Boarding Pass คืออะไร สำคัญอย่างไรเมื่อเรามีเที่ยวบิน

Boarding Pass คือ กระดาษใบยาวๆ ที่เราได้รับหลังทำการเช็กอิน (check-in) เมื่อไปถึงสนามบิน มีใครเคยสงสัยกันบ้างไหมว่าคืออะไรกันแน่ ทำไมเวลาเดินทางทั้งในและต่างประเทศ ต้องใช้ Boarding Pass อยู่เสมอ และที่สำคัญ คือ ทุกคนจะทำ Boarding Pass หาย ไม่ได้นะ ไม่งั้นไม่ได้ขึ้นเครื่องแน่ๆ

Boarding Pass คืออะไร

Boarding Pass คือ เอกสารสำคัญที่ควรถือไว้คู่กับหนังสือเดินทาง (Passport) เพราะเป็นเอกสารที่มีข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับการบิน จึงมีไว้สำหรับยืนยันตัวตนของเราหลายระหว่างบิน โดยตัว Boarding Pass จะประกอบด้วยข้อมูลสำคัญของเรา ไม่ว่าจะเป็นชื่อ-นามสกุล หมายเลขเที่ยวบิน เวลาขึ้นเครื่อง เวลาถึงปลายทาง ประตูทางออกขึ้นเครื่อง ชั้นที่นั่งโดยสาร และเลขที่นั่งโดยสาร

จริงๆ แล้วถ้าเราทำ Boarding Pass หาย ไม่ใช่แค่เราจะไม่ได้ขึ้นเครื่อง แต่ยังเกิดความเสี่ยงต่างๆ ตามมาจากข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล เพราะ Boarding Pass นั้นมีบาร์โค้ดที่สามารถสแกนเข้าไปดูข้อมูลอื่นๆ ของเราได้เทียบเท่ากับตัวเล่ม Passport เลยนะ ดังนั้น เมื่อได้ Boarding Pass มาแล้ว ต้องรักษาไว้ให้ดี อย่าทำหาย หรือ ถ่ายรูปโพสต์ลงบนโซเชียลแพลตฟอร์มต่างๆ เป็นอันขาด

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

Boarding Pass คืออะไร

passport

เมื่อเราไปถึงสนามบินแล้ว เราไม่สามารถขึ้นเครื่องบินได้ในทันที สิ่งแรกที่ทุกคนต้องทำเหมือนกันเลย คือ การเช็กอิน (check-in) หรือ การลงทะเบียนยืนยันการเดินทาง ซึ่งปกติแล้วทางสายการบินจะมีเคาน์เตอร์เตรียมไว้รอรับเราอยู่ใกล้ๆ กับประตูทางเข้าอยู่แล้ว พอทำการเช็กอิน (check-in) เสร็จ ทุกคนจะได้รับกระดาษสีขาวใบยาวๆ ที่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางในเที่ยวบินนี้ของเรามา เจ้ากระดาษใบนี้แหละ คือ “Boarding Pass”

  • การเช็กอิน (check-in) แบบอัตโนมัติด้วยตัวเอง ผ่านเครื่อง kiosk ตามจุดที่สนามบินเตรียมเอาไว้ให้ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยลักษณะของตู้ประเภทนี้จะคล้ายๆ กับตู้ ATM เราสามารถตอบคำถามต่างๆ ที่ตู้นี้ถามให้ครบ เช่น ชื่อ-สกุลอะไร นั่งตรงไหน สายการบินอะไร ถ้าตอบถูกหมด ก็จะได้รับ “Boarding Pass” เช่นเดียวกัน
  • บางสายการบินก็มีบริการเช็กอินออนไลน์ (online-check-in) ผ่านเว็บไซต์ โดยเราสามารถทำการเช็กอินได้ภายระยะเวลา 24 ชั่วโมง ก่อนเครื่องออก ซึ่งการเช็กอินประเภทนี้ เราจะได้ “Boarding Pass” ในรูปแบบไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งสามารถกดบันทึกไว้เป็นไฟล์รูปภาพภายในโทรศัพท์มือถือได้ วิธีนี้จะเป็นวิธีที่สะดวกสบายมากที่สุด แถมยังช่วยรักษ์โลกผ่านการลดปริมาณการใช้กระดาษได้อีกด้วย

ข้อมูลใน Boarding Pass

ไม่ว่าเราจะทำการเช็กอินแบบไหน ไม่ว่าจะเป็นการเช็กอินหน้าเคาเตอร์ เช็กอินผ่านตู้ kiosk หรือเช็กอินผ่านช่องทางออนไลน์ Boarding Pass ที่ได้รับมา คือ Boarding Pass เดียวกัน สามารถใช้เป็นเอกสารในการขอขึ้นเครื่องบินได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นกระดาษสีขาวทรงแนวนอนแบบยาว หรือเป็นภาพไฟล์อิเล็กทรอนิกส์ เพราะ Boarding Pass ที่เราได้รับมาจะมีข้อมูลสำคัญของตัวเรา ดังนี้

boarding pass

1.ชื่อ-นามสกุล ผู้โดยสาร

สำหรับชื่อ-นามสกุลของผู้โดยสารที่ปรากฎอยู่บน Boarding Pass นั้น อาจจะดูแปลกตาสำหรับคนไทย เพราะอย่างแรกเลย
คือ ชื่อ-นามสกุลผู้โดยสารที่ปรากฎอยู่บน Boarding Pass จะพิมพ์เป็นภาษาอังกฤษ และอย่างที่สอง คือ ชื่อ-นามสกุลบน Boarding Pass จะมีการสลับตำแหน่งกัน คือ นามสกุลจะปรากฎอยู่ข้างหน้า ส่วนชื่อจะอยู่ด้านหลังนามสกุลอีกที เช่น ถ้าคุณชื่อ Michel Jackson ชื่อ-นามสกุลที่ปรากฎอยู่บน Boarding Pass ของคุณ คือ Jackson Michel

โดยเราต้องตรวจทานให้ดีว่าชื่อ-นามสกุลของเรา มีการสะกดที่เหมือนกับชื่อ-นามสกุลที่ปรากฎอยู่บนหนังสือเดินทาง (Passport) หรือไม่ เพราะถ้าหากมีตัวอักษรสะกดแตกต่างกันแม้แต่ตัวเดียว เราก็อาจจะถูกปฏิเสธไม่ให้ขึ้นเครื่องบินได้ และสำหรับใครที่ขึ้นเที่ยวบินภายในประเทศ อาจใช้บัตรประจำตัวประชาชนเป็นเอกสารยืนยันตัวตนแทนหนังสือเดินทาง (Passport) ได้เช่นกัน

2. หมายเลขเที่ยวบิน

ในส่วนของหมายเลขเที่ยวบินนั้น จะเป็นโค้ดตัวอักษรภาษาอังกฤษจำนวน 2 ตัว ตามด้วยตัวเลขอีก 3-4 หลักต่อท้าย ทุกคนจึงควรจำตัวอักษร 2 หลักแรกบน Boarding Pass ให้ดี เพราะตัวอักษรนั้น คือ รหัสที่จะบอกสายการบินที่ต้องขึ้น เช่น AK1234 ตัวอักษร AK ที่ปรากฎอยู่ด้านหน้า จะบอกให้รู้ว่าเที่ยวบินที่ต้องขึ้นเป็นเที่ยวบินของสายการบินใด ซึ่งแต่ละสายการบินจะมีรหัสตัวอักษรนำคู่ที่แตกต่างออกไป

3. เวลาขึ้นเครื่อง

สำหรับใครที่ได้รับ Boarding Pass มาแล้ว จะเห็นตัวเลข 3-4 หลัก ที่เขียนติดกันเอาไว้ โดยมีตัวอักษร A หรือ P ต่อท้าย มักปรากฎอยู่บริเวณที่ส่วนกลางของขอบกระดาษ เช่น 300A หรือ 1010P โดยเจ้าตัวโค้ด A หรือ P นี้ คือ ตัวเลขบอกเวลาขึ้นเครื่อง โดย 300A หมายถึง เวลา ตี 3 ส่วน 1010P หมายถึง เวลา 4 ทุ่ม 10 นาที

  • ตัวอักษร A นั้น ย่อมาจากคำว่า AM (Ante Meridiem) หมายถึง เวลา 12 ชั่วโมงหลังเที่ยงคืน
  • ตัว P นั้น ย่อมาจากคำว่า PM (Post Meridiem) หมายถึง เวลา 12 ชั่วโมงหลังเที่ยงวัน

นอกจากนี้ เราควรเผื่อเวลาก่อนขึ้นเครื่องสักเล็กน้อย หากเวลาขึ้นเครื่องบน Boarding Pass คือ 1130A หรือ 11 โมงครึ่ง เราก็ควรจะไปรอที่เกต (Gate) ตั้งแต่ 10 โมงครึ่ง หรือหากมาสาย ถ่ายรูป กินข้าว ช็อปปิงเพลินไปหน่อย ก็ควรมาถึงเกตอย่างช้าสุดตอน 11 โมงเช้า ไม่งั้นอาจตกเครื่องได้ เพราะไม่ใช่ว่ามาถึงเกตแล้วจะได้ขึ้นเครื่องทันที พี่ๆ แอร์โฮสเตสและสจ๊วต เขาจะเรียกผู้โดยสารขึ้นเครื่องตามโซนและคลาสของที่นั่ง หากเราไปผิดเวลา อาจจะทำให้เกิดความล่าช้าได้

check in
  • โดยผู้โดยสารชั้น First Class และ Business Class จะได้ขึ้นเครื่องก่อน
  • ผู้โดยสารขึ้น Economy Class โดยจะเรียกขึ้นเครื่องตามโซนที่นั่ง ซึ่งใครได้ที่นั่งเข้าออกยากๆ บริเวณตรงกลางด้านหลัง ก็มักจะถูกเรียกให้ขึ้นเครื่องก่อน

พูดง่ายๆ คือ หากเราไม่อยากมีปัญหาในการเดินทาง จนต้องมาลุ้นว่าจะขึ้นเครื่องทันก่อนเครื่องออกหรือไม่ ให้ดูเวลาขึ้นเครื่องใน Boarding Pass ให้ดี คือ เวลาเครื่องออกเท่าไหร่ ควรไปรอที่เกตก่อนหน้าเวลาที่ปรากฎสัก 30-60 นาที ซึ่งเวลาที่เขียนอยู่บน Boarding Pass คือ เวลาท้องถิ่นที่สนามบินนั้นๆ ตั้งอยู่

4. เวลาถึงปลายทาง

ในส่วนของเวลาถึงปลายทาง คือ เวลาคาดการณ์โดยประมาณที่ครื่องบินจะลงจอดยังจุดหมายปลายทาง ซึ่งมีหลักการในการเขียนตัวเลขลงใน Boarding Pass เหมือนกันกับการเขียนบอกเวลาขึ้นเครื่อง คือ ตัวเลข 3-4 หลัก แล้วตามด้วยตัวอักษร A หรือ P เช่น 1010A คือ 10 โมงเช้ากับอีก 10 นาที นั่นเอง

นอกจากนี้ เราควรปรับนาฬิกาให้เวลาตรงตามเวลาท้องถิ่นของปลายทางนั้นๆ โดยสามารถดูเวลาจาก Time Zone สากลได้ เช่น เมืองไทยมีรหัสโซนเวลาเป็น GMT+7:00 BKK นั่นหมายความว่า โซนเวลาของประเทศไทย ที่มีเมืองหลวง คือ กรุงเทพมหานครนั้น จะมีเวลาเร็วกว่าโซนเวลามาตรฐาน คือ เมืองกรีนิชประเทศอังกฤษ (Greenwich Mean Time) อยู่ 7 ชั่วโมง หากเราเดินทางไปจากเมืองไทยไปถึงประเทศอังกฤษ ก็ต้องปรับเวลาให้เร็วขึ้น 7 ชั่วโมง เช่น เวลาเครื่องลงจอดที่อังกฤษ นาฬิกาเราบอกเวลา 10 โมงเช้า เราก็ต้องปรับลดเวลาลง 7 ชั่วโมง ให้เป็นเวลา ตี 3 แทน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

5. ประตูทางออกขึ้นเครื่อง

อีกสิ่งสำคัญที่ Boarding Pass สามารถบอกเราได้ คือ ประตูทางออกขึ้นเครื่อง หรือ Gate นั่นเอง เพราะเครื่องบินโดยสารนั้นมีขนาดที่ใหญ่ ทำให้มีประตูทางออกขึ้นเครื่อง หรือ Gate หลายประตู แยกตามโซนและคลาสที่นั่ง เมื่อเราได้ Boarding Pass มาแล้ว ก็ต้องตรวจดูว่า เราได้ขึ้นเครื่องบินที่ประตูทางออกขึ้นเครื่อง หรือ Gate ไหน และจำหมายเลข Gate เอาไว้ให้ดี แต่บางครั้งอาจมีตัวอักษรภาษาอังกฤษอยู่ด้านบน คล้ายกับโซนของที่จอดรถ เช่น Gate B12 เป็นต้น

6. เลขที่นั่งโดยสาร

Boarding Pass คือ สิ่งที่สามารถบอกเลขที่นั่งโดยสารของเราได้ โดยมีเลขบอกแถวและที่นั่ง จะมีลักษณะคล้ายเลขที่นั่งเวลาไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ ซึ่งเราต้องดูที่ตัวอักษรภาษาอังกฤษในหลักแรกก่อน ว่าเราได้นั่งแถวไหน และตามปกติแล้ว แถวหน้าสุดจะเป็นรหัส A แถวที่ 2 เป็น B แถวที่ 3 เป็น C เรียงตามลำดับ A-Z แล้วหลังจากนั้น ค่อยดูเลขที่นั่งต่อท้าย ว่าเราได้เลขที่นั่งอะไร โดยจะนับ 1 ที่ตำแหน่งซ้ายสุด เช่น A1 คือ ที่นั่งแถวหน้าสุด ติดริมหน้าต่างฝั่งซ้ายของตัวเครื่องบิน

7. ชั้นที่นั่งโดยสาร

สำหรับชั้นที่นั่งโดยสาร จะมีโค้ดเป็นตัวย่อภาษาอังกฤษต่อท้ายเลขที่นั่ง ซึ่งเป็นตัวอักษรแบ่งเอาไว้ตามหลักสากลให้ดูบน Boarding Pass เหมือนกันทุกสายการบิน คือ รหัส P J และ Yโดยรหัสทั้ง 3 มีความหมายดังต่อไปนี้

  • P หมายถึง First Class
  • J หมายถึง Business Class
  • Y หมายถึง Economy Class

ยกตัวอย่างเช่น Boarding Pass ระบุว่าคุณได้ที่นั่ง A1Y คือ คุณได้นั่งที่นั่งชั้นประหยัด (Economy Class) แถวแรก ติดหน้าต่างด้านซ้ายสุดนั่นเอง

boarding pass ทำอะไรได้บ้าง

Boarding Pass ทำอะไรได้บ้าง

อย่างที่กล่าวไป Boarding Pass คือ เอกสารที่สำคัญที่สุดแล้วในการเดินทางโดยเครื่องบิน ดังนั้น คุณต้องระวังไม่ให้ Boarding Pass หาย เพราะคุณต้องใช้ Boarding Pass เป็นเอกสารประกอบการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอนระหว่างที่อยู่ในสนามบิน ไม่ว่าจะเป็นในระหว่างการตรวจสอบ และโหลดกระเป๋า การโชว์ให้เจ้าหน้าที่ตรงประตูทางออกขึ้นเครื่องดู และโชว์ให้พนักงานต้อนรับดูตอนหาที่นั่ง

ตรวจสอบและโหลดกระเป๋า

การโหลดกระเป๋า

สำหรับใครที่ถึงสนามบินเร็ว และอยากเดินช็อปปิงสินค้าปลอดภาษีในสนามบินระหว่างรอขึ้นเครื่อง แต่ไม่อยากลากกระเป๋าไปมาให้พะรุงพะรัง สามารถนำกระเป๋าฝากกับ AIRPORTELs ก่อนได้ พอถึงเวลาค่อยกลับมานำกระเป๋าไปโหลดทีหลัง โดยใช้ Boarding Pass เป็นเอกสารในการยืนยันตัวตนว่าเราคือผู้โดยสารคนเดียวกับคนที่ได้เช็กอินไปก่อนหน้านี้ ของที่โหลดเพิ่มจะได้เอาไปรวมกับของเก่าที่โหลดเอาไว้ก่อนหน้าได้ถูกคน

โดยหลายคนเลือกที่จะมาช็อปปิงสินค้าในสนามบินกันค่อนข้างมาก เพราะนอกจากราคาจะถูกกว่าตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปแล้ว ยังสามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ฟรี เพิ่มเติมจากน้ำหนักมาตรฐานที่สายการบินแจ้ง หรือผู้โดยสารได้ซื้อน้ำหนักเอาไว้

โชว์ให้เจ้าหน้าที่ตรงประตูทางออกขึ้นเครื่องดู

เราจำเป็นต้องแสดง Boarding Pass โชว์ให้เจ้าหน้าที่ตรงประตูทางออกขึ้นเครื่องดู เพื่อเป็นการยืนยันตัวตนว่าเราคือผู้โดยสารของสายการบินนั้นๆ และเราขึ้นเครื่องบินถูก Gate เพราะอย่างที่บอกไว้ข้างต้น ว่าเครื่องบินโดยสารนั้นมีขนาดใหญ๋ และมีหลาย Gate หากขึ้นผิด Gate จะสร้างความลำบากให้กับเรา รวมถึงแอร์โฮสเตส และสจ๊วตบนเครื่องบินเวลาต้องหาที่นั่ง อีกทั้งยังเป็นการตรวจสอบซ้ำอีกครั้งว่าเราเป็นผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วเครื่องบินมาอย่างถูกต้อง

โชว์ให้พนักงานต้อนรับดู

สาเหตุสำคัญที่ต้องโชว์ Boarding Pass ให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องดูอีกรอบ คือ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกเจ้าหน้าที่ให้จัดหาที่นั่งให้เราได้อย่างสะดวก และจะได้มีหลักฐานยืนยันว่าเราเป็นเจ้าของที่นั่งนั้นๆ หากมีคนอื่นมานั่งที่นั่งของเราบนเครื่องบิน

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

Boarding Pass คือ เอกสารที่สำคัญที่สุดในการเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะมีข้อมูลสำคัญต่างๆ มากมาย ทั้งชื่อ-นามสกุล หมายเลขเที่ยวบิน เวลาขึ้นเครื่อง เวลาถึงปลายทาง ประตูทางออกขึ้นเครื่อง เลขที่นั่ง และชั้นโดยสาร แถมยังมีบาร์โค้ดที่สามารถเข้าไปแก้ไขชื่อ-นามสกุล และเที่ยวบินต่างๆ แบบออนไลน์ได้ด้วย

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่ทางเรานำมาฝาก ว่า Boarding Pass มีความสำคัญมากแค่ไหน ก่อนออกจากบ้านไปสนามบิน อย่าลืมเช็คกันน้า และทุกคนต้องเก็บรักษา และห้ามทำ Boarding Pass หาย ตลอดจนห้ามโพสต์ข้อมูลบน Boarding Pass ลงบนโซเชียลเป็นอันขาด

อ่านเพิ่มเติม

รู้ไว้กันพลาด!! ขนาดกระเป๋าที่โหลดขึ้นเครื่องพร้อมค่าโหลด 2023

เมื่อจำเป็นต้องเดินทางด้วยเครื่องบิน ไม่ว่าเป็น เที่ยวบินภายในประเทศหรือเที่ยวบินระหว่างประเทศ “กระเป๋าสัมภาระ” ถือเป็นอีกหนึ่งเพื่อนร่วมทางที่ทุกคนต้องนำไปด้วยเสมอ แม้เคยเดินทางบ่อยหรือเพิ่งขึ้นเครื่องบินครั้งแรก หลายๆ คนอาจมีความกังวลเกี่ยวกับน้ำหนักกระเป๋า ค่าใช้จ่ายในการโหลดกระเป๋าหรือแม้แต่ขนาดของกระเป๋า

บทความนี้ ได้รวบรวมคำตอบเกี่ยวกับการนำกระเป๋าขึ้นเครื่องและการโหลดกระเป๋าไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ขนาดกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง จำนวนกระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง และอัตราค่าโหลดกระเป๋าแต่ละสายการบิน เช่น การบินไทย นกแอร์ แอร์เอเชีย ไทยเวียตเจ็ท และไลอ้อนแอร์

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ขนาดไซส์ทั่วไปของกระเป๋าเดินทางแบบล้อลาก 

แม้ว่าสายการบินต่างๆ มีรายละเอียดของข้อกำหนดหรือนโยบายเกี่ยวกับการสัมภาระที่ถือขึ้นเครื่องและโหลดขึ้นเครื่องที่แตกต่างกันอยู่บ้าง

แต่กระเป๋าล้อลากบางขนาดสามารถโหลดขึ้นเครื่องได้เพียงอย่างเดียว เพราะมีขนาดใหญ่กว่าขนาดของช่องสัมภาระเหนือศีรษะในห้องโดยสาร ทั้งนี้ ในท้องตลาดยังมีกระเป๋าให้เลือกซื้อหลายขนาด เพื่อให้เหมาะสมกับความต้องการของแต่ละคน ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องจึงมีดังนี้  

ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่อง

1. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 16 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 16 นิ้ว เป็นขนาดกระเป๋าที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 24×41 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 43 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่เหมาะกับทริปเดินทางประมาณ 1-2 วัน 

2. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 18 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 18 นิ้ว เป็นขนาดกระเป๋าที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 24×46 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 46 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด จึงเหมาะกับทริปเดินทางประมาณ 2-3 วัน

3. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 22 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 22 นิ้ว ถือเป็นขนาดของกระเป๋าที่ใหญ่ที่สุด ที่สายการบินต่างๆ ยังอนุญาตให้ถือขึ้นเครื่องและใส่ในช่องสัมภาระเหนือศีรษะในห้องโดยสารได้ โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 23×40 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 55 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่เหมาะกับทริปเดินทางประมาณ 2-4 วัน 

4. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 24 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 24 นิ้ว เป็นขนาดกระเป๋าที่ต้องโหลดขึ้นเครื่องแทนการถือ เพราะมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่นโยบายของสายการบินส่วนใหญ่อนุญาต โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 24×45 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 61 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่เหมาะกับทริปเดินทางประมาณ 5 วัน – 1 สัปดาห์ 
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

5. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 26 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 26 นิ้ว เป็นขนาดกระเป๋าที่ต้องโหลดขึ้นเครื่องแทนการถือ โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 27×40 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 67 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่เหมาะกับทริปเดินทางตั้งแต่ 1 สัปดาห์ – 10 วัน 

6. กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 28 นิ้ว

กระเป๋าเดินทางมีล้อลากขนาด 28 นิ้ว เป็นขนาดกระเป๋าที่ต้องโหลดขึ้นเครื่อง โดยส่วนใหญ่มีขนาดความกว้างประมาณ 30×46 เซนติเมตร มีความสูงไม่รวมที่จับลากประมาณ 78 เซนติเมตร

  • เป็นไซส์กระเป๋าที่เหมาะกับทริปเดินทางไม่เกิน 2 สัปดาห์

กระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่องแบบไหนได้บ้าง

โดยทั่วไป สัมภาระหรือกระเป๋าเดินทางที่สามารถนำขึ้นเครื่องบิน ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง หรือกระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง สามารถใช้ได้ทั้งกระเป๋าถือ กระเป๋าสะพาย หรือกระเป๋ามีล้อลาก 

นอกจากเรื่องนโยบายในส่วนของน้ำหนักและขนาดกระเป๋าแล้ว บางสายการบินอาจมีการกำหนดจำนวนของสัมภาระร่วมด้วย ซึ่งรายละเอียดของการถือกระเป๋าขึ้นเครื่องและการโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้ 

กระเป๋าเดินทางขึ้นเครื่อง

1. กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง คือ สัมภาระที่ผู้โดยสารสามารถพกติดตัวขึ้นเครื่องบินได้ เช่น กระเป๋าถือหรือกระเป๋าเดินทางที่มีล้อลากไซส์ 12-22 นิ้ว ซึ่งต้องเก็บไว้บนช่องใส่กระเป๋าเหนือศีรษะหรือช่องใส่ของด้านหน้าเก้าอี้

โดยมักกำหนดน้ำหนักไว้ไม่เกิน 7 กิโลกรัม ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสายการบิน นอกจากนี้ ต้องไม่มีของต้องห้ามต่างๆ เช่น

  • ของเหลวปริมาณเกิน 50 มิลลิลิตร
  • ของมีคมหรืออาวุธต่างๆ เช่น มีด ปืน หรือกรรไกร
  • สัตว์ที่มีชีวิตหรือซากของสัตว์
  • อาหารที่มีกลิ่นแรง เช่น ทุเรียน ปลาร้า หรือขนุน
  • เพาว์เวอร์แบงก์ความจุต้องไม่เกิน 20,000 mAh

2. กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage) 

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง คือ กระเป๋าเดินทางที่มีขนาดใหญ่ตั้งแต่ 24 นิ้วขึ้นไป โดยส่วนใหญ่ การเดินทางภายในประเทศ ไม่เกิน 15 กิโลกรัม ส่วนการเดินทางระหว่างประเทศ ไม่เกิน 20 กิโลกรัม ซึ่งของที่ไม่ควรใส่หรือต้องห้าม มีดังนี้

  • ของต้องห้ามตามข้อกำหนดของแต่ละประเทศ เช่น ของผิดกฎหมาย หรือยารักษาโรคบางชนิด
  • ของมีค่า เช่น แล็ปท็อป เงินสด หรือเครื่องประดับ
  • อุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี เช่น บุหรี่ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรี หรือเพาว์เวอร์แบงก์
  • อาวุธและวัตถุไวไฟ

ทั้งนี้ ของมีค่าและอุปกรณ์ที่มีแบตเตอรี สามารถถือขึ้นเครื่องได้ โดยเพาว์เวอร์แบงก์ความจุต้องไม่เกิน 32,000 mAh และบุหรี่ไฟฟ้าที่มีแบตเตอรีความจุไม่เกิน 100Wh ซึ่งไม่อนุญาตให้ชาร์จบนเครื่องบิน

ขนาด น้ำหนัก และค่าโหลดของแต่ละสายการบิน

แต่ละสายการบินมีการกำหนดนโยบายเกี่ยวกับขนาดและน้ำหนักของกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือขึ้นเครื่อง ไปจนถึงมีค่าบริการในการโหลดกระเป๋าที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งผู้ที่ต้องการเดินทางด้วยการโดยสารเครื่องบิน ควรศึกษาและทำความเข้าใจ เพื่อให้ง่ายต่อการเตรียมตัว หมดปัญหาการต้องแกะสัมภาระมาแพ็กใหม่ที่สนามบินหรือต้องซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม 

สำหรับใครที่กำลังจะบินหรือกำลังเปรียบเทียบสายการบินที่ใช้บริการ แต่ละสายการบินมีนโยบายเกี่ยวกับขนาด น้ำหนัก และค่าโหลดสัมภาระ ดังนี้

ขนาด น้ำหนัก และค่าโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่อง

1. การบินไทย (Thai Airway)

การบินไทย (Thai Airway) เป็นสายการบินสัญชาติไทยที่ให้บริการทั้งจุดหมายปลายทางภายในประเทศและต่างประเทศ รวมกว่า 35 ประเทศ เช่น ฝรั่งเศส เยอรมันนี ญี่ปุ่น และสิงคโปร์

โดยมีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋าการบินไทย

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทย กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยขนาดของกระเป๋าต้องไม่เกิน 25x45x56 เซนติเมตร รวมความสูงจากล้อ และมือจับ ซึ่งต้องเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะหรือใต้เบาะนั่งได้

นอกจากนี้ยังสามารถพกสิ่งของเหล่านี้ขึ้นเครื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

  • กระเป๋าใส่ของมีค่า เช่น กระเป๋าถือ หรือกระเป๋าใส่เงิน โดยมีขนาดกระเป๋าไม่เกิน 12.5x25x37.5 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์แบบพกพาหรือแล็ปท็อป
  • ไม้ค้ำยัน ในกรณีที่เป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรือผู้ที่ทุพพลภาพ
  • กล้องหรือกล้องส่องทางไกลขนาดเล็ก
  • อาหารเด็กเล็ก

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทย กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ คือ 

  • ชั้นหนึ่ง ระหว่างประเทศ 50 กิโลกรัม
  • ชั้นธุรกิจ ในประเทศ 40 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 40 กิโลกรัม
  • ชั้นประหยัดพิเศษ  ในประเทศ 30 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 40 กิโลกรัม
  • ชั้นประหยัด  ในประเทศ 20-30 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 20-35 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยบาท โดยคิดเป็น 1.5% ของค่าบัตรโดยสารชั้นประหยัด แบบบินตรงเที่ยวเดียว ปกติสูงสุด หรือประมาณ 55-125 บาทต่อ 1 กิโลกรัม 
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งแตกต่างกันออกไปตามโซนของประเทศจุดเริ่มต้นและจุดหมายปลายทาง โดยค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 12-70 ดอลลาร์สหรัฐ การแปลงค่าเงินขึ้นอยู่กับอัตราการแลกเปลี่ยนในวันนั้นๆ

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยจำเป็นต้องซื้ออย่างน้อย 5 กิโลกรัม และไม่เกิน 50 กิโลกรัม โดยต้องซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยบาท อยู่ระหว่าง 50-60 บาท
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ อยู่ระหว่าง 8-56 ดอลลาร์สหรัฐ การแปลงค่าเงินขึ้นอยู่กับอัตราการแลกเปลี่ยนในวันนั้นๆ

2. ไทยสมายล์ (Thai Smile)

ไทยสมายล์ (Thai Smile) เป็นสายการบินสัญชาติไทยที่มีเส้นทางการบินภายในประเทศและจุดหมายปลายทางต่างประเทศในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เช่น อินเดีย เวียดนาม ศรีลังกา จีน และมาเลเซีย

โดยมีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่สนามบินสุวรรณภูมิ สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋าไทยสมายล์

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยสมายล์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยขนาดของกระเป๋าต้องไม่เกิน 25x45x56 เซนติเมตร รวมความสูงจากล้อ และมือจับ ซึ่งต้องเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะหรือใต้เบาะนั่งได้ 

นอกจากนี้ยังสามารถพกสิ่งของเหล่านี้ขึ้นเครื่องโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

  • กระเป๋าใส่ของมีค่า เช่น กระเป๋าถือ หรือกระเป๋าใส่เงิน โดยมีขนาดกระเป๋าไม่เกิน 12.5x25x37.5 เซนติเมตร และน้ำหนักไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม
  • อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น คอมพิวเตอร์แบบพกพา หรือแล็ปท็อป
  • ผ้าคลุมไหล่ หรือผ้าห่ม จำนวนไม่เกิน 1 ผืน
  • ร่ม จำนวนไม่เกิน 1 ด้าม
  • กล้องถ่ายภาพหรือกล้องส่องทางไกลขนาดเล็ก จำนวน 1 ตัว
  • หนังสือจำนวนที่เหมาะสม
  • อาหารของเด็กทารกในปริมาณที่เหมาะสม
  • อุปกรณ์ที่ช่วยในการเคลื่อนไหวหรือการเดิน เช่น ไม้ค้ำยัน เก้าอี้วีลแชร์ หรือกายอุปกรณ์เทียม สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้
  • สุนัขนำทางสำหรับคนตาบอดหรือหูหนวก
  • สินค้าปลอดภาษี ที่ไม่ขัดต่อกฎหมายของประเทศ เช่น แอลกอฮอล์ น้ำหอม หรือบุหรี่

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยสมายล์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ คือ

  • ชั้นพรีเมียม  ในประเทศ 30 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 40 กิโลกรัม
  • ชั้นประหยัด  ในประเทศ 20 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 30 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 180 บาท  
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ บาทไทย หรือรูปีอินเดีย ขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางหรือจุดหมายปลายทาง โดยค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 12-15 ดอลลาร์สหรัฐ 405-540 บาทไทย และ 1400 รูปีอินเดีย

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง ซึ่งมีอัตราค่าใช้จ่ายเท่ากันทั้งในกรณีบินภายในประเทศและบินระหว่างประเทศ มีรายละเอียด ดังนี้

  • 5 กิโลกรัม = 600 บาท
  • 10 กิโลกรัม = 900 บาท
  • 15 กิโลกรัม = 1,350 บาท
  • 20 กิโลกรัม = 1,800 บาท
  • 25 กิโลกรัม = 2,250 บาท
  • 30 กิโลกรัม = 2,700 บาท
  • 40 กิโลกรัม = 3,600 บาท 

3. สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways)

บางกอกแอร์เวย์ส (Bangkok Airways) เป็นสายการบินเชิงพาณิชย์ของไทยที่ให้บริการครอบคลุมหลายจังหวัดในประเทศไทย เช่น สุโขทัย ภูเก็ต เชียงใหม่ และตราด

โดยมีท่าอากาศยานหลักในประเทศหลายแห่ง ไม่ว่าเป็น ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานอู่ตะเภา และท่าอากาศยานสมุย นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางการบินต่างประเทศ เช่น ลาว ฮ่องกง และมัลดีฟส์ อีกด้วย สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋าบางกอกแอร์

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 5 กิโลกรัม โดยขนาดของกระเป๋าที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับประเภทเครื่องบินที่โดยสาร มีรายละเอียดดังนี้ 

  • ประเภทเครื่องบิน ATR72 ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องไม่เกิน 23x36x50 เซนติเมตร
  • ประเภทเครื่องบิน Airbus 319 และ Airbus 320 ขนาดกระเป๋าขึ้นเครื่องไม่เกิน 23x36x56 เซนติเมตร

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ คือ

  • ชั้นธุรกิจบลูริบบิน  น้ำหนักกระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง 40 กิโลกรัม
  • ชั้นประหยัด  น้ำหนักกระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง 20 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 180 บาท  
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ โดยค่าใช้จ่ายอยู่ระหว่าง 11-60 ดอลลาร์สหรัฐ

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าก่อนเวลาเดินทางอย่างน้อย 4 ชั่วโมง

  • กรณีที่บินภายในประเทศ
    • 5 กิโลกรัม = 600 บาท
    • 10 กิโลกรัม = 900 บาท
    • 15 กิโลกรัม = 1,350 บาท
    • 20 กิโลกรัม = 1,800 บาท
    • 25 กิโลกรัม = 2,250 บาท
    • 30 กิโลกรัม = 2,700 บาท
    • 40 กิโลกรัม = 3,600 บาท 
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมคิดเป็นหน่วยดอลลาร์สหรัฐ อยู่ระหว่าง 8-48 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งราคามีความแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเทศต้นทางและจุดหมายปลายทาง โดยต้องซื้อน้ำหนักอย่างน้อย 5 กิโลกรัม

4. นกแอร์ (Nok Air)

นกแอร์ (Nok Air) เป็นสายการบินราคาประหยัดของไทย ให้บริการพื้นที่ครอบคลุมทั้งประเทศไทยและภายในทวีปเอเชีย เช่น เวียดนาม จีน อินเดีย และญี่ปุ่น

โดยมีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่สนามบินดอนเมือง สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋านกแอร์

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินนกแอร์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม  โดยขนาดของกระเป๋าต้องไม่เกิน 23x36x56 เซนติเมตร รวมความสูงจากล้อ และมือจับ ซึ่งต้องเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะหรือใต้เบาะนั่งได้ 

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินนกแอร์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ แบ่งตามประเภทของบัตรโดยสาร คือ

  • บินเบาๆ (Nok Lite) ไม่มี
  • บินสบาย (Nok X-tra) ในประเทศ 15 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 20 กิโลกรัม
  • บินเพลิดเพลิน (Nok MAX) ในประเทศ 25 กิโลกรัม และระหว่างประเทศ 30 กิโลกรัม
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 400 บาท  
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 500 บาท

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยมีอัตราแตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทของบัตรโดยสาร จุดหมายปลายทาง จำนวนน้ำหนักที่ซื้อเพิ่ม และช่วงเวลาที่ซื้อน้ำหนักเพิ่ม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

  • กรณีซื้อพร้อมบัตรโดยสาร ภายในประเทศเริ่มต้นที่ 5 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 150 บาท ส่วนระหว่างประเทศเริ่มต้นที่ 5 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 200 บาท
  • กรณีซื้อเพิ่มหลังซื้อบัตรโดยสารแล้ว ภายในประเทศเริ่มต้นที่ 5 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 250 บาท ส่วนระหว่างประเทศเริ่มต้นที่ 5 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 300 บาท

5. ไทยเวียตเจ็ทแอร์ (Thai Vietjet Air)

ไทยเวียตเจ็ทแอร์ (Thai Vietjet Air) เป็นสายการบินในเครือเวียตเจ็ทแอร์ ซึ่งเป็นสายการบินต้นทุนต่ำจากประเทศเวียดนาม โดยเป็นสายการบินที่ครอบคลุมพื้นที่ทั้งภายในประเทศไทยและเมืองสำคัญของประเทศเวียดนาม เช่น เกิ่นเทอ และดานัง นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางบินระหว่างประเทศในแถบเอเชีย อาทิ กัมพูชา สิงคโปร์ และไต้หวัน อีกด้วย

โดยมีท่าอากาศยานหลักอยู่ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋าเวียตเจ็ทแอร์

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยขนาดของกระเป๋าต้องไม่เกิน 23x36x56 เซนติเมตร ซึ่งต้องเก็บไว้ในช่องเก็บของเหนือศีรษะหรือใต้เบาะนั่ง 

นอกจากนี้ ผู้โดยสารสามารถนำกระเป๋าถือใบเล็กหรือกระเป๋าแล็ปท็อปอีก 1 ใบขึ้นเครื่องได้

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยเวียตเจ็ทแอร์  กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ ต้องมีน้ำหนักรวมไม่เกิน 32 กิโลกรัม และแต่ละชิ้นต้องมีขนาดไม่เกิน 81x119x119 เซนติเมตร 

บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน

  • กรณีที่บินภายในประเทศ  ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 320 บาท 
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ  ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 450-650 บาท ขึ้นอยู่กับระยะเวลาของการเดินทาง

