ป้ายกำกับ: Shopping

How to ทำให้ค่าส่งสินค้าไปต่างประเทศมีราคาถู้กกถูกก!

Global business,ส่งของไปต่างประเทศแบบประหยัด

ปัจจุบันการขายของออนไลน์ผ่านทางอินเทอร์เน็ตกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะสะดวก แถมประหยัด ไม่จำเป็นต้องมีหน้าร้าน ทำให้ทุกคนสามารถเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ได้ และสามารถขายของได้ทั่วโลก เพียงแค่มีของหรือสินค้าที่น่าสนใจ อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในการขายของออนไลน์ ไม่ยิ่งหย่อนกว่าตัวสินค้าคือ เรื่องการจัดส่งสินค้าโดยเฉพาะกรณีส่งของไปต่างประเทศ  หากสามารถ ส่งของไปต่างประเทศแบบประหยัด ได้ ก็ย่อมช่วยลดต้นทุนส่วนนี้ได้ มีกำไรมากขึ้น ฉะนั้น จึงขอนำเสนอเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการ ส่งของไปต่างประเทศแบบประหยัด ดังนี้

Packages are transported,ส่งของไปต่างประเทศแบบประหยัด

เทคนิคการแพคและการกระจายสินค้าให้เล็กลง

เป็นที่ทราบกันดีว่า ยิ่งสินค้านั้นมีน้ำหนักและขนาดใหญ่ อัตราค่าขนส่งก็สูงมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น หากสามารถทำให้สินค้ามีขนาดเล็กลงก็ย่อมทำให้ผู้ขาย ส่งของไปต่างประเทศแบบประหยัด มากขึ้น ดังนี้

1. กล่องสินค้า เป็นที่ทราบกันดีว่ายิ่งกล่องสินค้ามีขนาดใหญ่ ก็ยิ่งมีราคาแพง ดังนั้น ควรเลือกขนาดที่พอดีกับสินค้า หากสินค้าชิ้นใดแตกหักง่าย อาจใส่เม็ดโฟมหรือพลาสติกกันกระแทก พร้อมเขียนกำกับให้ชัดเจนว่าแตกง่าย แต่พึงระลึกไว้เสมอว่า ยิ่งใส่มากยิ่งค่าใช้จ่ายมาก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการห่อนั้น พลาสติกกันกระแทกไม่จำเป็นต้องหนามาก เว้นแต่ของแตกหักง่ายจริง ๆ จุดสำคัญคือ ไม่ควรให้มีช่องว่าง ทำให้ของในกล่องเคลื่อนไปมาได้ แค่นี้ก็ลดแรงกระแทกได้มากแล้ว

2. กระจายสินค้า หากของที่จะส่งมีจำนวนมาก สามารถแยกกันได้ โดยเฉพาะกล่องไม่เกิน 2 กิโลกรัม สามารถส่งเป็นแบบพัสดุย่อยทางอากาศได้ ซึ่งราคาค่าส่งย่อมถูกกว่าการส่งแบบชิ้นใหญ่เพียงชิ้นเดียว แต่ทั้งนี้ต้องบรรจุอยู่ในกล่องไม่เกินขนาด 30 x 45 x 20 ซม. หรือกว้างยาวสูง รวมกันไม่เกิน 90 ซม. ห้ามใช้กาวหรือเทปเด็ดขาด แต่ให้ผูกเชือกและใช้ลวดเย็บแทน มิฉะนั้นจะกลายเป็นจดหมายทางอากาศ ซึ่งเสียค่านำส่งแพงกว่ากันมาก

3. ในกรณีที่เป็นสิ่งยืดหยุ่นง่าย เช่น เสื้อผ้า กางเกง อาจเลือกส่งโดยวิธีพับใส่ถุงไปรษณีย์ แทนการแพ็คใส่กล่อง ซึ่งประหยัดค่ากล่องไปได้มาก ส่วนพวกสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือ หรือสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ สามารถบรรจุใส่ซองไปรษณีย์ปกติเพียงแต่ให้มีพลาสติกกันกระแทกก็เพียงพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องแพ็คใส่กล่องไปรษณีย์แต่อย่างใด

