เที่ยวเพลินเชียงใหม่ด้วยบริการฝากและขนส่งสัมภาระ

เมื่อปี 2566 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ระดับโลก GoBankingRates ได้จัดอันดับเมืองน่าท่องเที่ยวที่เหมาะเป็นจุดหมายปลาย​ทางแห่งการท่องเที่ยว​ ​ในหัวข้อ “เมืองที่มีอากาศอบอุ่นและประหยัดเหมาะแก่การมาท่องเที่ยวช่วงหน้าหนาว” ผลปรากฏว่าจังหวัดเชียงใหม่​ของไทย​ คว้าอันดับที่ 3 ของโลก​มาครอง​ รองจาก​ มาซาตลัน​ เม็กซิโก​ และ​การ์ตาเฮนา​ ของประเทศโคลัมเบีย​ ตอกย้ำความเป็นมหาอำนาจแห่งการท่องเที่ยวที่ครองตำแหน่ง​ Top List เมืองท่องเที่ยวของไทยมาอย่างยาวนานบทความนี้จึงอยากจะชวนให้มาสัมผัสเสน่ห์ของเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง​ แบบเที่ยวเชียงใหม่เพลิน ๆ​ ด้วยบริการฝากและขนส่งสัมภาระที่จะช่วยให้คุณสะดวกสบายขึ้น

เชียงใหม่เป็นเมืองใหญ่ที่มีความสำคัญมาแต่อดีต​ ตามประวัติแล้วเป็นราชธานีของอาณาจักรล้านนา ที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยพระยาเม็งรายเมื่อ​ พ.ศ 1839 ในชื่อ​ “นพบุรีศรีนครพิงค์เชียงใหม่” แน่นอนว่าเมืองใหญ่แห่งนี้เป็นศูนย์กลางของหลาย ๆ  อย่างทั้งการค้ากับต่างเมือง​ การติดต่อราชการ​ จึงเป็นเมืองสำคัญที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนาน​ 

ด้วยความที่เป็นเมืองใหญ่และมีทรัพยากรทางธรรมชาติที่สมบูรณ์มาตั้งแต่อดีต รวมถึงมีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ มีคนชนเผ่าอาศัยอยู่หลากหลาย และยังคงรักษาเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอาไว้​ ​เชียงใหม่จึงกลายเป็นสถานที่ที่รุ่มรวยวัฒนธรรมที่อุดมไปด้วยธรรมชาติและผู้คน​ รวมถึงประวัติศาสตร์อันยาวนาน ทำให้เชียงใหม่เป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่ได้รับความนิยมในการท่องเที่ยวมาทุกยุคสมัย

เชีนงใหม่

ตอกย้ำถึงความแข็งแกร่งและศักยภาพด้านการท่องเที่ยว​  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยให้ข้อมูลตัวเลข​ ระหว่างเดือนมกราคมถึงกรกฎาคมปี 2566​ เพียงแค่ครึ่งปีว่า​ ​เชียงใหม่รองรับนักท่องเที่ยวชาวไทยประมาณ 4.1 ล้านคนและมีนัก​ท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมาเที่ยวเป็นจำนวน 2.1 ล้านคน​ ที่สำคัญตัวเลขจำนวนนักท่องเที่ยวเหล่านี้สร้างรายได้ให้กับเชียงใหม่ประมาณ 63,000 ล้านบาทเลยทีเดียว​ ซึ่งประเทศที่เดินทางมามากที่สุดได้แก่​ นักท่องเที่ยวชาวจีน เกาหลี​ ไต้หวันมาเลเซีย​ และ​ สหรัฐอเมริกา ส่งผลให้การจองโรงแรมที่พักเต็มแทบทุกแห่ง​ ถือเป็นการฟื้นคืนชีพจากวิกฤต​โควิดได้อย่างสง่างามเลยทีเดียว

นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเชียงใหม่จะได้สัมผัสถึงบรรยากาศความเป็นธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์ ป่าไม้​ น้ำตก​ ภูเขา รวมถึงโบราณสถาน​ วัดวาอาราม ที่ยังคง​ความเป็นล้านนาและมีเอกลักษณ์

ความเป็นอาร์ตและศิลปะของเชียงใหม่ก็ไม่แพ้ที่ใด​ ถือเป็นจังหวัดที่มีคาเฟ่และร้านกาแฟอยู่เป็นจำนวนมาก​ และร้านกาแฟแต่ละแห่งก็ไม่ธรรมดาเลยเพราะมีการตกแต่งอย่างสวยงาม และที่จะขาดไม่ได้สำหรับอีก 1 อย่างที่เป็นเสน่ห์ของเชียงใหม่ก็คือ อาหารการกิน อาหารเมืองเหนือที่มีครบรสได้ความเป็นภาคเหนือแท้ ๆ รวมถึงใครเดินทางไปที่นี่ก็จะต้องซื้อของฝากติดไม้ติดมือกลับไป  ไม่ว่าจะเป็น​ น้ำพริกอ่อง​ น้ำพริกหนุ่ม​ แคบหมู ไส้อั่ว​ ข้าวซอย​ รวมถึงสุราพื้นบ้านของเชียงใหม่ที่นี่ก็ขึ้นชื่อไม่แพ้ที่อื่น

บริการฝากกระเป๋าและสัมภาระคือตัวช่วยที่มีประโยชน์มาก ๆ​ ในการเดินทางท่องเที่ยวในยุคสมัยนี้ ลองสังเกตดูว่าตามหัวเมืองใหญ่ ๆ​ หรือจังหวัดท่องเที่ยวมักจะมีบริการรับฝากกระเป๋าและขนส่งสัมภาระ​ และเหตุผลที่เชียงใหม่ต้องมีบริการรับฝากกระเป๋าและขนส่งสัมภาระเนื่องจากด้วยเหตุผลดังนี้

  • เพราะเชียงใหม่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย​ เอาเฉพาะแค่ในซอยนิมมานเหมินทร์อย่างเดียวก็มีทั้งแกลเลอรี​ คาเฟ่​ และห้างสรรพสินค้า​ เพราะฉะนั้น การฝากกระเป๋าและสัมภาระจึงจำเป็นอย่างมากเพื่อ​ที่จะทำให้คุณไม่ต้องหอบของพะรุงพะรังและเดินเที่ยวได้อย่างสบายใจนั่นเอง
  • ร้านค้าและร้านขายของฝากที่กระจายอยู่ทั่วเมือง จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีสถานที่ฝากของที่ซื้อแล้ว เพื่อให้คุณได้ท่องเที่ยวในที่ต่อไปอย่างสะดวก
  • สำหรับผู้ที่เดินทางท่องเที่ยวด้วยบริการขนส่งสาธารณะ การฝากสัมภาระไว้ที่จุดใดจุดหนึ่ง ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อที่จะทำให้คุณเดินทางท่องเที่ยวได้สะดวกขึ้น 
  • การเดินทางไปเชียงใหม่ด้วยขนส่งสาธารณะ​ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบิน​ รถไฟ​ หรือ​รถโดยสาร​ประจำทาง​ จะสะดวกมากยิ่ง​ขึ้นหากคุณใช้บริการการขนส่งสัมภาระที่มีบริการไปรับกระเป๋าจากบ้าน​ แล้ว​ส่งให้ถึงโรงแรมที่พัก​ปลายทาง​ เพราะจะทำให้คุณเดินทางได้อย่างตัวปลิวไม่ต้องแบกกระเป๋าหนัก ๆ​ อีกต่อไป

บริการฝากกระเป๋ากับ AIRPORTELs เปิดใจรับบริการรับฝากกระเป๋าของ AIRPORTELs ที่จะมอบความสะดวกสบายให้กับคุณ ไม่ต้องหอบหิ้วสัมภาระรุงรังให้การเดินเที่ยวสะดุด เปลี่ยนเป็นการช็อปปิงที่ราบรื่นไร้ภาระหนักอึ้ง บริการรับฝากกระเป๋าของ AIRPORTELs ได้มาตรฐาน สถานที่จัดเก็บปลอดภัย มั่นใจไม่ชำรุดเสียหาย

  1. บริการที่เป็นมาตรฐานและน่าเชื่อถือ รวมทั้งมีสาขาที่ครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ​ และต่างจังหวัด รวมถึงที่จังหวัดเชียงใหม่
  2. การรับบริการที่ AIRPORTELs คุณจะได้รับการการันตีรับประกันความเสียหายของกระเป๋าเดินทางที่มีมูลค่าสูงถึง 50,000 บาท​ ด้วยทีมงานมืออาชีพที่จะช่วยดูแลด้านความปลอดภัยของกระเป๋าของคุณ​ ทั้งการรับฝากกระเป๋าและการขนส่งกระเป๋า​ให้ถึงมือคุณอย่างปลอดภัย​​ และอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์
  3. ไม่ต้องกังวลกับการขนส่ง เนื่องจากคุณสามารถติดตามสถานะกระเป๋าเดินทางของตัวเองได้​ ผ่านทั้งทางเว็บไซต์ของ AIRPORTELs, Line, Facebook, WeChat รวมถึง อีเมล
  4. ความแม่นยำตรงต่อเวลาที่เราให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก​ ที่จะจัดส่งกระเป๋าทุกใบให้ทันตามเวลาที่กำหนด
  5. เรามีบริการปกป้องดูแลกระเป๋าของคุณด้วยการแรปกระเป๋า​ ห่อหุ้มอย่างดี เพื่อปกป้องไม่ให้กระเป๋าของคุณเกิดรอยขีดข่วนระหว่างการเดินทาง
  6. บริการ Door To Door ที่แสนสะดวกสบาย​ เพราะเราจะมีเจ้าหน้าที่เดินทางไปเคาะประตูถึงหน้าบ้านของคุณเพื่อรับกระเป๋าและขนส่งไปยังจุดหมายปลายทาง
  7. AIRPORTELs  มอบความรวดเร็วและความสะดวกสบาย​ เมื่อคุณเดินทางไปถึงที่หมาย​ ก็จะพบกับกระเป๋าของคุณรออยู่ที่พักและโรงแรมแล้ว​ เพื่อที่คุณจะไม่ต้องกังวลว่ากระเป๋าจะมาถึงทีหลัง​ เพราะ AIRPORTELs ให้ความสำคัญกับลูกค้าหากต้องการใช้ของบางอย่างที่อยู่ในกระเป๋า​ ลูกค้าจะได้ไม่ต้องรอนานและเป็นกังวลว่าจะได้รับของหรือไม่​ จึงสามารถมั่นใจได้ว่าเมื่อคุณเดินทางไปถึงที่พักปลายทาง​ กระเป๋าและสัมภาระของคุณจะรออยู่ที่นั่นแล้วอย่างแน่นอน

หากคุณเพิ่งเดินทางมาถึงจุดหมายปลายทางก่อนเวลาที่จะถึงกำหนดเข้าเช็กอินที่โรงแรมที่พัก และบังเอิญไม่สามารถฝากกระเป๋าไว้ที่ล็อบบี้ได้ จึงจำเป็นต้องหอบหิ้วกระเป๋าไปเดินเล่นระหว่างรอเวลาที่ห้างสรรพสินค้าบางแห่ง ก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเพราะ​ AIRPORTELs มีบริการรับฝากกระเป๋าแล้วที่เชียงใหม่ซึ่งตั้งอยู่ที่​ เซ็นทรัลเ​ชียงใหม่​ แอร์พอร์ต​ ชั้น​ G เปิดให้บริการตั้งแต่​ 11.00​ – 21.00​ น.​ ของทุกวัน​ โดยคุณสามารถฝากกระเป๋าใบใหญ่และสัมภาระที่พะรุงพะรังของคุณไว้กับเราได้อย่างปลอดภัยหายห่วง​ บริการฝากกระเป๋าไว้กับ​ AIRPORTELs​

สบายใจหายห่วงกับการเดินทางไกลที่ไม่ต้องกังวลกับการแบกสัมภาระกระเป๋าใบใหญ่​ หิ้วของพะรุงพะรังขึ้นเครื่องบิน หรือลากกระเป๋าหนัก ๆ​ ขึ้นรถไฟ​ รถทัวร์สาธารณะ​ เพราะสามารถใช้บริการ AIRPORTELs ในการขนส่งกระเป๋าและสัมภาระได้

หากคุณอยากท่องเที่ยวอย่างมีความสุขเดินตัวปลิวแบบสบายหายห่วงไร้กังวลเรื่องสัมภาระ AIRPORTELs ถือว่าเป็นบริการที่ตอบโจทย์อย่างมาก เริ่มตั้งแต่การเดินทางไปถึงเชียงใหม่ หรือถ้าคุณใช้บริการโดยสารด้วยเครื่องบิน​ ก็ไม่จำเป็นต้องแบกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นเครื่องอีกต่อไป​ เพราะสามารถใช้บริการขนส่งกระเป๋าและสัมภาระ​ ที่จะมีเจ้าหน้าที่พนักงานเดิน​ทาง​ไปถึงหน้าบ้านของคุณเพื่อรับกระเป๋า และส่งไปยังจุดหมายปลายทางได้ตรงต่อเวลาและครบถ้วนสมบูรณ์​ พร้อมทั้งมีประกันความเสียหาย… เปลี่ยนให้การท่องเที่ยวเชียงใหม่ของคุณครั้งต่อไปราบรื่นไม่มีสะดุด เพลิน สบายใจ​ สามารถเลือกใช้บริการทั้งสองแบบของ​ AIRPORTELs​ ได้

ที่มาของข้อมูล

เชียงใหม่มาแบบใหม่ สำรวจเมืองเก่าและสถานที่ท่องเที่ยวกับบริการจุดเจ๋ง!