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม 

  • น้ำหนัก 15 กิโลกรัม ภายในประเทศ 355 บาท และบินระหว่างประเทศ 540-1050 บาท
  • น้ำหนัก 20 กิโลกรัม ภายในประเทศ 395 บาท และบินระหว่างประเทศ 715-1,400 บาท
  • น้ำหนัก 25 กิโลกรัม ภายในประเทศ 495 บาท และบินระหว่างประเทศ 923-1,650 บาท
  • น้ำหนัก 30 กิโลกรัม ภายในประเทศ 795 บาท และบินระหว่างประเทศ 1,260-1,980บาท
  • น้ำหนัก 35 กิโลกรัม ภายในประเทศ 955 บาท และบินระหว่างประเทศ 1,512-2,310 บาท
  • น้ำหนัก 40 กิโลกรัม ภายในประเทศ 1,195 บาท และบินระหว่างประเทศ 1,875-2,800 บาท

6. แอร์เอเชีย (Air Asia)

แอร์เอเชีย (Air Asia) เป็นสายการบินข้ามชาติต้นทุนต่ำระหว่างไทยกับมาเลเซีย ให้บริการเส้นทางการบินในหลายจังหวัดของประเทศไทย เช่น ขอนแก่น ตรัง และเชียงใหม่ รวมถึง จุดหมายปลายทางในภูมิภาคเอเชียอีกหลายแห่ง เช่น จีน ฮ่องกง และอินเดีย

โดยมีฐานการบินอยู่ทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และดอนเมือง สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

โหลดกระเป๋าแอร์เอเชีย

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินแอร์เอเชีย สามารถถือกระเป๋าขึ้นเครื่องได้จำนวน 2 ใบ โดยต้องมีน้ำหนักรวมกันไม่เกิน 7 กิโลกรัม ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

  • กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ใบ ต้องมีขนาดไม่เกิน 23x36x56 เซนติเมตร และต้องสามารถเก็บในช่องใส่สัมภาษณ์เหนือศีรษะได้
  • กระเป๋าใส่ทรัพย์สินจำนวน 1 ใบ โดยอาจเป็นกระเป๋าถือ กระเป๋าขนาดเล็ก หรือกระเป๋าใส่แล็ปท็อป ที่มีขนาดไม่เกิน 10x30x40 เซนติเมตร และต้องสามารถจัดเก็บไว้ใต้ที่นั่งด้านหน้าได้

ในกรณีของเที่ยวการบินแอร์เอเชียอินเดีย จากจัมมู หรือ ศรีนาการ์ ไม่อนุญาตให้นำกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่อง เนื่องจากข้อกำหนดการรักษาความปลอดภัยของสนามบิน

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินแอร์เอเชีย สามารถโหลดกระเป๋าสัมภาระขึ้นเครื่องได้โดยไม่จำกัดจำนวน แต่น้ำหนักรวมของกระเป๋าสัมภาระต้องไม่เกินเกณฑ์ที่กำหนด โดยแบ่งตามประเภทของบัตรโดยสาร คือ

  • Low Fare ไม่มี
  • Value Pack และ Premium Flex น้ำหนัก 20 กิโลกรัม
  • Premium Flatbed น้ำหนัก 40 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน 

  • กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง ในกรณีที่น้ำหนักของกระเป๋าเกิน ค่าใช้จ่ายในส่วนของ 15 กิโลกรัมแรก คิดเป็น 1,300 บาท และในกิโลกรัมต่อไปกิโลกรัมละ 455 บาท รวมถึง หากกระเป๋าสัมภาระมีขนาดใบใหญ่กว่าช่องเก็บของเหนือศีรษะ มีค่าใช้จ่าย 2,210 บาท

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยซื้อได้ไม่เกิน 40 กิโลกรัม

  • กรณีซื้อพร้อมบัตรโดยสาร ภายในประเทศเริ่มต้นที่ 15 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 468 บาท ส่วนระหว่างประเทศเริ่มต้นที่ 20 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,368 บาท
  • กรณีซื้อเพิ่มหลังซื้อบัตรโดยสารแล้ว ภายในประเทศเริ่มต้นที่ 15 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 520 บาท ส่วนระหว่างประเทศเริ่มต้นที่ 20 กิโลกรัม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1,533 บาท

7. ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air)

ไทยไลอ้อนแอร์ (Thai Lion Air) เป็นสายการบินต้นทุนต่ำระหว่างไทยกับอินโดนีเซีย ซึ่งมีพื้นที่ให้บริการครอบคลุมทั้งภายในประเทศไทยและประเทศในแถบเอเชีย เช่น จีน เนปาล ไต้หวัน และเวียดนาม

โดยมีฐานการบินอยู่ทั้งท่าอากาศยานดอนเมือง สำหรับนโยบายเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าที่อนุญาตให้ถือและโหลดขึ้นเครื่อง มีดังนี้

กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง (Carry-on baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้ คือ กระเป๋าสัมภาระจำนวน 1 ชิ้น น้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม โดยขนาดของกระเป๋าต้องไม่เกิน 20x30x40 เซนติเมตร

กระเป๋าโหลดขึ้นเครื่อง (Checked baggage)

ตามนโยบายของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ กระเป๋าสัมภาระที่สามารถโหลดขึ้นเครื่องได้ คือ

  • กรณีบินภายในประเทศ  จำนวน 1 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 10 กิโลกรัม
  • กรณีบินระหว่างประเทศ  จำนวนไม่เกิน 2 ใบ น้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักสัมภาระเกิน 

  • กรณีที่บินภายในประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 300 บาท  
  • กรณีที่บินระหว่างประเทศ ค่าใช้จ่ายต่อกิโลกรัมละ 500 บาท แต่ถ้าเป็นเส้นทางกรุงเทพฯ-กัวลาลัมเปอร์ ราคา 400 บาทต่อ 1 กิโลกรัม 

ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมหากต้องการซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม โดยจำเป็นต้องซื้อล่วงหน้าอย่างน้อย 3 ชั่วโมง ซึ่งซื้อได้ไม่เกิน 45 กิโลกรัม และน้ำหนักสัมภาระแต่ละชิ้นต้องไม่เกิน 32 กิโลกรัม มีอัตราค่าใช้จ่ายเท่ากันทั้งในกรณีบินภายในประเทศและบินระหว่างประเทศ มีรายละเอียด ดังนี้

  • เพิ่ม 5 กิโลกรัม ภายในประเทศ 200 บาท และระหว่างประเทศ 325 บาท
  • เพิ่ม 10 กิโลกรัม ภายในประเทศ 275 บาท และระหว่างประเทศ 475 บาท
  • เพิ่ม 15 กิโลกรัม ภายในประเทศ 375 บาท และระหว่างประเทศ 625 บาท
  • เพิ่ม 20 กิโลกรัม ภายในประเทศ 405 บาท และระหว่างประเทศ 775 บาท
  • เพิ่ม 25 กิโลกรัม ภายในประเทศ 495 บาท และระหว่างประเทศ 1,000 บาท
  • เพิ่ม 30 กิโลกรัม ภายในประเทศ 645 บาท 
  • เพิ่ม 35 กิโลกรัม ภายในประเทศ 795 บาท 

ขึ้นเครื่อง แบบไม่ต้องสนใจเรื่องขนาด น้ำหนัก ทำได้ไหม?

หลังจากที่ได้ทราบเกี่ยวกับข้อจำกัดของน้ำหนักกระเป๋าที่ถือหรือโหลดขึ้นเครื่อง รวมถึง ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในการโหลดกระเป๋า ในกรณีที่น้ำหนักกระเป๋าเกิน หลายๆ คนอาจสงสัยว่า สามารถเดินทางโดยสารเครื่องบิน แบบไม่ต้องสนใจเรื่องขนาดหรือน้ำหนักของสัมภาระได้ไหม? 

คำตอบ คือ สามารถทำได้ เพราะ AIRPORTELs มีบริการรับฝากกระเป๋าตามจุดต่างๆ และบริการขนส่งสัมภาระไปทั่วประเทศไทย ไม่ว่าเป็น สนามบิน ห้างสรรพสินค้า หรือโรงแรม โดยมีรายละเอียด ดังนี้

ใช้บริการอะไรได้บ้าง

AIRPORTELs พร้อมช่วยอำนวยความสะดวกให้การท่องเที่ยวในประเทศไทยเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น โดยมีบริการหลักๆ ดังนี้

บริการขนส่งสัมภาระกระเป๋า

บริการขนส่งกระเป๋า

AIRPORTELs ให้บริการขนส่งสัมภาระ ทั้งภายในกรุงเทพฯ และการขนส่งข้ามจังหวัด ไม่ว่าเป็น ท่าอากาศยาน ห้างสรรพสินค้า หรือสถานที่พัก

โดยไม่จำกัดทั้งขนาดและน้ำหนักของสัมภาระ รวมถึง ระยะทางการขนส่ง มีอัตราค่าบริการขนส่งสัมภาระกระเป๋าเริ่มต้นที่ 299 บาท พร้อมระบบติดตามสถานะของสัมภาระ 

บริการฝากของ ฝากกระเป๋า 

บริการฝากกระเป๋า

บริการรับฝากสัมภาระของแอร์พอเทลล์ นั้นครอบคลุมตั้งแต่ กระเป๋าสัมภาระ อุปกรณ์กีฬา และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แล็ปท็อป จักรยาน หรือถุงกอล์ฟ มีอัตราค่าบริการเริ่มต้นเพียง 100 บาท ต่อสัมภาระ 1 ชิ้น

ซึ่งไม่มีการจำกัดน้ำหนักหรือขนาด โดยมีบริการจุดบริการที่สนามบิน และห้างสรรพสินค้า ที่อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟฟ้า BTS ได้แก่

  • ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • ท่าอากาศยานดอนเมือง เปิดให้บริการระหว่างเวลา 06.00 – 24.00 น.
  • เอ็มบีเค เซ็นเตอร์ เปิดให้บริการระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น.
  • เทอร์มินอล 21 อโศก เปิดให้บริการระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น.
  • เทอร์มินอล 21 พัทยา เปิดให้บริการวันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 11.00 – 22.00 น. และวันศุกร์-วันอาทิตย์(วันหยุดนักขัตฤกษ์) เวลา 11.00 – 2300 น.
  • เซ็นทรัลเวิลด์ เปิดให้บริการระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น.
  • ไอคอนสยาม เปิดให้บริการระหว่างเวลา 10.00 – 22.00 น.
  • มิกซ์จตุจักร เปิดให้บริการวันจันทร์-วันพฤหัสบดี เวลา 10.00 – 20.00 น. และวันศุกร์-วันอาทิตย์ เวลา 10.00 – 21.00 น.
  • เยาวราช เปิดให้บริการวันจันทร์-วันศุกร์ เวลา 10.00 – 18.00 น. และวันเสาร์ เวลา 10.00 – 14.00 น.

นอกจากนี้ ยังมีบริการรับฝากระยะยาว รับประกันมูลค่าของสูงสุดถึง 50,000 บาทอีกด้วย 

ส่งกระเป๋าดีกว่าการโหลดหรือนำขึ้นเครื่องเองอย่างไร

สำหรับข้อดีของบริการจาก Airportels ที่โดดเด่นกว่าการนำกระเป๋าถือหรือโหลดขึ้นเครื่อง มีด้วยกันมากมาย เช่น

  • เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับแผนการท่องเที่ยว หลายๆ คนจำเป็นต้องนำสัมภาระไปเก็บยังที่พักก่อน ถึงเริ่มการท่องเที่ยวได้ หรือหากบินไฟล์ตดึก หลังจากเช็กเอาต์แล้วไม่สามารถฝากกระเป๋าไว้กับที่พักได้ แต่บริการขนส่งกระเป๋าของ AIRPORTELs สามารถนำสัมภาระไปส่งให้ยังโรงแรม สนามบิน หรือห้างสรรพสินค้าใกล้รถไฟฟ้า BTS 
  • ไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดและน้ำหนักของกระเป๋า แม้ว่าสายการบินต่างๆ มีบริการโหลดกระเป๋าและการซื้อน้ำหนักเพิ่ม แต่ส่วนใหญ่ก็ยังจำกัดน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 40-50 กิโลกรัมต่อคน รวมถึงยังมีการจำกัดขนาดของกระเป๋าที่สามารถใช้ได้อีกด้วย
  • ไม่ต้องแกะและแพ็กสัมภาระใหม่ เนื่องจากสายการบินต่างๆ ได้กำหนดปริมาณของของเหลว เช่น แชมพู ครีมนวดผม หรือน้ำหอม รวมถึง ลิสต์รายการสัมภาระที่ไม่สามารถโหลดได้ แต่จำเป็นต้องถือขึ้นเครื่อง ซึ่งทำให้หลายๆ คนต้องประสบปัญหาการแกะและแพ็กสัมภาระใหม่
บริการขนส่งและฝากกระเป๋า

ก่อนการโดยสารเครื่องบิน ไม่ว่าเป็น การเดินทางท่องเที่ยวภายในและระหว่างประเทศ ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับขนาดกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง และอัตราค่าบริการโหลดกระเป๋าขึ้นเครื่องก่อน เพราะแต่ละสายการบินมีนโยบายสัมภาระที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งช่วยให้ไม่ต้องแกะสัมภาระและแพ็กใหม่ที่สนามบิน หรือเสียเงินเพิ่มเติมในกรณีที่น้ำหนักกระเป๋าเกิน แต่สำหรับใครที่อยากออกทริปภายในประเทศไทย โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเกณฑ์สัมภาระและยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นสำหรับแผนการท่องเที่ยว บริการฝากของและขนส่งสัมภาระของ AIRPORTELs คือคำตอบ

อ่านเพิ่มเติม

เปิดประสบการณ์การนอนในสนามบิน อัพเดตที่พักในสุวรรณภูมิ 2023

ห้องพักรายวันแถว สนามบินสุวรรณภูมิ มีอยู่หลายสิบแห่ง เดินทางเพียง 5 นาทีถึง ราคาหลักร้อย ประหยัดและพักสบายเหมาะสำหรับคนที่รอขึ้นเครื่องข้ามวัน ส่วนคนที่ต้องการแค่ที่พักเอนหลังสักสองสามชั่วโมง ไม่อยากตกเครื่อง และไม่อยากนอนรอตามเก้าอี้สนามบิน ไม่ควรพลาดเช็คอินโรงแรมลับในสนามบิน เช็คอินเวลาไหนก็ได้ จ่ายค่าห้องรายชั่วโมงหรือรายวัน สะดวกมากและราคาไม่แพง รองรับความต้องการของนักท่องเที่ยวแบบแบ็กแพ็กเกอร์โดยเฉพาะ มาดูกันว่าพักที่ไหนได้บ้าง

 

1.Boxtel Suvarnabhumi Airport

โรงแรมในสนามบินที่ว่ากันว่าเป็นโรงแรมลับแห่งนั้นคือ “Boxtel” โรงแรมรายชั่วโมงที่อยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมินั่นเอง ไฮไลท์ของโรงแรมแคปซูลคือห้องพักส่วนตัวขนาดเล็กสำหรับนอนพักผ่อนช่วงสั้น ๆ ระหว่างรอขึ้นเครื่องหรือเปลี่ยนเครื่องเนื่องจากเที่ยวบินมีปัญหา ได้นอนพักในห้องสะอาดสักงีบประหยัดแรงหายเหนื่อยดีกว่านอนตามเก้าอี้เหนื่อย ๆ ง่วง ๆ โดยไม่ต้องเดินทางออกไปนอกสนามบิน ไม่ต้องเสี่ยงกับรถติดกลับมาขึ้นเครื่องไม่ทันเวลา สามารถเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เพื่อขึ้นรถโดยสารสาธารณะได้โดยไม่ต้องต่อรถใดๆ ไม่ต้องเสี่ยงกับรถติดกลับมาขึ้นเครื่องไม่ทันเวลา สามารถเดินไปถึงสถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์เพื่อขึ้นรถโดยสารสาธารณะได้โดยไม่ต้องต่อรถใด ๆ 

 
 

โรงแรม Boxtel สำหรับนักท่องเที่ยวเป็นห้องเตียงเดี่ยวสำหรับนอนคนเดียว มีระบบปรับอากาศ คำนวณราคาค่าห้องเป็นรายชั่วโมง จ่ายสบายกระเป๋าราคาถูกกว่าอัตราค้างคืนโรงแรมทั่วไป พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ฟรี ค่าบริการ 925-972 บาท/ห้อง/คืน จองโปรโมชั่นพักนาน 12 ช.ม. เหมาจ่าย 2,100 บาท สามารถจองห้องพักทางออนไลน์หรือโทรสอบถามข้อมูลโปรโมชั่นได้ตลอดเวลา นอกจากบริการห้องพักแล้วยังมีบริการรับฝากกระเป๋า ค่าบริการเริ่มต้นที่ 80 บาท/วัน หรือนำกระเป๋ามาฝากกับเราAIRPORTELs ในราคา 100บาท/วัน สามารถจองห้องพักผ่านอินเทอร์เน็ต รวมถึงในเว็บไซต์ Traveloka.com

 

รีวิวห้องพักที่ Boxtel 

ใครสนใจใช้บริการห้องพักรายชั่วโมงของโรงแรม BOXTEL ในสนามบินสุวรรณภูมิ เดินหาไม่ยาก เพราะตั้งอยู่บริเวณชั้น B หรือชั้นใต้ดินตรงโซนแอร์พอร์ตลิงก์ สถานีสุวรรณภูมิ เหมาะแก่การเดินทางรถสาธารณะอย่างมาก รีวิวห้องพักจากนักเดินทางหลายคนที่ลองไปบริการกันมาแล้ว ห้องพักมีลักษณะเป็นห้องไม้ทรงกล่องสี่เหลี่ยมขนาดกะทัดรัดประมาณ 4 ตารางเมตร มีความเป็นส่วนตัว พื้นที่ไม่กว้างใหญ่แต่ไม่คับแคบเกินไป ภายในห้องพักมีเตียงเดี่ยวและเครื่องนอนคุณภาพเยี่ยมเทียบเท่ามาตรฐานโรงแรม 5 ดาว มีกระจกเงาด้วย ผู้ใหญ่นอนคนเดียวสบายหรือมีเด็กเล็กนอนด้วยได้อีกคน (เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี หรือสูงไม่เกิน 100 เซนติเมตร) แต่ถ้าเป็นผู้ใหญ่ต้องนอนแยกเดี่ยวเท่านั้น ประตูห้องพักเป็นระบบสมาร์ทคีย์ ในห้องมีปลั๊กไฟ และรหัส Wi-Fi ให้ใช้ฟรี มีโต๊ะพับเอาไว้เขียน นั่งทำงาน หรืออ่านหนังสือก็ได้

ในห้องพักแบบ BOXTEL ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว ด้วยขนาดพื้นที่จำกัด ห้องน้ำแยกเป็นสัดส่วนออกไปก็เป็นเรื่องดี เดินไปไม่ไกลใช้ห้องน้ำส่วนกลางของแอร์พอร์ตลิงก์ได้ มีปุ่มกดเรียกพนักงานเมื่อ ต้องการความช่วยเหลือและบริการโทรปลุกแขกที่อยู่ในห้องพัก (Wake Up Call) ไม่ต้องกังวลว่าจะนอนหลับเพลินจนตื่นมาขึ้นเครื่องไม่ทัน บริเวณใกล้เคียงห้องพักมีตู้ ATM และบริการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ มีร้านอาหารและร้านสะดวกซื้อให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ห้องพักของ BOXTEL เปิดบริการมานานกว่า 6 ปีแล้ว มั่นใจในบริการที่มีคุณภาพได้แน่นอน

 

2. Avagard Capsule Hotel

อวกาศ แคปซูล โฮเทล เป็น โรงแรมในสนามบิน อีกแห่งที่หลายคนสนใจเข้ามาเช็คอิน สัมผัสประสบการณ์นอนชิล ๆ ในโรงแรมแคปซูลสักครั้ง ให้บริการห้องพักส่วนตัวสุดชิค บรรยากาศห้องพักสะอาดมากและเรียบง่าย ห้องพักของที่นี่มีล็อกเกอร์ให้เก็บกระเป๋าสัมภาระ 1 ช่องด้วย โรงแรมอวกาศ แคปซูลตั้งอยู่ภายในสนามบินสุวรรณภูมิสะดวกมาก ๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อนระยะสั้นรอต่อเครื่อง ค่าบริการ 589-1,439 บาท/ห้อง/คืน ปัจจุบันโรงแรมแคปซูลได้รับความนิยมอย่างมาก แต่ไม่ได้บริการเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น คนไทยที่เดินทางขึ้นเครื่องตอนเช้ามืดหรือลงเครื่องกลางดึกสำรองห้องพักเข้าใช้บริการพักค้างคืนได้ไม่ต้องนั่งแท็กซี่เสี่ยงอันตรายตอนกลางคืน

  

รีวิวห้องพักที่ Avagard Capsule Hotel

โรงแรมแคปซูลสำหรับนอนหลับพักผ่อนมีลักษณะเป็นห้องเล็กกะทัดรัดดีไซน์ล้ำสมัยเหมือนยุคอวกาศ มีเครื่องใช้บริการในแคปซูลสำหรับ 1 คน เป็นเตียงควีนไซส์และชุดเครื่องนอนสะอาดคุณภาพดี ในห้องแคปซูลมีที่เก็บกระเป๋าเดินทาง ช่องชาร์จ USB พร้อมบริการอินเทอร์เน็ตไร้สาย (Wi-Fi) ฟรี และไฟอ่านหนังสือ ด้านในยังมีกล้องวงจรปิดคอยรักษาความปลอดภัยไว้ให้ด้วย แต่ไม่มีห้องน้ำส่วนตัว ใช้ห้องน้ำส่วนกลางของแอร์พอร์ตลิงก์ได้ ใกล้ ๆ มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง ร้านอาหารและคาเฟ่หลายแห่งใกล้ที่พักเพียงไม่กี่ก้าว ใครอยากรู้จักโรงแรมแคปซูล อย่าพลาดเข้าไปสำรองห้องพักกัน

  

บริการโรงแรมในสนามบินสุวรรณภูมิเหมาะกับใครบ้าง

ถ้าบ้านไกลต้องบินเช้ามืด ไม่คิดจะเดินทางออกจากบ้านตั้งแต่ตีสี่ แต่ก็ไม่อยากพลาดเที่ยวบิน เพียงจองห้องพักแบบส่วนตัวเข้ามาเอนหลังรอก่อนขึ้นเครื่องได้ที่ Boxtel และ Avagard Capsuleไม่ต้องนั่ง ๆ นอน ๆ รอเครื่องตามเก้าอี้สนามบินเป็นเวลานาน ๆ ไปนอนรอที่สนามบินเลยทั้งสะดวกและประหยัดเงินกว่าค่าห้องพักของโรงแรมใกล้สนามบิน เนื่องจากแอร์พอร์ตลิงก์สุวรรณภูมิเปิดเที่ยวแรกเวลา 05.30 น. และเที่ยวสุดท้ายเวลาประมาณเที่ยงคืน หากกลับไฟล์ทดึก รถไฟฟ้าหมดและเรียกแท็กซี่ยาก แต่ลงเครื่องดึกแค่ไหนก็เข้าเช็คอินห้องพักที่นี่ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ยิ่งต้องแบกสัมภาระเดินทางด้วย การพักโรงแรมใน สนามบินสุวรรณภูมิเป็นทางเลือกที่สะดวกมากเพราะไม่ต้องแบกกระเป๋าเดินทางออกนอกอาคารสนามบิน

เปรียบเทียบกับโรงแรมทั่วไปแล้ว โรงแรมในสนามบินทั้งสองแห่งให้ความสะดวกสบายสำหรับคนที่มีเที่ยวบินเช้าหรือรอต่อเครื่องนานหลายชั่วโมง ห้องพักสะอาดตาราคาหลักร้อยอาจดูย่อมเยากว่าค่าห้องนอนส่วนตัวในโรงแรมอื่น ๆ ที่อยู่ใกล้สนามบินที่ให้ความสะดวกสบายและกว้างขวางกว่ามาก แต่ชดเชยกับความสบายใจว่าจะไม่พลาดเที่ยวบินสำคัญแน่นอน

 

บริการของแอร์พอเทลล์

บริการรับและส่งกระเป๋าและสัมภาระ

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าเริ่มต้นที่ 100 บาท/ชิ้น/วัน เพื่อให้คุณทำธุระหรือท่องเที่ยวได้อย่างอิสระ เรามีห้องเก็บกระเป๋าและระบบกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง และให้บริการส่งกระเป๋า ราคาเริ่มต้นที่ 299 บาท/ชิ้น ปลายทางทั้งในกรุงเทพฯ

จุดเด่น

  • เป็นวิธีจัดการเวลาที่ดี สามารถทำให้คุณวางแผนธุรกิจและการท่องเที่ยวของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  • มีบริการรับฝากระยะยาว ทั้งรายสัปดาห์ และรายเดือน
  • ใช้งานง่าย ผ่านการจองออนไลน์ และรูปแบบอื่นๆ
  • ยืนยัน 100% ว่ากระเป๋าเดินทางของคุณจะถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
  • ประกันความเสียหายสูงสุดจำนวน 100,000 บาท
  • สามารถตรวจสอบสถานะหรือสอบถาม ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่าน Facebook, Line, หรือ WeChat พร้อมกับการแจ้งเตือนอัพเดทสถานะผ่าน E-mail
  • บริการขนส่งกระเป๋า ระหว่างสนามบิน ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม คอนโดมิเนียม หรือเกสต์เฮาส์ในกรุงเทพมหานคร

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่สนามบิน

สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 เปิดตลอด 24 ชั่วโมง

สาขาของแอร์พอเทลล์ที่ห้างสรรพสินค้า

MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)

Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)

Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)

โปรโมชั่นพิเศษ

ฝากกระเป๋าฟรี 4 ชั่วโมงแรก ที่MBK CENTER

ติดต่อเรา

หมายเลขโทรศัพท์ : +66 02 026 6927

Website: Luggage Delivery Bangkok

E-mail: [email protected]

Line: @AIRPORTELs

ที่มาข้อมูล : 

รวม 15 สถานที่เที่ยวสุขุมวิท ย่านธุรกิจสุดฮิตของคนกรุงฯ

ถนนสุขุมวิทเป็นชื่อถนนที่หลายคนคุ้นหู นับเป็นถนนสำคัญอีกหนึ่งสายที่ทอดยาวที่สุดในประเทศไทย โดยเริ่มต้นจากใจกลางเมืองกรุงเทพมหานครไปจนถึงชายแดนประเทศกัมพูชา นอกจากเป็นชื่อถนนแล้ว ยังเป็นชื่อย่านใจกลางเมืองที่เป็นแหล่งเศรษฐกิจสำคัญของกรุงเทพมหานครอีกด้วย เพราะที่นี่เต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารชื่อดัง สถานบันเทิงมากมาย แหล่งที่เที่ยวสุขุมวิทเป็นพื้นที่ที่ให้ผู้คนมากิน เที่ยว เล่น พักผ่อนได้อย่างครบจบในที่เดียว 

นับเป็นย่านที่คึกคักอันดับต้นๆ ของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ ทำให้คนกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่จึงมักเลือกพักผ่อนและมาหาที่เที่ยวแถวสุขุมวิท ทั้งในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์และหลังเลิกงาน 

สำหรับใครที่กำลังหาที่เที่ยวสุขุมวิทที่สะดวกสบาย ครบครัน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง บทความนี้ได้รวบรวมมาให้แล้ว ทั้งหมด 15 ที่เที่ยวสุขุมวิทที่น่าสนใจ 

ท้องฟ้าจำลอง

1. ท้องฟ้าจำลอง

ท้องฟ้าจำลองเป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่เดินทางไปได้สะดวกมากๆ โดยการเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS สายสุขุมวิท ที่นี่เป็นแหล่งการเรียนรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์และวิทยาศาสตร์ที่ถูกอนุมัติจัดสร้างโดยกระทรวงศึกษาธิการ 

ภายในเต็มไปด้วยเครื่องมือการเรียนรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น ท้องฟ้าจำลอง ซึ่งเป็นไฮไลต์เด่นที่พลาดไม่ได้เมื่อมาที่นี่ เป็นการจัดแสดงท้องฟ้าจำลองรอบละ 1 ชั่วโมง  ซึ่งมีทั้งการบรรยายความรู้เกี่ยวกับดาราศาสตร์และมีการฉายภาพยนตร์เต็มเรื่องในตอนจบด้วย 

นอกจากนี้แล้วยังมี นิทรรศการวิทยาศาสตร์ โลกใต้น้ำ อาคารสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ อาคารตระหนักรู้พลังงาน และนิทรรศการเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์อื่นๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะพาน้องๆ หนูๆ มาเรียนรู้หรือผู้ใหญ่จะไปเที่ยวชมก็ได้ 

  • ที่อยู่: 928 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: ท้องฟ้าจำลอง  
  • เวลาทำการ: วันศุกร์ 11:00 น. – 15:00 น. /  วันเสาร์-อาทิตย์ 10:00 น. – 15:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัว จอดรถได้ที่พื้นที่จอดรถที่จัดไว้ของท้องฟ้าจำลอง
    • รถเมล์ประจำทาง สาย 149, 2, 25, 38, 40, 48, 501, 508, 511, 72
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย ทางออก 2
สวนเบญจสิริ

2. สวนเบญจสิริ

สวนเบญจสิริเป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวสุขุมวิทแนวธรรมชาติที่น่าสนใจ ที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้ พื้นที่ธรรมชาติ เน้นการออกแบบให้เป็นสวนที่มีพื้นที่โล่ง โปร่ง สามารถมองเห็นท้องฟ้าได้กว้างเต็มตา เหมาะแก่การมานั่งพักผ่อนหรือออกกำลังกาย ภายในสวนนอกจากจะมีต้นไม้ให้ร่มเงาแล้ว ยังมีประติมากรรมสวยๆ กลางสวนให้ได้ชมกันอีกด้วย 

สวนเบญจสิริเป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่คนกรุงนิยมมาพักผ่อนกันอย่างมาก ด้วยการเดินทางที่สะดวก ใกล้ถนนสายหลัก เดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ได้ อยู่ใจกลางเมืองที่สามารถมาออกกำลังกายหลังเลิกงาน จึงตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับใครที่มองหาที่เที่ยวแนวธรรมชาติกลางกรุงขอแนะนำให้มาที่นี่เลย

  • ที่อยู่: อยู่ระหว่างซอยสุขุมวิท 22 และ 24 บนถนนสุขุมวิท แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: สวนเบญจสิริ 
  • เวลาทำการ: เปิดทุกวัน 05:00 – 21:00 น.
  • การเดินทาง: รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ 

3. หอศิลป์ศุภโชค (SAC Gallery)

หอศิลป์ศุภโชคเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่โดนใจสายอาร์ตที่รักศิลปะอย่างแน่นอน เพราะที่นี่เป็นตึกรวมผลงานศิลปะมากมายทั้งจากชาวไทยและชาวต่างประเทศ 

โดยตึกถูกออกแบบสไตล์โมเดิร์น ดูโดดเด่น มีทั้งหมด 3 ชั้นด้วยกัน แต่ละชั้นมีงานศิลปะจัดแสดงเต็มทุกพื้นที่ ภายในมีทั้งการบรรยาย งานนิทรรศการศิลปะงานสาธิตต่างๆ รวมถึงงานเวิร์กช็อปอีกด้วย ใครที่มองหาที่เที่ยวแถวสุขุมวิทแนวนี้แวะมาได้เลยที่หอศิลป์ศุภโชค 

  • ที่อยู่: 160/3 ซอยสุขุมวิท 33 (แดงอุดม) ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110  
  • พิกัด: หอศิลป์ศุภโชค (SAC Gallery) 
  • เวลาทำการ: วันอังคาร – ศุกร์ เวลา 10:00 – 18:00 น. และ วันเสาร์เวลา 11:00 – 18:00 น.  (ปิดทุกวันอาทิตย์-วันจันทร์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) 
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออกที่ 5 (ซอยสุขุมวิท 35) 
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท ทางออกที่ 2 (อาคารอินเตอร์เช้นจ์ 21) 
    • รถเมล์โดยสารประจำทาง สาย 2, 25, 501, 508, 511, 513, 38, 40 และ 48
    • เรือด่วนคลองแสนแสบ ลงที่ท่าเรืออิตันไทย
Japanese Town

4. Japanese Town

Japanese Town เป็นที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่น่าสนใจ สำหรับใครที่อยากเดินเล่น ชมบรรยากาศแบบญี่ปุ่น โดยไม่ต้องบินไปไกล ใจกลางกรุงเทพฯ ก็มี เดิมทีที่นี่เป็นชุมชนคนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ แต่ปัจจุบันกลายเป็นสถานที่เที่ยวสุดฮิตของนักท่องเที่ยวแทน เพราะเต็มไปด้วยร้านอาหารญี่ปุ่นแบบดั้งเดิม มีเมนูให้เลือกมากมายหลายร้านเลยทีเดียว ทุกร้านทำโดยคนญี่ปุ่นแท้ๆ 

นอกจากนี้ยังมีร้านอื่นๆ อีกมากมายไม่ว่าจะเป็นร้านนวด สปา ร้านหนังสือ ร้านเช่า DVD โรงเรียนคาราเต้ และร้านขายทัวร์ ทำให้ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยบรรยากาศเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นมากๆ นับเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทสุดสัปดาห์ที่น่ามาไม่แพ้ที่อื่นเลย 

  • ที่อยู่: ซอยสุขุมวิท 33/1 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตพัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Japanese Town 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออกที่ 5 เดินต่อไปที่ซอยสุขุมวิท 33/1 
Flow House Thailand (Bangkok)

5. Flow House Thailand (Bangkok)

เอาใจสายลุยกันบ้างกับที่เที่ยวสุขุมวิทอย่าง Flow House Thailand บีชคลับกลางใจเมือง ที่นี่คือศูนย์เล่นเซิร์ฟจำลองกลางกรุงเทพฯ ที่เดินทางสะดวก ไม่ต้องไปถึงทะเลก็เล่นเซิร์ฟได้ที่นี่ ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีสปอร์ตบาร์ ห้องเล่นเกม ร้านค้าต่างๆ ร้านอาหารและคาเฟ่อีกด้วย เป็นอีกที่เที่ยวแถวสุขุมวิทสำหรับสายกีฬาที่น่าสนใจอย่างมาก มาที่เดียวจบทั้งทำกิจกรรม ทานอาหาร พักผ่อน

  • ที่อยู่: 120/1 A-Square, ซอยสุขุมวิท 26 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด:  Flow House Thailand (Bangkok)  
  • เวลาทำการ: วันจันทร์ – วันพุธ 11:00 – 21:00 น. / วันพฤหัสบดี – วันอาทิตย์ 10:00 – 21:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีคลองเตย 
Whizdom Club

6. Whizdom Club

สำหรับใครที่มองหาพื้นที่ทำงาน อ่านหนังสือ ไม่จำเป็นต้องพึ่งแค่ห้องสมุดอีกต่อไป เพราะที่เที่ยวสุขุมวิทสำหรับคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ ได้แรงบันดาลใจมาจาก Knowledge Sharing Society ทำให้ที่นี่กลายเป็น Co-Working Space ที่ถูกแบ่งออกเป็นหลายโซนด้วยกัน ทั้งโซนพื้นที่ทำงาน (Workspace Station) โซนพื้นที่ทำกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน (Whiz Ground) และโซนพื้นที่จัดแสดง (Exhibition Room) ทำให้ที่นี่เป็นมากกว่าพื้นที่ทำงานร่วมกัน แต่เป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่เต็มไปด้วย Inspiration ความคิดสร้างสรรค์ การเรียนรู้สิ่งใหม่ที่น่าสนใจกลางกรุงเทพมหานคร 

  • ที่อยู่: โครงการ 101 True Digital Park ชั้น 4 ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10260
  • พิกัด: Whizdom Club  
  • เวลาทำการ:  ทุกวัน 08:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีปุณณวิถี ทางออกที่ 6

7. Park Lane 

Park Lane เอกมัยเป็นอีกที่เที่ยวสุขุมวิทที่น่าสนใจ ที่นี่เป็นคอมมิวนิตีมอลล์สไตล์คนเมืองตั้งอยู่ใจกลางกรุงเทพฯ จุดเด่นคือที่นี่ถูกออกแบบให้ผู้ที่มาเยือนได้รับรู้สึกผ่อนคลายกลางใจเมืองสุดๆ ด้วยต้นไม้ สวน น้ำพุ การตกแต่งอาคารสุดชิคทำให้ที่นี่แตกต่างจากสถานที่ชอปปิงบนตึกสูงทั่วไป

ที่สำคัญเพียบพร้อมไปด้วยร้านค้ามากมาย ทั้งร้านเสื้อผ้า ร้านเครื่องสำอาง ร้านเสริมสวย ร้านสปา ร้านแว่น ร้านอาหาร คาเฟ่ และที่สำคัญที่นี่ตอบโจทย์อย่างยิ่งสำหรับครอบครัวที่กำลังมองหาที่เที่ยวสุขุมวิทที่มีพื้นที่รองรับเด็กๆ เพราะที่นี่มีร้าน Play Time สวนสนุกในร่มสำหรับเด็กไว้ให้บริการด้วย 

  • ที่อยู่: 18 ซอยสุขุมวิท 61 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Park Lane 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 06:00 – 02:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีเอกมัย แล้วเข้าซอยสุขุมวิท 63 ต่อไปอีก 400 เมตร
The TwentySix 

8. The TwentySix 

The Twenty Six เป็น Shop House ที่เที่ยวสุขุมวิทใจกลางเมือง ตั้งอยู่ที่ซอยสุขุมวิท 26 เป็นพื้นที่ที่ได้รวมเอา 8 ร้านค้าไว้ในพื้นที่เดียวกัน มาที่เดียวครบครันทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ร้านอาหาร ร้านขายของใช้น่ารักๆ คาเฟ่ ร้านทำเล็บ ร้านต่อขนตา สักคิ้ว ฝังสีปาก สตูดิโอสอนทอผ้า Golf Academy ร้านขายเสื้อผ้าและร้านแว็กซ์ ให้คุณได้มาพักผ่อนกับที่เที่ยวแถวสุขุมวิทใจกลางกรุงเทพฯ เพียบพร้อมด้วยบริการที่ครบครัน

  • ที่อยู่:  34/1 ซอยสุขุมวิท 26  แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด:  The TwentySix 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพษ์ แล้วเข้าซอยอารีย์ 650 เมตร 
RQ 49 Health & Lifestyle Mall

9. RQ 49 Health & Lifestyle Mall

มาต่อกันที่ที่เที่ยวสุขุมวิทเอาใจสายสุขภาพกันบ้าง ที่ RQ 49 Health & Lifestyle Mall ที่นี่เป็นมากกว่าคอมมิวนิตีมอลล์ทั่วไป เพราะเต็มไปด้วยการให้บริการด้านสุขภาพและความงามและร้านอาหารชั้นนำ โดยเฉพาะอาหารญี่ปุ่นมีให้เลือกมากมาย พร้อมกับการตกแต่งสไตล์ Japan Modern ทำให้บรรยากาศที่นี่ นอกจากจะเป็นศูนย์รวมศูนย์สุขภาพแล้วยังได้รู้สึกเหมือนอยู่ใจกลางญี่ปุ่นอีกด้วย

  • ที่อยู่: 49/7 ถนนสุขุมวิท แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110 
  • พิกัด: RQ 49 Health & Lifestyle Mall 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 08:00. น. – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีทองหล่อหรือสถานีพร้อมพงษ์ แล้วเข้าซอยสุขุมวิท 49 ต่อไปอีก 1.5 กิโลเมตร
The EmQuartier

10. The EmQuartier

ที่เที่ยวสุขุมวิทที่สายชอปปิงจะพลาดไม่ได้เลยก็คือ ศูนย์การค้า The EmQuartier ที่มีร้านค้าชั้นนำระดับโลกมากมายให้ได้เลือกชอป ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เครื่องใช้ไฟฟ้าและยังมีร้านอาหารชื่อดังมากมาย

เป็นแหล่งการค้าใจกลางเมืองที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาตินิยมมากันเยอะมาก เพราะมีสินค้าให้เลือกครบครัน ไม่ว่าจะมาชอปปิงหรือพักผ่อนก็ถือว่าตอบโจทย์มากเลยทีเดียว ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่นี่ยังมีโปรโมชั่นมากมายเอาใจนักชอปรออยู่อีกด้วย

และจุดที่พลาดไม่ได้สำหรับใครที่อยากชมวิวเมืองย่านสุขุมวิทจากมุมกว้าง ต้องไปที่สกายคลิฟ ชั้น 45 ของ The EmQuartier ที่นี่คุณจะได้เห็นกรุงเทพมหานครในแบบ 360 องศาเต็มๆ ตา รับรองว่าหาไม่ได้จากห้างสรรพสินค้าไหนอย่างแน่นอน

  • ที่อยู่: 695 ถนนสุขุมวิท แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110 
  • พิกัด: The EmQuartier 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น. 
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท
Terminal 21 Asok

11. Terminal 21 Asok

ที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่เป็นทั้งแหล่งชอปปิงและรวมร้านอาหารชื่อดังรสเด็ด ที่เมื่อมาเที่ยวกรุงเทพฯ จะต้องมาเยือนให้ได้ ก็คือที่ Terminal 21 Asok (อโศก) นั่นเอง ที่นี่มีทั้งร้านค้าแบรนด์ชั้นนำให้คุณได้ชอปปิงมากมาย รวมถึงร้านอาหารเด็ดๆ อีกหลากหลายร้าน มีให้เลือกทั้งอาหารไทยและนานาชาติ ที่สำคัญที่นี่ยังเป็นที่เที่ยวสุขุมวิทที่มีศูนย์อาหารที่ราคาถูกกลางใจเมือง อยู่ในห้างสรรพสินค้า Terminal 21 หลากหลายร้านด้วยกัน 

สำหรับนักท่องเที่ยวคนไหนที่มาเที่ยวแล้วไม่อยากลากกระเป๋าเดินทางติดตัวให้วุ่นวาย หรือชอปปิงเยอะจนถือไม่ไหว ไม่อยากหิ้วถุงชอปปิงไปที่อื่นต่อ ที่ Terminal 21 มีให้บริการฝากกระเป๋าเดินทางและถุงชอปปิงของ Airportels ที่ช่วยให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชอปได้อย่างสบาย เที่ยวได้ไร้กังวล เพียงฝากกระเป๋าหรือฝากของไว้กับ Airportels 

  • ที่อยู่: 88 ซอยสุขุมวิท 19 แขวงคลองเตยเหนือ เขตทวีวัฒนา จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Terminal 21 Asok 
  • เวลาทำการ:  ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.  
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีอโศก
    • รถไฟฟ้า MRT สถานีสุขุมวิท
Gateway Ekamai

12. Gateway Ekamai

หากกำลังมองหาที่เที่ยวสุขุมวิท แหล่งชอปปิงกลางใจเมืองที่ส่วนใหญ่มีราคาไม่แพง ขอแนะนำ Gateway Ekamai ศูนย์การค้าที่รวมสินค้ามากมายในสไตล์ญี่ปุ่นที่มีคุณภาพดีและราคาไม่แพง โดยเฉพาะสินค้า IT ที่นี้ได้แบ่งโซน IT CITY ที่รวมอุปกรณ์ IT Gatget ไว้มากมายสำหรับสาย IT ต้องถูกใจอย่างแน่นอน รวมทั้งยังมีร้านอาหารญี่ปุ่นที่ราคาดีให้เลือกสรรหลายร้านด้วยกัน เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้ครบทั้งชอปปิงของที่ชอบและได้ทานอาหารรสชาติที่ใช่ 

  • ที่อยู่: 982 ถนนสุขุมวิท 22  แขวงพระโขนง เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Gateway Ekamai 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถเมล์ รถประจำทาง สาย 2, 23, 25, 38, 40, 48, 71, 98, 501, 508, 511
    • รถไฟฟ้า BTS ลงสถานีเอกมัย ทางออก 4 
    • เรือโดยสาร คลองแสนแสบ เลือกลงท่าเรือ ร.ร. วิจิตรฯ ท่าเรือชาญอิสระ หรือท่าเรือทองหล่อ

13. Starbucks Sukhumvit 21

พลาดไม่ได้สำหรับที่เที่ยวสุขุมวิทเอาใจสายคาเฟนั่นคือ Starbucks Sukhumvit 21 สาขา Camp Davis ภายนอกร้านถูกออกแบบตกแต่งในสไตล์อังกฤษ ถ่ายรูปออกมาสวยมาก ทำให้ mood ภาพออกมาแล้วราวกับอยู่ที่อังกฤษจริงๆ เป็นอีกคาเฟที่ดีไซน์โดดเด่นไม่เหมือนคาเฟอื่นๆ ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทย คนต่างชาติ รวมถึงคนกรุงเทพฯ เองมักไปเที่ยวพักผ่อนนั่งรับประทานขนมและจิบเครื่องดื่ม รวมถึงถ่ายรูปสวยๆ กันเยอะมากๆ ใครที่อยากได้รูปสุดเก๋ มูดภาพชิคๆ ต้องมาที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่นี่เลย

  • ที่อยู่: 88 สุขุมวิท 24 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย จังหวัดกรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Starbucks Sukhumvit 21  
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 06:00 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า BTS สถานีพร้อมพงษ์ ทางออก 4 เดินต่อเข้าซอยสุขุมวิท 24 อีก 1.4 กิโลเมตร
Bo.lan

14. Bo.lan

ที่เที่ยวสุขุมวิทสำหรับสายกินที่อยากลิ้มลองอาหารไทยรสเลิศติดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดของเอเชีย ต้องมาที่ร้าน Bo.lan (โบราณ) ที่นี่เป็นร้านอาหารไทยที่มีจุดเด่นคือ เลือกใช้วัตถุดิบจากเกษตรไทยเป็นหลักในการทำอาหาร โดยผ่านการคิดและพัฒนาจนเพิ่มมูลค่าของอาหารได้มากขึ้น จนได้พาอาหารไทยไปสร้างความรู้จักทั่วโลก 

สำหรับเมนูอาหารที่ร้านนี้จะแตกต่างกันออกไปตามช่วงฤดูของวัตถุดิบ นอกจากอาหารคาวที่รสชาติเป็นเลิศแล้ว ยังมีของหวานแสนอร่อยให้เลือกรับประทานตบท้ายของมื้อกันอีกด้วย ไม่ว่าจะมาแบบคนเดียว มากับคนรู้ใจ มากับเพื่อนหรือมาพร้อมหน้าทั้งครอบครัว ร้าน Bo.lan ถือว่าเป็นอีกที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่ต้องลิสต์เอาไว้เลย 

  • ที่อยู่: 24 ซอยสุขุมวิท 53 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: Bo.lan 
  • เวลาทำการ:
    • วันอาทิตย์ : เปิด 12:00 – 14:00 น.
    • วันจันทร์: ปิด
    • วันอังคาร:  ปิด
    • วันพุธ : 18:00 – 22:00 น.
    • วันพฤหัสบดี : 12:00 – 14:00 น. และ 18:00 – 22:00 น.
    • วันศุกร์ : 12:00 – 14:00 น. และ 18:00 – 22:00 น.
    • วันเสาร์:  12:00 – 14:00 น. และ 18:30 – 22:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • BTS ทองหล่อ แล้วเดินเข้าซอยสุขุมวิท 53 อีก 450 เมตร
Unbirthday Cafe

15. Unbirthday Cafe

ปิดท้ายที่เที่ยวสุขุมวิทที่สุดท้ายกับคาเฟ่บรรยากาศสุดชิลที่มีชื่อว่า Unbirthday Cafe ที่เที่ยวแถวสุขุมวิทที่มีคอนเซปต์ว่าการทานเค้กที่ดี อิ่มอกอิ่มใจ สามารถทานได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ในวันเกิด ทำให้ที่นี่เต็มไปด้วยเค้กที่หลากหลาย รสชาติดี น่าทานทุกชิ้น พร้อมเสิร์ฟให้คุณอิ่มเอมกับวันธรรมดาให้รู้สึกว่าพิเศษขึ้นมาได้ทุกวัน 

ซึ่งหากใครอยากทานเค้กอย่างเดียวก็สามารถไปซื้อได้ที่ Cake shelf ทั้ง 2 สาขา Emquartier ชั้น G และ Siam Paragon ชั้น G แต่ถ้าใครอยากทานเค้กอร่อยๆ พร้อมสัมผัสบรรยากาศ Cozy อบอุ่น สบายตา เหมือนอยู่บ้าน ต้องมาที่ Unbirthday Cafe Flagship Store ที่สุขุมวิท 31 

จุดเด่นของคาเฟ่นี้ หากมาตามทางที่บอกแล้วอาจมองหาร้านไม่เจอเพราะที่ตั้งของคาเฟ่จะอยู่บนชั้น 2 ของมาเปงเส็ง อพาร์ทเม้นท์ ให้เดินขึ้นมาเลยแล้วจะพบกับบรรยากาศสุดน่ารักและอบอุ่นของร้าน ในโทนสีขาวและสระว่ายน้ำ พร้อมกับมีส่วน Glasshouse ให้แสงเล็ดลอดเข้ามาเล็กน้อย ไม่ว่าจะพักผ่อนด้วยการทานเค้กแสนอร่อยหรือถ่ายรูปสวยๆ Unbirthday Cafe ก็ตอบโจทย์เป็นอย่างยิ่ง 

  • ที่อยู่: ชั้น 2 มาเปงเส็ง อพาร์ทเม้นท์ 14 สุขุมวิท 31 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10110
  • พิกัด: https://goo.gl/maps/mCNPYdZWxWok3DMi8 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 09:00 – 19:00 น.
  • การเดินทาง:
    • รถยนต์ส่วนตัวหรือแท็กซี่
    • รถไฟฟ้า สถานีพร้อมพงษ์ เดินตรงเข้าซอยสุขุมวิท 31 อีก 750 เมตร 

ย่านที่เที่ยวสุขุมวิทนอกจากจะมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำมากมายที่หลายคนนึกถึงเมื่อพูดถึงที่เที่ยวแถวสุขุมวิท ยังมีที่เที่ยวที่ให้เดินเล่น ชมธรรมชาติ พักผ่อน เที่ยวแบบชิลล์นอกจากการชอปปิงอีกหลายต่อหลายที่ที่น่าสนใจ หลายคนอาจไม่เคยคิดมาก่อนว่าใจกลางเมือง ย่านเศรษฐกิจอย่างสุขุมวิทจะมีที่เที่ยวที่ใกล้ชิดธรรมชาติ ที่พักผ่อนสุดชิลล์อยู่ด้วย และจะเห็นได้ว่ากรุงเทพฯ ก็มีที่เที่ยวอีกหลายที่มากมายที่น่าสนโดยเฉพาะที่เที่ยวสุขุมวิทที่รอให้คุณไปลองเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ 

สามารถเที่ยวอย่างสบายใจ ไม่กังวลเรื่องกระเป๋าเดินทาง แม้ชอปเยอะก็ไม่ต้องว่าจะกลัวแบกไม่ไหว เพียงฝากกระเป๋าให้ Airportels ดูแล ก็ทำให้คุณเที่ยวได้เต็มที่ ชอปได้จุใจ ไม่ต้องลากกระเป๋าไปด้วย 

AIRPORTELs  ในห้างTerminal 21

บริการรับฝากและขนส่งกระเป๋าเดินทางในประเทศไทย ให้คุณเดินทางได้อย่างสะดวกปลอดภัย ไม่ต้องกังวลกับน้ำหนักสัมภาระ ให้คุณท่องเที่ยวในประเทศไทยแบบไร้กระเป๋าเดินทาง ราคาขนส่งกระเป๋าเริ่มต้น 299 บาท ราคารับฝากกระเป๋าเริ่มต้น 30 บาท/ชั่วโมง เท่านั้น หรือจะเหมาทั้งวัน 150 บาท/ใบ 

  • AIRPORTELs  ในห้างTerminal 21 ชั้น1 โซนโตเกียว (ติดทางออกลานจอดรถ)
  • พิกัด: Terminal 21 Asok 
  • เวลาทำการ: ทุกวัน 10:00 – 22:00 น.

21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ง้อรถส่วนตัว

ในวันหยุดพักผ่อนทั้งทีแต่มีเวลาแสนน้อยนิด คุณลองมองหาที่เที่ยวที่ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปไกลหลายกิโลก็สามารถเอนจอยได้ เป็นแพลนการเที่ยวที่เหมาะสำหรับคนไม่มีรถส่วนตัว ไม่สะดวกเดินทางไปไหนมาไหนไกลแต่คุณสามารถไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ BTS ได้อย่างเพลิดเพลินกับ 21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ต้องง้อรถส่วนตัว 

BTS สนามกีฬาแห่งชาติ 

BTS สนามกีฬาแห่งชาติ 

เริ่มต้นที่สถานีแรกก็ปังไม่ไหวกับสถานี BTS สนามกีฬาแห่งชาติ สามารถเดินทางมาได้อย่างง่ายดาย แต่คุณกลับได้พบกับสถานที่สุดพิเศษเสิร์ฟตรงหน้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินสุดชิกอย่างหอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร ชวนเพื่อนมาถ่ายรูปแนวเก๋ ๆ แนวสวยก็มีหลายมุม หรือจะเป็นอุทยาน 100 ปี จุฬาจุดพักผ่อนชิลๆ รับลมเย็น ที่สำคัญใครที่อยากเดินเล่นด้วยความคล่องตัวที่นี่เขามีจุดฝากกระเป๋าด้วย 

  • บริการฝากสัมภาระ MBK CENTER : AIRPORTELs – ชั้น 6 , โซน บี
  • โปรโมชั่นฝากฟรี 2 ชั่วโมง

อุ่นใจเมื่อกระเป๋าสุดที่รักอยู่ในที่ปลอดภัย แล้วทีนี่ก็เดินเที่ยวอย่างไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วล่ะ       

1. หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร

จุดเช็กอินแรกที่ไม่ควรพลาดเมื่อมาถึงสถานีนี้ก็คือ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร หรือเรียกสั้น ๆ ว่าหอศิลป์ ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวสุดฮิตในหมู่วัยรุ่นที่หลงใหลในงานศิลป์ไปพร้อมๆ กับได้ถ่ายรูปเด็ดเก็บไว้ในอัลบั้มโปรดก็แจ่มเวอร์ โดยหอศิลป์จะเป็นสถานที่รวบรวมในการจัดแสดงงานศิลปะหลายแขนงเลย รับรองถูกใจสายอาร์ตแน่นอน สามารถเดินทางจาก BTS สนามกีฬาแห่งชาติเพียง 200 เมตรเท่านั้น เรียกว่าเดินเพลินๆ แป๊บเดียวก็ถึง

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/CyrHwyT7BfhydKQu8 
  • เวลาเปิด – ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 10:00 – 20:00 น. 
  • เบอร์โทร : 02 – 2146630 

2. อุทยาน 100 ปี จุฬา 

อุทยาน 100 ปี จุฬา เป็นสวนสาธารณะพื้นที่สีเขียวแสนโดดเด่นใจกลางเมือง โดยมีเนื้อที่กว่า 29 ไร่ สวนแห่งนี้เกิดขึ้นได้ด้วยนโยบายการสร้างเมือง Green & clean city ได้ทราบถึงที่มาที่ไปอันน่าทึ่งขนาดนี้แล้วจะพลาดได้ยังไงล่ะ ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่รักความเป็นส่วนตัว อากาศดีปลอดโปร่ง และได้เห็นวิวธรรมชาติชิลๆ ซึ่งการเดินทางมาจาก BTS สนามกีฬาแห่งชาติห่างกัน 1.3 กิโลเมตร แนะนำให้เรียกวินจะได้ถึงที่หมายได้เร็วขึ้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/KaFm5ghSfiv9eyKy9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 05:00 – 22:00 น. 
  • เบอร์โทร : 022183590 
ที่เที่ยวใกล้ BTS หมอชิต

BTS หมอชิต 

สถานีต่อมาเป็นสถานี BTS ที่สร้างความตะลึงพรึงเพริดต่อคนเพิ่งมาเยือนกรุงเทพฯ ครั้งแรกได้ดี และเป็นหนึ่งสถานีที่แน่นไปด้วยผู้คน แต่ผู้คนเหล่านั้นล้วนตื่นเต้นที่จะไปต่อเพราะหนทางข้างหน้ามีอะไรที่น่าสนใจเยอะแยะไปหมด ไม่ว่าจะมุมพักผ่อนอย่างสวนจตุจักร หรือสายชอปปิงก็ไปเดินเล่นที่ตลาดนัดจตุจักรได้เลย แล้วคุณจะไม่ผิดหวังกับการลงจาก BTS หมอชิต แน่นอน 

3. สวนจตุจักร

ใครที่อยากปลีกความวุ่นวายชั่วครู่ แนะนำให้คุณมาเยือนสวนจตุจักรเลย ที่นี่เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่กว้างขวางให้คุณได้มาเดินเล่นอย่างสบายใจ เป็นสถานที่เหมาะสำหรับออกกำลังกายได้ทุกช่วงเวลาไม่ว่าจะเป็นเช้าหรือเย็นก็ดีทั้งนั้น จัดว่าเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยที่ต้องการความสงบ ร่มรื่น รายล้อมไปด้วยสีเขียวเย็นตา ซึ่งการเดินทางมาที่นี่จาก BTS หมอชิตก็ห่างกันเพียง 700 เมตรเท่านั้น 

  • บริการฝากสัมภาระ MIXT Chatuchak : AIRPORTELs – ชั้น 2 , โซน บี
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/yfBKXx4VVzCEerFA9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 04:30 – 22:00 น. 
  • เบอร์โทร : –

4. ตลาดนัดจตุจักร 

ใครที่ชื่นชอบการชอปปิงให้ลองมาเยือนตลาดนัดจตุจักรไม่มีผิดหวังแน่ ที่แห่งนี้เป็นแหล่งรวมการขายสินค้าขนาดใหญ่แบ่งเป็น 27 โครงการเลยทีเดียว สินค้ามีหลากหลายไม่ว่าจะเป็นแฟชั่น ต้นไม้ สัตว์เลี้ยง ร้านอาหาร รวมไปถึงงานศิลป์งานฝีมือก็มีจัดแสดงและจำหน่ายด้วย  จัดว่าที่นี่เหมาะสำหรับสายเที่ยว กิน ชอป ครบจบในที่เดียว  ซึ่งการเดินทางจาก BTS หมอชิตห่างกันเพียง 450 เมตรเท่านั้น

  • บริการฝากสัมภาระ MIXT Chatuchak : AIRPORTELs – ชั้น 2 , โซน บี     
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/utjr1JpyNr7qfmXV7 
  • เวลาเปิด-ปิด : วันจันทร์ – ศุกร์ 07:00 – 18:00 น.

                วันเสาร์ – อาทิตย์ 09:00 – 18:00 น.

  • เบอร์โทร : –
ที่เที่ยวใกล้ BTS ชิดลม

BTS ชิดลม

มาต่อกันที่สถานี BTS ชิดลม สถานีใจกลางเมืองอีกหนึ่งแห่งที่มีความโดดเด่นไม่เหมือนใคร สามารถเดินทางไปยังจุดท่องเที่ยวได้อย่างสะดวก นั่นคือ เซ็นทรัลชิดลม สำหรับใครที่ชอบเดินห้างเมื่อลงจากสถานีแล้วสามารถเดินต่อไปหน่อยหนึ่งก็ถึงศูนย์การค้าทันที

5. เซ็นทรัลชิดลม 

สำหรับเซ็นทรัลชิดลมถือเป็นห้างที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสูงมาก ใครที่ผ่านมาเห็นต่างก็สะดุดตากันทั้งนั้น ด้วยตัวห้างตั้งอยู่บริเวณแยกที่มีวิวของมุมตึกในรูปแบบสถาปัตยกรรมสวยงามโดดเด่น เรียกว่าเห็นปั๊ปอยากเอามือถือที่จับอยู่มาแชะรูปทันที ที่นี่เหมาะสำหรับสายเดินห้างรับลมเย็น เดินเล่นตากแอร์สบาย ๆ ที่สำคัญที่นี่ห่างจากตัว BTS ชิดลมเพียง 650 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/iQCjixS1yqKKWstp8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 22:00 น. 
  • เบอร์โทร : 027937777  
ที่เที่ยวใกล้ BTS ศาลาแดง

BTS ศาลาแดง

ใครกำลังมองหาแหล่งอ่านหนังสือ จิบกาแฟน่านั่งแล้วล่ะก็ลง BTS ศาลาแดงแล้วคุณจะเจอคำตอบที่ต้องการ สำหรับสถานีแห่งนี้มีคอมมอนส์ที่มีชื่อว่า the COMMONS จะเป็นยังไงนั้นตามไปดูกัน 

6. The Commons 

the COMMONS เป็นเซฟโซนสำหรับคนที่ต้องการหามุมทำงานสบายๆ แต่เดินทางได้ง่ายไม่ยุ่งยาก เพราะที่นี่แห่งนี้มีทั้งโซนนั่งแบบอินดอร์และเอาท์ดอร์ รับรองเลยว่าจะสร้างความประทับใจในการมาเยือนให้กับคุณได้แน่ ภายในมีอาหารและเครื่องดื่มอร่อยๆ ให้เลือกเยอะมาก แถมแอร์ก็เย็นฉ่ำเวอร์ เหมาะสำหรับคนอยากมาพักผ่อนสุด ๆ และที่นี่ห่างจาก BTS ศาลาแดงประมาณ 7 กิโล อาจจะไกลหน่อยแต่สามารถเรียกวินได้เลย ระยะทางแค่นี้ไม่แพงมาก

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/niMnPXmqDiCu5ZNn7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 08:00 – 01:00 น. 
  • เบอร์โทร : 0891522677 
ที่เที่ยวใกล้ BTS ช่องนนทรี

BTS ช่องนนทรี

หากกำลังมองหาแลนด์มาร์กที่มีความโดดเด่นในช่วงกลางคืนแล้วล่ะก็ที่ BTS ช่องนนทรีจัดว่าเป็นจุดเช็กอินที่จะทำให้คุณได้ร้องว้าวกับภาพตรงหน้าในยามค่ำคืนในมหานครได้ดี มีจุดไฮไลต์เป็นสะพานช่องนนทรี สะพานสีขาวชื่อดังที่ทั้งคนกรุงและคนต่างจังหวัดต่างก็คุ้นตาเป็นอย่างดี

7. สะพานช่องนนทรี 

สายถ่ายรูปต้องหลงรักที่แห่งนี้แน่ สะพานช่องนนทรี เป็นสกายวอล์กที่กลายเป็นจุดถ่ายรูปสุดปังที่ไม่ว่าจะถ่ายมุมไหน ถ่ายยังไง ภาพที่ออกมาก็สวยเป๊ะปังทุกภาพแน่นอน ด้วยที่นี่มีตัวสะพานที่ขาวสุดโดดเด่นตั้งตระหง่านอย่างงดงาม เรียกว่าเห็นสิ่งนี้แต่ไกล ๆ ก็อยากรีบกระโจนเข้าไปใกล้ให้เร็วเพื่อที่จะได้ถ่ายรูปใกล้ชิดมากที่สุด การเดินทางจาก BTS ช่องนนทรีจากที่นี่ไม่ไกลมากห่างแค่  110 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/niMnPXmqDiCu5ZNn7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
  • เบอร์โทร : –
ที่เที่ยวใกล้ BTS ตลาดพลู

BTS ตลาดพลู

ที่นี่ถือเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ไม่ไกลจากกลางเมืองเท่าไรนัก และมีเสน่ห์ตรงมีแม่น้ำเจ้าพระยาคั่นไว้แต่กลับสามารถเดินทางสู่ CBD ได้ด้วยการเดินทางที่หลากหลาย และที่สำคัญ BTS ตลาดพลู มีแหล่งชอปปิงลับน่าสนใจที่ถูกซุกซ่อนในตลาดพลูหลายอย่าง อยากรู้แล้วตามมาเลย  

8. ตลาดพลู 

ที่ตลาดพลูแห่งนี้เป็นแหล่งรวมของกินที่เยอะและดีที่สุดของย่านฝั่งธนแล้วล่ะ ใครที่เป็นสายกินอย่าได้พลาดเชียว เมื่อมาถึงนี่แล้วมีโลเคชั่นอยากให้มาเยือนกัน ที่นี่เหมาะสำหรับสายคูลๆ ที่สามารถลองได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นของกินที่หลากหลายทั้งคาวและหวาน แอเรียใกล้เคียงก็เต็มไปด้วยวัดวามากมาย เรียกว่ากินอิ่มก็ไปทำบุญได้เลย ซึ่งการเดินทางจาก BTS ตลาดพลูห่างกัน 1.5 กิโล สามารถเรียกวินเพื่อไปตลาดได้เลย 

พิกัด : https://goo.gl/maps/ybnYfN17b9L4GFe59 

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
                วันพุธ – วันจันทร์เวลา 09:00 – 00:00 น.  

        วันอังคารเปิด 24 ชั่วโมง 

        เบอร์โทร : – 

ที่เที่ยวใกล้ BTS พร้อมพงษ์

BTS พร้อมพงษ์

สถานีถัดมา BTS พร้อมพงษ์ นอกจากการเดินทางที่สะดวกสบายแล้วยังมีสถานที่เดินเล่นชิลล์สุดพิเศษอยู่หนึ่งที่  จะเป็นที่ไหนไม่ได้นอกจาก The Manor 39 เป็นคอมมูนิตี้มอลล์เล็ก ๆ ที่บรรยากาศน่าเข้าไปหาสุด ๆ 

9. The Manor 39

ใครกำลังมองหาจุดแวะใกล้ BTS พร้อมพงษ์ กับสถานที่ที่เต็มไปด้วยความรู้สึกวิเศษต้องลองได้แวะที่นี่คุณต้องถูกใจอย่างแน่นอน The Manor 39 เต็มไปด้วยความสนุก ความผ่อนคลายในที่เดียวกัน เปิดประสบการณ์มาคอมมูนิตี้ที่ซ่อนตัวอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 เป็นโครงการที่มีทั้งคาเฟ่ชิกๆ ร้านอาหารญี่ปุ่นสุดอร่อย ร้านเสริมสวย รวมไปถึงคาราโอเกะเร้าใจ เรียกว่าปาสุขปาใจได้ทั้งวัน อีกทั้งที่นี่หากจาก BTS พร้อมพงษ์เพียง 650 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/WAGvh6qv4ZPNobhh7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 11:30 – 00:00  น.
    เบอร์โทร : 026625541 
ที่เที่ยวใกล้ BTS สะพานตากสิน

BTS สะพานตากสิน

มาต่อกันด้วยสถานีที่จะทำให้คุณได้รับความสนุกสุดเหวี่ยงจัดเต็มไปทั้งวันอย่างที่คุณไม่เคยได้รับมหาศาลเท่านี้มาก่อน เพราะสถานีแห่งนี้พร้อมต้อนรับคุณด้วยสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตหลายที่ไม่ว่าจะเป็น ล้ง 1919, Warehouse 30, ตลาดน้อย, The Jam Factory, เอเชียทีค และไอคอนสยาม เป็นไงแต่ละที่มีแต่ปัง ๆ ใช่ไหมล่ะ รับรองงานนี้เที่ยวจนตัวแตกเพียงแค่ลงจาก BTS สะพานตากสิน ก็รับความสนุกได้เต็มแมกซ์ 

10. ล้ง 1919

ประเดิมด้วยสถานที่พักผ่อนสุดแนวเอาใจทุกเจน ที่นี่เดินทางมาได้ง่ายมากแค่ลง BTS ต่อเรือด่วนเจ้าพระยาเพื่อมาลงท่าเรือหวังหลีก็ถึงที่หมายแล้วล่ะ มาเยือนล้ง 1919 ทั้งทีคุณทำได้ทั้งเดินเล่นปล่อยใจ ทานอาหารอร่อยๆ กับร้านอาหารน่านั่ง ถ่ายรูปมุมสวยปังทุกช็อต พร้อมไหว้พระขอพรศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว เรียกว่าครบจบในที่เที่ยว ที่สำคัญที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสินเพียง 2.5 กิโล แต่ระยะทางนี้เราเดินต่อกันด้วยเรือนะ แต่เดินหน่อยเดียวก็ถึงแล้วล่ะ 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/XFZvwf19PVQovJZW8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 18:00  น.
    เบอร์โทร : –

11. Warehouse 30

เปลี่ยนบรรยากาศจากที่เที่ยววิวแม่น้ำมาต่อกันด้วยจุดเช็กอินที่เอาใจสายฮิปเปอร์ได้ดี เมื่อคุณลงจากสถานีแล้วเดินเท้าเปล่าอีกนิดไปทางไปรษณีย์กลางบางรัก เห็นเป็นโกดังเก่าติดกันยาวนั่นแหละถึงที่หมาย Warehouse 30 เรียบร้อย ที่นี่มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ หรือร้านเสื้อผ้าก็มีเหมือนกัน พร้อมมีโรงฉายหนังขนาดเล็กดูเพื่อผ่อนคลายได้ดีเยี่ยม ที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสิน 1.3 กิโล ถือว่าไม่ไกลมากนั่งวินแป๊บเดียวถึง

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/pnoBuc1FZfyvYmQx5 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 09:00 – 18:00  น.
  • เบอร์โทร : 022375087 

12. ตลาดน้อย

สถานที่ต่อมาเป็นย่านจีนที่อยู่ใจกลางกรุงเทพฯ ลงมาจากสถานีเดินมาผ่านบางรักมาหน่อยนึงก็ถึงแล้ว หรือจะเดินทางด้วยเรือด่วนเจ้าพระยาก็ได้เหมือนกัน ที่นี่เป็นชุมชนเล็ก ๆ ที่อยู่ตามแนวถนนเจริญกรุง ใครที่หลงใหลความคลาสสิคสไตล์จีนโบราณ หากได้มาเยือนที่ตลาดน้อยจะต้องชอบแน่ สายถ่ายรูปอย่าได้พลาด อีกทั้งยังห่างจาก BTS สะพานตากสิน 1.9 กิโล 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Snz396uah5qfSZiRA 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง 
  • เบอร์โทร : –

13. The Jam Factory

ที่ต่อมาจะพาทุกคนข้ามมาฝั่งธน เอาใจสายฮิปสเตอร์น ที่นี่ถูกเนรมิตจากโกดังเก่าให้กลายมาเป็นคาเฟ่สุดชิกที่ตกแต่งด้วยสไตล์โมเดิร์น มีโคมไฟเท่ ๆ คลอด้วยเสียงเพลงน่าฟัง นั่งชิลล์ได้แฮปปี้สุดๆ สำหรับ The Jam Factory ห่างจาก BTS สะพานตากสินเพียง 1.7 กิโลก็ถึงที่หมาย 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/D3z61MxHJaHmSDb67 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 09:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : 028610950 

14. เอเชียทีค

สถานที่ต่อมาเชื่อว่าเป็นจุดเช็กอินในใจที่หลายคนอยากมาเยือนให้ได้สักครั้ง เอเชียทีค เป็นแลนด์มาร์กสุดโรแมนติกในการมาเดตกับแฟน หรือมาเที่ยวกับผองเพื่อนก็สนุกได้เต็มที่ได้ทั้งนั้น ที่นี่ยืนหนึ่งในการเป็นศูนย์การค้าแนวราบริมแม่น้ำที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย อีกทั้งยังมีโรงละครคาลิปโซ่ คุณสามารถดื่มด่ำกับการดูหนัง จิบกาแฟ กินอาหาร และชอปปิงพร้อมวิวแม่น้ำด้วยความเพลินตลอดค่ำคืน ที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสิน 2.2 กิโล อาจไกลนิดนึงแต่คุ้มกับความฟิน 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/N1RqxnDS9iSttJ7N8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 11:00 – 00:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0922460812 

15. ไอคอนสยาม (Iconsiam)

ปิดที่เที่ยวจาก BTS สะพานตากสินด้วยศูนย์การค้าที่ยิ่งใหญ่ตระการตาใจกลางมหานคร มาที่นี่คุณจะได้พบกับคนเกือบทุกมุมโลกในที่เดียว ใครที่เข้ากรุงเทพ ฯ มาต่างก็อยากมาเยือนที่นี่ ไอคอนสยามสามารถอยู่ได้ทั้งวันโดยไม่มีเบื่อ มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่น่ารัก ร้านค้าแบรนด์ดังครบ รับรองคุณจะตื่นตาตื่นใจทุกฝีก้าวที่ได้เดิน ที่นี่ห่างจาก BTS สะพานตากสินเพียง 1.3 กิโลเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/kFfTjxVSyn7MxrWK9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 22:00 น.  
  • เบอร์โทร : 024957080 
ที่เที่ยวใกล้ BTS ราชเทวี

BTS ราชเทวี

สถานี BTS ราชเทวีเป็นทำเลที่รายล้อมด้วยศูนย์การค้ามากมาย รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวแนวฮิปเอาใจวัยรุ่นได้ทุกยุค ด้วยตัวสถานีเชื่อมต่อกับย่าน BTS พญาไทและไม่ไกลจาก BTS อนุสาวรีย์เท่าไร อีกทั้งที่นี่ยังมี สวนเฉลิมหล้า Street Art ราชเทวี เป็นจุดที่เอาใจสายสตรีทอาร์ตได้ดี 

16. สวนเฉลิมหล้า Street Art ราชเทวี

สำหรับใครที่หลงใหลกับภาพวาดบนกำแพง ก็มาเยือนสวนเฉลิมหล้า Street Art ราชเทวี คุณจะสะกดคำว่าผิดหวังไม่เป็นแน่นอน ที่นี่เหมาะสำหรับคนที่รักการถ่ายภาพแนวภาพวาดฝาผนัง หรือสตรีทอาร์ต รูปภาพที่ถูกแต่งแต้มบนผนังมีความโดดเด่นสูง สีสันสวยสะดุดตา เรียกว่าถ่ายรูปยังไงก็ออกมาสวยหล่อทั้งนั้น และที่สำคัญที่นี่ห่างจาก BTS ราชเทวีเพียง 180 เมตรเท่านั้น โหใกล้ ๆ เลยนะเนี่ย 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/qukQtB2igJUNgtdW7 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 05:30 – 19:00 น.  
  • เบอร์โทร : –
ที่เที่ยวใกล้ BTS สยาม

BTS สยาม

ต่อเนื่องกันที่สถานี BTS ที่ฮิตฮอตเหล่าวัยรุ่นตั้งแต่ยุคก่อนจนถึงปัจจุบัน และดูทีท่าว่าเสน่ห์ความฮิตก็ไม่อาจลดละหายไปไหนได้ง่ายๆ ที่นี่เป็นทำเลของคนที่ชื่นชอบวิถีคนเมืองที่หรูหรา มองไปทางไหนก็มีแต่ความเจริญพุ่งเข้าใส่ ที่สำคัญมีอควาเรียมกลางมหานครอีกด้วย จะเป็นที่ไหนได้นอกจาก Sea Life Bangkok Ocean World เป็นโอเชี่ยนที่เหมาะสำหรับมากันทุกความสัมพันธ์จริงๆ 

17. Sea Life Bangkok Ocean World

มีเวลาว่างไปเที่ยวแค่นิดเดียวแต่กลับอยากไปเห็นทะเล มาที่นี่ Sea Life Bangkok Ocean World คุณก็สามารถสัมผัสของความทะเลได้แล้วล่ะ แนะนำให้คุณชมปลาใต้ท้องทะเลด้วยความเพลินจัดเต็ม พร้อมลอดอุโมงค์ทางเดินใต้น้ำสร้างความตื่นเต้นสุด ๆ มาแล้วไม่มีผิดหวัง ที่นี่ห่างจาก BTS สยามเพียง 100 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Kr2eUQ2Y56dEP6HB9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : 026872000 
ที่เที่ยวใกล้ BTS อารีย์

BTS อารีย์

สำหรับสถานีนี้เป็นหนึ่งย่านที่เหมาะสำหรับการมาใช้ชีวิตมากๆ ไม่ได้เป็นย่านที่วุ่นวายจนเกินไป และสามารถพบความสงบได้ด้วย ถึงแม้ BTS อารีย์ไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมือง แต่รอบข้างก็ล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมที่เที่ยวเอาใจทั้งสายคาเฟ่และคอมมูนี้ตี้มอลล์  

18. Kid Mai Death Cafe

คาเฟ่แห่งนี้มาในคอนเซปต์ที่แปลกแหวกแนวกว่าหลายๆ ที่ แค่ชื่อก็สัมผัสได้ถึงความน่ากลัวของความตาย เมื่อมาถึงนี่สิ่งที่คุณต้องไม่พลาดนั่นคือ ทดลองตาย ก่อนตาย ในโลงศพที่ถูกปูด้วยผ้าผืนสีชมพู นอกจากคุณจะได้ดื่มรสชาติกาแฟแสนอร่อยก็ยังได้ดื่มด่ำกับสัจธรรมชีวิตอีกด้วย ที่นี่ห่างจาก BTS อารีย์ เพียง 77 เมตรเท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/cDWE2YSbvw7WQRYu8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 09:00 – 21:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0633244519  

19. GUMP’s Ari Community Space

ต่อเนื่องกันที่คาเฟ่สุดน่ารักที่เอาใจสาว ๆ ที่หลงใหลกับอะไรที่เห็นแล้วจะต้องตาแป๋วทนความน่ารักไม่ไหว เป็นคาเฟ่ที่ตกแต่งสไตล์มินิมอลหวาน ๆ มุมถ่ายรูปเยอะมาก แถมกาแฟสดก็รสชาติดีมาก ห่างจาก BTS อารีย์เพียง 400 เมตรเท่านั้น

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/FwsT4uY5V4MgG8sX8 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 10:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : –
BTS สุรศักดิ์ - วัดแขก

BTS สุรศักดิ์

มาต่อกันที่สถานีรองสุดท้ายด้วย BTS สุรศักดิ์ เป็นสถานีทำเลดี ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ที่นี่มีเส้นคมนาคมหลายรูปแบบ ล้อมด้วยอาคารสำนักงาน โรงพยาบาล ร้านอาหาร คอนโด และอื่น ๆ อีกมากมาย อีกทั้งมีแหล่งท่องเที่ยวเอาใจสายชิลล์เพียบ 

20. Roots BKK

ใครกำลังมองหากาแฟสดรสชาติดี คุณภาพเยี่ยม ให้คุณได้ลองก้าวมาร้านนี้แล้วคุณจะเจอคำตอบที่ใช่ สำหรับร้าน Roots BKK ไม่ได้เป็นแค่ร้านกาแฟธรรมดา ๆ แต่มันมากกว่านั้น มีเรื่องราวของกาแฟไทยเกรดดีคัดสรรทุกเมล็ดให้คุณได้ดื่มอย่างสุขใจ ภายในร้านหอมฟุ้งด้วยกลิ่นกาแฟ ร้านตกแต่งได้สวย สะอาด น่ามองน่านั่ง ที่สำคัญที่นี่ห่างจาก BTS สุรศักดิ์เพียง 170 เมตรเท่านั้นเอง 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/5FkYqPqZLSudoo2p9 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 07:00 – 19:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0820916175 

21. วัดแขก

ปิดท้ายด้วยสถานที่ท่องเที่ยวเอาใจสายมู ใครที่เลื่อมใสในพระแม่อุมาเทวี มาที่นี่คุณสามารถสักการะท่านแม่ได้โดยที่ไม่ต้องเดินทางไปถึงอินเดีย วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ย่านสีลม ย่านชื่อดังใจกลางเมืองกรุง วัดนี้ตกแต่งได้สวยงามให้บรรยากาศเหมือนอยู่อินเดียได้ดีมาก ไปเหอะอย่าพลาดเลย และที่นี่ห่างจาก BTS สุรศักดิ์เพียง 800 เท่านั้น 

  • พิกัด : https://goo.gl/maps/ZBgDuB99zabdcho58 
  • เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวันเวลา 06:00 – 20:00 น.  
  • เบอร์โทร : 0973159569 

แอร์พอเทลล์บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระ

บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระสนามบินดอนเมือง

แอร์พอเทลล์ให้บริการฝากกระเป๋าที่มีสาขาในสนามบิน และห้างชั้นนำในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังมีบริการส่งสัมภาระไปยังโรงแรม-ห้าง-สนามบิน ราคาเริ่มต้น 299 บาท/ใบ รวมถึงบริการส่งกระเป๋าไปยังต่างจังหวัด

สาขาของแอร์พอเทลล์

  • สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้นบี,โซนแอร์พอร์ตลิงก์ 
  • สนามบินดอนเมือง อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2, ชั้น 1, ประตู 9 
  • MBK Center ชั้น 6, โซนบี (ติดกับร้าน S&P ทางออกลานจอดรถ)
  • Terminal 21 Asok ชั้น 1, โซนโตเกียว (ทางออกลานจอดรถ)
  • Central World ชั้น 1, โซนกรูฟ (ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ)
  • MIXT Chatuchak ชั้น2, โซนบี
  • Terminal 21 Pattaya ชั้น 1 , โซนปารีส (บริเวณใกล้อีฟแอนด์บอย)

สรุป

จบกันไปแล้วสำหรับ 21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ง้อรถส่วนตัว เป็นยังไงกันบ้างครับสำหรับจุดเช็กอินที่ทางเราได้มาแนะนำให้กับทุกคน เรียกว่าถูกใจสำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัวก็สามารถเที่ยวได้หลากรูปแบบ หลายรสชาติได้จัดเต็มเลยใช่ไหมล่ะครับ BTS จะไม่ได้เป็นแค่การเดินทางเพื่อไปเรียนหรือไปที่ทำงานอีกต่อไป เพราะคุณสามารถเปลี่ยนทิศทางที่เคยเดินไปประสบกับที่ใหม่ ๆ ได้ง่ายแสนง่าย และห่างจากสถานีไม่ไกลมากเท่าไรก็ถึงที่เที่ยวได้เลย และสำหรับใครที่อยู่ต่างจังหวัดต้องการเดินทางมาเที่ยวกรุงเทพแล้วล่ะก็ทางเราอยากแนะนำ Airportels  บริการส่งกระเป๋าจากสนามบินถึงที่พักได้ทันที เรียกว่ามาถึงกรุงเทพสามารถออกเดินทางไปเที่ยวทั้ง 21 จุดเช็กอิน สถานที่เที่ยวใกล้รถไฟฟ้า BTS เที่ยวได้ไม่ง้อรถส่วนตัว รู้แบบนี้รีบ ๆ ตามรอยให้ได้เลย 

รวม 21 สถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่ ให้พร้อมไปแอ่วกันเจ้า

จังหวัดเชียงใหม่ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย จัดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ อยากจะมีโอกาสไปเยือนสักครั้ง โดยปี 2564 จังหวัดเชียงใหม่ได้รับการจัดอันดับโดยนิตยสาร Travel and Leisure ให้เป็นเมืองน่าท่องเที่ยวอันดับที่ 9 ของโลก 

สถานที่เที่ยวเชียงใหม่มีความหลากหลายและเป็นเอกลักษณ์ โดยนักท่องเที่ยวสามารถเปลี่ยนจากความศิวิไลช์ตามสไตล์วิถีคนเมืองไปเป็นการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติแบบเต็มรูปแบบ แค่ใช้เวลาเดินทางออกจากตัวเมืองเพียงไม่กี่อึดใจ สำหรับใครที่มีโอกาสได้ไปเยือนจังหวัดเชียงใหม่หรืออยากจะมาเยือน มาลองดูกันว่าสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ ทั้งในเมืองและนอกเมืองนั้น มีที่ไหนที่น่าสนใจและห้ามพลาดบ้าง ทั้งหมดนี้เราได้รวบรวมเอาไว้ให้แล้ว 

ประตูท่าแพ

1. ประตูท่าแพ

ประตูท่าแพถือเป็นที่เที่ยวเชียงใหม่ในตัวเมืองที่เป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดเชียงใหม่เลยก็ว่าได้ ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่า สามารถเดินทางไปมาได้สะดวกเนื่องจากมีรถโดยสารสาธารณะผ่านตลอด กิจกรรมยอดฮิตที่ใครมาก็ต้องทำคือการถ่ายรูปสวยๆ กับประตูอิฐที่เรียงตัวอย่างสวยงาม และไฮไลต์ที่ขาดไม่ได้เลยคือการถ่ายรูปกับนกพิราบที่อยู่บริเวณนั้น หากได้จังหวะดีๆ อาจได้รูปสวยๆ ที่มีนกพิราบกำลังบินติดอยู่ในเฟรมด้วยก็ได้

  • ที่อยู่: ถนนท่าแพ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: ประตูท่าแพ  Tha Phae Gate 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: เปิดตลอดเวลา
คลองแม่ข่า

2. คลองแม่ข่า

คลองแม่ข่าถือว่าเป็นสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม จากเดิมที่เป็นเพียงลำคลองเล็กๆ หลังจากได้รับการปรับปรุงทัศนียภาพและตกแต่งอย่างสวยงาม มีการเปิดร้านค้าและร้านอาหารของคนในชุมชนบริเวณเลียบลำคลอง จนทำให้บรรยากาศดูคล้ายกับประเทศญี่ปุ่น จึงกลายเป็นจุดเช็กอินแห่งใหม่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเดินเล่น ถ่ายรูป โดยแนะนำให้มาในช่วงเย็นเพราะอากาศจะไม่ร้อนมาก สามารถเดินเล่น ถ่ายรูป หรือนั่งทานอาหารตามร้านต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลินและสบายใจ

  • ที่อยู่: 9 ถนนศรีดอนไชย ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50100
  • Google Map: คลองแม่ข่า Khlong Mae Kha 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 15:00 – 20:00 น. 
One Nimman วันนิมมาน

3. One Nimman วันนิมมาน

One Nimman หรือ วันนิมมาน เป็น Community Mall สุดชิค ซึ่งตั้งอยู่บนถนนนิมมานเหมินทร์ เป็นศูนย์รวมร้านค้า ร้านอาหาร และคาเฟ่ชื่อดัง ด้วยโครงสร้างอาคารที่ออกแบบสไตล์ยุโรปผสานกลิ่นอายความเป็นล้านนาและการตกแต่งที่ทันสมัย จึงมีมุมเก๋ๆ ให้ถ่ายรูปมากมาย นอกจากนั้นยังมีลานกว้างที่ใช้จัดกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงดนตรีหรือผลงานศิลปะ เรียกได้ว่าสามารถเดินเล่น ชอปปิง ถ่ายรูป หรือร่วมกิจกรรมต่างๆ ได้ทั้งวันไม่มีเบื่อ

  • ที่อยู่: เลขที่ 1 ซอย 1 ถนนนิมมานเหมินท์ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: One Nimman วันนิมมาน One Nimman 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 22:00 น.
สวนสาธารณะหนองบวกหาด

4. สวนสาธารณะหนองบวกหาด

สวนสาธารณะหนองบวกหาด เป็นสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ที่อยู่ใจกลางเมือง ภายในสวนมีการจัดแต่งให้ทัศนียภาพดูสวยงาม มีต้นไม้ ดอกไม้นานาพันธุ์ มีสระน้ำ น้ำพุ และสนามเด็กเล่น รวมทั้งพื้นที่สำหรับการออกกำลังกาย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการไปพักผ่อนหย่อนใจ อ่านหนังสือ ออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมร่วมกันกับครอบครัวในวันว่าง

  • ที่อยู่: ถนนอารักษ์ ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: สวนสาธารณะหนองบวกหาด Nong Buak Haad Public Park 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันเวลา 05:00-21:00 น.
ตลาดวโรรส

5. ตลาดวโรรส

ตลาดวโรรส หรือ กาดหลวง ถือเป็นตลาดชื่อดังขนาดใหญ่ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นศูนย์รวมร้านขายเสื้อผ้า อาหาร ของฝาก และของที่ระลึกต่างๆ โดยเฉพาะอาหารพื้นเมือง เช่น ไส้อั่ว น้ำพริกหนุ่ม แคบหมู ผลไม้อบแห้ง นักท่องเที่ยวจึงนิยมมาที่ตลาดนี้เพื่อเลือกซื้อสินค้า ของที่ระลึกและของฝาก เรียกได้ว่ามาที่เดียวได้สินค้าทุกอย่าง ครบทุกความต้องการอย่างแน่นอน

  • ที่อยู่:  ถนนวิชยานนท์ ตำบลช้างม่อย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50300
  • Google Map: ตลาดวโรรส Warorot Market (Kad Luang) 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 05:00 – 18:00 (ทุกวัน)
ถนนคนเดินวัวลาย

6. ถนนคนเดินวัวลาย

ถนนคนเดินวัวลาย เป็นสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ในยามค่ำคืน โดยตลาดนัดจะเปิดเฉพาะคืนวันเสาร์ ตั้งอยู่เส้นถนนวัวลาย ใกล้กับประตูเชียงใหม่ มีระยะทางเดินประมาณ 1 กิโลเมตร ที่ถนนคนเดินจะมีร้านค้าต่างๆ ให้ได้เลือกซื้ออย่างมากมายในราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ของใช้ เสื้อผ้า ของฝากของที่ระลึก นอกจากนั้นยังมีการแสดงดนตรีพื้นเมืองให้ได้ฟังกันเพลินๆ อีกด้วย

  • ที่อยู่: ถนนวัวลาย ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50100
  • Google Map: ถนนคนเดินวัวลาย Wua Lai Walking Street 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 17:00 น.-23:00 น. เฉพาะวันเสาร์
สวนสัตว์เชียงใหม่

7. สวนสัตว์เชียงใหม่

สวนสัตว์เชียงใหม่ เป็นสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่เอาใจคนรักสัตว์ ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ มีพื้นที่กว้างขวางและร่มรื่น มีส่วนแสดงสัตว์หลากหลายสายพันธุ์ สามารถเดินชมความน่ารักและศึกษาธรรมชาติของสัตว์ต่างๆ ได้อย่างเพลิดเพลิน ไฮไลต์ที่ห้ามพลาดคือ Chiangmai Zoo Aquarium ซึ่งเป็นอุโมงค์น้ำที่จัดแสดงสัตว์น้ำทั้งสายพันธุ์น้ำจืดและน้ำเค็ม หรือสามารถเข้าไปเล่นหิมะภายใต้อากาศติดลบแห่งเดียวในภาคเหนือที่ Snow Buddy Winter Land ที่กำลังจะกลายเป็นสถานที่เช็กอินใหม่ของเชียงใหม่

  • ที่อยู่: 100 ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: สวนสัตว์เชียงใหม่ https://goo.gl/maps/Y3i7NSKP74RoMDNV9 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น.
อ่างแก้ว มช.

8. อ่างแก้ว มช.

อ่างแก้ว เป็นอ่างเก็บน้ำที่อยู่ในพื้นที่ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แต่ด้วยบรรยากาศรอบอ่างน้ำที่โอมล้อมไปด้วยต้นไม้ที่เรียงรายอย่างสวยงาม บวกกับดอยสุเทพที่เป็นฉากหลัง ตัดกับภาพท้องฟ้ากว้าง จึงทำให้อ่างแก้วกลายเป็นสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ ที่นอกจากจะเป็นจุดพักผ่อน ออกกำลังกาย หรือเอาไว้ชมบรรยากาศยามเย็นแล้ว ยังกลายเป็นจุดถ่ายรูปสุดฮิตที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเก็บภาพความสวยงามกันอีกด้วย

  • ที่อยู่: มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถนนห้วยแก้ว ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: อ่างแก้ว มช. Angkaew Reservoir 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 06.00-22.00 น.
วัดพระธาตุดอยคำ

9. วัดพระธาตุดอยคำ

วัดพระธาตุดอยคำเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่ ที่เชื่อว่าเหล่าสายมูตัวจริงต้องรู้จักอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นที่ประดิษฐานขององค์หลวงพ่อทันใจ ซึ่งมีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องการขอพร โดยมีความเชื่อว่าคนที่มาขอพรที่นี่มักจะสมหวัง จึงทำให้มีผู้คนมากราบไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลพร้อมทั้งขอพรเป็นจำนวนมาก สำหรับการขึ้นไปวัดพระธาตุดอยคำนั้น สามารถขับรถขึ้นไปเองได้

แต่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากวัดตั้งอยู่บนเขาจึงมีเส้นทางค่อนข้างลาดชัน

  • ที่อยู่: 108 ถนนเชียงใหม่-หางดง ตำบลแม่เหียะ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50100
  • Google Map: วัดพระธาตุดอยคำ Wat Phra That Doi Kham 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00-17:00 น.
วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

10. วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร

วัดพระสิงห์ฯ ถือเป็นหนึ่งในวัดเก่าแก่ของจังหวัดเชียงใหม่ ชื่อ พระสิงห์ มาจากการอัญเชิญพระพุทธสิหิงค์ หรือ พระสิงห์ ซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่มาประดิษฐานที่นี่นั่นเอง ภายในวัดจะมีทั้งวิหารหลวง วิหารลายคำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระพุทธสิหิงค์ มีการตกแต่งด้วยลายคำที่ได้รับการยกย่องว่าสวยที่สุดในล้านนา 

ภายในมีจิตรกรรมฝาผนังที่หาชมได้ยากในประเทศไทย 

มีหอธรรมที่งดงามที่สุดในภาคเหนือ และพระเจดีย์ประธานประจำปีมะโรงตามคติของชาวล้านนา ซึ่งคนที่เกิดปีมะโรงก็มักจะเดินทางมาสักการะเพื่อเป็นสิริมงคล ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ ที่มาใครมาแล้วก็จะรับบุญกลับไปกันอย่างถ้วนหน้า

  • ที่อยู่: 2 ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50280
  • Google Map: วัดพระสิงห์วรมหาวิหาร Wat Phra Singh Woramahawihan 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 น. – 17:00 น.
วัดศรีสุพรรณ

11. วัดศรีสุพรรณ

วัดศรีสุพรรณขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของอุโบสถที่ทำจากเงินหลังแรกของโลก มีการแกะสลักลวดลายจากภูมิปัญญาท้องถิ่นของสล่าพื้นบ้านอย่างวิจิตรงดงาม และยังแสดงเอกลักษณ์ของชุมชนวัวลาย ซึ่งมีการทำหัตถกรรมเครื่องเงินที่มีชื่อเสียงของจังหวัด 

นอกจากนั้นยังมีองค์พระพุทธรูป พระพิฆเนศ และท้าวเวสสุวรรณคู่ที่ทำมาจากเงินอยู่ภายในบริเวณวัดด้วย วัดศรีสุพรรณจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวของเชียงใหม่ที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว ทั้งมาเพื่อสักการะขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์และชมความสวยงามของอุโบสถเงิน

  • ที่อยู่: 100 ถนนวัวลาย ตำบลหายยา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50100
  • Google Map: วัดศรีสุพรรณ Wat Sri Suphan 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 น. – 17:00 น.
วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

12. วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร

วัดเจดีย์หลวง หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ตั้งอยู่ใจกลางเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เป็นพระอารามหลวงเก่าแก่และมีความสำคัญมาก เป็นที่ตั้งของพระเจดีย์หลวงที่มีขนาดใหญ่และเก่าแก่ โดยคาดว่าเริ่มต้นสร้างสมัยพระเจ้าแสนเมืองมา พระเจดีย์มีฐานเป็นสี่เหลี่ยม มีทางขึ้นสี่ด้าน มีรูปปั้นช้างล้อมรอบ วัดเจดีย์หลวงยังเป็นที่ประดิษฐานของเสาอินทขิล ซึ่งถือเป็นเสาหลักเมือง สิ่งศักดิ์คู่บ้านคู่เมือง โดยจะมีการจัดพิธีใส่ขันดอกเพื่อบูชาเสาอินทขิลเป็นประจำทุกปีด้วย

  • ที่อยู่: 103 ถนนพระปกเกล้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: วัดเจดีย์หลวง Wat Chedi Luang 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น.
วัดพันเตา

13. วัดพันเตา

ความน่าสนใจอย่างหนึ่งของวัดพันเตา คือ พระวิหารหอคำหลวงที่ทำจากไม้สักทั้งหลังตามศิลปะแบบเชียงแสน มีซุ้มประตูที่เรียกว่า หน้าบันเป็นรูปนกยูงรำแพนหางแกะสลักอย่างสวยงาม นอกจากนี้วัดพันเตายังมีชื่อเสียงในเรื่องการจุดผางประทีป 

หากใครอยากมายังสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่แห่งนี้ แนะนำให้มาช่วงเทศกาลลอยกระทง เพราะในช่วงเทศกาลนี้ของทุกปี จะมีการจุดผางประทีปบนพื้นดินบริเวณลานต้นโพธิ์จำนวนมาก เมื่อเหล่าพระสงฆ์และสามเณรมารวมกันเพื่อนั่งสมาธิและบรรยายธรรมบริเวณนี้ ประกอบการการประดับโคมไฟโดยรอบ ทำให้ได้ภาพที่สวยงามน่าประทับใจเป็นอย่างมาก

  • ที่อยู่: ถนนพระปกเกล้า ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: วัดพันเตา Wat Phantao 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 น. -17:00 น.
วัดหมื่นล้าน

14. วัดหมื่นล้าน

วัดหมื่นล้าน ถือว่าเป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นวัดที่ความโดดเด่นด้วยศิลปะแบบพม่า บริเวณวิหารมีหน้าบันที่ตกแต่งด้วยนกยูงรำแพนหางประดับกระจกสี มีหอไตรหรือหอธรรมซึ่งเป็นอาคารสูง 2 ชั้นที่ดูสวยแปลกตา เหล่าสายมูทั้งหลายยังนิยมมาสถานที่ท่องเที่ยวเมืองเชียงใหม่แห่งนี้เพื่อกราบไหว้ขอพรโดยเฉพาะทางด้านการเงิน เนื่องด้วยชื่อของวัดที่มีชื่อว่าหมื่นล้านซึ่งบ่งบอกถึงจำนวนเงินนั่นเอง

  • ที่อยู่: 14 ถนน ราชดำเนิน ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมืองเชียงใหม่ เชียงใหม่ 50200
  • Google Map: วัดหมื่นล้าน Wat Muen Lan 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 น. -17:00 น.

15. บ้านข้างวัด

สายศิลปะ ชอบงานคราฟต์หรือของแฮนด์เมดต้องไม่พลาดที่นี่ บ้านข้างวัดเป็นโครงการที่ออกแบบร้านค้าแนวย้อนยุคให้ผสานกับความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว ร้านค้าส่วนใหญ่จึงเป็นแบบกึ่งไม้กึ่งปูน ให้อารมณ์เหมือนบ้านยุคเก่า บรรยากาศร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ 

ภายในโครงการมีร้านค้า ของฝาก ของที่ระลึก ของแต่งบ้านดีไซน์น่ารัก เป็นเอกลักษณ์  ไม่ซ้ำใคร นอกจากนั้นยังมีร้านอาหาร ร้านกาแฟ คาเฟ่เก๋ๆ ให้ได้เลือกนั่งชิล และยังมีมุมถ่ายรูปสวยๆ จึงสามารถเดินเล่นหรือเลือกซื้อสินค้าได้อย่างเพลิดเพลิน

  • ที่อยู่: 191 ถนนบ้านร่ำเปิง ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: บ้านข้างวัด https://goo.gl/maps/N1DnbZsizxQYZAUV7 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 10:00-18:00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
บ้านม้งดอยปุย

16. บ้านม้งดอยปุย

บ้านม้งดอยปุย เป็นหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้งที่อยู่เลยจากวัดพระธาตุดอยสุเทพไปไม่ไกล ภายในหมู่บ้านจะมีร้านขายของที่ระลึก เครื่องประดับ เสื้อผ้า กระเป๋า ซึ่งเป็นสินค้างานฝีมือที่ชาวบ้านทำเองมาจำหน่าย จึงมีความสวยงามไม่ซ้ำแบบใคร 

เป็นสถานที่เที่ยวของเชียงใหม่ ที่ทำให้เราได้สัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่าอย่างใกล้ชิด ได้เห็นชนเผ่าม้งแต่งชุดประจำเผ่าหลากสี ซึ่งหากใครต้องการใส่ชุดเผ่าม้งไว้ถ่ายรูปสวยๆ ก็มีร้านให้เช่าชุดได้ และด้วยหมู่บ้านขึ้นอยู่บนเขาสูงจึงมองเห็นวิวภูเขาชัดเจน อากาศเย็นสบาย มีลมพัดเย็​น ทำให้สามารถเดินเที่ยวเล่นเพลินจนลืมเวลาเลยทีเดียว

  • ที่อยู่: หมู่ที่ 11 อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ 50200
  • Google Map: บ้านม้งดอยปุย Hmong Doi Pui Village 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น.
บ้านป่าบงเปียง

17. บ้านป่าบงเปียง

สำหรับใครที่เป็นสายท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ก็ยังมีบ้านป่าบงเปียงที่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวในเชียงใหม่แห่งหนึ่งที่ต้องลองมาพักผ่อนสักครั้ง โดยหากมาในช่วงฤดูฝน จะได้เห็นวิวนาขั้นบันไดเขียวขจีกว้างขวางสุดตา โอบล้อมด้วยภูเขาสูงที่เรียงตัวสลับซับซ้อน 

ถ้าโชคดีอาจจะได้เจอหมอกหนาในตอนเช้าด้วย จึงเหมาะมากกับการมาพักผ่อน ใช้ชีวิตแบบ slow life ปล่อยใจไปกับความสวยงามของธรรมชาติ โดยจะเลือกพักแบบโฮมเตย์ของชาวบ้านหรือจะกางเต้นท์ก็มีพื้นที่ให้บริการเช่นกัน

  • ที่อยู่: บ้านป่าบงเปียง ตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ 50270
  • Google Map: บ้านป่าบงเปียง Ban Rabiang Na Pa Bong Piang 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 22:00 น.
บ้านแม่กำปอง

18. บ้านแม่กำปอง

บ้านแม่กำปอง เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่กลางป่าที่อุดมสมบูรณ์ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไม่ไกล เป็นชุมชนที่มีวิถีชีวิตใกล้ชิดกับธรรมชาติเป็นอย่างมาก โดยนักท่องเที่ยวสามารถมาท่องเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวของเชียงใหม่แห่งนี้แบบไปกลับ เพื่อเดินเล่นชมธรรมชาติรอบหมู่บ้านหรือถ่ายรูปที่คาเฟ่เก๋ๆ ริมน้ำ จิบกาแฟอันเป็นสินค้าเกษตรที่ปลูกและผลิตเองในหมู่บ้าน ชิมอาหารท้องถิ่น หรือหากต้องการพักค้างคืนก็สามารถเลือกพักตามโฮมเสตย์ของชาวบ้านในหมู่บ้านได้

  • ที่อยู่: หมู่ที่ 3 ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่ 50130
  • Google Map: บ้านแม่กำปอง Mae Kampong Village 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 06:00 – 18:00 น.
สวนสนบ่อแก้ว

19. สวนสนบ่อแก้ว

สวนสนบ่อแก้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชียงใหม่ที่เป็นจุดถ่ายรูปเช็กอินสุดฮิตอีกที่หนึ่ง อยู่ติดกับถนนสายหลักจึงหาได้ง่าย บริเวณสวนสนมีต้นสนสูงใหญ่จำนวนมาก ปลูกเป็นแนวเรียงรายอย่างเป็นระเบียบสวยงาม จึงเป็นหนึ่งในสถานที่ที่นักท่องเที่ยวนิยมมาถ่ายรูป ยิ่งทิวต้นสนตัดกับแสงแดดที่สาดส่องในช่วงเช้าหรือตอนเย็น จะยิ่งทำให้ได้ภาพที่แปลกตาแต่สวยงามมากๆ 

  • ที่อยู่: ถนนฮอด-แม่สะเรียง ตำบลบ่อหลวง อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ 50240
  • Google Map: สวนสนบ่อแก้ว Bo Kaeo Pine Tree Garden 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00-17:00 น.
ดอยหลวงเชียงดาว

20. ดอยหลวงเชียงดาว

ดอยหลวงเชียงดาวเป็นสถานที่เที่ยวเชิงธรรมชาติแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ที่สำคัญมาก โดยจัดเป็นดอยที่มีความสูงเป็นอันดับที่สามของประเทศไทย เป็นเขตพื้นที่ที่มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง มีสัตว์ป่าอาศัยอยู่มากมาย จน UNESCO ได้ประกาศให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑล 

ดังนั้นจึงเป็นจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวผู้ชื่นชอบการผจญภัยอยากจะไปพิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาวพร้อมทั้งศึกษาธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ให้ได้สักครั้ง แต่หากใครไม่ใช่สายลุย ขึ้นเขาไม่ไหว  ก็สามารถเลือกพักตามโฮมสเตย์ที่สามารถเห็นวิวดอยหลวงได้อย่างชัดเจนได้เช่นกัน

  • ที่อยู่: ตำบลเชียงดาว อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ 50170
  • Google Map: ดอยหลวงเชียงดาว Chiang Dao 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น.
ดอยแม่โถ

21. ดอยแม่โถ

สายแคมปิงต้องไม่พลาดกับการตั้งแคมป์พร้อมชมวิว 360 องศา ที่ดอยแม่โถหรือที่เรียกกันว่าทุ่งหญ้าสะวันนา เป็นสถานที่เที่ยวในเชียงใหม่ ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนก็เห็นแต่ทุ่งหญ้าเขียวขจีบนม่อนดอยสูงต่ำสลับกัน และเนื่องจากเป็นที่ราบโล่งจึงสามารถเห็นดาวบนท้องฟ้าในตอนกลางคืนได้อย่างชัดเจน ข้อควรระวังสำหรับการตั้งแคมป์คือ ลมค่อนข้างแรงทั้งตอนกลางวันและกลางคืน เนื่องจากเป็นที่โล่ง จึงควรเตรียมอุปกรณ์สำหรับการป้องกันลมให้พร้อม 

  • ที่อยู่: 109 ตำบลบ่อสลี อำเภอฮอด จังหวัดเชียงใหม่ 50240
  • Google Map: ดอยแม่โถ Savannah Grassland (Doi Mae Tho) 
  • วัน เวลาเปิด-ปิด: 08:00 – 17:00 น.

จังหวัดเชียงใหม่ เป็นจังหวัดที่มีสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความหลากหลาย มีความโดดเด่นทั้งทางด้านภูมิประเทศ วิถีชีวิตและศิลปวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ มีการบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน มีความปลอดภัยสูง สามารถท่องเที่ยวได้ทุกฤดู จึงเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ สำหรับใครที่เดินทางมาท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าต้องเตรียมเสื้อผ้าพร้อมพร็อปต่างๆ มาเต็มกระเป๋าเพื่อเอาไว้ใช้ในการเก็บภาพความประทับใจอย่างแน่นอน 

AIRPORTELs Luggage Delivery Service

หากมาถึงแล้วอยากออกไปเที่ยวเล่นเลยหรือยังไม่ถึงเวลาเช็กอินเข้าโรงแรม ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระพะรุงพะรัง ลองใช้บริการของ Airportels บริการรับส่งสัมภาระไปยังที่พัก ลงเครื่องปุ๊บ เดินตัวปลิวไปท่องเที่ยวตามสถานที่เที่ยวเชียงใหม่ได้ทันที 

AIRPORTELs Luggage Delivery Service

ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ Airportels ในการจัดส่งสัมภาระ ให้ไปถึงยังที่พักอย่างปลอดภัยด้วยการบริการที่มีมาตรฐานในระดับสากล ราคาเริ่มต้นเพียง 349บาท/ใบ ทีนี้ก็จดลิสต์รายการสถานที่เที่ยวเชียงใหม่แล้วออกเดินทางอย่างคล่องตัวได้ทันที พร้อมรอรับสัมภาระที่โรงแรมที่พักได้เลย

15 ที่เที่ยวหน้าหนาวใกล้กรุงเทพ สัมผัสไอหนาวได้ ไม่ต้องไปไกล 2023

พอเข้าสู่ช่วงปลายปี หลายคนก็คงจะเริ่มตั้งคำถามว่า หน้าหนาวเที่ยวไหนดี เพราะหลายที่ต้องวางแผนจองตั๋ว จองที่พักล่วงหน้า แต่สำหรับใครที่มีเวลาว่างแค่วันสองวันหรือไม่อยากเดินทางไกลๆ ก็สามารถสัมผัสไอหนาวได้เหมือนกัน เพราะใกล้กรุงเทพก็ยังมีที่เที่ยวหน้าหนาวสวยๆ บรรยากาศดีๆ อีกมากมาย และกิจกรรมที่หลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นการไปเที่ยวกับเพื่อน คนรัก หรือครอบครัว ก็ฟินได้เหมือนกัน !

ชมวิว สูดไอหมอก ท้าความเย็น

ชมวิว สูดไอหมอก ท้าความเย็น

หน้าหนาวเป็นช่วงเวลาเดียวของปีที่จะได้ไปชมวิวสวยๆ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย โดยเฉพาะสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ บนดอย บนภูเขาต่างๆ อุณหภูมิจะลดต่ำลงจนมีไอหมอกจางๆ ในยามเช้า ในขณะที่บางจุดหมอกก็หนามากจนกลายเป็นทะเลสีขาว ซึ่งไม่ใช่ภาพที่จะหาชมได้บ่อยๆ โดยจุดที่เที่ยวหน้าหนาวที่สามารถจะชมทะเลหมอกได้มีดังนี้ 

1. จุดชมวิวกังหันลมเขายายเที่ยง นครราชสีมา 

จุดชมวิวกังหันลมเขายายเที่ยง เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวซึ่งอยู่ห่างจากเขื่อนลำตะคองเพียง 15 นาที ใครที่มาเที่ยวเขื่อนลำตะคองก็ไม่ควรพลาดที่จะแวะมาเที่ยวจุดนี้ด้วย เพราะวิวสวยมาก สามารถมองเห็นภูเขา เขื่อนลำตะคองและทุ่งกังหันลมได้แบบ 360 องศา อากาศเย็นสบาย จะปั่นจักรยานชมวิวเพลินๆ หรือนั่งชมวิวพระอาทิตย์ตกก็โรแมนติก การเดินทางสะดวกสบาย มีที่จอดรถ ร้านค้า ร้านอาหาร ห้องน้ำ ให้บริการครบ

  • ที่อยู่: ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา 30340
  • พิกัด: กังหันลม เขายายเที่ยง
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 06:00-18:00 น.

2. จุดชมวิวเขากระโจม ราชบุรี 

จุดชมวิวเขากระโจมนั้นสามารถขับรถขึ้นไปได้ แต่เส้นทางจะสมบุกสมบันหน่อย จึงเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่เหมาะสำหรับสายลุย แต่พอขึ้นไปเห็นทิวทัศน์สวยๆ ด้านบนแล้ว เชื่อว่าความเหนื่อยจะหายเป็นปลิดทิ้ง เพราะวิวสวยอลังการมาก มองเห็นได้ไกลถึงประเทศพม่า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะกางเต็นท์พักแรม เพื่อตื่นมาชมวิวแต่เช้าตรู่ มองดูพระอาทิตย์สีส้มค่อยๆ โผล่พ้นทะเลหมอกสีขาว แม้เป็นช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็สร้างความประทับใจได้ไม่รู้ลืม

  • ที่อยู่: ตำบลสวนผึ้ง อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี 70180
  • พิกัด: จุดชมวิวเขากระโจม
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี (นำรถยนต์เสียค่าบริการขึ้นเขาคันละ 50 บาท)
  • เวลาปิด-เปิด: ขึ้นเวลา 04:00-07:00 น.
    ลงเวลา 07:00-09:00 น. / 09:00-19:00 น. ขึ้นและลงได้ตลอด

3. ผาหินกูบ จันทบุรี

ชื่อผาหินกูบอาจจะฟังดูแปลก แต่สาเหตุที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะจุดชมวิวด้านบนมีลักษณะโค้งลาดลงทั้ง 2 ข้าง จึงให้ความรู้สึกเหมือนกำลังนั่งชมวิวอยู่บนกูบหรือที่นั่งบนหลังช้าง เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่วิวสวยและบรรยากาศดีมาก ตลอดเส้นทาง 8-9 กม. นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีทั้งถ้ำ น้ำตก ลำธาร และหินรูปร่างแปลกตา การค้างแรมที่นี่ไม่มีเต็นท์ให้ แต่ใช้วิธีผูกเปลหรือนอนใต้ผาหิน ใครที่อยากออกจากเซฟโซน อยากเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ต้องถูกใจแน่นอน

  • ที่อยู่: ตำบลตะเคียนทอง อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี 22210
  • พิกัด: ผาหินกูบ
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี มีค่าเจ้าหน้าที่นำทาง 1,000 บาท
  • เวลาปิด-เปิด: เปิดเฉพาะเสาร์ – อาทิตย์
เขาพะเนินทุ่ง เพชรบุรี 

4. เขาพะเนินทุ่ง เพชรบุรี 

เขาพะเนินทุ่ง เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวยอดนิยม เพราะช่วงที่อากาศเย็นจัด หมอกจะหนา จนกลายเป็นทะเลสีขาวที่กว้างสุดลูกหูลูกตา เส้นทางค่อนข้างชัน แต่สามารถขับรถขึ้นไปได้ ด้านบนมีลักษณะเป็นทุ่งหญ้ากว้าง จึงสามารถกางเต็นท์ได้อย่างสะดวกสบาย มีห้องอาบน้ำและร้านค้าสวัสดิการให้บริการ ถ้าใครเป็นสายลุย ก็สามารถเดินทางต่อไปพิชิตยอดเขาพะเนินทุ่งได้เลย ซึ่งที่ยอดเขานี้เป็นแหล่งดูนกป่าหายากด้วย

  • ที่อยู่: ตำบลห้วยแม่เพรียง อำเภอแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี 76170
  • พิกัด: จุดชมวิวทะเลหมอกพะเนินทุ่ง
  • อัตราค่าเข้า: ค่าเข้าคนละ 100 บาท ค้างคืนเพิ่มอีกคนละ 30 บาท / คืน
  • เวลาปิด-เปิด: รถขึ้นได้เวลา 05:30-07:30 น. และ 13:00-15:00 น. ลงเวลา 09:00 – 10:00 น. และ 16:00 – 17:00 น.

