ดำน้ำดูปะการังที่แสมสารชลบุรี ทะเลบรรยากาศดี มาชลทั้งทีต้องได้เที่ยว

แสมสาร ชลบุรี เกาะนี้ดี บรรยากาศอภิรมย์ ชมทะเลสัตหีบ

หากพูดถึงจุดดำน้ำที่เดินทางสะดวก ทะเลสวย น้ำใส ปะการังใต้ทะเลยังคงมีความสมบูรณ์ เชื่อว่าหนึ่งในคำตอบที่หลายคนนึกถึงมากที่สุดนั้นหนีไม่พ้น “เกาะแสมสาร” เกาะเล็ก ๆ ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งนอกจากจะโดดเด่นเรื่องของทัศนียภาพที่งดงาม เรียกว่าหันไปมองมุมไหนก็สวยตอบโจทย์คนชอบถ่ายรูปลงโซเชียลแล้ว แสมสาร ยังได้ชื่อว่าเป็นสวรรค์ของนักดำน้ำที่ชอบดำน้ำดูปะการังและฝูงปลาทะเลที่พร้อมแหวกว่ายมาให้ดูอย่างใกล้ชิด แต่จะเดินทางไปเกาะแห่งนี้ได้อย่างไร และมีกิจกรรมไหนน่าสนใจบ้างนั้น เรามีคำตอบมาฝาก

การเดินทางไปที่เกาะแสมสารสามารถเดินทางได้หลายวิธี แต่วิธีที่นิยมคือรถยนต์ส่วนตัวและรถประจำทาง ในกรณีเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวจากกรุงเทพฯ ให้ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์หรือทางด่วนพิเศษบูรพาวิถีเพื่อมุ่งหน้าไปยังสัตหีบ จากนั้นให้ใช้เส้นสุขุมวิทเดินทางไปถึงแยกเข้าอำเภอสัตหีบให้เลี้ยวไปทางซ้ายตามถนนสุขุมวิท

ขับไปประมาณ 6 กิโลเมตร เมื่อเห็นพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวให้กลับรถมาเข้าซอยที่อยู่ข้าง ๆ ขับมาอีก 2 เมตร ให้เลี้ยวขวาเข้าถนน 3126 ขับมาอีกประมาณ 100 เมตร ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อไปทางบ้านช่องแสมสาร และขับไปอีก 6 กิโลเมตร จะเจอพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยา ส่วนการเดินทางไปด้วยรถประจำทางสามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) นั่งรถกรุงเทพ – ระยอง หรือสถานีขนส่งกรุงเทพเอกมัย นั่งรถกรุงเทพฯ – ตราด ไปลงที่ตลาดสัตหีบ

จากนั้นให้ต่อรถสองแถวสีน้ำเงินที่มีป้ายระบุว่าไปเกาะแสมสาร ซึ่งเมื่อมาถึงแล้วให้ไปที่จุดซื้อตั๋วและขึ้นเรือที่ท่าเรือเขาหมาจอเพื่อข้ามไปยังเกาะแสมสาร ค่าบริการเที่ยวชมเกาะแบบไปกลับสำหรับผู้ใหญ่ราคา 300 บาทต่อคน เด็ก 220 บาทต่อคน และชาวต่างชาติ 600 บาทต่อคน สำหรับการให้บริการขาไปจากท่าเรือมีจำนวน 5 เที่ยว เรือออกจากฝั่งเวลา 09.00 น. 10.00 น. 11.00 น 12.00 น. และ 13.00 น.

ขณะที่ขากลับให้บริการจำนวน 4 เที่ยว เรือออกจากเกาะแสมสารเวลา 13.30 น. 15.00 น. 16.00 น. และ 16.30 น. ซึ่งการเดินทางแต่ละเที่ยวจะใช้เวลาประมาณ 10 – 15 นาทีต่อเที่ยวเท่านั้น แต่เนื่องจากเกาะแสมสารมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว 500 คนต่อวัน ดังนั้นควรไปก่อนเวลาเรือออกอย่างน้อย 1 ชั่วโมง เพื่อเข้าแถวรอรับบัตรคิวจากเจ้าหน้าที่ โดยปกติจะเปิดคิวตั้งแต่เวลา 06.00 น. 

