ชวนเที่ยวเมืองมัลลิกา ร.ศ.124 กาญจนบุรี ชอบเที่ยวสไตล์ย้อนยุคห้ามพลาด

เมืองมัลลิกา ถือเป็นต้นแบบเมืองย้อนยุคที่แสดงถึงวิถีชีวิตของคนไทยสมัยโบราณโดยเฉพาะในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 ร.ศ.124 ถือเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง

Mallika City R.E. 124

เมืองมัลลิกาแห่งนี้ได้รวบรวมบรรดาช่างไม้ต่าง ๆ ที่มีความสามารถมาบรรจงสร้างบ้านในรูปแบบสมัยก่อนได้อย่างสวยงามและมหัศจรรย์ยิ่ง ราวกับว่าได้หลุดเข้าไปอยู่ในยุคนั้นจริง ๆ ซึ่งภายในเมืองมัลลิกาจะมีสิ่งที่น่าสนใจและมีเอกลักษณ์อย่างไรตามไปดูกันเลย

Bridge Kanchanaburi,เมืองมัลลิกา

1. สะพานหันที่ เมืองมัลลิกา

สถาปัตยกรรมนี้ได้รับการจำลองและก่อสร้างตามแบบสะพานริอัลโตเมืองเวนิส ประเทศอิตาลี ด้วยรูปแบบสะพานไม้โค้งกว้างด้านข้างออกแบบเป็นห้องแถวขนาดเล็กสำหรับขายของร่องกลางสะพานเป็นทางเดินในรัชสมัยรัชกาลที่ 5 เสด็จประพาสเพื่อซื้อผลไม้แห้งต่าง ๆ

traditional thai culture,เมืองมัลลิกา

2. เช่าชุดไทยเดินถ่ายรูปใน เมืองมัลลิกา

หากใครได้มาแล้วคงจะพลาดไม่ได้กับการเช่าชุดไทยเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของเมืองโบราณ ดังสุภาษิตที่ว่า “เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม”เมื่อมาเยี่ยมชมที่นี่คงจะต้องเช่าชุดไทยโบราณเดินชมเมืองพร้อมถ่ายรูปเก๋ ๆ อัปลง IG และ Facebook อวดเพื่อน ๆส่วนชุดก็มีให้เลือกหลายระดับหลายราคาตามแบบฉบับว่าจะแต่งตัวในแบบใด

Siamese lifestyle,Home thai lifestyle,เมืองมัลลิกา

3. เดินลัดเลาะชม เมืองมัลลิกา

การมาเที่ยวเมืองมัลลิกาแห่งนี้คงไม่พลาดที่จะเดินลัดเลาะชมรอบ ๆ
ตัวเมืองพร้อมกับถ่ายรูปมุมสวย ๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึกพร้อมกับศึกษาความเป็นมาในครั้งอดีต อาทิ ย่านการค้าถนนแพร่งนภาที่ตัวตึกมีสีสันสดใสสวยงาม

เรือนเดี่ยว เรือนไทยสมัยโบราณสำหรับชนชั้นทั่วไปในสมัยนั้น เรือนคหบดี เป็นบ้านในสมัยโบราณที่แสดงออกถึงฐานะเจ้าของบ้านและยศถาบรรดาศักดิ์เมื่อครั้งในอดีต และที่พลาดไม่ได้กับ เรือนแพ แสดงถึงการสัญจรไปมาของคนในยุคนั้นรวมถึงเป็นแหล่งค้าขายอีกด้วย

Thai money in ancient times,เมืองมัลลิกา,Thai money

4. เหรียญรูหรือเงินรู

อีกหนึ่งไฮไลท์ของ เมืองมัลลิกา นอกจากจะจำลองรูปแบบเมืองโบราณแล้วยังมีในส่วนของเงินตราในสมัยโบราณ นั่นก็คือเหรียญรูที่ใช้เพื่อการแลกเปลี่ยนสินค้ามาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเหรียญรู 1 สตางค์จะมีค่าเท่ากับ 5 บาท ใครอยากสะสมแลกไว้เป็นที่ระลึกก็มีให้แลกได้ในแห่งนี้

Thai foods,เมืองมัลลิกา

5. อาหารไทยต้นตำรับไทยโบราณ

หากใครได้เข้ามาชม เมืองมัลลิกา ต้องไม่พลาดกับการแสดงต่าง ๆ เช่น รำกินรีร่อน ระบำศรีวิชัยสิงห์ กระบี่กระบอง โขน รำซัดชาตรี และประทีปรัตนโกสินทร์ แผ่นดินมัลลิกาในช่วงเย็นนั้นยังมีอาหารต้นตำรับไทยโบราณให้ได้ลิ้มลองกัน อาทิ น้ำพริกขี้กา ยำมะกะโท แกงรัญจวน และเมนูอาหารอื่น ๆอีกมากมาย เมื่อได้ชิมแล้วจะติดใจและอยากมาเยือนนี้อีกแน่นอน

