JJ Mall 2024 : อัพเดทเทรนด์ใหม่ ของวินเทจ ของฮิต คนไทยนิยมช้อป

TukTuk Thailand

jj mall แหล่งชอปสุดฮิปที่ปัจจุบันกลายเป็นแลนด์มาร์กของคนรุ่นใหม่รวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องการมาเลือกสินค้ากลับไปฝากคนที่บ้าน จุดเด่นคือการเป็นตลาดนัดจตุจักรเวอร์ชั่นมีแอร์ ไม่ร้อน เดินชอปได้อย่างชิล ๆ ตั้งอยู่ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ติดกับสวนจตุจักร ชอปปิงมอลล์ที่ครบเครื่อง รวบรวมสินค้ายอดฮิตมาไว้ที่นี่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ที่สำคัญยังมี Food Court ขนาดใหญ่ ชอป ชิม ชิลแบบครบ ๆ 

เจเจมอลล์มีอะไร เพราะอะไรใคร ๆ ก็อยากมา

 bangsue junction

ไม่ว่าจะเป็นสายไหน สายแฟชั่น สายรักสัตว์ สายรักสวยรักงาม หรือสายแต่งบ้าน ก็สามารถมาเดินชอปไอเทมที่ตัวเองชอบได้ รวบรวมสินค้ามากมายหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง เครื่องประดับ ของแต่งบ้าน ของที่ระลึก เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า หัตถกรรม เครื่องหนัง ฯลฯ อีกทั้งยังมีโซนกิจกรรมเพิ่มความคึกคักทุกเทศกาลด้วยการแสดงที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมามอบความบันเทิง

ใครอยากรู้ว่าเจเจมอลล์มีอะไร เพราะอะไรใคร ๆ ก็อยากมา ลองมาดูกันว่าแต่ละชั้นและโดยรอบโครงการมีอะไรน่าสนใจบ้าง จะได้ไม่พลาด

เจเจมอลล์ จตุจักรติดแอร์ รวบรวมสินค้าไว้มากมาย อยากได้อะไรก็หาได้

ชั้นที่รวบรวมสินค้าหลากหลายหมวดหมู่แต่ที่ดูโดดเด่นเป็นพิเศษคือสินค้าแฮนด์เมด สินค้า OTOP รวมถึงของแต่งบ้านดีไซน์เก๋ บอกเลยว่าคนชอบงานทำมือหรือชอบแต่งบ้านต้องเพลิดเพลินและได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน

ต่อกันที่ชั้น 1 ซึ่งหากมาชั้นนี้แน่นอนว่าต้องนึกถึงสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋าหนัง นอกจากนี้ยังมีร้านดอกไม้ที่สามารถซื้อไปตกแต่งบ้านได้ สำหรับร้านแนะนำ ได้แก่ ร้านผ้าไหมจีน เสื้อดีไซน์เอกลักษณ์ เหมาะกับช่วงตรุษจีนสุด ๆ ร้าน Riotino ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นดีไซน์เก๋ ร้านมาดาม สโตน ร้านเครื่องประดับ หินสวย ๆ เพียบ และร้าน DEC ร้านดอกไม้ที่แสนสดใสสำหรับคนชอบแต่งบ้าน

เอาใจสายอาร์ตและสายแต่งบ้านกันบ้าง ชั้นนี้รวบรวมภาพวาดศิลป์ งานปั้น พระพุทธรูป และของแต่งบ้านมีสไตล์ ร้านแนะนำ ได้แก่ ร้านดอกไม้แต่งบ้าน Seasonray ร้านสบู่ไทยแลนด์มาพร้อมลวดลายสบู่อันมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์อาหารชั้นนำที่ถูกยกให้เป็นศูนย์อาหารที่ดีที่สุดในย่านจตุจักร รวบรวมเมนูดังมากกว่า 1,000 เมนู 

ใครเป็นคนรักสัตว์หรือมองหาสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ โดยรอบโครงการก็มีตลาดสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นปลาสวยงาม สุนัข กระต่าย กระรอก ฯลฯ มากไปกว่านั้นยังมีกิจกรรมมากมาย หมุนเวียนมามอบความบันเทิง เช่น กิจกรรมร้องเพลง กิจกรรมเชิดสิงโต เป็นต้น

การรวบรวมสินค้าไว้มากมาย แถมยังมี Food Court ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถชอปปิงและหาของอร่อยรับประทานได้แบบครบ ๆ ในที่เดียว jj mall จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กสุดฮิปที่ไม่ว่าใครก็ห้ามพลาด เปิดให้บริการทุกวัน จะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงสถานีกำแพงเพชรก็สะดวก หรือจะนำรถมาเองก็มีลานจอดรถที่รองรับได้มากกว่า 2,000 คัน ใครสะดวกอย่ารอช้า รีบพุ่งตัวมาชอปกันเลย

ที่มาข้อมูล:

ตะลุยตลาดนัดจตุจักร 2024 สวรรค์นักช็อป สินค้าหลากหลาย ราคาโดนใจ

ตลาดนัดจตุจักร ตลาดนัดเก่าแก่ที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ทั้งยังมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลกด้วยเคยได้รับการจัดอันดับให้เป็นตลาดนัดกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากจึงปักหมุดให้ตลาดนัดจตุจักรหรือ jj market เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ต้องมาเยือน

อย่างที่ทราบกันดีว่าที่นี่เป็นแหล่งรวมสินค้าคุณภาพดีราคาไม่แพง อาทิ เสื้อผ้าแฟชั่น เครื่องประดับ งานศิลปะ งานแฮนด์เมด ของสะสม ของแต่งบ้าน ต้นไม้ อาหาร สัตว์เลี้ยง และอีกมากมาย รวมกว่า 8,000 แผงค้า จาก 27 โครงการ ทั้งขายปลีกและขายส่ง หากจะกล่าวว่าตลาดนัดจตุจักรคือสวรรค์ของนักชอปก็คงไม่เกินจริง

BTS สวนจตุจักร

การเดินทางมาตลาดนัดจตุจักรค่อนข้างสะดวก มีรถประจำทางผ่านหลายสาย พร้อมบริการลานจอดรถสำหรับผู้ที่นำรถส่วนตัวมาเองหรือจะเข้าไปจอดที่สวนสิริกิตติ์ก็ได้ ง่ายกว่านั้นคือนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีหมอชิต หากใช้รถไฟฟ้าใต้ดินสามารถเลือกลงได้ทั้งสถานีจตุจักรและสถานีกำแพงเพชร สำหรับนักท่องเที่ยวหรือชาวต่างชาติก็ไม่ยากที่จะเดินทางมายังแลนมาร์กสำคัญแห่งนี้

ถ้าอยู่ที่สนามบินดอนเมืองให้ขึ้นรถโดยสารประจำทาง สาย A1 หรือ A2 จากสนามบินดอนเมืองมาลงที่ BTS จตุจักร หรือจะนั่งรถไฟฟ้าสายสีแดงจากสนามบินดอนเมืองมาลงที่สถานีจตุจักรก็ได้ หากลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิแล้วต้องการมาตลาดนัดจตุจักรให้นั่ง Airport Rail Link มาลงที่สถานีพญาไท จากนั้นขึ้น BTS มาลงที่สถานีหมอชิต / สวนจตุจักร

ตลาดนัดจตุจักร

แม้จะเป็นตลาดขนาดใหญ่แต่ที่นี่มีการจัดระเบียบค่อนข้างดี เช่น มีเส้นทางเดินหลักเพียงทางเดียวรอบตลาด รวมทั้งการจัดแบ่งหมวดหมู่ร้านค้าเป็นโครงการต่าง ๆ ทำให้เดินง่ายและสะดวกในการเลือกชมสินค้า โดยเสื้อผ้า&เครื่องประดับเป็นกลุ่มสินค้าที่มีให้เลือกมากที่สุด เชื่อได้เลยว่าสาว ๆ จะหมดเวลาไปกว่าค่อนวันกับการชอปแฟชั่นส่วนตัว นอกจากนี้ยังมีอาหารหลากหลายประเภทให้เลือกชิมและซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านอีกด้วย 

แนะนำร้านสินค้าแฮนเมด หัตถกรรม และตกแต่งบ้านงานทำสวน

สำหรับคนที่สนใจ Handcraft หรืองานสินค้าหัตถกรรม แวะมาชมสินค้าสวย ๆ ได้ที่ร้านถุงเงิน, ร้านคชาธาร, ร้าน PATDA, Nakorn Shop, ร้านป้าหวาย, บ้านหม้อแมงโก้วู๊ด, ร้านตาลโตนด และร้านดาวบางไทร 

ของตกแต่งบ้านก็มีให้เลือกเยอะทั้งงานเซรามิก ของสะสม โคมไฟ งานเฟอร์นิเจอร์ และอีกมากมาย เช่น ร้านสุธี โฮมเดคคอร์, ร้านไอซ์เซรามิค, Sermsiri Shop, ร้านเมืองไม้, 2triplelegs Shop, Pomy macramé และ Siam Coconut 

สายรักธรรมชาติชอบงานทำสวนอย่าพลาดที่จะชอปต้นไม้และของแต่งสวนจากร้าน Sathirada garden, ร้านพิชาดา พันธุ์ไม้, สวนมะม่วงลุงเล็ก และร้าน PK FlowerPot  

ที่ฝากกระเป๋า จตุจักร มิกซ์จตุจักร

เดินชอปเพลิน ๆ กว่าจะรู้ตัวอีกทีขาก็เริ่มเมื่อยของก็เริ่มหนัก นำสัมภาระหรือกระเป๋าเดินทางมาฝากไว้ก่อนได้เลยที่ AIRPORTELs จะได้ไม่ต้องถือให้เหนื่อย รวมทั้งนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาพร้อมกับกระเป๋าใบโต อย่าลืมนำกระเป๋าเดินทางไปฝากไว้ก่อนจะได้เดินชอปแบบไม่ต้องกังวลใจ

จุดบริการ AIRPORTELs : ตึกมิกซ์ จตุจักร ชั้น 2 โซน บี

เปิดทุกวัน : จันทร์ – พฤหัสบดี 10:00 – 20:00 น. และ ศุกร์ – อาทิตย์ 10:00 – 21:00 น.

ตลาดนัดจตุจักรเปิดให้บริการทุกวันพุธ – วันอาทิตย์ก็จริงอยู่ ทว่าแต่ละวันเวลาเปิดปิดจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นก่อนไปชอปควรเช็กเวลาให้ดีก่อน 

วันพุธ พฤหัสบดี เปิดเวลา 07.00 – 18.00 น.

วันศุกร์ เปิดเวลา 18.00 – 00.00 น. 

วันเสาร์ อาทิตย์ เปิดเวลา 09.00 – 18.00 น.

วันนี้ตลาดนัดจตุจักรหรือ jj market ก็ยังคงเป็นตลาดนัดอันดับหนึ่งที่ดึงดูดทั้งคนไทยและนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกกว่า 200,000 คน ให้เข้ามาเดินชมเดินชอปทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ แล้วคุณล่ะมาตลาดนัดจตุจักรครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่

ที่มาข้อมูล:

เปิดตี้หมูกระทะด่วน ที่ร้านนักล่าหมูกระทะ MBK

นักล่าหมูกระทะ
ขอบคุณภาพจาก : Marketeer (marketeeronline.co)

หากเอ่ยถึงเมนูโปรดของคนไทยที่ไม่ว่าจะนัดรับประทานกันเป็นคู่ นัดกันเป็นแก๊ง หรือแม้แต่ต้องฉายเดี่ยว เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึงเมนูหมูกระทะ เมนูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะร้านหมูกระทะจะรวบรวมวัตถุดิบต่าง ๆ ไว้มากมาย เลือกสั่งได้อย่างหลากหลาย อีกทั้งบรรยากาศของร้านหมูกระทะยังเหมาะกับการพบปะสังสรรค์ คุยกันไปพร้อมปิ้งย่างไปด้วยเพลิน ๆ

ที่สำคัญราคาย่อมเยา นั่นทำให้คนไทยเทใจให้กับเมนูนี้ และสำหรับใครที่ชอบเมนูนี้เป็นชีวิตจิตใจหรือชอบนัดเพื่อนรู้ใจไปเปิดตี้หมูกระทะ ขอแนะนำร้านหมูกระทะยอดฮิตอย่างนักล่าหมูกระทะ แค่ชื่อก็บอกแล้วว่าต้องโดนใจคนชอบรับประทานเมนูนี้อย่างแน่นอน

ร้านนักล่าหมูกระทะมีสาขาอยู่ที่ไหนบ้าง

MBK center
เอ็มบีเค เซ็นเตอร์

อิ่มอร่อยแบบไม่ต้องกลัวร้อนเพราะที่ร้าน นักล่าหมูกระทะ mbk ติดแอร์ เมื่อเดินเข้ามาแล้วจะเห็นว่าบรรยากาศภายในร้านสบาย ๆ ไม่แออัดจึงทำให้รับประทานได้แบบชิล ๆ หมูกระทะที่นี่ไม่ได้เป็นแบบบุฟเฟต์ แต่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยในรูปแบบเซต มีให้เลือกทั้งชุดหมูและชุดเนื้อ ราคาตั้งแต่ 279 – 499 บาท ใครมาร้านนี้รับรองว่าติดใจ เพราะนอกจากวัตถุดิบสดใหม่และน้ำจิ้มรสเด็ดแล้ว การเดินทางมายังร้าน นักล่าหมูกระทะ mbk แสนสะดวกเพียงนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติก็เดินเชื่อมต่อห้างได้เลย

  • พิกัด : ชั้น 2 โซน C
  • เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 02.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 095-586-2465
มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
พหลโยธิน

นักล่าหมูกระทะสาขานี้ถือเป็นสาขาที่ 2 และเป็นสาขาที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นนักศึกษาโดยเฉพาะ รวมถึงยังเหมาะกับคนย่านชานเมืองที่กำลังมองหาร้านหมูกระทะราคาคุ้มค่า สำหรับสาขานี้ถือเป็นสาขาใหญ่ ตัวร้านตั้งเด่นตระหง่านด้านหน้าโครงการ The Forest ภายในร้านยังตกแต่งด้วยโทนสีแดง ขาว ดำ โต๊ะไม่แออัด ปิ้งย่างได้แบบชิล ๆ สำหรับน้ำจิ้มอร่อยเหมือนเดิม เช่นเดียวกับวัตถุดิบที่สดใหม่เสมอ ที่สำคัญใครมาที่นี่หมดห่วงเรื่องที่จอดรถเพราะมีลานจอดรถบริการเพียงพอ

  • พิกัด : อ.คลองหลวง ติดกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ (ศูนย์รังสิต)
  • เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 02.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 097-112-2623
Victory Hub 
วิคตอรี่ ฮับ

อิ่มอร่อยย่านใจกลางเมืองกับร้านนักล่าหมูกระทะสาขาที่ 3 จัดเต็มความอร่อยจนถึงตีสอง หิวเมื่อไหร่ก็แวะมาได้เลย แถมในร้านยังติดแอร์ฉ่ำ ๆ ปิ้งย่างนานแค่ไหนก็ไม่ต้องกลัวร้อน ราคาเริ่มต้นเพียงเซตละ 279 บาท รับประทานได้แบบอิ่มคุ้ม สำหรับผักและน้ำจิ้มพร้อมให้เติมแบบไม่อั้น จุดเด่นของสาขานี้นอกจากตั้งอยู่ใจกลางเมืองแล้วยังเดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้าสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ใครอยากอิ่มฟินแถมเดินทางง่าย แนะนำเลย

  • พิกัด : ชั้น 3 Victory Hub ถนนพญาไท
  • เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 02.00 น. 
  • เบอร์ติดต่อ : 097-085-2616
ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต
ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต

ใครเป็นหมูกระทะเลิฟเวอร์ที่พักอาศัยย่านรังสิต อย่าลืมมาแวะชิมความอร่อยที่นักล่าหมูกระทะสาขาฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต แหล่งไลฟ์สไตล์ชื่อดังของย่านนี้ แน่นอนว่าหากร้านตั้งในห้างสรรพสินค้าต้องมีที่จอดรถที่สะดวกสบาย หาง่าย และยังได้นั่งปิ้งย่างในห้องแอร์ชิล ๆ วัตถุดิบของสาขานี้บอกเลยว่าสดใหม่ไม่แพ้สาขาอื่น ๆ น้ำจิ้มพร้อมให้ตักแบบไม่อั้น แถมมีเครื่องดื่มให้เลือกหลากหลาย ใครไปอย่าลืมเผื่อเวลารอคิวกันสักนิดเพราะได้รับความนิยมสุด ๆ 

  • พิกัด : ชั้น 2 ฝั่ง ZPELL
  • เวลาเปิด – ปิด : วันจันทร์ – ศุกร์ 10.30 – 21.00 น. วันเสาร์ – อาทิตย์ 10.00 – 21.30 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 065-504-8569
ไอคอนสายไหม 56
ขอบคุณภาพจาก : Facebook page : ICON 56 Saimai

เรียกได้ว่าเป็นร้านหมูกระทะที่กระจายตัวในพื้นที่สำคัญ ๆ โดยร้านนักล่าหมูกระทะได้เปิดสาขาใหม่ย่านสายไหม มาพร้อมรูปแบบร้านที่คล้ายกับสาขาอื่น ๆ นั่นคือการเป็นหมูกระทะในห้องแอร์ จัดร้านโล่งสบาย นั่งรับประทานแบบไม่อึดอัด ไม่ว่าจะสั่งเซตเนื้อหรือเซตหมูก็มั่นใจว่าสดใหม่ ผักฟรี น้ำจิ้มไม่อั้น ที่สำคัญน้ำจิ้มเด็ดมากมีให้เลือกหลายสูตร อย่าลืมสั่งของหวานปิดท้าย คอมพลีทมื้ออร่อยแบบฟิน ๆ นอกจากนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องที่จอดรถเพราะมีเพียบ จอดเพียงพอแน่นอน 

  • พิกัด : ชั้น 1 ถนนสายไหม
  • เวลาเปิด – ปิด : 11.00 – 02.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 081-141-4890
Paradise Place
ขอบคุณภาพจาก : MGR ONLINE : ข่าวธุรกิจการตลาด

อีกหนึ่งสาขาของนักล่าหมูกระทะที่เชื่อว่าจะต้องถูกใจชาวหมูกระทะเลิฟเวอร์ โดยโครงการนี้เป็นโครงการในเครือ MBK มีที่จอดรถพร้อม ภายในร้านเปิดแอร์ไว้ฉ่ำ ๆ พร้อมเสิร์ฟความอร่อยด้วยเซตหมูและเซตเนื้อในราคาคุ้ม ๆ ที่ขาดไม่ได้คือน้ำจิ้มที่เตรียมมาให้เลือก 5 สูตร และผักที่รับประทานได้แบบไม่อั้น เรื่องความสดใหม่ไม่ต้องห่วงเพราะทางร้านให้ความสำคัญกับวัตถุดิบก่อนเสมอ ได้รับประทานอาหารสดใหม่และสะอาดแน่นอน

  • พิกัด : ชั้น 1 Paradise Place ถนนศรีนครินทร์
  • เวลาเปิด – ปิด : 10.30 – 02.00 น.
  • เบอร์ติดต่อ : 081-141-4743

ใครชอบรับประทานหมูกระทะเป็นชีวิตจิตใจหรือชอบชวนเพื่อนเปิดตี้หมูกระทะ ห้ามพลาดนักล่าหมูกระทะ ร้านหมูกระทะราคาเป็นมิตรที่พร้อมต้อนรับทั้งคู่รักและกลุ่มเพื่อนมาร่วมปิ้งย่างและพบปะสังสรรค์ไปด้วยกัน มากไปกว่านั้นยังมีให้เลือกหลายสาขา ใกล้ที่ไหนไปที่นั่น สามารถปักหมุดและเดินทางตามพิกัดที่ให้ข้อมูลไว้ได้เลย เชื่อว่าใครเคยไปลิ้มรสความอร่อยต้องติดใจจนต้องหาโอกาสมารับประทานซ้ำ ที่สำคัญสาขาเยอะแบบนี้การันตีว่าต้องอร่อยแน่นอน 

ที่มาข้อมูล

‘นักล่าหมูกระทะ’ สาขาใจกลางเมือง @MBK Center มีดีอย่างไร ทำไมคนถึงชอบทาน?

MBKCenter
เอ็มบีเค เซ็นเตอร์

หากพูดถึงร้านหมูกระทะติดแอร์ในห้างสรรพสินค้า เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ต้องนึกถึงร้านนักล่าหมูกระทะ (Nak-La Mookata)  ร้านอาหารในเครือของ Central Restaurants Group (CRG) ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วกว่า 6 สาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่สาขาที่ไม่อยากให้คนชอบหมูกระทะพลาดคือ นักล่าหมูกระทะ mbk ชั้น 2 โซน C  สาขายอดนิยมใจกลางห้างสรรพสินค้าชื่อดังที่จะทำให้ประสบการณ์การรับประทานหมูกระทะเนื้อกระทะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แต่จะมีจุดเด่นในเรื่องไหน ทำไมใคร ๆ ก็ชอบมาดูกันเลย

ร้านนักล่าหมูกกระทะ สาขา MBK Center

นักล่าหมูกะทะ MBk
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: MBK Center

นักล่าหมูกระทะ mbk  หรือสาขามาบุญครอง เป็นสาขาแรกของร้านนักล่าหมูกระทะ ซึ่งสาขานี้เปิดให้บริการมาตั้งแต่ปี 2565 โดยเป็นหมูกระทะที่มาพร้อมความโดดเด่นในทุกด้าน  ไม่ว่าจะเป็นความสะดวกสบายในการรับประทานหมูกระทะ คุณภาพของวัตถุดิบ รสชาติที่ไม่เหมือนใคร การตกแต่งร้านที่ทันสมัย ความคุ้มค่า และที่สำคัญราคาเข้าถึงได้ไม่ว่าใครก็สามารถรับประทานได้ 

ร้านนักล่าหมูกระทะ สาขา MBK Center ตั้งอยู่ที่ชั้น 2 โซน D ห้างสรรพสินค้า MBK Center หรือห้างสรรพสินค้ามาบุญครอง ซึ่งหากเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวให้ลงที่สถานีสนามกีฬาแห่งชาติ จากนั้นใช้ทางเชื่อมเดินเข้ามาในห้างมาบุญครองได้เลย ซึ่งร้านนักล่าหมูกระทะจะอยู่ตรงกันข้ามกับร้าน EAT AM ARE Steak และใกล้กับร้านสุกี้ตี๋น้อย 

ร้านนักล่าหมูกระทะ สาขา MBK Center ปัจจุบันร้านเปิดให้บริการทุกวัน เวลา 11.00 – 02.00 น. 

ร้านนักล่าหมูกระทะ สาขา MBK Center จำหน่ายอาหารแบบ SET MENU หมูและเนื้อ พร้อมผักและน้ำจิ้มบุฟเฟต์ โดยหมู SET M สำหรับรับประทาน 1 – 2 ท่าน

  • ราคาเริ่มต้นที่ 279 บาท หมู SET M สำหรับรับประทาน 1 – 2 ท่าน
  • ราคาเริ่มต้นที่ 399 บาท หมู SET L สำหรับรับประทาน 2 – 3 ท่าน
  • ราคาเริ่มต้นที่ 499 บาท หมู SET XL สำหรับรับประทาน 4 – 5 ท่าน
  • แต่ถ้าใครเป็นสายเนื้อก็มีให้บริการเช่นกัน เริ่มต้นที่เนื้อ SET M สำหรับรับประทาน 1 – 2 ท่าน ราคาเริ่มต้นที่ 299 บาท
  • และเนื้อ SET XL สำหรับรับประทาน 2 – 3 ท่าน ราคาเริ่มต้นที่ 499 บาท

การรับประทานอาหารที่ร้านนักล่าหมูกระทะ สาขา MBK Center ไม่ต้องจองโต๊ะก่อนล่วงหน้า สามารถมารอคิวที่หน้าร้านได้เลย แต่ต้องมาจองคิวกับพนักงานที่เคาน์เตอร์หน้าร้าน ส่วนระยะเวลารอคิวขึ้นอยู่กับจำนวนลูกค้าในช่วงเวลานั้น แต่อย่างไรก็ตามในระหว่างรอคิวสามารถเลือกเมนูจากป้ายแสดงเมนูที่หน้าร้านได้ก่อน พอได้โต๊ะแล้วสามารถสั่งกับพนักงานได้ทันที เพราะฉะนั้นจึงไม่ต้องกังวลว่าจะเสียเวลา

ขอขอบคุณรูปภาพจาก: MBK Center

สำหรับจุดเด่นของร้านนักล่าหมูกระทะ สาขา MBK Center ที่ทำให้แตกต่างจากร้านหมูกระทะทั่วไปแน่นอนว่าเป็นเรื่องของบรรยากาศของร้าน เพราะร้านนี้เป็นร้านหมูกระทะติดแอร์เย็นฉ่ำ เพราะฉะนั้นรับประกันเลยว่านั่งนานแค่ไหนก็ไม่รู้สึกร้อน เมื่อบวกกับการตกแต่งร้านด้วยโทนสีขาวแดงที่นอกจากจะดูทันสมัยสไตล์โมเดิร์นถูกใจคนรุ่นใหม่แล้ว ร้านยังดูกว้างขึ้นทำให้นั่งรับประทานได้เรื่อย ๆ โดยไม่รู้สึกอึดอัดด้วย

ส่วนอีกเรื่องที่ถือว่าสำคัญกับสายปิ้งย่างคือคุณภาพวัตถุดิบของเนื้อและผัก การันตีโดยลูกค้าหลายคนที่ไปลองแล้วพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าทั้งสด ทั้งสะอาด รสชาติดี และคุ้มค่าเกินราคา ด้วยทางร้านใช้เนื้อหมู เนื้อวัว เนื้อไก่เกรดคุณภาพ ขณะที่วัตถุดิบอื่น ๆ ก็ผ่านการล้างทำความสะอาดและกรรมวิธีเตรียมที่ได้มาตรฐาน นอกจากนั้นพนักงานคอยให้คำแนะนำการรับประทาน บริการวีลแชร์ให้กับผู้พิการหรือผู้สูงอายุ และอำนวยความสะดวกในการใช้บริการให้กับลูกค้าทุกคนตั้งแต่ก้าวแรกที่จองคิวจนจบมื้ออาหารแสนอร่อยอีกด้วย  

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับร้านนักล่าหมูกระทะ สาขา MBK Center ที่เรานำมาฝาก ซึ่งจะเห็นว่าเป็นอีกหนึ่งร้านอาหารใน MBK Center ที่น่าสนใจ เพราะหมูกระทะติดแอร์ร้านนี้ตอบโจทย์ทั้งความสะดวกสบายในการรับประทาน ทำเลที่ตั้งใจกลางห้างดัง การเดินทางที่สะดวกสบายด้วยรถไฟฟ้า BTS คุณภาพของเนื้อสัตว์และเครื่องเคียงที่คุ้มเกินราคา รับประทานคนเดียวก็สั่ง SET เริ่มต้น แต่ถ้ามาหลายคนก็มีเมนู A La Carte ให้เลือกสั่งลองมากมาย ดังนั้นหากวันไหนนึกอยากรับประทานหมูกระทะคุณภาพดี ผักฟรีไม่อั้น และน้ำจิ้มรสเด็ด สามารถมารับประทานกันได้ที่สาขา MBK Center รับรองประทับใจไม่รู้ลืม