“ดำน้ำ” ถือเป็นกิจกรรมที่ไม่ควรพลาดเมื่อไปถึงเกาะแสมสาร ด้วยเกาะนี้โดดเด่นเรื่องความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติใต้ท้องทะเล เพราะมีครบทั้งแนวปะการังอ่อน ปะการังแข็ง ดอกไม้ทะเล และยังมีฝูงปลานานาชนิดแหวกว่ายอวดโฉมให้ชมมากมาย ซึ่งจุดดำน้ำดูปะการังของเกาะแสมสารมีอยู่หลาย ๆ จุด แต่จุดที่นิยมจะอยู่ห่างจากหาดลูกลมประมาณ 450 เมตร เพราะเป็นจุดที่มีปะการังและสัตว์ทะเลเป็นจำนวนมาก สำหรับกิจกรรมดำน้ำดูปะการังของเจ้าหน้าที่มีค่าบริการ 50 บาท


ที่มารูปภาพ hotelandresortthailand

เดินทางด้วยเรือยางสีดำของทหาร ความจุรอบละ 20 คน ให้บริการรอบละ 1 ชั่วโมง โดยก่อนเริ่มทำกิจกรรมทางเจ้าหน้าที่จะมีเสื้อชูชีพและอุปกรณ์ดำน้ำแบบสน็อกเกิ้ลพร้อมสอนวิธีใช้ให้ด้วย แต่หากใครที่เดินทางเป็นกลุ่มและต้องการความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ซื้อทริปแบบ One Day Trip กับผู้ให้บริการเอกชน เนื่องจากมีความเป็นส่วนตัว

กำหนดจำนวนคนต่อเที่ยวได้ง่าย มีรอบให้บริการนานกว่า นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์ดำน้ำ เสื้อชูชีพ อาหาร และเครื่องดื่มให้บริการอีกด้วย ส่วนใครที่อยากดูโลกใต้ทะเลแต่ไม่อยากเปียกที่เกาะแสมสารยังมีบริการนั่งเรือท้องกระจกดูปะการัง ค่าบริการคนละ 20 บาท ให้บริการครั้งละ 8 คน รอบละประมาณ 15 นาที

นอกจากกิจกรรมดำน้ำดูปะการังแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่จะได้จากการไปเที่ยวเกาะแสมสารคือวิวสวย ๆ ของเกาะแสมสาร ซึ่งจุดที่เป็นไฮไลต์คือ “หาดลูกลม” จุดถ่ายรูปสวย ๆ ที่มีฉากหลังเป็นน้ำทะเลสีฟ้าสดใส และ “เกาะปลาหมึก” เกาะเล็ก ๆ ที่อยู่หน้าหาด อีกทั้งยังมีร้านค้า จุดชมวิว จุดเล่นน้ำ และพื้นที่พักผ่อนมากมาย อย่างไรก็ตามหลังจากกลับมาถึงฝั่งอย่าเพิ่งรีบออกจากพื้นที่ แนะนำให้แวะเที่ยวที่พิพิธภัณฑ์ธรรมชาติวิทยาเกาะและทะเลไทย

เพื่อสักการะศาลเจ้าพ่อตากสิน เดินเที่ยวชมอาคารจัดแสดงนิทรรศการต่าง ๆ ภายใน ชมธรรมชาติระหว่างทางเดินอาคารพิพิธภัณฑ์ และชมวิวที่มองเห็นเกาะต่าง ๆ ของอ่าวแสมสาร รับรองว่าถ่ายมุมไหนก็สวย สำหรับค่าเข้าชมผู้ใหญ่ราคา 50 บาทต่อคน เด็กอายุตั้งแต่ 3 – 15 ปี ราคา 20 บาทต่อคน ทหารเรือราคา 30 บาทต่อคน และชาวต่างชาติ 100 บาทต่อคน โดยเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา 09.00 – 17.00 น 