ย้อนยุคไปกับ เมืองมัลลิกา

หากใครที่สนใจในความเป็นไทยแบบย้อนยุคต้องไม่พลาดกับดินแดนแห่งนี้ เพราะนอกจากจะมีความสวยงามในรูปแบบต่าง ๆ แล้วยังมีบันทึกเรื่องราวให้น่าศึกษาทางด้านประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร พัทยา และบริเวณภูเก็ต

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้นจี, ตรงข้าม Tourist Lounge

Terminal 21 Pattaya ชั้น 2, โซนโตเกียว

เซ็นทรัล ป่าตอง ภูเก็ต ชั้น 1, โซนบริการ

โปรโมชั่นพิเศษ

บริการส่งกระเป๋าภายในกรุงเทพฯ, พัทยา และภูเก็ต เริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น บริการส่งกระเป๋าระหว่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 299 บาท/ชิ้น

ติดต่อเรา

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 6321-666-99

Website: Luggage Delivery Bangkok

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

WeChat: AIRPORTELs

Kakao Talk: AIRPORTELs

Facebook: www.facebook.com/airportels

ให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นได้ที่นี่! airportels.asia

รวม 7 สถานที่ท่องเที่ยวในไทยสุดฮิตที่ไม่เคยตกเทรนด์

ว่ากันด้วยเรื่อง สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยตกเทรนด์ ในประเทศไทยและเห็นคนนิยมไปเที่ยวกันอยู่บ่อย ๆ ไปแล้วอยากไปอีกไม่ตกเทรนด์มีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

1. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

ฤดูหนาวมีไม่กี่สถานที่ท่องเที่ยวที่หลายคนนึกถึง ภูทับเบิกคือชื่อแรก ๆ ที่ติดอันดับอย่างแน่นอนด้วยสถิติของนักท่องเที่ยวที่ไปเยือนภูทับเบิกแห่งนี้เฉพาะวันที่ 17 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา มีนักท่องเที่ยวมากถึง 12,000 คนที่ไปสัมผัสบรรยากาศความหนาวของที่นี่

โดยเฉพาะหนาวแรกของปีด้วยบรรยากาศและวิวทะเลหมอกในยามเช้าที่สวยงาม ประกอบกับสถานที่เที่ยวโดยรอบมากมาย สามารถที่จะดึงดูดนักเที่ยวให้ไปเยือนได้เป็นอย่างดี ถือเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยตกเทรนด์ เลยทีเดียว

2. โครงการป่าสน วัดจันทร์ อ.อ.ป. จังหวัดเชียงใหม่

โครงการป่าสน วัดจันทร์ อยู่ในความดูแลขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ หรือ อ.อ.ป. จังหวัดเชียงใหม่ ด้วยสภาพภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี
ราคาที่พักไม่แพง จึงทำให้นักท่องเที่ยวนิยมผลัดเปลี่ยนกันมาชมความงามตามธรรมชาติโดยเฉพาะฤดูหนาวในช่วงเดือน มกราคม – กุมภาพันธ์

คุณจะได้สัมผัสกับความสวยงามของใบเมเปิ้ล แม้ในยามฤดูร้อนก็สามารถนอนชมท้องฟ้าท่ามกลางหมู่ดาวได้เช่นกัน สำหรับใครที่รักความสงบและสัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริงต้องไม่พลาดสถานที่แห่งนี้

3. ปราสาทหินพนมรุ้ง จังหวัดบุรีรัมย์

สถานที่ทางประวัติศาสตร์เป็นอีก สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยตกเทรนด์
ปราสาทหินพนมรุ้งมีสถาปัตยกรรมที่มหัศจรรย์และสวยงามแห่งหนึ่งด้วยศิลปะเขมรโบราณที่งดงามและยิ่งใหญ่ กล่าวกันว่าที่นี่มีความมหัศจรรย์คือ ในวันที่ 3 – 5 เมษายน และ 8 – 10 กันยายนของทุกปี แสงจากดวงอาทิตย์จะขึ้นลอดผ่านช่องประตูทั้ง 15 บาน และในขณะที่วันที่ 6 – 8 มีนาคม และ 6 – 8 ตุลาคมของทุกปี

แสงจากดวงอาทิตย์ที่ตกลงก็จะลอดผ่านช่องประตูทั้ง 15 บานเช่นกัน ถือว่าเป็นเรื่องมหัศจรรย์อย่างยิ่งที่คนโบราณสามารถคำนวณทิศทาง และการก่อสร้างให้แสงจากดวงอาทิตย์ลอดผ่านตัวปราสาททั้งตอนขึ้นและลงได้อย่างเหลือเชื่อ ถือว่าเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องไม่พลาดในการไปชมความอัศจรรย์ในครั้งนี้

4. เขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรี

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการประสบการณ์ความเสียวที่ไม่เหมือนใครขอแนะนำเขาช้างเผือก จังหวัดกาญจนบุรีกับ สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยตกเทรนด์ เพราะสถานที่แห่งนี้จำกัดจำนวนคนขึ้นไปเที่ยวชมเพียงวันละไม่เกิน 60 คนเท่านั้น และต้องจองล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน

เพราะด้วยระยะทางการเดินเท้าที่มากกว่า 8 กิโลเมตร แต่ใช้เวลามากถึง 6 ชั่วโมง ใครจะรู้ได้ว่าเส้นทางจะเป็นอย่างไรกับการเดินทางบนสันเขาที่สูงและหวาดเสียวเป็นอย่างยิ่งรับรองถูกใจใครหลายคนอย่างแน่นอน

5. ภูกระดึง จังหวัดเลย

ว่ากันว่าหนาวนี้ต้องไปเยือนสักครั้งสำหรับผู้พิชิตภูกระดึงกับเส้นทางเดินเท้าขึ้นไปบนยอดภูกระดึงที่สูงชันท้าทายนักท่องเที่ยวแม้จะขึ้นไปถึงยอดภูและถ่ายรูปคู่ป้ายผู้พิชิตแล้วยังต้องเดินเท้าต่อไปยังที่พักอีกกว่า 3 กิโลเมตรเลยทีเดียว นอกจากนี้บนภูกระดึงยังมีน้ำตก หน้าผาและดอกไม้ป่าที่สวยงามรอให้คุณไปสัมผัส ด้วยบรรยากาศและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยตกเทรนด์ทำให้คนมักแวะเวียนไปอยู่เสมอ ๆ

6. เส้นทางการขับรถชมวิว 4 จังหวัด กับ ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต

อีก 1 ไฮไลท์ของการไปเยือนจังหวัดทางภาคตะวันออกกับธรรมชาติสองข้างทางที่มีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร กับเส้นทางถนนเฉลิมบูรพาชลทิต
ที่สามารถแวะชมจุดท่องเที่ยวได้ตลอดการเดินทาง ตั้งแต่ชลบุรี ระยอง
จันทบุรี และสิ้นสุดที่ ตราด

ก่อนจะข้ามไปเกาะช้างก็ยังได้กับธรรมชาติสองข้างทาง ทั้งจุดชมเนินนางพญา หาดคุ้งวิมาน อ่าวคุ้งกระเบน รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ อีกมาก ด้วยระยะทาง 111 เมตร เลียบชายฝั่งที่จะทำให้คุณเพลิดเพลินตลอดเส้นทาง

7. เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล

ถือเป็น สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยตกเทรนด์ เลยสำหรับเกาะหลีเป๊ะแห่งนี้ ไม่เฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยเท่านั้นที่ต้องการมาเยือนสวรรค์บนดินแห่งนี้ แต่ยังมีชาวต่างชาติมากหน้าหลายตาสลับกันมาเยือนไม่ขาดสายด้วยทะเลที่สวย น้ำที่ใส หาดทรายที่ขาว น่านอนเป็นอย่างยิ่งพร้อมกิจกรรมอีกมากมายให้คุณได้เข้าร่วมทั้งดำน้ำรอบเกาะตกปลาฤดูร้อนจึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะมาเยือนสถานที่แห่งนี้

สำหรับใครที่กำลังมองหา สถานที่ท่องเที่ยวที่ไม่เคยตกเทรนด์และคนนิยมไป ต้องไม่พลาดกับ 7 สถานที่ท่องเที่ยวที่แนะนำรับรองได้เลยว่าไปเที่ยวครั้งนี้ไม่มีเอ้าท์อย่างแน่นอน

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น ปลายทาง ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร พัทยา และบริเวณภูเก็ต

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้นจี, ตรงข้าม Tourist Lounge

Terminal 21 Pattaya ชั้น 2, โซนโตเกียว

เซ็นทรัล ป่าตอง ภูเก็ต ชั้น 1, โซนบริการ

โปรโมชั่นพิเศษ

บริการส่งกระเป๋าภายในกรุงเทพฯ, พัทยา และภูเก็ต เริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น บริการส่งกระเป๋าระหว่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 299 บาท/ชิ้น

ติดต่อเรา

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 6321-666-99

Website: Luggage Delivery Bangkok

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

WeChat: AIRPORTELs

Kakao Talk: AIRPORTELs

Facebook: www.facebook.com/airportels

ให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นได้ที่นี่! airportels.asia