แกลมปิ้ง คือการตั้งแคมป์แบบหรูหรา ซึ่งคำว่า Glamping ก็มาจากการรวมคำว่า Glamorous ที่แปลว่าสวยงาม หรูหรา ส่วน Camping หมายถึงการตั้งแคมป์นั่นเอง โดยจะผสมผสานระหว่างการตั้งแคมป์แบบดั้งเดิมเข้ากับความหรูหราสไตล์โรงแรมหรือรีสอร์ต ทำให้นักท่องเที่ยวสามารถนอนกางเต็นท์ท่ามกลางธรรมชาติได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น เพราะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอย่างดีและครบครัน ซึ่งอันที่จริง แกลมปิ้งนั้นมีมานานแล้ว แต่เพิ่งเป็นกระแส และได้รับความนิยมในช่วงสถานการณ์โควิดระบาดที่ผ่านมา เพราะผู้คนโหยหาการท่องเที่ยวแนวธรรมชาติมากขึ้น ประกอบกับการได้เห็นรูปภาพสวยๆ และคอนเทนต์ต่างๆ จากบรรดา Vloger และ Influencer ก็ยิ่งดึงดูดให้ผู้คนอยากออกไปสัมผัสประสบการณ์ที่แปลกใหม่ด้วยตัวเองดูสักครั้ง
แกลมปิ้งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเกาหลี ไต้หวัน โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเดิมทีการตั้งแคมป์ก็เป็นกิจกรรมที่คนญี่ปุ่นชื่นชอบกันอยู่แล้ว เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามมากมาย และการไปท่องเที่ยวในแต่ละฤดูก็ยังให้บรรยากาศที่ต่างกันด้วย พอมีความสะดวกสบายเข้ามาเพิ่ม ก็ยิ่งทำให้การตั้งแคมป์ได้รับความนิยมมากขึ้นไปอีก
glamping vs camping แตกต่างกันอย่างไร
การตั้งแคมป์แบบ Glamping และการตั้งแคมป์แบบดั้งเดิม หรือ Camping มีทั้งส่วนที่คล้ายและแตกต่างกัน ส่วนที่เหมือนกัน คือการเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวที่เน้นประสบการณ์ใกล้ชิดธรรมชาติ ใช้ชีวิตกลางแจ้ง ได้สูดอากาศอันสดชื่น นอนดูดาว ตื่นเช้ามาเปิดเต็นท์ก็เห็นทิวทัศน์สวยๆ อยู่ตรงหน้า แต่การตั้งแคมป์แบบ Glamping จะหรูหราและสะดวกสบายมากกว่า เหมือนยกรีสอร์ตมาตั้งไว้กลางธรรมชาติ ทำให้นักท่องเที่ยวที่ไม่เคยตั้งแคมป์ได้มีโอกาสเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ
ในขณะที่การตั้งแคมป์แบบเดิมจะได้รับความนิยมเฉพาะกลุ่มเท่านั้น เพราะแม้จะราคาถูก ทำให้ประหยัดค่าที่พักได้มากกว่าการนอนในโรงแรม แต่ก็ต้องยอมรับว่าการนอนเต็นท์ที่ดูเหมือนจะสนุกและท้าทาย แต่เอาเข้าจริงก็ไม่สะดวกสบายเท่าไหร่ ยิ่งถ้าต้องแบกเต็นท์ไปเอง กางเต็นท์เอง ก็ต้องใช้เวลาและพละกำลังไม่น้อยเลยทีเดียว ยังไม่รวมถึงการทำอาหาร ห้องน้ำ ความปลอดภัย ฯลฯ ที่ทำให้หลายคนถอดใจจนต้องพับโครงการไปในที่สุด
glamping มีจุดเด่นอย่างไร
ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ใช้ชีวิตกันอย่างเร่งรีบ เผชิญกับความเครียด ความกดดัน และปัญหาสารพัดในแต่ละวัน จึงไม่มีใครอยากจะออกไปผจญภัยแบบลำบากลำบนในช่วงวันหยุดอีก Glamping จึงถือเป็นการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนในยุคนี้ได้อย่างลงตัว ส่วนใหญ่ยอมจ่ายแพงขึ้นเพื่อแลกมากับการพักผ่อนที่สะดวกสบาย ในขณะเดียวกันก็ได้หลีกหนีความวุ่นวาย ไปให้ธรรมชาติโอบกอดเยียวยาจิตใจ ใช้เวลากับคนที่รัก แถมยังได้รูปเก๋ๆ ลงโซเชียลด้วย นอกจากนี้การท่องเที่ยวสไตล์ Glamping ยังมีจุดเด่นอีกมากมาย เช่น
สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ที่พักที่มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ให้ความรู้สึกไม่ต่างจากการนอนพักในโรงแรม มีทั้งเตียงอย่างดี นอนแล้วนุ่มสบาย ไม่ปวดหลัง เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ เช่น เครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์ ตู้เย็นขนาดเล็ก ไมโครเวฟ กาน้ำร้อน อินเทอร์เน็ต ชุดโต๊ะเก้าอี้สำหรับรับประทานอาหาร ห้องน้ำส่วนตัว เครื่องทำน้ำอุ่น บางแห่งมีอ่างอาบน้ำ หรืออ่าง Jacuzzi ให้ ในขณะที่บางแห่งก็มีพื้นที่ครัว รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ให้สามารถประกอบอาหารได้อย่างสะดวกสบาย
