เหนื่อยไหม? ที่อยากเที่ยวในเมืองอุดรฯ แต่ต้องแบกสัมภาระใบใหญ่ไปไหนมาไหนตลอดเวลา…เรามีจุด ฝากกระเป๋าในอุดร เป็นทางออก…
ก่อนอื่นขอแนะนำจังหวัดอุดรธานีคร่าวๆ นะคะ “อุดรธานี” ตั้งอยู่ตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในประเทศไทย เป็นศูนย์กลางหน่วยงานราชการต่างๆ ในภูมิภาค รวมถึงเป็นศูนย์กลางการเดินทางทั้งทางบกและทางอากาศของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่นี่จึงเป็นแหล่งรวมตัวของนักท่องเที่ยวที่ต้องการมาเที่ยวในจังหวัดอุดรธานีและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อไม่ให้การท่องเที่ยวเกิดความลำบาก ตัดปัญหาเรื่องสัมภาระที่ยังไม่ต้องการใช้งาน เราจึงรวบรวมจุดรับฝากกระเป๋าสัมภาระทั้งในสนามบินและขนส่งจังหวัดอุดรธานี ไว้อำนวยความสะดวกสบายแก่นักท่องเที่ยวที่จะแวะพักผ่อนในอุดรธานีก่อนเดินทางต่อ
ไม่ว่าเพื่อนๆ จะกลับจากนครพนม, หนองคาย หรือสปป.ลาว แล้วมาขึ้นรถที่อุดรธานี เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเที่ยว เราขอเสนอแผนการท่องเที่ยวแบบ One day trip in Udon Thani แต่ก่อนอื่นเราไป ฝากกระเป๋าในอุดร กันก่อนนะคะ
จุดรับฝากสัมภาระที่สนามบินอุดรธานี
จุดรับฝากสัมภาระที่ขนส่งอุดรธานี
จุดรับฝากสัมภาระที่ขนส่งอุดรธานี ตั้งอยู่ตรงข้ามประชาสัมพันธ์ของขนส่ง เปิดทุกวัน 07.00 – 21.00 น. ไม่มีวันหยุด โดยคิดบริการตามขนาด ขนาดเล็ก 20 บาท กลาง 30 บาท ใหญ่ 40 บาท สอบถามเพิ่มเติม โทร.085-683-0700 หรือทางเฟซบุ๊ก ในเพจ บริการรับฝากกระเป๋าและสัมภาระ
เมื่อ ฝากกระเป๋าในอุดร เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็เริ่มเดินทางได้เลย…!
ถ้าเริ่มต้นการเดินทางจากสนามบินอุดรธานี ให้เพื่อนๆ เดินมารอรถสองแถวสาย 15 หน้าสนามบิน หรือถ้าเริ่มเดินทางจากขนส่ง ให้เดินออกมารอรถตรงถนนใหญ่ด้านหน้า ขึ้นรถสองแถวสาย 15 เช่นกัน จุดมุ่งหมายแรกของเราคือ มูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี
ถึงแล้ววว สถานที่ท่องเที่ยวแรกที่เราขอแนะนำ นั่นคือ มูลนิธิศาลเจ้าปู่-ย่า อุดรธานี ตั้งอยู่หลังสถานีรถไฟใกล้ตลาดหนองบัว เป็นศาลเจ้าจีนที่มีความใหญ่โตและสวยงาม มีศาลาริมน้ำ 2 หลัง และมีสวนหย่อมริมหนองบัว บรรยากาศร่มรื่น ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของความสงบสุข เบื้องหน้าศาลไม่มีสิ่งกีดขวาง เป็นสัญลักษณ์ความเจริญรุ่งเรืองของชาวอุดรธานี เปิดให้เข้ากราบไหว้สักการะทุกวัน เวลา 09.00-19.00 น.
เคล็ดลับการกราบไหว้ขอพร นอกจากการกราบไหว้ด้วยธูป 30 ดอก ต้องถวายส้ม 4 ลูก พอกราบไหว้ครบทั้ง 6 จุดแล้ว ให้เดินไปที่สะพานเก้าเลี้ยวเชื่อกันว่าเป็นจุดเชื่อมต่อสวรรค์ และรับรู้ว่าขอพรอะไรไป เสร็จแล้วให้มากราบลาศาลปู่-ย่า พร้อมเอาส้มกลับมา 2 ลูก
หลังจากกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลเจ้าปู่-ย่าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็นั่งรถสองแถวสาย 15 ไปต่อกันที่หนองประจักษ์ สถานที่สุดชิคที่ใครมาถึงอุดรธานีก็ต้องมาเช็กอิน
สวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม หรือที่คนทั่วไปรู้จักกันในชื่อหนองประจักษ์ เป็นหนองน้ำขนาดใหญ่ มีเกาะกลางน้ำ มีไฮไลต์สำคัญคือเป็ดยักษ์สีเหลืองที่ลอยเด่นอยู่กลางหนองน้ำ ใครไม่ได้มาถ่ายรูปด้วยบอกเลยว่าพลาดมาก นอกจากนี้ ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมกิจกรรมต่างๆ ของชาวอุดรฯ อาทิ ออกกำลังกาย เล่นกีฬา และมีสนามเด็กเล่นเอาใจน้องๆ หนูๆ ถือเป็นแลนด์มาร์กของชาวอุดรธานีเลยก็ว่าได้ เปิดทุกวัน เวลา 04.00-20.00 น.
เมื่อแวะเดินเล่น ถ่ายรูปกับเจ้าเป็ดน้อยเสร็จแล้ว ไม่รอช้า ขึ้นรถสองแถวสาย 15 ที่เราคุ้นเคยไปยังจุดหมายต่อไปคือ พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี
พิพิธภัณฑ์เมืองอุดรธานี (Udon Thani Museum) ตั้งอยู่ตรงข้ามวิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี ติดกับสำนักงานที่ดินอุดรธานี ด้านหลังติดหนองประจักษ์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ของจังหวัดอุดรธานี เพราะที่นี่ได้รวบรวมประวัติความเป็นมา เรื่องราวและเหตุการณ์สำคัญที่ทรงคุณค่า อาทิ เรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดอุดรธานี ทั้งประวัติศาสตร์ โบราณคดี ธรรมชาติวิทยา ธรณีวิทยา ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น และศิลปวัฒนธรรม รวมถึงพระประวัติและพระเกียรติคุณของกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคมผู้ก่อตั้งเมืองอุดรธานี เป็นต้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาศึกษาหาความรู้ ถือเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงจังหวัดนี้
ก่อนจบ One day trip ของเรานะคะ เราจะพาไปแวะทานอาหารและซื้อของฝากที่ วีที แหนมเนือง อาหารขึ้นชื่อของจังหวัดอุดรธานี เมนูที่ห้ามพลาดเลยคือ แหนมเนือง, กระยอสด และกุ้งพันอ้อย และที่พิเศษคือ ที่นี่มี Drive Thru ด้วย สะดวกมากๆ เลย สามารถดูรูปเพิ่มเติมและสอบถามข้อมูลได้ที่ http://vtnamnueng.net/
หลังจากอิ่มท้องจากร้านวีที แหนมเนือง และอิ่มใจจากการท่องเที่ยวในเมืองอุดรฯ แล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องเดินทางกลับกันสักที แต่อย่าลืม!!! ไปรับกระเป๋าที่ฝากไว้ที่จุด ฝากกระเป๋าในอุดร ด้วยนะคะ…
หรือถ้าต้องการความสะดวกสบายในการท่องเที่ยวถึงขั้นขีดสุด เราขอเสนอบริการขนส่งสัมภาระโดยบริษัท AIRPORTELs ซึ่งจะช่วยส่งสัมภาระไปยังปลายทางโดยที่เพื่อนๆ ไม่ต้องเหนื่อยอีกต่อไป
ราคาและเงื่อนไขการให้บริการ
- 700 บาท/ชิ้น
น้ำหนักไม่เกิน 25 กิโลกรัม
- เพิ่ม 50 บาท/กิโลกรัม
เมื่อน้ำหนักเกิน 25 กิโลกรัม
- เพิ่ม 100 บาท/รายการ เมื่อขนส่งในวันเสาร์
- เพิ่ม 100 บาท/รายการ หากให้ไปรับที่โรงแรม
ส่งกระเป๋าก่อนเวลา 12:00 น., รับกระเป๋าหลังเวลา (ในวันถัดไป)
*ราคานี้ไม่รวมอุปกรณ์กีฬา
*ให้บริการเฉพาะวันทำการเท่านั้น
จุดเด่น
- เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
- ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
- ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
- สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
- บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิและโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานครและบริเวณภูเก็ต
บริการขนส่งกระเป๋าของแอร์พอเทลล์ ใช้บริการอย่างไร?
ทำได้ง่ายๆ เพียงจองออนไลน์ที่เว็บไซต์ของแอร์พอเทลล์ https://www.airportels.asia/
โดยเลือกที่การบริการ Nationwide Delivery จากนั้นเลือกจุดส่งกระเป๋า(A) และจุดปลายทาง(B)
เมื่อถึงเวลา จะมีพนักงานมารับกระเป๋าสัมภาระไปส่งยังจุดหมายปลายทาง เป็นไงคะ? สะดวกสบายมากๆ เลยใช่ไหม?
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการขนส่งกระเป๋าของ AIRPORTELs กรุณาติดต่อเราที่
- เคาน์เตอร์สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นใต้ดิน ใกล้กับ Airport Link
- เคาน์เตอร์สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสาร 2
- MBK เซนเตอร์ ชั้น6 โซน B
- เทอร์มินอล 21 อโศก ชั้น 1 โซนญี่ปุ่น
- เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 1 โซน Groove (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)
- เซ็นทรัลภูเก็ต ฟลอเรสต้า ชั้น G (ตรงข้าม Tourist Lounge)
- เทอร์มินอล 21 พัทยา ชั้น 2 โซนญี่ปุ่น
- เซ็นทรัลป่าตอง ภูเก็ต ชั้น 1 โซนบริการ
- สนามบินภูเก็ต
หมายเลขโทรศัพท์: +66 6321-666-99
Website: https://www.airportels.asia
E-mail: [email protected]
Facebook: www.facebook.com/airportels
Line/WeChat/KakaoTalk: @AIRPORTELs