5. สกายวอล์ก วัดเขาตะแบก ชลบุรี

สกายวอล์ก วัดเขาตะแบก มีลักษณะเป็นทางเดินทอดยาว 226 เมตร สูงจากพื้นดิน 25 เมตร หรือประมาณตึก 8 ชั้น ถึงจะไม่ใช่คนกลัวความสูง แต่มองลงมาก็ต้องมีหวั่น ยิ่งช่วงที่เป็นพื้นกระจกมีระยะทาง 50 เมตร เรียกว่าเป็นช่วงวัดใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้มองเห็นวิวของผืนป่าและอ่างเก็บน้ำได้แบบเต็มตา ถ่ายรูปออกมาสวยมาก และยังสามารถลงมาทำบุญที่วัดต่อได้ด้วย เรียกได้ว่าเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่ครบครันจริงๆ

6. ผาเก็บตะวัน นครราชสีมา 

ผาเก็บตะวันไม่เพียงแต่จะเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่เหมาะสำหรับคนรักธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้ทำด้วย คือการปลูกป่าโดยใช้หนังสติ๊กยิงเมล็ดพันธุ์พืช เช่น เมล็ดมะค่าโมง และเมล็ดลาน หลายคนอาจจะมองว่าเป็นการยิงเล่นๆ แต่เติบโตได้จริงถึง 80% ดังนั้นนอกจากได้นอนกางเต็นท์ ชมวิวทะเลหมอกสวยๆ ก็ยังได้คืนความอุดมสมบูรณ์ให้ผืนป่าเป็นการตอบแทนด้วย 

เดินป่า เที่ยวอุทยาน ท่ามกลางธรรมชาติ

เดินป่า เที่ยวอุทยาน ท่ามกลางธรรมชาติ

อุทยาน เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่คนนิยมมาก เพราะแม้จะมีต้นไม้คอยให้ความร่มรื่น แต่ถ้าลองมาเดินป่าในช่วงหน้าร้อน ก็จะรู้สึกอบอ้าว เหนียวตัว เหนื่อยง่าย ในขณะที่ช่วงหน้าหนาวอากาศเย็นสบาย เดินชมนกชมไม้ได้เพลินๆ วิวทิวทัศน์สวยงาม ทำกิจกรรมต่างๆ ได้อย่างเต็มที่ และยังเป็นช่วงที่แมลงน้อยด้วย โดยอุทยานที่อยู่ไม่ไกลกรุงเทพ มีดังนี้

7. อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นครราชสีมา 

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นอุทยานแห่งชาติแห่งแรกของไทย และเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ขับรถออกจากกรุงเทพไม่นาน ก็จะได้สัมผัสกับอากาศที่สดชื่น เย็นสบาย และธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์แล้ว อีกทั้งที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมพืชพรรณและสัตว์หายาก โดยเฉพาะนกที่มีมากกว่า 280 ชนิด มีกิจกรรมต่างๆ ให้ทำมากมาย เช่น การเดินป่าศึกษาธรรมชาติ ส่องนกในตอนกลางวัน ส่องสัตว์ป่าในยามค่ำคืน เล่นน้ำตก ฯลฯ 

  • ที่อยู่: ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130
  • พิกัด: อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 06:00 – 18:00 น.

8. อุทยานแห่งชาติทับลาน นครราชสีมา 

นอกจากอุทยานแห่งชาติทับลานจะมีผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์แล้ว ยังมีป่าลานธรรมชาติที่ถือว่าเป็นป่าลานผืนสุดท้ายของเมืองไทย มีต้นลานขึ้นอย่างหนาแน่นบนพื้นที่กว่า 200 ไร่ ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์หลายชนิด และด้านในก็ยังมีจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย เช่น อ่างเก็บน้ำทับลาน น้ำตกบ่อทอง น้ำตกสวนห้อม เขามะค่า ฯลฯ จึงเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่เหมาะมากสำหรับการทำกิจกรรมและกางเต็นท์พักแรม

  • ที่อยู่: 520 หมู่ที่ 1 ถนนกบินทร์บุรี – ปักธงชัย ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี 25220
  • พิกัด: อุทยานแห่งชาติทับลาน
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท 
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 08:00 – 18:00 น.
อุทยานหินเขางู ราชบุรี

9. อุทยานหินเขางู ราชบุรี

อุทยานหินเขางู เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่แตกต่างจากอุทยานอื่นๆ เพราะเป็นเหมือนสวนสาธารณะขนาดใหญ่ ที่มีภูเขาหินปูนตั้งตระหง่าน เดิมที่พื้นที่นี้เป็นแหล่งระเบิดและย่อยหิน แต่ต่อมาถูกยกเลิกไปและกลายเป็นพื้นที่ร้าง จึงพัฒนาให้กลายเป็นสวนสวยๆ  โดยที่ยังอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติโดยรอบเอาไว้ บรรยากาศจึงสวยงามแปลกตา หาชมยาก กิจกรรมที่นิยมก็จะเป็นการเดินเล่น ถีบเรือเป็ด ชมถ้ำ และแวะถ่ายรูปที่จุดเช็กอินยอดฮิตบนสะพานข้ามลำน้ำ

  • ที่อยู่: ตำบลเกาะพลับพลา อำเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี 70000
  • พิกัด: อุทยานหินเขางู
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 09:00-17:00 น.

10. อุทยานแห่งชาติพุเตย สุพรรณบุรี 

อุทยานแห่งชาติพุเตย เป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดในจังหวัดสุพรรณบุรี จึงเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่คนสุพรรณและจังหวัดใกล้เคียงนิยมกันมาก เหมือนได้หลีกหนีความวุ่นวาย มาสัมผัสกับความสวยงามที่เงียบสงบ เปลี่ยนบรรยากาศมาใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ นอนกางเต็นท์ดูดาวยามค่ำคืน ตื่นมาจิบเครื่องดื่มอุ่นๆ พร้อมชมทะเลหมอกยามเช้า และเดินเที่ยวชมน้ำตกสวยๆ ที่มีน้ำตลอดทั้งปี 

  • ที่อยู่: ตำบลวังยาว อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี 72180
  • พิกัด: อุทยานแห่งชาติพุเตย สุพรรณบุรี
  • อัตราค่าเข้า: ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท 
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 08:00 – 18:00 น.
ทุ่งกว้าง สวนดอกไม้ ถ่ายคอนเทนต์ สัมผัสความหนาว

ทุ่งกว้าง สวนดอกไม้ ถ่ายคอนเทนต์ สัมผัสความหนาว

เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งของฤดูหนาวก็คือ ทุ่งนาสีทองที่พร้อมเก็บเกี่ยวและดอกไม้สีสันสดใสที่แข่งกันอวดโฉม ช่วงนี้จึงถือเป็นเวลาทองของการไปถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก เพราะใน 1 ปี มีเพียงแค่ 1 ครั้ง พลาดแล้วพลาดเลย ต้องรอไปถึงปีหน้า ที่เที่ยวหน้าหนาวบางแห่งจึงเปิดให้เข้าชมเพียงระยะเวลาสั้นๆ โดยสามารถไปชมได้ตามจุดต่างๆ ดังนี้

11. สะพานไม้ร้อยปี นครราชสีมา 

สะพานไม้ร้อยปี เป็นที่เที่ยวหน้าหนาวที่เหมาะสำหรับการเดินเล่น ถ่ายรูปชิลๆ เพราะที่นี่ไม่ได้มีขนาดใหญ่มากนัก เป็นสะพานไม้แคบๆ ขนาด 1-2 คนเดิน ระยะทางประมาณ 1 กม. เท่านั้น เดิมทีชาวบ้านร่วมใจกันสร้างขึ้นเพื่อใช้ข้ามทุ่งนาระหว่างหมู่บ้าน แต่ด้วยความที่บรรยากาศดี วิวสวย ก็เลยกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเก๋ๆ ในช่วงหน้าหนาว จะมีการตกแต่งไฟสวยงามเป็นพิเศษ และยังชมวิวทะเลหมอกยามเช้าได้ด้วย

  • ที่อยู่: ตำบลโคกกระชาย อำเภอครบุรี จังหวัดนครราชสีมา 30250
  • พิกัด: สะพานไม้ 100 ปี
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 05:00-19:00 น.

12. ทุ่งทานตะวัน ไร่มณีศร นครราชสีมา 

ทุ่งทานตะวัน ไร่มณีศร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวที่อยู่ไม่ไกลจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เหมาะที่จะแวะเดินเล่น ชมความสวยงาม เพราะช่วงปลายปี ทั่งทั้งอาณาบริเวณพื้นที่กว้างขวางกว่า 500 ไร่ จะถูกเติมเต็มด้วยดอกทานตะวันสีเหลืองแทบทุกตารางเมตร ถ่ายรูปกันได้เพลินๆ อากาศเย็นสบาย ไม่ต้องกลัวผิวไหม้ นอกจากนี้ด้านในยังมีร้านขายของฝากให้ซื้อติดไม้ติดมือกลับบ้านด้วย

  • ที่อยู่: ตำบลหมูสี อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา 30130
  • พิกัด: ไร่มณีศร ทุ่งทานตะวัน เขาใหญ่
  • อัตราค่าเข้า: คนละ 50 บาท
  • เวลาปิด-เปิด: เฉพาะฤดูหนาว เปิดทุกวัน เวลา 06:00-18:00 น. 

13. สะพานทุ่งนามุ้ย นครนายก 

สะพานทุ่งนามุ้ย เป็นสะพานที่ทำจากไม้ไผ่คดเคี้ยวอยู่เหนือทุ่งนา ช่วงปลายฝนต้นหนาวประมาณเดือนกันยายน – ตุลาคม ทุ่งนาบริเวณรอบๆ จะเป็นสีเขียวขจี แต่พอเข้าเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม จะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง บรรยากาศต่างกันแต่สวยทั้งคู่ 

จุดประสงค์หลักสร้างขึ้นเพื่อที่เวลาน้ำท่วมชาวบ้านจะได้ไม่ต้องเดินอ้อม แต่ปัจจุบันเป็นที่เที่ยวหน้าหนาวยอดฮิต ที่นอกจากจะมานั่งพักผ่อนหย่อนใจ ชมวิวสวยๆ ได้แล้ว ยังสามารถปั่นจักรยานรับลมแบบเพลินๆ เลือกซื้อสินค้าจากชาวบ้าน หรือตักบาตรบนสะพานได้ด้วย 

  • ที่อยู่: ตำบล สาริกา อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก 26000
  • พิกัด: สะพานทุ่งนาน้อยเขาหล่น
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี
  • เวลาปิด-เปิด: ทุกวัน เวลา 06:00-19:00 น.
ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล ลพบุรี

14. ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล ลพบุรี

ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล ก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวที่สามารถชมดอกทานตะวันขนาดใหญ่ยักษ์นับพันได้ โดยมีฉากหลังเป็นภูเขาที่เรียงรายต่อกันเป็นแนวยาว แต่ที่พิเศษกว่านั้นก็คือนักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถรางชมบรรยากาศรอบทุ่งแบบชิลๆ ได้ด้วย ไม่ต้องเดินให้เมื่อย หรือจะเป็นการขี่ม้าชมทุ่ง ขับ ATV ชมทุ่งก็มี ดังนั้นไม่ว่าจะมาเที่ยวกับเพื่อน คนรัก หรือมาเป็นครอบครัว มีทั้งเด็ก และผู้สูงอายุ ก็สนุกกันได้เต็มที่

  • ที่อยู่: ทางหลวงหมายเลข 3017 ตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี 15000
  • พิกัด: ทุ่งทานตะวัน เขาจีนแล 
  • อัตราค่าเข้า: ฟรี (ไม่รวมค่าบริการรถราง และกิจกรรมอื่นๆ)
  • เวลาปิด-เปิด: เฉพาะฤดูหนาว เปิดทุกวัน เวลา 08:00-18:00 น.

15. ทุ่งคอสมอส น้องบุญทิ้ง นนท์ศิลาฟาร์ม สระบุรี

คอสมอสเป็นดอกไม้ที่จะบานเฉพาะช่วงฤดูหนาวเท่านั้น ทุ่งคอสมอส จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวที่ไม่ควรพลาด เพราะมีวิวสวยมากเหมือนอยู่ต่างประเทศ ซึ่งจริงๆ แล้ว ที่นี่เป็นฟาร์มแพะ แต่แบ่งพื้นที่มาปลูกดอกคอสมอส 25 ไร่ พอถึงช่วงฤดูหนาว เลยกลายเป็นสีชมพูไปทั้งทุ่ง นักท่องเที่ยวเดินชมได้อย่างใกล้ชิด มีมุมสวยๆ ที่จัดไว้ให้ถ่ายรูปโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีร้านอาหาร และคาเฟ่ ให้นั่งพักกินของอร่อยด้วย

  • ที่อยู่: 37/3 หมู่ 6 ซอย 7 ซ้าย ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี 18240
  • พิกัด: น้องบุญทิ้ง นนท์ศิลาฟาร์ม
  • อัตราค่าเข้า: คนละ 50 บาท
  • เวลาปิด-เปิด: เฉพาะฤดูหนาว เปิดทุกวัน เวลา 08:00-18:00 น.
แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด

แอร์พอเทลล์บริการขนส่งกระเป๋าไปต่างจังหวัด

AIRPORTELs ให้บริการขนส่งกระเป๋าไปยังที่พัก ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทาง เปิดประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบตัวเปล่า ไม่ต้องขนสัมภาระเอง หรือคอยกังวลว่าจะวางลืมไว้ที่ไหน 

วิธีใช้งานก็ง่ายมาก เพียงแค่กดจองผ่านแอปพลิเคชัน และเลือกว่าต้องการให้ไปรับ-ส่งสัมภาระที่ไหน เวลาใด แล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ AIRPORTELs ช่วยดูแลขนสัมภาระทั้งหมดแทนได้เลย 

ค่าบริการเริ่มต้นเพียง 299 บาทเท่านั้น อีกทั้งยังอุ่นใจไม่ต้องกลัวของหาย เพราะมีระบบติดตามสถานะการขนส่งแบบเรียลไทม์ และประกันค่าเสียหายสูงสุดถึง 50,000 บาท

สรุป

อากาศเย็นสบายแบบนี้อย่ามัวแต่อยู่บ้าน เพราะเมืองไทยยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหน้าหนาวสวยๆ อีกมากมายที่รอทุกคนอยู่ ถึงจะมีเวลาน้อยก็ไม่เป็นไร เที่ยวใกล้ๆ กรุงเทพก็ฟินได้เหมือนกัน มีทั้งจุดชมวิวสวยๆ อุทยาน ทุ่งกว้าง สวนดอกไม้ และกิจกรรมที่หลากหลาย แต่ถ้าใครไม่อยากขนสัมภาระเองให้เหนื่อย หรือขากลับซื้อของฝากเยอะ ก็ไม่ต้องหิ้วเองให้เปลืองแรง AIRPORTELs มีบริการขนกระเป๋าและสัมภาระทั้งหมดไปส่งให้ถึงที่พัก เดินทางกลับได้แบบชิลๆ จะแวะคาเฟ่ ถ่ายรูป หรือที่เที่ยวอื่นๆ ระหว่างทางก็ยังได้ ไม่ต้องวนกลับไปเอากระเป๋าที่โรงแรมอีก ตรงกลับที่พักได้เลย ทั้งสะดวก ประหยัดเวลา และยังปลอดภัยด้วยระบบรักษาความปลอดภัย 24 ชม.

23 ทะเลไทย เอาใจสายคอนเทนต์ ใส่บิกินี่เดินหาดชิลๆ อัปเดต 2023

ในช่วงวันหยุดหรือลาพักร้อน หลายๆคนก็ต้องมีการวางแผนในการไปเที่ยว หรือกำลังคิดว่าควรไปเที่ยวทะเลที่ไหนดี  ซึ่งทะเลสวยๆ ในประเทศไทยนั้นมีอยู่หลายแห่ง หลายจังหวัด ทำให้กว่าจะเลือกเที่ยวทะเลให้ถูกใจได้ก็คิดแล้วคิดอีก 

ในบทความนี้จึงขอเป็นตัวเลือกที่ช่วยแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยสวยๆ ให้กับคุณ เอาใจสายคอนเทนต์ ที่ชอบใส่บิกินี่เพื่อเก็บรูปสวยๆ เที่ยวทะเลกันแบบหมู่คณะ หรืออยากจะไปแบบคนเดียวเพื่อเดินหาดชิลๆ ก็ยังได้ โดยบทความนี้ได้รวบรวม 23 ที่เที่ยวทะเลไทย ฉบับอัปเดต 2023 ที่น่าเที่ยวมาแล้วดังนี้

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

จังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยที่มีความสวยงามแบบธรรมชาติ บรรยากาศเงียบสงบ โดยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดแห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ ตัวจังหวัดติดกับชายฝั่งอ่าวไทย จึงทำให้มีหาดสวยๆ หลายแห่ง 

เป็นที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังส่งเสริมให้ทะเลไทยของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น เพราะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีความสวยงามตามสไตล์เอกลักษณ์ของภาคใต้ และยังเป็นจังหวัดที่เชื่อมระหว่างภาคใต้และภาคกลาง ไม่ไกลจากกรุงเทพมาก เหมาะสำหรับเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจในช่วงวันหยุดหรือสามารถเดินชิลๆ ใส่บิกินี่ อาบแดดก็ได้ แต่จะมีหาดอะไรบ้างที่น่าเที่ยวบ้าง ไปดูกัน

1. หาดหัวหิน 

หาดหัวหิน หาดแห่งนี้มีประวัติความเป็นมาอย่างยาวนาน ถูกสร้างขึ้นในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นสถานที่พักตากอากาศของชนชั้นสูง ขุนนางและพระญาติ อีกทั้งป้องกันไม่ให้มีผู้บุกรุกทางทะเลไทย  แต่ในปัจจุบันไม่ว่าใครก็สามารถไปเที่ยวสถานที่แห่งนี้ได้ และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของเมืองไทย

ควรเที่ยวหาดหัวหินช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการไปเที่ยวหาดหัวหินจะเป็นช่วงฤดูร้อนตั้งแต่เดือนมีนาคมไปจนถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากมีบรรยากาศกำลังดี ฝนไม่ตก บรรยากาศของทะเลกำลังสวย สามารถเดินรับลมแดดได้อย่างชิลๆ เป็นช่วงวันหยุดเทศกาลของใครหลายๆ คนและยังเป็นช่วงปิดเทอมสำหรับเด็กๆ เช่นกัน

จุดเด่นของหาดหัวหิน

เป็นหาดที่มีน้ำทะเลใส ทรายมีความขาวสะอาด ลมพัดเย็นสบาย บริเวณของชายหาดนั้นทอดยาวถึง 5 กิโลเมตร จึงทำให้มีพื้นที่ลานกว้าง เหมาะสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ริมชายหาด และยังมีที่พักตากอากาศ รีสอร์ท โรงแรมให้เลือกจนนับไม่ถ้วน พร้อมทั้งมีร้านอาหารอร่อยๆ ริมหาดและรอบนอกหาดให้นักท่องเที่ยวได้รับประทาน

กิจกรรมที่หาดหัวหิน

  • ขี่ม้าริมชายหาด 
  • เดินรับลม
  • เล่นไคท์เซิร์ฟ
  • ล่องเรือชมทะเล

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดหัวหินที่น่าสนใจ เช่น 

  • สถานีรถไฟหัวหิน ที่มีเอกลักษณ์ความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมสไตล์ย้อนยุค ตัวอาคารมีในบริเวณรอบๆ มีลวดลายที่สวยงามอีกด้วย
  • ตลาดโต้รุ่งหัวหินหรือถนนคนเดินหัวหิน เป็นตลาดที่เปิดตั้งแต่ช่วงสี่โมงเย็นถึงเที่ยงคืน มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยตลาดแห่งนี้มีสินค้าเบ็ดเตล็ดมากมาย ไม่ว่าจะเป็นสร้อยข้อมือ เสื้อผ้า นาฬิกา ร้านอาหาร ร้านขนม ของหวาน ของทานเล่น อาหารทะเล เหมาะสำหรับเดินชอปปิงในยามค่ำคืนและเลือกซื้อของได้ตลอดสองข้างทาง
  • จุดชมวิว เขาหินเหล็กไฟ

เป็นจุดชมวิวภูเขาขนาดเล็ก ที่สามารถมองเห็นวิวทะเล ตัวอาคาร รีสอร์ท โรงแรมได้อย่างชัดเจนและสวยงาม ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเล 162 เมตร ยิ่งในช่วงตอนเย็นพระอาทิตย์ใกล้ตกดิน จะมีบรรยากาศที่สวยงามมาก

การเดินทางไปยังหาดหัวหิน

  • นั่งรถทัวร์ ที่สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ ตลิ่งชัน มาลงที่หอนาฬิกาหัวหิน
  • รถยนต์ส่วนตัว มาจากกรุงเทพฯ ขึ้นทางด่วน มาลงที่ดาวคะนอง แล้วใช้ทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านจังหวัดเพชรบุรีและชะอำ มายังใต้อุโมงค์หัวหิน แล้วเข้าสู่เมืองหัวหิน
  • นั่งรถไฟ ลงที่สถานีหัวหิน แล้วต่อโดยวินมอเตอร์ไซค์หรือนั่งรถสองแถวมาที่หาดหัวหิน

ที่อยู่หาดหัวหิน : ต.หัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77110

พิกัด: https://maps.app.goo.gl/v2aCdvLGnnsxbG6w9

เวลาเปิด-ปิด  : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

โทร  :       –

2. หาดบ้านกรูด 

หาดบ้านกรูดเป็นชายหาดทะเลไทยที่แบ่งออกเป็น 2 หาด คือหาดบ้านกรูดเหนือและหาดบ้านกรูดใต้ เนื่องจากเป็นชายหาดที่มีความยาวถึง 12 กิโลเมตร แต่ก่อนนั้นมีต้นมะกรูดขึ้นเป็นจำนวนในบริเวณรอบๆ ชายหาด จึงพากันเรียกว่าหาดบ้านกรูด

ควรเที่ยวหาดบ้านกรูดช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการไปเที่ยวหาดบ้านกรูดจะเป็นช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากเป็นช่วงเดือนวันหยุดยาว มีสภาพอากาศที่แจ่มใส สามารถรับบรรยากาศลมแดดได้อย่างเต็มที่

จุดเด่นของหาดบ้านกรูด

เป็นชายหาดที่มีความสวยงามสไตล์ธรรมชาติ บริเวณชายหาดล้อมรอบไปด้วยต้นมะพร้าวที่เขียวสดใส หาดทรายเป็นสีขาวสะอาด น้ำทะเลสีคราม โดยหาดบ้านกรูดเป็นชายหาดที่มีความยาวมาก จึงทำให้มีหาดบ้านกรูดเหนือและหาดบ้านกรูดใต้ซึ่งมีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป 

โดยหาดบ้านกรูดเหนือเป็นหาดที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ไม่มีถนนกั้น ส่วนหาดบ้านกรูดใต้เป็นชายหาดที่มีถนนกั้นทอดยาวเลียบไปกับชายหาด มีรีสอร์ท โรงแรมริมทะเลหลายแห่งสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อน นักท่องเที่ยวยังสามารถมองเห็นยอดเขาธงชัยที่เป็นสถานที่ประดิษฐานพระมหาเจดีย์ภักดีประกาศและพุทธกิติสิริชัยในระหว่างเดินชมทะเลอีกด้วย 

นอกจากนี้ยังมีร้านคาเฟ่สไตล์น่ารัก มีมุมถ่ายรูปสวยๆ จากป้ายสัญลักษณ์ของหาดบ้านกรูด รวมทั้งหลักกิโลสีขาว มากไปกว่านั้นการมาเที่ยวที่หาดบ้านกรูด นักท่องเที่ยวจะได้พบกับวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มีอาชีพการทำประมงบวกกับการแปรรูปอาหารนั่นเอง หากใครไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวทะเลที่ไหนดี ก็สามารถแวะมาที่หาดบ้านกรูดได้เลย

กิจกรรมที่หาดบ้านกรูด

  • ปั่นจักรยานบนถนนเลียบชายหาด
  • นอนผักผ่อนบริเวณริมชายหาด หรือนอนอาบแดด
  • เดินรับลม 
  • เล่นน้ำทะเล ว่ายน้ำ
  • ถ่ายรูปเช็คอิน

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดหัวบ้านกรูดที่น่าสนใจ เช่น

  • เขาธงชัย ที่อยู่บนยอดเขาสูงใหญ่ซึ่งกั้นระหว่างหาดบ้านกรูดและหาดทางสาย โดยเขาธงชัยยังเป็นที่ตั้งของพระมหาธาตุเจดีย์ภักดีประกาศที่ประดิษฐานพระพุทธกิตติสิริชัยหรือหลวงพ่อใหญ่ ให้นักท่องเที่ยวได้มากราบไหว้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมือง เพื่อความเป็นสิริมงคล

การเดินทางไปยังหาดบ้านกรูด

  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์สายกรุงเทพฯ-บางสะพานน้อย มาลงที่ปากทางเข้าบ้านกรูด แล้วต่อด้วยรถสองแถวหรือวินมอเตอร์ไซค์
  • รถไฟ นั่งรถไฟสายใต้วิ่งลัดเลาะไปยังหมู่บ้านของบ้านกรูด
  • รถยนต์ ขับมาที่ทางหลวงหมายเลข 4 ถนนเพชรเกษม ประมาณกิโลเมตรที่ 382 จากนั้นเลี้ยวซ้ายไปตามถนนเพชรเกษม-บ้านกรูด แล้วทางรถไฟไปอีกประมาณ 9 กิโลเมตร ก็จะถึงถนนเลียบหาดบ้านกรูด

ที่อยู่หาดบ้านกรูด : หาดบ้านกรูด บ้านกรูด ต.ธงชัย อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZACgPSa52UDTEnnf8

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00น.

โทร : 032-513-854 

อ่าวมะนาว

3. อ่าวมะนาว

อ่าวมะนาวเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว

ทะเลไทยที่มีความสวยงามสไตล์ธรรมชาติ และมีชื่อเสียงในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์

โดยอ่าวมะนาวนั้น มีลักษณะเป็นชายหาดโค้งครึ่งวงกลม หากมองจากมุมสูงจะคล้ายกับมะนาวครึ่งผล จึงเรียกว่าอ่าวมะนาว

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 อ่าวแห่งนี้เคยเป็นยุทธภูมิรบระหว่างกองทัพไทยและญี่ปุ่น

เมื่อนักท่องเที่ยวได้มาเยือนสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนี้ก็จะได้เห็นความสวยงามของทะเล

พร้อมทั้งเห็นอนุเสาวรีย์ของวีรชนที่เสียสละชีวิตในการปกป้องผืนแผ่นดินไทย ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเชิดชูเกียรติความกล้าหาญของวีรชนที่เคยปกป้องรักษา จนทำให้มีอ่าวมะนาวมาจนถึงปัจจุบัน

ควรเที่ยวหาดอ่าวมะนาวช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาอ่าวมะนาว ควรเป็นช่วงซัมเมอร์ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายนนั่นเอง เพราะว่าน้ำทะเลจะมีสีใส มีบรรยากาศดี ที่ทำให้รู้สึกร่มรื่น แสนเย็นสบายจากทิวสน และมีความคึกคักจากนักท่องเที่ยวอีกด้วย

จุดเด่นของอ่าวมะนาว

เป็นชายหาดทะเลไทยที่สะอาด มีน้ำทะเลสวยใส และยังเป็นหาดที่ความปลอดภัยเนื่องจากมีภูเขาที่ค่อยบังกระแสน้ำ กระแสลม บริเวณรอบอ่าวมีวิวทิวทัศน์ที่น่ามอง มีพื้นที่กว้างสำหรับเดินเล่นรับบรรยากาศที่เย็นสบาย เงียบสงบ 

โดยตรงข้ามกับหาดยังเป็นเขาล้อมหมวกที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลองและมีศาลเจ้าพ่อล้อมหมวกอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารอร่อยๆ มีที่พักรีสอร์ท คอนโดมิเนียม โรงแรม  ทาวน์เฮ้าส์ที่คอยอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวได้พักผ่อนอย่างสบายใจ

กิจกรรมที่อ่าวมะนาว

  • นอนพักผ่อนบนเตียงริมชายหาด
  • เดินรับลม ชมวิว
  • เล่นน้ำทะเล
  • ดำน้ำ
  • รับประทานอาหาร
  • ถ่ายรูป
  • ปูเสื่อนั่งเล่นริมชายหาด

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงอ่าวมะนาวที่น่าสนใจ เช่น

  • ศูนย์เรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง กองบิน 5  เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งอยู่ตรงข้ามชายหาดอ่าวมะนาว ภายในศูนย์เศรษฐกิจมีสัตว์ที่น่ารัก เช่น แพะ กว้าง ม้า ให้นักท่องเที่ยวได้มาเข้าชม และถ่ายรูปสัมผัสบรรยากาศสวยๆ เป็นที่ระลึก
  • เขาล้อมหมวก เป็นสถานที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง และบริเวณเชิงเขามีศาลเจ้าพ่อเขาล้อมหมวก ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวผู้มาเยือนได้สักการะกราบไหว้

หากใครที่ชอบเที่ยวทะเลสวยที่สุดในไทย หรือกำลังคิดว่าอยากไปเที่ยวทะเลคนเดียวที่ไหนดี อ่าวมะนาวก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่เที่ยวสำหรับใครหลายๆคนที่ไม่ควรพลาด

การเดินทางไปยังอ่าวมะนาว

  • รถตู้ ขึ้นรถตู้สายกรุงเทพฯ-ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อมายังหัวหิน

หรือขึ้นรถตู้จากสถานีสายใต้ใหม่ไปลงที่อ่าวมะนาว

  • รถไฟ นั่งรถไฟสายใต้จากกรุงเทพไปลงที่ประจวบคีรีขันธ์
  • รถทัวร์ นั่งรถทัวร์จากสถานีขนส่งสายใต้ใหม่ไปลงที่ประจวบคีรีขันธ์

ที่อยู่อ่าวมะนาว : อยู่ในเขตกองบิน 53 กองทัพอากาศ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ 77000

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/4AhcKQa9GECyLaTS9

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 0-3266-1088-9

4. หาดปากน้ำปราณ ปราณบุรี 

หาดปากน้ำปราณ ปราณบุรีเป็นหาดน่าเที่ยวอีกที่หนึ่งในจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยหาดแห่งนี้มีขนาดพื้นที่ชายหาดที่กว้าง และเป็นชายหาดที่ทอดยาวจนไปถึงอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด 

ซึ่งหาดแห่งนี้เริ่มตั้งแต่ปากน้ำปราณที่อยู่ใกล้กับที่ตั้งศาลกรมหลวงชุมพรไปถึงยังหาดนเรศวรตอนใต้ อีกทั้งบริเวณชายหาดเป็นถนนเลียบหาดยาวตลอดแนว มีความเงียบสงบ ไม่วุ่นวาย 

ควรเที่ยวหาดปากน้ำปราณ ปราณบุรีช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดปากน้ำปราณ ปราณบุรีจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากจะได้เห็นคลื่นน้ำทะเลที่สวยงาม มีบรรยากาศริมชายหาดที่กำลังดี

จุดเด่นของหาดปากน้ำปราณ ปราณบุรี

เป็นชายหาดทะเลไทยที่มีบรรยากาศร่มรื่น 

เย็นสบายเป็นธรรมชาติ น้ำทะเลมีสีครามสวย มีพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมต่างๆ บริเวณรอบหาดมีวิวทะเลที่สวยงามและมีต้นตาล 3 ต้น ที่สัญลักษณ์อันโดดเด่นที่ชวนดึงดูดซึ่งอยู่คู่ชายหาด 

มีที่พักหลากหลายให้นักท่องเที่ยวได้เลือกพักผ่อน อีกทั้งนักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสถึงวิถีชีวิตด้านการประมงของชาวบ้าน มีอาหารทะเลและเครื่องประดับ ให้ได้เลือกซื้อเป็นของฝาก

กิจกรรมที่หาดปากน้ำปราณ ปราณบุรี

  • เดินชมหาดทราย รับลมริมทะเล
  • นั่งชมวิวริมชายหาด
  • นอนพักผ่อน นอนอาบแดด
  • วิ่งเล่น ออกกำลังกาย
  • ปั่นจักรยานริมถนนเลียบชายหาด
  • เล่นเซิร์ฟสเก็ต
  • ถ่ายรูป
  • ล่องเรือชมทะเล

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดปากน้ำปราณ ปราณบุรีที่น่าสนใจ เช่น

  • อุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ซึ่งบนยอดเขามีถ้ำพระยานคร โดยมีแสงแดดส่องมายังถ้ำพระนครทำให้เกิดความสวยงาม 
  • ทุ่งสามร้อยยอด (บึงบัวสามร้อยยอด)

เป็นทุ่งที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ รายล้อมไปด้วยบึงบัวจำนวนมาก โดยมีสะพานยาวให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมบรรยากาศที่เย็นสบาย เป็นธรรมชาติ อีกทั้งเป็นสถานที่อันมีความอุดมสมบูรณ์ และมีนกหลากหลายสายพันธุ์อาศัยอยู่

  • ถนนคนเดินชายทะเล ปากน้ำปราณบุรี เป็นอีกที่เที่ยวที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบมานั่งชิลชมวิวทะเลสวยๆ โดยที่นี้มีอาหารหลากหลายให้ได้เลือกรับประทาน ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเลสดๆ ของหวานของทานเล่น ให้นักท่องเที่ยวได้เลือกซื้อ หรือเดินชอปปิงกัน

ใครที่ชื่นชอบบรรยากาศของทะเลไทยที่มีความเงียบสงบ ร่มรื่น ก็ควรแวะมาที่หาดปากน้ำปราณ ปราณบุรีสักครั้ง

การเดินทางไปยังหาดปากน้ำปราณ ปราณบุรี

  • รถไฟ ขึ้นรถไฟสายใต้ผ่านหัวหิน ปราณบุรีและประจวบคีรีขันธ์
  • รถยนต์ ขับรถยนต์โดยใช้เส้นทางเพชรเกษมทางหลวงหมายเลข 4 ผ่านพุทธมณฑลนครปฐม ราชบุรี เพชรบุรี ถึง อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์
  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ หน้าโลตัส สายอนุเสาวรีย์ชัยฯ-ปราณบุรี
  • รถทัวร์ สามารถเลือกไปขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่ เอกมัย หรือสายใต้ใหม่ และสามารถเลือกลงที่สถานีขนส่งหัวหินหรือสถานีขนส่งประจวบคีรีขันธ์

ที่อยู่หาดปากน้ำปราณ ปราณบุรี : ต.ปากน้ำปราณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Jw1hqLMnhBibL16o9

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :          –

จังหวัดชลบุรี

จังหวัดชลบุรี

จังหวัดชลบุรีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยที่มีชื่อเสียงได้รับความนิยม เนื่องจากมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามมากมาย ไม่ว่าจะเป็นทะเลสีสวย บรรยากาศเย็นสบาย โดยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดแห่งนี้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ จึงทำให้เป็นแหล่งอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวและมีความเจริญทางด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งจังหวัดชลบุรีเป็นทะเลตะวันออกที่ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ ทำให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติอยากมาเยี่ยมชมหรือลงทุนทำธุรกิจนั่นเอง 

นอกจากนี้ยังมีบริการขนส่งสัมภาระกระเป๋าของ AIPPORTELs สาขา Terminal 21 Pattaya สำหรับนักท่องเที่ยวที่อยากมาเที่ยวแบบเดินสบาย ไร้กังวล กระเป๋าไม่หาย มีความปลอดภัย โดยสามารถใช้บริการขนส่งสัมภาระของ AIPPORTELs จากปลายทาง กรุงเทพ-พัทยา, พัทยา-พัทยา, พัทยา-กรุงเทพ ซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่ 100 บาทขึ้นไป เหมาะสำหรับการที่ไม่ต้องขนสัมภาระหนักๆ ด้วยตนเอง และหากใครยังไม่รู้ว่าเที่ยวทะเลที่ไหนดีในจังหวัดชลบุรี หรือมีที่ไหนบ้างให้น่าเที่ยว ก็ไปดูกันได้เลย

5. เกาะล้าน 

เกาะล้านเป็นเกาะที่มีชื่อเสียงทางทะเลของพัทยา ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ในอ่าวไทยของจังหวัดชลบุรี โดยสมัยก่อนเกาะล้านเป็นแค่ตำบลเกาะล้าน มีระบบคมนาคมที่ไม่สะดวกและถูกโจรสลัดปล้น จึงทำให้มีการยุบเกาะล้าน 

ภายหลังเกาะล้านมีการขึ้นเป็นแหล่งสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองพัทยา จึงทำให้เกาะล้านกลายเป็นเกาะที่มีนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและเป็นเกาะได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันในเรื่องของทะเลไทยน่าเที่ยวและมีทัศนียภาพที่สวยงาม

ควรเที่ยวเกาะล้านช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

ช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวเกาะล้านแนะนำเป็นช่วงหน้าร้อนระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน เนื่องจากเป็นช่วงทะเลสวย ฟ้าใส แดดกำลังดี

จุดเด่นของเกาะล้าน

เกาะล้านเป็นเกาะที่มีหาดทรายขาวละเอียด มีน้ำทะเลสีฟ้าใสสะอาด ทำให้มีปลาและสัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยบริเวณรอบเกาะล้านยังมีเกาะเล็กๆ รายล้อม ทำให้มีบรรยากาศทางธรรมชาติที่น่ามอง และมีจุดชมวิวที่สวยงาม อีกทั้งเกาะล้านเป็นเกาะที่มีพื้นที่ใหญ่และกว้า งจึงทำให้มีหาดต่างๆบนเกาะล้านที่น่าดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งได้แก่

  • หาดตาแหวน เป็นหาดที่มีความกว้างและทอดยาวกว่าหาดอื่นๆ บนเกาะล้าน ประมาณ 750 เมตร โดยน้ำทะเลบนหาดตาแหวนนั้นมีสีฟ้าครามใสน่ามอง บวกกับหาดทรายสีขาว จึงทำให้มีความสวยงามอย่างตัวของหาดแห่งนี้ 

พร้อมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร ที่พักหลากสไตล์ให้เลือก 

มีเครื่องเล่นสำหรับการทำกิจกรรม

  • หาดทองหลาง เป็นชายหาดขนาดเล็กเต็มไปด้วยเสียงคลื่น

ซึ่งมีทำให้มีกลิ่นอายของชายหาดสไตล์ธรรมชาติ  อีกทั้งหาดทองหลางยังมีความสวยงามแบบเงียบสงบและหาดทรายมีสีขาวนวล  เหมาะสำหรับการพักผ่อนแบบส่วนตัวและดำน้ำดูปะการัง ดูปลาตัวเล็ก แถมยังเป็นชายหาดที่อยู่ติดกับหาดตาแหวน ทำให้สะดวกต่อการมาเที่ยว พร้อมกับมีจุดชมวิวที่สวยงามบนหาดทองหลางอีกด้วย

