่าช้าง ซึ่งในย่านนี้ได้มีการปรับภูมิทัศน์ใหม่ ทำให้มีสีสันมากขึ้น แถมโปร่งโล่ง ดูสะอาดตาอีกด้วย โดยไฮไลต์ของที่นี่ คือ ตึกแถวแห่งท่าช้างสไตล์นีโอคลาสสิก ที่ได้รับการฟื้นฟูจนสวยงามและมีสีเหลืองสดใสเหมาะแก่การถ่ายรูปชิคๆ ยิ่งในช่วงเย็นที่มีแสงพระอาทิตย์ตกดินคู่กับตึกแถวสีเหลือง จะยิ่งทำให้ถ่ายรูปออกมาได้สีสวยมากทีเดียว

  • ที่ตั้ง: ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
  • พิกัด: ท่าช้าง
  • การเดินทาง: นั่งเรือด่วนเจ้าพระยา ขึ้นที่ท่าเรือท่าช้าง
  • เปิด-ปิด: เปิดทุกวัน เวลา 05:00 – 18:00 น.

แลนด์มาร์คในกรุงเทพต่างก็มีความโดดเด่นแตกต่างกันไป ลองออกไปเที่ยวแล้วค้นหาตัวเองดูว่าชอบสถานที่แบบไหน แล้วอย่าลืมถ่ายภาพสวยๆ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำว่าครั้งหนึ่งเคยมาเที่ยวที่นี่แล้ว

Bangkok Art Biennale 2022 กลับมาแล้ว 12 แห่งทั่วกรุงเทพฯ

คนรักศิลปะเตรียมเสพ กรุงเทพ ของเรากำลังจะเป็นศูนย์กลางงานศิลป์ระดับโลก เทศกาล Bangkok Art Biennale (บางกอก อาร์ต เบียนนาเล่) งานรวมเหล่าศิลปินครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งมีที่มาจากเทศกาล Art Biennale แห่งประเทศอิตาลี ครั้งแรกสุดของ Art Biennale ผ่านมานานกว่าร้อยปีแล้วที่เมืองเวนิส หลังจากนั้นก็ได้ขยายการจัดงานไปในประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย และสำหรับประเทศไทยมีการจัดงานมาแล้ว 2 ครั้งในชื่อ Bangkok Art Biennale

 

จากเวนิสสู่กรุงเทพ เทศกาลศิลปะร่วมสมัยที่ต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์

ย้อนไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ครั้งแรกของเทศกาล Bangkok Art Biennale จัดขึ้นด้วยแนวคิด “สุขสะพรั่ง พลังอาร์ต” หรือ “Beyond Bliss” ครั้งนั้นมีศิลปินระดับโลกรวมศิลปินชาวไทยเข้าร่วมแสดงผลงานถึง 75 คน เป็นเทศกาลที่จัดยาวตั้งแต่เดือนตุลาคม 2018 จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2019 เรียกว่าสุขสะพรั่งกันข้ามปี รูปแบบการจัดงานคือ ผู้จัดจะเลือกแลนด์มาร์คสำคัญ ๆ ใจกลาง กรุงเทพ มากกว่า 10 แห่งเป็นสถานที่จัดงาน อาทิ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร, มิวเซียมสยาม, เซ็นทรัลเวิลด์, วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ฯลฯ ซึ่งในปีนั้นสถานที่จัดงานทุกแห่งเนืองแน่นไปด้วยแฟนพันธุ์แท้ของศิลปินทุกแขนง ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการให้พลังศิลปะเป็นแรงดึงดูดนักท่องเที่ยวและผู้รักงานศิลป์ เพิ่มมนต์ขลังให้กรุงเทพมหานครเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของโลกที่น่าค้นหา 

หลังจากประสบความสำเร็จในการจัดงานครั้งแรกไปแล้ว Bangkok Art Biennale ได้ถูกจัดให้มีขึ้นอีกครั้งในปี 2020 ซึ่งปีนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากของคนไทยและคนทั่วโลกที่ต้องประสบกับสถานการณ์โควิด-19 อันร้ายแรง โยงใยพัวพันไปถึงปัญหาต่าง ๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม แผนการจัดงานครั้งนั้นก็ยังดำเนินต่อไป โดยทางคณะผู้จัดงานมีความหวังว่า ศิลปะจะเข้ามาช่วยบำบัดจิตใจที่บอบช้ำของชาวโลกได้บ้าง ตามคอนเส็ปท์ “Escape Route” หรือชื่อไทยว่า “ศิลป์สร้าง ทางสุข” ครั้งนั้นมีศิลปินรวม 82 คน เปิดให้เข้าชมงานในแบบ New Normal ท่ามกลางโควิด

 
 