เนื่องจากเกาะแสมสารเป็นเกาะที่ต้องไปเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ เพราะทางกองทัพเรือยังไม่อนุญาตให้เที่ยวพักค้างคืนบนเกาะ ด้วยเหตุนี้นักท่องเที่ยวที่ตั้งใจอยู่หลายวันจึงต้องใช้บริการห้องพักที่อยู่บนฝั่ง ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกทั้งแบบโฮมสเตย์ รีสอร์ท และโรงแรม เช่น ยาหยี & ยี่หวา โฮมสเตย์ ที่พักสไตล์โฮมสเตย์ติดทะเลกับบรรยากาศชิล ๆ มองพระอาทิตย์ตกดินยามเย็น, บ้านคุณยายโฮมสเตย์ ที่พักสไตล์ลอฟท์ปูนเปลือยใกล้ท่าขึ้นปลาของชาวประมง ในเวลากลางคืนยังมีกิจกรรมตกหมึกด้วย,


ที่มาของรูปภาพ baanonsea

ภูสิงห์รีสอร์ท ที่พักสไตล์รีสอร์ทติดทะเลสำหรับสายชิล ใกล้ตลาด และแหล่งท่องเที่ยว หรือ Baan On Sea บ้านพักติดทะเลสไตล์ญี่ปุ่นโมเดิร์นแสนสงบสำหรับคนที่อยากพักผ่อน แต่สำหรับใครเดินทางแบบไปเช้าเย็นกลับหรือเดินทางด้วยรถไฟ รถโดยสารประจำทาง เครื่องบิน แล้วอยากเดินเที่ยวแบบสบายตัวหรือสายชอปที่เป็นกังวลเรื่องของฝาก

แนะนำให้ใช้บริการฝากกระเป๋ากับ AIRPORTELs ซึ่งนอกจากจะทำให้สะดวกสบายในการเที่ยวมากขึ้นแล้ว ยังมีบริการส่งกระเป๋าเดินทางไปยังโรงแรม สนามบิน หรือจุดให้บริการต่าง ๆ พร้อมประกันความเสียหายและระบบความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับเคาน์เตอร์บริการของ AIRPORTELs ที่ใกล้กับเกาะแสมสารคือสาขาเทอร์มินอล 21 พัทยา และสาขาเซ็นทรัลพัทยา

 Bull Beach Club คาเฟ่ & Restaurant
ที่มาของภาพ welovepattaya58

สำหรับใครที่เป็นกังวลเรื่องอาหารการกินบนเกาะแสมสารบอกเลยว่าไม่ต้องกังวล เพราะบนเกาะมีร้านค้าร้านอาหารจำหน่าย แต่อาหารส่วนใหญ่จะเป็นอาหารตามสั่งแบบง่าย ๆ เท่านั้น ถ้าอยากจัดเต็มแนะนำให้มาโซนสัตหีบ เนื่องจากมีร้านอาหารและคาเฟ่วิวสวยให้เลือกมากมาย อย่างร้าน Bull Beach Club คาเฟ่ & Restaurant ร้านอาหารริมทะเลตกแต่งสไตล์โบฮีเมียนที่มีทั้งอาหารคาวหวานและเครื่องดื่ม,

Curve Beach Café
ที่มาของภาพ https://www.sanook.com/travel/1437031/

ร้าน Curve Beach Café คาเฟ่ยอดฮิตบนหาดนางรำที่มีทั้งเบเกอรีและเครื่องดื่ม, ร้าน House Of Benedict แลนด์มาร์คของสัตหีบที่ตกแต่งหลากหลายธีม สามารถเลือกเข้าไปถ่ายรูปได้ตามใจชอบ หรือร้าน DAM Pattaya คาเฟ่สวยตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียล เลือกนั่งได้ทั้งโซนอินดอร์หรือโอเพ่นแอร์

จากข้อมูลจะเห็นว่า แสมสาร เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ เพราะมีครบทั้งกิจกรรมดำน้ำ หาดทรายสวย น้ำใส และมุมถ่ายภาพสวย ๆ มากมาย แต่สำหรับใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวเกาะแสมสารอย่าลืมวางแผนการเดินทางให้ดีด้วยการจองที่พักล่วงหน้าหรือใช้บริการฝากกระเป๋าเดินทาง เพื่อความสะดวกในการท่องเที่ยว

ที่มาข้อมูล: