รวม 15 จุดชมวิวทะเลหมอก เที่ยวได้ตลอดทั้งปี ไม่ต้องรอหน้าหนาว!

สำหรับใครที่ชื่นชอบการขึ้นเขา เพื่อไปสัมผัสธรรมชาติ จุดชมวิวทะเลหมอกนับเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู เพียงแค่เลือกไปให้ถูกจังหวะของที่เที่ยวทะเลหมอกสถานที่นั้นเป็นพอ เพราะการไปชมทะเลหมอกไม่จำเป็นที่จะต้องรอหน้าหนาวเสมอไป ทาง AIRPORTELs จึงได้รวบรวมจุดชมวิวทะเลหมอกทั่วไทย เที่ยวได้ตลอดทั้งปีมา มีที่ไหนบ้างไปดูกัน

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าร้อน

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าร้อน

เหมาะสำหรับใครที่อยากจะเที่ยวทะเลหมอกหน้าร้อน เพื่อสัมผัสธรรมชาติผ่านจุดชมวิวที่สูง จนสามารถเห็นบรรยากาศได้โดยรอบ 

ซึ่งการเที่ยวฤดูร้อนเพื่อชมทะเลหมอกมีจุดเด่นตรงที่ไม่ต้องรอหน้าฝนหรือหน้าหนาว ทุกคนก็สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศเหล่านั้นได้ หากใครเบื่อแล้วที่ฤดูร้อนต้องเอาแต่เที่ยวทะเล ไปทีไรก็ร้อนเกินไป ไม่ช่วยให้คลายร้อนสักเท่าไร ขอให้มาเปิดประสบการณ์ใหม่ในหน้าร้อนด้วยการชมทะเลหมอกกันดีกว่า

1. เขาพะเนินทุ่ง แก่งกระจาน

จุดชมวิวทะเลหมอก เขาพะเนินทุ่ง ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นับว่าเป็นจุดชมวิวที่เหมาะแก่การมารับไอเย็นๆ ชมทะเลหมอกไกลๆ อย่างสุดลูกหูลูกตา เพราะแก่งกระจานขึ้นชื่อว่าเป็นอุทยานที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีบรรยากาศที่ดีตลอดทั้งปี แม้มาในฤดูร้อนก็ไม่หวั่น ในส่วนของสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 900 เมตร แต่ถ้าอยากไปจุดสูงสุดของเขาจะอยู่ที่ 1,207 เมตร

จุดเด่นของเขาพะเนินทุ่ง นับว่าเป็นสถานที่ที่ท่องเที่ยวที่ดี ใครหลายคนต่างมากันแล้วได้ความประทับใจกลับไป เนื่องด้วยอากาศที่สดชื่นและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ หากมาจุดชมวิวในตอนเช้าก็สามารถเห็นทะเลหมอกได้ไม่ยาก จะมีทั้งเส้นทางที่เหมาะแก่การขับรถ และเส้นทางที่เหมาะกับการเดินขึ้นเขา

  • ที่ตั้ง – อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 76170
  • พิกัด – Khao Phanoen Thung
  • เวลาเปิด-ปิด –  ช่วงเวลา 05:30 – 07:30 น. และช่วงเวลา 13:00 – 15:00 น.

2. ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา

สำหรับใครที่กำลังมองหาทะเลหมอกหน้าร้อน ที่สามารถลอยตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติได้แบบ 360 องศา ขอให้แวะมาที่จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ที่จะมีพื้นที่ที่เป็นสกายวอล์ค ที่ทุกคนสามารถมายืนและชมวิวรอบทิศได้ โดยความสูงมากกว่า 2,038 ฟุต

จุดเด่นของทะเลหมอกอัยเยอร์เวง นับว่าเป็นจุดที่มีการสร้างสกายวอล์คขึ้นมา เพื่อให้มีบรรยากาศที่แตกต่างจากเวลาไปเที่ยวเขาที่อื่นๆ เพราะตัวสกายวอล์คจะเป็นทางเดินที่ทอดยาวไปด้วยกระจก และเมื่อไปถึงปลายทางก็ทำให้ชมทะเลหมอกได้ชัดเจน และที่แห่งนี้ก็มีอีกหลายชั้นให้ขึ้นชมทะเลหมอกได้อีกด้วย

อุทยานแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

3. อุทยานแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องบอกเลยว่าไม่ไกลจากกรุงเทพ นั่นก็คืออุทยานแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ นับว่าเป็นที่เที่ยวทะเลหมอกยอดฮิต ที่ใครหลายคนเลือกมา แม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนก็สามารถสัมผัสบรรยากาศไอเย็นและรับชมทะเลหมอกได้เป็นอย่างดี

จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติเขาค้อ เนื่องจากว่าเป็นอุทยานดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากการชมทะเลหมอกแล้วยังมีอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชมถ้ำ น้ำตก หน้าผา รวมไปถึงธรรมชาติที่มีความหลากหลาย จึงเหมาะมากกับคนที่ชื่นชอบการเดินป่า

  • ที่ตั้ง – 67 ม.1 ต ตำบลสะเดาะพง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 67270
  • พิกัด – อุทยานแห่งชาติเขาค้อ
  • เวลาเปิด-ปิด – เปิดทุกวัน 05:30 น. – 19:00 น

4. ภูตาจอ จังหวัดพังงา

ถ้าหากใครไปภาคใต้คงจะนึกถึงทะเลก่อน แต่ก็ต้องบอกว่าจุดชมทะเลหมอกหน้าร้อนอย่างภูตาจอ จังหวัดพังงาก็มีความโดดเด่นไม่แพ้ที่อื่นๆ ด้วยความสูงกว่า 1,350 เมตร ที่สามารถชมทะเลหมอกแม้อยู่ในช่วงฤดูร้อน หากใครมาพังงาแต่ไม่มาที่นี่ต้องบอกเลยว่าพลาดมาก

สำหรับจุดเด่นของที่นี่จะมีดีในเรื่องจุดชมวิวที่สามารถเห็นธรรมชาติสุดลูกหูลูกตา แถมบริเวณภูตาจอยังสามารถมากางเต็นท์ค้างคืน เพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกได้ ซึ่งเหมาะแก่การมาเที่ยวกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรักได้เป็นอย่างดี

5. กุนุงซิลิปัต จังหวัดยะลา

สุดท้ายสำหรับจุดชมวิวทะเลหมอกที่เหมาะแก่การเที่ยวในหน้าร้อน ขอแนะนำกุนุงซิลิปัต จังหวัดยะลา เป็นภูเขาหินที่มีความสูงประมาณ 21 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าความสูงน้อยกว่าจุดชมวิวในจังหวัดอื่นๆ เป็นอย่างมาก แต่ต้องบอกว่าถึงแม้จะไม่สูงแต่ของเขาก็ดีจริงๆ เพราะมาฤดูร้อนก็ยังสามารถเห็นหมอกได้โดยง่าย

จุดชมวิวกุนุงชิลิปัต จุดเด่นจะอยู่ที่เป็นเขาหินที่สามารถหมุนได้รอบทิศแบบ 360 องศา หากใครอยากจะมาไขว่คว้าหาความเย็นก็เหมาะมากที่จะมาในช่วงกุมภาพันธ์และเมษายน ถ้าหากใครสนใจที่จะไปเตรียมเสบียงไปให้พร้อมแล้วลุยได้เลย

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าฝน

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าฝน

เชื่อเลยว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนจะมีจุดชมวิวทะเลหมอกหลายจุดมากๆ โดยบรรยากาศนั้นจะได้ความชื้นแต่ไม่หนาวจนเกินไป ได้กลิ่นอายและใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างชัดเจน ถ้าหากใครไปตอนฝนตกก็อาจจะเซ็งๆ ที่ไม่ได้ออกไปไหน แต่ถ้าการขึ้นไปยังจุดชมวิวเพื่อชมทะเลหมอกหน้าฝน นับเป็นที่ถูกใจของคนไม่น้อยเลยทีเดียว ไปดูพร้อมกันเลยดีกว่าว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง

6. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่

ที่เที่ยวทะเลหมอก ไม่ว่าจะปีไหนๆ ก็ยังเป็นที่นิยมเสมอ อย่างม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มียอดเขาที่สูงราว 1,350 เมตร ที่ทุกคนสามารถนั่งรถเพื่อไปยังจุดชมวิวที่สูงที่สุดเพื่อให้ทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน เมื่อผ่านป่าเขาจะสามารถสัมผัสถึงความเย็นของไอหมอกได้เป็นอย่างดี

จุดเด่นของม่อนแจ่ม นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ใครหลายคนต่างนิยมมาท่องเที่ยวกัน ดังนั้นที่พักจึงมีหลากหลายแบบ ใครสะดวกแบบไหนเลือกพักแบบนั้นได้เลย นอกจากนี้ยังมีชุมชนที่เป็นตลาด พร้อมกับสวนดอกไม้สวยๆ ที่ผลิดอก และกิจกรรมท้าทายอื่นๆ อีกมากมาย

  • ที่ตั้ง – ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 50180
  • พิกัด – ม่อนแจ่ม
  • เวลาเปิด-ปิด – 07:00 – 20:00 น.

7. เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี

หากใครที่ชื่นชอบมาเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรี ถามหาถึงทะเลหมอกหน้าฝน ก็ขอแนะนำเนินช้างศึกซึ่งเป็นภูเขาสูงราว 1,053 เมตร วิวที่ทุกคนจะได้เห็นเป็นวิวที่มีภูเขาสลับทับซ้อนกันไปมาไกลๆ ทำให้เห็นวิวกว้างที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ ดื่มด่ำกับทะเลหมอกได้อย่างเต็มที่

จุดเด่นของที่นี่จะเห็นบรรยากาศที่ไกลสุดลูกหูลูกตาในช่วงหน้าฝน นอกจากนี้ยังได้เห็นเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ที่เชื่อมกับทางไทยเราได้อีกด้วย นอกจากนี้ที่แห่งนี้เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ได้ทั้งตอนขึ้นและตอนตกดิน สามารถนำเต็นท์มากางนอนได้ด้วย

  • ที่ตั้ง – ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
  • พิกัด – เนินช้างศึก
  • เวลาเปิด-ปิด – 05:30-18:30 น.
ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

8. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์

สำหรับแลนด์มาร์กจุดชมวิวทะเลหมอก ในช่วงหน้าฝนที่ดีที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นภูทับเบิก ที่ในปัจจุบันนี้นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นเลิศที่ให้เราได้สัมผัสกับลมหนาวและไอชื้นในช่วงหน้าฝนได้เป็นอย่างดี โดยที่ภูทับเบิกมีความสูงอยู่ที่ 1,768 เมตร

จุดเด่นของภูทับเบิก ที่นี่มีชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ ทำให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น และที่สำคัญยังมีพื้นที่ปลูกกะหล่ำยาวเหยียดที่สามารถมองเห็นได้แบบสุดลูกหูลูกตา หากใครได้มาที่นี่รับรองติดใจแน่นอน เพราะไม่ได้มีเพียงแค่ร้านอาหาร ตลาด แต่ยังมีจุดที่สามารถกางเต็นท์ได้อีกด้วย

  • ที่ตั้ง – หมู่ที่ 14 ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ 42120
  • พิกัด – ภูทับเบิก
  • เวลาเปิด-ปิด – 

9. ดอยผาตั้ง จังหวัดเชียงราย

การไปโซนภาคเหนือช่วงหน้าฝน สถานที่ที่เหมาะแก่การเป็นที่เที่ยวทะเลหมอก ก็ขอแนะนำกับดอยผาตั้งที่มีความสูงอยู่ที่ 1,800 เมตร โดยแนะนำว่าให้ขับรถไปกัน เพื่อให้ได้แวะชมสถานที่ท่องเที่ยวหรือจุดชมวิวต่างๆ ในมุมที่แตกต่างกัน

จุดเด่นของที่นี่คงหนีไม่พ้นการที่ได้อยู่เหนือสุดของวิวทิวทัศน์ แม้แต่ทะเลหมอกก็ยังอยู่ใต้เท้าเราได้ ทำให้ได้ฟิลลิ่งอีกแบบที่แตกต่างจากที่อื่นๆ

  • ที่ตั้ง –  17 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 57310
  • พิกัด – ดอยผาตั้ง
  • เวลาเปิด-ปิด – เปิดทุกวัน 05:00 น. – 18:30 น.

10. ภูทอก จังหวัดเลย

ที่สุดท้ายกับการแนะนำจุดชมวิวทะเลหมอกในช่วงหน้าฝน ขอแนะนำให้รู้จักกับภูทอก นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความน่าสนใจ เพราะเป็นภูเขาที่ตั้งโดดเดี่ยวอยู่บริเวณนั้น เมื่อได้ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด มองลงมาจึงเห็นทะเลหมอกที่อยู่เบื้องล่าง

จุดเด่นของที่นี่จะได้วิวที่แตกต่างจากที่อื่น เพราะไม่มีภูเขาลูกอื่นๆ มาโดดเด่นเหนือภูทอกแห่งนี้ ถ้าใครอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นผ่านสายหมอกขอแนะนำให้มาที่นี่เลย นอกจากนี้ยังเป็นดินแดนที่เชื่อมต่อระหว่างไทย – ลาวด้วยนะ

  • ที่ตั้ง – ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย 42110
  • พิกัด – Phu Thok
  • เวลาเปิด-ปิด – เปิดทุกวัน 05:00-17:00 น.
จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าหนาว

จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าหนาว

แน่นอนว่าฤดูหนาวนับว่าเป็นฤดูที่ฮอตฮิตที่สุดแก่การขึ้นเขา เพราะทุกคนจะได้สัมผัสบรรยากาศหนาวๆ กับวิวธรรมชาติสวยๆ โดยเฉพาะทะเลหมอกหน้าหนาวที่ใครหลายคนถึงกับยกนิ้วให้ ไม่เพียงแต่มีบรรยากาศที่ดีเลิศ แต่เพราะการขึ้นเขาในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดด้วย และหากอยากเก็บภาพความประทับใจของทะเลหมอกหนา พระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตก แนะนำว่าให้มาฤดูนี้ มีครบอย่างแน่นอน ว่าแต่จะแนะนำที่ไหนบ้างนั้น ตามไปอ่านกัน

11. อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย

อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า นับว่าเป็นจุดชมวิวทะเลหมอก ที่ใครหลายคนต่างรู้จัก เพราะเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงรายเป็นอย่างมาก มีความสูงตั้งแต่ 1,200-1,628 เมตร ซึ่งถือเป็นจุดที่สูงมากๆ จึงทำให้เห็นหมอกได้อย่างชัดเจน

จุดเด่นของที่นี่คงเป็นเอกลักษณ์ของเขาที่มีบางส่วนชี้ขึ้นฟ้าเลยถูกเรียกว่าภูชี้ฟ้า หากใครอยากอยู่เหนือหมอก และมองไปเบื้องล่างเห็นดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นมา รับรองว่าประสบการณ์นี้จะเป็นที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน

  • ที่ตั้ง – 3/1 หมู่ที่ 24 ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย 57160
  • พิกัด – Phu Chifa
  • เวลาเปิด-ปิด – 04:30 – 18:00 น.

12. กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

ทะเลหมอกหน้าหนาวที่โดดเด่นในเชียงใหม่ขอแนะนำให้ลองมาที่กิ่วแม่ปาน ความสูงประมาณ 2,200 เมตร ที่เหมาะแก่การมาเที่ยวและชมทะเลหมอกเป็นอย่างมาก โดยที่นี่ก็มีหลายจุดให้ได้ไปชมทะเลหมอกด้วยกัน สามารถเลือกหามุมดีๆ และถ่ายรูปกลับไปรับรองประทับใจไม่รู้ลืม

จุดเด่นของกิ่วแม่ปาน นับเป็นที่ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จึงทำให้มีพื้นที่เที่ยวที่หลากหลาย แต่ที่สุดแล้วคงหนีไม่พ้นการเดินขึ้นเขา ที่จะต้องใช้พละกำลังของตัวเอง เพื่อไปชมวิวทะเลหมอกที่ด้านบนสุดเหนือตัวเองได้

  • ที่ตั้ง – อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตู้ ป.ณ.2 หมู่ 7 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160
  • พิกัด – กิ่วแม่ปาน
  • เวลาเปิด-ปิด – 06:00-16:00 น.
ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

13. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน

สำหรับใครที่อยากจะหาที่เที่ยวทะเลหมอก เพื่อมองวิวท้องฟ้าและมองทะเลหมอกได้ในเวลาเดียวกัน ขอแนะนำให้รู้จักดอยเสมอดาว ที่มีความสูงอยู่ที่ 888 เมตร ที่ถือว่าไม่สูงมากกว่าที่อื่นๆ สักเท่าไรแต่ต้องบอกว่าเป็นดอยที่มีเสน่ห์เหลือล้น

ดอยเสมอดาว เหมาะกับการมาค้างคืนเพื่อชมดาวยามค่ำคืนแบบใกล้ชิด ในขณะเดียวกันยามเช้าก็จะเห็นทะเลหมอก พร้อมกับเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้แบบ 360 องศา

  • ที่ตั้ง – ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150
  • พิกัด – ดอยเสมอดาว
  • เวลาเปิด-ปิด – เปิดตลอด

14. ภูลังกา จังหวัดพะเยา

สำหรับใครที่กำลังมองหาทะเลหมอกหน้าหนาว ที่อยู่ใกล้กับแหล่งแม่น้ำ ขอแนะนำให้ลองมาเที่ยวที่ภูลังกา ที่มีความสูงอยู่ที่ 1,720 เมตร ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากมายหลายอย่าง

จุดเด่นของการมาที่นี่เหมาะมากแก่การเดินป่า เดินขึ้นเขาเพื่อชมธรรมชาติที่ลายล้อม ดอกไม้นานาชนิด และสัตว์ป่าต่างๆ เหมาะกับสายผจญถัยเป็นอย่างมาก

  • ที่ตั้ง – วนอุทยานภูลังกา ตำบลช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา 56140
  • พิกัด – วนอุทยานภูลังกา
  • เวลาเปิด-ปิด – 06:00 – 18:00 น.

15. ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่

สำหรับที่สุดท้ายที่นับว่ามีชื่อเสียงโด่งดัง อย่างดอยอ่างขางที่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกมีความสูงโดยค่าเฉลี่ย อยู่ที่ 1,400 เมตร ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนจะไปยังจุดไหนๆ เพื่อไปรับชมความงามของทะเลหมอก

จุดเด่นของดอยอ่างขาง ให้คุณได้สามารถมาสัมผัสลมหนาว สวนดอกไม้ พืชผัก ผลไม้ เหมือนได้มาต่างประเทศ สำหรับที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่ใครหลายคนเลือกมา เพราะมีความสะดวกสบาย และสิ่งต่างๆ ที่ครบครันกว่าที่อื่นๆ

  • ที่ตั้ง – ตั้งอยู่บนทิวเขาแดนลาว ตำบลแม่สูน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 50320
  • พิกัด – ดอยอ่างขาง 
  • เวลาเปิด-ปิด – 
แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด

แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด

สำหรับใครที่มีแพลนจะเที่ยวล่วงหน้าภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะภาคกลาง เหนือ ใต้ หรือจะไปอีสาน ทาง AIRPORTELs  มีบริการส่งกระเป๋าล่วงหน้าไปยังจุดหมาย เพื่อที่ว่าคุณจะได้ไม่จำเป็นต้องรีบเตรียมกระเป๋าหรือต้องแบกกระเป๋าอย่างเร่งรีบ 

หากมีการวางแผนล่วงหน้าและเลือกชุดที่ต้องการใส่ไปเที่ยวแพ็กลงกระเป๋าเรียบร้อย สามารถนำกระเป๋ามาฝากไว้ที่เรา เรายินดีพร้อมส่งกระเป๋าไปล่วงหน้า เพื่อให้เพิ่มความสะดวกสบายแก่การท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น 

สรุป

ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนอาจจะได้คำตอบแล้วว่าควรไปดูทะเลหมอกที่ไหนดี เพราะไม่ว่าจะไปฤดูไหนก็มี จุดชมวิวทะเลหมอก บรรยากาศชั้นเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องไปเฉพาะฤดูหนาวแต่อย่างใด ส่วนใครต้องการเที่ยวแบบสบายๆ ไม่ต้องแบกกระเป๋าให้เหนื่อย ให้เมื่อย สามารถมาลองใช้บริการ AIRPORTELs พร้อมส่งกระเป๋าไปยังจุดหมายปลายทางได้แบบล่วงหน้า บอกเลยว่าสามารถขึ้นเขาแบบตัวโล่งๆ ได้เลย

23 ทะเลไทย เอาใจสายคอนเทนต์ ใส่บิกินี่เดินหาดชิลๆ อัปเดต 2023

ในช่วงวันหยุดหรือลาพักร้อน หลายๆคนก็ต้องมีการวางแผนในการไปเที่ยว หรือกำลังคิดว่าควรไปเที่ยวทะเลที่ไหนดี  ซึ่งทะเลสวยๆ ในประเทศไทยนั้นมีอยู่หลายแห่ง หลายจังหวัด ทำให้กว่าจะเลือกเที่ยวทะเลให้ถูกใจได้ก็คิดแล้วคิดอีก 

ในบทความนี้จึงขอเป็นตัวเลือกที่ช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยสวยๆ ให้กับคุณ เอาใจสายคอนเทนต์ ที่ชอบใส่บิกินี่เพื่อเก็บรูปสวยๆ เที่ยวทะเลกันแบบหมู่คณะ หรืออยากจะไปแบบคนเดียวเพื่อเดินหาดชิลๆ ก็ยังได้ โดยบทความนี้ได้รวบรวม 23 ที่เที่ยวทะเลไทย ฉบับอัปเดต 2023 ที่น่าเที่ยวมาแล้วดังนี้

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยที่มีความสวยงามแบบธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ โดยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดแห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ตัวจังหวัดติดกับชายฝั่งอ่าวไทย จึงทำให้มีหาดสวยๆ หลายแห่ง 

เป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ทะเลไทยของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามตามสไตล์เอกลักษณ์ของภาคใต้ และยังเป็นจังหวัดที่เชื่อมระหว่างภาคใต้และภาคกลาง ไม่ไกลจากกรุงเทพมาก เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดหรือสามารถเดินชิลๆ ใส่บิกินี่ อาบแดดก็ได้ แต่จะมีหาดอะไรบ้างที่น่าเที่ยวบ้าง ไปดูกัน

1. หาดหัวหิน 

หาดหัวหิน หาดแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นสถานที่พักตากอากาศของชนชั้นสูง ขุนนางและพระญาติ อีกทั้งป้องกันไม่ให้มีผู้บุกรุกทางทะเลไทย  แต่ในปัจจุบันไม่ว่าใครก็สามารถไปเที่ยวสถานที่แห่งนี้ได้ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

ควรเที่ยวหาดหัวหินช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการไปเที่ยวหาดหัวหินจะเป็นช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากมีบรรยากาศกำลังดี ฝนไม่ตก บรรยากาศของทะเลกำลังสวย สามารถเดินรับลมแดดได้อย่างชิลๆ เป็นช่วงวันหยุดเทศกาลของใครหลายๆ คนและยังเป็นช่วงปิดเทอมสำหรับเด็กๆ เช่นกัน

จุดเด่นของหาดหัวหิน

เป็นหาดที่มีน้ำทะเลใส ทรายมีความขาวสะอาด ลมพัดเย็นสบาย บริเวณของชายหาดนั้นทอดยาวถึง 5 กิโลเมตร จึงทำให้มีพื้นที่ลานกว้าง เหมาะสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ริมชายหาด และยังมีที่พักตากอากาศ รีสอร์ท โรงแรมให้เลือกจนนับไม่ถ้วน พร้อมทั้งมีร้านอาหารอร่อยๆ ริมหาดและรอบนอกหาดให้นักท่องเที่ยวได้รับประทาน

กิจกรรมที่หาดหัวหิน

  • ขี่ม้าริมชายหาด 
  • เดินรับลม
  • เล่นไคท์เซิร์ฟ
  • ล่องเรือชมทะเล

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดหัวหินที่น่าสนใจ เช่น 

  • สถานีรถไฟหัวหิน ที่มีเอกลักษณ์ความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมสไตล์ย้อนยุค ตัวอาคารมีในบริเวณรอบๆ มีลวดลายที่สวยงามอีกด้วย
  • ตลาดโต้รุ่งหัวหินหรือถนนคนเดินหัวหิน เป็นตลาดที่เปิดตั้งแต่ช่วงสี่โมงเย็นถึงเที่ยงคืน มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยตลาดแห่งนี้มีสินค้าเบ็ดเตล็ดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยข้อมือ เสื้อผ้า นาฬิกา ร้านอาหาร ร้านขนม ของหวาน ของทานเล่น อาหารทะเล เหมาะสำหรับเดินชอปปิงในยามค่ำคืนและเลือกซื้อของได้ตลอดสองข้างทาง
  • จุดชมวิว เขาหินเหล็กไฟ

เป็นจุดชมวิวภูเขาขนาดเล็ก ที่สามารถมองเห็นวิวทะเล ตัวอาคาร รีสอร์ท โรงแรมได้อย่างชัดเจนและสวยงาม ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 162 เมตร ยิ่งในช่วงตอนเย็นพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน จะมีบรรยากาศที่สวยงามมาก

การเดินทางไปยังหาดหัวหิน

  • นั่งรถทัวร์ ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ตลิ่งชัน มาลงที่หอนาฬิกาหัวหิน
  • รถยนต์ส่วนตัว มาจากกรุงเทพฯ ขึ้นทางด่วน มาลงที่ดาวคะนอง แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรีและชะอำ มายังใต้อุโมงค์หัวหิน แล้วเข้าสู่เมืองหัวหิน
  • นั่งรถไฟ ลงที่สถานีหัวหิน แล้วต่อโดยวินมอเตอร์ไซค์หรือนั่งรถสองแถวมาที่หาดหัวหิน

ที่อยู่หาดหัวหิน : ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/v2aCdvLGnnsxbG6w9

เวลาเปิด-ปิด  : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

โทร  :       –

2. หาดบ้านกรูด 

หาดบ้านกรูดเป็นชายหาดทะเลไทยที่แบ่งออกเป็น 2 หาด คือหาดบ้านกรูดเหนือและหาดบ้านกรูดใต้ เนื่องจากเป็นชายหาดที่มีความยาวถึง 12 กิโลเมตร แต่ก่อนนั้นมีต้นมะกรูดขึ้นเป็นจำนวนในบริเวณรอบๆ ชายหาด จึงพากันเรียกว่าหาดบ้านกรูด

ควรเที่ยวหาดบ้านกรูดช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการไปเที่ยวหาดบ้านกรูดจะเป็นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเป็นช่วงเดือนวันหยุดยาว มีสภาพอากาศที่แจ่มใส สามารถรับบรรยากาศลมแดดได้อย่างเต็มที่

จุดเด่นของหาดบ้านกรูด

เป็นชายหาดที่มีความสวยงามสไตล์ธรรมชาติ บริเวณชายหาดล้อมรอบไปด้วยต้นมะพร้าวที่เขียวสดใส หาดทรายเป็นสีขาวสะอาด น้ำทะเลสีคราม โดยหาดบ้านกรูดเป็นชายหาดที่มีความยาวมาก จึงทำให้มีหาดบ้านกรูดเหนือและหาดบ้านกรูดใต้ซึ่งมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป 

โดยหาดบ้านกรูดเหนือเป็นหาดที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ไม่มีถนนกั้น ส่วนหาดบ้านกรูดใต้เป็นชายหาดที่มีถนนกั้นทอดยาวเลียบไปกับชายหาด มีรีสอร์ท โรงแรมริมทะเลหลายแห่งสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อน นักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นยอดเขาธงชัยที่เป็นสถานที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์ภักดีประกาศและพุทธกิติสิริชัยในระหว่างเดินชมทะเลอีกด้วย 

นอกจากนี้ยังมีร้านคาเฟ่สไตล์น่ารัก มีมุมถ่ายรูปสวยๆ จากป้ายสัญลักษณ์ของหาดบ้านกรูด รวมทั้งหลักกิโลสีขาว มากไปกว่านั้นการมาเที่ยวที่หาดบ้านกรูด นักท่องเที่ยวจะได้พบกับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มีอาชีพการทำประมงบวกกับการแปรรูปอาหารนั่นเอง หากใครไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวทะเลที่ไหนดี ก็สามารถแวะมาที่หาดบ้านกรูดได้เลย

กิจกรรมที่หาดบ้านกรูด

  • ปั่นจักรยานบนถนนเลียบชายหาด
  • นอนผักผ่อนบริเวณริมชายหาด หรือนอนอาบแดด
  • เดินรับลม 
  • เล่นน้ำทะเล ว่ายน้ำ
  • ถ่ายรูปเช็คอิน

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดหัวบ้านกรูดที่น่าสนใจ เช่น

  • เขาธงชัย ที่อยู่บนยอดเขาสูงใหญ่ซึ่งกั้นระหว่างหาดบ้านกรูดและหาดทางสาย โดยเขาธงชัยยังเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศที่ประดิษฐานพระพุทธกิตติสิริชัยหรือหลวงพ่อใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล

การเดินทางไปยังหาดบ้านกรูด

  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-บางสะพานน้อย มาลงที่ปากทางเข้าบ้านกรูด แล้วต่อด้วยรถสองแถวหรือวินมอเตอร์ไซค์
  • รถไฟ นั่งรถไฟสายใต้วิ่งลัดเลาะไปยังหมู่บ้านของบ้านกรูด
  • รถยนต์ ขับมาที่ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม ประมาณกิโลเมตรที่ 382 จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามถนนเพชรเกษม-บ้านกรูด แล้วทางรถไฟไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะถึงถนนเลียบหาดบ้านกรูด

ที่อยู่หาดบ้านกรูด : หาดบ้านกรูด บ้านกรูด ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZACgPSa52UDTEnnf8

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00น.