CHAOS : CALM คอนเซ็ปต์ใหม่ Bangkok Art Biennale 2022

เทศกาลศิลปะร่วมสมัยปีนี้ มูลนิธิ Bangkok Art Biennale ได้รับความร่วมมือจากบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน), สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ, กรุงเทพมหานคร พร้อมกับหน่วยงานรัฐและเอกชนอีกหลายแห่งในการจัดงาน Bangkok Art Biennale 2022 ซึ่งจะมาในคอนเซ็ปท์ “CHAOS : CALM” ซึ่งสื่อความหมายถึงความวุ่นวายสับสนของชาวโลกที่ถูกไวรัสคุกคาม ในขณะเดียวกัน ทุกคนก็ต้องดิ้นรนเพื่อให้มีชีวิตรอดและต้องหาวิธีปรับตัวได้ ซึ่งจะทำให้ค้นพบหนทางแห่งความสงบสุขท่ามกลางความโกลาหลที่ยังวนเวียนอยู่ บางคนอาจจะไม่เข้าใจว่า ระหว่างความโกลาหลกับความสงบสุขนั้นจะเกิดขึ้นในเวลาเดียวกันได้อย่างไร แต่ในมุมมองของศิลปิน ต่างเชื่อว่าสามารถที่จะเป็นไปได้โดยอาศัยความรัก ความเห็นอกเห็นใจของคนที่อยู่ร่วมในสังคมเดียวกัน ซึ่งจะทำให้ทุกคนผ่านพ้นอุปสรรค และค้นพบความสุขในที่สุด นี่คือแนวคิดที่น่าสนใจและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน

 
 

Bangkok Art Biennale 2022 มีที่ไหนบ้าง

สถานที่จัดงานยังคงยึดแลนด์มาร์คสำคัญของกรุงเทพฯ บวกกับการแสดงดิจิทัลอาร์ตในโลกออนไลน์อีก 1 ช่องทาง มีที่ไหนบ้าง รวมมาแล้ว โดยทั้งสิ้น 12 พื้นที่ที่เราทุกคนสามารถเลือกเข้าชมความอลังการของงานนี้ได้

 

1. วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร

 

2. วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร

 

3. วัดประยูรวงศาวาสวรวิหาร

 

4. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร (BACC)

 

5. ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

 

6. มิวเซียมสยาม พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้

 

7. ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์

 

8. สามย่านมิตรทาวน์

 

9.เดอะ ปาร์ค

 

10. เดอะพรีลูด วันแบงค็อก

 

11. JWD Art Space 

 

ศิลปินไทย ร่วมแสดงผลงานกับ ศิลปิน เอกระดับโลก

งานนี้ไม่ใช่การประชันฝีมือ แต่เป็นการพบกันด้วยหัวใจของศิลปินหลายชาติหลายภาษาที่จะมาร่วมกันถ่ายทอดผลงานรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 200 ชิ้นที่ศิลปิน 73 ท่านจาก 35 ประเทศรวมประเทศไทยได้สร้างสรรค์ขึ้นเพื่องานนี้โดยเฉพาะ นำทีมโดยศิลปินเอก แอนโทนี กอร์มลีย์ เจ้าของผลงานประติมากรรมอันโดดเด่นและไม่เหมือนใคร ผลงานของเขาติดตั้งอยู่ตามสถานที่สาธารณะต่าง ๆ ในหลายประเทศไม่ว่าจะเป็นงานปั้นรูปคนกว่า 100 ชิ้นที่ตั้งอยู่เต็มชายหาดครอสบี เมืองลิเวอร์พูล, งานประติมากรรมเหล็กรูปนางฟ้า ชื่อ Angel of the North 

สำหรับศิลปินท่านอื่น ๆ ที่ตอบรับมาร่วมงานนี้มีทั้งศิลปินที่คนในวงการรอคอยอย่าง มารีน่า อบราโมวิช จากสหรัฐอเมริกา เพราะเธอคือศิลปินที่เคยมาสร้างความประทับใจให้กับคนไทยในเทศกาลนี้แล้วทั้ง 2 ครั้ง นอกจากนั้นก็มีศิลปินผู้โด่งดังสัญชาติต่าง ๆ  อาทิ 

  • เคนเนดี ยานโค ชาวอเมริกัน 
  • ทิฟฟานี ชุง ลูกครึ่งเวียดนาม-อเมริกัน
  • จิติช กัลลัต ชาวอินเดีย
  • ชิฮารุ ชิโอตะ ชาวญี่ปุ่น
  • มิร์ทิลล์ ทิแบย์เรงซ์ ชาวฝรั่งเศส
 
 

5 เดือนแห่งความโกลาหล และความสงบสุข เริ่มตุลาคม 2565

แนวคิด “โกลาหล : สงบสุข” จะถ่ายทอดออกมาได้ปังแค่ไหน เราจะได้เห็นกันในอีกไม่นาน เทศกาล Bangkok Art Biennale 2022 จะเริ่มจัดวันแรก 22 ตุลาคม 2565 ไปจนถึง 23 กุมภาพันธ์ 2566 มีเวลาให้ชมกันนานถึง 5 เดือน คนรักศิลปะห้ามพลาด

 

ที่มาข้อมูล: