AIRPORTELs “กระเป๋าไปไหน” กับบริการสุดล้ำที่คุณสามารถสัมผัสได้

การเดินทางของทุกคนจะยังคงเป็นเช่นเดิม แต่ประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ ‘AIRPORTELs’ มอบให้ จะไม่ซ้ำเดิมอีกต่อไป เมื่อ ‘AIRPORTELs’ บริษัทผู้ให้บริการด้านการฝากกระเป๋าและขนส่งกระเป๋าเดินทางพร้อมให้บริการทุกท่านทั่วถึงกันทุกจังหวัดในประเทศไทย ไม่ว่าคุณจะอยากส่งกระเป๋าจากสนามบินมาถึงหน้าบ้าน หรืออยากจะส่งกระเป๋าจากหน้าบ้านสู่สนามบิน เราก็ให้บริการได้เช่นกัน

AIRPORTEL ผู้ให้บริการฝากและขนส่งกระเป๋าเดินทาง

ผู้ริเริ่มการให้บริการด้านการฝากกระเป๋าและส่งกระเป๋าเดินทางในประเทศไทยมากว่า 1 ศตวรรษ อย่างบริษัท AIRPORTELs ได้ผุดไอเดียชวนสงสัยให้แก่นักเดินทางที่มาถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินดอนเมืองกันเป็นอย่างมาก เมื่อสิ่งที่จำเป็นต่อการเดินทางอย่าง ‘กระเป๋าเดินทาง’ ได้ถูกตั้งคำถามว่า ‘กระเป๋าไปไหน?’ อาจทำให้ผู้คนเกิดความตกใจ และต้องมองหากระเป๋าเดินทางว่าอยู่ข้างกายหรือไม่อย่างแน่นอน

บริการของ AIRPORTELs นั้นถูกนับเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการด้านการรับฝากและขนส่งกระเป๋าที่เป็นที่นิยมเป็นอย่างมากต่อกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในประเทศไทย และเพื่อที่จะให้บริการของพวกเขาเป็นที่รู้จักต่อกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้นนั้น แคมเปญ ‘กระเป๋าไปไหน?’ จึงเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่อาจดึงจุดสนใจมาแก่บริษัท จนทำให้เกิดความตระหนักรู้ต่อตัวแบรนด์ เพื่อให้เป็นที่รู้จักต่อกลุ่มลูกค้าคนไทยให้มากขึ้นได้

โดยแคมเปญนี้มีความตั้งใจที่จะให้ผู้เดินทางได้เล็งเห็นถึงบริการของ AIRPORTELs ซึ่งจะแบ่งเป็นสองบริการหลัก นั่นก็คือ ‘การรับฝากกระเป๋า’ และ ‘การขนส่งกระเป๋า’ โดยผู้ใช้บริการสามารถมองหาเคาน์เตอร์ของ AIRPORTELs ได้ในสนามบินหลักสองแห่งในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และห้างสรรพสินค้าตามพื้นที่หลักๆในเมืองด้วยเช่นกัน

AIRPORTELs ดอนเมือง
AIRPORTELs สาขาดอนเมือง

หลายท่านคงทราบกันดีเกี่ยวกับปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ โดยเฉพาะหากเป็นผู้เดินทางที่ต้องทำธุรกิจหรือมีธุระด่วนที่ต้องรีบไปให้ถึงที่หมายโดยเร็ว การเดินทางพร้อมกับการลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ หรือหากต้องสะพายกระเป๋าเป้ที่มีน้ำหนักเยอะนั้นก็อาจะเป็นปัญหาที่ผู้เดินทางหลายคนไม่สามารถเลี่ยงได้ AIRPORTELs จึงถือโอกาสนี้ในการมาเป็นตัวช่วยในการดูแลกระเป๋าและสัมภาระของผู้เดินทาง อีกทั้งยังมาพร้อมกับค่าบริการที่เป็นมิตร และโปรโมชันดีๆที่ให้ทุกคนได้ลอง

แคมเปญนี้จึงถือเป็นการ Raise Awareness ให้กับผู้เดินทางชาวไทยที่ต้องทำธุรกิจหรือต้องเดินทางโดยเครื่องบินมายังกรุงเทพฯ อยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความมีประสิทธิภาพในด้านการเดินทาง และการทำธุระต่างๆ ให้ง่ายดายขึ้น บริการจาก AIRPORTELs ก็เป็นตัวเลือกในการอำนวยความสะดวกให้ทุกท่านได้อย่างไร้ความกังวล ไม่ว่าจะเป็นการรับฝากกระเป๋าอย่างปลอดภัย หรือการขนส่งกระเป๋าที่รวดเร็ว และตรงต่อเวลา

ศึกษาวิธีการจองเข้ารับบริการหรืออ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กระเป๋าไปไหน

รวม 13 เว็บจองโรงแรม และเว็บจองที่พักราคาถูก อัปเดตล่าสุดปี 2023

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจท่องเที่ยวซบเซาลงไปเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 แต่ในปี 2023 นี้ โลกกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ ธุรกิจท่องเที่ยวจึงเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ด้วยความที่ไม่ได้ท่องเที่ยวมานาน หลายๆ คนจึงติดปัญหาตรงที่ไม่รู้ว่าจะจองที่พักโรงแรมแบบไหนให้ได้ราคาถูกหรือคุ้มค่าที่สุด บทความนี้จึงพามาดูว่าจองที่พักเว็บไหนถูก โดยรวบรวมมาทั้ง 13 เว็บไซต์จองโรงแรมและที่พักราคาถูกมาให้เลือกกันตามความต้องการ พร้อมทั้งบอกข้อดี-ข้อเสียของแต่ละเว็บไซต์ จะมีเว็บไซต์ไหนบ้าง มาดูกันเลย

1. Agoda

มาเริ่มต้นกันที่เว็บจองโรงแรมยอดนิยมในประเทศไทยอย่าง Agoda ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ครบครันไปด้วยห้องพักทั้งจากโรงแรม และที่พักรายย่อยอีกมากมาย ในตอนแรก Agoda นั้นเน้นการจองห้องพักในแถบเอเชียเป็นหลัก แต่ต่อมาก็ได้ขยายการจองไปทั่วโลก โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจของเว็บไซต์นี้ คือ มีโปรโมชันราคาพิเศษและดีลต่างๆ ให้เลือกมากมาย นอกจากนั้นยังมีบริการค้นหาเที่ยวบิน รถโดยสาร รถไฟ เช่ารถ จองรถรับส่งสนามบิน รวมไปถึงจองกิจกรรมต่างๆ และยังมีฟีเจอร์จองที่พักพร้อมเที่ยวบินอีกด้วย ช่วยให้นักท่องเที่ยวทั้งมือใหม่และมือโปรสามารถวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย
  • มีโปรโมชันและดีลต่างๆ มากมาย
  • มีส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิก
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นภาษาไทย

ข้อเสีย

  • ราคายังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม ทำให้ดูราคาถูกกว่าปกติ
  • ผลลัพธ์การค้นหายังไม่ดีเท่าที่ควรในแถบอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือแถบเอเชีย

2. Airbnb

Airbnb คือเว็บจองที่พักที่จะเปิดประสบการณ์ที่พักแบบใหม่ โดยปกติแล้วการจองที่พักมักจะเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ต ที่สร้างขึ้นเพื่อให้มีคนเข้าพักโดยเฉพาะ แต่ที่ Airbnb สามารถจองที่พักที่เป็นบ้านส่วนบุคคลหรือคอนโดที่เจ้าของปล่อยให้เข้าพักได้ ให้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่นั้นๆ ทำให้ที่พักในเว็บไซต์นี้มีรูปแบบและสไตล์การตกแต่งที่หลากหลาย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบบรรยากาศแบบคนท้องถิ่น ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปพักที่บ้านญาติหรือบ้านเพื่อนนั่นเอง

ข้อดี

  • ได้ราคาที่ถูกกว่าการจองโรงแรม
  • ที่พักที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า เช่น มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ฯลฯ
  • มีฟีเจอร์ที่ให้เลือกความเป็นส่วนตัว เช่น เลือกที่พักแบบมีห้องน้ำส่วนตัวหรือห้องน้ำรวมได้
  • ได้พูดคุยกับโฮสต์และได้รู้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับท้องถิ่นที่เข้าพัก
  • ที่พักที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนพักบ้านคนรู้จัก

ข้อเสีย

  • ตำแหน่งที่พักระบุเป็นรัศมี ทำให้ไม่ค่อยชัดเจน
  • รูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักมีค่อนข้างน้อย
  • โฮสต์สามารถปฏิเสธการจองได้
  • ต้องพูดคุยกับโฮสต์ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการสื่อสาร

3. Booking.com

มาต่อกันที่เว็บไซต์จองที่พักเจ้าใหญ่ที่หลายๆ คนคุ้นตา นั่นก็คือ Booking.com ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกันกับบริษัท Agoda ทำให้มีความคล้ายคลึงกันในหลายๆ อย่าง โดยสามารถจองที่พักที่เป็นโรงแรม บ้านพัก อพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ได้ทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงสามารถจองเที่ยวบิน รถไฟ รถโดยสาร เช่ารถ และยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ Booking.com แตกต่างจาก Agoda คือ เน้นการจองที่พักในแถบยุโรปเป็นหลัก ทำให้เว็บไซต์นี้มีข้อเสนอที่พักในแถบยุโรปที่มีราคาถูกมากกว่านั่นเอง นอกจากนั้นยังใช้งานง่าย สะดวกสบาย จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ

ข้อดี

  • สามารถจองที่พักได้หลายรูปแบบ ทั้งโรงแรม อพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ฯลฯ
  • มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • มีรูปภาพและรายละเอียดที่พักอย่างชัดเจน
  • มีบริการข้อมูลการจองมากถึง 43 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย
  • สามารถยกเลิกการจองได้ฟรี

ข้อเสีย

  • หากจองที่พักในแถบเอเชียหรือซื้อแพ็กเกจเหมารวม อาจมีราคาสูง
  • ด้วยความที่ลูกค้าสามารถยกเลิกการจองห้องพักได้ฟรี ทำให้ที่พักอาจปฏิเสธการจองผ่าน Booking.com และเลือกสำรองที่พักให้กับเว็บไซต์อื่นก่อน

4. Expedia

Expedia ก็เป็นอีกหนึ่งเว็บจองโรงแรมที่เรียกได้ว่าครบครันทุกการเดินทางเลยก็ว่าได้ แม้ว่า Expedia จะมีชื่อเสียงในเรื่องการจองเที่ยวบิน แต่เว็บไซต์นี้ยังให้บริการทั้งจองเที่ยวบินพร้อมที่พัก โดยที่พักก็จะมีตั้งแต่ที่พักเล็กๆ ไปจนถึงโรงแรมใหญ่ๆ นอกจากนั้นยังมีบริการเช่ารถ ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว หรือจองกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย ทำให้ Expedia เป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวทุกสไตล์ได้วางแผนการเดินทางตามที่ต้องการได้

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์การจองที่หลากหลาย
  • มีตัวเลือกที่พักหลากหลาย ทั้งที่พักเล็กๆ อพาร์ตเมนต์ โรงแรม ฯลฯ
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ค่อนข้างดี
  • มีการแสดงราคาที่พักที่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว
  • สามารถยกเลิกที่พักได้ฟรี

ข้อเสีย

  • ราคาที่พักอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย หรือบางครั้งอาจมีราคาสูงกว่าเจ้าอื่น

5. Google.com/travel/hotels

อย่างที่หลายๆ คนเคยได้ยินกันว่า “นึกอะไรไม่ออก บอก Google” และแน่นอนว่า Google ก็สามารถช่วยหาที่พักดีๆ ราคาถูกได้ด้วยเช่นกัน เข้าไปที่ Google.com/travel/hotels จะพบกับผลการค้นหาโรงแรมและที่พักในราคาสุดคุ้มมากมายที่ทาง Google คัดมาให้แล้ว อีกทั้งยังสามารถค้นหาเที่ยวบิน กิจกรรมต่างๆ และบอกจุดท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียงกับที่พักอีกด้วย

ข้อดี

  • ค้นหาที่พักได้อย่างรวดเร็ว
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย
  • Google คำนวณให้แล้วว่าจองที่พักในเว็บไซต์ใดให้ราคาที่ดีที่สุด
  • มีตัวเลือกให้ดูราคาที่พักพร้อมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์การค้นหาที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น
  • Google จะแสดงผลลัพธ์ของพาร์ทเนอร์ที่ซื้อโฆษณาก่อนเสมอ อาจทำให้ไม่พบที่พักที่ตรงตามความต้องการ

6. HotelsCombined.com

เว็บจองโรงแรมสัญชาติออสเตรเลียอย่าง HotelsCombined.com ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นเว็บที่สามารถเปรียบเทียบราคากับเว็บจองที่พักของเจ้าอื่นได้ พร้อมทั้งมีเครื่องมือติดตามราคาให้คุณไม่พลาดการจองที่พักในราคาที่ดีที่สุด นอกจากนั้นยังมีบริการจองตั๋วเครื่องบินและรถเช่า อีกทั้งในส่วนของหน้าเว็บไซต์ดูสะอาดสะอ้าน มีตัวกรองการค้นหาที่ละเอียด ทำให้ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย

ข้อดี

  • มีเครื่องมือติดตามและแจ้งเตือนราคา
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดีเยี่ยม
  • มีตัวเลือกดูราคาแบบมีหรือไม่มีภาษี

ข้อเสีย

  • ตัวเลือกที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น
  • บางครั้งราคาก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อกดซื้อจริงกับผู้ขาย

7. Hotels.com

Hotels.com เป็นเว็บจองที่พักที่มีจุดประสงค์เพื่อจองที่พักโดยเฉพาะ ไม่มีการบริการอย่างอื่น ด้วยความที่เป็นเว็บจองที่พักอย่างเดียว เว็บจึงใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีตัวเลือกที่พักค่อนข้างหลากหลาย ทั้งโฮสเทล รีสอร์ต อพาร์ตเมนต์ โรงแรม ฯลฯ อีกทั้งยังมีรายละเอียดของที่พักอย่างชัดเจน ดังนั้นใครที่อยากจะจองที่พักอย่างเดียว เว็บไซต์นี้ตอบโจทย์ทุกความต้องการแน่นอน

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
  • ค้นหาได้เร็วและแสดงตัวเลือกที่พักได้อย่างหลากหลาย
  • มีตัวกรองการค้นหาและการเรียงลำดับที่ดี
  • มีรายละเอียดที่พักชัดเจน

ข้อเสีย

  • สามารถจองที่พักได้เพียงอย่างเดียว ไม่มีบริการเสริม
  • ราคาที่พักอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย

8. Kayak

Kayak คือเว็บจองโรงแรมที่ให้บริการค้นหารายละเอียดการเดินทาง ทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า รวมไปถึงให้บริการข้อมูลแพ็กเกจเที่ยวบิน+ที่พัก โดยมุ่งเน้นเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เปรียบเทียบข้อมูลและวางแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจ ซึ่งในหน้าเว็บไซต์นั้นใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีตัวกรองการค้นหาที่หลากหลาย ใครที่ต้องการวางแผนการเดินทางหรืออยากค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับที่พักที่ต้องการ ก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมที่เว็บไซต์นี้ได้เลย

ข้อดี

  • มีตัวเลือกแสดงราคาแบบรวมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • มีเครื่องมือติดตามและแจ้งเตือนราคา
  • สามารถค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ที่พักได้โดยตรง

ข้อเสีย

  • ราคาที่เห็นในหน้าเว็บไซต์อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดเสมอไป
  • รายการที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น

9. Klook

Klook เป็นอีกหนึ่งเว็บจองที่พักสำหรับวางแผนการเดินทางที่น่าสนใจ เพราะมีบริการทั้งจองที่พัก เที่ยวบิน รถโดยสาร รวมไปถึงจองกิจกรรม บัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือจะจองเป็นแพ็กเกจทัวร์เลยก็ทำได้ เรียกได้ว่าเว็บเดียวครบ จบทุกการท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้นคือสามารถใช้งานได้ครอบคลุมทั่วโลก ดังนั้นไม่ว่าจะมีจุดหมายปลายทางที่ใด Klook ก็สามารถให้บริการได้แน่นอน

ข้อดี

  • มีการบริการที่หลากหลาย ทั้งเรื่องที่พัก การเดินทาง กิจกรรมต่างๆ ฯลฯ
  • สามารถรับเครดิตเพื่อเป็นส่วนลดในการเดินทางครั้งถัดไป
  • มีโปรโมชันและดีลส่วนลดมากมาย
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย

ข้อเสีย

  • บางครั้งไม่สามารถใช้ voucher ที่ได้รับมาได้
  • การติดต่อกับฝ่ายบริการลูกค้าค่อนข้างลำบาก เนื่องจากใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

10. Traveloka

Traveloka เป็นเว็บจองที่พักที่ครบครันทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ไม่ว่าจะจองที่พัก ซึ่งมีให้เลือกทุกระดับ ตั้งแต่ที่พักเล็กๆ ไปจนถึงโรงแรมหรู หรือจะค้นหารถเช่า เที่ยวบิน รถรับส่งสนามบิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางก็สามารถทำได้ อีกทั้งยังมีบริการจองกิจกรรม ร้านอาหาร สปาเพื่อสุขภาพ หรือแม้กระทั่งคลาสเรียนอีกด้วย โดย Traveloka จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดท้องถิ่น โดยเฉพาะในอินโดนีเซียและไทย ทำให้เป็นเว็บไซต์ที่เข้าใจในความต้องการของนักเดินทางชาวไทยนั่นเอง

ข้อดี

  • มีการบริการท่องเที่ยวที่ครบครัน ทั้งจองที่พัก ตั๋วโดยสาร บัตรเข้างาน ฯลฯ
  • มีส่วนลดและโปรโมชันค่อนข้างเยอะ
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นภาษาไทย

ข้อเสีย

  • อาจไม่ได้ราคาการจองที่ถูกที่สุด 
  • หากยกเลิกการจอง อาจต้องใช้เวลานานในการคืนเงิน

11. Trip.com

มาถึงเว็บที่เพิ่งเปิดให้บริการด้านท่องเที่ยวในไทยอย่าง Trip.com มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายและชัดเจน สามารถค้นหาที่พักพร้อมเปรียบเทียบราคาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีบริการที่ครบครัน ทั้งจองโรงแรมที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ รถเช่า หรือจะค้นหาทัวร์ เที่ยวบิน+โรงแรม ก็ทำได้เป็นอย่างดี และมีฟีเจอร์การค้นหาสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนใกล้บ้าน ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลหรือลาหยุดงานให้ได้อีกด้วย

ข้อดี

  • ให้บริการแบบครบครันทุกการท่องเที่ยวและพักผ่อน
  • มีฟีเจอร์ที่ช่วยแก้ไขแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น
  • มีแจ้งเตือนราคาพิเศษ
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และชัดเจน

ข้อเสีย

  • ฝ่ายบริการลูกค้าค่อนข้างดำเนินการช้า และไม่ค่อยยืดหยุ่น
  • เพิ่งเข้าไทยได้ไม่นาน อาจทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ
  • การให้บริการในแถบยุโรปยังค่อนข้างน้อย

12. Tripadvisor.com

เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะคุ้นหูกับเว็บจองโรงแรม Tripadvisor.com กันมาบ้าง เพราะเว็บนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการเขียนบล็อกและมีรีวิวของนักท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลกให้ได้อ่านกัน ใครที่อยากจองที่พักพร้อมกับอ่านรีวิวที่น่าเชื่อถือและมาจากประสบการณ์จริง ก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์นี้ นอกจากนั้น Tripadvisor ยังมีฟีเจอร์เปรียบเทียบราคาที่พัก ซึ่งจัดวางอย่างเป็นระเบียบสวยงาม ทำให้ผู้ใช้สามารถเห็นและเปรียบเทียบได้อย่างรวดเร็วด้วย

ข้อดี

  • มีรีวิวมากมายที่มาจากประสบการณ์จริงและมีประโยชน์ต่อการเดินทาง
  • เว็บไซต์ออกแบบมาสวยงามและใช้งานง่าย
  • เก่งในเรื่องการค้นหาห้องพักที่มีราคาถูกที่สุด

ข้อเสีย

  • ตัวกรองการค้นหายังไม่ค่อยเสถียร
  • บางรีวิวอาจเป็นรีวิวที่หลอกลวงหรือไม่น่าเชื่อถือ

13. Trivago

มาถึงเว็บไซต์สุดท้ายที่เป็นเว็บจองที่พักเจ้าใหญ่ที่สุดอย่าง Trivago ซึ่งรวบรวมราคาที่พักทั้งในและต่างประเทศมากถึง 5 ล้านแห่งใน 190 ประเทศทั่วโลก โดยจุดเด่นของเว็บไซต์คือสามารถเปรียบเทียบราคาที่พักจากหลายแหล่งข้อมูลได้ โดยฐานข้อมูลของ Trivago ก็มาจากเว็บไซต์ชั้นนำมากมาย ทั้ง Agoda, Booking.com, Expedia และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงข้อมูลจากเว็บไซต์ของที่พักโดยตรงอีกด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นภาพรวมราคาที่พักได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบที่อยากวางแผนการเดินทางอย่างรวดเร็ว

ข้อดี

  • เว็บไซต์ดูเรียบง่ายและสะอาดตา พร้อมออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย
  • เปรียบเทียบราคาที่พักจากเว็บไซต์อื่นๆ ได้
  • สามารถค้นหาราคาจากเว็บไซต์ของที่พักได้โดยตรง
  • รายละเอียดที่พักชัดเจน

ข้อเสีย

  • ตัวเลือกที่พักค่อนข้างน้อย
  • ราคาที่เห็นอาจไม่ใช่ราคาจริง เพราะยังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • แสดงผลลัพธ์เฉพาะที่พักที่ตรงตามเกณฑ์ที่เว็บไซต์กำหนด

สรุป

มาถึงตรงนี้ คงจะพอทราบกันแล้วว่าจองที่พักเว็บไหนถูกบ้าง ซึ่งปี 2023 นี้มีเว็บจองโรงแรมราคาถูกให้เลือกมากมาย โดยแต่ละเว็บไซต์ก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ดังนั้น หากเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง ก็จะได้ที่พักในราคาสุดคุ้มอย่างแน่นอน แต่หลังจากได้ที่พักราคาดีๆ แล้ว อย่าลืมเลือกใช้บริการขนส่งสัมภาระ ที่จะช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย สบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ อย่างที่ Airportels มีบริการขนส่งสัมภาระที่สะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดูแลสัมภาระให้ถึงที่พักอย่างปลอดภัยหายห่วง

รวม 20 ร้านกาแฟลับในกรุงเทพฯ ใครไม่ไปถือว่าพลาด

แจกพิกัด ร้านกาแฟลับในกรุงเทพฯ ที่มีดีทั้งรสชาติและบรรยากาศสุดชิค เอาใจคอกาแฟที่อยากนั่งชิลล์ ๆ ดื่มด่ำกับกาแฟและบรรยากาศส่วนตัวแบบชนิดที่ว่าคนไม่พลุกพล่าน จะมีร้านไหนบ้างนั้นตามไปดูกันเลยดีกว่า

1. Aoon Cafe

ใครจะรู้ว่าที่ย่านเยาวราชจะมี ร้านกาแฟลับ แบบนี้ซุกซ่อนอยู่ ที่นี่เป็นคาเฟ่เล็ก ๆ ที่มีโรงปั้นเซรามิกให้ได้มาเวิร์กช้อปกัน ซึ่งทางร้านก็ใช้ถ้วยเซรามิกที่ปั้นเองนี่แหละเสิร์ฟเครื่องดื่ม คุณจะได้ลิ้มลองกาแฟแบบฉบับงานคราฟท์ตั้งแต่ภาชนะและกรรมวิธีสุดละเมียดในการชงกาแฟ

ที่อยู่ : 8 Alley, Lane Pathum Khongkha, Khwaeng Samphanthawong, Khet Samphanthawong, Krung Thep Maha Nakhon 10100
พิกัด : https://goo.gl/maps/dJvWF8fir7R4tAW2A
เบอร์โทร : 089-447-7161

image by https://www.facebook.com/aoonpottery

2. Woodbrookbkk

ร้านกาแฟลับ ที่ตั้งอยู่บนชั้น 3 ของตึก ติดกับถนนทรงวาด ภายในร้านมีทั้งโซน in door และระเบียงที่มองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโรนามา ที่สำคัญมีอาหารและเครื่องดื่มหลายรสชาติให้เลือกตามใจชอบ

ที่อยู่ : 1222/1 Songwat Rd. Chakkaphat, Samphanthawong, Bangkok
พิกัด : https://goo.gl/maps/4M9AEvsTyrYgtB7y6
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 10.00 น. – 19.00 น.
เบอร์โทร : 064-424-2929

image by https://www.facebook.com/woodbrookbkk

3. CHATA Specialty Coffee

ร้านกาแฟ ที่ทีมุมถ่ายรูปกับกำแพงอิฐสุดฮิตแนว Contemporary Loft พร้อมมีเมนูเครื่องดื่มที่เน้นวัตถุดิบเมล็ดกาแฟชั้นดี นอกจากนั้นยังมีเมนูอาหารและเบเกอรี่หลากหลายไว้บริการอีกด้วย

ที่อยู่ : 98 พาดสาย แขวง สัมพันธวงศ์ เขต สัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
พิกัด : https://goo.gl/maps/BUtAzepjacoosxFJ7
เวลาทำการ : ปิดวันจันทร์ 09.00 น. – 18.00 น.
เบอร์โทร : 084-625-2324

image by https://www.facebook.com/chataspecialtycoffee

4. Beaker and Bitter

ร้านกาแฟธีมห้องทดลองวิทยาศาสตร์ที่มีมุมถ่ายรูปพร้อมอุปกรณ์ประกอบฉากแบบห้องทดลองวิทยาศาสตร์ครบเซต นอกจากนั้นภายในยังมี co-working space ให้มานั่งทำงานและคุยงานกันอีกด้วย อาหารและเครื่องดื่มก็มีหลากหลายเมนู การันตีความอร่อย

ที่อยู่ : 4 ซ. สายลม 1 แขวง สามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร 10400
พิกัด : https://goo.gl/maps/42Rh1Va1sejyfBy78
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 08.00 น. – 22.00 น.
เบอร์โทร : 082-989-6946

image by https://www.facebook.com/beakerandbitter/

5. Flints Kraft & Kafe

ร้านกาแฟสุดลับอยู่ในตรอกตึกดิน ถนนดินสอ ตกแต่งบรรยากาศแบบมินิมอล เมนูเครื่องดื่มก็มีหลากหลายทั้งเมนูกาแฟคุณภาพ และ non coffee นอกจากนั้นเขายังมีเวิร์กช็อปสอนทำเครื่องประดับสำหรับคนที่รักงานฝีมือแฮนด์เมด

ที่อยู่ : 90 ตรอกตึกดิน แขวง เสาชิงช้า เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
พิกัด : https://goo.gl/maps/9D1RdgqKLMGGKJjTA
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน จันทร์- ศุกร์ 8:00 น. – 17:00 น. และ เสาร์ – อาทิตย์ 9:00 น. – 18:00 น.
เบอร์โทร : 095-869-3464

image by https://www.facebook.com/flintskraftkafe/

6. Foxhole BKK

ที่นี่เป็น ร้านกาแฟ เล็ก ๆ ที่อยู่ในตรอกใกล้กับศาลเจ้าพ่อเสือ เน้นตกแต่งร้านสไตล์เรียบ ๆ แต่กลับให้ความรู้สึกอบอุ่น แถมยังมีเมนูหลากหลายทั้งกาแฟ เครื่องดื่มต่าง ๆ และขนมหวานชนิดต่าง ๆ หลากรสชาติ

ที่อยู่ : 290/4 ถนนตะนาว แขวง ศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
พิกัด : https://goo.gl/maps/VhwH9Upqbef5Lob5A
เวลาทำการ : ปิดวันอังคาร 09:30 น. – 17:30 น.
เบอร์โทร : 086-666-6432

image by https://www.facebook.com/Foxholebkk/

7. NEAT COFFEE​ BAR

ร้านกาแฟที่ตกแต่งสไตล์ลอฟต์เข้ากับตึกเก่าได้อย่างลงตัว มีเมล็ดกาแฟนานาชนิด พิเศษตรงที่เราสามารถเลือกเบลนด์กาแฟได้เองด้วย ให้คุณได้รังสรรค์รสชาติกาแฟแบบเฉพาะของตัวคุณเอง

ที่อยู่ : 99 3 ถนน บุญศิริ แขวง ศาลเจ้าพ่อเสือ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
พิกัด : https://goo.gl/maps/KbRXSVnqEUSHFcuTA
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 10:00 น. – 17:00 น.
เบอร์โทร : 099-156-5424

image by https://www.facebook.com/NEATCOFFEEBAR/

8. Liebe Cafe

ร้านกาแฟย่านโชคชัย 4 ตกแต่งร้านแบบเรียบหรู เน้นสีขาวโปร่งตาดูมินิมอล มีเครื่องดื่ม ๆ และ กาแฟอร่อย ๆ พร้อมกับขนมเบเกอรี่ที่อบสดใหม่แบบวันต่อวัน

ที่อยู่ : 73/2 โชคชัย 4 ซอย 54 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
พิกัด : https://goo.gl/maps/JbZT95AQpXJD5RK2A
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 08:00 น. – 19:00 น.
เบอร์โทร : 095-948-1963

image by https://www.facebook.com/Liebecafee/

9. Hong Di Coffee

ร้านกาแฟที่ตกแต่งร้านสไตล์จีนโมเดิร์น มีทั้งโซน in door และ out door ด้านในมี 2 ชั้น บรรยากาศภายในมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ เมนูก็มีหลากหลายทั้งเครื่องดื่มและเบเกอรี่

ที่อยู่ : 18 โชคชัย 4 ซอย 39 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
พิกัด : https://goo.gl/maps/1nCTU8vre2S4M64n8
เวลาทำการ : ปิดทุกวันจันทร์ 09:00 น. – 19:00 น.
เบอร์โทร : 097-954-5519

image by https://www.facebook.com/HongDiCoffee/

10. นิยาย

ร้านกาแฟที่ให้บรรยากาศของการจิบกาแฟอยู่ในสวน บรรยากาศร่มรื่นเต็มไปด้วยแมกไม้ราวกับอยู่ในดินแดนเทพนิยายเลยทีเดียว เมนูกาแฟและเครื่องดื่มก็รสชาติกลมกล่อมมาก แถมยังมีอาหารและของหวานอีกหลายเมนูด้วย

ที่อยู่ : ถนน เลียบคลองหนองทับ ตำบล หนองเพรางาย อำเภอไทรน้อย นนทบุรี 11150
พิกัด : https://goo.gl/maps/Gi2bA5ABBZmyLcrG9
เวลาทำการ : ปิดทุกวันพุธ จันทร์ – ศุกร์ 10.00 น. – 18.30 น. และ เสาร์ – อาทิตย์ 9.00 น. – 18.30 น.
เบอร์โทร : 063-443-1961

image by https://www.facebook.com/niyaicafe/

11. Cafe Casta

ร้านกาแฟที่ให้บรรยากาศเหมือนอยู่ในบ้านขนมแบบยุโรป โดดเด่นด้วยเมล็ดกาแฟนำเข้าคุณภาพเยี่ยม และยังมีขนมอบสุดอร่อยหลากหลายแบบไว้บริการ

ที่อยู่ : 29 ซอย ทุ่งมังกร 4 แขวง ฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
พิกัด : https://goo.gl/maps/gvFEu9SYkSYaBXNA7
เบอร์โทร : 02-884-0448

image by https://www.facebook.com/CafeCasta/

12. Farm to Cup: Specialty Coffee & Art space

ร้านกาแฟลับ ย่านตลิ่งชันที่คัดสรรเอาเมล็ดกาแฟจากไร่ทั่วไทยที่มีคุณภาพและรสชาติดีมาสร้างสรรค์เมนูกาแฟคุณภาพ ภายในร้านก็ตกแต่งด้วยงานศิลปะหลากหลายแบบให้ได้นั่งชมแบบชิลล์ ๆ

ที่อยู่ : 22, 2 ถนนฉิมพลี แขวง ฉิมพลี เขตตลิ่งชัน กรุงเทพมหานคร 10170
พิกัด : https://goo.gl/maps/HQkue5cKu5azESW37
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 09.30 น. – 23.30 น.
เบอร์โทร : 080-669-7749

image by https://www.facebook.com/profile.php?id=100076249603117

13. LYNX Coffee

ร้านกาแฟโทนสีเหลืองอ่อน ๆ ตกแต่งเรียบง่าย ที่ให้บริการทั้งกาแฟรสกลมกล่อม เครื่องดื่ม non-coffee และขนมเค้กโฮมเมดกว่า 20 เมนู ปัจจุบันมี 2 สาขาด้วยกัน

ที่อยู่ : 948 ถนนเทอดไท แขวง ตลาดพลู เขตธนบุรี กรุงเทพมหานคร 10600 และ หน้าซอยเทอดไท20/1 ตรงข้ามLotus ตลาดพลู
พิกัด : https://goo.gl/maps/fTuCyePHuuCPKWcT9
เวลาทำการ : สาขา 1 ตลาดพลู เปิดทุกวัน 09:00 น. – 18.00 น. และ สาขา 2 โพธิ์นิมิตร หยุดทุกวันจันทร์ 09:00 น. – 18:00 น.
เบอร์โทร : 062-462-6363 และ 092-662-6363

image by https://www.facebook.com/Lynx.coffee/

14. Hint coffee

ร้านกาแฟสไตล์มินิมอลบรรยากาศสวย ๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นละมุนละไม มีมุมชิค ๆ ให้ถ่ายรูปเยอะมาก ส่วนเมนูก็มีทั้งเครื่องดื่มและขนมหลากหลายชนิด

ที่อยู่ : 178 ถ. กรุงธนบุรี แขวง คลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600
พิกัด : https://goo.gl/maps/moxvGsYiLiZzhk189
เวลาทำการ : ปิดทุกวันจันทร์ 09:30 น. – 17.30 น.
เบอร์โทร : 080-937-8762

image by https://www.facebook.com/hintcoffeeco

15. Bake It Bright

ร้านกาแฟที่ตกแต่งสุดชิค มาที่เดียวเหมือนไปถึงอังกฤษ ญี่ปุ่น และเกาหลี รับประกันมุมถ่ายรูปสวย ๆ เพียบ นอกจากนั้นยังมีเบเกอรี่โฮมเมดพร้อมกาแฟคุณภาพและเครื่องดื่มอื่น ๆ อีกมากมายไว้บริการ

ที่อยู่ : 168 ซอย กรุงธนบุรี 10 แขวง คลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600
พิกัด : https://goo.gl/maps/C1PTA8FCqu6CLPAx7
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 08:30 น. – 18.30 น.
เบอร์โทร : 097-134-7278

image by https://www.facebook.com/bakeitbright-100853175504134/

16. Billybillies

ที่นี่เป็นคาเฟ่และเวิร์กช้อปสตูดิโอ เปิดโอกาสให้มาเรียนรู้งานฝีมือและงานศิลปะไปพร้อม ๆ กับลิ้มลองเครื่องดื่มและเมนูขนมหวานสูตรพิเศษของทางร้าน

ที่อยู่ : 4453 ถ. สุขุมวิท แขวง บางนา เขตบางนา กรุงเทพมหานคร 10260
พิกัด : https://goo.gl/maps/HVDED9pPNvM7w1Gp7
เวลาทำการ : ปิดทุกวันอาทิตย์ จันทร์ – ศุกร์ 07.00 น . – 17.00 น. และ เสาร์ 09.00 น. – 18.00 น.
เบอร์โทร : 093-429-1423

image by https://www.facebook.com/billybilliesworkshop/

17. Deep Root Café

ร้านกาแฟสุดลับที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้ ที่นี่เขาเน้นใส่ใจกับความพิถีพิถันในการชงกาแฟ นอกจากนั้นยังมีอาหารและขนมอร่อย ๆ ไว้ให้ทานคู่กับกาแฟด้วย

ที่อยู่ : 255 2 ถ. สมเด็จเจ้าพระยา สมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600
พิกัด : https://goo.gl/maps/PQCSUEngXKAFyfYLA
เวลาทำการ : เปิด Walk in ทุกวันศุกร์ – วันอาทิตย์ 10.00 น . – 22.00 น.
เบอร์โทร : 095-448-0598

image by https://www.facebook.com/deeprootcafe/

18. slole garden

ที่นี่เป็นร้านกาแฟที่มีทั้งโซนภายในร้านและโซนในสวน ซึ่งในโซนสวนสามารถพาน้องหมาน้องแมวมานั่งเล่นไปพร้อม ๆ กับจิบ กาแฟอร่อย ๆ ได้ แถมยังมีเมนูเครื่องดื่มและขนมอร่อย ๆ เพียบ

ที่อยู่ : 9 โชคชัย 4 ซอย 52/1 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
พิกัด : https://goo.gl/maps/kttmkj7x7MuEHiiq9
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 09.30 น . – 18.00 น.
เบอร์โทร : 090-021-2100

image by https://www.facebook.com/slolegarden

19. HARIO CAFÉ

ร้านกาแฟที่เมนูหลากหลายให้ลิ้มลอง ซึ่งนอกจากเมนูพื้นฐานทั่วไปแล้ว เขายังมีเมนูซิกเนเจอร์ของทางร้านด้วยอีกหลายเมนู รับรองเลยว่าคุณจะติดใจ เพราะเป็นรสชาติที่ไม่เคยลองที่ไหนมาก่อน