โทร : 032-513-854 

อ่าวมะนาว

3. อ่าวมะนาว

อ่าวมะนาวเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว

ทะเลไทยที่มีความสวยงามสไตล์ธรรมชาติ และมีชื่อเสียงในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยอ่าวมะนาวนั้น มีลักษณะเป็นชายหาดโค้งครึ่งวงกลม หากมองจากมุมสูงจะคล้ายกับมะนาวครึ่งผล จึงเรียกว่าอ่าวมะนาว

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อ่าวแห่งนี้เคยเป็นยุทธภูมิรบระหว่างกองทัพไทยและญี่ปุ่น

เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็จะได้เห็นความสวยงามของทะเล

พร้อมทั้งเห็นอนุเสาวรีย์ของวีรชนที่เสียสละชีวิตในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติความกล้าหาญของวีรชนที่เคยปกป้องรักษา จนทำให้มีอ่าวมะนาวมาจนถึงปัจจุบัน

ควรเที่ยวหาดอ่าวมะนาวช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาอ่าวมะนาว ควรเป็นช่วงซัมเมอร์ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนนั่นเอง เพราะว่าน้ำทะเลจะมีสีใส มีบรรยากาศดี ที่ทำให้รู้สึกร่มรื่น แสนเย็นสบายจากทิวสน และมีความคึกคักจากนักท่องเที่ยวอีกด้วย

จุดเด่นของอ่าวมะนาว

เป็นชายหาดทะเลไทยที่สะอาด มีน้ำทะเลสวยใส และยังเป็นหาดที่ความปลอดภัยเนื่องจากมีภูเขาที่ค่อยบังกระแสน้ำ กระแสลม บริเวณรอบอ่าวมีวิวทิวทัศน์ที่น่ามอง มีพื้นที่กว้างสำหรับเดินเล่นรับบรรยากาศที่เย็นสบาย เงียบสงบ 

โดยตรงข้ามกับหาดยังเป็นเขาล้อมหมวกที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองและมีศาลเจ้าพ่อล้อมหมวกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ มีที่พักรีสอร์ท คอนโดมิเนียม โรงแรม  ทาวน์เฮ้าส์ที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้พักผ่อนอย่างสบายใจ

กิจกรรมที่อ่าวมะนาว

  • นอนพักผ่อนบนเตียงริมชายหาด
  • เดินรับลม ชมวิว
  • เล่นน้ำทะเล
  • ดำน้ำ
  • รับประทานอาหาร
  • ถ่ายรูป
  • ปูเสื่อนั่งเล่นริมชายหาด

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงอ่าวมะนาวที่น่าสนใจ เช่น

  • ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กองบิน 5  เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ตรงข้ามชายหาดอ่าวมะนาว ภายในศูนย์เศรษฐกิจมีสัตว์ที่น่ารัก เช่น แพะ กว้าง ม้า ให้นักท่องเที่ยวได้มาเข้าชม และถ่ายรูปสัมผัสบรรยากาศสวยๆ เป็นที่ระลึก
  • เขาล้อมหมวก เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง และบริเวณเชิงเขามีศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้สักการะกราบไหว้

หากใครที่ชอบเที่ยวทะเลสวยที่สุดในไทย หรือกำลังคิดว่าอยากไปเที่ยวทะเลคนเดียวที่ไหนดี อ่าวมะนาวก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวสำหรับใครหลายๆคนที่ไม่ควรพลาด

การเดินทางไปยังอ่าวมะนาว

  • รถตู้ ขึ้นรถตู้สายกรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อมายังหัวหิน

หรือขึ้นรถตู้จากสถานีสายใต้ใหม่ไปลงที่อ่าวมะนาว

  • รถไฟ นั่งรถไฟสายใต้จากกรุงเทพไปลงที่ประจวบคีรีขันธ์
  • รถทัวร์ นั่งรถทัวร์จากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ไปลงที่ประจวบคีรีขันธ์

ที่อยู่อ่าวมะนาว : อยู่ในเขตกองบิน 53 กองทัพอากาศ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77000

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/4AhcKQa9GECyLaTS9

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 0-3266-1088-9

4. หาดปากน้ำปราณ ปราณบุรี 

หาดปากน้ำปราณ ปราณบุรีเป็นหาดน่าเที่ยวอีกที่หนึ่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยหาดแห่งนี้มีขนาดพื้นที่ชายหาดที่กว้าง และเป็นชายหาดที่ทอดยาวจนไปถึงอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด 

ซึ่งหาดแห่งนี้เริ่มตั้งแต่ปากน้ำปราณที่อยู่ใกล้กับที่ตั้งศาลกรมหลวงชุมพรไปถึงยังหาดนเรศวรตอนใต้ อีกทั้งบริเวณชายหาดเป็นถนนเลียบหาดยาวตลอดแนว มีความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย 

ควรเที่ยวหาดปากน้ำปราณ ปราณบุรีช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดปากน้ำปราณ ปราณบุรีจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากจะได้เห็นคลื่นน้ำทะเลที่สวยงาม มีบรรยากาศริมชายหาดที่กำลังดี

จุดเด่นของหาดปากน้ำปราณ ปราณบุรี

เป็นชายหาดทะเลไทยที่มีบรรยากาศร่มรื่น 

เย็นสบายเป็นธรรมชาติ น้ำทะเลมีสีครามสวย มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ บริเวณรอบหาดมีวิวทะเลที่สวยงามและมีต้นตาล 3 ต้น ที่สัญลักษณ์อันโดดเด่นที่ชวนดึงดูดซึ่งอยู่คู่ชายหาด 

มีที่พักหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อน อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตด้านการประมงของชาวบ้าน มีอาหารทะเลและเครื่องประดับ ให้ได้เลือกซื้อเป็นของฝาก

กิจกรรมที่หาดปากน้ำปราณ ปราณบุรี

  • เดินชมหาดทราย รับลมริมทะเล
  • นั่งชมวิวริมชายหาด
  • นอนพักผ่อน นอนอาบแดด
  • วิ่งเล่น ออกกำลังกาย
  • ปั่นจักรยานริมถนนเลียบชายหาด
  • เล่นเซิร์ฟสเก็ต
  • ถ่ายรูป
  • ล่องเรือชมทะเล

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดปากน้ำปราณ ปราณบุรีที่น่าสนใจ เช่น

  • อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ซึ่งบนยอดเขามีถ้ำพระยานคร โดยมีแสงแดดส่องมายังถ้ำพระนครทำให้เกิดความสวยงาม 
  • ทุ่งสามร้อยยอด (บึงบัวสามร้อยยอด)

เป็นทุ่งที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยบึงบัวจำนวนมาก โดยมีสะพานยาวให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมบรรยากาศที่เย็นสบาย เป็นธรรมชาติ อีกทั้งเป็นสถานที่อันมีความอุดมสมบูรณ์ และมีนกหลากหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่

  • ถนนคนเดินชายทะเล ปากน้ำปราณบุรี เป็นอีกที่เที่ยวที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบมานั่งชิลชมวิวทะเลสวยๆ โดยที่นี้มีอาหารหลากหลายให้ได้เลือกรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลสดๆ ของหวานของทานเล่น ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ หรือเดินชอปปิงกัน

ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศของทะเลไทยที่มีความเงียบสงบ ร่มรื่น ก็ควรแวะมาที่หาดปากน้ำปราณ ปราณบุรีสักครั้ง

การเดินทางไปยังหาดปากน้ำปราณ ปราณบุรี

  • รถไฟ ขึ้นรถไฟสายใต้ผ่านหัวหิน ปราณบุรีและประจวบคีรีขันธ์
  • รถยนต์ ขับรถยนต์โดยใช้เส้นทางเพชรเกษมทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านพุทธมณฑลนครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ถึง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ หน้าโลตัส สายอนุเสาวรีย์ชัยฯ-ปราณบุรี
  • รถทัวร์ สามารถเลือกไปขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ เอกมัย หรือสายใต้ใหม่ และสามารถเลือกลงที่สถานีขนส่งหัวหินหรือสถานีขนส่งประจวบคีรีขันธ์

ที่อยู่หาดปากน้ำปราณ ปราณบุรี : ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Jw1hqLMnhBibL16o9

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :          –

จังหวัดชลบุรี

จังหวัดชลบุรี

จังหวัดชลบุรีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทะเลสีสวย บรรยากาศเย็นสบาย โดยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดแห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงทำให้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวและมีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งจังหวัดชลบุรีเป็นทะเลตะวันออกที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอยากมาเยี่ยมชมหรือลงทุนทำธุรกิจนั่นเอง 

นอกจากนี้ยังมีบริการขนส่งสัมภาระกระเป๋าของ AIPPORTELs สาขา Terminal 21 Pattaya สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาเที่ยวแบบเดินสบาย ไร้กังวล กระเป๋าไม่หาย มีความปลอดภัย โดยสามารถใช้บริการขนส่งสัมภาระของ AIPPORTELs จากปลายทาง กรุงเทพ-พัทยา, พัทยา-พัทยา, พัทยา-กรุงเทพ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 100 บาทขึ้นไป เหมาะสำหรับการที่ไม่ต้องขนสัมภาระหนักๆ ด้วยตนเอง และหากใครยังไม่รู้ว่าเที่ยวทะเลที่ไหนดีในจังหวัดชลบุรี หรือมีที่ไหนบ้างให้น่าเที่ยว ก็ไปดูกันได้เลย

5. เกาะล้าน 

เกาะล้านเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงทางทะเลของพัทยา ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในอ่าวไทยของจังหวัดชลบุรี โดยสมัยก่อนเกาะล้านเป็นแค่ตำบลเกาะล้าน มีระบบคมนาคมที่ไม่สะดวกและถูกโจรสลัดปล้น จึงทำให้มีการยุบเกาะล้าน 

ภายหลังเกาะล้านมีการขึ้นเป็นแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองพัทยา จึงทำให้เกาะล้านกลายเป็นเกาะที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและเป็นเกาะได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันในเรื่องของทะเลไทยน่าเที่ยวและมีทัศนียภาพที่สวยงาม

ควรเที่ยวเกาะล้านช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

ช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวเกาะล้านแนะนำเป็นช่วงหน้าร้อนระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน เนื่องจากเป็นช่วงทะเลสวย ฟ้าใส แดดกำลังดี

จุดเด่นของเกาะล้าน

เกาะล้านเป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด มีน้ำทะเลสีฟ้าใสสะอาด ทำให้มีปลาและสัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยบริเวณรอบเกาะล้านยังมีเกาะเล็กๆ รายล้อม ทำให้มีบรรยากาศทางธรรมชาติที่น่ามอง และมีจุดชมวิวที่สวยงาม อีกทั้งเกาะล้านเป็นเกาะที่มีพื้นที่ใหญ่และกว้า งจึงทำให้มีหาดต่างๆบนเกาะล้านที่น่าดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งได้แก่

  • หาดตาแหวน เป็นหาดที่มีความกว้างและทอดยาวกว่าหาดอื่นๆ บนเกาะล้าน ประมาณ 750 เมตร โดยน้ำทะเลบนหาดตาแหวนนั้นมีสีฟ้าครามใสน่ามอง บวกกับหาดทรายสีขาว จึงทำให้มีความสวยงามอย่างตัวของหาดแห่งนี้ 

พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ที่พักหลากสไตล์ให้เลือก 

มีเครื่องเล่นสำหรับการทำกิจกรรม

  • หาดทองหลาง เป็นชายหาดขนาดเล็กเต็มไปด้วยเสียงคลื่น

ซึ่งมีทำให้มีกลิ่นอายของชายหาดสไตล์ธรรมชาติ  อีกทั้งหาดทองหลางยังมีความสวยงามแบบเงียบสงบและหาดทรายมีสีขาวนวล  เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบส่วนตัวและดำน้ำดูปะการัง ดูปลาตัวเล็ก แถมยังเป็นชายหาดที่อยู่ติดกับหาดตาแหวน ทำให้สะดวกต่อการมาเที่ยว พร้อมกับมีจุดชมวิวที่สวยงามบนหาดทองหลางอีกด้วย

  • หาดสังวาลย์ เป็นหาดที่มีความเงียบสงบ มีน้ำทะเลใสกว่าหาดอื่นๆ ซึ่งน้ำทะเลมีความใสสุดๆ จนสามารถมองเห็นโขดหินที่สวยงามได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้หาดสังวาลย์ยังมีสะพานไม้สีขาวที่มีความยาวถึง 150 เมตร ซึ่งเชื่อมต่อจากหาดตาแหวนให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมวิวท่ามกลางบรรยากาศทะเลสีครามใสไล่ระดับ และถ่ายรูปกับโขดหินสวยๆ ได้อีกด้วย

กิจกรรมที่เกาะล้าน

  • เล่นเรือลากร่มชูชีพ
  • เล่นน้ำทะเล
  • เล่นเจ็ตสกี
  • ดำน้ำดูปะการัง
  • เดินชมวิวบนชายหาด
  • นอนอาบแดด
  • ล่องเรือ
  • ถ่ายรูป
  • ปั่นจักรยาน

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงเกาะล้านที่น่าสนใจ เช่น

  • เกาะครก เป็นเกาะที่อยู่ใกล้กับเกาะล้าน ซึ่งเกาะแห่งนี้มีขนาดเล็ก มีโขดหินที่สวยงามอยู่บริเวณรอบเกาะ อีกทั้งเป็นเกาะที่มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ มีปะการัง สัตว์ทะเลอาศัยอยู่ ทำให้เหมาะต่อการดำน้ำดูปะการังและล่องเรือดูน้ำทะเล หากใครที่ชอบบรรยากาศที่เงียบสงบก็สามารถมาที่เกาะแห่งนี้ได้ 
  • เกาะสาก เป็นเกาะที่มีขนาดเล็ก โดยรูปร่างของเกาะสากมีลักษณะรูปร่างคล้ายเกือกม้าหงาย อีกทั้งเกาะแห่งนี้มีปะการัง ฝูงปลา สัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก น้ำทะเลมีสีครามสวย ทำให้เกาะแห่งนี้เหมาะสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดำน้ำ เล่นเจ็ตสกี เล่นบานาน่าโบ๊ท เป็นต้น

เกาะล้านนับว่าสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยยอดฮิต ที่ทุกคนควรมาสัมผัสบรรยากาศชายหาดทะเลสีขาวสวย น้ำทะเลสีครามใส สไตล์ธรรมชาติ

การเดินทางไปยังเกาะล้าน

  • นั่งเรือ ไปยังเกาะล้านได้จาก 2 ท่าเรือ คือ ท่าเรือหน้าบ้านและท่าเรือหาดตาแหวน
  • สปีดโบ๊ท นั่งเรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะล้าน โดยเลือกลงได้ทั้งท่าเรือหน้าบ้านและท่าเรือหาดตาแหวน
  • รถตู้ เลือกขึ้นรถตู้ไปเกาะล้านได้จากสถานีขนส่งหมอชิตใหม่และสถานีขนส่งเอกมัย รถจะมาส่งที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย
  • รถทัวร์  ขึ้นรถทัวร์จากสถานีขนส่งหมอชิตใหม่และสถานีขนส่งเอกมัย
  • รถไฟ ขึ้นรถไฟขบวนเส้นทางพิเศษ กรุงเทพฯ – พัทยา – บ้านพลูตาหลวง

เมื่อเดินทางมาถึงพัทยาแล้ว จะต้องต่อรถสองแถวจากหน้าสถานีรถไฟไปยังท่าเรือแหลมบาลีฮายเพื่อไปที่เกาะล้าน

ที่อยู่เกาะล้าน : อยู่เลขที่ 222 หมู่ 7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองพัทยา

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZWKnEjw6JkBPihABA

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :          –

6. หาดพัทยา 

เป็นชายหาดทะเลไทยที่เป็นศูนย์กลางกิจกรรมทางทะเล ซึ่งเป็นหาดหลักที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ โดยหาดแห่งนี้มีความยาวกว่า 3 กิโลเมตร จึงทำให้มีถนนเลียบชายหาดยาวไปตลอดทางสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ

ควรเที่ยวหาดพัทยาช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดพัทยาจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม

จุดเด่นของหาดพัทยา

เป็นชายหาดที่สะอาดและมีขนาดของชายหาดที่กว้างขวาง บรรยากาศรอบหาดมีความสวยงาม เย็นสบาย คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว อีกทั้งมีวิวทิวทัศน์บริเวณรอบหาดที่น่ามอง มีที่พักผ่อนหลายแห่งให้เลือกและยังมีร้านอาหารที่แสนอร่อย รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับให้บริการ

กิจกรรมที่หาดพัทยา

  • เล่นเจ็ทสกี
  • เล่นน้ำทะเล
  • เล่นเครื่องร่อนพาราเซลลิ่ง
  • นอนอาบแดด
  • เดินชมวิว
  • วิ่งเล่น ออกกำลังกาย
  • ว่ายน้ำ
  • ถ่ายรูปริมชายหาด
  • ล่องเรือ

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียง

หาดพัทยาน่าสนใจ เช่น 

  • สวนนงนุช เป็นสวนที่มีขนาดใหญ่และสวยงาม บรรยากาศภายในสวนประดับไปด้วยดอกไม้ สวนกล้วยไม้ สวนพฤกษชาติ สวนกระบองเพชร ทำให้สวนแห่งนี้เป็นสวนที่สวยงามทั้งรูปแบบและรูปทรง ร่มรื่น เขียวขจี น่ามาเที่ยวชม
  • ดอลฟินนาเรียมพัทยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับการแสดงโชว์ปลาโลมาที่แสนน่ารักโดยเฉพาะ

การเดินทางไปยังหาดพัทยา

  • รถไฟ ขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ไปยังสถานีพัทยาและสถานีพัทยาใต้
  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 และสถานีขนส่งเอกมัย ที่มีคิวรถตู้ไปพัทยา 
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 และสถานีขนส่งเอกมัย ที่มีคิวรถทัวร์ไปพัทยา 
  • รถยนต์  ขับมาเส้นทางหลวง 34 ทางบางนา-บางปะกง แล้วเข้าทางหลวงหมายเลข 3 เส้นสุขุมวิท จะผ่านเมืองชลบุรี บางแสน และศรีราชา จากนั้นให้ตรงไปที่พัทยา

ที่อยู่หาดพัทยา : เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/WKNVpcJ2bokgLTGg8

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร  :        

เกาะไผ่ พัทยา 

7. เกาะไผ่ พัทยา 

เกาะไผ่ พัทยา เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะไผ่ ซึ่งตั้งอยู่บนอ่าวพัทยา มีความห่างจากเกาะล้านประมาณ 10 กิโลเมตร โดยเป็นเกาะลับของพัทยาซึ่งมีบรรยากาศที่สงบ น่าอยู่ เนื่องจากยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนั่นเอง อีกทั้งได้รับความดูแลและฟื้นฟูจากกองทัพเรือ ทำให้กลายเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นอีกเกาะของทะเลไทยที่น่าท่องเที่ยวและไม่ไกลจากกรุงเทพ

ควรเที่ยวเกาะไผ่ พัทยาช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวพัทยาเกาะไผ่จะเป็นช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมนั่นเอง เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีวันหยุดพักร้อนหลายวันและมาพักผ่อนนอนอาบแดดรับวิตามินได้อย่างเต็มที่

จุดเด่นของเกาะไผ่ พัทยา

เป็นเกาะที่มีหาดทรายสีขาวนุ่มละเอียด และมีน้ำทะเลสีใสสุดๆราวกับคริสตัลหรือกระจก

จนสามารถมองโขดหินสวยๆ อีกทั้งทำให้รู้สึกอยากนอนเล่นบนน้ำทะเล บรรยากาศรอบเกาะมีความเย็นสบาย เงียบสงบเหมือนอยู่บนเกาะส่วนตัว และนักท่องเที่ยวยังสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์อันสดชื่นได้อย่างเต็มปอด 

รวมถึงเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์จึงทำให้มีฝูงปลา สัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เหมาะสำหรับการดำน้ำดูปะการัง ใต้ท้องทะเลไทยที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีหมูแคระที่น่ารัก รอตอนรับและทักทายนักท่องเที่ยวอีกด้วย เนื่องจากเกาะไม่อนุญาตให้พักค้างคืน จึงแนะนำให้มาเที่ยวที่เกาะไผ่แบบไปเช้าเย็นกลับจะดีที่สุด รวมถึงนักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งพักชิลๆ ได้ทั้งวัน พร้อมกับรับประทานอาหารทะเลที่อร่อยๆ จากหลากหลายเมนู

กิจกรรมที่เกาะไผ่ พัทยา

  • นั่งเรือสปีดโบ๊ทชมทะเล
  • ล่องทะเล
  • ตกปลา
  • นอนอาบแดด
  • ดำน้ำ ดูปะการัง
  • เล่นน้ำทะเล
  • พายเรือคายัค
  • ถ่ายรูปบรรยากาศรอบเกาะ
  • นั่งปิคนิค

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงเกาะไผ่ พัทยาน่าสนใจ เช่น 

  • เกาะมารวิชัย เป็นเกาะที่มีบรรยากาศเงียบสงบ มีความสวยเป็นธรรมชาติ น้ำทะเลใสสะอาด หาดสวย น่าท่องเที่ยวโดยเกาะแห่งนี้มีความยาวถึง 2 กิโลเมตร 
  • เกาะกลึงบาดาล เป็นเกาะที่มีหาดทรายเล็กๆ อยู่ด้านทิศตะวันออกของเกาะและมีก้อนหินหลากหลายสีสัน โดยเป็นเกาะที่ทีความเงียบสงบ

นักท่องเที่ยวไม่นิยมมาเกาะแห่งนี้

ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศทะเลสีใสราวกับคริสตัล บรรยากาศเงียบสงบ ให้ความรู้สึกแบบเป็นส่วนตัว หรืออยากเห็นความน่ารักของน้องหมูแคระ เกาะไผ่เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทะเลไทยที่รอตอบโจทย์สำหรับนักท่องเที่ยวสายชิลอยู่

การเดินทางไปยังเกาะไผ่ พัทยา

  • รถยนต์ ถ้ามาจากกรุงเทพ ให้ใช้ถนนเส้นบางนา-ตราด เข้าชลบุรีไปทางพัทยาใต้  จากนั้นขับรถไปจอดที่แหลมบาลีฮาย แล้วต่อด้วยการขึ้นท่าเรือแหลมบาลีฮายไปถึงเกาะไผ่
  • รถไฟ ขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ไปยังสถานีพัทยาและสถานีพัทยาใต้ จากนั้นต่อรถไปยังท่าเรือแหลมบาลีฮาย
  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 และสถานีขนส่งเอกมัย ที่มีคิวรถตู้ไปพัทยา

ที่อยู่เกาะไผ่ พัทยา : อ่าวพัทยา ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/UWGFmvWByYExCWfN7

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 085-8879358

8. หาดวงศ์อมาตย์ พัทยา 

หาดวงศ์อมาตย์ พัทยา เป็นชายหาดในพัทยาเหนือของอ่าวไทย ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ 

เป็นส่วนตัว ไม่มีถนนเลียบชายหาด ซึ่งเมื่อก่อนมีที่พักแค่ที่เดียวตั้งอยู่บนหาดแห่งนี้ นั่นก็คือโรงแรมวงศ์อมาตย์ โดยชื่อของโรงแรมมาจากคนที่เป็นเจ้าของที่พัก ก็เลยพากันเรียกว่า หาดวงศ์อมาตย์มาจนถึงปัจจุบัน