มีความปลอดภัย
นอกจากภายในเต็นท์ที่พักแบบ Glamping จะเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายแล้ว โครงสร้างของเต็นท์ก็มีความแข็งแรงมากกว่าเต็นท์ขนาดเล็ก ทำให้รู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ไม่ต้องคอยกังวลเรื่องสภาพอากาศ เสียงรบกวน แมลง หรือสัตว์มีพิษ อีกทั้งยังอยู่ในบริเวณของที่พักที่จัดไว้ให้โดยเฉพาะ จึงเหมือนได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยอีกหนึ่งชั้น
พื้นที่ความเป็นส่วนตัว
แม้ที่พักจะอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่เต็นท์ที่ใช้สำหรับพักผ่อนก็คล้ายกับห้องส่วนตัวที่ปิดได้อย่างมิดชิด และทางที่พักก็มักจะเว้นระยะห่างระหว่างเต็นท์ รวมถึงมีพื้นที่บริเวณรอบเต็นท์ให้สามารถออกมาทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเป็นส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยแบ่งเป็นสัดส่วน มีที่เก็บของ มีห้องน้ำในตัว สะอาดสะอ้าน ไม่ต้องใช้ห้องน้ำรวม นักท่องเที่ยวจึงสามารถพักผ่อนได้อย่างสบายใจ
บรรยากาศดี มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้ลองทำ
การไป Glamping ไม่เพียงแต่จะได้พักผ่อนและดื่มด่ำกับความสวยงามของธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังจะได้ใช้เวลาสร้างความทรงจำดีๆ และกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อนผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น การทำอาหาร ย่างบาร์บีคิว ดริปกาแฟ ผิงไฟ ร้องเพลง ตกปลา เล่นเกมต่างๆ อีกทั้งที่พักหลายแห่งก็ยังจัดเตรียมกิจกรรมสนุกๆ ไว้ต้อนรับนักท่องเที่ยวด้วย เช่น การขี่ม้า การเดินป่า ดูดาว ถ่ายรูปสวยๆ เป็นต้น
glamping มีกี่แบบ
ปัจจุบันคนไทยนิยมเที่ยวแบบ Glamping กันมากขึ้น ที่พักหลายแห่งจึงมีการออกแบบห้องพักหลากหลายประเภท เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวเลือกพักได้ตามความชอบ งบประมาณที่ต้องการ หรือจำนวนคนในทริป เช่น มาเป็นคู่ มาพร้อมครอบครัว หรือมากับกลุ่มเพื่อนหลายคน เป็นต้น โดยมีรูปแบบต่างๆ ให้เลือก ดังนี้
แกลมปิ้งแวน
แกลมปิ้งแวน หรือเรียกง่ายๆ ก็คือรถบ้าน ลักษณะภายนอกจะเหมือนกับรถธรรมดา อาจจะเป็นรถตู้หรือรถบัสก็ได้ แต่ด้านในถูกดัดแปลงให้เปรียบเสมือนบ้านขนาดย่อมที่สามารถเคลื่อนที่ได้ มีห้องน้ำ ห้องครัว ที่นอน โซฟาพับได้ โต๊ะทานอาหาร และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปหลายแห่ง ยิ่งถ้าไปหลายคน เมื่อหารเฉลี่ยค่าใช้จ่ายแล้วก็จะประหยัดกว่าด้วย แต่ข้อเสียก็คือต้องมีคนขับที่มีความชำนาญเส้นทาง และควรจะมีความรู้ในการใช้งานรถ เช่น การเติมน้ำสะอาด การระบายของเสีย การเสียบไฟฟ้าเพื่อใช้งานขณะจอดรถ เป็นต้น
ซึ่งปัจจุบันจุดจอดรถแกลมปิ้งแวนในไทยที่มีบริการเหล่านี้ก็ยังมีไม่มาก จึงไม่เป็นที่นิยมนัก แต่บางที่พักก็มีการนำรถแกลมปิ้งแวนมาใช้เป็นห้องพัก เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้บรรยากาศที่สมจริง
เต็นท์โดมขนาดใหญ่
