เตรียมตัวก่อน รู้ก่อน รู้ขั้นตอนในการเข้าพักโรงแรม

รู้หรือไม่ว่าหนึ่งในปัญหาสำคัญของมือใหม่หัดเที่ยว มักจะเกิดขึ้นระหว่างการเช็คอินโรงแรม เพราะในภาพจำหลายคนอาจจะคิดว่า แค่ จอง จ่าย จบ ก็เดินไปรับกุญแจเข้าห้องพักกันได้แล้ว แต่จริง ๆ แล้ว การเข้าพักกับโรงแรมเองก็ต้องใช้ ขั้นตอน และเอกสาร พร้อมทั้งกติกาสากลประกอบด้วย ซึ่งวันนี้ AIRPORTELs จะพาไปดูวิธีการจองโรงแรมไปจนถึงการเช็คอินเช็คเอาท์ ว่ามีอะไรบ้างที่ผู้อ่านต้องระวัง !

ขั้นตอนการเข้าพักโรงแรม
booking

การจองห้องพัก

จริง ๆ การจองห้องพักนั้น ถูกออกแบบมาให้เป็นขั้นตอนที่ง่ายและสะดวกที่สุดอยู่แล้วในการหาที่พัก เพราะถ้าขั้นตอนการจองลำบาก ก็ยากที่จะทำให้ลูกค้าเลือกเข้ามาใช้บริการกับโรงแรมต่าง ๆ ซึ่งโรงแรมส่วนมากนั้นจะขอแค่ชื่อ ช่องทางการติดต่อ และมัดจำเท่านั้น หรือถ้าเราจองผ่านนายหน้าที่เชื่อถือได้บางเจ้าอาจจะไม่จำเป็นต้องวางเงินมัดจำด้วย ซึ่งการจองโรงแรมนั้นจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบได้แก่

การจองด้วยตัวเอง หรือการจองโดยตรง

หรือพูดง่าย ๆ คือการติดต่อขอจองห้องพักกับโรงแรมโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นการติดต่อผ่านโทรศัพท์ เมลล์ โซเชียลมีเดีย หรือวอร์คอินเซอรเวย์ (Walk-in Survey) ซึ่งส่วนมากนั้นจะเหมาะกับการจองห้องจำนวนมาก ที่ต้องการสำรวจสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมก่อน รวมไปถึงต้องการต่อรองราคาด้วยตัวเอง เนื่องจากตัวเองมีกำลังในการต่อรอง หรือไม่เช่นนั้นผู้เข้าพักอาจจะเลือกจองแบบนี้เพราะต้องการรีเควสพิเศษบางอย่างจากโรงแรม แต่หากเราเป็นนักท่องเที่ยวธรรมดาที่ไม่ได้มีความต้องการพิเศษอะไร การจองแบบนี้มีโอกาสจะได้ราคาห้องที่สูงกว่าการจองผ่านนายหน้า จึงแนะนำให้ทำการเทียบราคาให้ดีก่อนตัดสินใจจอง

การจองผ่านนายหน้า

การจองโรงแรมผ่านนายหน้าอาจจะฟังเหมือนเราจะต้องเสียเงินเพิ่ม แต่จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องกลับกัน โดยเฉพาะกับบริษัทขนาดใหญ่ หรือนายหน้าออนไลน์ เนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีกำลังในการต่อรองมาก ทำให้ได้ห้องพักที่มีราคาถูกกว่า ฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่าห้องพักที่สั่งจองผ่านนายหน้าอย่าง Traveloka Booking หรือ Agoda นั้นมีราคาถูกกว่า นอกจากนั้นยังอาจจะมีบริการเสริมอื่น ๆ อย่าง ส่วนลดตามโอกาส หรือการจองแบบไร้มัดจำ แต่สิ่งที่ต้องระวังเป็นอย่างยิ่งในการจองที่พักผ่านนายหน้าคือ การตกหล่นของข้อมูล หรือการโดนหลอกจากนายหน้าที่ไม่มีความน่าเชื่อถือ ฉะนั้นใครที่จองผ่านนายหน้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ แนะนำให้มีการโทรไปสอบถามโรงแรมทั้งก่อนจอง และหลังจอง เพื่อความครบถ้วนของข้อมูล

ข้อแนะนำและข้อควรระวังในการการจองห้องพัก

  • เทียบราคาการจองแบบโดยตรง และผ่านนายหน้าก่อนเสมอ
  • ตรวจสอบก่อนเสมอว่าโรงแรมยังให้บริการอยู่หรือไม่ เพราะบางครั้งโรงแรมที่ปิดไปแล้ว อาจจะยังเปิดการจองออนไลน์ผ่านนายหน้าเอาไว้อยู่
  • จองแบบยกเลิกได้เสมอ หรือทำประกันท่องเที่ยวเอาไว้หากจำเป็น เพราะเราไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
  • หลังจองตรวจสอบเสมอว่าโรงแรมได้รับการจองของเราหรือยัง
  • การจองแบบจองแล้วเข้าพักเลยอาจจะเกิดความผิดพลาดหรือตกหล่นได้ เลือกที่พักที่มั่นใจได้ว่ามีพนักงานให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง
  • พิมพ์ใบยืนยันการจองหรือจดหมายยืนยัน และหลักฐานการจ่ายเงินไว้เก็บไว้ในกรณีที่มีปัญหา และนำไปในวันเช็กอินด้วย
ขั้นตอนการพักเข้าโรงแรม

การเช็กอิน ขั้นตอนในการเข้าพักโรงแรม

การเช็กอิน คือขั้นตอนในการยืนยันตนเพื่อเข้าพักกับโรงแรม โดยมีจุดประสงค์ในการยืนยันตัวผู้เข้าพัก และเก็บไว้เป็นหลักฐาน ทั้งเพื่อความปลอดภัยของผู้เข้าพัก แขกท่านอื่นในโรงแรม และเพื่อแจ้งข้อมูลใด ๆ ที่ผู้เข้าพักควรทราบนั่นเอง โดยในขั้นตอนนี้เองก็เป็นช่วงที่เหมาะที่สุดสำหรับการแจ้งความต้องการใด ๆ หรือสอบถามบริการที่ต้องการกับทางโรงแรมโดยตรง

ขั้นตอนการเช็กอินโรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ?

  1. ผู้เข้าพักจะต้องแจ้งเรื่องการจองห้องพักกับพนักงานภายในโรงแรม โดยมีการแสดงหลักฐานการจอง เช่น ใบจองห้องพัก หรือรหัสการจองที่ได้รับจากเว็บไซต์รับจอง
  2. ผู้เข้าพักจะต้องยืนยันตัวตนเพื่อเป็นการยืนยันว่าเขาเป็นผู้ที่จองห้องพักจริงๆ โดยการยืนยันตัวตนมักจะใช้บัตรประชาชนหรือหนังสือเดินทางเป็นเอกสารประจำตัว
  3. ผู้เข้าพักจะต้องกรอกรายละเอียดต่างๆ เพื่อให้โรงแรมมีข้อมูลเพียงพอในการให้บริการ รายละเอียดที่ต้องกรอกก็อาจจะมี ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล และอื่นๆ
  4. พนักงานจะแนะนำโรงแรมและกฎระเบียบต่าง ๆ เช่น ตารางเวลาเปิด-ปิดของสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ในโรงแรมการละเว้นเสียงดังในช่วงเวลาไหนถึงเวลาไหน เป็นต้น
  5. พนักงานจะมอบกุญแจหรือคีย์การ์ดให้ลูกค้า เพื่อใช้ในการเปิดประตูห้องพัก และจะพาลูกค้าไปยังห้องพักโดยส่วนใหญ่จะมีการแนะนำและแสดงแหล่งจ่ายไฟฟ้า สัญญาณอินเตอร์เน็ต โทรทัศน์ และอุปกรณ์อื่นๆ ในห้องพัก ไปด้วยในขั้นตอนนี้

เอกสารใดบ้างที่ใช้ยืนยันตนในโรงแรมได้

  • หนังสือเดินทาง
  • บัตรประจำตัวประชาชน
  • ใบขับขี่

เรื่องอะไรบ้างที่ควรแจ้งตอนเช็คอิน

  • ห้องสูบบุหรี่ / ไม่มีบุหรี่
  • ขออัพเกรดห้อง
  • ขอชั้นสูง / ชั้นเตี้ย
  • ขอไม่รับ มินิบาร์ หรือ ไม่รับแอลกอฮอล์ในมินิบาร์
  • จองดินเนอร์
  • Late Check-out / Early Check-in

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเช็คอินโรงแรม

  • การเก็บข้อมูลผู้เข้าพักของโรงแรมตามระเบียบจริง ๆ นั้นต้องทำการเก็บทุกคน ฉะนั้นทุกคนในทริปต้องเตรียมหลักฐานยืนยันตัวเองเอาไว้ แม้ว่าในทางปฏิบัติโรงแรมอาจจะไม่ได้ขอทั้งหมด
  • การเช็คอินโรงแรมส่วนมากจะมีเวลามาตรฐาน อยู่ที่ช่วงบ่ายโมงเป็นต้นไป เพื่อเป็นการเตรียมห้องให้เรียบร้อย แต่บางโรงแรมก็ถูกออกแบบให้เช็กอิน และเช็กเอาท์ได้ ตลอด 24 ชั่วโมง
  • หากไปถึงโรงแรมก่อนเวลาเช็คอิน หลายโรงแรมจะอนุญาตให้ใช้ Facility บางส่วนก่อนเพื่อให้แขกได้ฆ่าเวลา สามารถสอบถามโรงแรมได้ว่ามีบริการใดไหมที่เราสามารถเข้าไปใช้ได้ก่อน
  • บางโรงแรมสามารถขอ Early Check-in ได้ ฉะนั้นอย่าลืมสอบถามและแจ้งความประสงค์เพื่อทำให้แผนเที่ยวของเราคล่องตัวที่สุด
  • โรงแรมส่วนมากจะมีการเก็บค่ามัดจำผู้เข้าพัก เพื่อประกันความเสียหายระหว่างเข้าพัก ซึ่งหากไม่มีปัญหาผู้เข้าพักจะได้คืนเมื่อทำการเช็กเอาท์

Early Check-in คืออะไร ต้องทำเรื่องอย่างไร ?