ควรเที่ยวหาดวงศ์อมาตย์ พัทยาช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการเที่ยวหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา จะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน เนื่องจากน้ำทะเลมีความใส หาดสวยสุดในช่วงนี้ รวมถึงเหมาะสำหรับการนอนอาบแดด

จุดเด่นของหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา

เป็นหาดที่มีน้ำทะเลใสสะอาดมาก หาดทรายสวย มีความเงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวนบรรยากาศในหาดมีความร่มรื่น นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากมีเชือกกั้นให้เล่นน้ำในเฉพาะบริเวณที่ปลอดภัยนั่นเอง ยิ่งในช่วงเย็นนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเล่นชิลๆ ชมความสวยงามจากพระอาทิตย์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีที่พักหลายแบบให้เลือกพักผ่อน มีร้านอาหารอร่อยให้รับประทาน รวมถึงเป็นทะเลไทยที่มีชื่อเสียง และควรแวะมาเที่ยวในช่วงวันหยุด

กิจกรรมที่หาดวงษ์อมาตย์ พัทยา

  • นอนพักผ่อน ตอนตากแดดริมทะเล
  • เดินชมวิว
  • นั่งปิคนิค
  • นัดพบปะเพื่อน
  • เล่นน้ำทะเล
  • ถ่ายรูป

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดวงษ์อมาตย์ พัทยาที่น่าสนใจ เช่น

  • อาร์บีบี พัทยา ไบกิ้งทัวร์ เป็นที่เที่ยวสำหรับล่องเรือชมทะเล
  • Pattaya and Bike Tours เป็นสถานที่เที่ยวสำหรับการขับรถมอเตอร์ไซค์ผจญภัย
  • อัลคาซ่าร์โชว์พัทยา เป็นที่เที่ยวสำหรับการแสดงโชว์คาบาเร่ต์ในยามค่ำคืน
  • Dive Station Pattaya เป็นที่เที่ยวสำหรับดำน้ำดูปะการัง ชมความสวยงามใต้ท้องทะเล

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศทะเลสไตล์ความงียบสงบ อยากนั่งชมวิวที่สวยงามจากพระอาทิตย์แบบชิลๆ

ที่อยู่หาดวงศ์อมาตย์ พัทยา : หาดวงศ์อมาตย์ ซอยนาเกลือ18 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CGrkZhzQQmbfod697

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :         – 

เกาะสีชัง

9. เกาะสีชัง 

เกาะสีชังเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ทะเลสีครามสวย ซึ่งในอดีตเกาะแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นที่เสด็จประพาสและเป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่3 ถึงรัชกาลที่ 6 โดยเกาะสีชังมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากมาเยี่ยมชมความงามของทะเลไทยตลอดทั้งปีและเป็นเกาะที่ไม่ห่างไกลจากกรุงเทพอีกด้วย

ควรเที่ยวเกาะสีชังช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวเกาะสีชังคือปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนมีนาคมหรือจะไปเที่ยวที่เกาะแห่งนี้ตลอดทั้งปีก็ได้

จุดเด่นของเกาะสีชัง

เป็นเกาะที่มีทัศนียภาพสวยงาม บรรยากาศดี มีกลิ่นอายทะเลธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ สามารถสูดอากาศอันสดชื่นได้อย่างเต็มที่ โดยนักท่องเที่ยวนิยมมาที่เกาะสีชังเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นเกาะที่พระเจ้าแผ่นดิน รัชกาลที่4 ถึงรัชกาลที่ 6 เสด็จประพาสและทรงประทับ  

ซึ่งสถานที่สวยๆบนเกาะสีชัง มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

  • เดอ แองเคอร์ รีสอร์ท De’Anchor 

เป็นรีสอร์ทที่มีลักษณะเป็นบ้านทรงสี่เหลี่ยม โทนสีขาวสวยสะอาดตา น่ามอง และเหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสวยๆ ริมชายหาดทะเล อีกทั้งรีสอร์ทแห่งนี้มีบรรยากาศดี นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมวิวทัศนียภาพ จากตัวรีสอร์ทไปยังชายหาดทะเล

  • สะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานไม้สีขาวทอดยาวไปยังกลางทะเล 

เหมาะสำหรับเดินถ่ายรูปหรือถ่ายพรีเวดดิ้ง รวมทั้งเดิมชมทัศนียภาพ ท่ามกลางบรรยากาศน้ำทะเลสีครามสวย

  • ช่องเขาขาด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะคล้ายแหลมพรหมเทพ โดยบริเวณรอบเต็มไปด้วยโขดหิน บรรยากาศดี เย็นสบาย เนื่องจากมีลมพัดอยู่ตลอดทั้งวัน และช่องเขายังมีสะพานทอดยาวไปยังแหลมหน้าผาด้านล่าง สำหรับเดินชมวิวและชมความสวยงามในยามเย็นของพระอาทิตย์ตก
  • มณฑปรอยพระพุทธบาท เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งรัชกาลที่5 ทรงอัญเชิญพระพุทธบาทมาประดิษฐานไว้ เพื่อเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการ

สักการะกราบไหว้และขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต

กิจกรรมที่เกาะสีชัง

  • ดำน้ำชมปะการัง
  • เดินชมวิวทิวทัศน์
  • ตกปลา
  • นั่งพักผ่อนริมทะเล
  • นอนอาบแดด
  • ถ่ายูป
  • ล่องเรือ

การเดินทางไปยังเกาะสีชัง 

  • รถยนต์  ขับรถยนต์จากกรุงเทพ

โดยใช้ถนนสายบางนา-ตราด ไปจนถึงบางแสน แล้วจากนั้นตรงไปยังโรบินสัน ศรีราชา และจอดรถไว้ที่ท่าเรือเกาะสีชัง จากนั้นนั่งเรือข้ามไปยังเกาะสีชัง

  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่หมอชิต เพื่อมาลงที่หน้าโรบินสันศรีราชา แล้วต่อรถสองแถวหรือวินมอเตอร์ไซค์ไปที่ท่าเรือ
  • เรือสปีดโบ้ท นั่งเรือสปีดโบ้ทจากท่าเทียบเรือเกาะลอยไปยังเกาะสีชัง

ที่อยู่เกาะสีชัง :  ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/51PrNzL36tEsCB5r8

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :          –

10. เกาะขาม สัตหีบ 

เกาะขามเป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ บริเวณรอบเกาะมีทัศนียภาพที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศทางธรรมชาติ รวมถึงเกาะขามยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลอีกด้วย

ควรเที่ยวเกาะขาม สัตหีบช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการเที่ยวเกาะขามจะอยู่ในระหว่างกลางเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน เนื่องจากมีความปลอดภัย ได้บรรยากาศที่ดีและไม่มีคลื่นลมแรงจากทะเล

จุดเด่นของเกาะขาม สัตหีบ

เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลสีฟ้าครามใส หาดทรายขาวสวย บรรยากาศเงียบสงบ แหละพื้นที่ของเกาะมีถึง 83,000 ตารางเมตร จึงเหมาะต่อการดำน้ำดูปะการังที่มีหลากหลายสีสัน 

ภายใต้ท้องทะเลยังมีปลานีโม่หรือฝูงปลาต่างแวะมาทักทายนักท่องเที่ยวและมีสะพานไม้ของหาดที่ทอดยาวเลียบไปตามแนวเชิงเขาริมทะเล ทำให้สามารถไปถ่ายรูปเล่นได้ รวมถึงมีพันธ์ุไม้ต่างๆ บริเวณรอบเกาะ โดยเกาะแห่งนี้นักท่องเที่ยวไม่สามารถค้างคืนได้ ควรไปเที่ยวชมบรรยากาศสวยๆ ทั้งวันแบบไปเช้าเย็นกลับ

กิจกรรมที่เกาะขาม สัตหีบ

  • ดำน้ำดูปะการัง
  • นั่งเรือท้องกระจกชมปะการัง
  • นั่งรับลม
  • เดินชมพรรณไม้และทัศนียภาพ
  • ปลูกปะการัง
  • ถ่ายรูป
  • เล่นน้ำทะเล
  • พายเรือคายัค

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงเกาะขาม สัตหีบที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดนางรำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งในสัตหีบที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นชายหาดทะเลน้ำใส หาดทรายละเอียด บรรยากาศเงียบสงบ และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
  • เรือหลวงจักรีนฤเบศร์ เป็นเรือที่ต่อจากประเทศสเปน ประจำการในส่วนกำลังรบของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่เคยบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเข้าชมบรรยากาศภายในได้

หากใครที่ไม่รู้ว่าควรเที่ยวทะเลที่ไหนดี ก็สามารถมาเที่ยวที่เกาะขาม สัตหีบ ซึ่งเป็น

ทะเลไทยที่มีความสวยงามจากน้ำทะเล หาดทรายขาว และมีทัศนียภาพที่อุดมสมบูรณ์นั่นเอง

การเดินทางไปยังเกาะขาม สัตหีบ

  • รถตู้ ขึ้นรถตู้โดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-สัตหีบ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (เอกมัย) แล้วลงที่ กม.6 หรือ กม.10  จากนั้นต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปที่บริเวณท่าเรือเพื่อที่จะนั่งเรือไปยังเกาะขาม
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) แล้วนั่งรถกรุงเทพ – ระยอง (สายเก่า ) แล้วลงที่ตลาดสัตหีบ
  • รถยนต์  ขับรถยนต์จากกรุงเทพ 

ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี เข้าสู่ตำบลสัตหีบ แล้วเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3126 จากนั้นขับไปก็เข้าสู่บ้านช่องแสมสารและถึงท่าเทียบเรือ แล้วขึ้นเรือไปยังเกาะขาม

ที่อยู่เกาะขาม สัตหีบ : ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/1ZUyHRWjwSiy93JaA

เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์- วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 033-124848

เกาะแสมสาร สัตหีบ 

11. เกาะแสมสาร สัตหีบ 

เกาะแสมสารเป็นเกาะที่มีรูปทรงยาวรี ในอดีตเกาะแห่งนี้มีชุมชนอาศัยอยู่ ต่อมาเป็นเกาะที่อยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ ซึ่งเกาะแห่งนี้มีบรรยากาศที่เงียบสงบ สวยงามสไตล์ธรรมชาติจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

ควรเที่ยวเกาะแสมสาร สัตหีบช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยวเกาะแสมสาร คือสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หรือจะมาเที่ยวในช่วงซัมเมอร์ก็ได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีวันหยุดเยอะนั่นเอง

จุดเด่นของเกาะแสมสาร สัตหีบ

เป็นเกาะท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่อยู่ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ โดยเกาะแสมสารมีหาดทรายสวย น้ำทะเลสีครามใส มีปะการังที่สวยงามและฝูงปลาจำนวนมากใต้ท้องทะเล รวมถึงนักท่องเที่ยวยังได้สูดอากาศอันบริสุทธิ์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ที่พักติดริมทะเลสำหรับพักผ่อนได้อย่างชิลๆ

กิจกรรมที่เกาะแสมสาร สัตหีบ

  • ดำน้ำดูปะการัง
  • นั่งเรือท้องกระจก
  • นอนอาบแดด
  • เดินชมวิว
  • เล่นน้ำทะเล
  • พายเรือคายัค
  • ถ่ายรูป

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียง

เกาะแสมสาร สัตหีบที่น่าสนใจ เช่น

  • หลวงพ่อดำ วัดช่องแสมสาร เป็นวัดช่องแสมสารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปบนยอดเขาเจดีย์ หรือเรียกกันว่า

หลวงพ่อดำ เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่บ้าน ให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวได้สักการะกราบไหว้ ขอพร

  • ฟาร์มปลาการ์ตูน เป็นฟาร์มปลาขนาดใหญ่ที่มีปลาการ์ตูนถึง 6 สายพันธุ์ โดยเป็นสถานที่แหล่งเรียนรู้เรื่องราวที่เกี่ยวกับปลาทะเลรวมถึงเป็นแหล่งทัศนศึกษาอีกด้วย 

การเดินทางไปยังเกาะแสมสาร สัตหีบ

  • รถตู้ เดินทางจากท่ารถตู้หมอชิต เส้นทาง : กรุงเทพ – สัตหีบ และต่อรถสองแถวมายังท่าเรือเขาหมาจอ
  • รถทัวร์ ขึ้นรถตู้ที่หมอชิต เส้นทางกรุงเทพ-สัตหีบ แล้วต่อด้วยรถสองแถวหรือวินเตอร์ไซต์มายังท่าเรือเขาหมาจอ
  • รถยนต์ ขับรถยนต์จากกรุงเทพ โดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ (7) หรือทางพิเศษบูรพาวิถี(บางนา-ชลบุรี) ผ่านพัทยา มุ่งหน้าสัตหีบ แล้วไปที่ท่าเรือเพื่อข้ามฝากไปยังเกาะแสมสาร

ที่อยู่เกาะแสมสาร สัตหีบ : ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/QZjpD6nuhko8iJBD7

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น. 

เบอร์โทร : 0-3843-2475

12. หาดน้ำใส สัตหีบ 

หาดน้ำใส สัตหีบ เป็นหาดที่อยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นชายหาดที่อยู่ใกล้เกาะชามและเกาะแสมสาร โดยชายหาดนั้นทอดยาวเลียบเลียบทะเลถึง 600 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสความสวยงามที่หาดแห่งนี้ได้ง่าย ยังเป็นหาดของทะเลไทยที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สถานที่อื่นๆ

ควรเที่ยวหาดน้ำใส สัตหีบ ช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดน้ำใส สัตหีบ จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน เนื่องจากไม่มีคลื่นลมแรงจากทะเล หรือสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีก็ได้

จุดเด่นของหาดน้ำใส สัตหีบ

เป็นชายหาดขนาดเล็กที่มีบรรยากาศเงียบสงบ น้ำทะเลใสสุดๆ หาดทรายเนียนสะอาด บรรยากาศรอบหากมีความร่มรื่นจากต้นสน และยังมีสิ่งที่อำนวยความสะดวก เช่น ที่พัก ร้านอาหาร นักท่องเที่ยวสามารถนั่งพักผ่อนได้อย่างชิลๆ สบายใจ และที่สำคัญยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา

กิจกรรมที่หาดน้ำใส สัตหีบ

  • เล่นน้ำทะเล
  • นั่งปิกนิก
  • พายเรือคายัค
  • พายเรือแคนู
  • นอนพักผ่อน นอนตากแดด
  • ถ่ายรูป
  • ดำน้ำ
  • เดินชมวิว

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดน้ำใส สัตหีบที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดนางรำ เป็นชายหาดที่มีบรรยากาศร่มรื่น อากาศเย็นสบาย น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับดำน้ำดูปะการัง
  • หาดนางรอง เป็นชายหาดที่มีพื้นที่กว้าง น้ำทะเลใสมาก เหมาะสำหรับการนอนพักผ่อนริมชายหาด 

หาดน้ำใสเป็นหาดที่มีน้ำใสสมชื่อ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเที่ยวชมที่หาดแห่งนี้ อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่ร่มรื่น เย็นสบาย

หากใครกำลังคิดว่าอยากมาเที่ยวทะเลสวยที่สุดในไทย ดังนั้นหาดน้ำใสก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่ไม่ควรพลาดนั่นเอง

การเดินทางไปยังหาดน้ำใส สัตหีบ

  • รถตู้   ขึ้นรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปลงตลาดสัตหีบ แล้วต่อรถสองแถวไปยังท่าเรือ 
  • รถยนต์ เดินทางจากเส้นทาง ถ.สุขุมวิท พัทยา – ระยอง หรือ มาจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 ตรงมาที่ ตำบลแสมสาร เข้าสู่จุดตรวจการณ์ผ่าน – เข้า ออกของ กรม.กสพ.ฐท.สส. และ เข้ามาอีกประมาณ 1.5 กม. เพื่อเข้าพื้นที่ของ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) ก็จะเห็นหาดน้ำใสจะอยู่บริเวณด้านทิศตะวันตกของพื้นที่

ที่อยู่หาดน้ำใส สัตหีบ: หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/HxVBh2vP1CDi3UzZ9

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :        –

หาดเตยงาม สัตหีบ

13. หาดเตยงาม สัตหีบ 

เป็นชายหาดที่อยู่ในความดูแลของกองบัญชานาวิกโยธิน โดยบริเวณของหาดแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยพรรณไม้จากธรรมชาติ และมีต้นเตยทะเลเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีชื่อว่าหาดเตยงามนั่นเอง และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สำหรับคนที่รักธรรมชาติ

ควรเที่ยวหาดเตยงามช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวหาดเตยงาม จะอยู่ในระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน เนื่องจากจะเป็นช่วงทะเลที่มีความสวยงามที่สุดและน่าเที่ยวที่สุด

จุดเด่นของหาดเตยงาม

เป็นชายหาดทะเลไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์ หาดทรายสวยงาม สะอาด น้ำทะเลใส มีความเงียบสงบ โดยหาดแห่งนี้จะรับเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยดท่านั้น และยังเป็นหาดที่มีความปลอดภัยสุดๆ เนื่องจากจะต้องมีการตรวจสอบบัตรในการเข้าชมชายหาดจากเจ้าหน้าที่ อีกทั้งบริเวณริมทะเลมีความสวยงามของพระอาทิตย์ตกในยามเย็น

กิจกรรมที่หาดเตยงาม

  • เล่นน้ำทะเล
  • ปลูกปะการัง
  • ดำน้ำดูปะการัง
  • นั่งพักผ่อนริมชายหาด
  • นอนอาบแดด
  • เดินชมวิว
  • ถ่ายรูป
  • พายเรือคายัค

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดเตยงามที่น่าสนใจ เช่น

  • ศาลนายพลเรือเอก เป็นพระตำหนัก ศาลพระรูปของพลเรือเอก พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย ซึ่งเป็นสถานที่เคารพศรัทธาของเหล่าทหารเรือและตั้งอยู่บนบริเวณชายหาดทรายขาวสะอาด มีจุดชมวิวที่สวยงาม

การเดินทางไปยังหาดเตยงาม

  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่บริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปลงที่ตลาดสัตหีบ จากนั้นต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปยังหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
  • รถยนต์ ขับรถมาจากกรุงเทพ ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์เข้าพัทยา-สัตหีบ จากนั้นให้สังเกตโรงเรียนสิงห์สมุทรซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ติดกับทางเข้าหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

ที่อยู่หาดเตยงาม สัตหีบ : หาดเตยงาม อ่าวนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hGe5zXsRwNhhfwiM6

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 0-3843-8457

14. ทะเลบางแสน

ทะเลบางแสนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งทะเลแห่งนี้ตั้งอยู่บนทะเลอ่าวไทยของจังหวัดชลบุรี รวมถึงเป็นทะเลไทยยอดฮิตที่คนนิยมไปเที่ยว เนื่องจากบรรยากาศรอบทะเลนั้นมีความสวยงาม บรรยากาศดี และใกล้กับกรุงเทพ เดินทางง่ายอีกด้วย

ควรเที่ยทะเลบางแสนช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวทะเลบางแสน จะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม เนื่องจากเป็นช่วงที่มีลมกับกระแสน้ำที่ช่วยทำให้น้ำทะเลมีความใสแจ๋วและฝนไม่ตกนั่นเอง 

จุดเด่นของทะเลบางแสน

เป็นทะเลไทยที่สวย หาดทรายขาวเนียน ละเอียดน้ำทะเลใสราวกับกระจก เรียกได้ว่าใสแจ๋วสุด ๆ มีต้นมะพร้าวขึ้นอยู่ตลอดทั้งแนวชายหาด ซึ่งเป็นตัวช่วยทำให้บรรยากาศรอบทะเลร่มรื่น เย็นสบาย น่านอนพักผ่อนริมชายหาด และยังเป็นชายหาดที่มีถนนตัดเลียบชสยหาย จึงทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ร้านอาหาร เครื่องเล่น แถมยังมีความคึกคักจากนักท่องเที่ยว

กิจกรรมที่ทะเลบางแสน

  • เล่นว่าว
  • เดินชมวิว
  • นอนเล่นรับลม
  • นอนอาบแดด
  • ถ่ายรูป
  • เล่นบานาน่าโบ๊ท
  • ขี่เรือเจ็ตสกี
  • ปั่นจักรยาน

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงทะเลบางแสน เช่น

  • ตลาดปลาบางแสน เป็นตลาดปลาสไตล์ญี่ปุ่น โดยเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชลบุรีที่มีอาหารทะเลหลากหลาย เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งมีความสดสะอาด และยังมีอาหารญี่ปุ่น ของทานเล่นที่อร่อยๆ เหมาะสำหรับการแวะมาซื้อของฝากกลับบ้านอีกด้วย
  • เขาสามมุข เป็นนอดเขาชมวิวแห่งหนึ่งของชลบุรี ที่สามารถมองเห็นความสวยงามของทะเล แหลมแท่น และอ่างศิลา รวมถึงมีบรรยากาศที่เย็นสบาย น่ามอง เหมาะสำหรับการถ่ายรูปวิวทะเลสวยสีฟ้าครามสวย

การเดินทางไปยังทะเลบางแสน

  • รถยนต์ การเดินทางจากกรุงเทพไปจังหวัดชลบุรี ใช้เส้นทางสายบางนา – ตราด ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่จังหวัดชลบุรี
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งเอกมัยสายกรุงเทพ-พัทยา , กรุงเทพ-ศรีราชา, กรุงเทพ-ระยอง ซึ่งจะต้องผ่านหนองมน แล้วไปลงที่แยกบางแสน จากนั้นต่อรถสองแถวไปยังทะเลบางแสน
  • รถไฟ ขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง ที่ผ่านไปยังจังหวัดชลบุรี จากนเห็นต่อด้วยวินมอเตอร์ไซค์
  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เลือกรถตู้ที่มีเส้นทางไปยังชลบุรี-บางแสน

ที่อยู่ทะเลบางแสน :  ถ.บางแสนสาย 1 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี 

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/3UCNaE3CzwnqCMtg8

เวลา เปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00-18:00 น.

เบอร์ โทร :           –

จังหวัดระยอง

จังหวัดระยอง

จังหวัดระยองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีน้ำทะเลสวยใสหลายแห่งและมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศจากธรรมชาติ

โดยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและเป็นแหล่งอาหารทะเลที่สำคัญของประเทศไทย 

นอกจากนี้จังหวัดระยองยังมีความงดงามของธรรมชาติที่เขียวขจีในบริเวณรอบเกาะ แถมรอบทะเลมีสีครามสวยให้คุณได้มาสัมผัส อีกทั้งการที่มาเที่ยวทะเลในจังหวัดระยองเป็นการช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวดีขึ้นด้วย รวมถึงยังเป็นการช่วยอุดหนุนคนในพื้นที่จังหวัดระยอง ที่มีอาชีพทำการประมงให้มีรายได้ในการขายอาหารทะเลนั่นเอง สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวทะเลไทยสวยๆในจังหวัดระยอง แต่ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหนดี และมีที่เที่ยวตรงไหนบ้าง ดังนั้นก็ไปดูกันเลย 

15. เกาะเสม็ด

เกาะเสม็ดเป็นเกาะที่อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า โดยเกาะแห่งนี้มีชื่อเสียง ได้รับควมานิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เดินทางง่าย สะดวกต่อการมาสัมผัสบรรยากาศทะเลไทย

ควรเที่ยวเกาะเสม็ดช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวเกาะเสม็ด จะอยู่ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายนเนื่องจากเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ บรรยากาศกำลังดี  มีความปลอดโปร่ง และยังเปิดให้มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หากนักท่องเที่ยวสะดวกช่วงไหน ก็แวะมาเที่ยวทะเลไทยที่เกาะเสม็ดได้เลย

จุดเด่นของเกาะเสม็ด

เป็นเกาะหาดทรายละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด บรรยากาศร่มรื่น มีพื้นที่กว้าง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่อนักท่องเที่ยว ซึ่งบนเกาะเสม็ดยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่ละแห่งจะมีเอกลักษณ์ความสวยงามที่แตกต่างกันไป เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบทะเลเป็นชีวิตจิตใจและทำกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งพื้นที่รอบเกาะล้อมรอบไปด้วยภูเขาจึงทำให้มีบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติสวยงาม 

โดยสถานที่บนเกาะเสม็ดที่น่าเที่ยวมีดังนี้

  • อ่าวพร้าว เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว น้ำทะเลใส มีความสวยงามจากวิวทะเล นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนที่อ่าวพร้าวได้อย่างชิลๆ
  • อ่าววงเดือน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชายหาดมีลักษณะคล้ายโค้งรูปพระจันทร์เสี้ยว บริเวณรอบเกาะมีบรรยากาศร่มรื่นและเป็นธรรมชาติทำให้เป็นอ่าวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว

อีกด้วย

  • อ่าวหมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทีเม็ดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส บรรยากาศรอบอ่าวมีความเป็นส่วนตัว
  • หาดทรายแก้ว เป็นชายหาดที่มีสีขาวนุ่มละเอียด เป็นหาดที่สวยที่สุดในเกาะเสม็ด และเป็นหาดที่ความอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยธรรมชาติ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

กิจกรรมที่เกาะเสม็ด

  • เล่นน้ำทะเล
  • ดำน้ำดูปะการัง
  • นอนพักผ่อน นอนอาบแดด
  • เดินชมวิว
  • ถ่ายรูป
  • พายเรือแคนู
  • พายเรือคายัค

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงเกาะเสม็ดที่น่าสนใจ เช่น

  • อ่าวนวล  เป็นอ่าวขนาดเล็กที่มีน้ำทะเลใสแจ๋ว บรรยากาศเงียบสงบและบริเวณรอบอ่าวมีโขดหินเล็กๆ เป็นจำนวนมาก
  • อ่าวทับทิม  เป็นอ่าวขนาดเล็กที่น่า

พักผ่อน บรรยากาศ เงียบสงบและมีทรายหาดขาวสะอาด

การเดินทางไปยังเกาะเสม็ด

  • รถยนต์ ขับรถไปที่ทางหลวงหมายเลข 7 สายมอเตอร์เวย์ โดยเริ่มจากถนนพัฒนาการ เขตประเวศกรุงเทพ แล้วขับไปยังจังหวัดชลบุรี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 36 เพื่อขับไปจนถึงอ.เมือง จ.ระยอง
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเลือกสายกรุงเทพ-ระยอง
  • รถตู้  ขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ที่อยู่ใกล้กับภัตตาคารพงหลี โดยเลือกรถตู้เส้นทางไปยังระยอง-บ้านเพ

