กรุงเทพเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ซึ่งนวัตกรรมทั้งหลายล้วนถูกนำไปใช้ในการทำสปาให้มีความครบวงจร ถือเป็นสวรรค์ของเหล่าคนที่รักการนวดสปา ใครที่ชื่นชอบการผ่อนคลายด้วยวิธีนี้จะต้องไม่พลาดอย่างแน่นอน ในวันนี้เราจึงได้รวบรวม สปาในกรุงเทพฯ ที่จัดว่าเด็ด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของบริการ บรรยากาศ เทคโนโลยีที่นำเข้ามาใช้ แต่ละที่มีจุดเด่นแตกต่างกัน ทั้งหมดล้วนสร้างความประทับใจ ไปดูกันว่าแต่ละที่มีจุดเด่นและความน่าสนใจอย่างไร
1.บริสุทธิ์ เพียว สปา (Borisud Pure Spa)
เริ่มต้นกันด้วยที่แรกสปาสำหรับคนรักสุขภาพอย่างแท้จริง เพราะได้นำผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติหรือออแกร์นิกมาใช้ในการทำทรีตเมนต์ทุกตัว ถือเป็นความใส่ใจในเรื่องของสุขภาพร่างกายของลูกค้าที่มาใช้บริการ ทำให้ได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ถือเป็นจุดเด่นที่ไม่ว่าใครเมื่อมาสัมผัสก็ต้องเกิดความประทับใจ อีกทั้งบรรยากาศมีความทันสมัย สะอาดตา ตกแต่งสไตล์โมเดิร์น มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกด้านความงามมากมาย อาทิ ห้องซาวน่าระบบอินฟราเรด (Infrared Sauna) ให้ความรู้สึกอบอุ่นคล้ายกับแสงแดดของพระอาทิตย์ อ่างน้ำจากุซซี่ (Jacuzzi) มีระบบนวดตัวขณะแช่น้ำและห้องอบไอน้ำ (Steam Bath) สำหรับฟื้นฟูสภาพผิว เป็นต้น
พิกัด : Borisud Pure Spa (Mode Sathorn Hotel, ชั้น 11)
เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 23:00
2.Kashikiri Onsen and Spa
ใครที่ชื่นชอบการแช่ตัวแบบออนเซ็นฟิลเหมือนอยู่ญี่ปุ่นต้องที่ Kashikiri Onsen and Spa สปาที่แรกของเมืองไทยย่านสุขุมวิท ที่จะมามอบความเป็นส่วนตัวแก่คุณหรือที่เรียกว่า ไพรเวทออนเซ็น พร้อมทั้งชุดคลุมยูกาตะให้สวมใส่ขณะใช้บริการ เข้ากับบรรยากาศสุด ๆ เพราะตกแต่งออกมาในสไตล์ญี่ปุ่น ซึ่ง สปาในกรุงเทพฯ แห่งนี้ได้รับความนิยมจากคนเมืองไม่น้อย ต่างหนีความวุ่นวายมาอาบน้ำแร่ แช่น้ำนมให้ร่างกายได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ ในส่วนของบริการภายในลูกค้าสามารถเลือกกลิ่นอโรม่าเองได้และน้ำแร่ออนเซ็นก็เช่นกันมีถึง 3 แบบ คุณสมบัติที่ดีต่อร่างกายต่างกัน พร้อมนวัตกรรมสปาออนเซ็นฟองอากาศจะทำให้ทั้งผิวและเส้นผมมีสุขภาพที่ดี
พิกัด : อุดมสุข (วชิรธรรมสาธิต ซ.32) และ สุขุมวิท 49 (BTS ทองหล่อ)
เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 21:00
3.Pañpuri Wellness
ต้องยกให้สปาปัญญ์ปุริ เวลเนส (Pañpuri Wellness) เป็น สุดยอดสปา ออแกนิคและทรีตเม้นต์เสริมความงาม เพราะให้บริการอย่างเต็มรูปแบบ เหมาะอย่างมากกับคนที่รักสุขภาพจริงจัง หากได้มาใช้บริการคุณจะลืมความเครียด บรรยากาศภายในตกแต่งอย่างหรูหรา ท่ามกลางวิวทิวทัศ 360 องศาของกรุงเทพฯ มาพร้อมบริการที่หลากหลาย เช่น การแช่ออนเซ็น ออร์แกนิกสปา ขัดผิว นวดไทย นวดบำบัด แบบนี้แม้ว่าคุณจะเหนื่อยมาแค่ไหน บริการของที่นี่จะทำให้คุณได้พักผ่อนอย่างเต็มที่แน่นอน
พิกัด : Gaysorn Urban Retreat, ชั้น 12
เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 21:00
4.Erb Spa (Warehouse 30)