การท่องเที่ยวเชียงใหม่สิ่งแรกที่หลายคนนึกถึงอาจจะเป็นวิวทิวทัศน์บนดอยที่สวยงาม ทุ่งดอกไม้​ไร่สตรอว์เบอร์รีและการสัมผัสวัฒนธรรมของชนเผ่าต่าง ๆ หรือจะเป็นแกลลอรี่​ คาเฟ่ศิลปะสุดอาร์ต​ ร้านกาแฟ​ และแหล่งช็อปปิง แต่ถ้าหาก​ใครอยากจะสัมผัสเชียงใหม่ในมุมมองของเมืองหลวงแห่งล้านนาในอดีต​ เชียงใหม่ก็ยังคงมีโบราณสถาน ร่องรอยอารยธรรมและศิลปะเก่าแก่ ที่ยังคงความสวยงามได้รับการบูรณะและรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี​ บทความนี้จึงอยากจะชวนสำรวจเชียงใหม่ในมุมมองแบบย้อนยุคล้านนา ไปเที่ยวชมเมืองเก่า พร้อมกับบริการสุดเจ๋งที่จะช่วยให้คุณท่องเที่ยวได้อย่างราบรื่นและสนุกยิ่งกว่าเดิม

สัมผัสเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมภาคเหนือไทย 

ภาคเหนือ​ “เชียงใหม่” เป็นหนึ่งในจังหวัดที่หลายคนคุ้นเคยเป็นอย่างดีเพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมทุกยุคสมัย ซึ่งสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจคือเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของภาคเหนือเหล่านี้

หากนึกถึงโบราณสถานในแถบภาคเหนือ​  หลายคนอาจจะนึกเห็นภาพเกี่ยวกับศิลปะล้านนา เนื่องจากในอดีตแถบภาค​เหนือของไทยคืออาณาจักรล้านนา​ และจังหวัดเชียงใหม่ถือเป็นเมืองหลวงแห่งล้านนาในอดีต​ เราจึงสามารถพบร่องรอยของโบราณ​สถานโบราณวัตถุในหลาย ๆ​ พื้นที่​ อย่างเช่นที่​ กำแพงเมืองรอบเชียงใหม่​หรือประตูท่าแพ​ ที่จะก่อด้วยอิฐแดง​ เป็นกำแพงเมืองเพื่อป้องกันการรุกรานจากศัตรูในอดีต​ หรือวัดวาอารามต่าง ๆ​ ที่มีศิลปะแบบเฉพาะของช่างชาวเหนือที่มีลวดลายอ่อนช้อยต่างจากภาคอื่น ๆ​ รวมถึงหลายพื้นที่ยังมีภาพเขียนจิตรกรรมฝาผนังที่บอกเล่าเรื่องราวในอดีตเอาไว้​ เราจะได้เห็นทั้งการแต่งกาย​ของผู้คน​ บ้านเรือน​ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่สะท้อนออกมาทางศิลปะภาพเขียนฝาผนังในสถานที่สำคัญต่าง ๆ

อาหารเหนือเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สะท้อนวัฒนธรรมความเป็นอยู่ได้อย่างชัดเจน​ เนื่องด้วยภาคเหนือเป็นพื้นที่ที่มีอากาศหนาวจึงทำให้อาหารของทางภาคเหนือนั้นส่วนใหญ่มีไขมันมาก เพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่นในฤดูหนาว อีกทั้งอาหารเหนือนั้นจะเน้นไปทางผักพื้นบ้านเป็นส่วนใหญ่​ ทั้งยังมีการผสมผสานรวมเอาวัฒนธรรมการกินของหลายกลุ่มชาติพันธุ์เอาไว้น​ ที่ยังคงเอกลักษณ์และรสชาติดั้งเดิมเอาไว้ด้วย​ ซึ่งอาหารขึ้นชื่อของทางเหนือ​ อย่างเช่น​ ไส้อั่ว​ น้ำพริกอ่องน้ำพริกหนุ่ม​ ข้าวซอย​ และแกงฮังเล​ เป็นต้น

 เริ่มกันที่หมู่บ้านร่มบ่อสร้าง อำเภอสันกำแพง คือสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่เป็นสถาน​ที่​ที่ชาวบ้านจะได้โชว์ศักยภาพฝีมือในการเพ้นท์ลวดลายของร่มให้นักท่องเที่ยวได้เห็น เพื่อเป็นของฝากและที่ระลึกจากเชียงใหม่​ นอกจากนั้นยังมีศิลปหัตถกรรมอื่น ๆ​ ของทางภาคเหนือ อย่างเช่น​ เครื่องเงิน ผ้าทอ ถ้วยชามเซรามิก ซึ่งงานศิลปะและหัตถกรรมต่าง ๆ​ เหล่านี้ล้วนมีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของทางภาคเหนือสอดแทรกเอาไว้อยู่เสมอ

เที่ยวเชียงใหม่ทั้งทีนั้นมีดีอยู่มากมาย แค่เดินเที่ยวในเมืองก็เที่ยวจนเพลิน​จุใจ​ และต้องใช้เวลาหลายวัน​ ซึ่งใครที่กำลังวางแผนไปเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ต้องขอบอกว่าห้ามพลาดที่จะไปยังสถานที่เหล่านี้

วัดพระสิงห์วรมหาวิหารหรือหลายคนเรียกกันในชื่อวัดพระสิงห์​ สร้างขึ้น เมื่อราว ๆ​ พ.ศ 1888 โดยพญาผายู ซึ่งพระองค์ท่านเป็นกษัตริย์ของเมืองเชียงใหม่องค์ที่ 5 ของราชวงศ์มังราย​ วัดพระสิงห์มีพระพุทธรูปสำคัญประดิษฐานอยู่นั่นก็คือ​ พระพุทธสิหิงค์  ถือเป็นพระพุทธรูปคู่เมืองเชียงใหม่ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิเพชร หล่อด้วยสัมฤทธิ์ ลงรักปิดทอง เป็นศิลปะเชียงแสนในยุคแรก ๆ ลักษณะองค์พระงดงาม เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเชียงใหม่ ​ ในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ ขึ้นขบวนแห่รอบเมืองเพื่อให้ชาวเชียงใหม่และนักท่องเที่ยวได้สรงน้ำ​เพื่อ​เป็นสิริมงคล 

วัดพระธาตุดอยสุเทพ​ วัดคู่บ้านคู่เมืองที่เป็นสัญลักษณ์​ของเมืองเชียงใหม่  ถึงขนาดที่มีคำกล่าวว่า​ หากมาเที่ยวเชียงใหม่แล้วไม่ได้ไปไหว้พระธาตุดอยสุเทพ​ ก็เปรียบเสมือนมาไม่ถึงเชียงใหม่​ โดยความเชื่อเรื่องการสักการบูชาองค์พระธาตุดอยสุเทพนั้น เชื่อว่าหากใครได้ไปสักการะสักครั้งจะมีแต่ความสำเร็จสมหวังดังปรารถนา​ รวมถึงช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรคต่างได้อย่างแคล้วคลาดปลอดภัย  ซึ่งในทุก ๆ​ ปีจะมีประเพณีเตียวขึ้นดอยเพื่อ​ สักการะองค์พระธาตุดอยสุเทพ โดยจะจัดขึ้นในช่วงก่อนหน้าวันวิสาขบูชา 1 คืน​ ภายในงานจะมีขบวนแห่สรงน้ำพระธาตุเพื่อให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มาร่วมขบวนแห่ขึ้นดอยมีความร่มเย็นในชีวิต

“ถนนท่าแพ” แหล่งรวมวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของความเป็นเชียงใหม่แท้ ๆ​ เอาไว้​  ที่นี่เป็นศูนย์รวมของย่านการค้าและธุรกิจ​ดึงดูดนักท่องเที่ยว​  เนื่องจากบริเวณนี้มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ที่สวยงามวัดวาอารามที่ยังคงเก็บรักษาเอาไว้เป็นอย่างดี​ และเป็นที่รู้กันดีว่าบริเวณถนนท่าแพที่ประตูท่าแพในยามค่ำคืนนั้นถูกแปรเปลี่ยนให้เป็นถนนคนเดิน สินค้าหัตถกรรมและอาหารพื้นถิ่นของเชียงใหม่จะมารวมกันอยู่ที่นี่ให้นักท่องเที่ยวได้เดินช็อปปิงชิล ๆ​ เพื่อลิ้มรสของอร่อยรวมถึงเลือกซื้อสินค้าพื้น​เมืองไว้เป็นที่ระลึกและกลับไปฝากคนที่บ้าน

บริการสุดเจ๋งที่จะเข้ามาช่วยการท่องเที่ยวเชียงใหม่ของคุณง่ายขึ้น 

เที่ยวเชียงใหม่ในยุค 4.0 เช่นนี้ไม่ต้องห่วงว่าจะแบกกระเป๋าใบใหญ่หรือหิ้วสัมภาระรุงรังอีกต่อไป​เพราะทุกวันนี้มีบริการรับฝากของและบริการขนส่งกระเป๋าและสัมภาระส่งตรงถึงเชียงใหม่ไว้ให้บริการแล้ว​ ซึ่งบริการนี้เป็นของ​ AIRPORTELs​ ที่มีบริการด้วยกัน 2 แบบ​ คือ บริการรับฝากกระเป๋าสัมภาระและบริการขนส่งกระเป๋าและสัมภาระ

มีให้บริการแล้วที่เซ็นทรัลเชียงใหม่แอร์พอร์ต ตั้งอยู่บริเวณชั้น G ประตู 3 เปิดให้บริการตั้งแต่ 11:00 น. ถึง 21:00 น.​ ของทุกวัน​ ซึ่งบริการรับฝากกระเป๋านี้ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีมาก ๆ​ ที่จะช่วยให้คุณได้เดินชอปปิงและเลือกซื้อของฝากอย่างสบายใจไม่ต้องหอบหิ้วของหรือกระเป๋าใบใหญ่ ๆ

การเดินทางท่องเที่ยวในเชียงใหม่นั้นไม่ต้องกังวลแต่อย่างใดหากคุณไม่ได้เดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพราะการเดินทางในเชียงใหม่นั้นแสนสะดวกสบายมีบริการขนส่งสาธารณะให้เลือกหลากหลายดังต่อไปนี้

1. รถเมล์เชียงใหม่ หรือ RCT Chiang Mai City Bus เป็นรถประจำทางปรับอากาศ มีด้วยกันอยู่หลายเส้นทาง เป็นรถโดยสารปรับอากาศขนาดเล็กแบบ 20 ที่นั่งมีจำนวนทั้งหมด 5 คัน​ อัตราค่าโดยสาร 30 บาทตลอดสาย

2. รถแดงแบบเหมา นักท่องเที่ยวสามารถเช่ารถแดงแบบเหมา ราคาตามแต่ตกลงกัน เพื่อเดินทางท่องเที่ยวในเชียงใหม่ทั้งในตัวเมืองรวมถึงต่างอำเภอได้