ที่อยู่เกาะเสม็ด : เขตอุทยานแห่งชาติเขา แหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/wb6BpFLv5MAXeYha8

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์ :         –

หาดน้ำริน

16. หาดน้ำริน 

หาดน้ำรินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยในจังหวัดระยองที่มีลักษณะเป็นชายหาดทอดยาว มีโขดหินรอบๆ หาดนั่นเอง เนื่องจากหาดแห่งนี้มีน้ำไหลรินใต้ผิวดินอยู่ตลอดทั้งปีและยังเป็นหาดที่มีแนวลาดชัน ทำให้หาดแห่งนี้มีชื่อว่าหาดน้ำริน โดยหาดแห่งนี้เป็นที่รู้จักเฉพาะคนในท้องถิ่น จึงทำให้ชื่อของหาดยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ความสวยของหาดแห่งนี้ก็ไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ

ควรเที่ยวหาดน้ำรินช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดน้ำรินจะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน

จุดเด่นของหาดน้ำริน

เป็นหาดที่มีน้ำทะเลใสสะอาด บรรยากาศเย็นสบาย เงียบสงบเป็นธรรมชาติ นักท่องเที่ยวไม่แออัด มีทั้งต้นสนและต้นมะพร้าวที่ให้ความร่มรื่น เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนเป็นครอบครัวหรือมาเที่ยวคนเดียวแบบสายชิลก็ได้ นอกจาก นี้ยังมีรูปปั้นปลาพะยูนบนหินให้ได้ชม และยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ริมหาดอีกด้วย

กิจกรรมที่หาดน้ำริน

  • นั่งตกปลา
  • นั่งพักผ่อน
  • เดินชมวิว
  • ปิกนิก
  • เล่นน้ำทะเล
  • ชมพระอาทิตย์ตก

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดน้ำรินทีที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดพยูน เป็นหาดที่มีน้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายมีสีน้ำตาล บรรยากาศ

รอบหาดเงียบสงบ มีความร่มรื่นจากต้นสนที่ปลูกไว้เป็นจำนวนมาก และยังหาดที่น่าท่องเที่ยว

  • หาดพลา เป็นชายหาดที่มีบรรยากาศเย็นสบาย น้ำทะเลสีเขียวใส และมีจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย

การเดินทางไปยังหาดน้ำริน

  • รถยนต์  ขับรถยนต์ขึ้นทสงหลวงหมายเลข 3 สายสุขุมวิท ก่อนจะถึงอ.บ้านฉาง จะมีสะพานให้ข้ามไปยังอำเภอบ้านฉาง ให้ชิดซ้ายไปกลับรถใต้สะพาน ขับตรงไปอีก 5 กิโลเมตร ก็จะมีถนนเข้าสู่ชายหาด จากนั้นเลี้ยวขวาก็จะเจอหาดน้ำริน
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต แล้วเลือกรถตู้ที่มีป้ายเส้นทางหมอชิต-ระยอง

ที่อยู่หาดน้ำริน : หาดน้ำริน ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/JWfZF5mwZ4nxGcQbA

เวลาเปิด-ปิด :  เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

เบอร์โทร : 038-695233-5

หาดแสงจันทร์ 

17. หาดแสงจันทร์ 

หาดแสงจันทร์เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองระยองโดยหาดแห่งนี้มีการนำก้อนหินกรวดขนาดใหญ่มาวางทำเป็นแนวป้องกันน้ำทะเลกัดเซาะหาดนั่นเอง อีกทั้งบรรยากาศรอบหาดเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมาก จึงทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

ควรเที่ยวหาดแสงจันทร์ช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดแสงจันทร์จะอยู่ในช่วงซัมเมอร์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม

จุดเด่นของหาดแสงจันทร์

เป็นชายหาดทะเลไทยที่มีลักษณะโค้งเว้าคล้ายรูปเกือกม้ายาวกว่า 10 กิโลเมตรไปจนสุดถนน ทำให้มีจุดชมวิวที่สวยงามอยู่หลายจุด นอกจากนี้บรรยากาศรอบหาดนั้นเงียบสงบ น้ำทะเลใส มีความร่มรื่นจากต้นสน สามารถมาสูดอากาศอันบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ ยิ่งช่วงตอนเย็นจะมีผู้คนมานั่งปิกนิกรับลมซึ่งทำให้รู้สึกสดชื่น หรือชมพระอาทิตย์ตก จึงทำให้มีบรรยากาศที่น่าอยู่

กิจกรรมที่หาดแสงจันทร์

  • นั่งปิกนิก
  • นั่งชมบรรยากาศริมทะเล
  • เล่นน้ำทะเล
  • ถ่ายรูป
  • นอนอาบแดด
  • ขับรถเล่นชมวิว
  • แค้มป์ปิ้งปีใหม่
  • ปั่นจักรยาน

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดแสงจันทร์ที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดแหลมเจริญ เป็นหาดโล่งๆ ที่มีบรรยากาศร่มรื่น น้ำทะเลใสน่าเที่ยว  สำหรับการมาพักผ่อนสบายๆ ชิลๆ
  • สวนพฤกษศาสตร์ระยอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งเรียนรู้ที่อนุรักษ์ทรัพยากรพันธ์ุพืชของระบบนิเวศให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงามแบบธรรมชาติ

การเดินทางไปยังหาดแสงจันทร์

  • รถยนต์  ขับรถยนต์จากกรุงเทพ โดยใช้ถนนเส้นสุขุมวิท ก่อนถึงตัวเมืองระยองให้เลี้ยวขวาตามป้ายไปยังหาดแสงจันทร์ สุดทางเป็นสามแยกที่มีรูปปั้นนางผีเสื้อสมุทรและพระอภัยมณี แล้วเลี้ยวขวาไปก็จะเจอหาดแสงจันทร์

ที่อยู่หาดแสงจันทร์ : ถนนเลียบชายฝั่ง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/FAhVXENKTvxsaoGd7

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :         

18. แหลมแม่พิมพ์ 

แหลมแม่พิมพ์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยในจังหวัดระยองที่มีชื่อเสียง โดยหาดแห่งนี้มีความกว้างยาวกว่า 4 กิโลเมตรและยังมีถนนเลียบชายหาดตลอดแนวจึงเหมาะสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวในการทำกิจกรรมบนหาด และยังมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอดทั้งปีไม่ขาดสาย

ควรเที่ยวแหลมแม่พิมพ์ช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวแหลมแม่พิมพ์จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน

จุดเด่นของแหลมแม่พิมพ์

เป็นชายหาดที่มีความกว้าง น้ำทะเลใส มีบรรยากาศทางทะเลที่สวยงาม ร่มรื่นไปด้วยต้นทิวสนและต้นหูกวาง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการมาพักผ่อน รวมทั้งมีสะพานเล็กไปยื่นออกไปยังแนวโขดหินสำหรับชมวิว นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้ประชาชนได้กราบไหว้

สักการะอีกด้วย

กิจกรรมที่แหลมแม่พิมพ์

  • เล่นน้ำทะเล
  • ปั่นจักรยาน
  • เดินชมวิว
  • นั่งพักผ่อน
  • นั่งปิกนิก
  • ถ่ายรูป
  • กางเต็นท์ริมชายหาด
  • เล่นบานาน่าโบ๊ท

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงแหลมแม่พิมพ์ที่น่าสนใจ เช่น

  • ชุมชนเกษตรบ้านชากมะกรูด เป็นสถานที่จัดบุพเฟต์ผลไม้  ซึ่งสามารถเก็บกินสดๆจากต้น โดยนักท่องเที่ยวจะรู้สึกสนุกเพลิดเพลินกับการเก็บผลไม้ไปด้วยและชมสวนผลไม้ไปพร้อมๆ กัน

การเดินทางไปยังแหลมแม่พิมพ์

  • รถยนต์ ขับรถจากกรุงเทพ โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทไปทางทางระยอง ผ่านแยกเข้าบ้านเพ แล้วตรงมาถึงทางแยกเข้าแหลมแม่พิมพ์ ตามป้ายบอกทาง  ตรงมาถึงถนนเลียบชายหาด
  • รถตู้ ขึ้นรถตู้สายระยอง – บ้านเพ-

แหลแม่พิมพ์ แล้วลงที่แหลมแม่พิมพ์

ที่อยู่แหลมแม่พิมพ์ : หาดแหลมแม่พิมพ์ หมู่ 3-4 ถ.เพ-แกลง-กร่ำ ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/bQzBsZdN9hxJVhEr5

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 0-3863-8789 

จังหวัดจันทบุรี

จังหวัดจันทบุรี

จังหวัดจันทบุรีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยที่มีความสวยงามไม่แพ้จากจังหวัดอื่นๆ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นทะเล น้ำตก ภูเขา โดยสภาพภูมิประเทศจังหวัดจันทบุรีนั้นด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ของป่าไม้ ภูเขาและเนินสูง ส่วนทางด้านทิศใต้จะเป็นชายฝั่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มบางแห่งก็เป็นทะเล อ่าว แหลม หาดทรายและมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ จึงทำให้จังหวัดแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องทะเล ผลไม้ อาหารทะเล และป่าชายเลนอีกด้วย 

ซึ่งการมาท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรีเป็นการช่วยส่งเสริมให้จังหวัดมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น และบอกกล่าวต่อๆกันให้มาเที่ยว เพื่อเป็นการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย ให้เป็นที่รู้จักไปยังชาวต่างชาติ อีกทั้งช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ โดยสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในจังหวัดจันทบุรีมีดังนี้

19. หาดเจ้าหลาว 

หาดเจ้าหลาวเป็นหาดที่มีชื่อเสียงในจังหวัดจันทบุรี เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอท่าใหม่ประมาณ 17 กิโลเมตร และอยู่ใกล้หาดแหลมสมเด็จ ที่มาของชื่อนั้น เกิดจากการที่ใช้หลาว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการหาปลามาปักลงที่หาด จึงพากันเรียกว่าหาดเจ้าหลาว  อีกทั้งผู้คนิยมมาพักผ่อนที่หาดแห่งนี้เป็นประจำและระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพ

ควรเที่ยวหาดเจ้าหลาวช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดเจ้าหลาว จะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม

จุดเด่นของหาดเจ้าหลาว

เป็นชายหาดทะเลไทยที่สวยที่สุดในจังหวัดจันทบุรี โดยมีน้ำทะเลสีฟ้าครามสดใส หาดทรายสีเหลืองละเอียด บรรยากาศดีและมีลมเย็นๆพัดรอบหาด ร่มรื่นไปด้วยต้นมะพร้าว ยิ่งช่วงตอนเย็นพระอาทิตย์ตก บริเวณรอบหาดจะดูสวยสุดๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นดูโรแมนติก นอกจากนี้ยัมีจุดชมวิวและมีมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด

กิจกรรมที่หาดเจ้าหลาว

  • เล่นน้ำทะเล
  • ถ่ายรูป
  • เดินชมวิว
  • นอนอาบแดด
  • นอนพักผ่อนริมหาด
  • นั่งเรือท้องกระจก

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดเจ้าหลาวที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดแหลมสมเด็จ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นสนทะเลและพันธุ์ไม้หายาก อีกทั้งหาดทรายนั้นจะทอดยาว เป็นแนวเส้นโค้งเสี้ยวพระจันทร์อย่างสวยงาม

การเดินทางไปยังหาดเจ้าหลาว

  • รถทัวร์  ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเลือกรถทัวร์ที่มีเส้นทางจากกรุงเทพ-จันทบุรี 
  • รถยนต์ ขับรถยนต์โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท ก่อนถึงตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 30 กิโลเมตร ก็จะเห็น

เส้นทางกิโลเมตรที่ 301 ซึ่งจะมีทางแยกขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 3399 เมื่อถึงบ้านหมูดุด จะพบสามแยกให้เลี้ยวซ้าย แล้วก็จะเห็นป้ายบอกทางไปหาดเจ้าหลาว ระยะทาง 3 กิโลเมตร

ที่อยู่หาดเจ้าหลาว : หาดเจ้าหลาว ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/8WqAZcCt4tzhsHHX8

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :   –

หาดคุ้งวิมาน

20. หาดคุ้งวิมาน

หาดคุ้งวิมานเป็นชายหาดแห่งจังหวัดจันทบุรีที่มีชื่อเสียงและมีถนนเลียบหาดคุ้งวิมานที่สวยที่สุดในแถบภาคตะวันออก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 15 กิโลเมตร อีกทั้งบริเวณหาดมีบรรยากาศที่เงียบสงบ น่ามาสัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก

ควรเที่ยวหาดคุ้งวิมานช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดคุ้งวิมาน จะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคมและยังเหมาะสำหรับการเดินทางมาเที่ยวชมหาดคุ้งวิมานซึ่งเป็นทะเลไทยที่สวยงาม

จุดเด่นของหาดคุ้งวิมาน

มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม บริเวณรอบหาดรายล้อมไปด้วยความเป็นธรรมชาติจากภูเขา บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นเย็นสบายไปด้วยต้นมะพร้าว น้ำทะเลมีศีลครามเหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเลหรือนั่งพักชิลๆริมชายหาด 

ซึ่งหาดคุ้งวิมานแห่งนี้แบ่งออกเป็น หาดช่วงเหนือและหาดช่วงใต้ โดยหาดช่วงเหนือมีหาดทรายสีเหลืองที่สวยงามสะอาด น้ำทะเลใสส่วนหาดช่วงใต้มีโขดหินและอยู่ใกล้จุดชมวิวนางพญา

กิจกรรมที่หาดคุ้งวิมาน

  • เล่นน้ำทะเล
  • ตกปลา
  • เดินชมวิว
  • นอนอาบแดด
  • ดำน้ำดูปะการัง
  • นั่งปิกนิก
  • ถ่ายรูป
  • ปั่นจักรยาน

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดคุ้งวิมานที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดแหลมสิงห์ เป็นหาดที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่น โดยหาดทรายของหาดนั้นมีสีน้ำตาลอมแดง มีบรรยากาศรอบหาที่ร่มรื่น เหมาะสำหรับการนั่งพักชิลๆ หรือเดินชมวิวก็ดีไม่แพ้กัน

การเดินทางไปยังหาดคุ้งวิมาน

  • รถยนต์  ขับรถยนต์โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท เมื่อถึงหลักกิโลเมตรเมตรที่301 จะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร ก็จะถึงหาดคุ้งวิมาน
  • รถทัวร์  ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเลือกรถทัวร์ที่มีเส้นทางจากกรุงเทพ-จันทบุรี

ที่อยู่หาดคุ้งวิมาน : หาดคุ้งวิมาน ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/UHAKjHS9BGSrNqep9

เวลาเปิด-ปิด :  เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :         –

21. จุดชมวิวหินโคร่ง 

จุดชมวิวหินโคร่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ทางด้านเหนือของหาดคุ้งวิมาน ซึ่งมีความเงียบสงบ และมีลานจอดรถกว้างสะดวกต่อการมาชมวิวบรรยากาศริมทะเลสวยๆ

ควรเที่ยวจุดชมวิวหินโคร่งช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวจุดชมวิวหินโคร่ง คือเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากบริเวณรอบจุดชมวิวมีคลื่นลมไม่แรง

จุดเด่นของจุดชมวิวหินโคร่ง

จุดชมวิวหินโคร่งนั้นจะมีก้อนโขดหินทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวนมากเรียงรายกัน รอบบริเวณทะเลท่ามกลางบรรยากาศน้ำทะเลสีฟ้าครามใส ซึ่งทำให้เป็นเอกลักษณ์ของสถานทีาแห่งนี้และยังมีบรรยากาศที่เย็นสบาย 

สามารถนั่งเล่นบนโขดหิน ฟังคลื่นทะเลหรือชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น

กิจกรรมที่จุดชมวิวหินโคร่ง

  • เล่นน้ำทะเล
  • ตกปลา
  • ถ่ายรูป
  • นั่งเล่นริมทะเล
  • เดินชมวิว

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงจุดชมวิวหินโคร่งที่น่าสนใจ เช่น

  • จุดชมวิวเนินนางพญา เป็นสถานที่มีบรรยากาศดีและมีทิวทัศน์ที่สวยงาม บริเวณรอบสถานที่แห่งนี้รายล้อมไปด้วยภูเขาและบนจุดชมวิวยังเปิดให้นักท่องเที่ยวมาคล้องกุญแจคู่แบบรักอีกด้วย

การเดินทางไปยังจุดชมวิวหินโคร่ง

  • รถยนต์ ขับรถยนต์โดยใช้เส้นถนนสุขุมวิท เพื่อวิ่งมาทางจังหวัดจันทบุรี ตรงมาเข้าอำเภอนายายอาม เจอแยกให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข1011แล้วขับตรงมาอีก 10 กิโลเมตร ก็จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4036 ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ขับมาตรงมาตามทางอีก 9 กิโลเมตร ถึงทางแยกบ้านาชา ให้เลี้ยวขวาไปหาดคุ้งวิมาน จนถึงสี่แยกค้างวิมานแล้ว ให้เลี้ยวขวาอีกครั้งไปหาดคุ้งวิมาน ก็จะเจอทางแยกริมหาด จากนั้นให้เลี้ยวขวามือไปจนสุดทาง จะถึงจุดชมวิวหินโคร่งพอดี
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเลือกขึ้นรถทัวร์ที่มีเส้นทางจากกรุงเทพ-จันทบุรี

ที่อยู่จุดชมวิวหินโคร่ง : จุดชมวิวหินโคร่ง ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/z8hVdkQVeDa2U7e49

เวลาเปิด-ปิด :  เปิดทุกวัน 07:00-18:00 น.

เบอร์โทร :          –

อ่าวคุ้งกระเบน

22. อ่าวคุ้งกระเบน

อ่าวคุ้งกระเบนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรีเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เพื่อส่งเสริมอ่าวแห่งนี้ให้เป็นแหล่งอาชีพการประมงของคนในพื้นที่ให้เกิดรายได้ให้กับครอบครัว

ควรเที่ยวอ่าวคุ้งกระเบนช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวอ่าวคุ้งกระเบนนั้น นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีหรือจะมาเที่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม

จุดเด่นของอ่าวคุ้งกระเบน

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีลักษณะอ่าวคล้ายรูปร่างของปลากระเบนและมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยระบบนิเวศ ซึ่งมีทั้งสัตว์น้ำ สัตว์ป่าชายเลน ปูแสม มีพันธุ์ไม้ที่ให้ความร่มรื่นรวมถึงบรรยากาศที่เย็นสบาย นอกจากนี้ยังมีสะพานไม้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินศึกษาระบบป่าชายเลนท่ามกลางต้นไม้ที่เขียวขจี เหมาะสำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับระบบป่านิเวศ หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสไตล์ธรรมชาตินั่นเอง

กิจกรรมที่อ่าวคุ้งกระเบน

  • นั่งเล่นบริเวณรอบอ่าว
  • ถ่ายรูป
  • เดินชมวิวธรรมชาติบนสะพานหรือเดินศึกษาระบบนิเวศ

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงอ่าวคุ้งกระเบน เช่น

  • สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 

เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดเล็ก ซึ่งตั้งอยู่ที่แหลมเสด็จอ่าวคุ้งกระเบน โดยบริเวณภายในมีสัตว์น้ำที่หาชมได้ยากและมีปลาชนิดต่างๆให้ได้เรียนรู้ นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจ ชมความสวยงามของปลาทะเลได้ตลอดทั้งปี

การเดินทางไปยังอ่าวคุ้งกระเบน

  • รถยนต์ ขับรถยนต์จากกรุงเทพ โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท ก่อนถึงตัวเมืองจังหวัดจันทบุรี ให้เลี้ยวขวาจากนั้นขับไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3399 ขับไปเรื่อยไปก็จะเห็นป้ายบอกทางแยกหาดต่างๆ
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเลือกขึ้นรถทัวร์ที่มีเส้นทางจากกรุงเทพ-จันทบุรี

ที่อยู่อ่าวคุ้งกระเบน : ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่า ชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน 31 หมู่ที่4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Q6Tc2KLd8Rqjkt4s9

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 0-3943-3216

23. ลานหินสีชมพู

ลานหินสีชมพูเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทย ซึ่งอยู่ในการดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์คุ้งกระเบน โดยสถานที่แห่งนี้มีหินสีชมพูอมน้ำตาลแดงอยู่บริเวณริมชายหาด ทำให้เป็นลานหินที่ดูสยงาม น่ามอง อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนให้อยากมาเที่ยวชมเรื่อยๆ

ควรเที่ยวลานหินสีชมพูช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวลานหินสีชมพู จะอยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมิถุนายน แนะนำให้มาเที่ยวที่ลานหินสีชมพูในตอนกลางวันเนื่องจากเป็นช่วงน้ำลง ทำให้นักท่องเที่ยวได้มองเห็นความสวยงามของลานหินสีชมพูได้อย่างชัดเจน

จุดเด่นของลานหินสีชมพู

เป็นลานหินสีชมพูอมน้ำตาลขนาดใหญ่เรียงรายกันเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศน้ำทะเลสีครามใส มีบรรยากาศเย็นสบาย ยิ่งมีแสงตกกระทบกับลานหินแล้ว ก็ยิ่งทำให้ที่แห่งนี้ดูสวยงามมากๆ และในช่วงตอนเย็นลานหินสีชมพูจะมีบรรยากาศที่น่านั่งเล่น เงียบสงบ เนื่องจากมีพระอาทิตย์ตกทำให้รู้สึกอบอุ่นและรู้สึกผ่อนคลาย

กิจกรรมที่ลานหินสีชมพู

  • นั่งถ่ายรูปบนลานหิน
  • เดินชมวิว
  • เล่นน้ำริมลานหิน
  • ฟังคลื่นเสียงทะเล
  • ปิกนิก

การเดินทางไปยังลานหินสีชมพู

  • รถยนต์ : ขับรถยนต์ตามถนนเฉลิมบูรพาชลทิต วิ่งมาทางหาดเจ้าหลาวแล้วตรงมาขึ้นเนินและลงเนินจะเห็นทางแยก จากนั้นให้เลียวขวาไป ก็จะเข้าสู่ลานหินสีชมพูในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน

ที่อยู่ลานหินสีชมพู : 31 หมู่4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/qYShpAAkhyYciXdc9

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00-17:00 น.

เบอร์โทร :              –

แอร์พอเทลล์บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระ

แอร์พอเทลล์บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระ

แอร์พอเทลล์เป็นบริการที่รับฝากและขนส่งสัมภาระที่มีความสะดวก ประหยัด ปลอดภัย ไร้กังวล อีกทั้งส่งกระเป๋าถึงที่พักของคุณได้อย่างรวดเร็ว 

โดยทางแอร์พอเทลล์มีบริการรับฝากและบริการขนส่งทั้งในกรุงเทพรวมถึงขนส่งไปยังต่างจังหวัด ได้แก่ปลายทางจากกรุงเทพ-พัทยา, พัทยา-กรุงเทพ, กรุงเทพ-ภูเก็ต, ภูเก็ต-กรุงเทพ

ซึ่งราคาของบริการฝากกระเป๋า ,ส่งกระเป๋าในกรุงเทพหรือส่งกระเป๋าไปยังต่างจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ มีดังนี้ 

  • ราคาเริ่มต้นใบละ 299 บาทหรือต่อชิ้น (สำหรับจัดส่งในวันเดียว) ของต้นทาง-ปลายทางที่พัทยา – กรุงเทพ, กรุงเทพ – พัทยา  หรือส่งกระเป๋าจากกรุงเทพ ไปยังจังหวัดอื่นๆ รวมถึงบริการจากจังหวัดอื่นๆมายังกรุงเทพ 
  • ราคาเริ่มต้น 100 บาท ต่อชิ้น , ต่อวัน, ไม่จำกัดขนาด น้ำหนัก สำหรับบริการรับฝากกระเป๋ารวมทั้งสัมภาระ
  • ราคาเริ่มต้นใบละ 299 บาท สำหรับการส่งกระเป๋าภายในตัวเมืองไปยังปลายทางในจังหวัดเดียวกัน พัทยา – พัทยา

นอกจากนี้ยังมีบริการขนส่งสัมภาระอยู่ด้วยกันถึง 5 สาขาในกรุงเทพอีกด้วย ได้แก่

  • เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โซนกรูฟ ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ
  • เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 6โซนบีโดยติดทางออกลานจอดรถ
  • เทอร์มินอล 21 ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ทางออกลานจอดรถ
  • สนามบินดอนเมือง ตั้งอยู่ที่ชั้นจี อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ประตู 9
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ที่ชั้นบี โซนแอร์พอร์ตลิงต์
  • เทอร์มินอล 21 พัทยา ตั้งอยู่ที่ชั้นจี โซนปารีส

หากคุณอยู่ใกล้บริเวณนั้นๆ ของสาขาในกรุงเทพ ก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้เลย

สรุป

การที่มาเที่ยวทะเลนั้น มีข้อดีมากมาย เช่น ช่วยคลายเครียด ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย มีบรรยากาศที่เงียบสงบ หรือมาสูดอากาศอันบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้การมาเที่ยวทะเลนั้นเหมาะแก่การไปกับใครก็ได้ สามารถไปเที่ยวทะเลคนเดียวแบบชิลๆ ไปกับครอบครัว หรือแก๊งเพื่อนๆก็ดีอีกด้วย

เมื่อเที่ยวจนจบทริป หรือกำลังกลับกรุงเทพฯ ก็สามารถใช้บริการของ AIRPORTELs ได้ หากเกิดอาการเหนื่อยล้า ไม่อยากขนกระเป๋าสัมภาระของตนเองหรือครอบครัวในปริมาณเยอะๆ เพราะ AIRPORTELs มีบริการส่งกระเป๋าให้ถึงที่พักของคุณ รับรองได้ว่าคุณจะต้องประทับใจในการให้บริการ เนื่องจากการให้บริการ AIPPORTELs นั้น ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว ไม่จำกัด ขนาด ไซซ์ น้ำหนักของกระเป๋าหรือสัมภาระ อีกทั้งคุณยังมีเวลาในการไปทำสิ่งอื่นๆ ตามต้องการ และยังไม่ต้องปวดเมื่อยร่างกายอีกด้วย