  • หาดสังวาลย์ เป็นหาดที่มีความเงียบสงบ มีน้ำทะเลใสกว่าหาดอื่นๆ ซึ่งน้ำทะเลมีความใสสุดๆ จนสามารถมองเห็นโขดหินที่สวยงามได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้หาดสังวาลย์ยังมีสะพานไม้สีขาวที่มีความยาวถึง 150 เมตร ซึ่งเชื่อมต่อจากหาดตาแหวนให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมวิวท่ามกลางบรรยากาศทะเลสีครามใสไล่ระดับ และถ่ายรูปกับโขดหินสวยๆ ได้อีกด้วย

กิจกรรมที่เกาะล้าน

  • เล่นเรือลากร่มชูชีพ
  • เล่นน้ำทะเล
  • เล่นเจ็ตสกี
  • ดำน้ำดูปะการัง
  • เดินชมวิวบนชายหาด
  • นอนอาบแดด
  • ล่องเรือ
  • ถ่ายรูป
  • ปั่นจักรยาน

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงเกาะล้านที่น่าสนใจ เช่น

  • เกาะครก เป็นเกาะที่อยู่ใกล้กับเกาะล้าน ซึ่งเกาะแห่งนี้มีขนาดเล็ก มีโขดหินที่สวยงามอยู่บริเวณรอบเกาะ อีกทั้งเป็นเกาะที่มีระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ มีปะการัง สัตว์ทะเลอาศัยอยู่ ทำให้เหมาะต่อการดำน้ำดูปะการังและล่องเรือดูน้ำทะเล หากใครที่ชอบบรรยากาศที่เงียบสงบก็สามารถมาที่เกาะแห่งนี้ได้ 
  • เกาะสาก เป็นเกาะที่มีขนาดเล็ก โดยรูปร่างของเกาะสากมีลักษณะรูปร่างคล้ายเกือกม้าหงาย อีกทั้งเกาะแห่งนี้มีปะการัง ฝูงปลา สัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก น้ำทะเลมีสีครามสวย ทำให้เกาะแห่งนี้เหมาะสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ เช่น ดำน้ำ เล่นเจ็ตสกี เล่นบานาน่าโบ๊ท เป็นต้น

เกาะล้านนับว่าสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยยอดฮิต ที่ทุกคนควรมาสัมผัสบรรยากาศชายหาดทะเลสีขาวสวย น้ำทะเลสีครามใส สไตล์ธรรมชาติ

การเดินทางไปยังเกาะล้าน

  • นั่งเรือ ไปยังเกาะล้านได้จาก 2 ท่าเรือ คือ ท่าเรือหน้าบ้านและท่าเรือหาดตาแหวน
  • สปีดโบ๊ท นั่งเรือสปีดโบ๊ทไปยังเกาะล้าน โดยเลือกลงได้ทั้งท่าเรือหน้าบ้านและท่าเรือหาดตาแหวน
  • รถตู้ เลือกขึ้นรถตู้ไปเกาะล้านได้จากสถานีขนส่งหมอชิตใหม่และสถานีขนส่งเอกมัย รถจะมาส่งที่ท่าเรือแหลมบาลีฮาย
  • รถทัวร์  ขึ้นรถทัวร์จากสถานีขนส่งหมอชิตใหม่และสถานีขนส่งเอกมัย
  • รถไฟ ขึ้นรถไฟขบวนเส้นทางพิเศษ กรุงเทพฯ – พัทยา – บ้านพลูตาหลวง

เมื่อเดินทางมาถึงพัทยาแล้ว จะต้องต่อรถสองแถวจากหน้าสถานีรถไฟไปยังท่าเรือแหลมบาลีฮายเพื่อไปที่เกาะล้าน

ที่อยู่เกาะล้าน : อยู่เลขที่ 222 หมู่ 7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี อยู่ทางทิศตะวันตกของเมืองพัทยา

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/ZWKnEjw6JkBPihABA

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :          –

6. หาดพัทยา 

เป็นชายหาดทะเลไทยที่เป็นศูนย์กลางกิจกรรมทางทะเล ซึ่งเป็นหาดหลักที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและชาวต่างชาติ โดยหาดแห่งนี้มีความยาวกว่า 3 กิโลเมตร จึงทำให้มีถนนเลียบชายหาดยาวไปตลอดทางสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ

ควรเที่ยวหาดพัทยาช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดพัทยาจะอยู่ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม

จุดเด่นของหาดพัทยา

เป็นชายหาดที่สะอาดและมีขนาดของชายหาดที่กว้างขวาง บรรยากาศรอบหาดมีความสวยงาม เย็นสบาย คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว อีกทั้งมีวิวทิวทัศน์บริเวณรอบหาดที่น่ามอง มีที่พักผ่อนหลายแห่งให้เลือกและยังมีร้านอาหารที่แสนอร่อย รวมทั้งมีสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับให้บริการ

กิจกรรมที่หาดพัทยา

  • เล่นเจ็ทสกี
  • เล่นน้ำทะเล
  • เล่นเครื่องร่อนพาราเซลลิ่ง
  • นอนอาบแดด
  • เดินชมวิว
  • วิ่งเล่น ออกกำลังกาย
  • ว่ายน้ำ
  • ถ่ายรูปริมชายหาด
  • ล่องเรือ

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียง

หาดพัทยาน่าสนใจ เช่น 

  • สวนนงนุช เป็นสวนที่มีขนาดใหญ่และสวยงาม บรรยากาศภายในสวนประดับไปด้วยดอกไม้ สวนกล้วยไม้ สวนพฤกษชาติ สวนกระบองเพชร ทำให้สวนแห่งนี้เป็นสวนที่สวยงามทั้งรูปแบบและรูปทรง ร่มรื่น เขียวขจี น่ามาเที่ยวชม
  • ดอลฟินนาเรียมพัทยา เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับการแสดงโชว์ปลาโลมาที่แสนน่ารักโดยเฉพาะ

การเดินทางไปยังหาดพัทยา

  • รถไฟ ขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ไปยังสถานีพัทยาและสถานีพัทยาใต้
  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 และสถานีขนส่งเอกมัย ที่มีคิวรถตู้ไปพัทยา 
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 และสถานีขนส่งเอกมัย ที่มีคิวรถทัวร์ไปพัทยา 
  • รถยนต์  ขับมาเส้นทางหลวง 34 ทางบางนา-บางปะกง แล้วเข้าทางหลวงหมายเลข 3 เส้นสุขุมวิท จะผ่านเมืองชลบุรี บางแสน และศรีราชา จากนั้นให้ตรงไปที่พัทยา

ที่อยู่หาดพัทยา : เมืองพัทยา อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/WKNVpcJ2bokgLTGg8

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร  :        

เกาะไผ่ พัทยา 

7. เกาะไผ่ พัทยา 

เกาะไผ่ พัทยา เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะไผ่ ซึ่งตั้งอยู่บนอ่าวพัทยา มีความห่างจากเกาะล้านประมาณ 10 กิโลเมตร โดยเป็นเกาะลับของพัทยาซึ่งมีบรรยากาศที่สงบ น่าอยู่ เนื่องจากยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนั่นเอง อีกทั้งได้รับความดูแลและฟื้นฟูจากกองทัพเรือ ทำให้กลายเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์ มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม เป็นอีกเกาะของทะเลไทยที่น่าท่องเที่ยวและไม่ไกลจากกรุงเทพ

ควรเที่ยวเกาะไผ่ พัทยาช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวพัทยาเกาะไผ่จะเป็นช่วงฤดูร้อน ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงพฤษภาคมนั่นเอง เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีวันหยุดพักร้อนหลายวันและมาพักผ่อนนอนอาบแดดรับวิตามินได้อย่างเต็มที่

จุดเด่นของเกาะไผ่ พัทยา

เป็นเกาะที่มีหาดทรายสีขาวนุ่มละเอียด และมีน้ำทะเลสีใสสุดๆราวกับคริสตัลหรือกระจก

จนสามารถมองโขดหินสวยๆ อีกทั้งทำให้รู้สึกอยากนอนเล่นบนน้ำทะเล บรรยากาศรอบเกาะมีความเย็นสบาย เงียบสงบเหมือนอยู่บนเกาะส่วนตัว และนักท่องเที่ยวยังสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์อันสดชื่นได้อย่างเต็มปอด 

รวมถึงเป็นเกาะที่มีความอุดมสมบูรณ์จึงทำให้มีฝูงปลา สัตว์น้ำอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เหมาะสำหรับการดำน้ำดูปะการัง ใต้ท้องทะเลไทยที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีหมูแคระที่น่ารัก รอตอนรับและทักทายนักท่องเที่ยวอีกด้วย เนื่องจากเกาะไม่อนุญาตให้พักค้างคืน จึงแนะนำให้มาเที่ยวที่เกาะไผ่แบบไปเช้าเย็นกลับจะดีที่สุด รวมถึงนักท่องเที่ยวยังสามารถนั่งพักชิลๆ ได้ทั้งวัน พร้อมกับรับประทานอาหารทะเลที่อร่อยๆ จากหลากหลายเมนู

กิจกรรมที่เกาะไผ่ พัทยา

  • นั่งเรือสปีดโบ๊ทชมทะเล
  • ล่องทะเล
  • ตกปลา
  • นอนอาบแดด
  • ดำน้ำ ดูปะการัง
  • เล่นน้ำทะเล
  • พายเรือคายัค
  • ถ่ายรูปบรรยากาศรอบเกาะ
  • นั่งปิคนิค

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงเกาะไผ่ พัทยาน่าสนใจ เช่น 

  • เกาะมารวิชัย เป็นเกาะที่มีบรรยากาศเงียบสงบ มีความสวยเป็นธรรมชาติ น้ำทะเลใสสะอาด หาดสวย น่าท่องเที่ยวโดยเกาะแห่งนี้มีความยาวถึง 2 กิโลเมตร 
  • เกาะกลึงบาดาล เป็นเกาะที่มีหาดทรายเล็กๆ อยู่ด้านทิศตะวันออกของเกาะและมีก้อนหินหลากหลายสีสัน โดยเป็นเกาะที่ทีความเงียบสงบ

นักท่องเที่ยวไม่นิยมมาเกาะแห่งนี้

ใครที่อยากสัมผัสบรรยากาศทะเลสีใสราวกับคริสตัล บรรยากาศเงียบสงบ ให้ความรู้สึกแบบเป็นส่วนตัว หรืออยากเห็นความน่ารักของน้องหมูแคระ เกาะไผ่เป็นอีกหนึ่งที่เที่ยวทะเลไทยที่รอตอบโจทย์สำหรับนักท่องเที่ยวสายชิลอยู่

การเดินทางไปยังเกาะไผ่ พัทยา

  • รถยนต์ ถ้ามาจากกรุงเทพ ให้ใช้ถนนเส้นบางนา-ตราด เข้าชลบุรีไปทางพัทยาใต้  จากนั้นขับรถไปจอดที่แหลมบาลีฮาย แล้วต่อด้วยการขึ้นท่าเรือแหลมบาลีฮายไปถึงเกาะไผ่
  • รถไฟ ขึ้นรถไฟที่สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ไปยังสถานีพัทยาและสถานีพัทยาใต้ จากนั้นต่อรถไปยังท่าเรือแหลมบาลีฮาย
  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 และสถานีขนส่งเอกมัย ที่มีคิวรถตู้ไปพัทยา

ที่อยู่เกาะไผ่ พัทยา : อ่าวพัทยา ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/UWGFmvWByYExCWfN7

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 085-8879358

8. หาดวงศ์อมาตย์ พัทยา 

หาดวงศ์อมาตย์ พัทยา เป็นชายหาดในพัทยาเหนือของอ่าวไทย ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ 

เป็นส่วนตัว ไม่มีถนนเลียบชายหาด ซึ่งเมื่อก่อนมีที่พักแค่ที่เดียวตั้งอยู่บนหาดแห่งนี้ นั่นก็คือโรงแรมวงศ์อมาตย์ โดยชื่อของโรงแรมมาจากคนที่เป็นเจ้าของที่พัก ก็เลยพากันเรียกว่า หาดวงศ์อมาตย์มาจนถึงปัจจุบัน

ควรเที่ยวหาดวงศ์อมาตย์ พัทยาช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมที่สุดในการเที่ยวหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา จะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน เนื่องจากน้ำทะเลมีความใส หาดสวยสุดในช่วงนี้ รวมถึงเหมาะสำหรับการนอนอาบแดด

จุดเด่นของหาดวงศ์อมาตย์ พัทยา

เป็นหาดที่มีน้ำทะเลใสสะอาดมาก หาดทรายสวย มีความเงียบสงบ ไม่มีเสียงรบกวนบรรยากาศในหาดมีความร่มรื่น นักท่องเที่ยวสามารถลงเล่นได้อย่างปลอดภัย เนื่องจากมีเชือกกั้นให้เล่นน้ำในเฉพาะบริเวณที่ปลอดภัยนั่นเอง ยิ่งในช่วงเย็นนักท่องเที่ยวสามารถนั่งเล่นชิลๆ ชมความสวยงามจากพระอาทิตย์ได้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีที่พักหลายแบบให้เลือกพักผ่อน มีร้านอาหารอร่อยให้รับประทาน รวมถึงเป็นทะเลไทยที่มีชื่อเสียง และควรแวะมาเที่ยวในช่วงวันหยุด

กิจกรรมที่หาดวงษ์อมาตย์ พัทยา

  • นอนพักผ่อน ตอนตากแดดริมทะเล
  • เดินชมวิว
  • นั่งปิคนิค
  • นัดพบปะเพื่อน
  • เล่นน้ำทะเล
  • ถ่ายรูป

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดวงษ์อมาตย์ พัทยาที่น่าสนใจ เช่น

  • อาร์บีบี พัทยา ไบกิ้งทัวร์ เป็นที่เที่ยวสำหรับล่องเรือชมทะเล
  • Pattaya and Bike Tours เป็นสถานที่เที่ยวสำหรับการขับรถมอเตอร์ไซค์ผจญภัย
  • อัลคาซ่าร์โชว์พัทยา เป็นที่เที่ยวสำหรับการแสดงโชว์คาบาเร่ต์ในยามค่ำคืน
  • Dive Station Pattaya เป็นที่เที่ยวสำหรับดำน้ำดูปะการัง ชมความสวยงามใต้ท้องทะเล

สำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบบรรยากาศทะเลสไตล์ความงียบสงบ อยากนั่งชมวิวที่สวยงามจากพระอาทิตย์แบบชิลๆ

ที่อยู่หาดวงศ์อมาตย์ พัทยา : หาดวงศ์อมาตย์ ซอยนาเกลือ18 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/CGrkZhzQQmbfod697

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :         – 

เกาะสีชัง

9. เกาะสีชัง 

เกาะสีชังเป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในอ่าวไทย ทะเลสีครามสวย ซึ่งในอดีตเกาะแห่งนี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ เนื่องจากเคยเป็นที่เสด็จประพาสและเป็นที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่3 ถึงรัชกาลที่ 6 โดยเกาะสีชังมีเสน่ห์และเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงดึงดูดนักท่องเที่ยวให้อยากมาเยี่ยมชมความงามของทะเลไทยตลอดทั้งปีและเป็นเกาะที่ไม่ห่างไกลจากกรุงเทพอีกด้วย

ควรเที่ยวเกาะสีชังช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวเกาะสีชังคือปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนมีนาคมหรือจะไปเที่ยวที่เกาะแห่งนี้ตลอดทั้งปีก็ได้

จุดเด่นของเกาะสีชัง

เป็นเกาะที่มีทัศนียภาพสวยงาม บรรยากาศดี มีกลิ่นอายทะเลธรรมชาติ อากาศบริสุทธิ์ สามารถสูดอากาศอันสดชื่นได้อย่างเต็มที่ โดยนักท่องเที่ยวนิยมมาที่เกาะสีชังเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเป็นเกาะที่พระเจ้าแผ่นดิน รัชกาลที่4 ถึงรัชกาลที่ 6 เสด็จประพาสและทรงประทับ  

ซึ่งสถานที่สวยๆบนเกาะสีชัง มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

  • เดอ แองเคอร์ รีสอร์ท De’Anchor 

เป็นรีสอร์ทที่มีลักษณะเป็นบ้านทรงสี่เหลี่ยม โทนสีขาวสวยสะอาดตา น่ามอง และเหมาะสำหรับการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศสวยๆ ริมชายหาดทะเล อีกทั้งรีสอร์ทแห่งนี้มีบรรยากาศดี นักท่องเที่ยวสามารถนั่งชมวิวทัศนียภาพ จากตัวรีสอร์ทไปยังชายหาดทะเล

  • สะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานไม้สีขาวทอดยาวไปยังกลางทะเล 

เหมาะสำหรับเดินถ่ายรูปหรือถ่ายพรีเวดดิ้ง รวมทั้งเดิมชมทัศนียภาพ ท่ามกลางบรรยากาศน้ำทะเลสีครามสวย

  • ช่องเขาขาด เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีลักษณะคล้ายแหลมพรหมเทพ โดยบริเวณรอบเต็มไปด้วยโขดหิน บรรยากาศดี เย็นสบาย เนื่องจากมีลมพัดอยู่ตลอดทั้งวัน และช่องเขายังมีสะพานทอดยาวไปยังแหลมหน้าผาด้านล่าง สำหรับเดินชมวิวและชมความสวยงามในยามเย็นของพระอาทิตย์ตก
  • มณฑปรอยพระพุทธบาท เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ซึ่งรัชกาลที่5 ทรงอัญเชิญพระพุทธบาทมาประดิษฐานไว้ เพื่อเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการ

สักการะกราบไหว้และขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต

กิจกรรมที่เกาะสีชัง

  • ดำน้ำชมปะการัง
  • เดินชมวิวทิวทัศน์
  • ตกปลา
  • นั่งพักผ่อนริมทะเล
  • นอนอาบแดด
  • ถ่ายูป
  • ล่องเรือ

การเดินทางไปยังเกาะสีชัง 

  • รถยนต์  ขับรถยนต์จากกรุงเทพ

โดยใช้ถนนสายบางนา-ตราด ไปจนถึงบางแสน แล้วจากนั้นตรงไปยังโรบินสัน ศรีราชา และจอดรถไว้ที่ท่าเรือเกาะสีชัง จากนั้นนั่งเรือข้ามไปยังเกาะสีชัง

  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่หมอชิต เพื่อมาลงที่หน้าโรบินสันศรีราชา แล้วต่อรถสองแถวหรือวินมอเตอร์ไซค์ไปที่ท่าเรือ
  • เรือสปีดโบ้ท นั่งเรือสปีดโบ้ทจากท่าเทียบเรือเกาะลอยไปยังเกาะสีชัง

ที่อยู่เกาะสีชัง :  ต.ท่าเทววงษ์ อ.เกาะสีชัง จ.ชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/51PrNzL36tEsCB5r8

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :          –

10. เกาะขาม สัตหีบ 

เกาะขามเป็นเกาะเล็กๆ ที่ตั้งอยู่ในอำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งเป็นเกาะที่อยู่ภายใต้การดูแลของกองทัพเรือ บริเวณรอบเกาะมีทัศนียภาพที่สวยงามและอุดมสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศทางธรรมชาติ รวมถึงเกาะขามยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อุทยานใต้ทะเลอีกด้วย

ควรเที่ยวเกาะขาม สัตหีบช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการเที่ยวเกาะขามจะอยู่ในระหว่างกลางเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายน เนื่องจากมีความปลอดภัย ได้บรรยากาศที่ดีและไม่มีคลื่นลมแรงจากทะเล

จุดเด่นของเกาะขาม สัตหีบ

เป็นเกาะที่มีน้ำทะเลสีฟ้าครามใส หาดทรายขาวสวย บรรยากาศเงียบสงบ แหละพื้นที่ของเกาะมีถึง 83,000 ตารางเมตร จึงเหมาะต่อการดำน้ำดูปะการังที่มีหลากหลายสีสัน 

ภายใต้ท้องทะเลยังมีปลานีโม่หรือฝูงปลาต่างแวะมาทักทายนักท่องเที่ยวและมีสะพานไม้ของหาดที่ทอดยาวเลียบไปตามแนวเชิงเขาริมทะเล ทำให้สามารถไปถ่ายรูปเล่นได้ รวมถึงมีพันธ์ุไม้ต่างๆ บริเวณรอบเกาะ โดยเกาะแห่งนี้นักท่องเที่ยวไม่สามารถค้างคืนได้ ควรไปเที่ยวชมบรรยากาศสวยๆ ทั้งวันแบบไปเช้าเย็นกลับ

กิจกรรมที่เกาะขาม สัตหีบ

  • ดำน้ำดูปะการัง
  • นั่งเรือท้องกระจกชมปะการัง
  • นั่งรับลม
  • เดินชมพรรณไม้และทัศนียภาพ
  • ปลูกปะการัง
  • ถ่ายรูป
  • เล่นน้ำทะเล
  • พายเรือคายัค

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงเกาะขาม สัตหีบที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดนางรำ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกที่หนึ่งในสัตหีบที่นิยมในหมู่นักท่องเที่ยว เนื่องจากเป็นชายหาดทะเลน้ำใส หาดทรายละเอียด บรรยากาศเงียบสงบ และมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม
  • เรือหลวงจักรีนฤเบศร์ เป็นเรือที่ต่อจากประเทศสเปน ประจำการในส่วนกำลังรบของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นเรือที่มีขนาดใหญ่ที่เคยบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปเข้าชมบรรยากาศภายในได้

หากใครที่ไม่รู้ว่าควรเที่ยวทะเลที่ไหนดี ก็สามารถมาเที่ยวที่เกาะขาม สัตหีบ ซึ่งเป็น

ทะเลไทยที่มีความสวยงามจากน้ำทะเล หาดทรายขาว และมีทัศนียภาพที่อุดมสมบูรณ์นั่นเอง

การเดินทางไปยังเกาะขาม สัตหีบ

  • รถตู้ ขึ้นรถตู้โดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-สัตหีบ ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (เอกมัย) แล้วลงที่ กม.6 หรือ กม.10  จากนั้นต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปที่บริเวณท่าเรือเพื่อที่จะนั่งเรือไปยังเกาะขาม
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งสายเหนือ (หมอชิต 2) แล้วนั่งรถกรุงเทพ – ระยอง (สายเก่า ) แล้วลงที่ตลาดสัตหีบ
  • รถยนต์  ขับรถยนต์จากกรุงเทพ 

ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรี เข้าสู่ตำบลสัตหีบ แล้วเลี้ยวเข้าสู่เส้นทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3126 จากนั้นขับไปก็เข้าสู่บ้านช่องแสมสารและถึงท่าเทียบเรือ แล้วขึ้นเรือไปยังเกาะขาม

ที่อยู่เกาะขาม สัตหีบ : ตำบลแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/1ZUyHRWjwSiy93JaA

เวลาเปิด-ปิด : วันเสาร์- วันอาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 033-124848

เกาะแสมสาร สัตหีบ 

11. เกาะแสมสาร สัตหีบ 

เกาะแสมสารเป็นเกาะที่มีรูปทรงยาวรี ในอดีตเกาะแห่งนี้มีชุมชนอาศัยอยู่ ต่อมาเป็นเกาะที่อยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ ซึ่งเกาะแห่งนี้มีบรรยากาศที่เงียบสงบ สวยงามสไตล์ธรรมชาติจึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด

ควรเที่ยวเกาะแสมสาร สัตหีบช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการไปเที่ยวเกาะแสมสาร คือสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หรือจะมาเที่ยวในช่วงซัมเมอร์ก็ได้ เนื่องจากนักท่องเที่ยวมีวันหยุดเยอะนั่นเอง

จุดเด่นของเกาะแสมสาร สัตหีบ

เป็นเกาะท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่อยู่ในโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระราชดำริสมเด็จพระเทพฯ โดยเกาะแสมสารมีหาดทรายสวย น้ำทะเลสีครามใส มีปะการังที่สวยงามและฝูงปลาจำนวนมากใต้ท้องทะเล รวมถึงนักท่องเที่ยวยังได้สูดอากาศอันบริสุทธิ์อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีร้านค้า ที่พักติดริมทะเลสำหรับพักผ่อนได้อย่างชิลๆ

กิจกรรมที่เกาะแสมสาร สัตหีบ

  • ดำน้ำดูปะการัง
  • นั่งเรือท้องกระจก
  • นอนอาบแดด
  • เดินชมวิว
  • เล่นน้ำทะเล
  • พายเรือคายัค
  • ถ่ายรูป

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียง

เกาะแสมสาร สัตหีบที่น่าสนใจ เช่น

  • หลวงพ่อดำ วัดช่องแสมสาร เป็นวัดช่องแสมสารที่ประดิษฐานพระพุทธรูปบนยอดเขาเจดีย์ หรือเรียกกันว่า

หลวงพ่อดำ เพื่อเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่บ้าน ให้ประชาชนหรือนักท่องเที่ยวได้สักการะกราบไหว้ ขอพร

  • ฟาร์มปลาการ์ตูน เป็นฟาร์มปลาขนาดใหญ่ที่มีปลาการ์ตูนถึง 6 สายพันธุ์ โดยเป็นสถานที่แหล่งเรียนรู้เรื่องราวที่เกี่ยวกับปลาทะเลรวมถึงเป็นแหล่งทัศนศึกษาอีกด้วย 

การเดินทางไปยังเกาะแสมสาร สัตหีบ

  • รถตู้ เดินทางจากท่ารถตู้หมอชิต เส้นทาง : กรุงเทพ – สัตหีบ และต่อรถสองแถวมายังท่าเรือเขาหมาจอ
  • รถทัวร์ ขึ้นรถตู้ที่หมอชิต เส้นทางกรุงเทพ-สัตหีบ แล้วต่อด้วยรถสองแถวหรือวินเตอร์ไซต์มายังท่าเรือเขาหมาจอ
  • รถยนต์ ขับรถยนต์จากกรุงเทพ โดยใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ (7) หรือทางพิเศษบูรพาวิถี(บางนา-ชลบุรี) ผ่านพัทยา มุ่งหน้าสัตหีบ แล้วไปที่ท่าเรือเพื่อข้ามฝากไปยังเกาะแสมสาร

ที่อยู่เกาะแสมสาร สัตหีบ : ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/QZjpD6nuhko8iJBD7

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น. 

เบอร์โทร : 0-3843-2475

12. หาดน้ำใส สัตหีบ 

หาดน้ำใส สัตหีบ เป็นหาดที่อยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ ซึ่งเป็นชายหาดที่อยู่ใกล้เกาะชามและเกาะแสมสาร โดยชายหาดนั้นทอดยาวเลียบเลียบทะเลถึง 600 เมตร นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาสัมผัสความสวยงามที่หาดแห่งนี้ได้ง่าย ยังเป็นหาดของทะเลไทยที่ได้รับความนิยมไม่แพ้สถานที่อื่นๆ

ควรเที่ยวหาดน้ำใส สัตหีบ ช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดน้ำใส สัตหีบ จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน เนื่องจากไม่มีคลื่นลมแรงจากทะเล หรือสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีก็ได้

จุดเด่นของหาดน้ำใส สัตหีบ

เป็นชายหาดขนาดเล็กที่มีบรรยากาศเงียบสงบ น้ำทะเลใสสุดๆ หาดทรายเนียนสะอาด บรรยากาศรอบหากมีความร่มรื่นจากต้นสน และยังมีสิ่งที่อำนวยความสะดวก เช่น ที่พัก ร้านอาหาร นักท่องเที่ยวสามารถนั่งพักผ่อนได้อย่างชิลๆ สบายใจ และที่สำคัญยังมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา

กิจกรรมที่หาดน้ำใส สัตหีบ

  • เล่นน้ำทะเล
  • นั่งปิกนิก
  • พายเรือคายัค
  • พายเรือแคนู
  • นอนพักผ่อน นอนตากแดด
  • ถ่ายรูป
  • ดำน้ำ
  • เดินชมวิว

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดน้ำใส สัตหีบที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดนางรำ เป็นชายหาดที่มีบรรยากาศร่มรื่น อากาศเย็นสบาย น้ำทะเลใสสะอาด เหมาะสำหรับดำน้ำดูปะการัง
  • หาดนางรอง เป็นชายหาดที่มีพื้นที่กว้าง น้ำทะเลใสมาก เหมาะสำหรับการนอนพักผ่อนริมชายหาด 

หาดน้ำใสเป็นหาดที่มีน้ำใสสมชื่อ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากมาเที่ยวชมที่หาดแห่งนี้ อีกทั้งยังมีบรรยากาศที่ร่มรื่น เย็นสบาย

หากใครกำลังคิดว่าอยากมาเที่ยวทะเลสวยที่สุดในไทย ดังนั้นหาดน้ำใสก็เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว ที่ไม่ควรพลาดนั่นเอง

การเดินทางไปยังหาดน้ำใส สัตหีบ

  • รถตู้   ขึ้นรถตู้จากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไปลงตลาดสัตหีบ แล้วต่อรถสองแถวไปยังท่าเรือ 
  • รถยนต์ เดินทางจากเส้นทาง ถ.สุขุมวิท พัทยา – ระยอง หรือ มาจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 331 ตรงมาที่ ตำบลแสมสาร เข้าสู่จุดตรวจการณ์ผ่าน – เข้า ออกของ กรม.กสพ.ฐท.สส. และ เข้ามาอีกประมาณ 1.5 กม. เพื่อเข้าพื้นที่ของ หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) ก็จะเห็นหาดน้ำใสจะอยู่บริเวณด้านทิศตะวันตกของพื้นที่

ที่อยู่หาดน้ำใส สัตหีบ: หน่วยสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ ต.แสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/HxVBh2vP1CDi3UzZ9

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :        –

หาดเตยงาม สัตหีบ

13. หาดเตยงาม สัตหีบ 

เป็นชายหาดที่อยู่ในความดูแลของกองบัญชานาวิกโยธิน โดยบริเวณของหาดแห่งนี้ล้อมรอบไปด้วยพรรณไม้จากธรรมชาติ และมีต้นเตยทะเลเป็นจำนวนมาก จึงทำให้มีชื่อว่าหาดเตยงามนั่นเอง และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์สำหรับคนที่รักธรรมชาติ

ควรเที่ยวหาดเตยงามช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเที่ยวหาดเตยงาม จะอยู่ในระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน เนื่องจากจะเป็นช่วงทะเลที่มีความสวยงามที่สุดและน่าเที่ยวที่สุด

จุดเด่นของหาดเตยงาม

เป็นชายหาดทะเลไทยที่มีความอุดมสมบูรณ์ หาดทรายสวยงาม สะอาด น้ำทะเลใส มีความเงียบสงบ โดยหาดแห่งนี้จะรับเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยดท่านั้น และยังเป็นหาดที่มีความปลอดภัยสุดๆ เนื่องจากจะต้องมีการตรวจสอบบัตรในการเข้าชมชายหาดจากเจ้าหน้าที่ อีกทั้งบริเวณริมทะเลมีความสวยงามของพระอาทิตย์ตกในยามเย็น

กิจกรรมที่หาดเตยงาม

  • เล่นน้ำทะเล
  • ปลูกปะการัง
  • ดำน้ำดูปะการัง
  • นั่งพักผ่อนริมชายหาด
  • นอนอาบแดด
  • เดินชมวิว
  • ถ่ายรูป
  • พายเรือคายัค

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดเตยงามที่น่าสนใจ เช่น

  • ศาลนายพลเรือเอก เป็นพระตำหนัก ศาลพระรูปของพลเรือเอก พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ องค์บิดาของทหารเรือไทย ซึ่งเป็นสถานที่เคารพศรัทธาของเหล่าทหารเรือและตั้งอยู่บนบริเวณชายหาดทรายขาวสะอาด มีจุดชมวิวที่สวยงาม

การเดินทางไปยังหาดเตยงาม

  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่บริเวณอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิไปลงที่ตลาดสัตหีบ จากนั้นต่อวินมอเตอร์ไซค์เข้าไปยังหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน
  • รถยนต์ ขับรถมาจากกรุงเทพ ใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์เข้าพัทยา-สัตหีบ จากนั้นให้สังเกตโรงเรียนสิงห์สมุทรซึ่งเป็นโรงเรียนที่อยู่ติดกับทางเข้าหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน

ที่อยู่หาดเตยงาม สัตหีบ : หาดเตยงาม อ่าวนาวิกโยธิน หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/hGe5zXsRwNhhfwiM6

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 0-3843-8457

14. ทะเลบางแสน

ทะเลบางแสนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง ซึ่งทะเลแห่งนี้ตั้งอยู่บนทะเลอ่าวไทยของจังหวัดชลบุรี รวมถึงเป็นทะเลไทยยอดฮิตที่คนนิยมไปเที่ยว เนื่องจากบรรยากาศรอบทะเลนั้นมีความสวยงาม บรรยากาศดี และใกล้กับกรุงเทพ เดินทางง่ายอีกด้วย

ควรเที่ยทะเลบางแสนช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวทะเลบางแสน จะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนมกราคม เนื่องจากเป็นช่วงที่มีลมกับกระแสน้ำที่ช่วยทำให้น้ำทะเลมีความใสแจ๋วและฝนไม่ตกนั่นเอง 

จุดเด่นของทะเลบางแสน

เป็นทะเลไทยที่สวย หาดทรายขาวเนียน ละเอียดน้ำทะเลใสราวกับกระจก เรียกได้ว่าใสแจ๋วสุด ๆ มีต้นมะพร้าวขึ้นอยู่ตลอดทั้งแนวชายหาด ซึ่งเป็นตัวช่วยทำให้บรรยากาศรอบทะเลร่มรื่น เย็นสบาย น่านอนพักผ่อนริมชายหาด และยังเป็นชายหาดที่มีถนนตัดเลียบชสยหาย จึงทำให้มีสิ่งอำนวยความสะดวก ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ร้านอาหาร เครื่องเล่น แถมยังมีความคึกคักจากนักท่องเที่ยว

กิจกรรมที่ทะเลบางแสน

  • เล่นว่าว
  • เดินชมวิว
  • นอนเล่นรับลม
  • นอนอาบแดด
  • ถ่ายรูป
  • เล่นบานาน่าโบ๊ท
  • ขี่เรือเจ็ตสกี
  • ปั่นจักรยาน

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงทะเลบางแสน เช่น

  • ตลาดปลาบางแสน เป็นตลาดปลาสไตล์ญี่ปุ่น โดยเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของชลบุรีที่มีอาหารทะเลหลากหลาย เช่น กุ้ง หอย ปู ปลา ซึ่งมีความสดสะอาด และยังมีอาหารญี่ปุ่น ของทานเล่นที่อร่อยๆ เหมาะสำหรับการแวะมาซื้อของฝากกลับบ้านอีกด้วย
  • เขาสามมุข เป็นนอดเขาชมวิวแห่งหนึ่งของชลบุรี ที่สามารถมองเห็นความสวยงามของทะเล แหลมแท่น และอ่างศิลา รวมถึงมีบรรยากาศที่เย็นสบาย น่ามอง เหมาะสำหรับการถ่ายรูปวิวทะเลสวยสีฟ้าครามสวย

การเดินทางไปยังทะเลบางแสน

  • รถยนต์ การเดินทางจากกรุงเทพไปจังหวัดชลบุรี ใช้เส้นทางสายบางนา – ตราด ทางหลวงหมายเลข 34 เข้าสู่จังหวัดชลบุรี
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งเอกมัยสายกรุงเทพ-พัทยา , กรุงเทพ-ศรีราชา, กรุงเทพ-ระยอง ซึ่งจะต้องผ่านหนองมน แล้วไปลงที่แยกบางแสน จากนั้นต่อรถสองแถวไปยังทะเลบางแสน
  • รถไฟ ขึ้นรถไฟที่สถานีหัวลำโพง ที่ผ่านไปยังจังหวัดชลบุรี จากนเห็นต่อด้วยวินมอเตอร์ไซค์
  • รถตู้ ขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เลือกรถตู้ที่มีเส้นทางไปยังชลบุรี-บางแสน

ที่อยู่ทะเลบางแสน :  ถ.บางแสนสาย 1 ต.แสนสุข อ.เมือง จ.ชลบุรี 

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/3UCNaE3CzwnqCMtg8

เวลา เปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00-18:00 น.

