สำหรับใครที่ชื่นชอบการขึ้นเขา เพื่อไปสัมผัสธรรมชาติ จุดชมวิวทะเลหมอกนับเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะสามารถเที่ยวได้ทุกฤดู เพียงแค่เลือกไปให้ถูกจังหวะของที่เที่ยวทะเลหมอกสถานที่นั้นเป็นพอ เพราะการไปชมทะเลหมอกไม่จำเป็นที่จะต้องรอหน้าหนาวเสมอไป ทาง AIRPORTELs จึงได้รวบรวมจุดชมวิวทะเลหมอกทั่วไทย เที่ยวได้ตลอดทั้งปีมา มีที่ไหนบ้างไปดูกัน
จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าร้อน
เหมาะสำหรับใครที่อยากจะเที่ยวทะเลหมอกหน้าร้อน เพื่อสัมผัสธรรมชาติผ่านจุดชมวิวที่สูง จนสามารถเห็นบรรยากาศได้โดยรอบ
ซึ่งการเที่ยวฤดูร้อนเพื่อชมทะเลหมอกมีจุดเด่นตรงที่ไม่ต้องรอหน้าฝนหรือหน้าหนาว ทุกคนก็สามารถดื่มด่ำกับบรรยากาศเหล่านั้นได้ หากใครเบื่อแล้วที่ฤดูร้อนต้องเอาแต่เที่ยวทะเล ไปทีไรก็ร้อนเกินไป ไม่ช่วยให้คลายร้อนสักเท่าไร ขอให้มาเปิดประสบการณ์ใหม่ในหน้าร้อนด้วยการชมทะเลหมอกกันดีกว่า
1. เขาพะเนินทุ่ง แก่งกระจาน
จุดชมวิวทะเลหมอก เขาพะเนินทุ่ง ตั้งอยู่ที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นับว่าเป็นจุดชมวิวที่เหมาะแก่การมารับไอเย็นๆ ชมทะเลหมอกไกลๆ อย่างสุดลูกหูลูกตา เพราะแก่งกระจานขึ้นชื่อว่าเป็นอุทยานที่มีความอุดมสมบูรณ์และมีบรรยากาศที่ดีตลอดทั้งปี แม้มาในฤดูร้อนก็ไม่หวั่น ในส่วนของสูงจากระดับน้ำทะเลอยู่ที่ 900 เมตร แต่ถ้าอยากไปจุดสูงสุดของเขาจะอยู่ที่ 1,207 เมตร
จุดเด่นของเขาพะเนินทุ่ง นับว่าเป็นสถานที่ที่ท่องเที่ยวที่ดี ใครหลายคนต่างมากันแล้วได้ความประทับใจกลับไป เนื่องด้วยอากาศที่สดชื่นและรายล้อมไปด้วยธรรมชาติ หากมาจุดชมวิวในตอนเช้าก็สามารถเห็นทะเลหมอกได้ไม่ยาก จะมีทั้งเส้นทางที่เหมาะแก่การขับรถ และเส้นทางที่เหมาะกับการเดินขึ้นเขา
- ที่ตั้ง – อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 76170
- พิกัด – Khao Phanoen Thung
- เวลาเปิด-ปิด – ช่วงเวลา 05:30 – 07:30 น. และช่วงเวลา 13:00 – 15:00 น.
2. ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง จังหวัดยะลา
สำหรับใครที่กำลังมองหาทะเลหมอกหน้าร้อน ที่สามารถลอยตัวอยู่ท่ามกลางธรรมชาติได้แบบ 360 องศา ขอให้แวะมาที่จุดชมวิวทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ที่จะมีพื้นที่ที่เป็นสกายวอล์ค ที่ทุกคนสามารถมายืนและชมวิวรอบทิศได้ โดยความสูงมากกว่า 2,038 ฟุต
จุดเด่นของทะเลหมอกอัยเยอร์เวง นับว่าเป็นจุดที่มีการสร้างสกายวอล์คขึ้นมา เพื่อให้มีบรรยากาศที่แตกต่างจากเวลาไปเที่ยวเขาที่อื่นๆ เพราะตัวสกายวอล์คจะเป็นทางเดินที่ทอดยาวไปด้วยกระจก และเมื่อไปถึงปลายทางก็ทำให้ชมทะเลหมอกได้ชัดเจน และที่แห่งนี้ก็มีอีกหลายชั้นให้ขึ้นชมทะเลหมอกได้อีกด้วย
- ที่ตั้ง – เขาไมโครเวฟ ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา 95110
- พิกัด – สกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง
- เวลาเปิด-ปิด – 05:30 – 16:30 น.
3. อุทยานแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์
อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องบอกเลยว่าไม่ไกลจากกรุงเทพ นั่นก็คืออุทยานแห่งชาติเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ นับว่าเป็นที่เที่ยวทะเลหมอกยอดฮิต ที่ใครหลายคนเลือกมา แม้จะเป็นช่วงฤดูร้อนก็สามารถสัมผัสบรรยากาศไอเย็นและรับชมทะเลหมอกได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของอุทยานแห่งชาติเขาค้อ เนื่องจากว่าเป็นอุทยานดังนั้นสถานที่ท่องเที่ยว นอกจากการชมทะเลหมอกแล้วยังมีอื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการชมถ้ำ น้ำตก หน้าผา รวมไปถึงธรรมชาติที่มีความหลากหลาย จึงเหมาะมากกับคนที่ชื่นชอบการเดินป่า
- ที่ตั้ง – 67 ม.1 ต ตำบลสะเดาะพง อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ 67270
- พิกัด – อุทยานแห่งชาติเขาค้อ
- เวลาเปิด-ปิด – เปิดทุกวัน 05:30 น. – 19:00 น
4. ภูตาจอ จังหวัดพังงา
ถ้าหากใครไปภาคใต้คงจะนึกถึงทะเลก่อน แต่ก็ต้องบอกว่าจุดชมทะเลหมอกหน้าร้อนอย่างภูตาจอ จังหวัดพังงาก็มีความโดดเด่นไม่แพ้ที่อื่นๆ ด้วยความสูงกว่า 1,350 เมตร ที่สามารถชมทะเลหมอกแม้อยู่ในช่วงฤดูร้อน หากใครมาพังงาแต่ไม่มาที่นี่ต้องบอกเลยว่าพลาดมาก
สำหรับจุดเด่นของที่นี่จะมีดีในเรื่องจุดชมวิวที่สามารถเห็นธรรมชาติสุดลูกหูลูกตา แถมบริเวณภูตาจอยังสามารถมากางเต็นท์ค้างคืน เพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้นหรือพระอาทิตย์ตกได้ ซึ่งเหมาะแก่การมาเที่ยวกับเพื่อน ครอบครัว หรือคนรักได้เป็นอย่างดี
- ที่ตั้ง – บริเวณหมู่ที่ 1 ตำบลเหล อำเภอกะปง จังหวัดพังงา
- พิกัด – จุดชมวิวทะเลหมอกภูตาจอ
- เวลาเปิด-ปิด – ทุกวัน
5. กุนุงซิลิปัต จังหวัดยะลา
สุดท้ายสำหรับจุดชมวิวทะเลหมอกที่เหมาะแก่การเที่ยวในหน้าร้อน ขอแนะนำกุนุงซิลิปัต จังหวัดยะลา เป็นภูเขาหินที่มีความสูงประมาณ 21 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าความสูงน้อยกว่าจุดชมวิวในจังหวัดอื่นๆ เป็นอย่างมาก แต่ต้องบอกว่าถึงแม้จะไม่สูงแต่ของเขาก็ดีจริงๆ เพราะมาฤดูร้อนก็ยังสามารถเห็นหมอกได้โดยง่าย
จุดชมวิวกุนุงชิลิปัต จุดเด่นจะอยู่ที่เป็นเขาหินที่สามารถหมุนได้รอบทิศแบบ 360 องศา หากใครอยากจะมาไขว่คว้าหาความเย็นก็เหมาะมากที่จะมาในช่วงกุมภาพันธ์และเมษายน ถ้าหากใครสนใจที่จะไปเตรียมเสบียงไปให้พร้อมแล้วลุยได้เลย
- ที่ตั้ง – 26 ตำบลอัยเยอร์เวง อำเภอเบตง จังหวัดยะลา 95110
- พิกัด – ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต
- เวลาเปิด-ปิด – 05:00 – 19:00 น.
จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าฝน
เชื่อเลยว่าเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนจะมีจุดชมวิวทะเลหมอกหลายจุดมากๆ โดยบรรยากาศนั้นจะได้ความชื้นแต่ไม่หนาวจนเกินไป ได้กลิ่นอายและใกล้ชิดกับธรรมชาติอย่างชัดเจน ถ้าหากใครไปตอนฝนตกก็อาจจะเซ็งๆ ที่ไม่ได้ออกไปไหน แต่ถ้าการขึ้นไปยังจุดชมวิวเพื่อชมทะเลหมอกหน้าฝน นับเป็นที่ถูกใจของคนไม่น้อยเลยทีเดียว ไปดูพร้อมกันเลยดีกว่าว่ามีที่ไหนน่าไปบ้าง
6. ม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่
ที่เที่ยวทะเลหมอก ไม่ว่าจะปีไหนๆ ก็ยังเป็นที่นิยมเสมอ อย่างม่อนแจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ มียอดเขาที่สูงราว 1,350 เมตร ที่ทุกคนสามารถนั่งรถเพื่อไปยังจุดชมวิวที่สูงที่สุดเพื่อให้ทะเลหมอกได้อย่างชัดเจน เมื่อผ่านป่าเขาจะสามารถสัมผัสถึงความเย็นของไอหมอกได้เป็นอย่างดี
จุดเด่นของม่อนแจ่ม นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญที่ใครหลายคนต่างนิยมมาท่องเที่ยวกัน ดังนั้นที่พักจึงมีหลากหลายแบบ ใครสะดวกแบบไหนเลือกพักแบบนั้นได้เลย นอกจากนี้ยังมีชุมชนที่เป็นตลาด พร้อมกับสวนดอกไม้สวยๆ ที่ผลิดอก และกิจกรรมท้าทายอื่นๆ อีกมากมาย
- ที่ตั้ง – ตำบลแม่แรม อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ 50180
- พิกัด – ม่อนแจ่ม
- เวลาเปิด-ปิด – 07:00 – 20:00 น.
7. เนินช้างศึก จังหวัดกาญจนบุรี
หากใครที่ชื่นชอบมาเที่ยวที่จังหวัดกาญจนบุรี ถามหาถึงทะเลหมอกหน้าฝน ก็ขอแนะนำเนินช้างศึกซึ่งเป็นภูเขาสูงราว 1,053 เมตร วิวที่ทุกคนจะได้เห็นเป็นวิวที่มีภูเขาสลับทับซ้อนกันไปมาไกลๆ ทำให้เห็นวิวกว้างที่ทอดยาวไปเรื่อยๆ ดื่มด่ำกับทะเลหมอกได้อย่างเต็มที่
จุดเด่นของที่นี่จะเห็นบรรยากาศที่ไกลสุดลูกหูลูกตาในช่วงหน้าฝน นอกจากนี้ยังได้เห็นเพื่อนบ้านอย่างเมียนมา ที่เชื่อมกับทางไทยเราได้อีกด้วย นอกจากนี้ที่แห่งนี้เหมาะแก่การชมพระอาทิตย์ได้ทั้งตอนขึ้นและตอนตกดิน สามารถนำเต็นท์มากางนอนได้ด้วย
- ที่ตั้ง – ตำบลปิล็อก อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 71180
- พิกัด – เนินช้างศึก
- เวลาเปิด-ปิด – 05:30-18:30 น.
8. ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์
สำหรับแลนด์มาร์กจุดชมวิวทะเลหมอก ในช่วงหน้าฝนที่ดีที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นภูทับเบิก ที่ในปัจจุบันนี้นับเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นเลิศที่ให้เราได้สัมผัสกับลมหนาวและไอชื้นในช่วงหน้าฝนได้เป็นอย่างดี โดยที่ภูทับเบิกมีความสูงอยู่ที่ 1,768 เมตร
จุดเด่นของภูทับเบิก ที่นี่มีชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ ทำให้เห็นถึงวิถีชีวิตของคนท้องถิ่น และที่สำคัญยังมีพื้นที่ปลูกกะหล่ำยาวเหยียดที่สามารถมองเห็นได้แบบสุดลูกหูลูกตา หากใครได้มาที่นี่รับรองติดใจแน่นอน เพราะไม่ได้มีเพียงแค่ร้านอาหาร ตลาด แต่ยังมีจุดที่สามารถกางเต็นท์ได้อีกด้วย
- ที่ตั้ง – หมู่ที่ 14 ตำบลวังบาล อำเภอหล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ 42120
- พิกัด – ภูทับเบิก
- เวลาเปิด-ปิด –
9. ดอยผาตั้ง จังหวัดเชียงราย
การไปโซนภาคเหนือช่วงหน้าฝน สถานที่ที่เหมาะแก่การเป็นที่เที่ยวทะเลหมอก ก็ขอแนะนำกับดอยผาตั้งที่มีความสูงอยู่ที่ 1,800 เมตร โดยแนะนำว่าให้ขับรถไปกัน เพื่อให้ได้แวะชมสถานที่ท่องเที่ยวหรือจุดชมวิวต่างๆ ในมุมที่แตกต่างกัน
จุดเด่นของที่นี่คงหนีไม่พ้นการที่ได้อยู่เหนือสุดของวิวทิวทัศน์ แม้แต่ทะเลหมอกก็ยังอยู่ใต้เท้าเราได้ ทำให้ได้ฟิลลิ่งอีกแบบที่แตกต่างจากที่อื่นๆ
- ที่ตั้ง – 17 ตำบลปอ อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย 57310
- พิกัด – ดอยผาตั้ง
- เวลาเปิด-ปิด – เปิดทุกวัน 05:00 น. – 18:30 น.
10. ภูทอก จังหวัดเลย
ที่สุดท้ายกับการแนะนำจุดชมวิวทะเลหมอกในช่วงหน้าฝน ขอแนะนำให้รู้จักกับภูทอก นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่มีความน่าสนใจ เพราะเป็นภูเขาที่ตั้งโดดเดี่ยวอยู่บริเวณนั้น เมื่อได้ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด มองลงมาจึงเห็นทะเลหมอกที่อยู่เบื้องล่าง
จุดเด่นของที่นี่จะได้วิวที่แตกต่างจากที่อื่น เพราะไม่มีภูเขาลูกอื่นๆ มาโดดเด่นเหนือภูทอกแห่งนี้ ถ้าใครอยากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นผ่านสายหมอกขอแนะนำให้มาที่นี่เลย นอกจากนี้ยังเป็นดินแดนที่เชื่อมต่อระหว่างไทย – ลาวด้วยนะ
- ที่ตั้ง – ตำบลเชียงคาน อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย 42110
- พิกัด – Phu Thok
- เวลาเปิด-ปิด – เปิดทุกวัน 05:00-17:00 น.