แกลมปิ้ง (glamping) คืออะไร ต่างจาก camping อย่างไร 

แกลมปิ้ง (glamping) คืออะไร ต่างจาก camping อย่างไร 

แกลมปิ้ง คือการตั้งแคมป์แบบหรูหรา ซึ่งคำว่า Glamping ก็มาจากการรวมคำว่า Glamorous ที่แปลว่าสวยงาม หรูหรา ส่วน Camping หมายถึงการตั้งแคมป์นั่นเอง โดยจะผสมผสานระหว่างการตั้งแคมป์แบบดั้งเดิมเข้ากับความหรูหราสไตล์โรงแรมหรือรีสอร์ต ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถนอนกางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น เพราะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างดีและครบครัน ซึ่งอันที่จริง แกลมปิ้งนั้นมีมานานแล้ว แต่เพิ่งเป็นกระแส และได้รับความนิยมในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดที่ผ่านมา  เพราะผู้คนโหยหาการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติมากขึ้น ประกอบกับการได้เห็นรูปภาพสวยๆ และคอนเทนต์ต่างๆ จากบรรดา Vloger และ Influencer ก็ยิ่งดึงดูดให้ผู้คนอยากออกไปสัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ด้วยตัวเองดูสักครั้ง  

แกลมปิ้งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ไต้หวัน โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดิมทีการตั้งแคมป์ก็เป็นกิจกรรมที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบกันอยู่แล้ว เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย และการไปท่องเที่ยวในแต่ละฤดูก็ยังให้บรรยากาศที่ต่างกันด้วย พอมีความสะดวกสบายเข้ามาเพิ่ม ก็ยิ่งทำให้การตั้งแคมป์ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก

glamping vs camping แตกต่างกันอย่างไร

glamping vs camping แตกต่างกันอย่างไร

การตั้งแคมป์แบบ Glamping และการตั้งแคมป์แบบดั้งเดิม หรือ Camping มีทั้งส่วนที่คล้ายและแตกต่างกัน ส่วนที่เหมือนกัน คือการเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่เน้นประสบการณ์ใกล้ชิดธรรมชาติ ใช้ชีวิตกลางแจ้ง ได้สูดอากาศอันสดชื่น นอนดูดาว ตื่นเช้ามาเปิดเต็นท์ก็เห็นทิวทัศน์สวยๆ อยู่ตรงหน้า แต่การตั้งแคมป์แบบ Glamping จะหรูหราและสะดวกสบายมากกว่า เหมือนยกรีสอร์ตมาตั้งไว้กลางธรรมชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยตั้งแคมป์ได้มีโอกาสเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ 

ในขณะที่การตั้งแคมป์แบบเดิมจะได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เพราะแม้จะราคาถูก ทำให้ประหยัดค่าที่พักได้มากกว่าการนอนในโรงแรม แต่ก็ต้องยอมรับว่าการนอนเต็นท์ที่ดูเหมือนจะสนุกและท้าทาย แต่เอาเข้าจริงก็ไม่สะดวกสบายเท่าไหร่ ยิ่งถ้าต้องแบกเต็นท์ไปเอง กางเต็นท์เอง ก็ต้องใช้เวลาและพละกำลังไม่น้อยเลยทีเดียว ยังไม่รวมถึงการทำอาหาร ห้องน้ำ ความปลอดภัย ฯลฯ ที่ทำให้หลายคนถอดใจจนต้องพับโครงการไปในที่สุด 

glamping มีจุดเด่นอย่างไร

glamping มีจุดเด่นอย่างไร

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ เผชิญกับความเครียด ความกดดัน และปัญหาสารพัดในแต่ละวัน จึงไม่มีใครอยากจะออกไปผจญภัยแบบลำบากลำบนในช่วงวันหยุดอีก Glamping จึงถือเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ได้อย่างลงตัว ส่วนใหญ่ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อแลกมากับการพักผ่อนที่สะดวกสบาย ในขณะเดียวกันก็ได้หลีกหนีความวุ่นวาย ไปให้ธรรมชาติโอบกอดเยียวยาจิตใจ ใช้เวลากับคนที่รัก แถมยังได้รูปเก๋ๆ ลงโซเชียลด้วย นอกจากนี้การท่องเที่ยวสไตล์ Glamping ยังมีจุดเด่นอีกมากมาย เช่น

สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

ที่พักที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการนอนพักในโรงแรม มีทั้งเตียงอย่างดี นอนแล้วนุ่มสบาย ไม่ปวดหลัง เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็นขนาดเล็ก ไมโครเวฟ กาน้ำร้อน อินเทอร์เน็ต ชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับรับประทานอาหาร ห้องน้ำส่วนตัว เครื่องทำน้ำอุ่น บางแห่งมีอ่างอาบน้ำ หรืออ่าง Jacuzzi ให้ ในขณะที่บางแห่งก็มีพื้นที่ครัว รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถประกอบอาหารได้อย่างสะดวกสบาย  

มีความปลอดภัย

นอกจากภายในเต็นท์ที่พักแบบ Glamping จะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแล้ว โครงสร้างของเต็นท์ก็มีความแข็งแรงมากกว่าเต็นท์ขนาดเล็ก ทำให้รู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องสภาพอากาศ เสียงรบกวน แมลง หรือสัตว์มีพิษ อีกทั้งยังอยู่ในบริเวณของที่พักที่จัดไว้ให้โดยเฉพาะ จึงเหมือนได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกหนึ่งชั้น   

พื้นที่ความเป็นส่วนตัว

แม้ที่พักจะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่เต็นท์ที่ใช้สำหรับพักผ่อนก็คล้ายกับห้องส่วนตัวที่ปิดได้อย่างมิดชิด และทางที่พักก็มักจะเว้นระยะห่างระหว่างเต็นท์ รวมถึงมีพื้นที่บริเวณรอบเต็นท์ให้สามารถออกมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเป็นส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็นสัดส่วน มีที่เก็บของ มีห้องน้ำในตัว สะอาดสะอ้าน ไม่ต้องใช้ห้องน้ำรวม นักท่องเที่ยวจึงสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ 

บรรยากาศดี มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ลองทำ

การไป Glamping ไม่เพียงแต่จะได้พักผ่อนและดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังจะได้ใช้เวลาสร้างความทรงจำดีๆ และกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนผ่านกิจกรรมต่างๆ  เช่น การทำอาหาร ย่างบาร์บีคิว ดริปกาแฟ ผิงไฟ ร้องเพลง ตกปลา เล่นเกมต่างๆ อีกทั้งที่พักหลายแห่งก็ยังจัดเตรียมกิจกรรมสนุกๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย เช่น การขี่ม้า การเดินป่า ดูดาว ถ่ายรูปสวยๆ เป็นต้น

glamping มีกี่แบบ

glamping มีกี่แบบ

ปัจจุบันคนไทยนิยมเที่ยวแบบ Glamping กันมากขึ้น ที่พักหลายแห่งจึงมีการออกแบบห้องพักหลากหลายประเภท เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเลือกพักได้ตามความชอบ งบประมาณที่ต้องการ หรือจำนวนคนในทริป เช่น มาเป็นคู่ มาพร้อมครอบครัว หรือมากับกลุ่มเพื่อนหลายคน เป็นต้น โดยมีรูปแบบต่างๆ ให้เลือก ดังนี้

แกลมปิ้งแวน

แกลมปิ้งแวน หรือเรียกง่ายๆ ก็คือรถบ้าน ลักษณะภายนอกจะเหมือนกับรถธรรมดา อาจจะเป็นรถตู้หรือรถบัสก็ได้ แต่ด้านในถูกดัดแปลงให้เปรียบเสมือนบ้านขนาดย่อมที่สามารถเคลื่อนที่ได้ มีห้องน้ำ ห้องครัว ที่นอน โซฟาพับได้ โต๊ะทานอาหาร และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปหลายแห่ง ยิ่งถ้าไปหลายคน เมื่อหารเฉลี่ยค่าใช้จ่ายแล้วก็จะประหยัดกว่าด้วย แต่ข้อเสียก็คือต้องมีคนขับที่มีความชำนาญเส้นทาง และควรจะมีความรู้ในการใช้งานรถ เช่น การเติมน้ำสะอาด การระบายของเสีย การเสียบไฟฟ้าเพื่อใช้งานขณะจอดรถ เป็นต้น 

ซึ่งปัจจุบันจุดจอดรถแกลมปิ้งแวนในไทยที่มีบริการเหล่านี้ก็ยังมีไม่มาก จึงไม่เป็นที่นิยมนัก แต่บางที่พักก็มีการนำรถแกลมปิ้งแวนมาใช้เป็นห้องพัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้บรรยากาศที่สมจริง

เต็นท์โดมขนาดใหญ่ 

เต็นท์โดมขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลม เป็นเต็นท์ที่นิยมมากที่สุด และเหมาะมากสำหรับสาย Glamping เพราะมีความแข็งแรงทนทาน ทนได้ทั้งแดดและฝน ด้านในพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง โล่งโปร่งสบาย เหมือนเป็นห้องๆ หนึ่ง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด นอนได้หลายคน และยังสามารถติดแอร์ วางเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย บางแห่งก็ต่ออุโมงค์ทำห้องน้ำในตัวให้เรียบร้อย ผนังสามารถมองเห็นวิวด้านนอกหรือนอนชมดาวยามค่ำคืนได้ แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถปิดม่านได้

เต็นท์ทรงกระโจมหรือเต็นท์มองโกลทรงคลาสิก

เต็นท์ทรงกระโจมจะให้บรรยากาศของการตั้งแคมป์มากกว่า จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายรูป สร้างคอนเทนต์ ลักษณะเป็นกระโจมสามเหลี่ยมที่มียอดแหลมตรงกลาง ทำให้หลังคาสูง พื้นที่ด้านในดูโล่งโปร่งมากขึ้น อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว เวลาเปิดประตูก็จะสามารถมองเห็นวิวสวยๆ ได้เต็มตา และหากเป็นเต็นท์กระโจมที่มีขนาดใหญ่ก็สามารถนอนได้หลายคนและวางสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ได้ครบไม่ต่างจากเต็นท์โดมเลย แต่ข้อเสียคือ เต็นท์กระโจมบางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่มีขนาดใหญ่มักจะมีเสาตรงกลาง อาจจะทำให้รู้สึกเกะกะเล็กน้อย

บ้านต้นไม้ 

บ้านต้นไม้ เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ คล้ายกระท่อม สร้างอยู่บนต้นไม้ มักออกแบบให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกร่มรื่น เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ อยากหลบหลีกความวุ่นวายไปผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ ตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ขับกล่อมด้วยเสียงนก เสียงใบไม้ หรือคนที่อยากเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ เติมเต็มความฝันในวัยเด็ก เพราะที่พักที่มีบ้านต้นไม้มีจำนวนจำกัด และแต่ละแห่งก็มีจำนวนไม่มาก เนื่องจากก่อสร้างยาก ต้องใช้พื้นที่เยอะ แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าห้องพักแบบธรรมดา

โดยสรุปแล้วแกลมปิ้งก็คือการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งที่พัฒนามาจากการตั้งแคมป์แบบดั้งเดิมหรือ Camping โดยยังคงเน้นความใกล้ชิดธรรมชาติไว้ แต่เพิ่มความหรูหราและสะดวกสบายเข้ามา การตั้งแคมป์จึงไม่ได้เป็นการท่องเที่ยวที่จำกัดเฉพาะสายลุย หรือสาย Adventure อีกต่อไป แต่ใครๆ ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์นอนกางเต็นท์ชมวิวได้ เทรนด์การท่องเที่ยวแบบ Glamping จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการตั้งแคมป์ขายดีจนมีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ในขณะเดียวกันที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งต้องปรับตัวและเพิ่มห้องพักแบบ Glamping เพื่อดึงดูดลูกค้า 

อย่างไรก็ตามก่อนออกเดินทางนักท่องเที่ยวก็ควรจะศึกษาสถานที่ เส้นทาง สภาพภูมิอากาศ รวมถึงเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ขับรถไปเอง การแบกสัมภาระจำนวนมากอาจเป็นอุปสรรคในการเดินทางได้ ขอแนะนำบริการดีๆ จาก Airportels ผู้ให้บริการขนส่งกระเป๋าเจ้าแรกในไทย ที่จะช่วยขนสัมภาระไปส่งให้ถึงที่พักทุกแห่งทั่วประเทศ โดยสามารถกดจองผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว แล้วออกเดินทางตัวเปล่าแบบชิลๆ ไม่ต้องหิ้วกระเป๋าเองให้เหนื่อย แวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้เต็มที่ ถึงที่พักพร้อมกระเป๋าที่รออยู่แล้ว ปลอดภัยด้วยระบบติดตามสัมภาระที่สามารถเช็กสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางที่สะดวกสบายกว่าที่เคย

13 ที่เที่ยวของคนโสด เดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ลุยเดี่ยวมีข้อดีกว่าที่คิด

หากใครที่เป็นคนโสดแล้วอยากไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจหรือไม่อยากรอเพื่อนว่าง บทความนี้จะมาแนะนำ 13 ที่เที่ยวในไทยสำหรับคนโสดที่อยากไปพักใจ อยากเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว อยากลองทำอะไรใหม่ๆ ลุยเดี่ยวคนเดียวชิลๆ ท้าทายตัวเองว่าเที่ยวคนเดียวสามารถไปเที่ยว และการไปเที่ยวคนเดียวนั้นมีข้อดีมากกว่าที่เราคิด เพราะจะได้ใช้เวลากับตัวเองได้อย่างเต็มที่ สามารถโฟกัสกับสิ่งรอบตัว ซึมซับบรรยากาศได้มากขึ้นและยังมีข้อดีของการเที่ยวคนเดียวอื่นๆ อีกมากมายอยู่ในช่วงท้ายของบทความ

13 ทริปคนโสด ลุยเดี่ยว คนเดียวชิลๆ

13 ทริปคนโสดทั่วประเทศไทย ที่ได้คัดสรรมาแล้ว เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวได้ทั้งหญิงและชาย ปลอดภัยไม่อันตราย ท่องเที่ยว พักผ่อนได้อย่างสบายใจ คลายกังวล กลับจากทริปด้วยใจฟูๆ 

ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

1. ปาย จ.แม่ฮ่องสอน

สัมผัสเมืองเหนือ อากาศเย็นๆ และผู้คนที่อัธยาศัยดี การเดินทางที่สะดวก อาหารการกินก็ไม่แพง เหมาะแก่การมาเที่ยวคนเดียว บางทีเราอาจจะไม่กล้ากินเยอะเพราะว่าไม่มีคนหารด้วย แต่ที่นี่สามารถเพลิดเพลินกับอาหารได้แบบจุใจ และบรรยากาศสดชื่น อยู่กับธรรมชาติได้อย่างเต็มที่ และไปคนเดียวก็ไม่เหงา เพราะมีหลายอย่างสนุกๆ ให้ได้ลองทำมากมาย สถานที่ท่องเที่ยวก็เยอะ 

โดยที่ห้ามพลาดเลย เมื่อไปถึงก็คือ ‘ทะเลหมอกหยุนไหล’ เมื่อมาปายแล้ว การชมทะเลหมอกก็นับว่าถ้าไม่ได้มาก็เหมือนมาไม่ถึงก็ว่าได้ เพราะที่ปายคือสถานที่ที่ถูกขึ้นชื่อว่าเป็นเมืองสามหมอก เพราะไม่ว่าจะมาตอนไหนก็จะพบหมอกทุกครั้งที่ได้มาเยือน เมื่อมองออกไปภาพที่เห็นคือทะเลหมอก พระอาทิตย์ขึ้น และรายล้อมไปด้วยทิวเขาน้อยใหญ่ต่างๆ และยังมีเสน่ห์ของบ้านเรือนเมืองปายที่ถูกปกคลุมไปด้วยสายหมอกอีกด้วย ที่เมื่อได้มาเที่ยวคนเดียวเหมือนได้สัมผัสความสงบ และดื่มด่ำให้เวลากับตัวเองได้อย่างเต็มที่ 

  • ที่อยู่ : หมู่บ้านสันติชล ตำบลเวียงใต้ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/hQiREWHZGzcxqHvw8
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 5.30-18.00 น. (ค่าเข้าชม 20 บาท)
  • เบอร์โทร : –
เชียงคาน จ.เลย

2. เชียงคาน จ.เลย

เมืองเล็กๆ ริมแม่น้ำโขงที่เต็มไปด้วยการตกแต่งด้วยสถาปัตยกรรมโบราณดั้งเดิม ให้ได้ซึมซับบรรยากาศวันวาน เดินเล่นคนเดียวได้ชิวๆ แถมยังมีกิจกรรมให้ทำ เช่น ไปปั่นจักรยานเลียบแม่น้ำโขง ได้สัมผัสธรรมชาติ มีสถานที่ท่องเที่ยวที่ทำให้การมาเที่ยวคนเดียวนั้นไม่เหงาอีกมากมาย เช่น ‘สกายวอล์ค เชียงคาน’ หรือ ‘สกายวอล์ค ภูคกงิ้ว’ สูงเทียบเท่ากับตึก 30 ชั้น จุดเด่นคือมีทางเดินที่ทำด้วยกระจก เป็นการปลดล็อคความกล้า เพราะจุดนี้เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น และน่าหวาดเสียว แต่ก็ต้องยอมรับว่าจุดที่วิวสวยงามมากเลยทีเดียว

  • ที่อยู่ : ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/inPvyiqBeMfBwi9V7
  • เปิดให้เข้าชม : ตลอดทั้งวัน
  • เบอร์โทร : –

หรือจะเป็น ‘ถนนคนเดินเชียงคาน’ ที่เหมาะแก่การเดินชิล มีทั้งของกิน ของอาร์ตต่างๆ สินค้าพื้นเมือง สินค้าแฮนด์เมด มีกิจกรรมให้ทำมากมายสำหรับคนมาเที่ยวคนเดียว บ้างก็มีการเพ้นหน้า สัก เป็นต้น ด้วยอากาศเย็นๆ และบรรยากาศดี จนติดใจอยากมาอีกรอบเลยก็ได้

  • ที่อยู่ : ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/R3XgyifiuXidhv5Z9
  • เปิดให้เข้าชม : ตลอดทั้งวัน (ถนนคนเดินเปิดช่วง 17.00-22.00 น.)
  • เบอร์โทร : –
บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ

3. บางกระเจ้า จ.สมุทรปราการ

ไปเติมความสดชื่นกับธรรมชาติแบบเต็มเหนี่ยว รอบล้อมไปด้วยต้นไม้สีเขียว เดินทางง่าย นั่ง BTS ไปได้ จุดเด่นของที่นี่เลยคือ การปั่นจักรยานเที่ยวสัมผัสบรรยากาศรอบด้าน ทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของชุมชน ซึ่งหากมาเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวแล้วเกิดหลงทาง ก็สามารถถามคุณลุงคุณน้าตามชุมชน 

เมื่อมาถึงคุ้งบางกระเจ้าแล้ว พลาดไม่ได้เลยที่จะไป ‘สวนศรีนครเขื่อนขันธ์’ หรือ ‘สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติศรีนครเขื่อนขันธ์’ ภายในสวนจะเต็มไปด้วยร่มเงาของต้นไม้ เย็นสบาย พักผ่อนหย่อนใจจากกายที่เหนื่อยล้าได้อย่างเต็มที่ ถ่ายรูปสวยโพสต์ลงโซเชียล และยังสามารถให้อาหารปลาได้อีกด้วย ซึ่งจะมีจำหน่ายอยู่ด้านหน้าของสวน และจุดไฮไลต์ในสวนคือ ‘หอดูนก’ ที่มีความสูง 7 เมตร มีทั้งหมด 3 ชั้น ซึ่งในแต่ละชั้นยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับนกที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศอีกด้วย 

  • สวนสาธารณะและสวนพฤกษชาติ ศรีนครเขื่อนขันธ์
  • ที่อยู่ : 73 ซ.วัดราษฎร์รังสรรค์ ต.บางกะเจ้า อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/7uaBbVzLzJiV947q7?g_st=il
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 05.00 – 19.00 น. ทุกวัน
  • เบอร์โทร : 02 461 0972
สิมิลัน จ.พังงา

4. สิมิลัน จ.พังงา

บรรยากาศทะเลสวยๆ ที่ภาคใต้ น้ำทะเลใสสีฟ้า และเต็มไปด้วยหากทรายขาวละเอียด มีกิจกรรมให้ทำมากมาย ที่จะมาช่วยทำให้การมาเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวนั้นเต็มไปด้วยเรื่องสนุก ไม่ว่าจะเป็น ดำน้ำดูปะการัง จุดว่ายน้ำ ดำน้ำ มุมถ่ายรูปสวยๆ โพสต์อวดลงโซเซียล จุดไฮไลท์ที่คนชอบมาถ่ายรูปคือ ‘หินเรือใบ’ หรือ ’Sailing Rock’ เป็นหินที่เกิดจากกัดเซาะพังทลายจากน้ำทะเล เลยเกิดเป็นหินรูปร่างแปลกตา ผู้คนจึงชอบมาถ่ายรูปกัน

  • ที่อยู่ : อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะสิมิลัน เลขที่ 93 หมู่ที่ 5 บ้านทับละมุ ถนนเพชรเกษม ตำบลลำแก่น อำเภอท้ายเหมือง จังหวัดพังงา
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/32L4izpNCpnf99Ze6
  • เปิดให้เข้าชม : 15 ตุลาคม – 15 พฤษภาคม ของทุกปี
  • เบอร์โทร : 0-7645-3272
ไร่ชาฉุยฟง จ.เชียงราย

5. ไร่ชาฉุยฟง จ.เชียงราย

ไร่ชาสีเขียว เพื่อให้ได้นั่งจิบชาพักผ่อนให้จิตใจสงบ สถานที่ก็สวยงาม ถ่ายรูปกันได้กับวิวสีเขียว และท้องฟ้าสีคราม ท่ามกลางภูเขาน้อยใหญ่ และรอบๆ ยังมีคาเฟ่เล็กๆ ให้นักเดินทางท่องเที่ยว ให้ได้อร่อยไปพร้อมกับเค้ก และจิบชาในบรรยากาศดีดี

ถ้าเราอยากมาเที่ยวคนเดียวเพื่อพักผ่อนจิตใจ การมาที่ไร่ชาจะช่วยทำให้สดชื่น ลดความเหนื่อย คลายความตีงเครียดได้ดี เพราะว่าในไร่ชานั้นล้อมรอบไปด้วยสีเขียว ซึ่งสีเขียวเป็นสีที่ช่วยให้ผ่อนคลาย ทำให้จิตใจภายในสงบได้ และยังช่วยเรื่องการมองเห็น ทำให้มีสมาธิได้ดี 

  • ที่อยู่ : 97 หมู่ 8 อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/S7JvTSCBPQ5ZPkyc6
  • เปิดให้เข้าชม : 08.30-17.30 น.
  • เบอร์โทร : 0-5377-1563
แพกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี 

6. แพกาญจนบุรี จ.กาญจนบุรี 

สัมผัสธรรมชาติแท้ๆ ให้เราได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่ที่แพกาญจนบุรี จะมีอะไรฟินไปกว่าการได้นอนบนแพมองท้องฟ้า แล้วปล่อยใจไหลไปกับสายน้ำ บางทีการมาเที่ยวคนเดียวนั่นก็เพราะอยากสลัดความวุ่นวายต่างๆ การได้มองดูสายน้ำไหลผ่านก็ทำให้เพลิดเพลินจิตใจได้ แลได้ซึมซับบรรยากาศไปอีกด้วย หรือถ้าเริ่มรู้สึกเบื่อ ที่แพกาญจนบุรีก็มีกิจกรรมให้ทำตลอด 

ยกตัวอย่างเช่น ครอส ริเวอร์ แคว (Cross River Kwai) ที่พักที่ตกแต่งให้ดูคล้ายรถไฟที่เชื่อมกับประวัติศาสตร์ของจังหวัดกาญจนบุรี มีกิจกรรมที่ห้ามพลาด อย่างเรือคายัคที่มีให้ทุกห้อง ไม่ทำให้คุณต้องเบื่อแน่นอน

  • ที่อยู่ : 138 หมู่ 4 ตำบลหนองหญ้า อำเภอเมืองกาญจนบุรี จังหวัดกาญจนบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/pQhkTnbrzmGb5tRv6
  • เปิดให้เข้าชม : ตลอดเวลา
  • เบอร์โทร : 09-3120-7832
แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา

7. แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา

ถ้าใครที่อยากเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ต้องได้ลองมาที่แปดริ้ว มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย กิจกรรมที่หลากหลาย มาเที่ยวคนเดียวได้แบบมันส์ ไม่เหงา เป็นการได้พักผ่อนจากความเหนื่อยทั้งหลาย ซึ่งมีสถานที่ที่เป็นจุดไฮไลท์มากมายที่เหมาะกับทั้งชายและหญิง เช่น อาจจะเริ่มด้วยการมาทำบุญที่ ‘วัดหลวงพ่อโสธร’ ที่เมืองแปดริ้ว เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคล เพื่อให้จิตใจสงบ ตั้งอยู่ติดริมแม่น้ำบางปะกง เป็นทริปการท่องเที่ยวที่ช่วยทำให้อยู่กับความสงบ สลัดความวุ่นวายภายในจิตใจออกได้อย่างเต็มที่

  • วัดหลวงพ่อโสธร
  • ที่อยู่ : ถนนเทพคุณากร ตำบลหน้าเมือง อำเถอเมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/eaK6JRvySsNTPEc38
  • เปิดให้เข้าชม : วันจันทร์-ศุกร์ เปิด 7.00-16.30 น. เสาร์-อาทิตย์ เปิด 7.00-17.00 น.
  • เบอร์โทร : 038-511-048

หรือหากอยากได้ความชุ่มชื้นสักหน่อย ให้คลายร้อน ก็แวะมาเล่นน้ำที่ ‘น้ำตกบ่อทราย’ อยู่ในกลางป่า เป็นน้ำตกที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ บนร่องน้ำขออ่างเก็บน้ำคลองสียัด นอกจากจะได้เล่นน้ำเย็นๆ แล้ว บรรยากาศรอบๆ นั้นก็สวยงาม แสงแดดที่กระทบกับกับสายน้ำที่ไหลผ่าน เป็นการเอาใจที่เหนื่อยมาชะล้างให้ผ่อนคลาย

  • น้ำตกบ่อทราย
  • ที่อยู่ : หมู่ 18 บ้านคลองสียัด ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Se4kYBURMxHTdqFdA?g_st=ic
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 7.00-18.00 น. ทุกวัน
  • เบอร์โทร : 09-6817-9906 , 06-3684-8669
Coro Field สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