การขอ Early Check-in คือการแจ้งโรงแรมเอาไว้ว่าเราต้องการเข้าไปพักก่อนเวลาทั่วไป ซึ่งอาจจะเกิดจากแผนเที่ยว เที่ยวบิน หรือสาเหตุอื่น ๆ ซึ่งแล้วแต่โรงแรมจะอนุมัติ หรือสามารถทำตาคำร้องได้หรือไม่ โดยการทำเรื่อง Early Check-in นั้นก็ไม่ยาก เพียงแค่สอบถามหรือบอกโรงแรมโดยตรงได้เลย ทว่าเราแนะนำว่าควรให้เวลาโรงแรมเตรียมการอย่างน้อย 4-8 ชั่วโมง

Check out

วิธีการเช็กเอาท์โรงแรม

การเช็คเอาท์โรงแรมเป็นขั้นตอนสิ้นสุดการพักผ่อนในโรงแรม ที่จะทำในวันสุดท้ายของการพัก โดยในวันนั้นหลังจากที่เราตื่นนอนและเตรียมตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็สามารถนำกุญแจห้องไปยื่นที่เคาน์เตอร์รีเซปชั่นได้เลย แน่นอนว่าหลังจากยื่นกุญแจไปแล้ว เราก็จะกลับเข้าไปในห้องของเราไม่ได้แล้วเช่นกัน โดยส่วนมากโรงแรมจะมีเวลาเช็คเอาท์สากลอยู่ในช่วง 10-11 โมงเพื่อเตรียมห้องให้ทันลูกค้าที่จะเข้ามาพัก แต่ในบางกรณีที่โรงแรมไม่ได้มีแขกเยอะหรือมีคนรอใช้ห้อง ก็สามารถทำเรื่องของอนุโลมเช็กเอาท์เลทได้

ขั้นตอนการเช็กเอาท์โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง ?

  1. แจ้งรีเซปชั่นและส่งมอบกุญแจห้องคืน
  2. พนักงานจะเข้าตรวจสอบห้องว่ามีความเสียหายใดไหม และ มินิบาร์อยู่ครบรึเปล่า
  3. หลังจากการตรวจสอบเมื่อไม่มีปัญหา โรงแรมคืนค่ามัดจำห้อง และคิดเงินบริการ Pre-Paid ที่เราใช้ไปในโรงแรม
  4. เป็นอันเสร็จสิ้นการเช็คเอาท์

ข้อควรรู้เกี่ยวกับการเช็คเอาท์โรงแรม

  • เวลาการเช็กเอาท์สากลอยู่ที่ช่วง 10-11 โมง
  • เลทเช็กเอาท์จำเป็นต้องแจ้งก่อน ส่วนมากจะได้ต่อเวลาไม่เกินบ่าย 2 โมง
  • หากแจ้งออกเกินเวลามาก ๆ โรงแรมอาจจะคิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
  • โรงแรมจะเก็บของที่เราลืมเอาไว้ในห้องให้และติดต่อกลับไว้ภายหลัง แต่ก็ควรตรวจสอบให้เรียบร้อยก่อนออกจากห้อง
  • บางโรงแรม Minibar ใช้ระบบ Sensor ฉะนั้นซื้อของมาใส่คืนก็อาจจะเสียเงินเหมือนกัน

Late Check-out คืออะไร ต้องทำเรื่องอย่างไร ?

การขอ Late Check-out คือการแจ้งโรงแรมเอาไว้ว่าเราต้องการพักต่ออีกเล็กน้อย อาจจะเพราะมีธุระที่ยังไม่เสร็จ หรืออยากใช้บริการบางอย่างของโรงแรมต่ออีกนิด การ Late Check-out ถือว่าเป็น Optional Service ที่โรงแรมไม่จำเป็นต้องมอบให้ผู้เข้าพักก็ได้ ฉะนั้นอย่าคาดหวังว่าทุกโรงแรมจะใจดีเหมือนกัน

สิ่งที่ควรทำเมื่อเข้าพัก

สิ่งที่ควรทำเมื่อเข้าพักโรงแรม

ต่อไปนี้ก็เป็นข้อแนะนำประกอบกับขั้นตอนอื่นๆ ถึงสิ่งทั่วไปที่ควรทำเมื่อเข้าพักโรงแรม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาระหว่างการพักอาศัย และเพื่อความปลอดภัยต่อร่างกายและทรัพย์สิน ดังนี้

  • เมื่อเข้าพักโรงแรมควรปฏิบัติตามกฎของโรงแรมอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันไม่ให้เสียค่าปรับหากมีการละเมิดกฎของที่พัก 
  • ควรชาร์จแบตโทรศัพท์ให้เต็มอยู่เสมอ เพื่อป้องกันเหตุการณ์ฉุกเฉินที่จะต้องติดต่อให้คนมาช่วย 
  • ควรตรวจสอบความแน่นหนาของประตูให้ดี เพื่อป้องกันการเข้าได้ง่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต 
  • ห้ามตรวจสอบปลั๊กไฟในห้องเพื่อป้องกันปัญหาความขัดข้องไฟฟ้า
พักโรงแรม

สิ่งที่ไม่ควรทำเมื่อเข้าพักโรงแรม

เมื่อเข้าพักโรงแรม นอกจากจะมีขั้นตอนการเข้าพักโรงแรมที่ควรทำแล้วยังมีสิ่งที่ไม่ควรทำเด็ดขาด เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาและเพื่อความปลอดภัยทั้งร่างกายและทรัพย์สินเช่นกัน ดังนี้

  • ไม่ควรทำเสียงดังโวยวาย ควรลดเสียงดังๆ ที่อาจจะรบกวนคนอื่นในโรงแรม เช่น เล่นเพลงดังหรือพูดคุยดังเกินไป
  • ไม่ควรวางของมีค่าไว้นอกห้องหรือนอกกระเป๋า ควรนำของมีค่า เช่น ทองคำ อัญมณี หรือเงินสด ไว้ในตู้เซฟที่โรงแรมเตรียมไว้ให้ และควรปิดกระเป๋าให้เรียบร้อยเพื่อป้องกันการขโมย
  • ไม่ควรหยิบของในห้องกลับไป ไม่ควรหยิบของที่ไม่ได้เป็นของตนเอง เพราะอาจจะเข้าข่ายการลักลอบนำของออกนอกโรงแรมและอาจได้รับบทลงโทษได้
  • ไม่ควรลักลอบนำสัตว์เข้าห้อง ควรปฏิบัติตามกฎของโรงแรม ซึ่งบางโรงแรมอาจจะไม่อนุญาตให้เข้าพักพร้อมสัตว์ เพื่อป้องกันไม่ให้เสียค่าปรับในภายหลัง
  • ไม่เปิดเผยเลขห้องให้กับคนอื่นหรือผ่านโซเชียลมีเดีย เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาความปลอดภัย
  • ต้องตรวจสอบค่าใช้จ่ายของห้องพักกับโรงแรมให้เรียบร้อยก่อนเซ็นที่ใบเสร็จ และหากมีข้อสงสัยใดๆ ให้สอบถามพนักงานโรงแรมเพิ่มเติม
  • ห้ามเปิดประตูห้องให้กับคนแปลกหน้า เพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินและความปลอดภัยของร่างกายของผู้พักอาศัยในห้องโรงแรม
  • รักษาความสะอาดและรักษาความเรียบร้อยของห้องพัก ไม่ควรสร้างความเสียหายหรือทิ้งขยะในห้องพักจนทำให้เกิดความสกปรก
  • อย่าเปิดที่จอดรถหรือรับบริการจากผู้ไม่รู้จักที่อาจเป็นอันตราย
  • อย่าเก็บของมีค่าอย่างเงินสดหรือเครื่องประดับให้ที่ห้องพักโดยไม่มีความจำเป็น เพราะอาจเสี่ยงต่อการหลอกลวงหรือการขโมย
  • ติดต่อพนักงานโรงแรมหรือติดต่อศูนย์สนับสนุนการเดินทางเมื่อเกิดปัญหาหรือเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับการเข้าพักโรงแรม

การทำตามขั้นตอนต่างๆ ของการเช็คอินเข้าพักโรงแรมจะช่วยให้ทุกอย่างเป็นไปได้รวดเร็วและถูกต้องเป็นไปตามกฎของโรงแรม โดยจะป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาและมีความปลอดภัยในระหว่างการเข้าพักโรงแรม
เมื่อมีการเดินทางและมีสัมภาระหนัก การใช้บริการรับส่ง-ฝากกระเป๋ากับ AIRPORTELs Luggage Delivery จะช่วยลดภาระที่ต้องใช้ในการขนกระเป๋า ทำให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกและคล่องตัวยิ่งขึ้น
AIRPORTELs Luggage Delivery จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการขนกระเป๋าเอง โดยสามารถส่งกระเป๋าไปถึงโรงแรมโดยตรง และไม่ต้องเก็บสัมภาระในระหว่างเดินทาง ทำให้ลดความเสี่ยงในการสูญหายหรือเสียหายของสิ่งของที่อาจเกิดขึ้นได้ในการขนกระเป๋าเอง

รวม 13 เว็บจองโรงแรม และเว็บจองที่พักราคาถูก อัปเดตล่าสุดปี 2023

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ธุรกิจท่องเที่ยวซบเซาลงไปเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 แต่ในปี 2023 นี้ โลกกำลังเข้าสู่ภาวะปกติ ธุรกิจท่องเที่ยวจึงเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง แต่ด้วยความที่ไม่ได้ท่องเที่ยวมานาน หลายๆ คนจึงติดปัญหาตรงที่ไม่รู้ว่าจะจองที่พักโรงแรมแบบไหนให้ได้ราคาถูกหรือคุ้มค่าที่สุด บทความนี้จึงพามาดูว่าจองที่พักเว็บไหนถูก โดยรวบรวมมาทั้ง 13 เว็บไซต์จองโรงแรมและที่พักราคาถูกมาให้เลือกกันตามความต้องการ พร้อมทั้งบอกข้อดี-ข้อเสียของแต่ละเว็บไซต์ จะมีเว็บไซต์ไหนบ้าง มาดูกันเลย