จุดชมวิวทะเลหมอกหน้าหนาว
แน่นอนว่าฤดูหนาวนับว่าเป็นฤดูที่ฮอตฮิตที่สุดแก่การขึ้นเขา เพราะทุกคนจะได้สัมผัสบรรยากาศหนาวๆ กับวิวธรรมชาติสวยๆ โดยเฉพาะทะเลหมอกหน้าหนาวที่ใครหลายคนถึงกับยกนิ้วให้ ไม่เพียงแต่มีบรรยากาศที่ดีเลิศ แต่เพราะการขึ้นเขาในช่วงนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดด้วย และหากอยากเก็บภาพความประทับใจของทะเลหมอกหนา พระอาทิตย์ขึ้น หรือพระอาทิตย์ตก แนะนำว่าให้มาฤดูนี้ มีครบอย่างแน่นอน ว่าแต่จะแนะนำที่ไหนบ้างนั้น ตามไปอ่านกัน
11. อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย
อุทยานแห่งชาติภูชี้ฟ้า นับว่าเป็นจุดชมวิวทะเลหมอก ที่ใครหลายคนต่างรู้จัก เพราะเป็นสถานที่ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดเชียงรายเป็นอย่างมาก มีความสูงตั้งแต่ 1,200-1,628 เมตร ซึ่งถือเป็นจุดที่สูงมากๆ จึงทำให้เห็นหมอกได้อย่างชัดเจน
จุดเด่นของที่นี่คงเป็นเอกลักษณ์ของเขาที่มีบางส่วนชี้ขึ้นฟ้าเลยถูกเรียกว่าภูชี้ฟ้า หากใครอยากอยู่เหนือหมอก และมองไปเบื้องล่างเห็นดวงอาทิตย์ค่อยๆ โผล่ขึ้นมา รับรองว่าประสบการณ์นี้จะเป็นที่น่าประทับใจอย่างแน่นอน
- ที่ตั้ง – 3/1 หมู่ที่ 24 ตำบลตับเต่า อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย 57160
- พิกัด – Phu Chifa
- เวลาเปิด-ปิด – 04:30 – 18:00 น.
12. กิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่
ทะเลหมอกหน้าหนาวที่โดดเด่นในเชียงใหม่ขอแนะนำให้ลองมาที่กิ่วแม่ปาน ความสูงประมาณ 2,200 เมตร ที่เหมาะแก่การมาเที่ยวและชมทะเลหมอกเป็นอย่างมาก โดยที่นี่ก็มีหลายจุดให้ได้ไปชมทะเลหมอกด้วยกัน สามารถเลือกหามุมดีๆ และถ่ายรูปกลับไปรับรองประทับใจไม่รู้ลืม
จุดเด่นของกิ่วแม่ปาน นับเป็นที่ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จึงทำให้มีพื้นที่เที่ยวที่หลากหลาย แต่ที่สุดแล้วคงหนีไม่พ้นการเดินขึ้นเขา ที่จะต้องใช้พละกำลังของตัวเอง เพื่อไปชมวิวทะเลหมอกที่ด้านบนสุดเหนือตัวเองได้
- ที่ตั้ง – อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ตู้ ป.ณ.2 หมู่ 7 ตำบลบ้านหลวง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160
- พิกัด – กิ่วแม่ปาน
- เวลาเปิด-ปิด – 06:00-16:00 น.