3. รถแดงแบบโบกจอดตามจุด​ รถแดงจะวิ่งวนอยู่ภายในตัวเมืองเชียงใหม่​ หากนักท่องเที่ยวไม่ต้องการใช้บริการแบบเหมา​ ก็สามารถรอโบกเรียกรถตามจุดต่าง ๆ​ เพื่อไปลงตามจุดที่ต้องการได้เลย

เที่ยวเชียงใหม่เที่ยวได้ตลอดปีไม่ว่าจะเป็นฤดูไหน​ ก็น่าเที่ยวและสวยงามได้บรรยากาศแตกต่างกันออกไป และการท่องเที่ยวในเชียงใหม่นั้นแสนสะดวกสบาย ทั้งการเดินทางที่สะดวกรวมถึงบริการฝากกระเป๋าและขนส่งกระเป๋า จาก AIRPORTELs​ ก็ได้ขยายสาขามาถึงเชียงใหม่แล้ว ถือเป็นหนึ่งในบริการทันสมัยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การท่องเที่ยวของหลายคน เพื่อให้คุณได้เดินเที่ยวอย่างสบายใจไร้กังวลด้วยรูปแบบการรับฝากกระเป๋าที่ได้มาตรฐาน ให้คุณเที่ยวได้อย่างเพลิดเพลินไม่ต้องกังวลกับสัมภาระ​ใบใหญ่ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการท่องเที่ยวของคุณให้มีความสุขมากยิ่งขึ้นได้

ที่มาของข้อมูล

เสน่ห์ของเชียงใหม่แต่ละฤดูเป็นไงบ้าง วางแผนเตรียมตัวเที่ยวล่วงหน้าไว้ได้เลย

“ตกหลุมรักเชียงใหม่” ประโยคนี้ไม่เกินจริง สำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางไปท่องเที่ยวเชียงใหม่ในครั้งแรก​ เพราะหลงเสน่ห์เมืองเหนือเมืองหลวงแห่งล้านนาในอดีต เพราะว่าเชียงใหม่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี​ ไม่ว่าจะเป็นใน​ ฤดูร้อน​ ฤดูฝน​ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูหนาวที่​จะมีนักท่อง​เที่ยวเดินทางไปเชียงใหม่มากเป็นพิเศษ​ เนื่องจากว่าที่นี่มีอากาศหนาวเย็นโดยเฉพาะอย่างยิ่งบนยอดดอยที่นัก​ท่องเที่ยวจะได้สัมผัสอากาศหนาวเย็นแบบเต็ม ๆ​ ชมวิวทิวทัศน์​ที่เขียวขจี​ ได้ทานอาหารอร่อยและซึมซับวัฒน​ธรรม​​ของที่นี่​  ที่หลายคนรับรองต้องติดใจอย่างแน่นอน​ บทความนี้จึงอยากจะชวนท่องเที่ยวเชียงใหม่ในฤดูต่าง ๆ​ ที่รับรองว่าไม่ซ้ำจำเจ​ ได้ความรู้สึกและรสชาติที่แตกต่างกันออกไปและจะทำให้คุณหลงรักซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ฤดูร้อนเป็นช่วงเวลาที่หลายคนจะได้หยุดพักผ่อนพักร้อน​ ว่างเว้นจากการทำงาน หลบหนีงานที่วุ่นวายเพื่อไปคลายร้อนเติมพลัง และหากคุณวางแผนจะไปเที่ยวเชียงใหม่ขอแนะนำสถานที่คลายร้อนเหล่านี้

1. ห้วยตึงเฒ่า​  

ต.ดอนแก้ว​ อ.แม่ริมอ่างเก็บน้ำกว้างใหญ่ท่ามกลางธรรมชาติ​ ​ สามารถมาทำกิจกรรมคลายร้อน​ ไม่ว่าจะเป็น​ เรือพาย​ จักรยานน้ำหรือบริการเช่าห่วงยางลงเล่นน้ำให้หายร้อน​​ หรือจะมานั่งเล่นรับลมเย็น ๆ​ ชมพระอาทิตย์ตกเพียงเท่านี้ก็มีความสุขแล้ว

  • ที่ตั้ง : อ่างเก็บน้ำห้วยตึงเฒ่า ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/HQw1xPTMtx3zu1Nk6

2. วนอุทยานน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี

ต.แม่หอพระ​ ​อ.แม่แตง ที่นี่มีภูมิประเทศสวยงามมีภูเขาสูงต่ำสลับกับหุบเขาและลำห้วย​ มีป่าอุดมสมบูรณ์​ สามารถคลายร้อนด้วยการเล่นน้ำตกบัวตอง​ และชมความสวย​งามของน้ำพุเจ็ดสีที่สวยงามเปล่งประกายเมื่อกระทบกับแสงอาทิตย์​ 

  • ที่ตั้ง​ :  หมู่​ 8  ต.แม่หอพระ​ ​อ.แม่แตง​ ​จ.เชียงใหม่
  • พิกัด : goo.gl/maps/MTgvbGHQPKx4FP5T7

3. ล่องแพปางช้างแม่วาง

ต.แม่วิน​ อ.แม่วางนักท่องเที่ยวสามารถทำกิจกรรมล่องแพไปตามไม้ไผ่ที่ลำน้ำแม่วางเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติ นอกจากนี้ยังสามารถใกล้ชิดและทำกิจกรรมกับช้างได้อีกด้วย

ประสบการณ์การท่องเที่ยวฤดูฝน

เชียงใหม่ฤดูฝนก็เที่ยวได้​  คุณจะได้สัมผัสประสบการณ์ความเขียวขจีและสดชื่นของมวลแมกไม้และธรรมชาติของเชียงใหม่ จึงเราอยากจะแนะนำที่ท่องเที่ยวดังต่อไปนี้

1. บ้านป่าบงเปียง​

ต.ช่างเคิ่งอ.แม่แจ่ม​ มา​เที่ยวบ้านป่าบงเปียงในฤดูฝน​ จะได้สัมผัสความเขียวขจีของนาขั้นบันไดที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย​ ยามเช้ายังสามารถชมทะเลหมอกที่สวยงามได้อีกด้วย

  • ที่ตั้ง : ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/ScmsRkN82HuEavWy5

2. ดอยอินทนนท์​

กว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ถึง​ 4 อำเภอ​  คือ​ จอมทอง,  แม่แจ่ม, แม่วาง และดอยหล่อ หน้าฝนก็เที่ยวดอยอินทนนท์ได้ นักท่องเที่ยวจะได้บรรยากาศการเดินป่าบนดอยอินทนนท์ในบรรยากาศที่เขียวขจีและชุ่มฉ่ำ​ แถมยังได้สูดอากาศบริสุทธิ์อากาศเย็น ๆ​ ที่ไม่ร้อนมากเหมาะกับการเดินป่าอย่างมาก​ แต่อย่าลืมเช็กสภาพอากาศก่อนเดินทางด้วย

3. สวนพฤกษศาสตร์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์​

ต.แม่แรม​ อ.แม่ริม​ สามารถหลบฝนเข้ามาเดินชมต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์ที่อาคารเรือนกระจกที่มีไม้หายากให้เราเดินถ่ายรูปไม่มีเบื่อ หรืออาจจะออกไปเดินเล่นที่ canopy walkway ในระยะทางกว่า 400 เมตร ก็ได้บรรยากาศและได้ชมทัศนียภาพที่สวยงามเช่นเดียวกัน

  • ที่ตั้ง : 100 หมู่ 9 ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Vc7qcDZDph6UqRTa8

ประสบการณ์การท่องเที่ยวฤดูหนาว

เชียงใหม่​ คือตัวเลือกอันดับต้นๆ​ ในช่วงฤดูหนาวที่หลายคนนึกถึง​ เพราะมาที่นี่จะได้สัมผัสอากาศที่หนาวเย็นและวิวธรรมชาติที่สวยงามอย่างแน่นอน

1. กิ่วแม่ปาน

ต.บ้านหลวง​ อ.จอมทอง วิวหลักล้านสถานที่ยอดนิยมในหน้าหนาว​ ตั้งอยู่ภายในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ไปเที่ยวที่นี่จะได้ชมทะเลหมอกที่สวยงามปกคลุมไปทั่วทั้งภูเขา อากาศที่เย็นสบายและวิวพาโนรามา 360 องศาที่ทุกคนติดใจ

  • ที่ตั้ง : อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ บริเวณกิโลเมตรที่ 43 ของถนนจอมทอง-ดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง สันป่าตอง และแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่
  • พิกัด : https://maps.app.goo.gl/T88F2Yvzw2CRxvFC6

2. ม่อนแจ่ม

ต.แม่แรม​ อ.แม่ริม อีกหนึ่งสถานที่น่าเที่ยวสำหรับฤดูหนาว​ หมู่บ้านที่ม่อนแจ่มทำเกษตรกรรมปลูกสตรอว์เบอร์รีผลไม้ฤดูหนาวรวมถึงดอกไม้ต่าง ๆ​ ไปที่นี่จะได้สัมผัสกับอากาศหนาวและชมสีสันของดอกไม้​ พร้อมทั้งรับลมหนาวได้อย่างเพลินใจ

3. แม่กำปอง​

ต.ห้วยแก้ว​ อ.แม่ออนหมู่บ้านเล็กๆ​ ที่มีมนต์เสน่ห์​ อยู่ในหุบเขาที่เงียบสงบของเชียงใหม่​ ดั้งเดิมหมู่บ้านนี้ปลูกชาและใช้ชีวิตแบบชนบท​ แต่ด้วยความสวยงามของธรรมชาติจึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเดินทางไปที่นี่ เพื่อที่จะไปสัมผัสกับวิถีชีวิตและอากาศเย็นๆ ท่ามกลางธรรมชาติ

เตรียมตัวล่วงหน้าได้ง่ายๆ สำหรับทริปเชียงใหม่ของคุณ

การไปเที่ยวแต่ละครั้ง นักท่องเที่ยวจะต้องวางแผนการเดินทางและอีกสารพัดอย่างให้ครอบคลุมเพื่อที่จะให้การเที่ยวของคุณไม่สะดุดและเติมเต็มความสุขได้อย่างต่ำเต็มที่ ซึ่งมีวิธีการดังนี้

วิธีการเตรียมตัว

  • วางแผนการเดินทาง​ การวางแผนการเดินทางจะทำให้คุณประหยัดเวลาและเที่ยวได้ตรงตามเป้าหมาย​ โดยการกำหนดสถานที่และเช็กเส้นทาง​ ระยะทางจากจุดต่าง ๆ จะช่วยให้คุณเที่ยวได้เต็มที่​ ไม่ต้องเสียเวลาค้นหาสถานที่เที่ยวให้ปวดหัว
  • เลือกที่พักที่เหมาะสม​ เชียงใหม่มีที่พักหลากหลาย​ หากเป็นไปได้ควรเลือกในโซนที่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวบริเวณในเมือง​ อย่างเช่น​ ย่านนิมมานเหมินท์ ก็จะทำให้คุณสะดวกสบายสามารถเดินท่องเที่ยวได้อย่างเต็มอิ่มโดยไม่ต้องเดินทางไกล ๆ​ ก็จะช่วยประหยัดเวลาได้อีกด้วย
  • เตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมตามฤดูกาลและสไตล์ทริปของคุณ​ การเตรียมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายให้เหมาะสมตามฤดูกาล เป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญ​ เพราะจะทำให้คุณสะดวกสบายในการเดินทางเดินเหินได้อย่างคล่องตัว​ หากเป็นฤดูฝนอาจจะมีการเตรียมอุปกรณ์กันฝน​เพิ่มเติม​ หรือฤดูร้อนเตรียมเสื้อผ้าที่เบาสบาย​ ในฤดูหนาวก็ควรจะเตรียมเสื้อกันหนาวไปด้วย​ เพราะอากาศหนาวของเชียงใหม่นั้นหนาวจริงแท้แน่นอน
  • หาข้อมูลการเดินทาง​ การหาข้อมูลการเดินทางก็เป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าจะเป็นเส้นทางในการท่องเที่ยวต่าง ๆ​ ข้อมูลพื้นฐานของเมืองก็เป็นสิ่งที่เราควรที่จะต้องศึกษาไว้ก่อนการเดินทาง​ รวมถึงสถานที่ให้บริการรับฝากกระเป๋า หรือบริการขนส่งกระเป๋าและสัมภาระต่าง ๆ​ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางก็เป็นสิ่งที่ควรทำข้อมูล​ไว้ก่อน​ อย่างเช่น​ บริการรับฝากกระเป๋าและสัมภาระ​ รวมถึงบริการขนส่งกระเป๋าและ​สัมภาระ​ ไปยังจังหวัด​เชียงใหม่​ของ​ AIRPORTELs​ ก็มีให้บริการ​ที่เชียงใหม่​แล้ว​ ถือเป็นหนึ่งตัวเลือกที่จะช่วยอำนวยความสะดวกของคุณ​ให้ราบรื่นยิ่งขึ้น