เบอร์ โทร :           –

จังหวัดระยอง

จังหวัดระยอง

จังหวัดระยองเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีน้ำทะเลสวยใสหลายแห่งและมีความอุดมสมบูรณ์ไปด้วยระบบนิเวศจากธรรมชาติ

โดยสภาพภูมิประเทศของจังหวัดแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ชายฝั่งทะเลภาคตะวันออก ทำให้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายและเป็นแหล่งอาหารทะเลที่สำคัญของประเทศไทย 

นอกจากนี้จังหวัดระยองยังมีความงดงามของธรรมชาติที่เขียวขจีในบริเวณรอบเกาะ แถมรอบทะเลมีสีครามสวยให้คุณได้มาสัมผัส อีกทั้งการที่มาเที่ยวทะเลในจังหวัดระยองเป็นการช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของอุตสาหกรรมด้านการท่องเที่ยวดีขึ้นด้วย รวมถึงยังเป็นการช่วยอุดหนุนคนในพื้นที่จังหวัดระยอง ที่มีอาชีพทำการประมงให้มีรายได้ในการขายอาหารทะเลนั่นเอง สำหรับใครที่อยากมาเที่ยวทะเลไทยสวยๆในจังหวัดระยอง แต่ไม่รู้ว่าควรไปที่ไหนดี และมีที่เที่ยวตรงไหนบ้าง ดังนั้นก็ไปดูกันเลย 

15. เกาะเสม็ด

เกาะเสม็ดเป็นเกาะที่อยู่ในเขตพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า โดยเกาะแห่งนี้มีชื่อเสียง ได้รับควมานิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่เดินทางง่าย สะดวกต่อการมาสัมผัสบรรยากาศทะเลไทย

ควรเที่ยวเกาะเสม็ดช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวเกาะเสม็ด จะอยู่ระหว่างเดือนตุลาคมถึงเดือนเมษายนเนื่องจากเป็นช่วงที่คลื่นลมสงบ บรรยากาศกำลังดี  มีความปลอดโปร่ง และยังเปิดให้มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หากนักท่องเที่ยวสะดวกช่วงไหน ก็แวะมาเที่ยวทะเลไทยที่เกาะเสม็ดได้เลย

จุดเด่นของเกาะเสม็ด

เป็นเกาะหาดทรายละเอียด น้ำทะเลใสสะอาด บรรยากาศร่มรื่น มีพื้นที่กว้าง มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่อนักท่องเที่ยว ซึ่งบนเกาะเสม็ดยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง แต่ละแห่งจะมีเอกลักษณ์ความสวยงามที่แตกต่างกันไป เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบทะเลเป็นชีวิตจิตใจและทำกิจกรรมต่างๆ อีกทั้งพื้นที่รอบเกาะล้อมรอบไปด้วยภูเขาจึงทำให้มีบรรยากาศที่เป็นธรรมชาติสวยงาม 

โดยสถานที่บนเกาะเสม็ดที่น่าเที่ยวมีดังนี้

  • อ่าวพร้าว เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะเสม็ด ที่มีบรรยากาศเงียบสงบ มีความเป็นส่วนตัว น้ำทะเลใส มีความสวยงามจากวิวทะเล นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนที่อ่าวพร้าวได้อย่างชิลๆ
  • อ่าววงเดือน เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ชายหาดมีลักษณะคล้ายโค้งรูปพระจันทร์เสี้ยว บริเวณรอบเกาะมีบรรยากาศร่มรื่นและเป็นธรรมชาติทำให้เป็นอ่าวที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว

อีกด้วย

  • อ่าวหมาย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ทีเม็ดทรายขาวละเอียด น้ำทะเลใส บรรยากาศรอบอ่าวมีความเป็นส่วนตัว
  • หาดทรายแก้ว เป็นชายหาดที่มีสีขาวนุ่มละเอียด เป็นหาดที่สวยที่สุดในเกาะเสม็ด และเป็นหาดที่ความอุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยธรรมชาติ เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์

กิจกรรมที่เกาะเสม็ด

  • เล่นน้ำทะเล
  • ดำน้ำดูปะการัง
  • นอนพักผ่อน นอนอาบแดด
  • เดินชมวิว
  • ถ่ายรูป
  • พายเรือแคนู
  • พายเรือคายัค

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงเกาะเสม็ดที่น่าสนใจ เช่น

  • อ่าวนวล  เป็นอ่าวขนาดเล็กที่มีน้ำทะเลใสแจ๋ว บรรยากาศเงียบสงบและบริเวณรอบอ่าวมีโขดหินเล็กๆ เป็นจำนวนมาก
  • อ่าวทับทิม  เป็นอ่าวขนาดเล็กที่น่า

พักผ่อน บรรยากาศ เงียบสงบและมีทรายหาดขาวสะอาด

การเดินทางไปยังเกาะเสม็ด

  • รถยนต์ ขับรถไปที่ทางหลวงหมายเลข 7 สายมอเตอร์เวย์ โดยเริ่มจากถนนพัฒนาการ เขตประเวศกรุงเทพ แล้วขับไปยังจังหวัดชลบุรี จากนั้นใช้ทางหลวงหมายเลข 36 เพื่อขับไปจนถึงอ.เมือง จ.ระยอง
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเลือกสายกรุงเทพ-ระยอง
  • รถตู้  ขึ้นรถตู้ที่อนุเสาวรีย์ที่อยู่ใกล้กับภัตตาคารพงหลี โดยเลือกรถตู้เส้นทางไปยังระยอง-บ้านเพ

ที่อยู่เกาะเสม็ด : เขตอุทยานแห่งชาติเขา แหลมหญ้า-หมู่เกาะเสม็ด ต.เพ อ.เมือง จ.ระยอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/wb6BpFLv5MAXeYha8

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์ :         –

หาดน้ำริน

16. หาดน้ำริน 

หาดน้ำรินเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยในจังหวัดระยองที่มีลักษณะเป็นชายหาดทอดยาว มีโขดหินรอบๆ หาดนั่นเอง เนื่องจากหาดแห่งนี้มีน้ำไหลรินใต้ผิวดินอยู่ตลอดทั้งปีและยังเป็นหาดที่มีแนวลาดชัน ทำให้หาดแห่งนี้มีชื่อว่าหาดน้ำริน โดยหาดแห่งนี้เป็นที่รู้จักเฉพาะคนในท้องถิ่น จึงทำให้ชื่อของหาดยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก แต่ความสวยของหาดแห่งนี้ก็ไม่แพ้แหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ

ควรเที่ยวหาดน้ำรินช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดน้ำรินจะอยู่ระหว่างเดือนธันวาคมถึงเดือนเมษายน

จุดเด่นของหาดน้ำริน

เป็นหาดที่มีน้ำทะเลใสสะอาด บรรยากาศเย็นสบาย เงียบสงบเป็นธรรมชาติ นักท่องเที่ยวไม่แออัด มีทั้งต้นสนและต้นมะพร้าวที่ให้ความร่มรื่น เหมาะสำหรับการมาเที่ยวพักผ่อนเป็นครอบครัวหรือมาเที่ยวคนเดียวแบบสายชิลก็ได้ นอกจาก นี้ยังมีรูปปั้นปลาพะยูนบนหินให้ได้ชม และยังมีร้านอาหารอร่อยๆ ริมหาดอีกด้วย

กิจกรรมที่หาดน้ำริน

  • นั่งตกปลา
  • นั่งพักผ่อน
  • เดินชมวิว
  • ปิกนิก
  • เล่นน้ำทะเล
  • ชมพระอาทิตย์ตก

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดน้ำรินทีที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดพยูน เป็นหาดที่มีน้ำทะเลสีฟ้าใส หาดทรายมีสีน้ำตาล บรรยากาศ

รอบหาดเงียบสงบ มีความร่มรื่นจากต้นสนที่ปลูกไว้เป็นจำนวนมาก และยังหาดที่น่าท่องเที่ยว

  • หาดพลา เป็นชายหาดที่มีบรรยากาศเย็นสบาย น้ำทะเลสีเขียวใส และมีจุดชมวิวที่สวยงามอีกด้วย

การเดินทางไปยังหาดน้ำริน

  • รถยนต์  ขับรถยนต์ขึ้นทสงหลวงหมายเลข 3 สายสุขุมวิท ก่อนจะถึงอ.บ้านฉาง จะมีสะพานให้ข้ามไปยังอำเภอบ้านฉาง ให้ชิดซ้ายไปกลับรถใต้สะพาน ขับตรงไปอีก 5 กิโลเมตร ก็จะมีถนนเข้าสู่ชายหาด จากนั้นเลี้ยวขวาก็จะเจอหาดน้ำริน
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต แล้วเลือกรถตู้ที่มีป้ายเส้นทางหมอชิต-ระยอง

ที่อยู่หาดน้ำริน : หาดน้ำริน ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/JWfZF5mwZ4nxGcQbA

เวลาเปิด-ปิด :  เปิดทุกวัน 24 ชั่วโมง

เบอร์โทร : 038-695233-5

หาดแสงจันทร์ 

17. หาดแสงจันทร์ 

หาดแสงจันทร์เป็นชายหาดที่มีชื่อเสียง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองระยองโดยหาดแห่งนี้มีการนำก้อนหินกรวดขนาดใหญ่มาวางทำเป็นแนวป้องกันน้ำทะเลกัดเซาะหาดนั่นเอง อีกทั้งบรรยากาศรอบหาดเหมาะสำหรับพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างมาก จึงทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก

ควรเที่ยวหาดแสงจันทร์ช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดแสงจันทร์จะอยู่ในช่วงซัมเมอร์ ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม

จุดเด่นของหาดแสงจันทร์

เป็นชายหาดทะเลไทยที่มีลักษณะโค้งเว้าคล้ายรูปเกือกม้ายาวกว่า 10 กิโลเมตรไปจนสุดถนน ทำให้มีจุดชมวิวที่สวยงามอยู่หลายจุด นอกจากนี้บรรยากาศรอบหาดนั้นเงียบสงบ น้ำทะเลใส มีความร่มรื่นจากต้นสน สามารถมาสูดอากาศอันบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ ยิ่งช่วงตอนเย็นจะมีผู้คนมานั่งปิกนิกรับลมซึ่งทำให้รู้สึกสดชื่น หรือชมพระอาทิตย์ตก จึงทำให้มีบรรยากาศที่น่าอยู่

กิจกรรมที่หาดแสงจันทร์

  • นั่งปิกนิก
  • นั่งชมบรรยากาศริมทะเล
  • เล่นน้ำทะเล
  • ถ่ายรูป
  • นอนอาบแดด
  • ขับรถเล่นชมวิว
  • แค้มป์ปิ้งปีใหม่
  • ปั่นจักรยาน

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดแสงจันทร์ที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดแหลมเจริญ เป็นหาดโล่งๆ ที่มีบรรยากาศร่มรื่น น้ำทะเลใสน่าเที่ยว  สำหรับการมาพักผ่อนสบายๆ ชิลๆ
  • สวนพฤกษศาสตร์ระยอง เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแหล่งเรียนรู้ที่อนุรักษ์ทรัพยากรพันธ์ุพืชของระบบนิเวศให้นักท่องเที่ยวได้มาชมความงามแบบธรรมชาติ

การเดินทางไปยังหาดแสงจันทร์

  • รถยนต์  ขับรถยนต์จากกรุงเทพ โดยใช้ถนนเส้นสุขุมวิท ก่อนถึงตัวเมืองระยองให้เลี้ยวขวาตามป้ายไปยังหาดแสงจันทร์ สุดทางเป็นสามแยกที่มีรูปปั้นนางผีเสื้อสมุทรและพระอภัยมณี แล้วเลี้ยวขวาไปก็จะเจอหาดแสงจันทร์

ที่อยู่หาดแสงจันทร์ : ถนนเลียบชายฝั่ง ต.เนินพระ อ.เมืองระยอง จ.ระยอง

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/FAhVXENKTvxsaoGd7

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :         

18. แหลมแม่พิมพ์ 

แหลมแม่พิมพ์เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยในจังหวัดระยองที่มีชื่อเสียง โดยหาดแห่งนี้มีความกว้างยาวกว่า 4 กิโลเมตรและยังมีถนนเลียบชายหาดตลอดแนวจึงเหมาะสำหรับเป็นแหล่งท่องเที่ยวในการทำกิจกรรมบนหาด และยังมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวตลอดทั้งปีไม่ขาดสาย

ควรเที่ยวแหลมแม่พิมพ์ช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวแหลมแม่พิมพ์จะอยู่ในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนเมษายน

จุดเด่นของแหลมแม่พิมพ์

เป็นชายหาดที่มีความกว้าง น้ำทะเลใส มีบรรยากาศทางทะเลที่สวยงาม ร่มรื่นไปด้วยต้นทิวสนและต้นหูกวาง และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกในการมาพักผ่อน รวมทั้งมีสะพานเล็กไปยื่นออกไปยังแนวโขดหินสำหรับชมวิว นอกจากนี้ยังมีรูปปั้นเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ให้ประชาชนได้กราบไหว้

สักการะอีกด้วย

กิจกรรมที่แหลมแม่พิมพ์

  • เล่นน้ำทะเล
  • ปั่นจักรยาน
  • เดินชมวิว
  • นั่งพักผ่อน
  • นั่งปิกนิก
  • ถ่ายรูป
  • กางเต็นท์ริมชายหาด
  • เล่นบานาน่าโบ๊ท

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงแหลมแม่พิมพ์ที่น่าสนใจ เช่น

  • ชุมชนเกษตรบ้านชากมะกรูด เป็นสถานที่จัดบุพเฟต์ผลไม้  ซึ่งสามารถเก็บกินสดๆจากต้น โดยนักท่องเที่ยวจะรู้สึกสนุกเพลิดเพลินกับการเก็บผลไม้ไปด้วยและชมสวนผลไม้ไปพร้อมๆ กัน

การเดินทางไปยังแหลมแม่พิมพ์

  • รถยนต์ ขับรถจากกรุงเทพ โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทไปทางทางระยอง ผ่านแยกเข้าบ้านเพ แล้วตรงมาถึงทางแยกเข้าแหลมแม่พิมพ์ ตามป้ายบอกทาง  ตรงมาถึงถนนเลียบชายหาด
  • รถตู้ ขึ้นรถตู้สายระยอง – บ้านเพ-

แหลแม่พิมพ์ แล้วลงที่แหลมแม่พิมพ์

ที่อยู่แหลมแม่พิมพ์ : หาดแหลมแม่พิมพ์ หมู่ 3-4 ถ.เพ-แกลง-กร่ำ ต.กร่ำ อ.แกลง จ.ระยอง

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/bQzBsZdN9hxJVhEr5

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 0-3863-8789 

จังหวัดจันทบุรี

จังหวัดจันทบุรี

จังหวัดจันทบุรีเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทยที่มีความสวยงามไม่แพ้จากจังหวัดอื่นๆ และยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นทะเล น้ำตก ภูเขา โดยสภาพภูมิประเทศจังหวัดจันทบุรีนั้นด้านทิศเหนือและทิศตะวันออกเป็นพื้นที่ของป่าไม้ ภูเขาและเนินสูง ส่วนทางด้านทิศใต้จะเป็นชายฝั่ง ซึ่งมีลักษณะเป็นที่ราบลุ่มบางแห่งก็เป็นทะเล อ่าว แหลม หาดทรายและมีความอุดมสมบูรณ์ทางธรรมชาติ จึงทำให้จังหวัดแห่งนี้มีชื่อเสียงในเรื่องทะเล ผลไม้ อาหารทะเล และป่าชายเลนอีกด้วย 

ซึ่งการมาท่องเที่ยวจังหวัดจันทบุรีเป็นการช่วยส่งเสริมให้จังหวัดมีชื่อเสียงมากยิ่งขึ้น และบอกกล่าวต่อๆกันให้มาเที่ยว เพื่อเป็นการช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจท่องเที่ยวไทย ให้เป็นที่รู้จักไปยังชาวต่างชาติ อีกทั้งช่วยสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ โดยสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆในจังหวัดจันทบุรีมีดังนี้

19. หาดเจ้าหลาว 

หาดเจ้าหลาวเป็นหาดที่มีชื่อเสียงในจังหวัดจันทบุรี เต็มไปด้วยบรรยากาศที่เงียบสงบ ซึ่งอยู่ห่างจากอำเภอท่าใหม่ประมาณ 17 กิโลเมตร และอยู่ใกล้หาดแหลมสมเด็จ ที่มาของชื่อนั้น เกิดจากการที่ใช้หลาว ซึ่งเป็นอุปกรณ์ในการหาปลามาปักลงที่หาด จึงพากันเรียกว่าหาดเจ้าหลาว  อีกทั้งผู้คนิยมมาพักผ่อนที่หาดแห่งนี้เป็นประจำและระยะทางไม่ไกลจากกรุงเทพ

ควรเที่ยวหาดเจ้าหลาวช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดเจ้าหลาว จะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม

จุดเด่นของหาดเจ้าหลาว

เป็นชายหาดทะเลไทยที่สวยที่สุดในจังหวัดจันทบุรี โดยมีน้ำทะเลสีฟ้าครามสดใส หาดทรายสีเหลืองละเอียด บรรยากาศดีและมีลมเย็นๆพัดรอบหาด ร่มรื่นไปด้วยต้นมะพร้าว ยิ่งช่วงตอนเย็นพระอาทิตย์ตก บริเวณรอบหาดจะดูสวยสุดๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นดูโรแมนติก นอกจากนี้ยัมีจุดชมวิวและมีมุมถ่ายรูปสวยๆ หลายจุด

กิจกรรมที่หาดเจ้าหลาว

  • เล่นน้ำทะเล
  • ถ่ายรูป
  • เดินชมวิว
  • นอนอาบแดด
  • นอนพักผ่อนริมหาด
  • นั่งเรือท้องกระจก

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดเจ้าหลาวที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดแหลมสมเด็จ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีบรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นไปด้วยต้นสนทะเลและพันธุ์ไม้หายาก อีกทั้งหาดทรายนั้นจะทอดยาว เป็นแนวเส้นโค้งเสี้ยวพระจันทร์อย่างสวยงาม

การเดินทางไปยังหาดเจ้าหลาว

  • รถทัวร์  ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเลือกรถทัวร์ที่มีเส้นทางจากกรุงเทพ-จันทบุรี 
  • รถยนต์ ขับรถยนต์โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท ก่อนถึงตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 30 กิโลเมตร ก็จะเห็น

เส้นทางกิโลเมตรที่ 301 ซึ่งจะมีทางแยกขวาไปตามทางหลวงหมายเลข 3399 เมื่อถึงบ้านหมูดุด จะพบสามแยกให้เลี้ยวซ้าย แล้วก็จะเห็นป้ายบอกทางไปหาดเจ้าหลาว ระยะทาง 3 กิโลเมตร

ที่อยู่หาดเจ้าหลาว : หาดเจ้าหลาว ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/8WqAZcCt4tzhsHHX8

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :   –

หาดคุ้งวิมาน

20. หาดคุ้งวิมาน

หาดคุ้งวิมานเป็นชายหาดแห่งจังหวัดจันทบุรีที่มีชื่อเสียงและมีถนนเลียบหาดคุ้งวิมานที่สวยที่สุดในแถบภาคตะวันออก ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 15 กิโลเมตร อีกทั้งบริเวณหาดมีบรรยากาศที่เงียบสงบ น่ามาสัมผัสอากาศอันบริสุทธิ์เป็นอย่างมาก

ควรเที่ยวหาดคุ้งวิมานช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวหาดคุ้งวิมาน จะอยู่ระหว่างเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคมและยังเหมาะสำหรับการเดินทางมาเที่ยวชมหาดคุ้งวิมานซึ่งเป็นทะเลไทยที่สวยงาม

จุดเด่นของหาดคุ้งวิมาน

มีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม บริเวณรอบหาดรายล้อมไปด้วยความเป็นธรรมชาติจากภูเขา บรรยากาศเงียบสงบ ร่มรื่นเย็นสบายไปด้วยต้นมะพร้าว น้ำทะเลมีศีลครามเหมาะสำหรับเล่นน้ำทะเลหรือนั่งพักชิลๆริมชายหาด 

ซึ่งหาดคุ้งวิมานแห่งนี้แบ่งออกเป็น หาดช่วงเหนือและหาดช่วงใต้ โดยหาดช่วงเหนือมีหาดทรายสีเหลืองที่สวยงามสะอาด น้ำทะเลใสส่วนหาดช่วงใต้มีโขดหินและอยู่ใกล้จุดชมวิวนางพญา

กิจกรรมที่หาดคุ้งวิมาน

  • เล่นน้ำทะเล
  • ตกปลา
  • เดินชมวิว
  • นอนอาบแดด
  • ดำน้ำดูปะการัง
  • นั่งปิกนิก
  • ถ่ายรูป
  • ปั่นจักรยาน

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงหาดคุ้งวิมานที่น่าสนใจ เช่น

  • หาดแหลมสิงห์ เป็นหาดที่มีความสวยงามไม่แพ้ที่อื่น โดยหาดทรายของหาดนั้นมีสีน้ำตาลอมแดง มีบรรยากาศรอบหาที่ร่มรื่น เหมาะสำหรับการนั่งพักชิลๆ หรือเดินชมวิวก็ดีไม่แพ้กัน

การเดินทางไปยังหาดคุ้งวิมาน

  • รถยนต์  ขับรถยนต์โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท เมื่อถึงหลักกิโลเมตรเมตรที่301 จะมีทางแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าไปประมาณ 18 กิโลเมตร ก็จะถึงหาดคุ้งวิมาน
  • รถทัวร์  ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเลือกรถทัวร์ที่มีเส้นทางจากกรุงเทพ-จันทบุรี

ที่อยู่หาดคุ้งวิมาน : หาดคุ้งวิมาน ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/UHAKjHS9BGSrNqep9

เวลาเปิด-ปิด :  เปิดทุกวัน 06:00-18:00 น.

เบอร์โทร :         –

21. จุดชมวิวหินโคร่ง 

จุดชมวิวหินโคร่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่อยู่ทางด้านเหนือของหาดคุ้งวิมาน ซึ่งมีความเงียบสงบ และมีลานจอดรถกว้างสะดวกต่อการมาชมวิวบรรยากาศริมทะเลสวยๆ

ควรเที่ยวจุดชมวิวหินโคร่งช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวจุดชมวิวหินโคร่ง คือเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม เนื่องจากบริเวณรอบจุดชมวิวมีคลื่นลมไม่แรง

จุดเด่นของจุดชมวิวหินโคร่ง

จุดชมวิวหินโคร่งนั้นจะมีก้อนโขดหินทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่จำนวนมากเรียงรายกัน รอบบริเวณทะเลท่ามกลางบรรยากาศน้ำทะเลสีฟ้าครามใส ซึ่งทำให้เป็นเอกลักษณ์ของสถานทีาแห่งนี้และยังมีบรรยากาศที่เย็นสบาย 

สามารถนั่งเล่นบนโขดหิน ฟังคลื่นทะเลหรือชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น

กิจกรรมที่จุดชมวิวหินโคร่ง

  • เล่นน้ำทะเล
  • ตกปลา
  • ถ่ายรูป
  • นั่งเล่นริมทะเล
  • เดินชมวิว

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงจุดชมวิวหินโคร่งที่น่าสนใจ เช่น

  • จุดชมวิวเนินนางพญา เป็นสถานที่มีบรรยากาศดีและมีทิวทัศน์ที่สวยงาม บริเวณรอบสถานที่แห่งนี้รายล้อมไปด้วยภูเขาและบนจุดชมวิวยังเปิดให้นักท่องเที่ยวมาคล้องกุญแจคู่แบบรักอีกด้วย

การเดินทางไปยังจุดชมวิวหินโคร่ง

  • รถยนต์ ขับรถยนต์โดยใช้เส้นถนนสุขุมวิท เพื่อวิ่งมาทางจังหวัดจันทบุรี ตรงมาเข้าอำเภอนายายอาม เจอแยกให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข1011แล้วขับตรงมาอีก 10 กิโลเมตร ก็จะเจอสามแยก ให้เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 4036 ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต ขับมาตรงมาตามทางอีก 9 กิโลเมตร ถึงทางแยกบ้านาชา ให้เลี้ยวขวาไปหาดคุ้งวิมาน จนถึงสี่แยกค้างวิมานแล้ว ให้เลี้ยวขวาอีกครั้งไปหาดคุ้งวิมาน ก็จะเจอทางแยกริมหาด จากนั้นให้เลี้ยวขวามือไปจนสุดทาง จะถึงจุดชมวิวหินโคร่งพอดี
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเลือกขึ้นรถทัวร์ที่มีเส้นทางจากกรุงเทพ-จันทบุรี

ที่อยู่จุดชมวิวหินโคร่ง : จุดชมวิวหินโคร่ง ต.สนามไชย อ.นายายอาม จ.จันทบุรี

พิกัด :  https://maps.app.goo.gl/z8hVdkQVeDa2U7e49

เวลาเปิด-ปิด :  เปิดทุกวัน 07:00-18:00 น.

เบอร์โทร :          –

อ่าวคุ้งกระเบน

22. อ่าวคุ้งกระเบน

อ่าวคุ้งกระเบนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดจันทบุรีเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติ หรือเป็นศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เพื่อส่งเสริมอ่าวแห่งนี้ให้เป็นแหล่งอาชีพการประมงของคนในพื้นที่ให้เกิดรายได้ให้กับครอบครัว

ควรเที่ยวอ่าวคุ้งกระเบนช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวอ่าวคุ้งกระเบนนั้น นักท่องเที่ยวสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปีหรือจะมาเที่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนพฤษภาคม

จุดเด่นของอ่าวคุ้งกระเบน

เป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่มีลักษณะอ่าวคล้ายรูปร่างของปลากระเบนและมีความอุดมสมบูรณ์ด้วยระบบนิเวศ ซึ่งมีทั้งสัตว์น้ำ สัตว์ป่าชายเลน ปูแสม มีพันธุ์ไม้ที่ให้ความร่มรื่นรวมถึงบรรยากาศที่เย็นสบาย นอกจากนี้ยังมีสะพานไม้ให้นักท่องเที่ยวได้เดินศึกษาระบบป่าชายเลนท่ามกลางต้นไม้ที่เขียวขจี เหมาะสำหรับเป็นแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับระบบป่านิเวศ หรือเป็นแหล่งท่องเที่ยวสไตล์ธรรมชาตินั่นเอง

กิจกรรมที่อ่าวคุ้งกระเบน

  • นั่งเล่นบริเวณรอบอ่าว
  • ถ่ายรูป
  • เดินชมวิวธรรมชาติบนสะพานหรือเดินศึกษาระบบนิเวศ

นอกจากทะเลแล้ว ยังมีสถานที่ใกล้เคียงอ่าวคุ้งกระเบน เช่น

  • สถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำเฉลิมพระเกียรติ 

เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำขนาดเล็ก ซึ่งตั้งอยู่ที่แหลมเสด็จอ่าวคุ้งกระเบน โดยบริเวณภายในมีสัตว์น้ำที่หาชมได้ยากและมีปลาชนิดต่างๆให้ได้เรียนรู้ นักท่องเที่ยวสามารถมาพักผ่อนหย่อนใจ ชมความสวยงามของปลาทะเลได้ตลอดทั้งปี

การเดินทางไปยังอ่าวคุ้งกระเบน

  • รถยนต์ ขับรถยนต์จากกรุงเทพ โดยใช้เส้นทางถนนสุขุมวิท ก่อนถึงตัวเมืองจังหวัดจันทบุรี ให้เลี้ยวขวาจากนั้นขับไปตามเส้นทางหลวงหมายเลข 3399 ขับไปเรื่อยไปก็จะเห็นป้ายบอกทางแยกหาดต่างๆ
  • รถทัวร์ ขึ้นรถทัวร์ที่สถานีขนส่งหมอชิต โดยเลือกขึ้นรถทัวร์ที่มีเส้นทางจากกรุงเทพ-จันทบุรี

ที่อยู่อ่าวคุ้งกระเบน : ศูนย์ศึกษาธรรมชาติป่า ชายเลนอ่าวคุ้งกระเบน 31 หมู่ที่4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/Q6Tc2KLd8Rqjkt4s9

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00-18:00 น.

เบอร์โทร : 0-3943-3216

23. ลานหินสีชมพู

ลานหินสีชมพูเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทะเลไทย ซึ่งอยู่ในการดูแลของเขตห้ามล่าสัตว์คุ้งกระเบน โดยสถานที่แห่งนี้มีหินสีชมพูอมน้ำตาลแดงอยู่บริเวณริมชายหาด ทำให้เป็นลานหินที่ดูสยงาม น่ามอง อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ดึงดูดผู้คนให้อยากมาเที่ยวชมเรื่อยๆ

ควรเที่ยวลานหินสีชมพูช่วงไหนถึงจะเหมาะสม

โดยช่วงเวลาที่เหมาะสมในการมาเที่ยวลานหินสีชมพู จะอยู่ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมิถุนายน แนะนำให้มาเที่ยวที่ลานหินสีชมพูในตอนกลางวันเนื่องจากเป็นช่วงน้ำลง ทำให้นักท่องเที่ยวได้มองเห็นความสวยงามของลานหินสีชมพูได้อย่างชัดเจน

จุดเด่นของลานหินสีชมพู

เป็นลานหินสีชมพูอมน้ำตาลขนาดใหญ่เรียงรายกันเป็นจำนวนมาก ท่ามกลางบรรยากาศน้ำทะเลสีครามใส มีบรรยากาศเย็นสบาย ยิ่งมีแสงตกกระทบกับลานหินแล้ว ก็ยิ่งทำให้ที่แห่งนี้ดูสวยงามมากๆ และในช่วงตอนเย็นลานหินสีชมพูจะมีบรรยากาศที่น่านั่งเล่น เงียบสงบ เนื่องจากมีพระอาทิตย์ตกทำให้รู้สึกอบอุ่นและรู้สึกผ่อนคลาย

กิจกรรมที่ลานหินสีชมพู

  • นั่งถ่ายรูปบนลานหิน
  • เดินชมวิว
  • เล่นน้ำริมลานหิน
  • ฟังคลื่นเสียงทะเล
  • ปิกนิก

การเดินทางไปยังลานหินสีชมพู

  • รถยนต์ : ขับรถยนต์ตามถนนเฉลิมบูรพาชลทิต วิ่งมาทางหาดเจ้าหลาวแล้วตรงมาขึ้นเนินและลงเนินจะเห็นทางแยก จากนั้นให้เลียวขวาไป ก็จะเข้าสู่ลานหินสีชมพูในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าคุ้งกระเบน

ที่อยู่ลานหินสีชมพู : 31 หมู่4 ต.คลองขุด อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี

พิกัด : https://maps.app.goo.gl/qYShpAAkhyYciXdc9

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08:00-17:00 น.

เบอร์โทร :              –

แอร์พอเทลล์บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระ

แอร์พอเทลล์บริการรับฝากและขนส่งสัมภาระ

แอร์พอเทลล์เป็นบริการที่รับฝากและขนส่งสัมภาระที่มีความสะดวก ประหยัด ปลอดภัย ไร้กังวล อีกทั้งส่งกระเป๋าถึงที่พักของคุณได้อย่างรวดเร็ว 

โดยทางแอร์พอเทลล์มีบริการรับฝากและบริการขนส่งทั้งในกรุงเทพรวมถึงขนส่งไปยังต่างจังหวัด ได้แก่ปลายทางจากกรุงเทพ-พัทยา, พัทยา-กรุงเทพ, กรุงเทพ-ภูเก็ต, ภูเก็ต-กรุงเทพ

ซึ่งราคาของบริการฝากกระเป๋า ,ส่งกระเป๋าในกรุงเทพหรือส่งกระเป๋าไปยังต่างจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ให้บริการ มีดังนี้ 

  • ราคาเริ่มต้นใบละ 299 บาทหรือต่อชิ้น (สำหรับจัดส่งในวันเดียว) ของต้นทาง-ปลายทางที่พัทยา – กรุงเทพ, กรุงเทพ – พัทยา  หรือส่งกระเป๋าจากกรุงเทพ ไปยังจังหวัดอื่นๆ รวมถึงบริการจากจังหวัดอื่นๆมายังกรุงเทพ 
  • ราคาเริ่มต้น 100 บาท ต่อชิ้น , ต่อวัน, ไม่จำกัดขนาด น้ำหนัก สำหรับบริการรับฝากกระเป๋ารวมทั้งสัมภาระ
  • ราคาเริ่มต้นใบละ 299 บาท สำหรับการส่งกระเป๋าภายในตัวเมืองไปยังปลายทางในจังหวัดเดียวกัน พัทยา – พัทยา

นอกจากนี้ยังมีบริการขนส่งสัมภาระอยู่ด้วยกันถึง 5 สาขาในกรุงเทพอีกด้วย ได้แก่

  • เซ็นทรัลเวิลด์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 โซนกรูฟ ตรงข้ามธนาคารกรุงเทพ
  • เอ็มบีเคเซ็นเตอร์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 6โซนบีโดยติดทางออกลานจอดรถ
  • เทอร์มินอล 21 ตั้งอยู่ที่ชั้น 1 ทางออกลานจอดรถ
  • สนามบินดอนเมือง ตั้งอยู่ที่ชั้นจี อาคารผู้โดยสารหลังที่ 2 ประตู 9
  • สนามบินสุวรรณภูมิ ตั้งอยู่ที่ชั้นบี โซนแอร์พอร์ตลิงต์
  • เทอร์มินอล 21 พัทยา ตั้งอยู่ที่ชั้นจี โซนปารีส

หากคุณอยู่ใกล้บริเวณนั้นๆ ของสาขาในกรุงเทพ ก็สามารถเข้าไปใช้บริการได้เลย

สรุป

การที่มาเที่ยวทะเลนั้น มีข้อดีมากมาย เช่น ช่วยคลายเครียด ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย มีบรรยากาศที่เงียบสงบ หรือมาสูดอากาศอันบริสุทธิ์ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้การมาเที่ยวทะเลนั้นเหมาะแก่การไปกับใครก็ได้ สามารถไปเที่ยวทะเลคนเดียวแบบชิลๆ ไปกับครอบครัว หรือแก๊งเพื่อนๆก็ดีอีกด้วย

เมื่อเที่ยวจนจบทริป หรือกำลังกลับกรุงเทพฯ ก็สามารถใช้บริการของ AIRPORTELs ได้ หากเกิดอาการเหนื่อยล้า ไม่อยากขนกระเป๋าสัมภาระของตนเองหรือครอบครัวในปริมาณเยอะๆ เพราะ AIRPORTELs มีบริการส่งกระเป๋าให้ถึงที่พักของคุณ รับรองได้ว่าคุณจะต้องประทับใจในการให้บริการ เนื่องจากการให้บริการ AIPPORTELs นั้น ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง มีความสะดวกสบาย รวดเร็ว ไม่จำกัด ขนาด ไซซ์ น้ำหนักของกระเป๋าหรือสัมภาระ อีกทั้งคุณยังมีเวลาในการไปทำสิ่งอื่นๆ ตามต้องการ และยังไม่ต้องปวดเมื่อยร่างกายอีกด้วย

วิธีส่งสุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินทำอย่างไร ราคาเท่าไหร่

เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมีสัตว์เลี้ยงคู่ใจเลี้ยงอยู่ที่บ้าน คอยให้ความรัก ความอบอุ่น และช่วยแก้เหงาให้ได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับนักเดินทางตัวยงแล้วล่ะก็ การจะไปเที่ยว ทำธุระไกลๆ หรือเดินทางไกลไปไหนก็แล้วแต่นั้น คำถามที่ตามมาก็คือ แล้วน้องหมาหรือน้องแมวล่ะ จะพาพวกเขาเดินทางไปด้วยกันได้อย่างไร? 