8. Coro Field สวนผึ้ง จ.ราชบุรี

ฟาร์มสไตล์ญี่ปุ่น เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร หากมาเที่ยวคนเดียวไม่น่าเบื่อแน่นอน เพราะมีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำ เช่น ชมผัก ปลูกผัก แถมยังได้กินผักออร์แกนิค ตอบโจทย์สายออร์แกนิคสุดๆ ถ้าไม่อยากทำอะไร ที่นี่มีบริเวณพื้นที่สำหรับทำกิจกรรม เป็นมุมพักผ่อนชั้นยอด และถ้าหากหิวก็ยังมีโซนร้านอาหาร คาเฟ่ ให้ได้เพลิดเพลินไปกับอาหารออร์แกนิคอีกด้วย บรรยากาศภายในร้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่น

  • ที่อยู่ : ตำบลป่าหวาย อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CZ6CK4W69HoJ4xvp7?g_st=ic
  • เปิดให้เข้าชม : วันจันทร์-ศุกร์ เปิด 9.00-18.00 น. เสาร์-อาทิตย์ เปิด 9.00-21.00 น.
  • เบอร์โทร : 0-92569-4791
เกาะขาม สัตหีบ จ.ชลบุรี

9. เกาะขาม สัตหีบ จ.ชลบุรี

เกาะขามเป็นเกาะยอดนิยมของนักท่องเที่ยวเลยก็ว่าได้ เพราะมีน้ำทะเลที่ใสแจ๋ว หาดทรายสีขาว ท้องฟ้าสีคราม ที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อน หรือจะได้รูปสวยๆ กลับมาแน่นอน ด้วยวิวสวยๆ จะทำให้คุณลืมไปเลยว่าอากาศร้อน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมให้ทำมากมาย ทริปมาเที่ยวคนเดียวที่สนุดสุดเหวี่ยงไปกับการดำน้ำดูปะการัง หรือจะพายเรือคายัค

  • ที่อยู่ : สำนักงานกิจการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลเกาะขาม ทัพเรือภาคที่ 1 ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/x6mBvksmFXFfme186
  • เปิดให้เข้าชม : สามารถเที่ยวชมได้ตามรอบเรือ จุดจำหน่ายตั๋ว ท่าเรือเขาหมอจอ
  • เบอร์โทร : 0-3312-4848, 09-3397-1342 (เฉพาะวันจันทร์-ศุกร์ 08.30-11.30 น. และ 13.00-16.30 น.)
อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

10. อัมพวา จ.สมุทรสงคราม

ตลาดน้ำอัมพวา เป็นตลาดที่รู้จักกันดีในสมุทรสงคราม มีชื่อเสียงทั้งในเรื่องของอร่อย รวมไปถึงการนั่งเรือล่องแม่น้ำ แถมยังไม่ไกลจากกรุงเทพ เดินทางได้ง่าย มาเที่ยวคนเดียวได้สบาย 

ที่ที่ผู้คนนิยมมาเที่ยวกันมากที่สุดก็คงไม่พ้น ‘ตลาดน้ำอัมพวา’ เป็นตลาดที่ทรงเสน่ห์เหลือล้น เพราะจะมีพ่อค้า แม่ค้าที่พายเรือขายอาหาร และเครื่องดื่มกันมากมาย มีทั้งขนมไทย ก๋วยเตี๋ยวเรือ ผัดดไทย และอื่นๆ อีกมากมาย บอกเลยว่าถึงแม้ว่าจะมาเที่ยวคนเดียวก็เจริญอาหารสุดๆ แถมบรรยากาศยังเหมือนได้กลับไปอดีต พักผ่อนได้อย่างเต็มที่

  • ที่อยู่ : อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
  • พิกัด : https://g.page/amphawa?share
  • เปิดให้เข้าชม : วันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ 09.00-21.00 น
  • เบอร์โทร : –

หรือถ้าเป็นสายรักสัตว์ที่อัมพวามี ‘บ้านแมวไทย’ เป็นสถานที่ที่จะรวบรวมแมวพันธุ์ไทยโบราณต่างๆ ไว้ ซึ่งจะมีโซนให้เราได้ไปเล่นกับน้องๆ ได้อย่างใกล้ชิด น้องจะเดินเข้ามาอ้อน กระโดดขึ้นตัก หรือถ้าจะอุ้มก็ได้ เป็นสวรรค์ของทาสแมวจริงๆ ซึ่งหากมาเที่ยวคนเดียวแล้วเหงา ก็สามารถแวะมาที่นี่ น้องแมวจะช่วยเยียวยาจิตใจให้เราได้

  • ที่อยู่ : ตำบลแควอ้อม อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/sHdY3dZD12HaBV7P9
  • เปิดให้เข้าชม : 08.00-18.00 น.
  • เบอร์โทร : 0-3470-2068
โบราณสถาน จ.อยุธยา

11. โบราณสถาน จ.อยุธยา

เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยวัดเก่าแก่ และโบราณสถานที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เหมือนได้มาสัมผัสกับอดีตต่างๆ เป็นการมาเที่ยวคนเดียวที่ครบรสชาติ สถานที่ที่ได้สัมผัสธรรมชาติ พร้อมกับประวัติศาสตร์ และได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ได้ความรู้ทางประวัติศาสตร์ ควบคู่ไปกับการพักผ่อนหย่อนใจ

ซึ่งมีวัดที่สำคัญมากมาย โดยจะเริ่มกันที่ ‘วัดใหญ่ชัยมงคล’ นับเป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสำคัญของอยุธยาเลย เป็นวัดที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ และมีนักท่องเที่ยวมากันมากมาย หากเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว นอกจากได้กราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังได้ความรู้ และเพลิดเพลินไปกับสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นอีกด้วย

  • ที่อยู่ : 40/3 หมู่ที่ 3 ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/PdTxx23ZYHJ3g29
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 8.00-17.00 น. 
  • เบอร์โทร : –

และต่อกันด้วย ‘วัดมหาธาตุ’ เป็นอีกวัดที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน เนื่องจากเป็นประดิษฐานองค์พระบรมสารีริกธาตุ และเป็นศูนย์กลางเมืองในการจัดพระราชพิธีต่างๆ และยังมีเศียร์พระพุทธรูปหน้าวิหารเล็กที่ปกคลุมไปด้วยรากไม้ใหญ่ ที่ถ้าหากมาเที่ยวที่นี่และได้เห็นเป็นครั้งแรกจะต้องรู้สึกว่าดูน่าหลงใหล เหมือนถูกดึงเข้าไปในอดีตเลยก็ว่าได้ 

  • ที่อยู่ : เชิงสะพานป่าถ่าน ถนนนเรศวร ตำบลท่าวาสุกรี อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/uUCriY2vTZCaLKQC6
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 8.30-16.30 น. มีค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 50 บาท 
  • เบอร์โทร : –

ซึ่งหากได้เดินทางท่องเที่ยวคนเดียว บอกได้เลยว่าคุ้มค่ามากๆ เพราะนอกจากโบราณสถานที่ให้ความรู้ และได้สัมผัสบรรยากาศต่างๆ แล้วยังมีคาเฟ่มากมายให้ได้ไปลิ้มลอง

เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

12. เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

เกาะสีชังเป็นอีกหนึ่งเกาะที่มีความสวยงาม แถมยังใกล้กรุงเทพ การเดินทางนั้นก็ไม่ยากมาเที่ยวคนเดียวก็สามารถเดินทางได้อย่างสบาย ไม่ต้องกลัวหลง มีเรือข้ามไปเกาะสีชัง โดยเรือข้ามไปเกาะสีชังเที่ยวแรก 6.00 น. เที่ยวสุดท้าย 19.00 น. มีเรือออกทุกๆ 1 ชั่วโมง และเมื่อไปถึงก็มีมอเตอร์ไซต์ให้เช่าบริการ ขับรับลมฟินๆ รอบเกาะ หรือถ้าหากไม่อยากขับก็มีพี่วินมอเตอร์ไซต์ให้รับจ้าง และรถสกายแล็บให้ใช้บริการ

จุดที่เป็นไฮไลท์ที่ต้องแวะมาถ่ายรูปด้วยคือ ‘ช่องอิศริยาภรณ์’ หรือ ‘ช่องเขาขาด’ ความงามที่ทำให้นักท่องเที่ยวนิยมมาชม เป็นช่องเขาขาดที่มีลักษณะคล้ายแหลมพรหมเทพ และยังมีกิจกรรมให้ทำอีก นั่นคือการตกปลา เนื่องจากที่นี่มีโขดหินมากมาย เลยเป็นแหล่งที่อยู่ของปลาหลายชนิด ซึ่งถ้าหากไม่อยากตกปลา เราก็สามารถนั่งชมปลาอย่างเดียวได้ เพราะปลาแต่ละชนิดที่นี่นั้นมีลวดลายที่สวยงาม หาดูได้ยาก 

  • ที่อยู่ : 231/1 ถนนท่าเทววงษ์ อำเภอเกาะสีชัง จังหวัดชลบุรี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/g1VWfQwZLQvoRCL36
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 8.00-18.00 น.
  • เบอร์โทร : –
ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

13. ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่

เมื่อพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว หลายคนคงเคยคิดอยากลองหนีขึ้นดอย ไปสัมผัสอากาศเย็นๆ บรรยากาศเมืองเหนือ ประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่น และไปเพลิดเพลินกับอาหารท้องถิ่นของชาวเหนือ ซึ่งที่ดอยอินทนนท์มีที่ให้เที่ยวมากมาย กิจกรรมให้ทำก็เยอะ ของกินก็อร่อย ผู้คนในชุมชนก็น่ารัก 

ซึ่งมาถึงดอยสิ่งแรกที่นึกถึงก็คงเป็นการชมวิวระดับพระเจ้าสร้าง โดยเริ่มที่ ‘จุดชมวิวกิ่วแม่ปาน’ เป็นวิวที่สวยขนาดยอมทนตื่นเช้ามาให้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเข้า และบรรยากาศของทะเลหมอก แถมเส้นทางในการขึ้นมาจุดชมวิวนั้นก็ได้สัมผัสธรรมชาติได้อย่างเต็มปอด ร่มเงาของต้นไม้ และมีแสงแดดส่องรำไรตามพื้นป่า มีเฟิร์นหลายชนิด มอสสีเขียวขึ้นคลุมโคนต้นไม้มากมาย แม้ว่าจะเดินไกลแค่ไหนก็คงต้องหายเหนื่อยเลยทีเดียวเดียว เมื่อได้ชมวิวสวยงามตามข้างทางแบบนี้ เป็นทริปมาเที่ยวคนเดียวที่คุ้มสุดๆ แล้วกับสิ่งสวยงามที่ได้พบเจอ

  • ที่อยู่ : เขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ บริเวณกม.ที่ 43 ใกล้กับพระมหาธาตุ นถทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ ถนนจองทอง-ดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง สันป่าตอง และแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/tfkjFPX4YGbzRWAC9
  • เปิดให้เข้าชม : เปิด 6.00-16.00 น.
  • เบอร์โทร : 09-3146-9682
ข้อดีของการไปเที่ยวคนเดียว ไม่ต้องง้อใคร

ข้อดีของการไปเที่ยวคนเดียว ไม่ต้องง้อใคร

การเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวนั้นไม่ได้แย่อย่างที่เราคิดเสมอไป บางคนอาจจะกลัวเหงา  แต่จริงๆ การเที่ยวคนเดียวมีข้อดีมากมายหลายอย่าง ซึ่งถ้าหากเราไม่อยากไปคนเดียว มัวแต่รอให้เพื่อนว่าง รอใครสักคนไปด้วย อาจทำให้เราพลาดไปสถานที่ที่เราชอบ ไปพักผ่อน ฮีลลิ่งจิตใจเลยก็ได้ ยิ่งถ้าเป็นนิทรรศการที่มีวันมากำหนดด้วยอีก จริงๆ การไปเที่ยวไม่จำเป็นต้องไปเป็นแก๊งก็สนุกได้ ข้อดีของการท่องเที่ยวคนเดียวจะมีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

เป็นการเปิดโลก ใช้เวลาอยู่กับตัวเอง อยู่กับอิสระที่แท้จริง

บางครั้งการไปเที่ยวหลายคนอาจจะเกิดความวุ่นวายหลายอย่าง เช่น รอคนครบ  ไปเลท การตัดสินใจร่วมกัน กิจกรรมที่ทำ สถานที่พัก ฯลฯ การมาเที่ยวคนเดียวสามารถตัดสินใจเองได้เลยโดยไม่ต้องรอความเห็น และในระหว่างเดินทางเราจะได้มีเวลาคิดอะไรได้มากมาย สลัดความวุ่นวาย ได้อยู่กับตัวเอง และได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ประหยัดพลังงานร่างกายจากการใช้กับผู้คน และยังได้โฟกัสกับสิ่งรอบตัวได้อย่างเต็มที่ 

ได้เจอคนใหม่ เพื่อนใหม่ และอาจจะพบรักใหม่ในที่ใหม่ๆ

การไปเที่ยวคนเดียว นอกจากจะได้ลองทำอะไรกิจกรรมใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยได้ลองทำคนเดียวแล้ว ยังได้เจอกับคนใหม่ๆ อีกด้วย เพื่อนในแก๊งอาจจะไม่เหมาะกับสไตล์การท่องเที่ยวในแบบของเราก็ได้ การได้มาเที่ยวคนเดียว ทำให้เราได้เจอคนแบบเดียวกัน ชอบอะไรเหมือนกัน จึงมีในหลายเหตุการณ์ที่การท่องเที่ยวนั้นนำพารักมาหาเราและส่วนใหญ่นั้นเป็นคนโสด  และได้เพื่อนใหม่ที่เดินทางท่องเที่ยวคนเดียวเหมือนกัน 

ออกจากเซฟโซน กล้าตัดสินใจเอง คิดเองแบบ 300%

อย่างที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า การเดินทางท่องเที่ยวคนเดียวเราจะสามารถตัดสินใจได้เลยโดยไม่ต้องรอความเห็น ซึ่งในจุดนี้จะช่วยทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้น กล้าคิด กล้าทำ เป็นการหลุดออกจากเซฟโซนอย่างนึง ในตอนเริ่มต้นเราอาจจะยังไม่กล้าสนทนากับใคร หรือไม่กล้าเริ่มทำอะไรมากนัก แต่ในบางสถานการณ์จะบังคับให้เราต้องทำอะไรสักอย่าง เช่น เมื่อต้องการความช่วยเหลือในการเดินทาง เราอาจจะต้องถามคนที่อยู่แถวนั้น

และในกรณีที่อยู่คนเดียวต้องตัดสินใจ ณ ตอนนั้น เราจะได้เรียนรู้อะไรบางอย่างจากการตัดสินใจของเรา แม้ว่ามันจะเป็นการตัดสินใจที่ถูกหรือไม่ ในภายหลังเราจะสามารถนำประสบการณ์ตรงนี้ขึ้นมาใช้ได้เอง

ค้นหาตัวเอง พบเจอตัวตนใหม่ ที่ไม่เคยเจอมาก่อน

ในบางครั้งเราก็ยังไม่รู้จักตัวเองไปซะทั้งหมดหรอก การมาเที่ยวคนเดียวจะทำให้เรามองเห็นตัวเองในหลายมุมมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น มุมที่กล้าหาญ มุมที่บ้าได้หลุดโลก หรือมุมที่เราได้เห็นวิวสวยๆ นั้นทำให้มีความสุขได้มากขนาดไหน จนทำให้เรากลายเป็นคนใหม่ที่เราชอบมากกว่าเดิม 

หลายคนอาจจะไม่กล้าเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว จากเหตุผลหลายๆ อย่าง เช่น อาจจะกลัวเหงา หรือกลัวว่าคนอื่นจะมองอย่างไรเวลาเห็นเราอยู่คนเดียว หรือไม่กล้าที่จะทำกิจกรรมคนเดียว บทความนี้จะเชิญชวนให้กล้าออกไปใช้เวลากับตัวเอง เที่ยวคนเดียวแบบไม่ต้องรอใคร กล้าคิด กล้าตัดสินใจ กล้าลองทำอะไรคนเดียว เป็นการปลดล็อคตัวเองในอีกขั้น นั่นเลยเป็นหนึ่งในข้อดีของการมาท่องเที่ยวคนเดียว

ซึ่งบางครั้งการไปเที่ยวคนเดียวก็ต้องการความสะดวกสบาย เพื่อความคล่องตัวในการเดินทาง ทั้งกระเป๋าและสัมภาระ ที่อาจจะสร้างความลำบากให้กับการเดินทาง เป็นอุปสรรคในการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ซึ่งเพื่อลดภาระการเดินทาง เพื่อให้เดินทางได้อย่างสบายใจ สบายหลัง สามารถเลือกใช้บริการรับส่ง-ฝากกระเป๋ากับ Airportels เป็นสายงานบริการที่จะช่วยบริการขนส่งกระเป๋าเดินทางของนักท่องเที่ยว ช่วยให้การเดินทางของเรานั้นสะดวกสบายมากขึ้น มีหลายสาขาให้ใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นสาขาสุวรรณภูมิ สาขาเซนทรันเวิล์ด สนามบินดอนเมืองก็สามารถฝากสัมภาระไว้ได้เลย แล้วไปเที่ยวคนเดียวได้โดยไม่ต้องพกกระเป๋าหนักๆ และวันสุดท้ายของทริปก็สามารถฝากสัมภาระ ไว้ที่โรงแรมก่อน แล้วออกไปเที่ยวได้เช่นกัน ทริปไปเที่ยวคนเดียวจะสนุกมากขึ้น

หนาวนี้ไปไหนดี 2565 ปักหมุดไปเช็กอินกัน

หน้าหนาวใกล้เข้ามาแล้ว ยังงี้ก็ต้องเตรียมจัดทริปไปชมทะเลหมอกสัมผัสกับลมหนาวกันสักหน่อย ถ้าหากใครยังไม่มีไอเดียว่าจะไปเที่ยวที่ไหนในช่วงหน้านี้เรามี เที่ยวหน้าหนาว 10 ที่มาฝากกัน จะมีที่ไหนน่าสนใจบ้างนั้นไปดูกันเลยดีกว่า

  

1. ดอยอินทนนท์

อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เป็นหนึ่งในหมุดหมายสำคัญของการเที่ยวหน้าหนาว เพราะเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดใน ประเทศไทย สูงจากระดับน้ำทะเล 2,565 เมตร บริเวณโดยรอบเป็นป่าดิบชื้นที่มีต้นไม้นานาพันธุ์ บนยอดดอยอากาศหนาวเย็นมากถึงขั้นที่ว่าเกิดแม่คะนิ้งหรือน้ำค้างแข็งก็มีมาแล้ว ใครที่อยากจะออกไปสัมผัสทะเลหมอกท้าความหนาวพลาดไม่ได้เลย ด้านบนมีที่พักหลากหลายแบบทั้งลานกางเต็นท์ โฮมสเตย์ รีสอร์ต และที่พักของอุทยาน คุณสามารถเลือกได้ตามรสนิยม

พิกัด : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตั้งอยู่ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตู้ ปณ.2 119 หมู่7 ต.บ้านหลวง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ 50160

(อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ อำเภอจอมทอง อำเภอแม่แจ่ม อำเภอแม่วาง และ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่)

เวลาเปิด – ปิด อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์

เวลา : 05:00 – 16:00

 

2. ปาย

สถานที่ท่องเที่ยวคลาสสิคที่ฮอตฮิตตลอดกาล ไม่ว่าเวลาผ่านไปไหนแค่ไหนมนต์เสน่ห์ของปายก็ไม่เคยเหือดหาย ที่นี่เป็นหมู่บ้านในหุบเขาที่อากาศเย็นสบายทั้งปียิ่งในหน้าหนาวยิ่งอากาศดีมาก ๆ แถมยังมีกิจกรรมและสถานที่ท่องเที่ยวหลากหลายให้ไปเปิดประสบการณ์ ยามเย็นก็มีถนนคนเดินเป็นตลาดขายของกินของที่ระลึกให้ได้เลือกชิมเลือกช้อปมากมาย 

 

3. ดอยเสมอดาว

สถานที่ท้าลมหนาวชมทะเลหมอกที่มาแรงในจังหวัดน่าน ที่นี่เป็นยอดดอยที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติศรีน่าน โอบล้อมไปด้วยธรรมชาติ สามารถหมอกเห็นทะเลหมอกยามเช้าได้แบบเต็มตา ที่นี่มีบ้านพักให้บริการ นอกจากนั้นยังมีลานกางเต็นท์ให้บริการสำหรับคนลุย ๆ  ด้านบนมีร้านอาหารไว้บริการไฮไลท์เด็ดเลยก็คือการนั่งกินหมูกระทะท้าลมหนาวพร้อมกับนอนดูแสงดาวยามค่ำคืนฟินสุด ๆ ไปเลย

พิกัด : อช.ศรีน่าน ดอยเสมอดาว อ.นาน้อย จ.น่าน

เต็นท์ของอุทยานกางไว้ให้แล้วทั้งสองจุด ไม่ต้องเข้าไปจองในเว็บไซต์ของอุทยานฯ

 

4. ภูทับเบิก

แลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นที่ตั้งของหมู่บ้านชาวไทยภูเขาเผ่าม้งที่มีพืชที่ทางการเกษตรปลูกกะหล่ำปลีที่ใหญ่ที่สุดใน ประเทศไทย ยิ่งในช่วงหน้าหนาวตั้งแต่ตุลาคม – ธันวาคม เป็นช่วงที่กะหล่ำปลีกำลังสวยเลย คุณจะได้เห็นไร่กะหล่ำปลีแบบกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา แถมตอนเช้า ๆ ยังสามารถมองเห็นทะเลหมอกหนาตาได้แบบพาโนรามาเลยทีเดียว

พิกัด : ภูทับเบิก ตั้งอยู่ที่บ้านทับเบิก ตำบลวังบาล จังหวัดเพชรบูรณ์

 

5. เชียงคาน

อีกหนึ่งสถานที่ เช็คอิน ช่วงหน้าหนาวสุดคลาสสิคอีกที่หนึ่ง เป็นการท่องเที่ยวประเภทเสพวิถีชีวิตของคนพื้นที่ ชุมชนที่นี่เป็นชุมชนเล็ก ๆ ริมฝั่งโขง อากาศเย็นสบายตลอดปีแต่ให้บรรยากาศอบอุ่นของรอยยิ้มผู้คน ยิ่งถ้ามาช่วงหน้าหนาวยิ่งเย็นสบาย สามารถมองเห็นทะเลหมอกเหนือแม่น้ำโขงในยามเช้า ไฮไลท์สำคัญก็คือการได้ตักบาตรข้าวเหนียวริมฝั่งโขง ใครอยากไปใช้ชีวิตช้า ๆ แบบสโลว์ไลฟ์ที่นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่ควรพลาด

 

6. เขาใหญ่

สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในช่วงหน้าหนาวไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพ เป็นอุทยานแห่งชาติที่ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งเลยทั้งยังเป็นมรดกโลกด้วย ที่สำคัญคือเดินทางสะดวก เดินทางออกจากกรุงเทพที่พอถึงสระบุรีแล้วเลี้ยวขวาใช้ถนนเส้นมิตรภาพเพียงไม่ถึง 2 ชั่วโมง ก็ถึงเขาใหญ่แล้ว อากาศเย็นสบาย ยามเช้าสามารถออกมาชมหมอกบาง ๆ พร้อมสูดรับโอโซนกันให้เต็มปอด ที่นี่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวให้เยี่ยมชมไม่ว่าจะเป็นสวนดอกไม้ สวนสัตว์แบบ Exotic ไร่องุ่น ร้านอาหารอร่อยๆ เพียบ แถมที่พักก็มีหลากหลายสไตล์ทั้งแบบขาลุยนอนกางเต็นท์ใกล้ชิดธรรมชาติไปจนถึงรีสอร์ทหรูที่ให้บรรยากาศราวกับอยู่ต่างประเทศ

พิกัด : จังหวัดนครราชสีมา

 

7. ดอยช้าง

ดอยช้างเป็นอีกหมุดหมายหนึ่งของการไปเที่ยวหน้าหนาว เพราะค่อนข้างสะดวกสบายเดินทางง่าย ต่างจากยอดดอยอื่น ๆ ที่มักต้องเดินทางสมบุกสมบันและยังมีไฟฟ้าใช้จำกัด ที่ดอยช้างยังเป็นแหล่งปลูกกาแฟที่ดีที่สุดในประเทศ จึงเหมาะกับการไปเที่ยวชิลล์ ๆ ทั้งครอบครัว ด้านบนมีที่พัก ร้านอาหาร ร้านกาแฟให้บริการหลากหลายร้าน พิเศษตรงที่คุณจะได้ดื่มกาแฟที่ปลูกสด ๆ กันบนนี้เลย กาแฟนทุกแก้วผ่านการคั่วบดด้วยวิธีแบบดั้งเดิม รับรองเลยว่าฟินสุด

พิกัด : จังหวัดเชียงราย

 

8. ม่อนแจ่ม

ใครที่อยากไปนอนเต็นท์สัมผัสกับอากาศหนาวม่อนแจ่มเป็นที่ที่ไม่ควรพลาด เพราะมีลานกางเต็นท์ที่มีชื่อเสียงที่สุด ให้คุณได้นอนชมดาวได้เต็มตาทั่วทั้งฟ้ายามค่ำคืน เช้ามาก็มีทะเลหมอกมาให้ชมถึงที่ วิวก็สวยงามมากมองเห็นนาขั้นบันได ไร่ส้ม สวนดอกไม้นานาพันธุ์ที่เบ่งบานแข่งสีสันกันตระการตา เหมาะกับการไปถ่ายรูป เช็คอิน อัพลงโซเชียลก็เรียกยอดไลค์ยอดแชร์ได้ไม่น้อย

พิกัด : ม่อนแจ่ม ตั้งอยู่ที่ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ 50180

เวลาเปิด – ปิด : 7.00 – 19.00

ตั๋วเข้าชมม่อนแจ่ม : มอนแจ่มไม่เก็บค่าเข้าชม แต่เข้าชมไร่สตรอเบอรี่ ปลายฟ้าต้องเก็บค่าเข้าชม 20 บาท

 

9. ปางอุ๋ง

สถานที่ท่องเที่ยว unseen ในจังหวัดแม่ฮ่องสอนขึ้นชื่อว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย เพราะบรรยากาศเป็นอ่างเก็บที่โอบรอบไปด้วยป่าสนเขาบริเวณกว้าง ราวกับทะเลสาบในแถบยุโรปยังไงยังงั้น ซึ่งสามารถไปนอนกางเต็นท์บนลานสนสัมผัสความหนาวได้แบบใกล้ชิดกับธรรมชาติ นั่งดูหงส์คลอเคลียกันอยู่บนเหนือน้ำแบบชิลล์ ๆ หรือใครจะล่องแพชมความงามของธรรมชาติก็น่าตื่นตาตื่นใจอยู่ไม่น้อย

พิกัด : โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง) ตั้งอยู่ในหมู่บ้านรวมไทย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 

 

10. บ้านนาคูหา จังหวัดแพร่

แหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในจังหวัดแพร่ที่ซุกซ่อนตัวอยู่ในหุบเขา ที่นี่อากาศดีมากเป็นแหล่งโอโซนอันดับ 7 ในประเทศไทย หมุดหมายแรกเลยก็คือวัดนาคูหาที่มีพระพุทธองค์ใหญ่สีทองตั้งตระหง่านโอบล้อมไปด้วยนาข้าวและภูเขา มีสะพานไม้ไผ่เดินข้ามนาข้าวให้แวะเวียนไปถ่ายรูป ไฮท์ไลต์ของที่นี่ก็คือการมาเก็บสาหร่ายเทาซึ่งเป็นสาหร่ายน้ำจืดชนิดหนึ่งนำไปประกอบอาหาร นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมการย้อมผ้าครามและทำผ้ามัดย้อมให้ได้ลงมือทำด้วย

พิกัด : บ้านนาคูหา หมู่5 ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่

เวลาเปิด – ปิด : 06.00 – 18.00 น.