เชียงใหม่คือเมืองในฝันของหลายคน​ บางคนเพียงแค่ไปท่องเที่ยวแล้วตกหลุมรักย้ายไปอยู่เชียงใหม่ก็มี​ เพราะเชียงใหม่นั้นมีความหลากหลาย และได้ครบรสทุกสไตล์​ ค่าครองชีพไม่สูงมาก​ การเดินทางภายในตัวเมืองสะดวกรวมถึงการเดินทางจากที่อื่นไปยังเมืองเชียงใหม่ยังสามารถทำได้หลายทางอีกด้วย​ เชียงใหม่ยังเที่ยวได้ทุกฤดูกาล แต่สิ่งสำคัญก็คือ หากคุณจะไปเที่ยวในฤดูไหนก็ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อที่จะได้ท่องเที่ยวอย่างไม่ติดขัดและมีความสุขให้เหมาะสมกับช่วงเวลานั่นเอง

ที่มาของข้อมูล

ล่องเรือเจ้าพระยา: ค้นพบสุดยอด 10 สถานที่ท่องเที่ยวที่จะทำให้การเดินทางของคุณไม่ธรรมดา

วิถีชีวิตของคนไทยผูกพันกับสายน้ำมาเนิ่นนานโดยเฉพาะ “แม่น้ำเจ้าพระยา” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเส้นเลือดใหญ่ที่หล่อเลี้ยงผืนแผ่นดินไทยมาตั้งแต่ครั้งอดีต แม้ปัจจุบันบทบาทและความสำคัญจะลดเลือนลงไปตามกาลเวลา แต่ความงดงามของสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยานั้นยังคงมีมนต์เสน่ห์เสมอ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบายทำให้ทุกวันนี้ง่ายต่อการไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ริมฝั่งแม่น้ำ ทว่าการล่องเรือชมแม่เจ้าพระยาเป็นหนึ่งทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากนั่นเพราะจะได้ชมทัศนียภาพอันสวยงามจากหลายสถานที่ในมุมมองที่แตกต่างแบบพาโนรามาด้วยเวลาเพียงไม่นาน 

10 แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อล่องเรือเจ้าพระยา

10 แลนด์มาร์กสำคัญที่ไม่ควรพลาดเมื่อล่องเรือเจ้าพระยา
วัดอรุณราชวราราม

วัดเก่าแก่ตั้งแต่ครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดมะกอกแล้วเปลี่ยนชื่อเป็นวัดแจ้งในสมัยกรุงธนบุรี ซึ่งในยุคนี้มีการอัญเชิญพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรจากเวียงจันทน์มาประดิษฐานไว้ที่นี่ด้วย ต่อมารัชกาลที่ 2 ทรงสถาปนาเป็นวัดประจำพระองค์ และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดอรุณราชธาราม จากนั้นเปลี่ยนมาเป็นวัดอรุณราชวรารามในสมัยรัชกาลที่ 4 วัดอรุณราชวรารามมีพระปรางค์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสวยงามด้านสถาปัตยกรรม โดดเด่นด้วยความสูงถึง 82 เมตร หากล่องเรือผ่านมาในช่วงเย็นจะมองเห็นภาพพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าด้านหลังพระปรางค์ซึ่งสวยงามเกินคำบรรยาย หากเป็นช่วงค่ำพระปรางค์องค์ใหญ่จะกระทบแสงไฟระยิบระยับงามสง่าไปทั่วคุ้งน้ำจนไม่อาจละสายตาได้เช่นกัน

Royal Thai Navy Convention Hall
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Royal Thai Navy Hall – BANGKOK

นอกจากความสวยสง่าของอาคารสถานที่ อนุสาวรีย์บุคคลสำคัญของกองทัพเรือ และสะพานข้ามคลองมอญอันขึ้นชื่อแล้ว ที่นี่ยังมีหอประชุมกองทัพเรือซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับพระบรมมหาราชวัง โดยหอประชุมแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2546 เพื่อใช้เป็นสถานที่จัดการประชุมและต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม APEC 2003 รวมทั้งเป็นสถานที่ชมการแสดงกระบวนพยุหยาตราชลมารคด้วย หากล่องเรือมาถึงบริเวณนี้จะเห็นพื้นที่ด้านหน้าซึ่งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นลานกว้างเปิดโล่งรับกับทัศนียภาพของพระปรางค์วัดอรุณ โดดเด่นด้วยศาลาทรงไทยขนาดใหญ่ซึ่งช่วยส่งให้อาคารหอประชุมสีขาวด้านหลังสง่างามมากยิ่งขึ้น 

สะพานพระราม8

สะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามโดดเด่นจนเป็นเอกลักษณ์สำคัญแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ ถูกสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2538 และเปิดใช้บริการใน พ.ศ. 2545 มีลักษณะเป็นสะพานขึงแบบสมมาตร ยาว 475 เมตร ซึ่งเป็นสะพานแขวนอสมมาตรที่ยาวติดอันดับ 5 ของโลก ไม่ว่าจะล่องเรือผ่านมาในช่วงเย็น พลบค่ำ หรือกลางคืน บรรยากาศของสะพานพระราม 8 ก็มีเสน่ห์ชวนมองไม่รู้เบื่อ ถือป็นจุดถ่ายรูปบนเรือที่ไม่ควรพลาด 

สะพานพุทธ

สะพานถนนข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาที่เก่าแก่ที่สุดของไทย โดยสร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 7 ลักษณะเด่นของสะพานจึงเกี่ยวเนื่องกับพระองค์ท่าน อาทิ เป็นสะพานเหล็กที่มีโครงสร้างทรงลูกศร (หัวลูกศรหันไปทางฝั่งธนบุรี) ซึ่งออกแบบตามพระราชลัญจกรประจำรัชกาลที่ 7 ทั้งยังเป็นสะพานสีเขียวแห่งเดียวในกรุงเทพฯ เนื่องจากเป็นสีประจำวันพระราชสมภพของรัชกาลที่ 1 และรัชกาลที่ 7 นอกจากเอกลักษณ์เฉพาะตัวของสะพานที่สวยงามแล้วบริเวณเชิงสะพานยังคลาคล่ำไปด้วยผู้คนและร้านค้ามากมาย เพราะมีตลาดกลางคืนขนาดใหญ่ ดังนั้นเมื่อล่องเรือเจ้าพระยาผ่านมาเราจะได้สัมผัสทั้งทัศนียภาพของสะพานพุทธและสีสันยามค่ำคืนของตลาดแห่งนี้

สะพานตากสิน

สะพานตากสินหรือสะพานสาทร ถูกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2525 เนื่องในวโรกาสสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ครบรอบ 200 ปี เป็นสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยาแบบสะพานคู่ (ขาเข้าและขาออก) ห่างกัน 15 เมตร ตรงกลางเป็นรางรถไฟฟ้า เมื่อมองจากเรือล่องเจ้าพระยาเราจะเห็นแสงสียามค่ำคืนของกรุงเทพฯ และการจราจรที่ค่อนข้างหนาแน่นบนสะพาน ด้วยความสูงจากระดับน้ำเพียง 12 เมตร หากล่องเรือผ่านมาในช่วงที่น้ำขึ้นจะมองเห็นใต้สะพานได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้สะพานตากสินยังเป็นจุดถ่ายรูปและชมพลุปีใหม่กลางแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมาก 

 เอเชียทีค ริเวอร์ฟรอนท์ 

จากโกดังเก่าริมแม่น้ำเจ้าพระยาสู่การเป็นแหล่งชอปปิงยามค่ำคืนและสถานที่ท่องเที่ยวอันขึ้นชื่อเรื่องความสวยงาม ภายใต้แนวคิด Festival Market and Living Museum เมื่อมองมาจากบนเรือล่องเจ้าพระยาจะเห็นทัศนียภาพของศูนย์การค้าที่เปิดโล่งขนาดใหญ่พร้อมแสงสีไนท์ไลฟ์ยามค่ำคืน โดดเด่นด้วยเอเชียทีค สกาย ซึ่งเป็นชิงช้าสวรรค์ที่มีความสูงถึง 60 เมตร ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหนบนเรือก็สวย  

พระบรมมหาราชวัง

คนไทยเราคุ้นเคยกับภาพของพระบรมมหาราชวังกันเป็นอย่างดี ทั้งภาพถ่ายหรือวิดีโอที่ได้เห็นตามสื่อต่าง ๆ และอีกจำนวนไม่น้อยที่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชมสถานที่จริง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วภาพเหล่านั้นมักเป็นมุมมองจากบนถนนโดยรอบพระบรมมหาราชวัง หากแต่ทัศนียภาพที่ได้ชมบนเรือล่องเจ้าพระยาจะเป็นพระบรมมหาราชวังฝั่งทิศตะวันตกซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาจึงให้มุมมองที่สวยงามและแตกต่างจากเดิม 

สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นที่ประทับของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมพระนครสวรรค์วรพินิจ ปัจจุบันได้เปลี่ยนมาเป็นพิพิธภัณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทย วังบางขุนพรหมขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในวังที่สวยที่สุดของประเทศไทย ทั้งยังเป็นวังที่มีสถาปัตยกรรมบารอกและโรโคโคสมบูรณ์แบบที่สุดด้วย 

โบราณสถานสำคัญของชาติซึ่งถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1 เพื่อเป็นป้อมปราการป้องกันพระนคร ป้อมพระสุเมรุได้รับการซ่อมแซมบูรณะครั้งใหญ่ในสมัยรัชกาลที่ 5 และยังคงความสง่างามมาจนถึงปัจจุบัน

เป็นจุดนั่งชมทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยาที่สวยงามมากแห่งหนึ่ง ทั้งยังมีพระที่นั่งสันติชัยปราการซึ่งเป็นพลับพลาที่สร้างขึ้นมาเพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายรัชกาลที่ 9 สำหรับใช้เป็นสถานที่จัดพระราชประเพณีต่าง ๆ อันเกี่ยวกับแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่ออยู่บนเรือล่องเจ้าพระยาจะมองเห็นทัศนียภาพอันสวยงามของพระที่นั่งสันติชัยปราการยามกระทบแสงไฟท่ามกลางภูมิทัศน์อันสวยงามร่มรื่นของสวนสาธารณะแห่งนี้

แนะนำวิธีการเยี่ยมชม

ปัจจุบันมีผู้ให้บริการล่องเรือเจ้าพระยาหลายราย สามารถเลือกรายละเอียดได้ตามต้องการ อาทิ วัน/เวลาเดินทาง โปรโมชั่นอาหาร/เครื่องดื่ม ราคา และลักษณะของเรือ เช่น จำนวนชั้นของเรือ ดาดฟ้า หลังคา ทั้งนี้แนะนำให้สำรองที่นั่งล่วงหน้าตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อจะได้จองที่นั่งริมระเบียงดาดฟ้าเรือซึ่งเต็มค่อนข้างเร็ว ถ้าเลือกได้ให้นั่งบริเวณปีกขวา ขาไปจะได้ใช้เวลาในการรับประทานอาหารแล้วขากลับค่อยถ่ายรูปให้ฉ่ำใจ และหากจุดที่นั่งอยู่ถ่ายรูปแล้วเห็นวิวไม่ชัดแนะนำให้เดินไปที่หัวเรือรับรองว่าได้รูปสวยแน่นอน 

คำแนะนำการล่องเรือ

การล่องเรือเจ้าพระยาในวันธรรมดาจะมีเฉพาะรอบค่ำ ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์เปิดเพิ่มรอบเย็น (ช่วงพระอาทิตย์ตกดิน) ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ตั้งใจมาถ่ายรูปเนื่องจากช่วงเวลานั้นแสงธรรมชาติกำลังสวย มองเห็นวิวได้ชัดเจน แถมมีโอกาสได้ที่นั่งวิวดีเพราะมีจำนวนผู้ใช้บริการน้อยกว่าช่วงค่ำ ทั้งยังมีราคาถูกกว่าด้วย อย่างไรก็ตามทุกรอบจะมีเส้นทางเดินเรือและการบริการภายในเรือที่เหมือนกัน เพียงแต่รอบเย็นนั้นใช้เวลาในการเดินเรือสั้นกว่า 