ที่อยู่ : 291 ถ. โชคชัย 4 แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร 10230
พิกัด : https://goo.gl/maps/n71WQgDbcA2ML9LC7
เวลาทำการ : เปิดทุกวัน 06.00 น . – 22.00 น. (Chokchai 4) , จันทร์ – พฤหัสบดี 7.00 น. – 20.00 น. และ 07.00 – 21.00 ศุกร์ – อาทิตย์ (Thaniya Plaza)
เบอร์โทร : 085-480-2920

image by https://www.facebook.com/hariocafebkk

20. Blackhills BKK

ร้านกาแฟแบบสโลว์บาร์ที่ตกแต่งร้านสไตล์ญี่ปุ่นและสแกนดิเนเวียน เป็นสไตล์ที่ดูเข้ากันอย่างลงตัว แถมยังมีเมล็ดกาแฟคุณภาพดีนานาพันธุ์จากทั่วทุกมุมโลกให้เลือก ให้รสชาติพิเศษไม่เหมือนใคร

ที่อยู่ : 302 ซอย ลาดพร้าว 1 แยก 2 แขวง จอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
พิกัด : https://goo.gl/maps/WCTJtYP9KhYiuDp4A
เวลาทำการ : ปิดทุกวันอังคาร 08.00 น. – 17.00 น.
เบอร์โทร : 085-666-3788

image by https://www.bkkmenu.com/eat/we-recommend/blackhills-bkk.html

เป็นอย่างไรกันบ้างกับทั้ง 20 ร้านกาแฟลับในกรุงเทพฯ ที่เรานำมาฝาก หวังว่าจะถูกใจเพื่อน ๆ ไม่มากก็น้อย ใครที่เป็นสายชิลล์ชอบนั่งปล่อยใจดื่มกาแฟเงียบ ๆ ลองเช็กลิสต์แล้วตามไปเช็กอินให้ครบทุกร้านให้ได้นะ รับรองว่าถูกใจแน่นอน 

 

รวมที่พัก AirBnb “ราคาถูก” เชียงใหม่เที่ยวตอนรับหน้าหนาว

เมื่อย่างเข้า หน้าหนาว  เชียงใหม่  เป็นจังหวัดหนึ่งที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก เพราะมีบรรยากาศธรรมชาติและจุดเช็ดอินที่สวยงาม  ซึ่งนอกจากสถานที่ท่องเที่ยวแล้ว ก็ยังมีที่พักหลายรูปแบบให้เลือกอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังมองหา  ที่พักราคาถูก  เรามี 10 ที่พัก AirBnb ซึ่งเป็นที่พักหลากหลายสไตล์ที่เจ้าของที่พักเปิดให้เช่าราคาถูกในเชียงใหม่ มานำเสนอ ไปดูกันว่าแต่ละที่จะมีความน่าสนใจอย่างไรบ้าง

 

Sira Boutique Hotel

ที่พักซึ่งเป็นห้องแบบ Deluxe ภายในโรงแรม Sira Boutique Hotel  ที่มีบรรยากาศผ่อนคลาย ตกแต่งสไตล์ล้านนา เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งที่จอดรถ ห้องลอบบี้ โทรทัศน์ เครื่องปรับอากาศ โต๊ะทำงาน และมีห้องน้ำในตัวอีกด้วย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสุด ๆ โดยราคาของ ที่พักAirbnb อยู่ที่ประมาณ 500 บาท/คืน

พิกัด : https://goo.gl/maps/5j4XVYRVJzSXALtM8

(Image credit: https://www.facebook.com/siraboutiquehotel)

Whole Gain

ที่พักบรรยากาศอบอุ่น ไม่ว่าจะมองมุมไหนก็มีแต่ความน่ารัก ซึ่งอยู่ในรูปแบบบ้านสองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน ให้ความรู้สึกเหมือนไปนอนค้างบ้านเพื่อนได้อย่างแท้จริง โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสัญญาณ Wi-Fi โต๊ะทำงาน เครื่องปรับอากาศ ที่จอดรถ รวมไปถึงมีอาหารเช้าพร้อมเสิร์ฟและมุมพักผ่อนสบายตาอีกด้วย โดยราคา ที่พักราคาถูก  อยู่ที่ประมาณ 400 บาท/คืน

พิกัด : https://goo.gl/maps/t5QUgttR8gYezyCs8

(Image credit: https://www.booking.com/hotel/th/whole-gain-chiangmai.th.html)

Bed and Terrace

เกสต์เฮาส์ในตัวเมืองเชียงใหม่ ที่มีการตกแต่งเน้นบรรยากาศผ่อนคลาย และแสดงถึงวัฒนธรรมของชาวเอเชียได้เป็นอย่างดี เพิ่มความสดใสด้วยสีสันของเฟอร์นิเจอร์และพืชพรรณที่มีความหลากหลาย โดยตั้งอยู่ในย่านชุมชนที่มีความสงบและเต็มไปด้วยความสะดวกสบาย ไม่ไกลจากใจกลางเมือง ภายในที่พักมีทั้งสัญญาณ Wi-Fi โต๊ะทำงาน โทรทัศน์ และเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นวิวภูเขาจากที่พักได้อีกด้วย  ราคาที่พักใน เชียงใหม่  นี้อยู่ที่ 560 บาท/คืน

พิกัด : https://g.page/bedandterrace?share

(Image credit: https://www.facebook.com/bedandterrace)

Ban Kong Rao Guesthouse

เกสต์เฮาส์น่ารัก บรรยากาศผ่อนคลาย ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้และเครื่องประดับสไตล์ล้านนา ช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบและผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี รวมถึงรายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย โดยมีห้องพักแบบควีนไซส์ ที่ภายในมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้งสัญญาณอินเทอร์เน็ต ทีวี พื้นที่ทำงาน เครื่องปรับอากาศ และที่จอดรถ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นบริเวณดาดฟ้า ช่วยเติมเต็มการพักผ่อนได้ทุกเวลา โดยราคาที่พักอยู่ที่ประมาณ 500 บาท/คืน

พิกัด : https://g.page/ban-kong-rao-guesthouse?share

(Image credit: https://www.facebook.com/BanKongRao.ChiangMai)

Astra

สำหรับใครที่ชื่นชอบความสะดวกสบายสไตล์โมเดิร์น เราขอแนะนำ ที่พักAirbnb ที่เปิดให้เช่าโดยเจ้าของห้องพักที่อยู่ภายในคอนโดแอสตร้า ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดินทางไปไนท์บาซาร์ ใช้เวลาเพียง 5 นาที ที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย โดยมีทั้ง สัญญาณ Wi-Fi ห้องครัว อ่างน้ำร้อน สระว่ายน้ำ และที่จอดรถ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 990 บาท/คืน 

พิกัด : https://goo.gl/maps/VSHzEwagbiWBYCTa6

(Image credit: https://th.airbnb.com/rooms/23757994?adults=1&children=0&infants=0&pets=0&check_in=2022-12-09&check_out=2022-12-14&source_impression_id=p3_1670561846_7flkllFRpfhXJqXF)

Home @129/3

หากใครที่ชอบเดินทางท่องเที่ยวหลายคน การมองหาที่พักซึ่งมีพื้นที่ใช้สอยร่วมกันได้ย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่า เราขอแนะนำ ที่พักราคาถูก ในรูปแบบบ้านพัก โดยมีชื่อเก๋ ๆ ว่า Home @129/3 ซึ่งสามารถรองรับผู้เข้าพักได้สูงสุด 4 คน ตั้งอยู่ย่านเมืองเก่า ที่สามารถเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวได้สะดวก และสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้านก็ถูกจัดเตรียมไว้อย่างครบครัน โดยราคาของบ้านนี้อยู่ที่ 800 บาท/คืน