บทความนี้จะมาช่วยไขทุกข้อสงสัยของคนรักสัตว์ ที่กำลังอยากเดินทางไกล แต่ไม่อยากฝากสัตว์เลี้ยงไว้ให้ใครดูแลหรือกำลังย้ายที่อยู่ และมีความต้องการที่จะพาเจ้าสี่ขาขึ้นเครื่องบินไปด้วย มาดูกันว่าวิธีส่งสุนัข แมว หรือสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินนั้นทำอย่างไร และมีค่าใช้จ่ายเท่าใดกัน

เริ่มต้นด้วยการตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง

เริ่มต้นด้วยการตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง

บอกเลยว่าทุกสายการบินจะมีข้อกำหนดไว้เลยว่า เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องพาสัตว์เลี้ยงไปตรวจสุขภาพก่อน โดยไม่ควรเกิน 10 วันก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ก็เพื่อความปลอดภัยของสัตว์เลี้ยงด้วยว่าพวกเขาไม่ได้กำลังเจ็บป่วย หรือมีปัญหาทางสุขภาพที่เมื่อสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแล้ว ย่อมมีปัจจัยด้านความเครียดและความร้อนที่อาจจะไปกระตุ้นอาการเหล่านั้นให้แย่ลงไปอีกด้วย ซึ่งสายการบินจะไม่รับผิดชอบหากสัตว์เลี้ยงเสียชีวิต 

ดังนั้น เจ้าของจึงต้องดูแลสัตว์เลี้ยงให้มีสุขภาพแข็งแรง สัตว์เลี้ยงที่จะขึ้นเครื่องต้องไม่ได้กำลังตั้งครรภ์หรือบาดเจ็บ ควรพาพวกเขาไปตรวจสุขภาพสัตว์เลี้ยง พูดคุยกับสัตวแพทย์ถึงความพร้อมของร่างกายสัตว์เลี้ยงของเราสำหรับการขึ้นเครื่อง ฉีดวัคซีนให้ครบ โดยเฉพาะวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และนำสมุดรับรองสุขภาพไปเป็นหลักฐานในการพาสัตว์เลี้ยงเดินทางขึ้นเครื่องไปกับคุณได้

ตรวจสอบเงื่อนไขการขนส่งสัตว์เลี้ยงทางเครื่องบิน

ตรวจสอบเงื่อนไขการขนส่งสัตว์เลี้ยงทางเครื่องบิน

ก่อนนำสัตว์เลี้ยงเดินทางด้วยเครื่องบิน อย่าลืมตรวจสอบเงื่อนไขการขนส่งสัตว์เลี้ยงทางเครื่องบินให้อย่างละเอียดถี่ถ้วน เนื่องจากแต่ละสายการบินอาจมีข้อปฏิบัติ ข้อบังคับ หรือกฏเกณฑ์ต่างๆ ที่แตกต่างกันไป 

รวมถึงต้องตรวจสอบเงื่อนไขการตรวจคนเข้าเมืองสำหรับสัตว์เลี้ยงที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเทศ/ภูมิภาคด้วย เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยาก และข้อผิดพลาดในการพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องในภายหลัง

อีกสิ่งสำคัญที่เจ้าของสัตว์เลี้ยงจะต้องตรวจสอบก็คือ ประเภทของสัตว์เลี้ยง ควรรู้ก่อนว่าสายพันธ์ุสัตว์เลี้ยงของเรานั้นอยู่ในบัญชีรายชื่อสายพันธุ์ต้องห้ามหรือไม่ เพราะถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณตกเป็นสัตว์ต้องห้าม ก็ไม่สามารถพาพวกเขาไปด้วยได้ 

สัตว์ส่วนมากที่ไม่สามารถขนส่งผ่านเครื่องบินได้จะเป็นสัตว์จำพวกที่มีพิษ สัตว์ดุร้าย สัตวที่มีจมูกสั้น เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จำเป็นต้องศึกษาให้รอบคอบเพื่อการเดินทางที่ราบรื่น หรือในกรณีที่ไม่สามารถพาขึ้นเครื่องไปได้ จะได้หาแผนสำรองอื่นเตรียมไว้ทันท่วงที

รวมถึงเรื่องอายุของสัตว์เลี้ยงก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน โปรดตรวจสอบอายุของสัตว์เลี้ยงที่สามารถนำขึ้นเครื่องได้กับแต่ละสายการบิน

นอกจากนี้ ในส่วนของต่างประเทศก็ต้องตรวจสอบข้อกำหนดของประเทศนั้นๆ เรื่องสายพันธุ์สุนัขและแมวสายการบิน ซึ่งจะมีแจ้งไว้อยู่แล้วว่าสายพันธุ์ไหนบ้างที่ไม่สามารถพาขึ้นเครื่องได้ 

กรงของสัตว์เลี้ยง

กรงของสัตว์เลี้ยง

กรงหรือบรรจุภัณฑ์สำหรับพาสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องไม่ใช่ว่าจะเป็นกรงขนาดใด ลักษณะใดก็ได้ หรือเห็นว่าเป็น กรงที่เคยพาสัตว์เลี้ยงเดินทางไปพบสัตวแพทย์เลยคิดว่าคงใช้ได้เหมือนกัน ความจริงแล้วจะใช้กรงที่มีอยู่แล้วก็ได้ แต่ต้องตรวจสอบให้มั่นใจว่าเป็นกรงที่มีมาตรฐาน และจะต้องเป็นไปตามกฎระเบียบของสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ ซึ่งลักษณะของกรงที่เหมาะสมก็มีดังนี้

  • วัสดุพลาสติกแข็งตามข้อบังคับของ IATA
  • กรงแข็งแรง มีน็อตยึดแน่นหนา
  • กรงแข็งแรงพอที่จะรับน้ำหนักของสัตว์เลี้ยงได้
  • ประตูกรงแน่นหนา มีเพียงประตูเดียวสำหรับการเข้า-ออก
  • มีช่องระบายอากาศ สามารถมองเห็นได้ว่าเป็นกรงสัตว์
  • มีความกว้างและความยาวเพียงพอ ให้สัตว์กลับตัว พลิกตัว และยืนได้สะดวก หลังไม่ชนกรง
  • ต้องจัดเตรียมขวดน้ำแบบหยดสำหรับสัตว์เลี้ยง

สายการบินที่ขนส่งสัตว์เลี้ยงได้

สายการบินที่ขนส่งสัตว์เลี้ยงได้

ก่อนจะทำการจัดส่งสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินนั้น เจ้าของจะต้องทำการบ้านโดยศึกษาข้อมูลของสายการบินต่างๆ เสียก่อนว่า สายการบินไหนบ้างที่อนุญาตให้นำสัตว์เลี้ยงเดินทางไปกับเครื่องบินได้ และอาจมีรายละเอียดปลีกย่อยไปอีก อย่างการให้บริการเพียงบางจังหวัดเท่านั้น อย่างไรก็ตาม อย่าลืมโทรสอบถามรายละเอียดกับสายการบินของจังหวัดนั้น ๆ ก่อนทุกครั้ง

สายการบินไทย (Thai Airways) 

สายการบินไทย (Thai Airways) มีบริการการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง แบบ Check Baggage (AVIH) สัตว์เลี้ยงจะต้องมีขนาดตามระเบียบของ IATA’s Live Animals Regulations (LAR) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลในเรื่องการขนส่งสัตว์ที่มีชีวิตผ่านสายการบินต่างๆ 

ทางการบินไทยนั้น จะนำสัตว์เลี้ยงของเราไปโหลดไว้ยังห้องบรรทุกสัมภาระพิเศษใต้ท้องเครื่อง ที่ได้มีการออกแบบให้มีระบบควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย

สำหรับเที่ยวบินที่ทางสายการบินไทยไม่รับสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องแบบ Check Baggage (AVIH) มีดังต่อไปนี้

  • เที่ยวบินไปโอ๊กแลนด์ เดนปาซาร์ ดูไบ ฮ่องกง และ ลอนดอน
  • เที่ยวบิน ไป / กลับจากออสเตรเลีย (บริสเบน เมลเบิร์น เพิร์ท ซิดนีย์)
  • เที่ยวบินที่ให้บริการด้วยเครื่องบินแบบแอร์บัส A320

ส่วนเรื่องของสายพันธุ์สุนัขที่การบินไทยขอสงวนสิทธิ์ในการให้บริการขนส่งสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง ก็มีทั้งหมด 25 สายพันธุ์ด้วยกัน 

REF

  1. อเมริกันบูลด็อก / บูลลี่ (American Bulldog / Bully)
  2. อเมริกันสแตฟฟอร์ดเชียร์เทอร์เรียร์ (American Staffordshire Terrier)
  3. อเมริกันพิทบูลเทอร์เรียร์ (American Pit Bull Terrier)
  4. บอสตันเทอร์เรียร์ (Boston Terrier)
  5. บ็อกเซอร์ ( Boxer)
  6. บราสเซิลส์กริฟเฟิน (Brussels Griffon)
  7. บูลด็อก (Bulldog)
  8. ไชนีสปั๊ก (Chinese Pug)
  9. เชาเชา (Chow Chow)
  10. ดัชปั๊ก (Dutch Pug)
  11. อิงลิชบูลด็อก (English Bulldog)
  12. อิงลิชทอยสแปเนียล (English Toy Spaniel)
  13. เฟรนช์บูลด็อก (French Bulldog)
  14. ลาซาแอปโซ ( Lhasa Apso)
  15. เจแปนนีสบ็อกเซอร์ (Japanese Boxer)
  16. เจแปนนีสปั๊ก (Japanese Pug)
  17. เจแปนนีสชิน (Japanese Spaniel (Chin)
  18. มาสทิฟฟ์ (ทุกสายพันธุ์) Mastiff (All Breeds)
  19. ปักกิ่ง (Pekinese)
  20. พิทบูล (Pit Bull)
  21. ปั๊ก (Pug)
  22. ชาเป่ย (Shar Pei)
  23. ชิสุ (Shih Tzu)
  24. สแตฟเฟอร์ดไชร์บูลเทอร์เรียร์ (Staffordshire Bull Terrier)
  25. ทิเบตันสแปเนียล (Tibetan Spaniel)

ค่าใช้จ่าย

สำหรับการบินไทยแล้วการขนส่งสุนัขขึ้นเครื่องบินมีราคา 0 บาทเท่านั้น! เป็นสิทธิพิเศษสำหรับผู้โดยสารที่มีความบกพร่องทางการมองเห็นหรือทางการได้ยิน และจำเป็นจะต้องมีสุนัขนำทางหรือสุนัขที่ให้ความช่วยเหลืออยู่ข้างกาย 

โดยทางผู้โดยสารจะต้องติดต่อสำนักงานขายการบินไทยประจำท้องถิ่นของท่านอย่างน้อย 48 ชั่วโมง ในส่วนของบุคคลธรรมดาที่ไม่ได้ต้องมีสุนัขนำทาง มีการเสียค่าใช้จ่ายตามอัตราของการขนส่งทางอากาศ ซึ่งสามารถติดต่อสำนักงานการบินไทยสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายได้

สายการบินนกแอร์ (Nok Air) 

ถ้าอยากจะพาสัตว์เลี้ยงขนส่งขึ้นเครื่องบินกับทางสายการบินนกแอร์ก็สามารถทำได้ โดยทางนกแอร์มีบริการขนส่งสินค้าและสัตว์เลี้ยงผ่านทางนกแอร์คาร์โก้ ซึ่งปฎิบัติการภายใต้ระเบียบมาตราฐานและข้อกำหนดของสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association – IATA) และยังได้รับอนุญาตจากสำนักการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (Civil Aviation Authority of Thailand – CAAT) ซึ่งหลักเกณฑ์ในการขนส่งสินค้าและสัตว์เลี้ยงของสายการบินนกแอร์ ก็มีดังนี้

  • น้ำหนักจะต้องไม่เกิน 20-25 กิโลกรัม
  • ไม่เป็นสินค้าผิดกฏหมาย (อาวุธปืน, ยาเสพติด, ยุทธภัณฑ์)
  • ไม่เป็นวัตถุอันตราย
  • ไม่ตรงตามมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือเป็นอันตรายต่อการขนส่งทางอากาศ
  • การประกาศห้ามรับสินค้าที่เกินสมรรถนะของอากาศยาน
  • สัตว์มีชีวิตต้องไม่เป็นสัตว์ที่มีพิษ สุนัขที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวดุร้าย หรือสุนัขบางสายพันธ์ุ

ซึ่งสายพันธุ์สุนัขที่ไม่สามารถขนส่งผ่านสายการบินนกแอร์ ก็ประกอบไปด้วยสุนัขทั้งหมด 19 สายพันธุ์ ดังต่อไปนี้

  1. ปั๊ก ( Pug Breeds )
  2. เฟรนช์บูลด็อก ( French Bulldog )
  3. อิงลิชบูลด็อก ( English Bulldog )
  4. อเมริกันบูลด็อก / บูลลี่ ( American Bulldog / Bully )
  5. บรัสเซิลส์เทอร์เรียร์ ( Brussels Terrier )
  6. อิงลิชทอยสแปเนียล ( English Toy Spaniel )
  7. เจแปนนีสสแปเนียล ( Japanese Spaniel )
  8. ปักกิ่ง ( Pekingese )
  9. ทิเบตันสแปเนียล ( Tibetan Spaniel )
  10. ชาเป่ย ( Shar Pei )
  11. ลาซาแอปโซ ( Lhasa Apso )
  12. บอสตันเทอร์เรียร์ ( Boston Terrier )
  13. บ็อกเซอร์  ( Boxer Breeds )
  14. ด็อจเดบอร์โดซ์ ( Dogue de Bordeaux )
  15. เชาเชา ( Chow Chow )
  16. มาสทิฟฟ์บรีด ( Mastiff Breeds )
  17. อเมริกันพิทบูลเทอร์เรียร์ ( American Pit Bull Terrier )
  18. พิทบูล ( Pit Bull )
  19. สแตฟเฟอร์ดไชร์บูลเทอร์เรียร์ ( Staffordshire Bull Terrier)

นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้วข้างต้น ทางนกแอร์ก็ยังมีกฎเกี่ยวกับบรรจุภัณฑ์ของสัตว์เลี้ยง นั่นก็คือ

  • กรงสัตว์เลี้ยงเป็นวัสดุพลาสติกแข็งตามข้อบังคับของ IATA
  • มีเพียงประตูเดียวสำหรับให้สัตว์เลี้ยงเข้า / ออก และสามารถป้องกันสัตว์เลี้ยงไม่ให้หลุดออกมาหรือป้องกันกรงเล็บของสัตว์เลี้ยงได้
  • ขันสกูรรอบด้านให้ครบ
  • มีช่องระบายอากาศที่เปิดออกได้มากกว่าหนึ่งด้าน มองเห็นได้ง่ายว่าเป็นกรงสัตว์ และมีวัสดุดูดซับความชื้นคลุมด้านล่างหรือพื้นของกรง
  • มีพื้นที่เพียงพอให้สัตว์เลี้ยงกลับตัวไปมาได้
  • หากส่งสุนัข แมว หรือ กระต่าย ต้องจัดเตรียมขวดน้ำแบบหยด และทำการยึดกับกรงให้แน่นหนา
  • หากกรงชำรุด ทางสายการบินไม่รับขนส่งเด็ดขาด โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่สายการบิน

นกแอร์ให้บริการขนส่งสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องเฉพาะบนเครื่องบิน Boeing 737-800 เส้นทางภายในประเทศเท่านั้น รวมถึงบางครั้งอาจไม่มีที่ว่างให้บริการในบางเที่ยวบิน เนื่องจากมีพื้นที่จำกัด และก็อย่าลืมพาเจ้าสี่ขาไปถึงยังนกแอร์คาร์โก้ก่อนเวลาเดินทาง 2 ชั่วโมงด้วย

ค่าใช้จ่าย

อัตราค่าบริการสำหรับบริการขนส่งสัตว์เลี้ยงเริ่มต้นที่ 440 บาท สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอัตราค่าบริการขนส่งสัตว์เลี้ยงของสายการบินนกแอร์ได้ ที่นี่

สายการบินบางกอกแอร์เวยส์ (Bangkok Airways) 

สายการบินบางกอกแอร์เวยส์ (Bangkok Airways) มีบริการขนส่งสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบิน โดยจะมีทางเจ้าหน้าที่พาสัตว์เลี้ยงของเราไปโหลดไว้ที่ห้องบรรทุกสัมภาระ ที่มีการควบคุมอุณหภูมิที่เหมาะสมและปลอดภัยกับพวกเขา ส่วนรายละเอียดกฎเกณฑ์ของสายการบินในการขนส่งสัตว์เลี้ยงประกอบไปด้วย

  • รับเพียงสุนัขและแมวเท่านั้น
  • ต้องแจ้งกับทางสายการบินผ่านทาง Call Center หรือสำนักงานออกบัตรโดยสาร ก่อนออกเดินทาง 24 ชั่วโมง
  • ในการเดินทางต่างประเทศเจ้าของจะต้องจัดเตรียมเอกสารต่างๆ ให้ครบถ้วน (ใบอนุญาตนำเข้าสัตว์ ใบอนุญาตการส่งออกสัตว์ ใบอนุญาตขนถ่ายสัตว์ ใบรับรองสุขภาพจากสัตวแพทย์ เอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า หนังสือเดินทางสัตว์เลี้ยง)
  • กรงสัตว์เลี้ยงต้องมีมาตรฐาน แข็งแรงตามข้อกำหนดของกรง
  • ต้องถอดปลอกคอ เสื้อกั๊ก สายรัด เสื้อผ้า และอุปกรณ์ติดตาม GPS 
  • เส้นทางในประเทศจะให้บริการเฉพาะเส้นทางเข้า-ออก เชียงใหม่ ภูเก็ต และสมุย และเส้นทางที่เดินทางโดยเครื่องบินประเภท AT72 โดยสุนัขหรือแมวต้องมีอายุอย่างน้อย 8 สัปดาห์
  • เส้นทางต่างประเทศสามารถให้บริการรับขนส่งสัตว์เลี้ยงได้ทุกเส้นทาง ยกเว้นเส้นทางมัลดีฟส์มีบริการรับขนส่งเฉพาะแมวเท่านั้น

ทางสายการบินยังมีข้อห้ามในการนำสุนัขบางสายพันธุ์ขึ้นเครื่องด้วย (ข้อกำหนดนี้รวมถึงสุนัขที่มีการผสมข้ามสายพันธุ์กับสายพันธุ์ต้องห้าม) ดังนี้

  1. อเมริกันบูลด็อก / บูลลี่ (American Bulldog/ Bully)
  2. อเมริกันสแตฟฟอร์ดเชียร์เทอร์เรียร์ (American Staffordshire Terrier)
  3. อเมริกันพิทบูลเทอร์เรียร์ (American Pit Bull Terrier)
  4. บอสตัน เทอร์เรียร์(Boston Terrier)
  5. บ็อกเซอร์ (Boxer)
  6. บราสเซิลส์กริฟเฟิน (Brussels Griffon)
  7. บูลด็อก (Bulldog)
  8. ไชนีสปั๊ก (Chinese Pug)
  9. เชา เชา (Chow Chow)
  10. ดัชปั๊ก (Dutch Pug)
  11. อิงลิชบูลด็อก (English Bulldog)
  12. อิงลิชทอยสแปเนียล (English Toy Spaniel)
  13. เฟรนช์บูลด็อก (French Bulldog)
  14. ลาซาแอปโซ (Lhasa Apso)
  15. เจแปนนีสบ็อกเซอร์ (Japanese Boxer)
  16. เจแปนนีสปั๊ก (Japanese Pug)
  17. เจแปนนีสชิน Japanese Spaniel (Chin)
  18. มาสทิฟฟ์ (ทุกสายพันธุ์) Mastiff (All Breeds)
  19. ปักกิ่ง (Pekinese)
  20. พิทบูล (Pit Bull)
  21. ปั๊ก (Pug)
  22. ชาเป่ย (Shar Pei)
  23. ชิสุ (Shih Tzu)
  24. สแตฟเฟอร์ดไชร์บูลเทอร์เรียร์ (Staffordshire Bull Terrier)
  25. ทิเบตันสแปเนียล (Tibetan Spaniel)

ค่าใช้จ่าย

ค่าใช้จ่ายในการส่งสุนัข-ส่งแมวขึ้นเครื่องบิน ราคาเป็นไปตามค่าธรรมเนียมตามน้ำหนักสัมภาระเกินกำหนด (Excess Baggage) ซึ่งคิดจากน้ำหนักสัตว์เลี้ยงรวมกับน้ำหนักกรง เส้นทางในประเทศจะคิดอัตรากิโลกรัมละ 180 บาทต่อเที่ยวบิน และสำหรับเส้นทางต่างประเทศจะคิดตามอัตราของแต่ละเส้นทางโดยแบ่งตามโซน

ข้อควรระวังในการนำส่งสัตว์เลี้ยงทางเครื่องบิน

ข้อควรระวังในการนำส่งสัตว์เลี้ยงทางเครื่องบิน

ในการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่อง นอกจากเงื่อนไขหรือข้อกำหนดของแต่ละสายการบินที่ควรรู้ไว้แล้ว คุณควรศึกษาข้อห้ามและข้อควรระวังเพิ่มเติมด้วย เพื่อให้มีแต่ความปลอดภัยกับชีวิตของสัตว์เลี้ยงที่คุณรัก

  • ควรงดให้อาหารกับสัตว์เลี้ยงก่อนการเดินทาง เพื่อให้กระเพาะอาหารของสัตว์เลี้ยงว่าง ป้องกันสัตว์เลี้ยงขับถ่ายขณะอยู่บนเครื่อง
  • ถ้าช่วงนั้นมีสภาพอากาศที่ร้อน ควรเลือกเดินทางในเวลาเช้าตรู่หรือในเวลาดึก แต่ถ้าช่วงนั้นมีสภาพอากาศที่หนาว ควรเลือกเดินทางในเวลากลางวัน
  • ควรเลือกจองตั๋วเป็นสายการบินประเภทบินตรงและบินในช่วงกลางสัปดาห์ที่มีผู้โดยสารน้อย หลีกเลี่ยงการเดินทางในวันศุกร์ วันเสาร์ วันอาทิตย์ หรือวันหยุดยาว
  • กรณีที่สายการบินไม่สามารถป้องกันการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่กระทบตัวสัตว์ที่อุณหภูมิต่ำกว่า 45 องศาฟาเรนต์ไฮต์ เป็นเวลามากกว่า 45 นาที ระหว่างการขนถ่ายจากตัวเครื่องไปยังตัวอาคารผู้โดยสารได้ ห้ามสายการบินนั้นๆ รับสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องเด็ดขาด ยกเว้นว่าจะมีใบรับรองจากสัตวแพทย์ที่ระบุว่าสัตว์เลี้ยงของคุณสามารถทนต่อสภาพอุณหภูมิที่ต่ำ 45 องศาฟาเรนต์ไฮต์ (แต่ไม่เกิน 85 องศาฟาเรนต์ไฮต์) เป็นเวลามากกว่า 45 นาทีได้

จะเห็นได้ว่าการนำสัตว์เลี้ยงขึ้นเครื่องบินนั้นมีกฎเกณฑ์และข้อกำหนดที่แตกต่างกันไปในแต่ละสายการบิน ดังนั้น เจ้าของสัตว์เลี้ยงจึงต้องมีการศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนก่อนเดินทางทุกครั้ง เพื่อป้องกันการผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นในภายหลัง เมื่อหมดห่วงเรื่องสัตว์เลี้ยงแล้ว ใครที่เดินทางคนเดียว แต่สัมภาระเยอะสามารถใช้บริการของ Airportels ที่มีบริการส่งกระเป๋าจากสนามบิน-ถึงที่พัก ตัดความกังวลเรื่องไม่มีรถส่วนตัวขนย้ายได้เลย

เตรียมตัวให้พร้อม check list ให้ดี ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

เตรียมตัวก่อนเดินทางต่างประเทศ

การเดินทางไปต่างประเทศ ไม่ว่าจะไปท่องเที่ยวหรือทำธุระก็ตาม ทุกคนจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร ใบรับรองต่างๆ และสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการไปพักในต่างประเทศ ซึ่งในบทความนี้ได้ลิสต์ทุกอย่างที่ควรเตรียมให้พร้อมก่อนการเดินทางไว้แล้ว เพื่อให้ทริปเดินทางไปยังต่างประเทศของทุกคนราบรื่นไม่ติดขัด หากพร้อมแล้วสามารถเช็กลิสต์ได้ตามนี้เลย

vaccine passport

เอกสารสำคัญ

แม้จะสิ้นสุดภาวะระบาดของโรค COVID-19 แล้ว แต่การเดินทางไปต่างประเทศบางประเทศ อาจจะต้องเตรียมตัวแสดงเอกสารใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ COVID-19 ที่นอกเหนือจากเอกสารปกติด้วย เพื่อความปลอดภัยของคนในประเทศ เอกสารสำคัญๆ ได้แก่

Vaccine Passport

การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปต่างประเทศ ต้องศึกษาว่าประเทศปลายทางนั้น จำเป็นต้องแสดงหนังสือรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิค-19 หรือเรียกสั้นๆ ว่า “Vaccine Passport” หรือไม่ ซึ่งการขอ Vaccine Passport จะต้องเตรียมทั้งเอกสารตัวจริงและสำเนาให้ครบก่อน ได้แก่ เอกสารรับรองการได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 บัตรประจำตัวประชาชน หนังสือเดินทาง และค่าธรรมเนียมการออกหนังสือรับรองฯ 50 บาท โดยมีทั้งแบบรูปเล่ม และแบบดิจิทัล สามารถยื่นขอที่หน่วยงานสาธารณสุข หรือจะยื่นขอผ่านแอปพลิเคชั่น “หมอพร้อม” ก็ได้ทั้งสองช่องทางเลย

ใบรับรองแพทย์ Fit to Fly

ใบรับรองแพทย์ Fit to Fly (Fit to Fly Health Certificate) เป็นเอกสารทางการแพทย์อีกหนึ่งประเภทที่ต้องเตรียมก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เป็นการแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิค-19 ภายในระยะเวลา 36-72 ชั่วโมงก่อนการเดินทาง ทั้งนี้ เงื่อนไขเรื่องของระยะเวลานั้น ขึ้นอยู่กับสายการบินและเกณฑ์ของประเทศปลายทาง

passport

หนังสือเดินทางหรือ Passport

หนังสือเดินทาง หรือ Passport เป็นเอกสารชิ้นแรกที่ต้องมีการเตรียมตัวเมื่อจะไปต่างประเทศ และเป็นเอกสารสำคัญที่สุดที่ต้องติดตัวไว้ตลอดระยะเวลาที่เดินทางหรืออยู่ในต่างประเทศ เพราะ Passport เปรียบเสมือนเอกสารที่แสดงตัวตนและสถานภาพของบุคคลนั้นๆ การเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศจะต้องตรวจสอบวันหมดอายุ และสภาพความเสียหายของเล่ม Passport ด้วยทุกครั้ง 

ตั๋วเครื่องบิน

ก่อนการเดินทางไปต่างประเทศจะต้องเช็กตั๋วเครื่องบินให้พร้อมเสมอ เบื้องต้น คือ การตรวจสอบเวลาเช็กอินและเคาท์เตอร์เช็กอินที่เป็นข้อมูลล่าสุด เพราะในบางครั้งสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนในช่วงเวลากระชั้นชิด สามารถตรวจสอบในเว็บไซต์หรือตรวจสอบ ณ สนามบินได้เลย แต่ว่าผู้เดินทางต้องเตรียมเอกสารสำหรับการเช็กอินให้พร้อม 

การเช็กอิน หากไม่มีสัมภาระที่ต้องโหลดสามารถเช็คอินล่วงหน้าในเว็บไซต์ได้ แต่หากมีสัมภาระก็จะต้องนำไปโหลดที่เคาท์เตอร์ก่อน ดังนั้น ผู้เดินทางจึงควรเตรียมตัวเผื่อเวลาสำหรับการทำธุรกรรมต่างๆ เหล่านี้ไว้ล่วงหน้า 2-3 ชั่วโมง ก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ

เอกสารจองเดินทาง

เอกสารจองที่พัก

การเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ควรจองที่พักไปก่อนล่วงหน้า ตามระยะเวลาที่พักในต่างประเทศ และเตรียมเอกสารจองที่พักไว้ด้วยตอนเดินทาง เพื่อเป็นสิ่งที่ใช้ยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง ว่าเป็นการเข้าประเทศไปอย่างถูกต้องถูกกฎหมาย มีที่พักที่แน่นอนในประเทศนั้นๆ 

ประกันการเดินทาง

ประกันการเดินทางเป็นสิ่งที่บางคนอาจจะละเลยไปหรือมองว่าไม่จำเป็น ในการเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ จึงไม่สนใจที่จะทำประกันการเดินทาง แต่การทำประกันการเดินทางไปต่างประเทศนั้นมีความสำคัญมาก เพราะจะเป็นสิ่งที่คุ้มครองผู้เดินทางเมื่อมีเหตุไม่คาดฝัน เช่น การเจ็บป่วย อุบัติเหตุ กระเป๋าเดินทางล่าช้าสูญหาย ไฟลต์บินล่าช้า หรือในการยื่นขอวีซ่าบางประเทศจำเป็นต้องทำประกันการเดินทางด้วย เป็นต้น 

sim card

สิ่งอำนวยความสะดวก

การเตรียมตัวไปต่างประเทศ จะต้องเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกไปให้พร้อม เพราะจะทำให้การดำรงชีวิตในต่างประเทศง่ายขึ้นมาก ตัวช่วยอำนวยความสะดวกจะประกอบไปด้วย

ซิมเพื่อใช้งานต่างประเทศ

ปัจจุบันเครือข่ายโทรศัพท์หรืออินเทอร์เน็ตสามารถเชื่อมโยงกันระหว่างประเทศได้สะดวกขึ้น การเตรียมตัวก่อนเดินทางไปต่างประเทศควรจะเตรียมเรื่องของการใช้งานเครือข่ายการสื่อสารระหว่างการเดินทางด้วย ซึ่งผู้ให้บริการเครือข่ายอินเตอร์เน็ตในประเทศไทยเองมีหลายบริษัทที่รองรับการใช้งานซิมในต่างประเทศ หรือในบางกรณีไม่ต้องเปลี่ยนซิม สามารถใช้เบอร์เดิมในต่างประเทศได้เลย เพียงแค่สมัครแพคเกจสำหรับเปิดใช้งานในต่างประเทศเท่านั้น 

translate

แอปแปลภาษา

ควรเตรียมโหลดตัวช่วยที่ดีนี้ไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เพื่อการเดินทางท่องเที่ยวที่ราบรื่น สามารถใช้แอปแปลภาษาช่วยในการสื่อสารกับคนท้องถิ่น โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้เดินทางและคนท้องถิ่นภาษาอังกฤษไม่แข็งแรง หรือกรณีที่การพูดภาษาในแต่ละสำเนียงที่ไม่คุ้นเคย อาจทำให้การสื่อสารผิดพลาดได้ ดังนั้นการเตรียมโหลดแอปแปลภาษาไว้จะเป็นสิ่งที่ช่วยนักเดินทางได้เป็นอย่างดี

ที่ชาร์จแบตสำรอง

การเตรียมตัวไปต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่ห้ามลืมเลยคือที่ชาร์จแบตสำรอง เพราะจำเป็นต้องใช้โทรศัพท์เป็นปัจจัยที่ห้าเลยก็ว่าได้ ข้อมูลทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในโทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะเป็นแผนที่ การค้นหาข้อมูลสถานที่ต่างๆ การถ่ายรูป การเล่นโซเซียล ดังนั้นควรเตรียมที่ชาร์จแบตสำรองไปด้วยทุกครั้ง เพื่อจะได้ใช้โทรศัพท์ได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะในเวลาฉุกเฉิน แต่การพกที่ชาร์ตแบตสำรองนั้น ต้องศึกษากฎของสายการบินต่างๆ ด้วย ว่าจะสามารถพกที่ชาร์จแบตสำรองประเภทไหนขึ้นเครื่องบินได้บ้าง

หัวแปลง

ที่แปลงหัวปลั๊ก

แต่ละประเทศนั้นจะใช้ปลั๊กแตกต่างกัน รวมถึงกระแสไฟก็ยังไม่เท่ากันด้วย ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ได้รับความเสียหาย เช่น การเสียบสายชาร์ตโทรศัพท์ กล้องถ่ายรูป ไดร์เป่าผม เครื่องหนีบผมต่างๆ จึงจำเป็นอย่างมากที่จะต้องมีการเตรียมที่แปลงหัวปลั๊กติดตัวไปด้วย ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเสียบอุปกรณ์อิเล็คทรอนิคส์ใดๆ ได้เลย อีกทั้งการไปหาซื้อตามร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในต่างประเทศนั้นอาจจะไม่มีจำหน่ายหรือมีจำหน่ายในราคาแพงก็ได้ 

บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต

การเตรียมตัวเกี่ยวกับการเงินก่อนเดินทางไปต่างประเทศนั้น นอกจากควรเตรียมเงินสดไปตามความเหมาะสมแล้ว ยังควรเตรียมบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตติดตัวไปด้วย เพราะการเดินทางไปต่างประเทศ มักมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นเสมอ โดยเฉพาะในกรณีที่ไม่สามารถใช้เงินสดได้หรือเงินสดไม่พอจ่าย การพกบัตรเครดิตบัตรเดบิตต่างๆ ไปด้วย จะเป็นตัวช่วยในกรณีฉุกเฉินได้

ยาประจำตัว

สิ่งของจำเป็น

แต่ละคนมีสิ่งของที่จำเป็นสำหรับร่างกายไม่เหมือนกัน ซึ่งการไปต่างประเทศจะต้องเตรียมสิ่งเหล่านี้ให้พร้อมที่สุด เพราะบางสิ่งบางอย่างเป็นความจำเป็นเฉพาะตัว จึงต้องเตรียมไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ

ยาประจำตัว

การเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ต้องคำนึงถึงยาที่ควรจะพกไปด้วย โดยทั่วไปสามารถพกไปได้หากเป็นยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาพาราเซตามอล ยาลดไข้ แก้ปวด ยาแก้แพ้ ยาลดกรด แก้ท้องอืดท้องเสีย เป็นต้น แต่หากเป็นยาเฉพาะโรคบางชนิดที่เป็นยาห้ามเข้าประเทศนั้นๆ จะต้องกรอกแบบฟอร์มขออนุญาตการนำยาเข้าประเทศ และจะต้องมีใบรับรองแพทย์ที่ระบุถึงโรคประจำตัวและยาที่จำเป็นต้องใช้ด้วย

ชุดปฐมพยาบาล

ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นก็เป็นอีกสิ่งที่สำคัญที่ต้องเตรียมตัวไว้ก่อนเดินทางไปต่างประเทศ เพราะหากเกิดอุบัติเหตุหรือบาดเจ็บ จะได้สามารถหยิบมาใช้ได้ทันที ซึ่งหากสามารถปฐมพยาบาลเบื้องต้นทั้งตนเองและเพื่อนร่วมเดินทางได้โดยไม่ต้องเข้าโรงพยาบาล ก็จะทำให้การเดินทางราบรื่นมากขึ้น

covid 19 kit

COVID-19 Kit

ทุกการเดินทางไปต่างประเทศควรเตรียมชุด COVID-19 Kit ติดตัวไปด้วย โดยมีอุปกรณ์สำคัญ เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ สเปย์แอลกอฮอล์ เพื่อเป็นการรักษาความสะอาดและป้องกันเชื้อโรค เนื่องจากไวรัสโควิดยังสามารถติดต่อกันได้ง่ายอยู่ในปัจจุบัน

สิ่งของส่วนตัว

สิ่งของส่วนตัว

สิ่งของส่วนตัวที่ต้องมีการเตรียมให้ครบก่อนการเดินทาง ประเภทเสื้อผ้า เครื่องแต่งตัวต่างๆ นั้น ควรเตรียมให้เรียบร้อย ครบจำนวนวันที่ต้องเดินทางไปและอาศัยในต่างประเทศ เพื่อที่จะได้ไม่ต้องกังวลเมื่อไปเที่ยวหรือทำธุระ

เสื้อผ้า

การเตรียมเสื้อผ้าเครื่องแต่งตัวก่อนการเดินทางไปต่างประเทศนั้น ควรจะเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมกับฤดูกาลของประเทศนั้นๆ พร้อมทั้งคำนึงถึงจุดประสงค์ของการเดินทางด้วย เช่น การเตรียมเสื้อผ้าสำหรับการไปเที่ยวย่อมแตกต่างจากการเตรียมเสื้อผ้าสำหรับการไปทำธุระ เป็นต้น อีกทั้งการเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสมยังช่วยให้สามารถจัดการน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางได้ด้วย

ถุงมือและถุงเท้า

ในกรณีที่เดินทางไปต่างประเทศในช่วงฤดูหนาวนั้น นอกจากเสื้อผ้า การแต่งตัวที่เหมาะสมแล้ว ยังต้องให้ความสำคัญกับการเตรียมถุงมือและถุงเท้าด้วย ซึ่งจะต้องเป็นถุงมือถุงเท้าที่ใส่ในฤดูหนาวโดยเฉพาะ เพราะจะมีเนื้อผ้าที่หนา กันลมหนาวได้ ที่แตกต่างจากวัสดุทั่วไป 

รองเท้า

รองเท้าเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมากในการแต่งตัว การเตรียมรองเท้าไปเที่ยวต่างประเทศจะต้องพิจารณาถึงสภาพอากาศและภูมิประเทศของประเทศนั้นๆ ด้วย เช่น รองเท้าที่ใส่สำหรับเดินบนหิมะ รองเท้าสำหรับประเทศเขตร้อน และรองเท้าที่เหมาะกับการเดินในพื้นที่ที่เป็นเนินสูงต่ำ เป็นต้น ซึ่งต้องเตรียมรองเท้าให้เหมาะสม โดยที่ตัวผู้สวมใส่ต้องรู้สึกสบายเท้า เพราะจะส่งผลถึงสุขภาพในด้านอื่นๆ ด้วย

ของใช้ประจำวัน

การเดินทางไปต่างประเทศทุกครั้ง ควรเตรียมของใช้ส่วนตัวที่ต้องในชีวิตประจำวันสำหรับทำความสะอาดไปด้วย เช่น แปรงสีฟัน ยาสีฟัน สบู่ แชมพู โฟมล้างหน้า เครื่องสำอางค์ ผ้าเช็ดตัว ซึ่งควรแบ่งเป็นเซ็ตเล็กสำหรับถือขึ้นเครื่องบินอีกหนึ่งเซ็ต เพื่อที่จะได้ใช้ทำความสะอาดร่างกายระหว่างทาง ในกรณีที่เดินทางระยะเวลายาวนานหรือต้องเปลี่ยนเครื่อง (Transit) ที่สนามบินใดสนามบินหนึ่ง โดยการพกพาสิ่งของเหล่านี้ต้องปฏิบัติตามกฎของการบิน คือ การพกของเหลวชิ้นเล็กไม่เกินชิ้นละ 100 มิลลิลิตร

ข้อมูลต่างประเทศ

ข้อมูลของประเทศนั้น

ก่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ต้องเตรียมตัวหาข้อมูลที่จำเป็นต่างๆ ของประเทศปลายทางด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น ข้อห้ามปฏิบัติ วัฒนธรรม สภาพอากาศ และระบบขนส่งมวลชน เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยดี ดังนี้

ข้อห้ามของประเทศนั้น และวัฒนธรรมของประเทศปลายทาง

แต่ละประเทศมีวัฒนธรรม ธรรมเนียมปฏิบัติที่แตกต่างกัน การออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศคือการไปค้นพบโลกในอีกด้านหนึ่ง จึงมีความจำเป็นที่จะต้องเตรียมตัวศึกษาเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศที่จะเดินทางไป โดยเฉพาะข้อห้ามที่ไม่ควรปฏิบัติในพื้นที่ ซึ่งบางประเด็นจะต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ หากเป็นประเด็นอ่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับความเชื่อและศาสนา 

สภาพอากาศ

สภาพอากาศเป็นสิ่งที่แตกต่างกันอย่างมากในแต่ละประเทศ ดังนั้นก่อนจะเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศจึงต้องศึกษาเรื่องของสภาพอากาศในช่วงเวลานั้นๆ ที่จะเดินทางไปถึง เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการเตรียมตัวในเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น การเตรียมเสื้อผ้าที่เหมาะสม การเตรียมยาป้องกันไข้หวัด การเตรียมอุปกรณ์ที่สำคัญ การเตรียมแผนการเดินทาง และการเตรียมสภาพร่างกายให้มีความพร้อมที่จะเผชิญกับอากาศที่ไม่คุ้นเคยในต่างประเทศ

ข้อมูลระบบขนส่งมวลชน

เพื่อให้การเดินทางไปต่างประเทศมีประสิทธิภาพ ประหยัดเวลา ควรเตรียมตัวไว้ก่อน โดยการศึกษาข้อมูลระบบขนส่งมวลชนของประเทศนั้นๆ ให้ดีเสียก่อน จะช่วยให้วางแผนการเดินทางได้คล่องแคล่วยิ่งขึ้น เช่น ตารางเวลารถไฟฟ้า รถไฟใต้ดิน รถบัส เป็นต้น การเตรียมข้อมูลในเรื่องของระบบขนส่งมวลชนเป็นสิ่งที่ควรทำก่อนจะเดินทางไปถึงประเทศปลายทาง เพราะการท่องเที่ยวจะได้ไม่เสียเวลาไปกับการหลงทางหรือการหาเส้นทาง

อาหาร

ก่อนเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ ควรเตรียมตัวหาข้อมูลเกี่ยวกับอาหารประจำชาติ หรืออาหารประจำถิ่นต่างๆ ที่ควรไปจะลองรับประทานดู เป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศอื่นๆ ด้วย การวางแผนเกี่ยวกับอาหารการกินนั้นก็จะกลายเป็นอีกเรื่องสนุกของการเดินทางไปเที่ยวต่างประเทศเลยทีเดียว  

สิ่งที่ต้องเตรียมตัวก่อนเดินทางไปต่างประเทศให้พร้อมเสมอ ได้แก่ การเตรียมเอกสารสำคัญ การเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวก สิ่งของจำเป็น สิ่งของส่วนตัว ตลอดจนข้อมูลของประเทศปลายทาง ทั้งนี้สิ่งที่สำคัญอีกหนึ่งสิ่ง คือ การบริหารจัดการเวลาและความคล่องตัวในการเดินทาง ซึ่ง Airportels เป็นบริการที่ตอบโจทย์ของนักเดินทางในเรื่องการรับฝากกระเป๋าสัมภาระทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ลดความกังวลใจในการต้องดูแลสัมภาระระหว่างรอในสนามบิน เพียงนำไปฝากไว้ นักเดินทางก็สามารถจัดการธุระในส่วนอื่นๆ ได้อย่างสบายใจก่อนการเช็กอิน และยังมีความปลอดภัย รวดเร็ว ใช้งานง่ายอีกด้วย