13. ดอยเสมอดาว จังหวัดน่าน
สำหรับใครที่อยากจะหาที่เที่ยวทะเลหมอก เพื่อมองวิวท้องฟ้าและมองทะเลหมอกได้ในเวลาเดียวกัน ขอแนะนำให้รู้จักดอยเสมอดาว ที่มีความสูงอยู่ที่ 888 เมตร ที่ถือว่าไม่สูงมากกว่าที่อื่นๆ สักเท่าไรแต่ต้องบอกว่าเป็นดอยที่มีเสน่ห์เหลือล้น
ดอยเสมอดาว เหมาะกับการมาค้างคืนเพื่อชมดาวยามค่ำคืนแบบใกล้ชิด ในขณะเดียวกันยามเช้าก็จะเห็นทะเลหมอก พร้อมกับเห็นพระอาทิตย์ขึ้นได้แบบ 360 องศา
- ที่ตั้ง – ตำบลศรีษะเกษ อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน 55150
- พิกัด – ดอยเสมอดาว
- เวลาเปิด-ปิด – เปิดตลอด
14. ภูลังกา จังหวัดพะเยา
สำหรับใครที่กำลังมองหาทะเลหมอกหน้าหนาว ที่อยู่ใกล้กับแหล่งแม่น้ำ ขอแนะนำให้ลองมาเที่ยวที่ภูลังกา ที่มีความสูงอยู่ที่ 1,720 เมตร ที่มีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติมากมายหลายอย่าง
จุดเด่นของการมาที่นี่เหมาะมากแก่การเดินป่า เดินขึ้นเขาเพื่อชมธรรมชาติที่ลายล้อม ดอกไม้นานาชนิด และสัตว์ป่าต่างๆ เหมาะกับสายผจญถัยเป็นอย่างมาก
- ที่ตั้ง – วนอุทยานภูลังกา ตำบลช้างน้อย อำเภอปง จังหวัดพะเยา 56140
- พิกัด – วนอุทยานภูลังกา
- เวลาเปิด-ปิด – 06:00 – 18:00 น.
15. ดอยอ่างขาง จังหวัดเชียงใหม่
สำหรับที่สุดท้ายที่นับว่ามีชื่อเสียงโด่งดัง อย่างดอยอ่างขางที่เป็นจุดชมวิวทะเลหมอกมีความสูงโดยค่าเฉลี่ย อยู่ที่ 1,400 เมตร ขึ้นอยู่กับว่าทุกคนจะไปยังจุดไหนๆ เพื่อไปรับชมความงามของทะเลหมอก
จุดเด่นของดอยอ่างขาง ให้คุณได้สามารถมาสัมผัสลมหนาว สวนดอกไม้ พืชผัก ผลไม้ เหมือนได้มาต่างประเทศ สำหรับที่นี่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหลักที่ใครหลายคนเลือกมา เพราะมีความสะดวกสบาย และสิ่งต่างๆ ที่ครบครันกว่าที่อื่นๆ
- ที่ตั้ง – ตั้งอยู่บนทิวเขาแดนลาว ตำบลแม่สูน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ 50320
- พิกัด – ดอยอ่างขาง
- เวลาเปิด-ปิด –
แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด
สำหรับใครที่มีแพลนจะเที่ยวล่วงหน้าภายในประเทศไทย ไม่ว่าจะภาคกลาง เหนือ ใต้ หรือจะไปอีสาน ทาง AIRPORTELs มีบริการส่งกระเป๋าล่วงหน้าไปยังจุดหมาย เพื่อที่ว่าคุณจะได้ไม่จำเป็นต้องรีบเตรียมกระเป๋าหรือต้องแบกกระเป๋าอย่างเร่งรีบ
หากมีการวางแผนล่วงหน้าและเลือกชุดที่ต้องการใส่ไปเที่ยวแพ็กลงกระเป๋าเรียบร้อย สามารถนำกระเป๋ามาฝากไว้ที่เรา เรายินดีพร้อมส่งกระเป๋าไปล่วงหน้า เพื่อให้เพิ่มความสะดวกสบายแก่การท่องเที่ยวได้มากยิ่งขึ้น
สรุป
ถ้าอ่านมาถึงตรงนี้ทุกคนอาจจะได้คำตอบแล้วว่าควรไปดูทะเลหมอกที่ไหนดี เพราะไม่ว่าจะไปฤดูไหนก็มี จุดชมวิวทะเลหมอก บรรยากาศชั้นเยี่ยม ไม่จำเป็นต้องไปเฉพาะฤดูหนาวแต่อย่างใด ส่วนใครต้องการเที่ยวแบบสบายๆ ไม่ต้องแบกกระเป๋าให้เหนื่อย ให้เมื่อย สามารถมาลองใช้บริการ AIRPORTELs พร้อมส่งกระเป๋าไปยังจุดหมายปลายทางได้แบบล่วงหน้า บอกเลยว่าสามารถขึ้นเขาแบบตัวโล่งๆ ได้เลย