 

เป็นอย่างไรบ้างกับ 10 ที่ เที่ยวหน้าหนาว ที่เรานำมาฝาก ยังไงหนาวนี้ก็ตามไปเช็คอินกันให้ได้นะ เหน็ดเหนื่อยทำงานมาทั้งปีก็ถึงเวลาออกไปท่องเที่ยวให้รางวัลตัวเองกันบ้างแล้ว รับรองเลยว่าคุณจะได้ชาร์จพลังใจท่ามกลางธรรมชาติและไอหมอกได้อย่างเต็มที่

 

ที่มาข้อมูล : 

20 สุดยอดของฝากจากประเทศไทย มาแล้วต้องซื้อกลับไปแน่นอน 2022

 

ประเทศไทยเป็นเมืองน่าเที่ยวและมีของน่าซื้อมากมาย จนบางครั้งก็เยอะจนเลือกไม่ถูก ถ้าเรามีเพื่อนเป็นชาวต่างชาติ เวลาจะซื้อของไปฝากเพื่อนต่างเมืองของเราควรเลือกอะไรดี หรือหากมีชาวต่างชาติมาไทย เราจะพาเขาไปซื้ออะไรกลับบ้านที่คิดว่าโอเคสุด วันนี้เรามีลิสต์ 20สุดยอดของฝาก จากประเทศไทยมาให้เป็นไอเดีย 

  

1. เครื่องจักสาน

งานแฮนด์เมดที่ต่างชาติชื่นชอบ ใช้ประโยชน์ได้และสวยด้วย มีตั้งแต่ กระเป๋า รองเท้าสาน หมวก ไปจนถึงของใช้ในครัวเรือนอย่าง ฝาชี ตะกร้าใส่ของ ที่รองจาน และที่ถูกอกถูกใจชาวต่างชาติมาก ๆ ก็คือกระติ๊บข้าวเหนียว 

 

2. ยาหม่อง-ยาดม-น้ำมันนวด

ของฝากแนวสมุนไพรไทย ชาวต่างชาตินิยมใช้ ยาหม่องและยาดม มีไว้พกติดกระเป๋าคู่กายแก้วิงเวียน หน้ามืด ตาลายได้ ส่วนน้ำมันนวดนั้น ต่างชาติเขายกให้บ้านเรายืนหนึ่งเรื่องนวดอยู่แล้ว

 

3. ผลไม้ไทยอบกรอบ – อบแห้ง

ผลไม้ไทยหลายชนิดถูกปากชาวต่างชาติ แต่จะซื้อกลับไปแบบสด ๆ ก็คงไม่เหมาะ เลือกเป็นผลิตภัณฑ์ผลไม้แห้ง ประเภทอบกรอบ หรืออบแห้งจะดีกว่า เก็บไว้รับประทานได้นาน คนต่างชาติ มาไทยต้องซื้อ แน่นอน

 

4. ผลิตภัณฑ์ทำจากผ้า แบรนด์ NaRaYa

เป็น ของฝากในไทย ที่ต่างชาติชื่นชอบ โดยเฉพาะสาว ๆ ญี่ปุ่น NaRaYa เป็นผลิตภัณฑ์กระเป๋าผ้าลายสวยหวาน มีตั้งแต่ใบเล็กใส่เหรียญ ไปจนถึงกระเป๋าใส่เสื้อผ้าใบใหญ่ ๆ 

 

5. ผลิตภัณฑ์ลายช้าง

ซื้อของลายช้าง ไปประเทศไหนก็รู้ว่ามาจากเมืองไทย ผลิตภัณฑ์ที่ตกแต่งด้วยลายช้างมีให้เลือกมากมาย ทั้งกระเป๋าผ้า ปลอกหมอน โมบายตุ๊กตาช้าง พวงกุญแจรูปช้าง นิยมซื้อเป็นของที่ระลึกจากเมืองไทย

 

6. รองเท้าแตะตราช้างดาว

รองเท้าแตะหนีบที่ใส่กันมานานเป็นสิบปี ตอนนี้มีแบบสลักลายสวยงามบนพื้นรองเท้า เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่น่าซื้อฝาก ใช้ประโยชน์ได้ดีใส่เดินชายหาดได้

 

7.กางเกงช้าง

ยังคงเป็นของฝากสายช้างกันต่อ กางเกงสุดชิคที่ฝรั่งชื่นชอบ มาไทยต้องซื้อ เพราะใส่สบาย วัยรุ่นไทยเราเองก็ฮิตใส่เหมือนกัน เป็นกางเกงที่มีความอเนกประสงค์มาก ทั้งใส่นอนใส่เที่ยวตัวเดียวกันได้เลย

 

8. เสื้อยืด T-Shirt สกรีนลาย ไทยแลนด์

หลังจากซื้อกางเกงช้างแล้ว ต้องเพิ่มเติมเสื้อตัวนี้ไว้ใส่คู่กัน กลายเป็นแฟชั่นอินเตอร์ที่เรามักจะเห็นชาวต่างชาติใส่บ่อย ๆ 

 

9. ผ้ามัดย้อม

ผ้ามัดย้อมเป็นอีกหนึ่งแฟชั่นที่ไม่ยอมล้าสมัยเสียที นับวันยิ่งมีลวดลายแพรวพราว ผ้ามัดย้อมที่คนนิยมซื้อกันมากจะเป็นของจังหวัดแพร่ แต่มีขายทั่วไปเพราะของเขาแพร่หลายจริง ๆ 

 

10. เครื่องประดับเงิน

ของฝากทรงคุณค่า แม้ว่าจะหาซื้อจากประเทศอื่น ๆ ได้ แต่เครื่องประดับเงินไทยนั้นได้รับการยกย่องจากต่างชาติว่าเป็นที่สุดของเครื่องประดับเงินเลยทีเดียว ดีงามทั้งในด้านคุณภาพและดีไซน์สวย

 

11. ผ้าไหมไทย

นักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมซื้อกันมาก ผ้าไหมเนื้อดีงานละเอียดต้องไหมจากภาคอีสาน อาจเลือกซื้อเป็นผ้าพันคอ ผ้านำไปตัดเสื้อ หรือซื้อเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าไหม เช่น ปลอกหมอนอิง 

 

12. เสื้อผ้า กระเป๋า & เครื่องประดับชาวเขา

ผลิตภัณฑ์ชาวเขามีความโดดเด่นในเรื่องของสีสัน ลวดลายที่สะดุดตา สามารถเลือกซื้อได้ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋าสะพาย หรือ Accessories ของผู้หญิง เช่น กิ๊บติดผม สร้อยข้อมือ ตุ๊กตาชาวเขา เช่น ดินสอ หรือพวงกุญแจก็น่าซื้อ

 

13. โมเดลรถตุ๊กตุ๊ก

รถตุ๊กตุ๊กบ่งบอกความเป็นไทยที่คนทั่วโลกรู้จักและนึกถึงอยู่เสมอ สามารถนำไปตั้งโชว์เป็นของตกแต่งเก๋ไก๋อีกชิ้นหนึ่งในบ้าน ถ้าเพื่อนต่างชาติของเราเขายังคิดไม่ออกว่า ซื้ออะไรดีเมื่อมาไทย แนะนำโมเดลนี้ได้เลย

 

14. เครื่องเบญจรงค์ลายไทย

ของฝากระดับพรีเมียม มีเอกลักษณ์ที่ความอ่อนช้อย ไม่ว่าจะเป็นลายกนก ลายนรสิงห์ ลายพุ่มข้าวบิณฑ์ แต่ละลวดลายยังแสดงถึงวัฒนธรรมของไทยอีกด้วย เป็นของฝากที่ผู้รับประทับใจ

 

15. ของตกแต่งจากกะลามะพร้าว

เป็นของตกแต่งที่ครีเอทีฟมาก ๆ มีความเฉพาะตัวและยังสามารถใช้ประโยชน์ได้ อย่างเช่น โคมไฟ โมบาย เครื่องประดับผู้หญิง และของใช้ในครัวเรือนต่าง ๆ 

 

16. เทียนหอม

ซื้ออะไรดีเมื่อมาไทย หากใครมีเพื่อนต่างชาติมาถึงบ้านเรา อย่าลืมพาไปซื้อของฝากขึ้นชื่อชนิดนี้ แสงเทียนกับความหอมเป็นเครื่องสร้างความทรงจำที่ดี และยังสามารถใช้เป็นของประจำบ้านสำหรับคนที่ชอบความหอมแบบอโรมา คลายความเครียดได้ดี

 

17. สบู่นกแก้ว

คนไทยใช้กันมาตั้งแต่สมัยตักน้ำในตุ่มอาบ มาถึงตอนนี้นิยมซื้อเป็นของฝากเวลาเดินทางไปหาเพื่อนที่ต่างประเทศด้วย ถ้าอยากให้คลาสสิกมาก ๆ ก็ต้องซื้อสบู่นกแก้วดั้งเดิมซองสีเขียว 

 

18. น้ำมันมะพร้าว

น้ำมันมะพร้าวใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น ใช้เช็ดเครื่องสำอาง ใช้ทาผิวป้องกันผิวแตก เหมาะกับชาวต่างชาติที่อยู่เมืองหนาว

 

19. ผงปรุงรสต้มยำ

ซื้อของฝากสำหรับสายกินบ้าง ชาวต่างชาติกับต้มยำกุ้งเป็นอะไรที่เหมือนพรหมลิขิต พอได้ชิมก็ถูกชะตากันทันที แต่ในเมื่อไม่สามารถซื้อต้มยำใส่ถุงไปถึงเมืองนอกเมืองนาได้ ก็ซื้อเป็นผงปรุงรสต้มยำชนิดซองไปแทน รับประกันความถูกใจและถูกปาก

 

20. ชาตรามือ

นี่ก็ของดีบ้านเราอีกเหมือนกัน รสชาติดั้งเดิมไม่มีใครเหมือน กลมกล่อม เข้มข้นด้วยสัญลักษณ์ชาสีส้ม แต่ปัจจุบันมีรสชาติใหม่ ๆ ออกมาให้ลิ้มลองมากมาย ทั้งชากุหลาบ ชาเขียว อร่อยทุกรส 

 

ของฝากในไทย ยังมีอีกมากมาย และ 20สุดยอดของฝาก นี้เป็นไอเดียดี ๆ สำหรับคนที่กำลังจะพาเพื่อนต่างชาติทัวร์ซื้อของ รวมถึงคนที่กำลังจะซื้อของฝากเพื่อนต่างชาติ เพื่อเพิ่มความประทับใจในความเป็นไทยของเรา 

 

ที่มาข้อมูล

บริการฟรีภายในสนามบิน ใครสายเดินทางห้ามพลาด

สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองเงียบเหงาไปพักใหญ่เพราะโควิด-19 ทำพิษ แต่หลังจากที่สถานการณ์คลี่คลาย ทำให้สุวรรณภูมิและดอนเมืองเริ่มกลับมามีสีสันอีกครั้ง ร้านค้าต่าง ๆ เตรียมจัด โปรสนามบิน รอนักเดินทางไว้แล้ว ระหว่างรอขึ้นเครื่องรับรองว่าไม่เหงาอย่างแน่นอน เราไปส่องโปรกันไว้ก่อนดีกว่า เวลาไปสนามบินจริง ๆ จะได้ไม่พลาด

 
 

PT MAX CARD 

สมาชิกบัตร PT MAX CARD ไม่ผิดหวัง เพราะบัตรนี้จัดโปรปัง ๆ ร่วมกับร้านค้าภายในสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง ระหว่างรอขึ้นเครื่องสามารถนั่งจิบกาแฟผ่อนคลาย ช่วงนี้มีมาหลายรายการ อาทิ 

  • รายการ Super Deal ที่กาแฟพันธุ์ไทย
  • Duo Deal ใน Coffee World 
  • มีโปรให้จอง Miracle Lounge กับ Coral Executive Lounge ฟรีผ่านแอป AOT Airports 
  • ใช้บริการ AOT Limousine ได้ส่วนลด 15% 

แนะนำบัตรนี้กันหน่อย PT MAX CARD เป็นบัตรสะสมคะแนนสำหรับลูกค้าที่เติมน้ำมันจากปั๊ม PT แล้วนำไปแลกของรางวัลได้หลากสไตล์ บวกกับใช้สิทธิพิเศษที่ร้านค้า ซึ่งนอกจากในสนามบินแล้ว ยังมีร้านค้าพันธมิตรอื่น ๆ อีกมากมายหลายแห่ง ถ้าใครยังไม่มีบัตรนี้ สมัครผ่านแอป AOT Airports ไม่เสียค่าธรรมเนียม เผื่อไว้ใช้สิทธิ์เวลาเดินทาง ท่องเที่ยว 

ไปต่อที่บัตรเครดิตบ้าง มีมาจัดโปรที่สนามบินหลายธนาคารเหมือนกัน ไปรอขึ้นเครื่องอย่าลืมสำรวจกระเป๋าเงินว่ามีบัตรใบไหนพอจะใช้ได้ระหว่างเดินเล่น

 
 

บัตรเครดิต UOB จัดโปรโมชั่น UOB FLY WITH ME

เป็นโปรโมชั่นสำหรับผู้ถือบัตรเครดิต UOB เดินเข้าแมคโดนัลด์รับเบอร์เกอร์พร้อมกับพายแสนอร่อยได้เลย ที่สาขาสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง (แมคสุวรรณภูมิอยู่บริเวณ Concourse D และ F ส่วนที่ดอนเมืองอยู่ชั้น 3) โปรนี้ยาวถึงมกราคม 2566

 
 

บัตรเครดิต Citibank ให้กินฟรี ๆ แบบอิ่มจุก ๆ

Citibank มีโปรกินฟรีที่สนามบินอีกแล้ว เมื่อ 2-3 ปีก่อนก็เคยมีมาแล้ว แต่สำหรับคราวนี้ Citibank ร่วมกับ Subway และ Coffee World สนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมืองเฉพาะเที่ยวบินขาออกไปต่างประเทศ สามารถใช้ได้ทั้งบัตรเครดิต Citibank และบัตรกดเงินสด Ready Credit มาดูกันว่าจะได้อะไรบ้าง

  • Subway 

ฟรีชนิดที่เรียกว่าจุกกันเลยทีเดียว เพราะได้ Subway Classic พร้อมน้ำดื่ม มูลค่า 224 บาท

  • Coffee World

รับฟรีเครื่องดื่มเย็น หรือเครื่องดื่มปั่น ชื่นใจสุด ๆ ไปเลย 

ทั้ง Subway และ Coffee World สนามบินสุวรรณภูมิอยู่บริเวณ Concourse B และ Concourse F ส่วนที่ดอนเมืองอยู่บริเวณเที่ยวบินขาออกระหว่างประเทศ สำหรับโปรโมชั่นรายการนี้จัดถึงสิ้นปี 2565

 
 

โปรสนามบิน ของค่ายมือถือก็มีพร้อม ดังนี้ 

ฟ้าเปิดคราวนี้ AIS จัดโปรที่สนามบินให้อิ่มสบายท้องก่อนออก เดินทาง หรือจะเลือกนั่งพักผ่อนที่ห้องรับรองพิเศษก็ได้ สำหรับลูกค้าเซเรเนดทั้ง 3 ประเภท แพลทินัม โกลด์ และ เอมเมอรัลด์ สามารถเลือกรับสิทธิพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น

  • ส่วนลด Miracle Lounge 
  • โปรร่วมกับร้านค้าในสนามบินสุวรรณภูมิและดอนเมือง มีทั้งของว่างฟรีพร้อมเครื่องดื่มเย็น ๆ จาก Burger King, Bonchon, KohHopBar และ Imm Rice & Noodle 1 เลขหมายใช้ได้ 1 สิทธิ์ต่อ 1 เดือน สิ้นสุด ธ.ค. 65

ส่วนอีกร้านที่ไม่แวะไม่ได้เมื่อไปสนามบิน ก็เห็นจะเป็นที่นี่เลย King Power ไปดูโปรของเขากัน

 
 
  • King Power ครบรอบ 33 ปี Delights and Surprises 2022
  • พลาดไม่ได้สำหรับ Favorite Brand Fest ลดราคาสูงสุด 40% พร้อมของแจกมากมาย ถึงแค่สิ้นเดือนตุลาคม 2022
  • ช้อปออนไลน์แล้วไปรับของที่สนามบินก็มีจัดโปรมากมายหลายรายการ เช่น ได้คูปอง บัตรกำนัล และส่วนลด แต่ก่อนอื่นต้องดาวน์โหลดแอป King Power หรือแอด LINE Official @kingpower ก่อน โปรนี้หมดเขตตุลาคม 2022 เช่นกัน 
  • Click & Collect เป็นอีกหนึ่งโปรแกรมของพี่คิง จัดถึงสิ้นปีนี้เลย
  • มีโปรแกรมผ่อน 0% กับธนาคารที่ร่วมรายการ อาทิ SCB Citibank K-Bank ฯลฯ ซื้อสินค้า 10,000 บาทขึ้นไป เลือกผ่อน 6 เดือน หรือซื้อสินค้า 15,000 บาท เลือกผ่อน 10 เดือน แบบนี้คงได้สอยสินค้าแบรนด์เนมกันเพลินแน่ ๆ 

ไปดูโปรบริการแท็กซี่รับส่งสนามบินกันบ้าง ดีกว่าขับรถไปแล้วต้องลุ้นหาที่จอดเอง

 
 
  • AIRASIA RIDE จัดโปรโมชั่นส่วนลดเรียกแท็กซี่ผ่านแอป airasia Super App
  • โปรแรก Airport Ride บริการจองแท็กซี่ล่วงหน้าได้ส่วนลด 50 บาท ใครที่จะ เดินทาง ไปสนามบินสุวรรณภูมิหรือดอนเมือง เรียกผ่านแอปพลิเคชัน สะดวกมาก 
  • โปรที่ 2 City Ride เรียกรถเพื่อเดินทางไปเที่ยวไหนก็ได้ทั่วเมือง ได้ส่วนลด 30 บาท 

เขาจัดโปรกันจนถึงเดือนพฤศจิกายน 2565 รับเทศกาลท่องเที่ยวที่กำลังกลับมา รีบสมัครเป็นสมาชิก AIRASIA พร้อมดาวน์โหลด airasia Super App เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่นักเดินทางไม่ควรพลาด นอกจาก AIRASIA RIDE จองรถแท็กซี่แล้ว ยังมีแพลตฟอร์มจองเที่ยวบิน จองโรงแรมได้ด้วย หรือจะสั่งอาหารก็ยังได้ สมาชิกที่ทำรายการจองบริการต่าง ๆ จะได้รับคะแนนสะสมทุกรายการ เก็บคะแนนไว้ใช้แทนเงินสด คุ้มสุด ๆ 

 
 

ท่องเที่ยว อย่างไรให้ตัวปลิว ไร้สัมภาระ

จบเรื่องโปรไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ว่านักเดินทางที่สัมภาระเยอะ จะเที่ยวอย่างไรให้สนุกเต็มที่ สำหรับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยว กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต ขอแนะนำ AIRPORTELs ผู้ดูแลสัมภาระที่ไว้ใจได้ ตามเราไปดูบริการของที่นี่กัน

บริการฝากกระเป๋า – สามารถฝากค้างคืนได้อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นของมีค่า สัมภาระหนัก ฝากไว้กับผู้ดูแลมือโปรแบบไม่ต้องห่วง เพราะเขามีการรับประกันความเสียหายและมีระบบรักษาความปลอดภัยในการดูแลกระเป๋าให้กับผู้มาใช้บริการ ช่วยให้การเดินทางทุกทริปคล่องตัวขึ้น สามารถใช้บริการได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เปิดตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 03.00 น. โดยนักท่องเที่ยวสามารถฝากกระเป๋าเดินทางไว้ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ที่ชั้น 2 ประตู 4

บริการส่งกระเป๋า – นอกจากรับฝากกระเป๋าแล้ว ยังมีบริการส่งกระเป๋าเดินทางพร้อมสัมภาระทุกอย่างให้ด้วย นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการส่งกระเป๋าไปที่สนามบิน หรือจะให้ส่งไปโรงแรมก็ได้ 

โปรโมชั่นในสนามบินก็เตรียมส่องไว้แล้ว ส่วนสัมภาระก็หมดกังวลเพราะมีผู้ดูแลให้ จะรออะไร รีบวางแผนแล้วออกเดินทางกันแบบตัวปลิวได้เลย

 
 

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล

ที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ชมทะเลหมอก เดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 2565

การท่องเที่ยวในเมืองไทยนั้น เรียกได้ว่าสามารถเที่ยวได้ทั้งปีจริง ๆ เพราะในแต่ละเดือน แต่ละฤดูกาล ประเทศไทยของเราก็มีสถานที่เที่ยวมากมาย เพื่อรองรับและตอบโจทย์นักท่องเที่ยวได้อย่างดีเสมอ และเมื่อมาถึงอีกหนึ่งฤดูของการเชื่อมต่อที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวอย่างช่วงเดือนตุลาคม ที่ใคร ๆ เรียกว่าปลายฝนต้นหนาว อากาศเย็นอ่อน ๆ แบบยังมีกลิ่นอายของ หน้าฝน ที่ผ่านพ้นไป ทำให้มี ทะเลหมอกที่สวยงามเกิดขึ้นระหว่างฤดูแบบนี้อีกด้วย วันนี้จึงขอแนะนำที่เที่ยวปลายฝนต้นหนาว ชมทะเลหมอก เดือนตุลาคม 2565 กัน ที่กำลังรอให้ทุกท่านออกไปเก็บความทรงจำดี ๆ ในฤดูแห่งความโรแมนติกนี้ด้วยกัน

 

1. สวนป่าดอยบ่อหลวง

เที่ยวเดือนตุลาคม 2565 ที่แรกที่อยากแนะนำให้หาโอกาสมาเยือน ทะเลหมอกยามเช้าของที่นี่ไม่ได้อยู่ยอดดอย แต่อยู่ที่ยอดสน ทะเลหมอกยามเช้าที่แทรกตัวอยู่ท่ามกลางป่าสนสูงใหญ่ ที่ต้องแหงนหน้ามองสุดปลายตา หมอกสีขาวแทรกตัวกลมกลืนได้อย่างงดงาม ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในป่าลึกของต่างประเทศกันเลยทีเดียว ภูมิทัศน์และลักษณะของพื้นที่ของสวนป่าดอยบ่อหลวงแห่งนี้ ออกแบบให้ธรรมชาติโอบล้อมที่พัก ซึ่งดูเข้ากันได้ดี โดยมีบ้านพักหลากหลายรูปแบบให้เลือกเข้าพักตามที่ชอบและยังมีพื้นที่ลานกว้างแบ่งเป็นโซนสำหรับการกางเต็นท์ เป็นอีกตัวเลือกสำหรับการเข้าพัก ซึ่งบ้านพักที่ได้รับความนิยมคือแบบไม้สนทรงหลังคาจั่วแหลมและมีห้องนอนใต้หลังคา แบบบ้านในนิทานฝรั่งที่ใครหลายคนเคยอ่านในวัยเด็ก บ้านหลังน้อยกลางป่าสนสูงใหญ่ท่ามกลางต้นไม้น้อยใหญ่ที่เขียวชอุ่ม เหมาะกับการมาใช้เวลาพักผ่อนเก็บความทรงจำดี ๆ ใช้ชีวิตช้า ๆ เนิบ ๆ ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง บ้านองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ตั้งอยู่ในอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ริมถนนสาย 108 เส้นทางเดียวกับสวนสนบ่อแก้วและออบหลวง ซึ่งสามารถจองก่อนเข้าพักได้ตามกำหนดที่มีการแจ้งไว้ทางเฟซบุ๊ก

  • ตั้งอยู่ในอำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ ริมถนนสาย 108
 
 

2. บ้านป่าบงเปียง

เป็นท้องทุ่งนาข้าวแบบขั้นบันได ที่ปลูกไว้โดยลดหลั่นตามความลาดของพื้นที่ซึ่งล้อมรอบด้วยภูเขา เป็นวิถีการใช้ชีวิตของชาวบ้านที่เพาะปลูกข้าวและพืชผัก หากแต่กลายเป็นภาพที่งดงาม ประกอบกับภูเขาเขียวขจีที่โอบล้อมหมู่บ้านและท้องนา เป็นสถานที่ซึ่งขอแนะนำให้หาโอกาสไปลองพักและใช้ชีวิตช้า ๆ ที่นี่ดู จะดีแค่ไหนหากตื่นเช้ามาแล้วสิ่งแรกที่มองเห็นตรงหน้าที่พักคือทะเลหมอกที่ล่องลอยอยู่ท่ามกลางนาขั้นบันไดที่เขียวขจี โอบล้อมไปด้วยภูเขาที่รายล้อมเหมือนการโอบกอดจากธรรมชาติ เป็นภาพประทับใจที่ต้องไปเก็บความทรงจำด้วยตาของตัวเอง เพราะนอกจากภาพความงดงามตรงหน้าแล้ว บรรยากาศเย็นชุ่มฉ่ำของปลายฝนต้นหนาวที่ไม่สามารถสัมผัสได้จากภาพถ่ายใด ๆ คืออีกความมีเสน่ห์ของการออกไปท่องเที่ยว เพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มปอด เพราะนี่คือแหล่งพลังงานที่สามารถเติมพลังให้กับร่างกายและจิตใจชั้นดีทีเดียว

  • ที่อยู่ : ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
 
Ban pa bong piang in Chiang mai, Thailand.
 