Post envelope closeup,ส่งของไปต่างประเทศแบบประหยัด

การจัดการภาษีปลายทาง หรือภาษีเพื่อการนำเข้าสินค้า

นอกจากนี้ในเรื่องการส่งของ ผู้ขายควรศึกษาภาษีนำเข้าประเภทสินค้าของประเทศนั้น ๆ ด้วย เพราะสินค้าแต่ละประเภทย่อมเสียภาษีนำเข้าแตกต่างกัน อย่างไรก็ตามหากเป็นการส่งของมูลค่าไม่มาก และผู้ขายระบุเป็นของขวัญ ของชำร่วย (Gift) หรือสินค้าตัวอย่าง (Sample) บนใบ CN22 (Customs Declaration) หรือ ใบ ป.62 ระบุว่าเป็น Gift หรือ Sample แล้วแต่กรณี หากสินค้าชิ้นนั้นมีมูลค่าไม่ถึงเกณฑ์ที่ประเทศนั้นกำหนดจะต้องเสีย เช่น สหรัฐอเมริกา หากสินค้านั้นไม่เกิน 800 เหรียญ (ราว 27,000 บาท) ญี่ปุ่น 10,000 เยน (ราว 3,000 บาท) ผู้รับของก็ได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีสินค้าเพื่อการนำเข้าของประเทศนั้น เป็นต้น อย่างไรก็ตามในการระบุราคาสินค้า ผู้ขายควรระบุราคาให้ใกล้เคียงความเป็นจริงไม่แตกต่างจนเกินเหตุ  

จากที่กล่าวมา ปัจจุบันธุรกิจการขายสินค้าออนไลน์มีการขยายตัวมากขึ้น ผู้ซื้อและผู้ขายไม่จำเป็นต้องอยู่ในประเทศเดียวกัน อย่างไรก็ตามการขนส่งระหว่างประเทศย่อมทำให้ต้นทุนสินค้านั้นสูงขึ้น หากผู้ขายสามารถ ส่งของไปต่างประเทศแบบประหยัด ได้ ย่อมช่วยลดภาระต้นทุนในส่วนนี้ มีกำไรมากขึ้นได้ ดังนั้น การศึกษาข้อมูลการขนส่ง เช่น ประเภทที่เหมาะสมในการขนส่งสินค้านั้น ๆ ย่อมถือเป็นสิ่งสำคัญไม่ควรมองข้าม

10 แหล่งช้อปในเกาหลีที่คุณไม่ควรพลาด!

กรุงโซลเมืองหลวงของเกาหลีใต้เป็นปลายทางของหลาย ๆ คนที่คิดจะเดินทางไปประเทศนี้ เพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย นอกจากนั้นยังมี แหล่งช้อปในเกาหลี ที่มีของขายละลานตาอีกด้วย จะมีที่ไหนบ้างไปดูกันเลย

1. มยองดง (Myeongdong)

ถ้ามาเที่ยวโซลแล้วห้ามพลาดการมาเดินเล่นที่นี่ เพราะมีของขายมากมายทั้งในห้างสรรพสินค้า และตลอดสองฝั่งถนนเรียงรายตลอดทาง เป็นแหล่งที่ขึ้นชื่อว่าสินค้ามีมากมายและราคาถูกแห่งหนึ่ง โดยมีสินค้าที่เป็นที่นิยมอย่างเช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ กระเป๋าถือทั้งแบรนด์จากในประเทศและต่างประเทศ เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมากมาย นอกจากนี้ยังมีอาหารประจำถิ่นให้ได้ลองกันอย่างจุใจอีกด้วย

Myeongdong district

2. ทงแดมุน (Dongdaemun)

ตลาดขายปลีกและขายส่งขนาดใหญ่ที่สุดในย่านนี้ โดยมีห้างสรรพสินค้ากว่า 25 แห่ง และเป็นแหล่งของผู้ผลิตสินค้านับหมื่นร้าน สินค้าในย่านนี้ก็มีให้เลือกหลากหลายอย่างเช่น เครื่องหนัง เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ ของเล่น เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์สำนักงานมากมาย

Dongdaemun Design Plaza

3. ถนนอีแด (Edae Shopping Street)

เป็น แหล่งช้อปในเกาหลี ที่ตั้งอยู่บริเวณมหาวิทยาลัยสตรีอีฮวา ซึ่งเป็นอีกจุดเช็คอินยอดนิยม จึงมีสินค้ามากมายเกี่ยวกับผู้หญิงให้เลือกสรร ทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับ เครื่องสำอาง และอื่น ๆ ที่หากสาว ๆ คนไหนมาเยือนต้องไม่ผิดหวังแน่นอน