หลังจากที่ไปสัมผัสบริการของร้านสปาใน 3 อันดับแรกที่ให้ฟิลความเป็นสมัยใหม่และญี่ปุ่นแล้ว เราลองไปทำความรู้จักกับบริการที่ เอิบ สปา (Erb Spa) ได้นำเสนอการให้บริการในรูปแบบไทย ๆ แต่มีความทันสมัย เพราะตกแต่งภายในร้านแบบทรอปิคอล เน้นเฉดสีเขียว เพื่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงการพักผ่อนอย่างเต็มที่ อีกทั้งทางสปาแห่งนี้ได้พิถีพิถันคัดสรรค์ผลิตภัณฑ์ในการปรนนิบัติผิวนั้นคือเกสรดอกไม้ไทยโบราณ 7 ชนิด ถือเป็นภูมิปัญญาตามตำรับชาววังอันควรค่าแก่การรักษาไว้ ไม่เพียงเท่านี้ เพื่อให้สปาเป็นหนึ่งตัวช่วยให้คุณดูอ่อนเยาว์ จึงได้มีการผสมสมุนไพรที่มีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะมาให้บริการ ผสานรวมกับศาสตร์แห่งวิทยาการสมัยใหม่ จึงทำให้สปาแห่งนี้มีเอกลักษณ์ในเรื่องของการดูแลผิวหน้าที่ไม่เหมือนใคร
พิกัด : Erb Spa (เจริญกรุง ซ.30) และ Erb Bliss Room (Gaysorn Village, ชั้น 2)
เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 19:00
5.De Rest Spa
หากคุณกำลังเครียดจากการทำงานอย่างหนักลองให้ เดอะเรส สปา (De Rest Spa) เป็นคนดูแลปรนนิบัติคุณด้วยบริการ นวดไทย ตั้งแต่บริเวณฝ่าเท้า คอและไหล่ ผ่อนคลายความเมื่อยล้าด้วยนวดน้ำมันสปา ในส่วนของบริการดูแลผิวจะเป็นการทำทรีตเม้นต์อโรม่าหรือการใช้กลิ่นจากน้ำมันหอมระเหย ขณะได้รับบริการคุณจะรู้สึกผ่อนคลายมากทีเดียว ไม่เพียงเท่านี้ยังมีการสครับผิวกายเพื่อฟื้นฟูให้แลดูผิวพรรณดีขึ้น อย่างไรก็ตามคุณสามารถมั่นใจในบริการของทางร้านได้เลย เพราะผู้ให้บริการทั้งหมดได้รับใบรับรองการนวดมาแล้วและมีประสบการณ์
พิกัด : De Rest Spa (Maneeya Center, BTS ชิดลม)
เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11:00 – 23:45
6.Chi The Spa, Shangri-la Hotel
การให้รางวัลตอบแทนตัวเองไม่เพียงเป็นการให้ของมีค่า ราคาแพงอย่างเดียว แต่การได้พาร่างกายไปผ่อนคลายเป็นสิ่งที่ส่งผลดีต่อสุขภาพโดยตรง เพราะบริการที่ Chi The Spa ศูนย์บริการนวดสปาที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรมแชงกรีล่า จะทำหน้าที่สลัดความเมื่อยล้าออกไปจากคุณ อีกทั้งในส่วนของการดูแลผิวมีสครับให้เลือกทั้งหมด 4 ประเภท ได้แก่ Pink Salt, Coconut, green Tea, Sesame และอีกหนึ่งความพิเศษคือสปาแห่งนี้เป็นบริการสปาต้นตำหรับจากวัฒนธรรมเอเชียหลากหลายประเทศ ด้วยนักบำบัดมืออาชีพที่มีความรู้ด้านนี้โดยตรง
พิกัด : Chi The Spa (Shangri-la Hotel)
เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10:00 – 22:00 ในวันหยุดพักผ่อนนี้หากคุณรู้สึกเมื่อยล้าและมองผิวพรรณแล้วช่างแห้งเหี่ยวขาดการดูแลบำรุง ลองเลือกใช้บริการร้านสปาที่เราแนะนำในวันนี้ รับรองว่าร่างกายของคุณจะได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่และคุณเองก็จะต้องหลงใหลในการถูกสัมผัสตัวด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพมากมาย ที่ปรนนิบัติผิวอย่างล้ำลึก ถือเป็น สุดยอดสปา ในกรุงเทพที่คนรักสุขภาพเช่นคุณไม่ควรพลาด
ที่มาข้อมูล
- https://www.traveloka.com/th-th/explore/activities/bangkok-borisud-pure-spa-mode-sathorn/51867
- https://www.wongnai.com/reviews/40d4e2d0f8fb4afa818891bd9401f6d6
- https://www.gowabi.com/blog/2018/11/review_chi_the_spa/
- https://www.derestspa.com/th/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%81/