ที่มาข้อมูล 

บริการเช่ารถสุวรรณภูมิ อีกทางเลือกของนักท่องเที่ยว

บริการสถานที่เช่ารถ
บริการเช่ารถ

สมัยก่อนหากเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิไปยังแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ หรือปริมณฑล แน่นอนว่าทางเลือกเดียวของนักเดินทางหนีไม่พ้นเรียกรถแท็กซี่  ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีให้บริการเป็นจำนวนมาก แต่ถ้าเดินทางไปหลายสถานที่ต้องเสียเวลาเรียกรถหลายรอบ ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายคนตัดสินใจเลือกใช้บริการ เช่ารถ สนามบินสุวรรณภูมิ

เพราะนอกจากสะดวกมากกว่าแล้ว ในกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินระหว่างทางยังมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมงด้วย แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันบริการรถเช่าที่สุวรรณภูมิมีให้เลือกหลายประเภท โดยแต่ละประเภทจะใช้เอกสารในการเช่าที่แตกต่างกัน ดังนั้นเพื่อช่วยให้นักเดินทางไม่พลาดไม่เสียเวลาเรื่องเตรียมเอกสาร เรามีข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการเช่ารถมาฝาก รับรองไม่มีคำว่าพลาดแน่นอน

บริการเช่ารถ
บริการเช่ารถ บุคคลทั่วไป

เป็นการให้เช่ารถทุกประเภทให้กับผู้เช่าแบบบุคคลทั่วไปที่มีสัญชาติไทย มีใบอนุญาตขับขี่ และมีบัตรเครดิต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการเช่าในระยะสั้นประมาณ 1 วัน 3 วัน หรือ 5 วัน เพื่อใช้เดินทางท่องเที่ยวหรือใช้งานทั่วไป 

สำหรับเอกสารที่ผู้เช่าแบบบุคคลทั่วไปต้องเตรียม ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ บัตรเครดิต และเอกสารแสดงการประกอบอาชีพ เช่น ใบรับรองการทำงาน สลิปแสดงเงินเดือน หรือบัตรประจำตัวพนักงาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของบริษัทให้เช่าแต่ละแห่ง ส่วนการชำระเงินจะมีการเก็บค่ามัดจำและชำระค่าเช่ารถด้วยบัตรเครดิต 

นักศึกษาเช่ารถ
บริการเช่ารถ นักศึกษา

เป็นการให้เช่ารถทุกประเภทให้กับผู้เช่าที่มีสถานะเป็นนักศึกษา สัญชาติไทย และมีใบอนุญาตขับขี่ เพื่อใช้เดินทางท่องเที่ยวหรือใช้งานทั่วไป 

สำหรับเอกสารที่ผู้เช่ามีสถานะเป็นนักศึกษาต้องเตรียม ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ ใบรับรองสถานะนักศึกษาจากสถานศึกษา บางผู้บริการอาจอนุโลมให้ใช้บัตรนักศึกษาในการเช่ารถได้  แต่อย่างไรก็ตามส่วนใหญ่แล้วในวันทำสัญญาเช่ารถผู้เช่าต้องพาผู้ปกครองมาด้วย เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้ค้ำประกัน เนื่องจากตามกฎหมายแล้วนักศึกษาเป็นบุคคลที่ไม่มีรายได้ หากเกิดอุบัติเหตุจึงไม่สามารถชดใช้ค่าเสียหายได้ ผู้ค้ำประกันจึงต้องเป็นผู้ชดใช้แทน ส่วนการชำระเงินจะมีการเก็บค่ามัดจำและชำระค่าเช่ารถด้วยเงินสดหรือบัตรเครดิต 

ไม่มีบัตรเครดิต
บริการเช่ารถ สำหรับผู้ไม่มีบัตรเครดิต

เป็นการให้เช่ารถทุกประเภทให้กับผู้เช่าบุคคลทั่วไปที่มีสัญชาติไทย มีใบอนุญาตขับขี่ แต่ไม่มีบัตรเครดิต ซึ่งถือเป็นหนึ่งในหลักประกันของการเช่ารถ ทั้งนี้ควรติดต่อสอบถามกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทผู้ให้บริการก่อนตัดสินใจเช่ารถ เพราะบางแห่งไม่มีบริการสำหรับผู้ที่ไม่มีบัตรเครดิต 

สำหรับเอกสารที่ผู้เช่าไม่มีบัตรเครดิตต้องเตรียม ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ และเอกสารแสดงสถานะทางอาชีพหรือการเงิน อย่างเช่น สลิปเงินเดือน ใบ ภ.พ. 20 ใบ ภ.พ. 30 หรือใบจดทะเบียนพาณิชย์ ส่วนการชำระเงินจะมีการเก็บค่ามัดจำและชำระค่าเช่ารถด้วยเงินสด

บริการซ่อมรถ
บริการเช่ารถ ระหว่างรอซ่อมรถ

เป็นการให้เช่ารถสำหรับผู้เช่าที่ส่งรถยนต์ส่วนตัวเข้าซ่อมในอู่หรือเครมประกันที่ศูนย์บริการและต้องการรถยนต์ไว้ใช้งานทั่วไประหว่างที่รอซ่อมเสร็จ แต่ทั้งนี้ส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันภัยมักกำหนดระยะเวลาในการเช่าชัดเจน หากใช้บริการเกินกว่าที่บริษัทประกันภัยกำหนดผู้เช่าต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนเกินเอง

สำหรับเอกสารที่ผู้เช่ารถระหว่างซ่อมต้องเตรียม ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ บัตรเครดิต สำเนาใบส่งซ่อม ใบรับรถจากอู่ซ่อม และเอกสารแสดงสถานะทางอาชีพ ส่วนการชำระเงินจะมีการเก็บค่ามัดจำ ชำระค่าเช่ารถด้วยเงินสด บัตรเครดิต หรือการเครมค่าใช้จ่ายกับบริษัทประกันภัย 

เช่ารถชาวต่างชาติ
บริการเช่ารถ สำหรับชาวต่างชาติ

เป็นการให้เช่ารถสำหรับผู้เช่าชาวต่างชาติที่ไม่ได้ถือสัญชาติไทย ใช้ขับขี่เพื่อการท่องเที่ยวภายในประเทศเพียงชั่วคราว แต่ทั้งนี้ผู้เช่าต้องมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ไทยหรือสากลด้วย

สำหรับเอกสารที่ผู้เช่ารถเป็นชาวต่างชาติต้องเตรียม ได้แก่ ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ไทยหรือสากล สำเนาหนังสือเดินทาง สำเนาวีซ่า บัตรเครดิต ตั๋วเครื่องบินขาเข้าประเทศ และตั๋วเครื่องบินขาออก ส่วนการชำระเงินจะมีการเก็บค่ามัดจำ ชำระค่าเช่ารถด้วยเงินสดและบัตรเครดิต 

บริษัทเช่ารถ
บริการเช่ารถ สำหรับในนามบริษัท

เป็นการให้เช่ารถในนามของหน่วยงาน องค์กร หรือบริษัท ทั้งของภาครัฐและเอกชน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วเป็นการเช่าเพื่อใช้งานทั่วไปในระยะยาวตั้งแต่ 1 เดือน ถึง 1 ปี 

สำหรับเอกสารที่ผู้เช่ารถในนามของหน่วยงาน องค์กร หรือบริษัทต้องเตรียม ได้แก่ สำเนาหนังสือรับรองบริษัท สำเนางบการเงินบริษัท สำเนา ภ.พ. 20 สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการบริษัทหรือผู้มีอำนาจลงนามของหน่วยงาน และเอกสารส่วนตัวของผู้ทำหน้าที่ขับขี่ อย่างบัตรประจำตัวประชาชน ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ที่ยังไม่หมดอายุ และบัตรประจำตัวพนักงานที่ออกโดยหน่วยงานที่เป็นผู้เช่า ส่วนการชำระเงินส่วนใหญ่มีการทำสัญญากันระหว่างบริษัทผู้ให้เช่าและหน่วยงานที่เช่าว่ามีการเรียกเก็บค่าบริการในรูปแบบใด แต่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการจ่ายด้วยเช็คเงินสดหรือโอนเงินสดเข้าบัญชีของผู้ให้บริการ 

ถึงแม้ว่าในการเช่ารถที่สุวรรณภูมิแต่ละประเภทจะต้องเตรียมเอกสารหลายอย่าง ทั้งเอกสารส่วนตัว เอกสารแสดงสถานะทางการเงิน และที่สำคัญใบอนุญาตในการขับขี่ แต่เชื่อเถอะว่าเอกสารทุกฉบับล้วนมีความสำคัญ รับประกันว่าถ้าเตรียมไปครบความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นแน่นอน