เต็นท์โดมขนาดใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปครึ่งวงกลม เป็นเต็นท์ที่นิยมมากที่สุด และเหมาะมากสำหรับสาย Glamping เพราะมีความแข็งแรงทนทาน ทนได้ทั้งแดดและฝน ด้านในพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง โล่งโปร่งสบาย เหมือนเป็นห้องๆ หนึ่ง ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด นอนได้หลายคน และยังสามารถติดแอร์ วางเครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างสะดวกสบาย บางแห่งก็ต่ออุโมงค์ทำห้องน้ำในตัวให้เรียบร้อย ผนังสามารถมองเห็นวิวด้านนอกหรือนอนชมดาวยามค่ำคืนได้ แต่หากต้องการความเป็นส่วนตัวก็สามารถปิดม่านได้
เต็นท์ทรงกระโจมหรือเต็นท์มองโกลทรงคลาสิก
เต็นท์ทรงกระโจมจะให้บรรยากาศของการตั้งแคมป์มากกว่า จึงเป็นที่นิยมในกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ชอบการถ่ายรูป สร้างคอนเทนต์ ลักษณะเป็นกระโจมสามเหลี่ยมที่มียอดแหลมตรงกลาง ทำให้หลังคาสูง พื้นที่ด้านในดูโล่งโปร่งมากขึ้น อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ร้อนอบอ้าว เวลาเปิดประตูก็จะสามารถมองเห็นวิวสวยๆ ได้เต็มตา และหากเป็นเต็นท์กระโจมที่มีขนาดใหญ่ก็สามารถนอนได้หลายคนและวางสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ได้ครบไม่ต่างจากเต็นท์โดมเลย แต่ข้อเสียคือ เต็นท์กระโจมบางรุ่น โดยเฉพาะรุ่นที่มีขนาดใหญ่มักจะมีเสาตรงกลาง อาจจะทำให้รู้สึกเกะกะเล็กน้อย
บ้านต้นไม้
บ้านต้นไม้ เป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ คล้ายกระท่อม สร้างอยู่บนต้นไม้ มักออกแบบให้มีความกลมกลืนกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกร่มรื่น เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ อยากหลบหลีกความวุ่นวายไปผ่อนคลายท่ามกลางธรรมชาติ ตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์ ขับกล่อมด้วยเสียงนก เสียงใบไม้ หรือคนที่อยากเปิดประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบใหม่ เติมเต็มความฝันในวัยเด็ก เพราะที่พักที่มีบ้านต้นไม้มีจำนวนจำกัด และแต่ละแห่งก็มีจำนวนไม่มาก เนื่องจากก่อสร้างยาก ต้องใช้พื้นที่เยอะ แต่ราคาก็อาจจะสูงกว่าห้องพักแบบธรรมดา
โดยสรุปแล้วแกลมปิ้งก็คือการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งที่พัฒนามาจากการตั้งแคมป์แบบดั้งเดิมหรือ Camping โดยยังคงเน้นความใกล้ชิดธรรมชาติไว้ แต่เพิ่มความหรูหราและสะดวกสบายเข้ามา การตั้งแคมป์จึงไม่ได้เป็นการท่องเที่ยวที่จำกัดเฉพาะสายลุย หรือสาย Adventure อีกต่อไป แต่ใครๆ ก็สามารถสัมผัสประสบการณ์นอนกางเต็นท์ชมวิวได้ เทรนด์การท่องเที่ยวแบบ Glamping จึงได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา อุปกรณ์ที่เกี่ยวกับการตั้งแคมป์ขายดีจนมีแบรนด์ใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ในขณะเดียวกันที่พักและสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งต้องปรับตัวและเพิ่มห้องพักแบบ Glamping เพื่อดึงดูดลูกค้า
อย่างไรก็ตามก่อนออกเดินทางนักท่องเที่ยวก็ควรจะศึกษาสถานที่ เส้นทาง สภาพภูมิอากาศ รวมถึงเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ให้พร้อม แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ขับรถไปเอง การแบกสัมภาระจำนวนมากอาจเป็นอุปสรรคในการเดินทางได้ ขอแนะนำบริการดีๆ จาก Airportels ผู้ให้บริการขนส่งกระเป๋าเจ้าแรกในไทย ที่จะช่วยขนสัมภาระไปส่งให้ถึงที่พักทุกแห่งทั่วประเทศ โดยสามารถกดจองผ่านช่องทางออนไลน์ได้อย่างง่ายดายแค่ปลายนิ้ว แล้วออกเดินทางตัวเปล่าแบบชิลๆ ไม่ต้องหิ้วกระเป๋าเองให้เหนื่อย แวะเที่ยวตามจุดต่างๆ ได้เต็มที่ ถึงที่พักพร้อมกระเป๋าที่รออยู่แล้ว ปลอดภัยด้วยระบบติดตามสัมภาระที่สามารถเช็กสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเดินทางที่สะดวกสบายกว่าที่เคย