พิกัด : https://goo.gl/maps/853RzDCigp8qRc5R9

(Image credit: https://www.facebook.com/homeat1293)

Premier Hostel Chiang Mai

ที่พักAirbnb ใจกลางเมือง เชียงใหม่ สไตล์ลอฟท์ บรรยากาศดี มีทั้งวิวสวนและวิวริมคลอง ให้เลือกใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ภายในห้องพักมีห้องนอนที่มาพร้อมกับเตียงขนาดควีนไซส์และมีห้องนั่งเล่นในตัวด้วย  โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบทั้ง สัญญาณ Wi-Fi พื้นที่ทำงาน เครื่องปรับอากาศ และที่จอดรถ โดยราคาห้องพักอยู่ที่ประมาณ 500 บาท/คืน

พิกัด : https://goo.gl/maps/rhM6xh7KrvAUTuTJ7

(Image credit: https://www.facebook.com/profile.php?id=100076542822320)

Baan Ploy-in : ณ เมืองเก่าเชียงใหม่

ท่องเที่ยวในย่านเมืองเก่าเชียงใหม่ ได้แบบง่าย ๆ เมื่อพักผ่อนที่ Baan Ploy-in โดยละแวกนี้เป็นชุมชนเก่าที่มีความสงบ เต็มไปด้วยร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลาย ภายในห้องพักมีเตียงควันไซส์ 1 เตียง มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สัญญาณ Wi-Fi ห้องครัว ทีวี และที่จอดรถให้บริการ โดยราคา ที่พัก Airbnb อยู่ที่ ประมาณ 520 บาท/คืน

พิกัด : https://goo.gl/maps/vu2wSEp2keW4PxcS8

(Image credit: https://th.airbnb.com/rooms/16551393?adults=1&children=0&infants=0&check_in=2023-01-17&check_out=2023-01-22&source_impression_id=p3_1670562243_9INlS7q%2Fk%2FRjzFbj)

North Moat 10

สัมผัสบรรยากาศสบาย ๆ กับบ้านที่รายล้อมด้วยความอบอุ่น ที่ North Moat 10 ซึ่งตั้งอยู่บริเวณประตูช้างเผือก ซึ่งบริเวณโดยรอบรายล้อมด้วยน้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย สามารถเดินทางได้อย่างสะดวกภายในที่พักมีให้บริการทั้งสัญญาณ Wi-Fi พื้นที่ทำงาน ห้องครัว ทีวี และที่จอดรถยนต์อีกด้วย โดยราคาที่พักนี้อยู่ที่ประมาณ 650 บาท/คืน

พิกัด : https://goo.gl/maps/KhGYVrBnt9o5JQo86

(Image credit: https://th.airbnb.com/rooms/584519818198313390?_set_bev_on_new_domain=1670561639_ZGQxMDZkMGI5YWM2&source_impression_id=p3_1670562382_hqzcHhOzXERea6fz)

Ram Poeng Guesthouse

สำหรับใครที่ต้องการที่พักในแบบที่โดดเด่น ไม่เหมือนใคร เราขอแนะนำ Ram Poeng Guesthouse ซึ่งตั้งอยู่ที่ตำบลสุเทพ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 นาที ตัวอาคารเป็นบ้านสักไม้ 2 ชั้น ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น เหมาะสำหรับการอยู่เป็นครอบครัว รองรับผู้เข้าพักได้สูงสุด 5 คน ภายในประกอบด้วย ห้องพัก 2 ห้องพร้อมห้องน้ำในตัว ห้องครัวที่มีอุปกรณ์ครบครัน สัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และที่จอดรถ โดยราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,600 บาท/คืน

พิกัด: https://goo.gl/maps/XY86ZhhYTsszghjD9

(Image credit: https://th.airbnb.com/rooms/15543072?_set_bev_on_new_domain=1670561639_ZGQxMDZkMGI5YWM2&source_impression_id=p3_1670562643_kmmoDHozFoowE1%2FF&modal=PHOTO_TOUR_SCROLLABLE&modalItem=334177640)

 

ใครที่กำลังจะไปเที่ยวเชียงใหม่ อย่าลืมเลือกดู ที่พักAirbnb  เพราะมีหลายรูปแบบให้เลือกสรร ตั้งอยู่บนทำเลยอดนิยมและราคาคุ้มค่า ซึ่งนักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด โดยราคาของที่พักแต่ละที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงขึ้นอยู่กับวันที่เลือกเข้าพัก ถ้ามีแพลนจะไปเชียงใหม่ไม่ว่าจะเป็น หน้าหนาว หรือฤดูกาลไหน ๆ ก็ลองจดลิสต์เหล่านี้ไปแล้วเลือกจองกันได้เลย

 

ที่มาข้อมูล

รู้ยัง! เที่ยวญี่ปุ่นปี 2565 ไม่ต้องมีวีซ่าแล้ว

หลังจากห่างหายจากการล็อกดาวน์ช่วงโควิด-19 ไปหลายปี เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงอยากจะออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศกันใจจะขาดอยู่แล้ว ซึ่งหนึ่งในหมุดหมายปลายทางยอดนิยมที่ใคร ๆ ก็อยากไปคงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น เพราะเดินทางไปง่าย ใช้เวลาไม่นาน แถมค่าใช้จ่ายตลอดทริปไม่ได้สูงแบบการไปเที่ยวยุโรป และยิ่งตอนนี้ญี่ปุ่นกลับมาเปิดประเทศรับนักท่องเทียวแล้ว เป็นข่าวดีสำหรับคนไทยเพราะเขาเปิดให้ท่องเที่ยวแบบไม่ต้องมีวีซ่าแล้ว วันนี้ airportels จะมาชวนคุณไป เที่ยวญี่ปุ่น กัน

 

ท่องเที่ยวฉบับไม่มีวีซ่า อัปเดต โปรโมชั่น ราคาตั๋ว

แน่นอนว่าการระบาดของโควิด-19 ทำให้การท่องเที่ยวญี่ปุ่นหยุดชะงักจนถึงขั้นปิดประเทศและระงับวีซ่านักท่องเที่ยว แต่ตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ญี่ปุ่นมีนโยบายเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยวอย่างเต็มรูปแบบไม่มีการกำหนดจำนวนนักท่องเที่ยว โดยนักท่องเที่ยวทุกคนสามารถเข้าประเทศได้แบบ ฟรีวีซ่า และสามารถจองที่พัก ตั๋วเครื่องบิน จองตั๋วสถานที่ท่องเที่ยวและบริการอื่น ๆ ได้ด้วยตนเอง โดยไม่จำเป็นต้องผ่านผ่านเอเจนซี่หรือบริษัททัวร์ และสามารถท่องเที่ยวอยู่ในญี่ปุ่นได้ไม่เกิน 15 วันเงื่อนไขของการไป เที่ยวญี่ปุ่น แบบ ฟรีวีซ่า 2565 คือจะต้องได้รับวัคซีนโควิด-19 อย่างน้อย 3 เข็ม โดยต้องเป็นวัคซีนที่ทางการญี่ปุ่นรับรอง ได้แก่ Pfizer 3 เข็ม หรือ Moderna 3 เข็ม หรือ Novavax 3 เข็ม ส่วนใครที่ฉีด AstraZeneca หรือ Covaxin เป็น 2 เข็มแรก เข็มที่ 3 ต้องเป็น Pfizer หรือ Moderna หรือ Novavax ถ้าหากได้รับวัคซีนไม่ครบ 3 เข็ม จะต้องตรวจ RT-PCR ในเวลาไม่เกิน 72 ชั่วโมง ก่อนเดินทางมาถึงญี่ปุ่น เมื่อเช็กตัวเองว่าฉีดวัคซีนครบแล้วก็ถึงเวลาแพ็กกระเป๋าและจองตั๋วเครื่องบินกันได้เลย วันนี้เรามี โปรโมชั่น ตั๋วเครื่องบินมาแนะนำ

