หน้าหนาวใกล้เข้ามาแล้ว ยังงี้ก็ต้องเตรียมจัดทริปไปชมทะเลหมอกสัมผัสกับลมหนาวกันสักหน่อย ถ้าหากใครยังไม่มีไอเดียว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในช่วงหน้านี้เรามี เที่ยวหน้าหนาว 10 ที่มาฝากกัน จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้นไปดูกันเลยดีกว่า
1. ดอยอินทนนท์
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของการเที่ยวหน้าหนาว เพราะเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน ประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร บริเวณโดยรอบเป็นป่าดิบชื้นที่มีต้นไม้นานาพันธุ์ บนยอดดอยอากาศหนาวเย็นมากถึงขั้นที่ว่าเกิดแม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งก็มีมาแล้ว ใครที่อยากจะออกไปสัมผัสทะเลหมอกท้าความหนาวพลาดไม่ได้เลย ด้านบนมีที่พักหลากหลายแบบทั้งลานกางเต็นท์ โฮมสเตย์ รีสอร์ต และที่พักของอุทยาน คุณสามารถเลือกได้ตามรสนิยม
พิกัด : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตู้ ปณ.2 119 หมู่7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160
(อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่)
เวลาเปิด – ปิด อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
เวลา : 05:00 – 16:00
2. ปาย
สถานที่ท่องเที่ยวคลาสสิคที่ฮอตฮิตตลอดกาล ไม่ว่าเวลาผ่านไปไหนแค่ไหนมนต์เสน่ห์ของปายก็ไม่เคยเหือดหาย ที่นี่เป็นหมู่บ้านในหุบเขาที่อากาศเย็นสบายทั้งปียิ่งในหน้าหนาวยิ่งอากาศดีมาก ๆ แถมยังมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้ไปเปิดประสบการณ์ ยามเย็นก็มีถนนคนเดินเป็นตลาดขายของกินของที่ระลึกให้ได้เลือกชิมเลือกช้อปมากมาย
3. ดอยเสมอดาว
สถานที่ท้าลมหนาวชมทะเลหมอกที่มาแรงในจังหวัดน่าน ที่นี่เป็นยอดดอยที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ สามารถหมอกเห็นทะเลหมอกยามเช้าได้แบบเต็มตา ที่นี่มีบ้านพักให้บริการ นอกจากนั้นยังมีลานกางเต็นท์ให้บริการสำหรับคนลุย ๆ ด้านบนมีร้านอาหารไว้บริการไฮไลท์เด็ดเลยก็คือการนั่งกินหมูกระทะท้าลมหนาวพร้อมกับนอนดูแสงดาวยามค่ำคืนฟินสุด ๆ ไปเลย
พิกัด : อช.ศรีน่าน ดอยเสมอดาว อ.นาน้อย จ.น่าน
เต็นท์ของอุทยานกางไว้ให้แล้วทั้งสองจุด ไม่ต้องเข้าไปจองในเว็บไซต์ของอุทยานฯ
4. ภูทับเบิก
แลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้งที่มีพืชที่ทางการเกษตรปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศไทย ยิ่งในช่วงหน้าหนาวตั้งแต่ตุลาคม – ธันวาคม เป็นช่วงที่กะหล่ำปลีกำลังสวยเลย คุณจะได้เห็นไร่กะหล่ำปลีแบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา แถมตอนเช้า ๆ ยังสามารถมองเห็นทะเลหมอกหนาตาได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว
พิกัด : ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล จังหวัดเพชรบูรณ์
5. เชียงคาน
อีกหนึ่งสถานที่ เช็คอิน ช่วงหน้าหนาวสุดคลาสสิคอีกที่หนึ่ง เป็นการท่องเที่ยวประเภทเสพวิถีชีวิตของคนพื้นที่ ชุมชนที่นี่เป็นชุมชนเล็ก ๆ ริมฝั่งโขง อากาศเย็นสบายตลอดปีแต่ให้บรรยากาศอบอุ่นของรอยยิ้มผู้คน ยิ่งถ้ามาช่วงหน้าหนาวยิ่งเย็นสบาย สามารถมองเห็นทะเลหมอกเหนือแม่น้ำโขงในยามเช้า ไฮไลท์สำคัญก็คือการได้ตักบาตรข้าวเหนียวริมฝั่งโขง ใครอยากไปใช้ชีวิตช้า ๆ แบบสโลว์ไลฟ์ที่นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด
6. เขาใหญ่
สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าหนาวไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพ เป็นอุทยานแห่งชาติที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งเลยทั้งยังเป็นมรดกโลกด้วย ที่สำคัญคือเดินทางสะดวก เดินทางออกจากกรุงเทพที่พอถึงสระบุรีแล้วเลี้ยวขวาใช้ถนนเส้นมิตรภาพเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็ถึงเขาใหญ่แล้ว อากาศเย็นสบาย ยามเช้าสามารถออกมาชมหมอกบาง ๆ พร้อมสูดรับโอโซนกันให้เต็มปอด ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เยี่ยมชมไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ สวนสัตว์แบบ Exotic ไร่องุ่น ร้านอาหารอร่อยๆ เพียบ แถมที่พักก็มีหลากหลายสไตล์ทั้งแบบขาลุยนอนกางเต็นท์ใกล้ชิดธรรมชาติไปจนถึงรีสอร์ทหรูที่ให้บรรยากาศราวกับอยู่ต่างประเทศ
พิกัด : จังหวัดนครราชสีมา
7. ดอยช้าง
ดอยช้างเป็นอีกหมุดหมายหนึ่งของการไปเที่ยวหน้าหนาว เพราะค่อนข้างสะดวกสบายเดินทางง่าย ต่างจากยอดดอยอื่น ๆ ที่มักต้องเดินทางสมบุกสมบันและยังมีไฟฟ้าใช้จำกัด ที่ดอยช้างยังเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ดีที่สุดในประเทศ จึงเหมาะกับการไปเที่ยวชิลล์ ๆ ทั้งครอบครัว ด้านบนมีที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟให้บริการหลากหลายร้าน พิเศษตรงที่คุณจะได้ดื่มกาแฟที่ปลูกสด ๆ กันบนนี้เลย กาแฟนทุกแก้วผ่านการคั่วบดด้วยวิธีแบบดั้งเดิม รับรองเลยว่าฟินสุด
พิกัด : จังหวัดเชียงราย
8. ม่อนแจ่ม
ใครที่อยากไปนอนเต็นท์สัมผัสกับอากาศหนาวม่อนแจ่มเป็นที่ที่ไม่ควรพลาด เพราะมีลานกางเต็นท์ที่มีชื่อเสียงที่สุด ให้คุณได้นอนชมดาวได้เต็มตาทั่วทั้งฟ้ายามค่ำคืน เช้ามาก็มีทะเลหมอกมาให้ชมถึงที่ วิวก็สวยงามมากมองเห็นนาขั้นบันได ไร่ส้ม สวนดอกไม้นานาพันธุ์ที่เบ่งบานแข่งสีสันกันตระการตา เหมาะกับการไปถ่ายรูป เช็คอิน อัพลงโซเชียลก็เรียกยอดไลค์ยอดแชร์ได้ไม่น้อย
พิกัด : ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ 50180
เวลาเปิด – ปิด : 7.00 – 19.00
ตั๋วเข้าชมม่อนแจ่ม : มอนแจ่มไม่เก็บค่าเข้าชม แต่เข้าชมไร่สตรอเบอรี่ ปลายฟ้าต้องเก็บค่าเข้าชม 20 บาท
9. ปางอุ๋ง
สถานที่ท่องเที่ยว unseen ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนขึ้นชื่อว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เพราะบรรยากาศเป็นอ่างเก็บที่โอบรอบไปด้วยป่าสนเขาบริเวณกว้าง ราวกับทะเลสาบในแถบยุโรปยังไงยังงั้น ซึ่งสามารถไปนอนกางเต็นท์บนลานสนสัมผัสความหนาวได้แบบใกล้ชิดกับธรรมชาติ นั่งดูหงส์คลอเคลียกันอยู่บนเหนือน้ำแบบชิลล์ ๆ หรือใครจะล่องแพชมความงามของธรรมชาติก็น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ไม่น้อย
พิกัด : โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ตั้งอยู่ในหมู่บ้านรวมไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
10. บ้านนาคูหา จังหวัดแพร่
แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดแพร่ที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ที่นี่อากาศดีมากเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 7 ในประเทศไทย หมุดหมายแรกเลยก็คือวัดนาคูหาที่มีพระพุทธองค์ใหญ่สีทองตั้งตระหง่านโอบล้อมไปด้วยนาข้าวและภูเขา มีสะพานไม้ไผ่เดินข้ามนาข้าวให้แวะเวียนไปถ่ายรูป ไฮท์ไลต์ของที่นี่ก็คือการมาเก็บสาหร่ายเทาซึ่งเป็นสาหร่ายน้ำจืดชนิดหนึ่งนำไปประกอบอาหาร นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมการย้อมผ้าครามและทำผ้ามัดย้อมให้ได้ลงมือทำด้วย
พิกัด : บ้านนาคูหา หมู่5 ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่
เวลาเปิด – ปิด : 06.00 – 18.00 น.
เป็นอย่างไรบ้างกับ 10 ที่ เที่ยวหน้าหนาว ที่เรานำมาฝาก ยังไงหนาวนี้ก็ตามไปเช็คอินกันให้ได้นะ เหน็ดเหนื่อยทำงานมาทั้งปีก็ถึงเวลาออกไปท่องเที่ยวให้รางวัลตัวเองกันบ้างแล้ว รับรองเลยว่าคุณจะได้ชาร์จพลังใจท่ามกลางธรรมชาติและไอหมอกได้อย่างเต็มที่
ที่มาข้อมูล :