Fashion Street

4. ตลาดกวางจัง (Gwangjang Market)

เป็นตลาดที่มีร้านขายผ้ามากมายหลายชนิดทั้งปลีกและส่ง ทั้งผ้าไหม ลินิน ซาติน และผ้าทออื่น ๆ ลักษณะเดียวกับย่านพาหุรัดบ้านเรา นอกจากนี้ยังมีชุดและงานฝีมือพื้นเมืองให้เลือกช้อปได้อย่างจุใจ โดยสินค้าในย่านนี้ถึงแม้จะไม่ใช่สินค้าแบรนด์เนมแต่ก็รับรองได้ว่ามีคุณภาพดีแน่นอน

Gwangjang Market

5. ตลาดนัมแดมุน (Namdaemun Market)

เป็นย่านการค้าที่คึกคักแห่งหนึ่งที่มีสินค้าให้เลือกมากมายหลายชนิด โดยเป็นตลาดพื้นเมืองที่มีสินค้าทั้งเสื้อผ้า เครื่องหนัง สินค้านำเข้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และของใช้สอยอื่น ๆ ด้วย

Namdaemun market,แหล่งช้อปในเกาหลี

6. อีแทวอน (Itaewon)

ตลาดอีกแห่งที่มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อหา ทั้งสินค้าแบรนด์เนม เครื่องหนัง รองเท้า กระเป๋า ของที่ระลึกและของโบราณต่าง ๆ เรียงรายตลอดทาง

Itaewon-dong district,แหล่งช้อปในเกาหลี

7. อินซาดง (Insa-dong)

ย่านที่เป็นแหล่งของร้านขายของโบราณ ชาพื้นเมือง และร้านหนังสือ นอกจากนี้ยังมีงานศิลปะมากมายรวมอยู่ในแหล่งนี้ด้วย ใครที่อยากดื่มด่ำกับศิลปะพื้นเมืองเกาหลีต้องห้ามพลาดที่นี่

Insadong Street,แหล่งช้อปในเกาหลี

8. ฮงแด (Hongdae)

ตลาดย่านฮงแด ตั้งอยู่บริเวณมหาวิทยาลัยฮงอิก (Hongik University) ที่ขึ้นชื่อเรื่องศิลปะ โดยในวันธรรมดาก็มีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ ส่วนใหญ่จะเป็นสินค้าแนววัยรุ่นและวัยทำงาน และในวันเสาร์-อาทิตย์ ก็จะมีตลาดนัดที่ส่วนใหญ่เป็นงานฝีมือและงานประดิษฐ์จากเหล่านักศึกษามาวางขายกันมากมาย

Hongdae district,แหล่งช้อปในเกาหลี

9. ห้างซัมซีกิล (Ssamziegil)

เป็นสถานที่ยอดนิยมอีกแห่งของวัยรุ่นเกาหลี โดยมีสินค้าประเภทงานฝีมือที่เป็นเอกลักษณ์มากมาย รวมถึงของที่ระลึกก็สามารถหาซื้อได้ที่นี่ด้วย

ssamziegil building,แหล่งช้อปในเกาหลี

10. ศูนย์การค้าโคเอ็กซ์ (COEX mall)

ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่หลายคนให้ความสนใจเพราะมีสินค้ามากมายให้เลือกซื้อ ทั้งสินค้าแบรนด์เนม เครื่องสำอาง และ อื่น ๆ มากกว่า 300 แบรนด์ นอกจากนี้ยังมีจุดเด่นเป็นห้องสมุดที่ตกแต่งอย่างสวยงามสะดุดตา ซึ่งมีหนังสือมากกว่า 50,000 เล่ม และยังมีอควาเรียมสำหรับคนที่ชอบบรรยากาศโลกใต้ทะเลให้ได้เดินชมอีกด้วย

COEX Mall

นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ แหล่งช้อปในเกาหลี ที่น่าสนใจ ยังมีอีกมากที่ไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งหากจะไปช้อปที่ไหนนั้น ขอแนะนำให้วางแผนการเดินทางและการใช้จ่ายให้ดี เพื่อให้การท่องเที่ยวเต็มไปด้วยความสนุกและราบรื่นตลอดการเดินทาง