3. บ้านอีต่อง ตำบลปิล๊อก

เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ร่วมกันของคนไทยเชื้อสายพม่าและมอญ ที่มีมนต์เสน่ห์สำหรับผู้มาเยือน ทำเลที่ตั้งของหมู่บ้านซึ่งเคยเป็นเหมืองเก่าและถูกปิดมาก่อน อยู่ท่ามกลางการโอบล้อมของภูเขา โดยมีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางหมู่บ้าน ทำให้ในยามเช้ามีทะเลหมอกเป็นรางวัลให้ผู้มาเยือนได้ชื่นชมบรรยากาศทุกเช้า ยิ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวแบบนี้ยิ่งสวยมากเป็นพิเศษ หมอกสีขาวแทรกตัวอยู่กับแมกไม้สีเขียวสดและบ้านเรือนของชาวบ้าน วิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ก็น่ารักและเรียบง่าย บรรยากาศร้านกาแฟยามเช้า ให้ผู้มาเยือนได้นั่งจิบเครื่องดื่มร้อน ๆ พร้อมกับทอดสายตาได้จนสาย สะพานเล็ก ๆ ที่หลายคู่รักมาคล้องกุญแจเหมือนที่สถานที่ชื่อดังของเกาหลี เป็นจุดที่ต้องถ่ายรูปบอกให้ชาวโลกรู้หากมีโอกาสมากับคู่รัก เป็นอีกกิจกรรมน่ารัก ๆ ท่ามกลางหมอกขาว ๆ ที่ลอยละล่องอยู่เป็นฉากหลังของภาพถ่ายที่งดงาม

  • อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี
 
E-Tong Pilok village in Kanchanaburi
 

4.สะพานมอญสังขละบุรี

เป็นที่ท่องเที่ยวอีกที่ซึ่งงดงามมากในยามเช้าที่ ทะเลหมอก ปกคลุม ซึ่งในช่วงปลายฝนต้นหนาวอย่างเดือนตุลาคมนั้น ทะเลหมอกยามเช้ามีให้ชมแบบไม่ต้องลุ้นกันเลยทีเดียว สะพานไม้แห่งนี้คือสัญลักษณ์ของความสามัคคีและความศรัทธาของชุมชนชาวมอญที่มีต่อพระพุทธศาสนา โดยได้มีการยกย่องว่าเป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย โดยมีความยาว 850 เมตร ด้วยทำเลที่ตั้งของสะพานที่ล้อมรอบด้วยภูเขาเขียวขจีและพื้นน้ำด้านล่าง ทำให้บรรยากาศรื่นรมย์เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งวิถีชีวิตของชาวมอญที่อาศัยอยู่นั้นมีความน่าสนใจและเป็นมิตรกับแขกผู้มาเยี่ยมเยือน อีกทั้งรีสอร์ทน้อยใหญ่ก็มีให้เลือกเข้าพักในราคาที่เหมาะสมให้ได้ตื่นเช้ามาชมความสวยงามของทะเลหมอก ณ จุดเช็คอินที่สะพานมอญ

  • สะพานอุตตมานุสรณ์ กาญจนบุรี
 
 

5. เขาช่องลม

เป็นอีกสถานที่สำหรับชมทะเลหมอกยามเช้า ซึ่งไม่ไกลจากกรุงเทพฯ อีกแห่งหนึ่งที่ควรหาโอกาสไปสักครั้งในวันหยุด ลำธารน้ำทอดยาวที่ไหลผ่านช่องเขาที่สองข้างโอบล้อมด้วยภูเขาน้อยใหญ่เขียวขจี ทำให้หลายคนเรียกที่แห่งนี้ว่าสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ช่วงปลายฝนต้นหนาวท้องฟ้าสีสดใส อากาศเย็นอ่อน ๆ ท่ามกลางธรรมชาติที่เขียวขจี มองไปสุดปลายตา ความงดงามของธรรมชาติที่ต้องไปเก็บเป็นความทรงจำด้วยสายตาตัวเองเท่านั้น ลำธารน้ำไหลเอื่อยและโขดหินรูปทรงหลากหลายมีให้ปีนป่ายอย่างเพลิดเพลิน ต้นไม้ดอกไม้แปลกตาระหว่างทางเดินที่เกิดจากธรรมชาติที่สมบูรณ์ของที่นี่ ก็เป็นภาพถ่ายสวย ๆ ให้ใครหลาย ๆ คนมักลงอวดผู้คนในโลกโซเชี่ยล อารมณ์การมาเที่ยวที่นี่จะเหมือนการไปแคมป์ปิ้งของชาวต่างประเทศ บางคนก็เลือกหาทำเลกางเต็นท์หรือหาที่พักใกล้ ๆ เพื่อมาชื่นชมและเก็บภาพถ่ายบรรยากาศยามเช้า ถือว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่เหมาะสำหรับเพื่อน คู่รัก และครอบครัว อีกแห่งหนึ่งที่ขอแนะนำ

  • เขาช่องลม เขื่อนขุนด่านปราการชล จังหวัดนครนายก
 
khao chong lom
 

เสน่ห์ของฤดูกาลปลายฝนต้นหนาว ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนตุลาคมนั้น ถือเป็นช่วงที่ธรรมชาติอิ่มตัวและเตรียมพร้อมแล้วหลังจากใกล้จบ หน้าฝน ต้นไม้น้อยใหญ่อิ่มน้ำและงดงาม พร้อมอวดโฉมให้ผู้คนได้ออกเดินทางเพื่อท่องเที่ยวและชาร์จพลังงานกัน อากาศเย็น ๆ กับการนั่งจิบกาแฟหรือชา ชมสายหมอก นั่งดูความงดงามของธรรมชาติรอบ ๆ ตัว บางคนเรียกว่าการใช้ชีวิตอย่างสโลว์ไลฟ์หรือใช้ชีวิตให้ช้าลง ให้ธรรมชาติโอบล้อม ปลอบโยน เติมเต็ม ให้พลัง หนุนใจ เพื่อกลับมาใช้ชีวิตต่ออย่างมีคุณภาพต่อไป พร้อมต้อนรับฤดูกาลต่อไป

 

ที่มาข้อมูล

6 เกาะที่นักท่องเที่ยวมาถึงไทยแล้วห้ามพลาด!

มาถึงประเทศไทยแล้ว อยากไปเที่ยวทะเลแต่ไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน เรามี 6 เกาะท่องเที่ยวในไทย ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดมาแนะนำ

เกาะช้าง

1. เกาะช้าง

ถือเป็น เกาะท่องเที่ยวในไทย ที่อยู่ใน List ติดอันดับต้น ๆ ที่หลายคนอยากไปเที่ยวมากที่สุด เกาะช้างตั้งอยู่ใน ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง จ.ตราด นอกจากทะเล และบรรยากาศหาดทรายสวย ๆ แล้วเกาะช้างยังมีน้ำตกให้เดินสำรวจธรรมชาติอีก 4 แห่งด้วยกัน คือ น้ำตกคลองนนทรี น้ำตกธารมะยม น้ำตกคลองพลู น้ำตกคีรีเพชร กิจกรรมที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดคือ ดำน้ำดูปลาและปะการัง สามารถเดินทางได้ทั้งรถยนต์และนั่งเครื่อง หากเริ่มต้นที่กรุงเทพฯ สามารถเดินทางได้ทั้งหมด 3 เส้นทางคือ

  1. เส้นทางหลวงหมายเลข 3 สายบางนา-ตราด หรือทางยกระดับบางนา-บางปะกง จากนั้นเข้าทางหลวงหมายเลข 344 ถึง อ.แกลง และเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 3 ผ่าน จ.จันทบุรี มุ่งหน้าเข้าตัวเมือง จ.ตราด รวมระยะทางประมาณ 315 กิโลเมตร
  2. เส้นมอเตอร์เวย์ ขับตรงมาเรื่อย ๆ จนพบกับทางหลวงหมายเลข 344 สายบ้านบึง-แกลง จนถึงอำเภอแกลงต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3 ผ่าน อ.ขลุง ในจังหวัดจันทบุรี ผ่าน อ.เขาสมิง วิ่งตรงเข้าสู่ตัวเมืองตราด รวมระยะทาง 315 กิโลเมตร
  3. มาเส้นทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านชลบุรี พัทยา สัตหีบ ระยอง ถึง อ.แกลง วิ่งตามทางหลวงหมายเลขเดิมผ่านจันทบุรีเข้าตัวเมืองตราด หรือจะใช้เส้นทางหมายเลข 36 จากพัทยาเข้าระยอง อ.แกลง ระยะทางก็จะใกล้กว่าประมาณ 40 กิโลเมตร

หรือจะโดยสารรถประจำทางก็สะดวกเช่นกัน มีจุดขึ้นรถที่หมอชิตและสถานีขนส่งเอกมัย จากกรุงเทพถึงขนส่ง จ.ตราด ราคาค่ารถ 250 บาทต่อคน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชม. แล้วต่อรถสองแถวไปท่าเรืออีก ค่ารถคนละ 50 บาท

ถ้าโดยสารเครื่องบินค่าตั๋วตามแต่ช่วงเวลา เริ่มต้นที่ 3,000 บาทขึ้นไป แล้วต่อรถตู้ก็เริ่มต้นที่ 300 ขึ้นไปแล้วแต่ปลายทางที่เราลง สามารถเช็คข้อมูลการเดินทางได้ที่ http://www.kohchangebooking.com/travel.html หรือโทร 039 538 288 ถึง 9

เกาะท่องเที่ยวในไทย,เกาะลันตา

2. เกาะลันตา

            เกาะลันตาประกอบไปด้วยเกาะ 2 เกาะคือเกาะลันตาใหญ่ และเกาะลันตาน้อย เป็นหนึ่งในอำเภอของจังหวัดกระบี่ จุดเด่นของเกาะลันตาคือหาดทรายที่มีความสวยงามและเงียบสงบ และอีกฟากหนึ่งก็เป็นหาดหินที่มีความสวยงามไม่แพ้กับหาดทราย มีหมู่บ้านชาวเลที่ยังคงใช้ชีวิตและสืบสานวัฒนธรรมโบราณสืบต่อกัน มีอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะลันตา ที่อุดมไปด้วยต้นไม้และป่าเขาที่อุดมสมบูรณ์ ไฮไลท์คือจุดชมวิวแหลมโตนดที่เป็นที่ตั้งของประภาคาร ที่เป็นจุดชมวิวสวยสวย ๆ และมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่พร้อมบริการนักท่องเที่ยวทั้งอินเทอร์เน็ต ร้านอาหาร ถนนหนทางที่สะดวก

การเดินทาง

            เกาะลันตาอยู่ห่างจากตัวเมืองกระบี่ 70 กม. เราสามารถเดินทางไป จ.กระบี่ ได้ทั้งรถยนต์ รถโดยสารซึ่งสามารถไปถึงเกาะลันตาได้เลย หรือเดินทางด้วยเครื่องบิน สามารถต่อรถตู้เช่าที่สนามบิน เพื่อเดินทางไปเกาะได้

เกาะท่องเที่ยวในไทย,เกาะห้อง

3. เกาะห้อง

เกาะห้องหรือเกาะเหลาบิเละ ตั้งอยู่ ต.อ่าวลึกใต้ อ.อ่าวลึก ในเขตอุทยานแห่งชาติโบกขรณี ที่อยู่ในเขตของจังหวัดกระบี่ เป็นเกาะที่มีทัศนียภาพสวยงามมาก หาดทรายสีขาวเม็ดทรายละเอียด โอบล้อมด้วยน้ำทะเลใสสีมรกต ปะการังสวย กัลปังหา หลากชนิด เหมาะกับการดำน้ำดูปะการัง นักท่องเทียวนิยมพายเรือคายัค ความสวยงามของเกาะห้องได้รับการจัดอันดับให้ติดอันดับ 1 ใน 10 ของเกาะที่สะอาดและสวยงามของโลกเลยทีเดียว

จุดเด่นของเกาะห้อง คืออ่าวห้องหรือทะเลในที่มีลักษณะคล้ายห้อง เป็นสระน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่มีผนังเป็นหน้าผาชันล้อมรอบ

การเดินทางไปเกาะห้อง ทำได้ 3 วิธีคือ

  1. ใช้บริการเรือหางยาว ราคา 600 บาท
  2. ใช้บริการเช่าเรือเหมาลำ ราคา 2,500 – 3,000 บาท จำกัดผู้โดยสาร 6 คน
  3. ใช้บริการเรือสปีดโบท ราคา 1,300 บาท
เกาะท่องเที่ยวในไทย,เกาะกระดาน

4. เกาะกระดาน

            เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ของจังหวัดตรัง อยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานแห่งชาติหาดเจ้าไหม เกาะกระดานด้วยความเป็นเกาะที่มีพื้นที่กว้างใหญ่ซึ่งประกอบไปด้วยชายหาดอ่าวเนียง หาดอ่าวไผ่ ชายหาดอ่าวช่องลม เสน่ห์ของเกาะกระดานคือหาดทรายที่กว้าง น้ำทะเลใส ทัศนียภาพสวย มีความสงบ นักท่องเที่ยวส่วนนิยมมาดำน้ำดูปะการังและนอนอาบแดดตามชายหาด ความน่าสนใจของ เกาะกระดาน คือ ได้รับคัดเลือกให้เป็นสถานที่จัดงานวิวาห์ใต้สมุทรของจังหวัด เพราะเป็นเกาะที่สวยที่สุดของ จ.ตรัง นั่นเอง

            การเดินทางไปเกาะกระดานคือไปทางเรือนั้น โดยมีจุดที่ขึ้นเรือคือ ท่าเรือกวน ตุน กู และท่าเรือปากเมง ซึ่งเรือที่ให้บริการจะเป็นเรือหางยาว หรือจะซื้อทัวร์ไปเป็นกรุ๊ปก็จะสะดวกหน่อย

เกาะท่องเที่ยวในไทย,เกาะเต่า

5. เกาะเต่า

เกาะเต่าเป็นเกาะที่อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดชุมพร ที่ตั้งอยู่กลางทะเลอ่าวไทย เป็น เกาะท่องเที่ยวในไทย ที่ติดอันดับ 20 ชายหาดที่ดีที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย เกาะเต่ามีหาดทรายรี เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดของเกาะเต่า กิจกรรมที่พลาดไม่ได้คือการดำน้ำ กิจกรรมพายเรือคายัก เช่ามอเตอร์ไซค์ขี่ชมวิวรอบเกาะ และเกาะเต่าก็อยู่ห่างจากเกาะนางยวนเพียง 1 กม. จึงถือเป็นจุดไฮไลท์อีกจุดที่นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวเกาะเต่าจะต้องแวะไปเยือนเกือบทุกคน

            การเดินทางไปเกาะเต่า ด้วยจุดที่ตั้งของเกาะเต่าอยู่กลางอ่าวไทย ทำให้สามารถเดินทางไปเกาะเต่าได้จาก 4 จุดคือ

  1. เดินทางจากชายฝั่ง ทะเลชุมพร ระยะทาง 74 กม.
  2. เดินทางจากชายฝั่ง ทะเลสุราษฏร์ธานี ระยะทาง 110 กม.
  3. เดินทางจากเกาะสมุย ระยะทาง 64 กม.
  4. เดินทางจากเกาะพะงัน 45 กม.
เกาะหลีเป๊ะ

6. เกาะหลีเป๊ะ

เกาะหลีเป๊ะ เกาะสวยน้ำทะเลใสที่ตั้งอยู่ในจังหวัดสตูล ความน่าสนใจของเกาะหลีเป๊ะ คือ ชายหาดที่ประกอบไปด้วย 3 หาดคือ

  • หาดพัทยา เป็นหาดที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว รีสอร์ทที่พัก ร้านอาหาร และกิจกรรมยามค่ำคืนอย่างคึกคัก
  • หาดซันไรซ์ หาดที่มีแต่ความเงียบสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อน เต็มไปด้วยแนวของทิวต้นสน เหมาะที่จะเป็นที่ลงเล่นน้ำและนอนอาบแดด
  • หาดซันเซ็ต หาดที่จะได้ชมพระอาทิตย์ตกดินสวยและโรแมนติก

การเดินทางไปเกาะหลีเป๊ะ สามารถเดินทางได้ทั้งเครื่องบินไปลงสนามบินหาดใหญ่ และต่อรถตู้ไปยังท่าเทียบเรือปากบารา จ.สตูล และขึ้นเรือสปีดโบ้ท หรือเดินทางด้วยรถไฟลงที่ชุมทางหาดใหญ่ ต่อรถมอเตอร์ไซค์ไปคิว รถตู้ตลาดเกษตร ต่อรถตู้ไปท่าเรือปากบารา ซึ่งอาศัยการต่อรถหลายทอด แต่ราคาค่าโดยสารถูกกว่าเดินทางด้วยเครื่อง หรือจะเดินทางด้วยรถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์สายกรุงเทพ-สตูล มาลง อ.ละงู ต่อสองแถวสีส้มไปท่าเรือปากบารา ก็ได้เช่นกัน

ใครที่กำลังมองหาที่พักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดยาวนี้ก็ลองให้ เกาะท่องเที่ยวในไทย ทั้ง 6 เกาะนี้ได้เป็นตัวเลือกสุดพิเศษให้คุณได้พักผ่อนในทริปต่อไป รับรองว่าคุณจะได้เติมพลังกายและใจให้ตัวคุณเองได้อย่างเต็มอิ่มและไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

อะเมซิ่ง! 10 สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน สายเที่ยวไม่ควรพลาด!

หลายต่อหลายคนอาจคิดว่าเมืองไทยของเรานั้นสามารถเที่ยวได้เฉพาะในฤดูหนาวเท่านั้น แต่เปล่าเลยฤดูฝนก็เที่ยวได้ หากแต่ต้องคอยระมัดระวังในเรื่องของความปลอดภัยและรักษาสุขภาพให้แข็งแรงเท่านั้นเอง มี “สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน” ที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

1. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก

น้ำตกทีลอซู ถือเป็นน้ำตกที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทยมีความสูง 300 เมตร โดยประมาณมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติต่างแวะเวียนมาชื่นชมความสวยงามและความยิ่งใหญ่ของน้ำตกแห่งนี้ น้ำตกทีลอซูอยู่ในเขตพื้นที่การดูแลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ปัจจุบันมีถนนตัดผ่านทำให้การเดินทางเข้าไปสะดวกมากยิ่งขึ้นแต่ถนนเข้าน้ำตกจะปิดในช่วงฤดูฝนจนถึงเดือนพฤศจิกายน ในช่วงฤดูฝนจะใช้ได้เฉพาะทางแพ จนกลายเป็นสถานที่ล่องแพของนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูฝนไปซะแล้ว

2. น้ำตกกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช

เป็นอีกหนึ่ง สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน สำหรับน้ำตกกรุงชิงในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราชแห่งนี้ คุณจะได้สัมผัสกับบรรยากาศป่าดิบชื้นและเส้นทางเดินชมป่าด้วยระยะทางเกือบ 4 กิโลเมตร ระหว่างทางจะมีศาลาพักพร้อมป้ายให้ความรู้ต่าง ๆ มากมาย โดยเฉพาะบรรดาพันธุ์ไม้ต่าง ๆ ที่คุณไม่เคยเห็นมาก่อน อาทิ ดงชก หลุมขวาก มหาสดำ น้ำตกกรุงชิงมีด้วยกันทั้งหมด 7 ชั้น ชั้นที่สวยที่สุดคือ หนานฝนแสห่า และเคยถูกนำภาพถ่ายไปตีพิมพ์ลงในธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ในปี 2535 อีกด้วย

3. เขื่อนเชี่ยวหลาน จังหวัดสุราษฎร์ธานี

ว่ากันว่าสวรรค์บนดินมีจริง ณ เขื่อนเชี่ยวหลาน กุ้ยหลินเมืองไทยเพราะนอกจากจะได้เที่ยวชมความงามของเขื่อนเชี่ยวหลานแล้ว ยังมีป่าต้นน้ำ บ้านน้ำราด แหล่งน้ำธรรมชาติที่มีน้ำใสมาก ๆ แม้การเดินทางจะโหดไปสักหน่อย แต่เมื่อได้สัมผัสกับธรรมชาติที่โอบล้อมไปด้วยขุนเขาน้อยใหญ่แล้วความเหนื่อยก็หายเป็นปลิดทิ้งเลยทีเดียว

4. ภูลังกา จังหวัดพะเยา

เป็นอีก สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน ของเมืองรองอย่างจังหวัดพะเยา โดยเฉพาะในช่วงปลายฝนต้นหนาวที่จะทำให้คุณพบกับบรรยากาศสุดโรแมนติก ด้วยความสูงเหนือรับน้ำทะเล 1,720 เมตร จึงทำให้วิวยามเช้าที่ภูลังกาแห่งนี้อบอวลไปด้วยทะเลหมอก ณ จุดชมวิวผาช้างน้อย ที่โอบล้อมด้วยขุนเขาสมคำล่ำลือกับที่บอกกันว่าที่พักหลักร้อยวิวหลักล้านจริง ๆ

5. ล่องแพเมืองกาญ

จังหวัดกาญจนบุรีถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สามารถไปได้ตลอดทั้งปี ไม่เพียงแต่เป็น สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน เท่านั้น ด้วยสถานที่ท่องเที่ยวที่มีอยู่มากแต่ไฮไลท์ที่สุดคงหนีไม่พ้นการล่องแพ โดยเฉพาะการพักอาศัยและนอนหลับบนเรือแพขนาดใหญ่กลางเขื่อนศรีนครินทร์ ที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติและขุนเขา จะเลือกพักผ่อนกับเรือนแพริมฝั่งแม่น้ำแควน้อยก็ได้บรรยากาศไปอีกแบบ ขึ้นอยู่กับความชอบและความต้องการของคุณโดยแท้จริง

6. เขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา

ชื่อนี้การันตีให้กับแหล่งท่องเที่ยวภายในเขาใหญ่ได้เป็นอย่างดี เพราะนอกจากคุณจะสามารถเข้าเยี่ยมชมอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้ว ยังสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่ในการเข้าทำกิจกรรมส่องสัตว์ในเวลากลางคืน
ได้อีกด้วย ด้วยที่พักที่หลากหลายและไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มากนัก จึงทำให้ทุกวันหยุดเสาร์อาทิตย์มีผู้คนมาท่องเที่ยวพักผ่อนไม่ขาดสาย

7. สวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี

สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน โดยเฉพาะปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้ สวนผึ้งดินแดนแห่งทุ่งหญ้า ขุนเขา และสายหมอก ขับรถจากกรุงเทพฯ ไปเพียง 2 – 3 ชั่วโมงเท่านั้น คุณจะได้สัมผัสบรรยากาศธรรมชาติที่มีทุ่งหญ้าและฟาร์มเลี้ยงแกะ นอกจากนี้ยังมีน้ำตกเก้าโจรไว้ให้คุณได้พักผ่อนหย่อนใจอีกด้วยยิ่งช่วงหน้าฝนอย่างนี้คุณจะเห็นน้ำตกที่สวยงามอย่างยิ่ง

สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน,ท่องดอกกระเจียว

8. ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ

ทุ่งดอกกระเจียวจะเริ่มบานและออกดอกในช่วงฤดูฝนเท่านั้น จึงทำให้คุณสามารถไปสัมผัสความสวยงามของธรรมชาติที่สรรค์สร้าง ขึ้นมาให้บรรดานักเที่ยวอย่างคุณ ได้พบกับความอัศจรรย์ใจอย่างยิ่งที่มีดอกไม้บานเต็มไปหมด อีกทั้งสามารถเข้าชมป่าหินงามที่ไม่เหมือนใครตลอดจนของป่าอย่างเห็ดป่าที่ชาวบ้านหามาให้คุณได้เลือกซื้อด้วย

9. ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่

เป็น สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน แม้โดยส่วนใหญ่คนจะนิยมมาในช่วงหน้าหนาวก็ตามทีแต่ปลายฝนต้นหนาวนี่แหละสวยงามยิ่งนักกับยอดเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ดอยอินทนนท์ที่จะทำให้คุณได้พบกับความสวยงามตามธรรมชาติโดยเฉพาะสองข้างทางที่คุณเดินทางไปนั้น มีความอุดมสมบูรณ์ของป่าทำให้มีอากาศเย็นสบายในช่วงฤดูร้อนและหนาวจับใจในช่วงฤดูหนาว

10. เชียงคาน จังหวัดเลย

สถานที่ท่องเที่ยวแห่งสุดท้ายสำหรับ สถานที่เที่ยวได้ในฤดูฝน นั่นคือ
เชียงคาน ที่นี่คุณจะพบกับวัฒนธรรมต่าง ๆ ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน อีกทั้งหากได้ที่พักริมแม่น้ำโขงจะพบกับความยิ่งใหญ่ของกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวได้เป็นอย่างดี ตลอดจนความมีอัธยาศัยที่ดีของคนในพื้นที่ที่จะทำให้คุณต้องติดใจและกลับมาเยือนอีกครั้ง

ไม่ว่าสถานที่เที่ยวจะสวยและน่าไปเพียงไร การเดินทางที่ปลอดภัยสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะการท่องเที่ยวในฤดูฝนหรือปลายฝนต้นหนาวอย่างนี้ ก่อนเดินทางอย่าลืมที่จะตรวจสอบ สภาพเส้นทาง ดิน ฟ้า อากาศ ตลอดจนยารักษาโรค หรือแม้แต่ถุงเท้ากันทาก เพื่อป้องกันตัวคุณเองไว้ก่อน เพราะจะได้ทำให้ทริปท่องเที่ยวของคุณมีแต่ความสุขตลอดการเดินทาง

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด มีพื้นที่ให้บริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศไทย

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร พัทยา และบริเวณภูเก็ต

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

เซ็นทรัล ภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้นจี, ตรงข้าม Tourist Lounge

Terminal 21 Pattaya ชั้น 2, โซนโตเกียว

เซ็นทรัล ป่าตอง ภูเก็ต ชั้น 1, โซนบริการ

โปรโมชั่นพิเศษ

บริการส่งกระเป๋าภายในกรุงเทพฯ, พัทยา และภูเก็ต เริ่มต้นที่ 199 บาท/ชิ้น บริการส่งกระเป๋าระหว่างจังหวัด เริ่มต้นที่ 299 บาท/ชิ้น

ติดต่อเรา

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 6321-666-99

Website: Luggage Delivery Bangkok

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

WeChat: AIRPORTELs

Kakao Talk: AIRPORTELs

Facebook: www.facebook.com/airportels

ให้การเดินทางของคุณง่ายขึ้นได้ที่นี่! airportels.asia