หากเรือที่จองเป็น Meridian Cruise, White Orchid River Cruise, Alangka Cruise, Smile Riverside และ Chao Phraya Princess จะต้องมาลงเรือที่ท่าเรือไอคอนสยาม ซึ่งสามารถติดต่อขอรับบัตรได้ที่จุดบริการชั้น G โซนสุขสยาม โดยจะมีห้องกระจกระบุชื่อเรือแต่ละลำไว้ หลังจากรับบัตรเรียบร้อยแล้วออกมานั่งเล่นรอบบริเวณท่าเรือตามที่ระบุไว้บนบัตรได้เลย และสำหรับผู้ที่มาใช้บริการ ล่องเรือเจ้าพระยา ไอคอนสยาม มอบสิทธิพิเศษในการจอดรถฟรี 4 ชั่วโมง โดยสามารถเดินจากลานจอดรถมาที่ท่าเรือได้อย่างสะดวกสบาย

เวลาประมาณสองชั่วโมงของการล่องเรือเจ้าพระยาเราได้ชมความงดงามของสถานที่ต่าง ๆ มากมาย ท่ามกลางลมเย็น ๆ จากแม่น้ำปะทะผิวหน้า วิวเจ้าพระยาแบบพาโนรามา อาหารแสนอร่อย แวดล้อมด้วยบรรยากาศแห่งความสุขโดยรอบ เชื่อว่าคงเป็นชั่วโมงต้องมนต์ของทุกคนอย่างแน่นอน

ที่มาข้อมูล :

เช็คอินแลนด์มาร์คสุดฮิต เที่ยวเชียงใหม่แบบจัดเต็ม!

เช็คอินแลนด์มาร์คสุดฮิต เที่ยวเชียงใหม่แบบจัดเต็ม!

“เชียงใหม่​” ท็อปลิสต์จังหวัดน่าเที่ยวขวัญใจคนไทยตลอดกาล​และยังมีชื่อเสียงดังไกลไปทั่วโลก​ กลายเป็นหมุด​หมาย​สำคัญของชาวต่างชาติที่ต้องการมาเที่ยวประเทศไทย​ พ่วงท้ายมาด้วยดีกรีเมืองน่าเที่ยวอันดับที่​ 3 ของโลก​จาก​การ​จัด​อันดับของเว็บไซต์​ GoBankingRates ในหัวข้อ​เมืองที่มีอากาศอบอุ่นและประหยัด​ เหมาะแก่การ​ท่อง​เที่ยว​ประจำ​ปี​ 2566

ซึ่งต้องขอบอกว่าสมฐานะเป็นหน้าตาให้กับไทยแลนด์​ เพราะที่เที่ยวเชียงใหม่มีครบ​จบใน​จังหวัดเดียว​ ไม่ว่าจะเป็นวัดวาอาราม​ ย่านเมืองเก่า​ ธรรมชาติ​ ป่า​เขา​ น้ำตก​ จัดเต็มมาครบ​ หรือจะเที่ยวแบบชิค ๆ​ คลู ๆ ​สายอาร์ตที่นี่เขาก็มีหมด​ รวมไปถึงเดินชอปปิงกาดบ้าน ๆ​ หรือห้างหรูก็มีครบครัน​ ว่าแต่จะมีแลนด์มาร์ค​สำคัญ​ที่​ไหน​บ้างที่ไม่ควรพลาดเช็กอิน​ ไปดูกันเลย

ถนนนิมมานเหมินทร์​ ถิ่นคนชิค
  • ถนนนิมมานเหมินทร์​ ถิ่นคนชิค

เริ่มต้นแลนด์มาร์ค​แรกแห่งเชียงใหม่​ที่ใครไม่ไปถือว่าพลาด​ ต้องไปเดินชิลที่ถนนนิมมานเหมินทร์​ แหล่งรวม​ร้าน​อาหาร​ คาเฟ่​ ที่มีทั้งความทันสมัยและความคลาสสิก​ ตั้งแต่ซอย​ 1 ไปจนถึงซอย​ 17 ของถนนนิมมาน​ มีร้านค้า ​ร้านเสริมสวย​ ร้านขายผลิตภัณฑ์​ Handmade  ร้านอาหารทั้งไทยเทศ​ แกลเลอรี งานศิลปะ​ และคาเฟ่หลาก​หลายสไตล์ที่​แ​ข่งกัน​ตกแต่งร้านดึงดูดลูกค้าสายถ่ายรูปให้มารัวชัตเตอร์กันหนำใจ​ 

  • ศูนย์รวมโรงแรมและห้างดัง

ย่านนิมมาน​ยังเป็นที่ตั้งของโรงแรมใหญ่ ๆ​ สุดแสนสะดวกที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพัก​ และยังมีแหล่งชอปปิงชื่อดังอย่าง​ห้าง​ Maya ศูนย์รวมสินค้าดังทั้งแบรนด์เนม​และสินค้าของคนท้องถิ่น​ ที่สามารถแวะเข้ามาตากแอร์เลือกสินค้า​หรือ​รับประทานอาหารจากร้านแบรนด์ดังมากมาย​  ถ้าใครไม่​อยาก​หอบข้าวของพะรุงพะรังระหว่างการเดินเที่ยว​ที่​เชียงใหม่​มี​บริการรับฝากกระเป๋า​ของ​ Airportels หรือใครจะใช้บริการขนส่ง​กระเป๋า​และ​สัมภาระ​จาก​บ้านแล้วให้ส่งตรงถึงหน้าห้องที่โรงแรมในเชียงใหม่​ก็​สะดวกอย่าบอกใคร​ 

Warm Up เชียงใหม่
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Warmupcafe Chiangmai 
  • Warm Up

สำหรับสถานที่ท่องราตรีที่เปิดแทบทุกวัน​และฮิตตลอดกาลต้องยกให้ที่นี่​ Warm Up สถานที่ตื๊ด ๆ​ อันดับ​ 1 ของ​เชียงใหม่​ในย่านนิมมาน​ เป็นพี่ใหญ่วัยเก๋าที่เปิดมาตั้งแต่ปี​ 1999 แต่ลวดลายยังแพรวพราวไม่เปลี่ยน​ กลายเป็น​แลน​มาร์ค​ยาม​ราตรีที่นักท่องเที่ยวต้องไปลอง​ ด้วยโซนที่หลากหลาย​ ไม่ว่าจะแนวนั่ง​ แนวเต้น​ หรือโซนเลานจ์ที่​หรูหรา​ ทั้งยัง​มี​วงดนตรีชื่อดังหมุนเวียนมาสร้างความบันเทิงทุกค่ำคืน​ เป็น​ ที่เที่ยวเชียงใหม่​ ที่ใคร ๆ​ ก็ต้องมา​เช็ก​อิน

  • Beer Lab 

ถ้าหากใครเป็นสายเบียร์ที่หลงใหลฟองนุ่ม ๆ​ สีเหลือง​ ต้องไม่พลาดที่จะแวะไป​ Beer Lab ที่ตั้งอยู่ในโครงการ​ Kantary ย่านนิมมานเช่นเดียวกัน

  • GRAPH​ one​ nimman

สำหรับคอกาแฟยามดึกขอแนะนำให้มาเช็กอินร้าน​ GRAPH​ ที่ตั้งอยู่ในบริเวณ​ One​ nimman เป็นคาเฟ่​สุดเท่​ที่ตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลผสมผสานกับความมินิมอลได้อย่างลงตัว​ มีเมนูกาแฟให้เลือกหลากหลาย​ รวมถึงของ​หวาน​แสนอร่อยที่จะมาตบท้ายค่ำคืนให้หลับฝันดี

นอกเมืองอย่าลืมแวะเชียงใหม่มีอีกแยะ แวะหนาวกันต่อที่ม่อนแจ่มและแม่กำปอง
  • ม่อนแจ่ม​ แจ่มจัด​ คัดมาแล้ว

ที่เที่ยวเชียงใหม่ที่ไม่เคยหายไปจากท็อปลิสต์ของนักท่องเที่ยว​ต้องยกให้กับม่อนแจ่ม​ อำเภอแม่ริม​ ที่อยู่ไม่ไกลจาก​เมือง​เชียงใหม่เท่าไรนัก​  ด้วยเอกลักษณ์ทางด้านภูมิประเทศและสภาพอากาศที่หนาวเกือบทั้งปี​ จึงกลายเป็นแหล่ง​ปลูกพืชเมืองหนาว​ ฟาร์มดอกไม้​ รีสอร์ทวิวเขาชมทะเลหมอก​ หรือจะเป็นการเดินป่าที่นี่ก็น่าสนใจไม่น้อย

  • แม่กำปอง​ หมู่บ้านสโลว์ไลฟ์ ใกล้ธรรมชาติ

นักท่องเที่ยวนิยมมาพักโฮมสเตย์ที่แม่กำปอง​ เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตและใกล้ชิดธรรมชาติ​ ภายในหมู่บ้านมีไร่ชา​ ร้าน​กาแฟ​ ร้านขายของฝากจากฝีมือคนท้องถิ่น​ และยังมีน้ำตก​ มีกิจกรรมผจญภัยให้ทั้งครอบครัวได้​สนุก​ร่วม​กัน​อีกด้วย​ ถือเป็นหมุดหมายยอดนิยมอีกหนึ่งแห่งที่ไม่ควรพลาด

พิชิตยอดดอยอินทนนท์
  • มูที่จุดสูงสุด​ พิชิตยอดดอยอินทนนท์

ทิวเขาอินทนนท์มียอดดอยที่สลับซับซ้อน​ กว้างใหญ่ครอบคลุมพื้นที่ถึง​ 4 อำเภอ​ เมื่อมาถึงที่นี่แนะนำให้สายมูไป​กราบสัก​การะพระมหาธาตุนภเมทนีดลและ​พระ​มหาธาตุนภพลภูมิสิริ​ ที่ประดิษฐานอยู่บริเวณทาง​แยกก่อนจะ​ขึ้นดอยอินทนนท์​ เหมาะแก่การไปสักการะขอพรและ​ชมความสวย​งามเป็นอย่างมาก

  • พระธาตุดอยสุเทพ​ 

ที่เที่ยวเชียงใหม่​ ที่หากใครไม่ได้ไปจะถือว่ามาไม่ถึงจังหวัดเชียงใหม่​ เปรียบเสมือนเป็นธรรมเนียมปฏิบัติไป​แล้วว่า​หาก​มาที่เชียงใหม่จะต้องหาเวลาไปสักการะพระธาตุดอยสุเทพให้ได้​  เพราะที่นี่เป็นเหมือนศูนย์​รวมใจ​และเป็น​สัญลักษณ์​ของเมืองเชียงใหม่ และอย่าลืมถ่ายภาพกับบันไดเศียรนาคบริเวณ​ทางขึ้น​ หลังจาก​สักการะขอ​พรพระธาตุ​ด้านบนแล้ว​ก็ต้องแวะไปที่มุมระเบียง​เพื่อ​ชม​ทิวทัศน์ของเมืองเชียงใหม่จากมุมสูงที่เห็นรอบทิศทางก็ได้​ความ​สวย​งาม​​ไปอีกแบบ

จริงใจ มาร์เก็ต เชียงใหม่
ขอขอบคุณรูปภาพจาก: Jing Jai Market Chiang Mai 
  • ตลาดวโรรส

ชื่อของตลาดวโรรสหรือกาดหลวง​น่าจะเป็นท็อปลิสต์อันดับหนึ่งที่หลายคนต้องนึกถึงหากต้องการซื้อของฝาก ​เพราะ​ที่นี่​คึกคัก​ตลอดวัน​ มีของกินของฝากให้เลือกสรรสารพัดแบบ โดยเฉพาะของพื้นถิ่นที่ต้องหิ้วกลับบ้าน​ อย่าง​เช่น​ น้ำพริกหนุ่ม​ ไส้อั่ว​ แคบหมู​ น้ำพริกหลายรสชาติแบบท้องถิ่น​ หมูยอ​ ข้าวซอยตัด​ หรือจะเป็นอุปกรณ์​เครื่อง​นุ่มห่ม​ตามแบบฉบับล้านนาที่นี่ก็มีให้เลือกอย่างครบครัน