  • เริ่มที่สายการบิน Airasia จัดโปรในราคาสมาชิก Airasia เริ่มต้นที่ 1,580 บาท สำหรับเที่ยวบินต่างประเทศหนึ่งเที่ยวบิน แน่นอนว่ามีไปลงถึงที่ญี่ปุ่น เรียกได้ว่าสะดวกสบายและคุ้มค่ามาก
  • สายการบินเวียดเจ็ต บินตรงจากกรุงเทพฯ ไปลงฟูโกโอกะเริ่มต้นที่ 3,999 บาท 
  • ส่วนสายการบินไทยก็มี โปรโมชั่น ราคาพิเศษพร้อมกับฟรีน้ำหนักสัมภาระ 30 กิโลกรัม แถมยังสามารถผ่อนชำระ 0% นาน 3 เดือน 
  • สายการบิน Peach Aviation เปิดเส้นทางใหม่เริ่มต้นวันที่ 8 ธันวาคม 2565 ระหว่าง กรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่ โอซาก้า (คันไซ) ในราคาเริ่มต้นที่ 3,190 บาท 
  • สายการบิน ZIPAIR ในเครือเดียวกับ Japan Airlines ก็เปิดราคาเที่ยวบินเดินทางก่อนวันที่ 3 มีนาคม 2566 ในราคาตั๋วต่อเที่ยวเริ่มต้นที่ 4,950 บาท
 

เมืองน่าท่องเที่ยว ในปีนี้ พร้อมที่ถ่ายภาพมุมฮิต

ญี่ปุ่นมีเมืองสวย ๆ น่าไปเที่ยวมากมายหลายเมือง แต่ละเมืองก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว วันนี้เราก็มี 3 เมืองที่ห้ามพลาดเมื่อคุณไปเยือนญี่ปุ่น

1. โตเกียว

ไปถึงญี่ปุ่นทั้งที ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปเยือนเมืองโตเกียวให้ได้ สถานที่ยอดฮิตที่ต้องไปถ่ายรูปเช็กอินให้ได้เลยก็คือ วัดเซ็นโซจิ เป็นวัดเก่าแก่ในโตเกียว และยังมีโคมไฟสีแดงขนาดยักษ์เป็นมุมถ่ายรูปสุดฮิตที่ใครไปก็จะต้องแชะภาพสวย ๆ กลับมา นอกจากนั้นแล้วที่โตเกียวยังมีย่านการค้าฮิป ๆ อีกมากมาย เช่น ฮาราจูกุ ชินจูกุ ชิบูย่า ฯลฯ

2. ยามานาชิ

ที่นี่เป็นอีกหนึ่ง เมืองน่าท่องเที่ยว อยู่ไม่ไกลจากโตเกียว นักท่องเที่ยวมาที่นี่เพื่อมาชมความงามของภูเขาไฟฟูจิ ซึ่งถือว่าเป็นแลนด์มาร์กที่ถ่ายรูปมุมฮิตอีกแห่งหนึ่ง นอกจากนั้นแล้วยังมีทะเลสาบคาวากุจิโกะ ทะเลสาบยามานากาโกะ ทะเลสาบไซโกะ ทะเลสาบโชจิโกะ และทะเลสาบโมโตซุโกะที่สวยงามไม่แพ้กัน

3. โอซาก้า

โอซาก้าถือเป็นอีกหนึ่ง เมืองน่าท่องเที่ยว ที่นี่มีจุดถ่ายรูปยอดฮิตอย่างป้ายไฟกูลิโกะริมแม่น้ำโดทงโบริที่ใครไปก็ต้องได้ถ่ายรูปกลับมาทุกคน นอกจากนั้นแล้วยังมีพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ และปราสาทโอซาก้า ที่เป็น 1 ใน 3 ปราสาทที่มีชื่อเสียงที่สุดในญี่ปุ่นรอให้ไปเช็กอินกัน

 

คาเฟ่ที่ต้องไปเช็กอิน

1. BLUE BOTTLE COFFEE

คาเฟ่โลโก้รูปขวดฟ้าชื่อดังที่ใครไปญี่ปุ่นก็ต้องไปเช็กอิน ที่นี่มีมุมสวย ๆ ไว้ให้ถ่ายรูปเพียบ แถมเมนูเครื่องดื่มยังรสชาติอร่อยกลมกล่อมด้วย

(Image credit: https://www.archdaily.com/975342/blue-bottle-coffee-shibuya-cafe-keiji-ashizawa-design)

2. About Life Coffee Brewers

คาเฟ่เล็ก ๆ ในย่านชิบูย่า เป็นคาเฟ่ริมทางที่ไม่มีที่นั่ง แต่จุดเด่นของที่นี่คือตั้งอยู่มุมตึกซึ่งฮิปมาก ๆ เหมาะกับการมาถ่ายรูปชิค ๆ ส่วนเมนูเครื่องดื่มก็มีหลากหลายชนิด รสชาติดีมาก ๆ 

(Image credit: https://ploybites.wordpress.com/2017/05/08/tokyo-cafe-about-life-coffee-brewers-shibuya-tokyo/)

3. DUMBO Doughnuts and Coffee

ที่นี่มีจุดเด่นตรงที่โดนัทขนาดบิ๊กเบิ้ม รสชาติเยี่ยม แป้งเหนียวนุ่มกัดแล้วละลายในปาก กินคู่กับเครื่องดื่มรสกลมกล่อมของทางร้านยิ่งเข้ากันมาก ๆ เลย 

4. Colombin Harajuku Salon

ร้านคาเฟ่สไตล์ยุโรป ขนมและเครื่องดื่มของที่ร้านจะเป็นสไตล์ฝรั่งเศส โดยมีจุดเด่นตรงที่น้ำผึ้งเลี้ยงเอง เป็นแบบออร์แกนิก รสชาติหอมหวานละมุนแบบลงตัว

(Image credit: https://omotesando.or.jp/shop/60/)

5. Onibus Coffee

คาเฟ่สไตล์มินิมอลตั้งอยู่ริมสนามเด็กเล่นและรางรถไฟ มีเพียงช่องหน้าต่างเปิดออกมาสำหรับสั่งและรับออเดอร์ เหมาะกับการมาถ่ายรูปเช็กอินแบบชิค ๆ

(Image credit: https://ploybites.wordpress.com/2017/05/08/tokyo-cafe-about-life-coffee-brewers-shibuya-tokyo/)

 

ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการท่องเที่ยวญี่ปุ่นปี 2022 แบบรวบรัดที่เรานำมาฝาก ช่วงปลายปีนี้ถ้าเพื่อน ๆ ยังไม่มีแพลนไปเที่ยวที่ไหน ญี่ปุ่นเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ ยิ่งเขาเปิด ฟรีวีซ่า ทั้งทีแบบนี้ ไม่รีบจองตั๋วไม่ได้แล้ว

 

ที่มาข้อมูล

ติดต่อเรา

AIRPORTELs Company Limited
29/217, PruksaVille 64,
Saimai Rd., Saimai Sub-district,
Saimai District, Bangkok, Thailand, 10110

AIRPORTELs Company Limited
29/217, PruksaVille 64,
Saimai Rd., Saimai Sub-district,
Saimai District, Bangkok, Thailand, 10110

Contact Form

    ชื่อ

    อีเมล

    บริษัท

    ข้อความ