1. Agoda

มาเริ่มต้นกันที่เว็บจองโรงแรมยอดนิยมในประเทศไทยอย่าง Agoda ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ครบครันไปด้วยห้องพักทั้งจากโรงแรม และที่พักรายย่อยอีกมากมาย ในตอนแรก Agoda นั้นเน้นการจองห้องพักในแถบเอเชียเป็นหลัก แต่ต่อมาก็ได้ขยายการจองไปทั่วโลก โดยฟีเจอร์ที่น่าสนใจของเว็บไซต์นี้ คือ มีโปรโมชันราคาพิเศษและดีลต่างๆ ให้เลือกมากมาย นอกจากนั้นยังมีบริการค้นหาเที่ยวบิน รถโดยสาร รถไฟ เช่ารถ จองรถรับส่งสนามบิน รวมไปถึงจองกิจกรรมต่างๆ และยังมีฟีเจอร์จองที่พักพร้อมเที่ยวบินอีกด้วย ช่วยให้นักท่องเที่ยวทั้งมือใหม่และมือโปรสามารถวางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย
  • มีโปรโมชันและดีลต่างๆ มากมาย
  • มีส่วนลดพิเศษให้กับลูกค้าที่เป็นสมาชิก
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นภาษาไทย

ข้อเสีย

  • ราคายังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม ทำให้ดูราคาถูกกว่าปกติ
  • ผลลัพธ์การค้นหายังไม่ดีเท่าที่ควรในแถบอื่นๆ ที่อยู่นอกเหนือแถบเอเชีย

2. Airbnb

Airbnb คือเว็บจองที่พักที่จะเปิดประสบการณ์ที่พักแบบใหม่ โดยปกติแล้วการจองที่พักมักจะเป็นโรงแรมหรือรีสอร์ต ที่สร้างขึ้นเพื่อให้มีคนเข้าพักโดยเฉพาะ แต่ที่ Airbnb สามารถจองที่พักที่เป็นบ้านส่วนบุคคลหรือคอนโดที่เจ้าของปล่อยให้เข้าพักได้ ให้สัมผัสกับวิถีชีวิตของคนในพื้นที่นั้นๆ ทำให้ที่พักในเว็บไซต์นี้มีรูปแบบและสไตล์การตกแต่งที่หลากหลาย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบบรรยากาศแบบคนท้องถิ่น ให้ความรู้สึกเหมือนได้ไปพักที่บ้านญาติหรือบ้านเพื่อนนั่นเอง

ข้อดี

  • ได้ราคาที่ถูกกว่าการจองโรงแรม
  • ที่พักที่มีพื้นที่ใช้สอยมากกว่า เช่น มีห้องนั่งเล่น ห้องครัว ฯลฯ
  • มีฟีเจอร์ที่ให้เลือกความเป็นส่วนตัว เช่น เลือกที่พักแบบมีห้องน้ำส่วนตัวหรือห้องน้ำรวมได้
  • ได้พูดคุยกับโฮสต์และได้รู้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับท้องถิ่นที่เข้าพัก
  • ที่พักที่ให้ความรู้สึกเป็นกันเองเหมือนพักบ้านคนรู้จัก

ข้อเสีย

  • ตำแหน่งที่พักระบุเป็นรัศมี ทำให้ไม่ค่อยชัดเจน
  • รูปถ่ายและรายละเอียดเกี่ยวกับที่พักมีค่อนข้างน้อย
  • โฮสต์สามารถปฏิเสธการจองได้
  • ต้องพูดคุยกับโฮสต์ ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ภาษาท้องถิ่นในการสื่อสาร

3. Booking.com

มาต่อกันที่เว็บไซต์จองที่พักเจ้าใหญ่ที่หลายๆ คนคุ้นตา นั่นก็คือ Booking.com ซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกันกับบริษัท Agoda ทำให้มีความคล้ายคลึงกันในหลายๆ อย่าง โดยสามารถจองที่พักที่เป็นโรงแรม บ้านพัก อพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ได้ทั่วทุกมุมโลก รวมไปถึงสามารถจองเที่ยวบิน รถไฟ รถโดยสาร เช่ารถ และยังมีบริการอื่นๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่ทำให้ Booking.com แตกต่างจาก Agoda คือ เน้นการจองที่พักในแถบยุโรปเป็นหลัก ทำให้เว็บไซต์นี้มีข้อเสนอที่พักในแถบยุโรปที่มีราคาถูกมากกว่านั่นเอง นอกจากนั้นยังใช้งานง่าย สะดวกสบาย จึงเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบ

ข้อดี

  • สามารถจองที่พักได้หลายรูปแบบ ทั้งโรงแรม อพาร์ตเมนต์ บ้านเช่า ฯลฯ
  • มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • มีรูปภาพและรายละเอียดที่พักอย่างชัดเจน
  • มีบริการข้อมูลการจองมากถึง 43 ภาษา รวมทั้งภาษาไทย
  • สามารถยกเลิกการจองได้ฟรี

ข้อเสีย

  • หากจองที่พักในแถบเอเชียหรือซื้อแพ็กเกจเหมารวม อาจมีราคาสูง
  • ด้วยความที่ลูกค้าสามารถยกเลิกการจองห้องพักได้ฟรี ทำให้ที่พักอาจปฏิเสธการจองผ่าน Booking.com และเลือกสำรองที่พักให้กับเว็บไซต์อื่นก่อน

4. Expedia

Expedia ก็เป็นอีกหนึ่งเว็บจองโรงแรมที่เรียกได้ว่าครบครันทุกการเดินทางเลยก็ว่าได้ แม้ว่า Expedia จะมีชื่อเสียงในเรื่องการจองเที่ยวบิน แต่เว็บไซต์นี้ยังให้บริการทั้งจองเที่ยวบินพร้อมที่พัก โดยที่พักก็จะมีตั้งแต่ที่พักเล็กๆ ไปจนถึงโรงแรมใหญ่ๆ นอกจากนั้นยังมีบริการเช่ารถ ซื้อแพ็กเกจท่องเที่ยว หรือจองกิจกรรมต่างๆ อีกด้วย ทำให้ Expedia เป็นตัวช่วยที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวทุกสไตล์ได้วางแผนการเดินทางตามที่ต้องการได้

ข้อดี

  • มีฟีเจอร์การจองที่หลากหลาย
  • มีตัวเลือกที่พักหลากหลาย ทั้งที่พักเล็กๆ อพาร์ตเมนต์ โรงแรม ฯลฯ
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ค่อนข้างดี
  • มีการแสดงราคาที่พักที่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมแล้ว
  • สามารถยกเลิกที่พักได้ฟรี

ข้อเสีย

  • ราคาที่พักอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย หรือบางครั้งอาจมีราคาสูงกว่าเจ้าอื่น

5. Google.com/travel/hotels

อย่างที่หลายๆ คนเคยได้ยินกันว่า “นึกอะไรไม่ออก บอก Google” และแน่นอนว่า Google ก็สามารถช่วยหาที่พักดีๆ ราคาถูกได้ด้วยเช่นกัน เข้าไปที่ Google.com/travel/hotels จะพบกับผลการค้นหาโรงแรมและที่พักในราคาสุดคุ้มมากมายที่ทาง Google คัดมาให้แล้ว อีกทั้งยังสามารถค้นหาเที่ยวบิน กิจกรรมต่างๆ และบอกจุดท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้เคียงกับที่พักอีกด้วย

ข้อดี

  • ค้นหาที่พักได้อย่างรวดเร็ว
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย
  • Google คำนวณให้แล้วว่าจองที่พักในเว็บไซต์ใดให้ราคาที่ดีที่สุด
  • มีตัวเลือกให้ดูราคาที่พักพร้อมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์การค้นหาที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น
  • Google จะแสดงผลลัพธ์ของพาร์ทเนอร์ที่ซื้อโฆษณาก่อนเสมอ อาจทำให้ไม่พบที่พักที่ตรงตามความต้องการ

6. HotelsCombined.com

เว็บจองโรงแรมสัญชาติออสเตรเลียอย่าง HotelsCombined.com ก็มีความน่าสนใจไม่น้อย เพราะเป็นเว็บที่สามารถเปรียบเทียบราคากับเว็บจองที่พักของเจ้าอื่นได้ พร้อมทั้งมีเครื่องมือติดตามราคาให้คุณไม่พลาดการจองที่พักในราคาที่ดีที่สุด นอกจากนั้นยังมีบริการจองตั๋วเครื่องบินและรถเช่า อีกทั้งในส่วนของหน้าเว็บไซต์ดูสะอาดสะอ้าน มีตัวกรองการค้นหาที่ละเอียด ทำให้ใช้งานได้ง่ายอีกด้วย

ข้อดี

  • มีเครื่องมือติดตามและแจ้งเตือนราคา
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดีเยี่ยม
  • มีตัวเลือกดูราคาแบบมีหรือไม่มีภาษี

ข้อเสีย

  • ตัวเลือกที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น
  • บางครั้งราคาก็อาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อกดซื้อจริงกับผู้ขาย

7. Hotels.com

Hotels.com เป็นเว็บจองที่พักที่มีจุดประสงค์เพื่อจองที่พักโดยเฉพาะ ไม่มีการบริการอย่างอื่น ด้วยความที่เป็นเว็บจองที่พักอย่างเดียว เว็บจึงใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีตัวเลือกที่พักค่อนข้างหลากหลาย ทั้งโฮสเทล รีสอร์ต อพาร์ตเมนต์ โรงแรม ฯลฯ อีกทั้งยังมีรายละเอียดของที่พักอย่างชัดเจน ดังนั้นใครที่อยากจะจองที่พักอย่างเดียว เว็บไซต์นี้ตอบโจทย์ทุกความต้องการแน่นอน

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก
  • ค้นหาได้เร็วและแสดงตัวเลือกที่พักได้อย่างหลากหลาย
  • มีตัวกรองการค้นหาและการเรียงลำดับที่ดี
  • มีรายละเอียดที่พักชัดเจน

ข้อเสีย

  • สามารถจองที่พักได้เพียงอย่างเดียว ไม่มีบริการเสริม
  • ราคาที่พักอยู่ในเกณฑ์ค่าเฉลี่ย

8. Kayak

Kayak คือเว็บจองโรงแรมที่ให้บริการค้นหารายละเอียดการเดินทาง ทั้งที่พัก ตั๋วเครื่องบิน รถเช่า รวมไปถึงให้บริการข้อมูลแพ็กเกจเที่ยวบิน+ที่พัก โดยมุ่งเน้นเพื่อให้ผู้ใช้งานได้เปรียบเทียบข้อมูลและวางแผนการเดินทางได้อย่างมั่นใจ ซึ่งในหน้าเว็บไซต์นั้นใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และมีตัวกรองการค้นหาที่หลากหลาย ใครที่ต้องการวางแผนการเดินทางหรืออยากค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับที่พักที่ต้องการ ก็สามารถเข้าไปเยี่ยมชมที่เว็บไซต์นี้ได้เลย

ข้อดี

  • มีตัวเลือกแสดงราคาแบบรวมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • มีตัวกรองการค้นหาที่ดี
  • มีเครื่องมือติดตามและแจ้งเตือนราคา
  • สามารถค้นหาข้อมูลจากเว็บไซต์ที่พักได้โดยตรง

ข้อเสีย

  • ราคาที่เห็นในหน้าเว็บไซต์อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดเสมอไป
  • รายการที่พักค่อนข้างน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น

9. Klook

Klook เป็นอีกหนึ่งเว็บจองที่พักสำหรับวางแผนการเดินทางที่น่าสนใจ เพราะมีบริการทั้งจองที่พัก เที่ยวบิน รถโดยสาร รวมไปถึงจองกิจกรรม บัตรเข้าสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร หรือจะจองเป็นแพ็กเกจทัวร์เลยก็ทำได้ เรียกได้ว่าเว็บเดียวครบ จบทุกการท่องเที่ยว ยิ่งไปกว่านั้นคือสามารถใช้งานได้ครอบคลุมทั่วโลก ดังนั้นไม่ว่าจะมีจุดหมายปลายทางที่ใด Klook ก็สามารถให้บริการได้แน่นอน

ข้อดี

  • มีการบริการที่หลากหลาย ทั้งเรื่องที่พัก การเดินทาง กิจกรรมต่างๆ ฯลฯ
  • สามารถรับเครดิตเพื่อเป็นส่วนลดในการเดินทางครั้งถัดไป
  • มีโปรโมชันและดีลส่วนลดมากมาย
  • ใช้งานง่าย สะดวกสบาย

ข้อเสีย

  • บางครั้งไม่สามารถใช้ voucher ที่ได้รับมาได้
  • การติดต่อกับฝ่ายบริการลูกค้าค่อนข้างลำบาก เนื่องจากใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก

10. Traveloka

Traveloka เป็นเว็บจองที่พักที่ครบครันทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ไม่ว่าจะจองที่พัก ซึ่งมีให้เลือกทุกระดับ ตั้งแต่ที่พักเล็กๆ ไปจนถึงโรงแรมหรู หรือจะค้นหารถเช่า เที่ยวบิน รถรับส่งสนามบิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางก็สามารถทำได้ อีกทั้งยังมีบริการจองกิจกรรม ร้านอาหาร สปาเพื่อสุขภาพ หรือแม้กระทั่งคลาสเรียนอีกด้วย โดย Traveloka จะมุ่งเน้นไปที่ตลาดท้องถิ่น โดยเฉพาะในอินโดนีเซียและไทย ทำให้เป็นเว็บไซต์ที่เข้าใจในความต้องการของนักเดินทางชาวไทยนั่นเอง

ข้อดี

  • มีการบริการท่องเที่ยวที่ครบครัน ทั้งจองที่พัก ตั๋วโดยสาร บัตรเข้างาน ฯลฯ
  • มีส่วนลดและโปรโมชันค่อนข้างเยอะ
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
  • มีฝ่ายบริการลูกค้าที่เป็นภาษาไทย

ข้อเสีย

  • อาจไม่ได้ราคาการจองที่ถูกที่สุด 
  • หากยกเลิกการจอง อาจต้องใช้เวลานานในการคืนเงิน

11. Trip.com

มาถึงเว็บที่เพิ่งเปิดให้บริการด้านท่องเที่ยวในไทยอย่าง Trip.com มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบเว็บไซต์ให้ใช้งานง่ายและชัดเจน สามารถค้นหาที่พักพร้อมเปรียบเทียบราคาได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังมีบริการที่ครบครัน ทั้งจองโรงแรมที่พัก ตั๋วเครื่องบิน ตั๋วรถไฟ รถเช่า หรือจะค้นหาทัวร์ เที่ยวบิน+โรงแรม ก็ทำได้เป็นอย่างดี และมีฟีเจอร์การค้นหาสำหรับผู้ที่ต้องการพักผ่อนใกล้บ้าน ไม่จำเป็นต้องเดินทางไกลหรือลาหยุดงานให้ได้อีกด้วย

ข้อดี

  • ให้บริการแบบครบครันทุกการท่องเที่ยวและพักผ่อน
  • มีฟีเจอร์ที่ช่วยแก้ไขแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้น
  • มีแจ้งเตือนราคาพิเศษ
  • ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และชัดเจน

ข้อเสีย

  • ฝ่ายบริการลูกค้าค่อนข้างดำเนินการช้า และไม่ค่อยยืดหยุ่น
  • เพิ่งเข้าไทยได้ไม่นาน อาจทำให้ดูไม่น่าเชื่อถือ
  • การให้บริการในแถบยุโรปยังค่อนข้างน้อย

12. Tripadvisor.com

เชื่อว่าหลายๆ คนน่าจะคุ้นหูกับเว็บจองโรงแรม Tripadvisor.com กันมาบ้าง เพราะเว็บนี้ขึ้นชื่อในเรื่องการเขียนบล็อกและมีรีวิวของนักท่องเที่ยวต่างๆ ทั่วโลกให้ได้อ่านกัน ใครที่อยากจองที่พักพร้อมกับอ่านรีวิวที่น่าเชื่อถือและมาจากประสบการณ์จริง ก็สามารถเข้ามาเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์นี้ นอกจากนั้น Tripadvisor ยังมีฟีเจอร์เปรียบเทียบราคาที่พัก ซึ่งจัดวางอย่างเป็นระเบียบสวยงาม ทำให้ผู้ใช้สามารถเห็นและเปรียบเทียบได้อย่างรวดเร็วด้วย

ข้อดี

  • มีรีวิวมากมายที่มาจากประสบการณ์จริงและมีประโยชน์ต่อการเดินทาง
  • เว็บไซต์ออกแบบมาสวยงามและใช้งานง่าย
  • เก่งในเรื่องการค้นหาห้องพักที่มีราคาถูกที่สุด

ข้อเสีย

  • ตัวกรองการค้นหายังไม่ค่อยเสถียร
  • บางรีวิวอาจเป็นรีวิวที่หลอกลวงหรือไม่น่าเชื่อถือ

13. Trivago

มาถึงเว็บไซต์สุดท้ายที่เป็นเว็บจองที่พักเจ้าใหญ่ที่สุดอย่าง Trivago ซึ่งรวบรวมราคาที่พักทั้งในและต่างประเทศมากถึง 5 ล้านแห่งใน 190 ประเทศทั่วโลก โดยจุดเด่นของเว็บไซต์คือสามารถเปรียบเทียบราคาที่พักจากหลายแหล่งข้อมูลได้ โดยฐานข้อมูลของ Trivago ก็มาจากเว็บไซต์ชั้นนำมากมาย ทั้ง Agoda, Booking.com, Expedia และอื่นๆ อีกมากมาย รวมไปถึงข้อมูลจากเว็บไซต์ของที่พักโดยตรงอีกด้วย ทำให้ผู้ใช้สามารถมองเห็นภาพรวมราคาที่พักได้อย่างง่ายดาย เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวทุกรูปแบบที่อยากวางแผนการเดินทางอย่างรวดเร็ว

ข้อดี

  • เว็บไซต์ดูเรียบง่ายและสะอาดตา พร้อมออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย
  • เปรียบเทียบราคาที่พักจากเว็บไซต์อื่นๆ ได้
  • สามารถค้นหาราคาจากเว็บไซต์ของที่พักได้โดยตรง
  • รายละเอียดที่พักชัดเจน

ข้อเสีย

  • ตัวเลือกที่พักค่อนข้างน้อย
  • ราคาที่เห็นอาจไม่ใช่ราคาจริง เพราะยังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียม
  • แสดงผลลัพธ์เฉพาะที่พักที่ตรงตามเกณฑ์ที่เว็บไซต์กำหนด

สรุป

มาถึงตรงนี้ คงจะพอทราบกันแล้วว่าจองที่พักเว็บไหนถูกบ้าง ซึ่งปี 2023 นี้มีเว็บจองโรงแรมราคาถูกให้เลือกมากมาย โดยแต่ละเว็บไซต์ก็มีข้อดีแตกต่างกันไป ดังนั้น หากเลือกใช้ให้เหมาะสมกับความต้องการของตัวเอง ก็จะได้ที่พักในราคาสุดคุ้มอย่างแน่นอน แต่หลังจากได้ที่พักราคาดีๆ แล้ว อย่าลืมเลือกใช้บริการขนส่งสัมภาระ ที่จะช่วยให้การเดินทางเป็นเรื่องง่าย สบายใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องสัมภาระ อย่างที่ Airportels มีบริการขนส่งสัมภาระที่สะดวกสบายตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมดูแลสัมภาระให้ถึงที่พักอย่างปลอดภัยหายห่วง