  • จริงใจมาร์เก็ต

ตลาดสุดชิคของคนที่หลงใหลในเกษตรอินทรีย์​ เพราะที่นี่ได้รวมเอาผลิตภัณฑ์ของฝากขึ้นชื่อจาก​ 8 จังหวัดภาค​เหนือ​​มารวมไว้ที่นี่ที่เดียว นักท่องเที่ยวจะได้พบกับสินค้า​ Handmade ผ้าทอ​ งานจักสาน​ หมวก กระเป๋า ​และ​อาหา​ร​ขึ้นชื่อที่น่าซื้อหาไปเป็นของฝากอีกเพียบ

  • ตลาดต้นพยอม

อีกหนึ่งตลาดเก่าแก่ที่เป็นศูนย์รวมของฝาก​จากเชียงใหม่​ ตั้งอยู่ใกล้มหาวิทยาลัยเชียงใหม่​ เดินทางง่ายสะดวกสบาย​และมีของฝากให้เลือกแบบครบครัน​ เน้นไปทางของกินภาคเหนือ​ มีทุกชนิดที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคเหนือ​ มี​ร้าน​ให้เลือกจนจุใจ​ รับรองต้องได้อะไรติด​ไม้ติดมือ​กลับไปอย่างแน่นอน

เชียงใหม่​ยังคงเป็นเมืองในฝันของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศอยู่เสมอ​ เพราะ​ที่เที่ยวเชียงใหม่​ไม่ได้มัด​ใจผู้คนเพียงเพราะความสวยงาม​ แต่มนต์เสน่ห์ของเมืองเหนือแห่งนี้ยังประกอบรวมไปถึงวิถีชีวิตที่เนิบช้า​ ความจริง​ใจ​ของผู้คน​ อาหารการกินที่อร่อย​ วัฒนธรรมที่แทรกซึมอยู่ในทุก ๆ​ พื้นที่​ กลายเป็นสิ่งที่คล้องใจให้ใครต่อใคร​ก็ต่าง​หลงรักเชียงใหม่​และอยากกลับไปอีกครั้งเมื่อมีโอกาส

ที่มาข้อมูล

JJ Mall 2024 : อัพเดทเทรนด์ใหม่ ของวินเทจ ของฮิต คนไทยนิยมช้อป

TukTuk Thailand

jj mall แหล่งชอปสุดฮิปที่ปัจจุบันกลายเป็นแลนด์มาร์กของคนรุ่นใหม่รวมถึงชาวต่างชาติที่ต้องการมาเลือกสินค้ากลับไปฝากคนที่บ้าน จุดเด่นคือการเป็นตลาดนัดจตุจักรเวอร์ชั่นมีแอร์ ไม่ร้อน เดินชอปได้อย่างชิล ๆ ตั้งอยู่ถนนกำแพงเพชร 2 เขตจตุจักร ติดกับสวนจตุจักร ชอปปิงมอลล์ที่ครบเครื่อง รวบรวมสินค้ายอดฮิตมาไว้ที่นี่ ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ที่สำคัญยังมี Food Court ขนาดใหญ่ ชอป ชิม ชิลแบบครบ ๆ 

เจเจมอลล์มีอะไร เพราะอะไรใคร ๆ ก็อยากมา

 bangsue junction

ไม่ว่าจะเป็นสายไหน สายแฟชั่น สายรักสัตว์ สายรักสวยรักงาม หรือสายแต่งบ้าน ก็สามารถมาเดินชอปไอเทมที่ตัวเองชอบได้ รวบรวมสินค้ามากมายหลายหมวด ไม่ว่าจะเป็นเครื่องสำอาง เครื่องประดับ ของแต่งบ้าน ของที่ระลึก เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า หัตถกรรม เครื่องหนัง ฯลฯ อีกทั้งยังมีโซนกิจกรรมเพิ่มความคึกคักทุกเทศกาลด้วยการแสดงที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนมามอบความบันเทิง

ใครอยากรู้ว่าเจเจมอลล์มีอะไร เพราะอะไรใคร ๆ ก็อยากมา ลองมาดูกันว่าแต่ละชั้นและโดยรอบโครงการมีอะไรน่าสนใจบ้าง จะได้ไม่พลาด

เจเจมอลล์ จตุจักรติดแอร์ รวบรวมสินค้าไว้มากมาย อยากได้อะไรก็หาได้

ชั้นที่รวบรวมสินค้าหลากหลายหมวดหมู่แต่ที่ดูโดดเด่นเป็นพิเศษคือสินค้าแฮนด์เมด สินค้า OTOP รวมถึงของแต่งบ้านดีไซน์เก๋ บอกเลยว่าคนชอบงานทำมือหรือชอบแต่งบ้านต้องเพลิดเพลินและได้ของติดไม้ติดมือกลับบ้านอย่างแน่นอน

ต่อกันที่ชั้น 1 ซึ่งหากมาชั้นนี้แน่นอนว่าต้องนึกถึงสินค้าประเภทเสื้อผ้า เครื่องประดับ กระเป๋าหนัง นอกจากนี้ยังมีร้านดอกไม้ที่สามารถซื้อไปตกแต่งบ้านได้ สำหรับร้านแนะนำ ได้แก่ ร้านผ้าไหมจีน เสื้อดีไซน์เอกลักษณ์ เหมาะกับช่วงตรุษจีนสุด ๆ ร้าน Riotino ร้านเสื้อผ้าแฟชั่นดีไซน์เก๋ ร้านมาดาม สโตน ร้านเครื่องประดับ หินสวย ๆ เพียบ และร้าน DEC ร้านดอกไม้ที่แสนสดใสสำหรับคนชอบแต่งบ้าน

เอาใจสายอาร์ตและสายแต่งบ้านกันบ้าง ชั้นนี้รวบรวมภาพวาดศิลป์ งานปั้น พระพุทธรูป และของแต่งบ้านมีสไตล์ ร้านแนะนำ ได้แก่ ร้านดอกไม้แต่งบ้าน Seasonray ร้านสบู่ไทยแลนด์มาพร้อมลวดลายสบู่อันมีเอกลักษณ์ นอกจากนี้ยังมีศูนย์อาหารชั้นนำที่ถูกยกให้เป็นศูนย์อาหารที่ดีที่สุดในย่านจตุจักร รวบรวมเมนูดังมากกว่า 1,000 เมนู 

ใครเป็นคนรักสัตว์หรือมองหาสัตว์เลี้ยงน่ารัก ๆ โดยรอบโครงการก็มีตลาดสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นปลาสวยงาม สุนัข กระต่าย กระรอก ฯลฯ มากไปกว่านั้นยังมีกิจกรรมมากมาย หมุนเวียนมามอบความบันเทิง เช่น กิจกรรมร้องเพลง กิจกรรมเชิดสิงโต เป็นต้น

การรวบรวมสินค้าไว้มากมาย แถมยังมี Food Court ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถชอปปิงและหาของอร่อยรับประทานได้แบบครบ ๆ ในที่เดียว jj mall จึงกลายเป็นแลนด์มาร์กสุดฮิปที่ไม่ว่าใครก็ห้ามพลาด เปิดให้บริการทุกวัน จะนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงสถานีกำแพงเพชรก็สะดวก หรือจะนำรถมาเองก็มีลานจอดรถที่รองรับได้มากกว่า 2,000 คัน ใครสะดวกอย่ารอช้า รีบพุ่งตัวมาชอปกันเลย

ที่มาข้อมูล:

สวนสนุก ฮาร์เบอร์แลนด์ : เที่ยวสะดวก เช็คสาขาใกล้บ้านได้ง่ายๆ

สวนสนุกฮาร์เบอร์แลนด์ (Harborland) คือสวนสนุกในร่มขนาดใหญ่ที่มีกิจกรรมเสริมสร้างพัฒนาการ ทักษะ และความแข็งแรงให้กับลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นการปีนผาจำลอง ไต่เชือกผจญภัย ลานโรลเลอร์สเก็ต สนามแทรมโพลีน เมืองจำลองขับขี่ เกมเลเซอร์แท็ก ดินแดนแห่งจินตนาการ การปั่นจักรยานทรงตัว สวนสนุกมหัศจรรย์ บ้านลมขนาดยักษ์ อาณาจักรเกม สวนสนุกดิจิทัลอินเตอร์แอคทีฟ และกิจกรรมอีกมากมาย แต่จะมีสาขาไหนบ้างนั้น บทความนี้มีคำตอบมาฝาก

ปัจจุบันฮาร์เบอร์แลนด์เปิดให้บริการในประเทศไทยมากกว่า 23 แห่ง ทั้งภายในศูนย์การค้าชื่อดัง อย่าง ฮาร์เบอร์แลนด์ ไอคอนสยาม เมกา บางนา เซ็นทรัล เวสต์เกต ซีคอน บางแค ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต นอกจากนั้นยังมีสาขาในจังหวัดเศรษฐกิจ ทั้งชลบุรี นครราชสีมา อุดรธานี อีกหลายสาขา  ซึ่งแต่ละแห่งมีรายละเอียดดังนี้

  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าฮาร์เบอร์ พัทยา จังหวัดชลบุรี 
  • เป็นสาขาแรกของ Harborland มีขนาดพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 11 โซน 
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเมกา บางนา จังหวัดสมุทรปราการ
  • ขนาดพื้นที่ 8,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 8 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวสต์เกต จังหวัดนนทบุรี
  • ขนาดพื้นที่ 10,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 7 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าซีคอน บางแค กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 8,500 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 4 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าไอคอนสยาม กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 5,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 3 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต จังหวัดปทุมธานี
  • ขนาดพื้นที่ 6,500 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 5 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 3,500 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 3 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเกตเวย์ บางซื่อ กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 2,500 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 3 โซน
  • ตั้งอยู่ภายใจศูนย์การค้าเกตเวย์ เอกมัย กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 3 โซน
  • ตั้งอยู่ภายโรงแรมสินธร มิดทาวน์ หลังสวน กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 1,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 1 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ งามวงศ์วาน จังหวัดนนทบุรี
  • ขนาดพื้นที่ 2,200 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 1 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ ท่าพระ กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 2,500 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 1 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พระราม 3 กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 1 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช จังหวัดนครราชสีมา
  • ขนาดพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 2 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 พัทยา จังหวัดชลบุรี
  • ขนาดพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 1 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในตึกคอมศรีราชา จังหวัดชลบุรี
  • ขนาดพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 2 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในตึกคอมชลบุรี จังหวัดชลบุรี
  • ขนาดพื้นที่ 3,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 2 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในตึกคอมอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
  • ขนาดพื้นที่ 2,500 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 2 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในโรงแรมบัลโคนี ซีไซด์ ศรีราชา จังหวัดชลบุรี
  • ขนาดพื้นที่ 400 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 1 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในโรงแรมบัลโคนี คอร์ทยาร์ด ศรีราชา จังหวัดชลบุรี
  • ขนาดพื้นที่ 400 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 1 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเซ็นทรัล พระราม 9 กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 2,200 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 1 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 2,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 1 โซน
  • ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพมหานคร
  • ขนาดพื้นที่ 12,000 ตารางเมตร ให้บริการกิจกรรมทั้งสิ้น 1 โซน

จะเห็นว่าฮาร์เบอร์แลนด์เป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อนที่ทุกครอบครัวไม่ควรพลาด เพราะนอกจากทุกกิจกรรมจะสนุกถูกใจเด็กแล้ว ทุกสาขายังตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้าหรือโรงแรมชื่อดังทำให้สามารถตอบโจทย์การพักผ่อนของคุณพ่อคุณแม่ไปพร้อม ๆ กันด้วย ซึ่งหากอยากสัมผัสประสบการณ์จริงสามารถตรวจสอบราคาค่าเข้าได้ที่ Harborland Group Official หรือติดต่อ 065 848 1000