ที่มาข้อมูล 

หาดทรายแก้ว เที่ยวทะเลน้ำใสสัตหีบ กับบรรยากาศเงียบสงบ ใกล้กรุงเทพ

หาดทรายแก้ว สัตหีบ
หาดทรายแก้ว สัตหีบ

หากพูดถึงจุดหมายปลายทางที่คนจำนวนมากเลือกมาใช้เวลาช่วงวันหยุด เชื่อว่าหลายคนจะต้องนึกถึง “ทะเล” แลนด์มาร์กยอดฮิตของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะทะเลไทยที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ว่ากันว่าหาดทรายขาว น้ำทะเลใส และทิวเขาเขียวขจี จะช่วยมอบความรู้สึกผ่อนคลาย นี่จึงกลายเป็นจุดเช็กอินสำคัญช่วงวันหยุด และตัวเลือกที่ห้ามพลาดสำหรับคนที่กำลังมองหาหาดทรายสวยไว้พักผ่อน นั่นคือ หาดทรายแก้ว แหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมที่ทั้งคนไทยและชาวต่างชาตินิยมปักหมุด

หาดทรายแก้ว

หาดทรายแก้วหาดสวยงามอันดับต้น ๆ ของไทยตั้งอยู่ในพื้นที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี นั่นทำให้หาดทรายแก้วเป็นชายหาดที่อยู่ในความดูแลของทหารเรือ เดิมเคยชื่อว่าหาดน้อย จนกระทั่งเกิดการสำรวจเพื่อใช้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว และเมื่อชายหาดขาวสะอาดและน้ำทะเลใสแจ๋ว

จึงมีการเปลี่ยนชื่อเป็น หาดทรายแก้ว นอกจากมีชายหาดขาวสะอาดและน้ำทะเลน่าเล่นแล้ว โดยรอบชายหาดยังถูกโอบล้อมด้วยภูเขาขนาดย่อม ๆ ความยาวหาด 1,700 เมตร บรรยากาศสวยงามของหาดทรายแก้วทำให้กลายเป็นจุดเช็กอินยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง

  • นั่งชิลริมทะเล

หากมาทะเลแล้วไม่อยากทำอะไร บอกเลยว่าการนั่งเฉย ๆ ริมชายหาดคือกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะแต่ละวันหลายคนอาจเหนื่อยกับการทำงาน การได้นั่งมองวิวสวย ๆ ริมหาดทรายแก้วจึงช่วยฮีลใจได้เป็นอย่างดี บางคนอาจซื้ออาหารและเครื่องดื่มมานั่งรับประทาน หรือบางคนใส่หูฟังฟังเพลงชิล ๆ บอกเลยว่าต้องฟินแน่ ๆ 

นั่งชิลริมทะเล
  • สนุกไปกับน้ำทะเลใส มองเห็นตัวปลา 

กิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อเดินทางมาเที่ยวหาดทรายแก้วคือการเล่นน้ำทะเล เสน่ห์ของน้ำทะเลที่นี่คือน้ำใสน่าเล่น มองเห็นตัวปลา แม้บางครั้งอากาศจะร้อนบ้างแต่พอร่างกายได้สัมผัสกับน้ำทะเลเย็นใส บอกเลยว่าลืมเรื่องอากาศไปโดยปริยาย 

  • อาบแดด

กิจกรรมยอดฮิตในกลุ่มชาวต่างชาติแต่แอบกระซิบว่าเดี๋ยวนี้คนไทยก็หันมาอาบแดดเยอะขึ้น โดยเฉพาะคนที่อยากมีผิวสีแทน ริมหาดทรายแก้วจึงมักมีนักท่องเที่ยวปูเสื่อนอนอาบแดดจำนวนมาก

  • พายเรือคายัค

ใครชอบทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์นิด ๆ ห้ามพลาดเด็ดขาด เพราะที่นี่มีบริการให้เช่าเรือคายัคสำหรับนักท่องเที่ยว แถมยังมีเสื้อชูชีพเพื่อการทำกิจกรรมอย่างปลอดภัย ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวจะพายเรือคายัคไม่ไกลจากชายหาด แต่บอกเลยว่าแค่นี้ก็สนุกมากแล้ว 

อีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตทั้งในกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เรียกได้ว่าหากมาถึงหาดทรายแก้วแล้วไม่ได้ทำจะเรียกว่ามาไม่ถึง นั่นคือกิจกรรมดำน้ำดูปะการัง แม้ที่หาดทรายแก้วจะไม่มีบริการพาดำน้ำลึกหรือบริการพาดำน้ำนอกชายหาด แต่หลายคนก็เตรียมอุปกรณ์ประเภทแว่นดำน้ำมาเสมอ นั่นเพราะที่นี่สามารถดำน้ำดูสิ่งมีชีวิตใต้ท้องทะเลและปะการังน้ำตื้นได้ แม้จะเป็นแค่การดำน้ำตื้นแต่บอกเลยว่าต้องฟิน เพราะมีบรรดาฝูงปลาน่ารัก ๆ เพียบ สามารถดำได้ตลอดทั้งวันที่ชายหาดเปิดให้บริการ

  • บลู คาเฟ่
บลูคาเฟ่

คาเฟ่เล็ก ๆ บนชายหาด บรรยากาศดีมากสวยทั้งกลางวันและกลางคืน รับวิวทะเลแบบเต็ม ๆ พร้อมเสิร์ฟเครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่น อยู่บริเวณสุดหาดทรายแก้ว ใครไปเที่ยวห้ามพลาดเด็ดขาด

  • หาดทรายแก้ว คอฟฟี่
หาดทรายแก้ว คอฟฟี่

เติมความสดชื่นระหว่างทริปภายในร้านกาแฟขนาดกะทัดรัดแต่นั่งชิลได้ทั้งวัน เพราะมองไปแล้วเห็นวิวทะเล ได้บรรยากาศแห่งการพักผ่อน นอกจากเครื่องดื่มแล้วยังมีอาหารรองท้องอร่อย ๆ อย่างไข่กระทะไว้บริการด้วย

ด้วยความที่หาดทรายแก้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ นั่นทำให้มีกฎระเบียบที่นักท่องเที่ยวต้องปฏิบัติตาม โดยนักท่องเที่ยวทุกคนต้องแลกบัตร ค่าเข้าชมคนละ 50 บาท สำหรับคนไทย และ 100 บาท สำหรับชาวต่างชาติ รถยนต์สามารถนำเข้าได้ทุกวันจันทร์ – ศุกร์ หากเป็นวันเสาร์ – อาทิตย์ ต้องจอดรถไว้ด้านนอก

นอกจากนี้ยังห้ามประกอบอาหาร ห้ามก่อไฟ ห้ามส่งเสียงดัง ห้ามนำสุนัขเข้า และชาวต่างชาติต้องออกจากหาดภายใน 18.00 น. ใครมาเที่ยวที่นี่ต้องปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัดและหากอยากเที่ยวแบบชิล ๆ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ อย่าลืมฝากกระเป๋ากับ AIRPORTELs ที่มีบริการรับส่งกระเป๋าจากสนามบินไปยังสถานที่ต่าง ๆ การท่องเที่ยวจะได้คล่องตัวมากขึ้น หมดกังวลเรื่องกระเป๋าใบใหญ่

การเดินทางมาเที่ยวหาดทรายแก้วทำได้ไม่ยาก หากมารถตู้ที่ให้บริการเส้นทางสัตหีบสามารถลงที่โรงเรียนชุมพลทหารเรือ จากนั้นต่อรถจักรยานยนต์หรือรถสองแถวเพื่อมายังหาดทรายแก้ว หากเดินทางโดยรถยนต์ เดินทางโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 3 สุขุมวิท จากนั้นตัดเข้าเส้นบางเสร่ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง

เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องชายหาดสวยงาม จนทำให้แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมชมความงามจำนวนมาก ใครกำลังมองหาหาดทรายสวย น้ำทะเลใส สำหรับวันพักผ่อน ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางมาคนเดียว มาเป็นคู่ มาเป็นครอบครัว หรือมาเป็นกลุ่ม แนะนำให้เดินทางมาที่นี่ ชายหาดงดงามที่อยู่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เดินทางง่าย ขับรถจากกรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมง จะเที่ยวแบบวันเดียวหรือค้างคืนก็คุ้มค่า แถมมีแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ ในย่านนี้อีกหลายแห่ง เชื่อว่าทริปนี้จะช่วยเติมเต็มความสุขของทุกคนได้เป็นอย่างดี

ที่มาข้อมูล

เครื่องเล่นใหม่ ณ ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ในปี 2024: รีวิวทั้งหมดที่นี่!

ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Harbour Land Group

หากพูดถึงสนามเด็กเล่นในยุคนี้คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ที่มีลูกอยู่ในวัยกำลังซนแทบทุกคนจะรู้จักกับ “ฮาร์เบอร์แลนด์” สนามเด็กเล่นชื่อดังจากต่างประเทศที่เด็กเข้าได้ตั้งแต่อายุ 5 เดือน ไปจนถึงอายุ 15 ปี หลังจากที่ฮาร์เบอร์แลนด์เปิดตัวในไทยมานานกว่า 7 ปี ก็มีสาขาเพิ่มมากขึ้นหลายแห่ง รวมถึง ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ที่เรากำลังจะพูดถึงกันในวันนี้ บนพื้นที่ชั้น 6 ที่กว้างมากถึง 5,000 ตร.ม. ได้ถูกเนรมิตเป็น Mega Harborland ในธีม Little Thailand ความหมายคือสนุกที่เดียว เที่ยวได้ทั่วไทย เพราะผู้จัดต้องการให้การพาครอบครัวมาเที่ยวที่นี่เป็นเสมือนกับการได้ไปท่องเที่ยวทั่วประเทศในวันเดียว

เครื่องเล่นในฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยามมีกี่โซน

ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Harbour Land Group

ที่นี่มีเครื่องเล่นครบรสความสนุกแบบสุด ๆ ซึ่งนอกจากเครื่องเล่นในโซน Mega Harborland ที่ทั้งสนุกและตื่นเต้นแล้ว ยังมีโซน JumpZ ให้กระโดดอย่างจุใจและท้าทายความเร็ว อีกโซนหนึ่งคือ Harbor Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่แบบ Full Floor ทุกโซนเปิดให้เด็กทุกวัยเข้าไปเล่นได้ เพราะจะมีเครื่องเล่นชนิดต่าง ๆ ที่พร้อมสำหรับเด็กแต่ละช่วงวัย ไปดูกันว่าไฮไลต์ของที่นี่มีอะไรบ้าง

ไฮไลต์เครื่องเล่นในฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม 2024 ที่ไม่ควรพลาด

ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Harbour Land Group

1. เครื่องเล่นในโซน Mega Harborland เล่นได้ทั้งเด็กเล็กและเด็กโต

  • เครื่องเล่นสไลเดอร์ มี Dragon Spiral Tower Slide เครื่องเล่นที่ต้องสไลด์ลงมาจากหอคอยมังกร ให้ความสนุกและตื่นเต้นเหมือนได้ผจญภัย, Boomerang Donut Slide เครื่องเล่นสไลด์แบบสะใจกับแรงเหวี่ยง และ Ta-Khon Roller Slide เครื่องเล่นโรลเลอร์สไลด์ที่ยาวที่สุด ไม่ควรพลาด เด็กเล็กสามารถเล่นได้นั่งตักคุณแม่สไลด์ลงได้เลย
  • Zip Line เครื่องเล่นห้อยโหนให้เด็กไหลลื่นไปตามเส้นลวดเหมือนนกโบยบิน แต่ไม่สูงมาก ปลอดภัยสำหรับเด็ก
  • เครื่องเล่นแนวแข่งขัน มี Interactive Ball Attack เครื่องเล่นแข่งชู๊ตลูกบอล และ Interactive Cannon Target เครื่องเล่นแข่งยิงปืน เหมาะสำหรับเด็กโตที่ชอบเล่นแข่งขันทำคะแนน

2. โซน JumpZ มีเครื่องเล่นแทรมโพลีนสำหรับเด็กเล็กและเด็กโต

  • High 9 Interactive Trampoline เครื่องเล่นกระโดดกดปุ่มเพื่อทำคะแนนบนแทรมโพลีน เหมาะสำหรับเด็กโต
  • Sweeper Trampoline เครื่องเล่นกระโดดข้ามสิ่งกีดขวางบนแทรมโพลีน ฝึกความเร็ว เหมาะสำหรับเด็กโตเช่นกัน

3. โซน Harbor Inflatable เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่เต็มพื้นที่

  • Sweeper Inflatable เป็นเครื่องเล่นที่เต็มไปด้วยสิ่งกีดขวางให้เด็กได้ใช้ทักษะในการหลบหลีก ฝึกความคล่องแคล่วและท้าทาย เด็กเล็กเล่นได้ พื้นผิวเครื่องเล่นรองรับการล้มไม่ต้องกลัวเจ็บ

นอกจากความสนุกสนานที่หยิบยกมานี้ยังมีเครื่องเล่นอีกมากมายรอให้คุณมาสัมผัสประสบการณ์ด้วยตัวเองที่ ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม ชั้น 6 ราคาเริ่มต้นที่ 200 บาทต่อคน คิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมง หากมาหลายคนหรือจัดกิจกรรมทัศนศึกษา, Team Building สามารถซื้อเป็นแพ็กเกจได้ จองบัตรออนไลน์ที่เว็บไซต์ของ Harborland Group เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น. Long Weekend เปิดให้บริการถึง 21.00 น.

ที่มาข้อมูล:

คู่มือล่าสุด: 10 เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนใช้รถไฟฟ้าไปยังไอคอนสยามสายสีทอง

BTS Golden Line ICONSIAM
รถไฟฟ้าสายสีทอง

หากเอ่ยถึงห้างสรรพสินค้าริมน้ำที่เรียกได้ว่าเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของทั้งคนไทยและต่างชาติ เชื่อว่าหลายคนจะต้องทายถูกว่าเรากำลังพูดถึง “ไอคอนสยาม” ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมชื่อดังไว้มากมายจนกลายเป็นจุดเช็กอินสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวประเทศไทย นอกจากการเป็นห้างขนาดใหญ่แล้ว ปัจจุบันได้มีโครงการ ไอคอนสยามรถไฟฟ้าสายสีทอง ครั้งแรกของไทยที่มีรถไฟฟ้าไร้คนขับ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางมาย่านนี้

ประวัติไอคอนสยาม ห้างริมน้ำสุดหรูของไทย

ไอคอนสยาม

ห้างหรูริมแม่น้ำแห่งนี้เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 เกิดจากการร่วมมือกันระหว่าง สยามพิวรรธน์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และแมกโนเลีย ควอลิตี้ ดิเวล็อปเม้นต์ ร่วมทุนกว่า 50,000 ล้านบาท เพื่อเนรมิตห้างหรูบนพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร ของเขตคลองสาน ใครที่เคยคิดว่าไอคอนสยามเป็นห้างสรรพสินค้าเพียงอย่างเดียวต้องบอกว่าเข้าใจผิด เพราะประกอบด้วยส่วนที่เป็นห้างสรรพสินค้า อาคารสำหรับพักอาศัย นอกจากนี้ยังเป็นที่ตั้งของ สยาม ทาคาชิมายะ ห้างพรีเมียมจากญี่ปุ่นที่เปิดสาขาในไทยครั้งแรก ความยิ่งใหญ่นี้จึงทำให้ไอคอนสยามกลายเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของไทยที่มีคนไทยและต่างชาติแวะเวียนมาไม่ขาดสาย

10 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนใช้รถไฟฟ้าสายสีทองไปยังไอคอนสยาม

ไอคอนสยาม
  1. รถไฟฟ้าสายสีทองถูกยกให้เป็นรถไฟฟ้าไร้คนขับสายแรกของไทย เปิดให้บริการเพียง 3 สถานีเท่านั้น ได้แก่ กรุงธนบุรี เจริญนคร และคลองสาน ใครได้ใช้บริการถือว่าเอ็กซ์คลูซีฟสุด ๆ  
  2. เปิดให้บริการครั้งแรกเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2563
  3. ใครอยากมาไอคอนสยามต้องลงสถานีเจริญนคร ทางออก 3 รับรองถึงชัวร์ เดินเข้าทางเชื่อมตัวห้างสรรพสินค้าได้เลย
  4. รถไฟฟ้าสายสีทองออกแบบมาให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและคนที่พักอาศัยละแวกนั้น เพราะใช้ตอม่อขนาดเล็ก ไม่กินพื้นที่ ลดการเวนคืน และออกแบบให้ลดเสียงรบกวน ทันสมัยและทนทานสุด ๆ 
  5. รู้หรือไม่ รถไฟฟ้าสายสีทองคือรูปแบบเดียวกับรถไฟฟ้าที่ให้บริการที่ London Heathrow (อังกฤษ) และที่ Frankfurt Main (เยอรมัน)
  6. รองรับผู้โดยสารได้มากถึง 276 คนต่อขบวน รอคิวไม่นานแน่นอน
  7. แม้จะเป็นชั่วโมงเร่งด่วน มีเวลาแค่ 6 นาที ก็เดินทางจากสถานีกรุงธนบุรีถึงไอคอนสยามได้ 
  8. ทำความเร็วสูงสุดถึง 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รีบแค่ไหนก็เอาอยู่ทั้งคนทำงานและคนที่เดินทางไปย่านนั้น
  9. ราคาสบายกระเป๋า เพียง 16 บาทตลอดสาย
  10. เปิดบริการเช้าและปิดดึก เวลาให้บริการ รถขบวนแรก 06.00 น. และขบวนสุดท้ายให้บริการเวลาประมาณ 23.30 น. ชอปปิงกันถึงดึกได้เลย

ใครที่คิดว่าการเดินทางไปไอคอนสยามไม่สะดวกสบายเพราะไม่ใช่ห้างใจกลางเมือง บอกเลยว่าผิดคาด เพราะไอคอนสยาม รถไฟฟ้าสายสีทองพร้อมให้บริการแล้ว อุดรอยรั่วด้านการเดินทางที่เคยคิดว่ายากให้ง่ายยิ่งขึ้น ทำให้ได้รับความสะดวกสบาย อยากชอปปิงเมื่อไหร่ก็เดินทางได้อย่างรวดเร็วทันใจ

ที่มาข้อมูล:

Siam Center ชิลล์ๆ : 7 คาเฟ่นั่งทำงาน จิบกาแฟ ฟินๆ

Siam Center

เทรนด์การทำงานในยุคนี้ต้องยกให้กับการทำงานแบบ Work from Anywhere หรือการทำงานจากที่ไหนก็ได้ ขอให้เพียงงานเสร็จ เข้าประชุมออนไลน์ตามนัดหมาย แต่จะให้ทำงานจากที่บ้านทุกวันก็กลัวว่าจะดูน่าเบื่อเกินไป หลายคนจึงเลือกทำงานจากนอกบ้าน โดยเฉพาะคาเฟ่บรรยากาศสวย ๆ เหมาะกับการทำงาน นอกจากได้ทำงานแล้วยังได้แฮงเอาท์กับเพื่อน ๆ และหาแรงบันดาลใจจากสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว หากใครเป็นคนทำงาน นักเรียน หรือนักศึกษา ที่กำลังมองหาคาเฟ่นั่งทำงานสุดชิลล์ ขอแนะนำคาเฟ่เหมาะกับการนั่งทำงานใน siam center นอกจากมีตัวเลือกหลายร้านแล้วยังเดินทางสะดวกมาก ๆ 

1.Maison Claris

ขอบคุณภาพจาก : Maison Claris 

ร้านเกิดจากการร่วมมือกันของคนรุ่นใหม่ที่รู้จักกันมานานและมีโอกาสเดินทางเที่ยวหลายประเทศ สั่งสมความรู้และประสบการณ์จนกลายมาเป็นคาเฟ่ขนมหวาน การจัดร้านโดดเด่นสะดุดตา เลือกใช้โทนสีหวานและดอกไม้สีสวยเหมาะกับการเป็นคาเฟ่เอาใจสายหวาน จุดเด่นคือเมนูต่าง ๆ ออกแบบอย่างพิถีพิถัน หน้าตาสวยงามแถมรสชาติอร่อย เมนูที่ห้ามพลาดคือ Claris Set ซิกเนเจอร์ของร้าน ได้แรงบันดาลใจจากทุ่งดอกไม้และโรงงานน้ำหอมจากฝรั่งเศส เหมาะกับสายคอนเทนต์ นักเรียน คนทำงาน ที่มองหาพื้นที่นั่งหาไอเดียคูล ๆ 

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 1 
  • ช่วงราคา 150 – 500 บาท

2.T (Bar) x The Summer House

คาเฟ่สำหรับสายฮิป โดดเด่นด้วยการตกแต่งร้านสีสันสะดุดตา หากมาถึงต้องได้คอนเทนต์แน่ ๆ เมนูแนะนำ คือ Matcha Latte with Bubble ชงสดแบบแก้วต่อแก้ว เสิร์ฟพร้อมไข่มุกสีทองเคี้ยวหนึบหนับ แถมยังมีกลิ่นหอมของน้ำตาลเคี่ยวและน้ำผึ้ง หากนั่งทำงานแล้วหิวทางร้านก็มีเมนูสุขภาพดีอย่างสลัดเตรียมไว้ให้รองท้อง นอกจากเป็นคาเฟ่สุดเก๋แล้วยังมีสินค้าแฟชั่นจำหน่าย นักเรียน นักศึกษา ที่ชอบแต่งตัวสไตล์คูล ๆ หรือมองหาที่นั่งทำงานสุดชิลห้ามพลาดเด็ดขาด

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 1 
  • ช่วงราคา : 90 – 300 บาท

3.Everyday Karmakamet

หากพูดถึง Everyday Karmakamet เชื่อว่าหลายคนคงคิดถึงร้านจำหน่ายเครื่องหอมและสินค้ามีสไตล์ แต่ทราบหรือไม่ว่าที่นี่มีคาเฟ่พร้อมเสิร์ฟความหอมหวานละมุนของเครื่องดื่มอีกด้วย เมนูยอดฮิต ได้แก่ Rose with Milk Tea ที่จะได้ดื่มด่ำกับความหอมของชาและกลิ่นกุหลาบ เหมาะกับการนั่งทำการบ้านสุด ๆ การตกแต่งร้านเน้นความเรียบง่ายแต่มีสไตล์ หากมีโอกาสได้มานั่งทำงานอย่าลืมซื้อโปสการ์ดหรือเครื่องหอมติดไม้ติดมือกลับไปด้วยนะ

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 4
  • ช่วงราคา : 100 – 250 บาท

4.Mom & Sis The Smoothie Cafe’

ขอบคุณภาพจาก : Momandsiscafe 

ใครเป็นสายรักสุขภาพเชิญทางนี้ เพราะนี่คือคาเฟ่เอาใจสายสุขภาพ เครื่องดื่มส่วนใหญ่เป็นสมูธตี้เพื่อคนสุขภาพดี จุดเด่นคือเลือกใช้วัตถุดิบธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงดีต่อสุขภาพสุด ๆ แถมบางแก้วยังใส่ Super Food อย่างธัญพืช ผลไม้ คอมพลีทการเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเป็นอย่างดี เมนูแนะนำ ได้แก่ Avocado Bowl เมนูซิกเนเจอร์ แหล่งรวมไขมันชั้นดี ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ หรือ Berry Blast ที่มิกซ์ผลไม้ตระกูลเบอร์รีไว้ในแก้วเดียว สำหรับสไตล์การจัดร้านเน้นความโปร่งสบาย แต่งแต้มด้วยต้นไม้สีเขียว เหมาะกับคนทำงาน นักศึกษา ที่มองหาคาเฟ่สไตล์เรียบง่ายแต่ยังมีกลิ่นอายความสดชื่น

  • พิกัด : Siam Center ชั้น G
  • ช่วงราคา : 150 – 300 บาท

5.Fire Tiger by Seoulcial Club

ขอบคุณภาพจาก : Fire Tiger by Seoulcial Club 

ใครเป็นสายชานมไข่มุกเชื่อว่าต้องรู้จักร้านนี้ โดยร้านดังอย่างคาเฟ่เสือพ่นไฟได้มาเปิดคาเฟ่ใจกลางสยาม ตกแต่งร้านโทนสีทอง ขาดไม่ได้คือใบหน้าเสือขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน เมนูที่อยากบอกต่อ คือ Fire Tiger Milk Tea เมนูซิกเนเจอร์มาพร้อมไข่มุกบุกและไข่มุกธรรมดา หากอยากเติมความสดชื่นแนะนำ Fruit Tea ภายในร้านมีพื้นที่นั่งทำงานขนาดกะทัดรัด เหมาะอย่างยิ่งกับนักศึกษา นักเรียน ที่มองหาคาเฟ่ราคาเบา ๆ นั่งอ่านหนังสือ ดื่มเสร็จก็เดินชอปปิงต่อได้แบบสบาย ๆ 

  • พิกัด : Siam Center ชั้น M, Siam Square ซอย 3
  • ช่วงราคา : 100 – 250 บาท

6.Yenly Yours

ขอบคุณภาพจาก : Mike Lennore

คาเฟ่มะม่วงยืนหนึ่งเรื่องการออกแบบเมนูเครื่องดื่มที่ผสมผสานผลไม้ขึ้นชื่ออย่างมะม่วงไว้อย่างลงตัว แน่นอนว่าเมนูที่ต้องสั่งคือเมนูน้ำมะม่วงปั่น มีท็อปปิงให้เลือกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อมะม่วงสด ไข่มุก อย่าลืมสั่งโมจิมะม่วงมาพร้อมความอร่อยแบบกำลังดีแต่หอมมะม่วงสุด ๆ การตกแต่งร้านเน้นโทนสีเหลืองสะท้อนความหวานฉ่ำของมะม่วงตัดกับโทนสีดำ โดดเด่นและดูสดใส เหมาะมากกับนักศึกษาและคนทำงานที่มองหามุมนั่งทำงานแถมมีเครื่องดื่มอร่อย ๆ พร้อมเสิร์ฟ

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 2
  • ช่วงราคา 100 – 200 บาท

7.Coco Fresh Tea & Juice

คาเฟ่ชานมไข่มุกที่ไม่ธรรมดาเพราะนี่คือแบรนด์จากไต้หวัน ยกทัพความอร่อยมาที่ไทย จุดเด่นคือใบชาต้มสด รสชาติไม่หวานเกินไป และไข่มุกเหนียวหนึบกำลังดี เมนูไฮไลต์ คือ Lava Pearl Fresh Milk ที่ทั้งหอมหวานกลมกล่อม รวมถึงน้ำเยลลี่เสาวรส เหมาะกับคนชอบรสเปรี้ยว เติมความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ในร้านมีมุมทำงานเล็ก ๆ สำหรับคนอยากแวะนั่งชิลล์หรือคิดไอเดียงานอีกด้วย

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 2
  • ช่วงราคา : 90 – 150 บาท

ใครกำลังมองหาคาเฟ่นั่งทำงานใจกลางเมือง แนะนำให้เดินทางมาที่ siam center ห้างใจกลางเมืองที่เดินทางสะดวก สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีสยามและเดินเชื่อมต่อเข้าห้างได้ทันที หรือจะมาโดยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวก นอกจากได้เปรียบด้านการเดินทางแล้วยังมีคาเฟ่สุดชิลล์บรรยากาศเหมาะกับการทำงานอีกเพียบ เลือกได้เลยว่าชอบคาเฟ่แบบไหนหรือพื้นที่ทำงานแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง ใครมีสไตล์ทำงานแบบ Work from Anywhere ห้ามพลาดมาใช้บริการเด็ดขาด

ที่มาข้อมูล

ฟินจัดเต็ม! 6 บุฟเฟ่ต์ไอคอนสยาม อร่อย คุ้มค่า อัพเดท 2024

ใครรู้ตัวว่าเป็นสายกิน ชอบกินเยอะ กินจุ และยังชอบกินแบบคุ้ม ๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะเราได้เตรียม 6 ร้าน บุฟเฟ่ต์ ไอคอนสยาม ประจำปี 2024 มาให้ได้ลิ้มลอง แต่ละร้านคือปังมาก ขนความอร่อยมาให้รับประทานแบบคุ้มค่า เลือกได้แบบไม่อั้น ของอร่อย ๆ เพียบ โดยไอคอนสยามถือเป็นห้างใหญ่ห้างดังของไทยที่ทั้งคนไทยและคนต่างชาตินิยมไปเช็กอิน นอกจากทำเลริมแม่น้ำทำให้ได้ลิ้มลองบรรยากาศสวย ๆ แล้ว ยังรวบรวมร้านบุฟเฟ่ต์มากมายมาให้ลิ้มรส อิ่มแล้วยังชอปปิงต่อได้แบบเพลิน ๆ ใครเป็นสายกินแนะนำให้พุ่งตัวไปโดยด่วน

1.CP-HiLai Harbour Restaurant 

หากพูดถึงบุฟเฟ่ต์ดังในไอคอนสยามแน่นอนว่าต้องมีชื่อร้านนี้ เพราะเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่งตรงมาจากไต้หวัน พร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติ ยกมาครบทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น ยุโรป จัดเต็มทั้งของคาวและของหวาน เพื่อไม่ให้เสียชื่อคอนเซ็ปต์ร้าน “The Best of East and West” ซีฟู้ดคือสดเหมือนนั่งรับประทานอยู่ริมทะเล อาหารประเภทซาชิมิคือเนื้อใส สดใหม่ ไม่มีคาว ใครสายเนื้อก็ห้ามพลาดเพราะเนื้อดี มีให้เลือกหลากหลายเมนู เรื่องราคาบอกเลยว่าคุ้มค่า เพราะอาหารคุณภาพ สดใหม่ ไม่ว่าจะชอบอาหารชาติไหนก็มีให้เลือกแบบครบ ๆ 

  • ราคา : 799 – 1,099 บาท
  • พิกัด : ชั้น 6 ไอคอนสยาม

2.Mo Mo Paradise

Mo-Mo Paradise เป็นบุฟเฟ่ต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในหมู่คนไทย เพราะราคาเป็นมิตร มีงบประมาณไม่ถึงพันก็สามารถอิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น จุดเด่นของที่นี่คือการเสิร์ฟวัตถุดิบคุณภาพดี อาหารทุกอย่างสดใหม่ เมื่อนำมารับประทานเป็นชาบูจึงยิ่งอร่อย บวกกับน้ำจิ้มรสชาติถูกปากคนไทยแต่ยังคงไว้ซึ่งสไตล์ญี่ปุ่นยิ่งทำให้สายกินติดใจ อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือเมนูตระกูลเนื้อ เลือกใช้เนื้อพรีเมียม ตอบโจทย์คนรักเนื้อเป็นอย่างยิ่ง พนักงานก็บริการอย่างเป็นมิตร รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน อาหารอร่อยแถมบริการเลิศ แนะนำเลย

  • ราคา : 599+ บาท
  • พิกัด : ชั้น 6 ไอคอนสยาม

3. Evaime Shabu Shabu

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนชอบรับประทานบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น บอกเลยว่าบุฟเฟ่ต์เจ้านี้มาพร้อมราคาเบา ๆ แต่คุณภาพคับแน่น โดยเฉพาะเมนูเนื้อสไลด์ หมูสไลด์ รวมถึงเนื้อหมูทรงเครื่องที่หมักมาให้อย่างเข้าเนื้อ จิ้มกับน้ำจิ้มคือฟินสุด ๆ มีน้ำซุปให้เลือกมากถึง 9 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นซุปหมาล่า ซุปญี่ปุ่น หรือซุปต้นตำรับ มีบาร์ตักน้ำจิ้มให้เลือกแบบฟิน ๆ บริการรวดเร็ว พื้นที่โดยรอบสะอาด สำหรับราคาย่อมเยาสบายกระเป๋า มีงบแค่ 1 แบงก์ม่วงก็สามารถรับประทานได้ รับรองอิ่มนาน คุ้มค่าเรื่องราคาแบบนี้ใครไปไอคอนสยามห้ามพลาดเด็ดขาด

  • ราคา : 389 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

4.Tenjo Sushi & Yakiniku Premium Buffet

มากันที่ร้านบุฟเฟ่ต์ในไอคอนสยามที่เหมาะกับคนชอบปิ้งย่างและชอบเมนูซูชิ ซาชิมิ โดย Tenjo คือร้านอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟเมนูปิ้งย่างและซูชิระดับพรีเมียม เมนูที่อยากแนะนำคือ ซูชิและซาชิมิ การันตีว่าสดใหม่ เนื้อหวานทุกคำ รวมถึงเมนูเนื้อพรีเมียมวากิวริบอาย เนื้อนุ่มละลายในปาก อย่าลืมปิดท้ายด้วยขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นแบบฟิน ๆ ในบรรยากาศการตกแต่งแบบญี่ปุ่น เรื่องความคุ้มค่าแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะคุณจะได้รับประทานเนื้อพรีเมียมและซูชิสดใหม่ปั้นแบบคำต่อคำ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง ใครชอบปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นบอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

  • ราคา : 399 – 1,799 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

5.Katei Shabu

ขอบคุณภาพจาก : KATEI SHABU 

ร้านชาบูเจ้าดังที่ก่อนหน้านี้เปิดให้บริการที่พุทธมณฑลสาย 4 แต่ปัจจุบันได้ขยับเข้ามาในเมืองมากขึ้น เพราะได้มาเปิดที่ห้างไอคอนสยาม ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นร้านนี้มีแนวคิดการออกแบบร้านต้องการให้ทุกคนรู้สึกสบาย ๆ เหมือนมาบ้านเพื่อน ทางร้านให้ความสำคัญเรื่องวัตถุดิบที่ต้องสะอาด สดใหม่ เพราะอาหารสดใหม่จะเพิ่มอรรถรสในการรับประทานมากขึ้น นอกจากพิถีพิถันเรื่องรสชาติแล้วยังให้ความสำคัญเรื่องการจัดจานที่ต้องสวยงาม เมนูแนะนำคือบรรดาเนื้อสไลด์ ซาชิมิสดใหม่ และไข่ดิบที่การันตีว่ารับประทานสดได้เลยเพราะนำเข้าจากฟาร์มที่เลี้ยงระบบปิด

  • ราคา : 699 – 1,699 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

6.E – Sarn by Evaime

ขอบคุณภาพจาก : Evaime Shabu Shabu 

ใครว่าที่ไอคอนสยามจะมีแต่บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติหรืออาหารญี่ปุ่น ที่นี่ยังมีบุฟเฟ่ต์อาหารอีสาน ใครชอบชาบูสไตล์อีสานห้ามพลาด ปรุงรสน้ำซุปมาอย่างถึงใจ มีกลิ่นสมุนไพรทำให้หอมและน่ารับประทานในเวลาเดียวกัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ มีให้เลือกทั้งชาบูชุดหมู ชุดเนื้อ หรือหากอยากสั่งเพิ่มเป็นอาหารจานเดียวก็ได้เช่นกัน ไหนจะการตกแต่งร้านด้วยสีสันสะดุดตาและราคาย่อมเยาที่พูดเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ แนะนำให้มาห้ามพลาดเด็ดขาด

  • ราคา : 299 – 399 บาท
  • พิกัด : ชั้น G ไอคอนสยาม

เมื่อสายกินรู้แล้วว่ามี บุฟเฟ่ต์ ไอคอนสยาม หลากหลายร้านมาให้เลือกรับประทานได้แบบไม่อั้น บอกเลยว่าต้องรีบพุ่งตัวไปโดยด่วน แต่ละร้านจัดหนักจัดเต็มอาหารคุณภาพ เตรียมมาให้เลือกแบบละลานตา อยากรับประทานอะไรเพียงแค่สั่ง รับรองว่าคุ้มค่า สำหรับการเดินทางก็ง่าย มีรถไฟฟ้าสายสีทองบริการ เพียงลงสถานีเจริญนครก็เดินเชื่อมต่อเข้าห้างได้อย่างสบาย ๆ เมื่อรับประทานเสร็จแล้วเดินชมวิวริมแม่น้ำหรือไม่ก็ชอปปิงต่อแบบชิล ๆ แต่หากเดินทางมาวันหยุดแนะนำให้จองคิวหรือเผื่อเวลาต่อคิวกันสักหน่อย เพราะเชื่อว่าสายกินเพียบ บุฟเฟ่ต์ดี ๆ แบบนี้ใครก็พลาดไม่ได้อยู่แล้ว

ที่มาข้อมูล