อ่านเพิ่มเติม

ที่มาข้อมูล 

Siam Center ชิลล์ๆ : 7 คาเฟ่นั่งทำงาน จิบกาแฟ ฟินๆ

Siam Center

เทรนด์การทำงานในยุคนี้ต้องยกให้กับการทำงานแบบ Work from Anywhere หรือการทำงานจากที่ไหนก็ได้ ขอให้เพียงงานเสร็จ เข้าประชุมออนไลน์ตามนัดหมาย แต่จะให้ทำงานจากที่บ้านทุกวันก็กลัวว่าจะดูน่าเบื่อเกินไป หลายคนจึงเลือกทำงานจากนอกบ้าน โดยเฉพาะคาเฟ่บรรยากาศสวย ๆ เหมาะกับการทำงาน นอกจากได้ทำงานแล้วยังได้แฮงเอาท์กับเพื่อน ๆ และหาแรงบันดาลใจจากสิ่งใหม่ ๆ รอบตัว หากใครเป็นคนทำงาน นักเรียน หรือนักศึกษา ที่กำลังมองหาคาเฟ่นั่งทำงานสุดชิลล์ ขอแนะนำคาเฟ่เหมาะกับการนั่งทำงานใน siam center นอกจากมีตัวเลือกหลายร้านแล้วยังเดินทางสะดวกมาก ๆ 

1.Maison Claris

ขอบคุณภาพจาก : Maison Claris 

ร้านเกิดจากการร่วมมือกันของคนรุ่นใหม่ที่รู้จักกันมานานและมีโอกาสเดินทางเที่ยวหลายประเทศ สั่งสมความรู้และประสบการณ์จนกลายมาเป็นคาเฟ่ขนมหวาน การจัดร้านโดดเด่นสะดุดตา เลือกใช้โทนสีหวานและดอกไม้สีสวยเหมาะกับการเป็นคาเฟ่เอาใจสายหวาน จุดเด่นคือเมนูต่าง ๆ ออกแบบอย่างพิถีพิถัน หน้าตาสวยงามแถมรสชาติอร่อย เมนูที่ห้ามพลาดคือ Claris Set ซิกเนเจอร์ของร้าน ได้แรงบันดาลใจจากทุ่งดอกไม้และโรงงานน้ำหอมจากฝรั่งเศส เหมาะกับสายคอนเทนต์ นักเรียน คนทำงาน ที่มองหาพื้นที่นั่งหาไอเดียคูล ๆ 

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 1 
  • ช่วงราคา 150 – 500 บาท

2.T (Bar) x The Summer House

คาเฟ่สำหรับสายฮิป โดดเด่นด้วยการตกแต่งร้านสีสันสะดุดตา หากมาถึงต้องได้คอนเทนต์แน่ ๆ เมนูแนะนำ คือ Matcha Latte with Bubble ชงสดแบบแก้วต่อแก้ว เสิร์ฟพร้อมไข่มุกสีทองเคี้ยวหนึบหนับ แถมยังมีกลิ่นหอมของน้ำตาลเคี่ยวและน้ำผึ้ง หากนั่งทำงานแล้วหิวทางร้านก็มีเมนูสุขภาพดีอย่างสลัดเตรียมไว้ให้รองท้อง นอกจากเป็นคาเฟ่สุดเก๋แล้วยังมีสินค้าแฟชั่นจำหน่าย นักเรียน นักศึกษา ที่ชอบแต่งตัวสไตล์คูล ๆ หรือมองหาที่นั่งทำงานสุดชิลห้ามพลาดเด็ดขาด

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 1 
  • ช่วงราคา : 90 – 300 บาท

3.Everyday Karmakamet

หากพูดถึง Everyday Karmakamet เชื่อว่าหลายคนคงคิดถึงร้านจำหน่ายเครื่องหอมและสินค้ามีสไตล์ แต่ทราบหรือไม่ว่าที่นี่มีคาเฟ่พร้อมเสิร์ฟความหอมหวานละมุนของเครื่องดื่มอีกด้วย เมนูยอดฮิต ได้แก่ Rose with Milk Tea ที่จะได้ดื่มด่ำกับความหอมของชาและกลิ่นกุหลาบ เหมาะกับการนั่งทำการบ้านสุด ๆ การตกแต่งร้านเน้นความเรียบง่ายแต่มีสไตล์ หากมีโอกาสได้มานั่งทำงานอย่าลืมซื้อโปสการ์ดหรือเครื่องหอมติดไม้ติดมือกลับไปด้วยนะ

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 4
  • ช่วงราคา : 100 – 250 บาท

4.Mom & Sis The Smoothie Cafe’

ขอบคุณภาพจาก : Momandsiscafe 

ใครเป็นสายรักสุขภาพเชิญทางนี้ เพราะนี่คือคาเฟ่เอาใจสายสุขภาพ เครื่องดื่มส่วนใหญ่เป็นสมูธตี้เพื่อคนสุขภาพดี จุดเด่นคือเลือกใช้วัตถุดิบธรรมชาติ 100 เปอร์เซ็นต์ จึงดีต่อสุขภาพสุด ๆ แถมบางแก้วยังใส่ Super Food อย่างธัญพืช ผลไม้ คอมพลีทการเป็นเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพเป็นอย่างดี เมนูแนะนำ ได้แก่ Avocado Bowl เมนูซิกเนเจอร์ แหล่งรวมไขมันชั้นดี ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ หรือ Berry Blast ที่มิกซ์ผลไม้ตระกูลเบอร์รีไว้ในแก้วเดียว สำหรับสไตล์การจัดร้านเน้นความโปร่งสบาย แต่งแต้มด้วยต้นไม้สีเขียว เหมาะกับคนทำงาน นักศึกษา ที่มองหาคาเฟ่สไตล์เรียบง่ายแต่ยังมีกลิ่นอายความสดชื่น

  • พิกัด : Siam Center ชั้น G
  • ช่วงราคา : 150 – 300 บาท

5.Fire Tiger by Seoulcial Club

ขอบคุณภาพจาก : Fire Tiger by Seoulcial Club 

ใครเป็นสายชานมไข่มุกเชื่อว่าต้องรู้จักร้านนี้ โดยร้านดังอย่างคาเฟ่เสือพ่นไฟได้มาเปิดคาเฟ่ใจกลางสยาม ตกแต่งร้านโทนสีทอง ขาดไม่ได้คือใบหน้าเสือขนาดใหญ่อันเป็นเอกลักษณ์ของร้าน เมนูที่อยากบอกต่อ คือ Fire Tiger Milk Tea เมนูซิกเนเจอร์มาพร้อมไข่มุกบุกและไข่มุกธรรมดา หากอยากเติมความสดชื่นแนะนำ Fruit Tea ภายในร้านมีพื้นที่นั่งทำงานขนาดกะทัดรัด เหมาะอย่างยิ่งกับนักศึกษา นักเรียน ที่มองหาคาเฟ่ราคาเบา ๆ นั่งอ่านหนังสือ ดื่มเสร็จก็เดินชอปปิงต่อได้แบบสบาย ๆ 

  • พิกัด : Siam Center ชั้น M, Siam Square ซอย 3
  • ช่วงราคา : 100 – 250 บาท

6.Yenly Yours

ขอบคุณภาพจาก : Mike Lennore

คาเฟ่มะม่วงยืนหนึ่งเรื่องการออกแบบเมนูเครื่องดื่มที่ผสมผสานผลไม้ขึ้นชื่ออย่างมะม่วงไว้อย่างลงตัว แน่นอนว่าเมนูที่ต้องสั่งคือเมนูน้ำมะม่วงปั่น มีท็อปปิงให้เลือกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อมะม่วงสด ไข่มุก อย่าลืมสั่งโมจิมะม่วงมาพร้อมความอร่อยแบบกำลังดีแต่หอมมะม่วงสุด ๆ การตกแต่งร้านเน้นโทนสีเหลืองสะท้อนความหวานฉ่ำของมะม่วงตัดกับโทนสีดำ โดดเด่นและดูสดใส เหมาะมากกับนักศึกษาและคนทำงานที่มองหามุมนั่งทำงานแถมมีเครื่องดื่มอร่อย ๆ พร้อมเสิร์ฟ

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 2
  • ช่วงราคา 100 – 200 บาท

7.Coco Fresh Tea & Juice

คาเฟ่ชานมไข่มุกที่ไม่ธรรมดาเพราะนี่คือแบรนด์จากไต้หวัน ยกทัพความอร่อยมาที่ไทย จุดเด่นคือใบชาต้มสด รสชาติไม่หวานเกินไป และไข่มุกเหนียวหนึบกำลังดี เมนูไฮไลต์ คือ Lava Pearl Fresh Milk ที่ทั้งหอมหวานกลมกล่อม รวมถึงน้ำเยลลี่เสาวรส เหมาะกับคนชอบรสเปรี้ยว เติมความสดชื่นได้เป็นอย่างดี ในร้านมีมุมทำงานเล็ก ๆ สำหรับคนอยากแวะนั่งชิลล์หรือคิดไอเดียงานอีกด้วย

  • พิกัด : Siam Center ชั้น 2
  • ช่วงราคา : 90 – 150 บาท

ใครกำลังมองหาคาเฟ่นั่งทำงานใจกลางเมือง แนะนำให้เดินทางมาที่ siam center ห้างใจกลางเมืองที่เดินทางสะดวก สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานีสยามและเดินเชื่อมต่อเข้าห้างได้ทันที หรือจะมาโดยรถยนต์ส่วนตัวก็สะดวก นอกจากได้เปรียบด้านการเดินทางแล้วยังมีคาเฟ่สุดชิลล์บรรยากาศเหมาะกับการทำงานอีกเพียบ เลือกได้เลยว่าชอบคาเฟ่แบบไหนหรือพื้นที่ทำงานแบบไหนที่เหมาะกับตัวเอง ใครมีสไตล์ทำงานแบบ Work from Anywhere ห้ามพลาดมาใช้บริการเด็ดขาด

ที่มาข้อมูล

ฟินจัดเต็ม! 6 บุฟเฟ่ต์ไอคอนสยาม อร่อย คุ้มค่า อัพเดท 2024

ใครรู้ตัวว่าเป็นสายกิน ชอบกินเยอะ กินจุ และยังชอบกินแบบคุ้ม ๆ บอกเลยว่าห้ามพลาด เพราะเราได้เตรียม 6 ร้าน บุฟเฟ่ต์ ไอคอนสยาม ประจำปี 2024 มาให้ได้ลิ้มลอง แต่ละร้านคือปังมาก ขนความอร่อยมาให้รับประทานแบบคุ้มค่า เลือกได้แบบไม่อั้น ของอร่อย ๆ เพียบ โดยไอคอนสยามถือเป็นห้างใหญ่ห้างดังของไทยที่ทั้งคนไทยและคนต่างชาตินิยมไปเช็กอิน นอกจากทำเลริมแม่น้ำทำให้ได้ลิ้มลองบรรยากาศสวย ๆ แล้ว ยังรวบรวมร้านบุฟเฟ่ต์มากมายมาให้ลิ้มรส อิ่มแล้วยังชอปปิงต่อได้แบบเพลิน ๆ ใครเป็นสายกินแนะนำให้พุ่งตัวไปโดยด่วน

1.CP-HiLai Harbour Restaurant 

หากพูดถึงบุฟเฟ่ต์ดังในไอคอนสยามแน่นอนว่าต้องมีชื่อร้านนี้ เพราะเป็นร้านบุฟเฟ่ต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ส่งตรงมาจากไต้หวัน พร้อมเสิร์ฟอาหารนานาชาติ ยกมาครบทั้งไทย จีน ญี่ปุ่น ยุโรป จัดเต็มทั้งของคาวและของหวาน เพื่อไม่ให้เสียชื่อคอนเซ็ปต์ร้าน “The Best of East and West” ซีฟู้ดคือสดเหมือนนั่งรับประทานอยู่ริมทะเล อาหารประเภทซาชิมิคือเนื้อใส สดใหม่ ไม่มีคาว ใครสายเนื้อก็ห้ามพลาดเพราะเนื้อดี มีให้เลือกหลากหลายเมนู เรื่องราคาบอกเลยว่าคุ้มค่า เพราะอาหารคุณภาพ สดใหม่ ไม่ว่าจะชอบอาหารชาติไหนก็มีให้เลือกแบบครบ ๆ 

  • ราคา : 799 – 1,099 บาท
  • พิกัด : ชั้น 6 ไอคอนสยาม

2.Mo Mo Paradise

Mo-Mo Paradise เป็นบุฟเฟ่ต์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งในหมู่คนไทย เพราะราคาเป็นมิตร มีงบประมาณไม่ถึงพันก็สามารถอิ่มอร่อยกับบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น จุดเด่นของที่นี่คือการเสิร์ฟวัตถุดิบคุณภาพดี อาหารทุกอย่างสดใหม่ เมื่อนำมารับประทานเป็นชาบูจึงยิ่งอร่อย บวกกับน้ำจิ้มรสชาติถูกปากคนไทยแต่ยังคงไว้ซึ่งสไตล์ญี่ปุ่นยิ่งทำให้สายกินติดใจ อีกอย่างที่ห้ามพลาดคือเมนูตระกูลเนื้อ เลือกใช้เนื้อพรีเมียม ตอบโจทย์คนรักเนื้อเป็นอย่างยิ่ง พนักงานก็บริการอย่างเป็นมิตร รวดเร็ว ไม่ต้องรอนาน อาหารอร่อยแถมบริการเลิศ แนะนำเลย

  • ราคา : 599+ บาท
  • พิกัด : ชั้น 6 ไอคอนสยาม

3. Evaime Shabu Shabu

อีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับคนชอบรับประทานบุฟเฟ่ต์ชาบูสไตล์ญี่ปุ่น บอกเลยว่าบุฟเฟ่ต์เจ้านี้มาพร้อมราคาเบา ๆ แต่คุณภาพคับแน่น โดยเฉพาะเมนูเนื้อสไลด์ หมูสไลด์ รวมถึงเนื้อหมูทรงเครื่องที่หมักมาให้อย่างเข้าเนื้อ จิ้มกับน้ำจิ้มคือฟินสุด ๆ มีน้ำซุปให้เลือกมากถึง 9 ชนิด ไม่ว่าจะเป็นซุปหมาล่า ซุปญี่ปุ่น หรือซุปต้นตำรับ มีบาร์ตักน้ำจิ้มให้เลือกแบบฟิน ๆ บริการรวดเร็ว พื้นที่โดยรอบสะอาด สำหรับราคาย่อมเยาสบายกระเป๋า มีงบแค่ 1 แบงก์ม่วงก็สามารถรับประทานได้ รับรองอิ่มนาน คุ้มค่าเรื่องราคาแบบนี้ใครไปไอคอนสยามห้ามพลาดเด็ดขาด

  • ราคา : 389 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

4.Tenjo Sushi & Yakiniku Premium Buffet

มากันที่ร้านบุฟเฟ่ต์ในไอคอนสยามที่เหมาะกับคนชอบปิ้งย่างและชอบเมนูซูชิ ซาชิมิ โดย Tenjo คือร้านอาหารบุฟเฟ่ต์สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟเมนูปิ้งย่างและซูชิระดับพรีเมียม เมนูที่อยากแนะนำคือ ซูชิและซาชิมิ การันตีว่าสดใหม่ เนื้อหวานทุกคำ รวมถึงเมนูเนื้อพรีเมียมวากิวริบอาย เนื้อนุ่มละลายในปาก อย่าลืมปิดท้ายด้วยขนมหวานสไตล์ญี่ปุ่นแบบฟิน ๆ ในบรรยากาศการตกแต่งแบบญี่ปุ่น เรื่องความคุ้มค่าแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะคุณจะได้รับประทานเนื้อพรีเมียมและซูชิสดใหม่ปั้นแบบคำต่อคำ รับรองว่าไม่มีผิดหวัง ใครชอบปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นบอกเลยว่าห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง

  • ราคา : 399 – 1,799 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

5.Katei Shabu

ขอบคุณภาพจาก : KATEI SHABU 

ร้านชาบูเจ้าดังที่ก่อนหน้านี้เปิดให้บริการที่พุทธมณฑลสาย 4 แต่ปัจจุบันได้ขยับเข้ามาในเมืองมากขึ้น เพราะได้มาเปิดที่ห้างไอคอนสยาม ชาบูสไตล์ญี่ปุ่นร้านนี้มีแนวคิดการออกแบบร้านต้องการให้ทุกคนรู้สึกสบาย ๆ เหมือนมาบ้านเพื่อน ทางร้านให้ความสำคัญเรื่องวัตถุดิบที่ต้องสะอาด สดใหม่ เพราะอาหารสดใหม่จะเพิ่มอรรถรสในการรับประทานมากขึ้น นอกจากพิถีพิถันเรื่องรสชาติแล้วยังให้ความสำคัญเรื่องการจัดจานที่ต้องสวยงาม เมนูแนะนำคือบรรดาเนื้อสไลด์ ซาชิมิสดใหม่ และไข่ดิบที่การันตีว่ารับประทานสดได้เลยเพราะนำเข้าจากฟาร์มที่เลี้ยงระบบปิด

  • ราคา : 699 – 1,699 บาท
  • พิกัด : ชั้น 4 ไอคอนสยาม

6.E – Sarn by Evaime

ขอบคุณภาพจาก : Evaime Shabu Shabu 

ใครว่าที่ไอคอนสยามจะมีแต่บุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติหรืออาหารญี่ปุ่น ที่นี่ยังมีบุฟเฟ่ต์อาหารอีสาน ใครชอบชาบูสไตล์อีสานห้ามพลาด ปรุงรสน้ำซุปมาอย่างถึงใจ มีกลิ่นสมุนไพรทำให้หอมและน่ารับประทานในเวลาเดียวกัน เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มรสแซ่บ มีให้เลือกทั้งชาบูชุดหมู ชุดเนื้อ หรือหากอยากสั่งเพิ่มเป็นอาหารจานเดียวก็ได้เช่นกัน ไหนจะการตกแต่งร้านด้วยสีสันสะดุดตาและราคาย่อมเยาที่พูดเลยว่าคุ้มค่ามาก ๆ แนะนำให้มาห้ามพลาดเด็ดขาด

  • ราคา : 299 – 399 บาท
  • พิกัด : ชั้น G ไอคอนสยาม

เมื่อสายกินรู้แล้วว่ามี บุฟเฟ่ต์ ไอคอนสยาม หลากหลายร้านมาให้เลือกรับประทานได้แบบไม่อั้น บอกเลยว่าต้องรีบพุ่งตัวไปโดยด่วน แต่ละร้านจัดหนักจัดเต็มอาหารคุณภาพ เตรียมมาให้เลือกแบบละลานตา อยากรับประทานอะไรเพียงแค่สั่ง รับรองว่าคุ้มค่า สำหรับการเดินทางก็ง่าย มีรถไฟฟ้าสายสีทองบริการ เพียงลงสถานีเจริญนครก็เดินเชื่อมต่อเข้าห้างได้อย่างสบาย ๆ เมื่อรับประทานเสร็จแล้วเดินชมวิวริมแม่น้ำหรือไม่ก็ชอปปิงต่อแบบชิล ๆ แต่หากเดินทางมาวันหยุดแนะนำให้จองคิวหรือเผื่อเวลาต่อคิวกันสักหน่อย เพราะเชื่อว่าสายกินเพียบ บุฟเฟ่ต์ดี ๆ แบบนี้ใครก็พลาดไม่ได้อยู่แล้ว

ที่มาข้อมูล

วิธีเดินทางไป ICONSIAM ด้วยรถไฟฟ้า BTS: แนะนำเส้นทางและเคล็ดลับการเดินทางที่ไม่ควรพลาด

ICONSIAM เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่กำลังได้รับความนิยมจากทั้งชาวไทยและต่างประเทศ เนื่องจากทุกพื้นที่ 750,000 ตารางเมตร อัดแน่นไปด้วยสิ่งที่ทุกคนต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโซน ICONLUXE แหล่งรวมแบรนด์เนมชั้นนำระดับโลก โซนสยามทาคาชิมายะ ห้างสรรพสินค้าระดับพรีเมียมจากญี่ปุ่นที่มีแบรดน์สินค้าจำหน่ายมากกว่า 500 แบรนด์  โซนสุขสยาม ศูนย์รวมผลงานศิลปะและสุดยอดอาหารไทยจากแต่ละจังหวัด ส่วนโซนด้านนอกเป็น River Park สำหรับชมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและระบำน้ำพุที่มีขนาดยาวที่สุดในภูมิภาคอาเซียน แต่หากใครยังไม่เคยไปเที่ยว ICONSIAM วันนี้เรามีวิธีการเดินทางง่าย ๆ มาฝาก 

วิธีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า

การเดินทางไป ICONSIAM ปัจจุบันสามารถเลือกเดินทางไปได้ทั้งทางเรือ รถโดยสารประจำทาง MRT และ BTS แต่ถึงอย่างนั้นวิธีการเดินทางที่ง่ายที่สุดคือการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS  

  • วิธีการเดินทางด้วยรถไฟฟ้ามายังไอคอนสยาม

การเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สามารถเลือกเดินทางสายสีเขียวไปลงที่สถานีตากสิน ออกประตู 2 และขึ้นเรือ Shuttle Boat ฟรีไม่เสียค่าบริการ หรือใช้บริการสายสีทอง มาลงที่สถานีเจริญนครและเดินต่อไปตามทางเชื่อมเพื่อเข้าสู่ ICONSIAM ได้เช่นกัน

  • สถานีที่ใกล้ที่สุด

หากเทียบการเดินทางแล้วต้องยอมรับว่าการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสีทอง เป็นวิธีการเดินทางที่สะดวกที่สุด เพราะไม่ต้องต่อรถหรือเรือให้ยุ่งยาก ซึ่งสถานีที่ใกล้กับ ICONSIAM ที่สุดคือ สถานีเจริญนคร

สถานีเจริญนคร เป็นสถานีที่ 2 ของรถไฟฟ้าสายสีทอง อยู่บริเวณสะพานข้ามคลองวัดทองเพลง มุ่งไปทางแยกคลองสาร เข้าสู่ถนนสมเด็จเจ้าพระยา โดยสถานีเจริญนครจะมีทางเข้าออกทั้งหมด 4 จุด ซึ่งมี 2 จุด ที่สามารถเดินไปยังศูนย์การค้า ICONSIAM ได้ โดยจุดแรกจะออกไปทางหน้าศูนย์การค้า ICONSIAM ใกล้กับประตูทางเข้าสยามทาคาชิมายะ ส่วนจุดที่สองออกไปทางหน้าศูนย์การค้า ICONSIAM ที่อยู่ใกล้กับซอยเจริญนคร

  • สถานีที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีทอง

เนื่องจากรถไฟฟ้าสายสีทองเป็นส่วนต่อขยายขนาดสั้นระยะทางเพียง 2.8 กิโลเมตร และบริการแค่ 4 สถานีเท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายหลักถึงสามสาย ได้แก่

  • สายสีเขียว เชื่อมต่อกับ BTS สถานีกรุงธนบุรี
  • สายสีม่วง เชื่อมต่อกับ BTS สถานีประชาธิปก
  • สายสีแดง เชื่อมต่อกับ BTS สถานีคลองสาน
ภาพจาก : BTS SkyTrain

สำหรับ BTS สายสีทองขบวนแรกจากสถานีกรุงธนบุรีเริ่มที่เวลา 06.00 – 24.00 น. ราคาค่าโดยสารตลอดสาย 16 บาท

จากข้อมูลจะเห็นว่าการเดินทางไป ICONSIAM ด้วยรถไฟฟ้าไม่ยาก เพราะรถไฟฟ้าสายสีทองเชื่อมต่อกับสายหลักถึง 3 สาย  แต่ถึงอย่างนั้นเรามีเคล็ดลับง่าย ๆ ในการเดินทางมาแนะนำ 

  • เลือกเดินทางที่เหมาะกับตัวเอง

เพราะการเดินทางไป ICONSIAM สามารถเดินทางได้หลากหลายวิธี อีกทั้งอาจต้องต่อการเดินทางด้วยวิธีอื่น ๆ ดังนั้นก่อนออกเดินทางควรศึกษาและเลือกเส้นทางที่เหมาะสมกับตัวเอง เพื่อประหยัดเวลาในการเดินทางมากขึ้น

  • ตรวจสอบเวลาการให้บริการ

หากต้องเดินทางไป ไอคอนสยาม รถไฟฟ้า หลายสายควรตรวจสอบเวลาให้บริการ เพราะรถไฟฟ้าแต่ละสายเปิดและปิดให้บริเวณไม่พร้อมกัน

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อมูลดี ๆ ในการเดินทางไป ICONSIAM ด้วยรถไฟฟ้าที่เรานำมาฝาก ซึ่งจะเห็นว่า ICONSIAM เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนที่น่าสนใจ รับประกันว่ามาเที่ยวไม่มีคำว่าผิดหวังแน่นอน

ที่มาข้อมูล